รีวิวฉบับที่ 1417… สวัสดีครับ Modiz รัชดา 32 เป็นอีกหนึ่งคอนโด Low Rise ตัวใหม่ล่าสุดของ AssetWise หลังจากที่พึ่งเปิดตัว Atmoz ในซอยลาดพร้าว 71 ได้ไม่นาน ก็มาต่อในในย่านรัชดา-ลาดพร้าวกันเลย ทำเลที่ตั้งซอยรัชดา 32 แม้จะไม่ติดถนนใหญ่แต่เดินทางด้วยรถยนต์สะดวกมาก เพราะมีทางลัดให้ทะลุไปออกถนนใหญ่ได้หลายทางทั้งรัชดา ลาดพร้าว ลาพร้าววังหิน โชคชัย 4 และเลียบด่วนรามอินทรา โดยโครงการนี้ถือว่าใกล้ทางออกถนนรัชดามากที่สุดณ ตอนนี้ และขายแบบ Fully Furnished พร้อมส่วนกลางเจ๋งๆ เราไปชมพร้อมกันเลยครับ

Fact @ 24 August 2017

  • Modiz Ratchada 32 (โมดิช รัชดา 32)
  • ผู้พัฒนาโครงการ : AssetWise
  • MAIN-UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : ซอยรัชดา 32 แยก 2, เขตจตุจักร
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 191 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 27 ยูนิตที่ชั้น 3-6
  • ที่จอดรถช่องจอด On Ground 24 ช่อง สามารถซ้อนได้ประมาณ 6 คัน
  • ที่จอดรถ Automatic Parking 60 คัน รวมแล้วทั้งหมดคิดเป็น 47%
  • ที่ดินประมาณ 1-0-69.1 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : ต้นปี 2561
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : กลางปี 2562
  • 1 Bedroom Exclusive ขนาด 24.08 – 31.04 ตร.ม. (3 ยูนิต) ราคาเริ่มต้น 1.89 – 3.29 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Extra ขนาด 25.91 – 33.03 ตร.ม. (92 ยูนิต) ราคาเริ่มต้น 2.49 – 3.69 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 31.00 – 44.31 ตร.ม. (96 ยูนิต) ราคาเริ่มต้น 2.49 – 4.49 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ AVG 93,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • LINE : @modiz32
  • โทร  : 083-556-3232

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.814893, 100.576587

แผนที่จากทางโครงการครับ ที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยรัชดาภิเษก 32 และเข้าไปในซอยย่อยรัชดาภิเษก 36 แยก 2 ซึ่งเป็นแยกแรกเลย ใกล้กับถนนหลักประมาณ 190 เมตร สำหรับซอยรัชดาภิเษก 32 นี้เป็นซอยหลักที่เชื่อมระหว่างถนนรัชดาภิเษกและถนนลาดพร้าววังหิน และอยู่ห่างจาก MRT ลาดพร้าว ประมาณ 1.5 กม. รวมทั้งอยู่ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีเขียวและรถไฟฟ้าสายสีเหลืองในอนาคตด้วย

สำหรับสภาพแวดล้อมในย่านนี้จะมีความเจริญและมีความหลากหลายสูง อย่างช่วงที่ติดกับถนนรัชดาภิเษกส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาคารสำนักงาน มหาวิทยาลัย เข้ามาที่ถนนลาดพร้าววังหินก็จะเป็นถนนที่เด่นเรื่องความอุดมสมบูรณ์มีทั้งร้านอาหารตั้งแต่ร้านรถเข็นไปจนถึงร้านอาหารชื่อดังราคาหรู Community Mall Hyper Market ต่างๆ แทรกกับพื้นที่อยู่อาศัยที่เป็นย่านชุมชนเก่าดั้งเดิม ส่วนช่วงห้าแยกลาดพร้าวเองนั้นก็จะมีศูนย์การค้าอย่างเซ็นทรัล ลาดพร้าว ยูเนี่ยนมอลล์ ให้ขับรถออกไปช็อปกันได้ง่ายๆ ไม่ต้องเดินทางไปไหนไกล เขยิบออกมาอีกหน่อยบนถนนพหลโยธินที่จากโครงการวิ่งทะลุถนนเสนานิคมได้เลย ก็มีทั้งอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้าอย่างเมเจอร์ รัชโยธิน และมหาวิทยาลัยเกษตร และอีกถนนนึงอย่างถนนประดิษฐ์มนูธรรมก็นั้นก็มีห้างและตลาดใหญ่ๆ ในเปลี่ยนบรรยากาศในการเดินเล่นในวันหยุดได้เช่นกัน เพราะมีห้างอย่าง Central East Ville, CDC, Crystal Park, The Walk และตลาดนัดเลียบด่วนครับ ซึ่งโดยรวมแล้วถือเป็นทำเลที่ครบครัน มีสิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่สำคัญรายรอบมากมายทีเดียว

ซึ่งหากมองในแง่ของคนที่ทำงานในย่านรัชดา – ลาดพร้าว เลยไปถึงพหลโยธินนั้นก็ถือว่าเป็นตัวเลือกนึงที่น่าสนใจ เพราะนอกจากเดินทางไปทำงานได้สะดวกด้วยรถยนต์ส่วนตัวเพราะอยู่บนที่ตั้งในซอยที่เดินทางทะลุไปถนนต่างๆ ได้สะดวก และยังใกล้กับทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงอย่างถนนลาดพร้าววังหินในออกไปหาของกินได้ง่าย รวมทั้งอยู่ในสภาพบรรยากาศที่เงียบสงบ ไม่ได้คึกคักเท่ากับคอนโดบนถนนลาดพร้าววังหิน (แต่ว่าต้นซอยนั้นมี 7-11, Lotus Express และเต็นท์ศูนย์อาหารที่เดินไปพึ่งพิงได้ง่ายประมาณ 100 เมตร)

ที่ตั้งโครงการอยู่ในย่านรัชดา-ลาดพร้าว เข้ามาในซอยย่อยอย่างซอยรัชดาภิเษก 32-2 ซึ่งมีความสำคัญคือเป็นซอยที่เชื่อมถนนรัชดาภิเษกกับถนนลาดพร้าวและก็ถนนลาดพร้าววังหินได้ด้วย การเดินทางในย่านนี้ถือว่าสะดวก ถ้าลบเรื่องการจราจรที่ค่อนข้างติดขัดอันเนื่องมาจากปริมาณรถในย่านนี้ที่ค่อนข้างมาก เพราะเป็นแหล่งชุมชนและอาคารสำนักงานตั้งแต่เล็กไปถึงใหญ่ แต่สามารถทดแทนไดด้วยตัวโครงการที่มีทำเลอยู่ในซอยทำให้สามารถเลือกเส้นทางในการเดินทางได้หลากหลายและหลบหลีกเส้นทางที่มีการจราจรติดขัดได้ดี โดยสามารถทะลุไปยังถนนใหญ่ผ่านซอยย่อยๆ ได้ทั้ง ถนนลาดพร้าว ถนนรัชดาภิเษก ถนนพหลโยธิน ถนนประเสริฐมนูกิจ (เกษตร นวมินทร์) และถนนประดิษฐ์มนูธรรม โดยไม่ต้องขับออกมายังถนนใหญ่เลย ส่วนทางด่วนที่ใกล้ที่สุดจะอยู่บริเวณถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือถนนเลียบด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์

ส่วนใครที่ไม่ได้ขับรถและมักพึ่งพิงการเดินทางแบบสาธารณะที่แค่เดินออกมาหน้าปากซอย(100 เมตร) แล้วก็มีวินมอเตอร์ไซต์ในเรียกได้เลย หรือจะเป็นรถแท็กซี่ก็หาได้ไม่ยาก เนื่องจากเป็นซอยที่มีรถเข้าออกตลอดเวลา ซึ่งนอกจากจะหารถได้ไม่ยากแล้วก็มีบรรยากาศไม่เปลี่ยวด้วย

สำหรับใครที่มักจะเดินทางไปทำงานด้วยรถไฟฟ้านั้น ปัจจุบันก็มีระบบรางที่ใกล้ที่สุดอย่าง MRT ลาดพร้าว ซึ่งตัวสถานีตั้งอยู่บริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าวเลย โดยมีระยะห่างจากโครงการไปประมาณ 1.5 กม. ต้องอาศัยต่อพี่วินมอเตอร์ไซต์ที่ปากซอยหน้าเซเว่นนี่ละครับ ส่วนในอนาคตนั้นก็จะมีระบบรางที่ขึ้นมาอำนวยความสะดวกให้คนในย่านนี้มากขึ้นทั้ง 2 เส้นทางกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายหมอชิต-คูคตที่อยู่บนถนนพหลโยธิน โดยมีสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีรัชโยธิน ที่ตั้งอยู่บนแยกรัชโยธิน มีระยะห่างจากโครงการไปประมาณ 3.8 กม. และอีกเส้นทางคือรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่จะตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าว โดยเริ่มจากแยกลาดพร้าว-รัชดา ไปจนถึงหน้าแฮปปี้แลนด์ เดอะมอลล์บางกะปิและวิ่งไปต่อบนถนนศรีนครินทร์จนถึงปลายทางย่านสำโรงในจังหวัดสมุทรปราการ สำหรับสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีรัชดา นั่นเอง

สภาพแวดล้อมและบรรยากาศในซอยซอยรัชดาภิเษก 32 บริเวณหน้าปากซอยที่ตัดกับถนนรัชดาภิเษกจะค่อนข้างคึกคักมีอาคารสำนักงานและมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษมอยู่ใกล้ๆ ด้านหน้าปากซอยเลยมีศูนย์อาหารรัชดา 32 ร้านส้มตำยกครก(ติดกับโครงการ) และ Tesco Lotus Express ไว้รองรับพนักงานออฟฟิศในช่วงกลางวัน มี 7-11 อยู่ปากซอย(ห่างกับเรา 100 เมตร) เข้ามาภายในซอยส่วนใหญ่จะเป็นอพาร์ทเม้นท์ หอพักให้เช่า คอนโด Low Rise ตึกแถว เพื่อรองรับคนทำงานละแวกรัชดาภิเษกนี้ นอกจากนี้ก็จะเป็นบ้านเดี่ยวที่อยู่กันมานานและร้านอาหารประปราย โดยรวมค่อนข้างเงียบสงบกว่าถ้าหากเทียบกับถนนลาดพร้าววังหิน

กดคลิกที่แผนที่เพื่อดูภาพขนาดใหญ่

ดูจากแผนที่ซูมเข้ามาเฉพาะซอยนี้ จะเห็นว่าโครงการอยู่ใกล้กับถนนหลักมากๆ รวมแล้วแค่ 190 เมตรเท่านั้น นับว่าเป็นคอนโดที่ใกล้ถนนหลักสุด ณ เวลานี้เลย (ของซอยรัชดา 32 ที่เกิดใหม่หลายโครงการนะ) ตำแหน่งของ Sale Office โครงการอยู่ช่วงซอยรัชดาภิเษก 32 ฝั่งซ้ายมือ (ก่อนถึง Uptown Apartment) ห่างจากถนนรัชดาภิเษกไปประมาณ 430 ม.

สำหรับทำเลนี้เรื่องอาหารการกินนั้น ที่เป็นร้านส่วนใหญ่คงจะต้องไปฝากท้องกันบนถนนลาดพร้าววังหินแน่ๆ ด้วยระยะจากโครงการที่ขับรถไปได้ไม่ยาก และอย่างที่รู้ๆ กันว่าแหล่งของกินย่านนี้ต้องยกให้ร้านอาหารบนถนนลาดพร้าววังหิน ซึ่งมีร้านอาหารที่หลากหลาย อร่อย และชื่อดังทีเดียว นอกจากนั้นยังมี คาเฟ่ สำหรับชาวคอกาแฟ Community Mall ไว้เดินเล่น ซื้อของได้ และร้าน Hangout ยามค่ำคืนของชาว TGIF มาให้เลือกไปลองชิมลองเดินกันครับ 😀

การเดินทางที่ผมมาโดยมาจากถนนหลักรัชดาภิเษก มุ่งหน้าเข้าเมืองโดยเราจะตรงไปถึงช่วงแยกรัชโยธิน วิ่งข้ามแยกไป หลักจากนั้นไม่ไกลมากให้เลี้ยวเข้าซอยรัชดาภิเษก 32  พอเข้าไปเพียง 90 เมตร ทางขวามือที่เป็น 7-Eleven เราก็เลี้ยวขวาที่หัวมุมนี้เข้าแยก 2 เข้าไปประมาณ 100 เมตรก็ถึงที่ตั้งขวามือแล้วครับ

เลี้ยวเข้ามาบนถนนรัชดาภิเษกเป็นซึ่งเป็นถนนขนาด 8 ช่องการจราจรมีเกาะกลางคั่นกลาง ซึ่งหาจุดกลับรถค่อนข้างยาก ใครที่วิ่งมาจากถนนลาดพร้าวช่วงแยกรัชดา-ลาดพร้าวนั้นต้องขับตรงมาถึงแยกรัชโยธินเพื่อกลับรถกันเลยทีเดียวค่ะ บรรยากาศบนถนนรัชดาภิเษกในช่วงนี้ส่วนใหญ่เป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงาน Show Room รถ ซึ่งมีพนักงานจำนวนมาก ทำให้ในช่วงกลางวันแถบนี้จะค่อนข้างคึกคักทีเดียวค่ะ และมีทั้งเต้นท์อาหารและร้านอาหารในซอยในเลือกซื้อพอสมควร

จุดสังเกตก่อนที่จะเบี่ยงซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าซอยรัชดาภิเษก 32 คือทางเข้ามหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม และซอยทางเข้าจะอยู่ติดกับอาคารสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)

จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าซอยรัชดาภิเษก 32 กันเลย

ที่ปากซอยทางซ้ายมือ ยังเป็นพื้นที่ของอาคารสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โดยมีธนาคารกรุงไทยตั้งอยู่อีกด้วย

ขยับเข้ามาหน่อยทางขวามือของเราจะเป็นศูนย์อาหารขนาดกลางที่รองรับมือกลางวันของพนักงานต่างๆในย่านนี้ ส่วนซ้ายมือก็เป็นเต็นท์ร้านอาหารเหมือนกันจะขายช่วงกลางวัน-เย็นนะ

มีร้านอาหารเล็กใหญ่ โดยรวมๆแล้วประมาณ 10 ร้านได้ ก็ถือว่ามาฝากท้องช่วงมื้อสาย-บ่ายได้ครับ

ทีนี้ที่หน้าศูนย์อาหารยาวไปจนถึง 7-11 ที่อยู่ถัดไปจะเป็นที่ตั้งของวินมอเตอร์ไซค์ตั้งแถวยาวกันไปเลย เห็นได้เด่นชัดมาก

อัตราค่าโดยสารให้ดูกันชัดๆ

เซเว่นนี้สาขานี้ใหญ่มากๆนะครับ ถ้าใครเคยมาจะรู้เลย อีกทั้งยังมีร้านยาในตัวอีก

ทีนี้พอสุดเขตเซเว่นทางขวามือ จะเป๋็นสามแยก ซอยรัชดา 32 แยก 2 ซึ่งเป็นทางเข้าไปที่ตั้งโครงการนั่นเอง ตรงนี้ยังมีมินิมาร์ทอีกเจ้าอย่าง Lotus Express ด้วย จากตรงนี้ถ้าเราตรงไปอีกประมาณ 300 เมตรจะเจอกับ Sale Gallery ของโครงการ MODIZ อยู่ทางซ้ายมือนะ

ซอยรัชดา 32 แยก 2 เป็นซอยเล็กๆ แต่ว่าไม่ใช่ซอยตันสามารถลัดเลาะไปออกจนถึงถนนลาดพร้าวได้อีกด้วย(แถวซอยลาดพร้าว 23)

พอเดินเข้ามาแล้วด้านหลังของ 7-11 จะเป็นห้องแถว 2 ชั้น ประมาณ 4 ห้อง มีร้านอาหารตามสั่งเป็นส่วนใหญ่

พอพ้นห้องแถวมาแล้วจะเจอกับร้านส้มตำยกครกทางขวามือ

“ร้านส้มตำยกครก” เป็นร้านอาหารอีสานสไตล์บ้านๆ ร้านขนาดไม่ได้ใหญ่มาก จุดเด่นของร้านนี้สมชื่อเลยครับเอามาเสริ์ฟทั้งครก คือ ส้มตำทั้งหลายเค้าเสริฟมาในครกเล็กๆ สมชื่อยกครก ดูน่ารักน่าทาน 😀

ส่วนของแปลงที่ติดโครงการก็อยู่ติดกับร้านส้มตำเลยนะครับ จากที่เราเดินมาตรง 7-11 ก็มีระยะทางแค่ 100 เมตรเท่านั้นเอง

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

ทีนี้เรามาดูสภาพแวดล้อมรอบๆของโครงการกันสักหน่อย โดยตัวอาคารมีการวางแนวขวางตามรูปแปลงของที่ดิน ทำให้ห้องที่ได้วิวหลักของที่นี่คือทิศเหนือ-ใต้ และรองมาจะเป็นตะวันออก-ตก ถือว่าดีนะเป็นทางลมวิ่งผ่านและไม่โดนแดดตรงๆด้วย

ทางทิศเหนือ : ระยะประชิดเป็นร้านส้มตำยกครก, ที่ดินเปล่า มองไประยะกลางเห็นศูนย์อาหาร, 7-11

ทางทิศตะวันออก : ด้านหน้าโคงการ ซอยรัชดา 32 แยก 2 ฝั่งตรงข้ามเป็นอพาร์ทเมนท์ 6 ชั้น

ทางทิศใต้ : เป็นชุมชนบ้านพักอาศัยดั้งเดิมเกือบทั้งหมด เป็นบ้านเดี่ยวสูง 1-2 ชั้นสลับกัน

ทางทิศตะวันตก : เป็นศูนย์อบรมส่งออกสินค้า โดยมีความสูงเทียบเท่าประมาณ ตึกแถว 3 ชั้น

ลองดูภาพประกอบจากโดรนที่ผมทำให้ดูกันดีกว่าครับ จะได้เห็นภาพประกอบการตัดสินใจชัดๆอีกที

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • 7-11 + Lotus Express ~ 100 เมตร
  • ศาลอาญา ~ 500 เมตร (ระยะเดินข้ามสะพานลอย)
  • ม.ราชภัฎจันทรเกษม ~ 700 เมตร
  • Plaza Lagoon ~ 1.9 กิโลเมตร
  • Major Cineplex รัชโยธิน ~ 2 กิโลเมตร
  • Green Plaza ~ 2.3 กิโลเมตร
  • The JAS ~ 2.3 กิโลเมตร
  • วัดสิริกมลาวาส (วัดใหม่เสนานิคม) ~ 2.6 กิโลเมตร
  • Big C Extra ลาดพร้าว ~ 2.6 กิโลเมตร
  • ตลาดวังหินยิ่งเจริญ ~  3.2 กิโลเมตร
  • เซ็นทรัลลาดพร้าว ~ 4 กิโลเมตร
  • Union Mall ~ 4.5 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

ทีนี้ขอขยับมาที่ Sale Office Gallery ที่ถ้าเราเข้ามาจากปากซอยถนนรัชดา เข้ามา 430 เมตร จะตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ในอดีตนั้นเคยเป็นที่ Gallery ของโครงการ Brown จาก AssetWise เช่นกัน ตอนนี้มีการปรับโฉมรูปลักษณ์หน้าตาใหม่เรียบร้อย (แต่ว่าห้องตัวอย่างของ Brown Condo ก็ยังมีให้ดูอยู่นะ)

เข้ามาด้านในกันแล้ว ก็มีโต๊ะรับรองสำหรับผู้มาชมโครงการเยอะพอสมควร ที่จอดรถก็มีรองรับให้เยอะนะครับ ไม่ต้องกังวล

ด้านหน้าโถงทางเดินส่วนของห้องตัวอย่างทางซ้ายมือจะเป็นของ Brown Condo ส่วนทางขวามือจะเป็นของ Modiz รัชดา 32 ครับ

รูปแบบโครงการนั้นเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร สร้างบนเนื้อที่ดิน 1-0-69 ไร่ จำนวนทั้งหมด 191 ยูนิต ถนนโครงการด้านหน้าเป็นซอยรัชดา 32 แยก 2

เข้ามาด้านในอาคารจะเจอกับส่วนกลางชั้นแรกคือ The Marble Lounge ซึ่งเป็น Lobby ขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยหินอ่อนและกินพื้นที่ 2 ชั้นดูโอโถ่ หรูหรา ที่ชั้น 1 ก็เริ่มมีห้องพักอาศัยแล้ว และก็พื้นที่จอดรถช่องจอด On Ground 24 ช่อง สามารถซ้อนได้ประมาณ 6 คัน และมีที่จอดรถ Automatic Parking 60 คัน รวมแล้วทั้งหมดคิดเป็น 47%

รูปแบบดีไซน์สไตล์ Modern Contemporary โดยใช้โทนสีอาคารเป็นสีเทาอ่อน-กลางเป็นหลัก ตัดกับสีกระจกของอาคาร รอบๆโครงการลงต้นไม้ไว้ขนานกับรั้วกำแพงโครงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้แก่โครงการ และนำ Main Facility หลักๆไว้ที่ชั้นบน

ที่ชั้น 3-6 เป็นส่วนที่มีห้องพักอาศัยเยอะสุดคือ 27 ยูนิต โครงการมีลิฟท์โดยสารให้ 2 ตัว ขยับขึ้นมาที่ชั้น 7 จะมีห้องพิเศษอยู่ 3 ห้องที่เป็นห้องแบบระเบียงใหญ่ หันออกด้านหน้าโครงการทางทิศตะวันออก ด้านบนที่ชั้น 8 จะมีส่วนกลางอย่าง Full Fitness Function ที่วางเครื่องออกกำลังกายเอาไว้ถึง 7 ชิ้น ที่ชั้นนี้ก็ยังมีห้องพักอาศัยนะครับ แต่จะมีส่วนประตูออกมา

พื้นที่กลางแจ้งที่มีทางเดินตัดผ่าน Co-Working Space Outdoor และ Skyscape Garden เพื่อเชื่อมต่อไปยัง Rooftop

ถัดจากทางเดินที่ต่อเนื่องมากจาก  Skyscape Gaden (ด้านนอก Fitness) ก็จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักที่นำเอามาไว้ที่ดาดฟ้าอย่าง Rooftop Garden, Poolside Pavilion, Kid’s Pool และ Moonlight Sky Pool

Moonlight Sky Pool ที่มีขนาดถึง 6.20 x 20.25 เมตร ลึกประมาณ 1.20 เมตร ใช้เป็นสระว่ายน้ำออกกำลังกายได้อย่างจริงจัง

ภาพจำลองบรรยากาศ ส่วนของด้านหน้าอาคาร จุดนำสายตาอย่างแรกก็คือ The Marble Lounge ที่อยู่ด้านหน้าตรงกลางอาคารพอดี เป็นพื้นที่สองชั้นทำให้ดูหรูหรา โดดเด่นสะดุดตา

Modiz Ratchada 32 (โมดิช รัชดา 32) เป็นคอนโดดีไซน์สไตล์ Modern Contemporary โดยใช้โทนสีอาคารเป็นสีเทาอ่อน-กลางเป็นหลัก ตัดกับสีกระจกของอาคาร รอบๆโครงการลงต้นไม้ไว้ขนานกับรั้วกำแพงโครงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้แก่โครงการ และนำ Main Facility หลักๆไว้ที่ชั้นบนอย่าง Fitness, Co-Working, Garden และ Moonlight Sky Pool

ภายในพื้นที่ Lobby ด้านในอาคารชั้นแรก ที่มีชื่อว่า The Marble Lounge นั้นตกแต่งด้วยผนังลายหินอ่อนตามชื่อ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ Double Volume สูงถึง 2 ชั้น

ภาพจำลองบรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 8 ในส่วนของห้องออกกำลังกาย Full Fitness Function ที่หันหน้าออกด้านหน้าโครงการ ผนังกระจกทั้งหมดทำให้ดูโปร่ง วางเครื่องออกกำลังกายเอาไว้ 7 ชิ้น (รวมบาร์ดัมเบล)

ภาพจำลองบรรยากาศ ชั้น Rooftop ที่เห็นถึงพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Rooftop Garden, Poolside Pavilion, Kid’s Pool และ Moonlight Sky Pool

ภาพจำลองบรรยาดกาศ พื้นที่ส่วนกลาง  Moonlight Sky Pool ที่มีขนาดถึง 6.20 x 20.25 เมตร ใช้เป็นสระว่ายน้ำออกกำลังกายได้อย่างจริงจัง ถึงแม้จะเป็นคอนโด Low Rise  ก็ตาม แต่ก็ไม่แพ้ High Rise เลยทีเดียว

VDO Presentation ของโครงการ MODIZ Ratchada 32 ดูประกอบเพื่อเพิ่มเติม

 

เรามาดูแปลนโครงการกันบ้างครับ สำหรับชั้น 1 พอเข้าโครงการผ่านรั้วกั้นไม้กระดกมา จะสามารถหาที่จอดรถได้ทั้งรอบๆอาคารและในอาคาร โดยมีช่องจอด On Ground 24 ช่อง สามารถซ้อนได้ประมาณ 6 คัน และมีที่จอดรถ Automatic Parking 60 คัน รวมแล้วทั้งหมดคิดเป็น 47% รูปแบบการจอดอัตโนมัติของที่นี่จะเป็นการเข้าไปจอดในแกนกลางของอาคารเลยนะครับที่ชั้น 1-7

ทีนี้พอเข้ามาในอาคารแล้วจะเจอกับ Lobby ที่มีชื่อว่า The Marble Lounge ตกแต่งด้วยหินอ่อนตามชื่อและยังเป็นพื้นที่ Double Volume ถึง 2 ชั้น ชั้นนี้ก็มีส่วนของห้องพักอาศัยแล้ว โดยสีฟ้าจะเป็นห้องแบบเล็กสุดคือ 1 Bedroom Exclusive และสีน้ำตาลจะเป็นพวก 1 Bedroom Extra

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ที่นี่มีลิฟท์โดยสารให้ 2 ตัวนะครับ เพราะฉะนั้นอัตราส่วนจะอยู่ที่ 95:1 ถือว่ากลางๆครับไม่น้อยไม่มาก ทีนี้เราจะให้ดูส่วนของพื้นที่จอดรถแบบ Automatic Parking ที่อยู่แกนกลางอาคารแบบนี้ ทำให้ Corridor(โถงทางเดิน) ทั้งหมดกลายเป็นพื้นที่ Single Corridor ไปในทันที ไม่ต้องมองเห็นประตูเพื่อนบ้านกันเองเยื้องฝั่งตรงข้าม แต่ช่องแสงที่ส่องเข้ามาจะมีน้อยหน่อยแค่ 2 จุดเท่านั้น ทำให้ต้องพึ่งไฟส่องสว่างตามทางเดินแน่นอนในเวลากลางวันและกลางคืน ที่ชั้นนี้จะมีห้องพัก 26 ห้องนะครับ

ชั้น 3-7 ถือเป็น Typical Plan ที่มีห้องพักอาศัยมากที่สุด จริงๆก็เหมือนกับชั้น 2 แหละครับ แต่ว่าตรงพื้นที่ Lobby หายไปเลยได้ห้องเพิ่มขึ้นมาห้องนึง  พวกห้องฝั่งด้านหน้าถนน(ตะวันออก)และฝั่งหลัง(ตะวันตก)โครงการ ที่มีสีเหลืองเขียว,น้ำตาล นั้นจะเป็นห้องไซส์ใหญ่สุดของที่นี่อย่าง 1 Bedroom Plus ขนาด 31.00 – 44.31 ตร.ม.ลองจิ้มๆตำแหน่งกันดูว่าไซส์ไหนเหมาะกับกำลังทรัพย์ของตัวเอง และชอบวิวด้านไหน

ที่ชั้น 8 จำนวนห้องพักอาศัยจะลดลงเหลือ 18 ห้องเท่านั้น เพราะว่าเอาไปทำ Facility อย่างห้องออกกำลังกายฝั่งด้านหน้าอาคาร และก็มีพื้นที่ออกไปยังกลางแจ้งส่วนกลางเช่นกันคือ Co-Working Space Outdoor และ Skyscape Garden เพื่อเชื่อมต่อไปยัง Rooftop

สุดท้ายที่ Rooftop จากทางเดินที่ต่อเนื่องมากจาก  Skyscape Gaden (ด้านนอก Fitness) ก็จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักที่นำเอามาไว้ที่ดาดฟ้าอย่าง Rooftop Garden, Poolside Pavilion, Kid’s Pool และ Moonlight Sky Pool สระว่ายน้ำระบบเกลือ ที่มีขนาดถึง 6.20 x 20.25 เมตร ลึกประมาณ 1.20 เมตร ใช้เป็นสระว่ายน้ำออกกำลังกายได้อย่างจริงจัง

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้น 1-2 : The Marble Lounge เป็นพื้นที่ Lobby รับลูกบ้านรวมถึงแขกส่วนแรกพื้นที่ Double Volume
  • ชั้น 8 : Full Fitness Function รับวิวกว้างเครื่องเล่น 7 ชิ้น(รวมบาร์ดัมเบล)
  • ชั้น 8 : พื้นที่กลางแจ้ง Co-Working Space, The Skyscape Garden
  • Rooftop : Rooftop Garden, Poolside Pavilion, Kid’s Pool
  • Rooftop : Moonlight Sky Pool ระบบเกลือ ขนาด 6.20 x 20.25 เมตร ลึก 1.20 เมตร
  • ที่จอดรถช่องจอด On Ground 24 ช่อง สามารถซ้อนได้ประมาณ 6 คัน
  • ที่จอดรถ Automatic Parking 60 คัน รวมแล้วทั้งหมดคิดเป็น 47%
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว / No Service Lift
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 95 :  1
  • ระบบ CCTV / Access Card

 


Product Walkthrough

สำหรับโครงการนี้จะขายแบบ Fully Furnished ให้ชุดครัว แอร์ สุขภัณฑ์ต่างๆ พร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบชุดทั้ง Built-In และลอยตัว จะขาดก็แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าและพร็อพตกแต่งห้อง อีกทั้งยังได้ Digital Door Lock ของ Yale อีกด้วย

ห้องตัวอย่างห้องแรก คือ 1 Bedroom Exclusive ขนาด 24.08 ตร.ม. โดยเปิดเข้ามาจะเจอกับส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ทีนี้เราจะเห็นแสงส่องเข้ามาเพราะผนังที่กั้นฉากกับส่วนห้องนอนและครัวเป็นกระจกบานเลื่อนเต็มเพดานทั้งคู่ทำให้แสงส่องผ่านมาได้ ห้องนอนขนาดถือว่าไม่เล็กนะสำหรับห้องไซส์นี้ ห้องน้ำอยู่ทางไปครัวได้ฟังก์ชั่นครบ ห้องครัวเป็นครัวปิดและอยู่ติดกับระเบียงทำให้สามารถระบายกลิ่นเวลาทำอาหารออกไปได้ดี ระเบียงมีพื้นที่ให้ใช้งานได้นิดหน่อยเพราะว่าเอาคอมแอร์ 2 ตัวแขวนขึ้นชิดผนังด้านบน

ประตูทางเข้าห้องเป็นบานไม้ปิดผิวด้วยลามิเนต รูปแบบตามในภาพ

Digital Door lock ยี่ห้อ Yale พร้อมลูกบิดประตูแบบก้านโยก

พื้นของโครงการนี้จะได้เป็น Smart ไวนิล หรือกระเบื้องยางลายไม้นั่นเอง ข้อดีของกระเบื้องยางไวนิลนั้นคือมีความคงทนมากกว่าลามิเนต มีคุณสมบัติในการกันน้ำและรอยขีดข่วนต่างๆ การปูพื้นด้วยกระเบื้องชนิดนี้จะทำได้ยากกว่าเพราะต้องทำการฉาบพื้นคอนกรีตด้านล่างให้เรียบจริงๆไม่งั้นจะปูไม่ได้เลย แต่ข้อด้อยของมันคือได้สัมผัสที่ใกล้เคียงไม้น้อยกว่าหน่อยนึง

เข้ามาจะเจอกับส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ทีนี้เราจะเห็นแสงส่องเข้ามาเพราะผนังที่กั้นฉากกับส่วนห้องนอนและครัวเป็นกระจกบานเลื่อนเต็มเพดานทั้งคู่ทำให้แสงส่องผ่านมาได้ ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร

มองย้อนกลับไปทางประตูทางเข้าห้อง ที่พื้นด้านหลังประตูมีตัวสต็อปเปอร์กันกระแทกเอาไว้ให้ด้วยนะ

สิ่งที่ติดอยู่ข้างสวิทช์ไฟหน้าห้องที่เห็นเด่นสะดุดตาขึ้นมาคือส่วนนึงของ Smart Living Innovation ระบบ Bluetooth Sound System เป็นระบบลำโพงที่เชื่อมต่อสัญญาณด้วยบลูทูธ

นี่ครับที่บนเพดานเราจะเห็นลำโพงอยู่ 2 ตัวที่ส่วนห้องนั่งเล่น และห้องนอน Bluetooth Sound System จากหน้าจอตรงด้านหน้าห้องสามารถสั่งการด้วยการทัชสกรีนหรือว่ารีโมทก็ได้

อย่างที่บอกว่าโครงการขายแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์ส่วนของมุมชั้นวางทีวีทั้งหมด และโต๊ะทานอาหารเราจะได้แบบนี้ ทำให้ได้ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดของห้อง เเหมือนมีคนออกแบบมาให้

มุมโต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง ที่อยู่ติดกับกระจกทางเข้าห้องนอน กางออกมาใช้งานได้ปกติ ไม่ติดขัดอะไร

หันหลังไปดูมุมโซฟากันบ้าง จะเป็นแบบ 2 ที่นั่งที่มีที่วางแขนได้นะ

ตรงจุดช่องแสงที่เป็นฉากกั้นส่วนของห้องนอนและห้องครัว นับว่าจัดเต็มเพราะว่าให้เป็นแบบ Floor to ceiling กันเลยอีกทั้งกรอบเฟรมอลูมิเนียมสีดำที่ได้ก็แข็งแรงด้วย

ประตูกระจกบานเลื่อนส่วนของห้องนอนจะเป็นแบบ 3 ตอน คือจะเปิดได้กว้างมากกว่าแบบ 2 ตอน ทำให้สามารถยกของชิ้นใหญ่เข้าได้ง่าย รวมถึงเวลาเดินไปมาตอนเราไม่ได้ต้องการกั้นส่วนใช้งานด้วย (เวลาแฟนอยากดูทีวีกันคนละเรื่องก็อยกห้องกันซะเลย 😀

เข้ามาในห้องนอน จะเจอกับตู้เสื้อผ้าที่ไม่ได้กว้างมากแต่ให้สูงจรดเพดาน อยู่ข้างหัวเตียงครับ ตัววัสดุปิดผิวหน้าบาน ดูผิวเผินจะเหมือนไฮกลอส แต่จริงๆแล้วคือลามิเนตกลอสนะครับ เงาๆเหมือนกัน

ลองเปิดให้ดูฟังก์ชั่นเก็บของด้านใน

ส่วนของพื้นที่ปลายเตียงสามรถเดินไปมาพอได้ แต่ถ้าติดทีวีแขวนผนัง ก็อาจจะต้องเอี้ยวตัวเสียหน่อย อีกอย่างที่ประทับใจคือให้ “ช่องแสง” ขนาดใหญ่ภายในส่วนของห้องนอนนี่แหละ สูงประมาณ 2.2 เมตร แต่กว้างผนังชนผนังเลยทีเดียว

รูปแบบหน้าต่างก็จะมีส่วนที่เปิดได้ 1 บานเท่านั้นมุมขวา เป็นบานรกะทุ้งแบบนี้นะ

ทีนี้ออกมาจากห้องนอนไปดูส่วนของห้องครัวกันบ้าง เป็นห้องครัวปิดที่ได้ประตูบานเลื่อน

หน้าตามือจับและตัวล็อค

ประตูส่วนครัวนี้ได้เก็บรายละเอียดที่ดีคือการทำเอารางไว้ด้านบน ทำให้พื้นที่การเรียบต่อเนื่องกันไม่ต้องกลัวสะดุด และพอเข้าไปทางขวามือจะเป็นห้องน้ำ เราไปดูห้องน้ำก่อนและมาต่อครัวนะ

ส่วนของห้องน้ำมีการกั้นด้วย ธรณีก่อ ขึ้นมา เพื่อเอาไว้สำหรับเวลาทำความสะอาดพื้นเปียกน้ำจะได้ไม่กระเซ็นเข้ามาโดนพื้นไวนิลนั่นเอง ะื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องผิวด้านลายหินสีสว่างๆ

ฟังก์ชั่นภายในห้องน้ำครบ 3 ประการหลัก โดยเริ่มจากขวามือเป็นชุดอ่าง ตรงกลาง(มุม)เป็นพื้นที่อาบน้ำแยกส่วนเปีกย และซ้ายสุดเป็นส่วนสุขภัณฑ์

อ่างล้างมือและก๊อกจะได้เป็นของ COTTO นะ แต่เราจะได้ชุดใต้อ่างด้วยเอาไว้เก็บของใช้จำเป็นในห้องน้ำได้

ระยะตำแหน่งของสุขภัณฑ์กับออฟชั่นข้างๆก็มาตรฐานสามารถหยิบจับใช้งานได้ปกติ ของเราจะได้เป็น American Standard

พื้นที่อาบน้ำที่อยู่มุมห้องพอดี เลยต้องเลือกฉากกั้นอาบน้ำที่เปิดจากตรงกลางเช่นนี้ พื้นที่อาบประมาณ 90 x 90 ซม.

ที่ผนังเป็นชุดฝักบัวได้ของ COTTO

ซูมให้ดูหัวฝักบัวที่สามารถปรับรูปแบบของน้ำได้ครับ / ไฟในห้องน้ำเป็นโคมสี่เหลี่ยม LED และมีพัดลมดูดอากาศ ความชื้นมาให้

ออกมาจะเจอกับครัวปิดที่พื้นที่วาตู้เย็น และชุดครัวต่อเนื่องยาวไป พื้นที่เดินกว้างประมาณ 90 ซม.

ชุดตู้ติดผนังด้านบนหน้าบานจะเป็นลามิเนตกลอสเช่นเดียวกับตู้เสื้อผ้านะ แบ่งชุดตู้ออกเป็น 3 ตอน ช่องเก็บไมโครเวฟเอามาไว้ด้านบนเช่นกัน

ลองเปิดออกให้ดูการเก็บของ ตัว Fitting ที่นี่ไม่ได้ Soft Close นะ จะปิดก็เบาๆหน่อย

ท๊อปครัวจะได้เป็นลามิเนตกันน้ำลายไม้ธรรมชาติ ที่ผนังด้านหลังมีการติดกระเบื้องมาให้สำหรับเวลาทำครัวและกระเซ็นไปโดนจะได้ทำความสะอาดง่ายและดูสวยงาม Hob&Hood จะได้เป็นของ MEX แบบแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว รวมถึงอ่างล้างจานของ MEX เช่นกัน

ด้านล่างก็จมีตู้ใต้อ่างล้างจาน ลิ้นชัก 3 ตอน และก็ช่องเก็บเครื่องซักผ้า

ลองเปิดออกให้ดูครับ เก็บของได้พอสมควรเลยสำหรับห้อง 24 ตร.ม.นะ

ถัดออกไปจะเป็นประตุกระจกบานเลื่อนเชื่อมต่ออกไปยังระเบียงด้านนอก

โดยพื้นยังเป็นสเต็ปธรณีก่อกันฝนกสาดเช่นกัน อีกอย่างตัวระเบียงที่นี่ได้กระจกนิรภัยด้วย เพราะต้องการเน้นให้แสงส่องผ่านเข้ามาได้มากๆ พื้นที่ระเบียงสามารถตากผ้า หรือทำสวนกระถางเล็กพอได้นะครับ

ส่วนของคอมแอร์ 2 ตัวจะถูกแขวนอยู่ที่ผนังแบบนี้ โดยมีการติดกริลล์บังคับทิศทางลมให้หันลมร้อนออกไปนอกอาคาร และมี Facade ระแนงเหล็กเป็นส่วนทั้งตกแต่งและปิดบังสายตาจากคนนอกให้ดูเรียบร้อย

ห้องตัวอย่างอีกห้องที่เราจะพาไปชมคือ 1 Bedroom Plus 34.62 ตารางเมตร เป็นห้อง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ + 1 ห้องอเนกประสงค์ เข้าห้องมาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นก่อน แต่ว่าห้องนั่งเล่นจะแจกไปยังห้องต่างๆอย่างครัวปิด(ซ้ายล่าง) ที่เป็นกระจกบานเลื่อนมองเข้าไปได้และเข้าห้องน้ำได้จากหน้าครัวหรือห้องนอนก็ได้สองฝั่ง ส่วนของห้องอเนกประสงค์อยู่ถัดไปจากห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อด้านนอกเป็นระเบียง และสุดท้ายห้องนอนที่ได้พื้นที่ค่อนข้างกว้าง และห้อง Type นี้จะได้หน้าต่าง Bay Window(หน้าต่างเข้ามุม) ได้มุมมองวิวมากกว่าปกติ

เปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ต่อเนื่องกันของพื้นที่รับประทานอาหาร พื้นที่นั่งเล่น ถัดไปด้านในเป็นห้องอเนกประสงค์(ขวามือ) และซ้ายมือเป็นห้องนอน วัสดุมาตรฐานต่างๆที่เราจะได้ก็เหมือนกับห้องก่อนหน้านี้ครับ

มองย้อนกลับไปประตูทางเข้า เราจะเห็นว่าถ้าเราเข้ามาแล้วครัวจะอยู่ซ้ายมือเรานะ และขวามือเป็นโต๊ะทานอาหาร

โต๊ะทานอาหารเราก็ได้นะครับ แต่หน้าตาจะไม่ใช่แบบนี้ให้ย้อนกลับไปดูห้องแรก จะประมาณนั้นนะ

มุมนั่งเล่นโซฟาถูกจัดเอาไว้กลางห้อง ซึ่งได้มาแบบ 2 ที่นั่งเช่นกันแต่จะมีโต๊ะข้างๆเพิ่มมาให้อีกตัวนึง

ลองมานั่งบนโซฟาดู ระยะดูทีวีประมาณ 3 เมตรนะ ชั้นวางกับตำแหน่งแอร์ตามนี้เลย จากมุมนี้ซ้ายมือเราจะเห็นส่วนของครัวด้วย ซึ่งยังคงรูปแบบครัวปิด เวลาใครทำอาหารไม่มีกลิ่นออกมารบกวนคนที่อยู่ห้องนั่งเล่น แถมได้เป็นกระจกแบบเต็มบานจากพื้นถึงฝ้าอีกด้วยทำให้ครัวดูโปร่ง

พื้นที่ยืนทำครับก็กลางได้มาตรฐาน เราสามารถเข้าห้องน้ำได้จากทางนี้ด้วย(ขวามือ)

ชุดตู้ครัวติดผนังด้านบนจะได้พื้นที่มากกว่าห้องแบบแรก

วัสดุจะเหมือนกัน ที่แตกต่างคือ พื้นที่เตรียมอาหารห้องนี้จะได้มากกว่าเพราะ Pantry เป็นตัว L นั่นเองครับ

ชุดช่องเก็บของต่างๆด้านล่าง พร้อมช่องวางเครื่องซักผ้าที่ดูพอดีเป๊ะๆไปหน่อย

เดี๋ยวจะเข้าไปดูห้องน้ำกัน โดยก่อนจะเข้าไปเราจะเห็นเจ้ากล่องควบคุมอะไรซักอย่างอยู่ด้านหน้าห้องน้ำ เจ้าตัวนี้คือ แผงควบคุมอุณหภูมิห้องโดยเชื่อมต่อกับพัดลมดูดอากาศในห้องน้ำ เป็นแบบที่เราตั้งว่า ถ้าสมมติในห้องน้ำเรามีอุณหภูมิถึง 32 องศาเมื่อไร ให้มันทำงานอัตโนมัติจนกว่าจะลดลงเหลือเท่าไรที่เราตั้งไว้

เข้ามาในห้องน้ำ ทางขวามือสุดจะติดตั้งกระจกเงาขนาดใหญ่เอาไว้

ทางฝั่งขวามือจะเป็นส่วนอ่าวล้างมือ ตรงกลางจะเห็นประตูทางเข้าออกมาจากห้องนอน

ซ้ายมือเป็นส่วนของพื้นที่อาบน้ำและสุขภัณฑ์

ตำแหน่งพัดลมดูดอากาศจะอยู่เหนือสุขภัณฑ์พอดีครับ

กลับมาที่ห้องนั่งเล่นอีกครั้ง ระยะเดินไปมาต่างๆของห้องนี้ถือว่ากว้างนะ เดินไปมาทุกส่วนได้ไม่เกะกะติดเฟอร์อะไร

ทางขวามือที่ติดกับโซฟา จะมีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน เป็นส่วนของทางเข้าห้องอเนกประสงค์ ที่สามารถจัดเป็นห้องนอนได้ โดยทางโครงการแจ้งว่าเตียงไซส์ 3 ฟุตนี้ถ้าไม่เอา จะสามารถเลือกเปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงานแทนก็ได้ สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานห้องนี้ได้จามความเหมาะสมของเจ้าบ้านนะ

ที่ด้านบนของเตียง ผนังมีการติดตั้งเฟอร์นิเจอร์เป็ตู้เก็บของชั้นวางเอาไว้ให้ด้วย ดีเลย อ้อ..ห้องนี้เราจะไม่ได้แอร์นะครับ แต่ละห้องจะได้แค่ 2 ตัวเท่านั้น

ประตูกระจกบานเลื่อนอีกตอนที่เชื่อมต่ออกไปยังระเบียง

รุปแบบระเบียงจะเหมือนกับห้องแรก แต่มุมซ้ายเราจะเห็นผนังกระจกในส่วนของห้องนอนด้วยเพราะเป็นหน้าต่างเข้ามุม

สุดท้ายไปดูห้องนอนกันครับ

ห้องนอนถือว่าได้ปรมาตรที่กว้างขวางกว่าห้องอื่นทำให้ดูโปร่งโล่งสบายตา คอมโบกับช่องแสงขนาดใหญ่และกว้างที่โครงการให้มา

ที่ปลายเตียงกว้างขนาดทำมุมโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ที่ผนังใกล้กับตำแหน่งแขวนทีวี เดินไปมาได้สะดวกเลย

หน้าต่างช่องแสงที่จัดเต็ม บวกกับห้อง Type นี้ได้หน้าต่างเข้ามุม

Bay Window(หน้าต่างเข้ามุม) ที่จะทำให้ได้มุมมองวิวจากเวลานอนได้กว้างกว่าแบบปกติ (อันนี้ถ่ายจากบนเตียงครับ)

ตำแหน่งตู้เสื้อผ้ายังคงอยู่หัวเตียงฝั่งซ้ายเช่นเคย โดยจะอยู่หน้าทางเข้าห้อน้ำพอดี

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 24 August 2017

  • 1 Bedroom Exclusive ขนาด 24.08 – 31.04 ตร.ม. (3 ยูนิต) ราคาเริ่มต้น 1.89 – 3.29 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Extra ขนาด 25.91 – 33.03 ตร.ม. (92 ยูนิต) ราคาเริ่มต้น 2.49 – 3.69 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 31.00 – 44.31 ตร.ม. (96 ยูนิต) ราคาเริ่มต้น 2.49 – 4.49 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ AVG 93,000 บาท/ตร.ม.

  • Fully Furnished / เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและบิวท์อิน พร้อมแอร์ 2 ตัว
  • Digital Door Lock YALE
  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • Kitchen & Sink + Hob & Hood(by MEX)
  • จอง 10,000 บาท / ทำสัญญา 20,000 บาท
  • ดาวน์ 10-15% ผ่อนดาวน์ 16 งวด(มีงวดพิเศษ 5 งวด)
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลโครงการอยู่ใน ย่านรัชดา-ลาดพร้าว ซึ่งเป็นย่านแหล่งที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ภายในซอยเล็กซอยน้อยทั้ง บ้านเดี่ยว คอนโด อพาร์ทเม้นท์ ตึกแถวต่างๆ ส่วนบนถนนใหญ่อย่างถนนรัชดาภิเษกนั้นก็ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารสำนักงานต่างๆ หรือบนถนนลาดพร้าวก็จะมีอาคารพาณิชย์ ศูนย์การค้าและ Hyper Market เปิดมากมาย ทำเลนี้จึงมีความอุดมสมบูรณ์สูง และคึกคักพอสมควร เราจะเห็นอพาร์ทเม้นท์ หอพักค่อนข้างมาก เพื่อรองรับพนักงานหรือคนที่ทำงานบนถนนรัชดาภิเษกเนื่องจากเดินทางสะดวก ส่วนร้านอาหารในซอยนี้นั้นก็พอมีให้เห็นบ้างประปราย แต่จะไม่ได้คึกคักเท่าถนนลาดพร้าววังหิน ที่ตั้งโครงการถึงแม้จะอยู่ซอยรัชดา 32-2 แต่ก็ถือเป็นโครงการที่ใกล้ปากซอยสุด ณ ตอนนี้ ประมาณ 190 เมตร อีกทั้งช่วงต้นซอยนั้นมีความอุดมสมบูรณ์สูงอย่างมินิมาร์ท 7-11, Lotus Express ร้านอาหารรถเข็น ซุ้มร้านอาหาร

แหล่งของกินและสถานที่ Hangout เดินเล่นได้ในระยะใกล้ๆ จะอยู่บนถนนลาดพร้าววังหิน ซึ่งมาร้านเด็ดร้านดังมากมายให้เลือก นอกจากนี้ก็มี Community Mall และร้าน Hangout มากมาย เรียกว่าไม่ต้องไปไหนไกลก็สามารถฝากท้องกับร้านอาหารบนถนนนี้ได้สบาย ซึ่งก็เหมาะกับคนที่ใช้ชีวิตอยู่คอนโดที่ไม่ได้เหมาะกับการทำกับข้าวกินเองมากนัก

การเดินทางบนทำเลนี้ถือว่าสะดวกแม้ไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ จุดเด่นเลยคือสามารถเลือกเส้นทางการเดินทางหลากหลาย เพราะอยู่ในซอยย่อยที่ลัดไปออกถนนใหญ่ได้ถึง 4 เส้น อย่างถนนพหลโยธิน ถนนลาดพร้าว ถนนเกษตรนวมินทร์ และถนนประดิษฐ์มนูธรรม ดังนั้นจึงสามารถหลีกรถติดบนถนนใหญ่ได้ค่อนข้างดีทีเดียว หากเป็นคนไม่ได้ขับรถก็ไม่ได้แย่มากนัก เพราะเป็นซอยที่มีรถเข้าออกตลอดเวลา ดังนั้นจะเรียกแท็กซี่ ก็แค่เดินออกมาจากซอยย่อย 100 ม. ก็สามารถโบกแท็กซี่ได้แล้ว ตรงนี้มีพี่วินมอเตอร์ไซค์ด้วย

สำหรับใครที่มักจะเดินทางไปทำงานด้วยรถไฟฟ้านั้น ปัจจุบันก็มีระบบรางที่ใกล้ที่สุดอย่าง MRT ลาดพร้าว ซึ่งตัวสถานีตั้งอยู่บริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าวเลย โดยมีระยะห่างจากโครงการไปประมาณ 1.5 กม. ต้องอาศัยต่อพี่วินมอเตอร์ไซต์ที่ปากซอยหน้าเซเว่นนี่ละครับ ส่วนในอนาคตนั้นก็จะมีระบบรางที่ขึ้นมาอำนวยความสะดวกให้คนในย่านนี้มากขึ้นทั้ง 2 เส้นทางกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายหมอชิต-คูคตที่อยู่บนถนนพหลโยธิน โดยมีสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีรัชโยธิน ที่ตั้งอยู่บนแยกรัชโยธิน มีระยะห่างจากโครงการไปประมาณ 3.8 กม. และอีกเส้นทางคือรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่จะตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าว โดยเริ่มจากแยกลาดพร้าว-รัชดา ไปจนถึงหน้าแฮปปี้แลนด์ เดอะมอลล์บางกะปิและวิ่งไปต่อบนถนนศรีนครินทร์จนถึงปลายทางย่านสำโรงในจังหวัดสมุทรปราการ สำหรับสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีรัชดา นั่นเอง

วัสดุ ให้ค่อนข้างไปทางดี และเยอะระดับนึง เฟอร์ให้แบบ Fully-Furnished ครบเกือบทุกอย่าง ประตูทางเข้าห้องปิดผิวด้วยลามิเนต Digital Door lock ยี่ห้อ Yale พื้น Smart Vinyl พื้นในห้องน้ำและระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิค ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร ครัวเคาน์เตอร์เป็นโครงไม้ปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ธรรมชาติ ส่วนผนังกันเปื้อนด้านหลังของจริงจะได้เป็นกระเบื้อง Hob&Hood ของ MEX , ในห้องจะได้แอร์ 2 ตัว และก็ห้องน้ำได้ COTTO กับ American Standard ผสมกัน

การออกแบบ เป็นคอนโดสไตล์ Modern Contemporary โดยใช้โทนสีอาคารเป็นสีเทาอ่อน-กลางเป็นหลัก ตัดกับสีกระจกของอาคาร รอบๆโครงการลงต้นไม้ไว้ขนานกับรั้วกำแพงโครงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้แก่โครงการ และนำ Main Facility หลักๆไว้ที่ชั้นบนทำให้เพิ่มความน่าใช้งานขึ้นไปอีก การจัดผังห้องต่อชั้นถึงแม้ว่าจะดูเยอะ แต่มีการคิดมาคอมโดบกับที่จอดรถ Automatic Parking ที่เอามาอยู่แกนกลางอาคาร ทำให้ห้องพักอาศัยกลายเป็น Single Corridor ไปเลยได้ผลดี อีกทั้งรูปแบบของห้องมีให้เลือก 3 เหมาะกับคนโสดและครอบครัวเริ่มต้น ที่แบบแต่ละแบบวางผังและฟังก์ชั่นมาค่อนข้างลงตัวเลย

สาธารณูปโภค ให้มาเหมาะสมกับปริมาณจำนวนยูนิตนะ แต่ว่าจัดและตกแต่งออกมาได้ดูน่าใช้งานทีเดียว เริ่มจาก ชั้น 1-2 : The Marble Lounge เป็นพื้นที่ Lobby รับลูกบ้านรวมถึงแขกส่วนแรกพื้นที่ Double Volume / ชั้น 8 : Full Fitness Function รับวิวกว้างเครื่องเล่น 7 ชิ้น(รวมบาร์ดัมเบล) ออกมาด้านนอก พื้นที่กลางแจ้ง Co-Working Space, The Skyscape Garden และมีทางเดินเชื่อมจ่อไปยัง Rooftop ทีมีสวนหย่อม ศาลาพักผ่อนริมสระ มีสระเด็ก Kid’s Pool และไฮไลท์คือ Moonlight Sky Pool ระบบเกลือ ขนาด 6.20 x 20.25 เมตร

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.ทั้งโครงการ AVG 93,000 บาท/ตร.ม., 24 August 2017

  • ทำเล 8/10 – เป็นแหล่งที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง เดินทางสะดวกด้วยเส้นทางลัด ใกล้ถนนหลักรัชดาฯ
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – สะดวก เข้าออกได้หลายเส้นทาง แต่รถในซอยจะหนาแน่นช่วงแวลาเร่งด่วน
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – มีพี่วินอยู่ห่างไป 100 ม. เรียก Taxi ง่ายซอยไม่เปลี่ยวเดินได้ แต่ไปรถไฟฟ้าต้องต่อรถ 1 ต่อ
  • วัสดุ 8/10 – ตามมาตรฐานราคา อยู่ในเกณฑ์ดี ให้เฟอร์นิเจอร์ครบขนาดใหญ่ใช้งานได้จริง
  • แบบ 7.75/10 – การจัดวางตำแหน่งทิศอาคารเหนือใต้, ได้ Single Corridor, ผังห้องโอเค, แต่ติดที่จำนวนยูนิตเยอะด้วยเนื้อที่ดิน 1 ไร่เศษ
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – ให้มาตามมาตรฐานของระดับโครงการและราคา ตกแต่งได้น่าใช้งาน แต่แชร์ยูนิตใช้ร่วมกันเยอะหน่อย

  • MAIN-UPPER CLASS 
  • 7.85 / 10.00

BOTTOM LINE

Modiz รัชดา 32 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดในย่านรัชดา – ลาดพร้าว ไม่เน้นโครงการใหญ่หรือต้องติดถนนใหญ่ เน้นความ Private และใช้รถส่วนตัวสะดวกเพราะมีเส้นทางลัดให้ใช้เยอะ เป็นทำเลที่เดินหาของกินได้ไม่ยาก มีส่วนกลางให้ใช้จริงจังในตัว นอกจากนั้นที่สามารถหิ้วกระเป๋าอยู่ได้เลย เริ่มสร้างครอบครัวอยู่อาศัยแค่ 1 – 2 คน มีงบประมาณระดับ 1.89 – 4.5 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 13,000 – 31,500 บาท/เดือน