Niche MONO เจริญนคร คอนโดHigh Rise 36 ชั้น วิวโค้งน้ำเจ้าพระยา จาก Sena Development [รีวิวฉบับที่ 1640]

รีวิวฉบับที่ 1640 … สวัสดีค่ะ วันนี้พาไปชมคอนโดวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาของ Sena Development กันกับ Niche MONO เจริญนคร คอนโด High Rise สูง 36 ชั้น ตั้งอยู่ติดถนนเจริญนคร บริเวณซอยเจริญนคร 76 เดินทางสะดวกมีรถรับ-ส่งจากโครงการไปยัง BTS กรุงธนบุรี และ The Mall ท่าพระด้วย ตัวโครงการมีการออกแบบรองรับ 3 Generation โดยมีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับทุกวัย เช่น พื้นที่ Co-Working , Kid’s playground , Nursing Room พร้อมมีสระว่ายน้ำลอยฟ้าบนชั้น 34 และ Sky Facilities อื่นๆอีกมากมาย ให้เฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished ในราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท เราไปชมกันค่ะ

Fact @ 24 July 2018

• NICHE MONO CHAROEN NAKORN (นิช โมโน เจริญนคร)
• SENA DEVELOPMENT PLC.
• MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่ในเขต : ธนบุรี
• คอนโด High Rise 36 ชั้น 1 อาคาร 537 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต
• อาคารจอดรถ 5 ชั้น (จอดภายในอาคาร)
• ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 25 ยูนิต
• ที่จอดรถประมาณ 339 คันคิดเป็น 63% รวมซ้อนคัน และที่เสนาเฟส 150 คัน คิดเป็น 28%
• ที่ดินประมาณ 3-1-86.7 ไร่
• เริ่มก่อสร้าง :  ตุลาคม 2561 
• คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ธันวาคม 2563
• 1 Bedroom 30-40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท
• 2 Bedrooms 49.50-60 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.10 ล้านบาท
• ฝ้าเพดานสูง 2.70 เมตร
• ราคาห้องเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท
• ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 86,000 บาท/ตร.ม.
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด 73,000 – 103,000 บาท/ตร.ม.
• EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
• เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
• Call Center : 1775 กด 76

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ

• ทำเล
• โครงการ
• ห้องตัวอย่าง
• สรุป

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.696717, 100.486115

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

“เจริญนคร” เป็นพื้นที่การอยู่อาศัยเก่าแก่ที่มีคนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก มีลักษณะเป็นชุมชน แต่ยังมีโครงการคอนโดมิเนียมและโรงแรมหรูตั้งอยู่ริมถนนเจริญนครมากมายอย่าง โรงแรม Millennium Hilton โรงแรม Peninsula Bangkok และโรงแรม AVANI Riverside Bangkok รวมถึง ICONSIAM โครงการ Mixed-use ขนาดใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งถ้าสร้างเสร็จจะเป็นสีสันให้กับย่านนี้ได้อีกมาก อีกทั้งยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีทองที่จะวิ่งผ่านบนถนนเจริญนคร ทำให้ในย่านนี้มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงก็เริ่มมีโครงการคอนโดมิเนียมทยอยเกิดขึ้นเช่นกัน อีกหนึ่งจุดเด่นของทำเลนี้คืออยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งในชั้นสูงๆเราจะเห็นวิวโค้งแม่น้ำด้วยค่ะ

สำหรับโครงการ Niche MONO เจริญนคร ที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ บริเวณซอยเจริญนคร 76 ซึ่งถือเป็นเจริญนครช่วงปลาย ค่อนลงมาทางฝั่งถนนราษฎร์บูรณะ ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบของทำเลถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์พอสมควร มีทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า ตลาด แต่จะหนาแน่นในพื้นที่ใกล้กับวงเวียนใหญ่ ตลาดคลองสานและรถไฟฟ้ามากกว่า ส่วนรอบๆโครงการในระยะเดินนั้นไม่ค่อยมีร้านค้าร้านอาหารซักเท่าไหร่ อาจจะหาของกินยากหน่อย แต่ก็สามารถเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้า หรือร้านอาหารอื่นๆใกล้กับวงเวียนใหญ่ได้สะดวก แหล่งจับจ่ายใช้สอยที่ใกล้กับโครงการจะมีบิ๊กซีดาวคะนอง ตลาดดาวคะนอง ตลาดอินดี้ มี Community mall  ด้านล่างโรงแรม AVANI Riverside ที่จะมีร้านค้าร้านอาหารแบรนด์อยู่เยอะเหมือนกัน รวมถึง Senafest Community mall ของทาง Sena Development ก็มีร้านให้แวะกินแวะช้อปก่อนกลับบ้านเช่นเดียวกัน

การเดินทางโดยใช้รถยนต์ก็สามารถใช้เส้นทางได้หลายเส้นทาง โดยการเข้าถึงโครงการสามารถใช้ถนนพระราม 3 ถนนเจริญกรุง ถนนเจริญนคร และถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินเพื่อมายังถนนเจริญนครฝั่งราษฎร์บูรณะ หรือจะมาจากทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษเฉลิมมหานครก็สามารถมาได้ค่ะ สำหรับการเดินทางเข้าเมือง ใครที่จะเดินทางไปเข้าเมืองก็วิ่งเข้าถนนเจริญนคร ไปออกถนนกรุงธนบุรี ข้ามสะพานตากสินไปก็ถึงย่านสาทรแล้ว ส่วนใครจะวิ่งไปวงเวียนใหญ่ก็ง่ายมากเราสามารถวิ่งตรงบนถนนเจริญนครไปเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวเข้าถนนลาดหญ้าเพื่อไปยังวงเวียนใหญ่ได้

สำหรับการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ถ้าหากเราไม่อยากเดินทางโดยไม่ใช้รถก็มีตัวเลือกพอสมควรเลยค่ะ อย่างวินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ และรถเมล์ อีกทั้งยังสามารถใช้ BTS ได้หลายสถานีด้วยกันเช่น BTS สถานีกรุงธนบุรี ห่างจากโครงการประมาณ 4.9 กิโลเมตร อีกทั้งทางโครงการก็มีรถ Shuttle Car 2 คัน รับลูกค้าที่จอดรถที่เสนาเฟสในเวลา 21.00-9.00 น. และ Shuttle van อีก 2 คันรับส่งรถไฟฟ้าและห้างฯค่ะ 

จากโครงการสามารถขึ้นทางด่วนที่ใกล้ที่สุด คือทางพิเศษเฉลิมมหานคร ห่างจากโครงการประมาณ 5.2 กิโลเมตร โดยออกจากโครงการมุ่งหน้าไปยังถนนพระราม3 เพื่อกลับรถมายังถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน และเลี้ยวขวาเข้าถนนพุทธบูชาก่อนขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครค่ะ อีกทางเลือกหนึ่งคือทางด่วนพิเศษศรีรัชทางขึ้นอยู่ไกลหน่อยบริเวณถนนเจริญราษฎร์ค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถยังมีอีกตัวเลือกหนึ่งคือการโดยสารทางเรือค่ะ ซึ่งท่าเรือราษฎร์บูรณะจะเป็นท่าเรือที่ใกล้ที่สุดโดยอยู่ห่างจากโครงการเป็นระยะทางประมาณ 3.3 กิโลเมตร สามารถไปโดยการนั่งวินมอไซค์ที่มีอยู่หน้าโครงการหรือเรียก Taxi ให้ไปส่งยังท่าเรือ ราษฎร์บูรณะ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังท่าเรือสาทร เพื่อใช้หนีรถติดในช่วงเวลาเร่งด่วนหรือแวะท่าเรือต่างๆริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้ค่ะ

สำหรับการเดินทางในวันนี้เราลงทางด่วนแล้ววิ่งตรงมาเรื่อยๆบนถนนพระราม3 ข้ามสะพานกรุงเทพมาเลี้ยวเข้าถนนเจริญนคร จากนั้นกลับรถก็จะถึงกับที่ตั้งโครงการค่ะ

การเดินทางในวันนี้ เราเลือกใช้ทางด่วนค่ะ เมื่อลงทางด่วนมาแล้วพอถึงแยกนี้ด้านหน้าจะเป็นถนนพระราม3 หากเราเลี้ยวซ้ายจะมุ่งหน้าไปยังถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ส่วนถ้าเราเลี้ยวขวาจะมุ่งหน้าไปถนนเจริญนคร ดังนั้นให้เราชิดขวาเตรียมเลี้ยวขวาเพื่อมุ่งหน้าไปยังถนนเจริญนคร

เมื่อเลี้ยวขวามาแล้วเราจะอยู่ที่ถนนพระราม3 เพื่อมุ่งหน้าไปยังถนนเจริญนครค่ะ ทางผ่านสังเกตขวามือจะมีสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา

เมื่อตรงมาเรื่อยๆแล้วจะเห็นป้ายชิดขวาเพื่อขึ้นสะพานลอย ตามทางสะพานกรุงเทพค่ะ ให้ขึ้นสะพานเพื่อข้ามแยกค่ะ

เมื่อลงสะพานไปแล้ว เราตรงไปเรื่อยๆจะเจอป้ายไปยังถนนรัชดาภิเษก ให้ตรงไปค่ะ

เราตรงมาเรื่อยๆบนถนนพระราม 3 เพื่อมุ่งหน้าไปยังถนนเจริญนคร ให้ตรงไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอแยกถนนตกค่ะ

เมื่อพบแยกถนนตกด้านซ้ายจะเป็นถนนตก ด้านขวาจะเป็นทางไปยังถนนเจริญกรุง เราจะต้องตรงข้ามแยกไปเพื่อจะขึ้นสะพาน

ขึ้นสะพานกรุงเทพข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อไปถนนเจริญนคร ก็จะใกล้ถึงโครงการแล้วค่ะ

เมื่อลงจาก สะพานกรุงเทพแล้วจะเจอแยกถนนเจริญนคร ให้เลี้ยวซ้ายผ่านตลอดได้เลย

ก่อนจะถึงโครงการด้านซ้ายมือจะมีวัดบุคคโล ให้ตรงไปกลับรถใต้สะพาน เพื่อจะเข้าโครงการฝั่งตรงข้ามค่ะ

จากนั้นให้เราขับรถเพื่อไปหาทางกลับรถใต้สะพาน ซึ่งจะผ่านทางเข้าโรงเรียนวัดดาวคะนอง เมื่อกลับรถออกมาแล้วโครงการจะอยู่ทางด้านซ้ายมือค่ะ หรือจะตรงไปอีกประมาณ 50 เมตรเพื่อกลับรถก็สามารถทำได้ค่ะ

ถึงแล้วค่ะ Niche MONO เจริญนคร โดยตัวโครงการจะอยู่ติดกับซอยเจริญนคร 78 และ 76

ในการเดินทางจากโครงการ จะมีวินมอไซค์อยู่บริเวณหน้าซอยเจริญนคร 78 และอาคารพาณิชย์ที่เป็นร้านค้า อยู่บริเวณนี้ค่ะ

ราคาค่าบริการวินปัจจุบัน (กรกฏาคม 2561)

สำนักงานขายของโครงการ ในอนาคตเมื่อขายหมดเรียบร้อยแล้วจะเปลี่ยนเป็นคาเฟ่และ Retail ค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นชุมชน บ้านเรือนมีลักษณะเป็นอาคารแถวพักอาศัย ส่วนใหญ่ ร้านค้าร้านอาหารมีให้เห็นไม่มากนักในบริเวณนี้ อาจจะต้องเดินทางไปยังเจริญนครช่วงต้นๆ  Sena Fest หรือ วงเวียนใหญ่ ถึงจะมีแหล่งของกินเยอะกว่า พื้นที่รอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นชุมชน วัด โรงเรียน และองค์การสินค้ากระทรวงพาณิชย์ จึงมีโอกาสน้อยที่จะเกิดอาคารสูงซึ่งจะบดบังวิวของโครงการค่ะ โดยรอบๆจะโครงการจะติดกับ

• ทิศเหนือ – ติดกับอาคารแถวสูง 3 ชั้น เป็นอาคารพักอาศัยไม่ค่อยมีร้านค้า
• ทิศตะวันออก – ติดกับถนนเจริญนคร กว้าง 6 เลนมีเกาะกลาง
• ทิศใต้ – ติดกับอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นเป็นร้านค้าบางส่วน มีสินค้าและบริการ ร้านอาหารเล็กน้อย
• ทิศตะวันตก – ติดกับอาคารพักอาศัย ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ชุมชน

ทิศเหนือของโครงการเป็นอาคารแถวพักอาศัย สูง 3 ชั้นตลอดเส้นทาง อย่างที่บอกว่ารอบๆนั้นอาจจะไม่ค่อยมีร้านค้าร้านอาหารขายเท่าไหร่ แนะนำให้เดินทางอีกหน่อยเพื่อไปยังส่วนต้นๆของเจริญนครจะมีของกินขายมากกว่าค่ะ

ทิศตะวันออกหรือฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารแถวสูง 3 ชั้น เรียงรายตลอดเส้นทางค่ะ

ทิศใต้ติดกับซอยเจริญนคร 78 ภายในซอยจะเป็นชุมชน มีร้านอาหารบ้าง2-3 ร้านค่ะ

ทิศตะวันตกหรือด้านหลังของโครงการ จะเป็นส่วนชุมชนพักอาศัย พื้นที่โดยรอบไม่มีอาคารสูงเลยค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

• AVANI Riverside – 1.2 km
• โรงแรม AVANI Reverside – 1.2 km
• โรงเรียนบางประกอกวิทยาคม – 2.1 km
• โรงพยาบาลสมิติเวชธนบุรี – 2.4 km
• The Mall ท่าพระ – 2.5 km
• Asiatiqe Riverside – 2.9 km
• SENA Fest – 3.6 km
• ตลาดพลู – 3.6 km
• โรงเรียนนานาชาติ Shrewsburry – 4.1 km
• โรงพยาบาลตากสิน – 5.0 km
• โรงพยาบาลบางประกอก9 – 5.6 km
• ตลาดคลองสาน – 5.7 km
• โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน – 6.2 km
• ICONSIAM – 6.3 km
• โรงเรียนอัสสัมชันบางรัก – 6.4 km
• VUE – 6.5 km

เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ Niche MONO เจริญนคร เป็นคอนโด High Rise สูง 36 ชั้น จำนวน 537 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต มีชั้นจอดรถ 5 ชั้น  จอดได้ประมาณ 339 คันคิดเป็น 63% รวมซ้อนคัน และที่เสนาเฟสอีก 150 คัน คิดเป็น 28% โดยสามารถไปจอดแล้วนั่งรถ Shuttle Car และ ตุ๊กๆไฟฟ้า กลับมาโครงการได้ค่ะ (แต่บริการเช่าที่จอดรถนี้ขึ้นอยู่กับนิติบุคคลในอนาคตบริหารด้วยนะคะ) โครงการมีแนวคิดในการออกแบบที่รองรับ 3 Generation มีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับทุกวัย เช่น พื้นที่ Co-Working , Kid’s playground , Nursing Room เป็นต้น ตัวโครงการอยู่ติดถนนเจริญนคร ซึ่งแถวนี้ไม่ค่อยจะมีคอนโด High Rise ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยามาขึ้นซักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่เป็นมือสองกันไปหมดแล้วค่ะ

ภาพรวมของพื้นที่ส่วนกลางของโครงการถือว่าจัดมาให้เยอะพอสมควร โดยจะอยู่กระจายตามชั้นต่างๆ ให้ลูกบ้านได้มาใช้งานได้โดยไม่อึดอัด ส่วนใหญ่จะอยู่ชั้นบนๆเพื่อเน้นให้ได้ชมวิวแม่น้ำค่ะ เริ่มจากชั้นล่างเป็น Lobby , ห้องนิติบุคคล , Nursing Room , ห้องจดหมาย ส่วนชั้น 6 เป็นห้องพักชั้นแรกผสมกับพื้นที่ส่วนกลาง โดยมีพื้นที่สวนขนาดใหญ่ ทั้งฝั่งทิศตะวันตกและสวนฝั่งทิศตะวันออก มีห้อง Co-Kitchen ห้องสมุด และสนามเด็กเล่น และชั้น 7 – 32 จะเป็นห้องพักอาศัย ซึ่งในชั้น 32 ก็จะมีพื้นที่ Yoga, Relaxing Zone และสวนหย่อม ชั้น 34-36 หรือ 3 ชั้นด้านบนสุดเป็น Sky Facilities ประกอบด้วยสระว่ายน้ำ, Steam Room, Fitness, Yoga Area, Lounge, Co-Working และมีส่วนเก้าอี้นวดชมวิวให้ด้วยค่ะ ช่างเหมาะกับแนวคิดเพื่อ 3 Generation จริงๆ ^^ สำหรับรายละเอียดของชั้นต่างๆเป็นดังนี้ค่ะ

เริ่มจากชั้น 1 ทางด้านหน้าทางเข้าโครงการ จะมีส่วนของคาเฟ่ และ Retail ซึ่งคาดว่าจะเป็น Family Mart ค่ะ เมื่อเข้ามาจะเจอกับสวนหย่อมทั้ง 2 ฝั่งซึ่งช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายเวลาเดินเข้ามาในโครงการ และสามารถกรองมลภาวะและเสียงจากถนนใหญ่ได้ ถัดเข้ามาเป็นทางเดินรถที่เดินทางเดียววนไปเข้าที่จอดรถที่ด้านหลังอาคาร ทางลาดขึ้น-ลง จะอยู่ตรงกลางของตัวอาคารฝั่งด้านหลัง วัสดุของทางเดินรถมีการตกแต่งให้มีลวดลายเส้นให้ไม่น่าเบื่อ ในอาคารชั้น 1 มี Lobby  อยู่ด้านหน้าอาคาร การตกแต่งภายในเน้นให้ความรู้สึกหรูหรา ใช้วัสดุหินอ่อนเป็นหลัก จัดส่วนพื้นที่นั่งมีลูกเล่นทั้งเก้าอี้โค้งและโต๊ะแยกให้นั่งแบบเป็นส่วนตัว เมื่ออยู่ใน Lobby มองออกมาจะเห็นเป็นวิวสวนสีเขียวด้านหน้าโครงการ ให้ผู้ที่นั่งรอได้ผ่อนคลาย นอกจากนั้นโครงการยังมีห้อง Nursing สำหรับปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากเกิดเหตุฉุกเฉินไว้ด้วย ซึ่งในห้องจะมีกล่องปฐมพยาบาลและเครื่อง AED กระตุ้นหัวใจสำรองไว้ค่ะ

ภาพบรรยากาศภายใน Lobby จำลองใช้วัสดุปูพื้นลายหิน และอลูมิเนียมลายเส้นสีทองแดงและน้ำตาล

ภาพบรรยากาศภายในLobby จำลอง ในส่วนของ Lobby ผนังฝั่งด้านหน้าจะเป็นกระจกสูงบานใหญ่ ตลอดทั้งแนว เพิ่มมุมมองให้กว้างมากขึ้น เพื่มชมวิวสวนภายในโครงการชั้น 1 ค่ะ

การจัดที่นั่งมีหลายแบบ สามารถเลือกได้หลากหลาย เด็กๆอาจจะอยากนั้งเก้าอี้โค้ง มีพื้นที่วิ่งเล่น หรือผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุอยากนั่งเก้าอี้มีพนักพิงก็สามารถเลือกได้ตามแนวคิดรองรับทั้ง 3 Generation

ชั้น 6 เป็นชั้นพักอาศัยชั้นแรก ห้องที่ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาทเริ่มจากชั้นนี้ค่ะ พื้นที่ส่วนชั้น 6 มี Facilities ค่อนข้างเยอะเลยค่ะ ภายในอาคารจะมีพื้นที่ Co-Kitchen ให้สามารถมาทำอาหาร ใช้ครัวตรงส่วนกลางนี้ได้โดยไม่ต้องใช้ครัวในห้องตัวเอง ส่วนนี้ยังมองออกไปเห็นสวน และมีพื้นที่สำหรับทำ BBQ ในสวนด้วย อีกฝั่งจะมีห้องสมุด, Kids Zone, Waiting Area และห้อง Game Room  ในฝั่งนี้ก็จะเชื่อมต่อกับสวนและสนามเด็กเล่นภายนอกคารค่ะ เด็กๆก็สามารถมาวิ่งเล่นบริเวณนี้ได้โดยมีผู้ปกครองนั่งเฝ้าอยู่ด้านในอาคารได้ คนละฝั่งกับส่วน BBQ และครัว เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายค่ะ

สำหรับการวางผัง ตัวอาคารเป็นรูปตัว U จัดวาง Facilities เอาไว้ตรงกลางแต่ก็มีการกั้นประตูเป็นสัดส่วน ทำให้ห้องพักอาศัยมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ลิฟต์โดยสารมีอยู่ 3 ตัวส่วนลิฟต์บริการ 1 ตัว โดยมีอัตราส่วนลิฟต์เท่ากับ 179 :  1 ถือว่าหนาแน่นพอสมควรอาจจะต้องรอลิฟต์บ้างในช่วงเวลาเร่งด่วน การจัดวางผังห้องจะวางห้องเล็กๆอยู่ตรงกลาง และห้องแบบ 2 ห้องนอนไว้ตรงมุมเพื่อเปิดรับวิวได้หลายฝั่ง

ภาพบรรยากาศส่วน Kids Zone ชั้น 6 มีพื้นที่ส่วนเด็กเล่นและพื้นที่ให้ผู้ปกครองนั่งเผ้าอยู่ข้างๆค่ะ

ภาพบรรยากาศส่วนห้องสมุด ชั้น 6 มีพื้นที่สำหรับอ่านหนังสือ หรือนั่งทำงานเงียบๆได้ในบริเวณนี้ค่ะ ซึ่งจะอยู่ถัดมาจากส่วนของ Kids Zone

ภาพบรรยากาศส่วน Co-Kitchen นอกจากจะมาทำครัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆได้แล้วยังได้วิวสวนและวิวเมืองจากกระจากบานใหญ่รอบๆ ทำให้มองเห็นวิวได้กว้าง

ชั้น 7-19 เป็นชั้นห้องพักทั้งหมด ซึ่งชั้น 7 จะแตกต่างจะชั้นอื่นๆเล็กน้องตรงที่ห้องตรงกลางจะเห็นหลังคาของสวนชั้น 6 ค่ะ โดยชั้นนี้จะมีจำนวนห้องพักเท่ากับ 25 ยูนิตต่อชั้น โถงทางเดินยังเป็นแบบ Double corridor อยู่

ชั้น 8-19 เป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมดค่ะ 25 ยูนิตต่อชั้น ระยะจากโครงการเพื่อเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา จะอยู่ที่ชั้น 15 ชึ้นไปฝั่งทิศตะวันออกค่ะค่ะ ส่วนชั้นประมาณ 7 – 12 ของทั้ง 2 ฝั่งจะสามารถเห็นวิวสวนบริเวณชั้น 6 ได้ค่ะ ห้องพักส่วนใหญ่ทางด้านตะวันออกที่เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ จะเป็นห้อง 2 Bedroom และ 1 Bedroom Plus (34.9 ตารางเมตร) ซึ่งห้อง 1 Bedroom (30 ตารางเมตรส่วนใหญ่จะอยู่ฝั่งทิศตะวันตกค่ะ)

ชั้น 20-29 จะเป็นชั้นแรกที่เป็น Single Corridor ซึ่งจะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเพราะเราเปิดประตูห้องออกมาจะไม่ไปชนกับใคร และยังได้ความโปร่งโล่งจากหน้าต่างบริเวณโถงทางเดินอีกด้วย มีห้องพักจำนวน 16 ยูนิตต่อชั้น ซึ่งชั้น 20 จะแตกต่างจะชั้นอื่นๆเล็กน้อยตรงที่ห้องริมจะเห็นหลังคาของชั้น 19 ค่ะ

ชั้น 20-29 ห้องพักทั้งหมดเป็น Single Corridor มีความเป็นส่วนตัว 16 ยูนิตต่อชั้น เห็นวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาทุกห้อง ห้องมุมและห้องตรงกลางที่สามารถเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบตรงๆ จะเป็นห้อง 2 Bedroom และ 1 Bedroom Plus 4 ห้อง และมีห้อง 1 Bedroom & 1 Bedroom Plus อื่นๆอยู่ทางปีกด้านข้างของตึกค่ะ

ชั้น 30 ยังเป็นพื้นที่ของส่วนพักอาศัย 10 ยูนิตต่อชั้น พื้นที่ทางทิศใต้ถูกทำให้เป็นพื้นที่ติดแผง Solar Cell เพื่อนำพลังงานที่ได้ไปใช้แทนไฟฟ้าแสงสว่างในพื้นที่ส่วนกลาง ทางโครงการบอกว่าจะช่วยให้ราคาค่าส่วนกลางให้ไม่แพงจนเกินไป เป็นการช่วยลูกบ้านทางอ้อมด้วย

ชั้น 31 จะเหมือนชั้น 30 เลยค่ะ ต่างกันตรงที่จะไม่มีพื้นที่ติดแผง Solar Cell

ชั้น 32 พื้นที่ส่วนห้องพักจะเหลือ ฝั่งทิศตะวันออกอย่างเดียวค่ะ มีความเป็นส่วนตัวสูง เนื่องจากยูนิตทั้งหมดในชั้นนี้มีเพียง 6 ห้องเท่านั้นค่ะ และส่วนใหญ่ก็เป็นห้อง 2 Bedroom ค่ะ ด้านฝั่งทิศเหนือเป็นพื้นที่สวน ซึ่งสามารถออกมาชมวิวแม่น้ำและวิวเมืองได้ โดยจะมีประตูกั้นด้วยนะ ไม่ต้องกังวลว่าจะเสียความเป็นส่วนตัวค่ะ

ชั้น 33 ห้องพักจะเหมือนกับชั้น 32 ค่ะ แต่ชั้นนี้จะไม่มีสวน มีแต่ยูนิตพักอาศัยเพียง 6 ยูนิต ซึ่งชั้นนี้จะเป็นชั้นพักอาศัยชั้นที่สูงที่สุดค่ะ

ถัดมาชั้น 34 มีพื้นที่สำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า สระว่ายน้ำมีทั้งสระเด็ก และสระบำบัด (Jacuzzi) ที่มีน้ำผุดๆออกมาช่วยนวดตัวให้ผ่อนคลาย และสระว่ายน้ำปกติ ระเบียงนั่งชมวิวแม่น้ำ มีพื้นที่สำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้าและอาบน้ำด้านในค่ะ จากชั้นนี้เราสามารถเดินขึ้นไปยังชั้น 35 ซึ่งเป็นชั้น Fitness ได้จากบันไดทางด้านซ้ายของอาคาร

ชั้น 35 เป็นพื้นที่ Fitness และ Yoga Area สามารถขึ้นมาออกกำลังกายและชมแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบมุมสูง โดยส่วนของฟิตเนสนี้จะแบ่งออกเป็นโซนผู้หญิงที่เป็นเครื่องเล่นแบบเบาๆและโซนผู้ชายด้วยค่ะ

ภาพบรรกาศห้อง Fitness สามารถวางเครื่องออกกำลังกายได้แบบในภาพ ผนังด้านนอกเป็นกระจกสูงรอบด้าน ให้เห็นวิวแบบเต็มๆเลยค่ะ

ชั้นสูงที่สุดคือชั้น 36 เป็นพื้นที่ Sky Lounge & Co-Working มีมุมเก้าอี้นวดทางด้านซ้าย ด้วยค่ะ สำหรับใครที่ชอบนวดน่าจะถูกใจนะคะ ได้นวดไปด้วยและชมวิวไปด้วยค่ะ

บรรยากาศส่วน Co-Working จำลอง สามารถนั่งทำงานเป็นกลุ่มหรือจะนั่งแยกคนเดียวก็ได้ค่ะ

บรรยากาศ Sky Lounge จำลอง เนื่องจากอยู่ชั้นบนสุดของอาคารก็จะได้วิวในมุมที่กว้างค่ะ

บรรยากาศ Sky Lounge จำลอง ดูชิลล์ๆดี

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• Ground Floor

• Lobby
• Juristic Office
• Nursing Room with First-Aid
• Laundry Room
• Mail Box
• Garden
• Cafe & Minimart
• EV Charger

• Co-Kitchen/BBQ Area
• Library , Kids Zone , Gameroom
• Garden Counter Bar & BBQ
• Playground set
• Training Equipment

• Garden
• Relaxing Zone
• Yoga Area

• Swimming Pool & View Point Deck
• Water Therapy & Water Exercises (Jacuzzi)
• Water Park Equipment in The Kids Pool
• Pool Terrace
• Steam Room

• Fitness & Yoga

• Lounge & Co-Working Area

Product Walkthrough

วันนี้เรามีห้องตัวอย่างมาให้ดู 2 แบบคือ  1 Bedroom ขนาด 30.00 ตารางเมตร และ 1 Bedroom ขนาด 34.9 ตารางเมตร โครงการให้เฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished ครบชุดจาก SB โดยทางเสนาเองเป็นผู้ออกแบบ ทำให้เฟอร์นิเจอร์เข้ากับห้อง และมีการออกแบบให้ Made For Her หรือผู้หญิงสามารถใช้งานได้ง่ายด้วยค่ะ

เรามาเริ่มจากห้อง 1 Bedroom ขนาด 30.00 ตารางเมตรกันก่อนค่ะ  โดยห้องนี้เมื่อเข้าห้องมาจะเจอกับส่วนห้องนั่งเล่นและทานข้าวก่อนเป็นส่วนแรกค่ะ เฟอร์นิเจอร์ได้จะเหมือนห้องตัวอย่างเลย ถัดจากห้องนั่งเล่นจะแยกเป็นห้องครัวและห้องนอน ห้องนั่งเล่นจะมีโต๊ะกินข้าวอยู่ตรงมุมห้องติดกับครัว นั่งได้ประมาณ 2 ที่นั่ง ซึ่งครัวที่นี่ให้เป็นครัวปิดกั้นด้วยประตูเป็นสัดส่วนสามารถกันกลิ่นและควันได้บ้าง สามารถทำอาหารจริงจังได้เลย ต้มผัดแกงทอดได้เต็มที่ โดยสามารถเปิดประตูตรงระเบียงเพื่อระบายอากาศได้ แต่พื้นที่ตรงส่วนครัวมีไม่มากจึงไม่มีที่วางเครื่องซักผ้าภายในห้อง ต้องวางที่ระเบียงค่ะ ซึ่งโครงการได้เดินท่อและปลั๊กไฟไว้ให้แล้ว ในส่วนห้องน้ำจะอยู่ติดกับห้องนั่งเล่น แยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน กั้นส่วนอาบน้ำด้วยบานกระจกไม่มีกรอบ (Frameless) ห้องนอนตั้งเตียงขนาด 6 ฟุต มีหน้าต่างบานกระจกกรอบอลูมิเนียมอยู่ตรงกลางเพื่อเปิดรับวิว และมีตู้เสื้อผ้าให้ที่บริเวณปลายเตียงค่ะ ถือเป็นห้องที่มีฟังก์ชันที่ลงตัว

Digital Door Lock ที่โครงการให้ สามารถรองรับได้ทั้งระบบ Key Card ใส่รหัสและกุญแจ

เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อนค่ะ มีประตูกระจกกรอบอลูมิเนียมกั้นห้องครัวและห้องนอน ประตูตรงส่วนของห้องนอนเป็นบานสูงค่ะ ทำให้ห้องที่พื้นที่ไม่มากดูโปร่งขึ้นค่ะ เหนือประตูห้องครัวจะที่ติดตั้งแอร์ ทำให้แอร์หันเข้าข้างตัวจะรู้สึกสบายกว่าหันเข้าด้านหน้าจังๆ

ห้องนั่งเล่นจะมีระยะดู TV ที่ 2.85 เมตร ซึ่งเหมาะกับการตั้ง TV ขนาด 32-42 นิ้วค่ะ เฟอร์นิเจอร์ที่ให้มามี โซฟา ชั้นวาง TV และชุดรับประทานอาหารค่ะ (ไม่ได้ให้เครื่องใช้ไฟฟ้า)

ตู้ควบคุมไฟฟ้าจะติดอยู่ที่บริเวณหน้าห้องใกล้กับ TV

โซฟาห้องนั่งเล่นมีช่องเก็บของสามารถเปิดได้ 3 ช่องค่ะ 2 ช่องด้านล่าง และช่องที่วางแขนอีก 1 ช่อง ทำให้สามารถเก็บของเยอะ ประหยัดพื้นที่ในการตั้งตู้เก็บของ และตัวโซฟายาว 1.5 เมตร มีที่วางแขนด้านเดียวสามารถนอนยื่นขาที่โซฟาได้

ช่องเปิดเก็บของบริเวณที่วางแขน เป็นช่องยาวและลึกสามารถใส่ของได้เยอะค่ะ จะเป็นหนังสือ หนังสือพิมพ์หรือนิตยสารก็ได้ หรือจะเป็นของใช้เล็กๆน้อยๆเช่นรีโมตTV  รีโมตแอร์ ก็หยิบสะดวก

ชั้นวาง TV มีช่องเก็บของหลายช่อง และลิ้นชักเปิดได้ 2 ช่อง วัสดุบานเป็นเมลามีนลายไม้ โดยชั้นล่างสามารถใช้เก็บรองเท้าได้ด้วยค่ะ

ส่วนของโต๊ะรับประทานอาหาร พื้นที่ส่วนที่เหลือค่อนข้างแคบ ทำให้นั่งได้ฝั่งเดียว คือนั่งหันหน้าเข้าผนังค่ะ แนะนำให้จัดเป็นโต๊ะหันข้าง ให้ด้านยาวติดผนังและนั่งฝั่งเดียวแทน จะสะดวกมากขึ้นค่ะ ช่องผนังด้านหลังสามารถใส่ชั้นวางของเหนือโต๊ะรับประทานอาหารเป็นมุมของสะสมของตัวเองได้ค่ะ

ประตูส่วนครัวเป็นประตูกระจกบานเลื่อนอลูมิเนียมสีดำเปิด 3 ตอนให้พื้นที่ทางเดินกว้างขึ้น และเนื่องจากเป็นบานกระจกข้อดีคือจำทำให้ห้องดูโปร่งไม่อึดอัด เพราะครัวมีขนาดเล็ก และยังทำให้เห็นวิวภายนอกจากห้องนั่งเล่นได้ด้วยค่ะ

มาดูส่วนครัวกันค่ะ จะมีที่วางตู้เย็น สูง 1.70 m กว้าง 0.75 m ส่วนครัวบานตู้เป็นเมลามีนลายไม้ทั้งหมด  Top วัสดุเป็นหินสังเคราะห์สีดำ ระยะทางเดินของส่วนครัวประมาณ 0.80 m ซึ่งสามารถทำกับกับข้าวหรือล้างจานได้สะดวกถ้าอยู่คนเดียวค่ะ ในส่วนครัวจะติดกับระเบียง ซึ่งกั้นด้วยบานประตูกระจก 3 ตอนเหมือนกับตรงส่วนก่อนเข้าห้องครัวค่ะ

สิ่งของที่ได้ในครัวจะมี เคาน์เตอร์พร้อมตู้เก็บของ Top เป็นหินสังเคราะห์สีดำพร้อมอุปกรณ์แขวนจานแบบในรูป อ่างล้างจานของ HAFELE ที่มีฟังก์ชันทำฝาปิดอ่างให้ เนื่องจากพื้นที่ในการทำครัวค่อนข้างจำกัด เมื่อปิดฝาอ่างล้างจานไว้จะสามารถทำให้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารได้ค่ะ ถ้าจะใช้ล้างจานก็เปิดฝาออก นอกจากนั้นยังได้เตาไฟฟ้า และชั้นแขวนจานอลูมิเนียมด้วย

มาลองเปิดตู้เก็บของห้องครัวที่โครงการให้กันค่ะ บานเปิดใต้อ่างล้างจานมีถังขยะติดไว้ให้ เวลาเปิดถังขยะก็จะเปิดให้เลยค่ะ ด้านบนจะเป็นช่องเป็บของและช่องเก็บจาน สามารถดึงลงมาเพื่อให้หยิบสะดวกขึ้น (รูปต่อไป) อันนี้ก็ออกแบบ Made For Her นะคะ ผู้หญิงตัวเล็กก็สามารถดึงลงมาได้

เราลองดึงชั้นวางจานลงมาให้ดูกันค่ะ ช่วยให้ผู้หญิงตัวเล็กๆหยิบได้สะดวกขึ้น นอกจากจะเก็บง่ายแล้วจะได้ไม่เกิดอันตรายจากการเอื้อมไปหยิบไม่ถึงด้วยค่ะ

ตู้เก็บของด้านบนตู้เย็นเก็บของได้ 2 ชั้นค่ะ อันนี้เก็บพวกของกิน ขนม อาหารแห้งได้ค่ะเนื่องจากอยู่ใกล้ๆตู้เย็น หยิบสะดวก

ทางออกไปที่ระเบียงกั้นด้วยประตูบานเปิดแบบ 3 ตอน ซึ่งพอเปิดเต็มที่แล้วจะทำให้มีช่องเปิดที่กว้างพอสมควร มีระยะพอที่จะยกของเข้าออกได้สะดวก เนื่องจากพื้นที่ครัวมีขนาดจำกัดทำให้ต้องวางเครื่องซักผ้าไว้ที่ระเบียงค่ะ

ส่วนของระเบียงจะเป็นพื้นที่ตั้ง Condensing Unit ตั้งแบบหันข้างค่ะ ซึ่งจะทำให้มีลมร้อนออกทางด้านข้างแนะนำให้ซื้อแผงเปลี่ยนทิศทางลมมาติดตั้งเพิ่มเติมค่ะ หาได้ตามร้านสินค้าตกแต่งบ้านทั่วไปค่ะ  และจะเห็นว่าทางโครงการมีปลั้กไฟและท่อระบายน้ำเตรียมไว้เผื่อติดตั้งเครื่องซักผ้าให้มาให้เรียบร้อย

พื้นที่ระเบียงกว้าง 1.10 x 1.65 m ยกธรณีสูง 7 cm เพื่อกันไม่ให้น้ำเข้าเวลาฝนตกหรือเวลาล้างระเบียง

ถัดมาเราไปดูห้องน้ำกันบ้างค่ะ ห้องน้ำจะอยู่ฝั่งขวามือเมื่อเข้ามาจากด้านหน้าห้องฝั่งที่ติดตั้ง TV ค่ะ

ห้องน้ำจะแยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน กั้นส่วนอาบน้ำด้วยประตูกระจก Tempered Glass บานเปลือย ยกขอบ 7 cm พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้าน กันลื่น แยกสีกันระหว่างส่วนเปียกและส่วนแห้ง ผนักกรุด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวมันลายหิน

ห้องน้ำมีการลดระดับจากห้องประมาณ 5 เซนติเมตร ช่วยไม่ให้น้ำกระเด็นเข้าห้องเวลาพื้นห้องน้ำเปียกค่ะ แต่สำหรับผู้สูงอายุจะไม่เหมาะกับผู้ใช้งานที่ใช้ Wheelchair นะ

ส่วนอ่างล้างหน้าเป็นอ่างเซรามิคสีขาวยี่ห้อ Kohler ก็อกน้ำของ ENGLEFIELD และกระจกบานสูงค่ะ

พื้นที่ส่วนแห้งกว้าง 1.55 เมตรเป็นระยะที่นั่งแล้วไม่รู้สึกว่าแคบเกินไปค่ะ สุขภัณฑ์ สายชำระ และอ่างล้างหน้า ยี่ห้อ Kohler

ฝักบัวที่ได้เป็นฝักบัว Kohler มี Rain Shower ก็อก ENGLEFIELD ค่ะ สามารถติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นได้ มีเดินงานระบบมาให้พร้อม ผนังอีกฝั่งของส่วนอาบน้ำจะมีช่องให้วางสบู่ แชมพู หรือของตกแต่งได้ นอกจากนั้นส่วนอาบน้ำยังออกแบบให้มีที่นั่งด้วย สำหรับผู้ใหญ่ที่ไม่อยากยืนอาบน้ำนานๆ รองรับ 3 Generation ตามแนวคิดการออกแบบของโครงการ

ฝักบัว Kohler ดีไซน์จับถนัดมือ

ถัดมาเป็นห้องนอนค่ะ ประตูของห้องนอนเป็นบานกระจกกรอบอลูมิเนียม บานสูงดูโปร่งโล่ง ใช้งานจริงอาจจะติดม่านเพิ่มเติมเพื่ความเป็นส่วนตัว

ห้องนอนมีหน้าต่างบานใหญ่อยู่ด้านข้าง สามารถเห็นวิวได้ค่ะ เฟอร์นิเจอร์ที่จะได้ห้องนี้คือเตียง และตู้เสื้อผ้าค่ะ (โต๊ะข้างเตียงไม่ได้)

ตัวเตียงก็ออกแบบมาให้เก็บของด้านล่างได้ ด้านซ้ายเป็นช่องว่างไม่มีฝาปิด 3 ช่องเหลือพื้นที่ โดยรอบ 0.7 m  ช่องนี้เหมาะสำหรับเก็บเป็นหนังสือ หรือของใช้ทั่วไปที่ไม่ต้องเก็บให้มิดชิดนัก ส่วนด้านขวาเป็นลิ้นชักยาว 1 ช่อง เหลือพื้นที่ โดยรอบ 0.65 m ค่ะเหมาะสำหรับเก็บผ้าห่ม หรือปลอกหมอนสำรองค่ะ  พื้นที่ด้านข้างสามารถเดินใช้งานได้ 2 ฝั่ง แบบไม่อึดอัด

ปลายเตียงจะมีพื้นที่เหลือประมาณ 0.5 m ค่ะ สามารถเดินผ่านได้สบายๆ แต่จะติดถ้าเปิดประตูตู้เสื้อผ้าตอนแต่งตัวค่ะ เพราะพื้นที่ค่อนข้างแคบ ดังนั้นทางโครงการจึงมีการเปลี่ยนประตูตู้ให้เป็นบานเลื่อนเพื่อให้ใช้งานได้สะดวกขึ้นค่ะ

ตู้เสื้อผ้าออกแบบให้เปิดได้ 3 บาน บานริมเป็นกระจกแต่งตัว ซึ่งออกแบบมาไม่ใช้บานกระจกสะท้อนกับเตียง จะทำให้รู้สึกไม่ดีตอนนอนได้ ซึ่งถือว่าได้ตู้เสื้อผ้าที่ได้ใหญ่พอสมควรเลยค่ะ เก็บได้ทั้งแบบแขวน 3 ราว และมีช่องเก็บของด้านบนอีก 6 ช่อง ด้านล่าง 3 ช่องและลิ้นชักอีก 3 ชั้น

มีลิ้นชักมาให้เก็บของ 2 ชั้น แต่เนื่องจากพื้นที่ปลายเตียงมีไม่มาก ถ้าเป็นบานเปิดจะเปิดไม่ค่อยสะดวก โดยทางโครงการเปลี่ยนเป็นบานเลื่อนมาให้ค่ะ

ตำแหน่งติดแอร์จะอยู่ที่ปลายเตียงเยื้องไปทางบริเวณประตู ไม่ชนกับเตียงโดยตรงและมีพื้นที่เล็กน้อยพอว่าโต้ะเครื่องแป้งเล็กๆได้ค่ะ

สวิตซ์ไฟของ Schneider ค่ะ ทำจากพลาสติกสีขาว

ดูห้องแรกกันไปแล้วเรามาดูห้องตัวอย่างที่ 2 กันค่ะ กับห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด  34.9 ตารางเมตร มีการจัด Layout ที่เป็นสัดส่วนกว่าแบบห้อง 30 ตารางเมตรนะคะโดยเมื่อเข้าห้องมาจะเป็นส่วนครัวก่อนซึ่งเป็นครัวปิดสามารถทำอาหารได้ แต่การระบายอากาศจะต้องพึ่งเครื่องดูดควันเท่านั้น ไม่มีประตูเปิดระบายอากาศที่ระเบียงได้แบบห้อง 1 Bedroom  แต่ข้อดีคือจะได้พื้นที่ใช้สอยมากกว่ามากกว่าโดยจสามารถวางเครื่องซักผ้าเพิ่มขึ้นมา ทำให้ไม่ต้องเสียพื้นที่วางเครื่องซักผ้าที่ระเบียง และนอกจากนั้นยังมีพื้นที่ห้องทำงานที่สามารถชมวิวได้ เป็นห้องที่ Plus เข้ามาอีกด้วยค่ะ ห้องนั่งเล่นก็สามารถเปิดประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อกับห้องนอนได้โดยจะทำให้พื้นที่กว้างและโปร่งมากขึ้น ส่วนของตู้เสื้อผ้าก็ถูกจัดเข้ามุมเป็น Walk-in Closet ก่อนเข้าห้องน้ำ ทำให้เป็นสัดส่วนขึ้นค่ะ แต่ก็มีข้อเสียคือเมื่อจะเข้าห้องน้ำต้องเดินผ่านห้องนอนก่อนทุกครั้ง อาจจะทำให้เสียความเป็นส่วนตัวเวลามีแขกมาได้

เมื่อเข้าห้องมาจะเจอกับส่วนครัวและที่วางเครื่องซักผ้าค่ะ ข้อดีคือเครื่องซักผ้าไม่ต้องไปวางที่ระเบียงช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องซักผ้า และเป็นสัดส่วนไม่มีอะไรไปบังวิวที่ระเบียง โดยชุดครัวทางด้านขวามือจะเหมือนกับครัวของห้อง 1 Bedroom ปกติทุกอย่างค่ะ

ด้านซ้ายที่เพิ่มขึ้นมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าแล้วยังมีชั้นเก็บของและชั้นวางรองเท้าให้ดูเป็นสัดส่วนและเรียบร้อยค่ะ ซึ่งแบบ 30 ตารางเมตรจะไม่มีพื้นที่เก็บรองเท้าให้ค่ะ

ช่องวางเครื่องซักผ้าขนาด 7 กิโลกรัม หรือเครื่องซักผ้าที่สูงไม่เกิน 1.13 m และกว้างไม่เกิน 0.75 m

ครัวแบบเดียวกับห้อง 1 Bedroom 30 ตารางเมตรค่ะ แต่อยู่ด้านหน้า สามารถวางตู้เย็นได้สูงไม่เกิน 1.70 m และกว้างไม่เกิน 0.75 m

ชั้นวางของและช่องต่างๆถูกออกแบบมาจากเสนา และให้ SB ผลิตให้การใช้งานลงตัวกับพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง และยะออกแบบโดยการคำนึงถึง Made For Her ผู้หญิงก็ใช้งานง่ายและสะดวก

ประตูกันส่วนครัวเป็นประตูกระจกบานกรอบอลูมิเนียมสีดำ แบ่ง 3 ตอนเหมือนกับห้อง 1 Bedroom ปกติ และสามารถมองเห็นห้องและวิวด้านนอกได้ตั้งแต่อยู่ด้านหน้าค่ะ เนื่องจากประตูเป็นกระจกทั้งหมด ทำให้ห้องดูโปร่งและไม่อึดอัด

ส่วนนั่งรับประทานอาหารจะมีพื้นที่มากขึ้น โดยสามารถนั่งได้ 2 คน แต่อยู่ฝั่งเดียวกับ TV ทำให้จะทานอาหารไปดู TV ไปพร้อมๆกันไม่ได้ค่ะ

ระยะดู TV ของห้อง 1 Bedroom Plus นี้จะสั้นกว่าห้อง 1 Bedroom 30 ตารางเมตรเล็กน้อย โดยระยะดู TV อยู่ที่ 2.00 m โดยเหมาะสมกับการวาง TV ขนาด 26-32 นิ้วถ้านั่งดูค่ะ แต่ถ้านอนดูที่เตียง ก็จะสามารถเพิ่มขนาดของ TV ได้ถึง 50-55 นิ้ว

เฟอร์นิเจอร์ที่ได้จะคล้ายๆกับห้อง 1 Bedroom 30 ตารางเมตรค่ะ ฟังก์ชันจะต่างกันเล็กน้อย

โซฟาขนาด 1.5 m มีที่วางแขนฝั่งเดียวเพราะคำนึงถึงการใช้งาน ว่าคนส่วนใหญ่ชอบนอนที่โซฟาที่กั้นฝั่งเดียวจะทำให้ยืดขาได้สบายขึ้นค่ะ และมีช่องเก็บของ 3 ช่อง

ประตูที่กั้นระหว่างห้องทำงานและห้องนั่งเล่นเป็นกระจกบานสูงเปิด 2 ตอนทำให้ห้องดูโล่งแต่ก็แยกสัดส่วนได้ดีค่ะ

พื้นที่ส่วนที่นั่งทำงานจะได้เฟอร์นิเจอร์เป็นโต้ะไม้ยาวพอดีกับขนาดของห้อง (เก้าอี้และตู้ชั้นวางไม่ได้นะคะ) สามารถมองเห็นวิวได้ชัดเจน หน้าต่างบริเวณนี้เป็นบานเปิด 2 ตอนค่ะ ใครมีเด็กเล็กแล้วทำเป็นห้องของเด็กต้องระวังเรื่องการปีนป่ายนะคะ อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ค่ะ

โต๊ะทำงานที่โครงการให้กว้าง 40 cm ซึ่งอาจจะไม่พอสำหรับบางคนที่ใช้นั่งทำงานจริงๆ อาจจะซื้อโต๊ะมาเสริมได้ค่ะเนื่องจากพื้นที่ความลึกทั้งหมดของห้องทำงานอยู่ที่ 1 เมตร

ส่วนของลิ้นชักโต๊ะทำงานที่ได้มาค่ะ

ถัดมาเราไปดูห้องนอนกันดีกว่าค่ะ ห้องนอนจะถูกกั้นด้วยประตูกระจก 3 ตอน ทำให้ห้องดูกว้าง สามารถเลื่อนให้ชิดได้ทั้ง 2 ฝั่งเลยค่ะ ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็สามารถหาม่านมาปิดเพิ่มได้

กรอบบานบริเวณพื้นจะไม่ยกสูงมากค่ะ ทำให้เดินได้ไม่สะดุด

ห้องนอนสามารถมองวิวได้เป็นมุมกว้างเนื่องจากเป็นบานกระจกกว้างเต็มผนัง และส่วนระเบียงได้ยก Condensing Unit ขึ้นด้านบน ทำให้ใช้พื้นที่ระเบียงได้ทั้งหมด ตัวเตียงจะมีช่องเก็บของทั้ง 2 ฝั่งเหมือนกับห้องตัวอย่างแรกค่ะ

ระยะด้านข้างเตียงมีพื้นที่พอสมควร ใชั้งานได้ทั้ง 2 ฝั่ง แต่จะแคบตรงระยะปลายเตียงจะอยู่ใกล้กลับประตู 25 cm. ทำได้เดินได้แบบเอียงตัวเข้าไปค่ะ

มุมมองที่สามารถเห็นวิวได้กว้างจากห้องนอน เนื่องจากประตูไปยังระเบียงเป็นกระจก บานเลื่อน 2 ตอน กว้างและยก Condensing Unit ไว้ด้านบนค่ะ

ระเบียงของห้อง 1 Bedroom Plus จะมีพื้นที่มากกว่าแบบ 30 ตารางเมตร กว้าง 0.8 m ยาว 2.5 เมตร ข้อดีของการยก Condensing Unit ไว้ด้านบนปล่อยลมออกด้านนอกคือทำให้ไม่บังวิวและจะไม่มีลมร้อนอยู่ที่ระเบียงด้วยค่ะ

พื้นระเบียงลดต่ำกว่าระดับห้องประมาณ 7 cm เนื่องจากกันน้ำเข้าเวลาฝนตกหรือตอนล้างระเบียงค่ะ

พื้นที่ติดแอร์จะอยู่ที่ด้านบน ปล่อยลมด้านข้างลำตัวถือว่าดีค่ะ เพราะลมเย็นไม่โดนตัวเราแบบจังๆซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นอาจจะทำให้ไม่สบายได้ ต่อไปเราไปชมห้องน้ำกันดีกว่า

ก่นจะถึงห้องน้ำเป็นมุม Walk in Closet เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วแต่งตัวได้เลย ตู้ออกแบบให้เปิดได้ 3 บานเข้ามุม เป็นสัดส่วนดีค่ะ

ด้านในตู้เสื้อผ้าทั้ง 2 ฝั่งค่ะ ด้านซ้ายคือตู้เสื้อผ้าซ้านมือ และด้านขวาคือตู้ด้านหน้าค่ะ  จะมีช่องเก็บพวกหมอนผ้าห่ม ด้านบนด้วยค่ะ

เปิดแต่บานด้านหน้าอย่างเดียวค่ะ ด้านในแบ่งช่องให้ใช้ฟังก์ชันได้หลากหลายตามภาพ

ส่วนของช่องเก็บของภายในตู้ ด้านบนเก็บหมอนได้ แบ่งเป็น  4 ช่องใส่ของได้เยอะพอสมควรเลยค่ะ ด้านล่างเป็นลิ้นชักเปิดได้ 3 ชั้น เนื่องจากห้องนี้มีพื้นที่เยอะกว่าห้องตัวอย่างแรกทำให้ใช้งานในส่วนของตู้เสื้อผ้าได้เต็มที่มากกว่าค่ะ

ห้องน้ำจะให้วัสดุ สุขภัณฑ์ เหมือนกับห้อง 1 Bedroomปกติค่ะ แยกส่วนแห้งส่วนเปียกชัดเจน ได้กระจกบานใหญ่ และพื้นที่นั่งโถสุขภัณฑ์ไม่อึดอัด บานกั้นห้องอาบน้ำเป็นกระจกเปลือย ยกขอบ 7 cm

ห้องนี้ออกแบบให้ที่นั่งและช่องเก็บของอยู่ฝั่งฝักบัวเลยค่ะ ทำให้ห้องอาบน้ำมีพื้นที่กว้าง

พื้นห้องน้ำลดระดับจากห้องนอนประมาณ 5 cm และยกขอบกั้นระหว่างส่วนเปียกกับส่วนแห้ง 7 cm. ค่ะ

2 Bedroom ขนาด 49.5 ตร.ม. ห้องนี้เข้ามาเจอครัวก่อน โดยจะมีการกั้นแยกเป็นสัดส่วนด้วยประตูบานเลื่อน ถัดเข้ามาจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นและทานข้าวซึ่งเชื่อมต่อกับระเบียง เป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว แยกออกจากโซนห้องนอนไปเลย โดยห้องนอนกั้นแยกเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัวดี มีห้องนอนเล็ก 1 ห้องและห้องนอนใหญ่อีก 1 ห้อง ดูจากในแปลนยังมีพื้นที่เหลือสำหรับวางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆเช่นโต๊ะทำงานเพิ่มเติมนะ ห้องนี้มีห้องน้ำให้ใช้ร่วมกันห้องเดียวนะคะ แต่มีการกั้นส่วนโถสุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำแยก ทำให้เราสามารถใช้งานหลายคนในเวลาเดียวกันได้ อีกคนเข้าห้องน้ำ อีกคนก็อาบน้ำได้

2 Bedroom ขนาด 60 ตร.ม. ห้องนี้แนวคิดในการจัดผังคล้ายๆกับห้องแบบ 49.5 ตร.ม. นะคะ แต่เนื่องจากพื้นที่ใช้สอยเยอะกว่า การจัดผังจึงเป็นสัดส่วนกว่าคือได้ส่วนนั่งเล่น-ทานข้าวที่พื้นที่ใหญ่ขึ้น แต่ครัวอาจจะมีขนาดพอๆกันกับห้องแบบ 49.5 ตร.ม. ซึ่งกั้นเป็นสัดส่วนเป็นแบบครัวปิด มีห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ให้ใช้อย่างเป็นส่วนตัวเลย รวมถึงมีพื้นที่ Walk-in Closet ด้วย

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 24 July 2018

• 1 Bedroom เนื้อที่ 30.00 ตร.ม. ราคา 2.19 ล้านบาท หรือ 73,000 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus เนื้อที่ 34.90 ตร.ม. ราคา 2.90  ล้านบาท หรือ 83,000 บาท/ตร.ม.
• 2 Bedroom เนื้อที่ 49.50-60 ตร.ม. ราคา 4.1  ล้านบาทขึ้นไป

• Fully Furnished
• ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
• Kitchen & Sink
• Hob & Hood
• Shuttle Car  2 คัน รับลูกค้าที่จอดรถเสนาเฟส และ Shuttle van 2 คันรับส่ง รถไฟฟ้าและห้างฯ
• จอง 10,000 บาท (1 BED) , 20,000 บาท (2BED)
• ทำสัญญา 40,000 บาท
• ดาวน์ 12% ผ่อนดาวน์  25 งวด 
• ค่ากองทุน 700 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

เจาะลึกรวบยอด

ทำเล

ที่ตั้งของโครงการ Niche MONO เจริญนคร เป็นโครงการติดถนนเจริญนคร บริเวณฝั่งธนบุรี  ใกล้กับสะพานกรุงเทพ สะพานพระราม3 และทางด่วน สามารถเดินทางเข้าเมืองสะดวก สามารถใช้เส้นทางวิ่งเข้าถนนเจริญนคร ไปออกถนนกรุงธนบุรี ข้ามสะพานตากสินไปก็ถึงย่านสาทรแล้ว หรือจะเดินทางไปยังถนนพระราม 4 หรือพระราม  3 ก็ได้ค่ะ โดยโครงการจะอยู่ค่อนลงมาทางฝั่งถนนราษฎร์บูรณะ ซึ่งแหล่งความอุดมสมบูรณ์โดยรอบทำเล ในระยะใกล้ถือว่าไม่ค่อยสมบูรณ์นักเนื่องจากหาของกินยาก แต่โดยรอบห่องออกไปประมาณ 3-5 กิโลเมตรถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์พอสมควร มีทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า ตลาด หนาแน่นในพื้นที่ใกล้กับวงเวียนใหญ่ และบริเวณที่ใกล้กับรถไฟฟ้า จากโครงการสามารถเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้า หรือร้านอาหารอื่นๆใกล้กับวงเวียนใหญ่ได้สะดวก

การเดินทางโดยใช้รถ

การเดินทางมายังโครงการ สามารถใช้ได้หลายเส้นทาง เช่น ถนนพระราม 3 ถนนเจริญกรุง ถนนเจริญนคร และถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน เพื่อมายังถนนเจริญนครฝั่งราษฎร์บูรณะ หรือจะมาจากทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษเฉลิมมหานครก็ได้ โดยจากโครงการสามารถขึ้นทางด่วนที่ใกล้ที่สุด คือทางพิเศษเฉลิมมหานคร ห่างจากโครงหาร 5.2 กิโลเมตร โดยออกจากโครงการมุ่งหน้าไปยังถนนพระราม3 เพื่อกลับรถมายังถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน และเลี้ยวขวาเข้าถนนพระราม2 ก่อนขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานคร ที่จอดรถประมาณ 339 คันคิดเป็น 63% รวมซ้อนคัน และที่เสนาเฟส 150 คัน คิดเป็น 28% ซึ่งถือว่าค่อนข้างเยอะ เมื่อเทียบกับคอนโดทั่วไป

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถสามารถใช้บริการวินมอไซค์ด้าหน้าโครงการ หรือถไฟฟ้า BTS สถานีกรุงธนบุรีที่ห่างจากโครงการ 4.9 กิโลเมตร ก็ได้โดยทางโครงการมีรถ Shuttle car  2 คัน รับลูกค้าที่จอดรถเสนาเฟส และ Shuttle van 2 คันรับส่ง รถไฟฟ้าและห้างฯ หรือจะไปยังสถานีตลาดพลู ห่างจากโครงการ 2.7 กิโลเมตรก็ได้โดยนั่งวินจากด้านหน้าโครงการ นอกจากนั้นยังมีตัวเลือกกอีกหนึ่งทาง คือโดยสารทางเรือ ซึ่งท่าเรือราษฎร์บูรณะอยู่ห่างจากโครงการ 3.3 กิโลเมตร โดยเริ่มจากการนั่งวินมอไซค์หน้าโครงการ หรือเรียก Taxi ให้ไปส่งยังท่าเรือ ราษฎร์บูรณะ เพื่อไปยังท่าเรือสาทรหรือแวะท่าเรือต่างๆริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้

วัสดุ

วัสดุที่ให้มากับโครงการนี้ถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐานทั่วไป เนื่องจากโครงการนี้เป็นให้ เฟอร์นิเจอร์แบบ Fully  Furnished สั่งทำเฟอร์นิเจอร์จาก SB บานตู้ต่างๆใช้วัสดุเมลามีนลายไม้ มี Soft Close ที่ตู้ครัว Top ครัวเป็นหินสังเคราะสีดำ อ่างล้างจานของ HAFELE เครื่องดูควันแบบหมุนเวียนอากาศยี่ห้อ MEX ก็อกน้ำทั้งหมดของ ENGLEFIELD  กระเบื้องห้องน้ำแกรนิตโต้ขนาด 60×60 cm สุขภัณฑ์ สายชำระ และฝักบัวของ Kohler  กระเบื้องระเบียงเป็นเซรามิค ซึ่งวัสดุต่างๆถือว่าเหมาะสมกับราคาเฉลี่ยของโครงการ

การออกแบบโครงการ มีส่วนของพื้นที่ส่วนกลางกระจายอยู่ตามชั้นต่างๆ และส่วนใหญ่อยู่ที่ชั้นบนอาคาร ทำให้สามารถดูวิวเมืองได้กว้าง ไม่ว่าจะอยู่ชั้นไหนของอาคารก็สามารถขึ้นมาดูวิวด้านบนได้เหมือนกันจากการใช้งาน Facilities 3 ชั้นด้านบนสุด คือสระว่ายน้ำ, Steam Room, Fitness, Co-Working และมีส่วนเก้าอี้นวด ชมวิว เป็นต้น มีจุดเด่นที่ออกแบบโดยรองรับการใช้งานของคนทั้ง 3 Generation ทั้งส่วนของ Facilities ชั้น 6 เช่น พื้นที่ห้องสมุด, Kids Zone, Waiting Area และห้อง Game Room  ในฝั่งนี้ก็จะเชื่อมต่อกับสวนและสนามเด็กเล่นภายนอกคาร ทำให้เด็กๆสามารถมาวิ่งเล่นบริเวณนี้ได้โดยมีผู้ปกครองนั่งเฝ้าอยู่ด้านในอาคาร คนละฝั่งกับส่วน BBQ และครัว เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย เป็นต้น

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของโครงการนี้คือ ออกแบบให้มีห้องพักอาศัยที่เป็น Single Corridor เยอะทำให้ห้องเป็นส่วนตัว ห้องตั้งแต่ชั้น 15 ขึ้นไปฝั่งทิศตะวันออกสามารถเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาได้ ซึ่งไม่มีโครงการอื่นในระดับเดียวกันทำค่ะ ส่วนใหญ่จะราคาสูงกว่านี้แทบทั้งหมด

การออกแบบห้องพัก แบบ 1 Bedroom Plus ทำได้ดีกว่าแบบ 1 Bedroom ปกติเนื่องจากพื้นที่การใช้สอยภายในห้องเป็นสัดส่วนกว่าแบบธรรมดา โดยเพื่มพื้นที่ขึ้นมาเพียง 4.9 ตารางเมตร ได้พื้นที่วางเครื่องซักผ้า ที่เก็บของด้านหน้า ที่วางรองเท้า ส่วน Walk in Closet และยังเพิ่มพื้นที่ส่วนห้องทำงานด้วย

สาธารณูปโภค

สาธารณูปโภคของโครงการมีค่อนข้างเยอะ และรองรับการใช้งานได้หลาย Generation เช่น Facilities 3 ชั้นด้านบนสุด คือสระว่ายน้ำ, Steam Room, Fitness, Yoga Area, Lounge, Co-Working และมีส่วนเก้าอี้นวด ชมวิว ส่วนของ Facilities ชั้น 6 เช่น พื้นที่ Co-Kitchen ให้สามารถมาทำอาหาร ใช้ครัวตรงส่วนกลางนี้ได้โดยไม่ต้องใช้ครัวในห้องตัวเอง มองออกไปเห็นสวนและมีพื้นที่สำหรับทำ BBQ ในสวนด้วย อีกฝั่งจะมีห้องสมุด, Kids Zone, Waiting Area และห้อง Game Room  ในฝั่งนี้ก็จะเชื่อมต่อกับสวนและสนามเด็กเล่นภายนอกคาร มีห้อง Nursing สำหรับปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากเกิดเหตุฉุกเฉิน มีกล่องปฐมพยาบาลและเครื่อง AED กระตุ้นหัวใจ ซึ่งแสดงถึงความใส่ใจของโครงการต่อลูกบ้าน และมีอัตราส่วนที่จอดรถที่มีมาให้มาก ทำให้น่าจะเพียงพอต่อการใช้งาน แต่ลิฟท์ 3+1 ตัวต่อค่อนข้างหนาแน่น ทำให้ช่วงเวลาเร่งด่วนอาจจะต้องรอนานพอสมควร แต่โดยรวมแล้วโครงการมี Facility ค่อนข้างเยอะในระดับที่ราคาใกล้เคียงกันที่อื่น ที่นี่ถือว่าสาธารณูปโภคครบครันค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคา AVG 86,000  บาท/ตร.ม., 24 July 2018

• ทำเล 7.25/10 – ตั้งอยู่ติดถนนเจริญนครช่วงปลาย หาของกินยากต้องต่อรถ แต่ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา
• เดินทางด้วยรถ 8.00/10 – มีทางเข้าเมืองสะดวกไปยัง สาทร ถนนพระราม 4 ถนนพระราม 3 และใกล้ทางด่วน
• ไม่ใช้รถ 7.75/10 – มีวินมอไซค์อยู่หน้าโครงการ และโครงการมีรถรับ-ส่งไปยังสถานี BTS
• วัสดุ 8.00/10 – ให้แบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ครบ วัสดุคุณภาพมาตรฐานทั่วไป
• แบบ 8.50/10 – ออกแบบผังโครงการให้มี Single Corridor การจัดผังห้องลงตัวโดยเฉพาะห้อง 1 Bedroom Plus
• สาธารณูปโภค 8.00/10 – มีครบครัน และคำนึงถึงผู้ใช้งานแต่ละ Generation

• MAIN CLASS
• 7.75 / 10.00

BOTTOM LINE

Niche MONO เจริญนคร เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ต้องการความ Private ในราคาไม่สูงนัก และชื่นชอบในทำเลย่านนี้  ใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก อาศัยอยู่กันเป็นครบครัวใหญ่ มีคนหลายวัยในครอบครัว  ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลาง มีงบประมาณระดับ 2-6 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 15,000 – 42,000 บาท/เดือน