รีวิวฉบับที่ 1580 … สวัสดีค่ะ ใครกำลังมองหาคอนโดใหม่แกะกล่อง ทำเลใกล้ตลาดพลูและ BTS วุฒากาศ เรามีโครงการใหม่จาก Property Perfect อย่าง Metro Sky วุฒากาศ คอนโด High Rise บนถนนวุฒากาศ มาพร้อมกับ Facilities ครบ ในราคาเริ่มต้น 1.75 ล้านบาท โครงการจะเป็นอย่างไรไปดูกันค่ะ

 

Fact @ 5 May 2018

  • Metro Sky Wutthakat (เมโทร สกาย วุฒากาศ)
  • บริษัท พรอพเพอร์ตี้ เพอร์เฟ็ค จำกัด(มหาชน)
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ : ถนนวุฒากาศ ธนบุรี
  • คอนโด High Rise 31 ชั้น 1 อาคาร 527 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 23 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 197 คันคิดเป็น 38% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ที่ดินประมาณ 2-0-94.7 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : กรกฎาคม 2561
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ธันวาคม 2563
  • Studio 21.3-25.2 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.75 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 27.7 – 34.8 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.3 ล้านบาท
  • 2 Bedroom 39.2 – 46.7 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.65 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.75 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 85,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1375

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.715784, 100.472220

โครงการ Metro Sky วุฒากาศ ตั้งอยู่บนถนนวุฒากาศช่วงระหว่างถนนเทอดไทและถนนราชพฤกษ์ ทำเลแถวนี้จัดว่ามีความคึกคักในระดับชุมชนเก่าแก่ที่อยู่กันมานาน ดังนั้นเรื่องของความอุดมสมบูรณ์จะมีให้เห็นตลอดทางเดินรอบข้างสองฝั่งถนน ลักษณะร้านค้าต่างๆ จะเป็นร้านค้าตามตึกแถวชั้นล่าง และร้านรถเข็นต่างๆ ขายในราคาไม่แพง นี่เป็นเพียงความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินละแวกโครงการเท่านั้น

แต่แหล่งความอุดมสมบูรณ์ในย่านตลาดพลูนี้เลยมีอยู่ 2 จุดด้วยกันระยะห่างจากโครงการจะราวๆ 1-2 กม. โบกพี่กะป้อหรือวินมอเตอร์ไซค์แถวหน้าโครงการไปลงได้ง่าย สนธิราคาอยู่ราวๆ 10-20 บาท โซนแรกเลยคือ ตลาดพลู เป็นตลาดเก่าแก่ขนาดใหญ่ของย่านนี้ที่มีร้านอาหารอร่อยๆ หลากหลายร้าน จนปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวไปด้วยในตัวนะคะ ช่วงเช้าๆ นั่งรถไปซื้อของกินมาตุนไว้ที่ห้องก็ง่าย อร่อยและราคาไม่แพงด้วยค่ะ ส่วนอีกโซนคือ เดอะมอลล์ท่าพระ เป็นอีกหนึ่งแหล่งใหญ่ที่มีความคึกคักสูงมากค่ะ เพราะนอกจากจะมีห้างไว้ให้เดิน Shopping ใกล้ๆ แล้วนั้น ยังเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ของคนในละแวกนี้ทำให้รอบข้างห้างเราจะเห็นเต้นท์อาหาร ตลาดพอสมควรเลย จะคึกคักมากๆ ในช่วงกลางวันที่พนักงานพักกลางวัน

สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์นั้นถือว่าสะดวกค่ะ ด้วยความที่โครงการอยู่ติดถนนวุฒากาศเลย ซึ่งสามารถไปเชื่อมเข้าถนนใหญ่อย่างราชพฤกษ์เพื่อเข้าเมืองไปยังสาทรได้ไม่ยากผ่านสะพานตากสิน หรือจะใช้ถนนเทอดไทเชื่อมไปออกวงเวียนใหญ่ ย่านการค้าเก่าแก่ชื่อดังก็ได้เช่นกัน ส่วนใครที่วิ่งออกเมืองไปทางนครปฐมต่างๆ ใช้ถนนเพชรเกษมวิ่งตรงไปได้ง่ายค่ะ โดยรวมแล้วการเดินทางของโครงการนี้ค่อนข้างสะดวกนะคะ แม้จะไม่ได้อยู่บนถนนใหญ่อย่างราชพฤกษ์เลยทีเดียวเมื่อเทียบกับโครงการข้างเคียง แต่ก็อยู่ไม่ห่างจากถนนราชพฤกษ์มากนัก ราวๆ 450 ม. ซึ่งเป็นระยะที่ขับรถได้สะดวก และยังอยู่ในย่านที่คึกคักระดับชุมชนไม่เปลี่ยวมากนักด้วย ติดตรงที่ให้ที่จอดรถมาประมาณ 38% น้อยไปหน่อยสำหรับโครงการราคานี้ ยังดีที่ Trade-Off กับตัวเลือกในการเดินทางด้วยรถสาธารณะได้สะดวกค่ะ

สำหรับใครที่ไม่ขับรถก็สะดวกเช่นเดียวกันนะคะ เพราะตัวโครงการนี้อยู่ไม่ไกลจาก BTS วุฒากาศมากนัก ระยะจากขาขึ้นบันไดเลื่อนสถานีวุฒากาศถึงหน้าโครงการจะอยู่ประมาณ 450 ม. ซึ่งถือว่ายังเป็นระยะที่เดินได้ แต่จะต้องเดินข้ามถนนหลายช่วงหน่อย แต่หากใครไม่อยากเดินจะเรียกพี่วินมอเตอร์ไซค์ไปส่งก็ได้ค่ะ สนนธิราคาอยู่ที่ประมาณ 10-15 บาท นอกจากนี้อย่างที่บอกไปว่าบนถนนวุฒากาศก็ยังมีรถกะป้อให้ได้เลือกขึ้น แท็กซี่ต่างๆ ก็พอสมควรค่ะ โดยรวมการเรียกรถสาธารณะค่อนข้างสะดวกค่ะ

มาที่มุมมองหากเทียบกับโครงการข้างเคียงในเรื่องของความสะดวกในการเดินทางด้วยรถสาธารณะโครงการนี้อาจจะไม่ใช่จุดเด่นกว่าโครงการอื่นๆ เพราะยังมีโครงการที่อยู่บนถนนราชพฤกษ์หรือถนนวุฒากาศที่อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้ามากกว่า แต่เปรียบเทียบในแง่อื่นที่ไม่ใช่ระยะการเดินนั้น โครงการที่อยู่บนถนนราชพฤกษ์จะค่อนข้างเปลี่ยวกว่าการเดินบนถนนวุฒากาศในช่วงกลางวันและกลางคืนเลย ซึ่งหากใครที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นหลักในการเดินทางไปที่ต่างๆ แนะนำให้เลือกโครงการบนถนนวุฒากาศค่ะ นอกเสียจากโครงการอยู่ติดรถไฟฟ้าเลยค่ะ

สำหรับการเดินทางของเราในวันนี้จะเริ่มต้นกันที่ BTS วุฒากาศ ทางออกที่ 4 เป็นทางออกที่ใกล้กับโครงการที่สุด จากนั้นเดินข้ามแยกเพื่อเข้าถนนวุฒากาศเข้ามาประมาณ 450 ม. จะเห็นโครงการตั้งอยู่ฝั่งขวามือของถนนค่ะ

เริ่มต้นที่บนสถานี วุฒากาศ กันเลยนะคะ หรือหมายเลขสถานี S11

จากนั้นเดินออกมาที่ทางออก 4 เป็นทางออกที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดค่ะ

ตรงมาอีกหน่อยเจอพี่วินมอเตอร์ไซค์ ใครขี้เกียจเดินไปโครงการสามารถเรียกวินจากตรงนี้ได้เลยค่ะ และถัดไปหน่อยที่เห็นเป็นบันไดเลื่อนนั้นคือทางขึ้นสถานีที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด ขึ้นได้ง่ายไม่ต้องเดินขึ้นเหมือนบันไดธรรมดา

จากนั้นข้ามถนนกัน การข้ามจะมีทั้งหมด 4 ต่อด้วยกัน เริ่มจากข้ามไปเกาะกลางและข้ามอีกจุดไปยังทางเดินใต้สะพาน

จากทางเดินใต้สะพานเราข้ามไปยังเกาะกลางแล้วข้ามอีกรอบตรงไปทางถนนวุฒากาศ

บรรยากาศบนถนนวุฒากาศตลอดแนวเราจะเห็นเป็นบรรยากาศประมาณนี้เลยค่ะ ริมสองฝั่งข้างถนนเป็นอาคารพาณิชย์มีร้านค้า ร้านขายของต่างๆ มากมายทีเดียว โดยรวมแล้วบรรยากาศดีเดินได้ง่ายอยู่ค่ะ

ตรงมาประมาณ 450 ม. จะเห็นโครงการอยู่ฝั่งซ้ายมือแล้วค่ะ

ปัจจุบัน Sale Office โครงการสร้างเสร็จพร้อมเปิดให้เข้ามาดูห้องตัวอย่าง โมเดล และสอบถามราคาต่างๆกับทางเซลล์ได้เลยนะคะ

บรรยากาศภายใน Sale Office ตกแต่งมาในสไตล์ Modern ซึ่งโทนสีและการตกแต่งวัสดุต่างๆ มีความคล้ายคลึงกับส่วน Lobby ในโครงการเมื่อเสร็จแล้วนะคะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

บรรยากาศโดยรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นชุมชนทั้งหมด มีบ้านพักอาศัยอยู่ภายในซอย ด้านหน้าที่ติดถนนวุฒากาศเป็นอาคารพาณิชย์สูง 2-4 ชั้น ซึ่งไม่มีอาคารสูงมาบล็อกวิวทั้ง 4 ด้าน ในฝั่งทิศด้านหลังโครงการหรือทิศตะวันออกติดกับพื้นที่ดินเปล่านะคะ ซึ่งมองจากขนาดพื้นที่แล้วยังมีศักยภาพที่จะพัฒนาเป็นโครงการได้ในอนาคต

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • BTS วุฒากาศ – 450 เมตร
  • สถานีรถไฟตลาดพลู – 1 กม.
  • The Mall ท่าพระ – 1.8 กม.
  • โรงพยาบาลพญาไท 3 – 2.6 กม.
  • วัดปากน้ำ – 1.7 กม.

 


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ Metro Sky วุฒากาศ คอนโด High Rise สูง 31 ชั้น บนเนื้อที่ดิน 2-0-94.7 ไร่ โดยมียูนิตทั้งหมดอยู่ที่ 527 ยูนิต ตัวโครงการออกแบบมาในสไตล์ Modern สมัยใหม่ชัดเจนด้วยโทนสีเทา และตัดกับสีน้ำเงินให้มีสีสันสดใสมากยิ่งขึ้น

  • ชั้น 1 : จัดให้เป็นพื้นที่ต้อนรับแขกของลูกค้าแล้วยังเป็นพื้นที่พักผ่อนของลูกค้าด้วยคอนเซ็ป Boundaryless Design หรือการออกแบบให้ทุกพื้นที่ Outdoor และ Indoor เชื่อมต่อและมองเห็นกันได้ โดยในส่วน Outdoor จะมีสวนสาธารณะให้เดินเล่นนั่งเล่นได้พร้อมพื้นที่ BBQ ส่วน Indoor ประกอบด้วย Lobby, Co-Working Space และ Meeting
  • ชั้น 2-7 : เป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด รวม 38%
  • ชั้น 8 : ชั้นพักอาศัยรวมกับ Facilities โดยประกอบด้วยสระว่ายน้ำและห้อง Steam แยกหญิง/ชาย
  • ชั้น 9-30 : ชั้นพักอาศัย
  • ชั้น 31 : ชั้น Sky Facilities ประกอบด้วยห้องฟิตเนส และพื้นที่กิจกรรมกลางแจ้ง

เริ่มจากทางเข้า-ออกโครงการบนถนนวุฒากาศ วิ่งเข้ามาถึงตัวอาคารอีกหน่อย ซึ่งระหว่างนี้มีการจัดพื้นที่สวนด้านข้างให้ดูสวยงามด้วยนะคะ ข้อดีสำหรับการที่มีถนนยาวก่อนเข้าสู่อาคารด้านในคือเรื่องความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น และมลภาวะจากถนนเช่นเสียงรถ หรือฝุ่นควันน้อยลง ข้อด้อยคือเราต้องเดินเข้า-ออกไกลมากขึ้น (สำหรับคนใช้รถสาธารณะ) ที่จะเข้าสู่อาคารได้

ในส่วนของ Facilities ภายนอกอาคารในชั้นล่างสุด หากดูจาก Model จะเห็นว่าที่นี่ให้พื้นที่สวนค่อนข้างใหญ่ทีเดียวนะคะ

ขึ้นมาที่ชั้น 8 ซึ่งมีส่วน Facilities ด้วยส่วนนึงโดยประกอบด้วยสระว่ายน้ำ ห้อง Steam และพื้นที่สวน สำหรับใครที่ไม่ได้เลือกห้องในชั้นสูงๆ ตามงบประมาณจำกัด ลองมาดูห้องชั้น 9-11 ในฝั่งที่หันมาทางสระว่ายน้ำก็น่าสนใจนะคะ เมื่ออาจจะได้ไม่ได้วิวภายนอกในมุมสูงมากนักก็ยังได้วิวสระว่ายน้ำและส่วนกลางในชั้น 8 อยู่ค่ะ

บรรยากาศบริเวณหน้าทางเข้าโครงการ หากดูจากรูป Perspective แล้วจะเห็นว่าทางโครงการตกแต่งพื้นที่ด้านข้างถนนให้ดูร่มรื่นด้วยไม้พุ่มและไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและข้อดีอีกอย่างคือต้นไม้ทำหน้าที่เสมือนเป็น Buffer มลภาวะจากถนนได้ดีอีกด้วยค่ะ ส่วนการออกแบบถนนทำมาค่อนข้างโฉบเฉี่ยวน่าสนใจดี

ภายใน Lobby มีความโอ่โถงและขนาดค่อนข้างกว้างขวางทีเดียวนะคะ และอีกอย่างโครงการนี้ค่อนข้างให้ความสำคัญกับ Lobby พอสมควร ภายใต้คอนเสป Boundaryless design จะเห็นจากในรูป Perspective ว่าบรรยากาศภายในสามารถมองออกไปยังภายนอกที่เป็นสวนได้ดี ด้วยกระจกทรงสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน มีประตูเปิดให้เข้า-ออกจาก Lobby ไปยังสวนด้านหลังอาคารได้ง่าย ตั้งใจให้ทุกพื้นที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ง่าย

ติดกับ Lobby มีจัดพื้นที่ Napping Space ด้วยนะคะ ถือว่าค่อนข้างน่าสนใจและไม่เคยเห็นที่โครงการไหนมาก่อน ส่วนใหญ่เราจะเห็นฟังก์ชันนี้ในร้านคาเฟ่ หรือ Co-Working Space แต่โครงการนี้มีให้ด้วย น่าจะเหมาะกับคนที่ทำงานที่บ้านเป็นหลักไม่ได้เข้าออฟฟิศประจำ เบื่ออยู่ทำงานบนห้องก็สามารถมาทำงานที่ชั้นล่าง ง่วงก็เดินมานอนเล่นตรงบริเวณนี้ได้

ติดๆ กันเป็นพื้นที่ Co-Working Space จัดเป็นโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ให้นั่งทำงาน หรือคุยงานกันได้ และถัดมาหน่อยจะมีห้อง Meeting Room ด้วยนะคะ ในภาพนี้อาจจะไม่เห็นแต่จะเห็นฟังก์ชันห้อง Meeting Room อยู่ใน Master plan ค่ะ

มาที่บริเวณสวนด้านนอกกันต่อ ที่นี่นอกจากจะจัดให้มีพื้นที่นั่งเล่นริมสวนและทางเดินให้เดินเล่นแล้ว สังเกตว่าเสาไฟฟ้าในสวนนี้เค้ามีติดตั้ง Solar Cell ด้วย ซึ่งช่วยประหยัดค่าไฟส่วนกลางได้ระดับนึงด้วยนะคะ

และอีกมุมของสวนคือพื้นที่นั่งเล่นที่มีเตา BBQ ให้มาด้วย ใครอยากมาปาร์ตี้กับเพื่อน ปิ้งย่าง BBQ ก็สามารถทำได้ค่ะ

ชั้น 8 เป็นชั้นที่เรียกว่า Aqua Therapy หลักๆ เลยคือชั้นนี้มีสระว่ายน้ำ ระบบเกลือ แบบ Outdoor ขนาดอยู่ที่ 6.5 x 12 ม. ด้วยขนาดแล้วจัดว่าให้มาไม่ใหญ่มากนะคะ เหมาะกับการมาว่ายน้ำเล่นหรือแช่น้ำชมวิวมากกว่าการว่ายน้ำออกกำลังกายจริงจัง ส่วนที่ชอบของสระนี้คือด้านข้างกั้นด้วยบานกระจกใสทำให้การเล่นน้ำไปด้วยชมวิวไปด้วยได้ดี ไม่ถูกบังวิว

จากมุมมองด้านบน ใครเลือกห้องชั้น 9-11 ก็จะได้วิวสระว่ายน้ำมุมสูงประมาณนี้ด้วยนะคะ

ขึ้นมาที่ชั้น 31 หรือชั้น Sky Facilities กันแล้ว ชั้นนี้ประกอบด้วย Fitness และสวนภายนอกที่มีการจัดวางฟังก์ชันต่างๆ ได้ค่อนข้างน่าสนใจไม่เหมือนกับ Rooftop Garden ทั่วไป อย่างในภาพ Perspective จะเป็นส่วน Giant Hanging Net พื้นที่นั่งเล่นแบบตะข่ายให้นอนเล่นได้

อีกส่วนเป็นพื้นที่ Double Sunset Deck จัดให้เป็นพื้นที่นั่งเล่นริมสวน ฝั่งทิศตะวันตกสามารถมองวิวพระอาทิตย์ตกได้ด้วยค่ะ

ถัดมาอีกโซนคือพื้นที่ Multi-Function Area บริเวณนี้เป็นสนามหญ้าโล่งให้จัดกิจกรรมต่างๆ ได้ เช่นมาเล่นโยคะ หรือจัดอีเว้นท์ได้

และสุดท้ายคือโซน Hydroponic Garden มีพื้นที่สำหรับปลูกผัก Hydroponic เองได้ด้วยนะคะ คิดว่าในอนาคตหากมีการดูแลพื้นที่ส่วนนี้ชัดเจนเป็นระบบที่ดีลูกบ้านน่าจะได้ประโยชน์มากทีเดียวค่ะ

Master Plan โครงการจากถนนวุฒากาศเข้ามาแล้วแบ่งออกเป็น 2 โซนใหญ่ ด้านหน้าเลยเป็นพื้นที่ต้อนรับ หรือหน้าตาโครงการ ประกอบด้วยจุด Drop-Off หยุดจอดส่งลูกบ้านได้ง่าย เข้ามาภายในเป็นส่วน Main Lobby ที่เชื่อมต่อกับสวนด้านข้าง ถัดมาด้านในอีกหน่อยเป็น Napping Space, Co-Working Space และ Meeting Room ส่วนอีกโซนด้านหลังนั้นจะเป็นพื้นที่จอดรถ และทางขึ้นชั้นจอดรถด้านบนค่ะ

ชั้น 8 เริ่มเป็นชั้นพักอาศัย และพื้นที่ส่วนกลางนะคะ พูดถึงพื้นที่ส่วนกลางกันก่อน ประกอบด้วยสระว่ายน้ำ, Pool Deck และสวน มีห้องน้ำแยกชาย/หญิงรองรับ รวมไปถึง Steam ด้วยค่ะ ใครที่ชอบบรรยากาศคึกคักหน่อย ไม่เหงาและได้วิวสระว่ายน้ำในระยะสายตาเลย ก็จะเหมาะกับห้องพักอาศัยที่หันหน้าไปทางสระว่ายน้ำโดยตรง ส่วนลูกบ้านในชั้นนี้ทั้งหมดจะสามารถเข้าถึง Facilities ได้ง่ายมาก ใครชอบใช้งานพื้นที่ส่วนกลางสะดวก และใช้งานบ่อยๆ จะเลือกห้องในชั้นนี้ก็ตอบโจทย์เช่นกันค่ะ ในเรื่องความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านในชั้นนี้แม้จะอยู่ติดกับพื้นที่ส่วนกลางก็จริงแต่มีการแยก Access ชัดเจน จากโถงลิฟต์มีประตูกั้นเฉพาะลูกบ้านในชั้นนี้เท่านั้นที่สามารถสแกนบัตรเข้าสู่โถงทางเดินห้องพักอาศัยได้ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นค่ะ

ขึ้นมาชั้น 9-30 หรือชั้น Typical Floor Plan ลักษณะการจัดผังอาคารเป็นรูปตัว L วางตำแหน่งลิฟต์ไว้ช่วงตรงกลางอาคารทำให้การเดินไปยังลิฟต์ง่ายทั้งสองฝั่งอาคาร ไม่มีทางไหนเดินไกลกว่ากัน จุดเด่นอีกจุดคือทุกชั้นจะมีช่องว่างตรงบริเวณมุมของอาคารเพื่อให้แสงธรรมชาติส่องลงมาจากด้านบนได้ดี เพิ่มความสว่างให้โถงทางเดินได้มากขึ้น ช่วงกลางวันจึงไม่จำเป็นต้องเปิดไฟโถงทางเดินได้ ประหยัดค่าไฟส่วนกลางได้มากขึ้น

ตำแหน่งห้องที่มีความเป็นส่วนตัวมากที่สุดคือห้อง J ด้านบน เป็นห้องที่ไม่มีผนังส่วนไหนติดกับเพื่อนบ้านเลยค่ะ อีกห้องที่ได้ Single Corridor หรือเป็นห้องที่ประตูหน้าห้องไม่หันหน้าประจันกับเพื่อนบ้านคือห้อง E ด้านล่างติดกับช่องว่างของอาคาร

สุดท้ายคือชั้น Sky Facilities นะคะ ประกอบด้วย Sky Fitness ที่เป็นห้อง Indoor ผนังด้านข้างเป็นกระจกทั้งหมดเพื่อให้แสงสว่างเข้ามาภายในห้องได้ดี รวมไปถึงสามารถออกกำลังกายไปพร้อมกับดูวิวมุมสูงได้ค่ะ ส่วนพื้นที่ Outdoor จัดฟังก์ชันหลากหลาย ประกอบด้วย Double Sunset Deck, Stretching Area, Outdoor Area, Giant hanging net, Multi-Function Area, Sitting Area, Hydroponic Garden, Rooftop Bar และ Sitting Area ค่ะ

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้น 1

  • Lobby
  • Co-Working Space
  • Napping Space
  • Meeting Room
  • Garden
  • BBQ Area

  • ชั้น 8
    • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 6.5 x 12 เมตร แบ่งสระเด็ก และ สระผู้ใหญ่
    • Steam
    • Garden

  • ชั้น 31
    • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
    • Double Sunset Deck
    • Stretching Area
    • Outdoor Area
    • Giant hanging net
    • Multi-Function Area
    • Sitting Area
    • Hydroponic Garden
    • Rooftop Bar
    • Sitting Area

  • ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 175.6 :  1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 197 คันคิดเป็น 38% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบ CCTV / Access Card
  •  


    Product Walkthrough

    โครงการ Metro Sky วุฒากาศ มีโปรดักส์หลายขนาดให้เลือก โดยแบ่งเป็น

    • Studio 21.3-25.2 ตร.ม.
    • 1 Bedroom 27.7 – 34.8 ตร.ม.
    • 2 Bedroom 39.2 – 46.7 ตร.ม.

    รูปแบบการขาย Fully Fitted โดยสิ่งที่ได้คือชุดเฟอร์นิเจอร์ Built-in เช่นตู้เสื้อผ้า เคาน์เตอร์ครัว และชุดสุขภัณฑ์ห้องน้ำรวมอุปกรณ์ห้องน้ำทั้งหมด เป็นมาตรฐานในทุกห้อง รวมไปถึงเครื่องปรับอากาศด้วยนะคะ แต่จำนวนเครื่องจะแตกต่างกันไปตามขนาดห้อง (ห้อง Studio 1 เครื่อง, ห้อง 1 Bedroom 2 เครื่อง, 2 Bedroom 3 เครื่อง)

    เริ่มต้นกันที่ห้อง 1 Bedroom ขนาด 27.7 – 28.2 ตร.ม. เป็นห้อง 1 Bedroom ที่ได้ห้องนอนเป็นสัดส่วนและมีความเป็นส่วนตัวสูงเพราะได้ประตูปิดชัดเจน ไม่ได้เป็นเพียงประตูบานเลื่อนกระจก และอีกจุดเด่นที่คนชอบทำครัวน่าจะชอบคือได้ชุดครัวปิด ที่สามารถทำอาหารหนักได้ดี เนื่องจากควันอาหารและกลิ่นไม่ออกไปยังพื้นที่ต่างๆ ภายในห้อง อีกทั้งยังปรับพื้นครัวให้เป็นพื้นกระเบื้องที่ทำความสะอาดได้ง่าย มีความคงทนต่อการใช้งานครัว ส่วนตำแหน่งของพื้นที่นั่งเล่นนี้ข้อดีคือใช้เป็นพื้นที่รับแขกไปในตัวได้ เวลาต้อนรับแขกก็ไม่เสียความเป็นส่วนตัว (มองไม่เห็นห้องนอน) และไม่ต้องเข้าห้องน้ำผ่านห้องนอนอีกด้วย แต่ก็จะเสียตรงที่พื้นที่นั่งเล่นไม่สามารถมองวิวภายนอกได้ ทั้งนี้ก็ไม่ได้มืดทึบนะคะ เพราะได้กระจกผ่านจากห้องครัวมาช่วยให้แสงสว่างภายนอกเข้ามาถึงพื้นที่นั่งเล่นได้

    บริเวณหน้าห้องเข้ามาเราจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นซึ่งมีขนาดประมาณ 3.75 x 2.7 ม. บริเวณนี้ปูพื้นด้วยลามิเนตหนา 8 มม. ความสูงฝ้าอยู่ที่ 2.65 ม. ลึกเข้าไปด้านในฝั่งซ้ายมือเป็นห้องครัว ขวามือเป็นห้องนอนและขวามือสุดคือห้องน้ำที่เข้าได้จากทางพื้นที่นั่งเล่นเลยค่ะ

    สำหรับพื้นที่วางชุดโซฟาสามารถวางได้ทั้งขนาด 2 หรือ 3 ที่นั่งนะคะ หากใครที่ชอบโซฟาขนาดใหญ่ๆ ก็สามารถวางแบบ 3 ที่นั่งได้เลย แต่พื้นที่ด้านข้างนั้นก็จะชิดกับผนังทั้ง 2 ด้านนะคะ ไม่ได้มีพื้นที่ด้านข้างเหลือเหมือนห้องตัวอย่างที่เหลือวางโซฟา หากอยากได้พื้นที่ด้านข้างเพื่อวางโต๊ะข้างโซฟา หรือตกแต่งเป็นโคมไฟตั้งพื้นแนะนำให้เลือกชุดโซฟา 2 ที่นั่งตามห้องตัวอย่างค่ะ

    ฝั่งตรงข้ามจัดพื้นที่ไว้สำหรับวางชั้นวางทีวีขนาดกะทัดรัดได้กำลังดี หรือจะออกแบบให้เป็นชุด Built-in ก็ได้นะคะ จะสามารถวางของต่างๆ ได้เต็มพื้นที่มากกว่านะคะ ติดกับพื้นที่วางทีวีด้านหลังเป็นห้องน้ำและด้านซ้ายเป็นห้องนอนค่ะ เดี๋ยวเราไปดูห้องน้ำกันต่อนะคะ

    ภายในห้องน้ำมีการจัดฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วนโดยแยกส่วนเปียกและแห้งเรียบร้อย ซึ่งแยกด้วยการยกขอบธรณีขึ้นเล็กน้อยระหว่างส่วนเปียกและแห้งทำให้น้ำไม่ไหลย้อนออกจากส่วนเปียกไปยังส่วนแห้งค่ะ ในส่วนพื้นของห้องน้ำให้เป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม.

    มาที่ส่วนเปียกกันก่อนนะคะ สุขภัณฑ์ที่ได้เป็นมาตรฐานจะมีหน้าตาเหมือนในห้องตัวอย่างเลย โดยอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์จาก MOGEN

    ชอบอ่างล้างมือตรงที่มีขนาดใหญ่ระดับนึงใช้งานได้ดี และทำ Built-in ตู้ด้านล่างทำให้สามารถใส่ของต่างๆ ได้ดี

    ถัดมาที่ส่วนเปียกกันต่อนะคะ ด้านข้างของผนังติดกับโถสุขภัณฑ์เราจะเห็นว่าที่นี่ทำพื้นที่วางของให้ด้วย ซึ่งถือว่าดีมาก มีพื้นที่ไว้สำหรับใส่ของได้ เช่น ใครที่ชอบอ่านหนังสือเวลาเข้าห้องน้ำต่างๆ ก็เลือกวางหนังสือได้ หรือจะวางของตกแต่งเช่น ตกไม้ก็ได้เช่นกันค่ะ

    สำหรับพื้นที่อาบน้ำนี้ทางโครงการจะไม่ได้ติดตั้งฉากกั้นกระจกให้นะคะ ลูกบ้านสามารถติดตั้งเองเพิ่มเติมได้แนะนำให้ใช้เป็นบานเปิด หรือหากต้องการประหยัดงบก็เปลี่ยนเป็นม่านพลาสติกได้ค่ะ ติดตั้งง่ายและสบายกระเป๋า

    สำหรับฝักบัวที่ได้จะเป็นฝักบัวสายอ่อนจาก MOGEN เช่นกันค่ะ ขนาดหัวฝักบัวที่ให้มากำลังดีเลยทำให้ใช้งานได้ดี

    ถัดมาที่ห้องครัวลักษณะจะเป็นครัวปิดที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ซึ่งนอกจากจะทำให้ครัวเป็นสัดส่วนเหมาะกับการทำอาหารหนักแล้ว ยังช่วยให้แสงธรรมชาติภายนอกเข้ามาถึงยังส่วนพื้นที่นั่งเล่นได้อีกด้วย

    ภายในพื้นที่ครัวนี้สามารถจัดการใช้งานได้ 2 ฟังก์ชันด้วยกัน คือเป็นพื้นที่ครัวและพื้นที่รับประทานอาหารไปในตัว สำหรับพื้นที่รับประทานอาหารนี้เหมาะสำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่งได้กำลังดีค่ะ หากใหญ่กว่านี้อาจจะแน่นไปนะคะ

    ในส่วนของพื้นครัวจะได้เป็นพื้นกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาดและเหมาะสมกับการใช้งานภายในครัวที่ต้องการความคงทนมากกว่าพื้นห้องอื่นๆ

    บริเวณเคาน์เตอร์ครัวนี้แบ่งออกเป็น 2 ฝั่งคือ ส่วนเคาน์เตอร์ครัวที่จะได้เป็นมาตรฐานตามห้องตัวอย่างเลยค่ะ มีชั้น Built-in ด้านบนให้เรียบร้อย และอีกฝั่งเป็นพื้นที่ว่างสำหรับวางตู้เย็นนะคะ ขนาดพื้นที่ว่างจะอยู่ที่ประมาณ 0.6 x 0.5 ม.

    เคาน์เตอร์ครัวที่ได้ท็อปด้านบนจะเป็น Particle เคลือบเมลามีนมาตรฐาน ด้านล่างมีพื้นที่เป็นบานเปิดขนาดใหญ่ไว้เก็บของได้ อีกฝั่งเป็นที่ว่างสำหรับวางเครื่องซักผ้า ซึ่งจะไม่มีลิ้นชักสำหรับวางอุปกรณ์รับประทานอาหาร พวกช้อนส้อมให้นะคะ แนะนำให้ลูกบ้านทำชั้น Built-in เพิ่มเติมสำหรับใส่อุปกรณ์ให้มากขึ้น ส่วนเตาไฟฟ้าไม่ได้มีให้นะคะ ใช้เป็นเตาไฟฟ้าตั้งโต๊ะทั่วไปได้

    ในส่วนผนังด้านหลังเคาน์เตอร์ครัว หากใครที่ต้องการจะทำอาหารเป็นประจำแนะนำให้กรุกระเบื้องหรือกระจกเพิ่มเติมเพื่อให้พวกความมันจากน้ำมันหรือเศษอาหารต่างๆ ไม่กระเด็นไปติดผนังจะทำให้เป็นคราบภายหลังได้

    Sink ล้างจากหลุมเดี่ยวขนาดค่อนข้างใหญ่นะคะ จุจานได้ระดับนึงเลยจาก Franke

    มาที่ส่วนระเบียงภายนอกกันต่อนะคะ บริเวณนี้จะกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก กรอบบานเป็นอลูมิเนียมสีธรรมชาติ

    ขนาดระเบียงอยู่ที่ประมาณ 2.45 x 0.9 ม. ถือว่าให้มาพอสมควรใช้งานได้จริง เมื่อเทียบกับพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดของห้องแล้ว รวมทั้งพื้นที่วางเครื่องซักผ้าก็อยู่ด้านในอีกด้วย จึงสามารถใช้ระเบียงในการซักล้างหรือตากเสื้อผ้าได้เต็มที่

    CDU แอร์แขวนด้านข้างให้นะคะ ซึ่งใครที่ไม่ต้องการลมร้อนเป่าเข้าด้านใน สามารถติดกริลล์เบี่ยงร้อนออกไปด้านนอกได้นะคะ

    เข้ามาที่ห้องนอนกันต่อนะคะ สำหรับพื้นที่ห้องนอนนี้มีขนาดกำลังดีที่สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้ลงตัว ยังเหลือพื้นที่ด้านข้างให้เดินได้สะดวก ส่วนหน้าต่างกระจกนี้มีบานกระทุ้งระบายอากาศให้ 1 จุด บานกรอบเป็นอลูมิเนียมสีธรรมชาติมาตรฐาน ซึ่งว่ากันที่ชุดหน้าต่างที่ได้ถือว่าให้มาขนาดไม่ใหญ่นัก

    อีกฝั่งของเตียงได้ชุด Built-in ตู้เสื้อผ้าเป็นมาตรฐาน ตามห้องตัวอย่างเลยค่ะ ลักษณะจะเป็นตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน 2 บาน

    ภายในมีการจัดพื้นที่แบ่งการใช้งานเป็นสัดส่วนทั้งราวแขวนเสื้อ ลิ้นชัก และชั้นเก็บของด้านบนสำหรับเก็บของต่างๆ ที่มีขนาดใหญ่ เช่นหมอน หรือกระเป๋าเดินทาง

    ถัดมาที่ห้อง 1 Bedroom ขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยอยู่ที่ 33.9-34.1 ตร.ม. ลักษณะการจัดวางต่างๆ จะแตกต่างกับห้องที่แล้วพอสมควรเลยนะคะ ไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านที่เหมาะกับห้องนี้คือ เป็นคนที่ต้องการบรรยากาศห้องที่โปร่งโล่ง แสงธรรมชาติเข้าทั่วถึงทุกพื้นที่ ไม่เน้นความเป็นส่วนตัวในห้องนอนเพราะกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ซึ่งสามารถนอนดูทีวีบนเตียงได้ หรือจะเปิดพื้นที่ห้องนอนและพื้นที่ Common Area ให้เชื่อมต่อกันได้เพื่อให้ได้พื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มมากขึ้นได้

    ถัดมาสำหรับพื้นที่ครัวนั้นจะเชื่อมต่อกับ Common Area เลย ซึ่งจะเหมาะกับการทำอาหารง่ายๆ อุ่น ต้ม มากกว่าทำอาหารหนัก แต่ด้วยความที่ห้องมีพื้นที่ขนาดใหญ่ขึ้นจากห้องที่แล้ว จึงสามารถปรับพื้นที่ส่วนครัวจากครัวเปิดให้เป็นครัวปิดได้โดยกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก อีกจุดเด่นของห้องนี้คือมีพื้นที่ที่ริมหน้าต่างที่สามารถจัดฟังก์ชันเองเพิ่มเติมได้ เช่นเป็นพื้นที่ทำงาน เป็นต้นค่ะ

    สำหรับห้องนอนได้ขนาดที่ใหญ่มากขึ้น เลือกวางเตียง 5-6 ฟุตได้ตามใจ มีพื้นที่เหลือด้านข้างพอสมควรให้จัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มเติมได้

    เข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับพื้นที่ครัวซึ่งเชื่อมต่อกับ Common Area ไปจุดสุดหน้าต่างเลย ส่วนฝั่งซ้ายมือเป็นห้องน้ำ และถัดไปคือส่วนห้องนอนที่เชื่อมกับ Common Area ได้หรือจะกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกเป็นสัดส่วนก็ได้เช่นกันค่ะ

    เริ่มต้นที่ครัวกันก่อนนะคะ ชุดเคาน์เตอร์ครัวที่ให้มาเป็นมาตรฐานจะได้เหมือนกับเคาน์เตอร์ครัวของห้องที่แล้วเลยค่ะ ทั้งขนาดและสเป็ควัสดุ

    ถัดมาที่ห้องน้ำลักษณะการจัดวางจะเหมือนกับห้องที่แล้วเลยค่ะ โดยแยกโซนเปียกและแห้งเป็นสัดส่วน พร้อมกับสุขภัณฑ์ทั้งหมดจาก MOGEN เช่นเดียวกันค่ะ

    ถัดมาที่พื้นที่ Common Area กันต่อ ระหว่างส่วนครัวและพื้นที่ Common Area นี้จะมีการปรับเปลี่ยนจากกระเบื้องเซรามิกมาเป็นพื้นลามิเนต ซึ่งบริเวณนี้หากต้องการทำเป็นครัวปิดสามารถกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกได้

    เข้ามาเป็นพื้นที่ Common Area ประกอบไปด้วยพื้นที่รับประทานอาหาร พื้นที่นั่งเล่น และพื้นที่ริมหน้าต่างที่สามารถจัดให้เป็นฟังก์ชันต่างๆ ได้ เช่น พื้นที่ทำงาน สำหรับพื้นที่รับประทานอาหารจะสามารถรองรับโต๊ะและเก้าอี้ได้ 4 ที่นั่งกำลังดี

    สำหรับพื้นที่นั่งเล่นเหมาะกับขนาดโซฟาประมาณ 2 ที่นั่ง เพราะหากวางโซฟา 3 ที่นั่งขนาดของโซฟาจะยื่นออกมาบังประตูบานเลื่อนกระจกทางเข้าห้องนอนมากเกินไปค่ะ ทำให้เข้า-ออกไม่สะดวกมากนัก ส่วนพื้นที่ Built-in วางทีวีและของต่างๆ แนะนำให้ทำ Built-in ขนาดใหญ่เต็มผนังไปเลยเพื่อที่เราจะได้ใช้ประโยชน์จากผนังได้มากที่สุด

    ส่วนพื้นที่ริมหน้าต่างนี้มีขนาดพอสมควรนะคะ สามารถจัดเป็นพื้นที่ทำงานส่วนตัวได้เลย

    ส่วนชุดหน้าต่างนี้จะมีความคล้ายคลึงกับชุดหน้าต่างของห้องเล็ก แต่เพิ่มเติมคือได้กระจกเข้ามุมด้วย ทำให้สามารถมองวิวได้กว้างมากขึ้นอีกหน่อย รวมทั้งแสงธรรมชาติก็เข้ามาได้ดีขึ้นอีกด้วยนะคะ

    ถัดมาเป็นส่วนห้องนอนซึ่งกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ซึ่งทำให้เราสามารถดูทีวีจากเตียงนอนได้เลย หรือใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในบางวันที่เราต้องต้อนรับแขกก็สามารถติดตั้งม่านได้ค่ะ

    เข้ามาภายในห้องนอนมีขนาดกำลังดีที่สามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้สบายมากตามใจลูกบ้านได้เลยค่ะ อย่างห้องตัวอย่างจะวางเตียง 5 ฟุต นะคะ ทำให้เหลือพื้นที่ด้านข้างพอสมควรที่สามารถวางโต๊ะข้างเตียงเพิ่มเติมได้ ส่วนฝั่งซ้ายที่เราเห็นตู้เสื้อผ้านั้นจะได้ชุด Built-in ตู้เสื้อผ้าเป็นมาตรฐานเดียวกับห้องที่แล้วนะคะ

    อีกฝั่งเป็นระเบียงซักล้างซึ่งกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก

    ระเบียงซักล้างมีขนาดใหญ่ที่สามารถตากผ้า ซักล้างต่างๆ ได้ดีเลยทีเดียวค่ะ เพราะพื้นที่นี้ก็ไม่ต้องแชร์พื้นที่กับเครื่องซักผ้าแล้วเนื่องจากเครื่องซักผ้าวางที่เคาน์เตอร์ครัวได้เลย

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

     

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 5 May 2018

    • Studio ห้อง 1006 ชั้น 10 พื้นที่ 25 ตร.ม. ราคาโปรโมชั่น 2.1 ล้านบาท หรือ 84,000 บาท/ตร.ม.
    • 1 Bedroom ห้อง 2720 ชั้น 27 พื้นที่ 28.2 ตร.ม. ราคาโปรโมชั่น 2.749 ล้านบาท หรือ 97,482 บาท/ตร.ม.
    • 1 Bedroom ห้อง 0903 ชั้น 9 พื้นที่ 34.1 ตร.ม. ราคาโปรโมชั่น 2.796 ล้านบาท หรือ 82,000 บาท/ตร.ม.
    • 2 Bedroom ห้อง 1515 ชั้น 15 พื้นที่ 43.8 ตร.ม. ราคาโปรโมชั่น 3.832 ล้านบาท หรือ 87,488 บาท/ตร.ม.

     

    • Fully Fitted
    • ฝ้าเพดานสูง 2.65 เมตร
    • Kitchen & Sink
    • จอง 10,000-20,000 บาท
    • ทำสัญญา 20,000-30,000 บาท
    • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ 30 งวด
    • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
    • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน
    • โปรโมชั่น

    • ส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท
    • จอง+ทำสัญญา+ดาวน์ สามารถผ่อน 0% กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    ทำเล – โครงการ Metro Sky วุฒากาศ ตั้งอยู่บนถนนวุฒากาศช่วงระหว่างถนนเทอดไทและถนนราชพฤกษ์ บรรยากาศเป็นชุมชนเก่าดั้งเดิม มีความอุดสมบูรณ์เดินหาของกินง่ายตาม สองฝั่งข้างทาง และไม่เปลี่ยวเพราะสภาพแวดล้อมโดยรอบเป็นพื้นที่พักอาศัยรวมไปถึงมีร้านค้าร้านอาหารอยู่ค่อนข้างเยอะ นอกจากความอุดมสมบูรณ์บนถนนวุฒากาศแล้ว แหล่งความอุดมสมบูรณ์หลักของย่านตลาดพลูนี้ก็ตามชื่อย่านเลย คือ ตลาดพลู ตลาดเก่าแก่ชื่อดังที่มีร้านอาหารอร่อยๆ มากมาย ห่างจากโครงการไป 1 กม. สามารถเรียกรถกะป้อไปซื้อของได้สะดวก และอีกแหล่งคือบริเวณห้างเดอะมอลล์ท่าพระ ที่นอกจากจะเป็นห้างที่ใกล้โครงการมากที่สุด ให้เดินเล่นช็อปปิ้งดูหนังแล้ว ละแวกนั้นก็มีตลาด เต้นท์อาหารขนาดใหญ่ให้เลือกซื้ออีกด้วยโดยห่างจากโครงการไปประมาณ 1.8 กม. ค่ะ เน้นต่อรถไปลงจะสะดวกสุด

    การเดินทางโดยใช้รถ – ด้วยความที่ทางเข้า-ออกโครงการอยู่ติดถนนวุฒากาศเลย ทำให้การเดินทางค่อนข้างสะดวก เพราะถนนนี้สามารถเชื่อมเข้าถนนราชพฤกษ์และเทอดไทได้ โดยห่างจากราชพฤกษ์ไปประมาณ 450 ม.เท่านั้น วิ่งเข้าเมืองไปทางสาทรได้สะดวก หรือจะวิ่งเข้าเส้นเทอดไปไปทะลุออกวงเวียนใหญ่ แหล่งการค้าเก่าแก่ก็สะดวกเช่นกันค่ะ โดยรวมแล้วการเดินทางค่อนข้างง่าย ติดตรงที่ที่จอดรถให้มา 38% ถือว่าไม่มากนัก แต่ยังดีที่การเดินทางด้วยรถสาธารณะมีตัวเลือกเยอะ ทำให้ลูกบ้านมีตัวเลือกในการเดินทางหลากหลายไม่จำเป็นต้องพึ่งพารถอย่างเดียว

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – อย่างที่บอกไปว่าการเดินทางโดยรถสาธารณะมีตัวเลือกเยอะนะคะ เพราะบนถนนวุฒากาศเองนอกจากแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ที่เรียกได้ง่ายแล้วก็จะมีกะป้อบริการไปสถานที่สำคัญใกล้ๆ ได้สะดวกในราคาสบายกระเป๋าได้อีกด้วยนะคะ นอกจากนี้ตัวโครงการห่างจาก BTS วุฒากาศประมาณ 450 ม. ถือว่ายังเป็นระยะที่เดินได้อยู่ค่ะ บนถนนไม่เปลี่ยวด้วย แต่จะต้องข้ามถนนตรงสี่แยกหลายต่อหน่อย อันนี้ต้องดูรถหน่อยนะคะ หรือใครขี้เกียจเดินเลือกใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ได้ตรงทางลง BTS เลย สนนธิราคาอยู่ที่ 10 บาท (จากที่เราได้ลองนั่งดู ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้นะคะ)

    วัสดุ – การตกแต่งของที่นี่ให้เป็น Fully Fitted ซึ่งประกอบไปด้วย เคาน์เตอร์ครัว ตู้เสื้อผ้า Built-in สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก Mogen และเครื่องปรับอากาศเป็นมาตรฐานในทุกห้อง ฝ้าเพดานสูง 2.65 ม. พื้นลามิเนตและกระเบื้องเซรามิค 30 x 30 ซม. ส่วนเคาน์เตอร์ครัวจะได้ท็อป Particle ไม่ได้ให้ Hob&Hood แต่มีพื้นที่สำหรับวางเตาไฟฟ้าเองได้ ฝ้าเพดานได้สูงกว่ามาตรฐาน ซึ่งเมื่อเทียบวัสดุกับราคาแล้วจัดว่าให้มามาตรฐานตามราคานะคะ เพราะหากเทียบกับโครงการข้างเคียงแล้วราคาขายต่อตารางเมตรค่อนข้างถูกกว่า ส่วนชุดบานหน้าต่างที่มีขนาดกะทัดรัดนะคะ (ซึ่งบานหน้าต่างนี้จากที่สอบถามผู้ใหญ่หลายคนที่กลัวความสูงดูจะชอบเพราะรู้สึกไม่น่ากลัว อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวด้วยนะคะ)

    แบบ – ตัวแบบโครงการออกแบบมาได้ค่อนข้างลงตัวดีค่ะ ในเรื่องของการจัดวางผังและผังอาคาร มีความน่าสนใจคือ ช่วงว่างของอาคาร ทำให้โถงทางเดินโปร่งโล่งมากขึ้นด้วยแสงสว่างจากภายนอกเข้ามาได้ดี ช่วยประหยัดค่าไฟในช่วงกลางวันได้ ส่วนความหนาแน่นพอสมควร อัตราลิฟต์อยู่ที่ 175.6 : 1 และจำนวนยูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 23 ยูนิต

    ห้องพักอาศัย วิเคราะห์ในส่วนของห้องตัวอย่างแรก 1 Bedroom ขนาด 27.7 – 28.2 ตร.ม. โดยรวมเป็นแบบที่ค่อนข้างลงตัว การจัดฟังก์ชันตรงกับการใช้งานจริง จากแปลนแล้วเหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว มีห้องนอนปิดชัดเจน ด้วยประตูบานทึบไม่ใช่ประตูบานเลื่อนกระจก และเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารที่ห้องบ่อยๆ ด้วยนะคะ เพราะได้เป็นครัวปิดเป็นสัดส่วน รวมไปถึงตำแหน่งดี ติดระเบียงระบายอากาศและความชื้นได้ดี ข้อจำกัดคือพื้นที่นั่งเล่นไม่ติดกับระเบียงด้านนอก ไม่เห็นวิวภายนอกค่ะ

    1 Bedroom ขนาด 33.9-34.1 ตร.ม. ห้องนี้เหมาะกับคนที่ชอบความโปร่งโล่งและต้องการพื้นที่อเนกประสงค์ในการใช้งานเพิ่มเติมอีกหน่อยค่ะ จุดเด่นอย่างที่บอกเรื่องความโปร่งโล่งเพราะฟังก์ชันทุกฟังก์ชันในห้องเชื่อมต่อกันได้ทั้งหมดนั่นเองค่ะ โดยพื้นที่ครัวเชื่อมกับ Common Area เป็นครัวเปิด (มาตรฐานที่ได้) แต่ใครที่อยากได้ครัวปิดสามารถกั้นประตูบานเลื่อนกระจกเพิ่มเติมเองได้ ห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกทำให้สามารถนอนดูทีวีได้ และหากอยากจะได้ห้องที่กว้างมากขึ้นก็เปิดประตูบานเลื่อนให้พื้นที่ห้องนอนเชื่อมต่อกับ Common Area ได้ด้วย จะเพิ่มความเป็นส่วนตัวขึ้นให้กับห้องนอนไม่ยากติดตั้งม่านได้ค่ะ เพิ่มเติมคือมีพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถจัดเป็นพื้นที่ทำงานเป็นสัดส่วนได้ ข้อจำกัดของห้องนี้คือชุดโซฟาที่วาง 3 ที่นั่งจะไม่เหมาะเท่ากับ 2 ที่นั่งแม้จะมีพื้นที่วางได้ เพราะจะไปทำให้ทางเข้า-ออกห้องนอนเดินได้ไม่สะดวกมากนักค่ะ

    สาธารณูปโภค – ถ้าเทียบกับโครงการใกล้รถไฟฟ้า บนถนนวุฒากาศด้วยกัน โครงการจัดวางมี Facilities ให้หลากหลายมากกว่า รวมไปถึงข้อได้เปรียบในเรื่องของความสูงอาคาร ทำให้ Sky Facilities สามารถชมวิวมุมสูงได้ดีกว่า เป็นผลประโยชน์ของลูกบ้านในโครงการนี้ที่แม้จะอยู่ห้องในชั้นล่างๆ แต่ก็สามารถมาชมวิวมุมสูงในชั้นบนสุดได้ และซึ่งที่ชอบเพิ่มเติมคือการออกแบบสวนบนชั้นดาดฟ้าที่มีหลากหลายฟังก์ชันการใช้งานดี แตกต่างจาก Rooftop Garden โครงการทั่วไปที่มีสวนและที่นั่งอย่างเดียวค่ะ และติดอยู่อีกหน่อยคือขนาดสระว่ายน้ำที่น่าจะยาวกว่านี้ให้สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้ค่ะ

    ส่วนใครที่ตั้งต้นด้วย Facilities ในการเลือกโครงการย่านนี้ทั้งหมด ไม่เจาะจงว่าต้องถนนวุฒากาศเท่านั้น ก็ยังมีโครงการที่ให้ Facilities มากกว่าอยู่เช่นเดียวกันนะคะแต่จะเป็นโครงการสร้างเสร็จแล้ว และราคาต่อตารางเมตรสูงกว่า

    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับราคา 85,000 บาท/ตร.ม., 5 May 2018

    • ทำเล 7.75/10 – เป็นทำเลในย่านชุมชนอาหารการกินหาได้ไม่ยาก ใกล้รถไฟฟ้า
    • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – เดินทางสะดวกโดยเฉพาะฝั่งธนฯ แต่ที่จอดรถ 38%
    • ไม่ใช้รถ 7.25/10 – ระยะห่างจากรถไฟฟ้าถือว่าสะดวกเดินได้ไม่ยาก มีรถสาธาณะอื่นๆให้เลือกหลายอย่าง
    • วัสดุ 7/10 – เทียบกับราคาแล้วค่อนข้างแพง
    • แบบ 7.5/10 – การจัดโซนนิ่งและฟังก์ชันด้านในโอเค มีติดบางจุดที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้
    • สาธารณูปโภค 7.75/10 – ให้มาครบครัน และมีฟังก์ชันน่าสนใจใหม่ๆ ติดที่สระว่ายน้ำน่าจะได้ยาวกว่านี้

    • MAIN CLASS
    • 7.50 / 10.00

    BOTTOM LINE

    โครงการ Metro Sky วุฒากาศ เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดใหม่ ในย่านตลาดพลู ชอบอาคารสูง มี Facilities ครบครัน เดินทางได้สะดวกทั้งรถและ BTS อยากอยู่บนถนนที่อุดมสมบูรณ์และไม่เปลี่ยว ในราคาไม่แรง หยิบจับง่าย มีงบประมาณ 1.75-4.5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 12,250 – 36,000 บาท