รีวิวฉบับที่ 458 วันนี้จะพาชมโครงการ Rich Park @ Chaophraya คอนโดสูงวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ติดถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าอนาคตสายสีม่วง สถานีไทรม้า ประมาณ 100 เมตรถึงตรงบันไดทางขึ้นและ 200 ถึงสถานีค่ะ โดย ริชี่เพลซ 2002 ซึ่งเป็นโปรเจคที่มีจุดเด่นก็คือเห็นทั้งแม่น้ำเจ้าพระยาและใกล้สถานีรถไฟฟ้า แม้ว่าทำเลจะต้องออกนอกเมืองมาหน่อยก็ตามค่ะ
Fact @ 22 October 2013
- Rich Park @Chaophraya (ริชพาร์ค @ เจ้าพระยา)
- บริษัท ริชี่เพลส 2002 จำกัด (มหาชน)
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด High Rise 1 อาคาร 33 ชั้น ยูนิตรวม 633 ยูนิต Shop house 2 ยูนิต
- จำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุด 25 ยูนิตต่อชั้น
- เพดานสูง 2.4 เมตร
- ที่จอดรถประมาณ 40% รวมจอดซ้อนคัน
- ขนาดที่ดินประมาณ 2-0-86 ไร่
- พิกัด 13.870447,100.469418
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ กันยายน 2558
- Studio ไม่มี
- 1 Bedroom 28 – 32ตารางเมตร
- 2 Bedrooms ไม่มี
- Duplex ไม่มี
- ราคาเริ่มต้นในวันที่ไปเก็บข้อมูล 1.68 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 60,000 – 70,000 บาท
- www.rp.co.th
- โทร 02-195-8282(-5)
คลิก LIKE เพื่อเป็นกำลังใจและสนับสนุนผลงานพวกเรานะค่ะ
ทำเลที่ตั้งโครงการ
พิกัด 13.870447,100.469418
Rich Park @เจ้าพระยา ตั้งอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา สะพานพระนั่งเกล้า ตัวโครงการอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายอนาคต ไทรม้าประมาณ 100 เมตรถึงตรงบันไดทางขึ้นและ 200 ถึงสถานีค่ะ
เเผนที่จากกูเกิ้ลค่ะ จะเห็นว่าสถานีไทรม้าและเเม่น้ำเจ้าพระยาไม่ได้ใกล้กับโครงการเหมือนเเผนที่ที่โครงการบอกไว้ให้นะคะ โดยสถานีจะห่างจากโครงการประมาณ 100 เมตร(บันไดทางขึ้น) และห่างจากแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 600 เมตรค่ะ
วันนี้เราพามาเส้นรัตนาธิเบศร์ค่ะ ด้านซ้ายมือคือ Big C รัตนาธิเบศร์ รถไฟฟ้าเส้นนี้คือเส้นสีม่วงซึ่งเป็นเส้นเดียวกันที่จะผ่านหน้าโครงการRich Park @เจ้าพระยาค่ะ สถานีที่เห็นคือสถานีศรีพรสวรรค์ (ภาพจะออกโทนฟ้าไปหน่อยนะคะเพราะฟิล์มรถออกเขียวนิด ๆ )
ขับชิดขวาตามเส้นบางบัวทอง-กาญจนาภิเษกค่ะ
ขับมาไม่ไกลก็จะเจอเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์อยู่ทางขวามือค่ะ
ขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าเพื่อข้ามไปยังฝั่งธนบุรี
ภาพที่เห็นคือเมื่อลงมาจากสะพานพระนั่งเกล้า ข้ามจากถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งพระนครมาที่ฝั่งธนบุรี สถานีที่เห็นคือสถานีไทยม้าเป็นสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดค่ะ
ขับมาซักพัก ก็มากลับรถตรงจุดนี้ค่ะ
กลับรถมาเเล้ว เมื่อมาตามเส้นทางเราจะเจอสถานีไทรม้าอีกครั้ง และจะเจอกับปั๊มปตท.ค่ะ
ไม่ไกลก่อนทางขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าจะเห็นทางเข้าคอนโดค่ะ สังเกตได้จากลูกบอลสีส้ม หรือสะพานลอยก็ได้ค่ะ
เรามามองอีกมุมดีกว่าค่ะ โดยถ่ายภาพจากสะพานลอยหน้าโครงการ มุมนี้จะเห็นชัดหน่อยว่าระยะห่างจากโครงการเดินไปสถานีไทรม้ามากน้อยเเค่ไหน ข้าง ๆ สถานีไทรม้าคือ DCondo ค่ะ
คราวนี้กลับไปมองทางเข้าโครงการกันดีกว่าค่ะ จะเห็นว่าทางเข้า-ออกโครงการกระชั้นชิดกับทางขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าใหม่มาก ถ้าจะขึ้นตรงนี้อันตรายทีเดียวค่ะ แนะนำว่าไปข้ามสะพานพระนั่งเกล้าเก่าดีกว่าค่ะ
พื้นที่ตั้งโครงการคือพื้นที่ตั้งแต่สำนักงานขายจนถึงพื้นที่ว่างด้านหลัง ทางโครงการเเจ้งว่าเมื่อปิดการขายได้เรียบร้อยแล้วส่วนสำนักงานขายจะกลายเป็นพื้นที่สวนด้านหน้าของโครงการค่ะ
ปัจจุบันพื้นที่ด้านข้างโครงการฝั่งทิศตะวันตกเป็นพื้นที่เปล่าของชาวบ้านซึ่งตอนนี้เป็นต้นไม้เเละคูน้ำค่ะ
ถาพถ่ายจากระดับความสูง 36 เมตร ประมาณชั้น 12A ค่ะ นี่เป็นภาพวิวที่ห้อง Type B ด้านติดกับถนนรัตนาธิเบศร์ ภาพนี้ก็จะเห็นD Condo และสถานีรถไฟฟ้าชัดเจนเชียวค่ะ
ภาพนี้คือวิวที่ห้อง Type A จะได้รับค่ะ ซึ่งอาคารส่วนใหญ่ฝั่งนี้จะเป็นบ้านเดี่ยวไม่เกิน 3 ชั้นหลายหมู่บ้านเชียวค่ะ จึงทำให้วางใจได้เลยว่าวิวนี้จะไม่มีตึกสูงมาบังซึ่งถือว่าเป็นวิวที่ดีสุดในห้องทั้ง 3 Type เลยค่ะ
จากภาพนี้จึงเป็นที่มาของ Rich Park @ Chaophraya ว่าทำไมถึงตั้งชื่อแบบนี้นะคะ
ภาพจากระดับความสูง 36 เมตร หรือประมาณชั้น 12A ค่ะ ภาพอาจจะงง ๆ ไปหน่อยงั้นขออธิบายนะคะว่าริมภาพทั้งสองด้านคือวิวทางทิศตะวันตก นั่งคือ Type จะได้วิวนี้ค่ะ ส่วนกลาง ๆภาพคือ Type A ส่วน Type B จะได้วิวที่เห็นถนนหรือสังเกตง่าย ๆ ก็คือฝั่งตึก D Condo นั่งเองค่ะ
ภาพนี้จะสูงขึ้นมาอีกเพราะเป็นภาพจากระดับความสูง 100 เมตรค่ะ ทำให้เห็นว่ายิ่งสูงยิ่งเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาชัดเจนเเถมไม่มีตึกสูงอื่น ๆ มาบังด้วยค่ะ
เจาะลึกตัวโครงการ
Master Plan โครงการ Rich Park @เจ้าพระยา เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าโดยหันด้านที่แคบที่สุดเข้าหาถนนรัตนาธิเบศร์ จึงทำให้ด้านยาวหนึ่งด้านรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาเต็ม ๆ ค่ะ
Ground floor ประกอบไปด้วย Shop House 2 ยูนิตที่อยู่ด้านหน้าโครงการ เข้าไปภายในอาคารเป็นส่วนของ Lobby ขนาดใหญ่ ซึ่งติดกับโถงลิฟท์ ที่ประกอบไปด้วยลิฟท์โดยสาร 3 ตัว และ ลิฟท์บริการอีก 1 ตัว ด้านหลังเป็นส่วนของลาดจอดรถ โดยลานจอดรถจะอยู่ตั้งแต่ชั้น 1-7 ค่ะ บริเวณสวนหย่อมโครงการจะอยู่ที่ชั้นนี่ด้วย นะคะ มีทั้งด้านหน้า และด้านหลังสุดของโครงการค่ะ
ชั้น 8 เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมของ Facility ที่ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำขนาด 12 x 22 เมตร และ 5 x 5 เมตร แยกเป็นสระเด็ก-ผู้ใหญ่ ห้องออกกำลังกาย บริเวณที่นั่งเล่นริมสระ และห้องน้ำรวม นอกจากนี้ชั้นนี้ยังมีห้องพักอาศัยจำนวน 8 ยูนิตที่อยู่ฝั่งถนนรัตนาธิเบศร์ รวมอยู่ด้วยค่ะ
Facility ให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของชั้น 8 ทำให้ได้ขนาดที่ดีมากแต่ยังไม่ถึงกับดีที่สุดนะคะ ถ้าให้เต็ม Floor และจัดไว้บนชั้นสูงๆคงจะดีกว่านี้ค่ะ เวลาว่ายน้ำและออกกำลังกายจะได้เห็นแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย ลูกบ้านทุกท่านจะได้มีโอกาสเห็นแม่น้ำเหมือนกัน แต่พอจัดเอาไว้ที่ชั้น 8 แล้วความสูงระดับนี้จึงไม่สามารถมองเห็นเจ้าพระยาได้เต็มๆค่ะ
Floor Plan ชั้น 9-33 มีห้องพักอาศัยจำนวน 25 ห้อง โดยห้อง Type A ซึ่งเป็นแบบที่เป็นห้องหน้ากว้างที่สุด จะอยู่ด้านที่เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมดค่ะ
ส่วนห้อง Type C และ B จะอยู่ฝั่งตรงข้ามค่ะไม่ได้รับวิวเจ้าพระยาเหมือน Type A แต่จะได้วิวเมืองแทน สำหรับห้องมุมทั้งหมดของโครงการ คือ ห้อง Type B นะคะ
สระว่างน้ำชั้น 8 ค่ะ มีการเเบ่งสัดส่วนชัดเจนระหว่างสระเด็ก-ผู้ใหญ่ แบบนี้ทำให้ดูเเลความปลอดภัยเด็กง่ายขึ้นค่ะ
ตึกโครงการจะเป็นตึกทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าโดยหันด้านที่แคบที่สุดเข้าหาถนนรัตนาธิเบศร์ โมเดลนี้จะทำให้เห็นได้ชัดค่ะว่ามุมแต่ละมุมจะมีวิวคืออะไร แต่ขอบอกไว้ก่อนนะคะว่า Scale โมเดลที่โครงการทำมาจะไม่ตรงนะคะ คือโครงการจะไม่ได้ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาขนาดนี้ และไม่ได้ใกล้กับทางขึ้นลงรถไฟฟ้าสถานีไทรม้าแบบจ่อหน้าโครงการแบบนี้ค่ะ
โมเดลจำลองโครงการ ทางเข้าด้านหน้าติดกับถนนรัตนาธิเบศร์ชั้น Ground เป็น Lobby ค่ะ จะเห็นว่าพื้นที่จอดรถจะมีไปถึงชั้น 7 เลยค่ะส่วนชั้น 8 คือส่วน Facility
ชั้นดาดฟ้าโครงการเเจ้งว่าจะทำเป็นสวน (แต่ในโมเดลดูแล้วโล้นๆ?) ลูกบ้านสามารถขึ้นมาใช้งานในส่วนนี้ได้ค่ะ สามารถมองวิวเจ้าพระยาได้จากส่วนนี้เลย
ชั้น 8 ที่เป็น Facility ค่ะจากโมเดลจะเห็นเลยว่าส่วน Facility นี้เพดานจะสูงโดยความสูงจะเป็น 2 เท่าของห้องพักอาศัยเพราะกินพื้นที่ของ 2 ชั้นทีเดียวค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ สระผู้ใหญ่ ขนาด 12 x 22 เมตร สระเด็กขนาด 5 x 5 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย
- สวนส่วนกลาง
- ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ลิฟท์ดับเพลิง 1 ตัว คิดเป็นอัตราส่วน 211 ยูนิต ต่อ ลิฟท์โดยสาร 1 ตัว
- Access Card
- ระบบ CCTV และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
- พื้นที่จอดรถชั้น 1-7 รวมจอดได้ 40% (รวมจอดซ้อนคัน)
Product Walkthrough
ห้องแรกที่จะพาไปชมกันก็คือห้อง Type A เป็นห้องแบบหน้ากว้างค่ะ โดยกว้างประมาณ 7.60 เมตร พื้นที่ใช้สอยประมาณ 32 ตร.ม. จากเเปลนจะดูห้องหน้ากว้างมากแต่ห้องจริงอาจดูไม่กว้างเพราะแต่ละส่วนของห้องนั้นเเบ่งสัดส่วนไว้ชัดเจนค่ะ ห้องเลยจะดูเหมือนโดนซอยย่อยๆเป็น 3 ห้องเล็กไป
โดยการจัดวางฟังก์ชั่นการใช้งานแบบนี้ ทำให้ทั้งส่วนนั่งเล่น ห้องนอน และครัวติดกับพื้นที่ด้านนอกทั้งการติดกับระเบียงหรือติดกับหน้าต่าง ทำให้รับลมและระบายอากาศได้ดีค่ะ และห้องนี้ถือว่า Lay out Plan ดีที่สุดใน 3 แบบเลยค่ะอีกทั้งยังเป็นห้องที่รับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ถ้าใครกำลังดูโครงการนี้อยู่เเนะนำว่าห้องนี้น่าจะเป็นตัวเลือกเเรกๆที่หลายคนน่าจะสนใจค่ะ (แต่เเน่นอนว่าห้องนี้ก็เป็นห้องที่ราคาสูงสุดใน 3 แบบนะคะ)
พื้นห้องเป็นเเกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม.
เมื่อเข้าไปในห้องส่วนแรกที่เจอคือพื้นที่ทานอาหารที่จะอยู่ติดกับประตูทางเข้า โดยเป็นพื้นที่เดียวกันกับพื้นที่นั่งเล่นที่อยู่ติดกับหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ค่ะ แต่ถ้าจะให้ดีกระจกน่าจะใหญ่กว่านี้ เป็นแบบพื้นจรดเพดานนะคะ เพราะว่าที่นี่เป็นคอนโดริมน้ำ น่าจะเลือกการออกแบบที่เน้นเรื่องวิวมากกว่านี้หน่อยค่ะ
พื้นที่ทานอาหารสามารถจัดวางโต๊ะสำหรับ 2 ที่นั่งหรือถ้าทำเป็นโต๊ะเเบบพับเผื่อวันไหนมีเเขกมาก็ยังพอทำได้ค่ะ แต่ถ้าทำเป็นโต๊ะสำหรับ4ที่นั่งตลอดจะเกะกะทางเดินค่ะ
พื้นที่นั่งเล่นระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟาถือว่ากำลังดีค่ะ แต่ตำเเหน่งติดตั้งทีวีนั้นคือผนังห้องนอนซึ่งโดนเบียดโดยประตูทำให้ต้องติดตั้งชิดริมผนัง ถ้านั่งทานอาหารแล้วอยากดูทีวีไปด้วยคงไม่สะดวกนักค่ะ
ทางแก้ไม่ยากเนื่องจากระยะโซฟากับทีวีนั้นยังพอมีอยู่ จึงสามารถวางตู้ใต้ทีวีเป็น Sideboard ชิดผนัง และเลือกทีวีประเภทที่หมุนฐานได้ เราก็สามารถหัน TV ได้ตามต้องการแล้วค่ะ
ต่อไปจะพาไปดูห้องครัวกันค่ะ ครัวที่นี่ทำเป็นครัวปิดจะอยู่ถัดกับพื้นที่นั่งเล่น
พื้นเป็นพื้นเเกรนิตโต้่เช่นเดียวกับส่วนนั่งเล่น ประตูเป็นประตูกระจกบานเลื่อนวัสดุทำจากอลูมิเนียมสีธรรมชาติค่ะ
ตรงนี้จะเห็นว่าด้านล่างไม่มีรางทำให้เดินไม่สะดุดนะคะ
ห้องครัวทำเคาน์เตอร์ครัวตามเเนวยาวผนัง เว้นช่องสำหรับวางตู้เย็นเคาน์เตอร์ลายไม้มีตู้เก็บของทั้งบนและล่าง ส่วนนี้ทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้ค่ะ
พื้นที่เคาน์เตอร์ถ้าวางเตาก็ยังพอเหลือพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารค่ะ Top Counter และตู้เก็บของวัสดุเป็น High Pressure Laminate หรือลามิเนตที่เคลือสารป้องกันไฟฟ้าสถิตนั่นเองค่ะ
แต่ครัวที่นี่ไม่มีเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันมาให้นะคะ
พื้นที่วางตู้เย็นค่ะ จัดมาให้พอดีเป๊ะมากใครที่อยากได้ตูเย็นใหญ่กว่านี้คงอดนะคะ แต่ถ้าเทียบกับว่าตู้เย็นตู้นี้สำหรับ 1 ห้องนอน วางขนาดนี้ได้ก็ถือว่าใหญ่แล้วค่ะ
พื้นที่ระหว่างประตูกับเคาน์เตอร์ครัว เดินเข้าออกทำครัวสบายๆค่ะ แต่ไม่กว้างพอที่จะทำเคาน์เตอร์อีกฝั่งนะคะ
ระเบียงห้องนี่จะอยู่ติดกับห้องครัวค่ะ ซึ่งทำให้ห้องครัวสามารถระบายอากาศได้ดี พื้นปูกระเบื้องขนาด 30×30 สีน้ำตาลอ่อน ประตุเป็นประตูกระจกบานเลื่อนค่ะ พื้นระเบียงลดระดับลงไปเล็กน้อย
ระเบียงห้องขนาดประมาณ 1.30 เมตร เป็นตำเเหน่งที่จะว่างเครื่องซักผ้าโดยทางโครงการจะต่อท่อน้ำทิ้งและปลั๊กไปเตรียมไว้ให้ค่ะ
พื้นที่ขนาดนี้จัดว่าใหญ่ เมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียมรุ่นปัจจุบัน ที่จะให้ความกว้างระเบียงมา 60 – 90 เซ็นติเมตรเป็นส่วนใหญ่นะคะ
ต่อไปเราไปดูอีกด้านของห้องกันดีกว่าค่ะ จากภาพนี้จะเห็นมุมทีวีที่บอกไว้ข้างต้นว่าต้องติดตั้งชิดริมผนังชัดเจนขึ้นนะคะ ห้องด้านซ้ายคือห้องนอน ส่วนด้านขวาที่ติดกับประตูทางเข้าคือห้องน้ำค่ะ
พื้นห้องนอนเป็นลามิเนตหนา 8 mm. เข้าไปจะเจอส่วนของโต๊ะเครื่องเเป้งก่อนเลยค่ะ ช่องว่างระหว่างเตียงกับตู้สามารถเดินเข้าไปใช้งานได้ที่ละคนค่ะ ถ้าสองคนพร้อมกันคงไม่สะดวกนัก
เตียงที่เห็นในภาพคือขนาด 5 ฟุตค่ะ แต่ไม่สามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้ ห้องนอนมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ บานล่างเป็นแบบปิดตายส่วนด้านบนเป็นบางกระทุ้งค่ะ
นี่คือฝั่งข้างเตียงค่ะสามารถจัดวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องเเป้งเล็ก ๆ ได้ ใครที่อยากได้ตู้ใหญ่ก็ทำตู้ยาวต่อเนื่องมาเเทนโต๊ะเครื่องเเป้งได้เลยค่ะ
ส่วนสุดท้ายที่จะพามาดูสำหรับห้องนี้คือห้องน้ำค่ะ พื้นส่วนเเห้งปูด้วยกระเบื้องด้านขนาด60×60 ซม.ค่ะ
อ่างล้างหน้าของ Charmer พื้นที่วางของน้อยถ้าใครของเยอะคงต้องทำตู้หรือชั้นวางเพิ่มค่ะ
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard ด้ายซ้ายมือมีช่องว่างอาจทำเป็นชั้นวางของหรือวางต้นไม้ เพราะถ้าให้วางของที่หยิบจับบ่อยจะไม่สะดวกค่ะ
Shower box อยู่ด้านในสุดของห้องน้ำค่ะ พื้นและผนังเป็นกระเบื้องลายไม้ ฉากกั้นเป็นเเบบฝ้ากรอบขาว
ปิดท้ายห้องนี้ด้วยภาพฝักบัวของ Charmer ส่วนเครื่องทำน้ำอุ่นและชั้นวางของต้องติดตั้งเองนะคะ
ห้องต่อไปที่จะพาไปชมกันก็คือห้อง Type B เป็นห้องหน้ากว้างประมาณ 5.20 เมตร พื้นที่ใช้สอยประมาณ 28.0-30.0 ตร.ม. จากเเปลนพื้นที่ใช้สอยส่วนนั่งเล่นและทานอาหารออกจะดูเบียด ๆ กันไปบ้างแต่พื้นที่ครัวมีพื้นที่เพิ่มขึ้นสามารถทำเคาน์เตอร์เพิ่มได้อีกฝั่งค่ะ ห้องน้ำการเข้า-ออกอาจลำบากหน่อยต้องรอดูห้องจริงค่ะว่าพอมีประตูแล้วจะเป็นยังไง ห้องนี้พื้นที่ที่ติดกับภายนอกมีแค่สองส่วนค่ะคือครัวกับห้องนอน แต่ส่วนนั่งเล่นสามารถรับลมได้ถ้าเปิดประตูระเบียงให้ผ่านห้องครัวเข้ามายังส่วนนั่งเล่นได้ค่ะ ห้องนี้ไม่ได้ทำครัวปิดเหมือนType A นะคะแต่ถ้าอยากทำก็สามารถกั้นพื้นที่ได้ค่ะ
ภาพเเรกที่เห็นภายในห้องค่ะ ถ่ายจากประตูห้อง จะเจอส่วนนั่งเล่น ประตูซ้ายมือคือห้องน้ำ ส่วนที่อยู่ติดกับระเบียงคือห้องครัวกับห้องนอนค่ะ พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม.
เข้ามาในห้องด้านนี้เป็นตำเเหน่งที่จะวางทีวี ซี่งอยู่หน้าห้องน้ำค่ะ และจะเห็นว่าพื้นที่วางทีวีชิดไปทางขวา แต่ด้วยเพราะโซฟาอยู่ในตำเเหน่งนี้ด้วยจึงไม่ทำให้เกิดความลำบากในการดูทีวีเหมือนห้อง Type A โต๊ะวางของล่างทีวีอาจต้องเล็กกว่านี้เพราะจะเกะกะทางเข้าออกห้องนอนค่ะ
หันมาดูฝั่งตรงข้ามกันบ้างนะคะ ด้านนี้เป็นพื้นที่นั่งเล่นและทานอาหารค่ะ สามารถวางโซฟาตัวเล็กๆได้เท่านั้น จะภาพจะเห็นว่าทางเดินระหว่างโซฟากับโต๊ะทานอาหารมีน้อยค่ะ ไม่สามารถจัดวางโต๊ะสำหรับ 4 คนได้ค่ะ แต่ห้องนี้ก็ไม่เหมาะกับการอยู่ 4 คนอยู่แล้วนะคะ วางโต๊ะสำหรับ 2 คนสบายๆ ขนาดพอดีดีกว่าค่ะ
โต๊ะทานอาหารจะวางในตำเเหน่งมุมห้องนี้ค่ะ มีพื้นที่เพียงพอจะลุกนั่งสำหรับที่นั่งด้านหลัง
ส่วนนี้คือห้องครัวค่ะ ใครทำอาหารหนักก็กั้นเป็นครัวปิดได้นะคะ พื้นที่ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวสามารถวางตู้เย็นหรือทำเป็นเคาน์เตอร์อีกด้านเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้งานได้ค่ะ
ห้องนี้จุดนี้การวางตู้เย็นไม่ค่อยเหมาะเท่าไร เพราะค่อนข้างเกะกะ ทั้งเวลาเปิดประตูตู้ออกมาและเวลาที่จะเดินไปยังระเบียง
เคาน์เตอร์ครัววางตามเเนวผนัง มีตู้เก็บของทั้งด้านบนและด้านล่างให้ค่ะพร้อมทั้งช่องสำหรับวางไมโครเวฟ Top Counter และตู้เก็บของวัสดุเป็น High Pressure Laminate หรือลามิเนตที่เคลือสารป้องกันไฟฟ้าสถิตนั่นเองค่ะ
ระเบียงห้องอยู่ติดกับห้องครัว จะเห็นว่ามีปลั๊กอยู่ดังนั้นเครื่องซักผ้าจะวางในตำเเหน่งนี้ได้ค่ะ
ห้องต่อไปที่จะพาไปชมคือห้องนอนค่ะ พื้นเป็นลามิเนตหนา 8 มม. จากที่เคยบอกข้างต้นว่าถ้าทำโต๊ะวางของล่างทีวีใหญ่ก็จะล้ำเข้ามาในเเนวประตูแบบนี้คะ
พื้นที่ห้องนอนไม่ใหญ่มากค่ะ แต่พอจะวาง เตียงขนาด 5 ฟุต โต๊ะเครื่องเเป้งและตู้เสื้อผ้าได้ ซึ่งเตียงก็วางเเทบจะชิดริมหน้าต่างซึ่งเเบบนี้เวลาทำความสะอาดหรือปูเตียงจะลำบากหน่อยค่ะ
พื้นที่ข้างเตียงค่ะ อาจทำเป็นโต๊ะเครื่องเเป้งหรือโต๊ะทำงานเล็กๆได้ค่ะ ตู้เสื้อผ้าโครงการไม่ได้จัดเตรียมไว้ให้นะคะ ดังนั้นผนังส่วนนี้จะเป็นช่องลึกเข้าไปให้ลูกบ้านไปต่อเติมเองค่ะ
พื้นที่ท้ายเตียงสามารถติดตั้งทีวีในตำเเหน่งนี้ได้ค่ะ แต่ไม่สามารถมีโต๊ะปลายเตียงได้เพราะพื้นที่เหลือให้พอเเค่เดินเข้าออกค่ะ
พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องด้านขนาด 60×60 ซม.ห้องน้ำห้องนี้ส่วนเเห้งเล็กหน่อยค่ะ จะเข้าจะออกห้องคงต้องหลบเเนวเปิดประตูกันหน่อย
ตำเเหน่งโถสุขภัณฑ์ค่ะ จะเห็นว่าอยู่ในแนวประตูเข้า-ออก ล้ำออกมาที่ขอบประตู แบบนี้เดินระวังๆนะคะ ไม่อย่างนั้นอาจจะสะดุดหกล้ม เป็นอันตรายได้ค่ะ
อ่างล้างหน้าค่ะ วางของได้เล็กน้อยอาจต้องทำชั้นวางของเพิ่ม
Shower box พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องลายไม้ ยกเว้นด้านที่ติดตั้งฝักบัวจะเป็นลายเดียวกับผนังส่วนอื่นๆ ของห้องน้ำค่ะ รายละเอียดสุขภัณฑ์เหมือนกับห้อง Type A นะคะ
ห้องสุดท้ายที่จะพาไปชมกันก็คือห้อง Type C เป็นห้องแบบหน้ากว้างน้อยที่สุดแต่มีความลึกที่สุดในโครงการโดยกว้างประมาณ 3.80 เมตร พื้นที่ใช้สอยประมาณ 28.0-30.0 ตร.ม.
เนื่องจากพื้นที่ห้องนี้หน้าเเคบแต่ลึกจึงทำให้พื้นที่ที่ติดกับภายนอกมีเเค่ส่วนเดียวคือห้องนอนค่ะ แต่ทางโครงการเเก้ปัญหากลัวว่าห้องจะดูอึดอัดโดยการทำผนังส่วนที่ห้องนอนติดกับพื้นที่นั่งเล่นเป็นกระจกบานใหญ่ทำให้ห้องนั่งเล่นจะเป็นวิวจากหน้าต่างห้องนอนค่ะ ห้องครัวเป็นเเบบเปิดถ้าจะทำเป็นเเบบปิดคงยากเพราะจะทำให้ดูอึดอัดและห้องครัวเป็นส่วนแรกที่เข้ามาเจอด้วยค่ะ
พื้นปูเเกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม.ส่วนแรกที่เจอคือครัวและห้องน้ำ ถัดไปจะเห็นพื้นที่นั่งเล่นและทานอาหาร ส่วนสุดท้ายที่เห็นคือห้องนอนค่ะ จากภาพจะเห็นเลยนะคะว่าห้องเป็นแนวยาว มองจากประตูก็เห็นทะลุไปสุดห้องเลยค่ะ
เข้ามาส่วนเเรกด้านซ้ายมือเป็นพื้นที่ครัวค่ะ ตู้เเละเคาน์เตอร์ทางโครงการจัดมาให้ค่ะ พื้นที่วางตู้เย็นจัดมาให้แบบพอดีเป๊ะ ดังนั้นจะเอารุ่นไหนขนาดไหนต้องดูขนาดดี ๆ นะคะ
เคาน์เตอร์ครัวมีพื้นที่น้อย ถ้าวางเตาไปแล้วคงไม่มีพื้นที่เตรียมอาหารถ้าจะเพิ่มเป็นตัว L ติดผนังตำเเหน่ง Sink คงต้องย้ายซึ่งถ้าจะทำต้องคุยกับทางโครงการก่อนห้องเสร็จคะไม่งั้นจะยุกยากทีเดียวค่ะ ส่วนTop Counter และตู้เก็บของวัสดุเป็น High Pressure Laminate เช่นเดียวกับเเบบอื่น ๆ ค่ะ
ฝั่งตรงข้ามครัวจะเป็นห้องน้ำค่ะ
พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องด้านขนาด 60×60ซม. โถสุขภัณฑ์ได้ของ American Standard อุปกรณ์ได้ของ Charmer ค่ะ
ห้องน้ำของ Layout นี้ วางได้ดีกว่าห้อง Type B เยอะค่ะ ดูแล้วขนาดกว้างและเหมาะสม พอดีกับการใช้งาน
อ่างล้างหน้ายาวตามแนวผนังเลยค่ะ พื้นที่วางของเยอะสุดในทุกแบบที่ได้ดูมาเลยค่ะ
Shower box อยู่ด้านตรงข้ามกับอ่างล้างหน้า กระเบื้องเป็นลายไม้เหมือนห้อง 2 แบบที่พาไปชมค่ะ
ส่วนถัดมาคือพื้นที่นั่งเล่นค่ะพื้นที่ทางเดินสะดวก โต๊ะทานอาหารสามารถพับขึ้นมาเป็นโต๊ะสำหรับ 4 ที่นั่งได้ค่ะ
โต๊ะทานอาหารจัดในมุมนี้ได้สบาย ๆ ค่ะ ด้านบนจะทำเป็นชั้นวางของแบบนี้ก็สวยและมีพื้นที่เก็บของเพิ่มได้อีกนะคะ
อีกด้านเป็นพื้นที่นั่งเล่น สามารถวางโซฟาตัวเล็กๆได้ค่ะ ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีมีกำลังพอดีไม่ใกล้ไม่ไกลไปค่ะ
พื้นห้องเป็นลามิเนตหนา 8 mm.ค่ะ
เตียงที่เห็นคือขนาด 5 ฟุต พื้นที่ปลายเตียงจะเห็นว่าไม่เหลือพื้นที่เยอะเหมือนในภาพเเปลนทที่ให้ดูข้างต้นนะคะ มีพื้นที่พอแค่เดินผ่านสะดวกไม่สามารถวางโต๊ะหรือทีวีได้ ข้างเตียงอีกด้านเป็นหน้าต่างกระจกบานใหญ่ค่ะ ห้องนี้คือห้องเดียวที่ติดกับพื้นที่ภายนอกค่ะ
ผนังห้องด้านที่อยู่ติดกับห้องนั่งเล่นทำเป็นกระจกเพราะจะทำให้ห้องดูโปร่งขึ้นค่ะ ถ้าใครต้องการความเป็นส่วนตัวก็ทำม่านกั้นได้ค่ะ และจะเห็นว่าพื้นที่หัวเตียงสามารถทำโต๊ะเล็ก ๆ ได้ค่ะ
ปลายเตียงเป็นตำเเหน่งติดตั้งทีวีและตู้เสื้อผ้าค่ะ ตู้เสื้อผ้าไม่ใหญ่มาก ห้องจริงที่ได้เป็นช่องลึกลงไปให้ลูกบ้านต่อเติมตู้เองนะคะ ส่วนประตูที่เห็นขวามือคือระเบียงห้องค่ะ
ระเบียงเป็นตำเเหน่งวางเครื่องซักผ้า พื้นปูกระเบื้องโทนน้ำตาลอ่อนเหมือนในห้องนอนขนาด 30×30 ซม. ระเบียงห้องตัวอย่างที่ทำไว้จะผิดนิดหน่อยนะคะ คือส่วนระเบียงที่เป็นราวกันตกจะอยู่ฝั่งที่เราเห็นเป็นผนังในภาพนี้ค่ะ ส่วนราวกันตกที่เห็นในภาพห้องจริงจะเป็นผนังค่ะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 22/10/2013
- Type A 1 ห้องนอนขนาด 32.70 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 2.09 ล้านบาท หรือประมาณ 64,000 บาทต่อตารางเมตร
- Type A 1 ห้องนอนขนาด 32.70 ตร.ม. ชั้น 30 ราคา 2.42 ล้านบาท หรือประมาณ 74,000 บาทต่อตารางเมตร
- Type B 1 ห้องนอนขนาด 28.00 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 2.00 ล้านบาท หรือประมาณ 65,600 บาทต่อตารางเมตร
- Type B 1 ห้องนอนขนาด 28.00 ตร.ม. ชั้น 30 ราคา 2.31 ล้านบาท หรือประมาณ 75,600 บาทต่อตารางเมตร
- Type C 1 ห้องนอนขนาด 28.60 ตร.ม. ชั้น 10 ราคา 1.71 ล้านบาท หรือประมาณ 60,700 บาทต่อตารางเมตร
- Type C 1 ห้องนอนขนาด 28.60 ตร.ม. ชั้น 30 ราคา 1.99 ล้านบาท หรือประมาณ 70,700 บาทต่อตารางเมตร
- Fully Fitted ไม่มีเฟอร์ ไม่มีแอร์ มีเฉพาะ Built-in ห้องครัว
- จอง 5,000 บาท
- ทำสัญญา 30,000 บาท
- เงินดาวน์ ประมาณ 10 %ของราคาขาย
- ค่ากองทุน 400 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 40 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน จ่ายล่วงหน้า 1 ปี
เจาะลึกรวบยอด
สำหรับทำเลของโครงการ Rich Park @ Chaophraya นั้นเราต้องมาดูกันที่ 2 ปัจจัยเด่นๆค่ะ ปัจจัยแรกคือระยะห่างจากสถานีรถไฟฟ้าไทรม้า ที่อยู่ประมาณ 200 เมตรจากหน้าโครงการ เดินไปก็พอได้ไม่เหนื่อยนัก แต่ทั้งหมดนี้ก็ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานที่รถไฟฟ้าสายสีม่วงนั้นเปิดใช้บริการแล้วนะคะ
ปัจจัยต่อมาเป็นเรื่องของวิวแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ ซึ่งครึ่งหนึ่งของโครงการนี้ที่หันไปทางทิศตะวันออกจะได้รับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสิ้น หากความสูงเกินสักชั้น 20 ไปแล้วจะเห็นได้ค่อนข้างชัด ซึ่งวิวตรงนี้จัดว่าสวยงามพอตัว ห่างจากแม่น้ำราว 600 เมตร ซึ่งจะเห็นสะพานพระนั่งเกล้าทั้งสองสะพานด้วย เวลาเช้าๆก่อนออกจากบ้านจะได้เช็คได้ด้วยว่าการจราจรขาเข้านั้นรถติดมากน้อยขนาดไหน เสริมอีกเรื่องหนึ่งคือที่ดินผืนใหญ่บริเวณทิศตะวันออกของโครงการนั้นเป็นหมู่บ้านนนท์ณิชาและหมู่บ้านลัดดารมย์ ดังนั้นก็การันตีได้ระดับหนึ่งเลยว่าจะไม่มีการปลูกสร้างตึกสูงบนพื้นที่ขนาดใหญ่ ทำให้การันตีวิวแม่น้ำได้ระดับหนึ่งเลยค่ะ
การวางตัวของตึก Rich Park @ Chaophraya นั้นวางตัวในทิศตะวันออก-ตะวันตก ซึ่งฝั่งตะวันออกเท่านั้นที่จะเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา จัดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของยูนิตทั้งหมด ซึ่งยูนิตทางฝั่งนี้จะได้เป็น Type A เกือบทั้งสิ้น เป็นห้องหน้ากว้าง 7.6 เมตร ที่โดยส่วนตัวนั้นก็คิดว่าเป็นห้องที่มี Layout ดีกว่าห้อง Type B และ Type C ที่อยู่ฝั่งทิศตะวันตกเป็นหลัก ทำให้ห้องนั้นรับแดดบ่ายจากพระอาทิตย์ เย็นๆจะค่อนข้างร้อนกว่าห้องทิศตะวันออกพอสมควร เพราะความร้อนไม่สามารถคายได้ทันค่ะ
โครงการริชปาร์ค แอท เจ้าพระยานี้ติดถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ไม่ได้เข้าซอยใดๆ ถ้าจะเดินข้ามถนนไปอีกฝั่ง สะพานลอยก็อยู่หน้าโครงการเลยค่ะ บนพื้นที่ฝั่งเดียวกับโครงการอาจจะหาของกินยากสักหน่อย แต่ถ้าข้ามไปฝั่งตรงข้ามชุมชนไทรม้านั้นก็จะมีความเป็นชุมชนมากขึ้นสามารถหาของกินได้พอสมควร การเดินทางในปัจจุบันก็ยังคงต้องพึ่งพารถยนต์ส่วนบุคคลเป็นหลัก ก่อนที่รถไฟฟ้าสายสีม่วงจะมาถึง การจราจรก็จะคับคั่งมากเป็นพิเศษ เนื่องจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าและการขยายตัวของเมือง ที่คอนโดมิเนียมนับสิบโครงการมาขึ้นจ่ออยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์เพื่อรอการเปิดใช้รถไฟฟ้า
การเดินทางด้วยรถยนต์จัดว่าสะดวกในช่วงเวลาที่ไม่เร่งด่วน รัตนาธิเบศร์ขาออกสามารถวิ่งลงสะพานแล้วกลับรถไม่ไกลก็ถึงโครงการ แต่เวลาขับรถออกจากโครงการไปขาเข้าเมืองนั้นจะไม่สามารถใช้สะพานพระนั่งเกล้าใหม่ได้ เพราะทางขึ้นค่อนข้างที่จะกระชั้นแต่ก็ยังขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าเก่าถึงเเม้จะข้ามได้สั้นกว่าและต้องไปติดไฟแดงที่สี่แยกสนามบินน้ำก็ตาม พอข้ามไปแล้วก็มีทางด่วนให้ใช้ที่ถนนงามวงศ์วาน แต่สำหรับปัจจุบันนั้นการจราจรจัดว่าสาหัสจนกว่ารถไฟฟ้าจะเปิดใช้บริการนะคะ ซึ่งที่นี่มีที่จอดรถให้ประมาณ 40% หากเทียบเป็นสัดส่วนแล้วอาจจะไม่ค่อยเพียงพอ แต่ด้วยทำเลของโครงการที่อยู่ห่างจากรถไฟฟ้าไม่มาก ก็อาจจะทำให้ปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอนั้นบรรเทาลงได้บ้างค่ะ
ปัจจุบันหากจะไปห้างสรรพสินค้าต่างๆต้องพึ่งรถยนต์เป็นหลัก เพราะ Central, Big C, Lotus และ Esplanade ต่างอยู่ไกลเกินระยะเดิน แต่ในอนาคตถ้าระบบรางเชื่อมต่อห้างสรรพสินค้าเหล่านี้เข้าด้วยกัน การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ก็จะสะดวกขึ้นมาก และเนื่องจากร้านค้ามีน้อยทางโครงการก็จัดยูนิตชั้น Ground ให้ 2 ยูนิตเพื่อเป็นร้านค้าค่ะ
การออกแบบนั้นบอกได้เลยว่า Type A ทำออกมาได้ดีกว่าเพื่อน เพราะเป็นห้องหน้ากว้าง ส่วน Type B และ C นั้นก็ดีลดน้อยลงกันไปตามระดับ ห้องที่เราไม่ชอบคือห้อง Type C เนื่องจากเป็นห้องหน้าแคบ ที่มีระเบียงวางอยู่ปลายเตียง จัดว่าด้อยที่สุดใน 3 แบบ ซึ่งทุกห้องของโครงการนี้จัดทำออกมาเป็นแบบ 1 Bedroom ขนาด 28 – 32 ตารางเมตรทั้งสิ้น ไม่มีห้อง 2 Bedrooms หรือห้อง 1 Bedroom ขนาดใหญ่อยู่เลย ดังนั้นถ้าใครต้องการห้องใหญ่ โครงการ Rich Park @ เจ้าพระยาก็คงจะไม่ใช่คำตอบนะคะ
วัสดุต่างๆจัดให้มามาตรฐานเหมือนๆกันหมด คือพื้นใช้แกรนิตโต้ 60 x 60 เซ็นติเมตร, พื้นห้องนอนใช้ลามิเนตหนา 8 มม. , บานกระจกต่างๆใช้เฟรมอลูมิเนียมสีธรรมชาติ แต่กระจกที่ให้มายังเป็นบานเล็กที่มีเฟรมคั่นกลางหลายจุด อาจจะทำให้มองวิวได้ไม่เต็มตาเท่าไรนัก สุขภัณฑ์ในห้องน้ำทำออกมาได้โอเคด้วยของ American Standard มีการปูพื้นและผนังห้องอาบน้ำด้วยกระเบื้องลายไม้พร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกรอบสีขาวมาให้ และมีการใช้ชุดครัวท๊อปลามิเนตนะคะ แต่วัสดุบางอย่างก็ยังขาดไปค่ะ คือห้องนี้จะไม่มีแอร์มาให้ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใดๆ ยกเว้นแต่ชุดครัวเท่านั้น และไม่มีเตาไฟฟ้ากับเครื่องดูดควันด้วยค่ะ
อัตราความหนาแน่นของ ริชปาร์ค @ เจ้าพระยา นั้นก็จัดว่าหนาแน่นพอสมควร มีห้องชุดรวมกัน 633 ห้องพัก และ 2 ร้านค้า โดยมีความสูงรวมทั้งสิ้น 33 ชั้น แต่ละชั้นมียูนิตห้องพักสูงสุดที่ 25 ยูนิตต่อชั้น และอัตราส่วนความหนาแน่นของลิฟท์อยู่ที่ 211 ห้องพักต่อลิฟท์โดยสาร 1 ตัว ก็ค่อนข้างแน่นเหมือนกันนะคะ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการให้มาเกือบเต็ม 1 ชั้น สระว่ายน้ำขนาดความยาว 22 เมตร แยกสระเด็กเพิ่มอีก 5 x 5 เมตร ต่างหาก จัดให้มาพอดีเลยคะ ห้อง Fitness ได้ขนาดกำลังพอเหมาะ และสวนบนดาดฟ้าสามารถขึ้นไปใช้ได้ แต่คงต้องรอดูอีกทีนะคะว่าสวนบนดาดฟ้านี่มากน้อยแค่ไหนเพราะจากแบบจำลองโครงการปลูกเพียงไม่กี่ต้นและปลูกแค่มุม ๆ รอบ ๆ ตึกค่ะ หากห้องไหนต้องการชมวิวยังเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาจากชั้นสูงๆก็ต้องขึ้นมาดูกันที่ดาดฟ้านี่แหละค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 65,000 บาทต่อตารางเมตร, 22/10/2013
- ทำเล – 8.25/10 ติดถนนใหญ่ตำเเหน่งที่ตั้งเข้า-ออกสะดวก ชุมชนรอบข้างส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้าน ใกล้สถานีรถไฟฟ้า มองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาชัดเจน
- เดินทางด้วยรถ – 7/10 เดินทางด้วยรถยนต์ถือว่าเข้าถึงง่ายเพราะติดถนนใหญ่ไม่ต้องเข้าซอย แต่ที่จอดรถมีให้ไม่มาก อยู่ที่ 40%
- ไม่ใช้รถ – 7/10 เนื่องจากเป็นทำเลที่สิ่งอำนวยความสะดวกน้อยจะไปไหนก็ต้องใช้รถ แต่มีอีกหลายทางเลือกที่จะเข้าถึงโครงการทั้งรถตู้ รถโดยสารประจำทาง ถ้ารถไฟฟ้าสร้างเสร็จก็จะสะดวกขึ้นค่ะ
- ไม่ใช้รถ (เมื่อรถไฟฟ้าสร้างเสร็จ) – 8.5/10 เดินไปรถไฟฟ้าสบายๆ 200 เมตร
- วัสดุ – 7/10 ให้มาน้อยไปนิดหนึ่ง ราคานี้น่าจะมีแอร์ให้ด้วยนะคะ
- แบบ – 7.5/10 ผังห้องทำออกมาค่อนข้างลงตัว ตัวตึกหนาแน่นไปหน่อย แต่ก็มีทั้งแบบที่ดีและเเบบที่ดูอึดอัดไปบ้าง (ถ้าเทียบระหว่าง Type A กับ Type C จะเห็นชัดเจนค่ะ)
- สาธารณูปโภค – 8/10 ที่ชั้นส่วนกลางจัดมาค่อนข้างโอเคค่ะ มีสวนชั้นดาดฟ้าให้ชมวิวแม่น้ำ
- MAIN CLASS
- 7.59 / 10.00 (ขณะรถไฟฟ้าก่อสร้าง)
- 7.81 / 10.00 (เมื่อรถไฟฟ้าสร้างเสร็จ)
BOTTOM LINE
Rich Park @ เจ้าพระยา เป็นคอนโดสำหรับคนที่ยังโสดหรือผู้พักอาศัยไม่เกิน 2 คน เลือกห้องขนาดไม่เกิน 32 ตารางเมตร ได้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลบ้างและหวังพึ่งพาอาศัยรถไฟฟ้าในอนาคตอันใกล้นี้ โดยมีจุดเด่นเป็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและระยะทางที่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า แต่ก็ต้องแลกมาด้วยทำเลนอกเมืองออกมาหน่อยที่จะต้องข้ามแม่น้ำก่อนที่จะถึงโครงการ
ชอบกด LIKE ใช่กด SHARE กันด้วยนะค่ะ ขอบคุณทุกเสียงและการสนับสนุนค่ะ