รีวิวฉบับที่ 1392 …สวัสดีค่ะวันนี้จะพาไปรีวิวโครงการหรูระดับ Super Luxury ในเมืองย่านสุขุมวิท กับโครงการ Noble Around Sukhumvit 33 จาก Noble Development อยู่ในซ.สุขุมวิท 33 ใกล้ BTS พร้อมพงษ์ ห้างหรู ดิ เอ็มโพเรียม , ดิ เอ็มควอเทียร์ และสวนเบญจสิริ ใช้แนวคิด Forest on the Hill เปิดมุมมองการอยู่อาศ้ยร่วมกับพื้นที่สีเขียวในรูปแบบสวนหลากหลายในโครงการ จะเป็นอย่างไร เราไปชมพร้อมๆกันเลยค่ะ

Fact @ 26 July 2017

  • โนเบิล อราวน์ สุขุมวิท 33 (Noble Around Sukhumvit 33)
  • บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
  • SUPER LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ซอยสุขุมวิท 33 เขตวัฒนา
  • คอนโด High Rise 25 ชั้น พร้อมชั้นใต้ดิน 3 ชั้น
  • จำนวน 268 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 16 ยูนิต
  • ที่จอดรถชั้น B3-P3 จอดได้รวมกว่า 53% (ไม่รวมการจอดแบบซ้อนคัน) พร้อมที่ชาร์ทรถระบบ ไฟฟ้า
  • ที่ดินประมาณ 1-2-95 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : ธันวาคม 2560
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ตุลาคม 2563
  • 1 Bedroom S : 27 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom M : 34 – 35 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom L : 43-51 ตารางเมตร
  • 2 Bedrooms : 54-65 ตารางเมตร
  • ฝ้าเพดานสูง 2.75 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท โปรโมชันปัจจุบัน ราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท* (update 3/8/2021)
  • ราคาเริ่มต้นต่อตารางเมตรประมาณ 200,000 บาท/ตร.ม.
  • Pre-Sale วันที่ 6 สิงหาคม 2560 นี้
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : n/a
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่  

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.735461,100.567546

เส้นทางเพื่อไปโครงการ จากซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) เมื่อเข้าซอยทองหล่อ 13 ตรงไปสุดทาง จะเจอสามแยกเลี้ยวขวาหน้า รพ.สมิติเวช แล้วตรงไปตามทางถึงสี่แยกเลี้ยวซ้าย ขับตรงไปตามทาง ถึงสามแยกเลี้ยวขวา และเลี้ยวซ้ายที่แยกเป็นทางบังคับ ขับตรงไปตามทาง สังเกตป้ายร้าน Rakuten ซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าท้ายซอยสุขุมวิท 33 จากนั้นขับตรงมาอีกประมาณ 100 m. จะเห็นโครงการอยู่ทางขวา

คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

เส้นทางเพื่อไปโครงการ จากถนนเพชรบุรี จากถนนเพชรบุรี เลี้ยวเข้าซอยเพชรบุรี 38/1 (แยกพร้อมพงษ์ ข้างตึกอิตัลไทย) ตรงเข้ามาเจอสามแยกให้เลี้ยวซ้าย ขับตรงตามทางและเลี้ยวขวาตามทางบังคับ ขับตรงไปตามทาง สังเกตป้ายร้าน Rakuten ซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าท้ายซอยสุขุมวิท 33 จากนั้นขับตรงมาอีกประมาณ 100 m. จะเห็นโครงการอยู่ทางขวา

คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

เส้นทางเพื่อไปโครงการ จากถนนสุขุมวิท (อโศก) จากแยกอโศกมนตรี ขับรถมุ่งหน้าสุขุมวิทขาออก สังเกตทางซ้ายที่ป้ายสุขุมวิท 33 เลี้ยวซ้ายเข้าซอย ขับตรงเข้ามาประมาณ 350 m. จะเห็นโครงการอยู่ทางซ้ายมือ

โครงการ Noble Around Sukhumvit 33 อยู่ในซอยสุขุมวิท 33 ห่างจาก BTS พร้อมพงษ์ 650 เมตร (โดยวัดจากบันไดลงหลักจากสถานี BTS ถึงหน้าโครงการ) หรือในระยะเดินประมาณ 10 นาที ถือว่าทำเลที่ตั้งของโครงการนั้นจัดอยู่ในย่านธุรกิจ ใจกลางเมืองย่านสุขุมวิทสำคัญอีกย่านหนึ่ง ด้วยบริบทโดยรอบ ทั้งจากสถานีรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์เอง ทำเลนี้เรียกว่าเป็น The EM District ซึ่งประกอบด้วยห้าง ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และในอนาคตจะมี ดิ เอ็มสเฟียร์ ตามมา จัดเป็นการรวมตัวกันของ 3 โครงการศูนย์การค้าระดับเวิร์ลคลาสใจกลางสุขุมวิท จากเดอะมอลล์ กรุ๊ป จึงทำให้เป็นย่านนี้มีความหลากหลายในด้านไลฟ์สไตล์ เป็นทั้งย่านการค้า แหล่งธุรกิจ มีโรงแรม โรงพยาบาลชั้นนำ ออฟฟิศสำนักงานต่างๆ และที่พักอาศัย อยู่รวมกัน นอกจากนี้ยังมีวิลล่า มาร์เก็ต และสวนเบญจสิริ ที่จัดเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ของคนในย่านนี้มาใช้ออกกำลังกายและพักผ่อนกันเป็นประจำ และอยู่ไม่ไกลจากโครงการ เรียกได้ว่ามีครบในทุกๆด้านในการจะส่งเสริมการอยู่อาศัยในเมือง  และด้วยความที่เป็นย่านกลางเมืองที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริเวณย่านพร้อมพงษ์นี้จะอุดมไปด้วยชาวต่างชาติมากมายโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น  จุดเด่นอีกอย่างของโครงการนี้จึงเป็นโครงการที่อยู่ในทำเลที่เป็นย่านของคนญี่ปุ่น ร้านอาหารญี่ปุ่นและร้านขายของญี่ปุ่นน่ารักๆจึงมีให้เลือกหลากหลาย ใครที่ทำงานหรือพักอาศัยในย่านนี้ มีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติโดยเฉพาะคนญี่ปุ่น หรือต้องติดต่อทำธุรกิจกับคนญี่ปุ่นน่าจะตอบโจทย์  ในเรื่องของทำเลหากพิจารณาจากการเดินทางกว้างๆแล้ว ถือว่าเป็นทำเลใจกลางเมือง เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆได้สะดวกและแน่นอนว่าใกล้รถไฟฟ้า มีรถโดยสารสาธารณะบริการ และทำเลแถวนี้มีข้อดีตรงที่มีทางลัดที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนใหญ่หลายเส้นทาง

จุดเด่นสำคัญของโครงการ คือเป็นคอนโดติดรถไฟฟ้า ตัวโครงการเองอยู่ห่างจาก BTS พร้อมพงษ์ 650 เมตร (โดยวัดจากบันไดลงหลักจากสถานี BTS ถึงหน้าโครงการ ) ซึ่ง BTS สถานีที่เชื่อมต่อ 2 สถานีคือ BTS อโศก เป็นสถานีที่ติดกับ Terminal 21 ที่รู้จักกันว่ามี Food Court ที่ถูกและดี และยังเป็นสถานีที่ Interchange กับ MRT สุขุมวิท ดังนั้นโครงการจึงได้อานิสงค์ความใกล้เคียง MRT มาด้วย อย่าง MRT สถานีที่ติดกับ MRT สุขุมวิท คือ MRT เพชรบุรี ซึ่งเป็นสถานี  Interchange กับ Airport Rail Link มักกะสัน ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้ และส่วนอีกสถานีที่ติดกันคือ MRT ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งสถานีนี้จะติดกับศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน Expo, งานประกวดต่างๆเช่น การประกวดนางงามจักรวาล และงานระดับชาติหลายๆงาน ซึ่งพอมีงานคนก็จะหลั่งไหลไปศูนย์ประชุมนี้มากมาย ส่วนอีกสถานีคือ BTS ทองหล่อ ซึ่งหากลงสถานีนี้จะสามารถไปยังซอยทองหล่อ ซึ่งเป็นย่านที่มี lifestyle mall อยู่หลายที่เช่น J Avenue และคึกคักไปด้วยชาวต่างชาติและคนไทย มีร้านอาหารนานาชาติหลากหลาย เป็นแหล่งท่องเที่ยวและศูนย์รวมธุรกิจบันเทิงแห่งหนึ่งของชาวต่างชาติในกรุงเทพ

การเดินทางด้วยรถยนต์ : เนื่องจากโครงการ Noble Around Sukhumvit 33 เป็นโครงการที่อยู่ในซอยสุขุมวิท 33 ซึ่งเป็นซอยที่มีทางลัดเลาะเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง หากเข้าทางเส้นสุขุมวิทฝั่งเลขคี่เลี้ยวเข้า ซอยสุขุมวิท33 ได้เลย โครงการอยู่ทางซ้ายมือ

  • จากซอยทองหล่อ สามารถเข้ามาที่โครงการได้โดยทะลุเข้าซอยสุขุมวิท 49/11 จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าซอยสุขุมวิท 39 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยพร้อมจิตร เลี้ยวซ้ายอีกทีก็จะถึงซอยสุขุมวิท 33
  • จากทางถนนเพชรบุรี ก็สามารถเข้าโครงการได้โดยเลี้ยวเข้าซอยเพชรบุรี 38/1 หรือแยกพร้อมพงษ์ จะทะลุเข้าซอยสุขุมวิท 39 ตรงมาเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวขวาเขาซอยพร้อมจิตร แล้วเลี้ยวซ้ายอีกทีก็จะถึงซอยสุขุมวิท 33
  • จากถนนอโศกมนตรี ก็สามารถเข้าทางซอยสุขุมวิท 21/3 เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสวัสดี(เป็นทาง one way) วนเข้าซอยพร้อมจิตร ก็จะสามารถทะลุเข้าซอยสุขุมวิท 33 ได้ ทางจะวนกันเป็น one way สี่เหลี่ยมค่ะ ในทางกลับกันถ้าเป็นขาออกก็จะวนน้อยกว่าขาเข้าโครงการค่ะ

และหากใครที่มาจากนอกเมืองขับมาเส้นขาเข้าสุขุมวิท สามารถเข้าโครงการได้โดยจะต้องหาทางยูเทิร์นนิดนึงค่ะ เพราะที่หน้าซอยสุขุมวิท  33 ไม่มีทางแยกยูเทิร์น โดยเส้นทางแรก จะมีแยกตรงหน้าซอยสุขุมวิท 49 ให้เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 49 เลี้ยวซ้ายเข้าซอยพร้อมมิตร จะทะลุเข้าซอยสุขุมวิท 39 แล้วให้เลี้ยวเข้าซอยพร้อมจิตร ก็จะมาทะลุที่ซอยสุขุมวิท 33 ได้เวลารถติดหนักๆทางลัดตรงนี้ช่วยประหยัดเวลาได้เหมือนกันนะคะ และเส้นทางที่ 2 คือขับตรงมาเรื่อยๆ แล้วมายูเทิร์นที่ทางเข้าซอยสวัสดีแล้วเข้าทางซอยสุขุมวิท 33  ได้เลย ซึ่งใครที่ต้องการเข้าเมือง ก็สามารถขับจากโครงการออกซอยพร้อมจิตร เลี้ยวซ้ายไปถนนสวัสดีจะสามารถไปทะลุเส้นสุขุมวิทที่แยกสวัสดีได้เช่นกัน

การเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ : BTS พร้อมพงษ์ ที่อยู่ห่างจากโครงการ 650 เมตร (โดยวัดจากบันไดลงหลักจากสถานี BTS ถึงหน้าโครงการ ), วินมอเตอร์ไซค์หน้าซอยสุขุมวิท 33, รถประจำทางปรับอากาศสาย ปอ.1, 8, 11, 13, 16 และรถประจำทางสาย 2, 23, 25, 38, 40, 48, 98

เส้นทางไปโครงการในวันนี้จะเริ่มจาก BTS พร้อมพงษ์ ย้อนขึ้นไปทางขาเข้าสุขุมวิทแล้วออกประตู 5 เพื่อเดินไปยังโครงการที่อยู่ในซอยสุขุมวิท 33  แล้วเดินต่อไปจนถึงสุดซอยสุขุมวิท 33 รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 650 m. โดยวัดจากบันไดลงหลักจากสถานี BTS ถึงหน้าโครงการ

เรามาเริ่มกันที่ BTS พร้อมพงษ์ซึ่งเป็นสถานี E5 บรรยากาศของสถานีพร้อมพงษ์ ออกจากรถไฟฟ้าแล้วเราจะพาเดินลงบันไดไปออกจากสถานีกัน ซึ่งตรงทางลงบันไดเราก็เห็นบรรยากาศทางด้านหน้าของห้างดิ เอ็มควอเทียร์ ทางขวามือ

เมื่อลงมาจากสถานีก็จะเจอทางเชื่อม Sky Walk สามารถเดินตรงเข้าสู้ห้าง ดิ เอ็มควอเทียร์  ได้เลย หรือใช้ทางเชื่อม Sky Walk เดินตรงมายังสะพานลอยทางฝั่งซอยสุขุวิทฝั่งเลขคี่ เพื่อมุ่งหน้าไปซอยสุขุมวิท 33 ได้เลยค่ะ

จากทางเชื่อม Sky Walk  เดินตรงมาจนสุดทางให้ไปตามเส้นทางหมายเลข 5 เพื่อมุ่งหน้าไปซอยสุขุมวิท 33

บรรยากาศมุมสูงจากบนสะพานลอย  Sky Walk มองเห็นสภาพการจราจรของถนนสุขุวิท ทางซ้ายมืจะเป็น สวนเบญจสิริ ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการมาประมาณ 600 m.

เดินลงมาแล้วเดินย้อนไปทางซอยสุขุมวิท ตลอดเส้นทางก็มีร้านค้า ร้านขายของกินตลอดเส้นทาง จะเดินผ่านซอยสุขุมวิท 33/1 ซึ่งซอยนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “Japanese Town”

มี SUBWAY และร้าน SUNRISE TACOS สองร้านอาหารเฟรนด์ไชส์จากต่างชาติ ถัดไปเป็น VILLA MARKET ที่เป็นร้านขายสินค้าอุปโภคบริโภค มีทั้งสินค้าไทยและสินค้า import จากต่างประเทศ

เดินต่อมาจะเห็นร้าน Gute Express ร้านขายเบเกอรี่และขนมปังโฮมเมด ถัดมาก็จะเป็นปากซอยสุขุมวิท 33 แล้วค่ะ ปากซอยจะมีร้านสะดวกซื้อ Family Mart อยู่

ซอยสุขุมวิท 33 ปากซอยจะมีร้านสะดวกซื้อ Family Mart อยู่ และมีพี่วินมอเตอร์ไซค์จอดให้บริการอยู่ แต่จากปากซอยเดินเข้าไปอีก ประมาณ 350 m. ก็ถึงโครงการแล้วค่ะไม่ไกลมาก

ฟุตบาทไม่กว้างมากนะคะ ทางเดินประมาณ 1 เมตร ในซอยมีรถวิ่งเข้าออกตลอดเวลา แต่ก็จะมีร้านค้าร้านอาหารมาวางของเปิดขายขวางทางเท้าเป็นช่วงๆ เดินตรงเข้ามาทางซ้ายมือจะเป็นโรงแรม LOTUS HOTEL

ในซอยจะเป็นอาคารพาณิชย์ที่เป็นร้านอาหาร ผับ และบาร์อยู่หลายร้าน มี SCB Exchange ไว้แลกเปลี่ยนเงิน และมี 7 Eleven อยุ่ไม่ไกลจากโครงการ

ตรงเข้ามาจะเริ่มเจอร้านอาหารญี่ปุ่นต่างๆ ตลอดเนวเส้นทาง มีทั้งร้านขนาดเล็กและร้านใหญ่ๆ ดูน่าแวะเข้าไปลองชิม

จากปากซอยสุขุมวิท 33 เข้ามาประมาณ 350 m. จะเจอกับสำนักงานขายโครงการ Noble Around สุขุมวิท 33 ซึ่งจะใช้สำนักงานขายที่เดียวกันกับโครงการ Noble BE33 ด้านข้างจะเห็นแนวรั้วโครงการ Noble BE33 ที่ล้อมปิดไว้ ทั้งสองโครงการนี้จะอยู่ติดกันเลยค่ะ

 

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

ดยรอบของโครงการ Noble Around Sukhumvit 33 ส่วนใหญ่จะเป็นอพาร์ทเม้นท์ โรงแรม และอาคารพาณิชย์ ซึ่งอาคารพาณิชย์ในซอยสุขุมวิท 33 จะเห็นว่าส่วนใหญ่จะเปิดเป็นร้านอาหาร ร้านนวด ร้านซักรีด ร้านสะดวกซื้อ หรือสถานบันเทิงต่างๆ  ที่ล้วนมาตอบโจทย์นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะคนญี่ปุ่น อาจจะไม่ถูกใจสำหรับคนที่ชอบความสงบ เพราะในตอนกลางวันละแวกนี้ก็จะเต็มไปด้วยพนักงานออฟฟิศ เพราะอยู่ใกล้ Office Building ส่วนกลางคืนจะมีสถานบันเทิงและร้านค่อนข้างเยอะ ค่อนข้างพลุกพล่านพอสมควร

  • ทิศเหนือ ติดกับอาคารร้านอาหาร Top Up 33 ความสูงประมาณ 3 ชั้น ทางทิศนี้ได้วิวเมืองทางฝั่งเพชรบุรี
  • ทิศตะวันออก ติดกับถนนซอยสุขุมวิท 33 เลยถัดไปเป็น อาคารที่อยู่อาศัย ความสูงประมาณ 10 ชั้น และ 19 ชั้น ทางทิศนี้ได้วิวเมืองทางฝั่งทองหล่อ
  • ทิศใต้ ติดกับ โครงการ Noble BE 33 Sukhumvit ความสูง 31 ชั้น เลยถัดไปเป็นอาคารที่อยู่อาศัย Beverly 33 ความสูงประมาณ 8 ช้ัน ทางทิศนี้ได้วิวเมืองทางฝั่งสุขุมวิท
  • ทิศตะวันตก ติดกับอาคารที่อยู่อาศัยส่วนบุคคล ความสูงประมาณ 2 ชั้น  ทางทิศนี้ได้วิวเมืองทางฝั่งอโศก

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ

  • ดิ เอ็มควอเทียร์  ~600 เมตร
  • ดิ เอ็มโพเรียม ~ 700 เมตร
  • วิลล่า มาร์เก็ต ~400 เมตร
  • สวนเบญจสิริ ~600 เมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ Noble Around Sukhumvit 33 เป็นคอนโด High Rise สูง 25 ชั้น 268 ยูนิต บนพื้นที่ 1-2-95.8 ไร่ มีแนวคิดในการออกแบบที่แตกต่างและโดดเด่นทั้งภายในและภายนอก รวมไปถึงองค์ประกอบอื่นๆ ในทุกรายละเอียดภายในโครงการ มี Concept หลักของโครงการ Material Collaboration Design ใช้การผสมผสานวัสดุและเฉดสี และการดีไซด์รูปแบบอาคารที่เน้นจังหวะและมิติที่เป็นเอกลักษ์  ตัวโครงการหันหน้าโครงการออกถนนซอยสุขุมวิท 33 ออกแบบ Modern Style ตัวอาคารใช้โทนสีทั้งในส่วน interior & exterior เน้นสีที่ตัดกัน โดยใช้สีน้าตาลเข้ม อ่อน ตัดกับผนังสีขาว การใช้ mixture ของ materials ต่างๆที่น่าสนใจ ใช้หินอ่อนสีแดง ตัดกับวัสดุที่เป็น metal สีทองเป็น style ที่มีเอกลักษณ์ จัดพื้นที่ชั้นส่วนกลางที่ชั้นล่างรและชั้นบนที่ชั้น 25 รวมไปถึงวิธีการกระจายพื้นที่สีเขียวไว้ในส่วนต่างๆของตัวอาคารตั้งแต่ชั้นล่าง และในชั้นพักอาศัยต่างๆ ด้วยแนวคิด Forest on the Hill ช่วยเปิดดมุมมองและการอยู่อาศ้ยร่วมกับสวนป่าในรูปแบบสวนหลากหลาย ในส่วนของโซนพักอาศัยจะเริ่มมีส่วนของห้องพักที่ชั้น 4 ไปจนถึงชั้น 24  ส่วนพื้นที่จอดรถจะอยู่ในโครงการที่ชั้นใต้ดินลงไป 3 ชั้น  และที่บนตัวอาคารที่ชั้น 1-3 จัดที่จอดไว้ 53% (ไม่รวมการจอดแบบซ้อนคัน) และบริเวณด้านข้างอาคารสำหรับจอดรถ visitor ไว้เป็นสัดส่วน รวมไปถึงเพิ่มช่องจอด EV Charging Stationให้ลูกค้าที่ใช้รถยนต์ระบบ EV Charging สามารถใช้งานได้สะดวก

ในส่วนห้องพักอาศัย มีทั้งหมด 4 แบบ ตั้ง 1 Bedroom –  2 Bedroom มีการแบ่งสัดส่วนของห้องพักให้ทุกชั้นมีทั้งห้อง 1 Bedroom –  2 Bedroom มีขนาดห้องพักอาศัยตั้งแต่ 27 – 65 ตร.ม. โดยมีการออกแบบในรายละเอียดต่างๆ เช่น หน้าต่างขนาดใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน (Full Height Window) เพื่อรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ กระจกหน้าต่าง Low-E Glass กันความร้อนแบบการแผ่รังสีความร้อนต่้า ช่วยลดความร้อนภายในห้องแต่ยังคง ความสว่างจากแสงธรรมชาติอยู่ และใช้ระบบ Home Automation ภายในห้องควบคุมการเปิด-ปิดไฟ และเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบ Touch Screen เป็นต้น

ภาพทัศนียภาพจำลองบริเวณทางเข้าโครงการ Noble Around Sukhumvit 33 มีการตกแต่งทางเข้าด้วยการจัด Landscape และการเก็บต้นไม้ใหญ่โดยรอบพื้นที่โครงการไว้ ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ทั้งภายในและภายนอกของทางเข้าโครงการดูสวยงามร่มรื่นมากยิ่งขึ้น

ภาพทัศนียภาพจำลองบริเวณ Lobby โถงต้อนรับขนาดใหญ่ที่ออกแบบด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์มีเส้นโค้งบนผนังที่ไหลต่อเนื่องจรดเพดาน เพื่อลดทอนความสี่เหลี่ยมของห้อง และเกิดเป็นมิติพิเศษ เมื่อตัดกับพื้น lobby ที่ถูกตีเป็นตารางด้วยสีของหินที่ high contrast

ภาพทัศนียภาพจำลองบริเวณสวนส่วนกลาง โดยภายในโครงการจะจัดสวนกระจายพื้นที่สีเขียวไว้ในส่วนต่างๆของตัวอาคารตั้งแต่ชั้นล่าง และในชั้นพักอาศัยต่างๆ ด้วยแนวคิด Forest on the Hill ช่วยเปิดดมุมมองและการอยู่อาศ้ยร่วมกับพื้นป่าในรูปแบบสวนหลากหลาย ได้แก่

  • ชั้น 1 Escape Garden พื้นที่รองรับการเข้าถึงจากภายนอก รวมถึงเป็นที่รองรับการพักผ่อนของผู้อยู่อาศัย
  • ชั้น 4 Forest Valley พื้นที่นั่งพักผ่อนและท้ากิจกรรมที่มีระดับและรูปแบบการเข้าถึงที่ต่างกันทำให้เกิดการใช้งานของท่ีนั่งแตกต่างกัน
  • ชั้น 14 Party Hill พื้นที่ขนาดใหญ่รองรับการท้ากิจกรรมเป็นกลุ่ม เช่น meeting party BBQ โดยลักษณะของพื้นที่ คือมีการเดินขึ้นไปใช้งาน เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัว จากบริเวณห้องพักและค่อยๆเห็นทัศนียภาพของเมืองมากข้ึน
  • ช้ัน 21, 22 Napping Valley พื้นท่ีเชื่อมต่อระหว่าง 2 ช้ัน มีลักษณะเหมือนการเดิน ขึ้น-ลงป่าเขา เป็นพื้นที่สำหรับการนอนพักผ่อนโดยมี ลักษณะการนอนที่แตกต่างกัน

สวนส่วนกลางที่ชั้น 14 Party Hill พื้นท่ีขนาดใหญ่รองรับการท้ากิจกรรมเป็นกลุ่ม เช่น meeting party BBQ โดยลักษณะของพื้นที่ คือ มีการเดิน ข้ึนไปใช้งาน เพื่อให้เกิดความเป็นสว่ นตัวจากบริเวณห้องพัก และค่อยๆเห็นทัศนียภาพของเมืองมากขึ้น

สวนส่วนกลางที่ช้ัน 21, 22 Napping Valley พื้นที่เชื่อมต่อระหว่าง 2 ชั้น(ชั้น21และชั้น22) มีลักษณะเหมือนการเดินขึ้น-ลงป่าเขาเป็นพื้นท่ีสำหรับการ นอนพักผ่อนโดยมีลักษณะการนอนที่แตกต่างกัน ทั้ง Day-Bed, Sunken Lounge และ Net

ภาพทัศนียภาพจำลองบริเวณ Party Lounge ที่ออกแบบให้เป็นมากกว่าห้องเอนกประสงค์ แต่ผสานระหว่าง Living – Dining – Library เป็นกึ่ง indoor- outdoor access ตรงเข้าสู่ Party Deck ชั้น 14 ได้ ภายในเน้นโทนสี ของกระจกที่กรุผนังเป็นสีเขียว สร้างมิติเพิ่มข้ึน หรูหรา แต่ยังให้ความรู้สึกอบอุ่นสบายๆ

ภาพทัศนียภาพจำลองบริเวณ Sky Pool และ Sky Fitness ที่ชั้น 25 เป็นสระว่ายน้ำ ความยาว 21 m. แบบ Infinity Edge Pool ที่มีส่วนพักผ่อนและออกกำลังกาย สระว่ายน้ำและพื้นที่สวนข้างสระว่ายน้ำสำหรับนั่งพักผ่อนหลังจากว่ายน้ำได้ ส่วนห้องออกกำลังกาย ออกแบบในสไตล์นีโอ-คลาสซี่ ด้วยเคิร์ฟ ซีลลิ่ง และทีมสีมารูน

สำนักงานขายโครงการ Noble Around Sukhumvit 33 จะอยู่ที่เดียวกันกับโครงการ Noble BE33

บรรยากาศภายในสำนักงานขาย มีเจ้าหน้าคอยให้ข้อมูลและแนะนำโครงการ ภายในจัดที่นั่งสำหรับลูกค้าและผู้มาเยี่ยมชมโครงการ ด้านในจะมีห้องตัวอย่างให้ดู 2 แบบ และมีโมเดลของโครงการตั้งให้ดูค่ะ

โครงการ Noble Around Sukhumvit 33 เป็นคอนโด High Rise สูง 25 ชั้น 268 ยูนิต บนพื้นที่ 1-2-95.8 ไร่ มีแนวคิดในการออกแบบที่แตกต่างและโดดเด่น มี Concept หลักของการออกแบบตัวอาคารของโครงการ Material Collaboration Design ใช้การผสมผสานวัสดุและเฉดสี และการดีไซด์รูปแบบอาคารที่เน้นจัวหวะและมิติที่เป็นเอกลักษ์  ตัวโครงการหันหน้าโครงการออกถนนซอยสุขุมวิท 33 โครงการมีการจัดพื้นที่ภายในโครงการทั้งส่วนของห้องพักอาศัย เริ่มจากชั้น 4ขึ้นไป และพื้นที่ส่วนกลาง facility ต่างๆเอาไว้อยู่ภายในโครงการทั้งหมด เน้นพื้นที่สีเขียว มีสวนขนาดใหญ่ที่ชั้นล่างบริเวณด้านหน้าของตัวอาคารและที่ด้านบนกระจายในชั้นต่างๆ

ตัวอาคารใช้การออกแบบ Modern Style ตัวอาคารใช้โทนสีเที่เน้นความเรียบเท่ น่าอยู่อาศัย แม้เวลาจะผ่านไปนานๆ ตัวอาคารก็จะดูร่วมสมัยอยู่เสมอ

จากชั้น 1 ของพื้นที่โครงการจะเห็นว่าตำแหน่งอาคารมีระยะร่นเข้าไปอยู่ด้านในของที่ดิน เว้นระยะจากแนวถนนซอยสุขุมวิท 33 เข้ามาเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวต่อตัวอาคารพักอาศัยที่อยู่ด้านใน จัดระบบการจัดเส้นทางเดินรถออกแบบเส้นทางเดินรถภายในโครงการให้วนรถโดยรอบได้  บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการสำหรับจอดรถ visitor เมื่อเข้ามาในพื้นที่โครงการจะมีจุด Drop off บริเวณด้านหน้าอาคารเพื่อให้จอดรับส่งได้ แต่ถ้าต้องการขึ้นไปจอดรถจะมีให้เลือกระหว่างขึ้นไปชั้นจอดรถด้านบนหรือชั้นจอดรถใต้ดิน โดยรอบๆตัวตึกจัดเป็นพื้นที่สีเขียวมาตามที่ดินที่เหลือ ส่วนใหญ่พื้นที่สีเขียวจะเน้นไปที่ด้านหน้าอาคารของโครงการและบนอาคารเป็นหลัก ด้านหน้าทำเป็นพื้นที่สวนขนาดใหญ่ Escape Garden พร้อมที่นั่งพักผ่อน

การจัดเส้นทางเดินรถออกแบบเส้นทางเดินรถภายในโครงการให้วนรถโดยรอบได้ มีช่องจอดสำหรับผู้มาติดต่อ และช่องจอด EV Charging Stationให้ลูกค้าที่ใช้รถยนต์ระบบ EV Charging สามารถใช้งานได้สะดวก ถ้าต้องการขึ้นไปจอดรถจะมีให้เลือกระหว่างจอดชั้นใต้ดินหรือขึ้นไปชั้นอาคารจอดรถ โดนจะมีทางลาดขึ้นไปที่จอดรถทางด้านข้างอาคาร จัดพื้นที่สวนไว้ที่ชั้น 1 และ 4 แบ่งเป็น

  • ชั้น 1 Escape Garden พื้นท่ีที่รองรับการเข้าถึงจากภายนอก รวมถึงเป็นที่รองรับการพักผ่อนของผู้อยู่อาศัย
  • ชั้น 4 Forest Valley พื้นนที่นั่งพักผ่อนและท้ากิจกรรมที่มีระดับและรูปแบบการเข้าถึงที่ต่างกันท้าให้เกิดการใช้งานของท่ีนั่งที่แตกต่างกัน

วนรถกลับมาอีกฝั่งของตัวอาคารก็จะมีทางลาดขึ้นไปชั้นอาคารจอดรถ ที่ชั้น 1-3 เลยถัดไปก็จะมีที่จอดรถในชั้น 1 อีกให้เลือกใช้

ภายในโครงการจะจัดสวนกระจายพื้นที่สีเขียวไว้ในส่วนต่างๆของตัวอาคารตั้งแต่ชั้นล่าง และในชั้นพักอาศัยต่างๆ ด้วยแนวคิด Forest on the Hill ช่วยเปิดมุมมองและการอยู่อาศ้ยร่วมกับพื้นป่าในรูปแบบสวนหลากหลาย

  • สวนที่ชั้น 14 Party Hill พื้นที่ขนาดใหญ่รองรับการท้ากิจกรรมเป็นกลุ่ม เช่น meeting party BBQ โดยลักษณะของพื้นที่ คือ มีการเดินขึ้นไปใช้งาน เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัว จากบริเวณห้องพักและค่อยๆเห็นทัศนียภาพของเมืองมากข้ึน
  • สวนที่ชั้น 21, 22 Napping Valley พื้นท่ีเชื่อมต่อระหว่าง 2 ช้ัน มีลักษณะเหมือนการเดิน ขึ้น-ลงป่าเขา เป็นพื้นที่สำหรับการนอนพักผ่อนโดยมี ลักษณะการนอนที่แตกต่างกัน

ที่ชั้น 25 เป็น Sky Pool และ Sky Fitness  โดยสระว่ายน้ำมีความยาว 21 m. แบบ Infinity Edge Pool ที่มีส่วนพักผ่อนและออกก้าลังกาย สระว่ายน้ำและพื้นที่สวนข้างสระว่ายน้ำสำหรับนั่งพักผ่อนหลังจากว่ายน้ำได้  การจัดส่วนกลางไว้บนชั้นบนสุดของอาคารลักษณะนี้ จะได้เรื่องของทัศนียภาพ วิวแบบมุมสูงโดยรอบ มองเห็นวิวเมืองและมีลมพัดผ่านปลอดโปร่ง อีกทั้งยังช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน เพราะอยู่สูงเกินระยะสายตาจากภายนอก

เริ่มกันที่ผังชั้น 1 จะเห็นว่าตำแหน่งอาคารมีระยะร่นเข้าไปอยู่ด้านในของที่ดิน จัดระบบทางเข้าของโครงการมีป้อม รปภ. อยู่ทางด้านหน้าเพื่อควบคุมการเข้า-ออกของโครงการ ด้านหน้าทำเป็นพื้นที่สวนขนาดใหญ่ Escape Garden พร้อมที่นั่งพักผ่อน รูปทรงอาคารสร้างตามรูปร่างที่ดินเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า การจัดเส้นทางเดินรถออกแบบเส้นทางเดินรถภายในโครงการให้วนรถโดยรอบได้ โดยจะจัดพื้นจอดรถมีจุด Drop off ที่บริเวณด้านหน้าสำหรับรับ-ส่ง แต่ถ้าต้องการขึ้นไปจอดรถจะมีให้เลือกระหว่างขึ้นไปชั้นจอดรถด้านบนหรือชั้นจอดรถใต้ดิน ที่ชั้น B3-P3 โดนจะมีทางลาดขึ้นไปที่จอดรถทางด้านข้างอาคาร สามารถจอดได้รวมกว่า 53% (ไม่รวมการจอดแบบซ้อนคัน) และบริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการสำหรับจอดรถ visitor และที่จอดรถที่ติดตั้งที่ชาร์ทรถระบบไฟฟ้า 2 คัน เพิ่มช่องทางให้ลูกค้าที่ใช้รถยนต์ระบบ EV Charging สามารถใช้งานได้สะดวก พื้นที่บริเวณชั้น 1 จะมี Lobby , Mail box  , ส่วน Juristic Office และห้องควบคุมงานระบบอาคารต่างๆของตัวอาคาร มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ลิฟท์บริการ 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 134 : 1 มีบันไดหนีไฟ 3 ตำแหน่ง รอบๆตัวตึกจัดเป็นพื้นที่สีเขียวมาให้บ้างนิดหน่อยตามที่ดินที่เหลือ ส่วนใหญ่พื้นที่สีเขียวจะเน้นไปที่ด้านหน้าอาคารของโครงการเป็นหลัก

โครงการมีการจัดพื้นที่ภายในโครงการทั้งส่วนของห้องพักอาศัย เริ่มจากชั้น 4 ขึ้นไป ในชั้นจะมีการจัดสวนส่วนกลาง Forest Valley ไว้ร่วมกับส่วนพักอาศัย แต่จะมีการแยกโซนการใช้งานออกจากกันอย่างชัดเจนไม่รบกวนกัน พื้นที่สวนจะหันออกไปทางด้านหน้าอาคารทางฝั่งถนนสุขุมวิท 33 ในชั้นนี้จะมีห้องพักทั้งหมด 11 ห้อง จำนวนยูนิตต่อชั้นไม่มากเน้นความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย โดยทั้งหมดแบ่งเป็น

  • ห้องแบบ 1 Bedroom S ขนาด 27 ตารางเมตร จำนวน 3 ห้อง
  • ห้องแบบ 1 Bedroom L ขนาด 43-51 ตารางเมตร จำนวน 5 ห้อง
  • ห้องแบบ 2 Bedroom  ขนาด 54-65 ตารางเมตร จำนวน 3 ห้อง

จัดวางห้องพักแบบให้หันออกโดยรอบตัวอาคารทั้งหมด ตามแนวตึกรูปตัวทรงสี่เหลี่ยม มีส่วน Self-Laundry Room อยู่ที่ปลายอาคารทางฝั่งทิศใต้ และวางส่วน Service และงานระบบไว้ตรงกลางของตัวอาคารใกล้โถงลิฟท์ มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว และลิฟท์บริการ 1 ตัว มีบันไดหนีไฟในอาคาร 3 ตำแหน่ง บริเวณตรงกลางของตัวอาคาร ที่สามารถเชื่อมต่อลงไปยังชั้นที่ 1 ของตัวอาคารได้

ขึ้นมาที่ชั้น 5 ในชั้นจะจัดเป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมด มีห้องพักทั้งหมด 12 ห้อง มีจำนวนยูนิตต่อชั้นไม่มากเพื่มจากในชั้น 4 ขึ้นมา 1  ห้อง โดยทั้งหมดแบ่งเป็น

  • ห้องแบบ 1 Bedroom S ขนาด 27 ตารางเมตร จำนวน 3 ห้อง
  • ห้องแบบ 1 Bedroom M ขนาด 34-35 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • ห้องแบบ 1 Bedroom L ขนาด 43-51 ตารางเมตร จำนวน 5 ห้อง
  • ห้องแบบ 2 Bedroom  ขนาด 54-65 ตารางเมตร จำนวน 3 ห้อง

จัดวางห้องพักแบบให้หันออกโดยรอบตัวอาคารทั้งหมดเช่นกัน มีห้อง Storage อยู่ที่ปลายอาคารทางฝั่งทิศใต้ และวางส่วน Service และงานระบบไว้ตรงกลางของตัวอาคารใกล้โถงลิฟท์ มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว และลิฟท์บริการ 1 ตัว มีบันไดหนีไฟในอาคาร 3 ตำแหน่ง บริเวณตรงกลางของตัวอาคาร ที่สามารถเชื่อมต่อลงไปยังชั้นที่ 1 ของตัวอาคารได้

มาที่ชั้น 6-12 จัดแบบ Typical plan ในชั้นจะจัดเป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมดเช่นกัน จัดวางห้องพักแบบให้หันออกโดยรอบตัวอาคารลักษณะรูปตัว L มีห้องพักทั้งหมด 16 ห้อง โดยทั้งหมดแบ่งเป็น

  • ห้องแบบ 1 Bedroom S ขนาด 27 ตารางเมตร จำนวน 4 ห้อง
  • ห้องแบบ 1 Bedroom M ขนาด 34-35 ตารางเมตร จำนวน 3 ห้อง
  • ห้องแบบ 1 Bedroom L ขนาด 43-51 ตารางเมตร จำนวน 6 ห้อง
  • ห้องแบบ 2 Bedroom  ขนาด 54-65 ตารางเมตร จำนวน 3 ห้อง

วางส่วน Service และงานระบบไว้ตรงกลางของตัวอาคารใกล้โถงลิฟท์ มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว และลิฟท์บริการ 1 ตัว มีบันไดหนีไฟในอาคาร 3 ตำแหน่ง บริเวณตรงกลางของตัวอาคาร ที่สามารถเชื่อมต่อลงไปยังชั้นที่ 1 ของตัวอาคารได้

ชึ้นมาที่ชั้น 14 ในชั้นจะมีการจัดสวนส่วนกลาง Party Hill และส่วน Party Lounge เป็นพื้นที่สำหรับจัด Party ในอาคาร ชั้น 14 (Living-Dining-Library) ไว้ร่วมกันส่วนพักอาศัย แต่จะมีการแยกโซนการใช้งานออกจากกันอย่างชัดเจนไม่รบกวนกัน พื้นที่สวนจะหันออกไปทางด้านหน้าอาคารทางฝั่งถนนสุขุมวิท 33 ทางฝั่งทิศตะวันออกและทิศเหนือ ในชั้นนี้จะมีห้องพักทั้งหมด 9 ห้อง ในชั้นนี้จำนวนยูนิตต่อชั้นไม่มากได้ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยและอยู่ใกล้ส่วนกลางไปใช้งานได้ง่าย โดยห้องทั้งหมดแบ่งเป็น

  • ห้องแบบ 1 Bedroom S ขนาด 27 ตารางเมตร จำนวน 4 ห้อง
  • ห้องแบบ 1 Bedroom M ขนาด 34-35 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้อง
  • ห้องแบบ 1 Bedroom L ขนาด 43-51 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้อง
  • ห้องแบบ 2 Bedroom  ขนาด 54-65 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง

ตำแหน่งส่วน Service และงานระบบไว้ตรงกลางของตัวอาคารใกล้โถงลิฟท์ มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว และลิฟท์บริการ 1 ตัว มีบันไดหนีไฟในอาคาร 3 ตำแหน่ง บริเวณตรงกลางของตัวอาคาร ที่สามารถเชื่อมต่อลงไปยังชั้นที่ 1 ของตัวอาคารได้

ที่ชั้น 15-20 จัดแบบ Typical plan ในชั้นจะจัดเป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมดเช่นกัน จัดวางห้องพักแบบให้หันออกโดยรอบตัวอาคารลักษณะรูปตัว L มีห้องพักทั้งหมด 13 ห้อง โดยทั้งหมดแบ่งเป็น

  • ห้องแบบ 1 Bedroom S ขนาด 27 ตารางเมตร จำนวน 4 ห้อง
  • ห้องแบบ 1 Bedroom M ขนาด 34-35 ตารางเมตร จำนวน 4 ห้อง
  • ห้องแบบ 1 Bedroom L ขนาด 43-51 ตารางเมตร จำนวน 3 ห้อง
  • ห้องแบบ 2 Bedroom  ขนาด 54-65 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้อง

วางส่วน Service และงานระบบไว้ตรงกลางของตัวอาคารใกล้โถงลิฟท์ มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว และลิฟท์บริการ 1 ตัว มีบันไดหนีไฟในอาคาร 3 ตำแหน่ง บริเวณตรงกลางของตัวอาคาร ที่สามารถเชื่อมต่อลงไปยังชั้นที่ 1 ของตัวอาคารได้ เหมือนกับในชั้น 16

ที่ชั้น 21 ในชั้นจะจัดเป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมดเช่นกัน จัดวางห้องพักแบบให้หันออกโดยรอบตัวอาคารลักษณะรูปตัว I มีห้องพักทั้งหมด 9 ห้อง โดยทั้งหมดแบ่งเป็น

  • ห้องแบบ 1 Bedroom S ขนาด 27 ตารางเมตร จำนวน 4 ห้อง
  • ห้องแบบ 1 Bedroom M ขนาด 34-35 ตารางเมตร จำนวน 4 ห้อง
  • ห้องแบบ 1 Bedroom L ขนาด 43-51 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง
  • ห้องแบบ 2 Bedroom  ขนาด 54-65 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง

ในชั้นนี้จะมีบันไดทางด้านหน้าอาคาทางฝั่งทิศตะวันออก เพื่อขึ้นไปใช้งานสวนส่วนกลาง Napping Valley บริเวณระหว่างชั้น 21 และ 22 ได้ ส่วน Service และงานระบบไว้ตรงกลางของตัวอาคารใกล้โถงลิฟท์ มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว และลิฟท์บริการ 1 ตัว มีบันไดหนีไฟในอาคาร 3 ตำแหน่ง บริเวณตรงกลางของตัวอาคาร ที่สามารถเชื่อมต่อลงไปยังชั้นที่ 1 ของตัวอาคารได้ เหมือนกับในชั้น 20

ชึ้นมาที่ชั้น 22 ในชั้นจะมีการจัดสวนส่วนกลาง Napping Valley บริเวณระหว่างชั้น 21 และ 22 ไว้ร่วมกันส่วนพักอาศัย แต่จะมีการแยกโซนการใช้งานออกจากกันไม่รบกวนกัน พื้นที่สวนจะหันออกไปทางด้านหน้าอาคารทางฝั่งถนนสุขุมวิท 33 ทางฝั่งทิศตะวันออก ในชั้นนี้จะมีห้องพักทั้งหมด 7 ห้อง ในชั้นนี้จำนวนยูนิตต่อชั้นไม่มากได้ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยและอยู่ใกล้ส่วนกลางไปใช้งานได้ง่าย โดยห้องทั้งหมดแบ่งเป็น

  • ห้องแบบ 1 Bedroom M ขนาด 34-35 ตารางเมตร จำนวน 4 ห้อง
  • ห้องแบบ 2 Bedroom  ขนาด 54-65 ตารางเมตร จำนวน 3 ห้อง

ตำแหน่งส่วน Service และงานระบบไว้ตรงกลางของตัวอาคารใกล้โถงลิฟท์ มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว และลิฟท์บริการ 1 ตัว มีบันไดหนีไฟในอาคาร 3 ตำแหน่ง บริเวณตรงกลางของตัวอาคาร ที่สามารถเชื่อมต่อลงไปยังชั้นที่ 1 ของตัวอาคารได้  เหมือนกับในชั้น 21

ที่ชั้น 23-24 จัดแบบ Typical plan ในชั้นจะจัดเป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมดเช่นกัน จัดวางห้องพักแบบให้หันออกโดยรอบตัวอาคารลักษณะรูปตัว I มีห้องพักทั้งหมด 7 ห้อง โดยทั้งหมดแบ่งเป็น

  • ห้องแบบ 1 Bedroom M ขนาด 34-35 ตารางเมตร จำนวน 4 ห้อง
  • ห้องแบบ 2 Bedroom  ขนาด 54-65 ตารางเมตร จำนวน 3 ห้อง

ส่วน Service และงานระบบไว้ตรงกลางของตัวอาคารใกล้โถงลิฟท์ มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว และลิฟท์บริการ 1 ตัว มีบันไดหนีไฟในอาคาร 3 ตำแหน่ง บริเวณตรงกลางของตัวอาคาร ที่สามารถเชื่อมต่อลงไปยังชั้นที่ 1 ของตัวอาคาร

ชึ้นมาที่ชั้นบนสุดของตัวอาคารที่ชั้น 25 ของโครงการจัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักของโครงการไว้ ประกอบด้วย Sky Pool เป็นสระแบบ Infinity Edge Pool ระบบเกลือ ขนาดยาว 21 เมตร และ Sky Fitness มีห้องน้ำ-อาบน้ำ แยกชาย-หญิง ภายในมีห้อง Steam Room แยกห้องชายหญิง ไว้ให้ใช้งาน และมีพื้นที่สีเขียวเป็นสวนพักผ่อนบริเวณสระว่ายน้ำ การจัดส่วนกลางไว้บนชั้นบนสุดของอาคารลักษณะนี้ จะได้เรื่องของทัศนียภาพ วิวแบบมุมสูงโดยรอบ มองเห็นวิวเมืองและมีลมพัดผ่านปลอดโปร่ง อีกทั้งยังช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน เพราะอยู่สูงเกินระยะสายตาจากภายนอก

ตอนนี้โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วนะคะ เรามีภาพบรรยากาศส่วนกลางของโครงการมาให้ชมกันค่ะ (Update 3/8/2021)

Image 1/22

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ล็อบบี้ขนาดใหญ่
  • สวน Escape Garden บริเวณชั้นที่ G
  • สวน Forest Valley บริเวณชั้นที่ 4
  • สวน Party Hill บริเวณชั้นที่ 14
  • สวน Napping Valley บริเวณระหว่างชั้น 21 และ 22
  • Sky Pool (Infinity Edge Pool ระบบเกลือ ขนาดยาว 21 เมตร)
  • Sky Fitness
  • Party Lounge เป็นพื้นที่สำหรับจัด Party ในอาคาร ชั้น 14 (Living-Dining-Library)
  • ห้องจดหมาย (Mail room)
  • Self-Laundry Room
  • Steam Room แยกห้องชายหญิง
  • EV Charging Station ที่ชาร์จรถระบบไฟฟ้า
  • ลิฟท์โดยสารส่วนตัว 2 ตัว
  • ลิฟท์บริการ 1 ตัว
  • อัตรส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 134 :1
  • ที่จอดรถ ตั้งแต่ชั้น B3-P3 จอดได้รวมกว่า 53% (ไม่รวมการจอดแบบซ้อนคัน)
  • กล้องวงจรปิด CCTV 24 ชั่วโมง
  • ระบบ Access Control ด้วย Key Card เข้า-ออกอาคาร และพื้นที่จอดรถ
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง


Product Walkthrough

ห้องแบบ 1 Bedroom S ขนาดพื้นที่ 27 ตร.ม. จัดมาให้แบบ Fully Fitted ได้เฟอร์นิเจอร์ built in ติดตั้งมาให้บางส่วนพร้อมใช้งาน รูปร่างของห้องเป็นทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส พื้นที่ให้มาสามารถจัดห้องได้แบบพอดีกับการใช้งานไม่หนาแน่นจนเกินไป จัดพื้นที่การภายในห้องหลักๆ  5 ส่วน ได้แก่ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องนอน ห้องน้ำและระเบียงซักล้าง เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ส่วนครัวก่อน มีตู้ด้านข้างสำหรับวางของ จากส่วนครัวจะเชื่อมต่อไปยังส่วนรับประทานอาหาร ห้องนั่งเล่น รับแขก พื้นที่ในห้องจะปูด้วยพื้นลามิเนตทั้งหมด ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.75 m. ห้องจึงดูโปร่งโล่ง เริ่มจากส่วนครัว จัดเป็นครัวปิด มีประตูบานเลื่อนกั้นการใช้งาน ช่วยเรื่องป้องกันกลิ่นควันจากการประกอบอาหารได้ดี ภายในครัวมีชุดครัวแบบ built in ให้แต่ ติดตั้ง Hob & Hood ให้ ตรงข้ามชุดครัวจัดพื้นที่ไว้ตั้งชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับทานอาหารหรือใช้งานทั่วไปได้ ถัดเข้ามาด้านใน จัดพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอน ปลายเตียงสามารถวางชุดโซฟาขนาดกลาง 2 ที่นั่งได้ และเชื่อมต่อกับส่วนระเบียง ทำให้รับแสง เปิดรับลมธรรมชาติ ระบายอากาศได้ดี ระเบียงจัดพื้นที่มาให้ไม่ใหญ่มาก พอใช้งานได้พอดีๆ ใช้เป็นส่วนซักล้างเล็ก ตากผ้าได้ และแขวน Condensing air มีแผงบังตาให้เรียบร้อย แต่ยังสามารถระบายอากาศได้ และช่วยเรื่องความสวยงามรูปด้านของตัวอาคาร

เลยเข้าไปในพื้นที่ห้องนอน ภายในห้องนอนจัดพื้นที่มาให้เหมาะกับการใช้งาน สามารถตั้งเตียงใหญ่ ขนาดแบบ 5 ฟุต ได้แล้วยังมีพื้นที่เหลือโดยรอบเตียงไม่อึดอัด ด้านในสุดของตัวห้องทางจัดเป็นพื้นที่ Walk in Closet ที่เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานที่ต่อเนื่องกัน ภายในห้องน้ำมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานโซนเปียกและโซนแห้ง อุปกรณ์ภายในห้องน้ำหลักๆครบตามที่ต้องใช้งาน เน้นการระบายอากาศ ด้วยระบบดูดอากาศของอาคารเป็นหลัก

เริ่มจากประตูทางเข้าห้อง ในห้องจริงจะได้บานประตูไม้ หน้าบานปิดปิดผิวด้วยลายไม้(Laminate)บานสูง 2.4 m. หรือเทียบเท่า พร้อมระบบควบคุมการล็อคอิเล็คทรอนิกส์ ใช้การ์ด(Electronic Door Lock) ของ Yale หรือเทียบเท่า

ในส่วนของประตูด้านใน จะมี Door Stopper ติดอยู่ที่พื้นหลังประตู เพื่อป้องกันบานประตูเปิดมากระทบกำแพง

เมื่อเปิดประตูมาจะเป็นพื้นที่ครัวก่อน ออกแบบพื้นที่ใช้งานให้มีความต่อเนื่องกัน จากครัวไปถึงส่วนรับพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหาร พื้นในห้องชุด เป็นพื้นไม้สำเร็จรูปลามิเนตหนา 10 mm. ผิวสัมผัสเลียนแบบไม้จริง (Premium Grade Laminate) นำเข้าจากเยอรมัน หรือ เทียบเท่า

ƒ

ครัวเป็นแบบครัวปิดมีบานเลื่อนแบ่งระหว่างห้องครัวกับส่วนนั้งเล่นเป็นสัดส่วน ช่วยป้องกันเรื่องกลิ่นควันจากการประกอบอาหาร ฝ้าเป็นฝ้าฉาบสีเรียบ  พร้อมไฟแบบดาวน์ไลท์ มีระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.75 m. ห้องจึงดูโปร่งไม่อึดอัด ทางโครงการจะมีชุดครัว built in ติดตั้งให้พร้อมใช้งานตามในแบบห้องตัวอย่าง

ทางด้านข้างของชุดครัว  built in จะเว้นพื้นที่ไว้ให้สำหรับตั้งตู้เย็น สามารถตั้งตู้เย็นขนาดกลางได้ พื้นที่มีขนาด 70 x 60 cm. ด้านบนทำเป็นชั้นวางของ

มาที่ชุดครัว built in ด้านบนทำเป็นช่องสำหรับวางของ พร้อมบานเปิดออก 2 ด้าน ส่วนด้านข้างแบ่งช่องสำหรับเก็บของไว้ 2-3 ระดับ เช่นกัน สำหรับวัสดุของชุดครัวหน้าบานจะปิดผิวลามิเนต ภายในปิดผิวด้วยเมลามิน Full-Height

ถัดมาด้านข้างก็ทำเป็นชุดครัว built in ด้านบน เช่นกัน แบ่งช่องสำหรับเก็บของไว้ 2-3 ระดับ และมีพื้นที่ช่องเปิดสำหรับวางไมโครเวฟได้ ซึ่งอยู่ในระยะที่ใช้งานสะดวก ยกมือถึงพอดีไม่สูงจนเกินไป เพื่อความสะดวกและปลอดภัยในการใช้งานจริง

มาที่เคาน์เตอร์ ส่วน Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์ หรือเทียบเท่า มีคุณสมบัติเหมาะสำหรับประกอบอาหาร สามารถเช็ดและทำความสะอาดได้ง่าย ผนังบริเวณครัวจะติดเป็นผนังกั้นเปื้อนกระจก หรือเทียบเท่า เหมาะกับการใช้งาน และให้ชุดอ่างล้างจานสี่เหลี่ยมขนาดกลาง 1 ช่องพร้อมหัวก็อก ของ Franke หรือเทียบเท่าขนาดประมาณ 40 x 40 cm. ด้านข้างมีพื้นที่สำหรับจัดเตรียมอาหาร และให้เตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควัน ของ Franke หรือเทียบเท่า เช่นกัน

ชุดครัว built in ด้านล่างทำเป็นบานเปิด ด้านในเป็นชั้นวางของแบ่ง 2  ระดับ สำหรับเก็บอุปกรณ์แยกตามขนาด ด้านข้างเว้นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้า สามารถวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าขนาด 7 kg. ได้ค่ะ

ส่วนครัวมีความกว้างของพื้นที่สำหรับยืนประกอบอาหารในครัว วัดจากชุดครัวถึงเคาน์เตอร์ทางซ้ายมือ ถึงชุดโต๊ะเก้าอี้ทางขวามือ กว้างประมาณ 0.9 m.  แต่ชุดโต๊ะเก้าอี้ทางโครงไม่มีให้นะคะ ดังนั้นถ้าวัดจากระยะชุดครัวถึงผนังอีกฝั่ง จะมีพื้นที่ประมาณ 2.1 m. ซึ่งเราสามารถเรื่องเฟอร์นิเจอร์เองได้ตามความเหมาะสมในการใช้งานค่ะ

ในส่วนของฝ้าเพดานภายในห้องทั้งหมดจะฉาบเรียบทาสี และติดไฟแบบดาวน์ไลท์ให้

ที่ผนังมีติดตั้งชุดปลั๊กไฟแบบ Touch Screen โดยเมื่อกดเปิดแล้วจะมีไฟสีเขียวขึ้นมาเพื่อแสดงการใช้งาน หากปิดอยู่จะขึ้นไฟสีแดง เป็นระบบ Home Automation โดยสามารถควบคุม ระบบเปิด ปิดไฟ และ air condition ภายในห้องได้

ครัวเป็นแบบครัวปิดมีบานเลื่อนแบ่งระหว่างห้องครัวกับส่วนนั่งเล่นเป็นสัดส่วน โดยทางโครงการจะติดตั้งฉากกั้นบานเลื่อนอลูมิเนียมสีดำกระจกใสให้ แต่ในห้องจริงจะมีแนวรางที่พื้นด้านล่างด้วยนะคะ เพื่อความสะดวกในการใช้งานตัวบานจะไม่แกว่งเวลาเลื่อนเปิด-ปิด

ในส่วนของพื้นที่ห้องนั่งเล่นนั้น ขนาดพื้นที่ที่ให้มาสามารถวางชุดโซฟาหรือชุดเก้าอี้เล็กๆได้ ยังพอเหลือพื้นที่ด้านข้าง เชื่อมต่อกับส่วนระเบียง ทำให้รับแสง เปิดรับลมธรรมชาติ ระบายอากาศได้ดี ระยะห่างจากปลายเตียงถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี ประมาณ 1.8 m.

ที่ผนังภายในห้องนั่งเล่นทางโครงการติดตั้งชุดตู้ไว้ให้สำหรับวางของต่างๆ เราอาจปรับเปลี่ยนติดตั้งทีวีเป็นแบบแขวนช่วยประหยัดพื้นที่การใช้งาน จะได้มีพื้นที่วางของได้มากขึ้น ซึ่งชุดตู้นี้ทางโครงการไม่มีให้ เราสามารถดูเป็นไอเดียในการแต่งห้อง แล้วเลือกเฟอร์นิเจอร์ ที่เหมาะสมกับการใช้งานของเราได้ค่ะ

พื้นที่ถัดมาจะเป็นห้องนอน เชื่อมต่อกับส่วนพื้นที่นั่งเล่น โดยภาพรวมพื้นที่ที่จัดให้มาถือว่าใช้งานแบบพอดีๆ การวางตำแหน่งห้อนแบบนี้ มีข้อดีตรงห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่าง ทำให้สามารถเปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี มีระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.75 m. ห้องจึงดูโปร่งไม่อึดอัด พื้นที่ภายในสามารถตั้งเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้ เมื่อวางเตียงในห้องแล้วยังพอมีพื้นที่เหลือด้านข้างและปลายเตียงให้เดินได้สะดวก

ระยะระหว่างด้านข้างเตียงถึงผนังฝั่งหน้าต่าง กว้างประมาณ 50 cm. ยังสามารถยืนเปิดหน้าต่างได้สะดวก

ส่วนระยะระหว่างข้างเตียงถึงทางเข้าส่วน Walk in closet กว้างประมาณ 70 cm.

ส่วนประตูออกไปสู่ระเบียง เป็นบานกระจกกรอบอลูมิเนียมกระจกบานใหญ่ เป็นกระจก Low-E Glass ให้เฉพาะห้องทิศตะวันตก สามารถกันความร้อนแบบการแผ่รังสีความร้อน ช่วยลดความร้อนภายในห้องแต่ยังคง ความสว่างจากแสงธรรมชาติ ตัวบานมีความสูงถึงระดับฝ้าเพดาน ช่วยเพิ่มมุมมองแบบมุมกว้าง ตัวบานเลื่อนสามารถเปิดออกได้ซ้าย-ขวา 2 ทิศทาง เพื่อความสะดวกในการใช้งาน

ประตูเป็นบานอลูมิเนียมกระจกใส พร้อมตัวล็อค ยกขอบสูงประมาณ 10 cm. โดยการยกขอบสูงขึ้นมาแบบนี้จะช่วยป้องกันน้ำฝนหรือน้ำซึมเข้ามาด้านในตัวห้อง

พื้นที่ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้องโมเสค หรือเทียบเท่า พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 0.55 x 3 m. ระเบียงจัดพื้นที่มาให้สามารถใช้งานได้ไม่ใหญ่มาก ใช้เป็นส่วนซักล้าง ตากผ้าได้เล็กได้

ด้านข้างของพื้นที่ระเบียง จะติดตั้ง แขวน Condensing air โดยจะหันลมร้อนออกทางด้านข้าง การทำแบบแขวนแบบนี้ช่วงประหยัดพื้นที่ระเบียง และมีแผงบังสายตาให้ดูเรียบร้อย

มองกลับเข้ามาด้านในของตัวห้อง จะเห็นการแบ่งพื้นที่การใช้งานในส่วนของ Walk in Closet ที่เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานที่ต่อเนื่องกัน สำหรับระบบปรับอากาศภายในห้องจะติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบชนิดซ่อนใต้ฝ้าให้ทั้งหมด

ส่วน Walk in closet จะอยู่ด้านหน้าทางเข้าห้องน้ำ ทำเป็นชุดตู้บานเลื่อน Built-in หน้าบานกระจกใส ตัวตู้จะสูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าเพดานด้านบน ออกแบบเป็นชั้นหลายระดับพร้อมราวสำหรับแขวนเสื้อผ้า และไฟภายในที่ ติดตั้งให้เพื่อหารใช้งานสะดวกสบายมากขึ้นซึ่งทางโครงการมีชุดตู้นี้ให้

ภายในตัวตู้มีชั้นวางของที่ด้านบนและล่างเป็นลิ้นชัก 2 ระดับ สำหรับเก็บของต่างๆ ได้

พื้นที่ในส่วนนี้จะมีความกว้างประมาณ 1 m. สามารถยืนแต่งตัวได้สะดวกไม่อึดอัด ปูพื้นด้วยลามิเนตหนา 10 mm. ต่อเนื่องมาจากส่วนห้องนอน

ในส่วนของฝ้าเพดานภายในส่วน Walk in Closet ก็จะฉาบเรียบทาสี และติดไฟแบบดาวน์ไลท์

มาที่ห้องน้ำ ภายในห้องน้ำจัดพื้นที่ไว้ลงตัวในการใช้งาน มีการแบ่งการใช้งานเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้เป็นสัดส่วนวัสดุปูพื้นและผนังกรุด้วยกระเบื้องเซรามิคลายหิน ส่วนฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มบอร์ดกันชื้นฉาบเรียบทาสี ให้ชุดอ่างล้างหน้าและกระจก พร้อม Shower Box กระจก และ ชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมใช้งาน

ทางเข้าห้องน้ำลดระดับลงมาโดยจะปูกระเบื้อง ทำขอบตัวจบระหว่างพื้นห้องน้ำและพื้นที่ห้องด้านในไว้เรียบร้อย

ติดตั้งเคาร์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็นหินสังเคราะห์ มีขนาด 90 x 40 cm. มีพื้นที่สำหรับวางของด้านข้างได้  ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมอุปกรณ์ก็อกน้ำ มีขนาดประมาณ 46 x 48 cm ของ Kohler หรือเทียบเท่า เหนืออ่างกรุกระจกบานใหญ่พร้อมซ้อนไฟด้านล่าง

ถัดมาเป็นชุดโถสุขภัณฑ์ และอุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ สายชำระ ที่ใส่กระดาษทิชชู เป็นของ Kohler หรือเทียบเท่า

ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีให้ ได้แก่ สายชำระ และที่แขวนกระดาษชำระของ Kohler หรือเทียบเท่า จะติดตั้งที่ผนังทางด้านหลัง

ส่วนอาบน้ำมีบานประตูบานเปิดกระจกให้ ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปลือยกระจกนิรภัยใส Tempered Glass พร้อมอุปกรณ์สแตนเลส ส่วนที่ประตูกระจกตรงที่จับออกแบบให้สามารถแขวนผ้าเช็ดตัวได้ พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1.1 x 0.8 m. กว้างพอสมควรใช้งานได้สะดวก จะมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานโดยยกขอบขึ้นมาประมาณ 5 cm. เพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ

อุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ Rain Shower พร้อมอุปกรณ์ครบพร้อมใช้งาน ของ Kohler หรือเทียบเท่า

ชุดฝักบัวอาบน้ำ ของ Kohler หรือเทียบเท่า สามารถปรับอุณหภูมิน้ำร้อน-เย็นได้ให้คงที่ได้ และสามารถปรับระดับสายน้ำของฝักบัวได้

ในส่วนของฝ้าเพดานภายในห้องน้ำทั้งหมดจะฉาบเรียบทาสีกันชื้น และติดไฟแบบดาวน์ไลท์

ห้องแบบ 1 Bedroom L ขนาดพื้นที่ 45.8 ตร.ม. จัดมาให้แบบ Fully Fitted เช่นกัน คือได้เฟอร์นิเจอร์ built in ติดตั้งมาให้บางส่วนพร้อมใช้งาน รูปร่างของห้องเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้วยพื้นที่ของห้องที่มีขนาดใหญ่สามารถจัดแบ่งพื้นที่ให้มีการใช้งานได้สะดวกสบายไม่อึดอัด พื้นที่การใช้งานภายในห้องแบ่งเป็น  5 ส่วน ได้แก่ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องนอน ห้องน้ำและระเบียงซักล้าง เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ส่วนครัวก่อน มีตู้ด้านข้างสำหรับวางของ จากส่วนครัวจะเชื่อมต่อไปยังส่วนรับประทานอาหาร ห้องนั่งเล่น รับแขก พื้นที่ในห้องจะปูด้วยพื้นลามิเนตทั้งหมด ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.75 m. ห้องจึงดูโปร่งโล่ง เริ่มจากส่วนครัวมี ชุดครัวแบบ Built-in ติดตั้ง Hob & Hood ให้ขนาดพื้นที่ครัวกว้างสามารถใช้งานได้สะดวก การจัดพื้นที่เป็นครัวเปิดลักษณะนี้ต้องระมัดระวังเรื่องการใช้งาน เรื่องกลิ่นและควันจากการประกอบอาหารซึ่งอาจจะรบกวนพื้นที่ภายในห้องได้ มีพื้นที่สำหรับตั้งโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 3-4 คนได้ ถัดเข้ามาด้านใน จัดพื้นที่ห้องนั่งเล่นวางในตำแหน่งด้านนอกของตัวห้อง เชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียง ได้แสงธรรมชาติจากภายนอกและเปิดรับลมระบายอากาศได้ดีพื้นที่ระเบียงให้พื้นที่มาใช้งานได้จริง มีประตูกั้นแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน

ถัดเข้าไปด้านในของตัวห้องจัดเป็นส่วนห้องนอนและห้องน้ำ พื้นที่ห้องนอนสามารถวางเตียงและมีพื้นที่โดยรอบไม่อึดอัด มีตู้เสื้อผ้า Built-inให้ มีกระจกบานใหญ่สามารถมองวิวแบบมุมกว้าง ห้องน้ำอยู่ด้านใน มีพื้นจัดเป็น Walk in closet เชื่อมต่อกับห้องนอน เพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งานแต่การวางตำแหน่งห้องน้ำไว้ติดด้านในของตัวอาคารลักษณะนี้ การระบายอากาศจะต้องใช้ระบบดูดอากาศจากภายในอาคารเท่านั้น ภายในห้องน้ำแยกพื้นที่โซนเปียกโซนแห้งชัดเจน พร้อมอุปกรณ์ภายในห้องน้ำครบชุด

เริ่มจากประตูทางเข้าห้อง ในห้องจริงจะได้บานประตูไม้ หน้าบานปิดปิดผิวด้วยลายไม้(Laminate)บานสูง 2.4 m. หรือเทียบเท่า พร้อมระบบควบคุมการล็อคอิเล็คทรอนิกส์ใช้การ์ด (Electronic Door Lock) ของ Yale หรือเทียบเท่า

ในส่วนของประตูด้านใน จะมี Door Stopper ติดอยู่ที่พื้นหลังประตู เพื่อป้องกันบานประตูเปิดมากระทบกำแพง ส่วนผนังด้านหลังประตูจะมีพื้นที่อยู่ ในห้องตัวอย่างตกแต่งทำเป็นชุดตู้แบบ built in สำหรับวางของและรองเท้าได้ แต่ชุดตู้นี้ทางโครงการไม่มีให้นะคะ เราสามารถดูเป็นไอเดียในการแต่งห้อง แล้วเลือกเฟอร์นิเจอร์ ที่เหมาะสมกับการใช้งานของเราได้ค่ะ

เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่ส่วนครัวที่เชื่อมต่อไปยังส่วนห้องนั่งเล่นและพื้นที่ระเบียงของตัวห้องได้ ทางขวามือของตัวห้องจะเป็นห้องนอนและห้องน้ำ พื้นส่วนห้องจะเป็นพื้นไม้สำเร็จรูปลามิเนตหนา 10 mm. ผิวสัมผัสเลียนแบบไม้จริง (Premium Grade Laminate) นำเข้าจากเยอรมัน หรือเทียบเท่า  ในส่วนของผนังห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี ระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.75 m. ติดไฟภายในห้องทั้งหมดแบบ downlight

ส่วนครัวเป็นครัวแบบเปิด มีชุดครัว Built-in ให้ จัดพื้นที่มาเพียงพอต่อการใช้งานไม่เน้นทำครัวจริงจัง แต่การจัดครัวเปิดแบบนี้จะต้องระมัดระวังเรื่องกลิ่นและควันจากการประกอบอาหาร แต่เราก็สามารถกั้นเป็นครัวปิดได้ เพราะส่วนพื้นที่ครัวที่ให้มาค่อนข้างกว้าง มีระยะให้แบ่งพื้นที่การใช่งานได้สบายๆ แค่ทำฉากกั้นขึ้นมา 1 บานก็ได้ครัวปิด และทำให้แบ่งพื้นที่การใช้งานได้เป็นสัดส่วนมากขึ้น

ส่วนครัวมีความกว้างของพื้นที่สำหรับยืนประกอบอาหารในครัว วัดจากชุดครัวถึงเคาน์เตอร์ทางขวามือ ถึงชุดโต๊ะเก้าอี้ทางซ้ายมือ จะมีพื้นที่กว้างประมาณ 55 cm.  ส่วนอีกฝั่งทางซ้ายมือระหว่างตู้และโต๊ะทางข้าวจะมีพื้นที่กว้างประมาณ 83 cm. แต่ชุดโต๊ะเก้าอี้ทางโครงไม่มีให้นะคะ ดังนั้นเราสามารถเรื่องเฟอร์นิเจอร์เองได้ตามความเหมาะสมในการใช้งานค่ะ

มาที่ชุดครัว built in ด้านบนทำเป็นช่องสำหรับวางของ พร้อมบานเปิดออก 2 ด้าน ส่วนด้านข้างแบ่งช่องสำหรับเก็บของไว้ 2-3 ระดับ เช่นกัน สำหรับวัสดุของชุดครัวหน้าบานจะปิดผิวลามิเนต ภายในปิดผิวด้วยเมลามิน Full-Height ถัดมาด้านข้างจะแบ่งช่องสำหรับเก็บของไว้ 2-3 ระดับ และมีพื้นที่ช่องเปิดสำหรับวางไมโครเวฟได้

ทางด้านข้างของชุดครัว  built in จะเว้นพื้นที่ไว้ให้สำหรับตั้งตู้เย็น สามารถตั้งตู้เย็นขนาดกลางได้ พื้นที่มีขนาด 70 x 60 cm. ด้านบนทำเป็นชั้นวางของ

มาที่เคาน์เตอร์ ส่วน Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์ หรือเทียบเท่า  ผนังบริเวณครัวจะติดเป็นผนังกั้นเปื้อนกระจก หรือเทียบเท่า เหมาะกับการใช้งาน ให้ชุดอ่างล้างจานสี่เหลี่ยมขนาดกลาง 1 ช่องพร้อมหัวก็อก ของ Franke ขนาดประมาณ 40 x 40 cm. ด้านข้างมีพื้นที่สำหรับจัดเตรียมอาหาร และให้เตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควัน ของ Franke หรือเทียบเท่า ด้านล่างทำเป็นลิ้นชักวางของแบ่ง 2  ระดับ แบ่งช่อง Soft Close สำหรับเก็บอุปกรณ์แยกตามขนาด

มาที่ส่วนของพื้นที่นั่งเล่น จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนรับประทานอาหาร วางตำแหน่งของพื้นที่ส่วนนี้ให้อยู่ชิดริมฝั่งระเบียงรับแสงธรรมชาติได้ดี วัสดุปูพื้นเป็นพื้นไม้ลามิเนต มีระดับพื้นถึงฝ้าสูง 2.75 m. ช่วยทำให้ห้องดูโปร่งไม่อึดอัด  พื้นที่ในส่วนห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟาแบบ 2-3 ที่นั่งได้สบายๆ พื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถเลือกชุดโซฟาได้หลากหลายแบบ แต่ชุดโซฟาโครงการไม่มีให้นะคะ ผนังติด Wallpaper และวัสดุตกแต่งเพื่อความสวยงาม อันนี้เราดูไว้เป็นไอเดียในการตกแต่งห้องได้ค่ะ

ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี ห่างประมาณ 2.45 m. ในระยะประมาณนี้สามารถเลือกทีวีขนาด 40″– 50″ ได้

ในส่วนของฝ้าเพดานภายในห้องทั้งหมดจะฉาบเรียบทาสี และติดไฟแบบดาวน์ไลท์ สำหรับระบบปรับอากาศภายในห้องจะติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบชนิดซ่อนใต้ฝ้าให้ทั้งหมด

ส่วนประตูออกไปสู่ระเบียง เป็นบานกระจกกรอบอลูมิเนียมกระจกบานใหญ่ ได้ความสว่างจากแสงธรรมชาติและเปิดระบายอากาศได้ดี มีความสูงถึงระดับฝ้าเพดาน ช่วยเพิ่มมุมมองแบบมุมกว้าง ตัวบานเลื่อนสามารถเปิดออกได้ 2 ทิศทาง เพื่อความสะดวกในการใช้งาน

ประตูเป็นบานอลูมิเนียมกระจกใส พร้อมตัวล็อค ยกขอบสูงขึ้นมาโดยการยกขอบสูงขึ้นมาแบบนี้จะช่วยป้องกันน้ำฝนหรือน้ำซึมเข้ามาด้านในตัวห้อง

พื้นที่ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้องโมเสค หรือเทียบเท่า พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 2.1 x 0.55 m. ระเบียงจัดพื้นที่มาให้สามารถใช้งานได้ไม่ใหญ่มาก ใช้เป็นส่วนซักล้าง ตากผ้าได้เล็กได้

ด้านข้างของพื้นที่ระเบียง จะติดตั้ง แขวน Condensing air โดยจะหันลมร้อนออกทางด้านข้าง การทำแบบแขวนแบบนี้ช่วงประหยัดพื้นที่ระเบียง และมีแผงบังสายตาให้ดูเรียบร้อย

มองกลับเข้ามาด้านในของตัวห้อง จะเห็นการแบ่งพื้นที่การใช้งานในส่วนของการออกแบบพื้นที่ใช้งานให้มีความต่อเนื่องกัน จากครัวไปมายังส่วนรับประทานอาหาร ส่วนนั่งเล่น ที่เมื่อลองจัดเฟอร์นิเจอร์ลงไปแล้ว ก็เหลือพื้นที่ใช้งานได้ไม่อึดอัด

จากพื้นที่ห้องนั่งเล่นจะมีทางเชื่อมต่อไปยังห้องนอน  และห้องน้ำของตัวห้อง ซึ่งในห้องจริงจะได้ประตูบานเปิด เป็นบานประตูสำเร็จรูปปิดผิวลามิเนต สูง 2.40 m. หรือเทียบเท่า

มากันที่ห้องนอน สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต หรือ King Size ได้ไม่อึดอัด มีพื้นที่เหลือโดยรอบ สามารถวางตู้หรือชั้นวางของต้านข้างได้ ภายในห้องนอนปูพื้นด้วยพื้นไม้ลามิเนต เหมือนกับห้องนั่งเล่น ผนังในห้องนอนติด Wallpaper และวัสดุตกแต่งไว้ แต่ห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี มีระดับพื้นถึงฝ้าสูง 2.75 m.

หน้าต่างภายในห้องนอนจะได้ชุดกระจกบานเลื่อนใหญ่มีความสูงจากพื้นถึงระดับฝ้าเพดาน ทำให้สามารถมองเห็นวิวแบบมุมกว้าง ที่เปิดออกไปเชื่อมต่อกับส่วนระเบียงได้

พื้นที่ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้องโมเสค หรือเทียบเท่า พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 2.1 x 0.55 m. ด้านข้างของพื้นที่ระเบียงจะติดตั้ง แขวน Condensing air ไว้เหมือนกับระเบียงในฝั่งห้องนั่งเล่น

ระยะระหว่างด้านข้างเตียงถึงผนังฝั่งหน้าต่าง กว้างประมาณ 80 cm. ยังสามารถยืนเปิดหน้าต่างได้สะดวก

ส่วนระยะระหว่างปลายเตียงถึงผนัง กว้างประมาณ 75 cm. มีตำแหน่งปลั๊กไฟต่างๆไว้ให้สำหรับ ทีวี ควรจะแขวนกับผนัง จะได้มีพื้นที่ทางเดินปลายเตียงได้สะดวก

ระยะระหว่างด้านข้างเตียงถึงผนังฝั่งด้านในตัวห้อง กว้างประมาณ 2.1 m. สามารถวางชุดโต๊ะเก้าอี้ และเหลือพื้นที่ค่อนข้างกว้าง

มองกลับเข้าอีกฝั่งของตัวห้องจะจัดพื้นที่เป็น Walk in closet ที่จะเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำของตัวห้อง ซึ่งห้องน้ำในห้องตัวอย่างจะทำเป็นผนังกระจกฝ้าไว้ แต่ในห้องจริงผนังในส่วนนี้จะเป็นผนังทึบนะคะ

ส่วนของ Walk in closet จะอยู่ด้านหน้าทางเข้าห้องน้ำ ทำเป็นชุดตู้บานเลื่อน Built-in หน้าบานกระจกใส ตัวตู้จะสูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าเพดานด้านบน ออกแบบเป็นชั้นหลายระดับพร้อมราวสำหรับแขวนเสื้อผ้า และไฟภายในที่ ติดตั้งให้เพื่อหารใช้งานสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งทางโครงการมีชุดตู้นี้เฉพาะตู้ที่อยู่ตรงข้ามทางเข้าห้องน้ำ ส่วนตู้ปลายสุดจะไม่ได้ให้ เราดูเป็นไอเดียการใช้งานและแต่งห้องเพิ่มเติมได้ค่ะ

พื้นที่ในส่วนนี้จะมีความกว้างประมาณ 80 cm. สามารถยืนแต่งตัวได้ไม่แคบไป ปูพื้นด้วยลามิเนตหนา ต่อเนื่องมาจากส่วนห้องนอน

ในส่วนของฝ้าเพดานภายในห้องนอนและส่วน Walk in closet ก็จะฉาบเรียบทาสีและติดไฟแบบดาวน์ไลท์

พื้นที่ภายในห้องน้ำจัดพื้นที่ไว้ลงตัวในการใช้งาน มีการแบ่งการใช้งานเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้เป็นสัดส่วนวัสดุปูพื้นและผนังกรุด้วยกระเบื้องเซรามิคลายหิน ส่วนฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มบอร์ดกันชื้นฉาบเรียบทาสี ให้ชุดอ่างล้างหน้าและกระจก พร้อม Shower Box กระจก และ ชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมใช้งาน

ทางเข้าห้องน้ำลดระดับลงโดยจะปูกระเบื้อง ทำขอบตัวจบระหว่างพื้นห้องน้ำและพื้นที่ห้องด้านในไว้เรียบร้อย

ติดตั้งเคาร์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็นหินสังเคราะห์ มีขนาด 1.1 x 0.36 m. มีพื้นที่สำหรับวางของด้านข้างได้  ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมอุปกรณ์ก็อกน้ำ มีขนาดประมาณ 46 x 48 cm ของ Kohler หรือเทียบเท่า เหนืออ่างกรุกระจกบานใหญ่พร้อมซ้อนไฟด้านล่าง

ถัดมาเป็นชุดโถสุขภัณฑ์ และอุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ สายชำระ ที่ใส่กระดาษทิชชู เป็นของ Kohler หรือเทียบเท่า เหมือนกับในห้องตัวอย่างห้องแรก

พื้นที่ส่วนอาบน้ำมีบานประตูบานเปิดกระจกให้ ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปลือยกระจกนิรภัยใส Tempered Glass พร้อมอุปกรณ์สแตนเลส พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1.4 x 0.9 m. กว้างใช้งานได้สะดวก จะมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานโดยยกขอบขึ้นมาประมาณ 5 cm. เพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ

ปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ Rain Shower พร้อมอุปกรณ์ครบพร้อมใช้งาน ของ Kohler หรือเทียบเท่า  เหมือนกับในห้องตัวอย่างห้องแรก

ในส่วนของฝ้าเพดานภายในห้องน้ำทั้งหมดจะฉาบเรียบทาสีกันชื้นและติดไฟแบบดาวน์ไลท์ให้ค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 26 July 2017

  • 1 Bedroom S : 27 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom M : 34 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom L : 43-52 ตารางเมตร
  • 2 Bedrooms : 55-65 ตารางเมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท
  • ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดราคาทั้งหมด ซึ่งจะออกครบในวัน Pre-Sale วันที่ 6 สิงหาคม 2560 นี้

  • Fully Fitted
  • ฝ้าเพดานสูง 2.75 เมตร
  • Kitchen & Sink 
  • Hob & Hood
  • ตู้เสื้อผ้า และ ชุดครัว แบบ Full-Hight
  • จอง n/a บาท
  • ทำสัญญา n/a บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ค่ากองทุน 700 บาท/ตร.ม. (update 3/8/2021)
  • ค่าส่วนกลาง 70 บาท/ตร.ม./เดือน (update 3/8/2021)

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลโครงการ Noble Around Sukhumvit 33 อยู่ในซอยสุขุมวิท 33 ห่างจาก BTS พร้อมพงษ์ 650 ม. (โดยวัดจากบันไดลงหลักจากสถานี BTS ถึงหน้าโครงการ ) จัดอยู่ในย่านธุรกิจ ใจกลางเมืองฝั่งสุขุมวิท บริบทโดยรอบทั้งจากสถานีรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ ห้างหรูอย่าง ดิ เอ็มโพเรียม , ดิ เอ็มควอเทียร์ และในอนาคตจะมี ดิ เอ็มสเฟียร์ รวมไปถึงสวนเบญจสิริ เป็นย่านการค้า แหล่งธุรกิจ มีโรงแรม โรงพยาบาลชั้นนำ ออฟฟิศสำนักงานต่างๆ ทำให้มีครบในทุกด้านที่ส่งเสริมการอยู่อาศัยในเมือง อีกทั้งย่านพร้อมพงษ์จัดเป็นทำเลของชาวญี่ปุ่น ที่เข้ามาอยู่อาศัยรวมกันในบริเวณนี้ จึงมีร้านอาหารญี่ปุ่นและร้านขายของญี่ปุ่นให้เลือกมากมาย หรือหากมองในด้านการลงทุนก็มีแนวโน้มที่ดีต่อยอดได้ หากพิจารณาจากภาพรวมกว้างๆแล้ว ถือว่าเป็นทำเลใจกลางเมือง ที่มีครบ และยังเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆได้สะดวก

การเดินทางโดยใช้รถ โครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 33 ซึ่งเป็นซอยที่มีทางลัดเลาะเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะมาจากทองหล่อ ถนนเพชรบุรี หรือถนนอโศกมนตรี สามารถขับมาใช้เส้นทางลัดต่างๆ วิ่งมายังโครงการได้โดยไม่ต้องผ่านถนนสายหลัก ช่วยหลีกเลี่ยงรถติดได้ ถือเป็นข้อดีของการใช้รถในเมือง

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ถือว่าสะดวกมาก มีตัวเลือกค่อนข้างหลากหลาย เช่น BTS พร้อมพงษ์ อยู่ห่างจากโครงการ 650 เมตร (โดยวัดจากบันไดลงหลักจากสถานี BTS ถึงหน้าโครงการ )ไม่ไกลจนเกินไป พอเดินได้อยู่ มีวินมอเตอร์ไซค์หน้าซอยสุขุมวิท 33 และวิ่งผ่านหน้าโครงการให้เรียกได้ตลอด ถนนซอยสุขุมวิท 33 เป็นถนนเส้นทางหลักที่คนนิยมใช้เป็นเส้นทางลัด จึงมีรถแท็กซี่ผ่านเรียกไม่ยาก

การออกแบบโครงการมีแนวคิดในการออกแบบตัวอาคาร Material Collaboration Design ใช้การผสมผสานวัสดุและเฉดสี และการดีไซด์รูปแบบอาคารที่เน้นจังหวะและมิติที่เป็นเอกลักษ์ เป็นคอนโด High Rise แนวคิด Forest on the Hill ใช้วิธีการกระจายพื้นที่สีเขียวไว้ในส่วนต่างๆของตัวอาคารตั้งแต่ชั้นล่าง และในชั้นพักอาศัยต่างๆ ช่วยเปิดมุมมองและการอยู่อาศ้ยร่วมกับพื้นที่สีเขียวในรูปแบบสวนหลากหลาย จากที่ดินประมาณ 1-2-95.8 ไร่ จัดวางผังอาคารไว้เฉพาะด้านในของพื้นที่ เว้นพื้นที่ด้านหน้าของที่ดินให้เป็นพื้นที่สีเขียว สร้างความเป็นส่วนตัวให้กับด้านหน้าตัวอาคารมากขึ้น แบ่งพื้นที่โครงการในส่วนต่างๆ ทั้งส่วนพักอาศัย และส่วน Facility ในโครงไว้เป็นสัดส่วนชัดเจนไม่รบกวนกัน เน้นวางผังโครงการให้พื้นที่ส่วนกลางให้สามารถเข้าถึงและใช้ร่วมกันได้สะดวก โครงการจัดห้องได้ 268 ยูนิต มีแบบห้องให้เลือกหลากหลายแบบ ตั้งแต่ 1 Bedroom – 2 Bedroom  ขนาดห้องเริ่มตั้งแต่ 27 – 65 ตร.ม. ถือว่าจัดพื้นที่มาให้ค่อนข้างเยอะ ทำให้สามารถจัดพื้นที่การใช้งานในส่วนต่างๆง่ายขึ้น ห้องไม่ดูอึดอัด  ด้วยความสูงของตัวอาคาร ทำให้ได้วิวและมุมมองเปิดกว้าง

การออกแบบห้องพักอาศัย โครงการจัดพื้นที่ในห้องส่วนต่างๆ ได้ดีใช้งานค่อนข้างลงตัว ใช้งานง่าย เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง ให้ฝ้าเพดานสูง 2.75 เมตร ห้องจึงมีความโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด ในส่วนของห้องตัวอย่างที่รีวิวเป็นห้องแบบ 1 Bedroom S พื้นที่ 27 ตร.ม. จัดพื้นที่ในส่วนต่างๆมาแบบพอดีๆ พื้นที่ห้องนอนจัดมาเพียงพอใช้งานสะดวก เป็นห้องหน้ากว้างเน้นไปที่ห้องนอนและนั่งเล่น สามารถรับแสง เปิดระบายอากาศได้ดี ครัวแบบปิดเหมาะกับการประกอบอาหาร  มีประตูกั้นแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วน  มี Walk in Closet ที่เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานที่ต่อเนื่องกัน ในส่วนของห้อง 1 Bedroom L พื้นที่ 45.8 ตร.ม. ให้พื้นที่กว้าง จัดได้ลงตัวใช้งานง่าย มีพื้นที่ให้ตั้งโต๊ะทานอาหารสบายๆ แยกโซนนั่งเล่นริมระเบียง ได้แสงและวิว ห้องนอนได้พื้นที่วางเตียงแล้วยังมีพื้นที่เหลือโดยรอบ มีส่วน Walk in Closet ที่เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำ แต่ทั้ง 2 แบบ จะได้ระเบียงขนาดพอดีใช้งานไม่ใหญ่มาก โครงการมีใส่รายละเอียดอื่นๆมาให้ เช่น ใช้หน้าต่างขนาดใหญ่ Full Height Window เลือกใช้กระจก Low-E Glass ในห้องทางทิศตะวันตก สามารถกันความร้อนแต่ยังคงความสว่างจากแสงธรรมชาติได้ เหมาะกับห้องที่ต้องการเน้นเห็นวิวแบบมุมกว้าง ใช้ระบบ Home Automation โดยสามารถควบคุม ระบบเปิด ปิดไฟ และ air condition ภายในห้องได้

วัสดุและอุปกรณ์ให้ของมีมาตราฐาน เหมาะสมกับการใช้งาน ประตูหน้าห้องบานใหญ่พร้อม Digital door lock ห้องครัว นั่งเล่นและห้องนอน เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 10 mm.นำเข้าจากเยอรมัน หรือเทียบเท่า ห้องน้ำใช้กระเบื้องเซรามิคลายหิน ทั้งผนังและพื้น แต่โครงการขายห้องแบบ Fully Fitted น่าจะเหมาะกับลูกค้าที่ชอบแต่งห้องเอง ที่โครงการมีให้คือ ชุดตู้เสื้อผ้า Built-in ในห้องนอน และได้ชุดครัว Built-in  Top Counter เป็นหินสังเคราะห์  เหมาะกับการประกอบอาหาร ทำความสะอาดง่าย ให้ชุดเตาแบบแม่เหล็กและ Hood ดูดควันของ Franke ชุดสวิตช์ไฟแบบ Touch Screen ในส่วนของห้องน้ำให้เหมือนห้องตัวอย่างทั้งหมด อุปกรณ์ชุดอาบน้ำเน้น Design ที่เรียบหรู อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ ของ Kohler หรือเทียบเท่า อุปกรณ์ภายในห้องน้ำต่างๆใช้ของ Kohler  หรือเทียบเท่า หน้าต่างภายในห้องใช้กระจกบานใหญ่ ในส่วนของความเรียบร้อยอื่นๆภายในห้องถือว่าเก็บงานได้เรียบร้อยดี

สาธารณูปโภค ภายในโครงการมีให้ถือหลากหลายน่าใช้งาน เน้นไปที่พื้นที่สีเขียวที่กระจายทั้งในชั้นล่างและตามชั้นต่างๆของตัวอาคาร มีแนวคิดในการออกแบบและใช้งานของแต่ละสวนแตกต่างกันที่ถือเป็นจุดเด่นของโครงการ โดยหลักๆเกือบทั้งหมดจะจัดไว้บริเวณด้านหน้าโครงการ จัดเป็นสวน Escape Garden พร้อมที่นั่งพักผ่อน ที่อยู่บนอาคารได้แก่ชั้นที่ Lobby , Mail box , ชั้น 4 สวนส่วนกลาง Forest Valley , ชั้น 14 มีสวน Party Hill และส่วน Party Lounge (Living-Dining-Library) , ชั้น 22 สวนส่วนกลาง Napping Valley และที่ชั้น 25 สระว่ายน้ำ Sky Pool with shallow pool ว่ายน้ำมองเห็นวิวเมือง และ Sky Fitness มี Steam room แยกห้องอาบน้ำไว้ให้  จัดพื้นที่สวนภายในโครงการทั้งด้านบนและด้านล่าง เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ส่วนที่จอดรถถือว่าจัดมาให้ใช้ได้พอประมาณ 52% (ไม่รวมการจอดแบบซ้อนคัน) แต่มี EV Charging Station ที่ชาร์จรถระบบไฟฟ้าไว้บริการลูกบ้าน มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อ/อาคาร อัตราส่วนลิฟท์ 137 : 1 ใช้งานหนาแน่นไป

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 200,000 บาท/ตร.ม., 26 July 2017

(ใช้การพิจารณาให้คะแนนจากราคาเฉลี่ยเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งราคาเฉลี่ยทั้งโครงการจะมากกว่า 200,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งยังไม่มีข้อมูลในตอนนี้)

  • ทำเล 8/10 – ทำเลในเมือง เข้าซอยไม่ลึก ใกล้ห้างใหญ่ ใกล้สวน ในระยะเดิน
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – ซอยหลักมีเส้นทางไปเชื่อมออกถนนได้หลายสาย
  • ไม่ใช้รถ 8/10 – BTS พร้อมพงษ์ ห่างโครงการ 650 ม. มีวินมอเตอร์ไซค์ รถสาธารณะผ่านตลอด
  • วัสดุ 7.75/10 – ได้ของมาตรฐาน เหมาะสมกับระดับราคา Fully Fitted ได้ของบางส่วน ต้องแต่งห้องเพิ่ม
  • แบบ 8.5/10 – ออกแบบสวยสไตล์ luxury ห้องหน้ากว้าง จัดพื้นที่ดีน่าอยู่อาศัย
  • สาธารณูปโภค 8.5/10 – มีให้เลือกเยอะน่าใช้งาน เน้นพื้นที่สีเขียวหลากหลายกระจายใช้งานง่าย
  • SUPER LUXURY CLASS
  • 8.06 / 10.00

BOTTOM LINE

โครงการ Noble Around Sukhumvit 33 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดใจกลางเมืองย่านสุขุมวิท ใกล้แหล่งธุรกิจ ย่านช็อปปิ้ง และสวนสาธารณะ เดินทางสะดวกสามารถใช้รถส่วนตัวหรือเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้าได้ ชอบการออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มองหาคอนโดที่เน้นอยู่อาศัย ได้พื้นที่สีเขียวหลากหลายในโครงการให้เลือก  มี Facility หลักๆให้ใช้ครบ มีงบประมาณเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท ขึ้นไปค่ะ