รีวิวฉบับที่ 1008 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมบ้านตัวอย่างโครงการ PRINN สาทร-ราชพฤกษ์ ตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ฝั่งมุ่งหน้าไปยังถนนบรมราชชนนี ห่างจากสถานี BTS บางหว้า ที่เป็นสถานีสุดสายของรถไฟฟ้าสายสีเขียว 1.6 กิโลเมตร ใกล้กับจุดตัดถนนบางแวกที่สามารถเลี้ยวเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์หรือถนนพุทธมณฑลสาย 1 ได้ ตัวโครงการเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีบ้านทั้งหมด 4 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 50 ตารางวาในราคาเริ่มต้น 12.9 ล้านบาท
Facts @ 29 January 2016
- PRINN Sathorn-Ratchaphruek (ปริญญ์ สาทร-ราชพฤกษ์)
- Prinsiri Public Company Limited.
- HIGH-LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ภาษีเจริญ
- เนื้อที่โครงการประมาณ 55 ไร่ จำนวน 168 ยูนิต แบ่งเป็น 68 ยูนิตที่ Phase1 และ 100 ยูนิตที่ Phase 2
- แบบบ้านที่ 1 WAREE พื้นที่ใช้สอย 189 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 2 ที่จอดรถ
- แบบบ้านที่ 2 SIKAREE พื้นที่ใช้สอย 231 ตร.ม. บ้านรูปตัว L 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 2 ที่จอดรถ
- แบบบ้านที่ 3 PHANALEE พื้นที่ใช้สอย 280 ตร.ม. บ้านรูปตัว L 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อน 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ
- แบบบ้านที่ 4 THARA พื้นที่ใช้สอย 309 ตร.ม. บ้านรูปตัว L 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อน 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ
- ที่ดินแปลงมาตรฐาน 50 – 135 ตารางวา
- ราคาเริ่มต้น 12.9 ล้านบาทหรือ 258,000 บาท/ตร.วา
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : ต้นปี 2559 (ปัจจุบัน Phase 1 สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว)
- เวปไซต์โครงการ : คลิกลงทะเบียน เพื่อรับส่วนลดพิเศษ
- Call Center : 1753
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.728402, 100.447932
แผนที่โครงการ โครงการ PRINN สาทร-ราชพฤกษ์ อยู่บนถนนราชพฤกษ์ฝั่งที่มุ่งหน้าไปยังถนนบรมราชชนนี ใกล้กับถนนบางแวกที่สามารถออกไปยังถนนกาญจนาภิเษกและถนนจรัญสนิทวงศ์ ระยะ 1.6 กิโลเมตรจากสถานี BTS บางหว้าที่เป็นสถานีสุดสายของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่วิ่งอยู่ปัจจุบัน และในอนาคตจะมีสถานี MRT บางหว้าที่เป็นจุด Interchange ด้วย
ทำเลของโครงการ PRINN สาทร-ราชพฤกษ์ตั้งอยู่บนฝั่งธนฯ บนถนนราชพฤกษ์ฝั่งไปปิ่นเกล้าหรือถนนบรมราชชนนี ห่างจากจุดตัดระหว่างถนนราชพฤกษ์และถนนเพชรเกษมประมาณ 1.3 กิโลเมตร สภาพแวดล้อมบริเวณนี้เป็นเสมือนพื้นที่ที่เป็นการขยายตัวของย่านวงเวียนใหญ่และจรัญสนิทวงศ์ที่มีความหนาแน่นของชุมชนเก่าสูง ในพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบที่อยู่กันมานานและมีความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่สูงเช่นเดียวกัน แต่ด้วยรัศมีที่อยู่ไกลจากจุดศูนย์กลาง ทำให้ความอุดมสมบูรณ์เบาบางลงมาหน่อย แต่ปัจจุบันเนื่องจากมีการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้ามายังฝั่งธนฯ ทำให้มีโครงการคอนโด High Rise และ Low Rise เกิดขึ้นมาบ้างในพื้นที่ แต่ก็ยังอยู่ที่ถนนใหญ่เส้นต่างๆอยู่
ในส่วนของการเดินทางด้วยรถยนต์นั้น ด้วยโครงการอยู่บนถนนใหญ่ราชพฤกษ์ และอยู่ในจุดที่มีทางกลับรถในระยะ 3 กิโลเมตร ใกล้จากจุดตัดถนนใหญ่ต่างๆ ทำให้การเดินทางด้วยรถมีความสะดวก ทั้งจากสาทรที่ข้ามสะพานกรุงธนบุรีมาฝั่งธนบนถนนราชพฤกษ์ ผ่านแยกรัชดา-ราชพฤกษ์มาเรื่อยๆ หรือว่าจะมาจากสะพานพระปกเกล้าผ่านวงเวียนใหญ่ ถ้ามาจากทางนนทบุรีทางเหนือก็จะเข้าที่ถนนจรัญสนิทวงศ์ เลี้ยวเข้าซอยจรัญ13 หรือที่เรียกว่าซอยพาณิชย์ธนบุรี แล้วเข้าที่ถนนราชพฤกษ์อีกที หรือจะมาจากฝั่งสมุทรสาคร-นครปฐม-พุทธมณฑลทางตะวันตก ถนนหลักก็จะเป็นเส้นเพชรเกษม
จุดเด่นของโครงการอีกจุดหนึ่งที่ได้เปรียบมากกว่าหมู่บ้านอื่นๆบนถนนราชพฤกษ์ คือ ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS บางหว้า ในระยะ 1.6 กิโลเมตร ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายของเส้นทางสายสีเขียวมาจากตะวันตกของกรุงเทพ ในอนาคตจะเป็นจุด Interchange กับ MRT ทำให้การเดินทางโดยไม่ใช้รถส่วนตัวก็สะดวกและกะเวลาได้เช่นกัน โดยสถานีบางหว้าจะเป็นสถานีที่ตรงเข้าสาทรแหล่งอาคารออฟฟิสและและสยามโดยตรงโดยไม่ต้องเปลี่ยนสายแต่อย่างใด กะเวลาได้แม่นยำที่ประมาณ 30 นาที ถ้าไม่มีการขัดข้อง และแน่นอนว่าเป็นสถานต้นทางทำให้ได้นั่งยาวแน่ๆ นอกจากนั้นในอนาคต ทางโครงการจะมีบริการรับ-ส่ง Shuttle bus จากโครงการไปยังสถานี BTS บางหว้าเพิ่มเติม
ขออธิบายการเดินรถไฟฟ้าเพิ่มเติมกันอีกหน่อย สำหรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายนี้ แบ่งออกมาเป็น 2 ช่วง คือ
- ช่วงบางซื่อ – ท่าพระ เริ่มสถานีบางซื่อผ่านสถานีเตาปูนซึ่งเป็นสถานีร่วมกับโครงการฯ สายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ – บางซื่อ เข้าสู่ถนนประชาราษฎร์สาย 2 ผ่านสี่แยกบางโพ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เลี้ยวซ้ายเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์ยาวลงมา ผ่านแยกบางพลัด แยกบรมราชชนนี แยกไฟฉาย และสิ้นสุดที่แยกท่าพระ
- ช่วงหัวลำโพง – บางแค โครงการจะเริ่มต้นที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหัวลำโพง เป็นเส้นทางตามแนวถนนพระราม 4 ผ่านถนนเจริญกรุง วังบูรพา ถนนสนามไชย ลอดใต้แม้น้ำเจ้าพระยาที่บริเวณปากคลองตลาด ลอดใต้คลองบางกอกใหญ่ ถนนอิสรภาพ เข้าสู่สี่แยกท่าพระ ซึ่งจะมีสถานีร่วมกับโครงการฯ สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ – ท่าพระ ไปตามแนวถนนเพชรเกษม ผ่านบางไผ่ บางหว้า บางแค และสิ้นสุดสายทางที่บริเวณวงแหวนรอบนอกถนนกาญจนาภิเษก
เอ่ยชื่อถนนราชพฤกษ์ขึ้นมาก็แน่นอนว่าจะเป็นบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ตั้งแต่ 50 ตารางวาขึ้นไปตามกฎข้อบังคับของผังเมืองและตั้งแต่ 100 ตารางวาขึ้นไปในบ้างพื้นที่ ดังนั้นหมู่บ้านแนวราบรอบบริเวณก็จะเป็นบ้านราคาแพง ที่มีทั้งโครงการที่กำลังเปิดขายและปิดการขายกันไปบ้างแล้ว จากแหล่งที่อยู่อาศัยที่เกาะกลุ่มกันเป็นจำนวนกว้างขึ้น ทำให้เร่ิมมีสิ่งปลูกสร้างที่เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ อย่าง The walk ราชพฤกษ์, The Circle ราชพฤกษ์ ที่อยู่ฝั่งเดียวกันกับโครงการ นอกจากนั้นก็จะมีร้านอาหารใหญ่ๆมากมายทั้งที่เป็นสวนอาหารกินดื่มและร้านน่ารักๆ นอกจากนั้นก็ยังมีแหล่งความอุดมสมบูรณ์ในชีวิตประจำวันอย่างโรงพยาบาลต่างๆทั้งโรงพยาบาลพญาไท 3, โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี และโรงพยาบาลเพชรเกษม ศูนย์การค้าส่วนใหญ่อยู่บนถนนเพชรเกษม เช่น The mall, Tesco lotus และตลาดบางแค นอกจากนั้นก็ยังมีวัด โรงเรียน และวิทยาลัยต่างๆ
สำหรับการเดินทางเริ่มต้นจากสถานี BTS บางหว้า ที่อยู่จุดตัดระหว่างถนนราชพฤกษ์และถนนเพชรเกษม ลงมาจากสถานีแล้ววิ่งขึ้นเหนือไปบนถนนราชพฤกษ์ฝั่งมุ่งหน้าไปยังถนนบรมราชชนนี ตรงไปประมาณ 1.3 กิโลเมตร จะเจอทางเข้าโครงการอยู่ทางซ้ายมือ จะเจอป้อมยามจุดแรก และตรงเข้าไปยังถนนภาระจำยอมอีกประมาณ 300 เมตรจะถึงพื้นที่โครงการด้านใน
เริ่มต้นกันเลยที่สถานี BTS บางหว้าที่อยู่บนจุดตัดระหว่างถนนราชพฤกษ์และถนนเพชรเกษม ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่วิ่งตรงมาจากสถานีสนามกีฬาแห่งชาติวิ่งผ่านสยามมาเรื่อยๆ
ออกทางออกที่ 1 ฝั่งถนนราชพฤกษ์ ด้วยตัวสถานีบางหว้าอาจจะเป็นสถานีที่ค่อนข้างใหญ่อาจจะเดินวนๆซักหน่อย แต่สถานีนี้มีทางขึ้นลงจากทั้งถนนราชพฤกษ์และถนนเพชรเกษม และสามารถใช้เป็นสะพานลอยข้ามไปมาได้โดยไม่ต้องผ่านที่รูดบัตรโดยสาร
เดินมาเรื่อยๆก็จะเจอกับทางขึ้น-ลงบันไดทั้งแบบบันไดเลื่อนที่เป็นทางขึ้น และบันไดธรรมดา ส่วนเดินตรงไปทางขวาจะเป็นลิฟท์ที่แอบอยู่ข้างๆเสา
แอบชะโงกออกไปดูก็จะมีทางลาดขึ้น-ลงเข้าลิฟท์ขึ้นมายังชั้นห้องขายบัตรโดยสาร ก็จะมีพี่วินเกาะกลุ่มกันคอยให้บริการ
เดินบันไดลงมาด้านล่างก็จะเจอกับที่ตั้งของพี่วินที่อยู่หน้าบันไดทางลงเลย
ค่าโดยสารพี่วินจากสถานี BTS บางหว้า คิดเล่นๆเทียบราคาน่าจะอยู่ที่ 15 – 20 บาท เทียบกับระยะทางของแยกจรัญที่อยู่บนป้ายราคา
เดินมาริมถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ก็จะมีการจัดการจุดจอดรถริมทางของแท๊กซี่อยู่ข้างๆสถานีที่เวลาตอนเย็นช่วงเลิกงานจะมีแท๊กซี่จอดต่อแถวยาวมาก แต่เดินตรงไปหน่อยจะมีจุดที่ 2 ที่เป็นจุดจอดรถส่วนตัว และเลยไปอีกตรงหน้าสะพานลอยก็จะเป็นจุดจอดของรถเมล์สาย 89
จากนี้เราจะนั่งรถวิ่งไปบนถนนราชพฤกษ์มุ่งหน้าถนนบรมราชชนนี แต่อยู่ในฝั่งคู่ขนานทางซ้าย จากทางลงสถานีไปยังโครงการอยู่ที่ 1.6 กิโลเมตร หรือถ้าจะนับแค่ทางเข้าโครงการจากถนนใหญ่คือ 1.3 กิโลเมตร
วิ่งตรงมาจะเห็นว่าจะยังมีรางรถไฟฟ้าอยู่เหนือถนนราชพฤกษ์และมีการคลุมหลังคารางเหมือนเป็นที่จอดสุดสาย ทางซ้ายมือจะเป็นป้ายโฆษณาของโครงการที่เลือกจุดได้เห็นเด่นชัดมาก ส่วนทางเดินเท้าเลียบไปกับถนนราชพฤกษ์ในจุดนี้ไม่มีแล้ว ทำให้การเดินเท้าจาก BTS ไปโครงการหรือโครงการไปยังสถานีลำบากหน่อย แต่ในอนาคตจะมีบริการ Shuttle bus รับส่ง
ตรงมาเรื่อยๆก็จะมีทางเดินเท้าอีกครั้ง มีรถจอดอยู่ตลอดทาง สิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่จะเป็นออฟฟิสที่อยู่ที่ชั้นล่างของอาคารพาณิชย์ริมถนนใหญ่ ไม่ก็จะเป็นร้านอาหารหรือบ้านพักอาศัยขนาดไม่ใหญ่นัก
ตรงมาเรื่อยๆก็จะมีป้ายบอกว่าจะมีทางเข้าถนนราชพฤกษ์หลักได้โดยการเบี่ยงขวาอีก 200 เมตร แต่เราจะตรงไปก่อนนะคะ เพราะใกล้จะถึงทางเข้าโครงการแล้ว
ตรงมาอีกนิดนึง ทางซ้ายมือจะเป็นร้านอาหาร Seatime ให้ชิดอยู่เลนซ้ายเพื่อเตรียมตัวเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการ
เลยร้านอาหารมาหน่อยเดียวก็จะมีป้ายโครงการเชิญชวนให้เข้าไปเยี่ยมชม เราก็จะเลี้ยวซ้ายกันที่ตรงนี้
ป้ายโครงการจะเป็นสีเงินๆแบบ Wind wall ทำจากสแตนเลสเล็กๆหลายๆแผ่น ค่อนข้างเด่นสลับกับสีบริษัทคือสีม่วง ฉากหลังเป็น Vertical garden สีเขียว
ถนนหน้าโครงการคือเส้นคู่ขนานของถนนราชพฤกษ์
เส้นทางต่อไปเราจะเริ่มต้นจากหน้าโครงการ พาไปชมความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่บนถนนราชพฤกษ์กัน โดยจะข้ามสะพานผ่านจุดตัดกับถนนบางแวกไปแถบ Food Villa และ The circle ราชพฤกษ์ จากนั้นก็จะกลับรถใต้สะพานแล้ววิ่งย้อนกลับมาบนถนนราชพฤกษ์ลงมาทางใต้ แล้วไปกลับรถแถว BTS บางหว้ามายังจุดเริ่มต้นการเดินทางที่ทางออก 1 ของสถานีอีกรอบ
ออกจากโครงการมาบนถนนคู่ขนานกับถนนราชพฤกษ์มุ่งหน้าทางเหนือ ทางซ้ายมือเลยก็จะเป็นร้านอาหารบ้านสเต็ก และมีร้านอาหารเรียงกันอีกประมาณ 3-4 ร้าน เรียกว่าพอถูกไถในระยะเดิน และถ้าเราเบี่ยงออกทางขวามือ จะมีช่องให้เข้าถนนหลักราชพฤกษ์
เราเบี่ยงขวามาอยู่บนถนนหลักกันเรียบร้อย ฝั่งซ้ายมือก็ยังเป็นร้านอาหารอยู่ แต่ฝั่งขวามือจะเริ่มมีเห็นซุ้มโครงการหมู่บ้านแนวราบโครงการอื่นบ้างแล้วซึ่งอยู่ติดถนนใหญ่เหมือนกัน
จากนั้นเราก็จะตรงไปเรื่อยๆบนถนนราชพฤกษ์จะมีสะพานข้ามแยกจุดตัดกับถนนบางแวกไปเลย แต่เส้นทางขนานทางซ้ายมือจะไปเจอกับสี่แยกที่สามารถเลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางแวกเพื่อไปถนนพุทธมณฑลสาย 1 ได้ หรือจะเลี้ยวขวาไปยังซอยจรัญ 13 เพื่อไปออกถนนจรัญที่กำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย หรือจะกลับรถใต้สะพานข้ามแยก เพื่อไปถนนเพชรเกษม หรือวนไป BTS บางหว้า
ลงสะพานข้ามแยกมาก็จะมาถึงถนนราชพฤกษ์ช่วงที่ใกล้กับถนนบรมราชชนนี ช่วงนี้มีหมู่บ้านแนวราบระดับ Luxury เยอะมากทั้งฝั่งซ้ายมือและขวามือ โดยทางซ้ายมือจะมีร้านอาหารเปิดใหม่ชื่อ Villa de bear เป็นร้านน่ารักตามสไตล์
เลยมาอีกหน่อยจะเป็น Food villa มีธนาคารสาขาย่อย ร้านอาหาร 7-11 ต่างๆ ส่วนเลนซ้ายมือสุดอยู่ในช่วงการปรับปรุง ทำให้ฝุ่นแถวนี้ตลบไปหน่อย
พาเข้ามาชมด้านในของ Food villa กันซะหน่อย ด้านในจะมีที่จอดรถ มีร้าน Starbuck drive-thru แต่ก็มีส่วนที่เป็นพื้นที่นั่งด้วย ชั้นบนจะเป็นพื้นที่ห้องประชุม สามารถมาเปิดอ่านหนังสือหรือปรึกษางานได้ ด้านในก็จะมีร้านอาหารอีกเยอะ
ออกจาก The walk ตรงมาอีกหน่อยก็จะเจอกับ The circle ราชพฤกษ์ ที่เป็น Community mall ชื่อดังในพื้นที่เช่นกัน
ภายในของ The circle ก็จะเป็นอาคารชั้นเดียว กระจายกันไปให้มีพื้นที่เดินเล่นตรงกลางแทรกร้านค้าและร้านอาหารต่างๆ ข้อดีของ The circle คือมีร้านอาหารที่ค่อนข้างแปลกใหม่และอร่อย อย่าง Greyhound, white day, vista cafe, บอนชอน รวมถึงคาเฟ่ต่างๆเยอะมาก ด้านในมีที่จอดรถแต่เหมือนจะไม่ค่อยพอเช่นกัน
ออกมาบนถนนราชพฤกษ์ เราจะไปกลับรถใต้สะพานเพื่อกลับไปยังสถานี BTS บางหว้ากัน แต่ถ้าเราตรงไปบนถนนราชพฤกษ์ก็จะไปเจอกับถนนบรมราชชนนีที่ตัดผ่านเพื่อเข้าไปยังถนนพุทธมณฑลสายต่างๆ หรือจะตรงไปเรื่อยๆคือนนทบุรี
เราเบี่ยงซ้ายไม่ขึ้นสะพานมายังจุดกลับรถใต้สะพาน ข้างๆก็จะมีราชพฤกษ์ ไนท์บาซาร์ เป็นร้านค้าขายอาคารและบริการต่างๆ แต่จะเงียบเหงากว่าพื้นที่ค้าขายข้างๆหน่อย อาจจะเป็นเพราะอยู่ใกล้กับเชิงสะพาน
กลับรถมาอยู่บนถนนราชพฤกษ์อีกฝั่ง มุ่งหน้าไปถนนเพชรเกษมกัน ทางซ้ายมือของถนนก็จะเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่อย่างกุ้งเต้น และ The bloc ที่ช่วงเย็นๆจะมีคนแถวนี้มานั่งทานอาหารกันเยอะ
ตรงมาก็จะเจอกับสะพานข้ามแยกที่จุดตัดกับถนนบางแวก ถ้าตรงไปขึ้นสะพานก็จะมุ่งหน้าไปยังถนนเพชรเกษม แต่ถ้าเบี่ยงซ้ายก็จะมีทางกลับรถ ทางเลี้ยวขวาไปยังถนนบางแวกออกพุทธมณฑลสาย 1 หรือเลี้ยวซ้ายออกซอยจรัญ 13 เราจะมุ่งหน้าถนนเพชรเกษมกัน
ลงสะพานข้ามแยกมา ก็จะเจอป้าย ถ้าตรงไปอยู่บนเส้นหลักก็จะตรงขึ้นสะพานข้ามแยกอีกครั้งไปถนนรัชดา แต่ถ้าเบี่ยงซ้ายออกเส้นคู่ขนานก็จะออกถนนเพชรเกษมที่ตัดกับถนนราชพฤกษ์
เราเบี่ยงออกมาทางซ้าย
ตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอกับป้ายอีก ว่าถ้าตรงไปจะเจอกับถนนเพชรเกษมมาตัด ถ้าเลี้ยวขวาจะไปบางแค เราจะตรงไปเพื่อกลับรถไปสถานี BTS บางหว้าที่อยู่ตรงสี่แยกกัน
ตรงมากลับรถใต้สะพานวนไปอีกฝั่ง
วนกลับมาทางขึ้น-ลงสถานี BTS บางหว้าจะอยู่ทางซ้ายมือ ซึ่งจะเจอกับจุดจอดรถแท๊กซี่ก่อน เลยไปหน่อยจะมีที่จอดรถส่วนตัวรอรับค่ะ
ตัวโครงการจะเข้ามาจากถนนภาระจำยอมจากถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ระหว่างร้านอาหาร Sea time และร้านอาหารบ้านสเต็ก จะมีรปภ.ดูแลตั้งแต่ทางเข้า ตรงเข้ามาประมาณ 300 เมตร จะถึงซุ้มโครงการที่เป็นทางเข้าโครงการหลักค่ะ เรามาดูเพื่อนบ้านใกล้เคียงกัน ทางทิศเหนือจะเป็นพื้นที่บุคคลอื่นที่ส่วนใหญ่จะเป็นการปลูกต้นไม้ใหญ่หรือเป็นสวนของคนในพื้นที่ ทางฝั่งตะวันออกที่ใกล้กับถนนใหญ่จะเป็นส่วนของเชิงพาณิชย์ปะปนกับบ้านพักอาศัย อย่างร้านอาหาร ส่วนฝั่งใต้จะเป็นบ้านพักอาศัยที่เข้าได้จากซอยเพชรเกษม 34 และ 36 ยาวเข้ามา ส่วนฝั่งตะวันตกจะเป็นพื้นที่โครงการของ Phase 2 ที่อยู่ลึกเข้าไปจาก Phase 1 อีก ปัจจุบันอยู่ในช่วงก่อสร้าง
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- BTS บางหว้า 1.6 กิโลเมตร (ระยะเดิน)
- Food Villa 4.3 กิโลเมตร
- The Circle ราชพฤกษ์ 4.6 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยสยาม 5.2 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลพญาไท 3 5.4 กิโลเมตร
- ซีคอนบางแค 7.3 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลเพชรเกษม 2 7.4 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลกรุงธนบุรี 1 7.5 กิโลเมตร
- The Mall ท่าพระ 7.6 กิโลเมตร
- สำนักงานเขตภาษีเจริญ 7.8 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยราชภัฎธนบุรี 8 กิโลเมตร
- ตลาดบางแค 8.1 กิโลเมตร
- Big C อิสรภาพ 8.2 กิโลเมตร
- วงเวียนใหญ่ 8.3 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยราชภัฎสมเด็จเจ้าพระยา 9.3 กิโลเมตร
- Tesco Lotus บางแค 9.3 กิโลเมตร
- The Mall บางแค 10.3 กิโลเมตร
- The walk ราชพฤกษ์ 11.8 กิโลเมตร
โครงการ PRINN สาทร-ราชพฤกษ์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น รวมจำนวนทั้งหมด 168 ยูนิต แบ่งออกเป็น 68 ยูนิตสร้างเสร็จที่ Phase 1 และ Phase 2 จำนวน 100 ยูนิตที่กำลังอยู่ในช่วงก่อสร้าง บนเนื้อที่โครงการประมาณ 55 ไร่ สามารถเข้าถึงได้จากถนนภาระจำยอม โดยโครงการใน Phase 1 สร้างเสร็จเรียบร้อย มีส่วนหนึ่งที่โอนกรรมสิทธิ์แล้ว มีลูกบ้านเข้าอยู่แล้วจำนวนหนึ่งและกำลังต่อเติมภายในอยู่บางส่วน
ทางเข้าโครงการอยู่บนถนนราชพฤกษ์ฝั่งมุ่งหน้าไปทางเหนือ ซึ่งทางเข้าเป็นถนนภาระจำยอมระหว่างร้านอาหาร Sea time และร้านอาหารบ้านสเต็ก โดยจะมีป้ายโครงการตั้งอยู่ค่อนข้างเด่น เลี้ยวซ้ายเข้าโครงการมาจะเจอกับพี่ยามตรวจจุดแรก เป็นการรักษาความปลอดภัยแบบเลื่อนที่กั้นธรรมดา จากนั้นก็ตรงเข้าถนนภาระจำยอมกว้าง 12 เมตร มาตามทางประมาณ 300 เมตร โดยจะมีสะพานข้ามคลองบ้าง จากนั้นก็จะเจอกับซุ้มทางเข้าโครงการที่มีระบบรักษาความปลอดภัยเต็มขั้น ถ้าเป็นลูกบ้านก็จะแตะ Keycard ระยะใกล้ที่จุดรับสัญญาณ ซึ่งจะเปิดไม้กั้นขึ้นและประตูบานเลื่อนอีกชั้นหนึ่ง ส่วนถ้าเป็นเพื่อน แขก หรือผู้มาติดต่อก็จะต้องแลกบัตรก่อนเข้ากับพี่ยาม
ผ่านซุ้มประตูเข้ามาก็จะเป็นถนนหลักของโครงการกว้าง 16 เมตร มีซอยแยกย่อยทั้งซ้าย-ขวามือที่กว้าง 9 เมตร ภายในซอยย่อยก็จะมีบ้านเดี่ยวไม่เกิน 8 ยูนิตต่อซอย ซึ่งถือว่าเป็นซอยที่ไม่ลึก ทำให้การดูแลความเรียบร้อยเป็นไปได้ง่าย นอกจากนั้นก็จะมีการติดตั้งกล้อง CCTV ทั้งหน้าโครงการและบนถนนหลักโครงการ จากนั้นก็จะเจอกับพื้นที่ Clubhouse สูง 2 ชั้นและสวนสาธารณะตรงกลาง ซึ่งถนนรอบๆ Clubhouse กว้าง 12 เมตร จาก Clubhouse ก็จะมีทางแยกซ้าย-ขวาไปยังซอยต่างๆอีก แต่ถ้าตรงไปก็จะไปเจอกับประตูบานเลื่อนที่เข้าพื้นที่ Phase 2 ของโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง รั้วรอบโครงการปกติสูง 3 เมตร แต่ถ้ามีพื้นที่รอบๆเป็นบ้านพักอาศัยของบุคคลอื่น ตรงนั้นก็จะมีการต่อความสูงขึ้นมาอีกเป็น 5 เมตร
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการประกอบไปด้วยสวนสาธารณะ 1-0-81.3 ไร่ (ไม่รวม Clubhouse) ที่จะมีสนามเด็กเล่นขนาดเล็ก มีทางลาดขึ้น-ลงสำหรับลูกบ้าน นอกจากนั้นที่ถนนหลักของโครงการก็จะมีการตีเส้นเป็น Bike lane ทั้งสองฝั่ง ส่วนภายในพื้นที่ Clubhouse 2 ชั้น ก็จะมีส่วนสระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาด 22.7 x 8.8 เมตรเป็นระบบเกลือ มีสระว่ายน้ำเด็กและส่วน Jacuzzi และพื้นที่รอบสระก็จะมี Daybed วางอยู่รอบๆ ภายในพื้นที่ชั้น 1 ก็จะมีห้องนั่งเล่น ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ Sales Office โครงการ มีที่ล้างตัว และห้องน้ำแยกชาย-หญิง ขึ้นบันไดไปที่ชั้น 2 ก็จะมีพื้นที่นั่งเล่นรับลมอยู่อีกจุดหนึ่งและห้องฟิตเนสพร้อมเครื่องออกกำลังกาย
เริ่มจากทางเข้าโครงการจากถนนราชพฤกษ์ ทางขวามือจะเป็นป้ายโครงการดูเป็นฉากสีเงินๆ ทางเข้าโครงการกว้าง 12 เมตรเป็นถนนภาระจำยอมยาวเข้าไปประมาณ 300 เมตรจะถึงซุ้มโครงการ
ฉากสีเงินๆเรียกว่า Wind wall เป็นแผ่นแสตนเลสสีเงินมาห้อยกับที่แขวนเรียงกัน ซึ่งสามารถขยับได้ตามแรงลม
ทางขวามือจะเป็นซอยเข้าบ้านพักอาศัยของบุคคลอื่น ทางซ้ายของซอยจะเป็นพื้นที่จอดจักรยานที่แบ่งส่วนไว้ และทางซ้ายสุดจะเป็นที่เลื่อนเปิดทางเข้าซึ่งจะมีพี่ยามนั่งตรวจอยู่
พื้นที่จอดรถจักรยานหน้าโครงการแบ่งเป็นช่องๆ
จุดรักษาความปลอดภัยจุดแรกจะเป็นพี่ยามคอยเลื่อนเปิดที่กั้นให้รถผ่านเข้า-ออก
ผ่านเข้ามาก็จะเป็น Waterscape ทั้งสองฝั่งของถนน เราจะตรงเข้าไปเรื่อยๆตามทาง
ตรงเข้ามาทั้งสองฝั่งก็จะมีการปลูกต้นไม้ตามทางยาวไปเรื่อยจนถึงซุ้มทางเข้าโครงการ
ทั้งสองฝั่งของถนนภาระจำยอมหลังรั้วไปก็จะมีทั้งพื้นที่ปล่อยว่าง เป็นปลูกต้นไม้ธรรมดาไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร และบ้านพักอาศัยของพื้นที่ข้างเคียง บางจุดก็จะเป็นที่ปลูกต้นไม้ของโครงการก่อนจะเอาไปลงยังจุดต่างๆ
โดยพื้นที่แถบนี้จะมีคลองวิ่งหลายสายมากรวมถึงลำรางต่างๆ ทำให้ทางเข้าโครงการจะมีสะพานหลายจุดหน่อย
โดยสะพานบางจุดก็จะยกสูงขึ้นมากหน่อยเพราะจะมีทางเดินลอดใต้สะพานด้านล่าง เป็นทางเดินของคนในพื้นที่ รวมถึงเป็นเส้นทางสัญจรเรือที่ยังใช้กันอยู่
จากบนสะพานที่ 2 อีกไม่ไกลก็จะถึงซุ้มโครงการ
ถึงทางเข้าโครงการ ก็จะแบ่งเป็นสองฝั่งคือทางซ้ายคือทางเข้าและทางขวาคือทางออก ซุ้มโครงการเป็นการตกแต่งด้วยลายไม้ ดูกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมดี
ซุ้มทางเข้าโครงการจะมีจุดรักษาความปลอดภัยเป็นจุดที่ 2 โดยถ้าเป็นลูกบ้านก็จะเปิดกระจกแตะ Keycard ที่จุดรับสัญญาณเพื่อยกไม้กั้นอัตโนมัติและเลื่อนประตูเปิดเข้าไป แต่ถ้าเป็นแขก เพื่อนลูกบ้านหรือผู้มาเยี่ยมชมโครงการก็จะต้องแลกบัตรกับพี่ยามกันหน่อย
ไล่จากซ้ายไปขวาคือ CCTV ที่จับใบหน้าคนขับและป้ายทะเบียน ระเบียบการเข้า-ออก และตัวรับสัญญาณ Keycard
ประตูเลื่อนของโครงการเป็นแบบ 2 ตอน เลื่อนไม่ช้ามาก ต้องรอนิดหน่อย ทางซ้ายมือเป็นประตูเล็กใช้เปิดเข้า-ออกได้เหมือนกัน
ผ่านเข้ามาก็จะมีสองทาง ทางซ้ายจะเป็นซอยย่อยของบ้านเดี่ยวประมาณ 10 ยูนิตที่ขายเรียบร้อย ส่วนทางขวาจะข้ามสะพานไปยังพื้นที่หลักของโครงการ
ซอยทางซ้ายมือเป็นซอยกว้าง 9 เมตร มีบ้านเดี่ยวหันหน้าเข้าหากันประมาณ 10 ยูนิต ไม่มีซอยแยกย่อยออกไปอีก
ทางขวาจะเป็นสะพานข้ามคลองอีกจุดหนึ่ง ทั้งสองฝั่งของถนนจะเห็นได้ว่าที่ระบบไฟ LED ติดตั้งให้ที่ถนนหลักรอบโครงการ ซึ่งประหยัดกว่าการใช้ไฟดวงโคมและทนทานกว่า
คลองก็จะเป็นคลองที่มีทางเดินขนานไปเรื่อยๆ การจัดการของโครงการเรื่องวิวต่างๆคือจะมีรั้วรอบโครงการปกติสูง 3 เมตร แต่ถ้าเป็นฝั่งที่ติดคลองหรือติดกับที่อยู่อาศัยบุคคลอื่นนอกโครงการก็จะต่อเพิ่มสูงเป็น 5 เมตร ซึ่งพ้นระดับสายตาเวลาอยู่บนชั้น 2 ของบ้านพอดี
ลงสะพานมาก็จะมีซอยย่อยไปอีกทางขวามือ ซึ่งซอยนี้ก็มีการจับจองครบแล้วเช่นกัน ถ้าตรงไปก็จะไปส่วนหลักของโครงการ ความกว้างของถนนหลักตั้งแต่ซุ้มโครงการคือ 16 เมตร จะสังเกตว่าตลอดสองฝั่งของถนนจะมีร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ค่อนข้างเยอะและโตเต็มที่แม้จะเป็นเวลาช่วงเที่ยง-บ่าย
ซอยย่อยทางขวามือมีประมาณ 8 ยูนิต เป็นซอยที่มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง
เลี้ยวมาทางซ้ายตามทางก็จะมีพุ่มไม้ตกแต่งสวยงามเท่าๆกับความสูงรั้ว ที่พื้นทั้งสองฝั่งเข้า-ออกจะมีการตีเส้น Bike lane เพื่อแบ่งพื้นที่กิจกรรมซึ่งน่าจะทำให้ลูกบ้านอยากจะมีส่วนร่วมมากขึ้น
ตรงมาอีกทางซ้ายมือก็จะเป็นซอยย่อยเหมือนเคย แต่เป็นซอยของบ้านตัวอย่างทั้ง 4 แบบ ตรงไปก็จะมีพี่ยามเสื้อขาวยืนดูแลอยู่
จากจุดที่พี่ยามเสื้อขาวยืนอยู่มองเข้าพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ มีถนนหลักของโครงการวิ่งล้อมรอบทั้งสองฝั่งกว้าง 12 เมตร โดยถนนฝั่งซ้ายก็จะมีซอยย่อยเข้าบ้านอยู่อีกประมาณ 4 ซอย และสุดถนนก็จะเป็นประตูเข้า-ออกเชื่อมกับพื้นที่ Phase 2 ของโครงการ ส่วนถนนหลักทางขวามือของพื้นที่ส่วนกลางก็จะเข้าไปยังบ้านอีกจำนวนหนึ่งซึ่งมีทั้งบ้านที่อยู่ใกล้กับ Clubhouse และบ้านในซอยหน่อย
เข้ามาทางถนนทางขวามือจากพื้นที่ส่วนกลางก็จะมีพื้นที่จอดรถนิดหน่อย มีการติดตั้งกล้อง CCTV ที่ถนนหลักตามจุดต่างๆ
ตรงเข้ามาก็จะเจอซอยทางซ้ายมือที่เป็นบ้านหันหน้าเข้าหา Clubhouse และซอยด้านในที่จะเป็นบ้านที่หันหน้าเข้าหากัน
ต่อไปเรามาเดินดูพื้นที่ส่วนกลางของโครงการกันดีกว่าค่ะ ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำกลางแจ้ง พื้นที่ข้างสระวาง Daybed รับลม อยู่หน้า Clubhouse สูง 2 ชั้น ชั้นล่างจะมีห้องนั่งเล่น ห้องน้ำแยกชาย-หญิงและพื้นที่ล้างตัว ชั้นสองก็จะมีห้องฟิตเนสและพื้นที่นั่งเล่นภายนอก
เดินมาตามทางก็จะเจอกับทางเข้า Clubhouse เป็นบันไดเดินขึ้นนิดหน่อย ซึ่งความจริงแล้วจากถนนด้านหลัง Clubhouse ก็จะมีทางลาดสำหรับผู้ใหญ่เข้ามาใช้งานได้นะคะ
สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 22.7 x 8.8 เมตร กลางแจ้ง
มีส่วนที่เป็น Jacuzzi อยู่ที่ข้างๆสระ มีบันไดให้นั่งได้
ข้างๆกันก็มีชุดโซฟาอยู่ข้างสระทั้งแบบเก้าอี้และแบบ Daybed ซ้ายมือเป็นห้องนั่งเล่นรวม ซึ่งปัจจุบันใช้เป็น Sales office ไปด้วย
บรรยากาศด้านในห้องนั่งเล่น จะตกแต่งด้วยสีขาวดีไซน์เรียบๆ มีเคาท์เตอร์ของพี่ Sales อยู่ด้านใน
อีกฝั่งก็จะเป็นชุดรับแขก สามารถมองพื้นที่รอบๆผ่านกระจกใสได้ทั้งสามด้าน
ออกมาด้านนอกอีกครั้งทางซ้ายมือคือทางเข้าห้องน้ำแยกชาย-หญิง เลยเลยไปหน่อยเป็นพื้นที่ล้างตัว
ภายในห้องน้ำหญิงก็จะมีอ่างล้างมือวางอยู่บนเคาท์เตอร์หพร้อมกระจกบานใหญ่ ด้านในมีท้งห้องน้ำและห้องอาบน้ำ 1 ห้องให้พร้อม
ห้องน้ำและห้องอาบน้ำยังดูใหม่เอี่ยม
พื้นที่ล้างตัวที่อยู่ด้านนอก
จากพื้นที่ข้างสระอีกฝั่งหนึ่งจะมี Daybed ตัวยาวตั้งอยู่ มองไปจนสุดก็จะเป็นพื้นที่สวนสาธารณะที่อยู่เลยสระไป
อีกมุมหนึ่งของพื้นที่ส่วนกลาง จะเห็นว่ามีสระเด็กอยู่ที่มุมสระว่ายน้ำ เป็นสระลึก 0.6 เมตร เหมาะกับการให้ลูกๆหลานๆมาเล่นน้ำแล้วคุณพ่อคุณแม่ก็ดูแลอยู่ที่ริมสระข้างๆกันพอดี
ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องน้ำ จะมีบันไดขึ้นชั้น 2 ของ Clubhouse อยู่
เดินขึ้นมาตรงชานพักบันไดมองมาทางพื้นที่ด้านหลังของ Clubhouse ก็จะเจอกับถนนหลัก มีบ้านส่วนที่อยู่ใกล้กับพื้นที่ส่วนกลางที่เข้าได้จากถนนข้างๆ ซึ่งมีบันไดและทางลาดเชื่อมกับพื้นที่ Deck ไม้ และมีที่จอดจักรยานให้เป็นช่องๆ
เดินขึ้นมาชั้นสองก็จะเป็นพื้นที่นั่งเล่น แต่คราวนี้จะเป็นแบบ Open air หน่อย
มองลงไปด้านล่างก็จะเห็นพื้นที่สระว่ายน้ำและริมสระข้างๆ
มองลงไปทางขวาก็จะเห็นทางลาดที่เชื่อมระหว่างพื้นที่ส่วนกลางและถนนด้านหลังสำหรับผู้ใหญ่ และพื้นที่ด้านหน้าจะเป็นสวนสาธารณะที่ยาวไปจนสุดประตูที่เชื่อมกับ Phase 2 มีสนามเด็กเล่นขนาดเล็กอยู่ใกล้ๆด้วย
มองกลับมาอีกฝั่งของพื้นที่ชั้น 2 ก็จะเจอกับห้องฟิตเนส
เปิดเข้ามาก็จะเจอกับเครื่องออกกำลังกายวางอยู่ที่มุมต่างๆ ฝั่งหนึ่งก็จะเป็นกระจกสำหรับลูกบ้านที่ชอบออกกำลังกายอย่างแอโรบิก โยคะ หรือพื้นที่เต้นของลูกๆ
จากอีกมุมหนึ่งของห้องฟิตเนส ด้านในก็จะมีเก้าอี้นั่งพักเหนื่อยให้ 2 ตัว
ลงมาด้านล่างกันบ้างที่ทางเข้า Clubhouse จะเดินไปทางด้านหลังโครงการกันหน่อย จะเห็นว่าการจัดการพื้นที่สีเขียวส่วนกลางจะเป็นสวนสาธารณะด้วย และมีบันไดโค้งยาวไป ซึ่งการออกแบบจะเป็นการใช้งานที่สมมติมีการจัดคอนเสิร์ตหรืองานเล็กๆก็จะจัดตรงกลาง และมีพื้นที่นั่งเป็นบันไดหันหน้าเข้าหากันไปได้ในตัว
เดินตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอกับพื้นที่ทางเดิน ปูหญ้ายาวไป มีการลงต้นไม้ใหญ่เรื่อยๆตามระยะ
ตรงมาก็จะเห็นสนามเด็กเล่นขนาดเล็ก มีเครื่องเล่นนิดหน่อย
สนามเด็กเล่น ข้างๆกันก็จะมี Deck ไม้ มีชิงช้าตัวยาวอยู่ใต้ร่ม
โดยถ้าเดินไปจนสุดจะเจอกับประตูเลื่อนอีกจุดหนึ่งที่เป็นส่วนที่เชื่อมโครงการ Phase 1 เข้ากับ Phase 2
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำกลางแจ้ง 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 22.7 x 8.8 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร และส่วน Jacuzzi
- Clubhouse สูง 2 ชั้น ชั้นล่างมีห้องนั่งเล่นปรับอากาศ และด้านบนมีพื้นที่นั่งเล่นในร่ม
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 6 เครื่อง
- สวนสาธารณะ 1-0-81.3 ไร่
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และถนนหลักโครงการ
- รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรแต่ถ้าเป็นฝั่งรั้วโครงการที่ติดกับพื้นที่อยู่อาศัยของบุคคลอื่นจะสูง 5 เมตร
- Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
- Double Gate Security คือเป็นที่กั้นแบบรปภเลื่อนที่ทางเข้า ตรงเข้ามาอีก 500 เมตรจะเป็นซุ้มโครงการอีกจุดหนึ่ง
- Key Card Access ระยะใกล้
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดกและ เลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic ที่บานประตูและหน้าต่างทุกบาน และ Motion Censor ที่พื้นที่ชั้น 1 และบันได โดยระบบจะเชื่อมต่อไปยังป้อมรปภ.หากมีสัญญาณขึ้น
- ถนนทางเข้าจากถนนราชพฤกษ์กว้าง 12 เมตร ผ่านซุ้มประตูโครงการกว้าง 16 เมตร จนถึงหน้าพื้นที่ Clubhouse ถนนหลักกว้าง 12 อีกครั้ง และซอยย่อยกว้าง 9 เมตร
- *ในอนาคตจะมี Shuttle bus ส่ง BTS บางหว้า
บ้านเดี่ยวของโครงการมีทั้งหมด 4 แบบ แบบที่นำมาให้ชมกันเป็นบ้านตัวอย่าง PHANALEE เป็นบ้านขนาดใหญ่อันดับ 2 มีพื้นที่ใช้สอย 280 ตร.ม. บ้านรูปตัว L ประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อน 3 ที่จอดรถ และห้องแม่บ้านแยกออกมา ผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นที่จอดรถ 3 คัน แบ่งออกเป็นแบบที่ผ่านประตูเปิดด้วยรีโมทอัตโนมัติที่ทางโครงการติดตั้งให้เข้ามามีที่จอด 2 คัน และแบบที่เป็นลงกลอนต้องเดินมาเปิดอีก 1 คัน รอบตัวบ้านมีพื้นที่สีเขียว ปูหญ้าจริงให้เรียบร้อยรอบบ้านรวมถึงต้นไม้ใหญ่ลงให้ตามมุมต่างๆ จากผังสามารถเข้าถึงในบ้านได้จาก 3 ทางหลัก คือบานประตูไม้สักบานคู่เปิด-ปิดหน้าบ้านทางห้องรับแขก, ประตูเปิด-ปิดหลังบ้านจากส่วนซักล้างเข้ามาเจอครัวไทย และจากประตูบานเลื่อน 2 บานจาก Court ตรงมุมบ้าน
จากทางเข้าหลักหน้าบ้านส่วนห้องรับแขก ทางซ้ายมือจะเป็นทางเข้าไปยังห้องน้ำชั้น 1 และห้องเอนกประสงค์ด้านในที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนชั้นล่างได้ ลึกเข้าไปจากห้องรับแขกคือพื้นที่ทานข้าวที่สามารถวางโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ได้ประมาณ 8 ตัว ทางขวามือเป็นเคาท์เตอร์ครัวรูปตัว L ที่ทางโครงการจะให้มาทั้งชุด และอีกฝั่งหนึ่งก็จะมีที่วางตู้เย็นและชั้นวางของใช้ในครัวแบบ Built-in ให้พร้อม ด้านในมีประตูบานเลื่อนเข้าไปยังครัวไทยที่จะมีเคาท์เตอร์ครัวและบานปิดด้านล่างให้เช่นกัน และมีประตูเปิดออกไปยังหลังบ้านที่เป็นพื้นที่ซักล้างและห้องแม่บ้าน และด้วยพื้นที่ตัวบ้านที่เป็นตัว L ทำให้มี Court กลางบ้านอยู่ที่มุมบ้านด้านใน ออกแบบให้เป็นพื้นที่ส่วนกลางระหว่างสมาชิก อย่างในบ้านตัวอย่างจะแต่งเป็นยกพื้นไม้ขึ้นมา วางเป็นโต๊ะทานข้าวนอกบ้านขนาดใหญ่พร้อมพื้นที่ BBQ ได้สบายๆ แต่ก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นสระว่ายน้ำ คงความเป็นสนามหญ้าไว้ หรืออื่นๆตามใจชอบ โดยพื้นที่ Court ตรงนี้จะเป็นส่วนที่มองได้จากเกือบทุกมุมของบ้าน เพราะออกแบบให้มีช่องเปิดไม่ว่าจะเป็นประตูหรือหน้าต่างที่เห็นพื้นที่ฝั่งนี้ชัดเจน
ทางขวามือของห้องรับแขกจะมีบันไดขึ้นไปยังชั้น 2 เมื่อเดินขึ้นมาจะเจอพื้นที่นั่งเล่นอยู่ตรงกลาง ที่สามารถจัดเป็นพื้นที่ของครอบครัวเมื่อมีการรับแขกที่ชั้นล่างก็ได้ ฝั่งซ้ายมือจะเป็นห้องนอนใหญ่ที่มีระเบียงข้างบ้านและห้องน้ำในตัว ส่วนทางขวามือของห้องนั่งเล่นจะแยกเป็นห้องนอนกลางและห้องนอนเล็ก สังเกตได้จากจะออกแบบให้ห้องนอนกลางเห็นพื้นที่ Court ด้านล่างได้ดีกว่า ส่วนห้องนอนเล็กจะเป็นห้องเดียวของบ้านที่ไม่สามารถเห็นได้ โดยสมาชิกของห้องนอนกลางและห้องนอนเล็กต้องใช้ห้องน้ำร่วมกันที่อยู่ตรงกลางระหว่างห้องทั้งสอง
ด้านหน้าของตัวบ้านจะเป็นรั้วโปร่งสีดำกั้นระหว่างซอยและพื้นที่จอดรถ อย่างบ้านแบบนี้จะมีที่จอดรถ 3 คัน โดยจะมีรีโมทเพื่อเปิดประตูรั้วสำหรับ 2 คันตรงกลาง และอีกคันนึงทางขวามือจะเป็นประตูแบบลงกลอนต้องลงไปเปิดเอง ประตูทางเข้าตัวบ้านอยู่ทางซ้ายมือของที่จอดรถ ส่วนด้านบนส่วนหน้าบ้านเป็นห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำและระเบียงในตัว แต่ออกแบบให้ระเบียงอยู่ข้างบ้านทางซ้ายมือหลังต้นไม้เพื่อความเป็นส่วนตัว แสดงว่าถ้ามองจากหน้าบ้านก็จะไม่มีระเบียงให้เห็นเลย
ประตูบานเลื่อนที่สามารถกดจากรีโมทให้เลื่อนได้อัตโนมัติจะมีการติดตั้งให้ทุกหลัง
แต่พอเลื่อนเปิดประตูใหญ่แล้วก็จะไปอยู่ด้านหลังของประตูเล็ก ซ้อนกันอยู่ ทำให้เปิดประตูเล็กเข้า-ออกไม่ได้
ประตูเล็กจะอยู่ซ้ายมือของประตูใหญ่ เป็นแบบไขกุญแจเปิดผลักเข้าไปปกติ
ที่เสาหน้าบ้านก็จะมีบ้านเลขที่ที่ฝากกล่องจดหมาย ที่สามารถหย่อนได้จากภายนอก แล้วลูกบ้านบ้านก็สามารถเปิดเอาได้จากภายในบ้าน มีไฟส่องสว่างอยู่ด้านบน
ส่วนแบบบ้าน 3-4 จะมีที่จอดรถ 3 คัน คันที่เพิ่มเติมเข้ามาจะอยู่ที่ริมขวามือของบ้าน เป็นประตูไม่อัตโนมัติ เป็นแบบลงกลอนสองฝั่งบานเปิดคู่ ซึ่งเป็นที่จอดรถแบบกลางแจ้งทั้งคัน ไม่มีหลังคาคลุม
ประตูเป็นแบบลงกลอนที่พื้น มีจุดที่คล้องกุญแจได้และที่จับ
ส่วนที่เสาคู่หน้าบ้านตรงที่จอดรถจะมีหลืบไฟฝังอยู่ในเสาเผื่อตอนมึดๆ
พื้นที่ข้างบ้านฝั่งขวามือประตูบานในสุดจะเป็นประตูข้างของห้องครัวที่เปิดออกมาเจอพื้นที่ซักล้างปูด้วยระเบียงยกเหนือขึ้นมาจากระดับพื้นหญ้า ข้างๆกันอีก 2 บานคือประตูห้องนอนและห้องน้ำของแม่บ้านที่จะมีในแบบบ้าน 3-4 เพื่อความสะดวกของแม่บ้านและความเป็นส่วนตัวของเจ้าของบ้านก็สามารถเข้า-ออกแยกกันได้ สุดทางด้านในก็จะเป็นพุ่มไม้ที่บังปั้มน้ำและแท๊งค์น้ำ
มาฝั่งซ้ายของพื้นที่บริเวณบ้านกันบ้าง จะมีประตูทางเข้าบ้านอยู่หลังเฉลียงที่ยกพื้นขึ้นสูงหน่อย ด้านหน้าจะปูเป็นพื้นหญ้าวางทางให้เป็นทางเดินเข้าไปด้านใน
จะปูพื้นหญ้าเขียวๆเหมือนแบบที่โครงการให้มา จะวางทางเดิน ปลูกต้นไม้ ขุดบ่อปลาหน้าบ้านก็ตามสะดวก อย่างบ้านตัวอย่างจะทำเป็นทางเดินให้เดินเชื่อมถึงกันรอบตัวบ้าน ก็จะมีการวางเก้าอี้เบาะนิ่มๆตรงมุมด้านใน
จากมุมมองของมุมหน้าบ้านมองไปยังข้างบ้านก็ยังมีทางเดินเชื่อมไปเรื่อยๆ ส่วนผนังก็จะปลูกไม้พุ่มเป็นกำแพงสีเขียวยาวไปเรื่อยๆ เผื่อช่องแสงหน้าต่างที่มองจากห้องภายในบ้านจะได้ดูสบายตา
เดินเลาะมาข้างบ้านเรื่อยๆก็จะเจอกับพื้นที่ Court ตรงกลางบ้าน ด้วยความที่แบบบ้านเป็น L-shape ทำให้เหลือพื้นที่มุมด้านในของบ้านเป็นพื้นที่กิจกรรมกลางแจ้ง ทางโครงการจะปูพื้นหญ้ามาให้ทั้งบริเวณแต่ก็สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับรูปแบบของแต่ละครอบครัวได้ อย่างบ้านตัวอย่างหลังนี้ก็จัดเป็นพื้นที่ทานข้าวพร้อมนั่งเล่นแบบ Open air ไปด้วยในตัว สามารรถตั้งเตา BBQ กันได้ หรือจะทำเป็นสระว่ายน้ำพร้อมพื้นที่ริมสระ วางเครื่องเล่นเด็ก หรือปลูกผักทานเอง
และการออกแบบบ้าน L-shape ก็จะดีไซน์ให้ช่องเปิดพวกหน้าต่างบานเลื่อน บาน Fixed หรือระเบียงมีวิวจากพื้นที่ Court ตรงกลางบ้านนี้ อย่างมุมที่เห็นชั้นล่างคือห้องเอนกประสงค์หน้าบ้านที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนผู้ใหญ่ได้ และชั้น 2 เป็นพื้นที่ห้องนอนใหญ่ที่มีระเบียงอยู่ข้างบ้าน
จากพื้นที่ Court ก็จะเชื่อมไปยังพื้นที่หลังบ้านโดยใช้เป็น Deck ไม้ยกขึ้นจากพื้นระดับปกติ
ด้านหลังจะมีการวางเก้าอี้สนามและปลูกไม้พุ่มรอบบ้านเหมือนเดิมเพื่อที่เวลามองจากภายในบ้านจะได้เขียวๆ เดินไปจนสุดก็จะเจอกับส่วนปั้มน้ำและแท๊งค์น้ำที่วนไปข้างบ้านอีกฝั่งก็จะเจอกับพื้นที่ซักล้าง
ประตูทางเข้าตัวบ้านเป็นบานคู่ อยู่ด้านหลังเฉลียงที่ปูด้วยกระเบื้องสีอ่อน ขอบๆคือทรายล้าง ประตูเป็นบานไม้สักแบบมีที่จับเปิดดึงออก
เปิดออกมาก็จะเข้าสู่ห้องรับแขกได้
บางหลังที่เป็นแบบใหม่หน่อยหน้าตาของประตูหน้าบ้านก็จะยังเป็นบานไม้สักแต่มีช่องแสงด้านบนหน่อย แต่ก็ยังเป็นแบบบิดเปิด มีที่จับบานคู่เหมือนเดิม
การเปิดปิดประตูเป็นแบบหมุนเปิดล็อก
แต่ก็สามารถล็อกทั้งตัวบานได้ ตัวล็อกจะอยู่ที่ด้านความหนาของบานประตู สามารถดึดให้เปิดขึ้นเพื่อปลดล็อก
เข้ามาด้านในห้องแรกที่เจอจะเป็นห้องรับแขก พื้นปูด้วยหินอ่อนอัด มีการวางชุดโซฟาทางด้านขวามือพร้อมเก้าอี้เดี่ยวทั้งสองฝั่ง และฝั่งตรงข้ามมีชั้นวางของพร้อมทีวีติดผนัง แต่ส่วนหน้าของทางเข้าก้จะมีชั้นวางของหรือชั้นเก็บรองเท้าอีกจุดที่อยู่ใกล้ประตู
เหนือชั้นวางของหรือชั้นเก็บรองเท้าใกล้กับประตูจะมีสวิสช์ไฟและระบบสัญญาณกันขโมย โดยทางโครงการจะติดตั้งแบบ 2 ระบบมาให้คือ Magnetic ที่บานประตูและหน้าต่างทุกบาน และ Motion Censor ที่พื้นที่ชั้น 1 และบันได โดยระบบจะเชื่อมต่อไปยังป้อมรปภ.หากมีสัญญาณขึ้น
ที่รับสัญญาณก็จะตั้งอยู่ที่ตามมุมห้องต่างๆ
ได้แอร์ห้องรับแขกชั้นล่างเป็นแบบ Cassette type ลม 4 ทิศ ซึ่งจะมีพื้นที่ยาวไปถึงพื้นที่ทานข้าวด้านใน
ทางซ้ายมือจากประตูทางเข้าเป็นทางเดินไปยังห้องน้ำชั้น 1 และในสุดคือห้องเอนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนชั้นล่างได้
บ้านมาตรฐานด้านบนจะให้มาเป็นแบบไม่มีเฟอร์นิเจอร์ พื้นเป็นหินอ่อนอัด ส่วนผนังได้ Wallpaper รอตัวบ้าน หลุมฝ้าด้านบนจะได้แค่ส่วนทานข้าวด้านในแต่ส่วนพื้นที่รับแขกจะไม่ได้ และทางซ้ายมือเป็นประตูบานเปิดออกไปยังพื้นที่ Court ด้านนอก
ทางขวามือก่อนจะเดินถึงชุดโซฟาจะมีทางเดินไปบันไดชั้น 2 และมีห้องเก็บของใต้บันไดแอบอยู่
ส่วนทางฝั่งซ้ายมือจะเป็นประตูบานเลื่อน 2 ตอนขนาดใหญ่ 2 บานเป็นส่วนที่เชื่อมระหว่างภายในบ้านและ Court นอกบ้าน ด้วยขนาดบานที่ใหญ่เกือบเท่าความสูงฝ้าที่ 2.8 เมตร ทำให้การมองเห็นจากภายใน-นอกบ้านเกิดความเชื่อมต่อกัน
บานประตูเลื่อนเป็นบานกระจกตัดแสงแบบ Double glass กันชน ตัวกรอบเป็นอลูมิเนียมอบสีดำพร้อมติดตัวจับสัญญาณกันขโมยเวลาเข้า-ออก สามารถเปิดได้จากทั้งสองฝั่ง
รางม่านด้านบนก็จะให้มาความกว้างพอที่จะติดม่าน 2 ชั้น แต่จะไม่มีม่านและรางม่านมาให้
ตัวล็อกจะสามารถเปิดโดยเลื่อนขึ้น-ลงได้จากภายในบ้าน ส่วนภายนอกบ้านรูปขวาก้จะเป็นที่เปิดเฉยๆ
ระหว่างบานทั้งสองบานก็จะมีตัวล็อกอีกชั้นหนึ่งเป็นแบบเกี่ยวเข้ากับตะขอ ซึ่งสเปควัสดุของบานตัวนี้ดี เปิดแล้วรู้สึกแข็งแรง
ส่วนพื้นจากภายในบ้านมาภายนอกก็จะลดระดับเป็นปกติ แต่นี้เป็นระดับของ Deck ไม้ที่ทำเพิ่มเข้ามา ความจริงแล้วระดับของพื้นหญ้ารอบตัวบ้านจะอยู่ต่ำกว่านี้อีกหน่อย
พื้นที่ Court ตรงกลางปูให้มาเป็นพื้นหญ้าสีเขียวเต็มพื้นที่ แต่ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของครอบครัว ซึ่งพื้นที่ตรงนี้จะไม่ค่อยโดนแดดตรงๆเท่าไร เนื่องจากตัวบ้านที่เป็น L-shape และต้นไม้ใหญ่จะบังแดดได้ดี
กลับมาที่ห้องรับแขกส่วนด้านในที่เป็นพื้นที่ทานข้าว ในบ้านตัวอย่างวางโต๊ะทานข้าวขนาด 6 ที่นั่ง แต่ความจริงก็สามารถขยายความยาวได้เพิ่มเป็น 8 ที่นั่ง ด้านหลังจะมีประตูเลื่อนบานเปิด และทางขวามือจะเป็นส่วนเคาท์เตอร์รูปตัว L
จากภาพบ้านมาตรฐานจะไม่มีเคาท์เตอร์และตู้มาให้ แต่จะมีการติดตั้งหลังการโอนกรรมสิทธิ์ตามภาพ ประกอบด้วยเคาท์เตอร์รูปตัว L ไม่รวมเก้าอี้สตูล และทางขวาจะ Built-in ชั้นเก็บของตรงผนังให้ ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ
เคาท์เตอร์รูปตัว L ประกอบไปด้วยที่วางของ ด้านล่างเป็นชั้นเก็บของมีบานปิด ส่วนทางขวาเป็นลิ้นชักที่แบ่งช่องการใช้งานไว้ให้แล้ว ด้านบนเป็นตูบานเปิดที่อยู่ในระดับไม่สูงมากพร้อมใช้งาน สามารถใช้ปิ้งขนมปังทาแยมเทซีเรียลตอนเช้าได้
บานเปิดทุกบานจะเป็นแบบ Soft closed และมีสวิสช์ไฟเปิดได้
ส่วนฝั่ง Built-in ก็จะเป็นชั้นเก็บของทั้งแบบมีบานปิดและไม่มีบานปิด ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆเช่น เตาอบ ตู้เย็น ซึ่งจะต้องมีการวัดขนาดก่อนซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าบ้านแน่นอน
ส่วนบานประตูอีกบานด้านในเป็นบานเลื่อน 2 ตอนกรอบอลูมิเนียมอบสีดำ เข้าไปสู่ครัวข้างบ้านหรือที่เรียกว่าครัวไทย
พื้นห้องครัวจะอยู่ต่ำกว่าพื้นภายในบ้านหน่อยประมาณ 5 เซนติเมตร มีบัวตามแนวพื้นทาสีขาว
ห้องครัวก็เช่นกัน จะได้เคาท์เตอร์ อ่างล้างจาน เตาพร้อมที่ดูดควันเมื่อมีการโอนกรรมสิทธิ์ แต่ก็จะได้เหมือนกับภาพบ้านตัวอย่างด้านล่าง เป็นเคาท์เตอร์รูปตัว L มีอ่างล้างจาน 2 หลุมพร้อมพื้นที่วางของ ทางขวามือมีเตาแบบ 4 หัวและที่ดูดควัน ส่วนบานปิดด้านล่างให้มาพร้อมๆกัน
ปกติโครงการแนวราบจะไม่ค่อยให้บานปิดด้านล่างมานะคะ แต่โครงการนี้ได้ทั้งบานเปิดและแบบลิ้นชักแบ่งช่องให้เลย
เตาเป็นแบบแก๊ส 4 หัวหมุนบิดปกติ เหมาะกับครัวไทย ส่วนที่ดูดควันก็จะต่อท่อออกไปนอกบ้านมาให้เลย ตัวช่วยก็จะเป็นหน้าต่างบานเลื่อนเหนืออ่างล้างจานหลังบ้านที่สามารถระบายกลิ่นและควันได้อีกทาง
พื้นที่อีกฝั่งของห้องครัวก็จะมีการต่อท่อเครื่องซักผ้าเข้ามาให้ และมีประตูออกไปยังพื้นที่ซักล้างข้างบ้าน
ประตูบาน UPVC สำเร็จรูป มีที่จับทรงกลม กดล็อคได้จากด้านใน ข้างบนมีตัวล็อกลงกลอนอีกจุดหนึ่งเพื่อความแน่นหนา
พื้นที่ซักล้างนอกบ้านก็จะอยู่ต่ำกว่าพื้นที่ครัวไทยลงมาอีกที โดยทั้งสองจุดปูด้วยกระเบื้องเพื่อการทำความสะอาดง่ายๆ
จากพื้นที่ซักล้างข้างบ้านที่อยู่ใกล้กับห้องแม่บ้าน ก็สามารถออกไปยังพื้นที่หน้าบ้านได้เลย เวลาเจ้าของบ้านมีแขกแม่บ้านก็สามารถเข้าตัวบ้านได้จากห้องครัว
กลับมาที่ห้องรับแขกอีกครั้ง
คราวนี้เราจะพาไปดูฝั่งขวามือคือทางเดินไปยังห้องน้ำชั้นล่างและห้องเอนกประสงค์ที่อยู่ส่วนหน้าบ้านกัน
จากทางเดิน ห้องทางซ้ายคือทางเข้าห้องน้ำชั้นล่าง และตรงไปจะเข้าห้องเอนกประสงค์ ตัวบานประตูบ้านตัวอย่างไม่ได้ติดมาให้ดูแต่ก็จะเป็นบานผลักทั้งคู่
ภายในห้องน้ำ ก็จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนการใช้งาน เริ่มจากที่ใกล้ตัวคืออ่างล้างมือพร้อมบานปิดด้านล่าง โถสุขภัณฑ์แบบ 2 ชิ้นด้านบนมีกระจกขนาดใหญ่ ในสุดคือพื้นที่อาบน้ำแบบยืน ไม่มีกระจกหรือฉากกั้นพื้นที่มาให้ ที่ผนังหน้าบ้านมีบานกระทุ้งเพื่อระบายอากาศ
ระดับพื้นห้องน้ำก็จะลดลงทางพื้นทางเดิน โดยพื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องสีอ่อนขึ้นไปรวมถึงผนังทั้งสี่ฝั่ง
อ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยมจาก Kohler และก๊อกน้ำจาก VRH มีลิ้นชักด้านล่างแบบดึงออกมา ดูเรียบร้อยกว่าแบบประตูดึงบานคู่ ข้างๆที่ผนังมีปลั๊กไฟพร้อมกล่องกันน้ำครอบ
โถสุขภัณฑ์ 2 ชิ้นจาก Kohler เช่นกัน ข้างๆมีที่ใส่ทิชชูและสายชำระและจุดระบายน้ำ
ด้านในสุดมีพื้นที่อาบน้ำแบบยืน ลดระดับลงจากพื้นที่ส่วนแห้งนิดหน่อย ฝักบัวจาก VRH และมีก๊อกน้ำด้านล่างอีกจุดหนึ่ง ผนังด้านหน้าบ้านก็จะเป็นบานกระทุ้งกระจกฝ้าระบายอากาศ
พื้นส่วนอาบน้ำจะลดระดับลงจากพื้นที่ส่วนแห้งหน่อยประมาณ 3 เซนติเมตร สำหรับห้องน้ำชั้นล่างไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้แต่ห้องน้ำชั้นบนจะมีนะคะ
อุปกรณ์ภายในห้องน้ำจาก VRH เป็นฝักบัวมือจับพร้อมที่วางสบู่ 1 ก้อนถ้วน ไม่มีการคว้านผนังให้วางสบู่หรืออุปกรณ์ในห้องน้ำอื่นๆ แต่ด้านล่างมีก๊อกน้ำอีกจุดรวมถึงที่ดึงตากผ้า
หัวฝักบัวค่อนข้างใหญ่ แต่น้ำหนักมั่นคงดี
ต่อมาเป็นห้องเอนกประสงค์ที่พื้นต่อกับทางเดินเป็นวัสดุหินอ่อนอัดยาวเข้าไป
ภายในห้องเอนกประสงค์จะได้ห้องโล่งๆตามปกติ ได้ Wallpaper ทุกด้าน มีหน้าต่างบานเลื่อน 2 ตอน บานค่อนข้างใหญ่ ด้านล่างเป็นบาน Fixed ที่มีจุดประสงค์ให้มองเห็นพื้นที่รอบบ้านทั้งข้างบ้านและตรง Court
ภายในห้องตัวอย่างจัดเป็นห้องพักผ่อน มีเก้าอี้นอนและชั้นวางหนังสือ Built-in เข้าผนัง มีตำแหน่งแอร์เหนือหน้าต่างข้างบ้าน ที่จริงถ้ามีผู้ใหญ่ก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนได้ แต่ว่าก็จะวางได้ประมาณ 3 ฟุต ถ้าขนาดใหญ่กว่านั้นก็จะอึดอัดนิดนึง
อีกฝั่งหนึ่งก็จะเป็นจุดระบบทีวี จะวางเป็นชั้นวางของแล้ววางทีวีด้านบน หรือว่าจะเป็นทีวีติดผนัง
ที่นี่มีปลั๊กไฟสามตาเยอะมากนะคะ เกือบทุกจุดที่จำเป็นทั้งข้างทีวีทุกจุด ข้างตำแหน่งโซฟา ข้างเตียงทั้งสองฝั่ง และมีสวิสช์เปิด-ปิดประหยัดไฟและความปลอดภัยอีกทาง
ออกมาที่ห้องรับแขกก่อนจะถึงโซฟาจะมีทางเดินเข้าไปยังบันไดและห้องเก็บของใต้บันได
ห้องเก็บของใต้บันไดเป็นบานประตูแบบเปิด ที่จับดูดีเกินจะเป็นห้องเก็บของคือเป็นคันโยกและล็อกด้วยกุญแจ ภายในก็จะเป็นพื้นยาวต่อเนื่องเข้าไปจากทางเดิน ความสูงห้องเก็บของก็จะตามพื้นของบันได
บันไดเป็นแบบ 3-Flight หรือ 3 ตอนมี 2 ชานพัก ลูกตั้ง ลูกนอนและชานพักทำจากไม้จริง(ไม้แดง) สำหรับแบบ 3-4 และวัสดุไม้สำเร็จรูปแบบ 1-2
มองจากบนชั้น 2 ลงมา ภาพบนถ่ายจากบ้านมาตรฐานและภาพล่างมาจากบ้านตัวอย่าง ซึ่งวัสดุจะมีความแตกต่างกันบ้างตามสไตล์บ้านสร้างเสร็จพร้อมอยู่ก็จะแล้วแต่ล็อตของวัสดุ ซึ่งก็ขึ้นกับความชอบของแต่ละครอบครัว
ที่ชานพักของบันไดขึ้นชั้น 2 ก็จะมีตัวจับสัญญาณระบบกันขโมยติดอยู่
วัสดุของลูกนอนบันไดซึ่งเป็นไม้จริงจะแตกต่างกับพื้นของชั้น 2 ที่จะเป็นปาเก้ไม้แดง ลายมีความลึกด้วยหลังจากลองสัมผัสดูแล้ว
ส่วนโถงบันไดจะไม่ได้ให้ Chanderlier มาด้วย แต่จะมีฝ้าหลืบด้านบนเพื่อความสวยงามและมีช่องแสงแบบบานกระทุ้ง 2 บานล่างและบาน Fixed สองบานด้านบนเพราะยังไงก็เอื้อมเปิดไม่ถึงอยู่แล้ว สามารถติดม่านเพื่อความอลังการหรือจะติดมูลี่แบบบ้านตัวอย่างก็ได้
จากบันไดเดินขึ้นมาก็จะเจอกับห้องนั่งเล่นบนชั้น 2 ที่อยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอนหน้าบ้านและหลังบ้าน ความสูงของชั้น 2 เท่ากับชั้น 1 ที่ 2.8 เมตร แอร์ที่ใช้ในห้องนี้จะเห็นว่าเป็น Cassette type อยู่ที่ฝ้าจะไม่ได้นะคะ อาจจะต้องซื้อแบบ Wall type ธรรมดามาติดแทน ส่วนหน้าต่างบานคู่สองบานด้านในจะมองลงไปเห็น Court ตรงมุมหลังบ้านพอดี
วิว Court หลังบ้านดูฟูเต็มทั้งในส่วนการจัดตกแต่งและต้นไม้ที่ลง
ด้านบนของพื้นที่นั่งเล่นจะเป็นหลืบฝ้าตามภาพบน
ฝั่งขวามือจะเป็นทางเข้าไปยังห้องน้ำตรงกลางที่ต้องใช้ร่วมกัน แยกซ้ายไปยังห้องนอนกลาง แยกขวาไปยังห้องนอนเล็ก
ฝั่งซ้ายมือจะมีจุดที่ต่อกับทีวีสามารถเป็นแบบตั้งโต๊ะหรือติดผนังได้ หรือจัดเป็นชั้นวางของ Built-in เต็มผนังสวยๆ เป็นทางเข้าของห้องนอนใหญ่หน้าบ้านพอดี หน้าประตูทางเข้าห้องนอนใหญ่จะมีแผงควบคุมของระบบสัญญาณกันขโมยด้วย
พื้นของห้องนอนใหญ่ก็จะเป็นปาเก้ไม้แดงเหมือนกับห้องนั่งเล่นชั้นบนในระดับเดียวกันราบไปเรื่อยๆ
เดินเข้ามาภายในห้องนอนใหญ่ก็จะเจอกับเตียงวางอยู่ชิดผนัง มีพื้นที่ข้างเตียงทั้งสองฝั่ง ตรงข้ามเป็นชั้นวางของและชั้นวางทีวี ด้านในเป็นพื้นที่ทำงานและพื้นที่นั่งเล่น สามารถวางโซฟายาวๆได้อีกตัว แต่บ้านจริงก็จะให้เป็นห้องโล่งๆ ผนังหัวเตียงคือผนังหน้าบ้าน จะสังเกตว่าไม่มีช่องเปิดหรือระเบียงที่ออกไปได้ แต่ระเบียงจะอยู่ที่ข้างบ้าน
พื้นที่ผนังปลายเตียงใรบ้านตัวอย่าง Built เป็นชั้นวางของยาวตามความยาวของห้องนอนแต่เป็นแบบติดผนัง ไม่ใช่วางบนพื้น ก็ดูเรียบร้อยดีนะคะ ด้านในเป็นโต๊ะทำงานที่อยู่ด้านหน้าหน้าต่างบานเลื่อน
พื้นที่ห้องด้านในเป็นพื้นที่นั่งเล่นและทำงาน มีช่องแสงทั้งสามด้านเป็นกระจกตัดแสง กรอบอลูมิเนียมอบสีดำ ด้านบนจะมีการเว้นช่องเป็นหลืบม่านเก็บรายละเอียดให้
วิวจากพื้นที่ทำงานภายในห้องนอนก็จะเห็น Court ตรงมุมหลังบ้าน ซึ่งเป็นการออกแบบให้ทั้งครอบครัวสามารถมองเห็นกัน เช่นลูกๆนั่งเล่นอยู่ด้านล่าง พ่อแม่ที่ทำงานอยู่ภายในห้องนอนก็จะเห็นลูกอยู่ในสายตา
ประตูบานเลื่อน 2 ตอนออกไปยังระเบียงข้างบ้าน ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าระเบียงห้องนอนทั่วไป ความกว้างสามารถวางโต๊ะจิบชาและเก้าอี้ 2 ตัวได้สบายๆ มีราวกันตกเป็นกระจก Tempered พร้อมราวจับสำเร็จรูป
ระดับพื้นของระเบียงก็จะอยู่ต่ำกว่าภายในห้องนอนนิดหน่อย
จากระเบียงหันไปยังหน้าบ้าน จะมีการปลูกต้นไม้บังสายตาจากภายนอก ป้องกันความเป็นส่วนตัว
ตรงระเบียงมีก๊อกน้ำสำหรับรองรับการซักล้างถูๆ
และมีช่องให้น้ำไหลลงได้ที่สวนหน้าบ้านพอดี
วิวหน้าบ้านจากระเบียงห้องนอนใหญ่ จะเห็นคนผ่านเข้าออกได้
จากระเบียงหันกลับมาที่ภายในห้องนอนด้านใน จะเห็นว่ามีฝ้าหลืบ ร่องม่านให้เรียบร้อย ถ้ามองจากบ้านมาตรฐานจะไม่มีส่วนที่กั้นเป็น Walk-in closet กว้างประมาณ 1.5 เมตร ก่อนถึงห้องน้ำ
แต่ในบ้านตัวอย่างจะตกแต่งภายในให้มีฉากกั้นรางบนแบบกระจกใส เพื่อป้องกันแอร์ออกบ้างและเพื่อกั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน
ภายในส่วน Walk-in closet ของบ้านตัวอย่างจะมีส่วนที่เป็นโต๊ะเครื่องแป้งและกระจก แต่การอยู่อาศัยจริงน่าจะต้องเป็นโต๊ะที่มีลิ้นชักเพิ่มเติมเพื่อเก็บของหน่อยนะคะ
ฝั่งขวาของพื้นที่ Walk-in closet จะเป็นราวเสื้อผ้าสองฝั่ง สามารถ Built แบบนี้ได้เลยหรือว่าจะเป็นแบบบานปิดกันฝุ่นอีกชั้นก็ได้ แล้วทำหน้าบานเป็นกระจกเต็มตัวจะได้ Function ครบทีเดียวไปเลย
ต่อมาเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำภายในห้องนอนใหญ่ที่ในบ้านตัวอย่างไม่ได้ติดมาให้ดู แต่จะเป็นบานประตูไม้ปิดผิวลามิเนตแบบเปิดผลักเข้าไป
ระดับพื้นของห้องน้ำที่ปูด้วยกระเบื้องจะลดระดับลงจากพื้นปาเก้ห้องนอนหน่อยประมาณ 3 เซนติเมตร
ภายในห้องน้ำก็จะมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 4 ส่วน ฝั่งซ้ายมือสุดจะเป็นอ่างล้างมือพร้อมที่วางของข้างๆ ด้านล่างให้เป็นตู้เก็บของใช้ภายในห้องน้ำ ตรงผนังติดเป็นกระจกบานใหญ่ ด้านหน้าเป็นอ่างอาบน้ำพร้อมก๊อกน้ำและหน้าต่างบานเปิดหน้าบ้าน ส่วนทางขวามือจะเป็นโถสุขภัณฑ์และพื้นที่ยืนอาบน้ำ
อ่างอาบน้ำเป็นแบบฝังเข้าไปในพื้นที่ก่อปูนแล้วปิดด้วยกระเบื้อง ความกว้างของพื้นที่ที่ยื่นออกมาไม่สามารถนั่งได้นะคะ กว้างไม่พอ แต่ก็พอจะใช้วางอุปกรณ์และข้าวของเครื่องใช้ได้
ก๊อกเป็นแบบหมุนร้อน-เย็น มีฝักบัวพร้อมที่แขวน
มองมาทางขวาจะเป็นโถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว ดูดีขึ้นกว่าแบบสองชิ้นแน่นอน ทางซ้ายเป็นพื้นที่อาบน้ำแบบยืนมาพร้อมฉากกั้นอาบน้ำแบบ Tempered glass สูง 2 เมตร มีการก่อปูนเป็นที่นั่งด้านในด้วยนะคะ
พื้นที่อาบน้ำที่มาพร้อมกับฉากกั้นอาบน้ำ 2 ด้านเป็นแบบ Tempered glass กันกระแทก เป็นบานเปิดแบบผลักเข้าไป
พื้นที่อาบน้ำก็จะมีจุดท่อน้ำอยู่ที่ด้านใน และมีกันชนทั้งสองฝั่งเพื่อความเรียบร้อย
ระดับพื้นที่อาบน้ำจะลดลงจากพื้นที่ห้องน้ำส่วนอื่นๆลงนิดหน่อยประมาณ 3 เซนติเมตร มีกันชนสำหรับเวลาปิดทำจากยางสีดำกันกระแทก
ฝักบัวมีทั้งแบบมือจับและแบบ Shower จากด้านบนจาก VRH ที่มุมของห้องน้ำก็จะมีช่องแสงที่ติดด้วยฟิล์มขุ่นๆ เพื่อประหยัดไฟในช่วงกลางวัน
เมื่อปิดประตูห้องน้ำจะเจอกับพื้นที่นั่งอาบน้ำที่เกิดจากการก่อปูนแล้วปิดด้วยกระเบื้องอีกชั้นนึง พื้นที่นั่งสามารถเป็นที่วางของใช้ภายในห้องน้ำไปด้วยในตัว และจะมีจุดกันกระแทกสำหรับการเปิดประตูฉากกั้นอาบน้ำด้วย
ต่อมาเป็นห้องนอนฝั่งหลังบ้านกันบ้าง ทางซ้ายมือเป็นห้องนอนกลาง ขวามือเป็นห้องนอนเล็ก และตรงกลางเป็นห้องน้ำที่สมาชิกของทั้งสองห้องต้องใช้ร่วมกัน เพราะห้องนอนกลางและเล็กไม่มีห้องน้ำในตัวเป็นของตัวเองรวมถึงระเบียง
มาเริ่มที่ห้องนอนกลางกันก่อน ห้องนอนกลางพื้นจะต่อเนื่องเป็นวัสดุไม้ปาเก้เหมือนพื้นชั้น 2 ห้องอื่นๆ ด้านในสามารถวางเตียงใหญ่ได้ มีหน้าต่างบานเลื่อนอยู่ที่ 2 ฝั่งของห้องซึ่งสังเกตว่าบานที่ใหญ่กว่าคือบานซ้ายมือจะมีบาน Fixed เพิ่มเข้ามา เมื่อมองลงไปจะเจอกับ Court มุมทานข้าว Open air นั้นเอง ส่วนหน้าต่างบานขวามือจะเป็นวิวหลังบ้านปกติ
ผนังปลายเตียงสามารถจัดเป็นโต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางทีวี ชั้นวางหนังสือ ที่เก็บของหรือวางกีต้าร์ได้หมดทั้งผนัง
วิวจากหน้าต่างบานใหญ่ข้างบ้าน ถ้ามองในระดับเดียวกันก็จะเจอระเบียงข้างบ้านของห้องนอนใหญ่ ถ้ามองลงก็จะเป็นพื้นที่ Court ตรงกลางของบ้านพอดี
ภายในบ้านตัวอย่างพื้นที่ข้างเตียงก็จะเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in แต่ในบ้านมาตรฐานก็จะไม่ได้ รวมถึงแอร์ด้วย
เดินออกมาจากห้องนอนกลางมาตรงทางเดิน ซ้ายมือก็จะเป็นห้องน้ำที่ต้องใช้ร่วมกัน และขวามือเป็นทางเข้าห้องนอนเล็ก
ภายในห้องน้ำก็จะเป็นพื้นที่การใช้งานแบบ 3 ส่วนตามมาตรฐาน ชิ้นสุขภัณฑ์เหมือนกันกับห้องน้ำชั้นล่าง คือสุขภัณฑ์จาก Kohler และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำจาก VRH ที่เพิ่มเข้ามาจากห้องน้ำด้านล่างคือฉากกั้นอาบน้ำที่เป็นแบบ Tempered glass ด้านในสุดเป็นแบบานเปิดผลัก
ห้องสุดท้ายแล้วของแบบบ้านนี้ คือห้องนอนเล็กที่อยู่หลังบ้าน เป็นห้องที่มีขนาดต่างกับห้องนอนกลางนิดเดียว แต่ห้องนอนนี้จะเป็นห้องเดียวที่ไม่ได้วิว Court ตรงกลางของบ้าน ภายในมีหน้าต่างบานเลื่อนสองฝั่งเหมือนปกติ พื้นปาเก้ มี Wallpaper ติดเรียบร้อย
นอกเหนือจากพื้นที่การวางเตียงแล้ว ผนังข้างเตียงก็จะสามารถใส่ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ และจิปาถะได้มากมาย
บ้านเดี่ยวหลังที่เป็นบ้านตัวอย่างอีกแบบคือ WAREE เป็นแบบบ้านขนาดเล็กที่สุดของโครงการ ขนาดที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอย 189 ตร.ม. เป็นบ้านแบบเดียวที่อาคารเป็นสี่เหลี่ยม ไม่ใช่ตัว L พื้นที่ใช้สอยประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 2 ที่จอดรถ ที่มีระบบการเปิดรั้วบ้านเป็นรีโมทอัตโนมัติเช่นกัน รอบตัวบ้านมีพื้นที่สีเขียว ปูหญ้าจริงให้เรียบร้อยรอบบ้านรวมถึงต้นไม้ใหญ่ลงให้ จากผังสามารถเข้าถึงในบ้านได้จาก 3 ทางหลัก คือบานประตูไม้สักบานคู่เปิด-ปิดหน้าบ้านทางห้องนั่งเล่น, ประตูเปิด-ปิดหลังบ้านจากส่วนซักล้างเข้ามาเจอครัวไทย และจากประตูบานเลื่อนใกล้กับพื้นที่ทานข้าว
จากทางเข้าหลักหน้าบ้านส่วนห้องนั่งเล่น ตรงเข้ามาจะเป็นพื้นที่ทานข้าวที่สามารถวางโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ได้ประมาณ 6 ตัวรวมหัวท้าย ขวามีเป็นบานเลื่อนเปิดออกไปยังพื้นที่สีเขียวรอบบ้านได้ จากพื้นที่ทานข้าว ซ้ายมือเป็นเคาท์เตอร์ครัวรูปตัว L ที่ทางโครงการจะให้มาทั้งชุดและมีประตูบานเลื่อนเข้าไปยังครัวไทยที่จะให้เคาท์เตอร์ครัวและบานปิด มีประตูเปิดออกไปยังพื้นที่ซักล้างปกติ ข้างๆกับห้องครัวไทยจะเป็นห้องน้ำชั้นล่าง และมีบันไดขึ้นชั้น 2 อยู่ข้างๆกัน
บนชั้น 2 เมื่อเดินขึ้นมาจะเจอห้องน้ำอยู่ด้านหน้าเป็นห้องน้ำที่ต้องใช้ร่วมกันระหว่างสมาชิกของห้องนอนกลางและห้องนอนเล็กหลังบ้าน และหน้าบ้านจะมีห้องนอนใหญ่ที่มีระเบียงข้างบ้านและห้องน้ำในตัวเรียบร้อย เหตุที่มีระเบียงข้างบ้านก็คล้ายๆกับการออกแบบบ้านเป็นรูปตัว L ของแบบบ้านอื่นๆ เนื่องจากทางโครงการเห็นว่าการมีระเบียงอยู่หน้าบ้านจะไม่มีความเป็นส่วนตัวเท่าที่ควร ทำให้การใช้งานกับพื้นที่นั้นไม่เต็มที่ เลยปรับเปลี่ยนการวางระเบียงให้มาอยู่ด้านข้างบ้านและมีขนาดใหญ่หน่อย พอที่จะวางชุดเก้าอี้ได้สบายๆ เพื่อที่จะได้ใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์จริงๆ
ด้านหน้าของตัวบ้านจะเป็นรั้วโปร่งสีดำกั้นระหว่างซอยและพื้นที่จอดรถ แตกต่างจากบ้านแบบที่แล้วที่มีที่จอดรถ 2 คันเพราะเป็นบ้านแบบเล็กที่สุดของโครงการ แต่ว่าจะเป็นประตูเลื่อนแบบอัตโนมัติกดด้วยรีโมทเหมือนเดิม พื้นที่รอบบ้านก็จะมีการปูหญ้าลงต้นไม้ให้ ประตูทางเข้าอยู่หน้าบ้าน ด้านบนเป็นหน้าต่างบานเลื่อนจากห้องนอนใหญ่ ไม่มีระเบียงหน้าบ้านเหมือนเดิมเพื่อความเป็นส่วนตัว
ฝั่งซ้ายมือของประตูเลื่อนหน้าบ้านจะเป็นประตูเล็กไขกุญแจบานเปิดปกติ มีไฟส่องสว่าง มีกริ่งหน้าบ้านให้
ฝั่งขวามือก็จะเป็นที่ทิ้งขยะจากในบ้านและคนมาเก็บจะหยิบได้จากภายนอก
พื้นที่จอดรถ 2 คันเป็นโครงสร้างวางบนคานรับน้ำหนักและวางบนดินบางส่วน มีการปูกระเบื้องแบบเอียงลาด และโรยหินกรวดบางจุด ไฟที่ซ่อนอยู่ที่เสาก็จะมีด้วยกัน 3 ต้น
พื้นที่ข้างบ้านจะเป็นทางเดินไปยังพื้นที่ซักล้างที่เปิดออกมาจากตัวบ้านได้จากส่วนครัวไทย แต่ข้างบ้านของแบบนี้จะไม่มีห้องแม่บ้านนะคะ โดยการจัดสวนจะมีการปูหญ้าให้ เดินได้รอบบ้านเป็นพื้นที่ต่อเนื่อง
ส่วนพื้นที่ซักล้างข้างบ้านปูด้วยกระเบื้อง มี Compressor แอร์ติดอยู่ที่ข้างบ้านบ้างหลังบ้านบ้าง มีทางเดินไปยังพื้นที่หลังบ้านที่ทำเป็นมุมนั่งเล่น
มุมนั่งเล่นหลังบ้านจัดเป็น Deck ไม้ยกขึ้นจากระดับหญ้าปกติ มีหลังคากันสาดและทำมุมบ้านเป็นพื้นที่นั่งแบบวางเบาะสบายๆพร้อมต้นไม้ใหญ่ที่มุมหลังบ้าน ส่วนรั้วบ้านก็จะจัดเป็นไม้พุ่มตัดแต่งสูงประมาณ 3 เมตร แต่ในส่วนบ้านที่ติดกับพื้นที่คลองหรือบ้านพักนอกโครงการก็จะต่อขึ้นอีกเป็น 5 เมตร
ข้างบ้านอีกฝั่งก็จะมีการต่อเติม Deck เพิ่มเข้ามาอีก และฝั่งนี้จะมีประตูบานเลื่อนบานใหญ่มากเป็นแบบ Temperred กันกระแทก มีระบบป้องกันการขโมยติดตั้งให้
กลับมาที่หน้าบ้านก็จะมีประตูเข้าตัวบ้านอยู่ที่เฉลียงหน้าบ้านที่ปูด้วยกระเบื้อง และขอบๆคือเป็นทรายล้าง
ประตูทางเข้าตัวบ้านเป็นบานคู่ แบบนี้จะได้วัสดุประตูเป็นประตูไม้ปิดผิวลามิเนต ถ้าเป็นแบบบ้าน 3-4 จะได้เป็นบานไม้สักคู่แบบดึกออก การเปิดปิดประตูเป็นแบบหมุนเปิดล็อก แต่ก็สามารถล็อกทั้งตัวบานได้อยู่ที่ด้านความหนาของบานประตู สามารถดึดให้เปิดขึ้นเพื่อปลดล็อก
เข้ามาด้านในห้องแรกที่เจอจะเป็นห้องรับแขก พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ มีการวางชุดโซฟารูปตัว L ทางด้านขวามือชิดกับผนัง และฝั่งตรงข้ามมีชั้นวางของและมีระบบพร้อมสำหรับการติดทีวี ด้านในเป็นพื้นที่ทานข้าวเก้าอี้ 4 ตัว สามารถเพิ่มต่อหัวท้ายได้อีกรวมเป็น 6 ตัวค่ะ
จากมุมด้านในของพื้นที่ทานข้าว ทางขวามือจะเป็นประตูบานเลื่อน 2 ตอน ขนาดใหญ่เป็นส่วนที่เชื่อมระหว่างภายในบ้านและพื้นที่เฉลียงข้างบ้าน ด้วยขนาดบานที่ใหญ่เกือบเท่าความสูงฝ้าที่ 2.8 เมตร ทำให้การมองเห็นจากภายใน-นอกบ้านเกิดความเชื่อมต่อกัน ตัวบ้านเป็นกระจก Tempered และกรอบบานเป็นอลูมิเนียมอบสีดำ มีร่องม่านให้
ฝั่งขวาของโต๊ะทานข้าวเป็นเคาท์เตอร์ครัวรูปตัว L ที่อยู่ด้านหน้าครัวไทย ซึ่งบ้านมาตรฐานจะได้แบบนี้เลย ทางขวามือจะเป็นห้องน้ำชั้นล่าง บันไดขึ้นชั้นสองและห้องเก็บของใต้บันได
เคาท์เตอร์ตัว L ที่ได้จะได้ฝั่งเดียวไม่เหมือนกับบ้านแบบที่แล้วที่ได้สองฝั่งซ้ายขวา ประกอบไปด้วยลิ้นชักสองชั้น ตู้เก็บของและชั้นวางต่างๆ สามารถนำเก้าอี้สตูลมานั่งทานข้าวเช้าแบบง่ายๆได้
ลิ้นชักและบานบิดทุกบานจะเป็นแบบ Soft closed มีการแบ่งช่องใช้งานด้านในให้แล้ว
ตู้ Built-in นี้สร้างมาแบบเหลือเฟือเลย ส่วนตู้เย็น อ่างล้างจาน เตาทำอาหารจะอยู่ที่ครัวด้านในนะคะ
ประตูที่กั้นจะเป็นประตูบานเลื่อนแบบ 2 ตอน พื้นที่ครัวไทยจะลดระดับลงมานิดหน่อยเผื่อมีการทำความสะอาดครัวหรือระบบน้ำมีปัญหา
ภายในครัวไทยที่อยู่ข้างบ้านก็จะได้ตามที่เห็น ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างตู้เย็นหรือเครื่องซักผ้า เคาท์เตอร์ก็จะมีอ่างล้างจานแบบ 1 หลุมพร้อมพื้นที่ข้างๆมาพร้อมบานปิด มีช่องแสงบานเลื่อนเล็กๆจากหลังบ้าน
ส่วนอีกฝั่งก็จะเป็นตำแหน่งวางตู้เย็น และเคาท์เตอร์ที่มีเตาและที่ดูดควันอยู่ด้านบน พร้อมพื้นที่เตรียมอาหารข้างๆกัน ทางซ้ายมือก็จะเป็นประตูบานสำเร็จรูป UPVC เปิดออกไปยังพืนที่ซักล้างข้างบ้าน
หน้าบันไดขึ้นชั้น 2 ก็จะมีห้องน้ำชั้นล่างอยู่ทางซ้ายมือและมีห้องเก็บของใต้บันไดที่มีประตูค่อนข้างสูงที่เดียว
ห้องน้ำชั้น 1 เป็นแบบ Powder room ซึ่งมีการใช้งานสองส่วนคือแบบอ่างล้างมือและมีลิ้นชักขนาดใหญ่ด้านล่าง ข้างๆเป็นโถสุขภัณฑ์แบบ 2 ชิ้น ด้านหลังมีก่อปูนยื่นออกมาให้วางของใช้ได้ แต่ภายในห้องนี้ไม่มีพื้นที่อาบน้ำนะคะ อาจจะเพราะว่าไม่มีห้องเอนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนได้ อาจจะไม่มีความจำเป็นในการอาบน้ำที่ชั้นล่าง
ห้องเก็บของใต้บันไดค่อนข้างใหญ่ทีเดียว มีที่เปิดแบบคันโยกดึงเปิดและไขกุญแจปิดได้ ด้านในมีสวิสช์ไฟ
บันไดจากชั้น 1 ขึ้นไปยังชั้นสองมีลูกนอนและลูกตั้งเป็นไม้สำเร็จรูป
แบบบ้านนี้บันไดมีชิ้นสามเหลี่ยมก่อนจะถึงพื้นที่ชั้นสอง พื้นเปลี่ยนจากวัสดุลูกนอนที่เป็นไม้สำเร็จรูปเป็นพื้นไม้ Engineering wood ที่พื้นชั้นสอง
พื้นที่ชั้นสองจะแจกเป็นห้องนอน 3 ห้องและห้องน้ำ 1 ห้อง ไม่มีห้องนั่งเล่นตรงกลาง โดยห้องซ้ายมือเป็นห้องนอนใหญ่หน้าบ้าน ห้องขวามือสองห้องเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องขนาดใกล้เคียงกัน ตรงหน้าเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนเล็กสองห้อง ความสูงของชั้น 2 อยู่ที่ 2.8 เมตร
เริ่มที่ห้องนอนเล็กทางขวามือสุด ภายในเป็นห้องนอนที่สามารถวางเตียงใหญ่ได้ แต่พื้นที่ข้างเตียงก็จะเหลือพื้นที่น้อยลงตาม มีหน้าต่างบานเลือนสองด้านเหมือนปกติ มีตำแหน่งแอร์อยู่เหนือหน้าต่างข้างเตียง
อีกฝั่งจะเป็นชั้นวางของหรือจะทำเป็นโต๊ะทำงาน มีหน้าต่างบานกระทุ้งข้างอีกบานหนึ่ง
ต่อมาเป็นห้องนอนเล็กที่อยู่ด้านใน ก็จะมีผังคล้ายๆกันคือความจริงจะได้เป็นห้องเปล่า มี Wallpaper ติดให้ แต่ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่างๆรวมถึงม่าน
พื้นที่ข้างเตียงของห้องนอนเล็กสามารถ Built เป็นโต๊ะทำงาน หรือจะทำเป็นแบบ Built-in เพื่อความเรียบร้อย ตรงข้ามกันก็จะมีตู้เสื้อผ้าวางอยู่ ถ้าไม่ใช่อะไรมากมายก็สามารถวางโซฟาตัวเล็กๆที่ยาว 1.2 เมตรได้
ต่อมาเป็นห้องน้ำที่สมาชิกของห้องนอนเล็กทั้งสองห้องต้องใช้ร่วมกัน ภายในเป็นพื้นที่การใช้งานแบบ 3 ส่วนตามมาตรฐาน ชิ้นสุขภัณฑ์เหมือนกันกับบ้านแบบอื่นๆ คือสุขภัณฑ์จาก Kohler และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำจาก VRH ฉากกั้นอาบน้ำที่เป็นแบบ Tempered glass ด้านในสุดเป็นแบบบานเปิดผลัก
ภายในห้องนอนใหญ่จะมีโต๊ะทำงานที่ทางเข้า ตรงกลางเป็นเตียงขนาด 5 ฟุต มีพื้นที่ข้างเตียงทั้งสองฝั่งเดินได้สบายๆ ฝั่งตรงข้ามมีจุดที่ต่อกับทีวีติดผนัง ด้านในมีตำแหน่งแอร์อยู่เหนือประตูบานเลื่อนออกไประเบียง โดยแอร์ตัวนี้จะอยู่ภายในรายการโปรโมชั่น
เลื่อนประตูเปิดออกมาจะเจอกับระเบียงที่อยู่ข้างบ้านปูด้วยกระเบื้อง พื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่กว่าระเบียงห้องนอนปกติ สามารถวางเก้าอี้ซักชุดได้ มีราวกันตกเป็นกระจก Temperred
จากระเบียงหันหน้าไปทางหลังบ้านก็จะเจอกับผนังข้างบ้าน มีการแขวน Compressor แอร์ไว้ ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ง่ายทำให้การซ่อมบำรุงไม่ต้องลำบากใจมากนัก
จากระเบียงข้างบ้านหันหน้าเข้าหาพื้นที่ภายในห้องนอน จะเจอกับส่วนที่กั้นขึ้นมาเพื่อเป็นโต๊ะทำงาน แต่ในบ้านมาตรฐานจริงจะไม่มีมา คือจะเปิดโล่งยาวไปถึงหน้าห้องน้ำทางขวามือเลย
ผนังฝั่งหน้าบ้านจะไม่มีระเบียงเหมือนแบบบ้านปกติเพราะย้ายไปอยู่ข้างบ้าน แต่ก็ยังมีช่องแสงต่างๆทั้งบานกระทุ้ง บานเลื่อน 2 ตอนและบาน Fixed
พื้นที่หลังฉากที่กั้นขึ้นมาให้ก็จะเป็นชั้นเก็บของ ด้านซ้ายมือจะเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in เป็นความกว้างของห้องนอน ปิดหน้าบานด้วยบานด้วยกระจกใหญ่ ตรงเข้าไปด้านในจะเป็นห้องน้ำภายในตัวของห้องนอนใหญ่
ภายในห้องน้ำจะปูด้วยกระเบื้องรวมถึงกรุที่ผนังทั้ง 4 ฝั่ง มีพื้นที่การใช้งานสามส่วนตามปกติ สเปกวัสดุต่างๆเหมือนกับห้องน้ำด้านนอกของห้องนอนเล็ก
แบบบ้านต่อมาเป็นแบบบ้าน SIKAREE เป็นบ้านขนาดใหญ่อันดับ 3 เป็นแบบบ้านยอดฮิตของโครงการ มีจำนวนยูนิตเยอะ มีพื้นที่ใช้สอย 231 ตร.ม. บ้านรูปตัว L 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 2 ที่จอดรถ โดยแบบบ้านนี้จะมีความคล้ายกับแบบ PHANALEE อยู่มาก แต่ตัดความไม่จำเป็นบางส่วนออกและหน้ากว้างของที่ดินลดลง
โดยจะมี 2 ที่จอดรถ ประตูเปิดด้วยรีโมทอัตโนมัติที่ทางโครงการติดตั้งให้ รอบตัวบ้านมีพื้นที่สีเขียว ปูหญ้าจริงและลงต้นไม้ใหญ่ตามปกติทุกแปลง บ้านเป็นรูป L-shape ชั้น 1 พื้นที่ใช้สอยหลักๆเหมือนกันเป๊ะๆ แต่ตัดห้องแม่บ้านและห้องน้ำแม่บ้านออก แทนที่ด้วนพื้นที่ซักล้างเข้าไป และบนชั้นสองก็จะไม่มีห้องนั่งเล่นของครอบครัวตรงกลาง ก็จะมีห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัวและระเบียงข้างบ้าน มีห้องนอนกลางและห้องนอนเล็กหลังบ้านที่ต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน นอกเหนือจากนั้นคล้ายกับแบบ PHANALEE ดังนั้นจะเหมาะกับครอบครัวที่มีขนาดเล็กกว่า แขกน้อยกว่า มีผู้ใหญ่นอนห้องนอนด้านล่างได้เหมือนเดิม และไม่มีห้องแม่บ้านให้ แต่การออกแบบบ้านรูป L-shape ที่พยายามให้สมาชิกภายในบ้านใช้พื้นที่ร่วมกันและใช้ประโยชน์ได้สูงสุดยังเหมือนเดิม
สุดท้ายเป็นแบบบ้านขนาดใหญ่สุด มีชื่อว่า THARA แบบบ้าน4 มีพื้นที่ใช้สอย 309 ตร.ม. บ้านรูปตัว L 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อน 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ ผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นที่จอดรถ 3 คัน แบ่งออกเป็นแบบที่ผ่านประตูเปิดด้วยรีโมทอัตโนมัติ 2 คัน และแบบที่เป็นลงกลอนต้องเดินมาเปิดอีก 1 คัน รอบตัวบ้านมีพื้นที่สีเขียว ปูหญ้าจริงเรียบร้อยรวมถึงต้นไม้ใหญ่
เปรียบเทียบแบบบ้านนี้กับแบบ PHANALEE อีกครั้ง โดยแบบนี้จะมีหน้ากว้างของเนื้อที่ดินที่มากกว่า ทำให้ตัวอาคารขยายออกด้านข้างตามไปด้วย โดยรวมพื้นที่ใช้สอยหลักๆไม่เปลี่ยนแปลง แต่จะมีการเพิ่มขนาดและดีเทลต่างๆให้มีความเติมยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างที่ห้องเอนกประสงค์ชั้นล่างที่อยู่ข้างห้องน้ำ จะมีขนาดใหญ่กว่าห้องเอนกประสงค์ของ PHANALEE สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนที่วางเตียงขนาดใหญ่ขึ้นได้จาก 3 ฟุตครึ่ง อาจจะเป็น 5 ฟุต แต่ต้องชิดผนัง จุดต่อมาคือที่ครัว แทนที่จะเป็นเคาท์เตอร์รูปตัว L ก็เป็นแบบ Island ตรงกลางสวยๆ และห้องครัวไทยยังมีขนาดใหญ่ขึ้นด้วย ขึ้นมาที่ชั้นสองจะมีห้องนอน 3 ห้องเหมือนเดิม แต่คราวนี้ทุกห้องนอนมีห้องน้ำในตัวเป็นของตัวเองทุกห้อง และเพิ่มความพิเศษที่ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ที่จะมี His and Hers เป็นอ่างล้างหน้าคู่ดูอลังการดี และขยายพื้นที่ห้องน้ำขึ้นอีก
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 29 January 2016
- แบบบ้านที่ 1 WAREE พื้นที่ใช้สอย 189 ตร.ม. ที่ดิน 55.5 ตร.วา ราคา 12.9 ล้านบาทหรือ 232,400 บาท/ตร.วา
- แบบบ้านที่ 1 WAREE พื้นที่ใช้สอย 189 ตร.ม. ที่ดิน 61.3 ตร.วา ราคา 12.9 ล้านบาทหรือ 210,400 บาท/ตร.วา
- แบบบ้านที่ 2 SIKAREE พื้นที่ใช้สอย 231 ตร.ม. ที่ดิน 64.4 ตร.วา ราคา 15.5 ล้านบาทหรือ 240,700 บาท/ตร.วา
- แบบบ้านที่ 2 SIKAREE พื้นที่ใช้สอย 231 ตร.ม. ที่ดิน 83.5 ตร.วา ราคา 17.9 ล้านบาทหรือ 214,380 บาท/ตร.วา
- แบบบ้านที่ 3 PHANALEE พื้นที่ใช้สอย 280 ตร.ม. ที่ดิน 78.1 ตร.วา ราคา 19.9 ล้านบาทหรือ 254,800 บาท/ตร.วา
- แบบบ้านที่ 4 THARA พื้นที่ใช้สอย 309 ตร.ม. ที่ดิน 91.1 ตร.วา ราคา 22.9 ล้านบาทหรือ 251,400 บาท/ตร.วา
- แบบบ้านที่ 4 THARA พื้นที่ใช้สอย 309 ตร.ม. ที่ดิน 101.3 ตร.วา ราคา 22.9 ล้านบาทหรือ 226,00 บาท/ตร.วา (Clubhouse Zone)
- โปรโมชั่น แบบบ้าน 1-2 รับ Cash back 1 ล้านบาท
- โปรโมชั่น แบบบ้าน 3-4 รับ Cash back 2 ล้านบาท
- ประกอบไปด้วย แอร์ห้องรับแขกชั้นล่าง Cassette type, แอร์ห้องนอนใหญ่ Wall type, Pantry Starmark, ครัวไทย Starmark, Wallpaper ทั้งหลังพร้อมติดตั้ง, สัญญาณกันขโมย 2 ระบบ, ประตูรั้วแบบรีโมทพร้อมติดตั้ง, ปั้มน้ำและแท๊งค์น้ำ และสวนรอบบ้านพร้อมลงต้นไม้ใหญ่
- จอง 200,000 บาท
- ทำสัญญา 500,000 บาท ภายใน 7 วันหลังจากวันจอง
- งวดก่อนโอนกรรมสิทธิ์ 25% ของราคาซื้อขาย – (เงินจอง + เงินทำสัญญา)
- ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
PRINN สาทร-ราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ในบริเวณฝั่งธนฯหรือบริเวณตะวันตกของกรุงเทพ เข้าได้จากถนนราชพฤกษ์ ซึ่งเมื่อพูดถึงบ้านบนถนนราชพฤกษ์ก็จะต้องเป็นบ้านขนาดใหญ่ที่มีพี้นที่ไม่ต่ำกว่า 50 ตารางวาหรือ 100 ตารางวาในบางจุด ทำให้พื้นที่บริเวณรอบโครงการจะมีหมู่บ้านแนวราบราคาแรงทที่เข้าได้จากถนนใหญ่อยู่หลายโครงการเริ่มต้นที่ 15 ล้าน และเมื่อเกิดการรวมกันกลายเป็นพื้นที่ที่อยู่อาศัยทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ตามมาประกบ อาทิ Community mall ต่างๆ เช่น The walk, The circle, Food villa, และร้านอาหารขนาดใหญ่ต่างๆ แต่ความจริงแล้วในพื้นที่รอบๆโครงการในวงกว้างออกมาหน่อยจะเป็นแหล่งชุมชนเก่าเช่นที่ถนนจรัญสนิทวงศ์ทางตะวันออก แถวบางแค ท่าพระ หรือตลาดพลูทางถนนเพชรเกษม ที่มีตลาดสด ร้านอาหารอร่อยตามซอยรวมถึง Scale ศูนย์การค้าอย่าง The mall และ Tesco lotus มีโรงพยาบาลพญาไท3 โรงพยาบาลเพชรเกษม2 วัดปากน้ำภาษีเจริญ ส่วนพื้นที่ทางตะวันตกก็จะเป็นพื้นที่ใหม่อย่างพุทธมณฑลสายต่างๆ
การเดินทางโดยใช้รถ โครงการตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ฝั่งมุ่งหน้าไปยังถนนบรมราชชนนี ห่างจากจุดตัดระหว่างถนนราชพฤกษ์และถนนเพชรเกษมลงมาทางใต้ที่มีสถานี BTS บางหว้าตั้งอยู่ประมาณ 1.3 กิโลเมตร และต้องเข้าถนนภาระจำยอมไปอีก 300 เมตร จากหน้าโครงการจะสามารถไปกลับรถที่จุดตัดถนนบางแวกในระยะ 3 กิโลเมตร ถ้าเลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางแวกสามารถไปยังถนนพุทธมณฑลสาย 1 ได้ ส่วนถ้าเลี้ยวขวาจะเข้าซอยจรัญ 13 หรือที่เรียกว่าซอยพาณิชย์ธนไปออกยังถนนจรัญสนิทวงศ์ ส่วนการเดินทางจากฝั่งพระนครสามารถวิ่งได้หลายเส้นทาง จากสาทรข้ามสะพานกรุงธนบุรีมาฝั่งธนบนถนนราชพฤกษ์ ผ่านแยกรัชดา-ราชพฤกษ์มาเรื่อยๆ หรือว่าจะมาจากสะพานพระปกเกล้าผ่านวงเวียนใหญ่ ถ้ามาจากทางนนทบุรีทางเหนือก็จะเข้าที่ถนนจรัญสนิทวงศ์ เลี้ยวเข้าซอยจรัญ13 หรือที่เรียกว่าซอยพาณิชย์ธนบุรี แล้วเข้าที่ถนนราชพฤกษ์อีกที หรือจะมาจากฝั่งสมุทรสาคร-นครปฐม-พุทธมณฑลทางตะวันตก ถนนหลักก็จะเป็นเส้นเพชรเกษม
การเดินทางโดยไม่ใช้รถเป็นข้อดีข้อหนึ่งของโครงการนี้ คืออยู่ในระยะเดิน 1.6 กิโลเมตรจาก BTS บางหว้าที่อยู่ที่สี่แยกราชพฤกษ์ตัดกับเพชรเกษม ซึ่งถือว่าใกล้กว่าโครงการอื่นๆในพื้นที่ ถ้าในระยะรถคือจากหน้าโครงการกลับรถไปส่งที่ BTS ก็จะอยู่ประมาณ 3 กิโลเมตร โดยสถานีบางหว้าเป็นสถานีสุดสายของสายสีเขียวมาทางตะวันตกของกรุงเทพ ซึ่งเส้นนี้จะผ่านสาทร สยามโดยตรงและไปจบที่สถานีสนามกีฬา ทำให้การเดินทางเข้าเมืองด้วย BTS ไปทำงานหรือไปหาเพื่อนนั้นสามารถกะเวลาได้ง่ายที่ 30 นาทีถึงสยาม นอกจากนั้นในอนาคตจะมี MRT บางหว้าเป็นการเชื่อมต่อจากสถานีหัวลำโพงที่เป็นสถานีสุดสายของ MRT ในปัจจุบัน นอกจากนั้นทางโครงการจะมี Shuttle bus รับส่งระหว่างโครงการ-สถานี ส่วนการเดินทางรูปแบบอื่นๆ เช่น แท๊กซี่ค่อนข้างง่ายเพราะอยู่ที่ถนนใหญ่ ส่วนพี่วินจะมีที่ทางออก 1 ของ BTS เลย
การออกแบบโครงการถือว่าเป็นโครงการขนาดกลาง 168 ยูนิต แบ่งออกเป็น 2 Phases คือ Phase แรก 68 ยูนิต สร้างเสร็จเรียบร้อย และ Phase 2 กำลังอยู่ในช่วงก่อสร้างจำนวน 100 ยูนิต ตัวโครงการจะอยู่ลึกเข้ามาด้านในจากถนนราชพฤกษ์ประมาณ 300 เมตรบนถนนภาระจำยอมกว้าง 12 เมตรจะเจอซุ้มโครงการและระบบรักษาความปลอดภัยอีกชั้น การออกแบบพื้นที่จะเน้นความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านคือมีจำนวนยูนิตภายในซอยไม่เกิน 10 ยูนิต ทำให้ตัวซอยไม่ลึกและดูแลง่าย โดยมีพื้นที่ส่วนกลางทั้ง Clubhouse และสวนสาธารณะอยู่ตรงกลาง สิ่งที่เด่นของโครงการนี้คือพื้นที่สีเขียว ไม่ใช่หมายถึงขนาดแต่เป็นการดูแลรักษาโดยรวมจะมีหญ้าทุกจุดและฟูไม่เหลือง มีต้นไม้เป็นพุ่มตกแต่งบังผนังก่อปูนและต้นไม้เป็นการลงต้นไม้ใหญ่ไม่ใช่ต้นไม้ที่พึ่งนำมาปลูกใหม่ๆ
บ้านมีทั้งหมด 4 แบบ โดยแบบที่ขนาดเล็กที่สุดออกแบบเป็นบ้านสี่เหลี่ยมปกติ แต่อีก 3 แบบจะเป็นบ้าน L-shape โดยมีพื้นที่ Court อยู่ตรงมุมหลังบ้านเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ให้ได้มากที่สุด โดยพื้นที่ Court เหมือนเป็นจุดศูนย์กลางของบ้านทั้งกิจกรรมกลางแจ้งและการมอง เพราะช่องแสงและบานเปิดออกแบบให้มองเห็นพื้นที่ตรงนี้ได้เกือบจะทุกห้องของตัวบ้าน นอกจากนั้นถ้ามองจากหน้าบ้านจะสังเกตได้ว่าไม่มีระเบียง โดยขยับระเบียงไปอยู่ที่ข้างบ้าน ทำให้ใช้งานได้สะดวกและเต็มที่มากขึ้น โดยแบบ 2-3-4 จะมีการออกแบบที่คล้ายกัน แค่ลด-เพิ่มดีเทลต่างๆ เช่น ความกว้างของหน้าบ้านทำให้ห้องครัวมีรูปร่างที่เปลี่ยนไปและขนาดของห้องเอนกประสงค์ แบบ 3-4 จะมีห้องแม่บ้านที่เข้าได้จากข้างบ้านเพิ่มขึ้นมารองรับสำหรับครอบครัวที่ใหญ่ขึ้นหน่อย บนชั้น 2 แบบ 4 ก็จะมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง ต่างกับแบบ 2-3 ที่ห้องนอนเล็กและกลางต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน
การก่อสร้างบ้านภายในโครงการนี้เป็นแบบ Conventional หรือเรียกง่ายๆว่าก่ออิฐฉาบปูน ทนทานกว่าแบบ Pre-cast แน่นอน โดยส่วนพื้นของชั้น 1 จะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สำหรับแบบบ้าน 1-2 และหินอ่อนอัดสำหรับแบบบ้าน 3-4 ส่วนพื้นบนชั้น 2 แบบบ้าน 1-2 จะเป็น Engineering wood ส่วนแบบ3-4 จะเป็นปาเก้ไม้แดงลายสวยดีค่ะ ตัวผนังเป็น Wallpaper ทั้งหลัง ได้เคาท์เตอร์ครัวทั้งส่วนทานข้าวและในห้องครัวไทยและอุปกรณ์จาก Starmark ด้านหลังมาพร้อมบานปิดด้านล่างเรียบร้อยไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนห้องน้ำจาก Kohler และอุปกรณ์ห้องน้ำจาก VRH บานเปิดส่วนใหญ่เป็นกระจกสีเขียวตัดแสง กรอบคืออลูมิเนียมอบสีดำ โดยประตูหน้าบ้านเป็นไม้สัก โปรโมชั่นแอร์คือห้องรับแขกชั้นล่าง Cassette type, แอร์ห้องนอนใหญ่ Wall type มีระบบกันขโมย 2 ระบบพร้อมติดตั้ง รอบๆบริเวณอย่างรั้วก็จะเป็นแบบเปิดอัตโนมัติที่ 2 ที่จอด และแบบเปิดมือลงกลอนที่ 1 ที่จอด พื้นที่รอบบ้านปูหญ้าและลงต้นไม้ใหญ่ทั้งบริเวณ
สาธารณูปโภค จากทางเข้าโครงการก็จะมีพี่ยามคอยเลื่อนฉากกั้นเข้า-ออก เข้าถนนภาระจำยอมมาประมาณ 300 เมตรก็จะเจอซุ้มโครงการที่ลูกบ้านเข้าออกได้โดยการแตะ Keycard ระยะใกล้เพื่อยกไม้กั้นและเปิดประตูเลื่อน มีระบบ CCTV ทั้งทางเข้า-ออกและถนนหลักของโครงการ จากนั้นก็จะเข้ามาตามทางเจอพื้นที่ส่วนกลางที่มีทั้ง Clubhouse และสวนสาธารณะมีสนามเด็กเล่นและบันไดที่นั่ง ตัว Clubhouse สูง 2 ชั้นมีสระว่ายน้ำด้านหน้าขนาด 22.7 x 8.8 เมตร มีส่วน Jacuzzi และสระเด็ก พื้นที่ชั้น 1 ของ Clubhouse คือห้องนั่งเล่นและห้องน้ำ ส่วนชั้น 2 คือพื้นที่นั่งเล่นแบบ Open air และห้องฟิตเนส
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 12 – 30 ล้านบาท, 29 January 2016
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 9/10 – เข้าได้จากถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ระยะ 1.6 กิโลเมตรถึง BTS บางหว้า มีร้านอาหารเรียงเต็มไปหมด
- ความปลอดภัย 8.75/10 – Double Gate Security คีย์การ์ดระยะใกล้เปิดไม้กั้นและประตูเลื่อน มี CCTV ในบ้านมีระบบกันขโมย 2 ระบบ
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – ออกแบบบ้าน L-shape ให้ใช้งานได้จริง เกือบทุกห้องมีช่องเปิดเห็น Court ตรงกลาง แต่แบบบ้าน 2-3-4 ก็คล้ายกันแค่เพิ่ม-ลดนิดหน่อย
- วัสดุ 8.75/10 – เลือกวัสดุดี ให้เคาท์เตอร์ทั้งส่วนทานข้าวและครัวไทยพร้อมบานปิดทั้งหมด ห้องน้ำได้ทั้งหมด
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 9.5/10 – สภาพโครงการเขียวร่มรื่นมาก หญ้าฟูเต็ม ต้นไม้สูงแผ่ก้าน
- สาธารณูปโภค 8/10 – กิจกรรมน้อยไปหน่อยสำหรับราคาบ้านขนาดนี้ มีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง Clubhouse 2 ชั้น ภายในมีห้องนั่งเล่น ฟิตเนส ภายนอกมี Bike lane และสวนสาธารณะ
- 8.81 / 10.00
BOTTOM LINE
PRINN สาทร-ราชพฤกษ์ ถือว่าเป็นโครงการบ้านเดี่ยวบนถนนราชพฤกษ์ ขึ้นชื่อเรื่องทำเลบ้านแพง จำนวนยูนิตไม่เยอะมาก ทางฝั่งธนฯของกรุงเทพ เหมาะสำหรับคนที่มีกำลังซื้อ ทั้งในและนอกพื้นที่ มีข้อดีที่ใกล้รถไฟฟ้า 1.6 กิโลเมตรถึง BTS บางหว้า เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการหาบ้านติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ สำหรับคนที่สนใจต้องมีงบประมาณ 13-30 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นเงินเย็น แต่ถ้าคิดเล่นๆคือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 91,000 – 240,000 บาท
ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่)