รีวิวฉบับที่ 1146 … สวัสดีครับ วันนี้จะพาไปชมบ้านสวยๆออกแบบสไตล์ American Luxury Comfort ชื่อโครงการว่า Milton Residence รามอินทราจาก สวนหลวงบ้านและที่ดิน ตัวโครงการเป็นเฟสใหม่ที่ต่อเนื่องมาจากโครงการเดินอย่างบ้านริมสวนรามอินทรา ที่ใกล้จะปิดการขายทั้งโครงการแล้ว ที่ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่อย่างรามอินทราและใกล้แยกเมืองมีน อนาคตจะมีสวนของรถไฟฟ้าสายสีชมพูมาเสริมการเดินทางได้อีกด้วย
Fact @ 8 Aug 2016
- MILTON RESIDENCE RAMINTRA (มิลตัน เรสซิเดนซ์ รามอินทรา)
- บริษัท สวนหลวงบ้านและที่ดิน จำกัด
- HIGH-LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ : บนถนนรามอินทรา แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ
- เนื้อที่โครงการ 77-2-13 ไร่ จำนวน 121 ยูนิต [เฟส 2 พัฒนาจากต่อจากโครงการบ้านริมสวน รามอินทรา]
- Frasier พื้นที่ใช้สอย 265 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 12.9 ล้านบาท
- Prescott พื้นที่ใช้สอย 347 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2+2 ที่จอดรถ(ในร่ม+กลางแจ้ง) ราคาเริ่มต้น 15.9 ล้านบาท
- Harrington พื้นที่ใช้สอย 406 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2+2 ที่จอดรถ(ในร่ม+กลางแจ้ง) ราคาเริ่มต้น 19.5 ล้านบาท
- เพดานชั้น 1 สูง 2.90 เมตร, ชั้น 2 สูง 3.0 เมตร
- โครงการเริ่มก่อสร้าง : ปี 2559
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : ปี 2565
- เวปไซต์โครงการ : “คลิกที่นี่”
- สำนักงานขาย : 02-540-6680
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ
พิกัด : 13.818305, 100.710712
แผนที่จากทางโครงการ Milton Residence อยู่ติดกับถนนรามอินทรา ความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้เคียงแสดงถึงห้างใหญ่ในละแวกอย่างแฟชั่นไอส์แลนด์ เดอะพรอมานาด อมอรินี่ และแม็คโครเอาไว้แล้ว อยู่ใกล้กับวงแหวนตะวันออกรอบนอก(รามอินทรา-กาญจนาภิเษก) และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสามสีชมพูมาเสริมศักยภาพทำเลครับ
โครงการ Milton Residence รามอินทรา เป็นโครงการย่านรามอินทราที่ตัวโครงการอยู่เกือบติดถนนใหญ่ เพราะต้องผ่านเข้าโครงการพี่ชายเฟสแรกอย่างโครงการบ้านริมสวนรามอินทราซึ่งเป็นของผู้ประกอบการเดียวเดียวกันซึ่งสร้างมาก่อนและใกล้ปิดการขายทั้งหมดแล้ว เข้าไปอีกประมาณ 560 เมตร ถึงจะเจอทางเข้าหมู่บ้านที่มีซุ้มประตู เส้นทางหลักที่ใช้งานจะเป็นถนนรามอินทรา ซึ่งจะอยู่ไม่ห่างจากจุดตัดกับถนนกาญจนาภิเษก(วงแหวนตะวันออก) ซึ่งช่วยให้การเดินทางไปโซนบางนาจะทำความเร็วได้ดีหรือออกเมืองขึ้นทางเหนือไปทางอยุธยา ปทุมธานีก็ได้ อีกทั้งถ้าถ้าจะใช้เส้นทางประเสริฐมนูกิจก็มีสะพานต่างระดับเส้น รามอินทรา-นวมินทร์ ให้ใช้ แต่ถ้าจะเข้าเมืองแถวๆสยามนี่จะลำบากหน่อยเพราะเส้นทางที่มีระยะทางสั้นอย่างรามคำแหงดันเป็นเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่นและรถติดเอาเรื่อง แนะนำว่าให้วิ่งเส้นประดิษฐ์มนูธรรม(เลียบทางด่วน-รามอินทรา)จะสะดวกและทำความเร็วได้ดีกว่า
นอกจากนี้จะเห็นว่าตำแน่งของโครงการนั้นอยู่ใกล้กับจุดที่เป็น “แยก” ใหญ่หลายๆแห่งเช่น แยกเมืองมีน, แยกหทัยราษฏร์, แยกรามคำแหง-ร่มเกล้า, แยกการไฟฟ้า และแยกลาดบัวขาว ทำให้การเดินทางโซนนิ่งนี้แจกไปฝั่งตะวันออกเดินทางได้หลากหลายสะดวก แต่การที่มีแยกเยอะแบบนี้ก็มีส่วนทำให้เกิดความหนาแน่นของการรอเคลื่อนตัวของรถด้วยเช่นกัน ต้องคำนวนเวลาเผื่อดีๆ
พื้นที่บริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยเป็นส่วนมาก ทำให้มีสถานที่สำคัญที่ตอบสนองต่อการอยู่อาศัยตั้งอยู่ใกล้ๆโครงการหลายแห่ง พวกห้างสรรพสินค้าจะมี Fashion Island , Promenade และ แม็คโครรามอินทรา ส่วน Community Mall จะเป็น Amorini ตรงแยกสวนสยาม, The Compound และโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดจะเป็นโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี และโรงพยาบาลที่ใกล้จะมีโรงพยาบาลนพรัตนราชธานีตรงแยกตัดกับถนนสวนสยาม และโรงพยาบาลเสรีรักษ์ที่อยู่บนถนนเสรีไทยครับ
ส่วนทางขึ้น-ลงทางด่วนที่ใกล้ที่สุด คือ แยกรามอินทรา-กาญจนาฯ(วงแหวนตะวันออก) หรือถนนกาญจนาภิเษก(ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9) ระยะห่างจากแยกโดยประมาณ 5 กม. ผมทำแผนที่ประกอบแสดงจุดขึ้นและลงทางด่วนไว้ให้ดูแล้วประมาณนี้ ซึ่งถ้าขึ้นเหนือสามารถไปถึงปทุมธานี อยุธยา หรือว่าจะเข้าเมืองด้วยการลงใต้ไปยังถนนพระรามเก้า วงแหวนตะวันออก บางนาและไปถึงสมุทรปราการได้เลย
สำหรับการเดินทางแบบขนส่งสาธารณะในอนาคต ถ้าสร้างเสร็จเมื่อไรก็จะมาเสริมในการเดินทางได้เลยล่ะครับ เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี เพื่อรองรับการเดินทางของประชากรในพื้นที่ด้านเหนือของกรุงเทพ โดยการเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างเขตมีนบุรีและจังหวัดนนทบุรี แนวเส้นทางจะเริ่มต้นจากถนนรัตนาธิเบศร์บริเวณระหว่างศูนย์ราชการนนทบุรีและแยกแคราย ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่ – บางซื่อ) บริเวณสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี และสิ้นสุดเส้นทางที่บริเวณทางแยกร่มเกล้า
ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน – มีนบุรี ที่สถานีมีนบุรี โดยสถานีที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดคือสถานีสถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ซึ่งตำแหน่งสถานีต้องรอดูกันอีกทีว่าทางออกขึ้นลงจะอยู่ตรงไหน แต่อย่าพึ่งคาดหวังว่าจะได้ใช้กันในเร็ววันนี้นะครับ เพราะตามแผนเดิมของภาครัฐเคยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563 โน้น(ซึ่งมองแล้วน่าจะเกินซะด้วย) แต่เมื่อไหร่ที่รถไฟฟ้าเปิดใช้เต็มระบบแล้วจะช่วยให้การเดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวกมากขึ้นทีเดียว คือสามารถเข้าเมืองโดยไปต่อสายสีส้มตรงสถานี Interchange คือสถานีมีนบุรีแล้ววิ่งเข้ามาเชื่อมกับรถไฟใต้ดิน MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรม
แต่ในปัจจุบันที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูยังไม่เสร็จสมบูรณ์ จึงจำเป็นต้องพึ่งพารถประจำทางต่างๆ อาทิ
- รถเมล์ประจำทาง สาย 26, 96, 115, 150, 501, 525 โดยป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุดจะอยู่ติดถนนรามอินทราหน้าโครงการเลย
- รถตู้ประจำทางสายต. 16 มีนบุรี – หมอชิต 2, สายต. 22 มีนบุรี – ปากเกร็ด, สายต. 39 มีนบุรี – ฟิวเจอร์รังสิต ซึ่งจะจุดจอดเริ่มต้นจะอยู่ที่ตลาดมีนบุรีและวิ่งเส้นรามอินทราผ่านหน้าปากซอยโครงการ
- หน้าโรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ มีพี่วินประจำการอยู่ตั้งแต่เช้าจนถึงประมาณ 2 ทุ่ม
- หน้าโครงการเป็นถนนหลักรามอินทรา และใกล้แหล่งชุมชนเรียก Taxi ง่าย
การเดินทางในวันนี้ ผมจะใช้ถนนรามอินทราเส้นหลัก แต่ผมออกสตาร์ทเริ่มต้นจากบริเวณวงเวียนรามอินทราหลักสี่ ข้ามสะพานข้ามแยกแล้วตรงยาวววววววว จะผ่านแยกใหญ่อย่างแยกรามอินทราวัชรพล และแยกรามอินทรา-กาญจนาฯ(วงแหวนรามอินทรา)นั่นเอง หลักจากนั้นพอเลยแยกมาประมาณ 4.5 กิโลเมตร ก็จะเห็นซุ้มทางเข้าโครงการ “บ้านริมสวน+Milton Residence” ให้เตรียมเลี้ยวซ้ายได้เลย
เริ่มจากถนนแจ้งวัฒนะมุ่งหน้าไปทางวงเวียนรามอินทรา-หลักสี่ (ตามป้ายมีนบุรีไปยาวๆ)
ข้ามสะพานข้ามแยกวงเวียนรามอินทรา-หลักสี่
พอลงมาจะเจอกับห้างเซ็นทรัลรามอินทราทางซ้ายมือ เป็นห้างช้อปปิ้งหลักของคนในละแวกนี้ครับ
หลังจากนั้นจะผ่านแยกที่สามารถเลี้ยวเข้าถนนลาดปลาเค้าได้
และก็จะเจอกับป้ายบอกจราจรว่าข้างหน้าจะเป็นแยกใหญ่คือแยกรามอินทรา-วัชรพล เรามุ่งตรงมีนบุรีนะ
ผ่านบริเวณจุดตัดแยกรามอินทรา-วัชรพล
หลังจากนั้นตรงมาจะเจอกับสามแยกไฟแดงที่ถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นซอยรามอินทรา 40 (นวลจันทร์) เป็นอีกซอยขึ้นชื่อมีร้านอาหารอร่อยๆอยู่หลายเจ้า ซึ่งสามารถไปลัดเลาะออกถนนเลียบด่วนเอกมัยรามอินทราและถนนเกษตรนวมินทร์ได้ด้วยนะ
ทีนี้เราจะเจอกับสะพานข้ามแยกอีกอันนึง เป็นสะพานข้ามแยกถนนนวมินทร์นะครับ หรือเรียกว่าแยกนวมินทร์กม.8 เราจะเห็นคอนโดลุมพินีทาวน์เด่นอยู่ขวามือ
พอลงสะพานข้ามแยกมาจะเจอกับโรงพยาบาลสินแพทย์อยู่ฝั่งตรงข้าม
หลังจากนั้นจะเจอป้ายบอกทางว่าข้างหน้าทางซ้ายจะเป็นแยกรามอินทรา-กาญจนาภิเษก(วงแหวนรอบนอกตะวันออก) ให้เราชิดเลนขวาไว้
มุ่งหน้าตรงลอดใต้วงแหวนเลยครับ
พอพ้นวงแหวนมาแล้วซ้ายมือจะเป็นห้าง Fashion Island ห้างช้อปปิ้งมอลล์ที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณละแวกนี้ ซึ่งคนแถวนี้คงจะมาพึ่งพิงกันแน่นอน
พอพ้นห้าง fashion island มาปุ๊ปจะเจอกับศูนย์ Toyota Sure ให้เราเบี่ยงไปเลนซ้ายนะครับ เพราะถ้าอยู่เลนขวาจะเป็นที่กลับรถ
บริเวณนี้จะเป็นสามแยกรพ.นพรัตนราชธานี ซึ่งถ้าเลี้ยวขวาจะไปสวนสยามได้ ปากซอยทางเข้าจะเป็น Community Mall ชื่อว่า Amorini Mall รามอินทรา เป็นที่พึ่งพึ่งอาหารกินชั้นดีใกล้ๆโครงการอีกจุดนึง
ต่อมาจะเห็นห้าง Makro รามอินทราอยู่ฝั่งตรงข้าม
หลังจากนั้นเลยผ่านทางแยกซ.รามอินทรา 109 หรือถนนพระยาสุเรนทร์
จากนั้นจะเห็นป้ายซอยรามอินทรา 119 อยู่ทางซ้ายมือเป็นปากซอยทางเข้าหมู่บ้านสินธานี 2 บริเวณสะพานลอย ให้เราชิดซ้ายเลยครับ
ถึงทางเข้าโครงการแล้ว เลยไปข้างหน้าอีกนิดหน่อยก็เป็นแยกเมืองมีนแล้ว
ด้านหน้ามีป้ายโครงการติดอยู่สวยงาม
หน้าตาทางเข้าโครงการ
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ
สภาพแวดล้อมรอบๆของโครงการในระยะประชิดครึ่งนึงทางฝั่งขวา(ทิศตะวันออก) จะอยู่ติดกับที่ดินเปล่าบุคคลอื่นและก็บ่อน้ำขนาดใหญ่(เคยเป็นบ่อตกปลามาก่อน) ซึ่งทำให้คนที่เลือกบ้านฝั่งนี้จะได้วิวที่สวยเลยล่ะ เดี๋ยวไปดูของจริง / ส่วนทิศใต้ติดอยู่กับโครงการพี่ชายเฟสแรกของเราเองคือบ้านริมสวนรามอินทรา / ถัดมาทิศตะวันตกตอนนี้ติดกับที่ดินเปล่าของบุคคลอื่นที่ยังไม่ได้มีการพัฒนาใดๆ แต่ด้วยขนาดและรูปแปลงก็มีทางเป็นไปได้ที่จะมีโครงการเพื่อนบ้านครับ / สุดท้ายทิศเหนืออยู่คิดกับแนวชุมชนที่พักอาศัยทั่วไปและมีส่วนนึงของโครงการติดกับซอยเจริญพัฒนา แต่ทางเข้าออกส่วนนี้ไม่ได้เปิดให้ใช้นะครับ แต่ว่าถ้าเกิดมีการอยู่อาศัยขึ้นมาแล้วและลูกบ้านประชุมต้องการเปิดทางเข้าออกฝั่งนี้โครงการก็ยินดีเปิดได้
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- โรงพยาบาลเสรีรัตน์
- โรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ
- โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี
- โรงเรียน เอกบูรพา วิเทศศึกษา
- ตลาดมีนบุรี
- Big C
- Makro รามอินทรา
- Tesco Lotus
- Amorini
- Fashion Island
- The Promenade
โครงการ Milton Residence รามอินทรา เป็นโครงการย่านรามอินทราที่ตัวโครงการอยู่เกือบติดถนนใหญ่ เพราะต้องผ่านเข้าโครงการพี่ชายเฟสแรกอย่างโครงการบ้านริมสวนรามอินทราซึ่งเป็นของผู้ประกอบการเดียวเดียวกันซึ่งสร้างมาก่อนและใกล้ปิดการขายทั้งหมดแล้ว เข้าไปอีกประมาณ 560 เมตร ถึงจะเจอทางเข้าหมู่บ้านที่มีซุ้มประตูอีกชั้นนึง โดยเนื้อที่ดินโครงการ 77-2-13 ไร่(รวมทั้งเฟสเก่าด้วย) มีจำนวน 121 ยูนิต(เฉพาะ Milton) รวมทั้งหมด 221 ยูนิต มีบ้านทั้งหมด 3 แบบ พื้นที่ใช้สอย 265, 347 และ 406 ตร.ม.
เริ่มก่อสร้างไปแล้วปลายปี 2559 คาดว่าจะเสร็จทั้งหมดประมาณปี 2565 ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นประตูเลื่อนไฟฟ้า Double Gate และรั้วไม้กันกระดก โดยเปิด-ปิดได้จาก Key Card Access ระยะใกล้ จะมีรปภ.รักษาความปลอดภัยทั้งสองจุดทางเข้า 24 ชม. และ มีติดตั้ง CCTV บริเวณซุ้มทางเข้าออกด้วย เมื่อผ่านซุ้มโครงการเข้ามาถึงจะเป็นถนนหลักของโครงการที่มีความกว้าง 16 เมตร และถนนรองกว้าง 9 เมตร โครงการมี Facility ใหญ่อยู่สองจุดได้แก่ส่วน Club House ด้านหน้าโครงการที่ใช้ร่วมกับโครงการพี่น้องอย่างบ้านริมสวน โดยจะมีห้อง Fitness, สระว่ายน้ำ และพื้นที่นั่งเล่น สนามเด็กเล่น และอีกส่วนจะอยู่ในพื้นที่ของ Milton จะเป็นสวนหย่อมขนาดใหญ่ ลานอเนกประสงค์และมี Pavillion เก๋ๆตั้งอยู่ ที่เหลือจะเป็นพื้นที่พักอาศัยทั้งหมด รั้วกำแพงของโครงการเป็นคสล.ทึบสูง 2.5 เมตรต่อยืดด้วยไม้ระแนงอีก 1 เมตร
หน้าตาซุ้มทางโครงการช่วงแรก ขนาดใหญ่และดูสวยงาม มีซุ้มรปภ.อยู่ใจกลาง พื้นบริเวณนี้ทั้งหมดจะเป็นสแตมป์คอนกรีต
ระบบ Keycard Access ระยะใกล้ในการเข้าออก ประตูเป็นแบบเหล็กเลื่อนไฟฟ้า มี CCTV และรปภ.ประจำการอยู่ตลอด
ด้านข้างเป็นส่วนของทางเดินเท้าเข้าออกครับ จะเห็นว่าผนังตกแต่งกรุด้วยกระเบื้องลานหินอ่อนดูสวยงาม
เข้ามาและจะเจอทางข้ามลำรางแต่โครงการเค้าปิดด้วยต้นไม้บังสายตาเอาไว้เป็นระเบียบสวยงาม
พื้นที่นี้จะเป็นโครงการเฟสแรก พี่ชายของเราบ้านริมสวนรามอินทรา ซึ่งอย่างที่บอกต้องตรงเข้าไปประมาณ 550 เมตร ถึงจะถึง Gate ของ Milton ครับ ถนนเมนช่วงนี้กว้างประมาณ 16 เมตร
เข้ามาทางซ้ายมือจะเจอกับบ้านที่เป็น Sale Office ของโครงการ โดยใช้ร่วมกับบ้านริมสวนที่กำลังจะปิดการขายเหลือไม่ถึง 10 ยูนิตแล้ว
เข้ามาดูใน Sale Office กันหน่อย
มีมุมโชว์พื้นที่วัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างบ้านด้วยครับ ผนังที่นี่เค้าใช้แบบ EKOBLOCK นะครับแข็งแรงเลย
ออกมาจาก Sale Office ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่ของ Club House ด้านหน้าโครงการโดยมีห้อง Fitness, สระว่ายน้ำ และพื้นที่นั่งเล่น สนามเด็กเล่น
หน้าตาภายนอก Club House เป็นสไตล์คอทเทจเหมือนกัน น่ารักเชียว
ทางเข้าออกต้องใช้ Keycard ลูกบ้านนะครับ เวลาเปิดปิดคือ 07.00 – 19.00 น.
เข้ามาข้างในแล้วมองทางขวามือก่อน จะเจอบันไดวนและทางเข้าห้อง Fitness
กฏระเบียบการใช้งาน
ภายในห้อง Fitness ขนาดเล็ก แต่ล้อมรอบด้วยช่องแสงทุกด้านเลยทำให้ดูโปร่ง และวางเครื่องออกกำลังกายเอาไว้ประมาณ 6 เครื่อง
ขึ้นบันไดวนมา ชั้นบนไม่มีอะไรเป็นห้องเล็กๆโล่งอเนกประสงค์แบบนี้
ลงมาที่ชั้นล่างอีกครั้ง จะเป็นพื้นที่กึ่ง Outdoor เอาไว้นั่งเล่น จุดนี้เอาไว้สำหรับแขกที่มาหาเรา บางทีก็มานั่งคุยเล่น คุยงานบริเวณนี้ก็ได้
ออกมาด้านนอกมีอาคารแยกอีกส่วนนึงอยู่ริมสระเช่นกัน เดี๋ยวจะพาไปดูข้างในมีอะไรบ้าง
ภานในอาคารมีห้องน้ำแยกชายหญิงแบบนี้ครับ
เงยหน้าขึ้นไปหน่อยเค้าจัดวางช่องแสงเอาไว้ขนาดใหญ่ให้ส่องได้ตามทั่วถึงตามทางเดิน
ภายในห้องน้ำขนาดไม่ใหญ่มาก แต่มีฟังก์ชั่นมาตรฐานการใช้งานมาให้ครบ มีห้องซาวน่าด้วยนะ
ด้านนอกตรงข้ามห้องน้ำอีกฝั่งนึงจะมีห้อง Fitness อีกห้องนึง ต้องใช้ Key Card อีกชั้นในการเข้าไป
เข้ามาดูในห้อง Fitness ห้องนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าห้องแรกนิดหน่อยครับ แต่ก็วางเครื่องออกกำลังกายเอาไว้ 5 เครื่อง ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องขนาดใหญ่ ห้องนี้กลางวันจะร้อนหน่อย คงต้องเปิดแอร์ตลอดถ้ามีคนใช้งาน
มองออกไปข้างนอกจะเป็นส่วนของพื้นที่สระว่ายน้ำขนาดใหญ่
มีพื้นที่แยกสระเด็กเล็กเอาไว้ด้านข้าง มีสไลเดอร์ด้วย 😀
สระว่ายน้ำที่นี่ใหญ่มาก ใช้ออกกำลังกายจริงจังได้แน่นอน เป็นระบบคลอรีน ขนาดประมาณ 12.5 x 25 เมตร ลึก 1.3 เมตร
ศาลาแบบโปร่งริมสระอีกด้านนั่ง มีชุดโต๊ะนั่งเล่นได้ 3 จุด
แต่ว่าถ้าใครไม่อยากโดนแดด ก็จะมีศาลาแบบหลบแดด หลบฝนจริงจัง และนั่งเล่นขนาดใหญ่บริเวณนี้ได้ด้วยนะ
พื้นที่ด้านข้างใจกลางสวน จะเป็นวงกลมสนามเด็กเล่น 2 จุดแบบนี้ โดยพื้เค้าปูเป็นเม็ดยางกันกระแทกเอาไว้ให้
เครื่องเล่นเด็กอีกชุดนึงครับ ถือว่าให้มาเยอะดี
พื้นที่นั่งเล่นก่อคอนกรีตใต้ต้นไม้ใหญ่
กลับมาที่ถนนเมนของบ้านริมสวนกันต่อ เดี๋ยวจะตรงเข้าไปในส่วนพื้นที่โครงการ Milton Residence
ตามริมฟุตบาทถนนเมนเค้าก็ปลูกสวนเอาไว้แบบนี้ด้วยนะ ดูมีสีเขียวมาช่วยตัดหน่อย
ตรงมาถึงปากทางเข้าพื้นที่โครงการ Milton Residence แล้ว มีเสาตกแต่งด้านข้างสองฝั่ง
จะเจอกับ Gate รั้วกั้นไม้กระดกอีกชั้นนึง และมีป้อมรปภ.อยู่ทางซ้ายมือ
ส่วนของป้อมรปภ.ครับ
ถนนภายในโครงการประมาณ 10 เมตร ซึ่งโครงการพึ่งสร้างบ้านเสร็จไปซอยแรกซอยเดียวนะครับ จะค่อยๆทยอยสร้างกันไป
ทางซ้ายมือที่อยู่ติดกับลำรางสาธารณะ ซึ่งเค้าทำเป็นรั้วเหล็กโปร่งแบบนี้ให้เห็นริมน้ำและมองข้ามไปอีกฝั่งได้
พื้นที่ฝั่งตรงข้ามเป็นส่วนของสวนหย่อมอีกจุดภายในโครงการ เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ และมีศาลาพักผ่อนให้
ถนนรองภายในโครงการความกว้างประมาณ 9 เมตร(รวมริมฟุตบาทหน้าบ้าน)
โครงการพึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จไปแค่ซอยแรกเท่านั้นนะครับ โดยบ้านที่นี่จะมีทั้งหมด 3 แบบ 3 ขนาด มีพื้นที่ใช้สอยที่แตกต่างกันและได้การจัดสวนในบ้านที่ต่างกันด้วย
สิ่งอำนวยความสะดวก
- Club House ด้านหน้าโครงการ (ขนาดเนื้อที่ 1-2-6 ไร่) ตกแต่งสไตล์คอทเทจ
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบคลอรีน ขนาด 12.5 x 25 ม. แบ่งสระเด็ก สระผู้ใหญ่ลึก 1.3 ม.
- ห้องออกกำลังกาย 2 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 11 เครื่อง(รวม 2 ห้อง)
- สวนสาธารณะจำนวน 2 จุด (รวม 2-3-42 ไร่) และ Luxury Pavilion
- ประตูทางเข้า Double Main Gate และ Key Card Scan
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- รั้วรอบโครงการสูง 2.5 ม.และรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 1 ม.
- Key Card Access ระยะใกล้
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ เลื่อนไฟฟ้า
- ถนนหลักกว้าง 16 ม. และถนนภายในกว้าง 9-10 ม.
โครงสร้าง
ที่โครงการเค้าตกแต่งบ้านตัวอย่างเอาไว้หลังเดียวคือบ้านไซส์ขนาดกลาง Prescott พื้นที่ใช้สอย 347 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ราคาเริ่ม 15.9 ล้านบาท บ้านขายแบบบ้านเปล่ามาตรฐานไม่มีครัวให้ แต่ว่าได้แอร์ทุกห้องนอนรวมถึงห้องโถงด้านล่างด้วย ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานชั้น 1 อยู่ที่ 2.90 เมตร และชั้นบนอยู่ที่ 3 เมตรครับ
มาดูแปลนบ้านกัน พื้นที่จอดรถกว้างประมาณ 5.5 เมตร โดยสามารถจอดรถในร่มได้ 2 คัน และกลางแจ้งได้อีก 2 คัน มีประตูทางเข้าในบ้านบริเวณที่จอดรถด้วย แต่ทางเข้าหลักอยู่บริเวณเฉียงหน้าบ้าน บ้านนี้มีห้องนอนแม่บ้านแยกเข้าออกด้านหลังบ้านมีห้องน้ำในตัว เข้ามาแล้วจะเป็นพื้นที่ของ Living Area ถัดจากนั้นตรงใจกลางบ้านเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่อยู่ระหว่างกันโซนรับประทานอาหาร และครัวปิด จะเห็นว่ารอบๆบ้านจะเป็น Terrace ขนาดใหญ่ที่ถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่ใช้ำหรับทำกิจกรรมกึ่ง outdoor กับครอบครัวรอบบ้านได้ ตำแหน่งของห้องน้ำและห้องเก็บของอยู่ใต้บันได
ขั้นมาที่ชั้นบนจะเจอกับห้องโถงมองตรงไปจะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ แต่ว่ามีระเบียงในตัว ที่โถงนี่แจกออกเป็น 3 ห้องนอน โดยฝั่งหน้าบ้านเป็นส่วนของ Master Bedroom กินพื้นที่ครึ่งซีกทั้งหมดมีฟังก์ชั่นใช้งานครบพื้นที่วางเตียง walk in closet ห้องน้ำและระเบียง(ขนาดใหญ่)ในตัว ส่วนของห้องนอนเล็กสองห้องจะอยู่ฝั่งด้านหลังซึ่งฟังก์ชั่นและขนาดจะเหมือนกันเลย แค่สลับตำแหน่งหัวเตียงเท่านั้น
หน้าตาภายนอกบ้านแบบกลาง Prescott พื้นที่ใช้สอย 347 ตร.ม. คอนเซ็ปท์ที่นี่คือ American Luxury Comfort ตัวบ้านใช้โทนบ้านสีเทาอมฟ้า ตัดกับสีขาวและลวดลายเส้นแนวตั้งที่กรุหินสลักตกแต่งครับ ดูดีทีเดียว บ้านจะเน้นให้หน้าต่างอยู่ถอยร่นเข้ามาในตัวบ้านหน่อย เพื่อให้แสงที่ส่องเข้ามาในบ้านไม่จัดจนเกินไป อย่างบ้านตัวอย่างหลังนี้เป็น “แปลงริม” ที่อยู่ติดกับรั้วโครงการ แต่มีของดีอยู่ที่วิวชั้นบน เดี๋ยวค่อยๆตามไปดูกัน
ประตูส่วนของทางเข้าออกเดินเท้าครับ ด้านข้างมีติดป้ายบ้านเลขที่และกิ่งกดเอาไว้ให้
ประตูเปิดเก็บขยะจากภายนอกบ้านอยู่อีกฝั่งนึงครับ
ด้านในจะเป็นแบบนี้ครับ มีฝาปิดกันกลิ่น เอาไว้ให้เรียบร้อย
เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่จอดรถที่ปูกระเบื้องเอาไว้ให้ จะเห็นว่าตัวบ้านถูกยกสูงจากถนนในโครงการการนิดหน่อย สามารถจอดรถในร่มได้ 2 คัน และกลางแจ้งได้ 2 คัน
บริเวณพื้นที่จอดรถมีการเจาะช่องผนังให้เป็นพื้นที่เก็บของใช้งานหนักชิ้นใหญ่ทั่วไปตรงจุดนี้
ลองเปิดให้ดู ถ้าเรากั้นเป็นชั้น ก็จะเก็บของจุกจิกเพิ่มได้ หรือทำเป็นราวแขวนเอาก็ได้
อันนี้เป็นประตูทางเข้าบ้านส่วนที่อยู่ติดกับที่จอดรถ เป็นบานเลื่อนกระจกตอนคู่แบบนี้ กระจกเป็นสีเขียวตัดแสงทั้งบ้าน
หันมองทางซ้าย โครงการเค้าจัดทางเดินแบบนี้เอาไว้ให้ด้วยนะ โรยหินกรวดตกแต่งรอบๆเอาไว้
จุดนี้เป็นส่วนเฉลียงทางเข้าบ้านหลัก โดยจะมีระยะร่นเข้าไปหลบแสงแดดและฝนได้ สามารถทำเป็นพื้นที่นั่งเล่น หรือเป็น Foyer สำหรับถอดเก็บรองเท้าที่มุมนี้
เงยหน้าให้ดูข้างบนหน่อย หน้าต่างจุดนี้จะอยู่ในส่วนของห้องนอน Master แต่ว่ามีการกั้นแนวระแนงเพื่อเพื่อความเป็นส่วนตัวแก่ลูกบ้าน แต่ก็ยังแอบให้แสงลอดเข้ามาได้เช่นกัน หน้าบ้านจะมีไฟกิ่งติดให้ 2 จุด
มาดูส่วนของสวนในบ้านกันบ้าน โครงการจะลงต้นไม้ให้ค่อนข้างเยอะนะครับ ได้เกือบๆตามนี้เลยล่ะ แต่ศาลานั่งในบ้านไม่มีนะ ต้องไปหาซื้อมาตกแต่งเพิ่มเอง
หันไปมองทางขวา จะปูพื้นเป็นรูททางเดินเชื่อมต่อไปลาน Terrace ด้านข้างบ้าน
พื้นที่ดินด้านข้าง จะเห็นว่ามีระยะเนื้อที่ดินเหลือห่างจากกำแพงพอสมควร ไม่อึดอัดชิดเกินไป เพราะต้องการให้เป็นบ้านที่เน้นพื้นที่ใช้สอยนอกบ้านได้เยอะหน่อยด้วย จากมุมนี้จะเห็นแนวรั้วกำแพงของโครงการที่เป็นคอนกรีตสูง 2.5 เมตร และต่อด้วยระแนงโปร่งสูงอีก 1 เมตร
ให้ดูความสูงของรั้วกำแพงครับ
มองเข้ามาในพื้นที่ Terrace รอบบ้าน ค่อนข้างกว้าง และเป็นพื้นที่ที่ต่อเนื่องกันไปจนถึงครัวด้านหลังได้เลย พื้นที่ตรงนี้สามารถจัดเป็นมุมมินิปาร์ตี้สำหรับทานอาหารกลางแจ้งมื้อเย็นสำหรับครอบครัวก็ดีนะ
เดินต่อเนื่องมายังด้านหลังบ้านครับ
ซ้ายมือเป็นช่องพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า ขวามือเป็นประตูทางเข้าออกบ้านส่วนครัว
แบบนี้ครับ พื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้ามีเดินท่อน้ำทิ้งเอาไว้ให้ และก็มีปลั๊กไฟแบบฝาครอบกันน้ำไว้
เดินต่อมาหน่อยด้านหลังเป็นตำแหน่งบ่อเกรอะและถังเก็บน้ำที่ได้เป็นมาตรฐานของโครงการ จะเห็นว่ารั้วฝั่งที่ชิดกับกำแพงเพื่อนบ้านหน้าตาเป็นหินแบบตกแต่งมีดีเทลรายละเอียดไม่ใช่ฉาบเรียบธรรมดา
เดินอ้อมมาด้านข้าง ประตูสีดำเป็นห้องของงานระบบน้ำ แยกเป็นสัดส่วน และก็ทางเข้าห้องนอนแม่บ้านที่มีห้องน้ำในตัว
ลองเปิดห้องงานระบบน้ำให้ดู ตำแหน่งปั๊มน้ำจะอยู่ในนี้นะครับ และก็มีป้ายบอกคู่มือการใช้งานไว้ให้
ประตูมือจับทางเข้าบ้านเป็นแบบก้านโยก วงกบอลูมิเนียมสีดำเงาแบบนี้
เข้ามาในบ้านแล้ว ความสูงของชั้นนี้อยู่ที่ 2.90 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโตไซส์ 60 cm. เจอกับ Living Area ก่อน
พื้นที่ของ Living สามารถวางชุดโต๊ะโซฟาได้ประมาณ 3-5 คนประมาณนี้ โดยมีช่องแสงสองจุดอยู่ที่ผนังด้านหลัง
มุมนี้เป็นพื้นที่วางทีวี ถ้าอยากใช้พื้นที่ใช้สอยคุ้มค่าก็ Built-In แบบเต็มผนังไปเลยก็ได้ครับ
จะเห็นว่าระยะดูทีวีค่อนข้างกว้างไปนิดนึงนะครับประมาณเกือบ 4 เมตรเลยล่ะ ถ้าใครเลือกซื้อทีวีต่ำกว่า 60 นิ้ว อาจจต้องเพ่งสายตาเอาเลยล่ะ
พื้นที่ที่ต่อเนื่องติดกันจริงๆเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ แต่บ้านตัวอย่างจัดให้ดูเป็นไอเดียที่ทำเป็นมุมของมินิเลานจ์ แบบนี้เอาไว้สำหรับเตรียมเครื่องดื่มและนั่งเล่นจิบกาแฟเบาๆก็ได้ และเป็นมุมโขว์น่านั่งสวยๆด้วย
ไอเดียจากบ้านตัวอย่าง ใช้พื้นที่ในช่องนี้ให้เป็นพื้นที่จัดเก็บเครื่องดื่ม เตรียมของว่าง
ถัดมาเป็นโซนรับประทานอาหารขนาดใหญ่ ที่ขนาดเอาโต๊ะขนาดใหญ่ประมาณ 8 ที่นั่งได้ มาลงแล้วก็ยังมีพื้นที่เหลือเดินไปมารอบๆโต๊ะได้โดยไม่อึดอัด
พื้นที่รับประทานอาหารได้รับช่องแสงจากผนังด้านรอบสองฝั่งเต็มที่ครับ ออกไปข้างนอกเป็นส่วนของ Terrace ที่พาเดินไปดูก่อนเข้าบ้านมา
ประตูทางเข้าห้องครัวเป็นกระจกบานเลื่อนแบบนี้ เลยเป็นครัวปิดที่สามารถมองเข้าไปข้างในได้
ประตูบานเลื่อนห้องครัวเค้าทำรางเอาไว้ด้านบนนะครับ เวลาเดินเข้าออกไม่ต้องกลัวสะดุดพวกขอบวงกบ
ห้องครัวของบ้านมาตรฐานจะไม่ได้นะครับ เป็นแบบโล่งๆเลย แค่เดินท่อน้ำดีเอาไว้ให้เท่านั้น อันนี้ทำให้ดูเป็นไอเดียเท่านั้น
ตำแหน่งช่องแสงติดอยู่กับประตูทางออกหลังบ้าน
พื้นที่วางตู้เย็นอยู่ฝั่งขวามือ
ออกมานอกครัว ก่อขึ้นไปชั้นบน จะเห็นทางขวาเป็นประตูทางเข้าออกบ้านส่วนติดกับที่จอดรถ
มีห้องเก็บของใต้บันได และห้องน้ำชั้นล่างอยู่ตรงนี้
ห้องน้ำเป็นแบบ Powder Room คือไม่มีฟังก์ชั่นอาบน้ำให้ พื้นห้องน้ำลดระดับลงประมาณ 10 ซม. พื้นก็เป็นแกรนิตโต้เหมือนกัน มีหน้าต่างช่องแสงและระบายอากาศอยู่หลังสุขภัณฑ์ ชุดอ่าล้างมือมีชุดตู้ใต้อ่างมาให้ด้วย
ตำแหน่งของสุขภัณฑ์และระยะพวกมือจับเหมาะสม ได้ของ Mogen นะครับ
ขึ้นมาบันได ออกแบบชานพักมาได้ดีมากเป็นสีเหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่เสมอกันไม่ซอยชั้นแบบนี้ ตัวราวกันตกของบันไดเป็นกระจกนิรภัยด้วย ทำให้ดูสวยงาม
ช่องแสงขนาดใหญ่บริเวณชานพักบันได
ขึ้นมาที่ชั้นบนเป็นพื้นไม้ลามิเนต Kronoswiss 8 mm. โดยโทนสีใช้เหมือนกับพื้นบันได
พื้นที่โถงชั้นบนขึ้นมาจะเจอกับพื้นที่อเนกประสงค์ ที่ถึงจะไม่กว้างมากนักแต่จัดได้หลายอย่างอย่าง พื้นที่นั่งเล่นอ่านหนังสือ, พื้นที่กิจกรรมครอบครัว
ตรงนี้มีพื้นที่จัดวางโซฟาประมาณ 3-4 ที่นั่งได้
มุมนี้เป็นมุมที่เชื่อมต่ออกไปยังระเบียง ถ้าในแปลนฟังก์ชั่นจุดนี้ถูกออกแบบให้เป็น Corridor Lounge หรือ จะทำเป็นห้องพระก็ได้ แล้วแต่ความต้องการของเจ้าของบ้าน
ทางออกไประเบียงมีธรณก่อขึ้นมาค่อนข้างสูงหน่อยเพื่อป้องกันเวลาฝนสาดเข้ามาได้ พื้นที่ระเบียงขนาดประมาณ 2.1 x 2.4 เมตร
อย่างที่บอกไปก่อนเข้าบ้านหลังนี้เป็นแปลงริม ฝั่งตะวันออกของโครงการ ซึ่งพื้นที่แปลงข้างเคียงนั้นเป็นบ่อน้ำเปล่าเฉยๆ เลยได้วิวแบบนี้ ค่อนข้างเงียบสงบ
อีกมุมนึงทางขวาครับ
ทีนี้มาดูส่วนของห้องนอนเล็กกันก่อน อยู่ฝั่งหลังบ้าน
ห้องนอนเล็ก แต่ขนาดโดยรวมก็ถือว่าไม่เล็กเลยครับ สามารถวางเตียง King Size ได้ปกติ โดยที่มีระยะพื้นที่รอบข้างเดินไปมาได้ ห้องนี้มีหน้าต่างช่องแสง 3 จุด ตำแหน่งตามในรูป
ฝั่งซ้ายมือสามารถเลือกจัดวางเป็นพื้นที่วางโซฟา หรือเป็นมุมตู้เสื้อผ้าก็ได้ครับ
ระยะทางเดินทางปลายเตียงค่อนข้างกว้างนะครับ จะไม่เหมาะกับการนอนดูทีวีเพราะมันไกลไปหน่อย ควรหาโซฟามาวางที่ตำแหน่งปลายเตียงและนั่งดูปรกติแทน ใกล้กับหน้าต่างสามารจัดวางเป็นมุมโต๊ะทำงานอ่านหนังสือ
ระยะด้านข้างเตียงฝั่งขวาถ้าเหลือผมแนะนำขยายความยาว เลือกโต๊ะทำงานให้เป็นโต๊ะแบบยาวไปเลยใช้อ่านหนังสือทำงาน วางคอมอะไรพวกนี้
ภายในห้องน้ำเป็นแนวยาวลึกแบบนี้ครับ โดยมีฟังก์ชั่นสำคัญครบทุกอย่าง แยกพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียกไว้
ตำแหน่งของอ่างล้างมือและสุขภัณฑ์อยู่ทางขวามือ
ส่วนของพื้นที่อาบน้ำแยกส่วนเปียกกั้นด้วยกระจกนิรภัย พื้นจะเป็นกระเบื้องลายไม้สีอ่อน ขนาดพื้นที่อาบน้ำประมาณ 1.0 x 1.35 เมตร
พื้นของห้องน้ำมีการลดระดับลง ชั้นละประมาณ 8 ซม. เอาไว้สำหรับงานทำความสะอาด
หน้าตาชุดฝักบัว มและมีจุดวางสบู่ให้ 2 ตำแหน่ง ให้เครื่องทำน้ำอุ่นของ Stiebel Eltron เป็นแบรนด์ของเยอรมัน
ห้องนอนเล็กอีกห้องตามแปลน แต่ว่าห้องตัวอย่างจัดเป็นห้องทำงานเอาไว้ให้ดู เผื่อว่าครอบครัวไหนสมาชิกในบ้านไม่ได้อยู่กันเยอะมากก็เลือกได้ตามฟังก์ชั่นการใช้งาน
มุมผนังห้องที่อยู่ชิดกับห้องน้ำ จัดเป็นชั้นเก็บของ หรือจะ Built-In เป็นตู้เก็บชั้นเอกสาร หนังสือก็ได้
ห้องน้ำเหมือนกันทุกประการครับ แค่กลับด้าน
ทีนี้มาดูห้อง Master Bedroom กันบ้าง ห้องนี้จะกินพื้นที่ครึ่งซีกฝั่งหน้าบ้าน ทำให้มีพื้นที่ๆค่อนข้างเยอะและมีมุมฟังก์ชั่นหลากหลายจุด ช่องแสงจะมีทั้งบานกระทุ้ง 2 จุดฝั่งหัวเตียง และก็ประตูกระจกบานเปิด 2 ตอนออกไประเบียง
พื้นที่ด้านข้างเตียงฝั่งซ้ายเหลือค่อนข้างกว้าง จัดวางโต๊ะหัวเตียงขนาดใหญ่ได้
ปลายเตียงจัดวางเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนดูทีวีในห้องขนาดย่อมในห้องนอนได้เลย ระยะดูทีวีประมาณ 2 เมตร
ออกมาด้านนอกระเบียง พื้นที่ระเบียงถูกลดระดับลงประมาณ 10 ซม. เป็นพื้นที่ระเบียงยาวต่อเนื่อง เลยจัดเป็นมุมสวนกระถางและนั่งพักผ่อนแบบจริงจังตอนเย็นได้
มุมนี้สามารถจัดเป็นมุมสวนกระถาง หรือจัดสวนแนวดิ่งได้ คงจะสวยน่าดู
พื้นที่ทางเดินไปห้องน้ำ บ้านตัวอย่างจัดระหว่างทางเป็นพื้นที่ของตู้เสื้อผ้า Built-In
เดินถัดมาจะเจอกับพื้นที่โต๊ะเครื่องแป้งขนาดยาวที่อยู่ติดกับหน้าต่างช่องแสงขนาดใหญ่
มองย้อนกลับไปครับ ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ใช้สอยแนวตั้งให้ได้มากที่สุดและไม่เกะกะทางเดิน
ช่องแสงบริเวณโต๊ะเครื่องแป้งเป็นหน้าต่าง 3 ตอนที่อยู่บริเวณเฉลียงของหน้าบ้าน ที่ถูกออกแบบไม่ให้แสงเข้ามาในบ้านมากและน้อยเกินไป
ในส่วนของห้องน้ำ จะได้เคาน์เตอร์อ่างล้างมือที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ หน้าตาเช่นนี้
อ่างล้างมือเป็นแบบ His&Her เคาน์เตอร์รอบอ่างเป็นหินสังเคราะห์สีดำ ดูตัดกับหน้าบานตู้สีเทาด้านล่าง
หันมองทางซ้าย ภายในห้องน้ำขนาดกว้างขวางเลยจึงได้อ่างอาบน้ำมาด้วย มีช่องแสงขนาดใหญ่ส่องเข้ามาและระบายอากาศได้ด้วย ขนาดของพื้นที่อาบน้ำภายในฉากกั้นประมาณ 1.10 x 1.20 เมตร
ขนาดของอ่างอาบน้ำ ด้านข้างมีเดรนระบายน้ำอยู่ใกล้ๆ
ชุดอ่างและฝักบัวของ Mogen
ตำแหน่งวางสุขภัณฑ์อยู่ตรงข้ามประตูทางเข้าพื้นที่อาบน้ำ
ชุดฝักบัวและเครื่องทำน้ำอุ่นได้เหมือนกันครับ
ส่วนบ้านหลังที่เล็กสุด คือแบบ Frasier พื้นที่ใช้สอย 265 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 12.9 ล้านบาท บ้านจะไม่ได้ตกแต่งเอาไว้นะครับ เป็นบ้านเปล่ามาตรฐานที่รอส่งมอบโอนเลยถ่ายแค่ข้างนอกบ้านเท่านั้น ส่วนของ Plan ของบ้านก็จะคล้ายแบบขนาดกลางแต่ว่าลดฟังก์ชั่นห้องนอนแม่บ้าน และก็ระเบียงชมวิวโถงชั้นบน และขนาดบ้านเล็กกระชับลงหน่อยประมาณนี้ครับ
หน้าตาภายนอกของแบบบ้าน Frasier พื้นที่ใช้สอย 265 ตร.ม. จะคล้ายกับแบบแรกที่พาไปดูแต่จะใช้โทนสีที่แตกต่างกันคือสีน้ำตาลแบบสว่างๆดูอบอุ่นหน่อย
แบบบ้านขนาดใหญ่สุด คือแบบ Harrington พื้นที่ใช้สอย 406 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2+2 ที่จอดรถ(ในร่ม+กลางแจ้ง) ราคาเริ่มต้น 19.5 ล้านบาท แบบนี้ที่ดินมาตรฐานเริ่มต้นก็จะเยอะกว่าแบบอื่นนะครับ 108 ตารางวา ชั้นล่างเลยมีส่วนของฟังก์ชั่น Terrace ขนาดใหญ่ที่เอาไว้ติดกับสวนเพื่อเป็นพื้นที่กึ่ง Semi-Outdoor ขนาดใหญ่เป็นลานกิจกรรมครอบครัว
หน้าตาภายนอกของบ้านจะไม่เหมือนกันสองแบบแรก แต่ใช้โทนสีเทาอ่อนเข้มตัดกันและลวดลายหินสลักมาผสม รั้วเป็นเหล็กโปร่งทำให้ดูโปร่งโล่งมองเห็นพื้นที่สวนในบ้าน
พื้นที่จอดรถค่อนข้าวลึก จอดได้สบายๆ เหลือเฟือ 4 คัน (ในร่ม+กลางแจ้ง)
พื้นที่จัดสวนมาตรฐาน จะเป็นแนวประมาณนี้แล้วแต่ขนาดแปลงที่ดิน
ส่วนของฟังก์ชั่น Terrace ขนาดใหญ่ที่เอาไว้ติดกับสวนเพื่อเป็นพื้นที่กึ่ง Semi-Outdoor ขนาดใหญ่เป็นลานกิจกรรมครอบครัว
พื้นที่สวนข้างบ้าน ลงต้นไม้ใหญ่เอาไว้ให้หลายต้นครับ รวมถึงปูพื้นบริเวณทางเดินเอาไว้ให้ด้วย
เนื่องจากใครเลือกแปลงที่มีเนื้อที่ดินเยอะ จะมีพื้นที่เพียงพอสามารถสร้างสระว่ายน้ำได้ด้วยนะครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 8 Aug 2016
- Frasier ที่ดินมาตรฐาน 75 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 265 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 12.9 ล้านบาท
- Prescott ที่ดินมาตรฐาน 92 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 347 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2+2 ที่จอดรถ(ในร่ม+กลางแจ้ง) ราคาเริ่มต้น 15.9 ล้านบาท
- Harrington ที่ดินมาตรฐาน 108 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 406 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2+2 ที่จอดรถ(ในร่ม+กลางแจ้ง) ราคาเริ่มต้น 19.5 ล้านบาท
- จอง,ทำสัญญา และผ่อนดาวน์ (สอบถามกับเจ้าหน้าที่โครงการหน้างาน)
- ค่าส่วนกลาง 20 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
โครงการ Milton Residence รามอินทรา เป็นโครงการย่านรามอินทราที่ตัวโครงการอยู่เกือบติดถนนใหญ่ เพราะต้องผ่านเข้าโครงการพี่ชายเฟสแรกอย่างโครงการบ้านริมสวนรามอินทราซึ่งเป็นของผู้ประกอบการเดียวเดียวกันซึ่งสร้างมาก่อนและใกล้ปิดการขายทั้งหมดแล้ว เข้าไปอีกประมาณ 560 เมตร ถึงจะเจอทางเข้าหมู่บ้านที่มีซุ้มประตู เส้นทางหลักที่ใช้งานจะเป็นถนนรามอินทรา ซึ่งจะอยู่ไม่ห่างจากจุดตัดกับถนนกาญจนาภิเษก(วงแหวนตะวันออก) ซึ่งช่วยให้การเดินทางไปโซนบางนาจะทำความเร็วได้ดีหรือออกเมืองขึ้นทางเหนือไปทางอยุธยา ปทุมธานีก็ได้ อีกทั้งถ้าถ้าจะใช้เส้นทางประเสริฐมนูกิจก็มีสะพานต่างระดับเส้น รามอินทรา-นวมินทร์ ให้ใช้ แต่ถ้าจะเข้าเมืองแถวๆสยามนี่จะลำบากหน่อยเพราะเส้นทางที่มีระยะทางสั้นอย่างรามคำแหงดันเป็นเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่นและรถติดเอาเรื่อง แนะนำว่าให้วิ่งเส้นประดิษฐ์มนูธรรม(เลียบทางด่วน-รามอินทรา)จะสะดวกและทำความเร็วได้ดีกว่า
นอกจากนี้จะเห็นว่าตำแน่งของโครงการนั้นอยู่ใกล้กับจุดที่เป็น “แยก” ใหญ่หลายๆแห่งเช่น แยกเมืองมีน, แยกหทัยราษฏร์, แยกรามคำแหง-ร่มเกล้า, แยกการไฟฟ้า และแยกลาดบัวขาว ทำให้การเดินทางโซนนิ่งนี้แจกไปฝั่งตะวันออกเดินทางได้หลากหลายสะดวก แต่การที่มีแยกเยอะแบบนี้ก็มีส่วนทำให้เกิดความหนาแน่นของการรอเคลื่อนตัวของรถด้วยเช่นกัน ต้องคำนวนเวลาเผื่อดีๆ
พื้นที่บริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยเป็นส่วนมาก ทำให้มีสถานที่สำคัญที่ตอบสนองต่อการอยู่อาศัยตั้งอยู่ใกล้ๆโครงการหลายแห่ง พวกห้างสรรพสินค้าจะมี Fashion Island , Promenade และ แม็คโครรามอินทรา ส่วน Community Mall จะเป็น Amorini ตรงแยกสวนสยาม, The Compound และโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดจะเป็นโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี และโรงพยาบาลที่ใกล้จะมีโรงพยาบาลนพรัตนราชธานีตรงแยกตัดกับถนนสวนสยาม และโรงพยาบาลเสรีรักษ์ที่อยู่บนถนนเสรีไทยครับ
สำหรับการเดินทางแบบขนส่งสาธารณะในอนาคต ถ้าสร้างเสร็จเมื่อไรก็จะมาเสริมในการเดินทางได้เลยล่ะครับ เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี เพื่อรองรับการเดินทางของประชากรในพื้นที่ด้านเหนือของกรุงเทพ โดยการเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างเขตมีนบุรีและจังหวัดนนทบุรี โดยสถานีที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดคือสถานีสถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ซึ่งตำแหน่งสถานีต้องรอดูกันอีกทีว่าทางออกขึ้นลงจะอยู่ตรงไหน แต่อย่าพึ่งคาดหวังว่าจะได้ใช้กันในเร็ววันนี้นะครับ เพราะตามแผนเดิมของภาครัฐเคยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563 โน้น(ซึ่งมองแล้วน่าจะเกินซะด้วย) แต่เมื่อไหร่ที่รถไฟฟ้าเปิดใช้เต็มระบบแล้วจะช่วยให้การเดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวกมากขึ้นทีเดียว คือสามารถเข้าเมืองโดยไปต่อสายสีส้มตรงสถานี Interchange คือสถานีมีนบุรีแล้ววิ่งเข้ามาเชื่อมกับรถไฟใต้ดิน MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรม / ด้านหน้าโครงติดถนนหลักรามอินทราเรียก Taxi, รถเมล์, รถสองแถวง่าย
โครงการ Milton Residence รามอินทรา เนื้อที่ดินโครงการ 77-2-13 ไร่(รวมทั้งเฟสเก่าด้วย) มีจำนวน 121 ยูนิต(เฉพาะ Milton) รวมทั้งหมด 221 ยูนิต มีบ้านทั้งหมด 3 แบบ พื้นที่ใช้สอย 265, 347 และ 406 ตร.ม. เริ่มก่อสร้างไปแล้วปลายปี 2559 คาดว่าจะเสร็จทั้งหมดประมาณปี 2565 ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นประตูเลื่อนไฟฟ้า Double Gate และรั้วไม้กันกระดก โดยเปิด-ปิดได้จาก Key Card Access ระยะใกล้ จะมีรปภ.รักษาความปลอดภัยทั้งสองจุดทางเข้า 24 ชม. และ มีติดตั้ง CCTV บริเวณซุ้มทางเข้าออกด้วย เมื่อผ่านซุ้มโครงการเข้ามาถึงจะเป็นถนนหลักของโครงการที่มีความกว้าง 16 เมตร และถนนรองกว้าง 9 เมตร
แบบบ้านของที่นี่ทำออกมา 3 แบบ หน้าตาภายนอกจะเป็นแนวโมเดิร์นคอทเทจ ตามคอนเซ็ปต์ American Luxury Comfort ที่ใช้โทนสีอ่อนสลับกับสีขาวและกรุหินสลักบางส่วนดูน่ารักสวยดี ด้วยขนาดและเนื้อที่ดินของบ้านจะเหมาะสำหรับครอบครัว 4-7 คน ได้ บ้านที่นี่จะไม่ได้เน้นพื้นที่ใช้สอยในบ้านมากจะมีระยะห่างเป็นส่วนของเนื้อที่ดินรอบๆบ้านด้วยเอาไว้สำหรับสวนและมี Terrace ที่กว้างสำหรับเป็นพื้นที่กิจกรรมครอบครัว ส่วนของฟังก์ชั่นในบ้านจัดมาได้ดีนะ จะแอบเน้นที่ชั้นล่างให้ดูโปร่งโล่งโอโถ่เหมาะสำหรับรับแขกมีมุมโชว์พวกมินิเลาจ์นได้ แต่ห้องนอนชั้นบนยังมีพื้นที่เหลือเกินๆนิดหน่อยต้องจัดหางเฟอร์นิเจอร์ที่ขนาดใหญ่หน่อยมาช่วยให้ดูเข้าที่นิดนึง
วัสดุของที่นี่ให้มาเหมาะสมมาตรฐานกับราคานะ ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานชั้นล่าง 2.90 เมตร ชั้นบน 3.0 เมตร วงกบอลูมิเนียมพาวเดอร์โคทสีดำ กระจกเขียวตัดแสง พื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ ชั้นบนเป็นพื้นลามิเนต Kronoswiss 8 mm. ผนังใช้อิฐ EKO BLOK ฉาบเรียบ ผนังภายในติดวอลเปเปอร์ให้ โครงหลังคาสำเร็จรูปเสริมฟลอย์สะท้อนความร้อน ห้องน้ำได้ชุดของ Mogen เกือบทั้งหมด และได้กระจกฉากกั้นอาบน้ำ / ได้แอร์ทุกห้องนอนและโถงชั้นล่าง
โครงการมี Facility ใหญ่อยู่สองจุดได้แก่ส่วน Club House ด้านหน้าโครงการ (ขนาดเนื้อที่ 1-2-6 ไร่) ตกแต่งสไตล์คอทเทจ ที่ใช้ร่วมกับโครงการพี่น้องอย่างบ้านริมสวน โดยจะมีห้อง Fitness 2 ห้อง วางเครื่องออกกำลังกายทั้งหมด 11 เครื่อง, สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบคลอรีน ขนาด 12.5 x 25 ม. แบ่งสระเด็ก สระผู้ใหญ่ลึก 1.3 ม. และพื้นที่นั่งเล่น สนามเด็กเล่น / สวนสาธารณะจำนวน 2 จุด (รวม 2-3-42 ไร่) รั้วกำแพงของโครงการเป็นคสล.ทึบสูง 2.5 เมตรต่อยืดด้วยไม้ระแนงอีก 1 เมตร, ประตูทางเข้า Double Main Gate และ Key Card Scan, ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ, Key Card Access ระยะใกล้, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง, ประตูรั้วโครงการแบบ เลื่อนไฟฟ้า, ถนนหลักกว้าง 16 ม. และถนนภายในกว้าง 9-10 ม.
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 12.9-19.5 ล้านบาท, 8 Aug 2016
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8.0/10 – ใกล้ถนนหลักเดินทางสะดวก แหล่งชุมชนมีความอุดมสมบูรณ์ อนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูมาเสริม
- ความปลอดภัย 8.0/10 – Double Gates , Access key card ระยะใกล้ มีกล้อง CCTV ทั่วทั้งโครงการ รั้วรอบโครงการสูง 2.5+1 ม.
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.0/10 – แบบสวย มีคอนเซปท์ในการออกแบบ มีฟังก์ชั่นให้ครบ
- วัสดุ 7.5/10 – วัสดุส่วนใหญ่ อยู่ในเกณฑ์ มาตรฐานของระดับราคาบ้าน
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.0/10 – สวนสาธารณะจำนวน 2 จุด (รวม 2-3-42 ไร่) / และมีจัดสวนในบ้านให้ด้วย
- สาธารณูปโภค 8.0/10 – Club House ด้านหน้าโครงการ (ขนาดเนื้อที่ 1-2-6 ไร่) ใหญ่และน่าใช้ / และสวนด้านใน จำนวนการใช้งานไม่หนาแน่น
- 7.95 / 10.00
BOTTOM LINE
Milton Residence รามอินทรา เหมาะสำหรับคนที่หาบ้านเดี่ยวย่านรามอินทรา ต้องการความสงบไม่ชอบความพลุกพล่าน มีสมาชิกในครอบครัว 4-6 คน ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก และมีสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบในระยะขับรถไม่ไกลมาก ชอบบ้านแบบมีสไตล์และคอนเซ็ปท์ชัดเจน มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้ในพอสมควรเลยในโครงการ มีงบประมาณ 13-20 ล้านบาท หรือกำลังผ่อนชำระเดือนละ 91,000 – 140,000 บาท
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )