รีวิวฉบับที่ 1393 … สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ Perfect Place 4 ราชพฤกษ์ โครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จาก Property Perfect ซึ่งโครงการนี้จัดเป็นโครงการที่ 4 บนทำเลราชพฤกษ์ที่มีทางเข้า-ออกโครงการติดถนนราชพฤกษ์เลยค่ะ และยังถือเป็นทำเลบ้านที่อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีม่วง ในส่วนของตัวบ้านนำนวัตกรรม Active Airflow จาก SCG เข้ามาใช้เพื่อช่วยระบายความร้อนภายในตัวบ้าน ในราคาเริ่มต้น 6.79 ล้านบาท โครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันค่ะ

 

Fact @ 20 July 2017

  • Perfect Place 4 Ratchaphruek (เพอร์เฟค เพลส 4 ราชพฤกษ์)
  • บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน)
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ : ถนนราชพฤกษ์ ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี
  • เนื้อที่โครงการ 43.56 ไร่ จำนวน 184 ยูนิต
  • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น

  • Vicia ที่ดิน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 147 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • Vitis ที่ดิน 54 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 151 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • Venosa ที่ดิน 58 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • Verbena ที่ดิน 58 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • Veronica ที่ดิน 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 204 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

  • ราคาเริ่มต้น 6.79 ล้านบาท
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 51,000 – 61,000 บาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : พ.ย. 2558
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1375
  • ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ

    NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะคะ


    เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

    พิกัด : 13.856000, 100.462858

    ที่ตั้งโครงการ Perfect Place 4 ราชพฤกษ์ มีทางเข้า-ออกหลักอยู่ติดถนนราชพฤกษ์ ใกล้กับจุดตัดถนนรัตนาธิเบศร์ และถือเป็นทำเลบ้านที่อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีม่วง โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ โดยมีระยะห่างจากหน้าทางเข้า-ออกโครงการประมาณ 3.5 กม. ซึ่งเป็นระยะความลึกของซอยโครงการไปออกถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ ในส่วนของห้างสรรพสินค้าหรือ Hyper Market ต่างๆ จะอยู่แถบบางใหญ่ สนามบินน้ำ และบนถนนราชพฤกษ์ช่วงระหว่างถนนนครอินทร์ ตัดกับถนนสิรินธรค่ะ

    ทำเลโครงการ Perfect Place 4 ราชพฤกษ์ เป็นหนึ่งในโครงการบนทำเลราชพฤกษ์นี้ที่ทาง Property Perfect ได้ซื้อที่ดินขนาดใหญ่ และแบ่งพื้นที่ออกเป็นโครงการต่างๆ ทั้งหมดปัจจุบันอยู่ที่ 6 โครงการด้วยกัน จัดเป็นอาณาจักรโครงการแนวราบของทาง Property Perfect เอง โดยทำเลราชพฤกษ์ใกล้จุดตัดกับถนนรัตนาธิเบศร์นี้เป็นทำเลที่มีโครงการจัดสรรแนวราบเกิดขึ้นเยอะ ด้วยความที่เป็นทำเลที่เดินทางสะดวกด้วยถนนหลักอย่างราชพฤกษ์ วิ่งในแนวทิศเหนือ-ใต้ ไปปทุมธานี หรือลงไปตลิ่งชัน บางหว้า ต่างๆ ได้ รวมทั้งยังสะดวกสำหรับคนที่เดินทางเข้า-ออกเมืองเป็นหลักด้วยถนนรัตนาธิเบศร์ วิ่งไปทางบางใหญ่ หรือเข้าเมืองเข้ามสะพานพระนั่งเกล้า วิ่งตรงไปแยกแคราย ก็สะดวกเช่นกัน หรือหากใครกลัวรถติดบริเวณสะพานพระนั่งเกล้า ก็มีอีกตัวเลือกคือวิ่งเข้าถนนราชพฤกษ์-นนทบุรี 1 ข้ามสะพานพระมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ได้เช่นกันค่ะ

    ที่ตั้งโครงการจริงๆ จะอยู่ในซอยลึกจากทางเข้า-ออกหลักโครงการทั้ง 6 โครงการของ Property Perfect ไปประมาณ 1.65 กม. ซึ่งระหว่างทางนั้น ถนนโครงการจะมีการตัดผ่านกับถนนสาธารณะอยู่หลายจุดด้วยกัน ซึ่งมีทั้งซอยบางรักน้อย 16 และซอยประชาร่วมใจ ที่สามารถลัดไปออกถนนรัตนาธิเบศร์ได้ จึงเป็นข้อได้เปรียบของลูกบ้านในโครงการนี้ที่สามารถใช้ทางลัดเข้า-ออกถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องออกไปกลับรถจากถนนราชพฤกษ์อีกที จึงเป็นทำเลที่เหมาะทั้งคนใช้รถบนถนนราชพฤกษ์ และคนที่ใช้ถนนรัตนาธิเบศร์เป็นหลัก รวมไปถึงเมื่อลัดออกถนนรัตนาธิเบศร์แล้วก็จะอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง อย่างสถานีบางรักน้อยท่าอิฐอีกด้วยค่ะ ซึ่งสามารถเรียกพี่วินไปส่งได้ หรือใครที่ออกไปทำงานช่วงเช้า และกลับช่วงเย็น ในช่วงเวลาเร่งด่วนนี้ทางโครงการมีการจัด Shuttle Van Service ให้กับลูกบ้านโดยวิ่งผ่านหน้าโครงการทุกโครงการของ Property Perfect ไปส่งที่สถานีรถไฟฟ้า เสียค่าโดยสารต่อครั้งคนละ 20 บาท

    ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการไม่ได้คึกคักมากนัก ด้วยสภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการส่วนใหญ่ล้อมรอบด้วยสวนผลไม้ขนาดใหญ่ มีชุมชนดั้งเดิมอาศัยอยู่ประปราย รวมไปถึงโครงการบ้านเดี่ยวจากผู้ประกอบการอื่นๆ อยู่บ้าง ทำให้บรรยากาศค่อนไปทางเงียบสงบมากกว่า ตามปกติของโครงการแนวราบส่วนใหญ่ค่ะ ซึ่งใครที่มองหาห้างสรรพสินค้า และ Hyper Market นั้นต้องอาศัยขับรถเป็นหลัก โดยความอุดมสมบูรณ์ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณสนามบินน้ำ ซึ่งมีทั้งตลาดสด ตลาดนัด รวมไปถึง Central รัตนาธิเบศร์ ห้างขนาดใหญ่ที่ภายในมีทั้ง Index Living Mall, Robinson อีกด้วย จะนั่งพี่วิน หรือ Shuttle Van ออกไปขึ้นรถไฟฟ้า วิ่งต่อไปไม่กี่สถานีก็ถึงห้างแล้วค่ะ ไม่ก็ไปห้างใหม่กว่าอย่าง Central West Gate ที่อยู่แถวบางใหญ่ ซึ่งแถวบางใหญ่นี้จัดเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่จึงมีความอุดมสมบูรณ์สูง คึกคักมาก ทั้งตลาดสดและ hyper market ต่างๆ ที่สำคัญคือสามารถนั่งรถไฟฟ้าไปได้เช่นกันค่ะ

    การเดินทางในวันนี้เริ่มต้นจากถนนรัตนาธิเบศร์มุ่งหน้าไปทางฝั่งธนฯ ข้ามสะพานพระนั่งเกล้า จากนั้นตรงไปเรื่อยๆ จนถึงแยกตัดกับถนนราชพฤกษ์แล้วเลี้ยวซ้าย วิ่งตรงมาจากแยกประมาณ 1.5 กม. ก็จะเห็นทางเข้า-ออกหลักโครงการอยู่ทางซ้ายมือแล้วค่ะ

    เริ่มต้นเส้นทางกันบนถนนรัตนาธิเบศร์ ข้ามสะพานพระนั่งเกล้า ด้านซ้ายมือจะเป็นสถานีพระนั่งเกล้าของโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีม่วงค่ะ

    ลงสะพานกันมาแล้วเราตรงมาสักพักจะเห็นป้ายบอกทางสีเขียว ซึ่งเราจะเบี่ยงซ้ายออกมาไปตามป้าย ไทรม้า ท่าอิฐ กันนะคะ

    เบี่ยงเลนซ้ายออกมาแล้ว ตรงมาอีกหน่อยก็จะเจอสี่แยกไทรม้า ซึ่งหากเลี้ยวซ้ายเข้าซอยบ้านไทรม้าก็สามารถลัดเข้าโครงการได้เช่นกันค่ะ หากใครมาจากในเมือง ทางเส้นรัตนาธิเบศร์เลือกเข้าซอยนี้ก็จะสะดวกสุด แต่เดี๋ยวเราจะตรงไปทางเส้นราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นเส้นทางหลักกันก่อน

    ตรงมาอีกหน่อยผ่านสถานีรถไฟฟ้า บางรักน้อยท่าอิฐ ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด และเฉพาะในช่วงเช้า และช่วงเย็นทางโครงการจะมีรถ Shuttle Service คอยรับ-ส่งลูกบ้านในสถานีนี้ด้วยค่ะ ค่าใช้จ่ายต่อเที่ยวอยู่ที่ 20 บาท

    ผ่านสถานีบางรักน้อยท่าอิฐมาหน่อยก็จะเจอทางเบี่ยงเข้าถนนราชพฤกษ์แล้ว 

    เข้ามาบนถนนราชพฤกษ์ จะมีการแบ่งช่องการจราจรเลนในและเลนนอก ซึ่งเราจะวิ่งเลนในกัน จะเห็นว่าข้างทางบนถนนราชพฤกษ์ฝั่งมุ่งหน้าไปทางนครอินทร์นี้มีร้านอาหารริมถนนบ้างประปราย สามารถแวะฝากท้องก่อนกลับบ้านกันได้เลยค่ะ 

    ตรงมาเรื่อยๆ ก่อนขึ้นสะพานข้ามคลองอ้อมนนท์ ก็จะเห็นทางเข้า-ออกหลักของโครงการ ซึ่งเป็นทางเข้าที่ใช้ร่วมกันกับโครงการของ Property Perfect อีก 5 โครงการ

    **รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

    มาดูสภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการกันก่อนเข้าไปดูภายในโครงการกันนะคะ สำหรับทำเลนี้แต่เดิมเป็นสวนผลไม้ขนาดใหญ่ เด่นๆ เลยคือสวนทุเรียน ซึ่งทาง Property Perfect ได้ซื้อที่ดินบางส่วนของสวนมาแบ่งออกและพัฒนาเป็นโครงการขึ้น จึงเห็นว่ารอบๆ โครงการส่วนใหญ่นอกจากเป็นโครงการจัดสรรเพื่อนบ้านในเครือ Property Perfect แล้วก็จะเป็นพื้นที่สวน และพื้นที่เปล่าอยู่ ทำให้บรรยากาศบริเวณนี้มีความสงบพอสมควร 

    • ทิศเหนือ : โครงการ Perfect Place 3 และถนนภายในโครงการ
    • ทิศตะวันออก : ชุมชนบ้านพักอาศัย และพื้นที่สวน
    • ทิศใต้ : ชุมชนบ้านพักอาศัย และพื้นที่สวน
    • ทิศตะวันออก : โครงการ Perfect Park 

     

    สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

    • กระทรวงพาณิชย์ : 6.6 กม.
    • The Walk : 6.7 กม.
    • Central รัตนาธิเบศร์ : 7.3 กม.
    • ตลาดนกฮูก : 7.3 กม.
    • บิ๊กซี วงศ์สว่าง : 7.9 กม.
    • Central West Gate ~8.3 กม.
    • เอสพลานาด : 9.1 กม.
    • เทสโก้โลตัส รัตนาธิเบศร์ : 9.2 กม.
    • HomeWorks : 9.8 กม.
    • The Crystal SB : 10.3 กม.
    • บิ๊กซี บางใหญ่ : 10.6 กม.
    • เทสโก้โลตัส บางบัวทอง : 10.6 กม.
    • บิ๊กซี รัตนาธิเบศร์ : 10.8 กม.
    • Home Pro ราชพฤกษ์ : 11.5 กม.
    • เซ็นทรัลพลาซ่าเวสต์เกต : 11.8 กม.
    • Home Pro แจ้งวัฒนะ : 12.9 กม.
    • Major Cineplex : 13.0 กม.
    • The Crystal PTT : 14.4 กม.
    • Home Pro ราชพฤกษ์ : 14.8 กม.
    • เทสโก้โลตัส บางใหญ่ : 16.3 กม.

    • โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ : 10.6 กม.
    • โรงพยาบาลปากเกร็ด : 14.2 กม.

    • กรมชลประทาน : 11.9 กม.
    • ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ : 20.2 กม.

    • โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี ~8.5 กม.
    • โรงเรียนสวนกุหลาบนนทบุรี ~ 15.5 กม.
    • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 16.4 กม.
    • มสธ. ~ 18.8 กม.
    • มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น ~ 20.1 กม.

     


    เจาะลึกตัวโครงการ

    โครงการ Perfect Place 4 ราชพฤกษ์ เป็นหนึ่งในโครงการบนที่ดินของ Property Perfect ซึ่งนำที่ดินออกมาจัดสรรแบ่งเป็นโครงการต่างๆ โดยปัจจุบันมีทั้งหมด 6 โครงการ ซึ่งใช้ทางเข้า-ออก และ Club House อีก 2 จุด ด้วยกัน ซึ่งแบ่งเป็น Master Club House ที่ตั้งอยู่ติดกับโครงการ Perfect Masterpiece และอีก Club House ตั้งอยู่ติดกับหน้าซุ้มทางเข้าโครงการเลย  แต่มีขนาดเล็กกว่าและอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง

    ในส่วนของถนนโครงการ ร้านจากทางเข้าโครงการที่ติดกับถนนราชพฤกษ์เข้ามานั้นจะเป็นถนนของโครงการและมีจุดตัดกับถนนสาธารณะ เป็นช่วงๆ โดยมีตัดกับซอยบางรักน้อย 16 และซอยประชาร่วมใจ ที่สามารถไปทะลุออกถนนรัตนาธิเบศร์ได้ ข้อดีคือมีตัวเลือกในการเดินทางได้มากกว่าโครงการอื่นๆ แต่ก็แลกมากับความเป็นส่วนตัวของโครงการและการรักษาความปลอดภัยที่จะไม่เข้มแข็งเท่าโครงการจัดสรรแบบปิดทั่วไปเพราะด้วยจุดตัดกับถนนสาธารณะจึงทำให้ถนนระหว่างทางเข้าโครงการมีรถอื่นๆ เข้ามาใช้งานได้เหมือนกัน ซึ่งทาง Property Perfect ก็ได้แก้ปัญหาในจุดนี้โดยการทำจุดสแกนบัตรในจุดที่ต้องตัดกับถนนสาธารณะค่ะ

    จากซุ้มประตูโครงการที่ติดกับถนนราชพฤกษ์ แบ่งทางสัญจรเข้า-ออกชัดเจน คั่นกลางด้วยป้อมยามตรงกลาง 

    ในแต่ละฝั่ง ทั้งขาเข้าและขาออก มีแบ่งช่องระหว่างผู้เข้ามาติดต่อ และลูกบ้านภายในโครงการ โดยลูกบ้านภายในโครงการสามารถใช้ Keycard ทาบบัตรกับเครื่องสแกนได้เลยค่ะ โดยกั้นด้วยไม้กระดกอัตโนมัติ

    ถนนในช่วงแรก เป็นลักษณะแบบ Boulevard คือมี เกาะกลางและต้นไม้คั่นระหว่างถนนทั้งสองฝั่ง ส่วนฝั่งขวามือเป็นที่ตั้ง Sale Office ของ Property Perfect

    ตรงมาอีกหน่อย เป็นจุดเข้าออกอีกจุด เนื่องจากมีถนนสาธารณะตัดผ่าน ลูกบ้านจะต้องสแกนบัตร ผ่านอีกรอบ อาจจะไม่สะดวกมากนักแต่ก็แลกมากับความปลอดภัยภายในโครงการที่มากขึ้นค่ะ

    ถนนที่ตัดผ่านคือ ซอยบางรักน้อย 16 ซึ่งเป็นซอยที่สามารถลัดออกไปถนนรัตนาธิเบศร์ได้ บริเวณหน้าปากซอยแถวนี้ก็จะมีวินมอเตอร์ไซค์ คอยให้บริการอยู่

    อีกฝั่งหนึ่งเป็นซอยที่ลัดเข้าไปยังพื้นที่ส่วนบุคคลอื่น ส่วนใหญ่จะเป็นสวนผลไม้ค่ะ

    ถัดจาก ถนนสาธารณะแล้วก็จะมีจุดเข้าออกอีกจุดหนึ่งให้สแกนบัตรเช่นกัน

    เข้ามายังถนนในโครงการเป็นถนนขนาดใหญ่แบ่งเป็นสองเลนสวนกัน ในฝั่งขวามือ เป็นทางเข้าของโครงการ Perfect Masterpiece ส่วนฝั่งซ้ายมือที่เลยออกไปหน่อยจะเป็นสำนักงานนิติบุคคลค่ะ

    ฝั่งตรงข้ามกับทางเข้าโครงการ Perfect Masterpiece จะมีสถานีของรถ Shuttle Service เป็นศาลาที่นั่งให้เรียบร้อย กันแดดกันฝนได้ดีทีเดียว

    สำหรับเส้นทางของ Shuttle Service นั้นจะวิ่งรอบโครงการใหญ่เลยค่ะ ผ่านทุกโครงการ และก็จะมีจุดจอดรถอยู่บริเวณทุกหน้าโครงการเพื่อให้ลูกบ้านทุกโครงการสามารถใช้งานได้สะดวก โดยช่วงเวลาในการวิ่งทุกๆ 30 นาที 

    • ช่วงเช้า ตั้งแต่ 6:00 – 8:30 น. 
    • ช่วงเย็น ตั้งแต่ 17:30 – 20:30 น. 

    ถนนที่ใช้ร่วมกับโครงการอื่นๆ ของ Property Perfect ด้วยกันเองมีความร่มรื่นดีด้วยการปลูกต้นไม้ใหญ่ตลอด 2 ฝั่งข้างทาง รวมไปสภาพถนนอยู่ในสภาพดี

    ถัดมาหน่อยจะมีสะพานข้ามคลอง ซึ่งคลองนี้เป็นคลองขนาดเล็กๆ ไม่ใช่คลองที่ใช้สัญจรได้ค่ะ

    บรรยากาศบริเวณคลองนั้น ไม่ได้มีน้ำมากนัก ส่วนใหญ่เป็นวัชพืช หญ้าต่างๆ และมีทางเดินสาธารณะเลียบตามคลองมาเรื่อยๆ ซึ่งหากใครจะเดินเข้ามาในตัวโครงการผ่านสะพานข้ามคลองของโครงการนั้นจะค่อนข้างยาก เพราะตัวโครงการเองก็มีกั้นรั้วตามแนวสะพานอยู่ค่ะ

    ติดกับสะพาน ลงมาจะเห็น Master Clubhouse แล้วค่ะ ซึ่ง Master Clubhouse เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ใช้ร่วมกันของลูกบ้านทุกโครงการในเครือของ Property Perfect ข้อดีคือการใช้ร่วมกันหลายยูนิต หลายหลัง หลายโครงการแบบนี้ก็จะได้ Clubhouse ขนาดใหญ่ เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน รวมไปถึงการแยกส่วน Clubhouse ออกจากภายในโครงการทุกโครงการแล้วมารวมอยู่ตรงกลาง ก็สามารถตอบโจทย์ลูกบ้านที่ไม่ได้ต้องการใช้ Facilities ในส่วนนี้ และไม่ต้องการจ่ายค่าส่วนกลางเพื่อซ่อมแซมบำรุงรักษาส่วน Clubhouse ได้เช่นเดียวกัน เพราะที่นี่จะไม่ได้คิดรวมในค่าส่วนกลางที่ลูกบ้านต้องจ่ายทุกปีนะคะ จะคิดแยกเฉพาะลูกบ้านที่ต้องการใช้ Clubhouse ก็ให้สมัครสมาชิกรายเดือน หรือ รายปีไปแทน ลูกบ้านที่ไม่ได้ใช้ Facilities จะได้ไม่ต้องมาแบกรับค่าใช้จ่ายในส่วนที่ตัวเองไม่ได้ใช้งานด้วย

    ปัจจุบันพื้นที่ Clubhouse บางส่วนมีการปิดปรับปรุงอยู่นะคะ เนื่องจากช่วงเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ จะมีร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่อย่าง 7-11 มาลงใน Clubhouse ด้วย เพื่อความสะดวกสบายในการซื้อกินของใช้ได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องขับรถไปไหนไกลค่ะ

    เดี๋ยวเราเข้าไปดูภายใน Master Clubhouse กันต่อเลยค่ะ

    สำหรับ Master Clubhouse นี้จะเปิดทำการในวันจันทร์ – อาทิตย์ เวลา 07:00 – 21:00o น. ยกเว้นวันอังคารนะคะ ที่ไม่ได้เปิดให้ใช้บริการ

    ภายในมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ค่อนข้างมากและหลากหลายทีเดียวค่ะ พร้อมมีจัดโปรโมชั่นสำหรับลูกบ้านในโครงการโดยเฉพาะอยู่เรื่อยๆ ด้วยนะคะ

    ภายใน Master Club ดูโปร่งโล่งด้านหน้าจะเป็นส่วน Reception มีวางชุดโซฟาอยู่หลายชุดด้วยกัน ในนั่งเล่น หรือมาพบปะพูดคุยกันได้ค่ะ ถัดจากพื้นที่รับรองนี้นั้นจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจก และกระจกบาน Fixed ด้านบนทำให้บริเวณพื้นที่รับรองนี้ได้วิวสระว่ายน้ำภายนอกเต็มๆ รวมไปถึงแสงสว่างจากภายนอกเข้ามาได้ดี ช่วยให้บรรยากาศดูโปร่งโล่ง โอ่โถงและสดชื่นดีค่ะ

    ถัดมาด้านข้างก็มีพื้นที่นั่งเล่นอีกจุดเช่นกัน เพื่อรองรับลูกบ้านจำนวนมากให้เพียงพอ ส่วนฝั่งซ้ายของชุดโซฟาจะเป็นทางเข้าห้องน้ำชายและหญิงค่ะ

    บริเวณทางเข้าห้องน้ำมีวางชั้นเก็บรองเท้าให้

    เข้ามาภายในห้องน้ำ บริเวณแรกจะเป็นตู้ Locker ยาวตลอดผนังเลนค่ะ มีอยู่หลายช่องมาก เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน

    ลึกเข้าไปหน่อยเป็นห้องซาวน่าที่อยู่ติดกับห้องสตรีม

    สำหรับผู้ใช้บริการห้องซาวน่านั้นจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วยนะ โดยผู้ที่มากับสมาชิกจะเสีย 200 บาท บุคคลทั่วไปเลยไม่ได้มากับสมาชิกเสีย 250 บาท ส่วนคนที่สมัครสมาชิกนั้นไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งในความเห็นเรานะ ถ้ามาใช้ซาวน่าบ่อยๆ สมัครสมาชิกคุ้มกว่ามาก เพราะครั้งละ 200-250 บาทนี่ไม่ถูกเหมือนกัน

    เลี้ยวซ้ายมาจะเป็นโซนห้องอาบน้ำและห้องน้ำ ซึ่งจะกั้นเป็นห้องๆ ให้แบบนี้ค่ะ

    ภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำสะอาดสะอ้านดีค่ะ แม้ไม่ได้ดูใหม่มากแต่มีการดูแลอย่างสม่ำเสมอดี ด้านบนติดหน้าต่างบานกระทุ้งไว้ ทำให้แสงเข้าได้ดีและระบายความชื้นได้พอสมควรเลย

    ฝั่งตรงข้ามกับห้องน้ำมีพื้นที่อ่างล้างมือให้ พร้อมกับบริการไดร์เป่าผมด้านข้างให้ด้วยนะคะ

    ออกมาด้านนอกอาคารในชั้น 1 จะเป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ ความยาวถึง 50 ม. เป็นความยาวของสระ Olympic Size พร้อม Jacuzzi ด้านข้างขนาด 6 ม. โดยสระที่นี่จะใช้ระบบน้ำเกลือ ที่มีสารคลอรีนต่ำกว่าระบบคลอรีนพอสมควร ช่วยให้ผิวไม่แห้งเสียมากนักค่ะ

    ด้านข้างมี Shower ไว้ให้ล้างตัวเรียบร้อย

    ขนาดสระนั้นค่อนข้างใหญ่พอสมควรเลยค่ะ สามารถว่ายออกกำลังกายได้ รวมไปถึงสามารถรองรับสมาชิก Clubhouse ให้ใช้ได้หลายคนพร้อมๆ กันเลย

    ด้านในสุดของสระ มีการออกแบบพื้นที่นั่งเล่นยื่นเข้าไปในสระว่ายน้ำ เพื่อให้บริเวณนี้ได้บรรยากาศริมสระชิลๆ ด้านบนต่อเติมหลังคากันแดดกันฝนให้เพิ่มด้วย

    หันออกไปดูรอบๆ สระ จะเห็นว่าบริเวณรอบๆ นั้นมีบางส่วนที่ติดกับภายในโครงการและติดกับที่ดินข้างเคียงด้วย ทำให้ขาดความเป็นส่วนตัวในการใช้งานไปบ้าง แต่ทางโครงการก็แก้ปัญหาได้ดี คือเน้นปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ล้อมรอบเอาไว้เพื่อบังสายตาจากภายนอก ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ดี

    ขึ้นมาชั้น 2 ของส่วน Master Clubhouse กันต่อนะคะ ในชั้นนี้จะมีห้อง Fitness, แอโรบิค และห้องพลู

    เมื่อขึ้นมาจะเจอโถงขนาดใหญ่ เป็นแบบ Semi-Outdoor กันแดดกันฝนได้ แต่จะได้ลมจากภายนอกเข้ามาได้ดี บริเวณนี้มีระเบียงยื่นออกไปเล็กน้อย ได้เห็นวิวสระว่ายน้ำในชั้นล่างชัดเจนเลยค่ะ

    จากโถงทางเดินเลี้ยวมาฝั่งซ้าย จะเป็นห้อง Fitness ขนาดใหญ่ มีเครื่องเล่นเยอะมาก และครบครันมาทีเดียวค่ะ รวมๆ แล้วมีเครื่องออกกำลังกายในห้องนี้ประมาณ 20-30 เครื่องเลยทีเดียวค่ะ

    มีจัดมุมเวทเทรนนิ่งให้ด้วยนะคะ พร้อมติดกระจกเงาให้เช็คสภาพร่างกาย

    อีกมุมเป็นโซนเวทเทรนนิ่งเช่นเดียวกันค่ะ ถือว่าที่นี่จัดห้อง Fitness มาได้ดี เครื่องเล่นเยอะ น่าใช้งานทีเดียว

    ฝั่งตรงข้ามกับห้อง Fitness จะเป็นห้องแอโรบิค ซึ่งได้เป็นห้องโล่งๆ ขนาดใหญ่ สามารถรองรับจำนวนคนได้หลายสิบคน ส่วนการตกแต่งห้องนี้ด้านนึงติดกระจกเงาไว้ให้เช็คท่าทางร่างกาย และอีกด้านนึงเป็นกระจกบานใหญ่เพื่อให้แสงสว่างจากภายนอกเข้ามาภายในได้ดี พื้นจะเป็นพื้นไม้แบบ Sprung Floor เป็นพื้นที่ช่วยลดแรงกระแทกของข้อเท้า และหัวเข่าได้ระดับนึง

    และอีกห้องในชั้น 2 นี้จะเป็นห้องพลูค่ะ มีโต๊ะพลูให้ 1 โต๊ะ ปัจจุบันคิดว่าห้องนี้คงไม่มีคนใช้มากนักเลยเป็นที่เก็บของเก้าอี้เก่าและขวดน้ำต่างๆ ด้วย

    กลับมาที่ถนนโครงการบริเวณหน้า Master Clubhouse กันต่อนะคะ มุ่งหน้าไปโครงการกันต่อค่ะ

    ก่อนจะถึงจุดตัดกับถนนประชาร่วมใจจะมีจุดทางเข้า-ออกที่ต้องสแกนบัตรอีก 1 จุดพร้อมป้อมยาม

    บริเวณแยกจุดตัดกับถนนประชาร่วมใจนี้ก็เป็นทางเข้าของ Perfect Place โครงการที่ 2

    เลี้ยวซ้ายมาแล้วให้ขับตรงต่อไปเรื่อยๆ ทางซ้ายมือจะเป็นโครงการ Perfect Place ราชพฤกษ์ phase 1 ทางขวามือจะเป็นโครงการ Perfect Place ราชพฤกษ์ phase 2 ค่ะ สำหรับถนนประชาร่วมใจนี้เป็นถนนสาธารณะนะคะ ดังนั้นบริเวณนี้ก็จะเห็นรถบุคคลอื่นวิ่งผ่านบ้างประปราย

    ตรงมาอีกหน่อยจะเห็นป้ายโครงการที่มีลูกศรให้เลี้ยวขวาค่ะ ส่วนถนนประชาร่วมใจนี้ถ้าตรงออกไปจะทะลุออกถนนรัตนาธิเบศร์ได้ บริเวณสี่แยกไทรม้า

    เมื่อเลี้ยวขวาเข้ามาแล้ว ทางซ้ายมือจะเห็นทางเข้าโครงการ Perfect Place Exclusive แต่เราจะตรงไปกันต่อนะคะ ถนนบริเวณนี้เป็นถนนที่ทางโครงการสร้างขึ้นและเปิดให้เป็นถนนสาธารณะที่คนทั่วไปสามารถมาใช้งานได้ แต่ทางโครงการเองก็ยังดูแลในเรื่องของทัศนียภาพให้ โดยมีการปลูกต้นไม้ใหญ่ ไม้พุ่มและปูหญ้าเพื่อให้ได้บรรยากาศร่มรื่น สดชื่นน่าอยู่

    ขับตรงมาอีกหน่อยก่อนถึงโครงการจะเป็นโครงการ Perfect Park ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่ติดกับโครงการที่เราจะพาไปดูเลยค่ะ

    เข้ามาลึกอีกหน่อยจะแบ่งทางเข้า-ออกเป็น 2 ฝั่ง ตรงกลางปลูกหญ้าและต้นไม้ขนาดใหญ่ เน้นความร่มรื่นน่าอยู่เป็นหลัก ฝั่งซ้ายนี้คือโครงการ Perfect Place 3 ส่วนฝั่งขวาคือโครงการเราเองค่ะ จัดเป็นโครงการที่ 4 ภายใต้แบรนด์ Perfect Place

    ด้านในสุดเป็นตำแหน่ง Clubhouse ที่มีขนาดเล็กลงมาจาก Master Clubhouse ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้างนะคะ ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จแล้วก็จะตอบโจทย์กลุ่มลูกบ้านที่อยู่โซนด้านในให้ได้ใช้งาน Clubhouse ได้สะดวก เพราะอยู่ใกล้กับโครงการ เรียกว่าเดินออกมาหน้าโครงการก็ถึง Clubhouse แล้วค่ะ ส่วนค่าใช้จ่ายของ Clubhouse โซนนี้นั้นจะแยกกับ Master Clubhouse นะคะ ซึ่งจากที่สอบถามเจ้าหน้าที่มานั้น Clubhouse นี้จะมีราคาถูกกว่าเนื่องจากมีขนาดเล็กกว่า ซึ่งก็อาจจะมีห้องต่างๆ น้อยกว่าค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องของราคาและการจัดการส่วน Clubhouse นี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้นะคะ ไว้รอ Clubhouse เสร็จแล้วค่อยสอบถามเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมอีกทีนะ

    ติดกับหน้าโครงการ Perfect Place 4 ราชพฤกษ์เลยมีสถานีจุดรับ-ส่งของ Shuttle Service คอยบริการลูกบ้านที่เดินทางด้วยรถสาธารณะได้มีความสะดวกมากขึ้น

    และก็ถึงหน้าโครงการ Perfect Place 4 ราชพฤกษ์ แล้วค่ะ

    มาดู Master Plan ของโครงการ Perfect Place 4 ราชพฤกษ์ กันนะคะ ตัวโครงการนี้จัดเป็นโครงการที่ 4 ภายใต้แบรนด์ Perfect Place ของ Property Perfect โดยเป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 184 ยูนิต บนเนื้อที่ดินประมาณ 84 ไร่ การจัดวางผังค่อนข้างเรียบง่ายเพื่อให้การสัญจรต่างๆ ภายในโครงการสะดวกที่สุด สำหรับโครงการนี้แบ่งการสร้างออกเป็น 2 เฟส ด้วยกันค่ะ ซึ่งปัจจุบันได้ไล่สร้างบ้านเฟสที่ 1 ใกล้เสร็จแล้ว และกำลังจะเปิดขายเฟส 2 เร็วๆ นี้ โดยเฟสที่ 2 นั้นมีการพัฒนารูปลักษณ์หน้าตาบ้านให้มีความ Modern มากขึ้น

    มาที่ตัวโครงการ เริ่มจากหน้าทางเข้า-ออกจะอยู่ติดกับถนนภายในโครงการ ใกล้กับ Clubhouse ซึ่งมีทางเข้า-ออกเพียงจุดเดียว สามารถรักษาความปลอดภัยได้ทั่วถึงดีค่ะ เข้ามาจะเป็นถนนหลักตรงยาวจากหน้าโครงการไปยังท้ายโครงการเลย ด้วยความกว้างถนนอยู่ที่ 16 ม. ถือว่ากว้างขวางพอสมควร รถขับสวนกันได้สบาย และค่อยแยกเป็นถนนย่อยในซอยที่มีความกว้างประมาณ 8 ม. ตำแหน่งของสวนสาธารณะอยู่บริเวณโซนต้นๆ ของโครงการมีขนาดพื้นที่ประมาณ 1.5 ไร่ ถือว่าให้มาเยอะพอสมควร เป็นขนาดที่เพียงพอสำหรับให้เด็กๆ ได้มีพื้นที่วิ่งเล่นได้ ในส่วนพื้นที่ที่แรเงาสีขาว (จากภาพ) จะเป็นพื้นที่ของบุคคลอื่น ซึ่งไม่ได้ขายให้กับทางโครงการ แต่อยู่ในตำแหน่งกลางโครงการเลย โดยทางโครงการได้แก้ปัญหาคือล้อมรั้วสูงกั้นพื้นที่ชัดเจน และแยกทางเข้า-ออกของพื้นที่นี้ไว้อยู่ด้านข้างคลองขนาดเล็ก ทำให้พื้นที่บุคคลอื่นนี้ไม่ต้องใช้ถนนเข้า-ออกร่วมกับทางโครงการโดยสิ้นเชิงค่ะ จึงไม่เสียความเป็นส่วนตัวของโครงการไปด้วย

    ในส่วนของตำแหน่งหน้าบ้านนั้นจะหันไปทางทิศเหนือ-ใต้เป็นหลัก โดยทั้ง 2 ทิศนี้จัดเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมแล้วกับการวางหน้าบ้านนะคะ แต่ก็จะมีข้อดีที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความชอบของลูกบ้านว่าให้ความสำคัญกับเรื่องไหนมากกว่ากัน อย่างทิศเหนือนั้น จุดเด่นเลยคือเรื่องของทิศทางแดด ที่หน้าบ้านจะไม่โดนแดดแรงในช่วงกลางวัน ส่วนบ้านที่หันไปทางทิศใต้ ข้อดีคือเรื่องของทิศทางลม จะได้ลมพัดผ่านเข้าจากทางหน้าบ้านได้ดี ช่วยให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทได้ดีค่ะ

     

    จากทางเข้า-ออกหน้าโครงการกั้นด้วยไม้กั้นกระดกอัตโนมัติ ใช้ระบบ keycard access ระยะใกล้ ตรงกลางคั่นด้วยป้อมยามเพื่อสามารถดูแลลูกบ้านได้ทั่วถึงทั้งทางเข้าและทางออก ถนนหน้าโครงการใช้ Concrete Stamp ดูสวยงาม

    เข้ามาภายในช่วงต้นถนนหลักจะแบ่งถนนออกเป็น 2 ฝั่ง คั่นด้วยเกาะกลางปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ดูร่มรื่น สดชื่นสบายตาดีค่ะ ส่วนด้านข้างทั้ง 2 ฝั่งทำฟุตบาทให้สำหรับคนเดินเท้าได้ง่าย ไม่ต้องลงมาเดินบนถนน

    ถัดจากช่วงต้นซอยมาความกว้างถนนหลักจะเล็กลงมาหน่อย อยู่ที่ 16 ม. ยาวไปจนสุดโครงการ

    ส่วนซอยย่อยนั้นมีความกว้างอยู่ที่ 8 ม. ภายในซอยย่อยมีจำนวนยูนิตบ้านไม่มากนัก เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านในแต่ละซอย

    เดินตรงมาอีกหน่อยก็จะเจอสวนสาธารณะโครงการแล้วค่ะ ที่นี่ถือว่าให้สวนขนาดใหญ่ระดับนึงนะ สามารถวิ่งเล่นออกกำลังกายได้ค่ะ

    ภายในปูหญ้าให้เป็นสนามขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นกับสนามได้ดี

    ภายในมีมุมที่จัดเป็นสนามเด็กเล่น โดยมีเครื่องเล่นให้ประมาณ 4 เครื่องค่ะ

    ด้านในสุดของสวนที่ติดกับเฟสที่ 2 ของโครงการ จัดให้เป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi-Outdoor มีหลังคาคลุมกันแดดกันฝนได้ระดับนึง ภายในมีม้านั่งให้ได้นั่งเล่นชมสวนชิลๆ ได้ค่ะ

    พาเดินต่อดูบริเวณฟุตบาทภายในโครงการก็จะมีการปลูกไม้พุ่ม และลงต้นไม้ใหญ่เป็นระยะๆ ให้ด้วย ดูสวยงามดีทีเดียวค่ะ ซึ่งแม้จะไม่ใช่พื้นที่ของเราโดยตรงแต่บ้านเราได้อานิสงค์ความร่มรื่นจากพื้นที่ส่วนกลางโดยตรงเลย นอกจากนี้ยังช่วยให้บริเวณบ้านดูสวยงามมากขึ้นด้วยนะคะ ถือเป็นข้อดีของโครงการที่จัดพื้นที่สีเขียวภายในโครงการมาให้

    ถัดมาที่เห็นล้อมรั้วและปลูกต้นไม้ใหญ่พร้อมไม้พุ่มและปูหญ้าให้สวยงามนั้น คือกำแพงที่ล้อมรอบพื้นที่ดินบุคคลอื่นที่ได้กล่าวไปแล้วตอนอธิบาย Master Place โดยการล้อมรั้วให้แบบนี้ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ภายในโครงการได้ดีทีเดียวค่ะ

    จากนั้นก็จะเป็นถนนหลักที่ยาวไปถึงท้ายโครงการ พร้อมมีทางเท้าให้เดินได้ง่ายทั้ง 2 ฝั่งถนนเลยค่ะ

     

    สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ

    • สวนสาธารณะ
    • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
    • รั้วรอบโครงการสูง 3 ม.
    • Key Card Access ระยะใกล้
    • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
    • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
    • ถนนหลักกว้าง 16 ม. และถนนภายในกว้าง 8 ม.

     


    Product Walkthrough

    โครงการ Perfect Place 4 ราชพฤกษ์ มีบ้านเดี่ยว 2 ชั้นทั้งหมด 5 แบบ ดังนี้

    • Vicia ที่ดิน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 147 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
    • Vitis ที่ดิน 54 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 151 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
    • Venosa ที่ดิน 58 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
    • Verbena ที่ดิน 58 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
    • Veronica ที่ดิน 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 204 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

    เรามาดูบ้านขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการกันค่ะ กับ Type Veronica ที่มีขนาดที่ดินเริ่มต้น 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 204 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ลักษณะของบ้านหลังนี้จะเป็นบ้านหน้ากว้าง บ้านหน้ากว้าง ซึ่งข้อดีของบ้านแบบหน้ากว้างคือทำให้ภายในตัวบ้านดูโปร่งโล่ง กว้างขวาง เนื่องจากได้ช่องแสงขนาดใหญ่และเยอะ จากหน้าบ้าน รวมทั้งสามารถจัดฟังก์ชันได้ง่าย

    ในส่วนของโครงสร้างบ้านนั้นใช้รูปแบบการสร้างแบบ Conventional หรือระบบเสา-คาน ซึ่งระบบ Conventional นี้นั้นจะนิยมเฉพาะบ้านที่มีราคาสูง เนื่องจากราคาค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างค่อนข้างสูง และกินเวลากว่าบ้านสำเร็จรูป ซึ่งก็แลกมากับ ความคงทนและอายุการใช้งานของโครงสร้างที่มากกว่าระบบสำเร็จรูป (ไม่ใช่เรื่องความแข็งแรงนะคะ) รวมทั้งสามารถดัดแปลงหรือจะต่อเติมบ้านได้ ซึ่งเป็นข้อจำกัดของบ้านที่ใช้ระบบสำเร็จรูปนะคะ

    หน้าตาบ้านตัวอย่างนั้นมีการปรับเปลี่ยนให้มีสไตล์ Modern โดยใช้กระเบื้องลายหินอ่อนตกแต่งให้ดูสวยงาม ซึ่งหน้าตาบ้านแบบนี้จะเปิดในเฟสที่ 2 ที่กำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ

    ชั้น 1 – เข้ามาเป็นพื้นที่จอดรถ 2 คัน ภายในบ้านแบ่งโซนค่อนข้างชัดเจนดีค่ะ โดยฝั่งซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ส่วน Common Area ประกอบไปด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร และส่วน Pantry ไว้สำหรับเตรียมอาหารเบาๆ หรือเครื่องดื่ม และติดกับพื้นที่นั่งเล่นนี้ สามารถกั้นเป็นห้องทำงานขนาดกะทัดรัดได้ แต่ไม่สามารถกั้นเป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุได้นะคะ หากใครที่มีผู้สูงอายุในบ้านและจะจัดเป็นห้องนอนชั้นล่าง เหมาะที่จะจัดแทนที่พื้นที่รับประทานอาหารแทน และเปลี่ยนพื้นที่รับประทานอาหารไปแทนที่ส่วน Pantry และตัดส่วน Pantry ไปเลย เพราะเป็นฟังก์ชันที่ไม่ได้จำเป็นมากนัก ขนาดภายในครัวก็เพียงพอสำหรับทำกับข้าวและเตรียมอาหารต่างๆ ได้แล้วค่ะ

    อีกโซนนึง ในฝั่งขวานั้นเป็นโซน Service ทั้งหมด โดยวางตำแหน่งเข้า-ออกเป็นทางด้านช้างบ้านแทนหลังบ้าน เหมือนบ้านทั่วไปนะคะ ซึ่งลานซักล้างจะอยู่ตำแหน่งข้างบ้าน เชื่อมเข้ากับส่วนครัว และห้องแม่บ้านที่อยู่ติดกัน

    ชั้น 2 – ขึ้นมาจะเป็นโถงแจกไปยังห้องนอนทั้ง 3 ห้อง และห้องอเนกประสงค์อีก 1 ห้อง โดยตำแหน่ง Master Bedroom จะอยู่ด้านหน้าบ้านกับห้องอเนกประสงค์ ซึ่งสามารถจัดให้เป็นห้องนั่งเล่นด้านบนได้ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวที่ต้องใช้พื้นที่นั่งเล่นด้านล่างต้อนรับแขกอยู่บ่อยๆ ก็เหมาะกับที่จะจัดพื้นที่นั่งเล่นชั้นบนสำหรับสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ ได้มีพื้นที่นั่งเล่นแบบส่วนตัวมากขึ้น หรือหากใครที่ต้องการห้องนอนเพิ่มก็สามารถกั้นเป็นห้องนอนเพิ่มอีก 1 ห้องได้เช่นกันค่ะ

    ส่วนด้านหลังบ้านนั้นจัดให้เป็นห้องนอน 2 ห้องเล็กพร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง

    เริ่มจากบ้านมาตรฐานที่ได้กันก่อนนะคะ โดยเราจะพาไปดูรอบๆ บ้านว่าเป็นอย่างไรบ้าง ได้อะไรบ้าง แล้วค่อยพาไปดูบรรยากาศภายในบ้านจากบ้านตัวอย่างกันค่ะ ส่วนรั้วบ้านนั้นใช้เป็นรั้วเหล็กโปร่งพ่นสีดำ ลักษณะเป็นบานเลื่อนใช้งานได้ง่าย หรือใครจะไปติดตั้งรีโมทเปิด-ปิดประตูบ้านอัตโนมัติก็ได้นะคะ ส่วนด้านข้างฝั่งขวานั้นติดเลขที่บ้าน และกริ่งมาให้เรียบร้อย สำหรับระดับพื้นตัวบ้านนั้นมีการยกระดับพื้นขึ้นสูงเล็กน้อยและทำเป็นทางลาดให้เรียบร้อย สามารถกันน้ำไหลย้อนเข้าบ้านได้ดี

    ถังขยะจากในตัวบ้านเลย และมีประตูเปิดออกจากทางหน้าบ้าน คือสะดวกในการใช้งานดีมาก เพราะทิ้งจากในบ้านได้เลยค่ะและเป็นส่วนตัวไม่ต้องแชร์ถังขยะหน้าบ้านกับบ้านหลังอื่นๆ  มีประตูเปิดบานเล็กให้เข้า-ออกง่ายหรับคนเดิน

    เข้ามายังส่วนที่จอดรถ สามารถจอดได้ 2 คันพอดีๆ ค่ะ โครงสร้างพื้นที่นี่ทำออกมาได้ดี เพราะใช้เป็นพื้น Slab on Beam มีเสาเข็มเรียบร้อย ช่วยลดการทรุดตัวได้ของโครงสร้างได้ค่ะ ส่วนฝ้าเพดานบริเวณที่จอดรถนี้จะเป็นแบบฉาบเรียบทั่วไปนะคะ ใครที่ต้องการจะทำหลังคาโรงจอดรถเพิ่มเติมเพื่อกันแดดกันฝนให้รถได้ รวมทั้งเวลาลงจากรถในช่วงฝนตกก็จะได้ไม่เปียกด้วย ซึ่งหลังคาโรงจอดรถนั้นสามารถทำได้หลายแบบมากๆ แต่ที่แนะนำจะเป็นโครงสร้างหลังคาเบา รับน้ำหนักไม่เยอะ ไม่ต้องทำเสาเพิ่ม และไม่ทำให้โครงสร้างบ้านหลักรับน้ำหนักเพิ่มขึ้น ก็คือการใช้หลังคาแบบ Poly carbonate หรือหลังคาแบบผ้าใบก็ได้เช่นกันค่ะ เดี๋ยวนี้เค้ามีการออกแบบให้หลังคาจำพวกนี้มีความคงทนในการใช้งานมากขึ้นแล้วนะ อย่างผ้าใบอายุการใช้งานก็เกิน 10 ปีแล้วก็มีค่ะ รวมไปถึงราคาไม่แพง ติดตั้งง่าย มีแบบให้เลือกหลากหลายแล้ว

    กำแพงบ้านด้านข้างนั้นมีความสูงเท่าๆ กับรั้วหน้าบ้านเลยค่ะ สูงประมาณ 1.5 ม. ถือว่าเตี้ยไปหน่อย ส่วนสวนที่เห็นนั้นจัดให้เป็นมาตรฐานในทุกหลัง

    มีเฉพาะบ้านหลังนี้ที่จัดโปรโมชั่นโดยการจัดสวนเป็นสไตล์อังกฤษ ส่วนบ้านมาตรฐานทั่วไปที่ไม่ได้จัดโปรโมชั่นนั้นก็จัดสวนให้เช่นกันนะคะ แค่ไม่ได้เป็นสไตล์อังกฤษ เดี๋ยวบ้านอีกหลังเราจะพาไปชมสวนมาตรฐานที่ทุกหลังจะได้ให้ดูกัน บริเวณนี้จะเป็นส่วนของทางเข้าหลักหน้าบ้านค่ะ

    ด้านข้างจัดพื้นที่มาให้เป็นเฉลียงนั่งเล่นข้างบ้าน ซึ่งในบ้านมาตรฐานทั่วไปจะไม่ได้ทำมาให้นะคะ หลังนี้ถือเป็นหลังโปรโมชั่น

    บริเวณส่วนหลังบ้านนั้นไม่มีลานซักล้างเหมือนบ้านทั่วไปนะคะ เป็นพืนที่สวนปูหญ้าให้

    ลานซักล้างจะอยู่ข้างบ้านแทนค่ะ โดยลานซักล้างนี้จะใช้โครงสร้างเดียวกับโครงสร้าง ซึ่งเป็นข้อดีนะคะ เพราะเวลาพื้นดินทรุดตัวลานซักล้างก็ไม่แยกออกจากตัวบ้านจนเป็นช่องโหว่ ในส่วนบริเวณหลังบ้านนั้นจะมีทางเข้าห้องครัว ห้องแม่บ้าน และห้องน้ำของแม่บ้านค่ะ การจัดวางตำแหน่งห้องแม่บ้านให้สามารถเข้า-ออกผ่านลานซักล้างนี้ถือว่าจัดวางฟังก์ชันได้ดีนะคะ เพราะถือว่าแยกทางเข้า-ออกกับสมาชิกในบ้านชัดเจน เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับสมาชิกในบ้านมากขึ้น

    บริเวณหน้าบ้านมาเฉลียงทางเข้ายื่นออกมาเล็กน้อย ประตูทางเข้าเป็นประตูบานเลื่อนกระจก ด้านบนได้เป็นกระจกบาน Fixed เพิ่มพื้นที่ให้แสงสว่างเข้าสู่ภายในได้ดีมากขึ้นค่ะ

    พื้นภายในปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ส่วนระดับพื้นภายในสูงขึ้นเล็กน้อยจากพื้นเฉลียงกันน้ำไหลย้อนเข้าได้ดีระดับนึง

    ภายในชั้น 1 จะได้เป็นพื้นที่เปิดโล่งทั้งหมด ซึ่งสามารถแบ่งเป็นฟังก์ชันต่างๆ เริ่มจากหน้าทางเข้าเป็นพื้นที่นั่งเล่น ด้านหลังเป็นโซนรับประทานอาหารและ Pantry เตรียมอาหาร ภายในค่อนข้างโปร่งโล่งด้วยความสูงฝ้าเพดานและช่องเปิดที่ทำเป็นประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่จึงทำให้แสงสว่างเข้ามาภายในบ้านได้ดี

    สำหรับพื้นที่นั่งเล่นนี้สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้ พร้อมทั้งเก้าอี้โซฟาได้สบายๆ ค่ะ ด้านหลังมีหน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่

    ฝั่งตรงข้ามกับชุดโซฟาเป็นพื้นที่ว่างซึ่งสามารถจัดให้เป็นส่วนชั้นวางทีวีขนาดใหญ่ได้สำหรับคนที่ชอบพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ หรือจะกั้นพื้นที่นี้ให้เป็นพื้นที่ทำงานขนาดกำลังดี ตามในแปลนบ้านก็ได้เช่นกันค่ะ

    ถัดจากพื้นที่นั่งเล่นนั้นจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ได้ถึง 6-8 ที่นั่งเล่นก็ยังได้ค่ะ รอบข้างได้ประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ทั้ง 2 ฝั่ง เลยทำให้บริเวณรับประทานอาหารได้บรรยากาศค่อนข้างดี ชมสวนได้ด้วย

    ติดกับพื้นที่รับประทานอาหารนั้นเป็นส่วน Pantry ครัวค่ะ จัดว่ามีพื้นที่ใหญ่พอสมควรนะคะ หากใครที่ต้องการกั้นพื้นที่เป็นห้องนอนนั้นก็สามารถใช้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่รับประทานอาหารแทนได้ค่ะ โดยบริเวณนี้สามารถรองรับโต๊ะรับประทานอาหารได้ถึง 6 ท่ีนั่ง

    ถัดมาเป็นส่วนห้องครัว กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกเป็นสัดส่วน กันกลิ่นอาหารเข้ามายังภายในบ้านได้ดี

    ส่วนครัวได้พื้นลดระดับลงไปเล็กน้อยเพื่อให้สามารถล้างทำความสะอาดครัวได้ง่าย พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิก มีความคงทนเหมาะกับการใช้งานของห้องครัวค่ะ

    ภายในห้องครัวจะได้เป็นพื้นที่โล่งนะคะ ไม่ได้มี Pantry จัดมาให้ด้วย แต่จะมีการเตรียมงานระบบต่างๆ ไว้ให้พร้อมติดตั้งค่ะ ส่วนผนังที่ติดกับ Pantry ครัวนั้นมีหน้าต่างทั้งหมด 2 บาน ช่วยระบายอากาศและความชื้นภายในครัวได้ดี ประตูบริเวณด้านหลันั้นจะออกไปยังเฉลียงด้านข้างบ้านค่ะ

    ส่วนอีกฝั่งสามารถวางตู้หรือ Built-in ชั้นวางของขนาดใหญ่ได้ ดูจากบ้านตัวอย่างจะเห็นว่าสามารถ Built-in ขนาดใหญ่ จุของได้พอสมควรเลยค่ะ หรือจะทำเป็นโต๊ะเตรียมอาหารก็ได้เช่นกันค่ะ

    ถัดจากครัวแล้ว ฝั่งซ้ายเป็นประตูทางเข้าจากส่วนที่จอดรถค่ะ และติดกับโถงบันไดนั้นเป็นห้องน้ำในชั้นล่างนี้ค่ะ

    ภายในห้องน้ำแบ่งโซนเปียกและแห้งไว้เป็นสัดส่วนแต่ไม่ได้ให้ฉากกั้นกระจกที่สามารถกั้นส่วนพื้นที่อาบน้ำไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาส่วนแห้งได้ดี แต่ลูกบ้านสามารถมาติดตั้งเองได้นะคะ หรือเน้นงานง่ายๆ ก็ติดราวม่านพลาสติกแทนกันได้ค่ะ

    พื้นที่โซนแห้งนั้นด้านหลังให้ Low Wall สำหรับวางข้าวของเล็กๆ น้อยๆ ได้พอสมควรค่ะ บริเวณนี้มีทั้งส่วนอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์

    อ่างล้างมือขนาดกำลังดีในการใช้งาน ไม่เล็กเกินไป

    ด้านล่างอ่าง Built-in ชั้นวางของให้ สามารถวางของเล็กๆ น้อยๆ ได้

    ส่วนโถสุขภัณฑ์จาก Cotto ค่ะ บริเวณโถมีความกว้างประมาณ 75 ซม. จัดว่ามีความกว้างพอสมควรค่ะ ไม่อึดอัด

    ระดับพื้นของพื้นที่ส่วนอาบน้ำลดระดับจากพื้นโซนแห้งเล็กน้อยกันน้ำไหลย้อนได้ดีทีเดียวค่ะ ขนาดพื้นที่อาบน้ำมีขนาดพอสมควร สามารถอาบนำ้ได้สบาย

    ภายในติดฝักบัวสายอ่อนให้เป็นมาตรฐาน ด้านข้างติดหน้าต่างบานเลื่อนแบบกระจกฝ้าให้ เพื่อให้ภายในห้องน้ำได้รับแสงธรรมชาติและสามารถระบายความชื้นได้ระดับนึง

    ฝักบัวจาก Cotto มีหัวขนาดใหญ่และจับได้ถนัดมือดีค่ะ

    ขึ้นมาที่ชั้น 2 โถงบันไดใช้โครงสร้างเหล็ก ปูพื้นด้วยไม้ยางพาราประสาน ลักษณะบันไดเป็นรูปตัว U มีชานพักชัดเจนเดินได้ง่าย

    ในส่วนของชานพักนี้มี Low Wall เล็กๆ ให้สามารถวางของได้เล็กน้อย แต่ติดหน้าต่างบานกระทุ้งกับกระจกบาน Fixed ให้เพื่อให้ส่วนโถงได้แสงสว่างจากภายนอก และหน้าต่างก็สามารถระบายอากาศได้ระดับนึง

    ติดกับโถงทางเดินเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ค่ะ บริเวณนี้จะได้เป็นพื้นที่โล่ง ซึ่งมีประตูบานเลื่อน หน้าต่างและกระจกแบบเข้ามุม เปิดมุมมองได้กว้างทีเดียวค่ะ

    ภายในสามารถจัดเป็นพื้นที่ทำงาน พื้นที่นั่งเล่นได้พอสมควรเลย เพราะขนาดพื้นที่จัดว่าไม่น้อย จะกั้นเป็นห้องนอนอีกห้องนึงยังทำได้เลย

    ภายในพื้นที่อเรกประสงค์อีกมุมนึง มีพื้นที่สำหรับ Built-in ชั้นวางของต่างๆ ได้

    ติดกับห้องอเนกประสงค์เป็นส่วนระเบียงภายนอก ซึ่งให้ราวกันตกเป็บแบบกระจกด้วย ดูสวยงามและไม่บดบังวิวภายนอกได้ดีทีเดียว

    พื้นที่ส่วนระเบียงนั้นมีความยาวพอสมควรเลยค่ะ ให้ออกมายืนชมวิวต่างๆ ภายนอกได้ ซึ่งบริเวณระเบียงนี้เค้าก็ทำหลังคายื่นออกมากันแดดกันฝนสาดได้ดีมากทีเดียวค่ะ

    มองออกไปดูส่วนด้านบนหลังคาจะเห็นแผงโซลาร์เซลล์ในทุกหลังเลยค่ะ ซึ่งแผงโซลาร์เซลล์นี้จะทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานแดดเป็นพลังงานไฟฟ้าใช้ในส่วนของ Active Air Flow นวัตกรรมจาก SCG ช่วยลดความร้อนภายในบ้าน โดยระบบนี้จะได้ในบ้านทุกหลังเป็นมาตรฐานไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

    ถัดมาที่บริเวณโถงทางเดินแจกไปยังห้องนอนทั้ง 3 ห้อง บริเวณ Standy นั้นมีพื้นที่ลึกหน่อยให้สามารถ Built-in ชั้นวางของหรือจะทำเป็นมุมพระได้

    เข้ามาในห้องนอนเล็กกันก่อนนะคะ สำหรับขนาดห้องนอนนี้สามารถวางเตียงแบบ Single Bed หรือ 3.5 ฟุตได้กำลังดี ส่วนหัวเตียงติดหน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่ช่วยระบายอากาศภายในห้องและทำให้แสงสว่างเข้ามาภายในห้องได้พอสมควรเลยค่ะ

    ด้านข้างเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า และยังมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานเล็กๆ ได้ด้วยค่ะ

    ส่วนห้องน้ำภายในห้องนอนแบ่งโซนเปียกและแห้งให้เป็นสัดส่วนค่ะ แต่ไม่ได้ให้ฉากกั้นกระจกมา สามารถติดตั้งเองเพิ่มเติมได้ ส่วนสเป็คและยี่ห้อสุขภัณฑ์ใช้ Cotto เหมือนห้องน้ำชั้นล่างค่ะ

    ถัดมาที่ห้องนอนขนาดกลางกันบ้างนะคะ ภายในห้องนอนนี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาพอสมควรจากห้องนอนเล็ก เข้ามาภายในห้องจะเป็นส่วนห้องน้ำในห้องนอนก่อนเลย และค่อยเป็นโซนเตียงนอนด้านใน

    ภายในห้องน้ำมีการตกแต่งและชุดสุขภัณฑ์เหมือนห้องน้ำห้องที่แล้วค่ะ

    ก่อนเข้าสู่พื้นที่เตียงนอนจะเป็นทางเดินยาวๆ ไปประมาณนี้ ด้านข้างมีพื้นที่เหลือสามารถ Built-in ชุดตู้เสื้อผ้า หรือวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้ค่ะ

    บริเวณโซนเตียงนอนสามารถวางเตียงขนาด 3.5 – 5 ฟุตได้กำลังดี หากวางเตียง 3.5 ฟุตเหมือนบ้านตัวอย่างก็จะเหลือพื้นที่ทางเดินด้านข้างเตียงพอสมควรเลยค่ะ ส่วนผนังโดยรอบห้องนั้นจะไปเป็นหน้าต่างบานเลื่อนทั้ง 2 ฝั่งเลย ช่วยระบายอากาศในส่วนนี้ได้ดี

    หันกลับไปทางประตูทางเข้าห้อง ส่วนผนังที่ติดกับห้องน้ำนั้นมีมุมเล็กๆ ให้สามารถจัดโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้

    มาที่ห้องนอนใหญ่หรือ Master Bedroom กันต่อนะคะ ซึ่งตำแหน่งของห้องนี้จะอยู่บริเวณหน้าบ้าน มีความกว้างของห้องพอสมควร ประกอบกับได้หน้าต่างหลายตำแหน่งจึงทำให้ภายในห้องนอนดูโปร่งโล่ง สว่างดีทีเดียวค่ะ เมื่อเข้ามาภายในห้องแรก โซนแรกที่จะเจอจะเป็นส่วนเตียงนอน ซึ่งห้องนี้สามารถรองรับขนาดเตียงนอนไซส์ใหญ่สุดได้สบายมาก (6 ฟุต) และเหลือพื้นที่รอบเตียงพอสมควรให้สามารถจัดฟังก์ชันต่างๆ เพิ่มเติมได้อีกทั้ง 2 ฝั่งเลยค่ะ

    สำหรับฝั่งขวามือจากเตียงนั้นมีพื้นที่ว่างให้ Built-in ชั้นวางของ โต๊ะทำงาน หรือโต๊ะเครื่องแป้งขนาดพอสมควรได้เลย

    ส่วนปลายเตียงนั้นในบ้านจริงจะเป็นพื้นที่โล่งลึกเข้าไปด้านใน ซึ่งออกแบบมาให้เป็นส่วน Walk-in Closet ค่ะ

    ภายใน Walk-in Closet สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ รูปตัว L ได้สบายเลยค่ะ สาวๆ ที่ชอบช็อปปิ้งแต่งตัวน่าจะถูกใจแน่นอน

    ติดกับ Walk-in Closet เป็นส่วนห้องน้ำในห้องนอน ซึ่งแยกโซนเปียกและแห้งไว้ให้เรียบร้อยค่ะ

    ส่วนพื้นที่อาบน้ำได้ขนาดพอสมควร เป็นขนาดที่อาบน้ำได้สบายๆ และระดับพื้นภายในพื้นที่อาบน้ำนั้นมีการลดระดับลงมาจากพื้นห้องน้ำโซนแห้งเล็กน้อย เพื่อกันน้ำไหลย้อนได้ดี

    เฉพาะห้องน้ำใหญ่ที่จะได้ฉากกั้นกระจกกั้นระหว่างพื้นที่อาบน้ำและพื้นที่โซนแห้งนะคะ ส่วนภายในพื้นที่อาบน้ำเองจะมีฝักบัวสายอ่อน พร้อมที่วางสบู่ให้เรียบร้อย

    มาดูบ้านตัวอย่างอีกหลังกัน กับ Type บ้าน Verbena ที่ดิน 58 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ บ้านหลังนี้จะมีขนาดเล็กลงมาจากบ้าน Veronica หลังที่เราพึ่งพาไปดูมานะคะ ภายในบ้านตอบโจทย์สมาชิกในบ้านพอๆ กันคือประมาณสูงสุด 5-6 คน เป็นครอบครัวใหญ่ได้เช่นเดียวกัน จุดเด่นของบ้านหลังนี้ที่แตกต่างจากบ้านหลังแรก คือชั้นล่างมีการกั้นพื้นที่ห้องสำหรับผู้สูงอายุให้เรียบร้อยค่ะ ตอบโจทย์ครอบครัวที่มีสมาชิกเป็นผู้สูงอายุอยู่แล้ว ไม่ต้องการตกแต่งหรือกั้นพื้นที่ห้องเพิ่มเติม และตัดฟังก์ชันห้องนอน,ห้องน้ำแม่บ้านออกไป

    การตกแต่งหน้าบ้านตัวอย่างนั้นเป็นหน้าตาบ้านแบบใหม่ ที่ออกแบบเน้นความ Modern มากขึ้นโดยใช้โทนสีแบบ Monochrome มีผนังบางส่วนตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน ซึ่งหน้าตาบ้านแบบนี้จะนำมาใช้ในเฟสถัดไปที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง และจะเปิดขายไม่นานนี้

    ส่วนหน้าตาบ้านในเฟสแรกที่กำลังเปิดขายอยู่นั้นจะมีความ Contempory มากกว่าเฟสถัดไปหน่อย โดยใช้โทนสีน้ำตาลตกแต่งบนผนัง ให้ความรู้สึกอบอุ่นมากกว่า ทั้งนี้ความแตกต่างจะมีเฉพาะส่วนหน้าตาบ้านเท่านั้นนะคะ ภายในบ้าน พื้นที่และฟังก์ชันต่างๆ จะเหมือนกันทั้งหมด ไม่แตกต่างค่ะ

    ชั้น 1 – การออกแบบบ้านมีความใกล้เคียงกับบ้านหลังแรก เพียงแต่ได้หน้าบ้านแคบกว่า จึงถูกตัดพื้นที่ทำงานหน้าบ้านออกไป ส่วนหลังบ้านออกแบบเป็นบ้านหน้ากว้างเช่นกัน โดยขยายห้องนอนชั้นล่างออกมาด้านซ้าย ทำให้ห้องนี้ได้ช่องเปิดจากทั้ง 2 ฝั่งคือหน้าบ้านและด้านข้าง ห้องนี้จึงค่อนข้างโปร่งโล่งและสัมผัสกับสวนได้เต็มที่ ส่วนพื้นที่รับประทานอาหารอยู่ติดกับครัวไทยที่กั้นพื้นที่ไว้เป็นสัดส่วนชัดเจน

    ชั้น 2 – มีการเล่นระดับตัวบ้านบริเวณพื้นที่นั่งเล่น (Relaxing Area) โดยระดับพื้นจะอยู่ระดับเดียวกับชานพักบันได แต่มีระดับความสูงฝ้าเท่ากับฝ้าชั้น 2 ทำให้พื้นที่นั่งเล่นนี้มีความโปร่งโล่งและโอ่โถงทีเดียวค่ะ ชั้น 2 จะเป็นห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง โดยตำแหน่งห้องนอนใหญ่จะอยู่บริเวณหน้าบ้าน ภายในมีห้องน้ำและ Walk-in Closet ในตัว ส่วนห้องนอนเล็กและห้องนอนกลางจะอยู่บริเวณด้านหลังบ้าน คั่นกลางด้วยห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน เพื่อให้สะดวกในการใช้งานกับห้องนอนทั้ง 2 ห้อง

    เข้ามาดูบริเวณพื้นที่จอดรถนี้ใช้โครงสร้างแบบ Slab on beam มีเสาเข็มลึก 4 ม. มีความแข็งแรงของโครงสร้างและรับน้ำหนักได้ดี อย่างรถยนต์นั้นจะมีน้ำหนัก (Load) เยอะมาก เมื่อรับน้ำหนักได้ดี จึงมีการลดตัวต่ำกว่า Slab on ground ค่ะ ส่วนพื้นผิวพื้นนั้นจะเป็นพื้นทรายล้าง ข้อดีคือเมื่อโดนฝน เปียกน้ำพื้นจะไม่ลื่นง่าย แต่ข้อด้อยก็คือน้ำขังง่าย เกิดตะไคร้ ต้องหมั่นทำความสะอาดบ่อยกว่าพื้นชนิดอื่น

    ถัดมาบริเวณทางเข้าหน้าบ้านมีการยกระดับพื้นเฉลียงขึ้นมาดูแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนแยกชัดเจนกับพื้นที่สวนและทำกันสาดยื่นออกมาพอสมควร ช่วยกันแดดกันฝนสาดได้ดี จะเปิดประตูบานเลื่อนหน้าบ้านช่วงฝนตกก็ยังได้ เพราะเวลาฝนสาดก็ยังไม่กระเด็นเข้าไปในบ้านนะคะ

    สำหรับการจัดสวนในบ้านมาตรฐานทุกหลังจะจัดให้เป็นสไตล์แบบนี้นะคะ มีทั้งสนามหญ้า ไม้พุ่ม และไม้ยืนต้นแบบจัดเต็ม สวยและร่มรื่นดีมากเลยค่ะ

    ด้านข้างบ้าน บริเวณนี้จะมีพื้นที่กว้างหน่อย ซึ่งอยู่ติดกับห้องอเนกประสงค์หรือห้องนอนผู้สูงอายุ ใครอยากทำเฉลียงออกมาแล้วจัดเป็นชุดที่นั่ง Outdoor ชมสวนชิลๆ ก็ได้บรรยากาศดีไปอีกแบบนะคะ

    ส่วนหลังบ้านนั้นจะตกแต่งด้วยการปูหญ้ามาตรฐานค่ะ เนื่องจากมีความกว้างของพื้นที่หลังบ้านไม่มากนัก ลึกไปด้านในสุดจะเป็นลานซักล้างที่เชื่อมกับห้องครัวภายใน สำหรับโครงสร้างของลานซักล้างนั้นก็จะเหมือนกับบ้านหลังแรกเลยค่ะ คือใช้โครงสร้างเดียวกับโครงสร้างบ้านหลัก ไม่แยกโครงสร้างกัน ทำให้พื้นที่แยกออกจากกันเวลาหน้าดินทรุดตัว แตกต่างกับการทำลานซักล้างแบบ Slab on Ground ค่ะ

    ด้านข้างบ้านอีกด้านปูด้วยสนามหญ้ามาตรฐานเช่นเดียวกันค่ะ ซึ่งด้านนี้จะเชื่อมไปออกส่วนที่จอดรถหน้าบ้าน

    กลับมาที่บริเวณทางเข้า-ออกหลักของบ้าน โดยบริเวณนี้ทำเป็นพื้นที่เฉลียงยาวๆ แต่ไม่ลึกมาก เป็นเหมือนพื้นที่ปรับเปลี่ยนก่อนเข้าสู่ภายในตัวบ้าน มีการทำสเต็ปขึ้นให้เดินได้สะดวก เนื่องจากตัวบ้านมีการยกระดับขึ้นมาจากพื้นภายนอกเพื่อกันน้ำไหลย้อนเข้าตัวบ้าน รวมทั้งเรื่องของแมลงต่างๆ ด้วย

    เข้ามาด้านในบ้านเป็นพื้นที่นั่งเล่นก่อน และเชื่อมกับพื้นที่รับประทานอาหารในโซนด้านหลังค่ะ ฝ้าเพดานในบ้านมาตรฐานได้เป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีขาว ดวงโคมดาวน์ไลท์มาตรฐาน ส่วนพื้นชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้

    บริเวณพื้นที่นั่งเล่นจัดมาให้ขนาดใหญ่ สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้สบายๆ รวมทั้งเก้าอี้โซฟาและโต๊ะกลางได้ง่าย ผนังบ้านนอกจากหน้าบ้านแล้วก็มีอีกฝั่งที่ได้หน้าต่างขนาดใหญ่ ช่วยระบายอากาศภายในได้ดี และแสงสว่างธรรมชาติภายนอกเข้ามาได้ดีทำให้ตัวห้องดูโปร่งโล่ง

    ลึกเข้ามาด้านหลังบ้านเป็นพื้นที่รับประทานอาหารสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4-6 ที่นั่งได้ พร้อมมีพื้นที่สำหรับจัดส่วน Pantry เตรียมเครื่องดื่ม เตรียมอาหารได้ ด้านหลังบ้านติดตั้งหน้าต่างขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ ทำให้อากาศภายในตัวบ้านหมุนเวียนได้ดีทีเดียวค่ะ

    ด้านข้างซ้ายของพื้นที่รับประทานอาหารนั้น จะเป็นโถงขนาดเล็ก เชื่อมเข้าห้องน้ำในชั้นล่างและห้องอเนกประสงค์ ซึ่งห้องอเนกประสงค์นี้สามารถปรับเป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้ จึงตั้งใจออกแบบให้อยู่ติดกับห้องน้ำชั้นล่างเพื่อให้สะดวกกับการใช้งาน ไม่ต้องเดินไกลค่ะ

    ภายในห้องน้ำแบ่งโซนเปียกและแห้งเรียบร้อย พื้นที่อาบน้ำมีการก่อผนังยื่นออกมาเล็กน้อยและลดระดับพื้นลงเล็กน้อยเพื่อกันน้ำไหลย้อนได้ดี

    ภายในห้องอเนกประสงค์มีพื้นที่กำลังดีสำหรับวางเตียง 3.5 ฟุต หากต้องการจัดเป็นห้องนอน หรือใครจะปรับเป็นห้องทำงานอื่นๆ ก็ได้เช่นกันค่ะ ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกบ้านเลย ภายในห้องนี้แม้พื้นที่จะไม่ได้ใหญ่มากแต่ก็โปร่งโล่งดีทีเดียว เพราะได้ช่องเปิดขนาดใหญ่ ทั้งหน้าต่างบานเลื่อน และประตูบานเลื่อนติดสวน

    ส่วนที่ติดกับพื้นที่รับประทานอาหารอีกฝั่งจะเป็นห้องครัวค่ะ โดยห้องครัวนี้ออกแบบให้เป็นห้องครัวปิด ด้วยประตูบานเปิดทึบมาตรฐาน ระดับพื้นครัวลดระดับลงเล็กน้อย และปูด้วยพื้นกระเบื้องเซรามิก

    ภายในห้องครัวสามารถจัด Pantry เป็นรูปตัว U ได้ ซึ่งเป็นลักษณะที่เหมาะกับการทำอาหารดีค่ะ ด้านนึงของผนังได้หน้าต่างบานเลื่อนช่วยระบายอากาศ ความชื้น และแสงสว่างภายนอกเข้ามาได้พอสมควร

    สำหรับบ้านหลังนี้จุดเด่นคือเป็นบ้านเล่นระดับ (Split Level) ทำให้ภายในตัวบ้านมีมิติที่แตกต่างจากบ้านทั่วไป ดูน่าสนใจ ไม่เรียบง่าย เริ่มจากส่วนโถงบันได บริเวณชานพักด้านขวาจะจัดให้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์

    ด้วยความที่เป็นบ้านเล่นระดับ ทำให้พื้นที่อเนกประสงค์นี้ได้ฝ้าเพดานสูง มีความโอ่โถงและโปร่งโล่งดีมาก รวมไปถึงได้ช่องเปิดขนาดใหญ่อย่างส่วนประตูบานเลื่อนหน้าบ้าน และหน้าต่างบานเลื่อนด้านข้าง

    สำหรับใครที่จะจัดพื้นที่นี้เป็นพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัวเหมือนอย่างบ้านตัวอย่าง ซึ่งจะเหมาะกับครอบครัวที่เน้นรับแขกบ่อย ก็สามารถจัดพื้นที่นั่งเล่นด้านล่างเป็นพื้นที่รับแขกแทน และจัดพื้นที่นี้เป็นพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัวของสมาชิกในบ้าน โดยความกว้างระหว่างโซฟาและทีวีนั้นอยู่ที่ประมาณ 2.5 ม. เหมาะกับการวางทีวีขนาดประมาณ 50″-52″ จะอยู่ในระยะสายตาที่กำลังพอดีค่ะ

    ในพื้นที่นี้เหมาะกับการวางชุดโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้สบายๆ พร้อมโต๊ะกลางขนาดใหญ่ได้

    ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นโถงตรงกลางแจกไปยังห้องนอนทั้ง 3 ห้อง

    เริ่มจากห้องเล็กเหมาะกับวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ได้กำลังพอดีค่ะ ภายในห้องได้หน้าต่างบานใหญ่จากทั้ง 2 มุมช่วยระบายอากาศภายในห้องได้ดี และช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งเพราะแสงสว่างเข้ามาได้ดีทีเดียว

    เมื่อวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ตามความกว้างของห้อง ตามบ้านตัวอย่างจะเห็นว่าไม่มีพื้นที่ปลายเตียงเลย ดังนั้นจึงไม่มีพื้นที่ทางเดินรอบเตียง ซึ่งอาจจะไม่สะดวกในการใช้งานมากนัก แต่ก็จะได้พื้นที่ด้านข้างเตียงด้านเดียวที่ได้พื้นที่ว่างขนาดใหญ่ จะจัดฟังก์ชันเพิ่มเติมอย่าง โต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้งก็ได้เช่นกันค่ะ แต่หากใครอยากได้พื้นที่ทางเดินรอบเตียงก็เปลี่ยนทิศหัวเตียงให้ยาวไปตามความยาวของห้องแทน ก็จะได้พื้นที่ทางเดินรอบเตียงขึ้นมาแต่ก็แลกมากับพื้นที่โต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้งที่หายไปด้วยเช่นกัน

    อีกด้านของห้องสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดกลาง-ใหญ่ได้ค่ะ

    ถัดจากห้องนอนเล็กจะเป็นส่วนห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันกับห้องนอนกลาง ซึ่งก็ได้มามาตรฐานเหมือนกับห้องน้ำในบ้านหลังที่แล้วค่ะ

    ถัดมาที่ห้องนอนกลาง สามารถวางเตียงขนาด 3.5 – 5 ฟุตได้กำลังดี แต่หากวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต จะเหลือพื้นที่ด้านข้างเตียงพอสมควรให้สามารถวางชุดโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานขนาดกะทัดรัดได้

    ติดกับโต๊ะทำงานนั้นเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า จะจัดเป็นตู้เสื้อรูปตัว L ก็ได้นะคะ สำหรับใครที่มีเสื้อผ้าเยอะ แต่อย่าลืมเช็ควงสวิงของประตูเปิดด้วย วางใช้พื้นที่เท่าไหร่ หากจะจัดตู้เสื้อเป็นตัว L จะได้ไม่ไปติดประตูบานเปิดค่ะ

    ถัดมาเป็นห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) ซึ่งอยู่ตำแหน่งหน้าบ้าน ลักษณะของห้องนอนนี้จะเป็นแบบหน้ากว้าง จึงได้ช่องเปิดด้านหน้าบ้านมากทีเดียวค่ะ

    ด้วยความกว้างค่อนข้างมากของพื้นที่ภายในห้องนอนทำให้สามารถแบ่งพื้นที่ห้องนอนได้หลายโซนด้วยกัน เริ่มจากโซนเตียงนอน เหมาะกับวางเตียงขนาด 5 ฟุตจะกำลังดีที่สุดค่ะ เพราะจะเหลือพื้นที่ด้านข้างพอสมควร และด้านข้างเตียงได้หน้าต่างบานใหญ่มาก สามารถมองวิวภายนอกจากบนเดียงได้เลย

    บริเวณปลายเตียงเหลือพื้นที่เยอะสมควร สามารถจัดฟังก์ชันอื่นๆ เพิ่มเติมได้ อย่างบ้านตัวอย่างนี้จัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง ติดทีวี จะเป็นแบบติดผนังเลยหรือติดกับตู้เสื้อผ้าอย่างบ้านตัวอย่างก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจ ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่ามากขึ้นค่ะ

    ด้านข้างเตียงอีกฝั่งเป็นทางเข้าห้องน้ำภายในห้องนอนค่ะ

    เฉพาะห้องน้ำในห้องนอนใหญ่เท่านั้นที่ได้ฉากกั้นกระจกกั้นระหว่างโซนแห้งและพื้นที่อาบน้ำ ส่วนสเป็คสุขภัณฑ์และการตกแต่งต่างๆ จะเหมือนกับห้องน้ำห้องอื่นๆ ในบ้านเลยค่ะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

     

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 20 July 2017

    • Veronica แปลงที่ 16 (แปลงมุม) พื้นที่ใช้สอย 204 ตร.ม. ที่ดิน 61.9 ตร.วา ราคาปกติ 9.25 ล้านบาท ราคาพิเศษ 8.29 ล้านบาท
    • Veronica แปลงที่ 12 พื้นที่ใช้สอย 204 ตร.ม. ที่ดิน 60.4 ตร.วา ราคาปกติ 9.25 ล้านบาท ราคาพิเศษ 8.29 ล้านบาท
    • Verbena แปลงที่ 30 (แปลงมุม) พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. ที่ดิน 61 ตร.วา ราคาปกติ 8.8 ล้านบาท ราคาพิเศษ 8.29 ล้านบาท
    • Promotion July 15-23, 2017 Open New Collection จะได้ Privilege Offer รับข้อเสนอสูงสุด 500,000 บาท

    • อัตราผ่อนต่ำ ล้านละ 3,000 บาท เริ่ม 13,500 บาท/ เดือน
    • ดอกเบี้ยพิเศษ 2% นาน 2 ปี
    • Decoration Voucher มูลค่าสูงสุด 200,000 บาท

    • จอง+ทำสัญญา 5%
    • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตร.วาละ 51,000-61,000 บาท
    • ค่าส่วนกลางไม่เกิน 25 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า n/a ปี
    • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
    • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
    • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    โครงการ Perfect Place 4 ราชพฤกษ์ โครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่เป็นหนึ่งใน 6 โครงการของ Property Perfect ด้วยรูปแบบตัวโครงการที่อยู่ในโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งตัดกับถนนสาธารณะหลายสาย สามารถลัดเลาะไปได้หลายทาง ทำให้โครงการนี้ได้เปรียบในเรื่องการเดินทางที่สะดวกทั้งถนนราชพฤกษ์และถนนรัตนาธิเบศร์ รวมไปถึงเป็นโครงการแนวราบที่อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าอีกด้วย จุดเด่นของโครงการเลยก็คงจะเป็นเรื่องการเดินทางทั้งใช้รถยนต์ส่วนตัวและรถไฟฟ้าสะดวก ซึ่งลักษณะทำเลที่มีซอยสาธารณะเชื่อมกับถนนภายในโครงการเองแบบนี้ก็ย่อมแลกมากับความเป็นส่วนตัวของโครงการ และการรักษาความปลอดภัยของโครงการที่ต้องเข้มงวดมากขึ้นเช่นกัน

    ทำเล – ที่ตั้งโครงการตั้งอยู่ในโซนโครงการจัดสรรแนวราบ และแวดล้อมไปด้วยสวนผลไม้ขนาดใหญ่ มีชุมชนดั้งเดิมอาศัยอยู่บ้างประปราย บรรยากาศจึงยังคงสงบ ไม่คึกคักมากนัก ตามประสาทำเลโครงการแนวราบส่วนใหญ่ ซึ่งหากมองในแง่ความอุดมสมบูรณ์ก็ยังถือว่าไม่มีอะไรเท่าไหร่นะคะ โดยกลุ่มก้อนความอุดมสมบูรณ์นั้นจะไปกระจุกอยู่บริเวณสนามบินน้ำที่มีทั้งตลาดนัด ตลาดสด และห้างใหญ่อย่าง Central รัตนาธิเบศร์ หรืออีกฝั่งนึงก็จะเป็นแถวบางใหญ่ที่มีทั้ง Central West Gate ห้างใหม่สุดในย่าน รวมไปถึง Hyper Market และตลาดอีกด้วย ต้องเน้นอาศัยขับรถไปจะสะดวกสุด หรือจะนั่งรถไฟฟ้าสายสีม่วงไปก็ง่ายเช่นกันค่ะ

    การเดินทาง – สะดวกสำหรับการเดินทางด้วยเส้นราชพฤษ์และรัตนาธิเบศร์ เพราะมีซอยสาธารณะลัดไปออกถนนใหญ่ได้ง่าย เหมาะกับคนที่เน้นเดินทางด้วยถนนใหญ่ 2 เส้นนี้เป็นหลัก ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการที่แตกต่างจากโครงการจัดสรรติดถนนราชพฤกษ์ด้วยกัน แต่ก็จะด้อยในเรื่องความเป็นส่วนตัวภายในโครงการและความปลอดภัย

    โครงการ – แต่เดิมทางโครงการได้ซื้อพื้นที่ขนาดใหญ่ไว้ และแบ่งจัดสรรเป็นโครงการแนวราบ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 6 โครงการด้วยกัน ซึ่งมีการใช้ถนนภายในโครงการและ Clubhouse ร่วมกัน ทำให้ลักษณะของโครงการเป็นเสมือนอาณาจักรของ Property Perfect บรรยากาศภายในก็จะหนาแน่นกว่าโครงการเดี่ยวๆ นะคะ ส่วนในตัวโครงการ Perfect Place 4 ราชพฤกษ์ ซึ่งเป็น 1 ในโครงการของ Property Perfect นี้มีการจัดวางผังได้เรียบง่าย สัญจรได้ดี ภายในแตกเป็นซอยย่อยสั้นๆ เพื่อให้จำนวนยูนิตแต่ละซอยไม่มากนัก และที่เด่นคือบรรยากาศโครงการที่จัดออกมาได้ดี มีความร่มรื่น

    แบบ – บ้าน Type  Veronica เป็นบ้านหน้ากว้าง บ้านหน้ากว้าง ซึ่งข้อดีของบ้านแบบหน้ากว้างคือทำให้ภายในตัวบ้านดูโปร่งโล่ง กว้างขวาง เนื่องจากได้ช่องแสงขนาดใหญ่และเยอะ จากหน้าบ้าน รวมทั้งสามารถจัดฟังก์ชันได้ง่าย มีห้องแม่บ้าน แต่ไม่ได้ออกแบบเพื่อรองรับผู้สูงอายุ ส่วนบ้าน Verbena จุดเด่นของบ้านหลังนี้คือชั้นล่างมีการกั้นพื้นที่ห้องสำหรับผู้สูงอายุ ตอบโจทย์ครอบครัวที่มีสมาชิกเป็นผู้สูงอายุอยู่แล้ว ไม่ต้องการตกแต่งหรือกั้นพื้นที่ห้องเพิ่มเติม และตัดฟังก์ชันห้องนอน,ห้องน้ำแม่บ้านออกไป และมีการเล่นระดับพื้นภายในบ้าน ทำให้พื้นที่อเนกประสงค์ในชั้นลอยมีความโอ่โถง โปร่งโล่งดีมาก

    วัสดุ – ให้มามาตรฐาน ตัวโครงสร้างใช้ระบบเสา-คาน พื้นที่จอดรถและลานซักล้างเป็น Slab on Beam พื้นชั้น 1 ใช้แกรนิตโต้ พื้นชั้น 2 เป็นลามิเนต พื้นครัว ห้องน้ำและลานซักล้างใช้กระเบื้องเซรามิก สุขภัณฑ์จาก Cotto มีฉากกั้นกระจกให้สำหรับห้องน้ำใน Master Bedroom รวมไปถึงได้ Active Airflow จาก SCG เป็นนวัตกรรมระบายความร้อนในบ้าน

    สาธารณูปโภค – ตัวโครงการไม่เน้นเรื่องสาธารณูปโภคเท่าไหร่ เนื่องจากมี Master Clubhouse ขนาดใหญ่ที่ใช้ร่วมกับอีก 5 โครงการในเครือ Property Perfect ด้วยกัน ไว้คอยรองรับลูกบ้านที่ชอบใช้ Facilities อยู่แล้ว โดยภายในโครงการจะมีเพียงสวนสาธารณะขนาดประมาณ 1.5 ไร่ อยู่บริเวณโซนด้านหน้าโครงการเท่านั้นค่ะ ข้อดีคือทำให้ตัวโครงการเหมาะกับคนที่ไม่เน้นใช้ Facilities อยู่แล้วจะได้ไม่ต้องรับภาระเรื่องค่าส่วนกลางที่แพงเพราะต้องใช้ในการดูแลส่วน Club House ด้วย และยังตอบโจทย์กลุ่มคนอีกกลุ่มคือคนที่ชอบใช้ Facilities เพราะก็มี Master Clubhouse และ Clubhouse ใกล้หน้าโครงการ (กำลังสร้าง) รองรับอยู่แล้ว ส่วนความปลอดภัยจัดมาให้ในระดับทั่วไป คือมี CCTV รปภ. 24 ชม. Key Card Access และรอบรั้วโครงการสูง 3 ม.

     

    Judgement

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับแพคเกจ 6-9 ล้านบาท, 20 July 2017

    • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7/10 – ลัดออกถนนราชพฤกษ์และถนนรัตนาธิเบศร์ได้สะดวก
    • ความปลอดภัย 7/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ. CCTV ,Keycard Access
    • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.5/10 – มาตรฐาน ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่า
    • วัสดุ 7.5/10 – ให้มามาตรฐาน มี Active Airflow จาก SCG พิเศษขึ้นมา
    • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – บรรยากาศร่มรื่น
    • สาธารณูปโภค 6.5/10 – สวนสาธารณะขนาดประมาณ 1.5 ไร่
    • 7.28 / 10.00

    BOTTOM LINE

    Perfect Place 4 ราชพฤกษ์ เหมาะกับครอบครัวที่มองหาบ้านเดี่ยว เดินทางด้วยถนนราชพฤกษ์ และถนนรัตนาธิเบศร์สะดวก อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า ไม่เน้นใช้ Facilities ภายในโครงการ แต่อยู่ใกล้กับ Clubhouse ขนาดใหญ่ มีงบประมาณ 6-9 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 42,000 – 72,000 บาท

    ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

    สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )