รีวิวฉบับที่ 1227 … สวัสดีค่ะ แม้ว่าช่วงนี้เราจะเห็นคอนโด High Rise ใกล้รถไฟฟ้าสะพานควาย-จตุจักรเปิดใหม่กันหลายโครงการ แต่วันนี้เราจะพาไปชมเป็นคอนโด Low Rise ในทำเลเดียวกันกับโครงการ Notting Hill Jatujak-Interchange ของ Origin อยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสถานี Interchange (ระหว่างรถไฟฟ้าทั้งสองสาย คือ BTS และ MRT ) ห่างประมาณ 500-600 ม. และไม่ไกลจากสวนรถไฟ ที่ตั้งโครงการจะเขยิบเข้ามาในซอยพหลฯ 18 ประมาณ 100 ม. แต่ราคาจับต้องง่ายเริ่มต้นที่ 2.7 ล้านบาท โครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ
Fact @ 28 November 2016
- Notting Hill Jatujak-Interchange (น๊อตติ้ง ฮิลล์ จตุจักร-อินเตอร์เชนจ์)
- บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : จตุจักร
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 156 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 23
- ที่จอดรถประมาณ 38 % รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 50 %
- ที่ดินประมาณ 1-0-92.5 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : มี.ค. ปี 2560
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q4 ปี 2561
- แบบ Deluxe (s) 1 Bedroom 24.5-26 ตร.ม. ราคา 2.7-3.2 ล้านบาท
- แบบ Deluxe (M) 1 Bedroom 30-33 ตร.ม. ราคา 3.5-4.3 ล้านบาท
- แบบ Suite 1 Bedroom Plus 34-34.9 ตร.ม. ราคา 3.7-4.4 ล้านบาท
- แบบ Penthouse 2 Bedrooms 45.5-52.4 ตร.ม. ราคา 5.1-6.4 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 2.7 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 110,000 บาท/ตร.ม.
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุดประมาณ 108,000-122,000 บาท/ตร.ม.
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS สะพานควาย ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS สะพานควาย
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS จตุจักร ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS จตุจักร
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 02-030-0000
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 13.797301, 100.552186
แผนที่จากทางโครงการ Notting Hill Jatujak-Interchange ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 18 เข้าจากปากซอยไปประมาณ 100 ม. ซึ่งเป็นซอยทางลัดหลักที่ใช้กันระหว่างถนนใหญ่ทั้ง 3 เส้น คือพหลโยธิน, สุทธิสาร และ วิภาวดีรังสิต การเข้าถึงโครงการนี้จึงสามารถเข้าได้ทั้ง 3 ทาง นอกจากนี้ยังเป็นซอยที่อยู่ตรงกลางระหว่าง BTS สะพานควาย, BTS จตุจักร, MRT จตุจักร อีกทั้งยังไม่ไกลจากทางขึ้นทางด่วนด้วยค่ะ
ทำเลของโครงการ Notting Hill Jatujak-Interchange อยู่ในย่านสะพานควาย-จตุจักร เข้าซอยพหลโยธิน 18 มาประมาณ 100 ม. ซึ่งเป็นซอยทางลัดหลักที่ใช้กันระหว่างถนนใหญ่ทั้ง 3 เส้น คือพหลโยธิน, สุทธิสาร และ วิภาวดีรังสิต โดยจะออกไปที่ซอยอินทามระ 15 หรือวิภาวดีรังสิต 3, 5 หรือจะวนกลับไปที่หน้า BTS หมอชิต บริเวณซอยพหลโยธิน 18/1 ก็ยังได้ ที่ดินแปลงใหญ่ในย่านนี้หายากแล้วนะคะ ส่วนใหญ่จะเป็นการรวบรวมที่ดินแปลงย่อยเพื่อพัฒนาเป็นโครงการใหญ่(ตามแนวใกล้รถไฟฟ้า) ซึ่งเริ่มจะรวมยากและน้อยลงไปทุกที เพราะเป็นชุมชนเก่าแก่เดิมที่อยู่ก่อนมานานแล้วทำให้ที่ดินส่วนใหญ่เป็นแปลงเล็กๆหลายแปลง เช่น พวกแนวตึกแถวร้านค้า และบ้านพักอาศัยหลังเล็กๆในซอย จึงมีความยากในการรวมแปลงที่ดิน
สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ถือว่าสะดวกมาก โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วน เพราะไม่ไกลกับถนนใหญ่อย่างพหลโยธินที่สามารถลงทางทิศใต้ไปอนุสาวรีย์ชัยได้สะดวก และยังมีทางลัดเลาะไปออกถนนวิภาวดีรังสิตที่ตรงไปห้าแยกลาดพร้าวได้ง่าย ซึ่งห้าแยกลาดพร้าวนี้เป็นฮับแยกใหญ่ที่แยกไปได้หลายเส้นทาง นอกจากนี้ยังมีซอยลัดเลาะไปถนนสุทธิสารได้อีกทาง / แต่ถ้าออกทางแยกกำแพงเพชรจะไม่สามารถเลี้ยวขวาขึ้นไปจตุจักรหรือตรงไปทางถนนกำแพงเพชรได้ จะต้องไปออกถนนพหลโยธินก่อนแล้วไปกลับรถอีกที ด้วยซอยนี้เป็นซอยทางลัดหลักเชื่อมถนนสำคัญหลายสายทำให้ในช่วงเวลาชั่วโมงเร่งด่วนก็จะมีรถเยอะและค่อนข้างติด และยังเป็นจุดที่คนมา Transit รถไฟฟ้า BTS, MRT และคนมาใช้ที่จอดรถฟรีที่สถานีหมอชิตทำให้มีปริมาณรถที่มากขึ้นไปอีก
สำหรับการเดินทางโดยรถไฟฟ้า ถึงแม้ว่าตัวโครงการไม่ได้อยู่ติดรถไฟฟ้าสายใดสายหนึ่ง แต่ที่ตั้งโครงการก็อยู่ระหว่างสถานี BTS และ MRT ในระยะเดินไหวประมาณ 500-600 ม. ด้วยทำเลที่สามารถเดินทางไปขึ้นรถไฟฟ้าได้หลายสายแบบนี้ จึงเป็นข้อดีที่ทำให้มีทางเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย ดังนี้
- สถานี BTS สะพานควาย เป็นสถานีที่มีระยะใกล้กับโครงการมากที่สุด ประมาณ 500 ม. เส้นทางการเดินไปโครงการไม่ลำบาก เพราะทางเดินอยู่ฝั่งเดียวกับโครงการ ไม่ต้องข้ามถนนเลย
- สถานี BTS หมอชิตและสถานี MRT จตุจักร (สถานี Interchange) มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 600 ม. ถึงจะห่างหน่อยแต่เส้นทางเดินก็ไม่ลำบากเช่นกัน ช่วงไหนที่รีบก็มีตัวช่วยอย่างพี่วินที่อยู่บริเวณทางลงรถไฟฟ้า ก็เรียกมาโครงการได้เลย
- สถานี MRT กำแพงเพชร มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 550 ม. สำหรับเส้นทางเดินจะมีที่ต้องข้ามถนนบริเวณแยกกำแพงเพชรสักหน่อย
ความอุดมสมบูรณ์ ในย่านนี้อย่างที่บอกไว้ตอนต้น สภาพแวดล้อมโดยทั่วไปจะเป็นตึกแถว ร้านค้าพาณิชย์ตามริมทางทั้งเก่าและใหม่ปนกันไป ห้างและคอมมูนิตี้มอลล์ในละแวกนี้มีไม่มากเท่าไร ได้แก่ Big C สะพานควาย, La Villa อารีย์ จากนั้นต้องไปแถวห้าแยกลาดพร้าวเลยอย่างเซ็นทรัลลาดพร้าว, ยูเนียนมอลล์ จริงๆแล้วของกินร้านอาหารๆเด็ดๆในแหล่งนี้ไม่ได้อยู่ที่ห้างหรอก แต่อยู่ตามท้องถนนทั่วไปอย่างซอยอารีย์ ซึ่งเป็นแหล่งกิน เที่ยว ร้านสวยๆเก๋ๆเต็มไปหมด หรือจะเป็นร้านอาหารดั้งเดิมที่อิงอยู่ตามถนนสุทธิสารวินิจฉัยแต่จะจอดรถยากหน่อย และก็ที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้กับแหล่งช้อปที่หลากหลายอย่างตลาดนัดสวนจตุจักร และที่ตลาดอตก.ซึ่งเป็นแหล่งของสดคุณภาพ และมีอาหารให้เลือกซื้อกลับหรือทานที่นั่นได้เช่นกัน โดยที่มีระยะเดินไปจากโครงการได้สบายๆเลย นแกจากนี้ยังไม่ไกลจากแหล่งช้อปปิ้งอย่างตลาดนัดจตุจักรที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ มีสินค้าหลากหลายเอาใจทั้งหญิงชายทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน ต้นไม้ ฯลฯ
แหล่งทำงาน ในย่านนี้มีแหล่งทำงานที่เป็นศูนย์รวมออฟฟิศได้แก่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว มีอาคารสำนักงานใหญ่ๆหลายตึก ได้แก่ Sun Tower, TMB สำนักงานใหญ่, อาคารเล้าเป้งง้วน, ตึกการบินไทย, ตึกบางกอกแอร์เวย์, SJ Infinity, สำนักงานใหญ่ปตท., อาคารชินวัตร 3 และ I Tower เป็นต้น ซึ่งระยะทางจากโครงการเราไปยังห้าแยกลาดพร้าวอยู่ที่ประมาณ 2 กิโลเมตรเท่านั้น
โรงพยาบาลและสถานศึกษา ในละแวกใกล้เคียงถ้าบนเส้นพหลโยธินจะมีรพ.เปาโล เมมโมเรียล, รพ.ประสานมิตร และรพ.พญาไท 2 ส่วนบนเส้นพระราม 6 ก็จะมีรพ.วิชัยยุทธ ซึ่งบนเส้นนี้ก็มีโรงเรียนดังอย่างสามเสนวิทยาลัย หรือไม่ก็ต้องไปย่านเส้นวิภาวดีเลยที่มีร.ร.นานาชาติเซนต์จอห์น หรือม.หอการค้า
สวนสาธารณะ เป็นจุดเด่นในเรื่องของทำเลโครงการด้วยเช่นกัน เพราะอยู่ไม่ไกลจากสวนสาธารณะจตุจักร สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์และสวนรถไฟ ถ้าไปสวนจตุจักรจากโครงการก็สามารถเดินไปได้เลยมีระยะประมาณ 600 ม. หรือถ้าไปสวนรถไฟที่จัดว่าเป็นปอดใหญ่ของกรุงเทพฯ อีกที่หนึ่ง จะไกลออกไปหน่อยประมาณ 2 กม. สามารถขับรถไปจอดได้ค่ะ
โครงการในอนาคต ยังมีโครงการ Bangkok Terminal ที่จะพัฒนาที่ดินบริเวณหมอชิต-บางซื่อ ขนาด 2,325 ไรให้กลายเป็น Hub การเดินทางและเศรษฐกิจในอนาคต
เนื่องจากทำเลโครงการนั้นเรียกว่าสามารถใช้ทางด่วนได้ค่อนข้างใกล้และหลากหลาย เลยจะขอเจาะรายละเอียดส่วนนี้สักหน่อยว่าสามารถใช้ทางด่วนไหนได้บ้าง
การใช้ทางด่วนศรีรัชเพื่อ “เข้าเมือง” – จริงๆแล้วจุดขึ้นทางด่วนมีระยะไม่ไกลจากโครงการ แต่ถ้าออกจากซอยพหลโยธิน 18 ตรงแยกกำแพงเพชรจะไม่สามารถตรงไปถนนกำแพงเพชรได้ แนะนำอย่างนี้ให้ไปทะลุออกซอยพหลโยธิน 18/1 แล้วไปเลี้ยวขวาเข้าเข้าสู่ถนนกำแพงเพชร หลังจากนั้นตรงไปประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะเจอทางเลี้ยวซ้ายเข้าสู่จุดขึ้นทางด่วนศรีรัช รวมระยะทางประมาณ 3.9 กิโลเมตร ซึ่งเจ้าทางด่วนเนี่ยพอขึ้นมาแล้ว เราสามารถเลือกได้ว่าจะไปทางดินแดง, พระราม 9 หรือ จะไปทางพระราม 4, สีลม บางโคล่ ดาวคะนองก็ได้ค่ะ
การใช้ทางด่วนใหม่ศรีรัช-วงแหวนรอบนอก เป็นทางด่วนที่เพิ่งเปิดใหม่มาได้ไม่นาน ช่วยทำให้การเดินทางจากบางซื่อเชื่อมไปทางบางใหญ่หรือถนนกาญจนาภิเษกสะดวกขึ้นมากเลยทีเดียว จุดที่ใช้ขึ้นลงที่ใกล้กับโครงการที่สุดของเจ้าทางด่วนใหม่นี้จะอยู่บริเวณแถว สถานีขนส่งหมอชิต 2 โดยมีทั้งทางขึ้น-ทางลง ทั้งคู่ อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับทางด่วนศรีรัชเดิมอีกด้วย การเดินทางไปก็ตามลูกศรีเลยค่ะ ถนนพหลโยธิน 18/1 > ถนนพหลโยธิน > แยกกำแพงเพชร > ถนนกำแพงเพชร > ถนนกำแพงเพชร 2 > สถานีขนส่งหมอชิต 2 > ทางขึ้นทางด่วน รวมระยะทางแล้วประมาณ 4 กิโลเมตรค่ะ
การใช้ทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ – เป็นทางพิเศษที่ใกล้โครงการมากที่สุดมีระยะทางประมาณ 1.5 กม. ซึ่งการไปขึ้นโทลเวย์สามารถทะลุซอยพหลโยธิน 18 ไปออกถนนวิภาวดีได้เลย ออกมานิดเดียวก็เจอทางขึ้นเลย
เส้นทางที่เราจะพาไปเดินไปโครงการวันนี้ จะเลือกเดินจากสถานีสะพานควายเพราะเป็นสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดและมีแหล่งความอุดมสมบูรณ์อยู่ใกล้ๆสถานี โดยเราจะพาไปเดินดูความอุดมสมบูรณ์และบรรยากาศโดยรอบที่ประตูทางออกที่ 2 ก่อน เผื่อเวลาที่ต้องการแวะซื้อของ ซื้ออาหารก่อนเข้าโครงการ แล้วจึงเดินกลับมาที่สถานี BTS ทางออก 4 เพื่อเดินไปโครงการต่อไป ตามมาดูกันเลย 😀
เริ่มต้นจากสถานี BTS สะพานควาย เป็นสถานีก่อนสถานีปลายทางหมอชิต ถ้าจะเดินทางเข้าโครงการก็แนะนำลงสถานีนี้จะใกล้กว่าสถานีหมอชิตหน่อย แต่ถ้าขาเดินทางออกจากโครงการแนะนำให้เลือกไปขึ้นเป็นสถานีหมอชิต ถึงไกลกว่าหน่อยแต่จะมีที่ให้นั่งได้
เดินลงมาจากสถานีก็มีทางออกให้เลือกซ้ายขวา ถ้าเลี้ยวขวาไปทางออก 2 จะไปทางรพ.เปาโลและ Big C สะพานควาย ซึ่งบริเวณทางออกนี้จะมีร้านขายอาหารริมทาง รถเข็นขายผลไม้ ร้านขายน้ำ ให้เลือกซื้อก่อนเข้าโครงการได้ แต่ถ้าจะเข้าโครงการเลยก็เลี้ยวซ้ายไปทางซ้ายไปทางออก 4 เลยค่ะ
ก่อนจะไปโครงการเราแวะไปดูความอุดมสมบูรณ์โดยรอบสถานีซะหน่อย วันไหนอยากแวะซื้อของให้ออกทางออก 2 นะคะ
มองลงไปจะเห็นความคึกคักริมถนน ถ้าเดินตรงไปเส้นทางนี้จะไปทาง รพ.เปาโลฯ และ Big C สะพานควาย
มองจากบนสถานีลงไปถนนพหลโยธินทางแยกสะพานควาย เป็นถนน 6 เลน ไป 3 กลับ 3 เวลาที่ไปเก็บภาพประมาณ 9 โมงกว่าจะเห็นว่าสภาพการจราจรมุ่งหน้าไปแยกสะพานควาย อารีย์ ยังมีรถหนาแน่นพอสมควร
เดินลงมาจากสถานีที่ทางออก 2 จะเจอป้ายรถเมล์พอดี ฝั่งซ้ายเป็น 7-11
ถัดไปเป็นร้าน Boots ขายของใช้และยา ด้านหลังมี Office Mate ร้านขายอุปกรณ์สำนักงาน ก่อนร้านเปิดและหลังร้านปิดจะมีรถเข็นขายอาหารมาตั้งทั้งริมถนนพหลโยธิน และในซอยให้เลือกหลายร้านเลย
เดินตรงไปซอยด้านข้าง Boots อีกฝั่งหนึ่ง ด้านในมีรถเข็นขายอาหาร และร้านอาหารใต้อาคารพาณิชย์เช่นกัน
ถัดไปเป็นโรงพยาบาลเปาโล เมมโมเรียล สะพานควาย ก็นับว่าเป็นโรงพยาบาลเอกชนใหญ่ในละแวกนี้เลย
ถัดจาก รพ. เป็น Big C สะพานควาย ตอนเย็นๆ หน้า Big C นี่ของขายเพียบ และ ทางเข้า-ออก ที่จอดรถ Big C มีจุดจอดรถตุ๊กๆให้กับวินมอเตอร์ไซค์ด้วย
กลับมาที่สถานีรถไฟฟ้าสะพานควาย ถ้าใครจะไปโครงการเลยให้ออกที่ทางออก 4
จากบนสถานีทางออก 4 มองไปทางสถานีหมอชิต ฝั่งขวาจะเห็นคอนโด IDEO Mix พหลโยธิน มองเลยไปหน่อยเห็นอาคารที่ก่อสร้างอยู่คือคอนโด M จตุจักร สำหรับโครงการ Notting Hill Jatujak-Interchange จะอยู่ถัดจากคอนโด M จตุจักรนี่เอง
เดินลงมาจากสถานีที่ทางออก 4 บรรยากาศจะต่างจากทางออก 2 เลยนะคะ เพราะฝั่งนี้ไม่ได้มีอาคารสำคัญอย่างโรงพยาบาลและ Big C เหมือนทางออก 2 จึงไม่มีร้านค้าริมทางและความคึกคักเท่า อาคารส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ที่ชั้นล่างเปิดเป็นบริษัทและร้านค้า อย่างทางขวาเปิดเป็นบริษัท SCM Premier นำเข้าเครื่องมือทางอุตสาหกรรม
บริเวณหน้าบริษัท SCM Premier จะมีวินมอเตอร์ไซค์ตั้งอยู่ ถ้าเรียกไปซอยพหลโยธิน 18 ก็สนน.ราคา 15 บาท
เดินตรงมาอีกนิดเดียวจะผ่านหน้าโครงการ IDEO Mix พหลโยธิน ภายในโครงการเปิดเป็นร้านค้า ร้านกาแฟ คลินิก ทั้ง Max Value. ร้านกาแฟ True Coffee, คลินิกทันตกรรม ซึ่งผู้คนนอกที่ไม่ใช่ลูกบ้านก็สามารถเข้าไปใช้บริการได้ ตรงนี้ก็เป็นจุดหนึ่งที่เป็นแหล่งซื้ออาหารสำเร็จรูปใกล้โครงการค่ะ
ตรงไปอีกนิดนึงก็เดินข้างคลองบางซื่อไป ฝั่งขวาจะมองเห็นคอนโด M จตุจักร ส่วนคอนโด Notting Hill Jatujak-Interchange ถ้าขึ้นอาคารมาแล้วก็จะเห็นว่าอยู่ถัดจาก M จตุจักร ประมาณตรงตำแหน่งที่ชี้ค่ะ
เดินต่อไปยังซอยพหลโยธิน 18 ฝั่งขวาจะผ่านรั้วสักกะสีที่กั้นอยู่ ด้านในเป็นที่จอดรถให้เช่า
ถัดมาไม่ไกลก็เจอทางเข้าที่จอดรถ รับฝากแบบรายเดือนและรายวัน
เดินต่อไปผ่านอาคารพาณิชย์ แถวนี้จะเปิดเป็นร้านขายพวกอะไหล่รถยนต์กันหลายร้าน เพราะด้านในซอยพหลโยธิน 18 มีทั้งกรมขนส่งทางบก, รร.สอนขับรถยนต์และร้านซ่อมรถหลายแห่ง
ทางไปโครงการก็เดินตรงไปเรื่อยๆไปตามถนนพหลโยธิน ถ้ามองฝั่งซ้ายจะมีทางม้าลายข้ามไปฝั่งถนนกำแพงเพชร เป็นทางเดินไปตลาด อตก. ค่ะ
เดินมาอีกนิดจะมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่หน้าปากซอยพหลโยธิน 18 อีกวินหนึ่ง เวลาต้องการใช้บริการพี่วินก็เดินมาหน้าปากซอยนะคะ จากวินนี้ถ้าเรียกไปสถานี BTS หมอชิตก็สนน.ราคาที่ 30 บาทค่ะ
ติดกับวินมอเตอร์ไซค์ก็ถึงหน้าปากซอยซอยพหลโยธิน 18 ให้เลี้ยวขวาเข้าซอยไปเลย ซอยนี้เป็นซอยทางลัดหลักที่สำคัญสำหรับการจราจรแถวนี้ เป็นทางเชื่อมต่อระหว่างถนนใหญ่ 3 สายทั้งพหลโยธิน สุทธิสารและวิภาวดีรังสิต
เลี้ยวเข้ามาในซอยแล้วช่วงต้นซอยจะมีทางเท้าให้เดินได้สะดวก ให้เดินผ่านโครงการ M จตุจักรเข้ามานะคะ
ถนนในซอยเป็นถนน 2 เลน ไปกลับ ถ้าเป็นช่วงเร่งด่วนซอยนี้อย่างที่ว่าเป็นเส้นทางลัดก็จะพลุกพล่านไปด้วยรถยนต์นานาชนิด การเดินเข้าซอยบางช่วงจะไม่มีทางเท้าก็ต้องระวังนิดนึง ซอยนี้มีไหล่ทางแคบหน่อย ถ้ามีใครมาจอดรถข้างทางก็จะทำให้การจราจรมีปัญหาขึ้นมาทันที โดยเฉพาะรถใหญ่ ถัดจาก M จตุจักรไปจะเป็นอาคารพาณิชย์ที่ชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายข้าวแกง เป็นร้านขายอาหารตามสั่งที่ใกล้โครงการมากที่สุดค่ะ
ถัดจากอาคารพาณิชย์ก็จะถึงทางเข้าโครงการแล้วค่ะ
ซอยพหลโยธิน 18 นี้เป็นซอยเล็กไม่สามารถสร้างตึกสูงได้ โครงการที่ตั้งอยู่ในซอยจึงต้องเป็นโครงการ Low Rise
ถัดจากทางเข้าโครงการเป็น สนง.ขาย ซึ่งเป็นอาคารเช่าชั่วคราว มีกำหนดเปิด Pre-Sale ในวันศุกร์ที่ผ่านมา (วันที่ไปถ่ายภาพทำรีวิวสนง.ขายยังไม่เสร็จเรียบร้อย แต่วันนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ไว้จะมาอัพเดทรูปกันนะคะ)
โครงการเป็นอาคาร Low Rise ในซอยสูง 8 ชั้น ซึ่งความสูงระดับนี้จะเท่ากับคอนโดและอพาร์ทเม้นท์หลายๆโครงการในซอย จึงไม่ได้เน้นเรื่องวิวนะคะนะคะ สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการจะมีทั้งฝั่งที่ติดกับคอนโดสูง บ้านและอาคารพาณิชย์ 2-3 ชั้น ซึ่งสรุปได้ดังนี้ค่ะ
- ทิศเหนือของอาคาร ติดกับ อาคารพาณิชย์ 2-3 ชั้น
- ทิศใต้ของอาคาร ติดกับ บ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น
- ทิศตะวันออก ติดกับ ซอยพหลโยธิน 18 แยก 2 ส่วนฝั่งตรงข้ามถนนเป็นบ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น
- ทิศตะวันตก ติดกับ คอนโด M จตุจักร
ส่วนการวิเคราะห์ในเรื่องของวิวจากห้องพักอาศัยนั้น ภาพรวมโครงการมีอาคารสูงที่อยู่ในระยะประชิดทางทิศตะวันตก ซึ่งก็มีข้อดีที่ช่วยบังแดดตอนบ่ายได้นะคะ, ส่วนทิศเหนือและใต้จะติดกับบ้านและอาคารพาณิชย์ 2-3 ชั้น จึงควรเลือกห้องที่ชั้น 4 ขึ้นไปก็จะได้วิวที่โล่งขึ้น แม้ไม่ได้มีอาคารสูงบังวิวในระยะใกล้ แต่ด้วยทำเลในเมืองแบบนี้ทำให้ระยะไกลก็จะมีอาคารสูงบังวิวเป็นเรื่องปกตินะคะ วิวทางทิศตะวันออกเป็นทิศที่ไม่ได้มีอาคารในระยะประชิด เพราะระยะของถนนซอยกั้นอาคารกับบ้านพักอาศัยข้างเคียงไว้ ทำให้ห้องบนชั้น 2-3 ก็ไม่ได้อึดอัดเท่ากับทิศอื่นๆ แต่วิวระยะไกลทางทิศนี้มีอพาร์ทเมนท์และคอนโด 8 ชั้นบังวิวอยู่เช่นกัน สำหรับการเลือกทิศทางของห้องนั้นเป็นความชอบส่วนบุคคล นอกจากจะคำนึงถึงวิวแล้ว ก็อย่าลืมคำนึงเรื่องทิศทางลมกันด้วยนะคะ
ที่ดินด้านหน้าโครงการส่วนที่ติดถนนซอยเป็นรูปสามเหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่แค่พอตกแต่งให้เป็นทางเข้าโครงการ ตัวอาคารจะถัดเข้าไปด้านในหน่อยอยู่บริเวณด้านหลังอาคารพาณิชย์
ด้านข้างที่ดินติดกับซอยพหลโยธิน 18 แยก 2 ซึ่งที่ดินด้านในคือบริเวณบ้านเดี่ยวที่อยู่ในซอย ที่เห็นโครงการที่กำลังก่อสร้างด้านหลังคือคอนโด M จตุจักร
เข้ามาในซอยพหลโยธิน 18 แยก 2 เป็นซอยเล็กๆที่เป็นทางเข้าของบ้านเดี่ยวหลายหลัง ฝั่งขวาภายในเส้นเหลืองเดิมเป็นบ้านเดี่ยวเช่นกัน ปัจจุบันกลายเป็นที่ดินของโครงการ
ภายในเส้นประสีเหลืองคือที่ดินโครงการ Notting Hill ถัดไปเป็นบ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น ทำให้บรรยากาศที่ดินโดยรอบทางฝั่งนี้ไม่ค่อยอึดอัดนัก ห้องพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 4 ขึ้นไปวิวก็จะโล่งๆแล้วค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- โรงพยาบาลเปาโลเมมโมเรียล ~800 ม.
- ตลาดนัดสวนจตุจักร ~350 ม.
- ตลาด อตก. ~550 ม.
- โรงพยาบาลเปาโลเมมโมเรียล ~800 ม.
- Big C สะพานควาย ~850 ม.
- สวนจตุจักร ~850 ม.
- สวนรถไฟ ~2.1 กม.
- ยูเนี่ยนมอลล์ ~2.2 กม.
- La Villa อารีย์ ~2.2 กม.
- Central ลาดพร้าว ~2.6 กม.
- โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ~3.3 กม.
- โรงพยาบาลพญาไท 2 ~3.4 กม.
- อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ~4 กม.
ต่อไปมาดูกันที่ตัวโมเดลกันนะคะ จะได้เห็นภาพรวมของโครงการกันชัดขึ้น^^โครงการเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร สามารถเข้าออกโครงการได้จากทางถนนพหลโยธิน 18 ทางเดียวค่ะ แต่ตัวอาคารจะไม่ได้ติดถนนซอยเลยนะจะถัดเข้าไปด้านใน ตัวอาคารจึงอยู่ด้านหลังอาคารพาณิชย์ 2-3 ชั้นที่อยู่ติดซอยพหลโยธิน 18 อีกที ส่วนด้านซ้ายของโครงการติดกับซอยพหลโยธิน 18 แยก 2 ซึ่งเป็นซอยตันและเป็นทางเข้าของกลุ่มบ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น เป็นแปลงย่อยหลายแปลงถ้ารวมแปลงกันก็สามารถขึ้นอาคาร Low Rise ได้เหมือนกัน ก็ต้องมารอลุ้นกันต่อไปว่าจะมีอาคารมาบล๊อกวิวด้านข้างโครงการหรือเปล่า ส่วนหน้าทางเข้าออกโครงการจะหันไปทางทิศเหนือ ก็จะหันไปทางสถานี BTS หมอชิตค่ะ
อาคารด้านทิศตะวันตก อาคารฝั่งนี้จะวางตัวด้านยาวของอาคารไปตามรูปร่างของที่ดิน ซึ่งจะติดกับคอนโด M จตุจักรตลอดแนวอาคาร จึงโดนบล็อกวิวเต็มๆ แต่ยังดีที่พื้นที่ติดกันเป็นถนนส่วนกลางของ M จตุจักรพอดี ทำให้ห้องพักทางฝั่งนี้ถึงแม้จะโดนบล๊อกวิวแต่ก็ไม่ได้อึกอัดมาก เพราะมีระยะห่างระหว่างอาคารอยู่ โดยพื้นที่อาคารทางฝั่งนี้จะล้อมสระว่ายน้ำ Co-working Space และ Fitness ส่วนกลางของโครงการไว้เป็นตัว U ทำให้พื้นที่ส่วนกลางจะได้ร่มตลอดทั้งวัน ห้องพักส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 1 Bedroom Plus จะมีบางส่วนที่เป็นแบบ 2 Bedroom ก็จะอยู่เป็นห้องมุมของอาคาร
อาคารด้านทิศใต้ อาคารด้านนี้เป็นด้านในสุดของตัวโครงการ โดยส่วนท้ายของโครงการจะติดกับบ้านพักอาศัย 2-3 ชั้นที่อยู่ด้านในซอยพหลโยธิน 18 แยก 2 จึงไม่มีอาคารสูงบังวิวในระยะประชิด ห้องพักส่วนใหญ่ทางทิศนี้เป็นห้องแบบ 2 Bedroom แต่จะมีห้องมุมซ้ายที่เป็นห้อง 1 Bedroom Plus
อาคารด้านทิศตะวันออก อาคารฝั่งนี้จะวางตัวด้านยาวของอาคารไปตามรูปร่างของที่ดินเหมือนฝั่งทิศตะวันตก ซึ่งด้านข้างที่ดินจะติดกับซอยพหลโยธิน 18 แยก 2 ทำให้อาคารทางฝั่งนี้จะไม่ได้ติดกับกลุ่มบ้านพักอาศัย 2-3 ชั้นโดยตรง ห้องพักทางฝั่งนี้จึงค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าทางทิศใต้ ห้องพักทางทิศนี้มีทั้ง 3 แบบ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus ที่อยู่ตรงกลาง ส่วนห้องมุมจะเป็นห้องแบบ 2 Bedroom และ 1 Bedroom
มาดูรายละเอียดแต่ละจุดภายในโครงการกันนะคะ เริ่มจากด้านหน้าโครงการหันหน้าออกซอยพหลโยธิน 18 ในโมเดลไม่ได้มีป้อมยามและซุ้มประตูโครงการให้ได้เห็น แต่โครงการเมื่อเสร็จเรียบร้อยจะมีป้อมยามและรักษาความปลอดภัยด้วยไม้กระดกกั้นเข้าออก มี CCTV ให้บริเวณทางเข้าออก ซึ่งผู้อยู่อาศัยจะต้องใช้ Key Card ตั้งแต่ประตูหน้าทางเข้าโครงการเลยนะคะ
เส้นทางเดินรถยนต์เมื่อผ่านเข้ามาในโครงการจะเป็นถนน 2 เลนแบบวิ่งสวนกัน เมื่อเข้ามาในโครงการแล้วรถยนต์จะถูกบังคับให้ตรงไปตามทางเพื่อเข้าสู่พื้นที่จอดรถใต้อาคาร ซึ่ง Lobby จะอยู่ใต้อาคารเลยค่ะ
มาดูช่องจอดรถของโครงการกันบ้าง จะมีช่องจอดรถทั้งแบบจอดด้านนอกอาคารและช่องจอดรถใต้อาคาร ซึ่งช่องจอดใต้อาคารบางส่วนจะไม่ได้อยู่ในร่มแบบเต็มคันแต่เวลาฝนตกก็ยังพอให้ลงจากรถแล้วเดินเข้า Lobby ใต้อาคารได้
ในส่วนของสระว่ายน้ำส่วนกลางของโครงการเป็นระบบเกลือมีขนาด 5 x 12.5 ม. ลึก 1.2 ม. ตำแหน่งของสระว่ายน้ำจะถูกล้อมด้วยอาคารทั้ง 3 ด้าน ซึ่งแปลงที่ดินที่ติดกันคือ M จตุจักรสูง 34 ชั้น ทำให้สระว่ายน้ำจะถูกล้อมด้วยทั้ง 4 ด้าน แม้ว่าความเป็นส่วนตัวในการใช้งานสระว่ายน้ำจะลดลงแต่ก็ได้ในเรื่องของความร่มในการใช้งาน ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางตรงนี้คาดว่าจะใช้งานตั้งแต่ช่วงบ่ายเลยค่ะ
โครงการเลือกออกแบบพื้นที่ที่รอบสระว่ายน้ำไว้ให้เป็นพื้นที่ส่วนกลาง 2 ด้าน ทั้งที่จริงสามารถทำเป็นห้องพักอาศัยวิวสระได้ซึ่งถือว่าเป็นห้องที่จะมี Value มากกว่าปกติ การออกแบบอย่างนี้ถือเป็นการออกแบบที่ดีทำให้ลูกบ้านทั้งหมดสามารถมานั่งชมวิวสระว่ายน้ำได้
ลูกบ้านสามารถมาใช้พื้นที่ส่วนกลางทั้ง Co-Working Space และ ห้อง Fitness ได้ โดยทั้ง 2 ส่วนจะเปิดวิวออกสู่สระว่ายน้ำทำให้พื้นที่ส่วนกลางน่าใช้งานมากขึ้น
ต่อไปมาดูพื้นที่ส่วนกลางอีกส่วนหนึ่งคือสวนบนชั้นดาดฟ้า โดยพื้นที่สวนนี้จะอยู่บริเวณด้านท้ายอาคาร หันหน้าเข้าสู่ฝั่งคลองบางซื่อ ซึ่งมุมนี้จะค่อนข้างโล่งหน่อยเพราะพื้นที่โดยรอบเป็นบ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น และ บ้านที่อยู่ริมคลองก็เป็นบ้านที่ไม่สูงนักทำให้สวนบนดาดฟ้าด้านนี้มีความสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อน
ภายในสวนส่วนกลางบนชั้นดาดฟ้า มีพื้นที่สำหรับนั่งเล่นแบบ Semi-Outdoor คือมีหลังคาโปร่งๆ คลุมไว้ ช่วยกันแดดได้บ้างแต่ก็ไม่สามารถกันฝนได้ นอกจากนี้ก็มีพื้นที่สนามหญ้าและแนวต้นไม้ใหญ่ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่น การใช้งานจริงก็น่าจะเหมาะมาใช้เวลาเย็นๆที่แดดร่มหน่อย โดยรอบพื้นที่มีขอบกันตกไว้เรียบร้อย
ภาพจำลองโครงการเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น ตัวอาคารถูกออกแบบมาในสไตล์เรียบหรู ด้วยผนังอาคารสีขาวแต่มีดีเทลของเส้นสายที่ทำให้อาคารไม่ดูทึบตัน แต่บรรยากาศโดยรอบโครงการจะไม่ได้ตามรูปทั้งหมดนะคะ ของจริงพื้นที่โดยรอบจะเป็นคอนโดฝั่งหนึ่ง ด้านหน้าโครงการจะมีอาคารพาณิชย์ ส่วนด้านข้างโครงการเป็นซอยพหลโยธิน 18 แยก 2 ที่เป็นซอยอยู่อาศัยของบ้านเดี่ยว 2-3 ชั้น ที่มีอยู่ในซอยประมาณ 4-5 หลัง
ภาพจำลองบรรยากาศภายในพื้นที่ Co-Working Space ซึ่งใช้เป็น Lobby ของโครงการด้วย บรรยากาศค่อนข้างโปร่งด้วยผนังกระจกด้านข้างที่เปิดให้เห็นวิวสระว่ายน้ำของโครงการ
ภาพจำลองสระว่ายน้ำส่วนกลางของโครงการเป็นระบบเกลือมีขนาด 5 x 12.5 เมตร ลึก 1.2 เมตร อาคารข้างเคียงเป็นคอนโด M จตุจักรสูง 34 ชั้น ทำให้ความเป็นส่วนตัวของพื้นที่สระว่ายน้ำลดลง แต่โครงการก็ล้อมด้วยกำแพงต้นไม้ช่วยบังสายตาจากอาคารข้างเคียงได้บ้าง ส่วนพื้นที่โดยรอบสระว่ายน้ำด้านอื่นๆเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งห้อง Co-Working Space และห้อง Fitness ก็จะได้วิวสระว่ายน้ำทั้งหมดนะคะ
ภาพจำลองบรรยากาศสวนบนดาดฟ้า มีพื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi-Outdoor มีหลังคาคลุมแบบโปร่งๆไม่สามารถกันแดดกันฝนได้มากนัก การใช้งานจริงคงต้องมาใช้เวลาเย็นที่แดดร่มลมตกแล้วค่ะ
ตัวโครงการสามารถมองเห็นได้จากสถานี BTS จตุจักร แต่ของจริงจะมีคอนโด M จตุจักรบังวิวทางฝั่งขวา
เริ่มกันที่ผังชั้น 1 กันค่ะ โครงการ Notting Hill Jatujak – Interchange มีทางเข้าออกโครงการทางเดียวคือทางถนนซอยพหลโยธิน 18 ที่ดินด้านหน้าโครงการที่ติดถนนมีความยาวประมาณ 20 ม. จะเห็นว่ามีด้านที่ติดถนนยาวพอสมควรจึงเป็นโครงการที่จะสังเกตเห็นได้ง่าย ตัวอาคารจะไม่ได้อยู่ติดถนนเลยนะ จะหลบมาอยู่หลังอาคารพาณิชย์ 2-3 ชั้น จากหน้าโครงการบริเวณป้อมยามจะผู้อยู่อาศัยจะต้องใช้ Key Card ตั้งแต่ประตูทางเข้าข้างป้อมยามเลยนะคะ
ชั้น 1 ของอาคารพักอาศัยไม่มีห้องพักอาศัยนะคะ จะเป็นพื้นที่ของลานจอดรถ เส้นทางเดินรถในอาคารเมื่อขับเข้ามาด้านในพื้นที่โครงการ จะเป็นทางบังคับให้ตรงไปผ่าน Drop-Off ของอาคารและตรงไปยังพื้นที่จอดรถใต้อาคาร ทางขึ้นห้องพักจะขึ้นผ่านโถงทางเข้า ซึ่งเป็นจุดที่จะแจกไป Lobby และ Lift Lobby อีกที
ขึ้นมาชั้น 2 จะเริ่มเป็นส่วนของห้องพักอาศัยและพื้นที่บางส่วนเป็น Facilities หลักของโครงการ
ผังอาคารจัดไว้ค่อนข้างดี มีการแยกส่วนพื้นที่ห้องอาศัยกับพื้นที่ส่วนกลางออกจากจันอย่างชัดเจน ทำให้ผู้อยู่อาศัยในชั้นนี้ได้รับความเป็นส่วนเช่นเดียวกับห้องพักอาศัยในชั้นอื่นๆ โดยมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 18 ยูนิต, สำหรับพื้นที่ส่วนกลางได้แก่ Co-working Space และ Lobby ซึ่งสามารถบันไดจากทาง Lobby ชั้นล่างขึ้นมาได้ และ Fitness ที่อยู่ติดกันทั้ง 2 ส่วนหันหน้าเข้าสระว่ายน้ำส่วนกลางที่อยู่ทางทิศตะวันตก ทำให้ส่วนกลางทั้ง 2 ส่วนได้วิวสระว่ายน้ำ ช่วยสร้างบรรยากาศให้พื้นที่ส่วนกลางน่าใช้สอย ตำแหน่งของสระว่ายน้ำได้รับการออกแบบให้ถูกล้อมด้วยอาคาร 3 ฝั่ง ส่วนอีกฝั่งหนึ่งโดนบล๊อกด้วยคอนโดสูง 34 ชั้นด้านข้าง ทำให้พื้นที่ได้ร่มเงาอาคารตลอดวัน สระว่ายน้ำจึงสามารถใช้งานได้ตั้งแต่ช่วงบ่าย ส่วนห้องพักอาศัยในชั้นนี้มีทั้งหมด 18 ยูนิต ซึ่งทางโครงการเน้นไปที่แบบ 1 Bedroom Plus ให้มีจำนวนห้องมากที่สุด ดังนี้
- แบบ Deluxe (s) 1 Bedroom 24.5-26 ตร.ม. จำนวน 2 ยูนิต
- แบบ Deluxe (M) 1 Bedroom 30-33 ตร.ม. จำนวน 3 ยูนิต
- แบบ Suite 1 Bedroom Plus 34-34.9 ตร.ม. จำนวน 11 ยูนิต
- แบบ Penthouse 2 Bedrooms 45.5-52.4 ตร.ม. จำนวน 2 ยูนิต
ห้องพักส่วนใหญ่จะเป็นห้องที่หันหน้าทางทิศตะวันออก-ตะวันตก ทางเดินจัดเป็น Double corridor วางห้องพักขนาบทางเดิน 2 ฝั่ง โถงลิฟท์มีตำแหน่งเดียวค่อนมาทางหน้าทางเข้าโครงการ ทำให้ห้องที่อยู่ที่ปลายอีกฝั่งของอาคารจะต้องเดินไกลกว่าห้องอื่นๆ แต่ไม่เป็นปัญหากับอาคารที่ไม่ยาวนักเพราะมีระยะทางเดินไปถึงห้องพักที่ไกลจากลิฟท์ที่สุดประมาณ 30 ม.เท่านั้น ในโถงจะมีลิฟท์แต่ละอาคารจะมีลิฟท์ 2 ตัว เป็นแบบล็อกชั้น มีอัตราส่วนลิฟท์เฉลี่ยทั้งโครงการ 78 : 1 ถือว่าเป็นอัตราส่วนที่ดีนะคะ ส่วนบันไดหนีจะมีอยู่ 2 ตำแหน่งกระจายตัวอยู่ทั้งฝั่งซ้ายขวาของอาคาร ซึ่งบันไดทั้งหมดสามารถลงไปยังชั้น 1 ได้ค่ะ การจัดวางห้องในอาคารใช้วิธีการจัดวางเรียงไปตามรูปตรงอาคาร จัดวางตำแหน่งประตูห้องไม่ให้ชนกัน แต่จะมีไม่กี่ห้องเท่านั้นที่ประตูห้องอยู่ตรงกันกับห้องอื่น
ต่อไปเป็นเรื่องของวิวในชั้นนี้ส่วนใหญ่ทั้งทางทิศเหนือ ใต้และตะวันตกโดนบล็อกวิวด้วยอาคารในระยะประชิดทั้งหมด ยกเว้นห้องที่หันไปทางทิศตะวันออกแม้จะโดนบล๊อกวิวด้วยบ้านพัก 2-3 ชั้นเหมือนกัน แต่ทางทิศนี้จะติดกับซอยพหลโยธิน 18 แยก 2 จึงยังพอมีพื้นที่ระหว่างอาคารกับบ้านพักอาศัยฝั่งตรงข้ามอยู่บ้าง
มาต่อกันที่ ชั้น 3-8 ของตึกค่ะ จะมีแปลนคล้ายกับชั้น 2 เลย ต่างกันคือในชั้นนี้จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งชั้น โดยมีห้องพักอาศัยจำนวน 23 ยูนิต ดังนี้
- แบบ Deluxe (s) 1 Bedroom 24.5-26 ตร.ม. จำนวน 2 ยูนิต
- แบบ Deluxe (M) 1 Bedroom 30-33 ตร.ม. จำนวน 3 ยูนิต
- แบบ Suite 1 Bedroom Plus 34-34.9 ตร.ม. จำนวน 16 ยูนิต
- แบบ Penthouse 2 Bedrooms 45.5-52.4 ตร.ม. จำนวน 2 ยูนิต
เรื่องของวิวสำหรับชั้น 3 จะเหมือนกับวิวในชั้น 2 เลยนะคะ แต่พอขึ้นมาถึงชั้น 4 วิวจะเปิดโล่งขึ้นทางทิศเหนือ ใตเ และตะวันออก แต่ทั้ง 3 ด้านก็จะถูกบังวิวในระยะไกลด้วยอาคารสูง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสำหรับคอนโด Low Rise ที่อยู่ในทำเลกลางเมืองแบบนี้
สำหรับชั้นบนสุดของอาคาร จะเป็นชั้นดาดฟ้า ซึ่งทางโครงการจัดสวนไว้ให้ เป็นพื้นที่ที่ลูกบ้านทุกห้องสามารถขึ้นมานั่งเล่นชมวิวได้จากบนนี้ แต่เวลาในการใช้งานคงจะเหมาะเฉพาะตอนเย็นๆเท่านั้น
ตำแหน่งของสวนอยู่ทางทิศตะวันใต้ของอาคาร วิวที่ได้จะเป็นวิวที่มองผ่านคลองบางซื่อกลับเข้าเมืองทางสะพานควาย ซึ่งบริเวณริมฝั่งคลองส่วนใหญ่เป็นบ้านอยู่อาศัยริมน้ำ 2-3 ชั้น จึงน่าจะได้วิวที่โล่งหน่อย แต่ก็ถูกบล็อกวิวด้วยคอนโด 34 ชั้นด้านข้าง ส่วนในระยะไกลจะมีคอนโดสูงอีกโครงการบังวิวอยู่เช่นกัน
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5 x 12.5 เมตร ลึก 1.2 เมตร
- ห้อง Fitness
- สวนลอยฟ้า
- Lobby
- Co-Working Space
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 78 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 60 คันคิดเป็น 38% รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 50%
- ระบบ CCTV / Access Card
ห้องตัวอย่างมี แบบเดียวคือแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม. เป็นแบบที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดในโครงการ การออกแบบของห้องนี้ออกแบบมาให้ฟังก์ชันค่อนข้างลงตัว โดยภายในมีห้องอเนกประสงค์ที่สามารถใช้เป็นห้องทำงานหรือปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่งก็ได้ ห้องขายแบบ Fully Furnished ให้ครบเกือบหมด ขาดแค่โซฟากับโต๊ะทานอาหารนะคะ
เริ่มจากทางเข้าจะเจอกับส่วนพื้นที่นั่งเล่นดูทีวี ถัดไปเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหาร ติดกันเป็นส่วนของห้องอเนกประสงค์ที่กั้นจากห้องนั่งเล่นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกแยกเป็นสัดส่วนดี ใครที่อยากจะเพิ่มความเป็นส่วนตัวอีกหน่อยก็สามารถติดฟิล์มฝ้าได้นะคะ ภายในห้องอเนกประสงค์จะมีทางออกไประเบียงของห้อง ถ้าวางเครื่องซักผ้าแล้วก็เหลือพื้นที่ในการใช้งานไม่มากเท่าไหร่นะคะ จากห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับบริเวณเตรียมอาหารและรับประทานอาหาร ในส่วนนี้ไม่ได้มีประตูกั้นจึงไม่เหมาะกับการทำอาหารหนักๆ เนื่องจากกลิ่นจะลอยฟุ้งไปทั่วห้อง ติดกันทางซ้ายของห้องครัวจะเป็นตำแหน่งของห้องน้ำที่มีขนาดค่อนข้างเล็กแต่ก็จัดสรรตำแหน่งสุขภัณฑ์และแบ่งโซนเปียกโซนแห้งได้ดีค่ะ และสุดท้ายห้องนอนจะอยู่ทางฝั่งขวาของห้องครัว ไม่ได้มีห้องน้ำในตัวเหมือนแบบ 1 Bedroom นะคะ ซึ่งก็มีข้อดีคือเวลาที่มีเพื่อนๆมาเยี่ยมก็สามารถใช้ห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องครัวได้เลย ไม่ต้องเดินเข้ามาในห้องนอนค่ะ
ประตูหน้าห้องตัวอย่างไม่ได้ติดมาให้ สำหรับของจริงที่โครงการให้เป็นประตูไม้ปิดผิวด้วยเมลามีนพร้อม Digital Door Lock เข้ามาด้านในห้องจะเจอกับโซนแรกที่เป็นห้องนั่งเล่นและพื้นที่ทานอาหาร ซึ่งอยู่ติดกับห้องอเนกประสงค์เลยถ้าใครทำเป็นห้องนอนคงต้องติดฟิล์มหรือติดม่านเพิ่มด้วย ส่วนพื้นที่ใช้สอยอื่นๆต้องเลี้ยวไปทางฝั่งขวา ก็จะมีห้องนอน ห้องครัว และห้องน้ำค่ะ
มาดูรายละเอียดพื้นที่ใช้สอยทีละตำแหน่งนะคะ พื้นที่นั่งเล่นในห้องตัวอย่างจัดวางชุดโซฟาไว้มีขนาด 2 ที่นั่ง ซึ่งโซฟานี้ทางโครงการไม่ได้มีให้ ระยะดูทีวีของห้องนั่งเล่น มีระยะห่างประมาณ 2.5 เมตร มีขนาดทีวีที่เหมาะสมที่ขนาดใหญ่ถึง 55 นิ้ว
อีกฝั่งหนึ่งเป็นผนังสำหรับแขวนทีวีในห้องจริงที่ส่งมอบให้ลูกค้า จะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีขาวและ Built-in ชั้นวางทีวีไว้เรียบร้อยแบบนี้เลย โดยทีวีที่ห้องตัวอย่างจัดไว้จะเป็นแบบติดผนัง ทำให้มีพื้นที่วางของบนชั้นวางทีวีเพิ่มขึ้น
ชั้นวางทีวีจะเป็นตู้บานเลื่อน แต่จะปิดได้แค่ด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น โดยตู้นี้สามารถทำเป็นตู้เก็บรองเท้าได้เลยนะคะ
ส่วนตู้ลอยด้านบนมีบานเลื่อนปิดแค่ด้านใดด้านหนึ่งเหมือนกัน เป็นดีไซน์ตู้ที่สามารถเลือกช่องเปิดได้ตามใจผู้อยู่อาศัยเลย
พื้นที่ที่เหลือระหว่างโซฟากับผนังติดทีวีมีขนาดประมาณ 1.6 x 1.8 ม. ถ้าจะวางโต๊ะกลางจะต้องเป็นโต๊ะที่มีขนาดเล็กเพื่อให้เหลือพื้นที่ทางเดินไปพื้นที่ระเบียงด้านในได้สะดวก พื้นห้องเป็นกระเบื้องไวนิล ถ้าพูดเรื่องความทนกระเบื้องไวนิลกินขาดทั้งไม้จริง, พื้นไม้ Engineering Floor และลามิเนตเลย ข้อดีอีกข้อคือจะไม่เย็นเท้ามากๆแบบกระเบื้อง แต่ก็เย็นกว่าพื้นไม้จริงอยู่หน่อย โดยรวมก็เหมาะสมที่จะปูในห้องนอนและห้องนั่งเล่น สำหรับข้อเสียก็มีในเรื่องของรูปลักษณ์ที่ดูไม่หรูหราเท่าพื้นไม้จริง และ พื้นไม้ Engineering ค่ะ
ถัดมาด้านในห้องถัดจากโซฟาเป็นตำแหน่งสำหรับวางโต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง ตามที่ห้องตัวอย่างจัดมาให้ดูเป็นแบบเข้ามุม ซึ่งทางโครงการจัดไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ไม่ได้แถมโต๊ะทานอาหารให้ค่ะ
พื้นที่โดยรอบโต๊ะทานอาหารวางโซฟาได้ 2 ที่นั่ง พอไปลองเลื่อนเก้าอี้ดูแล้วก็มีพื้นที่เหลือพอให้ดึงออกมานั่งได้สะดวก โดยมีพื้นที่ข้างโต๊ะทานอาหารกว้างประมาณ 60 ซม. ค่ะ
ต่อไปดูห้องอเนกประสงค์กันบ้าง จะถูกกั้นกับห้องนั่งเล่นด้วยประตูบานเลื่อนแบบ 2 ตอน วัสดุเป็นอลูมิเนียมสีดำ ถ้าต้องการให้มีช่องทางเดินเข้าออกประตูที่กว้างขึ้นก็เปลี่ยนไปใช้แบบ 3 ตอนก็ดีนะคะ ส่วนกระจกเป็นกระจกใสธรรมดา
ประตูบานเลื่อนแบบ 2 ตอน เลื่อนเปิดได้ทีละด้านจึงมีพื้นที่ทางเดินกว้าง 0.7 ม.
วงกบประตูเป็นอลูมิเนียมอบสีดำ ตัวล็อกจะเป็นตัวล็อกแบบฝังกับประตูบานละ 1 ตำแหน่ง และขอบประตูจะติดเส้นกำมะหยี่ช่วยกันเสียงและฝุ่นเข้าห้องได้ดี
รางประตูจะอยู่ในระนาบเดียวกับพื้น ทำให้เวลาเดินไม่ต้องกลัวสะดุดนะคะ
ห้องอเนกประสงค์มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 2.35 x 2.6 ม. ห้องตัวอย่างจัดไว้เป็นห้องทำงานโดยวางโซฟา 2 ที่นั่งและโต๊ะเขียนหนังสือ โดยเฟอร์นิเจอร์ในห้องนี้ไม่ได้แถมให้ เป็นแค่ห้องเปล่าเดินปลั๊กไฟไว้ให้เท่านั้น หรือถ้าใช้ห้องนี้เป็นห้องนอนมีพื้นที่ให้สามารถวางเตียงเดี่ยวได้ค่ะ
ห้องอเนกประสงค์ในห้องตัวอย่างจัดวางชุดโซฟาไว้มีขนาด 2 ที่นั่ง หรือถ้าผู้อยู่อาศัยอยากจะเปลี่ยนเป็นโซฟาขนาด 3 ที่นั่งก็สามารถทำได้ แต่จะไม่มีที่วางโคมไฟ คงต้องเปลี่ยนเป็นไฟแขวนแทน
อีกฝั่งหนึ่งของห้องวางโต๊ะทำงานขนาดใหญ่พอสมควร ซึ่งโต๊ะและเก้าอี้ชุดนี้ไม่ได้แถมมาให้กับห้อง เวลาเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ก็ต้องเผื่อระยะสำหรับยืนเปิดประตูบาลเลื่อนทั้ง 2 ฝั่งด้วย
พื้นที่ระเบียงจะเชื่อมต่อกับห้องอเนกประสงค์ ซึ่งถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน สเปคของประตูได้แบบเดียวกับประตูบานเลื่อนเข้าห้องอเนกประสงค์
ขอบประตูระหว่างพื้นห้องอเนกประสงค์และพื้นระเบียงถูกยกขอบให้สูงขึ้นเป็นธรณีประตู เพื่อกันไม่ให้น้ำฝนหรือน้ำจากการซักล้างไหลเข้ามาในห้องได้ ส่วนตัวรางของประตูบานเลื่อนจะอยู่บนขอบประตูธรณีอีกชั้นหนึ่ง เวลาเดินเข้าออกก็ระวังสะดุดหน่อย พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 x 30 ซม. ซึ่งทำให้ทำความสะอาดง่าย มีความคงทนต่อสภาพแวดล้อม และผิวหน้ากระเบื้องจะป้องกันการลื่นได้ค่ะ
พื้นที่ระเบียงมีขนาด 0.9 x 2.5 ม. ซึ่งเป็นพื้นที่ไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้าและราวตากผ้า ห้องจริงที่ได้ทางโครงการจะเดินเดินท่อระบายน้ำไว้ให้และที่ผนังมีตำแหน่งของปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบติดตั้งไว้เรียบร้อยสำหรับเสียบปลั๊กเครื่องซักผ้า
หลังจากวางเครื่องซักผ้าทางฝั่งซ้ายแล้ว พื้นที่ฝั่งขวาจะเหลือพื้นที่ขนาด 0.9 x 1.8 ม. เป็นขนาดที่สามารถวางราวตากผ้าได้จริง แต่เป็นราวที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก
ขอบระเบียงถูกกั้นราวกันตกไว้เรียบร้อย วัสดุเป็นเหล็กทาสีดำไว้ค่ะ
ออกจากห้องอเนกประสงค์ออกมา จะมีทางแยกด้านซ้ายมือระหว่างชั้นวางทีวีและห้องอเนกประสงค์ เป็นโถงที่จะเชื่อมพื้นที่ใช้สอยอีกฝั่งหนึ่งของห้อง ตรงไปจะเป็นห้องครัวแบบเปิด ซ้ายมือเป็นห้องนอน ส่วนขวามือเป็นห้องน้ำ ซึ่งห้องนอนและห้องอเนกประสงค์จะต้องใช้ห้องน้ำกับส่วนกลางนะคะ ทุกห้องมีประตูปิดแยกเป็นสัดส่วนชัดเจนนะคะ ยกเว้นพื้นที่ครัวด้านในที่เป็นครัวเปิดไม่มีผนังกั้น มาดูเคาน์เตอร์ครัวกันก่อนเลยค่ะ
เคาน์เตอร์ครัว Built-in กว้าง 1.5 ม. วัสดุเป็นโครงไม้กรุเมลามีน Top เคาน์เตอร์เป็นหินแกรนิตถือว่าดีและหาไม่ค่อยได้ในระดับราคานี้นะคะ ด้านล่างมีตู้เก็บของเป็นตู้บานเปิดปิดใต้อ่างล้างจาน ซึ่งบานพับเป็นแบบ Soft close ตู้นี้ไว้ใช้เก็บของเล็กๆน้อยๆได้แต่ใส่ของเต็มไม่ได้นะคะเพราะต้องเว้นพื้นที่เผื่อซ่อมแซมอ่างล้างจาน ส่วนฝั่งขวามีลิ้นชักไว้เก็บช้อนส้อมและจานชาม นอกจากนี้ยังมีตู้ช่องโล่งไว้สำหรับใส่ไมโครเวฟ
บานเปิดตู้มีดีเทลมือจับที่เป็นดีไซน์มากับตู้เลย แบบนี้ก็ดีตรงที่ไม่ต้องกลัวมือจับตู้หลุดเลยนะคะ
มาดูส่วนบนของเคาน์เตอร์ครัวกันบ้าง ให้ช่องเคาน์เตอร์มา 2 ช่องนะคะ ช่องหนึ่งเป็นซิงค์ล้างจาน อีกช่องเป็นเตาทำอาหารที่มาพร้อมเครื่องดูดควันแบบหมุนเวียน พื้นที่บนเคาน์เตอร์จะมีพื้นที่ตรงกลางเหลือนิดหน่อยไว้สำหรับเตรียมอาหารอย่างที่ต้องใช้เขียงหั่นนู่นนี่ได้บ้าง แต่ถ้าจะทำอาหารแบบหนักๆ มีเครื่องปรุงเยอะๆจะมีพื้นที่ไม่พอ ทำให้ปรุงอาหารไม่ค่อยสะดวก ส่วน Backsplash ด้านหลังจะเป็นกระจกซึ่งทางโครงการจะติดมาให้แบบนี้เลย เวลาปรุงอาหารแล้วกระเด็นก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย
เตาไฟฟ้าได้เป็นเตา 2 หัว ของ Haffele มีพื้นที่ด้านข้างให้วางเครื่องปรุงได้อยู่ สำหรับผนังด้านข้างทางโครงการไม่ได้ติดกระจกหรือปูกระเบื้องมาให้ ถ้าทำอาหารประเภทผัดบ่อยๆคงต้องทำเพิ่มเอง จะได้ทำความสะอาดง่ายนะคะ
ถัดไปเป็นซิงค์ล้างจานยี่ห้อ Haffele มีขนาดพอจะใส่จานชามได้ และมีความลึกพอสมควรที่จะล้างแล้วน้ำไม่กระเด็นออกมาค่ะ
ตู้ลอยสำหรับเก็บของด้านบนเป็นตู้บานเปิด 2 ตู้ และตู้ช่องโล่ง 1 ตู้ ภายในแบ่งเป็นช่องเก็บของ ตัวบานพับเปิดปิดเป็นแบบ Soft Close เช่นเดียวกับตู้ใต้เคาน์เตอร์ครัวนะคะ
ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวเป็นตำแหน่งสำหรับวางตู้เย็น ซึ่งตู้เย็นไม่ได้แถมให้ ลูกบ้านสามารถเลือกซื้อเองได้เลย พื้นที่วางตู้เย็นมีขนาดกว้างยาว 0.65 x 0.65 ม. ที่ห้องตัวอย่างวางตู้เย็นไว้มีขนาด 7.4 คิว ไว้ ก็ลงตัวกับพื้นที่พอดี แต่ถ้าลูกบ้านจะเลือกขนาดใหญ่กว่านี้ก็อย่าลืมดูเรื่องพื้นที่วางนะคะ
พื้นที่สำหรับยืนทำครัวและโถงทางเดินเข้าห้องนอนและห้องน้ำมีระยะพอให้เดินสวนกันได้ ขวามือของห้องครัวจะเป็นห้องน้ำ ส่วนซ้ายมือจะเป็นห้องนอน
มาดูห้องน้ำกันก่อน ห้องตัวอย่างไม่ได้ติดประตูไว้ สำหรับห้องจริงจะได้ประตูเป็นบานไม้อัดยางชนิดกันความชื้นทำสี ขนาด 0.7 x 2 ม. เพื่อให้ทนต่อความชื้นค่ะ ส่วนมือจับเป็นลูกบิดแบบก้านโยกค่ะ
พื้นห้องน้ำมีระดับเดียวกับห้องครัว แต่มีธรณีประตูสูงประมาณ 10 ซม. เพื่อกันน้ำจากภายในห้องน้ำไหลออกไปส่วนอยู่อาศัยอื่นๆค่ะ
ภายในห้องน้ำจะถูกแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจนด้วยขอบธรณี ผนังและพื้นโดยรอบเป็นกระเบื้องทั้งหมดค่ะ ที่แตกต่างกันคือกระเบื้องพื้นจะเป็นกระเบื้องเซรามิกเพื่อช่วยกันลื่นภายใน้ห้องน้ำ
พื้นที่ส่วนแห้งจะติดตั้งวัสดุอุปกรณ์หลักๆไว้ 2 ชิ้น คืออ่างล้างหน้า และ โถสุขภัณฑ์ ผนังด้านหลังอ่างล้างหน้าสามารถติดกระจกบานใหญ่ได้ ถ้าติดกระจกเพิ่มก็จะช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้นอีกหน่อย
อ่างล้างหน้าของ Cotto หรือเทียบเท่า มีขนาดพอสมควร มาพร้อมก๊อกน้ำของ Cotto เช่นกัน ด้านข้างมีพื้นที่สำหรับวางข้างอ่างล้างหน้าได้นิดหน่อย
ด้านล่างอ่างล้างมือมีตู้บานเปิดปิดสำหรับวางของได้นิดหน่อย อย่างผ้าเช็ดมือผืนเล็กๆหรือพวกอุปกรณ์อาบน้ำล้างหน้า แต่อย่าลืมเหลือพื้นที่ไว้เผื่อซ่อมท่อน้ำด้วยนะคะ
โถสุขภัณฑ์เป็นโถแบบ 2 ชิ้นยี่ห้อ Cotto หรือเทียบเท่า เป็น Set มากับที่แขวนกระดาษชำระและสายฉีดชำระยี่ห้อเดียวกัน มีพื้นที่โดยรอบสุขภัณฑ์นิดหน่อย ทำให้เวลานั่งไม่อึดอัดนัก
มาที่ส่วนเปียกในห้องน้ำกันบ้าง สำหรับห้องตัวอย่างอาจจะดูโล่งๆแต่ห้องจริงที่ได้จะมีฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มมาให้ เป็นฉากบานเลื่อน ภายในจะติดตั้งฝักบัวและเดินระบบสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้เรียบร้อยนะคะ
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดกว้างประมาณ 1 x 0.8 ม. ถูกกั้นด้วยธรณีสูงประมาณ 6 ซม. เพื่อไม่ใช้น้ำจากพื้นที่ส่วนเปียกไหลออกมาในพื้นที่ส่วนแห้งนะคะ
มาชมห้องนอนเป็นห้องสุดท้ายกันค่ะ ภายในห้องนอนมีขนาดพอสำหรับวางFurniture ต่างๆได้แก่ เตียงขนาด 5 ฟุต ซึ่งห้องนี้จะมีความลึกพอสมควรจึงไม่ต้องวางเตียงแบบชิดผนังฝั่งหนึ่ง ทำให้มีพื้นที่ข้างเตียงเหลือทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งทางโครงการได้ Built-in ตู้เสื้อผ้าไว้ที่ผนังฝั่งติดกับประตูค่ะ
พื้นที่ด้านข้างเตียงและปลายเตียงเหลือพื้นที่ให้สามารถเดินขึ้นเตียงได้รอบ สำหรับพื้นที่หัวเตียงสามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ฝั่งเดียวคือฝั่งที่ติดกับหน้าต่าง เพราะอีกฝั่งหนึ่งทางโครงการวางตู้เสื้อมาให้ ส่วนพื้นที่ปลายเตียงไม่มีพื้นที่เหลือให้วางชั้นวางทีวี ถ้าจะติดทีวีในห้องนี้ต้องติดแบบแขวนแทนนะคะ
ผนังด้านปลายเตียงในห้องจริงที่ได้จะเป็นผนังปูนฉาบเรียบทาสีขาว ไม่ได้มีตกแต่งแบบนี้ แต่ทางโครงการก็ติดตั้งปลั๊กไฟมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ
สำหรับหน้าต่างของห้องทางโครงการติดตั้งมาให้มีขนาดพอให้แสงเข้ามาภายในห้องได้ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นบานใหญ่บานเดียวแต่ก็เป็นช่องให้แสงธรรมชาติเข้ามายังห้องนอนได้เพียงพอ โดยหน้าต่างเป็นกระจกตัดแสงจะเป็นบานผสมระหว่างบาน Fix และบานเลื่อน โดยจะมีบานที่เลื่อนได้ 2 บานอยู่ด้านบน มีตัวล็อกที่ฝังอยู่ในวงกบประตูแบบเดียวกับประตูบานเลื่อนสำหรับออกไประเบียงค่ะ
ตู้เสื้อผ้าที่โครงการให้ถูก Built-in ไว้จะเป็นตู้บานเลื่อน 2 บาน ภายในยังมีราวแขวนผ้า และลิ้นชักเก็บของค่ะ
มือจับตู้เสื้อผ้า สามารถจับได้ถนัดมือดีค่ะ
หน้าตาของปลั๊กไฟที่ให้ ได้ของ Siemens ค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 28 November 2016
- แบบ Deluxe (s) 1 Bedroom 24.5-26 ตร.ม. ราคา 2.7-3.2 ล้านบาท หรือ 110,204 – 123,077 บาท/ตร.ม.
- แบบ Deluxe (M) 1 Bedroom 30-33 ตร.ม. ราคา 3.5-4.3 ล้านบาท หรือ 116,667 – 130,303 บาท/ตร.ม.
- แบบ Suite 1 Bedroom Plus 34-34.9 ตร.ม. ราคา 3.7-4.4 ล้านบาท หรือ 108,824 – 126,074 บาท/ตร.ม.
- แบบ Penthouse 2 Bedrooms 45.5-52.4 ตร.ม. ราคา 5.1-6.4 ล้านบาท หรือ 112,088 – 122,137 บาท/ตร.ม.
- Fully Furnished ยกเว้น โซฟาและโต๊ะทานข้าว
- ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- ห้อง 1 Bedroomและ 1 Bedroom Plus จอง 35,000 บาท ทำสัญญา 50,000 บาท
- ห้อง 2 Bedroom จอง 50,000 บาท ทำสัญญา 100,000 บาท
- ดาวน์ 12 % ผ่อนดาวน์ 20 งวด
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
ทำเล – Notting Hill Jatujak-Interchange อยู่ใกล้ปากซอยซอยพหลโยธิน 18 ซึ่งเป็นซอยทางลัดหลักที่ใช้กันระหว่างถนนใหญ่ทั้ง 3 เส้น คือพหลโยธิน, สุทธิสาร และ วิภาวดีรังสิต โดยจะออกไปที่ซอยอินทามระ 15 หรือวิภาวดีรังสิต 3, 5 หรือจะวนกลับไปที่หน้า BTS หมอชิต บริเวณซอยพหลโยธิน 18/1 ก็ยังได้ แต่ในขณะเดียวกัน ก็จะห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานควาย 500 ม., BTS หมอชิตและ MRT จตุจักร ราวๆ 600 เมตร และห่างMRT กำแพงเพชรราว 550 เมตร ซึ่งก็อยู่ในระยะพอเดินไหว แม้ติดโดยรอบโครงการจะไม่ได้มีร้านอาหารเด็ด แต่ถ้าถัดมาหน่อยที่ตลาดอตก. หรือที่ถนนประดิพัทธ์มีของอร่อยให้เลือกอีกเพียบ เป็นทำเลที่หากินง่ายแต่จะต้องเดินหรือขับรถไปหน่อย แถมยังไม่ต้องห่วงเรื่องของใช้เพราะเดินข้ามถนนไปตลาดนัดจตุจักรในระยะไม่ไกลก็สามารถหาทุกอย่างได้ตามต้องการแล้ว
ด้วยทำเลของ Notting Hill Jatujak-Interchange จริงๆแล้วก็คงจะไม่สามารถแข่งขันกับคอนโดติดรถไฟฟ้าแถวสะพานควายหรือจตุจักรได้ แต่ด้วยราคาที่เปิดตัวมาราวๆแสนนิดๆต่อตารางเมตร เมื่อเทียบกับราคาของคอนโดติด BTS สะพานควาย-จตุจักรที่ตอนนี้เฉลี่ยกันอยู่ที่ประมาณ 15x,xxx บาท/ตร.ม. กันแล้ว ทำเลที่เข้าซอยมาหน่อย ห่าง BTS MRT มานิดอย่างโครงการนี้ก็ถือเป็นส่วนต่างที่ทำให้หลายๆคนที่ขับรถยนต์เป็นหลัก ไม่ได้ใช้ BTS เยอะขนาดนั้น อาจจะสนใจเพราะอยู่ในทำเลที่ขับรถสะดวกไม่แพ้กัน
การเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัว – สะดวกทีเดียวเนื่องจากมีซอยทางลัดให้ใช้ (ซอยทางลัดถ้าเป็นชั่วโมงเร่งด่วนก็รถติดเหมือนกันนะ) ก็ยังมีทางด่วนให้ใช้ในระยะไม่ไกลเท่าไร นั่นก็คือด่านกำแพงเพชร ซึ่งระยะห่างจริงๆแค่ 1 กม.เศษๆ แต่จากโครงการจะไม่สามารถขับเข้าถนนกำแพงเพชรผ่านทางแยกกำแพงเพชรได้ ต้องใช้ทางลัดกันหน่อยไปออกซอยพหลโยธิน 18/1 แล้วค่อยเลี้ยวขวาเข้าถนนกำแพงเพชรอีกที
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – มีทางเลือกทั้ง BTS และ MRT ที่หลากหลาย แต่อยู่ห่างออกไปในระยะ 500-600 ม. ทั้งนั้น วันไหนรีบๆหรือขี้เกียจเดินก็มีพี่วินให้เรียกใช้บริการได้ แถวนี้จะมีพี่วินให้เรียกอยู่ตลอดทั้งทางออก BTS MRT และหน้าปากซอยโครงการ
วัสดุ – วัสดุภายในห้องได้มาตามราคานะคะ ด้วยราคาต่อตร.ม. ที่เฉลี่ยประมาณ 110,000 บาท /ตร.ม. ในย่านนี้ โครงการขายแบบ Fully Furnished พื้นห้องได้เป็นกระเบื้องยางลายไม้ ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.45 เมตร โคมไฟดาวไลท์ พื้นห้องน้ำและระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิคไซส์ 30 cm. อุปกรณ์ในห้องน้ำของ Cotto ส่วนครัวได้แต่เคาน์เตอร์ ตู้ลอย ซิงค์ล้างจาน และเตาไฟฟ้า Top ครัวได้หินแกรนิต ห้องนอนมีตู้เสื้อผ้าและเตียงแถมให้
การออกแบบ – การออกแบบโครงการ สร้างเต็มที่ดินโครงการ ชอบที่แยกพื้นที่ Facilities ส่วนกลางออกมาเป็นสัดส่วน เวลาที่ลูกบ้านจากชั้นอื่นมาใช้งานก็ไม่ต้องเดินผ่านห้องพักบนชั้น 2 สระว่ายน้ำจัดตำแหน่งได้ดีให้มีอาคารล้อมทั้ง 3 ด้านทำให้สามารถใช้งานได้จริงตั้งแต่ช่วงบ่ายๆเลยทีเดียว ห้องพักมีความสูง 2.45 ม. ตามเกณฑ์ปกติของคอนโด Low Rise ส่วนการออกแบบภายในห้องจะแตกต่างจากคอนโดในย่านนี้ ด้วยโครงการเน้นห้องแบบ 1 Bedroom Plus (เพิ่มห้องอเนกประสงค์ ทำเป็นห้องนอนได้) ที่ขนาด 35 ตร.ม. ทำให้ผู้ที่ต้องการห้องแบบ 2 Bedroomมีทางเลือกได้ในราคาที่ถูกกว่าคอนโดในย่านนี้ที่ห้อง 2 Bedroom จะมีขนาดเริ่มต้นที่ 50 ตร.ม.
สาธารณูปโภค – จัดมาครบตามระดับราคาของโครงการ ได้แก่ Co-working Space, Fitness สระว่ายน้ำ และสวนลอยฟ้า การมีส่วนกลางที่หลากหลายก็ช่วยเรื่องการอยู่อาศัยได้มาก เช่น สวนลอยฟ้า ที่ช่วยให้คนที่อาศัยอยู่ในห้องเล็กหน่อยได้มีที่พักผ่อนหย่อนใจ และทำให้ลูกบ้านทุกห้องไม่ว่าจะอยู่แค่ชั้น 2 ก็สามารถขึ้นมาชมวิวบนดาดฟ้าได้เช่นกัน อีกจุดหนึ่งก็คือเรื่องของที่จอดรถที่มีมาให้ 50% รวมจอดซ้อนคัน ตรงนี้ก็ต้องพิจารณากันหน่อยว่าพอหรือไม่
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 110,000 บาท/ตร.ม., 28 November 2016
- ทำเล 8/10 – เข้าซอยจากถนนพหลฯ 100 ม. ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า MRT และ BTS ในระยะ 500-600 ม. ใกล้แหล่งอุดมสมบูรณ์
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – อยู่ในซอยที่เป็นทางลัดหลักและใกล้ทางด่วนหลายสาย จึงเดินทางค่อนข้างสะดวกมาก น่าจะทำให้มีคนอยากใช้รถซึ่งที่จอดรถอาจจะน้อยไปนิด
- ไม่ใช้รถ 7.75/10 – มีทางเลือกทั้ง BTS MRT แม้จะเดินเหนื่อยหน่อยแต่ก็เรียกพี่วินไปได้
- วัสดุ 7.5/10 – จัดมาค่อนข้างครบ Fully Furnished แต่ขาดโซฟากับโต๊ะทานข้าว
- แบบ 8/10 – จัดวางตำแหน่งพื้นที่ส่วนกลางได้เป็นสัดส่วน ห้อง 1 Bedroom Plus จัดพื้นที่ได้ลงตัว
- สาธารณูปโภค 7.75/10 – สาธารณูปโภคครบ ขนาดตามราคา ขาดอย่างเดียวคือที่จอดรถน่าจะมีเยอะกว่า 50%
- UPPER CLASS
- 7.86 / 10.00
BOTTOM LINE
Notting Hill Jatujak-Interchange เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของคนที่ต้องการคอนโดมิเนียมในย่านหมอชิต-สะพานควาย-จตุจักร ต้องการคอนโดใกล้รถไฟฟ้าแต่ไม่จำเป็นต้องติดรถไฟฟ้าขนาดนั้น สามารถเดินได้ในระยะประมาณ 500-600 เมตร อยากได้ห้องที่มีห้องอเนกประสงค์สามารถทำเป็นห้องนอน 2 ห้องได้ แต่งเกือบครบแล้วไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่สนใจเรื่องวิว มีงบประมาณ 2.7 – 6.4 ล้านขึ้นไป สามารถผ่อนได้ที่ประมาณ 19,000 – 45,000 บาท/เดือน
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )