RISE 46 Watcharapol-Sukhapiban 5 (ไรส์ 46 วัชรพล-สุขาภิบาล5) โฮมออฟฟิศโครงการใหม่ล่าสุดบนทำเลวัชรพล-สุขาภิบาล 5 ใกล้ทางด่วนฉลองรัช ออกแบบมารองรับทั้งการทำงานและการอยู่อาศัยในที่เดียวกัน ที่นี่ให้พื้นที่ใช้สอยกว้างมากกว่า 400 ตร.ม. เยอะกว่าเพื่อนๆ โครงการอื่นเลยนะ ในราคาเริ่มต้น 14.6 ล้านบาท หรือซื้อแบบ Bareshell ก็ได้ในราคา 12.9 ล้านบาท ใครกำลังมองหาโฮมออฟฟิศในโซนนี้ ลองชมรายละเอียดและจุดเด่นของโครงการนี้กันก่อนค่ะ

  • สามารถปรับฟังก์ชันเพิ่มเติม Customize ได้หลากหลาย หรือจะซื้อแบบ Bareshell ก็ได้
  • ไม่มีค่าส่วนกลาง เหมาะกับคนที่ไม่ได้อยากอยู่ในโครงการจัดสรร อยากได้ทำเลเข้าถึงง่าย ตอบโจทย์การทำพาณิชยกรรม
  • สามารถจอดรถได้ 5 คัน หรือในแปลงมุมสามารถจอดได้สูงสุดถึง 9 คันเลยค่ะ และสามารถจอดรถเพิ่มบริเวณหน้าอาคารในซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 46 ได้
  • มีลิฟต์ทุกยูนิต (ถ้าไม่เอาลิฟต์สามารถลดราคาได้)
  • ฝ้าเพดานสูง 6 เมตร ได้บรรยากาศที่โปร่งโล่งแบบ Double Volume พื้นที่เปิดเชื่อมต่อกันระหว่างชั้น 2 และชั้นลอย
  • End-to-End Window วิวแบบเต็ม Frame กรอบหน้าต่างบานใหญ่จากพื้นถึงฝ้า ชมวิวภายนอกได้ในขณะนั่งทำงาน
  • Private Facades ให้ความเป็นส่วนตัวเหมาะกับการอยู่อาศัย
  • Penthouse ชั้น 3 ออกแบบมารองรับการอยู่อาศัยเต็มชั้น ห้องนอนขนาดใหญ่ มีห้องน้ำในตัว
  • ขึ้นไปรับลมชมวิวบน Rooftop ได้

ข้อมูลโครงการ

RISE 46 Watcharapol-Sukhapiban 5 (ไรส์ 46 วัชรพล-สุขาภิบาล5) ณ วันที่ 7 กรกฎาคม 2568

 ชื่อโครงการ   RISE 46 Watcharapol-Sukhapiban 5 (ไรส์ 46 วัชรพล-สุขาภิบาล5)
 ชื่อผู้ประกอบการ   ร่วมทุน 2 บริษัทคือ บริษัท ฟายน์ โฮม แอนด์ แอสโซซิเอท จำกัด และ บริษัท ควิกโคท โปรดักส์ จำกัด
 SEGMENT CLASS   HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   ซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 46 เขตสายไหม
 ที่ดิน 265 ตร.ว.
 จำนวนยูนิต 6 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
    • TYPE A โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น กว้าง 6.5 เมตร ที่ดินเริ่ม 36 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยขนาด 421 ตร.ม.
    • TYPE B โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น กว้าง 6.75 เมตร ที่ดินเริ่ม 39 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยขนาด 445 ตร.ม.
    • มีฟังก์ชันให้เลือก 2 Option คือ Balance และ Working
    • Balance : 1 Floor + Mezzanine Office Space / 1 Master Bedroom / 5 Bathroom / 5+ Parkings / Elevator
    • Working : 2 Floor + Mezzanine Office Space / 4 Bathroom / 5+ Parkings / Elevator

 ราคาเริ่มต้น      14.6 ล้านบาท (12.9 ล้านบาท Bareshell)
 เริ่มก่อสร้าง   ปี พ.ศ.2567
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี พ.ศ.2568
 เว็บไซต์โครงการ  https://pg.thinkofliving.com/RISE46
 โทร   0812494145
 Line   @rise46homeoffice

 

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.894563070208395, 100.66080584320969
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

Highlight

  • ใกล้ทางด่วนฉลองรัช
  • มีความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินถึงได้
  • สามารถจอดรถเพิ่มบริเวณหน้าอาคารในซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 46 ได้

แผนที่จากทางโครงการ RISE 46 Watcharapol-Sukhapiban 5 (ไรส์ 46 วัชรพล-สุขาภิบาล5) ค่ะ

โครงการ RISE 46 Watcharapol-Sukhapiban 5 (ไรส์ 46 วัชรพล-สุขาภิบาล5) ตั้งอยู่บนถนนสุขาภิบาล 5 ในย่านวัชรพล-สายไหม เป็นหนึ่งในทำเลยอดฮิตของกรุงเทพตอนเหนือ ซึ่งสิ่งที่ดึงดูดให้หลายคนอยากหาซื้อบ้านอยู่ในย่านนี้ก็คือ การใช้ทางด่วนเพื่อเข้า-ออกเมืองได้สะดวก เพราะตรงจุดนี้เราจะมีทางด่วนให้เลือกใช้ถึง 2 เส้นหลักๆคือ ทางพิเศษฉลองรัช และถนนกาญจนาภิเษก นั่นทำให้โครงการ Rise 46 ที่มีทำเลใกล้ทางด่วนแค่ 2  กม. นั้นน่าสนใจไม่น้อย และยังเดินทางไปยังแหล่งความอุดมสมบูรณ์รอบๆ ได้สะดวก

ความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้บอกได้เลยว่าคึกคักมากๆ เพราะด้วยความที่เป็นชุมชนดั้งเดิมอยู่แล้ว แถมนับวันก็เริ่มมีหมู่บ้านจัดสรรมาเปิดใหม่เยอะขึ้นเรื่อยๆ เลยทำให้มีตลาดใหญ่ๆ และ Hyper Market ตั้งอยู่บนถนนเส้นนี้กันเพียบ ที่เด่นๆเลยก็คือ ตลาดออเงิน ซึ่งก็อยู่ใกล้กับโครงการเพียง 450 เมตร หรือจะไป BigC ซื้อของตุนเข้าบ้านทีละเยอะๆ ก็มีให้เลือกจับจ่ายด้วยเหมือนกัน หรือถ้ามองหาแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหารอร่อยๆ ในคอมมูนิตี้มอลล์ก็มีให้เลือกทั้ง Plearnary Mall และสายไหม อเวนิว

อย่างที่รู้กันค่ะว่า ในช่วงเวลาเร่งด่วนของถนนเส้นนี้คือ การจราจรหนาแน่นมากๆ ซึ่งเรามองว่าทำเลของโครงการนี้ ค่อนข้างได้เปรียบเพื่อนบ้านในย่านเดียวกันอยู่พอสมควร เพราะด้านซ้ายก็เป็นทางด่วน ขวาก็เป็นตลาด เรียกได้ว่ามีทั้ง 2 สิ่งนี้อยู่ใกล้ๆ ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลารถติดบนท้องถนนมากนัก

Image 1/5
โครงการอยู่บนถนนสุขาภิบาล 5 ใกล้ปั๊มน้ำมัน 2 แห่ง ซึ่งภายในปั๊มก็มีร้านค้า, ร้านอาหารเพียบเลย เป็นอีกหนึ่งแหล่งความอุดมสมบูรณ์ใกล้ๆ ในระยะเดินถึงได้

โครงการอยู่บนถนนสุขาภิบาล 5 ใกล้ปั๊มน้ำมัน 2 แห่ง ซึ่งภายในปั๊มก็มีร้านค้า, ร้านอาหารเพียบเลย เป็นอีกหนึ่งแหล่งความอุดมสมบูรณ์ใกล้ๆ ในระยะเดินถึงได้

ตัวช่วยในการเดินทาง

Image 1/2
จุดขึ้นทางพิเศษฉลองรัช ด่านสุขาภิบาล 5

จุดขึ้นทางพิเศษฉลองรัช ด่านสุขาภิบาล 5

ทางพิเศษฉลองรัช ด่านสุขาภิบาล 5 เป็นทางด่วนที่ใช้เข้าเมืองไปทางเลียบด่วนรามอินทรา-ลาดพร้าว-พระราม 9 ได้สะดวก ออกจากโครงการแล้วเลี้ยวซ้ายตามทางมาเรื่อยๆ แค่ 2 km. ก็ได้ขึ้นทางด่วนแล้วค่ะ ใช้เวลาราวๆ 5 นาทีเท่านั้นเอง ขากลับก็ลงที่ด่านสุขาภิบาล 5 เช่นเดิม ระยะทางถึงโครงการประมาณ 2.5 km. ใกล้มากๆ เลยค่ะ

Image 1/2
จุดขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษก

จุดขึ้นวงแหวนกาญจนาภิเษก

นอกจากนี้เรายังใช้ทางพิเศษฉลองรัชเพื่อเชื่อมไปต่อยังวงแหวนกาญจนาภิเษกได้อีกด้วย ใช้เดินทางออกนอกเมืองไปอยุธยา, บางนา หรือสุวรรณภูมิได้สะดวก ซึ่งจุดลงวงแหวนกาญจนาฯ จะมาลงที่ทางพิเศษฉลองรัชเหมือนขาขึ้นก็ได้ หรือจะลัดเลาะไปทางถนนจตุโชติก็ได้ค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

ภายในซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 46 จะคละกันระหว่างบ้านพักอาศัย, ออฟฟิศ 2-4 ชั้น และที่ดินเปล่า ภาพรวมจึงดูสงบ และด้วยความสูงของอาคารประมาณ 3.5 ชั้นทำให้เราสามารถขึ้นไปบน Rooftop เพื่อรับวิวได้โดยรอบด้วยนะคะ

  • ทิศเหนือ ติดกับ ร้านค้าในปั๊มบางจาก
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินเปล่า
  • ทิศใต้ ติดกับ ถนนซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 46
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ดินเปล่า

Image 1/4
มาดูบรรยากาศภายในซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 46 กันค่ะ ซอยนี้เป็นซอยตัน ดูสงบ แต่ก็มีรถยนต์เข้าออกอยู่เสมอเพราะด้านในมีทั้งบ้านพักอาศัยและอาคารออฟฟิศ 2-4 ชั้น

มาดูบรรยากาศภายในซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 46 กันค่ะ ซอยนี้เป็นซอยตัน ดูสงบ แต่ก็มีรถยนต์เข้าออกอยู่เสมอเพราะด้านในมีทั้งบ้านพักอาศัยและอาคารออฟฟิศ 2-4 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • ตลาดออเงิน ~ 450 m.
  • บิ๊กซี ฟู้ดเพลส สุขาภิบาล 5 ~ 850 m.
  • มาร์เก็ตเพลส เทพรักษ์ (Marketplace Theparak) ~ 2.8 km.
  • สายไหม อเวนิว ~ 4.4 km.
  • ตลาดวงศกร ~ 4.5 km.
  • ตลาดถนอมมิตร ~ 5 km.
  • Central รามอินทรา ~ 9.8 km.
  • แฟชั่นไอส์แลนด์ ~ 10.8 km.
  • The Crystal เอกมัย-รามอินทรา ~ 11.5 km.
  • Central East Ville ~ 12.4 km.
  • CDC ~ 12.6 km.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลซีจีเอช สายไหม ~ 4.6 km.
  • โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา ~ 10 km.
  • โรงพยาบาลอินทรารัตน์ ~ 10 km.
  • โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ ~ 10 km.

โรงเรียน

  • โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสายไหม ~ 3.5 km.
  • Ruamrudee International School Early Years Campus ~ 7.3 km.
  • โรงเรียนนานาชาติกีรพัฒน์ ~ 8 km.
  • โรงเรียนสาธิตพัฒนา ~ 9.5 km.
  • โรงเรียนสินแพทย์ รามอินทรา ~ 10 km.
  • โรงเรียนเลิศหล้า ถนนเกษตร-นวมินทร์ ~ 10.7 km.

การเดินทาง

  • ทางพิเศษฉลองรัช ด่านสุขาภิบาล 5 ~ 2 km.
  • สนามบินดอนเมือง ~ 12.2 km.
  • สนามบินสุวรรณภูมิ ~ 29 km.

รายละเอียดโครงการ

ก่อนเข้าสู่รายละเอียดโครงการ เราจะขอเล่าถึงโปรไฟล์ของ Developer สักหน่อย เพราะหลายคนอาจไม่คุ้นเคยกับบริษัท ฟายน์ โฮม แอนด์ แอสโซซิเอท จำกัด และ บริษัท ควิกโคท โปรดักส์ จำกัด ที่ขยายบทบาทใหม่ในฐานะผู้พัฒนาโครงการ แต่เอาจริงๆ เค้าไม่ได้ใหม่ในวงการอสังหาฯ นะ

อย่างบริษัท ฟายน์ โฮม แอนด์ แอสโซซิเอท จำกัด เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ที่มีผลงานก่อสร้างทั้งโครงการบ้านหรูตัว Top ระดับ 100-500 ล้านบาท เช่น Crystal Solana, Royal Residence เฟสล่าสุด, SMYTH’S Ramintra, Santiburi The Residences และ SONLE RESIDENCES เป็นต้น รวมถึงงานก่อสร้างโรงแรมและคอนโดมิเนียมก็มีครบ ช่วยการันตีความน่าเชื่อถือในเรื่องคุณภาพงานก่อสร้างได้เป็นอย่างดี

อีกบริษัทที่ร่วมทุนก็คือ บริษัท ควิกโคท โปรดักส์ จำกัด เป็นบริษัทผู้ผลิต และขายปลีก-ส่ง ปูนซีเมนต์ ซึ่งบริษัทอสังหาฯ ชั้นนำของไทยก็เลือกใช้ยี่ห้อนี้เช่นกัน เช่นโครงการ One Bangkok, Malton Gates, S’RIN, Sonle Residences เป็นต้น

Highlight

  • ไม่มีค่าส่วนกลาง เหมาะกับคนที่ไม่ได้อยากอยู่ในโครงการจัดสรร อยากได้ทำเลเข้าถึงง่าย ตอบโจทย์การทำพาณิชยกรรม

RISE 46 Watcharapol-Sukhapiban 5 (ไรส์ 46 วัชรพล-สุขาภิบาล5) ออกแบบมาเป็นโครงการโฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น ถ้าเทียบกับโฮมออฟฟิศในโซนนี้จะเห็นว่าพื้นที่ใช้สอยของที่นี่ให้มาเยอะทีเดียวกว่า 400 ตร.ม. ในขณะที่โครงการอื่นจะอยู่ที่ประมาณ 200-300 ตร.ม. เท่านั้น ที่นี่จึงให้พื้นที่ใช้สอยมาใหญ่กว่า อีกความแตกต่างจากโครงการอื่นคือ ที่นี่ไม่มีค่าส่วนกลางนะคะ เพราะไม่ใช่โครงการจัดสรร ตัวบ้านจะอยู่ติดกับถนนซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 46 เลย

ข้อดีของโครงการที่ไม่เข้าจัดสรร หลักๆ เลยคือเราไม่ต้องเสียค่าส่วนกลางเลยค่ะ แลกมากับการที่ไม่ได้มีพี่ รปภ. และรั้วโครงการ แต่ได้ความสะดวกในการเข้าถึง เหมาะกับการทำพาณิชยกรรม แถมเรายังสามารถจอดรถเพิ่มภายในซอยได้ เพราะซอยเป็นถนนกว้างถึง 12 เมตร อีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจคือไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของการต่อเติม เหมือนบ้านในโครงการจัดสรรที่มักมีข้อจำกัดจากโครงการค่ะ

RISE 46 Watcharapol-Sukhapiban 5 (ไรส์ 46 วัชรพล-สุขาภิบาล5) มีให้จับจองเพียง 6 ยูนิต บนเนื้อที่แต่ละแปลงประมาณ 37-60 ตร.ว. ตัวบ้านหันออกทางทิศใต้ถือเป็นทิศทางที่ลมประจำดูพัดผ่านอยู่เสมอ

แบบบ้าน

RISE 46 Watcharapol-Sukhapiban5 (ไรส์ 46 วัชรพล-สุขาภิบาล5) โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น ภายนอกดูเรียบหรูสไตล์ Minimal ออกแบบฟังก์ชันภายในให้ตอบโจทย์ทั้งการใช้ชีวิตและการทำงาน โดยจะมี Private Facades ช่วยเสริมความเป็นส่วนตัว

โครงการใช้วัสดุคุณภาพดี และก่อสร้างโดย Fine Home ผู้รับเหมาที่ได้รับความไว้วางใจจากโครงการระดับ Ultra Luxury แบบบ้านมีให้เลือก 2 แบบ ฟังก์ชันและการวางแปลนเหมือนกัน ต่างกันที่ขนาดพื้นที่ใช้สอยและความกว้างของหน้าบ้าน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • TYPE A โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น กว้าง 6.5 เมตร ที่ดินเริ่ม 36 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยขนาด 421 ตร.ม.
  • TYPE B โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น กว้าง 6.75 เมตร ที่ดินเริ่ม 39 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยขนาด 445 ตร.ม.

ทั้ง 2 Type ต่างกันเพียงขนาดของหน้ากว้างที่ Type B จะกว้างกว่าเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนฟังก์ชันภายในจะเหมือนกันเลย มีให้เลือก 2 Option คือ Balance หรือ Working ค่ะ

  • Balance : 1 Floor + Mezzanine Office Space / 1 Master Bedroom / 5 Bathroom / 5+ Parkings / Elevator
  • Working : 2 Floor + Mezzanine Office Space / 4 Bathroom / 5+ Parkings / Elevator


House Plan

แปลนบ้านคร่าวๆ ที่นักรีวิววาดขึ้นเองเพื่อประกอบการรีวิว ไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

ถามว่าแปลน Balance กับ Working ต่างกันตรงไหน หลักๆ คือบริเวณชั้น 3 ค่ะ Balance จะออกแบบมารองรับการอยู่อาศัย มีพื้นที่สำหรับทำ Pantry ครัวแบบเปิดโล่งเชื่อมกับโซฟานั่งเล่นและโต๊ะทานข้าว พร้อมห้องน้ำแบบ Powder Room 1 ห้องเพื่อรองรับเวลามีเพื่อนมาหา และแยกห้องนอนใหญ่พร้อมห้องน้ำในตัวไว้เป็นสัดส่วน

ส่วนชั้น 3 ของแปลน Working จะออกแบบพื้นที่ไว้เป็นพื้นที่โล่งรองรับการวางโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ บนชั้นนี้จะมีห้องน้ำพร้อม Shower ให้ 1 ห้องและห้องเก็บของอีก 1 ห้องค่ะ Highlight เลยคือมีห้องสำหรับ CEO ขนาดใหญ่กั้นไว้เป็นสัดส่วน

ใครชอบฟังก์ชันแบบไหนก็เลือกได้ค่ะ หรือจะปรับเปลี่ยนฟังก์ชันไหน อยากได้อะไรไม่อยากได้อะไร ลองสอบถามกับโครงการก่อนได้นะคะ 

ในส่วนของฟังก์ชันก็น่าสนใจทีเดียว โดยมี Features เด่นๆ ดังนี้

  • สามารถปรับฟังก์ชันเพิ่มเติม Customize ได้หลากหลาย เช่น อยากได้ Shower หรือไม่ก็ปรับได้นะ หรือจะซื้อแบบ Bareshell ก็ได้ หากใครต้องการช่างต่อเติมก็สามารถปรึกษาทางโครงการได้ค่ะ
  • สามารถจอดรถได้ 5 คัน หรือในแปลงมุมสามารถจอดได้สูงสุดถึง 9 คันเลยค่ะ
  • มีลิฟต์ทุกยูนิต (ถ้าไม่เอาลิฟต์สามารถลดราคาได้)
  • ฝ้าเพดานสูง 6 เมตร ได้บรรยากาศที่โปร่งโล่งแบบ Double Volume พื้นที่เปิดเชื่อมต่อกันระหว่างชั้น 2 และชั้นลอย
  • End-to-End Window วิวแบบเต็ม Frame กรอบหน้าต่างบานใหญ่สูงจากพื้นถึงฝ้า ชมวิวภายนอกได้ในขณะนั่งทำงาน
  • Private Facades ให้ความเป็นส่วนตัวเหมาะกับการอยู่อาศัย
  • Penthouse ชั้น 3 ออกแบบมารองรับการอยู่อาศัยเต็มชั้น ห้องนอนขนาดใหญ่ มีห้องน้ำในตัว
  • วิว 360 องศา บน Rooftop


สรุปวัสดุภายในบ้าน

  • โครงสร้างแบบ Conventional ผนังก่ออิฐฉาบปูน
  • หลังคาพื้นคอนกรีตหนา 25 cm. ปิดผิวด้วย PU กันซึม เป็นพื้น Post Tention ไม่มีรอยต่อ ลดโอกาสเกิดรอยรั่ว
  • ผนังฉาบเรียบทาสี
  • รั้วบ้านสูง 1.5 m. พร้อมต่อรั้วโปร่งเพิ่ม 2 m.
  • รั้วบ้านติดตั้งระบบอัตโนมัติ (เปิดผ่านรีโมท,แอพในมือถือ)
  • ประตูหลักหน้าบ้าน เป็นบานเลื่อนเหล็ก เพื่อป้องกันความปลอดภัย
  • ประตูในอาคารชั้น 2, ชั้นลอยและชั้นดาดฟ้า : ประตูกระจกกรอบอลูมิเนียม
  • ประตูในอาคารชั้น 3 : ประตู WPC ปิดผิวด้วย Laminate ลายไม้
  • พื้นชั้น 1 : ที่จอดรถลงเสาเข็มเท่าตัวบ้าน ปูพื้นด้วยแสตมป์คอนกรีต
  • พื้นชั้น 2,3 : พื้นไม้ SPC
  • พื้นห้องน้ำ : ปูกระเบื้องพอร์ซเลน ลายหิน Travertine
  • บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยกระเบื้องพอร์ซเลน
  • เดินระบบท่อน้ำร้อน-น้ำเย็น พร้อมเครื่องทำน้ำร้อนให้ตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไป
  • สุขภัณฑ์ Kohler
  • เดินระบบรองรับการติดตั้ง EV Charger
  • ระบบไฟ 3 เฟส 50(150) ติดตั้ง EV Charger ได้ถึง 22 kW.
  • ตู้ไฟยี่ห้อ ASEFA
  • ปั๊มน้ำ 2 ตัวที่ชั้น 1 และดาดฟ้า เพื่อให้น้ำไหลแรงทุกชั้น
  • Passenger ลิฟต์ยี่ห้อ Schneider ระบบสายพาน รองรับน้ำหนัก 450 กิโลกรัม
  • ต้นไม้ใหญ่ 1 ต้นด้านหน้าบ้าน และสวนหลังบ้านให้ต้นไม้ริมรั้วและปูหญ้า

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ชั้น 1

ชั้น 1 ของบ้าน หลักๆ แล้วเป็นพื้นที่จอดรถ ที่จอดได้ถึง 5 คัน แบบซ้อนคันนะคะ เพราะที่จอดลึกถึง 19 เมตรเลย ชั้นนี้สูง 2.7 เมตร จึงสามารถจอดรถสูงอย่างรถตู้ Alphard ได้ และยังเหลือพื้นที่ด้านข้างสำหรับจอดมอเตอร์ไซค์ได้ด้วย ด้านหลังบ้านจะเว้นระยะถอยร่นตามกฎหมาย จัดเป็นสวนและพื้นที่สำหรับวางถังน้ำ

นอกจากสวนและที่จอดรถแล้วยังมีห้องน้ำแบบ Powder Room ไว้ให้รับรองแขก นอกจากนี้ก็มีห้องเก็บของใต้บันไดขนาดใหญ่ และลิฟต์ในตัวด้วยค่ะ

รั้วบ้านเป็นรั้วโปร่งทำให้บรรยากาศดูไม่อึดอัด แต่ก็ไม่เสียความเป็นส่วนตัวนะ เพราะมองเข้ามาจะเห็นแต่พื้นที่จอดรถ ส่วนชั้นที่ใช้เป็นออฟฟิศจะเริ่มต้นที่ชั้น 2 ขึ้นไป

ประตูรั้วเป็นบานเลื่อนที่ติดตั้งระบบอัตโนมัติมาให้เรียบร้อย สามารถเปิดผ่านรีโมทหรือ Apps ในมือถือ

ตู้จดหมายและถังขยะออกแบบมาเป็นส่วนหนึ่งของรั้ว ทำให้หน้าบ้านดูสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย มีประตูเล็กสำหรับเดินเข้าออกแยกมาให้ ถ้าไม่ได้จะเอารถเข้าก็ไม่ต้องเปิดประตูใหญ่ก็ได้

ทางฝั่งขวาของประตูจะเป็นตู้ใส่ขยะ ที่เราสามารถรวมขยะมาทิ้งไว้ในตู้นี้เพื่อให้รถขยะมาเก็บไปได้สะดวก

พื้นที่จอดรถทำเป็นแสตมป์คอนกรีตไว้ให้ทั้งชั้น ดูสวยงามและทำความสะอาดง่าย โซนหน้าสุดที่ไม่มีหลังคาสามารถจอดแบบ Outdoor ได้ 2 คัน แบบจอดข้างกันได้เพราะพื้นที่กว้างประมาณ 5.3 เมตร ซึ่งกว้างกว่าโซน Indoor ด้านในที่มีระยะ 5.1 เมตร โซนในหลังคาจึงเหมาะจะจอดแบบซ้อนคันฝั่งเดียว เพื่อให้เปิดประตูลงได้สะดวก และยังจะเหลือพื้นที่ด้านข้างให้จอดมอเตอร์ไซค์ได้ด้วยนะ

สิ่งที่ชอบคือพื้นที่จอดรถมีความลึกเกือบ 20 เมตร และสูง 2.7 เมตร รถยาวแบบ Alphard ก็จอดได้ไม่มีปัญหา หรือถ้ารถสูงพิเศษก็จอดตรง Outdoor ได้ค่ะ

โครงการเดินงานระบบรองรับการติดตั้ง EV Charger มาให้ ซึ่งไฟในบ้านเป็นระบบไฟ 3 เฟส 50(150) สามารถติดตั้ง EV Charger ได้ถึง 22 kW.

ภายในที่จอดรถจะมีห้องเก็บของขนาดใหญ่และห้องน้ำสำหรับรับรองแขกแบบ Powder Room

ภายในห้องเก็บของเป็นพื้นที่ใต้บันได สามารถเก็บของชิ้นใหญ่อย่างเช่น อุปกรณ์ออกบูธ, ถุงกอล์ฟ, อุปกรณ์ทำความสะอาดได้สบายๆ และมีตู้ควบคุมไฟอยู่ในห้องนี้ด้วย หากช่างมา Maintenance ก็เข้าถึงได้สะดวก ซึ่งตู้ไฟนี้ให้ของยี่ห้อ ASEFA แบรนด์ยอดนิยมของไทยที่ใช้กันทุกกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งโรงพยาบาล, ห้างสรรพสินค้าและที่อยู่อาศัย

ในส่วนของห้องน้ำแบบ Powder Room มาพร้อมสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Kohler เป็นหลัก เป็นยี่ห้อคุณภาพที่สามารถหาอะไหล่มา Maintenance ง่ายในอนาคต

ด้านในสุดเป็นตำแหน่งของลิฟต์ที่ทางโครงการติดตั้งมาให้ หรือถ้าไม่ต้องการให้ติดตั้งลิฟต์ก็สามารถรับเป็นส่วนลดแทนได้ โดยสเปคที่ทางโครงการเลือกให้เป็น Passenger ลิฟต์ยี่ห้อ Schneider ระบบสายพาน รองรับน้ำหนักได้ 450 กิโลกรัม (ประมาณ 5-6 คนนะคะ) ข้อดีคือสามารถเรียกช่างมา Maintenance ได้ 24 ชั่วโมงค่ะ

พื้นที่ด้านหลังบ้าน ทางโครงการจะปูหญ้าและลงไม้พุ่มริมรั้วไว้ให้ เราสามารถจัดสวนเป็นมุมพักผ่อนหย่อนใจ รั้วฝั่งที่ติดกับที่ดินข้างเคียงจะต่อรั้วโปร่งเพิ่มให้อีก 2 เมตร รวมเป็นความสูงถึง 3.5 เมตรเลยค่ะ

ต่อไปเราจะพาไปชมพื้นที่ชั้น 2 กันต่อ ซึ่งเราสามารถขึ้นลิฟต์หรือบันไดก็ได้นะ สำหรับบันไดหน้าบ้านปูพื้นด้วยกระเบื้องพอร์ซเลน มีคุณสมบัติที่แข็งแรงทนทาน ทนต่อการขีดข่วนเป็นรอยได้ และยังทำความสะอาดง่ายเพราะมีการดูดซึมน้ำน้อยมาก จึงไม่เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและไม่เกิดคราบตะไคร่น้ำเกาะติดวัสดุ

ทรงของบันไดจะชู้ตขึ้นมาตรงๆ ยาวๆ ให้ความรู้สึกว่ากำลังเปลี่ยนผ่านเข้า Private Zone แล้วนะ

ติดกับบันไดจะมีประตูอีกบาน เป็นบานเลื่อนเหล็กเพื่อเสริมความปลอดภัย ส่วนประตูเข้าออฟฟิศใช้เป็นบานกระจกกรอบอลูมิเนียม ดูแข็งแรงทนทาน เหมาะกับการเปิดใช้งานบ่อยๆ ของออฟฟิศ ซึ่งจะใช้ประตูสเปคนี้ที่ชั้น 2, ชั้นลอย  และชั้นดาดฟ้านะคะ

ชั้น 2

จัดเป็น Office Space แบบเต็มชั้น รองรับโต๊ะทำงานได้แบบ 10-15 ที่นั่ง หรือจะกั้นเป็นห้องประชุมตามแบบในแปลนก็ได้ ด้านในสุดจะมีห้องน้ำแบบ Powder Room มาให้ 1 ห้อง พร้อมพื้นที่สำหรับทำ Pantry ครัว เล็กๆ ไว้ให้ชงกาแฟ เตรียมเครื่องดื่ม หรือวางไมโครเวฟค่ะ

เข้ามาในพื้นที่ออฟฟิศจะเห็นเลยว่าพื้นที่กว้าง วางโต๊ะทำงานยาวๆ ได้ Highlight ของพื้นที่ชั้นนี้คือ เป็น Double Volume เปิดให้เห็นชั้นลอยหรือจะทำบันไดเชื่อมต่อกันแบบในรูป Perspective ก็ได้

สำหรับคนที่อยากได้เป็นบ้านอยู่อาศัย ไม่ได้ใช้เป็น Home Office ก็สามารถจัดฟังก์ชันเป็นพื้นที่รับแขก และพื้นที่ทานอาหารพร้อม Pantry ครัวด้านหลัง ก็ดูลงตัวดีค่ะ แถมบนชั้นลอยยังเหมาะจะจัดเป็นพื้นที่สำหรับ Work From home หรือทำงานอดิเรกที่ได้ความเป็นส่วนตัวด้วย

อย่างที่เล่าไปว่าฝ้าเพดานของที่นี่ได้แบบ Double Volume เราจึงเทียบสเกลมาให้ดูว่าฝ้าสูงถึง 6 เมตรนี้สูงมากนะ สามารถติดแชนเดอเลียร์แบบโคมระย้ายาวๆ เพื่อเพิ่มความหรูหราให้กับตัวบ้านได้เลย ซึ่งฝ้าเพดานทั้งชั้น 2 และชั้นลอยสูงประมาณ 2.7 เมตร จึงดูโปร่งไม่อึดอัดทั้ง 2 ชั้นเลยนะ

หากต้องการกั้นห้องประชุม แนะนำให้เลือกใช้เป็นผนังกระจกจะช่วยให้พื้นที่ดูโปร่งโล่ง พื้นที่ทั้งชั้นจึงได้รับแสงธรรมชาติอย่างทั่วถึง

บรรยากาศจริงภายในอาคาร Standard ที่เตรียมส่งมอบ จะเห็นว่าได้หน้าต่างบานใหญ่แบบ End-to-End Window รับวิวแบบเต็ม Frame กรอบหน้าต่างบานใหญ่แบบพื้นถึงฝ้า ชมวิวภายนอกได้เต็มตาในขณะนั่งทำงาน และแสงธรรมชาติยังส่องเข้ามาได้เต็มชั้น

ที่น่าสังเกตคือ หน้าต่างส่วนบนจะมี Private Facades มาให้อีกชั้นนึง ช่วยกรองแสงไม่ให้เข้ามาในอาคารเยอะเกินไปแต่ยังได้บรรยากาศที่ดูโปร่งโล่งอยู่นะ ในส่วนของพื้นปูด้วยไม้ SPC ให้บรรยากาศที่ดู Homey แต่มีคุณสมบัติทนน้ำเพราะไม่มีส่วนผสมของไม้

อีกจุดนึงที่อยากเล่าคือ ตำแหน่งของปลั๊กไฟให้มาหลายจุดมากๆ 10 กว่าจุด รอบพื้นที่บนชั้นนี้เลย ไม่ว่าจุดไหนจึงสามารถเสียบปลั๊กคอมฯได้

ไฟที่ติดให้ในโซน Double Volume จะใช้ไฟที่กำลังวัตต์แรงกว่าโซนอื่น เพื่อให้สว่างได้ทั้งพื้นที่นะคะ ส่วนไฟในพื้นที่อื่นจะเป็นดาวน์ไลท์ตามปกติค่ะ

ฝั่งด้านหลังบ้านของชั้นนี้เป็นพื้นที่ที่เดินงานระบบน้ำ-ไฟไว้ รองรับการทำ Pantry ครัว ติดตั้งซิงค์ล้างจาน, ตู้เย็นได้ครบ ตามแบบในภาพ Perspective ด้านบน ส่วนด้านข้าง Pantry ครัวจะเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room และตำแหน่งติดตั้งลิฟต์

ภายใน Powder Room จะมีเฉพาะพื้นที่ส่วนแห้งตอบโจทย์การใช้งานของ Office มาพร้อมสุขภัณฑ์ครบถ้วนใช้ยี่ห้อ Kohler เป็นหลัก ภายในกรุกระเบื้องพอร์ซเลนลาย Travertine ทั้งพื้นและผนัง จึงมีลายที่สวยงามและดูแลทำความสะอาดง่าย ที่เราชอบคือมีหน้าต่างให้เปิดระบายอากาศได้ด้วยนะคะ

ออกมาที่โถงบันไดจะได้แสงสว่างจากหน้าต่างและ Skylight ทำให้ทางเดินได้แสงในช่วงกลางวัน ซึ่งจริงๆ หากไม่เปิดไฟก็ยังมองเห็นนะ

พื้นที่บริเวณโถงทางเดินนี้นอกจากจะได้แสงธรรมชาติแล้ว ยังสามารถเปิดหน้าต่างระบายอากาศ, รับลมได้ ซึ่งพื้นที่ทางเดินนี้จะมีประตูกั้นแยกกับโซนออฟฟิศทำให้ไม่เปลืองแอร์ ประหยัดค่าไฟไปได้นะ

ชั้นลอย

บนชั้นลอยเองก็มีห้องน้ำแบบ Powder Room เป็นส่วนตัว พร้อมพื้นที่สำหรับทำ Pantry ครัวและตำแหน่งติดตั้งลิฟต์ ครบครันแบบเดียวกับชั้น 2 และมีพื้นที่โล่งประมาณ 3×4 เมตร พอสำหรับวางโต๊ะ CEO หรือจัดเป็นห้องประชุมขนาด 3-4 ที่นั่งได้พอดีๆ

ภาพ Perspective จำลองการจัดพื้นที่บนชั้นลอยเป็น CEO Office ดูแล้วได้ความเป็นส่วนตัวดีนะคะ

บรรยากาศชั้นลอยในอาคาร Standard จะปูพื้นด้วย SPC เช่นกันและมีราวกันตกกระจกมาให้

ราวกันตกใช้เป็น Tempered Glass หรือที่เรียกกันว่ากระจกนิรภัย มีคุณสมบัติเด่นคือ แข็งแรงทนทานกว่ากระจกทั่วไป 3-5 เท่า ทนความร้อนได้สูง รวมถึงเมื่อแตกจะแตกเป็นชิ้นเล็กๆ คล้ายเม็ดข้าวโพด ไม่เป็นอันตรายจากการบาดคม

จากชั้นลอยเราสามารถมองลงมาเห็นชั้นล่างได้ ถ้าเป็นห้องของ CEO ก็เหมาะเลย เพราะจะเห็นบรรยากาศโดยรวมของออฟฟิศได้ทั้งหมดค่ะ

พื้นที่โซนด้านในก็มาครบครันทั้งตำแหน่งติดตั้งลิฟต์, Pantry ครัว และห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำจะให้มาเป็นแบบ Powder Room เช่นกัน สเปควัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ใช้ของ Kohler เป็นหลัก ซึ่งอาคารจริงที่ส่งมอบก็จะให้ตามแบบที่เห็นนี้นะคะ

ชั้น 3

พื้นที่บนชั้น 3 มีให้เลือก 2 ฟังก์ชันนะคะ BALANCE จะออกแบบมารองรับการอยู่อาศัย มีพื้นที่สำหรับทำ Pantry ครัวแบบเปิดโล่งเชื่อมกับโซฟานั่งเล่นและโต๊ะทานข้าว พร้อมห้องน้ำแบบ Powder Room 1 ห้องเพื่อรองรับเวลามีเพื่อนมาหา และแยกห้องนอนใหญ่พร้อมห้องน้ำในตัวไว้เป็นสัดส่วน

ส่วน WORKING จะออกแบบพื้นที่ไว้เป็นพื้นที่โล่งรองรับการวางโต๊ะทำงานขนาดใหญ่หรือจัดเป็นพื้นที่พักผ่อนทานข้าวของพนักงานก็ดูเป็นสัดส่วนดี บนชั้นนี้จะมีห้องน้ำพร้อม Shower ให้ 1 ห้องและห้องเก็บของอีก 1 ห้องค่ะ Highlight เลยคือมีห้องสำหรับ CEO ขนาดใหญ่กั้นไว้เป็นสัดส่วน

เนื่องจากโครงการยังไม่มีบ้านตัวอย่างให้ดูกัน เราจึงนำภาพ Perspective ของทั้ง 2 ฟังก์ชันมาฝากแทนนะคะ

ฟังก์ชัน BALANCE

Image 1/4
ภาพจำลองฟังก์ชันแบบ BALANCE

ภาพจำลองฟังก์ชันแบบ BALANCE

ฟังก์ชันแบบ BALANCE ออกแบบเพื่อรองรับการอยู่อาศัยจึงจัดฟังก์ชันมาเหมือนบ้านเลย โดยพื้นที่ส่วนแรกที่เข้ามาเจอจะเป็น Living+Dining Space+Pantry ครัวเชื่อมต่อกัน ใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนหลักๆ ของเจ้าของบ้าน และมีห้องน้ำมาให้ครบครัน

แม้ว่าในแปลนห้องน้ำจะเป็นแบบ Powder Room แต่ที่พิเศษสำหรับโครงการนี้คือ หากลูกค้าต้องการฟังก์ชัน Shower เพิ่มเติมก็สามารถต่อเติมได้ เพราะทางโครงการเดินงานระบบเผื่อไว้ให้เรียบร้อยค่ะ

Image 1/3
ภาพจำลองภายใน Master Bedroom

ภาพจำลองภายใน Master Bedroom

Master Bedroom ได้พื้นที่เต็มฝั่งหน้าบ้าน พื้นที่มีขนาดใหญ่พอให้วางเตียง King Size ได้สบาย และยังสามารถจัดมุมนั่งเล่นปลายเตียงได้ด้วยนะ ด้านข้างเตียงยังมีพื้นที่เพียงพอให้ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้เต็มความยาวของห้องเลย

ในห้องดูสว่างมากเพราะได้หน้าต่างบานใหญ่ ซึ่งหน้าต่างในห้องนอนจะเป็นแบบ End-to-End Window รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ แต่เพื่อความเป็นส่วนตัวจึงมี Private Facade มากั้นอีกชั้นหนึ่ง ช่วยบังสายตาจากคนภายนอกได้

Master Bathroom ให้อ่างล้างหน้าแบบ His&Her ใช้งานพร้อมกันได้ 2 คน ระบบน้ำรองรับท่อน้ำร้อน-น้ำเย็น มาพร้อมเครื่องทำน้ำร้อนที่ทางโครงการติดตั้งมาให้แล้ว ไม่ต้องไปติดตั้งเพิ่ม ในส่วนของสุขภัณฑ์ต่างๆ ใช้ของ Kohler เป็นหลักเช่นเดิม

เราชอบที่เค้าแยกส่วนเปียกแห้งมาให้ด้วยฉากกั้นกระจกจึงไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำกระเด็นเลย และมี Highlight อย่างอ่างอาบน้ำที่วางไว้ติดหน้าต่างดูน่าใช้งาน แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องสายตาจากเพื่อนบ้านนะ เพราะห้องนี้ก็มี Private Facade สำหรับอ่างที่ให้มีความยาวประมาณ 1.2 เมตรค่ะ

อาคารจริงที่เตรียมส่งมอบของฟังก์ชัน BALANCE

Image 1/3
ภาพบรรยากาศชั้น 3 ในอาคาร Standard

ภาพบรรยากาศชั้น 3 ในอาคาร Standard

Image 1/7
ภาพบรรยากาศใน Master Bathroom ในอาคาร Standard

ภาพบรรยากาศใน Master Bathroom ในอาคาร Standard

ฟังก์ชัน WORKING

Image 1/2
ภาพจำลองฟังก์ชันแบบ WORKING

ภาพจำลองฟังก์ชันแบบ WORKING

หากเจ้าของอาคารไม่ได้ต้องการพื้นที่พักอาศัยแบบส่วนตัวก็อาจจัดพื้นที่บนชั้น 3 เป็นพื้นที่ทานข้าว และพักกลางวันของพนักงาน

ตำแหน่งของห้องนอนก็ปรับฟังก์ชันเป็น CEO Office ได้ โดยที่เราสามารถเลือกตัดห้องน้ำทิ้งและรวมพื้นที่ทั้งหมดเป็นห้อง CEO ได้นะ ก็จะได้พื้นที่กว้างๆ จัดเป็นมุมรับแขกในห้องได้เลย หากต้องการอาบน้ำ บนชั้นนี้จะมีห้องน้ำอยู่ติดกับ Pantry ครัว ซึ่งเป็นแบบมี Shower ด้วยค่ะ

Rooftop

โครงการนี้ออกแบบมาให้มี Rooftop ด้วยเป็นฟังก์ชันที่ไม่ได้มีใน Home Office ทุกโครงการนะคะ ตอบโจทย์สำหรับออฟฟิศไหนที่อยากมีพื้นที่ให้รับลมชมวิว หรือชอบจัดปาร์ตี้หมูกระทะ ก็สามารถขึ้นมาตั้งโต๊ะบนดาดฟ้าได้ แต่ต้องเดินขึ้นทางบันได เพราะลิฟต์ขึ้นถึงแค่ชั้น 3

โครงการออกแบบหลังคาบางส่วนไว้เป็น Skylight ทำให้บรรยากาศบริเวณโถงบันไดสว่าง ได้แสงธรรมชาติ

หลังคาของอาคารออกแบบเป็นดาดฟ้า จึงใช้งานได้หลากหลาย จะใช้นั่งเล่นรับลมชมวิว กินหมูกระทะก็ได้เลย

หลายคนอาจกังวลว่าจะดูแลรักษาในระยะยาวยากมั้ย ต้องอธิบายว่าอยู่ที่วิธีการก่อสร้างนะอย่างที่นี่จะใช้เป็นพื้น Post Tention ไม่มีรอยต่อ จึงลดโอกาสเกิดรอยรั่ว ซึ่งพื้นก็ใช้เป็นพื้นคอนกรีตที่หนาถึง 25 cm. และปิดผิวด้วย PU กันซึมอีกชั้นหนึ่ง พร้อมทำ ​Slope ให้น้ำไหลมาระบายที่ท่อระบายน้ำจึงไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำขัง เมื่อเวลาผ่านไป 5-10 ปีก็ทำ PU ปิดผิวใหม่ได้ไม่มีปัญหาค่ะ

วิวจาก Rooftop ก็จะมองเห็นวิวได้แบบโล่งๆ ชมวิวได้ไกลเลย

จากโครงการมองไปเห็นทางด่วนด้วยนะ บอกแล้วว่าใกล้มากๆ เดินทางสะดวกเลยค่ะ

ราคา

RISE 46 (ไรซ์ โฟว์ตี้ซิกส์) ราคา ณ วันที่ 7 กรกฎาคม 2568

  • TYPE A โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น กว้าง 6.5 ม. ที่ดินเริ่มต้น 36 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 421 ตร.ม.
    – ราคาเริ่มต้น 14.6 ล้านบาท (Bareshell 12.9 ล้านบาท)
  • TYPE B โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น กว้าง 6.75 ม. ที่ดินเริ่มต้น 39 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 445 ตร.ม.
    – ราคาเริ่มต้น 14.84 ล้านบาท (Bareshell 13.14 ล้านบาท)
  • จอง 50,000 บาท
  • ทำสัญญา 3%
  • โปรโมชั่น! ฟรีแอร์ Daikin ทั้งหลัง

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :  RISE 46 Watcharapol-Sukhapiban 5 (ไรส์ 46 วัชรพล-สุขาภิบาล5) ออกแบบมาเป็นโฮมออฟฟิศบนทำเลวัชรพล-สุขาภิบาล 5 มีข้อดีคือใกล้ทางด่วนฉลองรัชแบบมากๆ ประมาณ 2 km. ก็ถึงแล้ว และมีความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินถึงได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีของการเป็นออฟฟิศเลยนะคะ นอกจากนี้โครงการยังอยู่ในซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 46 ที่สามารถจอดรถเพิ่มบริเวณหน้าอาคารในซอยได้ หากวันไหนลูกค้าเยอะจอดในอาคารไม่พอก็ยังมีพื้นที่ในซอยช่วยรองรับด้วยนะ จึงเป็นทำเลที่เหมาะกับการทำพาณิชยกรรมค่ะ

ความปลอดภัยของตัวบ้าน : แม้ว่าโครงการไม่ได้ติดตั้งเทคโนโลยีที่ช่วยรักษาความปลอดภัยมาให้ แต่ก็ออกแบบมาให้ได้ความปลอดภัยตามมาตรฐาน อย่างประตูก็มีหลายชั้นนะคะ ทั้งประตูหลักหน้าบ้านที่เป็นบานเลื่อนเหล็กที่ติดตั้งไว้ให้บนชั้น 2 และทุกชั้นยังมีประตูแยกเข้าไปอีกชั้นหนึ่ง ในส่วนของรั้วก็ให้มาเป็นระบบอัตโนมัติใช้งานสะดวก และรั้วที่ติดกับแปลงที่ดินรอบข้างก็ให้มาสูงทีเดียวรวมรั้วโปร่งแล้วสูงถึง 3.5 เมตรเลยค่ะ 

การออกแบบพื้นที่ใช้สอย : RISE 46 ออกแบบฟังก์ชันมาให้ยืดหยุ่นมาก ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย จะใช้เป็น Home Office หรือเป็น Office ทั้งหลัง หรือจะปรับเป็นที่อยู่อาศัยทั้งหลังก็ได้หมด หรือจะซื้อแบบ Bareshell ก็ได้ ข้อดีนี้เกิดจากเจ้าของโครงการที่เป็นบริษัทรับเหมาเอง ซึ่งหากใครต้องการช่างต่อเติมก็สามารถปรึกษากับทางโครงการได้เลยนะคะ

ส่วนฟังก์ชันที่เรามองว่าน่าสนใจ ได้แก่ จอดรถได้ 5 คัน หรือในแปลงมุมสามารถจอดได้สูงสุดถึง 9 คันเลย, ตัวบ้านมีลิฟต์ติดตั้งมาให้ทุกยูนิด (ถ้าไม่เอาลิฟต์ก็สามารถลดราคาได้), ฝ้าเพดานสูง 6 เมตร ได้บรรยากาศที่โปร่งโล่งแบบ Double Volume พื้นที่เปิดเชื่อมต่อกันระหว่างชั้น 2 และชั้นลอย, หน้าต่างแบบ End-to-End วิวเต็ม Frame กรอบหน้าต่างใหญ่แบบพื้นถึงฝ้า ชมวิวภายนอกได้เต็มตาในขณะนั่งทำงาน หรือในชั้นที่ต้องการความเป็นส่วนตัวก็มี Private Facades อีกชั้นหนึ่ง ที่มาช่วยบังสายตาจากคนภายนอกจึงเหมาะกับการอยู่อาศัย หากใครต้องการพื้นที่พักอาศัยในอาคารก็มี Penthouse บนชั้น 3 ที่ออกแบบเพื่อมารองรับการอยู่อาศัยเต็มชั้น ได้ห้องนอนขนาดใหญ่ มีห้องน้ำในตัว และอีกอย่างที่ไม่ได้เห็นในทุกโครงการก็คือ Rooftop ที่สามารถขึ้นไปรับลมชมวิวแบบ 360 องศา หรือจะปิ้งหมูกระทะก็ได้

วัสดุ : ถือว่าให้มาดีนะคะ อย่างพื้นก็ให้เป็นกระเบื้องพอร์ซเลน ซึ่งทนทานกว่ากระเบื้องแกรนิตโต้แบบที่นิยมใช้กันทั่วไป, สุขภัณฑ์ต่างๆ ใช้ของ Kohler เป็นหลัก, ตู้ไฟยี่ห้อ ASEFA ยอดนิยม อ้อ! ปั๊มน้ำเค้าให้มา 2 เครื่องเลยนะ ทั้งชั้น 1 และชั้นดาดฟ้า เพื่อให้น้ำไหลแรงทุกชั้น ซึ่งไม่ใช่ทุกโครงการจะให้ 2 เครื่องนะ แถมติดตั้งลิฟต์มาให้ด้วยของยี่ห้อ Schneider ค่ะ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : บรรยากาศหน้าบ้านได้ความสดชื่นจากต้นไม้ใหญ่หน้าบ้าน ทำให้หน้าบ้านน่ามอง

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%

เทียบกับแพคเกจเริ่มต้น 14.6 ล้านบาท (Bareshell 12.9 ล้านบาท), 7 กรกฎาคม 2568

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 9/10 – ใกล้ถนนสุขาภิบาล 5 ใกล้ทางด่วน มีของกินในระยะเดินได้
  • ความปลอดภัย 6/10 – ประตูแยกทุกชั้น, ประตูรั้วอัตโนมัติ และรั้วที่ติดกับแปลงข้างเคียงสูงถึง 3.5 เมตร
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 9/10 – Customize ได้ รองรับทั้งการทำงานและการพักอาศัย
  • วัสดุ 8/10 – ให้มาดี ใช้ของแบรนด์ดัง
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – ได้ความสดชื่นจากต้นไม้ใหญ่หน้าบ้าน
  • 8.22 / 10.00

RISE 46 Watcharapol-Sukhapiban 5 (ไรส์ 46 วัชรพล-สุขาภิบาล5) เหมาะกับใคร

RISE 46 Watcharapol-Sukhapiban 5 (ไรส์ 46 วัชรพล-สุขาภิบาล5) เหมาะกับคนที่มองหาโฮมออฟฟิศบนถนนสุขาภิบาล 5 ชอบทำเลที่เดินทางสะดวกใกล้ทางด่วน มีร้านอาหารให้ช้อปปิ้งในระยะเดินถึงได้ ชอบโครงการไม่จัดสรร เข้าถึงง่าย ไม่ต้องมีรั้วโครงการ เหมาะกับการทำพาณิชยกรรมที่มีลูกค้าไปมาหาสู่บ่อยๆ และไม่ต้องเสียค่าส่วนกลาง

ในส่วนของตัวอาคารเหมาะกับคนที่ชอบฟังก์ชันยืดหยุ่นสามารถ Customize ฟังก์ชันได้ตามความต้องการ หรือจะซื้อแบบ Bareshell แล้วเลือกวัสดุปิดผิวเองก็ได้ มองหาโครงการที่จอดรถได้เยอะ 5 คันขึ้นไป สุงสุดถึง 9 คัน ออกแบบพื้นที่แบบ Double Volume ใช้กระจกบานใหญ่ End-to-End Window ทำให้บรรยากาศดูโปร่งโล่ง แต่ยังได้ความเป็นส่วนตัวจาก Private Facade และมี Rooftop ให้ขึ้นไปรับลมชมวิวใช้งานได้จริง มีงบประมาณเริ่ม 14.6 ล้านบาท (Bareshell 12.9 ล้านบาท) ยังไม่รวมงบตกแต่ง

ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน 

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่