รีวิวฉบับที่ 937 … สวัสดีครับวันนี้ผมจะพาไปชมโครงการที่ชื่อว่า Pruksa Ville 55/2 วงแหวน-รามอินทรา โครงการอยู่ไม่ไกลจากวงแหวนรามอินทรามากตามชื่อโครงการ ซึ่งตั้งอยู่ถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง ซึ่งเป็นถนนที่ลัดเลาะเชื่อมต่อกับถนนและซอยหลักๆในละแวกนั้นได้หลายทาง อาทิเช่น ปัญญาอินทรา พระยาสุเรนทร์ หทัยราษฎร์ รามอินทรา เลียบคลองสอง และซอยเจริญพัฒนา ถือว่าสะดวกระดับนึงเลย ตัวโครงการเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตรทั้งสองแบบ ต่างกันแค่ความลึกเท่านั้น เนื้อที่ดินมาตรฐานประมาณ 17.5 – 18.7 ตารางวา ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.799 ล้านบาท เราไปดูหน้าตาโครงการกันดีกว่า ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
Fact @ 29 September 2015
- Pruksa Ville 55/2 วงแหวน-รามอินทรา (พฤกษา วิลล์ 55/2 วงแหวน-รามอินทรา)
- บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
- ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต คลองสามวา
- เนื้อที่โครงการ 18-1-76.8 ไร่ จำนวน 353 ยูนิต
- Type 1 ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ลึก 7.0 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
- Type 2 ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ลึก 7.8 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
- เพดานชั้น 1 สูง 2.65 เมตร, ชั้น 2 สูง 2.75 เมตร
- ราคาเริ่มต้น 1.799 ล้านบาทหรือ 102,800 บาท/ตร.วา
- โครงการเริ่มก่อสร้าง ต้นปี 2558 ปัจจุบัน เฟส 1 สร้างเสร็จแล้ว เฟส 2 อยู่ระหว่างก่อสร้าง(ยังไม่เปิดขาย)
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 1739
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ
พิกัด : 13.845692, 100.708591
แผนที่จากทางโครงการ ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง ที่สามารถเชื่อมไปออกถนนหลักอย่างหทัยราษฎร์ ถนนพระยาสุเรนทร์(รามอินทรา 109) ถนนเลียบคลองสอง ถนนปัญญาอินทรา และวงแหวนรามอินทรา อีกทั้งแสดงถึงห้างสำคัญในละแวกรอบๆ รวมถึงโรงพยาบาล และสถานศึกษาเอาไว้ด้วย ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูบริเวณถนนหลักอย่างรามอินทรา สถานีที่ใกล้สุดจะอยู่แถวแยกเมืองมีน แต่โครงการก็ไม่ได้อยู่ใกล้กับสถานีในระยะที่ใช้สะดวกมากเท่าไร
โครงการ Pruksa Ville 55/2 วงแหวน-รามอินทรา ตั้งอยู่ถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง ซึ่งเป็นถนนที่ลัดเลาะเชื่อมต่อกับถนนและซอยหลักๆในละแวกนั้นได้หลายทาง อาทิเช่น ปัญญาอินทรา พระยาสุเรนทร์ หทัยราษฎร์ รามอินทรา เลียบคลองสอง และซอยเจริญพัฒนา ซึ่งบริเวณย่านนี้จะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ตอนบนฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร โครงการส่วนใหญ่ในย่านนี้จะเป็นแนวราบ ทั้งหมู่บ้านเดี่ยวจัดสรร ไม่จัดสรร และทาวน์เฮ้าส์ เพราะยังมีเนื้อที่ดินที่ยังพอพัฒนาให้สร้างได้อยู่เรื่อยๆ
พึ่งจะมีการปลูกสร้างคอนโดมิเนียมไม่นานมานี้ โดยจะอยู่ตามเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพู(ติดถนนรามอินทรา) มีสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันตั้งแต่โรงพยาบาล ห้างร้านต่างๆ รวมไปถึงไปจุดที่สามารถเดินทางได้สะดวก แต่ปริมาณรถจะมากนิดนึง โดยทางเหนือขึ้นไปจะเป็นย่านรังสิต-ลำลูกกาที่จะออกนอกเมืองไปยังปทุมธานี และทิศใต้ติดกับพื้นที่รามคำแหงที่เป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่
แต่การเดินทางจะไปไหนมาไหนเนี่ย ถ้านับจะเข้าออกโครงการนี่คงต้องเน้นรถส่วนบุคคลเป็นหลักนะครับ เพราะอยู่ซอยย่อยด้วย แบบนี้การจะเรียกพี่วิน หรือ Taxi จากหน้าโครงการไม่ได้ ถึงแม้จะแค่ออกมาช้อปนิดๆหน่อยแถวตลาดชุมชนเคหะ, 7-11, BigC Mini, Lotus Express บนถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง ก็ประมาณ 700 เมตรได้นะ
การเดินทางมาโครงการทำได้หลายเส้นทาง ดังนี้
- จากถนนรามอินทรา (ขาออกเมือง) วิ่งตรงมาจนถึงรามอินทรา 109 (ถ.พระยาสุเรนทร์)แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอย วิ่งตรงไปจนถึงสี่แยกไฟแดงแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง วิ่งต่อจนถึงซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 13 ทางซ้ายแล้วเข้าซอยประมาณ 360 เมตร จะพบโครงการ
- จากถนนรามอินทรา (ขาออกเมือง) หากเลยซอยรามอินทรา 109 แล้ว วิ่งต่อจนถึงสี่แยกมีนบุรี แล้วเลี้ยวซ้าย จนถึง ถนนหทัยราษฎร์ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอย วิ่งต่อไปจนถึง สามแยกที่จะลัดเข้า ถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง แล้วเลี้ยวซ้าย จนเจอซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 13 แล้วเข้าซอยประมาณ 360 เมตร จะพบโครงการ
- จากถนนเสรีไทย วิ่งมาจนถึงสี่แยกมีนบุรี แล้วตรงไปทางมีนบุรี จนถึง ถนนหทัยราษฎร์ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอย วิ่งต่อไปจนถึง สามแยกที่จะลัดเข้า ถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง แล้วเลี้ยวซ้าย จนเจอซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง13 แล้วเข้าซอยประมาณ 360 เมตร จะพบโครงการ
- จากถนนนวมินทร์ วิ่งหน้าสู่ถนนรามอินทรา แล้วเลี้ยวขวา ตามถนนรามอินทรา จนถึงซอยรามอินทรา 109 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอย (ถนนพระยาสุเรนทร์) จนถึงสี่แยกไฟแดงแล้วเลี้ยวขวาสู่ ถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง วิ่งต่อจนถึงซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 13 แล้วเข้าซอยประมาณ 360 เมตร จะพบโครงการ
- จากถนนเลียบคลองสอง/คู้บอน วิ่งผ่าน ถนนพระยาสุเรนทร์ หรือ ถนนปัญญารามอินทรา จนถึงถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง วิ่งต่อจนถึงซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 13 แล้วเข้าซอยประมาณ 360 เมตร จะพบโครงการ
ในย่านมีนบุรีนี้ ถึงแม้จะเป็นย่านชานเมืองแต่ในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างครบครันทีเดียวสมเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่อยู่กันมานานแล้ว การจับจ่ายซื้อกับข้าวก็สะดวกเพราะบนถนนสุเหร่าคลองหนึ่งนั้นมีตลาดเล็กๆ 2-3 จุด ที่ใหญ่หน่อยคือตลาดชุมชนเคหะที่ตอนเย็นคนจะเยอะมากๆ และบนเส้นนี้ยังเต็มไปด้วยมินิมาร์ททั้งหลายอาทิเช่น 7-11, BigC Mini, Lotus Express ถ้าอยากไป Community Mall ขยับขึ้นมาหน่อยก็แค่มาบนถนนพระยาสุเรนทร์ (ซ.รามอินทรา 109) จะมี The Compound และ Tesco Lotus@ตลาด ถ้าอยากไปห้างใหญ่ขึ้นไปอีกก็ง่ายเลย วิ่งเส้นปัญญาอินทราไปทางวงแหวนรามอินทรา จะมี Fashion Island และ The Promenade และ Amorini ตรงแยกสวนสยาม ส่วนโรงพยาบาลจะมีโรงพยาบาลนพรัตนราชธานีตรงแยกตัดกับถนนสวนสยาม และโรงพยาบาลเสรีรักษ์ที่อยู่บนถนนเสรีไทยครับ
ส่วนทางขึ้น-ลงทางด่วนที่ใกล้ที่สุด คือ แยกรามอินทรา-กาญจนาฯ(วงแหวนรามอินทรา) หรือถนนกาญจนาภิเษก ชื่อเต็มๆเลยคือ ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ผมทำแผนที่ประกอบแสดงจุดขึ้นและลงทางด่วนไว้ให้ดูแล้วประมาณนี้ ซึ่งถ้าขึ้นเหนือสามารถไปถึงปทุมธานี อยุธยา หรือว่าจะเข้าเมืองด้วยการลงใต้ไปยังถนนพระรามเก้า วงแหวนตะวันออก และไปถึงสมุทรปราการได้เลย
การเดินทางในวันนี้ผมใช้ถนนเส้นหลักอย่างรามอินทรา มาจากทางวัชรพล ตรงอย่างเดียว ลอดใต้ทางด่วนวงแหวนรามอินทรา หลังจากนั้นจุดสังเกตคือ Makro ฝั่งตรงข้ามให้ชิดซ้าย แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนพระยาสุเรนท์ ตรงไปประมาณ 3 กิโลเมตร จะเจอกับแยกไฟแดง ให้เราเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง ตรงไปอีกประมาณ 1.3 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 13 เข้าไปประมาณ 360 เมตรก็จะถึงโครงการ
เริ่มจากถนนรามอินทราผมมาจากวัชรพลมุ่งหน้าไปมีนบุรี ข้างหน้าจะเป็นแยกรามอินทรา-กาญจนาฯ(วงแหวนรามอินทรา) ให้เราชิดเลนขวาไว้
มุ่งหน้าตรงลอดใต้วงแหวนรามอินทราเลยครับ
พอพ้นวงแหวนมาแล้วซ้ายมือจะเป็นห้าง Fashion Island ห้างช้อปปิ้งมอลล์ที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณละแวกนี้ ซึ่งคนแถวนี้คงจะมาพึ่งพิงกันแน่นอน
พอพ้นห้าง fashion island มาปุ๊ปจะเจอกับศูนย์ Toyota Sure ให้เราเบี่ยงไปเลนซ้ายนะครับ เพราะถ้าอยู่เลนขวาจะเป็นที่กลับรถ
บริเวณนี้จะเป็นสามแยกรพ.นพรัตนราชธานี ซึ่งถ้าเลี้ยวขวาจะไปสวนสยามได้นะครับ
เห็น Makro อยู่ฝั่งตรงข้ามเป็นจุดสังเกต
หลังจากนั้นจะเจอป้ายสะพานข้ามคลองบางชัน ให้เราเตรียมชิดเลนซ้ายสุดเอาไว้เลย
เจอป้ายบอกทางเลี้ยวซ้ายถนนพระยาสุเรนทร์
เข้ามาสู่ถนนพระนาสุเรนทร์แล้ว สภาพแวดล้อมช่วงต้นๆ เป็นถนน 4 เลน มีบ้านพักอาศัย ร้านอาหารตามริมทาง และ hyper market ให้เห็นอยู่เรื่อยๆ
พอตรงมาอีกหน่อยถนนจะเริ่มมีเกาะกลาง มีการปลูกสวนและต้นไม้อยู่ด้วย
หลังจากเข้ามาประมาณ 1 กิโลเมตร จะเจอกับ Community Mall เล็กๆ อย่าง The Compound มีทั้งร้านอาหาร ร้านนวด และธนาคารให้ใช้บริการ
ตรงมาอีกหน่อยซ้ายมือจะเจอกับตลาดใหม่พระยาสุเรนทร์
และก็เจอกับ Tesco Lotus @ตลาด สาขารามอินทรา 109 เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตให้ช้อปของสดได้ด้วย
หลังจากเข้ามาจากถนนรามอินทราประมาณ 3 กิโลเมตรแล้วจะเจอกับแยกไฟแดง ให้เราเตรียมเลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่ถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง จุดสังเกตคือหัวมุมเป็นโชว์รูมฮอนด้า
จากแผนที่จะเห็นว่าถนนสุเหร่าคลองหนึ่งนี่จะสามารถไปทะลุถึงถนนหลักอย่างหทัยราษฎร์ได้เลยนะครับ และเชื่อมต่อกับซอยเจริญพัฒนาที่ไปออกซอยรามอินทรา 127 (แยกเมืองมีน)ได้ด้วย
พอเลี้ยวขวามาแล้ว จะเจอทางเหมือนให้เลือกได้ 2 เลนแบบนี้ ให้เราอยู่ทางขวาเอาไว้นะครับ ทางซ้ายจะเป็นถนนปัญญาอินทราจะไปโผล่โน้น ซาฟารีเวิร์ล
เข้ามาสู่ถนนสุเหร่าคลองหนึ่งแล้ว สภาพทางเป็นถนนคอนกรีต 2 เลน มีสภาพแวดล้อมเป็นชุมชนอยู่อาศัยเสียส่วนใหญ่ ที่ขยายตัวออกมาจากเส้นพระยาสุเรนทร์และเส้นหทัยราษฎร์ ถือเป็นถนนรองที่ไม่ได้เงียบเหงานะ มีตึกแถวร้านค้าและมินิมาร์ทให้เห็นตลอดทางอยู่
หลังจากนั้นจะเห็นตลาดชุมชนเคหะ ที่เป็นเต้นท์เพิงร้านค้าชั้นเดียวเต็มไปหมด ตอนเย็นๆคนจะเยอะมากๆ
เลยตลาดชุมชนเคหะมาหน่อยจะเจอ Minimart ทั้งสามเจ้าอยู่ใกล้ๆกัน ช่วงเย็นแถวนี้คึกคักน่าดูถึงมาเปิดแข่งกันขนาดนี้
หลังจากที่ตรงมาประมาณ 1.3 กิโลเมตรแล้วจะเจอกับป้ายบอกซอยสุเหร่าคลองหนึ่งซอย 13 ให้เราเลี้ยวซ้ายเลย
สภาพแวดล้อมช่วงแรกๆเป็นบ้านพักอาศัยทั่วไป ถนนเป็น 2 เลนแต่แคบนิดนึง
หลังจากนั้นตรงมาประมาณ 300 เมตร จะเจอกับทางเบี่ยงโค้งแบบนี้
และก็ข้ามสะพานข้ามคลองที่โครงการทำถนนลาดยางไว้ให้
คลองที่ข้ามความกว้างประมาณนี้ และมีถนนเลียบคลองอยู่ขนานกัน
หลังจากนั้นตรงเข้ามาก็จะเจอกับซุ้มทางเข้าของพฤกษาวิลล์ มีสองโครงการ ก็ถึงแล้วครับ
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ
ตัวที่ดินโครงการมีลักษณะรูปแปลงเป็นเส้นตรงยาว มาดูสภาพแวดล้อมที่ติดกับโครงการกันบ้างนะครับ เริ่มจากทิศใต้ด้านหน้าซุ้มทางเข้าโครงการ เป็นบ้านบุคคลอื่นทั่วไปสูง 1-2 ชั้น และมีคลองหนึ่งความกว้างประมาณ 10 เมตรอยู่ ติดกันทิศตะวันตกทั้งหมดเป็นโครงการรุ่นพี่บ้านเดี่ยว 2 ชั้นคือสราญสิริ ส่วนทางทิศเหนือระยะประชิดจะติดกับคลองเช่นกันข้ามคลองไปเป็นสราญสิริเหมือนกัน สุดท้ายทางทิศตะวันออกทั้งหมดจะติดกับโครงการพี่น้องของเราเอง พฤกษาวิลล์ 55/1 เป็น ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นเช่นเดียวกัน
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- 7-11, BigC Mini, Lotus Express ประมาณ 750 เมตร
- ตลาดใหม่กีบหมู, ตลาดชุมชนเคหะ ประมาณ 900 เมตร
- Tesco Lotus@ตลาด ประมาณ 2.2 กิโลเมตร
- The Compound ประมาณ 3.2 กิโลเมตร
- Max Value ประมาณ 4 กิโลเมตร
- Big C Market ประมาณ 4 กิโลเมตร
- The Promenade ประมาณ 4.4 กิโลเมตร
- Fashion Island ประมาณ 4.7 กิโลเมตร
- ตลาดมีนบุรี ประมาณ 4.8 กิโลเมตร
- ซาฟารีเวิร์ล ประมาณ 5 กิโลเมตร
- Makro ประมาณ 5.9 กิโลเมตร
- Amorini ประมาณ 7.5 กิโลเมตร
- สวนสยาม ประมาณ 8.4 กิโลเมตร
โครงการ Pruksa Ville 55/2 วงแหวน-รามอินทรา มีเนื้อที่โครงการ 18-1-76.8 ไร่ จำนวน 353 ยูนิต เริ่มก่อสร้างเฟส 1 ไปตอนต้นปี 2558 ปัจจุบันสร้างเสร็จแล้ว ส่วนพื้นที่เฟส 2 ยังไม่เปิดขาย คาดว่าจะเสร็จทั้งหมดประมาณ ต้นปี 2559 ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นแบบไม้กระดก โดยเปิด-ปิดได้จาก Key Card Access ระยะใกล้ จะมีรปภ.รักษาความปลอดภัยจุดนี้ 24 ชม. และ มีติดตั้ง CCTV บริเวณซุ้มทางเข้าออกด้วย
เมื่อผ่านซุ้มโครงการเข้ามาถึงจะเป็นถนนหลักของโครงการที่มีความกว้าง 16 เมตร พอตรงเข้ามาหน่อยถนนหลักจะลดลงเหลือ 12 เมตร ส่วนถนนซอยกว้าง 9 เมตร โครงการไม่ได้มี Club House ห้อง Fitness หรือสระว่ายน้ำ แต่สวนหย่อมขนาดเนื้อที่ประมาณ 382 ตร.วา อยู่ด้านหน้าโครงการ ฝั่งตรงข้ามสวนเป็น Sale Office ที่อนาคตจะเป็นอาคารของนิติบุคคล รั้วกำแพงของโครงการเป็นคสล.ทึบสูง 2 เมตร แต่ช่วงบริเวณแถวด้านหน้าโครงการรั้วจะสูง 3 เมตร โดยขนาดที่ดินแปลงมาตรฐาน Type 1 คือ 17.5 ตารางวา และแบบ Type 2 แปลงมาตรฐานคือ 18.7 ตารางวา
ทางเข้าโครงการตกแต่งด้วยโทนสีเทาเข้มและอ่อน ทำให้ดูตัดกับสีเขียวของต้นไม้ที่ปลูกรอบๆ พื้นส่วนด้านหน้าทางเข้าจะทำเป็นคอนกรีตพิมพ์ลายเอาไว้
ด้านซ้ายและขวาจะมีป้าย Sinage โครงการเห็นเด่นชัดทั้งสองข้าง
ลูกบ้านจะผ่านทางเข้า-ออกโดยใช้ Access Card แบบระยะใกล้ คือเปิดกระจกรถ ยื่นบัตรแตะ ผ่านรั้วไม้กระดก โดยมีกล้อง CCTV ส่องหน้าคนขับและส่องป้ายทะเบียนอยู่บริเวณนี้ด้วย
ส่วนถ้าเป็นผู้มาติดต่อจะต้องแลกบัตรกับพี่ รปภ.ก่อน จะประจำอยู่ที่ซุ้ม 2 คนตลอด 24 ชม.
ด้านข้างเป็นฟุตบาททางเท้าสำหรับเดินเข้าออก
พอเข้ามาแล้วถนนหลักของโครงการจะกว้าง 16 เมตร(รวมฟุตบาท) ทางขวามือที่เห็นคือ Sale Office ส่วนทางซ้ายมือเป็นสวนหย่อมภายในโครงการ
หน้าตา Sale Office ดูดีนะครับ ตกแต่งด้วยน้ำพุเล็ก อนาคตส่วนนี้จะเป็นพื้นที่นิติบุคคลนะ
ด้านข้างจะมีพื้นที่นั่งเล่น 2-3 จุดให้ด้วย
เข้ามาดูภายในซักหน่อยครับปัจจุบันหน้าตาเป็นเช่นนี้ มีเคาน์เตอร์อยู่ใจกลางห้อง
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นสวนหย่อมที่อยู่ด้านหน้าโครงการ มีเนื้อที่ทั้งหมด 382 ตารางวา
ภายในสวนปูทางเดินคอนกรีตไว้ให้เดินเล่นวนเป็นรอบๆได้ ส่วนรั้วกำแพงของโครงการบริเวณด้านหน้าโครงการจะสูง 3 เมตร(รวมเหล็กแหลม) และปลูกต้นไม้บังเอาไว้เพิ่มสีเขียวให้แก่สายตา
ตามใต้ต้นไม้ใหญ่ ก็จะก่อฐานรอบๆเป็นเก้าอี้คอนกรีตแบบนี้ให้นั่งพักผ่อนใต้ต้นไม้ได้ แต่กว่าจะร่มรื่นคงต้องรอต้นไม้โตออกใบอีกหน่อย
จะสังเกตเห็นว่ามีไฟส่องสว่างตามทางเดินให้กระจายตามจุดภายในสวน
พอเริ่มเห็นบ้านแล้วจะแอบสังเกตว่ายังเห็นสีเขียวของต้นไม้อยู่กลางถนนเมนด้วย
ริมรั้วแปลงมุมที่ติดถนนเมนโครงการจะปลูกต้นไม้ใหญ่ และ แนวพุ่มไม้บังรั้วบ้านให้ด้วย ใครเลือกซื้อตำแหน่งแปลงนี้ก็จะได้เห็นสีเขียวจากในบ้านเลยนะครับ แต่ว่าราคาก็ย่อมสูงเพราะเป็นแปลงที่ขายพร้อมเนื้อที่ดินด้านข้าง
ถนนซอยภายในจะกว้างประมาณ 9 เมตรครับ และเห็นรั้วกำแพงคอนกรีตของโครงการ(ใจกลางรูป) สูงประมาณ 2 เมตร หน้าบ้านทุกหลังโครงการจะมีถังขยะเอาไว้ให้ด้วยนะ
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สวนหย่อมด้านหน้าทางเข้าโครงการ เนื้อที่ประมาณ 382 ตารางวา
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- รั้วรอบโครงการสูง 2 เมตร , บริเวณด้านใกล้ทางเข้าโครงการสูง 3 เมตร
- Key Card Access ระยะใกล้
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ถนนหลักกว้าง 16 ม. และลดลงมาเหลือกว้าง 12 ม.(ช่วงกลางโครงการ) ถนนซอยกว้าง 9 ม.
โครงสร้าง
บ้านตัวอย่างที่ผมจะพาไปดูคือแบบ Type 2 ซึ่งจะพาไปดูแค่แบบนี้แบบเดียวเท่านั้น เพราะความแตกต่างระหว่าง Type 2 และ 1 คือ ความลึกของตัวบ้านทั้งคู่หน้ากว้างเท่ากันคือ 5.7 เมตร แบบ Type 2 ลึก 7.8 เมตร ส่วน Type 1 ลึก 7.0 เมตร และการจัดฟังก์ชั่นห้องในบ้านเหมือนกันเลยครับ
ตัวบ้านเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดิน 18.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยประมาณ 110 ตร.ม. แบบ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 ห้องครัว โดยเข้ามาในบ้านจะเจอพื้นที่ลานจอดรถขนาด 1 คัน ด้านข้างที่จอดรถจัดเป็นพื้นที่สวนเล็กๆได้ หรือจะปรับพื้นที่ไปใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์วางที่นั่งซักชุด 2 ชุดก็ได้ เข้ามาภายในตัวบ้านจะเจอกับห้องรับแขก ต่อเนื่องกับห้องรับประทานอาหารที่มีประตูเปิดออกไปสู่หลังบ้านเป็นที่สามารถจัดสวนหรือเป็นพื้นที่ซักล้างได้ ห้องน้ำที่มีส่วนอาบน้ำอยู่ด้วย แต่ไม่ได้แยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้เวลาอาบน้ำเลยจะเลอะหน่อย ส่วนห้องครัวจัดพื้นที่มาเป็นครัวเปิด ซึ่งเราสามารถทำประตูกั้นเป็นครัวปิดได้ เวลาประกอบอาหารกลิ่นจะได้ไม่ลอยฟุ้งไปทั่วบ้าน
ขึ้นไปที่ชั้น 2 บ้าน Type นี้จะแบ่งออกเป็น 3 ห้องนอน โดยแบ่งเป็น Master Bedroom 1 ห้อง ขนาดค่อนข้างใหญ่สามารถจัดพื้นที่ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Walk -in Closet หรือเป็นพื้นที่นั่งทำงานได้ ส่วนห้องนอนขนาดกลาง และขนาดเล็ก ขนาดก็จะลดลงมา ทั้ง 3 ห้องนอนใช้ห้องน้ำร่วมกันที่โถงทางเดินด้านนอก ในชั่วโมงเร่งด่วนสามารถลงไปใช้ห้องน้ำและอาบน้ำชั้นล่างได้ อ้อ บ้านที่ได้นั้นเป็นบ้านเปล่านะ จะมีรูปเปรียบเทียบให้ดูนะครับ
หน้าตาบ้านตัวอย่าง Type 2 ด้านหน้าตาดีไซน์โมเดิร์น ใช้โทนสีเทาเข้มอ่อนสลับตัดกัน มีการตกแต่งอาคารด้วยระแนงเพื่อพราง Compressor แอร์
ตัวบ้านของจริงจะมีรั้วเหล็กโปร่งสีดำ สูง 1.5 เมตร เป็นประตูบานเลื่อนให้
จะเห็นว่าพื้นที่ตัวบ้านจะยกสูงกว่าพื้นถนนโครงการประมาณ 50 ซม. และถ้าใครเลือกเป็นแปลงมุม ติดถนนเมนโครงการ จะมีเนื้อที่ดินด้านข้างแบบนี้
ด้านหน้าบ้านจะติดทะเบียนบ้านมีสัญลักษณ์โครงการไว้ด้วย พร้อมกับกริ่งกด และไฟส่องสว่างด้านหน้าบ้าน
รั้วบ้านเป็นแบบเหล็กโปร่งพ่นสีดำรางเลื่อน ผมลองเลื่อนเปิดปิดให้ดูครับ จะเห็นส่วนพื้นที่จอดรถเป็นคสล.พื้นสโลปมาทางหน้าบ้านนิดหน่อย
พื้นที่จอดรถกว้าง 2.7 เมตร สามารถจอดรถได้ 1 คัน ขวาบนจะเห็นหน้าต่างช่องแสงบาน Fix ตำแหน่งอยู่บริเวณบันไดทางขึ้นชั้นบน และทางซ้ายมีช่องเก็บของจิปาถะเอาไว้ให้ ไม่ใหญ่มาก
ถ้าใครชอบทำสวนหรืออยากมีพื้นที่มากหน่อย ถ้ามีงบประมาณถึงก็เลือกตำแหน่งแปลงริม หรือ มุม ตามนี้ได้นะครับ
พื้นที่หลังบ้านระยะห่างจากประตูถึงผนัง 2 เมตร พื้นเป็นคอนกรีตธรรมดา เห็นฝาของบ่อเกรอะอยู่ และโครงการติดตั้งปลั๊กแบบมีฝาครอบกันน้ำมาให้ 1 จุด
ลองมองไปยังตัวบ้านจะเห็นหน้าต่างช่องแสง 2 จุด เป็นบริเวณโซนรับประทานอาหารและโซนครัว อ้อ ด้านหลังบ้านมีไฟส่องสว่างมาให้ด้วย
ตำแหน่งของห้องนอนเล็กจะอยู่ด้านหลังทั้งสองห้อง ถ้าใครจะติดแอร์ก็คงก็ทำที่วางคอมแอร์แล้วแขวนบริเวณใต้หน้าต่างนี่ละ
กลับมาดูที่ประตูทางเข้าหน้าบ้านกัน ตัวพื้นเฉลียงมีการยกระดับชึ้นประมาณ 10 ซม. ปูด้วยกระเบื้องไซส์ 30 ซม. ด้านบนมีไฟส่องสว่างเอาไว้ให้ 1 จุด ส่วนบานประตูที่ได้เป็นประตูกระจกบานเลื่อน บานกระจกสีเขียวตัดแสง วงกบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ
มือจับเปิดปิดประตูหน้าบ้านหน้าตาเช่นนี้
พอเข้ามาในบ้านส่วนแรกที่เจอคือพื้นที่ห้องนั่งเล่นรับแขก ที่ถัดไปเชื่อมต่อเปิดโล่งกับโซนรับประทานอาหาร พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานคือ 2.65 เมตร
ภายในบ้านจริงมาตรฐานจะเป็นแบบนี้ ตัวบ้านได้ช่องแสงจากด้านหลังบ้านส่องเข้ามาช่วยไม่ให้ดูอึดอัด
ทางขวามือเป็นที่วางโซฟา โครงการจัดให้ดูเป็นตัวอย่างแบบ 2 ที่นั่งมีพนักวางแขน ตรงนี้มีพื้นที่เหลือนะครับ ถ้าใครมีแขกมาบ่อยๆ เราสามารถเลือกแบบ 3 ที่นั่งก็ยังไหว ส่วนหน้าต่างช่องแสงนี่สำหรับแปลงริม และ มุม เท่านั้นนะ
พื้นที่วางทีวีค่อนข้างกว้างนะ สามารถเลือกจัดฟังก์ชั่น Build-In หรือ เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวก็ได้เลย แล้วแต่ว่าอยากจะให้มีชั้นวางและชุดตู้เก็บของมากขนาดไหน บ้านตย.ผนังเค้าติดกระจกมาเพื่อให้บ้านดูไม่อึดอัดครับ
ระยะดูทีวีประมาณ 2.4 เมตร จัดทีวีไซส์ 43 – 50 นิ้วกำลังดีครับ พื้นที่ตรงกลางเหลือสามารถวางโต๊ะกลาง และเดินไปมาได้ ไม่อึดอัด
สวิทช์และปลั๊กไฟภายในบ้านทั้งหมดหน้าตาแบบนี้นะ ของ Schneider
พื้นที่ส่วนรับประทานอาหาร บ้านตัวอย่างโครงการมีการ Build-In ชั้นวางของแบบไม่มีผนังปิดเพื่อให้ดูไม่ทึบอึดอัด และแยกเป็นสัดส่วน
แต่พอเงยหน้าขึ้นไปจะเห็นว่าฝ้ามีการดรอปลงมาประมาณ 20 ซม. เป็นส่วนของงานระบบท่อภายในห้องน้ำ
พื้นที่โซนรับประทานอาหารโครงการจัดวางโต๊ะแบบ 4 ที่นั่งเอาไว้ให้ดู ตำแหน่งจะอยู่บริเวณหน้าต่างช่องแสงหลังบ้านพอดี
หน้าต่างที่มองตรงไปอันนี้เฉพาะแปลงริมหรือมุมเช่นกัน ถ้าเป็นบ้านแปลงกลางมาตรฐานจะมีแค่ฝั่งหลังบ้าน
ชุดหน้าต่างกระจกบานเลื่อนจะเป็นแบบนี้ วัสดุแบบเดียวกับประตูหน้าบ้าน
ตัวล็อกจะเป็นแบบ 2 ขั้นตอนคือ 1)ต้องเลื่อนขึ้นบนเพื่อปลดล็อกก่อน 2)โยกตัวล็อกที่คล้องลง ส่วนการเลื่อนเปิดปิดที่จับจะยื่นออกมาแบบรูปด้านล่าง
พื้นที่โซนรับประทานอาหาร บ้านมาตรฐานจะเป็นแบบนี้นะ
บานประตูที่ออกไปหลังบ้าน วงกบเป็น UPVC ที่สามารถกันน้ำได้ดี ส่วนบานประตูเป็นไม้ HDF สำเร็จรูปสีขาว มือจับลูกบิดสามัญธรรมดา
พื้นที่โซนครัวของจริงจะเป็นครัวเปิด แต่โครงการทำประตูฉากกั้นให้ดูเป็นไอเดียว่าเราสามารถทำเป็นครัวปิดได้ และใช้กระจกเป็นบานจะได้ทำให้แสงธรรมชาติช่วยส่องมาพื้นที่โซนรับประทานอาหาร ตรงจุดนี้ถ้ามีงบผมแนะนำให้ทำนะครับ เวลาทำอาหารกลิ่นจะได้ไม่กระจายเข้ามาถึงพื้นที่นั่งเล่น
ของจริงจะเป็นแบบนี้ ประตูทางซ้ายเป็นทางเข้าห้องน้ำ
ชุด Pantry เคาน์เตอร์ครัวนี่เราไม่ได้นะครับ แค่ติดตั้งไว้ให้ดูเป็นไอเดียเท่านั้น ตำแหน่งทางซ้ายจะมีเป็นที่วางตู้เย็น
ถ้าจะทำชุดครัว แนะนำว่าให้ทำทีเดียวเป็นเลย ติดตั้งตัวดูดอากาศด้วย และก็ผนังด้านข้างติดกระจกหรือกระเบื้องโมเสคก็ได้จะได้กันเลอะเวลาทำอาหารและทำความสะอาดง่าย
ตำแหน่งอ่างล้างจานอยู่ตรงนี้จะดีนะครับ จะได้ระบายความชื้นจากการใช้งานด้วย
มาดูภายในห้องน้ำกันบ้าง พื้นในห้องน้ำเป็นกระเบี้องแกรนิตโต้แบบด้าน แต่ของจริงกระจกเงาที่ได้ไม่ใช่บานใหญ่แบบนี้ เป็นขนาดประมาณกว้างพอดีกับอ่างล้างมือ
ตัวพื้นห้องน้ำถูกลดระดับลงมาประมาณ 5 ซม.
ชุดอ่างล้างมือของ Victor หรือเทียบเท่า ขนาดไม่ใหญ่เท่าไร ไม่มีเคาน์เตอร์รอบอ่างและชุดตู้ใต้อ่าง สามารถวางของได้แค่นี้
สุขภัณฑ์หน้าตาแบบนี้ของ American Standard เช่นเดียวกัน ด้านข้างทางซ้ายมีสายฉีดชำระมาให้ และก็ที่แขวนกระดาษทิชชู่ของ Mogen
ทางขวามือเป็นพื้นที่อาบน้ำแบบไม่ได้แยกส่วนแห้งและส่วนเปียกเอาไว้ให้ พื้นที่ประมาณ 0.6 x 1.3 เมตร เวลาใช้งานจริงคงจะกระเด็นมาโดนสุขภัณฑ์ทุกครั้ง และพื้นคงเปียกน้ำเกือบทั้งหมดแน่เพราะขนาดห้องน้ำไม่ได้ใหญ่มากเท่าไร
ชุดฝักบัวของ Rasland หน้าตาแบบนี้ครับ ทางขวามือมีที่วางสบู่มาให้ 1 จุดของ Mogen ไม่ได้เดินระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเอาไว้ให้
ขนาดหัวฝักบัวใหญ่ใช้ได้ แต่ไม่ใช่แบบปรับระดับรูปแบบน้ำได้นะ
ไฟเพดานให้มาจุดเดียว เป็น Led สี่เหลี่ยมสีขาวแบบนี้ ข้อเสียที่สำคัญของห้องน้ำห้องนี้คือ ไม่มีมีพัดลมดูดอากาศและความชื้นมาให้ ถ้าใช้งานอาบน้ำเสร็จถ้าไม่เปิดประตูทิ้งไว้ห้องน้ำคงจะชื้นมากและทำให้เกิดคราบและเชื้อราได้ง่ายด้วย
กลับมาดูบันไดทางขึ้นชั้นบนกันบ้าง อยู่ติดกับผนังที่ชั้นวางทีวีหน้าบ้าน ระยะความกว้างประมาณ 1 เมตร เวลาเดินขึ้นลงสวนกันคงต้องเบี่ยงตัวกันนิดหน่อย ช่วงทางขึ้นตอนแรกไม่มีราวจับกันลื่นมาให้ด้วย ต้องระวังสักนิดครับ
ตัวพื้นบันไดเป็นไม้สำเร็จรูปโทนสีอ่อน
ทางซ้ายมือฝั่งผนังที่ติดกับที่จอดรถจะมีหน้างต่างช่องแสงบาน Fix ส่องเข้ามาบริเวณทางขึ้นบันได
ขึ้นมาส่วนทางโค้ง ชานพักบันไดจะเป็นรูปทรงสามเหลี่ยม 2-3 ขั้นแบบนี้ ทำให้เดินได้ไม่เต็มเท้าต้องระวังกันสักนิดนะครับ
พอพ้นมาแล้วจะเจอชานพักแบบสี่เหลี่ยมจตุรัส เดินง่ายหน่อย หลังจากนี้จะเริ่มมีราวกันตกและที่จับแล้ว
พอขึ้นมาถึงชั้นบน จะเห็นถึงสีพื้นของชั้นบนเป็นลามิเนตลายไม้ที่สีเข้มกว่า ลามิเนตหนา 8 มม.
ลองถ่ายก้มย้อนลงไปให้เห็นถึงรูปแบบชานพักบันไดทั้งหมด
ไฟเพดานบริเวณทางขึ้นบันได ของจริงจะเป็น LED ทรงสีเหลี่ยม แสงส่องสว่างสีขาวนะครับ ไม่ใช่แบบบ้านตัวอย่าง
ขึ้นมาถึงชั้น 2 แล้ว ประตูทางขวามือ(ฝั่งหน้าบ้าน)จะเป็นส่วนของ Master Bedroom ตรงกลางเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน และบานทางซ้ายทั้งสองเป็นห้องนอนเล็กครับ ที่พื้นจะราบเรียบไม่มีคิ้วปิดรอยต่อพื้นใดๆ ประตูห้องของจริงของทั้งสองห้องนี้จะเป็นประตู HDF สีขาว
มาดูที่ห้อง Master Bedroom กันก่อน ซึ่งเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดของบ้านจะค่อนข้างสว่าง แสงธรรมชาติเข้าดี มีทั้งช่องแสงที่เป็นประตูและหน้าต่าง พื้นที่ห้องนี้มีขนาด 2.70 x 5.70 เมตร โดยโครงการสามารถจัดฟังก์ชันให้ทางซ้ายมือเป็นพื้นที่วางเตียงนอน ส่วนทางขวามือกั้นพื้นที่เป็น Walk-in Closet และโต๊ะเครื่องแป้งได้
ของจริงบ้านมาตรฐานจะเป็นแบบนี้ มีหน้าต่างช่องแสงบานขนาดใหญ่ส่องลงมาตรงกลาง
โครงการลองวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ดู จะเห็นว่าเหลือพื้นที่ด้านข้างเตียงทั้งสองฝั่งประมาณ 60 ซม. กว้างอยู่ สามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้งสองฝั่งสบายๆ
หน้าต่างกระจกบานเลื่อน 2 ตอน รับแสงธรรมชาติได้มากพอสมควร เปิดออกจากตรงกลางแบบนี้ ตัวล็อกจะเป็นแบบชั้นล่างที่อธิบายไปแล้ว มี 2 จุด
พื้นที่ปลายเตียงฝั่งขวามือ ส่วนทางขวามือกั้นฉาก มีโต๊ะชั้นวางของ มีพื้นที่เป็น Walk-in Closet และโต๊ะเครื่องแป้งให้ดูเป็นไอเดีย
บ้านมาตรฐานเป็นเช่นนี้
หน้าต่างช่องแสงตรงนี้จะเป็นบาน Fix นะครับ
พื้นที่เหลือเฟือพอที่จะทำโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่แบบนี้ได้นะ
พื้นที่ตู้เก็บเสื้อผ้าและชั้นวางของให้ดูเป็นไอเดีย
ถัดไปเป็นห้องนอนขนาดกลาง พื้นที่ 3.00 x 2.70 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่งได้ โดยห้องจริงจะเป็นห้องโล่งๆมีหน้าต่างบานเลื่อนคู่มาให้ 1 บาน แต่ถ้าเป็นแปลงมุมก็จะมีหน้าต่างทางซ้ายมือมาให้เพิ่มอีก 1 บาน
บ้านแปลงมาตรฐาน จะมีหน้าต่างช่องแสงให้จุดเดียว
ระยะปลายเตียงเหลือห่างจากผนังประมาณ 50 ซม. สามารถทำชั้นวางของติดผนังได้ตามแบบบ้านตัวอย่าง หรืจะ Build เต็มผนังไปเลยก้ได้
ชุดหน้างต่างเหมือนชั้นล่างครับ
พื้นที่ปลายเตียงฝังนี้เหลือให้เดินค่อนข้างกว้างอยู่ครับถึงแม้จะวางตู้เสื้อผ้าแล้วก็ตาม
สามารถวางตำแหน่งตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งที่ตรงนี้ได้
ห้องนอนเล็กอีกห้องทางด้านซ้ายมือ ห้องนี้มีขนาดค่อนข้างเล็ก เราสามารถปรับเปลี่ยนได้อเนกประสงค์ เช่น ทำเป็นห้องทำงาน ห้องดูหนัง ห้องนั่งเล่น แทนก็ได้นะครับแล้วแต่การใช้งาน บางคนคิดจะมีลูกคนเดียวและไม่มีแขกมานอนค้างบ่อยๆ หรือใครอยากทำเป็นห้องนอนเล็ก ก็พอจะวางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่งได้พอดีๆ
โดยห้องจริงจะเป็นห้องโล่งๆ มีหน้าต่างบานเลื่อนคู่ให้ 1 บาน พื้นปูด้วยลามิเนตลายไม้ ฝ้าเพดานเรียบๆติดไฟดาวน์ไลท์ LED ทรงสี่เหลี่ยมมาให้ 1 ดวง
บ้านตัวอย่างโครงการเค้า Build-In ชุดหัวเตียงให้เป็นชั้นวางของไปในตัวแบบนี้เลย
แต่ก็จะทำให้พื้นที่ปลายเตียงเหลือแค่นี้นะครับ
ยิ่งถ้าเรา Build ชุดโต๊ะทำการบ้านตำแหน่งนี้ละก็พื้นที่ปลายเตียงต้องปีนข้ามเตียงไปนะ
ฝั่งด้านข้างหัวเตียงเป็นตำแหน่งตู้เสื้อผ้าครับ สามารถขยายได้อีกหน่อยถ้าไม่ทำชั้นวางของ
หน้าต่างช่องแสงเหมือนเดิม
มาดูห้องน้ำที่อยู่โถงทางเดินที่ต้องมาใช้ร่วมกัน พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้าน และชุดอ่างล้างมือเหมือนกันกับชั้น 1 ที่เห็นหน้าต่างช่องแสงระบายอากาศมีนี่เฉพาะแปลงริมหรือมุมเท่านั้นนะครับ
บ้านแปลงมาตรฐานของจริงหน้าตาเช่นนี้
พื้นเข้าส่วนห้องน้ำจะเป็นธรณีก่อกั้นสูงขึ้นมาประมาณ 4 ซม.
ด้านข้างผนังฝั่งขวามีที่แขวนผ้าขนหนูมาให้ แต่ไฟซ่อนหลังกระจกนี่ไม่มีนะครับ
พื้นที่ในห้องน้ำไม่ได้แยกส่วนเปียกมาให้เช่นเคย พื้นที่ห้องน้ำทั้งหมดประมาณ 1.25 x 1.8 เมตร
ตำแหน่งสุขภัณฑ์อยู่มุมตรงนี้
ฃชุดฝักบัวของ Rasland เหมือนชั้นล่าง ทางขวามือมีที่วางสบู่มาให้ 1 จุดของ Mogen แต่ห้องน้ำชั้นบนเตรียมจุดสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเอาไว้ให้นะครับ
ไฟเพดานให้มาจุดเดียวเหมือนเดิม และก็ไม่มีพัดลมดูดอากาศเช่นกัน
ด้านหน้าห้องน้ำมุมฝ้าเพดานมีสวิทช์คัทเอาท์ Schneider อยู่ตรงนี้
อย่างที่บอกไปตอนแรก บ้านอีกแบบ Type 1 มีการจัดฟังก์ชั่นภายในเหมือนกันทุกอย่าง จะต่างกันแค่ความลึกของตัวบ้าน ที่ลึกแค่ 7 เมตร พื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 96 ตร.ม. และเนื้อที่ดินมาตรฐานคือ 17.5 ตารางวา
หน้าตาภายนอกบ้านของแบบ Type 1 แทบเหมือนกับแบบ Type 2 ทุกอย่าง ต่างกันแค่สีระแนงเหล็กที่เป็น Facade
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 29 September 2015
- Type 1 พื้นที่ใช้สอย 96 ตร.ม. เนื้อที่ดิน 17.5 ตร.วา (มาตรฐาน) ราคา 1.799 ล้านบาทหรือ 102,800 บาท/ตร.วา
- Type 1 พื้นที่ใช้สอย 96 ตร.ม. เนื้อที่ดิน 23.6 ตร.วา (มุมถนนหลัก) ราคา 2.289 ล้านบาทหรือ 96,991 บาท/ตร.วา
- Type 2 พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม. เนื้อที่ดิน 18.7 ตร.วา (มาตรฐาน) ราคา 1.979 ล้านบาทหรือ 105,828 บาท/ตร.วา
- จองและทำสัญญารวม 10,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตร.วาละ 50,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 20 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
โครงการพฤกษาวิลล์ 55/2 วงแหวน-รามอินทรา ตั้งอยู่ในซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 13 แยกจากถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง ซึ่งเป็นถนนที่ลัดเลาะเชื่อมต่อกับถนนและซอยหลักๆในละแวกนั้นได้หลายทาง อาทิเช่น ปัญญาอินทรา พระยาสุเรนทร์ หทัยราษฎร์ รามอินทรา เลียบคลองสอง และซอยเจริญพัฒนา ถือว่าสะดวกระดับนึงเลย ซึ่งบริเวณย่านนี้จะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ตอนบนฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร โครงการส่วนใหญ่ในย่านนี้จะเป็นแนวราบ ทั้งหมู่บ้านเดี่ยวจัดสรร ไม่จัดสรร และทาวน์เฮ้าส์ เพราะยังมีเนื้อที่ดินที่ยังพอพัฒนาให้สร้างได้อยู่เรื่อยๆ
ในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างครบครันทีเดียว การจับจ่ายซื้อกับข้าวก็สะดวกเพราะบนถนนสุเหร่าคลองหนึ่งนั้นมีตลาดเล็กๆ 2-3 จุด ที่ใหญ่หน่อยคือตลาดชุมชนเคหะที่ตอนเย็นคนจะเยอะมากๆ และบนเส้นนี้ยังเต็มไปด้วยมินิมาร์ททั้งหลายอาทิเช่น 7-11, BigC Mini, Lotus Express ถ้าอยากไป Community Mall ขยับขึ้นมาหน่อยก็แค่มาบนถนนพระยาสุเรนทร์ (ซ.รามอินทรา 109) จะมี The Compound และ Tesco Lotus@ตลาด ถ้าอยากไปห้างใหญ่ขึ้นไปอีกก็ง่ายเลย วิ่งเส้นปัญญาอินทราไปทางวงแหวนรามอินทรา จะมี Fashion Island และ The Promenade และ Amorini ตรงแยกสวนสยาม ส่วนโรงพยาบาลจะมีโรงพยาบาลนพรัตนราชธานีตรงแยกตัดกับถนนสวนสยาม และโรงพยาบาลเสรีรักษ์ที่อยู่บนถนนเสรีไทย
แต่การเดินทางจะไปไหนมาไหนเนี่ย ถ้านับจะเข้าออกโครงการนี่คงต้องเน้นรถส่วนบุคคลเป็นหลักนะครับ เพราะอยู่ซอยย่อยด้วย แบบนี้การจะเรียกพี่วิน หรือ Taxi จากหน้าโครงการไม่ได้ ถึงแม้จะแค่ออกมาช้อปนิดๆหน่อยแถวตลาดชุมชนเคหะ, 7-11, BigC Mini, Lotus Express บนถนนสุเหร่าคลองหนึ่ง ก็ประมาณ 700 เมตรได้นะ
ส่วนทางขึ้น-ลงทางด่วนที่ใกล้ที่สุด คือ แยกรามอินทรา-กาญจนาฯ(วงแหวนรามอินทรา) นั่นเอง ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูบริเวณถนนหลักอย่างรามอินทรา สถานีที่ใกล้สุดจะอยู่แถวแยกเมืองมีน แต่โครงการก็ไม่ได้อยู่ใกล้กับสถานีในระยะที่ใช้สะดวกมากเท่าไร
สภาพแวดล้อมโครงการ จะถูกล้อมทุกทิศด้วยโครงการเพื่อนบ้าน ทำให้มีความปลอดภัยระดับนึงเลยละ คือรั้วกำแพงรอบโครงการสูง 2 เมตร ถ้าใครจะปีนมาก็ต้องมาจากทางโครงการอื่นนี่ละ ซึ่งเค้าก็มีระบบรักษาความปลอดภัยมากรองอยู่แล้วนะครับ ตัวถนนหลักกว้าง 16, 12 เมตร และซอยกว้าง 9 เมตร มีต้นไม้ปลูกเป็นทิวตลอดแนวถนน ด้านหน้าโครงการมีสวนหย่อมขนาดให้ใช้งานเดินเล่นได้จริงจังขนาด 382 ตารางวา
โครงสร้างชั้นล่างหล่อในที่ ส่วนชั้นบนเป็น Pre-Cast ส่วนวัสดุที่โครงการให้มาตามมาตรฐานทั่วๆไปคือ ผนังฉาบเรียบทาสี ประตู-หน้าต่างเป็นวงกบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ กระจกเขียวตัดแสง บันไดโครงสร้างเหล็ก ลูกนอนเป็นพื้นไม้ยางพารา ชุดโคมไฟLED พื้นทั่วไปใช้กระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 cm. และชั้นสองเป็นลามิเนต ส่วนกระเบื้องห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้านขนาด 60 x 60 cm. น่าเสียดายพื้นที่อาบน้ำไม่ได้แยกส่วนแห้งและเปียกเอาไว้ให้ และที่น่าเป็นห่วงคือในห้องน้ำทั้งชั้นบนและล่างไม่มีติดพัดลมดูดอากาศมาให้ อาจทำให้เกิดความชื้นสะสมถ้าใช้งานเสร็จแล้วลืมเปิดประตูระบายออกทิ้งไว้ตลอดเวลา
ตัวบ้านออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์นใช้โทนสีเทาเข้มและอ่อนตัดกัน ส่วนการจัดวาง Function ในบ้านค่อนข้างดีสำหรับพื้นที่ที่ไม่ใหญ่มาก เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก มีการใช้งานครบทุกส่วน พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ง่าย และมีการจัดวางพื้นที่และช่องเปิดให้ห้อง Master Bedroom สามารถจัดตู้เสื้อผ้าแบบ Walk -in Closet หรือปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่อเนกประสงค์เช่น นั่งเล่น หรือนั่งทำงานได้ ตรงบันไดชั้น 1 ช่วงแรกไม่มีราวจับและมีขั้นสามเหลี่ยมที่บันได 3 ขั้น
สาธารณูปโภคของที่นี่มีสวนสาธารณะขนาดประมาณเกือบๆ 1 ไร่ ตั้งอยู่หน้าโครงการ นอกนั้นก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ส่วนเรื่องความปลอดภัยจะมีระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ รั้วรอบโครงการสูง 2 เมตร (เฉพาะใกล้ทางเข้าด้านหน้ารั้วสูง 3 เมตร) มี Key Card Access ระยะใกล้ให้ลูกบ้านสแกนได้เลย ส่วนผู้มาติดต่อจะรับบัตรจาก รปภ. ถ้าเทียบกับค่าส่วนกลาง 20 บาท ต่อตารางวา ก็พอรับได้ครับ
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 1.8 – 2.5 ล้านบาท, 29 September 2015
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.25/10 – อยู่ในซอยลึก แต่มีทางลัดออกได้หลายเส้นทาง เหมาะกับคนที่มีรถยนต์ส่วนตัว
- ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน Key Card Access, CCTV ระยะใกล้ , รั้วกำแพงสูง 2-3 เมตร
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.0/10 –ทาวน์โฮมสไตล์โมเดิร์น แบบสวย จัดฟังก์ชั่นการใช้งานเหมาะสม
- วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – ถนน Main 16, 12 เมตร ถนนย่อย 9 เมตร ค่อนข้างกว้างไม่อึดอัด และมีการปลูกต้นไม้เป็นทิวริมทางดูร่มรื่น
- สาธารณูปโภค 7.25/10 – มีเพียงสวนหย่อมด้านหน้าโครงการประมาณเกือบหนึ่งไร่
- 7.45 / 10.00
BOTTOM LINE
พฤกษาวิลล์ 55/2 วงแหวน-รามอินทรา เหมาะกับคนที่กำลังมองหาทาวน์เฮ้าส์ในย่านวงแหวนรามอินทรา ปัญญาอินทรา พระยาสุเรนทร์ และหทัยราษฎร์ ที่เดินทางด้วยรถส่วนตัวเป็นหลัก มีทางลัดเข้า-ออกโครงการได้หลายทาง ราคาพอหยิบจับต้องได้สำหรับคนที่พึ่งเริ่มสร้างครอบครัว ไม่ได้เน้นใช้ Facilities เท่าไร ขอแค่มีสวนให้เดินเล่นนิดหน่อยพอ มีงบประมาณ 1.8 – 2.6 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 12,600 – 18,200 บาท/เดือน
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )