Ocean Portofino จอมเทียน คอนโดมิเนียมตากอากาศ ติดทะเล พร้อมอยู่ ริมท่าจอดเรือยอร์ช [รีวิวฉบับที่ 515]

สวัสดีค่ะ วันนี้ฝนพามาเจาะลึก Ocean Portofino จอมเทียน โดย Ocean Property ที่พัทยากันนะคะ  เป็นคอนโดมิเนียม High Rise สูง 36 ชั้น 1 อาคาร สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ ตัวโครงการด้านหน้าติดถนนสุขุมวิท กิโลเมตร 157 และด้านหลังติดทะเลอ่าวไทย ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับ Ocean Marina Yacht Club สโมสรและท่าจอดเรือยอร์ช มาตรฐานแห่งแรกในไทย โดยขนาดห้องพักมีตั้งแต่ 76-233 ตารางเมตร มีระเบียงและเห็นวิวทะเลทุกห้องและ Free Hold 100% ค่ะ

Fact @ 31 January 2014

• Ocean Portofino Jomtien (โอเชี่ยน พอร์ทโทฟิโน่ จอมเทียน )
• Ocean Property Co.,Ltd.
• Segment การตลาด 6-12 ล้านบาท
• เนื้อที่โครงการ  2.5 ไร่
• คอนโด High Rise 36 ชั้น 268 ยูนิต 
• ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 6-8 ยูนิต
• ที่จอดรถจอดได้ประมาณ 60 %
• 1 Bedroom 76.54-90.33 ตารางเมตร
• 2 Bedrooms 127.72-159.07 ตารางเมตร 
• 4 Bedrooms 233.17-233.29 ตารางเมตร
• ราคาต่อตารางเมตรเฉลี่ยประมาณ 110,000 บาท
• ก่อสร้างเมื่อเมษายน 2549 สร้างเสร็จเมื่อ 2551
• http://www.oceanportofino.com
• โทร : 038-255-888

ทำเลที่ตั้งโครงการ 

พิกัด 12°49’49″N   100°54’40″E

แผนที่จากทางโครงการ

การเดินทางด้วยรถยนต์สู่พัทยา หลักๆฝนแบ่งออกเป็น 3 เส้นทางนะคะ แล้วแต่ว่าใครสะดวกไปทางไหน

• ใช้เส้นทางบางนา-ตราด
  ทางด่วนบูรพาวิถี ไปจนสุดทางด่วนตรงอมตะนคร จากนั้นให้ชิดซ้ายเข้าเส้น บายพาสเพื่อเลี่ยงรถติดในตัวเมืองชลบุรี ขับไปเรื่อยๆ จะมีป้ายบอกไปพัทยา
• ใช้เส้นทางหลวง 34 บางนา-บางปะกง
  และเข้าเส้นสุขุมวิท ผ่านชลบุรี บางแสน ศรีราชา จากนั้นมุงหน้าสู่พัทยา
  
• ใช้ทางหลวงพิเศษมอเตอร์เวย์
  มุ่งหน้าตามป้ายชลบุรี และเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นสุขุมวิทสู่พัทยา < วันนี้ฝนเลือกเส้นทางนี้ค่ะ ^^

ซึ่งจริงๆแล้วยังมีรถตู้และรถทัวร์ให้เลือกใช้บริการได้อีกเช่นกัน

เกริ่นกันซักเล็กน้อย ตัวเมืองพัทยานี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมานานแล้วโดยแต่ก่อนที่จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตก็เป็นเมืองประมงกันมาก่อน พัทยาห่างจากตัวเมืองชลบุรีมา 30 กิโลเมตรค่ะ แต่ด้วยทรัพยากรและลักษณะทางกายภาพของหาดโค้งที่สวยงามจึงไม่ยากที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามามากมาย และยังเป็นเขตปกครองพิเศษ ในจังหวัดชลบุรี หลักๆแล้วแบ่งส่วนภายในของเมืองพัทยาออกเป็น 4 ส่วนได้แก่ พัทยาเหนือ พัทยากลาง พัทยาใต้ และหาดจอมเทียน  ที่จะมีการอยู่อาศัยและค้าขายหนาแน่นก็ในวงสีแดงๆที่ฝนทำไว้ในภาพ นอกจากลักษณะทางกายภาพของพัทยาแล้ว อีกปัจจัยหนึ่งก็คือเรื่องการเดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ถนนหนทางที่ใช้ตัดมาก็สะดวก และแหล่งบันเทิงต่างๆที่แทบจะย่อกรุงเทพฯมาไว้เลย

โครงการ Ocean Portofino อยู่ในพื้นที่เดียวกันกับโอเชี่ยน มารีนา ยอร์ช คลับ ซึ่งภายในจะประกอบด้วย มารีน่า โรงแรม คอนโดมิเนียม และยอร์ชคลับ ติดหาดจอมเทียนบนทางหลวงสุขุมวิท (กิโลเมตร 157) การเดินทางก็สะดวกเลยค่ะ ขับตรงมาเรื่อยๆเลยพัทยาใต้มาและสังเกตเห็นอาคารสูงฝั่งริมหาด ตั้งเด่นคู่กัน หาไม่ยากค่ะ ไม่ได้อยู่ใกล้กับใจกลางของเมืองพัทยา ห่างจากพัทยาใต้มาประมาณ 10 กิโลเมตร เพราะฉะนั้นค่อนข้างเงียบสงบเลยนะ เริ่มเดินทางกันเลยดีกว่า ช้าอยู่ไย

จากทางหลวงหมายเลข7 ออกมาตัดกับเส้นสุขุมวิท แถวพัทยากลาง จากแยกนี้

• เลี้ยวขวา ไปพัทยาเหนือ
• เลี้ยวซ้าย ไปพัทยากลาง หาดจอมเทียน สัตหีบ ระยอง ซึ่งเราจะเลี้ยวซ้ายกันค่ะ

เข้าสู่เส้นสุขุมวิท มุ่งหน้าไปทางพัทยากลางและใต้ ดูจากป้ายต่างๆก็ที่ขึ้น แน่นกันเลยทีเดียวนะ  พัทยาแต่ละโซนก็จะมีความแตกต่างกันไป อย่างพัทยากลางเนี่ย ก็จะมีโรงแรมและสถานบันเทิงยามค่ำคืนอยู่ซะเยอะ

ถนนสุขุมวิทเป็นถนนใหญ่ 8 เลน ในวันธรรมดา ก็โล่งๆสบายๆ แต่ช่วงวันหยุด หรือช่วงเทศกาลท่องเที่ยว เส้นนี้รถติด คนแน่นมากมาย ซึ่งทำให้คนที่ชอบอยู่สงบๆออกไปอยู่ในทำเลด้านนอกเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ

ขับมาอีกสักหน่อยจะเจอป้ายบอกทางสถานที่ท่องเที่ยวเมืองพัทยา ซึ่งคงหนีไม่พ้นเกาะต่างๆ ที่ดังที่สุดเห็นจะเป็นเกาะล้าน เพื่อนๆ ชอบไปเที่ยวกันในวันหยุด เพราะสะดวก ใช้เวลาเดินทางไม่เท่าไร ก็ถึงแล้ว อีกอย่างของกินเพียบ  ร้านอาหารต่างๆ ริมชายหาดมีให้เลือกทั้งกลางวัน กลางคืน ไม่มีเบื่อ เข้ากับ Life Style คนเมือง จริงๆ แม้จะอยู่บนเกาะก็ตาม

ถัดมาอีกหน่อย เจอป้ายบอกทางสวนนงนุช ซึ่งเป็นสวนสวนไม้ดอก-ไม้ประดับ มีสัตว์อยู่บ้าง ไปขี่ช้างก็ได้ เหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบครอบครัวค่ะ  มีทัวร์มาลงบ่อยๆ เราตรงต่อไปค่ะ

ผ่าน แยกไฟแดงพัทยากลางตรงต่อไปค่ะ เข้าสู่พัทยาใต้ค่ะ พัทยาใต้ แถบนี้ถูกเรียกว่า วอล์คกิ้ง สตรีท เขตเดินเท้าบริเวณนี้มีร้านค้าเล็กๆ มากมาย พัทยาใต้จะค่อนข้างวุ่นวายซักหน่อย

สภาพความเป็นเมืองพัทยานี่เราสังเกตได้จากห้างที่ขึ้นมาได้เหมือนกันนะคะ ตรงนี้มี Big C  ด้วย ติดๆ กันเป็น Homework  และก็ยังมีหลายๆ ห้าง เช่น เซนทรัล เฟสติวัล ที่เปิดไปซักระยะ ความสะดวกสบาย น้องๆกรุงเทพฯ

ผ่านตัวเมืองพัทยา มาทางด้านจอมเทียน  จะเห็นว่าถนนค่อนข้างโล่ง ไม่จอแจเหมือนเมื่อครู่ค่ะ ข้างทางก็จะมีพื้นที่สีเขียวให้เราเห็นค่อนข้างเยอะหน่อย หาดจอมเทียน ความยาว 6 กิโลเมตรของหาดจอมเทียนถูกแบ่ง จากส่วนอื่นๆในเมืองพัทยาด้วยเนินเขาด้านหลังของพัทยาใต้ บรรยากาศเลยเงียบสงบและยังคงสภาพความอุดมสมบูรณ์ไว้ได้ในระดับนึง ไม่จอแจ

เราตรงมาอีกหน่อย ก็จะเจอ “ตลาดน้ำสี่ภาค” ต้องบอกว่าที่นี่เข้าไป แม้สิ่งปลูกสร้างต่างๆ แม้กระทั่งของที่ขายจะเป็นของไทย พ่อค้าแม่ค้าเป็นชาวไทย แต่บรรยากาศคล้ายว่าอยู่เมืองนอก คนที่เดินข้างๆ ส่วนใหญ่ไม่ใช่คนไทยนะคะ เป็นชาวจีน ชาวเกาหลี ซะเยอะ คุยกับพ่อค้าแม่ค้าแบบต่อเก่งซะด้วย แต่ว่าน่าเดินเล่นค่ะ มีของกิน ของขาย นั่งเรือได้ด้วย

ขับตรงมาซักระยะจะเจอสามแยกเข้าซอยวัดห้วยใหญ่ เราก็ยังมุ่งหน้าตรงต่อไปเรื่อยๆ

ที่หาดจอมเทียนมีโรงแรมที่ตั้งเด่นๆมานานก็ โรงแรมแอมบาสเดอร์ซิตี้จอมเทียน จะอยู่ไม่ไกลจากโครงการเท่าไหร่

มีป้ายขนาดใหญ่เห็นอยู่หน้าโครงการชัดเจนจากฝั่งตรงกันข้าม ชิดขวาเตรียมกลับรถเข้าโครงการกันดีกว่า

จากภาพจะเห็นว่าจุดกลับจะตรงกับแนวเขตของ Ocean Marina เลยนะคะ ซึ่งเป็นทางเข้าออกของส่วน โรงเก็บ ซ่อมบำรุงและจอดเรือ ส่วนทางเข้าของโครงการและคอนโดมิเนียมจะอยู่ถัดไปอีก ไม่ได้กระชั้นมากค่ะ

พอกลับรถมาเราจะเจอ Ocean Marina ก่อนนะคะ ตรงที่มีประภาคารสีขาวตั้งอยู่นั่นแหละ ถัดไปถึงจะเป็น Ocean Portofino ซึ่งจริงๆแล้วสองโครงการนี้เชื่อมถึงกันค่ะ

ป้ายโครงการก็ใหญ่และเห็นได้ไม่ยากเลย ถึงโครงการกันแล้วค่ะ 🙂

เจาะลึกตัวโครงการ

ตัวโครงการ Ocean Portofino คอนโดมิเนียมจะอยู่บนที่ดินขนาดเพียง 2.5 ไร่ ซึ่งตั้งรวมอยู่ภายใน โอเชี่ยน มารีนา ยอร์ช คลับ โดยภายในจะเป็นที่ต้ังของ San Marino โรงแรมและคอนโดมิเนียมหน้าตาคล้ายคลึงกันกับ Ocean Portofino และ ส่วนจอง Yacth Club รวมที่มีเนื้อที่ประมาณ 120 ไร่ บนบกนะค่ะ ในน้ำที่เป็นส่วของที่จอดเรืออีก 80 ไร่ ทางเข้าหลักของโครงการจะเข้าจากคนละด้านนะคะ แต่สามารถเชื่อมถึงกันได้ค่ะ ตัวคอนโดมิเนียมเอง สิ่งอำนวยความสะดวกหลักๆก็จะเป็นที่จอดรถ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนต่างๆ แต่ที่จะค่อนข้างพิเศษกว่าที่อื่นตรงที่มีท่าจอดเรือและสโมสรด้วยนี่สิ เรียกว่าเพราะตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งวันนี้นอกจากตัวคอนโดมิเนียมห้องพักที่จะทำการเจาะลึกกันแล้ว ในส่วนของ โอเชี่ยน มารีนา ยอร์ช คลับ ฝนก็จะพาไปเยียมชมด้วยนะคะ ^^

อธิบายผังกันซักหน่อย ชิ้นที่ดินเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวด้านนึงติดถนนอีกด้านติดทะเล สังเกตว่าชิ้นที่ดินของละแวกนี้ที่เป็นโรงแรมหรือคอนโดมิเนียม ชิ้นที่ดินจะเป็นลักษณะเส้นก๋วยเตี๋ยวทั้งนั้น ตัวคอนโดมิเนียมจะตั้งคู่กันกับ San Marino แบบ Two Tower เลยค่ะ  ทางเข้าแยกกันชัดเจนคนละฝั่งแต่เมื่อเข้ามาภายในมีถนนสามารถวิ่งเชื่อมกันได้ ในส่วนของ  มารีนา ด้านหน้าที่ติดกับถนนสุขุมวิทจะมีโรงจอด ซ่อมบำรุงและต่อประกอบเรืออยู่ด้านหน้า ถัดเข้ามาจะเป็นส่วนของโรงแรมและยอร์ช คลับ ด้านติดทะเลจะเป็น เขื่อนที่กั้นคลื่นเป็นรูปตัว L หันหน้าเข้าหากัน พร้อมที่จอดเรือภายในเขื่อน ส่วนตัวของคอนโดมิเนียมนั้น จากทางเข้าหลักของถนนสุขุมวิทก็ตรงๆเข้ามาถึงโครงการเลยค่ะ

รูปแบบและผังอาคารหลักๆจะคล้ายคลึงกันมาก โดย โอเชี่ยน มารีนา ยอร์ช คลับ(ขวาจากภาพ) เป็นพี่และมีน้องตามมาคือ โอเชี่ยน พอร์ทโทฟิโน่ (ซ้ายจากภาพ) โดยคอนโดมิเนียมจะสูงกว่า 2-3 ชั้นและหน้าตา ตัววัสดุ จะปรับให้ดูทันสมัยขึ้นหน่อยค่ะ

จากด้านหน้าโครงการ พอเลี้ยวซ้าย เข้ามาด้านหน้าซ้าย มีป้อมตั้งอยู่ ไม่มีระบบคีย์การ์ดนะคะ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะเป็นคนคอยเปิดปิดที่กั้น

ทางเข้าด้านหน้าโครงการจากถนนสุขุมวิท ก็กว้างขวางค่ะ และทางเข้าตรงไปถึงโครงการเลย

อาคารสีขาวที่คือ จุดหมายปลายทางของเรา…..Ocean Portofino ค่ะ ลักษณะ Landscape สองข้างทางก็เรียบง่าย ปลูกต้นไม้เป็นแนวนำสายตายาวไปทางเดียวกับทางรถ โดยรวมประมาณ 450 เมตรจนถึงหน้าทางเข้าคอนโด

จากหน้าโครงการประมาณ 110 เมตรจะพบทางแยกซ้ายมือที่สามารถไปยังส่วนของส่วนเก็บ ซ่อมแซมเรือ ของ Ocean Marina ได้

ที่อยู่ติดกันด้านขวาเป็น โรงแรม โบทานี บีช ส่วนสูงๆที่เห็นอยู่ด้านหลัง Moven Pick

จากทางเข้าจะมองเห็นอาคารสีขาวตั้งเด่นๆแบบนี้

 

ส่วนแรกที่เข้ามาจะพบส่วนจอดรถค่ะ เป็นที่จอดรถกลางแจ้งมีหลังคาคลุมแบบนี้ ซึ่งเป๋นที่จอดรถทั้งหมดของโครงการ

ถัดมาที่ด้านหน้าทางเข้าอาคารจะมีที่จอดรถแบบชั่วคราวเอาไว้จอดติดต่อทำธุระได้ประมาณ 8 คัน ซึ่งจุดรับน้ำดับเพลิงก็อยู่บริเวณนี้ สามารถขับวนเข้า Drop-off เพื่อเข้าคอนโดได้เลย ตรงไปเป็นส่วนของ Marina ซึ่งจะสุดเขตที่ดินของคอนโดมิเนียมแล้ว แต่สามารถใช้ด้วยกันได้ค่ะ

บริเวณ Drop-off มีเกาะต้นไม้ตรงกลาง

อีกฝั่งของ Drop-off ก็เป็นที่จอดรชั่วคราวเช่นกัน ประมาณ 5 คัน แนวเขตโครงการจะมีป้ายระบุไว้ว่าเฉพาะเจ้าของคอนโดและผู้ที่พักอาศัยเท่านั้น ป้ายดูชั่วคราวไปหน่อย

เดินเข้าสู่ส่วนมารีน่ากันค่ะ Ocean Marina Yacht Club จะไม่มีหาดนะคะ เพราะพื้นที่ปรับทำเป็นท่าเรือทั้งหมด ฝั่ง Botani Beach จะมีหาดตามปกติค่ะ ซึ่งไม่มี Property Line ชัดเจน สามารถเดินไปมาได้ จะมีเจ้าหน้าที่บริเวณป้อมด้านหน้าคอยตรวจตรา พูดถึงสภาพอากาศซักหน่อย ลมค่อนข้างแรงทีเดียว ต้นไม้ใบหญ้าต้องหารุ่นร่วงยากหน่อย ทนลม ไม่งั้นกวาดแย่ ทางที่ทอดยาวก็นำไปสู่ส่วนของ Floating Marina ค่ะ ซึ่งสามารถขึ้นได้จากทั้งฝั่ง Ocean Portofino และ โรงแรม

ซ้ายมือจะเป็น Jogging Track ตรงๆมุ่งไปทางโรงแรม นอกจากนี้ยังเป็นทางของ Golf carts วิ่งไปมา ทางจะเลียบทะเลไปประมาณ 230 เมตร

มองย้อนกลับไปที่คอนโดมิเนียมกัน จะเห็นว่า สระว่ายน้ำวิวจะเห็นส่วนมารีน่า ซึ่งไม่มีรั้วใดใดกั้น ระยะระหว่างสระกับทางเดินห่างกัน ประมาณ 50 เมตร ค่ะ แต่มีต้นไม้ปลูกบังลมเป็นระยะๆ ทำให้ไม่รู้สึกถึงความ ไม่เป็นส่วนตัว ตัวแนวเขตจะมีแค่ป้ายปักบอกไว้ว่าเป็นส่วนของคอนโดมิเนียมแล้วนะ

ตามทางเดินมี bollard ตามทางเป็นระยะๆ ช่วยแค่นำทางนะคะ ตอนกลางคืน ไม่ได้สว่างทั้งถนน

มองไปจะเห็นเรือจอดเกือบเต็มท่าเลยทีเดียว มุมแบบนี้คล้าย Portofino ที่อิตาลีเลยนะ

อีกด้านเป็นบึงค่ะ ซึ่งจะมีห้องพักที่เป็นแบบ หลังๆ เปิดให้เช่าด้วย ติดต่อทางโรงแรม บรรยากาศดีมากเลย

เดินมาสุดทางจะเจอส่วนห้องอาหารของโรงแรมค่ะ มีเปิดบริการ ทั้งวัน และระเบียงด้านหน้าโค้ง หันหน้าออกทะเล ในอาคารนี้จะแบ่ง เป็นส่วนของโรงแรม จะอยู่ชั้น 1-4 จำนวน 51 ห้อง และคอนโดมิเนียม ซานมาริโน่ โดยทุกห้องมีระเบียงและมองเห็นทะเลเช่นกัน

ด้านข้างเป็นผู้ประกอบการให้เช่าเรือ บริการล่องเรือ หลายๆเจ้าเปิดให้บริการสำหรับผู้สนใจ โดยในส่วนของมารีน่าเอง มีคอร์สสอนเล่นเรือ เช่าเรือ บริการจัดอาหารบนเรือ รวมทั้งกัปตันและลูกเรือด้วย

มาดูตรงบริเวณส่วนของมารีน่ากันค่ะ จะเห็นว่า เขื่อนจะเป็นรูปตัว L สองตัวกลับด้านมาขบกัน ซึ่งเขื่อนกั้นคลื่นครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 80 ไร่ กว้าง 180 เมตร ยาว 600 เมตร ระดับน้ำในเขื่อนลึก 3 เมตร วัดที่ระดับน้ำทะเลต่ำสุดค่ะ เพราะแบบนี้เลยสามารถรองรับเรือขนาดใหญ่ได้ เรือที่สามารถเข้าออกได้ตั้งแต่ 15-180 ฟุต เขื่อนกั้นคลื่นนี่ก็คอยกั้นคลื่นภายนอกเขื่อนซึ่งวันที่ฝนไปคลื่นสูงและลมแรง แต่น้ำภายในเขื่อนนิ่งมาก

สันเขื่อนสามารถขับรถกอล์ฟไปตามแนวสันเขื่อนได้ โดยจะเชื่อมเข้าไปยังที่จอดเรือแต่ละตำแหน่งค่ะ เรือขนาดใหญ่มากๆ ก็จะอยู่ที่บริเวณปลายเขื่อนนู่น

บริเวณทางเข้า Floating Marina จากฝั่งโรงแรม จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำอยู่เช่นกันค่ะ

ระบบจอดเรือของที่นี่ติดตั้งโดย Poralu ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นระบบจอดเรือมาตรฐานโลก

มองไปเห็นเรือใหญ่ น้อย จอดเรียงกันอยู่

ระบบนิเวศน์ของที่นี่ดีมากนะคะ น้ำใส ปลาเล็กๆกระโดดเพียบ นกนางนวล ต่างจากพัทยาหาดอื่นๆเลย

มีไฟติดตั้งไว้เป็นระยะๆ

พอมาได้สุดทางก่อนเลี้ยวก็มีจุดกลับรถและประภาคารตั้งอยู่

 

ทางแยกลงไปแพเทียบเรือ จะมีตัวอักษร กำกับไว้ด้านหน้า

ประตูทางเข้าจำเป็นต้องใช้ Key Card ใยการเข้าไปค่ะ

โดยแต่ละช่องจอดจะมีจุดที่เป็นมิเตอร์น้ำและไฟฟ้าเอาไว้ คิดราคาตามหน่วยที่ใช้งาน และมีสถานีเติมน้ำมันด้วย

แบ่งออกไปเป็น 1 ช่อง 2 ลำเดินขึ้นแยกกัน ซ้าย ขวา ค่ะ

ส่วน ลำนี้คือที่ฝนจะขึ้นไปเก็บบรรยากาศล่องเรือมาฝาก

ล่องทะเลกันค่ะ  ใครว่ายน้ำไม่เป็นใส่ชูชีพกันด้วยนะ ระวังเมาเรือกันด้วย ^ ^

บริการอาหารบนเรือ ชุดนี้เป็น Sandwich

นอกจากนั้นก็มี บริการกัปตันและลูกเรือ

บรรยากาศบนเรือนั้นเป็นอย่างไรลองถาม Mr.Oe และ Mr.Boom ได้นะคะ ซึ่งจะมีวีดีโอตามมาเร็วๆนี้ แอบถ่ายคนดัง คิกคิก

ในส่วนถัดไปที่ฝนจะแวะไปดูจะเป็นส่วนของ โรงจอดเรือและสิ่งอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับเรือกัน ตรงรูปดาววิ้งๆในภาพนะคะ

ส่วนของโรงเก็บ จอด และซ่อมบำรุงกันบ้าง จะอยู่ติดกับถนนสุขุมวิท โดยที่จอดเรือจะมีแบบในร่มและกลางแจ้ง ซึ่งจะมีการเพิ่มที่จอดในเร็วๆนี้

โรงจอดเรือหรือ Dry dock storage สามารถรองรับเรือได้ประมาณ 150 ลำ ขนาดตั้งแต่ Jet Ski ขึ้นไปจนถึงเรือ Sportboat ขาด 40 ฟุต พร้อมบริการซ่อมบำรุงและดูแลทำความสะอาดเรือ

สุดทางที่เห็นเป็นถนนสุขุมวิทค่ะ ซึ่งเข้าออกทางนี้สำหรับส่วนของบริการของเรือเท่านั้น กลับไปที่คอนโดมิเนียมกันดีกว่าค่ะ ^ ^

หลังจากไปมารอบๆโครงการ ได้เวลาเข้าไปถึงส่วนในคอนโดซักทีเนอะ เริ่มที่ Drop-off กันก่อนเลย มีบันไดทางขึ้น เปิดโล่ง รับอากาศธรรมชาติ

นอกจากบันไดแล้วยังมีทางลาดเอาไว้สำหรับเข็นของขึ้นลง แต่ขอบอกว่า โค้งแบบนี้ ใช้งานลำบากนะคะ

 

รถกอล์ฟให้บริการลูกบ้านไปมาในโครงการ

เดินเข้ามาประตูฝั่งซ้ายมือจะเป็นสำนักงานขาย ส่วนติดกันคือ เคาน์เตอร์ติดต่อนิติบุคคล

 

ระดับฝ้าเพดานโล่ง โปร่ง เชื่อมไปยังสวนด้านข้าง ด้านขวาเป็น Green Wall แต่เป็นต้นไม้ปลอมนะคะ แบ่งส่วนสระว่ายน้ำกับโถงทางเดิน

 

สระว่ายน้ำจะมีทั้งในร่มและกลางแจ้ง ซึ่งจะเปิดโล่งไปทะเลและสวน

ฝั่งนี้คือเปิดไปที่สวน มองไปจะเห็นโรงแรม

ในส่วนของสระกลางแจ้งก็จะไม่มีอะไรกั้นระหว่างสระกับทางเดินนะคะ เปิดโล่งไปแบบนี้

 

จุดล้างตัวก่อนลงสระก็มี  2 จุด

ห้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าจะอยู่ใกล้ๆกับสระ ว่ายน้ำ

ภายในมีห้องสุขา 2 ห้อง มีช่องแสงด้านบนรับแสงธรรมชาติ ไม่มีห้องอาบน้ำนะคะ

และห้องอบไอน้ำห้องนึง

Lobby โปร่ง Open air ปลายสุดของ Lobby เป็นห้อง Fitness และติดกับสวนด้านข้าง ลมที่นี่เข้าขั้นแรงเลยนะ โครงการเลยมีส่วน Open air หลายที่ใช้ประโยชน์จากตรงนี้

มาที่ห้องฟิตเนสกันบ้างจะอยู่สูงกว่าระดับ Lobby เดินขึ้นบันไดไป

 

ส่วนอุปกรณ์เครื่องเล่นจัดว่าน้อยค่ะ ขนาดห้องก็ไม่ใหญ่เท่าไหร่

โดยวิวที่ได้สำหรับห้องฟิตเนสจะเป็นสวนและที่จอดรถ

ทางเข้าไปยังลิฟท์จะต้องใช้คีย์การ์ดในการเข้าไปนะคะ ลิฟท์ที่นี่จะไม่ล็อคชั้นค่ะ

ผังอาคารชั้น 2-31 โดยที่พักอาศัยจะเริ่มต้นตั้งแต่ชั้น 2 ค่ะ โถงลิฟต์จะอยู่ตรงกลางของตึกค่ะ โดยจะมี ลิฟต์โดยสาร 3 ตัวและมีลิฟต์ Service 1 ตัว ตรงข้ามกับบันไดหนีไฟ มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 8 ยูนิต 1-2 ห้องนอน Type A1,A2,B1,B2,C1,C2,D1,D2 ทางเดินโดถงลิฟท์จะมีหน้าต่างข้างเดียว

ผังอาคารชั้น 32-36 จะมีหน้าตาคล้ายกันโดยจะมี ลิฟต์โดยสาร 3 ตัวและมีลิฟต์ Service 1 ตัว ตรงข้ามกับบันไดหนีไฟ มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 6 ยูนิต Type A1,A2,B1,B2, จะมี Type E1,E2 ที่เป็น 4 ห้องนอนเพิ่มเข้ามา ทางเดินโดถงลิฟท์จะมีหน้าต่างข้างเดียว

สังเกตดูจากที่ฝนบอกไว้คือผังอาคารของ San Marino และ Ocean Portofino จะเหมือนกันค่ะ ห้องตะมีระเบียงทุกห้องและเยื้องให้ได้รับวิวอย่างทั่วถึง ที่จะแตกต่างกันคือเรื่องมุมของวิวว่าจะเห็น มารีน่าหรือเปล่า เพราะจะโดนองศาของห้องด้านหน้าบังกันไป ดังนั้นตำแหน่งห้องที่เห็นทุกอย่างชัดเจนก็เป็นห้อง D1,D2 ค่ะ

 

ซ้ายคือ Ocean Portofino และขวาคือ San Marino ค่ะ

มากันที่ชั้น 21 เป็นที่ตั้งของห้องตัวอย่างที่จะพาไปเจาะลึกกัน

 

โถงลิฟท์ของชั้นห้องพักผนังก็จะเป็นฉาบเรียบทาสีขาวธรรมดา พื้นแกรนิตโต้ ประตูลิฟท์ไม่มีการตกแต่ง

 

ห้องทิ้งขยะจะอยู่ติดกับบันไดหนีไฟ

ประตูบานเปิดคู่เป็นส่วนทางเข้าลิฟท์ Service

 

มีกราฟฟิคบอกทางหนีทีไล่ชัดเจน

 

มายืนอยู่ที่ปลายโถง เนื่องจาโถงมีระยะไม่ยาวมากเท่าไหร่ ช่องหน้าต่างที่รับแสงเข้ามาข้างเดียวเพียงพอสำหรับโถงนี้ ไม่ต้องเปิดไฟก็ได้

วิวที่มองออกไปจากโถงเป็นส่วนด้านถนนสุขุมวิทและเห็นแนวภูเขาด้านหลัง

ก้มมาอีกหน่อย ตรงติดกับส่วนจอดรถเป็น Resort และร้านอาหาร ร้าน บ้านคุณแม่ อาหารไทยรสชาดดีค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• สระว่ายน้ำวิวทะเล
• ฟิตเนส
• สวนสาธารณะ
• สนามเด็กเล่น
• ท่าจอดเรือยอร์ช (เก็บค่าบริการเพิ่มเติม) จอดเรือได้ 18 ฟุตถึง 150 ฟุต 500 ลำ
• ลิฟต์โดยสาร 3 ตัวต่ออาคาร คิดอัตราส่วนเป็น 90:1
• ลิฟต์ Service 1 ตัว

 

Product Walkthrough

 

ห้องที่ฝนจะพามาเจาะลึกเป็น Type B : 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และ 1 ห้องน้ำรับแขก พื้นที่ 90 ตารางเมตร ค่ะ และมีระเบียงที่มองออกไปเห็นวิวทะเล ซึ่งห้องตัวอย่างอีกห้องสามารถชมได้จาก Video ในรายการคิดเรื่องอยู่ นะคะ 🙂 อ้อ….ทุกห้องคือขายแบบ Fully Furnished ค่ะ ลากกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย

ประตูที่โครงการบานใหญ่ สูงมากประมาณ 2 เมตรกว่าๆ ระดับตาแมวนี่คือสูงอ่ะ….. ฝนเขย่งแล้วไม่ถึงระดับสายตา มองไม่เห็นว่าใครมาแน่ๆ -“- ไม่เหมาะกับไซด์สาวเอเชียอย่างเราเลย อย่างที่เค้าบอกว่าลูกค้ากว่า 50%  เป็นชาวต่างชาติ……ตัวมือจับเป็นแบบง้าวปกติ ใช้กุญแจเปิด ปิด ในการเข้าห้องค่ะ

พอเข้ามาภายในห้องจะเจอโถงทางเดินเพื่อนำไปสู่ภายใน ห้องนี้ตกแต่งแบบใช้กระจกเงาด้านขวาเพื่อให้ทางเดินไม่ดูแคบ จริงๆทางเดินตรงนี้ค่อนข้างกว้างอยู่แล้วด้วย ประมาณ 1.80เมตร ยิ่งดูโล่งไปใหญ่

ประตูเนื่องจากขนาดใหญ่จึงมีโช๊คด้านบนแบบนี้ และลมค่อนข้างแรง

Door Stopper ด้านล่าง มีตัวล็อคไว้กับผนัง

อีกด้านตรงกันข้ามกับกระจกเงาจะเป็นตู้ Built-in เต็มแนวผนังของโถงทางเดิน

มือจับประตูตู้ ลักษณะนี้ จับค่อนข้างยาก หลุดมือง่าย เพราะตัวจับจะยาวตรง น่าจะมีบากเข้าไปอีกหน่อย จะได้ยึดจับง่ายขึ้น

โดยภายในตู้จะแบ่งออกเป็นชั้นๆ สามารถเก็บของจุ๊กจิ๊กจนถึงขนาดชิ้นกลางๆได้สบาย ระดับชั้นบนจะสูงหน่อย

ตัวของสวิตช์เป็นสีขาวธรรมดา ผนังติด Wall Paper สีเทาเข้ม

เดินเข้ามาส่วนซ้ายมือเป็นครัวเปิดรูปตัว U เชื่อมกัน กับส่วนทานอาหาร

 

ตู้เย็นของ Panasonic ด้านบนมีชั้นวางของติดหน้าบานแบบขุ่น ให้พอเห็นของด้านในแบบไม่รกมาก

ที่ติดกับตู้เย็นเป็นบริเวณล้างจานและผัก เป็นช่องหลุมเดียว ด้านล่างเป็นตู้ใช้ของStarmark สังเกตนะว่าห้องนี้ ช่องสำหรับล้างจานจะแคบ

ยืนเทียบให้ดู เวลาล้างจานนี่หมุนตัวค่อนข้างลำบาก

 

ช่องตู้เก็บของข้างล่างเป็นแบบเข้ามุม แคบๆแบบนี้เวลาซ่อมแซมคงมีปัญหา

 

Top ของเคาน์เตอร์เป็นหินแกรนิตสีดำค่ะ ชั้นที่เก็บของจุกจิกก็มีให้ใช้ตามปกติ

ชุดเตาไฟฟ้าก็ 4 หัวพร้อม Hood ดูดควันของ Electrolux เป็นแบบ Hot Plate มีขดลวดอยู่ด้านใน

เคาน์เตอร์ที่เชื่อมต่อไปยังส่วนครัว มีตำแหน่งปลั๊กไป เผื่อไว้วางไมโครเวฟหรือที่ปิ้งขนมปังเล็กๆได้

มองจากเคาน์เตอร์เชื่อมไปยังส่วนทานอาหารและนั่งเล่น

ตรงกันข้ามกับครัวเลย เป็นห้องน้ำค่ะ ระดับฝ้าช่วงนี้จะ 2.6 ค่ะ และมีซ่อนหลืบไฟบางส่วน

ห้องน้ำเป็นแบบ Powder Room คือไม่มีส่วนเปียก ตัวสุขภัณฑ์เป็นแบบแขวนผนังฝังลงในเคาน์เตอร์ครึ่งหนึ่งและ โถสุขภัณฑ์แบบเหลี่ยม ที่นั่งขนาดใหญ่นั่งสบาย

ถัดมามีห้องเล็กๆ สำหรับเอาเครื่องซักผ้ามาไว้ ที่โครงการวาง Surf board ไว้แทนอยู่ มีบานประตูตู้ปิดไว้ไม่ให้กวนสายตา

มาดูที่ส่วนทานอาหาร จะเห็นว่า มองเชื่อมไปถึง Window bay ที่มุมห้อง ซึ่งจะมองเห็นวิวโค้งทะเลของฝั่งพัทยาด้วย ห้องนี้ตกแต่งแนว Oriental Chic สีสันจัดจ้านเลย โต๊ะทานอาหารจะเป็นโต๊ะสี่เหลี่ยมสีดำ และพร้อมเก้าอี้แบบไม่มีผนัก 4 ตัว ภายในฝ้าเพดานสูงถึง 2.8 เมตรทีเดียว

ระยะด้านข้างของโต๊ะทานข้าวกับทางเดินด้านหลัง

ระยะด้านข้างของโต๊ะทานข้าวกับทางเดินด้านหลัง ข้างนี้จะแคบกว่า แต่สามารถใช้งานได้

 

ระดับเคาน์เตอร์ครัวที่เชื่อมมาทานข้าวจะสูงกว่าระดับในส่วนครัว เหมาะสำหรับยืนหยิบของ

 

มาที่ห้องนั่งเล่นค่ะ มีมุมกระจกยื่นไปรับวิว

โต๊ะกลางเป็นสี่เหลี่ยมเตี้ยๆ วางแล้วมีระยะรอบๆโต๊ะเดินได้สบาย

 

วางขาจากโซฟาไม่ต้องขดงอ

 

มองกลับไปภายในห้องจะเห็นว่าห้องลักษณะยาว มองทะลุไปถึงประตูทางเข้าเลย

มีประตูออกไปที่ระเบียงห้องนอน

มองตรงๆ ห้องนี้ มองไม่เห็นวิว มารีน่า มุมห้องอื่นจะบัง จะเห็นวิวทางพัทยาแทน

นอกจากจะได้วิวแล้วเนี่ย ข้อด้อยอีกข้อที่ตามมากันคือ เวลาทำผังอาคารที่ได้รับวิวทะเลทุกห้อง ห้องอื่นๆก็จะได้รับวิวในห้องเพื่อนบ้านเช่นกัน….

เข้าไปดูห้องนอนดีกว่าค่ะ

มีตัว Doop Stopper  ข้างใน

ภายในห้องจะเป็นพื้นไม้

ห้องนอนมีกรุกระจกหัวเตียง และติดระเบียง

ระยะเตียง เรียกว่าเหลือเฟือ

 

ด้านข้างเป็นโต๊ะข้างเตียงพร้อมโคมไฟ ระยะสบายๆ

 

มองไปที่ผนัง นอนดูทีวีก็ได้

อีกด้านเป็นชุดโซฟาเดี่ยวเล็กๆ เอาไว้นั่งชิวๆอ่านหนังสือดูวิวทะเล

 

บานประตูเป็นบานเลื่อน Powder coat สีขาว

ขอบรางแนบไปกับพื้น

 

ประตูทางเข้าจากนั่งเล่น

 

วัสดุราวจับระเบียงเหล็กทาสีขาว และใช้กระจก Tempered เป็นตัวลูกกรงจะได้ไม่บดบังวิว

 

มีที่เก็บคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้เรียบร้อย มองไปจ๊ะเอ๋ห้องข้างๆอีกและ

มาดูวิวกันดีกว่า มองลงไปก็เห็นโรงแรมใกล้ๆ

วิวมองไปทางหาดจอมเทียน เห็นเป็นโค้งเลย อาคารสูงที่สร้างอยู่ …. Moven Pick

ด้านที่มองไปถนนสุขุมวิทเห็นทิวเขารำไรๆ

กลับไปที่ห้องนอนกันต่อ ห้องน้ำในห้องนอนก็เป็นแบบ Sexy Bath

เปิดปิดแบบนี้

เข้าไปจะแยกซ้ายขวา มีอ่างล้างมือตรงกลาง

ตัวประตูเปิดมาจะชนอ่างอาบน้ำนะคะ แต่มี Door Stopper ให้

อ่างล้างมือวางบนเคาน์เตอร์ Top หินสีดำ

 

ถัดไปด้านในเป็นโถสุขภัณฑ์สี่เหลี่ยม

ในส่วนของ Shower box เป็นกระจกกั้นให้เรียบร้อยมีที่วางสบู่

 

ฝักบัวของ Cotto ขนาดใหญ่ หน้าตาธรรมดา

 

มีที่นั่งภายในส่วนอาบน้ำด้วย

แบ่งพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียกด้วยธรณีหินกับกระจก Temperd

 

มาที่อ่างอาบน้ำ อาบไปมองทะเลไป

 

มีที่แขวนผ้าเช็ดตัวติดผนังให้ อ่างของ Marino

 

ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน

 

เปิดดูช่องซักหน่อย มีที่แขวน

และชั้นเก็บของด้านบน

ขอลากันไปด้วยภาพบรรยากาศวันพระอาทิตย์ตกดินสวยๆแบบนี้ละกันนะคะ ^^

ส่วนรีวิวฉบับวีดีโอ สามารถกดดูได้ข้างบนนี้เลยค่ะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 30 January 2014

• ห้องตำแหน่ง 6C2 ชั้น 6  เนื้อที่ 79.52 ตารางเมตร ราคา 7,713,440 ล้านบาท หรือ 97,000 บาทต่อตารางเมตร
• ห้องตำแหน่ง 10C2 ชั้น 10  เนื้อที่ 79.77 ตารางเมตร ราคา 8,136,540 ล้านบาท หรือ 102,000 บาทต่อตารางเมตร
• ห้องตำแหน่ง 5B1 ชั้น 5  เนื้อที่ 88.97 ตารางเมตร ราคา 8,630,090 ล้านบาท หรือ 97,000 บาทต่อตารางเมตร
• ห้องตำแหน่ง 19B2 ชั้น 6  เนื้อที่ 89.63 ตารางเมตร ราคา 9,948,930 ล้านบาท หรือ 111,000 บาทต่อตารางเมตร
• ห้องตำแหน่ง 6A2 ชั้น 6  เนื้อที่ 127.87 ตารางเมตร ราคา 12,403,390 ล้านบาท หรือ 97,000 บาทต่อตารางเมตร
•  ห้องตำแหน่ง 25A1 ชั้น 25  เนื้อที่ 130.18 ตารางเมตร ราคา 15,231,060 ล้านบาท หรือ 117,000 บาทต่อตารางเมตร

• Fully Furnished
• เพดานสูง 2.60-2.80 เมตร
• จอง 1000,000 บาท
• ทำสัญญา 20%
• ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
• ค่าส่วนกลาง 35 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน ชำระล่วงหน้า 1 ปี

เจาะลึกรวบยอด

Ocean Portofino เป็นโครงการคอนโดมิเนียมตากอากาศที่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯไม่ไกลมาก ขับรถมาประมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้วขับสบายๆไม่รีบ ถนนหนทางก็สะดวกค่ะ ตัวโครงการติดกับถนนสุขุมวิทเลย กิโลเมตรที่ 157 เดินทางง่าย อยู่เลยตัวเมืองพัทยาออกมาเลยไม่ผลุกผล่านมาก โดยรอบๆจะเป็นโรงแรมติดชายทะเลบรรยากาศชวนมาพักผ่อนจริงๆ

ตัวทำเลของ Ocean Portofino ได้ประโยชน์เต็มๆจากส่วนของ Ocean Marina Yacht Club เลยนะทั้งพื้นที่สีเขียวกว้างขวาง มีพื้นที่เหลือเฟือมากๆ และท่าจอดเรือขนาดใหญ่ วิวโดยรอบก็สะอาดตาค่ะ ไม่พลุกพล่าน สามารถมองเห็นโค้งของหาดจอมเทียนได้ ในส่วนของมารีน่า กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวขนาดย่อมๆเลย ลงไปก็เปลี่ยนบรรยากาศแล้ว สร้างมาเพื่อคนชอบใช้ชีวิตแบบมารีน่า เพราะเค้ามีบริการอื่นๆครบวงจรในที่เดียว ในทะเลน้ำยังใสอยู่นะ อย่าลืมว่านี่คือทะเลพัทยา แต่ด้วยอยู่ปลายๆหาดจอมเทียน ไม่ใกล้ตัวเมือง ปลาและนกก็อาศัยแวะเวียนมาแถวนี้เหมือนกัน เพราะระบบนิเวศน์ยังอุดมสมบูรณ์อยู่ แต่เนืองจากเอาพื้นที่เป็นที่จอดเรือในน้ำ จึงไม่มีส่วนของชายหาดนะคะ ซึ่งสำหรับคนที่ชอบเดินเล่นชายหาด ต้องอาศัยไปเดินจากโครงการติดๆกันเอง ทำให้ด้านนึงติดทะเลและด้านสุขุมวิทวิวจะมองเห็นทิวเขาอยู่ไม่ไกล นี่สินะเรียกว่า”หลังภูเขาหน้าทะเล”

เรื่องวิวของห้องพัก ทุกห้องมองเห็นทะเลและมีระเบียง ดังนั้นสามารถมองออกเห็นทะเลกันหมด ต่างกันที่จะเห็นฝั่งไหน พัทยา หรือสัตหีบ จุดเด่นที่นี่คือเรื่อง ลม ….. ลมที่นี่จัดว่าแรง ถึง แรงมากนะคะ เหมาะกับการเล่นเรือจริงๆ แต่เรื่องบานประตูหน้าต่างก็มีผลกระทบตามมา เปิดประตูโล่งๆก็ต้องระวังเรื่องบานประตูตีกลับ หรือได้ยินเสียงลมลอดผ่านซีลหน้าต่างเข้ามา

ความอุดมสมบูรณ์และแหล่งกินเที่ยว รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆโครงการ จัดว่า มีเยอะพอควร และอยู่ในระยะ ขับรถไปไม่ลำบาก ร้านอาหารนี่เยอะ ต้องขับเข้าเมืองหน่อย ส่วนร้านค้า และ Super Market ก็อยู่ไม่ไกลขับรถในระยะไม่เกิน  10 นาที… สถานที่ท่องเที่ยว มีให้เลือกมากมายค่ะ ที่นี่เป็นเมืองท่องเที่ยวนะ เปิดใหม่แยะเช่นๆ มิโมซ่า , อาร์ต อิน พาราไดซ์ , อันเดอร์วอเตอร์เวิร์ลพัทยา , ตลาดน้ำ 4 ภาค เป็นต้น

การออกแบบโครงการ ถือว่าตั้งใจออกแบบให้ ได้วิว และสัมผัสธรรมชาติเต็มที่ รวมถึงไม่ให้หนาแน่นและเสีย Privacy จนเกินไป โครงการเนื้อที่เพียง 2.5 ไร่ แต่ได้รับอานิสงจากโครงการหลักทั้งหมดเกือบ 120 ไร่ เรียกว่าสบายๆ พื้นที่รอบๆในโครงการหลักยังเหลืออีกเยอะแถวได้วิวแบบมารีน่าอีกด้วย ตัวอาคารที่พยายามบิดตึก ให้รับวิว ซึ่งผังอาคารจะเป็นลักษณะเดียวกันกับ San Marino ที่สร้างอยู่ก่อน แต่เรื่องหน้าตานั้นมีการปรับให้ดูโมเดิร์นเล็กน้อย และจำนวนชั้นเพิ่มขึ้น ภายในโถงลิฟท์ก็มีช่องแสงธรรมชาติข้างนึงเพื่อระบายอากาศและรับแสงเข้ามา

วัสดุอุปกรณ์ของที่ให้มา ถือว่าให้ของมาครบ และดีเหมาะสมกับระดับราคา เมื่อพิจารณาถึงเงื่อนไขการขาย  Full Fur + เครื่องใช้ไฟฟ้าครบชุดแบบลากกระเป๋าเข้าอยู่ ค่าส่วนกลางก็แค่ 35 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งหากเงื่อนไขนี้เปลี่ยนไป หรือมีการปรับระดับราคาขึ้น ก็ต้องพิจารณากันใหม่อีกครั้ง

Facility เฉพาะของ Ocean Portofino ที่จัดมาบนเนื้อที่ดิน 2.5 ไร่ ค่ะ ตัววัสดุของส่วนนี้ไม่ได้หวือหวามากมาย บางอย่างยังให้มาน้อยไป ส่วนห้องออกกำลังกายค่อนข้างเล็ก แต่เมื่อนำมารวมกับส่วนโครงการหลักทั้งหมด นับว่าเป็น Facility ที่จัดเต็มเลยนะ ที่ได้มาแน่ๆที่ บรรยากาศของมารีน่าในโครงการเลย ถ้ามีเรือเป็นของตัวเองก็ตอบโจทย์เข้าไปใหญ่

สุดท้ายคือเรื่องของความพึงพอใจ ว่าใครชอบอะไรอย่างไร บางคนชอบตึกสูง บางคนชอบตึกเตี้ย บางคนมาทะเลอยากลงไปเล่นน้ำ บางคนไม่สนใจขอแค่เห็นวิว เปลี่ยนสถานที่ มีที่นอนสบายๆและมีสระว่ายน้ำก็เพียงพอแล้ว ถ้าใครมีงบประมาณถึง อยากได้คอนโดตากอากาศเอาไว้พักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัว รักการเล่นกิจกรรมทางทะเล สามารถเก็บ Ocean Portofino ไว้เป็นตัวเลือกได้ค่ะ

Judgement

โครงการบ้านตากอากาศ ใช้ความคุ้มค่าทางอารมณ์ เป็นตัวตัดสินมากกว่า ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับเงินที่จ่ายไป ทางเราจึงยังไม่มีเกณฑ์การให้คะแนนที่เหมาะสมนะคะ  แนะนำให้ไปดูและใช้ใจตัวเองเป้นตัวตัดสินจะดีที่สุดค่ะ

 

BOTTOM LINE

Ocean Portofino  คอนโดมิเนียมตากอากาศ ที่เหมาะกับ Lifestyle ของผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมทางทะเล มีเรือเป็นของตัวเอง หรือจะมาเช่า ก็มีให้บริการ ชอบล่องเรือยอร์ช เล่นเจ็ทสกี เป็นบ้านหลังที่สองเมื่อต้องการพักผ่อนจากการทำงาน ไม่ไกลจากรุงเทพฯ เดินทางสะดวก สิ่งอำนวยความสะดวกมีครบ งบในกระเป๋ามมีมากกว่า 7-20 ล้านบาท เผื่อค่าดูแลรักษาเรือกันด้วยนะคะ 

ชอบ กด Like ใช่ กด Share กันนะคะ ยินดีรับฟังความเห็นเพิ่มเติมจากเพื่อนๆพี่ๆทุกท่าน เพื่อนพัฒนารีวิวที่ดีกว่าเดิมค่ะ 🙂