วันนี้จะพาไปดูโครงการ Sindhorn Tonson (สินธร ต้นสน) คอนโดติดสวนลุมพินี ได้วิวสวนแบบใกล้มากๆ และมี Skyline เป็นอาคารสำนักงานในย่านสีลม สาทร คอนโดนี้เป็นคอนโดที่ 2 ในโครงการ Sindhorn Village ที่สร้างเสร็จต่อจาก Sindhorn Residence ซึ่งทางทีมงานได้เข้าไปเก็บข้อมูลมาแล้วสามารถดูได้ตาม Link ด้านล่างเลยครับ
Fact @ 8 December 2017
- Sindhorn Tonson (สินธร ต้นสน)
- Siam Sindhorn Co.,Ltd.
- ULTIMATE CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : ถนนต้นสน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน
- คอนโด High Rise 17 ชั้นและชั้นใต้ดิน 3 ชั้น 1 อาคาร 59 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 6 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 96 คันคิดเป็น 163% ไม่รวมซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 1-2-54.14 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : มิถุนายน 2015
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : มีนาคม 2018
- 1 Bedroom 85 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 19 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 105 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 25.9 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 140 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 35.4 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.7 – 3 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 19 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 280,000 บาท/ตร.ม.
- รูปแบบการขายเป็นแบบ Leasehold
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 02-650-9596
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด : 13.734386, 100.544008
โครงการ สินธร ต้นสน อยู่ในทำเลใจกลางเมืองย่าน ชิดลม ราชดำริ โดยที่ตั้งอยู่ในซอยต้นสนช่วงท้ายๆซอย หรือจะบอกว่าอยู่ตรงหัวมุมที่ถนนสารสินตัดกับซอบต้นสนก็ได้ โดยซอยต้นสนเป็นซอยที่มีสถานที่สำคัญอยู่ด้วยกันถึง 3 แห่งคือ สถานฑูตอเมริกา สถาฑูตเนเธอแลนด์ และ บ้านพักเอกกัครราชฑูตอเมริกา ส่วนสถาที่แหล่งความอุดมสมบูรณ์ใกล้เคียงจะมี Central Chidlom และ Central Embassy
จุดเด่นของทำเลโครงการนี้ก็คืออยู่ใกล้กับสวนลุมพินีแบบเรียกว่าติดเลยก็ได้ครับ เพราะเดินข้ามถนนสารสินไปอีกหน่อยก็ถึงประตูทางเข้าสวนแล้ว และข้อดีสำคัญอีกจุดของโครงการนี้ก็คือ ซอยต้นสนกำลังจะเป็นซอยที่ทะลุได้แล้ว ไม่ได้เป็นซอยตันอีกต่อไป ถึงแม้ตัวโครงการจะอยู่ท้ายซอยต้นสน แต่โครงการก็มี Shuttle Service โดยมีเส้นทางการวิ่งเป็นแบบไปส่
ตัวโครงการ
หากใครยังไม่เคยรู้จักโครงการนี้มาก่อนขอเกริ่นแบบคร่าวๆ ให้ฟังนะครับว่าคอนโด สินธร ต้นสน ที่เราจะพาไปดูในวันนี้เป็นหนึ่งในโปรเจคที่ชื่อ Sindhorn Village ซึ่งทุกอาคารได้รับการพัฒนาและดูแลจากเจ้าของที่ดิน (สยาม สินธร) ทำให้ตัวโครงสร้างของอาคารที่อยู่ภายในโครงการนี้ทั้งหมดจะอยู่ภายใต้แนวคิดเดียวกันคือ ต้องการให้อาคารมีอายุการใช้งาน 100 ปีขึ้นไป ทำให้ลักษณะการพัฒนาโครงการจะแตกต่างจากโครงการทั่วๆ ไป โดยการซ่อมบำรุงจะทำได้ง่ายและการใช้วัสดุจะเน้นให้อยู่กันได้นานๆ ไม่ต้องการบำรุงรักษาบ่อยๆ
สำหรับรูปแบบการขายเป็นเหมือนกับโครงการ Sindhorn Residence (สินธร เรสซิเดนซ์) คือเป็นการเช่าแบบระยะยาว (Leasehold) ระยะเวลา 30 ปี และต่อสัญญาได้อีก 30 ปี โดยการต่อสัญญา 30 ปีหลังจะเป็นอีกราคานึงนะครับ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามโครงการได้โดยตรงเลยครับ
โครงการ สินธร ต้นสน ยังใช้ Thai Obayashi ที่เป็นบริษัทชั้นนำในการก่อสร้างเหมือนเดิม และตัวอาคารยังเป็น Green Building อาคารประหยัดพลังงานที่ได้มาตรฐาน LEED (Leadership in Energy & Environmental) ซึ่งตอนนี้ตัวอาคารยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ผมเลยยังพาไปดูตัวอาคารไม่ได้ แต่ผมจะพาไปดูห้องจริงที่อยู่ชั้น 10 แทนนะครับ จะได้เห็นวิวจากห้องจริงกันว่าจะสวยขนาดไหน
ก่อนไปดูห้องตัวอย่างเรามาดูภาพบรรยากาศจำลองของโครงการกันก่อนนะครับ ตัวอาคารจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนะครับ เป็นไปตามขนาดของที่ดิน ซึ่งการออกแบบอาคารจะออกแบบมาให้ทุกยูนิตสามารถเห็นวิวสวนลุมได้ทั้งหมด
สระว่ายน้ำของโครงการนี้จะอยู่ที่ชั้นบนสุดหรือชั้น 18 ซึ่งเป็นความสูงที่เห็นวิว Skyline อาคารต่างๆ ในย่านสีลม สาทร
ภาพจำลองบรรยากาศในส่วนของ Lobby จะเป็นแบบฝ้าเพดานสูง และระดับพื้นของโครงการนี้จะยกสูงขึ้นมาจากพื้นดินประมาณเกือบ 2 เมตรเพื่อป้องกันน้ำท่วม
ภาพจำลองบรรยากาศในส่วนของ Residence Lounge ที่ชั้น 6
ภาพจำลองบรรยากาศในส่วนของ Fitness Room ที่ชั้น 18 ได้วิวฝั่งสวนลุมพินี
มาดูผังโครงการกันครับ ชั้น Master Plan ทางเข้าโครงการจะอยู่ฝั่งต้นสนนะครับ ไม่ได้อยู่ทางสารสิน ที่ชั้นล่างไม่ได้จัดฟังก์ชันมาเยอะด้วยข้อจำกัดของที่ดินที่ไม่ได้มีเยอะมาก Facilities หลักๆจะไปอยู่ที่ชั้นบนสุดนะครับ สำหรับการจอดรถของที่นี่ให้ที่จอดมามากกว่าจำนวนห้องพักอยู่ที่ 96 คันหรือ 163% แบบไม่รวมซ้อนคัน และการจอดจะแบ่งออกแบบ 3 แบบคือ จอดแบบปกติ จอดแบบ Stack (1 ช่องจดได้ 2 คัน) และสุดท้ายคือการจอดแบบ Auto Parking
ชั้น 2 – ชั้น 6 จะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมดและมีพื้นที่ Lounge อยู่ที่ชั้น 6 ห้องพักอาศัยจึงเริ่มที่ชั้น 7 เป็นชั้นที่เห็นวิวช่วงบนของต้นไม้แล้ว จะได้วิวต้นไม้เขียวๆจากในสวนลุมพินี
การวางผังห้องเป็นแบบ Single Loaded Corridor ทำให้ทุกยูนิตได้เห็นวิวสวนลุมพินี
ผังชั้นพักอาศัย 8 -17 จะเหมือนกันทั้งหมด โดยการแบ่งห้องของที่นี่ห้องจะมีห้องเล็กสุด 1 Bedroom ที่ 85 ตร.ม. อยู่ช่วงตรงกลางของอาคารและมีห้อง 2 Bed 105 -140 อยู่ที่ปลายอาคารทั้ง 2 ด้าน และแต่ละชั้นจะมีความสงบเป็นส่นวตัวเพราะมีลูกบ้านอยู่ในชั้นเดียวกันแค่ 6 ยูนิตเท่านั้น
สำหรับชั้นดาดฟ้าจะเป็นชั้นที่มี Facilities หลักของโครงการอยู่ สระว่ายน้ำขนาด 22 x 8 วางตำแหน่งที่หันไปทางสวนลุมพินี เพื่อให้ได้วิวสวน และมีห้อง Fitness ที่ได้วิวสวนเหมือนกัน
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 22 x 8 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 45 ซม. และสระผู้ใหญ่ลึก 1.2 ม.
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาด 8 x 11 เมตร ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 12 เครื่อง
- ซาวน่าและสตรีม
- สวนหย่อมที่ชั้น 18
- Double-volume Residence lobby
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 29.5 : 1
- Service Lift 1 ตัว
- Shuttle Service
- ที่จอดรถประมาณ 96 คันคิดเป็น 163% ไม่รวมซ้อนคัน
- ระบบ CCTV / Access Card
Services
- Property management provides by Siam Sindhorn Co.,LTD
- Concierge
- Doorman
- Shuttle Service
- Room Cleaning (upon request with extra charge)
- Laundry (upon request with extra charge)
ห้องที่จะพาไปดูในวันนี้เป็นห้อง 2 Bedroom 3 Bathroom ขนาด 140 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้อง 2 Bedroom ที่มีขนาดใหญ่มากนะครับ ถ้าเป็นโครงการทั่วๆ ไปพื้นที่ห้องขนาดนี้จัดเป็น 3 ห้องนอนไปแล้ว ผังห้องนี้เค้าจัดมาให้ความสำคัญในเรื่องของวิวแบบเต็มที่เลยครับ ดูได้จากการวางแนวครัวและห้องนั่งเล่นให้เป็นพื้นที่เชื่อมต่อกัน แบบเกือบเต็มหน้ากว้างของยูนิต เพื่อให้ได้วิวสวนลุมพินีแบบ Panorama เลย นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับห้องน้ำเป็นหลักด้วย ไม่เชื่อลองดูได้จากห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ซิครับ พื้นที่เกือบเท่ากับโซนห้องนอนเลย
รูปแบบห้องที่ขายจะเป็นแบบ Fully Fitted ได้ส่วนครัวทั้งหมด ห้องน้ำได้ครบตามห้องตัวอย่าง ในส่วนห้องนอนได้ตู้เสื้อผ้า Built-in ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว สิ่งที่แตกต่างจาก สินธร เรสซิเดนซ์ มีการปรับชุดอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และวัสดุภายในห้องให้เป็นรุ่นใหม่ขึ้น ดีขัึ้น เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุปูพื้นห้องนอน และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ
ตัวห้องจะมีฝ้าเพดานสูง 2 ระดับ ความสูงฝ้าอยู่ 2.8 – 3 เมตร กลอนประตูได้เป็น Digital Door Lock งบกบประตูได้เป็นสี Rose Gold ทั้งหมด
ส่วนแรกของห้องจะเป็นโถงทางเดินกว้างพอให้วางโต๊ะวางของแบบนี้ได้ สำหรับของที่ได้จะได้ตู้ Built-in สำหรับวางเครื่องซักผ้าซ่อนไว้ด้านใน และได้กระจกเงาด้านขวามือมาด้วย
เดินเข้ามาอีกหน่อยจะเจอห้องน้ำด้านขวามือ เป็นห้องน้ำแบบ Powder Room เอาไว้สำหรับแขกมาใช้งาน สำหรับพื้นห้องนั่งเล่นและห้องน้ำจะได้เป็น พื้นหินอ่อน White Polaris จาก Greece เหมือนเดิม
ชุดสุขภัณฑ์ของโครงการนี้จะได้ Villeroy & Boch (วิลเลอรอย แอนด์ บอค)
สำหรับโถสุขภัณฑ์จะได้แบบอัตโนมัติของ TOTO Washlet รุ่น NEOREST ทุกห้อง
พอเดินพ้นโถงทางเดินมาแล้วจะเจอกับวิวสวนลุมพินีสวยๆแบบนี้เลยครับ โดยกระจกจะได้เป็นบานใหญ่แบบพื้นถึงฝ้าและมีแฟรมกระจกตรงกลางน้อยด้วย เพื่อให้ได้วิวแบบเต็มที่ สำหรับวัสดุกระจกยังเป็นแบบ Triple Glazing (เป็นกระจกที่ลดการถ่ายเทความร้อนเข้ามาในห้อง)
ตัวเคาน์เตอร์ครัวจะได้ island ยาวๆแบบนี้ครับ เห็นแล้วอยากทำอาหารขึ้นมาเลยครับ
ส่วนชุดครัวจะได้ของ POGGENPOHL ตามห้องตัวอย่าง รวมถึงได้เครื่องใช้ไฟฟ้าตามนี้ด้วยนะครับ
เครื่องใช้ไฟฟ้าของครัวได้เป็นของ GAGGENAU ทั้งหมด
ตู้เย็นได้แบบ Built-in ของ Kuppersbusch
อ่างล้างจานได้แบบ 2 หลุมขนาดใหญ่ของ BLANCO ก๊อกน้ำได้ของ Dornbracht
สำหรับใครที่ชอบทำครัว มีความสุขแน่นอนครับ เพราะนอกจากจะได้ชุดครัวขนาดใหญ่แล้ว ตอนทำอาหารยังได้วิวแบบนี้ด้วย
ซึ่งส่วนพื้นที่ทานอาหารก็ได้วิวสวยไม่แพ้กัน เพราะอยู่ส่วนที่เป็นมุมห้องที่ติดกับระเบียงพอดี
พื้นที่ระเบียงจะได้เป็นพื้นที่ใหญ่พอให้วางชุดเก้าอี้นั่งเล่น 1 ชุดได้เลย
ตรงระเบียงก็ยังได้วิวดีเหมือนกันนะ มุมนี้เป็นมุมหันไปทางถนนราชดำริครับ
ส่วนวิวที่ผมว่าสวยจริงต้องหันไปตรงๆหน่อยจะได้สวนเต็มๆ และมีอาคารสำนักงานต่างๆเป็น Skyline อยู่ด้านหลัง
กลับมาตรงทางเข้าห้องนอนกันนะครับ ตรงนี้จะมีสวิทช์ไฟส่องสว่างและ VDO Door Phone ติดมาให้ ประตูห้องทางซ้ายมือจะเป็นห้องนอนใหญ่ ส่วนด้านขวามือเป็นห้องนอนเล็ก
เรามาดูห้องนอนเล็กกันก่อนนะครับ (รูปซ้าย)บริเวณทางเข้าห้องฝั่งซ้ายมือจะเป็นตู้เสื้อผ้าและด้านขวามือเป็นห้องน้ำ (รูปขวาผมเดินเข้าห้องมาแล้วหันกลับไปถ่ายนะ) ตู้เสื้อผ้าจะได้เป็นของ Poliform ที่เป็นรุ่นใหม่ขึ้น
ภายในห้องน้ำของห้องนอนเล้กจะได้ฟังก์ชันครบถ้วน
ภายในห้องน้ำตรงบริเวณโถสุขภัณฑ์จะมีราวจับมาให้สำหรับผู้สูงอายุด้วยนะครับ และการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ก็อยู่ในตำแหน่งที่หยิบใช้ได้ง่าย
ถึงแม้ห้องนี้จะเป็นห้องนอนแล็กแต่มีขนาดใหญ่พอให้พอวางเตียงใหญ่ 6 ฟุตได้สบายๆ และยังมีพื้นที่ให้วางโต๊ะทำงานได้อีก 1 ตัว
ส่วนวิวที่ได้จะเป็นวิวในซอยต้นสนนะครับ จะไม่ได้อลังการเหมือนวิวสวนแต่ก็ยังได้วิวโล่งพอสมควรไม่ได้มีตึกมาบังในระยะประชิด
มาดูห้องนอนใหญ่กันต่อครับ เปิดประตูเข้ามาจะได้บรรยากาศโปร่งสบายตาแบบนี้เลย เพราะมีกระจกบานใหญ่ที่กว้างเต็มแนวผนังมาให้ ลืมบอกไปว่าพื้นห้องนอนของ สินธร ต้นสน จะได้เป็นไม้สักแตกต่างจากตัว สินธร เรสซิเดนซ์ ที่ได้เป็นพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ โดยไม้สักที่นำมาใช้จะเป็นไม้สักที่มีหน้าไม้กว้าง 6″ ซึ่งปกติจะหาได้ยากในการใช้ปริมาณมากๆ และการปูไม้ก็เป็นการปูแบบวางให้แต่ละแผ่นชิดกันเลย ไม่เห็นร่องระหว่างแผ่นไม้เลย ทำให้งานดูเรียบร้อยและสวยกว่าการปูแบบปกติ
สำหรับแอร์ของโครงการนี้จะเป็นระบบ VRV แบบ Fresh Air ให้อากาศหมุนเวียนถ่ายเทได้ดีขึ้น
ทางเข้าห้องน้ำของห้องนอนใหญ่จะอยู่ฝั่งหัวเตียงที่แยกออกเป็นสัดส่วนมี Walk-in Closet อยู่ด้านใน
สำหรับตู้เสื้อผ้าจะได้ครบชุดตามห้องตัวอย่างซึ่งใช้ของ Poliform ทั้งหมด เรื่องการใช้งานไม่ต้องห่วงครับ ลองดูตู้ด้านในสุดที่ผมถ่ายรูปมาให้ดู ถึงแม้จะเป็นตู้มุมแต่บานประตูก็เปิดออกได้กว้างเกือบสุด ทำให้ใช้งานได้สะดวกขึ้นเยอะ และทุกบานมีซีลยางปิดมาให้ตลอดแนวด้วยเอาไว้กันฝุ่นและแมลงได้เป็นอย่างดี ทางเข้าห้องน้ำอยู่ด้านซ้ายมือนะครับ
ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่จะได้พื้นที่กว้างกว่าห้องอื่นๆ และของจริงก็จะได้การตกแต่งตามห้องตัวอย่างแบบนี้เลย ส่วนพื้นที่อาบน้ำกับชุดโถสุขภัณฑ์มีการกั้นห้องมาให้
ฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้นมาจากห้องน้ำอื่นๆ ก็คือ ได้อ่างอาบน้ำของ Villeroy & Boch (วิลเลอรอย แอนด์ บอค)
เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าจะได้แบบนี้เลย มีการตกแต่งด้วยหินอ่อนสีเข้มตัดกับตัวเคาน์เตอร์ และชุดอาบน้ำได้ของ Hansgrohe แบบ Rain Shower ที่มี Thermostats ไว้ควบคุมอุณหภูมิของน้ำ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับคอนโด Leasehold ที่ได้วิวสวมลุมพินีแบบใกล้ชิด ซึ่งวิวใกล้ๆ สวนแบบนี้หาได้ค่อนข้างยากนะครับ เพราะถนนอื่นๆที่ติดสวนลุมก็จะมีขนาดของถนนที่กว้างกว่าถนนสารสินและสวนใหญ่ก็เป็นอาคารสำนักงานกันหมด ถ้าใครสนใจอยากดูห้องขริงก็ติดต่อไปที่สำนักงานที่อาคารสินธรได้นะครับ หรือถ้าใครอยากดูตอนตึกเสร็จแล้วก็รอเดือน มีนาคม ปีหน้านะครับ
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )