รีวิวฉบับที่ 1447 … สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชม Runesu Thonglor 5 คอนโด Low Rise ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ5 จาก W-Shinwa บริษัทที่เกิดจากการร่วมทุนไทย–ญี่ปุ่น ระหว่าง วรลักษณ์ พร็อพเพอร์ตี้ และ Shinwa Group กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ใน Osaka และมีที่ปรึกษางานออกแบบตกแต่งภายในจาก IAO Takeda บริษัทออกแบบอันดับหนึ่ง 5 ปีซ้อนจากประเทศญี่ปุ่น โครงการนี้มีการนำเทคโนโลยีพิเศษคือการกลับคาน ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างพื้น 60 ซ.ม. เพื่อนำมาใช้เป็นพื้นที่ใช้สอยเพิ่มเติม จะเป็นอย่างไรนั้น เราไปชมกันค่ะ
Fact @ 3 October 2017
- Runesu Thonglor 5 (รูเนะสุ ทองหล่อ 5)
- W-Shinwa Co.,Ltd.
- SUPER LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : วัฒนา
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 156 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 21 ยูนิตที่ชั้น 3-8
- ที่จอดรถประมาณ 84 คันคิดเป็น 54 %
- ที่ดินประมาณ 0-3-9 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : Q4 2017
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : 18 months after construction started
- 1 Bedroom Type (Approx.29-46)
- 2 Bedroom Type (Approx.51-75)
- ฝ้าเพดานสูง 2.50-3.10 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการประมาณ 241,400 บาท/ตร.ม.
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด 200,154 – 274,223 บาท/ตร.ม.
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
- อ่านเจาะลึกเทคโนโลยีพิเศษสำหรับ Runesu Thonglor 5 : คลิกที่นี่
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 02-084-6767
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ
พิกัด : 13.730843, 100.579441
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ Runesu Thonglor 5 ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ5 ซึ่งซอยทองหล่อ หรือ ซอยสุขุมวิท 55 นี้ เป็นซอยที่มีชื่อเสียงทั้งในด้านทำเลที่อยู่อาศัย ธุรกิจร้านค้า แหล่ง ช้อปปิ้งและร้านอาหารอร่อยมากมายเปิดทั้งกลางวันกลางคืน เป็นถนนอีกสายหนึ่งของ กรุงเทพฯที่ไม่เคยหลับและอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทำให้ย่านทองหล่อสะท้อนความเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง และพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยคอนโดฯ โดยส่วนใหญ่นิยมกินดื่มนอกบ้าน ในซอยทองหล่อ จึงเป็นแหล่งรวมของร้านอาหาร ร้านกินดื่ม และแหล่งเอ็นเตอร์เทนเมนต์จำนวนมากในระยะเดินถึงแทบทั้งหมด
ซอยนี้ถือว่าเป็นซอยที่ตัดระหว่างถนนสุขุมวิทในช่วงต้นซอย และถนนเพชรบุรีที่ปลายซอย ถนนทั้งสองเส้นถือว่าเป็นถนนเส้นใหญ่ ปริมาณรถมากตลอดทั้งวัน มีไฟเขียวไฟแดงเรื่อยๆ และวิ่งขนานกันตรงจากใจกลางเมืองออกไปยังทิศตะวันออกของกรุงเทพทั้งคู่ ทำให้การเดินทางด้วยรถยนต์สามารถใช้ซอยทองหล่อเองเป็นเส้นทางผ่านไปมาสำหรับการจะขึ้นเหนือและลงใต้ของพื้นที่ภายในกรุงเทพเพราะการเชื่อมต่อของถนนต่างกัน อย่างเส้นสุขุมวิท สามารถตัดผ่านซอยไปยังพระรามสี่, คลองเตย, พระราม 3 ส่วนเส้นเพชรบุรีสามารถขึ้นเหนือไปยังรามคำแหง, รามอินทรา หรือว่าลาดพร้าว ส่วนในซอยย่อยต่างๆภายในทองหล่อก็สามารถวิ่งเชื่อมถึงกันได้ และสามารถวิ่งไปถึงซอยข้างเคียงได้อย่างซอยเอกมัยและซอยพร้อมพงษ์ และความกว้างของแต่ละซอยก็สามารถวิ่งสวนกันได้ มี 2 เลนเกือบทั้งหมด ส่วนจุดทางขึ้น-ลงทางด่วนอยู่ในรัศมีค่อนข้างไกล อย่างจุดที่ใกล้และน่าจะรถติดน้อยที่สุดคือ ทางขึ้น-ลงทางด่วนพระรามเก้า เลี้ยวขวาเข้าถนนเพชรบุรี ตรงมาเรื่อยๆ แล้วไปกลับรถเข้าซอยทองหล่อ เพราะถ้ามาจากอโศกจะเลี้ยวขวาเข้าซอยทองหล่อโดยตรงไม่ได้ ไม่เหมือนมาจากถนนพัฒนาการที่สามารถเลี้ยวซ้ายเข้าท้ายซอยทองหล่อได้สบายๆ และอีกจุดหนึ่งอยู่ที่ทางขึ้น-ลงทางด่วนท่าเรือ ที่ต้องผ่านมาทางถนนสุขุมวิท แล้วตัดเข้าเส้นพระรามสี่อีกที
ส่วนการเดินทางโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะ มีสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อที่ใกล้ที่สุด ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทช่วงต้นซอยทองหล่อ ตำแหน่งของโครงการอยู่ห่างจากตัวสถานีประมาณ 900 เมตร มีพี่วินและรถกระป้อคอยรอให้บริการอยู่ที่หน้าปากซอย เขาจะลัดเลาะผ่านซอยทองหล่อย่อยๆแทนการติดไฟแดงที่ต้นซอยทองหล่อและเส้นทางที่มีปริมาณรถเยอะ ถ้ามาจากเส้นทาง MRT ก็มาเปลี่ยนที่สถานี BTS อโศก ที่เป็นจุด Interchange แล้วนั่งต่อมาลงสถานีทองหล่อ สองข้างทางภายในซอยทองหล่อยังมีป้ายรถเมล์และทางม้าลายอยู่เรื่อยๆ นอกจากนั้นทางโครงการยังมี Shuttle Service รับส่งที่รถไฟฟ้าสำหรับลูกบ้านที่ไม่ได้ใช้รถด้วยค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์รอบโครงการ ซอยทองหล่อ5 อยู่ในช่วงต้นซอย ทำเลนี้จัดว่าครบครันในทั้งเรื่องอาหารการกิน โรงพยาบาล สถานที่ออกกำลังกาย สถานที่เที่ยวยามค่ำคืน หรือร้านให้บริการต่างๆ โดยแหล่งความอุดมสมบูรณ์หลักจะอยู่ช่วงกลางซอย เราสามารถเดินไปได้ไม่ไกลนัก แต่ค่าใช้จ่ายในการอยู่อาศัยภายในพื้นที่ก็สูงตาม และยังขึ้นชื่อว่าเป็นย่าน Hang out ชื่อดังและย่านโปรดของเหล่าบรรดาวัยรุ่นวัยทำงาน แหล่งความอุดมสมบูรณ์แถวนี้มีความเจริญมานานแล้วและหาของกินง่ายมาก มีร้านอาหารอร่อยและชื่อดังอยู่หลายร้านที่เปิดกลางวันและกลางคืน บอกเลยว่าถึงจะหิวตอนดึกๆก็ไม่ต้องกลัวอดนะคะ สถานที่ท่องเที่ยวยามราตรีย่านนี้ขึ้นชื่อหลายร้านค่ะ ทั้งร้าน นั่งเล่น, Demo Pub และร้านอาหารอื่นๆที่รวมกันอยู่ใน Arena 10 ถ้าเข้าไปในซอยทองหล่อ 10 หรือที่เรียกว่าซอยเอกมัย 5 จะเป็นพวก Pub&Restaurant นอกจากนั้นก็มี Community Mall หลายที่ อย่าง เวิ้งโบราณ, The Third Place, Taste Thonglor , J Avenue ส่วนร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 และ Family Mart ก็มีตั้งอยู่ตลอดเส้นทาง ย่านเอกมัย-ทองหล่อ และพื้นที่ใกล้เคียงนี้จะแบ่งเป็นโซนๆได้ดังนี้ค่ะ
- โซนทองหล่อ : บรรยากาศในซอยคึกคักตลอดเวลา มีร้านค้าร้านอาหารหรู มีชื่อเสียงและ Community Mall ค่อนข้างหลากหลาย รวมไปถึงสถานที่ Hangout ในตอนกลางคืนอีกเช่นกัน จัดเป็นโซนที่ใกล้กับโครงการ ไปได้ง่ายมาก
- โซนเอกมัย : เป็นโซนที่ขยับจากทองหล่อมาหน่อย ในโซนนี้จะมีศูนย์การค้าให้ได้ช็อปปิ้ง ดูหนังกัน อย่าง Gateway เอกมัย และ Major เอกมัย
- โซนพร้อมพงษ์ : เป็นอีกโซนที่ขยับจาก BTS ทองหล่อมาเพียงสถานีเดียว แต่เป็นโซนที่มีศูนย์การค้าหรู อย่าง The EmDistrict (The Emporium, TheEmQuartier) มาเกาะกลุ่มอยู่ติด BTS พร้อมพงษ์ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้ได้ช็อปปิ้งกันไม่ไกลจากคอนโดเท่าไหร่
- โซนพระราม 4 : จัดเป็นโซนที่มีอาคารสำนักงานกระจุกตัวอยู่อย่างคึกคัก โดยเฉพาะอาคารสำนักงานดังๆ เลยอย่างอาคารมาลีนนท์ (ช่อง 3) สำหรับใครที่ทำงานบนถนนพระราม 4 นั้นการเดินทางไป-กลับโครงการก็ยังถือว่าสะดวกนะคะ เพราะอยู่ไม่ไกลมากนัก และก็มีจุดกลับรถไม่ไกลด้วย ส่วนความอุดมสมบูรณ์นั้นจะอยู่แถบมาลีนนท์นี่แหละค่ะ โดยจะมี Hyper Market ขนาดใหญ่ขนาบข้างอย่าง Tesco Lotus Extra, Big C Extra ส่วนด้านหลังของ Big C นั้นจะเป็น Community Mall อย่าง K village ที่รวบรวมร้านอาหารและร้านค้าชื่อดังต่างๆ ไว้ค่อนข้างคึกคัก รวมไปถึงมีตลาดนัดด้านในอีกด้วยนะ
ดูจากแผนที่แล้วจะเห็นว่า ย่านเอกมัย-ทองหล่อ ไม่ธรรมดาจริงๆ ที่เด่นๆ และมีเยอะมากๆ คือ Community Mall บนถนนทองหล่อนี่จัดว่าเรียงคิวกันให้เดินไปเดินมาสลับ มาได้เลย ด้วยความที่ภายในถนนทองหล่อเองและบริเวณถนนสุขุมวิท หรือถนนเพชรบุรีนั้นไม่ได้มีพื้นที่ดินมากพอที่จะพัฒนาห้างสรรพสินค้าขึ้น ประกอบกับราคาที่ดินค่อนข้างแพง ดังนั้นสถานที่ที่ตอบโจทย์คนมาเดินซื้อของใช้ และเป็นแหล่งรวมร้านอาหาร ร้านคาเฟ่นั่งเล่น ต่างๆ ก็จึงตกไปเป็นรูปแบบของ Community Mall แทน ซึ่งจะบอกว่าแต่ละแห่งนั้นก็มีการออกแบบโครงการหรือหาร้านอาหารที่มาลงต่างกันเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำจำเจ และยังเปิดให้บริการในช่วงเช้าจนถึงดึกกันเลยทีเดียว
Community Mall ในทำเลนี้มีให้เลือกหลากหลาย ตอบโจทย์ Lifestyle คนเมือง เช่น
- The Commons
Community Mall น้องใหม่ในซอยทองหล่อที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ ด้วยการออกแบบสถาปัตยกรรมที่ออกแนว Modern ดีต่อใจและการเซลฟี่ของใครหลายคน เพราะออกแนว Chic (แต่ไม่ Cheap) โดยหัวใจหลักของการออกแบบที่นี่เกิดจากความต้องการที่จะสร้างสังคม เสมือนจัดให้เป็นพื้นที่พบปะกัน เป็นอันดับแรก แล้วค่อยนำร้านค้าต่างๆ มาเป็นตัวดึงดูดผู้คนเข้ามา เพื่อให้เกิดความแตกต่างของความเป็น Community Mall ทั่วไปที่ใครหลายคนเข้าใจว่าเป็นแหล่งรวมร้านค้าต่างๆ ดังนั้นสถาปัตยกรรมของที่นี่จึงมีความแตกต่างกับที่อื่นๆ ชัดเจนทีเดียวค่ะ เราจึงเห็นคนที่เข้ามาแวะเวียนใน The Commons นี้ส่วนใหญ่นั่งเล่น นั่งทำงาน (ในขณะที่จิบไวน์ไปด้วยก็มี!) และช่วงเย็นๆ จะมา Hangout กับเพื่อนๆ ก็เยอะไม่เบา บางทีก็มีจัดอีเว้นท์ดนตรีสดให้ฟังเพลินๆ เรียกว่าเป็นสถานที่พักผ่อนจิตใจใจกลางเมืองก็ได้เช่นกัน โดยที่นี่เค้าจะมีการแบ่งโซนออกเป็น 4 โซนด้วยกัน
- Market – รวมร้านอาหารต่างๆ ให้เลือกซื้อ เลือกกินกันได้ โดยตรงกลางมีจัดพื้นที่ให้นั่งกินกันเพลินๆ
- Village – จัดพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ มีพื้นที่ Work shop เล็กๆ และร้านค้าขายของแบบ Hand Made รวมไปถึงร้านขนมหวานหลายร้านให้เลือกกินในวันหยุดอากาศร้อนแบบนี้
- Play Yard – พื้นที่รวบรวมกิจกรรมต่างๆ เช่น โรงเรียนสันทนาการเด็ก Yoga Studio เป็นต้น
- Top Yard – อยู่ในชั้นบนสุด จัดให้เป็นเสมือนพื้นที่สีเขียวของโครงการ สามารถสัมผัสสนามหญ้าในชั้นดาดฟ้าแบบไม่ต้องกลัวแดดกลัวฝน และในชั้นนี้ยังมีร้าน Roast ร้านอาหารและคาเฟ่ชื่อดังอีกด้วยนะ
- J Avenue
อีกหนึ่ง Community Mall ดั้งเดิมในย่านนี้ ซึ่งเน้นไปในแนวสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น Villa Market เอาใจแม่บ้านในย่านนี้ ไม่ต้องไปไหนไกล นอกจากนี้ก็มีร้านอาหารแบรนด์ดังต่างๆ ไว้รองรับทั้ง GreyHound Cafe, I Berry, Mc Donald, Au Bon Pain เป็นต้น ยังรวมไปถึงร้านค้า คลินิกเสริมความงามต่างๆ อีกด้วยนะ
- The Taste Thonglor
ที่นี่ Community ที่เน้นเรื่องรสชาติเป็นหลัก มีเอกลักษณ์โครงการชัดเจนตรงที่พัฒนาโครงการเป็นพื้นที่รวบรวม Flagship Restaurants ชื่อดังมาอยู่บนทำเลใจกลางเมือง ซึ่งที่เด่นมากๆ ก็คือ Iron Chef Table หรือที่รู้จักกันในนามเชฟกระทะเหล็ก ซึ่งร้านนี้ก็ได้รวบรวมเชฟกระทะเหล็กชื่อดังไว้ทั้ง 7 คนเลยทีเดียวและเน้นวัตถุดิบชั้นเลิศ และยังมีร้านอาหารชื่อดังเกรดดีอีกหลายร้าน เรียกว่าเดินเข้ามาจะเลือกร้านไหนก็อร่อยทั้งนั้น แต่อย่าลืมพกแบงค์พันในกระเป๋าหลายใบหน่อยนะ
- 72 Courtyard
Community Mall เอาใจสาวกยามค่ำคืน โดยที่นี่เรียกว่าเป็นแหล่งรวบร้านชิล Bar & Restaurant ให้ได้เลือก Hangout กับเพื่อนฝูงกันชิลๆ มันส์ๆ ในวันหยุด รวมไปถึงขาแด๊นซ์แนวเพลง House และ Techno ต้องไม่พลาดคลับชื่อดังอย่าง BEAM ตัวร้านถูกออกแบบให้มีเวทีขนาดใหญ่สำหรับให้ขาแด๊นซ์ยามค่ำคืนปลดปล่อยอารมณ์ด้วยการเต้นกระจายกันไปโดยไม่มีโต๊ะมาขัดจังหวะ ส่วนก็ไม่ธรรมดาเรียกได้ว่าจัดเต็มสุด ทั้งแสงและเสียงด้วยระบบเครื่องเสียงชื่อดัง VOID Acoustic
นอกจากนั้นทำเลนี้ก็มีอีกหลายร้านที่เอาใจวัยรุ่นสายกลางคืนให้ได้เลือกนั่งดื่มชิลกันได้ ไม่ต้องขับรถไปไหนไกล โดยส่วนใหญ่ร้าน Bar & Restaurant และ Pub นั้นจะอยู่บนถนนเอกมัยตอนกลางค่อนข้างมาก มีร้านดังหลายร้านทีเดียว ทั้ง Demo, นั่งเล่น, DND Club และอีกหลายที่ทีเดียว ให้สับเปลี่ยนกันไปไม่เบื่อ
การเดินทางในวันนี้จะเริ่มจาก BTS สถานีทองหล่อ จากสถานีมุ่งหน้าไปที่ซอยทางหล่อ ตรงเข้าซอยไปเรื่อยๆ จากนั้นเลี้ยวเข้าซอยทองหล่อ5 จากนั้นเลี้ยวขวาที่แยกแรกอีกทีก็จะถึงโครงการค่ะ ส่วนสำนักงานขายจะอยู่ที่ Community mall หน้าซอยทองหล่อ11 ที่มีชื่อว่า The Taste Thonglor ค่ะ
เร่ิมต้นการเดินทางกันที่สถานี BTS ทองหล่อ ที่อยู่บนถนนสุขุมวิท มีทางเดินขึ้น-ลงอยู่ทั้งสองด้านทั้งซอยสุขุมวิทเลขคู่และเลขคี่
บรรยากาศบริเวณปากซอยทองหล่อ ช่วงสายๆของวัน แบบนี้ยังไม่ค่อยมีรถมากนัก แต่ถ้าเป็นช่วงเช้าและเย็น ช่วงเวลาแร่งด่วนแถวนี้การจราจรจะหนาแน่นมากๆ ซึ่งถ้าเราเดินลงมาจากสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ ก็จะเจอกับร้านขายของริมทางตลอดเส้นทาง รวมไปถึงร้านสะดวกซื้อต่างๆ
ช่วงต้นซอยทองหล่อหรือซอยสุขุมวิท 55 ทั้งสองข้างยังคงเป็นตึกแถวสูง 3-4 ชั้น ที่ด้านล่างเปิดเป็นร้านอาหาร ร้านขายดอกไม้ ร้านทอง มีสารพันรูปแบบ ส่วนความกว้างของซอยเป็นถนน 6 เลน สวนกันไปมา แต่ริมถนนทั้งสองฝั่งจะมีรถส่งของจอดบ้าง รถจอดไปทำธุระบ้าง เป็นซอยใหญ่ที่ไม่มีเกาะกลาง ไม่มีสะพานลอย แต่จะมีทางม้าลายข้ามอยู่เรื่อยๆ
เข้ามาลึกหน่อยจะเร่ิมมีซอยย่อยอยู่ทั้งสองฝั่งของซอยทองหล่อ ฝั่งขวาจะเป็นซอยเลขคู่ ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นซอยเลขคี่ ที่ซ้ายมือก็จะมีพี่วินอยู่อีก 1 จุด นอกจากนั้นยังมีพาหนะอีกอย่างที่เป็นของหายากแต่เจอได้ที่ซอยทองหล่อคือรถกระป้อจอดรอให้บริการอยู่ทางซ้ายมือ ข้อดีคือได้นั่งสบายรับลม ไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร ข้างๆกันมีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 และ Boots
ลึกเข้าไปก็ยังมีรถจอดอยู่ทั้งสองฝั่ง มีร้านอาหาร ธนาคารสาขาย่อย รวมถึงเริ่มเห็นอาคารสูงๆด้านหน้าบ้างแล้วซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาคารสำนักงานหรือคอนโดอย่าง Vasu the residence และ Quattro
เราตรงต่อมาเรื่อยๆเพื่อเลี้ยวเข้าซอยทองหล่อ5 โดยฝั่งตรงข้ามซอยเป็น Community mall ที่ชื่อ Maze Thonglor
ถัดจาก Maze Thonglor จะเป็น Tops market Thonglor อยู่ในระยะเดินจากโครงการมาได้
เข้ามาในซอยทองหล่อ5 บรรยากาศจะค่อนข้างเงียบสงบ เป็นส่วนตัว สิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย มีร้านอาหารแทรกอยู่ระหว่างทาง ขับตรงไปก็จะเจอเป็นระยะๆ
อย่างเช่นทางฝั่งขวาจะเจอร้าน Suki masa ถัดไปเป็น Little Sprouts Children’s Centre
ตรงตามทางมาเรื่อยๆ พอเห็นแยกนี้ให้เราเลี้ยวขวาค่ะ
หน้าซอยสังเกตจะมีร้านอาหาร คั่วกลิ้ง+ผักสด ป้ายสีเหลืองๆอยู่
ถัดเข้ามาในซอยนี้จะมี โครงการ No.
ถัดมาอีกหน่อยก็จะถึงกับโครงการ Runesu Thonglor 5 แล้วค่ะ
โครงการมีการล้อมรั้วเพื่อเตรียมก่อสร้างเอาไว้เรียบร้อย ซึ่ง EIA ได้ผ่านเรียบร้อยแล้ว
สำหรับสำนักงานขายจะไม่ได้อยู่ที่ที่ตั้งโครงการนะคะ แต่จะอยู่ที่ The Taste Thonglor หน้าปากซอยทองหล่อ10
The Taste Thonglor เป็น Community ภายในมีร้านอาหารมากมาย มี Starbucks ด้วย
สำหรับสำนักงานขายของโครงการจะอยู่ด้านใน Community mall เราเดินเข้าไปข้างๆร้าน Starbucks กันเลย
สำนักงานขายโครงการจะอยู่ข้างร้านอาหารญี่ปุ่น Hamakatsu และ ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับ Starbucks หาไม่ยากค่ะ
บรรยากาศภายในสำนักงานขายค่ะ
สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย ที่ดินเปล่า อพาร์ทเม้นท์ และ คอนโดมิเนียม บรรยากาศเงียบสงบ เกือบทุกด้านไม่มีอะไรมาบดบังวิวในระยะประชิด ยกเว้นทางฝั่งทิศตะวันตกหรือด้านหลังโครงการจะมี วอร์เตอร์ฟอร์ด คอนโดมิเนียมซึ่งเป็นตึกสูง โดยจะมีแต่ละด้านของที่ดินติดกับ
- ทิศเหนือ – ติดกับ ทองหล่อการ์เด้นส์ อพาร์ทเม้นท์
- ทิศตะวันออก – ติดกับ ถนนซอยทองหล่อ5 ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ดินเปล่าและบ้านพักอาศัย
- ทิศใต้ – ติดกับ บ้านพักอาศัยแนวราบ
- ทิศตะวันตก – ติดกับ ที่ดินเปล่า ถัดไปจึงเป็น คอนโด Low Rise และ วอร์เตอร์ฟอร์ด คอนโดมิเนียม (High Rise)
ทิศเหนือ ติดกับ ทองหล่อการ์เด้นส์ อพาร์ทเม้นท์
ทิศตะวันออก ติดกับ ถนนซอยทองหล่อ5 ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ดินเปล่าและบ้านพักอาศัย
ทิศใต้ ติดกับ บ้านพักอาศัยแนวราบ
ทิศตะวันตก หรือด้านหลังโครงการ ติดกับที่ดินเปล่าถัดไปจึงเป็น คอนโด Low Rise และ วอร์เตอร์ฟอร์ด คอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นตึกสูง
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- Maze Thonglor ~ 500 m.
- Nihonmura Mall ~ 600 m.
- The Taste Thonglor ~ 600 m.
- Tops market Thonglor ~ 600 m.
- Fifty Fifth Thonglor Plaza ~ 750 m.
- โรงเรียนรร.นานาชาติ Bangkok Prep ~ 750 m.
- J Avenue ~ 850 m.
- The Commons ~ 900 m.
- โรงพยาบาล สมิติเวช สุขุมวิท ~ 900 m.
- Bangkok Marriott Hotel Sukhumvit ~ 1.1 km.
- Rain Hill ~ 1.2 km.
- โรงพยาบาลคามิลเลียน ~ 1.4 km.
- Parklane Ekkamai ~ 1.8 km
- โรงเรียนนานาชาติเอกมัย ~ 1.9 km.
- Emquartier + Emporium ~ 2 km.
- มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล้วยน้ำไท ~ 2.3 km.
- โรงพยาบาลสุขุมวิท ~ 2.4 km.
- W DISTRICT ~ 3.5 km.
- K Village ~ 3.8 km.
Runesu Thonglor 5 เป็นคอนโดLow Rise 8 ชั้น จำนวน 156 Units ตัวอาคารออกแบบเรียบง่ายใช้สีเทา+น้ำตาลในการตกแต่ง โครงการนี้ได้มีการนำเอานวัตกรรมลิขสิทธิ์จากทาง Shinwa Group โดยการกลับพื้นเป็นคานและกลับคานเป็นพื้นมาใช้ ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ถึง 40% รายละเอียดเราจะค่อยๆอธิบายให้ฟังนะคะ โดยห้องพักโครงการนี้จะมีอยู่ 2 รูปแบบคือ ห้องแบบที่ใช้นวัตกรรมกลับคานหรือห้องแบบ “Runesu” มีแค่ชั้น 1-2 เท่านั้น ส่วนชั้นอื่นๆเป็นห้องแบบปกติ มีห้องให้เลือก 1 Bedroom Type (Approx.29-46) , 2 Bedroom Type (Approx.51-75) พื้นที่ส่วนกลางชั้นล่างจะมี Lobby , Fitness , สวนรอบโครงการ ส่วนชั้น 2 จะมี สระว่ายน้ำ , Onsen , Sauna ชั้นบนสุดเป็นสวนดาดฟ้า ที่จอดรถเป็นแบบ Autoparking ลงไปใต้ดิน 3 ชั้น จอดได้ 84 คัน หรือคิดเป็น 54 %
โดยคำว่า Runesu มาจากคำว่า ルネス เป็นเทคโนโลยีก่อสร้างลิขสิทธิ์เฉพาะของ Shinwa Group ที่ทำการกลับคาน เอาพื้นไว้ด้านล่าง แล้วเอาคานซึ่งทำจากเหล็กชนิดพิเศษ ที่มีชื่อว่า Sigma Beam มาวางไว้บนคาน ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างพื้น 60 ซ.ม. เพื่อนำมาใช้เป็นพื้นที่ใช้สอยเพิ่มเติม
ห้องที่เป็น Runesu จะมีพื้นที่เพิ่มขึ้นประมาณ 25-40% ซึ่งสามารถทำเป็นพื้นที่เก็บของด้านล่างได้
สำหรับตัวอาคาร จากโมเดลจะเห็นว่ารูปทรงค่อนข้างจะเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส ตกแต่งด้วยโทนสีขาว เทา น้ำตาล พื้นที่ส่วนกลางต่างๆจะอยู่ภายในอาคารทั้งหมดค่ะ ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 เลย โดยที่จอดรถจะเป็นแบบอัตโนมัติลงไปใต้ดิน 3 ชั้น
ดีไซน์เป็นแบบเดียวกันทั้งอาคารค่ะ โดยห้องแบบ Runesu จะมีอยู่ที่ชั้น 1-2 ส่วนชั้นอื่นๆเป็นห้องแบบปกติ
ทางเข้าออกของโครงการจะอยู่ติดกับถนนซอยทองหล่อ5 ด้านหน้าจะมีที่จอดรถสำหรับผู้ติดต่อมาให้ 2 คัน ส่วนลูกบ้านจะเป็นที่จอดรถแบบอัตโนมัติค่ะ
รอบๆอาคารทางโครงการจัดเป็นสวนหย่อมมาให้โดยรอบ ดังนั้นห้องที่อยู่ชั้นล่างมองออกมาก็จะเห็นเป็นวิวสวน
ชั้นดาดฟ้ามีสวนอยู่อีกจุดหนึ่ง โดยตัวอาคารจะมีช่องเปิดเป็น Sky Light อยู่ด้านบนสุดของอาคาร สามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาภายในตัวอาคารได้
ภาพจำลองบรรยากาศภายนอกอาคาร บริเวณทางเข้าค่ะ สไตล์การออกแบบเป็นแบบร่วมสมัยผสมยุโรปหน่อยๆ มีการตกแต่งด้วยคิ้วบัวและหินแท้ Lime Stone ค่ะ
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางชั้นล่างเข้ามาจะเจอกับ Runesu Lobby ที่นั่งพักคอย ออกแบบมาให้เข้ากับห้องแบบ Runesu โดยการลดระดับพื้นลงมาเล็กน้อย การออกแบบภายในจะเริ่มมีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นเข้ามาจากเฟอร์นิเจอร์และวัสดุตกแต่งแล้ว ผนังรอบๆเป็นกระจกมองเห็นวิวด้านนอกได้ ห้องฟิตเนสอยู่ข้างๆกับ Lobby เลยค่ะ เป็นห้องที่ผนังโดยรอบเป็นกระจก วางเครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 6-7 เครื่อง
อีกมุมหนึ่งของ Lobby จะมีบันไดวนขึ้นไปเชื่อมกับ Facilities ที่ชั้น 2 ทางฝั่งขวาเป็นห้องจดหมาย ส่วนด้านในเป็นทางไปส่วนพักอาศัย มีประตูกั้นอยู่อีกชั้นหนึ่ง ต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าไปค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 เราจะเจอกับสระว่ายน้ำ เป็นสระที่มีระบบ Jet ด้วย ข้างๆสระมีที่นั่งพักผ่อนมาให้ จากบริเวณนี้สามารถเดินเชื่อมต่อไปยังห้อง Original Japanese Onsen และ Sauna Rooms ได้
Original Japanese Onsen และ Sauna Rooms ดีไซน์เป็นแบบญี่ปุ่นแท้ๆเลย
แปลนชั้น 1 เข้ามาในอาคารพอเลี้ยวขวาจะเจอกับที่จอดรถอัตโนมัติจํานวน 84 คัน คิดเป็นพืนทีจอดรถ 54% โดยจะอยู่ชั้นใต้ดินจำนวน 3 ชั้น ภายในจะมี ROBOT ในการรับส่งรถจํานวน 3 ตัว สามารถรองรับรถขนาด SEDAN และ SUV ได้ ระยะเวลาในการขนส่งรถ คือ 3 นาที/ 1คัน ส่วนผู้มาติดต่อหรือคนที่ต้องการจอดรถแบบเร่งด่วน บริเวณด้านหน้าโครงการก็มีที่จอดรถสำรองมาให้ประมาณ 2 คัน ถัดเข้ามาด้านในตรงกลางอาคารจัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางประกอบด้วย Lobby ฟิตเนส ห้องจดหมาย และโถงลิฟท์ มีลิฟท์ทั้งหมด 2 ตัว ทำให้ทางเดินเป็น Single corridor ข้อดีคือมีความเป็นส่วนตัว เปิดประตูมาไม่ชนกับห้องฝั่งตรงข้าม แต่จะมีปัญหาเรื่องความสว่างของโถงทางเดิน ซึ่งทางโครงการก็มีการออกแบบแก้ปัญหาโดยการทำ Sky Light บริเวณดาดฟ้า ให้แสงสว่างส่องลงมาในอาคารได้ทั่วถึงค่ะ ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้นนี้เลย มีประตูกั้นแยกเป็นสัดส่วนค่ะ ชั้นนี้มีห้องพักทั้งหมด 12 ห้อง เป็นห้องแบบ Runesu ทั้งหมดค่ะ โดย Type A (สีฟ้า) เป็นห้อง 2 ห้องนอนขนาด 45-75 ตารางเมตร วางอยู่บริเวณมุมของอาคาร Type B (สีเหลือง) เป็นห้อง 1 ห้องนอนขนาด 30-38 ตารางเมตร อยู่ด้านหลังของอาคาร Type C (สีเขียว) เป็นห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 40-44 ตารางเมตร ขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย ส่วน Type D (สีม่วง) เป็นห้อง 1 ห้องนอนขนาด 33-36 ตารางเมตร มีอยู่ห้องเดียวทางฝั่งขวาของอาคาร
ขึ้นมาที่ชั้น 2 พื้นที่ส่วนกลางบริเวณตรงกลางอาคารกั้นแยกเป็นสัดส่วน จะมี สระว่ายน้ำ ห้อง Original Japanese Onsen และ Sauna มีบันไดวนเดินเชื่อมจากชั้น 1 ขึ้นมาได้ ส่วนห้องพักวางผังคล้ายๆกับชั้น 1 เลย แต่จะมีห้องพักเพิ่มเติมขึ้นมาบริเวณฝั่งด้านหน้าอาคาร และฝั่งขวาของอาคารปรับเป็นห้อง Type D (สีม่วง) เป็นห้อง 1 ห้องนอนขนาด 33-36 ตารางเมตรทั้งหมด รวมๆห้องพักชั้นนี้มีจำนวน 18 ห้อง
ชั้น 3-7 เป็นส่วนของห้องพักอาศัยเพียงอย่างเดียว มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ห้องพักจะเป็นแบบปกติที่ไม่มีพื้นที่เก็บของด้านล่าง มีจำนวนห้องทั้งหมด 21 ห้อง วางผังคล้ายกับชั้น 2 แต่มีห้อง Type E (สีชมพู) เป็นห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 30-34 ตารางเมตร เพิ่มเข้ามา
ชั้น 8 แปลนก็เหมือนกับชั้น 3-7 เลยค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Runesu Lobby
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 13.4 x 5.6 เมตร + Jet Swimming Pool
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 6-7 เครื่อง
- Golf Driving Room
- Original Japanese Onsen
- Sauna Rooms
- สวนหย่อมรอบโครงการ (Japanese Garden)
- Rooftop Garden
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 78 : 1
- Service Lift : ไม่มี
- ที่จอดรถแบบอัตโนมัติประมาณ 84 คันคิดเป็น 54%
- Shuttle Service
- ระบบ CCTV / Access Card
สำหรับห้องพักอาศัยโครงการนี้ขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ห้องพักชั้น 1-2 จะเป็นห้องแบบ “Runesu” คือห้องที่มีเทคโนโลยีกลับคาน ส่วนห้องพักในชั้น 3-8 จะเป็นห้องแบบปกติ การออกแบบภายในห้องจะมี 4 Functions (เฉพาะห้อง Runesu) และ 9 Gimmick (ห้องทุกแบบ) มาให้ รายละเอียดเป็นตามนี้ค่ะ
4 Runesu Functions
- Runesu – คือ เทคโนโลยีที่ทำการกลับคานทำให้เกิดช่องว่างระหว่างพื้น 60 ซ.ม. เพื่อนำมาใช้เป็นพื้นที่ใช้สอย
- Skip Floor – คือการลดระดับพื้นทำให้เกิดพื้นที่นั่งเล่นที่เป็นสัดส่วนและมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
- Genkan – โถงด้านหน้าห้อง ที่มีการลดระดับลงมาเล็กน้อย เพื่อกันฝุ่น ให้สำหรับเป็นที่ถอดรองเท้า
- Den&Loft – การลดระดับพื้นลงไป 60 ซ.ม. ทำให้สามารถใช้พื้นที่ได้คุ้มค่ามากขึ้น โดยชั้นล่างทำเป็นพื้นที่ทำงาน ส่วนชั้นบนเป็นพื้นที่นอนพักผ่อน
9 Runesu Gimmicks
- SHIZUKA WALL – เป็นผนังที่ถูกแบบมาให้สามารถกันเสียง มากกว่าอิฐธรรมดา เพิ่มความสงบให้กับผู้พักอาศัย
- KAKURE STOPPER – Door Stopper แบบแม่เหล็ก ดีไซน์มาให้แนบไปกับพื้น สวยงามและช่วยป้องกันไม่ให้มีการเดินสะดุด
- NAGARE SINK – อ่างล้างจานที่น้ำไหลสะดวก ยกเศษอาหารเทได้ง่าย สามารถดักกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้
- RAKU HAI – อุปกรณ์ดัดจับสิ่งสกปรก ภายในห้องนํ้าที่มีตะแกรงและระบบการสํารองนํ้าไว้ในท่อระบายนํ้า ช่วยป้องกันกลิ่น ไม่พึงประสงค์และช่วยป้องกันแมลงสาบ หรือ แมลงอื่นๆ ที่สามารถขึ้นมาจากท่อได้
- SOKKAN FLOOR – พื้นห้องนํานวัตกรรมของ SEKISUI ที่ถูกดีไซน์ออกมาให้พื้นผิว สามารถทําให้นํ้าไหลได้อย่างรวดเร็ว ทําให้พื้น ห้องนํ้าสามารถแห้งเร็ว ไม่ทิ้งคราบสกปรก และเชื้อราบนพื้น ง่ายต่อการทํา ความสะอาดและป้องกันการลื่นล้มภายในห้องนํ้าได้อีกด้วย
- JIDOU TOILET – ได้โถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ เพื่อความสะดวกสบาย
- SANMEN CABINET – กระจกอเนกประสงค์แบบ 360 องศาที่ สามารถตรวจสอบตัวเองได้ในทุกๆ องศา และหลังบานกระจกยังมีตู้อเนกประสงค์ที่สามารถเพิ่มการจัดเก็บสิ่งของ ได้อย่างจุใจ และสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้กับห้องนํ้า
- SHOUNO SPACE – พื้นที่เอนกประสงค์ที่ไม่ ปล่อยให้ไร้ประโยชน์ กับ พื้นที่ว่างภายใต้ตู้ ที่เป็นพื้นที่สําหรับใช้จัดเก็บ เครื่องชั่งนํ้าหนัก ที่ทุกคน ใช้ในชีวิตประจําวัน
- MUSHU-KAN TILE – กระเบื้องนาโน นําเข้าจากประเทศญี่ปุ่น มีคุณสมบัติพิเศษในการดูด ความชื้น และดูดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ เมื่อกระเบื้องดูดความชื้นเข้าไปแล้ว กระเบื้องจะทําการคลายความชื้นกลับออกมาในปริมาณที่เหมาะสมแก่การ อยู่อาศัย เมื่อความชื้นในอากาศลดลง ปัญหาเรื่องไรฝุ่นก็จะหมดไปเช่นกัน รวมถึงเชื้อรา และเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ด้วย ซึ่งกระเบื้อง MUSHU-KAN TILE จะถูกติดตั้งในปริมาณทีเหมาะสม โดยคํานวณจากขนาดของห้อง
สำหรับห้องตัวอย่างมีมาให้ดูแบบเดียวคือห้อง Runesu Type A1 เป็นห้อง 2 ห้องนอน ขนาด 49.43 ตารางเมตร เข้าห้องมาจะเจอกับพื้นที่ Genkan หรือโถงเก็บรองเท้าหน้าห้องก่อน มีตู้สำหรับเก็บรองเท้ามาให้ ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่รับประทานอาหารแบบ 4 ที่นั่ง ด้านหลังโต๊ะทานข้าวเป็นห้องนอนที่มีพื้นที่ Den&Loft ถัดเข้ามาด้านในเป็นครัวเปิด และ ห้องนั่งเล่นแบบ Skip Floor ด้านในสุดเป็นห้องน้ำและห้องนอน ห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียกเป็นสัดส่วน มีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วย โดยสามารถเข้าห้องน้ำได้ทั้งจากในห้องนอนและห้องนั่งเล่น ห้องนอนมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งบริเวณปลายเตียงค่ะ
สำหรับเฟอร์นิเจอร์และวัสดุต่างๆที่เราจะได้ ทางโครงการจัดมาให้ครบตามภาพเลยค่ะ แต่ภาพนี้เป็นของ Type A1 ชั้น 3-7 ส่วนห้อง Runesu หรือห้องที่อยู่ชั้น 1-2 จะได้ Functions ของห้อง Runesu เพิ่มเข้าไปค่ะ นอกจากนั้นยังมีแถมเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ดังนี้ (*ยี่ห้อยังไม่ระบุให้เช็คกับทางโครงการอีกทีนะคะ)
- Digital Door Lock
- Air Condition
- TV
- Refrigerator
- Washing Machine
- Microwave
ในสำนักงานขายจะมีทำมุมจัดแสดงวัสดุที่เราจะได้ภายในมาตรฐาน เราสามารถไปเดินชมกันได้
โดยห้องแบบ 1 ห้องนอน วัสดุที่ได้จะเป็นโทนสีอ่อนตามในภาพ
ส่วนห้อง 2 ห้องนอนจะปรับเป็นโทนสีที่เข้มขึ้นค่ะ
ห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมเป็น 2 ห้องนอน ดังนั้นวัสดุจึงเป็นโทนสีเข้ม ดูรู้ว่าเป็นห้องแบบไหนตั้งแต่สีประตูเลย สำหรับรูปแบบประตูที่เราได้จริงจะเป็นตามรูปด้านบนนะคะ
มือจับหน้าห้องจะได้เป็น Digital Door Lock ของ Alpha หรือ เทียบเท่า
เข้ามาในห้องจะเจอกับส่วนที่เรียกว่า Genkan หรือโถงด้านหน้าห้อง ที่มีการลดระดับลงมาเล็กน้อย เพื่อกันฝุ่น ให้สำหรับเป็นที่ถอดรองเท้า วัสดุเป็นกระเบื้องยางที่พื้นผิวเป็นไวนิลซึ่งมีคุณสมบัติในการทนทานต่อการขีดข่วน ทำความสะอาดง่าย
บริเวณนี้จะมีการลดระดับลงมาจากระดับพื้นห้องปกติประมาณ 2-3 ซ.ม. เพื่อกันฝุ่น
เราจะได้ตู้เก็บรองเท้าแบบนี้เลย โครงตู้เป็น Particle Board หน้าบานตู้เป็น Melamine
พอเข้าห้องมาก็สามารถถอดรองเท้าแล้วนำไปเก็บเข้าตู้ได้สะดวก ประตูหน้าห้องจะเป็นแบบเปิดออกด้านนอกเพราะทางโครงการคำนึงถึงเรื่องการป้องกันอัคคีภัยและการใช้งานของผู้สูงอายุ สำหรับสวิทช์ไฟบริเวณนี้เป็นแบบสองทาง คือกดเปิดอันที่อยู่หน้าห้อง แล้วมากดปิดอีกอันหนึ่งภายในห้องได้
ถัดเข้ามาด้านในจะเจอกับพื้นที่รับประทานอาหาร ทางฝั่งซ้ายเป็นห้องนอนเล็ก ด้านในเป็น ครัวห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ และ ห้องนอน ฝ้าเพดานห้องนี้สูง 2.50 เมตร โดยมีพื้นที่ใช้สอยด้านล่างลงไปอีก 60 ซ.ม. ผนังได้ wallpaper ทั้งห้อง ส่วนพื้นเป็น Engineering Wood
โต๊ะทานข้าวได้แบบนี้ทั้งชุดค่ะ นั่งได้ 4 ที่นั่ง เหมาะกับกลุ่มครอบครัว
ถัดเข้ามาด้านในทางฝั่งซ้ายที่เห็นประตูเปิดอยู่เป็นห้องนอนเล็ก เราจะเข้าไปดูกันค่ะ
ภายในห้องนอนเล็กมีการจัดพื้นที่แบบ Den&Loft คือมีการลดระดับพื้นลงไป 60 ซ.ม. ทำให้สามารถใช้พื้นที่ได้คุ้มค่ามากขึ้น โดยชั้นล่างทำเป็นพื้นที่ทำงาน ส่วนชั้นบนเป็นพื้นที่นอนพักผ่อน
พื้นที่ทำงานที่เกิดจากการลดระดับพื้นลงไป 60 ซ.ม. จากเทคโนโลยีการกลับคานค่ะ
มีบันไดทำทางลงไปให้แบบนี้
ผนังด้านหลังโต๊ะทำงานจัดเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in เป็นการจัดพื้นที่ใช้สอยได้ค่อนข้างดี
ด้านบนโต๊ะทำงานอีกช่องแสงมาให้ด้วย เพื่อไม่ให้พื้นที่บริเวณนี้มืดจนเกินไป
โต๊ะทำงานมีลิ้นชักเปิดออกมาเก็บของได้ตามภาพ ด้านล่างเป็นพื้นที่โล่งๆถ้าต้องการเก็บของเพิ่มเติมก็สามารถหาเป็นกล่องเก็บของมาจัดวางให้เป็นระเบียบได้
ทางขึ้นไปส่วนพักผ่อนด้านบนมีบันไดมาให้แบบนี้
ตัวบันไดยึดกับโครงด้านบนอย่างดี รับน้ำหนักผู้ใหญ่ได้ค่ะ ไม่ต้องกลัวตก
พื้นที่นอนพักผ่อนด้านบนเป็นประมาณนี้
พื้นของห้องนี้จะมี Runesu หรือ ช่องเก็บของมาให้ด้วย โดยการเปิดใช้งานจะมี 2 แบบคือยกแผ่นที่ปิดขึ้นมา อย่างในห้องนี้ กับแบบเปิดออก 2 ฝั่ง
เวลาใช้งานก็ดึงมือจับขึ้นแบบนี้ หน้าบานมีน้ำหนักเบา ผู้หญิงหรือเด็กยกเองได้ไม่หนักค่ะ
ในห้องนี้จะมีประตูทางออกไปที่ระเบียงด้วย ประตูเป็นแบบบานเปิด กรอบบานอลูมิเนียม
พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 2.83 x 0.75 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาอ่อน
ระเบียงมีการลดระดับลงจากพื้นห้องประมาณ 5 ซ.ม. และมีการทำรางระบายน้ำด้านข้างมาให้ด้วย ซึ่งดีในด้านของการใช้งาน ซักล้าง หรือ เวลาฝนตกก็จะไม่มีน้ำขังค่ะ
อุปกรณ์ต่างๆแข็งแรงทนทาน
กรอบบานอลูมิเนียมพร้อมอุปกรณ์ทางโครงการใช้ของ YKK
แอร์ที่ได้เป็นของ Mitsubishi หรือเทียบเท่า จำนวน BTU ขึ้นอยู่กับขนาดห้องค่ะ
สวิทช์และปลั๊กได้เป็นของ Panasonic
ถัดมาเป็นพื้นที่ของครัวเป็นแบบครัวเปิด เหมาะกับการเตรียมอาหารทานเองมากกว่า มีมุมมินิบาร์เป็นเคาน์เตอร์ยื่นออกมาสำหรับนั่งทานอะไรง่ายๆ ได้อีก 2 ที่นั่ง สังเกตบริเวณพื้นด้านล่างเก้าอี้จะมีพื้นที่เก็บของ Runesu อยู่อีกจุดหนึ่ง
Runesu บริเวณนี้เป็นแบบเปิดออกทั้ง 2 ฝั่งค่ะ
ช่องตรงนี้ค่อนข้างกว้าง ลงไปดูเห็นโครงสร้างภายในว่าเป็นการกลับคาน เอาพื้นไว้ด้านล่าง แล้วเอาคานซึ่งทำจากเหล็กชนิดพิเศษ ที่มีชื่อว่า Sigma Beam มาวางไว้บนคานแทน
เอารูปเหล็ก Sigma Beam มาให้ดูกันค่ะ
อุปกรณ์บานพับค่อนข้างแข็งแรง ทำให้เปิดขึ้นมาได้ง่าย ไม่หนัก
พื้นที่ด้านล่างไม่ได้ต่อเนื่องกันทั้งหมดนะคะ มีกั้นเป็นโซนๆอยู่ แต่ก็ได้พื้นที่เก็บของมาเพิ่มค่อนข้างเยอะ
ชุดครัวที่ได้ เคาน์เตอร์เป็นรูปตัวแอล วัสดุโครงตู้เป็น Particle Board หน้าบาน Laminate HI-Gloss Top ด้านบนเคาน์เตอร์เป็นหิน ส่วนครัวก็มีช่องเก็บของ Runesu เช่นเดียวกัน
เป็นแบบยกแผ่นที่ปิดด้านบนออกมา แล้วจะเป็นกล่องพลาสติกที่ใช้เก็บพวกขวดซอส หรือ อุปกรณ์ทำครัวต่างๆได้
ตู้ด้านล่างเปิดออกมาเก็บของได้แบบนี้
ตู้ด้านบนก็มีการจัดฟังก์ชั่นต่างๆได้ลงตัวค่ะ มีช่องใส่ไมโครเวฟมาให้ด้วย
อ่างล้างจานเลือกที่น้ำไหลสะดวก ยกเศษอาหารเทได้ง่าย นอกจากนี้ยังสามารถดักกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ด้วย
เตาไฟฟ้าได้เป็นของ Teka หรือ เทียบเท่า
เครื่องดูดควันก็เป็นของ Teka เช่นเดียวกัน
สำหรับโครงการนี้จะมีแถมเครื่องใช้ไฟฟ้ามาให้ด้วย ตู้ด้านบนก็มีการออกแบบทำช่องสำหรับใส่ไมโครเวฟมาให้พร้อม
ด้านล่างมีพื้นที่สำหรับใส่เครื่องซักผ้า
ด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น
ฝั่งตรงข้ามครัวจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่มีการ Skip Floor คือการลดระดับพื้นทำให้เกิดพื้นที่นั่งเล่นที่เป็นสัดส่วนและมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ทำให้ระยะจากพื้นถึงฝ้าเพดานบริเวณนี้สูงประมาณ 3.10 เมตร
ได้พื้นที่นั่งเล่นที่เป็นส่วนตัวแยกออกจากส่วนอื่นๆ ด้วยการลดระดับพื้น
มีทำบันไดลงมาให้เช่นเดียวกัน
พื้นที่บริเวณนี้มีขนาดประมาณ 2.80 x 1.73 เมตร วางชุดโซฟาได้ 2-3 ที่นั่งพอดี
ชั้นวาง TV โครงตู้เป็น Particle Board ส่วนหน้าบานเป็น Melamine ลายไม้
มีตู้ด้านบนสำหรับเก็บของ โชว์ของ เล็กๆน้อยๆด้วย
ผนังด้านข้างเป็นหน้าต่างที่ด้านนอกเป็นพื้นที่ของระเบียง
ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นห้องนอนและห้องน้ำ โดยห้องน้ำสามารถเข้าได้จากทางฝั่งนี้หรือเข้าจากห้องนอนก็ได้
ภายในห้องนอนวางเตียงได้แบบ King Size ปลายเตียงมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า มีหน้าต่าง 2 ฝั่ง สามารถเปิดระบายอากาศได้ดี
พื้นที่ข้างเตียงทางฝั่งซ้ายมีระยะ 45 ซ.ม. ส่วนทางฝั่งขวามีระยะ 80 ซ.ม. ทั้งสองฝั่งสามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้
โต๊ะข้างเตียงทางโครงการมีมาให้แบบนี้ ด้านล่างมีพื้นที่วางหนังสือได้
มีระยะปลายเตียงจนถึงตู้เสื้อผ้าพอสมควร เดินผ่านได้สบายๆ และบริเวณปลายเตียงจะมีช่อง Runesu อยู่
ช่องนี้เป็นแบบยกฝาออกมาวางด้านบนค่ะ
ฝั่งปลายเตียงเรียงจากซ้ายไปขวามี มีหน้าต่าง โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า และ ประตูทางเข้าห้องน้ำตามลำดับ
หน้าต่างเป็นแบบบานเปิด กรอบบานอลูมิเนียมสีดำ
มือจับเป็นของ YKK ค่ะ เป็นแบบกดพับขึ้นลง
โต๊ะเครื่องแป้งเราได้แบบนี้ มีลิ้นชักเอาไว้เก็บของด้วย
ถ้าไม่ใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง เราก็สามารถปรับใช้เป็นโต๊ะทำงานได้
ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเลื่อนว้ายขวาสลับกัน ด้านบนมีชั้นสำหรับเก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้
อุปกรณ์มือจับต่างๆในห้องนี้เป็นแบบ Miwa
ตู้เลื่อนเปิดซ้าย ขวาได้แบบนี้ ภายในมีการจัดฟังก์ชั่นให้มีทั้งเก็บเสื้อผ้าแบบแขวนและพับเก็บในลิ้นชัก
มีราวสำหรับแขวนกางเกงโดยเฉพาะ ดึงออกมาใช้งานได้
ผนังฝั่งข้างประตูทางเข้าห้องน้ำ กรุด้วย MUSHU-KAN TILE ซึ่งเป็นหนึ่งใน Gimmicks ของ Runesu
โดย MUSHU-KAN TILE กระเบื้องนาโน นําเข้าจากประเทศญี่ปุ่น มีคุณสมบัติพิเศษในการดูดความชื้น และดูดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ เมื่อกระเบื้องดูดความชื้นเข้าไปแล้ว กระเบืองจะทําการคลายความชื้นกลับออกมาในปริมาณที่เหมาะสมแก่การ อยู่อาศัย เมื่อความชื้นในอากาศลดลง ปัญหาเรื่องไรฝุ่นก็จะหมดไปเช่นกัน รวมถึงเชื้อรา และเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ด้วย ซึ่งกระเบื้อง MUSHU-KAN TILE จะถูกติดตั้งในปริมาณที่เหมาะสมโดยคํานวณจากขนาดของห้อง
ทางเข้าห้องน้ำมีใกล้ๆกับประตูทางเข้าห้องเลย บริเวณนี้จะมีการติดตั้ง Door Stopper แบบแม่เหล็กมาให้ด้วย ซึ่งเวลาไม่ใช้งานก็จะเรียบเสมอกับพื้น จึงไม่มีปัญหาเรื่องการเดินสะดุด
พอ Door Stopper ที่ติดบนประตูทางเข้าห้อง มาโดนกับตัวรับด้านล่างที่ติดอยู่บนพื้นหน้าห้องน้ำจะดุดเข้าหากันแบบนี้ค่ะ
ประตูทางเข้าห้องน้ำเป็นแบบบานเลื่อน วัสดุสีเดียวกับตู้เสื้อผ้าและประตูทางเข้าห้อง
อุปกรณ์มือจับของประตูทางเข้าห้องน้ำค่ะ
ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องน้ำจะเป็นธรณีหินแกรนิตสีดำ โดยพื้นห้องน้ำถ้ามองดีๆจะเห็นเป็นช่องเล็กๆ เรียกว่า พื้น FRP (Fiber Reinforced Plastics) พื้นห้องนํานวัตกรรมของ SEKISUI ที ถูกดีไซน์ออกมาให้พื้นผิว สามารถทําให้นํ้าไหลได้อย่างรวดเร็ว ทําให้พื้น ห้องนํ้าสามารถแห้งเร็ว ไม่ทิ้งคราบสกปรก และเชื้อราบนพื้น ง่ายต่อการทํา ความสะอาดและป้องกันการลื่นล้มภายในห้องนําได้อีกด้วย นอกจากนี้ พื้นห้องนําแบบ FRP นี้ได้ผ่านการทดสอบโดยการกระแทกด้วย ของหนัก 100 กิโลกรัมมาแล้ว เป็นจํานวน 50,000 ครัง ทําให้มั่นใจได้ว่า พื้น ห้องนํ้านี้จะแข็งแรง คงทนต่อแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี
ห้องน้ำเป็นแบบสำเร็จรูป แบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็นส่วนแห้งส่วนเปียกใช้งานสะดวก โดยชิ้นส่วนของห้องนํ้า สามารถแยกชิ้นส่วนกันได้ ทําให้ง่ายต่อ การประกอบ และซ่อมแซม และไม่ทําให้เกิดความเสียหาย กับตัวอาคาร ด้วยผนังห้องนําที่ถูกออกแบบมาให้มีความ แข็งแรง คงทน ทําความสะอาดง่าย ร่วมถึงการเชื่อมต่อด้วย ตัวยางชนิดพิเศษของ SEKISUI ทีมีความแข็งแรงในการยึด ติด และไม่ก่อให้เกิดเชื้อรา
อ่างล้างหน้าเราได้ทั้งชุดแบบนี้ค่ะ
อ่างล้างหน้าของ COTTO หรือ เทียบเท่า เป็นแบบวางอยู่ด้านบน Top เคาน์เตอร์
ด้านล่างเป็นตู้ มีพื้นที่เยอะพอสมควร เปิดออกมาเก็บของใช้ได้
บริเวณกระจกส่องหน้า ด้านหลังเป็นตู้ที่สามารถเพิมการจัดเก็บสิ่งของได้พอสมควร ช่วยสร้างความเป็นระเบียบ เรียบร้อยให้กับห้องนํ้า
ด้านล่างคือ SHOUNO SPACE พื้นที่เอนกประสงค์ที่ไม่ ปล่อยให้ไร้ประโยชน์ กับ พื้นที่ว่างภายใต้ตู้ ที่เป็นพื้นที่สําหรับใช้จัดเก็บ เครื่องชั่งนํ้าหนักหรือสิ่งของอื่นๆที่ใช้ในชีวิตประจําวัน
โถสุขภัณฑ์เป็นแบบอัตโนมัติของ TOTO ที่มีระบบชําระล้างแบบ Tornado เป็นระบบการไหลเวียนนํ้าแบบใหม่ ของ TOTO ทีปล่อยนํ้าจากหัวฉีดความดันสูง ก่อให้เกิดกระแสนํ้าหมุนวน ช่วย ชําระล้างสิ่งสกปรก ไม่ทิ้งคราบนํ้าเหมือนระบบเก่าที่นํ้าไหลจากบนลงล่าง อีกทั้ง การทํางานยังเงียบสงบ และช่วยประหยัดนํ้าได้อีกด้วย
บริเวณด้านหลังโถสุขภัณฑ์จะมี MUSHU-KAN TILE หรือ ผนังดูดความชื้นอยู่อีกจุดหนึ่ง
เป็นคนละสีกับที่อยู่ในห้องนอนค่ะ
ถัดเข้าไปด้านในเป็นพื้นที่อาบน้ำที่มีทั้งพื้นที่ยืนอาบ และ อ่างอาบน้ำ กั้นด้วยประตูกระจกนิรภัย
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.30 x 0.77 ซ.ม.
ชุดฝักบัวสำหรับยืนอาบของ TOTO
ซูมให้ดูค่ะ
บริเวณพื้นที่อาบน้ำจะมีท่อระบายน้ำ (Drain) อยู่
โดย Drain อันนี้เป็น Gimmicks พิเศษเรียกว่า RAKU HAI ซึ่งมีอุปกรณ์ดัดจับสิ่งสกปรก ภายในห้องนํ้าที่มีตะแกรงและระบบการสํารองนํ้าไว้ในท่อระบายนํ้า ช่วยป้องกันกลิ่น ไม่พึงประสงค์และช่วยป้องกันแมลงสาบ หรือ แมลงอื่นๆ ที่สามารถขึ้นมาจากท่อได้
อ่างแช่นํ้าดีไซน์ญี่ปุ่น ที่ถูกออกมาแบบมาเพื่อโอบอุ้มสรีระของผู้ใช้ให้มั่นคง อยู่ในท่านั่งที่เหมาะสม ผ่อนคลาย และป้องกันการล้ม อีกทั้งความสูงของขอบอ่างยังถูกดีไซน์มาที่ความสูง 50 ซ.ม. เพื่อการก้าวข้ามที่พอดี เหมาะสม เพื่อป้องกันการสะดุดล้ม
ก๊อกน้ำแบบผสมบริเวณอ่างอาบน้ำค่ะ
ผนังด้านข้างอ่างอาบน้ำ มีบานหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศได้
โครงสร้างเพดานของห้องนํ้าจะ ประกอบไปด้วย ระบบไฟฟ้าและระบบหมุนเวียนอากาศ ทําให้การใช้ห้องนํ้า มีความโปร่ง โล่งสบาย และช่วยระบาย ความชื้นและกลิ่นภายใน ห้องนําไปพร้อมๆ กัน
สำหรับแปลนห้องพัก Type อื่นๆ จะมีการวางผังโซนต่างๆคล้ายๆกัน มีต่างกันที่ขนาดและรูปร่างของห้องดังนี้ค่ะ
Type B1 34.69 ตารางเมตร
Type C1 41.94 ตารางเมตร
Type D1 34.82 ตารางเมตร
Type E1 34.78 ตารางเมตร
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 3 October 2017
- 1 Bedroom (Runesu) ชั้น 1 เนื้อที่ 43.22 ตร.ม. ราคา 11.03 ล้านบาท หรือ 255,287 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom (Runesu) ชั้น 2 เนื้อที่ 65.88 ตร.ม. ราคา 17.72 ล้านบาท หรือ 269,015 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom ชั้น 5 เนื้อที่ 42.59 ตร.ม. ราคา 10.75 ล้านบาท หรือ 252,602 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom ชั้น 6 เนื้อที่ 65.88 ตร.ม. ราคา 16.22 ล้านบาท หรือ 246,243 บาท/ตร.ม.
- Fully Furnished
- ฝ้าเพดานสูง 2.5 – 3.10 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- Shuttle Bus
- รายละเอียดการขาย
- คนไทย จอง 50,000 คนไทยทำสัญญา 3% ผ่อนดาวน์ 9% (18 งวด) ที่เหลือ 88% ณ วันโอน
- ต่างชาติ จอง 50,000 ทำสัญญา 30% ณ วันโอน 70%
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
Runesu Thonglor 5 เป็นโครงการที่มีการออกแบบเฉพาะ เหมาะกับกลุ่มลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่ชื่นชอบความเป็นญี่ปุ่น ทำเล – ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ5 ซึ่งซอยทองหล่อ หรือ ซอยสุขุมวิท 55 นี้ เป็นซอยที่มีชื่อเสียงทั้งในด้านทำเลที่อยู่อาศัย ธุรกิจร้านค้า แหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหารอร่อยมากมายเปิดทั้งกลางวันกลางคืน และแหล่งเอ็นเตอร์เทนเมนต์จำนวนมากในระยะเดินถึงแทบทั้งหมด ซอยทองหล่อ5 อยู่ในช่วงต้นซอย โดยแหล่งความอุดมสมบูรณ์หลักจะอยู่ช่วงกลางซอย เราสามารถเดินไปได้ไม่ไกลนัก แต่ค่าใช้จ่ายในการอยู่อาศัยภายในพื้นที่ก็สูงตาม และยังขึ้นชื่อว่าเป็นย่าน Hang out ชื่อดังและย่านโปรดของเหล่าบรรดาวัยรุ่นวัยทำงาน แหล่งความอุดมสมบูรณ์แถวนี้มีความเจริญมานานแล้วและหาของกินง่ายมาก มีร้านอาหารอร่อยและชื่อดังอยู่หลายร้านที่เปิดกลางวันและกลางคืน บอกเลยว่าถึงจะหิวตอนดึกๆก็ไม่ต้องกลัวอดนะคะ สถานที่ท่องเที่ยวยามราตรีย่านนี้ขึ้นชื่อหลายร้านค่ะ ทั้งร้าน นั่งเล่น, Demo Pub และร้านอาหารอื่นๆที่รวมกันอยู่ใน Arena 10 ถ้าเข้าไปในซอยทองหล่อ 10 หรือที่เรียกว่าซอยเอกมัย 5 จะเป็นพวก Pub&Restaurant นอกจากนั้นก็มี Community Mall หลายที่ อย่าง เวิ้งโบราณ, The Third Place, Taste Thonglor , J Avenue ส่วนร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 และ Family Mart ก็มีตั้งอยู่ตลอดเส้นทาง
การเดินทางโดยใช้รถ ซอยนี้ถือว่าเป็นซอยที่ตัดระหว่างถนนสุขุมวิทในช่วงต้นซอย และถนนเพชรบุรีที่ปลายซอย ถนนทั้งสองเส้นถือว่าเป็นถนนเส้นใหญ่ ปริมาณรถมากตลอดทั้งวัน มีไฟเขียวไฟแดงเรื่อยๆ และวิ่งขนานกันตรงจากใจกลางเมืองออกไปยังทิศตะวันออกของกรุงเทพทั้งคู่ ทำให้การเดินทางด้วยรถยนต์สามารถใช้ซอยทองหล่อเองเป็นเส้นทางผ่านไปมาสำหรับการจะขึ้นเหนือและลงใต้ของพื้นที่ภายในกรุงเทพเพราะการเชื่อมต่อของถนนต่างกัน อย่างเส้นสุขุมวิท สามารถตัดผ่านซอยไปยังพระรามสี่, คลองเตย, พระราม 3 ส่วนเส้นเพชรบุรีสามารถขึ้นเหนือไปยังรามคำแหง, รามอินทรา หรือว่าลาดพร้าว ส่วนในซอยย่อยต่างๆภายในทองหล่อก็สามารถวิ่งเชื่อมถึงกันได้ และสามารถวิ่งไปถึงซอยข้างเคียงได้อย่างซอยเอกมัยและซอยพร้อมพงษ์ และความกว้างของแต่ละซอยก็สามารถวิ่งสวนกันได้ มี 2 เลนเกือบทั้งหมด ส่วนจุดทางขึ้น-ลงทางด่วนอยู่ในรัศมีค่อนข้างไกล อย่างจุดที่ใกล้และน่าจะรถติดน้อยที่สุดคือ ทางขึ้น-ลงทางด่วนพระรามเก้า เลี้ยวขวาเข้าถนนเพชรบุรี ตรงมาเรื่อยๆ แล้วไปกลับรถเข้าซอยทองหล่อ เพราะถ้ามาจากอโศกจะเลี้ยวขวาเข้าซอยทองหล่อโดยตรงไม่ได้ ไม่เหมือนมาจากถนนพัฒนาการที่สามารถเลี้ยวซ้ายเข้าท้ายซอยทองหล่อได้สบายๆ และอีกจุดหนึ่งอยู่ที่ทางขึ้น-ลงทางด่วนท่าเรือ ที่ต้องผ่านมาทางถนนสุขุมวิท แล้วตัดเข้าเส้นพระรามสี่อีกที จอดรถแบบอัตโนมัติได้ประมาณ 54%
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ มีสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อที่ใกล้ที่สุด ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทช่วงต้นซอยทองหล่อ ตำแหน่งของโครงการอยู่ห่างจากตัวสถานีประมาณ 900 เมตร มีพี่วินและรถกระป้อคอยรอให้บริการอยู่ที่หน้าปากซอย เขาจะลัดเลาะผ่านซอยทองหล่อย่อยๆแทนการติดไฟแดงที่ต้นซอยทองหล่อและเส้นทางที่มีปริมาณรถเยอะ ถ้ามาจากเส้นทาง MRT ก็มาเปลี่ยนที่สถานี BTS อโศก ที่เป็นจุด Interchange แล้วนั่งต่อมาลงสถานีทองหล่อ สองข้างทางภายในซอยทองหล่อยังมีป้ายรถเมล์และทางม้าลายอยู่เรื่อยๆ นอกจากนั้นทางโครงการยังมี Shuttle Service รับส่งที่รถไฟฟ้าสำหรับลูกบ้านที่ไม่ได้ใช้รถด้วยค่ะ
วัสดุ ภายในห้องส่วนที่เป็นมาตรฐานถือว่าให้มาค่อนข้างไปทางดี ให้เฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ยกกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลย นอกจากนั้นยังมีวัสดุพิเศษที่แตกต่างจากโครงการอื่นๆทั่วไปเช่น SHIZUKA WALL เป็นผนังที่ถูกแบบมาให้สามารถกันเสียง มากกว่าอิฐธรรมดา เพิ่มความสงบให้กับผู้พักอาศัย , KAKURE STOPPER , SOKKAN FLOOR พื้นห้องนํานวัตกรรมของ SEKISUI ที่ถูกดีไซน์ออกมาให้พื้นผิว สามารถทําให้นํ้าไหลได้อย่างรวดเร็ว , MUSHU-KAN TILE กระเบื้องนาโน นําเข้าจากประเทศญี่ปุ่น มีคุณสมบัติพิเศษในการดูด ความชื้น เป็นต้น ส่วนอุปกรณ์อื่นๆก็มี NAGARE SINK อ่างล้างจานที่น้ำไหลสะดวก , RAKU HAI ท่อ Drain ที่ช่วยป้องกันกลิ่น และแมลง , JIDOU TOILET – ได้โถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ เป็นต้น รวมๆแล้วถือว่าให้ของดี มีคุณภาพ และใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆได้เป็นอย่างดี
การออกแบบ ถือว่าเป็นโครงการที่มีการดีไซน์ห้องพักเฉพาะตัว มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นแบ่งออกเป็น
ห้องแบบ Runesu – เหมาะกับคนที่ชอบการจัดพื้นที่ใช้สอยหรือ Space แบบญี่ปุ่น อยากได้พื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนญี่ปุ่น หรือ กลุ่มนักลงทุนที่ซื้อมาปล่อยเช่าคนญี่ปุ่น โดยการออกแบบโครงการนี้ทำออกมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ได้ดีทั้งพื้นที่ส่วนกลางที่มี Onsen แบบญี่ปุ่นแท้ๆ และ ภายในห้องพักที่มีเทคโนโลยีก่อสร้างลิขสิทธิ์เฉพาะของ Shinwa Group ที่ทำการกลับคาน เอาพื้นไว้ด้านล่าง แล้วเอาคานซึ่งทำจากเหล็กชนิดพิเศษ ที่มีชื่อว่า Sigma Beam มาวางไว้บนคาน ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างพื้น 60 ซ.ม. เพื่อนำมาใช้เป็นพื้นที่ใช้สอยเพิ่มเติม ทำให้เกิดการออกแบบห้องที่มีฟังก์ชั่นพิเศษ (Runesu การกลับคานนำมาใช้เป็นพื้นที่ใช้สอย , Skip Floor ลดระดับพื้นทำให้เกิดพื้นที่นั่งเล่นที่เป็นสัดส่วน , Genkan โถงถอดรองเท้าด้านหน้าห้อง , Den&Loft การลดระดับพื้นลงไป 60 ซ.ม.
ห้องแบบปกติ – เหมาะกับกลุ่มคนที่เชื่อมั่นในมาตรฐานการก่อสร้างของบริษัทจากประเทศญี่ปุ่น และชอบวัสดุ + Gimmick ต่างๆที่ทางโครงการให้มา
สาธารณูปโภค มีมาให้ใช้ครบครันทั้ง Runesu Lobby , สระว่ายน้ำ + Jet Swimming Pool , ห้องออกกำลังกาย , Golf Driving Room , Original Japanese Onsen + Sauna Rooms , Japanese Garden และ Rooftop Garden ซึ่งออกแบบตามสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นญี่ปุ่น
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 241,400 บาท/ตร.ม., 3 October 2017
- ทำเล 7.75/10 – ทำเลทองหล่อ ในซอยทองหล่อ5 อุดมสมบูรณ์
- เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – ค่อนข้างสะดวก สามารถลัดเลาะไปออกถนนใหญ่ได้หลายทาง ที่จอดรถจอดได้ 54%
- ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ห่างจาก BTS ประมาณ 900 เมตร มี shuttle service รับ-ส่ง เรียกรถอื่นๆได้ง่าย
- วัสดุ 8.25/10 – มีวัสดุพิเศษ และ เฟอร์+เครื่องใช้ไฟฟ้าครบชุดมาให้ วัสดุอื่นๆให้มาดีตามมาตรฐาน
- แบบ
- ห้องแบบ Runesu 9/10 – มีการนำเอาเทคโนโลยีการกลับคาน พร้อม 4 Functions และ 9Gimmicks มาเพิ่มพื้นที่ใช้สอย
- ห้องปกติ 8/10 – ออกแบบวางผังจัดพื้นที่ใช้สอยได้ดี + 9 Gimmicks
- SUPER LUXURY CLASS
- ห้อง Runesu – 7.86 / 10.00
- ห้องปกติ – 7.76/ 10.00
BOTTOM LINE
Runesu Thonglor 5 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโด Low Rise ที่มีความเป็นส่วนตัว แต่ยังเดินทางสะดวก มีความอุดมสมบูรณ์ครบครันในย่านทองหล่อ ชอบดีไซน์เฉพาะตัวของโครงการที่มีห้องแบบ Runesu หรือ เชื่อมั่นในมาตรฐานการก่อสร้างและการใช้วัสดุของบริษัทจากประเทศญี่ปุ่น มีงบประมาณ 7-15 ล้านบาท