[รีวิวฉบับที่ 2801] ..หากพูดถึงย่านบรรทัดทองเราก็ต้องนึกถึงของกินอร่อยๆ แต่ถ้าพูดถึงคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ในย่านบรรทัดทองก็ต้องที่นี่เลยครับ MARU CHULA (มารุ จุฬา) คอนโดแห่งใหม่จาก Major Development ที่ยังคงคอนเซ็ปต์ความเป็น Pet Friendly และความโดดเด่นของทำเลที่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เอาใจทั้งกลุ่มนักศึกษา พ่อแม่ผู้ปกครอง คนทำงานในย่าน และกลุ่มนักลงทุนทั้งหลาย โดยจุดเด่นหรือความน่าสนใจของโครงการก็จะมีดังต่อไปนี้
- ทำเลย่านบรรทัดทอง เต็มไปด้วยร้านอาหารอร่อยๆใกล้สวนอุทยาน 100 ปี และใกล้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- เป็นคอนโดหนึ่งเดียวในย่านที่เป็น Pet Friendly สามารถเลี้ยงสัตว์ได้
- เดินทางสะดวก ติดทางด่วนศรีรัช และมีรถไฟฟ้าในพื้นที่ให้ใช้งาน
- มีแบบห้องให้เลือกเยอะ จัดฟังก์ชันเป็นสัดส่วนและมีความยืดหยุ่น
ข้อมูลโครงการ
MARU CHULA (มารุ จุฬา) ณ วันที่ 8 มกราคม 2568
ชื่อโครงการ | MARU CHULA (มารุ จุฬา) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนน เจริญเมือง เขต ปทุมวัน |
ที่ดิน | 1-1-7.40 ไร่ |
ประเภทคอนโด | High Rise 27 ชั้น 1 อาคาร |
จำนวนยูนิต | 219 ยูนิต |
ที่จอดรถ | 107 คัน คิดเป็น 49% (เป็นแบบ Conventional + Auto Parking) |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2568 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปลายปี 2570 |
ประเภทห้องพัก |
|
ราคาเริ่มต้น | 3.95 ล้านบาท (Promotion) |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | 140,000 – 150,000 บาท/ตร.ม. |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | ผ่านแล้ว |
เว็บไซต์โครงการ | https://pg.thinkofliving.com/MaruChula |
Call Center | 1266 |
ลงทะเบียนโครงการได้ที่นี่ | https://bit.ly/3PzVdVi |
ทำเลที่ตั้ง
Highlights :
- ทำเลมีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้บรรทัดทองและเยาวราชที่เป็นแหล่งรวมร้านอาหารอร่อยๆ รวมถึงยังแวดล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าอีกด้วย
- เดินทางสะดวก อยู่ติดกับทางด่วนศรีรัช และยังมีรถไฟฟ้า MRT เป็นอีกตัวเลือกในการเดินทางที่สะดวก
- ใกล้สวนอุทยาน 100 ปี และใกล้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
พิกัด Google Maps : 13.740687704580118, 100.52032655473933
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
โครงการ MARU CHULA (มารุ จุฬา) ตั้งอยู่บนถนนเจริญเมืองใกล้กับบรรทัดทอง ซึ่งเป็นย่านที่เต็มไปด้วยร้านอาหารอร่อยๆมากมาย หรือใครจะไปหาอะไรกินแถวเยาวราชเดี๋ยวนี้ก็มีรถไฟฟ้าเดินทางไปได้สะดวกเลย เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดทำเลที่รายล้อมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์และอาหารการกินมากมาย อีกทั้งยังมีห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆด้วยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นสามย่านมิตรทาวน์ / MBK Center / Siam Paragon รวมถึงเมื่อเร็วๆนี้ก็เพิ่งจะเปิดตัว Mixed-Use Project ขนาดใหญ่อย่าง One Bangkok ไปอีกด้วย
อีกหนึ่งสิ่งที่จะไม่พูดถึงเลยไม่ได้ก็คือ ‘จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย’ ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในคอนโดใกล้มหาลัยสำหรับน้องๆนักศึกษา หรือบุคลากรที่อยู่ที่มหาลัยแห่งนี้จะสามารถเดินทางมาได้สะดวกมาก โดยโครงการ Maru Chula จะตั้งอยู่ใกล้อุทยาน ๑๐๐ ปี ที่สามารถเดินเชื่อมต่อตรงเข้าไปยังมหาลัยได้เหมือนกัน ดังนั้นกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะกับโครงการนี้ก็จะมีทั้งนักศึกษา หรือคนทำงานอยู่ในย่านนี้อยู่แล้ว รวมถึงยังอาจเป็นกลุ่มนักลงทุนด้วยครับ
ทางด่วนที่ใกล้ที่สุด :
แน่นอนว่าเป็นทางด่วนศรีรัชที่โครงการของเราเรียกว่าตั้งอยู่ติดกับทางด่วนเลยครับ ส่วนทางขึ้น-ลงก็จะอยู่ไม่ไกลกันนัก ซึ่งเราคิดว่าทำเลนี้เหมาะกับคนที่เน้นเดินทางไปสีลม-สาทร-พระราม 3 มากๆครับ เพราะสะดวกทั้งขาไปและขากลับ ที่เราสามารถตรงกลับเข้ามายังคอนโดได้ง่ายๆ ขาขึ้นทางด่วนมีระยะทางเพียง 850 m. ส่วนขาลงก็ห่างเพียง 1.6 km. เท่านั้น ใช้เวลา 5 – 10 นาทีครับ
ส่วนใครที่เน้นเดินทางไปราชเทวี-พญาไท-จตุจักร ก็จะมีจุดให้ขึ้น-ลงเหมือนกัน เพียงแต่อาจมีเส้นทางที่ต้องเลี้ยวหรือกลับรถเยอะกว่าเส้นทางเมื่อครู่หน่อย แต่ก็สะดวกและใกล้พอๆกันอยู่ที่ประมาณ 1.5 km. นับว่าเป็นโครงการที่เดินทางด้วยทางด่วนได้สะดวกมากๆ
รถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุด :
เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางที่สะดวกและเลี่ยงรถติดได้เป็นอย่างดี โดยรถไฟฟ้าสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ MRT หัวลำโพง อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 600 m. ซึ่งก็เป็นระยะที่เดินเหนื่อยพอสมควร
แต่เราอาจใช้การต่อรถสาธารณะอื่นๆ เช่น พี่วินมอเตอร์ไซค์ หรือบริการ Shuttle Bus ของโครงการ เพื่อมาขึ้นรถไฟฟ้าก็ได้นะครับ โดยเราสามารถนั่งเชื่อมต่อเข้าเมืองไปทางอโศก-สุขุมวิท และแน่นอนว่านั่งไปหาของกินที่เยาวราชได้สบายๆอีกด้วย
…สำหรับ Shuttle Bus เบื้องต้นคาดว่าจะไปรับ-ส่งที่ MRT หัวลำโพง กับตัวโครงการเอง แต่อนาคตก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมจุดรับ-ส่งได้ ขึ้นอยู่กับนิติบุคคลในอนาคต
ส่วนโครงการจะอยู่ห่างจากถนนบรรทัดทองและสวนอุทยาน 100 ปีประมาณ 230 m. ซึ่งก็เป็นระยะที่เดินถึงได้สบายๆเลยครับ โดยเราสามารถไปหาของอร่อยๆกินที่ถนนบรรทัดทองได้ หรือจะไปเดินเล่นออกกำลังกายที่สวนก็ได้เหมือนกัน
แต่สำหรับน้องๆนักศึกษาที่ต้องการจะเดินไปเรียนด้วยตัวเอง ก็ต้องบอกเลยว่าไกลหน่อย (น่าจะประมาณ 1 km. กว่าจะถึงคณะที่ใกล้ที่สุด) แนะนำให้ใช้บริการรถสาธารณะหรือยานพาหนะส่วนตัวอื่นเพื่อความสะดวกแทนได้ครับ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
บริบทโดยรอบโครงการ Maru Chula ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการแนวราบ แทบจะไม่มีตึกสูงใกล้ๆบังวิวเลยครับ จึงทำให้ห้องชั้นสูงๆสามารถมองเห็นวิวไกลๆได้พอสมควร โดยที่ด้านหนึ่งจะอยู่ติดกับทางด่วนศรีรัช และอีกด้านหนึ่งจะมองไปทางมหาวิทยาลัย รวมถึงมองเห็นสวนอุทยาน 100 ปีได้ด้วย
- ทิศเหนือ ติดกับ ชุมชนแนวราบ ระยะไกลมองไปทางพระราม 1 – ประตูน้ำ
- ทิศตะวันออก ติดกับ ชุมชนแนวราบ ระยะไกลมองทางไปถนนบรรทัดทอง มองเห็นสวนอุทยาน 100 ปี และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ทิศใต้ เป็นทางเข้าหลักโครงการ ติดกับ ถนนเจริญเมือง ระยะไกลมองไปทางถนนพระราม 4 – บางรัก
- ทิศตะวันตก ติดกับ ทางด่วนศรีรัชที่เป็นทางยกระดับ ระยะไกลมองไปทางสถานีรถไฟหัวลำโพงและเยาวราช
และนี่จะเป็นภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ โดยทางซ้ายมือจะอยู่ติดกับทางด่วนศรีรัช ที่เป็นทางยกระดับแต่จะมีความสูงไม่มากนัก (น่าจะประมาณอาคาร 3 – 4 ชั้น) ซึ่งห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 9 ขึ้นไป น่าจะพ้นความสูงของทางด่วนสบายๆเลย แต่ก็อาจมีผลในเรื่องเสียงรถอยู่บ้างครับ
ส่วนบรรยากาศของถนนเจริญเมืองส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ และถ้าเราเดินตรงต่อไปประมาณ 200 m. ก็จะเจอกับถนนบรรทัดทองที่เต็มไปด้วยของกิน และสวนอุทยาน 100 ปีครับ
สำนักงานขายจะตั้งอยู่คนละที่กับตัวโครงการนะครับ โดยจะขยับมาอยู่บนถนนพระราม 4 ใกล้กับแยกมหานครและรถไฟฟ้า MRT หัวลำโพง (อยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 600 m. พอดูห้องตัวอย่างกันเสร็จแล้วก็แวะไปดูทำเลของจริงกันต่อได้เลยครับ)
Sale Gallery คลิกที่นี่ >> https://maps.app.goo.gl/CtwN8tfzu6YgVUSJA
ส่วนบรรยากาศภายในสำนักงานขายก็จะเป็นประมาณนี้เลย
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- Lotus’s พระราม 1 ~ 1.1 km.
- Samyan Mitrtown ~ 1.4 km.
- MBK Center ~ 1.5 km.
- Chamchuri Square ~ 1.7 km.
- Siam Scape ~ 1.9 km.
- Siam Discovery, Siam Center ~ 2.1 km.
- Siam Square One ~ 2.2 km.
- Siam Paragon ~ 2.4 km.
- Silom Edge ~ 2.5 km.
- Silom Complex ~ 2.7 km.
- Dusit Central Park ~ 2.8 km.
- Central World ~ 2.8 km.
- Robinson บางรัก ~ 2.9 km.
- Gaysorn Amarin ~ 3.1 km.
- Gaysorn Village ~ 3.3 km.
- Central Chidlom ~ 3.5 km.
- Central Embassy ~ 3.6 km.
- ONE Bangkok ~ 3.6 km.
- ICON SIAM ~ 4.9 km.
โรงพยาบาล
- รพ.สมิติเวช ไชน่าทาวน์ ~ 1.9 km.
- รพ.ธนบุรีบำรุงเมือง ~ 2.1 km.
- รพ.ตำรวจ ~ 2.4 km.
- รพ.กรุงเทพคริสเตียน ~ 2.6 km.
- รพ.จุฬาลงกรณ์ ~ 3 km.
- รพ.บีเอ็นเอช ~ 3.3 km.
- รพ.เซนต์หลุยส์ ~ 3.9 km.
โรงเรียน
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ~ 700 m.
- รร.สายปัญญา ~ 1.3 km.
- รร.ไตรมิตรวิทยาลัย ~ 1.4 km.
- รร.เทพศิรินทร์ ~ 1.6 km.
- รร.เตรียมอุดมศึกษา ~ 1.7 km.
- รร.สตรีวัดมหาพฤฒารามฯ ~ 1.7 km.
- รร.สาธิตจุฬาฯ ~ 2.1 km.
- รร.อัสสัมชัญคอนแวนต์ ~ 2.5 km.
- รร.อัสสัมชัญ ~ 2.7 km.
- รร.สาธิต มศว.ปทุมวัน ~ 2.2 km.
- รร.กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ~ 3.1 km.
- รร.เซนต์โยเซฟคอนเวนต์ ~ 3.2 km.
- รร.เซนต์หลุยส์ศึกษา ~ 3.9 km.
- St. Andrews International School Sathorn in Bangkok ~ 3.9 km.
รายละเอียดโครงการ
Highlights :
- Pet Friendly สามารถเลี้ยงสัตว์ได้หนึ่งเดียวในย่าน มาพร้อมส่วนกลางสำหรับน้องๆสัตว์เลี้ยงให้มาใช้งาน
- กระจายส่วนกลาง 3 ชั้น ทำให้แบ่งโซนการใช้งานได้ดีไม่รบกวนกัน พร้อมสอดแทรกพื้นที่สีเขียวตามชั้นบนๆของอาคารด้วย
- มีห้องฝ้าเพดานสูงให้เลือก ตำแหน่งดีและมักจะเป็นห้องมุมวิวสวยๆ
MARU (มารุ) เป็นอีกหนึ่งแบรนด์คอนโดของ Major ที่หลายๆคนรู้จักกันดี เพราะด้วยความที่เป็นแบรนด์แรกๆของตลาดเลย ที่ชูจุดเด่นในเรื่อง Pet Friendly เอาใจกลุ่มคนรักสัตว์และอยากเลี้ยงน้องหมาน้องแมวในคอนโด โดยเปิดตัว 2 โครงการแรกคือ Maru Ladprao 15 และ Maru Ekkamai 2 ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2017 เรียกได้ว่าเป็นปีที่กระแสนิยมเลี้ยงสัตว์กำลังมาแรงสุดๆ ตอนนั้นพรีเซนเตอร์เป็นนาย นภัทร + น้องหมาชิบะ นั่นเองจำได้มั้ย โดยเงื่อนไขของโครงการนี้คือ
- สามารถเลี้ยงสัตว์เป็นขนาดเล็ก-กลาง จำกัดน้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม
- ลูกบ้าน 1 ห้องยูนิต สามารถเลี้ยงได้เพียง 1 ตัวเท่านั้น
- การพาสัตว์เลี้ยงออกมาเดินนอกห้องพัก จำเป็นต้องใช้สายจูง/กระเป๋า/รถเข็นเท่านั้น
- ต้องพกอุปกรณ์ทำความสะอาดเวลาพาสัตว์เลี้ยงมาใช้ส่วนกลาง (ทำความสะอาดทันที)
- ส่วนกลางที่อนุญาตให้สัตว์เลี้ยงมาใช้งานได้ จะเป็นบริเวณสวนด้านหน้าโครงการเท่านั้น
**สำหรับรายละเอียดอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของนิติและลูกบ้านในอนาคตครับ
โครงการ MARU Chula (มารุ จุฬา) เป็นคอนโด High Rise สูง 27 ชั้น 1 อาคาร และมีเพื่อนบ้าน 219 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 1-1-7.40 ไร่ และยังคงคอนเซ็ปต์เดิมของความเป็น Pet Friendly สามารถเลี้ยงสัตว์ได้อยู่เหมือนเดิมครับ
สำหรับโครงการใหม่นี้จะมาในคอนเซ็ปต์ Fit + Fun + Freedom ให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างลงตัวในทุกกิจกรรมในฟังก์ชันของคอนโด สนุกไปกับการใช้ชีวิตในย่านที่เต็มไปด้วยของกินอร่อยๆอย่างบรรทัดทอง ครบเครื่องทั้งช้อป ชิม ชิล รวมถึงยังมีอิสระในการเดินทางที่สะดวก ใกล้ทั้งมหาลัย ห้างสรรพสินค้า ทางด่วน และรถไฟฟ้า
Master Plan โครงการจะมีถนนให้ขับรถวนได้รอบเลยครับ โดยหลักๆก็จะใช้เป็นทางเดินรถเพื่อไปยังที่จอด ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆคือ การจอดแบบปกติตามชั้น (Conventional) และการจอดแบบ Auto Parking ที่จะอยู่ด้านหลังอาคาร
ฟังก์ชันส่วนกลางของชั้นนี้หลักๆจะเป็น Lobby & Town Hall เป็นส่วนที่ใช้รับแขก รวมถึงยังมี Co-Working Space และ Meeting Room ให้ใช้งานอีกด้วย ซึ่งใครที่มีนัดคุยงานหรือต้องรับแขก ก็สามารถใช้พื้นที่ส่วนนี้ได้เลย โดยที่ไม่จำเป็นต้องพาขึ้นอาคารให้เสียความเป็นส่วนตัวครับ ส่วนบริเวณด้านนอกก็จะมีสวนเล็กๆให้ใช้งานด้วย
ด้านหน้าจะมีสวนสีเขียวอยู่แบบนี้ ซึ่งเป็นทั้งส่วนต้อนรับและช่วยปรับอารมณ์เวลาเข้า-ออกโครงการ ให้ได้เจอพื้นที่สีเขียวสดชื่นๆก่อน รวมถึงยังเป็น Buffer คอยกันมลพิษและความวุ่นวายภายนอก ทำให้โครงการมีความสงบและเป็นส่วนตัวมากขึ้นนั่นเอง
ภาพบรรยากาศจำลองของสวนที่มีชื่อว่า Nature Lab เป็นพื้นที่ส่วนกลางเพียงจุดเดียวที่เราสามารถพาน้องๆสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นได้ โดยฟังก์ชันด้านในจะมีโซนทำความสะอาด/ก๊อกน้ำต่างๆเตรียมไว้ให้ด้วยครับ
แต่ใครที่พาน้องมาเดินเล่นก็จะต้องช่วยกันรักษาความสะอาด และรับผิดชอบดูแลสัตว์เลี้ยงของตัวเองให้ดีๆด้วยนะ เพื่อพื้นที่ตรงนี้จะได้สวยงามน่าใช้งาน และลูกบ้านคนอื่นๆก็สามารถมานั่งเล่นได้ด้วยครับ
ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Lobby & Town Hall ตกแต่งเป็นสไตล์ Tropical เน้นความเป็นธรรมชาติและให้ความรู้สึกสบายๆ ซึ่งฟังก์ชันหลักๆจะเป็นพื้นที่ให้ลูกบ้านสามารถมานั่งเล่น และพบปะกันได้นั่นเองครับ รวมถึงเรายังใช้เป็นพื้นที่รับแขกได้อีกด้วย
แต่ที่ส่วนตัวเราชอบมากๆก็คือ ช่องแสงด้านข้างเค้าให้มาใหญ่มากๆ ของจริงบรรยากาศน่าจะสว่างโปร่งโล่งดีแน่นอนรอชมเลยครับ
จากโมเดลบริเวณด้านซ้ายของอาคารจะเป็นทางขึ้นไปยังชั้นจอดรถ ส่วนใครที่ต้องการจอดแบบ Auto Parking ก็สามารถวนไปเข้าทางด้านหลังได้เลยครับ
ชั้น 4 – 6 จะเป็นชั้นจอดรถทั้งหมด แบ่งเป็นที่จอดแบบปกติ 71 คัน และช่องจอดแบบ Auto Parking 36 คัน คิดรวมทั้งโครงการคือประมาณ 49% แบบไม่รวมซ้อนคัน คิดซะว่าครึ่งหนึ่งอาจเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือใช้รถสาธารณะไปแค่ใกล้ๆแถวนี้กันก็ได้ แต่อนาคตจะเพียงพอหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับลูกบ้านตัวจริงที่จะมาอยู่อีกทีครับ
ถัดขึ้นมาบนชั้น 9 จะเป็น Main Facilities ของโครงการ ซึ่งจะเห็นได้ว่าอยู่ในร่มทั้งหมดเลย
แปลนชั้น 9 จะเป็นโซนแนว Active เน้นฟังก์ชันการออกกำลังกายเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และห้องโยคะ รวมถึงยังมีห้องสันทนาการอื่นๆให้ใช้งานได้ด้วย ตอบโจทย์ทั้งวัยทำงานและน้องๆวัยเรียนครับ
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณสระว่ายน้ำ โดยจะเป็นสระแบบในร่มขนาด 13.3 x 4 m. สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวันไม่ต้องกลัวแดดร้อน แต่อาจไม่ได้เป็นสระใหญ่ที่จะว่ายออกกำลังกายได้แบบจริงจังนักนะครับ และวิวที่ได้ก็จะเป็นฝั่ง City View และทางด่วนทางทิศเหนือนั่นเอง
ภาพบรรยากาศจำลองภายในห้อง Fitness ภายในมีอุปกรณ์ให้ใช้งานครบ ล้อมรอบไปด้วยกระจกขนาดใหญ่ และชมวิวเมืองไปทางฝั่งทางด่วนที่อยู่ด้านหลัง
ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Quiet Room เป็นพื้นที่สำหรับนั่งทำงานอ่านหนังสือที่เน้นความเงียบสงบ แต่ถ้าใครที่ต้องการสมาธิและความเป็นส่วนตัวมากๆ ก็จะมีห้อง Private Reading Room ที่มีประตูกระจกกั้นแยกเอาไว้ให้ใช้งานอยู่ด้านในด้วยครับ จัดว่าเป็นฟังก์ชันที่ทำมาเพื่อตอบโจทย์คนวัยทำงานและน้องๆนักศึกษาได้ดีเลย
ตั้งแต่แปลนชั้น 10 ขึ้นไปจะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด และบางชั้นก็จะเป็นห้องแบบฝ้าเพดานสูงด้วยครับ (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานขายได้เลย) ผังห้องโอบล้อมโถงทางเดินและลิฟต์โดยสารทั้งหมด เพราะเค้าต้องการเน้นพื้นที่ในห้องเป็นหลัก ทำให้บรรยากาศของโถงทางเดินของจริงอาจไม่ได้โปร่งโล่งเหมือนโครงการทั่วไป และต้องมีการเปิดไฟส่องสว่างช่วยด้วยนั่นเอง
ตำแหน่งห้องพักที่น่าสนใจจะเป็นห้องใหญ่ที่อยู่ตรงมุมอาคาร รวมถึงเค้ายังเน้นห้องพักทางทิศตะวันออกให้เป็นห้องใหญ่อีกด้วยครับ ซึ่งเป็นทิศที่เราจะได้วิวสวนอุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั่นเอง โดยแต่ละชั้นจะมีการปรับ Type ห้องค่อนข้างหลากหลายเลย ใครที่สนใจก็อาจต้องลองเช็ครายละเอียดดูอีกทีนะครับว่า
สำหรับชั้น 23 ขึ้นไปจะมีการสอดแทรกพื้นที่สีเขียวเล็กๆเข้ามาบนชั้นพักอาศัยด้วย ทำให้เราสามารถออกมาชมวิวหรือนั่งเล่นสูดอากาศได้นั่นเอง
แปลนชั้น 24 – 27 จะมีห้องบางตำแหน่งที่มีพื้นที่ใช้สอยแตกต่างกันไปตามลักษณะของอาคาร บางห้องจะได้เป็นพื้นที่รูปสามเหลี่ยมที่จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ค่อนข้างยากหน่อย แต่จะเด่นในเรื่องวิวแบบเฉียงๆที่ได้ไม่เหมือนใครในโครงการนั่นเองครับ
Rooftop เป็นสวนบนชั้นดาดฟ้าให้เราได้ขึ้นมาชมวิว และนั่งเล่นพักผ่อนกันได้ โดยจะแบ่งออกเป็นมุมย่อยๆหลายมุม ทำให้มีความเป็นส่วนตัวแยกจากกันดี
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
ชั้น G
- Lobby Hall
- Townhall
- Meeting Room
- Co – Working Space
- Nature Lab (Pet Allowed)
- Pet Bath
- Shuttle Bus Area
ชั้น 9
- Infinity Edge Pool ระบบเกลือ ขนาด 13.3 x 4 m.
- Live & Photo Studio
- Yoga & Dancing Studio
- Bike Simulator Room
- Fit Club
- Quiet Room
- Private Reading Room
- Laundry Room
- ห้องน้ำชาย Sauna / Locker
- ห้องน้ำหญิง Steam / Locker
ชั้น 23 – 26
- Stack Garden
ชั้น Rooftop
- Multipurpose Court
- Gemini Court
- Wellbeing Garden
- Oxy Court
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 110 : 1
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถ 107 คัน คิดเป็น 49% (เป็นแบบ Conventional + Auto Parking)
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Key Card Access
แบบห้อง
Highlights :
- ฟังก์ชันเป็นสัดส่วน มีความยืดหยุ่นสูง ไม่ว่าจะเป็นห้องอเนกประสงค์ หรือจะออกแบบผนังเผื่อให้กั้นครัวปิดเพิ่มเติมเองได้
- มีห้องฝ้าเพดานสูงให้เลือก บรรยากาศสว่างโปร่งโล่ง ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน
- ขายแบบ Fully Fitted ต้องเตรียมงบแต่งห้องเพิ่มเอง ซึ่งเราสามารถจัดห้องในแบบที่ต้องการได้เลย
โครงการ MARU Chula (มารุ จุฬา) มีแบบห้องให้เลือกตั้งแต่ 1 – 2 Bedrooms อีกทั้งยังมีห้องฝ้าเพดานสูงให้เลือกด้วยครับ ขายแบบ Fully Fitted ให้เฉพาะชุดครัวและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเท่านั้น ซึ่งเราจะต้องเผื่องบในการตกแต่งห้องเองไว้ด้วยนะ โดยแบบห้องจะประกอบด้วย
- 1 Bedroom ขนาด 31 – 48 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus ขนาด 31 – 46 ตร.ม.
- 2 Bed 1 Bath ขนาด 47 ตร.ม.
- 2 Bed 2 Bath ขนาด 61 ตร.ม.
สเปควัสดุหลักภายในห้อง :
- พื้นห้อง : SPC ลายไม้ธรรมชาติ
- ประตูหน้าห้อง : ติดตั้ง Digital Door Lock มาให้เป็นมาตรฐาน
- ประตู-หน้าต่างในห้อง : กรอบอลูมิเนียมสีดำ พร้อมกระจกเขียวตัดแสง
- สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ : ยี่ห้อ COTTO พร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย
- ชุดครัว : ยี่ห้อ TEKA พร้อม Top เคาน์เตอร์ครัวหินสังเคราะห์
- ผนังห้องระหว่างยูนิต : Double Wall แบบ 2 ชั้น พร้อม Air Gap ตรงกลาง ช่วยลดเสียงรบกวนจากห้องข้างๆ เหมาะกับคอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้มากๆ
1 Bedroom Plus เป็นแบบห้องที่มีเยอะที่สุดในโครงการ มีการแบ่งฟังก์ชันภายในเป็นสัดส่วน แต่ยังคงความโปร่งโล่งด้วยการใช้เป็นประตูกระจกบานเลื่อน เพื่อให้พื้นที่เชื่อมต่อกันไม่รู้สึกอึดอัด จุดเด่นของห้องนี้คือ ‘ห้องอเนกประสงค์’ ที่เราสามารถปรับเป็นฟังก์ชันใดๆได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน ห้องเลี้ยงสัตว์ ทำให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนได้ทุกแบบเลยครับ แถมตำแหน่งก็ยังอยู่ติดกับระเบียงด้วย ทำให้ใช้งานต่อเนื่องกับภายนอกไปด้วยได้อีก
นอกจากนี้เราจะได้เป็นครัวเปิดที่เชื่อมต่อกับ Living Area แต่ทางโครงการก็ออกแบบเผื่อระยะให้เรากั้นประตูเพิ่มเติมทำเป็นครัวปิดมาให้แล้ว ถือว่าออกแบบพื้นที่มาได้ดีเลยครับ แต่แนะนำสำหรับใครที่ชอบทำอาหารจริงจัง และคิดว่าขนาดครัวยังไม่พอ เราแนะนำให้ขยายพื้นที่เชื่อมต่อมายังห้องอเนกประสงค์ไปเลย แล้วจะได้เป็นครัวขนาดใหญ่ที่อยู่ติดระเบียง สามารถเปิดระบายอากาศทำครัวได้เต็มที่ โดยนี่ก็เป็นหนึ่งไอเดียที่เราลองยกตัวอย่างให้ดูว่าความยืดหยุ่นของห้อง 1 Bedroom Plus จะเป็นเช่นนี้นี่เองครับ
เข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับ Living Area ที่จะได้แสงสว่างมาจากหน้าต่างในห้องนอน ความสูงของฝ้าจะอยู่ที่ 2.7 m. และของจริงจะได้เป็นห้องโล่งๆที่จะต้องมาตกแต่งเพิ่งเอง ดังนั้นเราลองมาดูห้องตัวอย่างเป็นไกด์กันดีกว่าครับว่าจัดพื้นที่ออกมาจะเป็นอย่างไรบ้าง
ติดกับประตูทางเข้าห้องจะเป็นที่วางโซฟาและทีวี มีความกว้างอยู่ที่ 2.25 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้ครับ โดยขนาดพื้นที่ก็เหมาะกับวางโซฟาแบบ 2 ที่นั่งพอดีๆ อาจไม่เหมาะกับวางโต๊ะกลางจริงจังเพราะจะขวางทางเดิน แต่เราสามารถหาโต๊ะเล็กๆดีไซน์เจ๋งๆมาไว้วางของเล็กๆน้อยๆได้อยู่นะ
ด้านซ้ายของทีวีเราแนะนำให้ Built-in เป็นตู้เก็บรองเท้าแบบนี้ เพราะจะทำให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย แถมยังหยิบใช้งานได้สะดวกอีกด้วย
ถัดเข้ามาตรงกลางห้องจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหาร โดยจะสามารถวางแบบ 2 ที่นั่งได้พอดีๆ หรือถ้าใครที่ไม่เน้นทานอาหารในบ้าน ก็อาจทำเป็นมุมอเนกประสงค์อื่นๆ วางเป็นโต๊ะทำงาน หรือจะขยายเป็นโซฟาตัวยาวเลยก็ได้ครับ
ห้องนอนจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ซึ่งตามปกติก็เพื่อความสว่างโปร่งโล่งของพื้นที่ และเหมาะกับการอยู่อาศัยแบบ 1 – 2 คนนั่นเองครับ แต่สำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เราสามารถติดม่านไว้เลื่อนปิดเวลาที่มีแขกมาหาได้นะ
ภายในห้องนอนมีพื้นที่ใช้สอยพอดีๆ โดยจะแบ่งออกเป็นส่วนของเตียงนอนและพื้นที่แต่งตัว
ช่องแสงบริเวณข้างเตียงจะเป็นแบบทรงสูงจากพื้นเกือบถึงฝ้า เพื่อให้มีแสงสว่างเข้ามาภายในได้เพียงพอ รวมถึงยังสามารถเปิดหน้าต่างระบายอากาศได้ด้วย
ส่วนพื้นที่แต่งตัวจะกว้าง 1 m. และรอบเตียงกว้าง 40 – 50 cm. สามารถใช้งานได้พอดีๆ แต่อย่างที่บอกครับว่าของจริงเราจะได้เป็นห้องเปล่า ซึ่งเราสามารถจัดและออกแบบพื้นที่ได้ด้วยตัวเองเลย นี่เป็นเพียงไกด์ไลน์ให้พอเห็นภาพเท่านั้น หรือใครจะจัดแบบนี้เลยก็ได้นะ
และบริเวณปลายเตียงยังมีพื้นที่เหลือให้เราสามารถแขวนทีวี และเพิ่มมุมโต๊ะแต่งหน้าแบบนี้ได้ด้วย
อีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็นฟังก์ชันใช้งานอย่างครัวและห้องน้ำ ซึ่งจะมีโถงทางเดินแยกออกไป โดยของจริงก็จะเป็นพื้นที่โล่งๆแบบนี้แหละครับ ทำให้เป็นครัวเปิดที่เชื่อมต่อกับ Living Area แต่ถ้าใครที่ต้องการทำครัวจริงจัง หรือเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ก็สามารถกั้นประตูกระจกเพิ่มเติมได้นะครับ
ภายในเราจะได้ครัว Built-in มาเหมือนในห้องตัวอย่างนี้เลย ซึ่งก็พอดีสำหรับการอยู่อาศัย 1 – 2 คนแบบนี้ Top เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์ พร้อมติดตั้งเตาไฟฟ้า + เครื่องดูดควันจาก TEKA เป็นแบบที่ต่อท่อไปสู่ภายนอก
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ อ่างล้างจานที่จะมีฝาปิดมาให้แบบนี้ ซึ่งจะช่วยทำให้เราสามารถเพิ่มพื้นที่ประกอบอาหารได้นั่นเองครับ
ติดกันจะเป็นห้องน้ำที่เราจะได้สุขภัณฑ์จาก Cotto ครบเหมือนห้องครัวอย่างเลยครับ โดยจะมีการแบ่งพื้นที่ใช้สอยแยกกันชัดเจน
โดยส่วน Shower จะกั้นกระจกบานเปลือยมาให้แบบนี้เลยครับ ด้านในมีขนาดกว้าง 1.1 x 0.8 m. สามารถใช้งานได้พอดีๆ มาพร้อมกับ Hand Shower และมี Junction ให้ติดเครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่มได้ ส่วนตรงผนังก็จะเจาะช่องให้วางของมาเลยแบบนี้
ตรงข้ามจะเป็นห้องอเนกประสงค์ที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้มีความเป็นสัดส่วน แถมยังช่วยทำให้ครัวไม่มืดทึบอีกด้วย
ภายในมีขนาดกว้าง 2 x 2 m. สามารถจัดเป็นห้องอะไรก็ได้ที่เราต้องการ เช่น ห้องทำงาน ห้องสัตว์เลี้ยง ห้องครัว หรือถ้าใครจะทำเป็นห้องนอนเล็กก็อาจมีพื้นที่วางเตียงที่ Fit สักหน่อยนะ หรือเราเคยเห็นบางโครงการใช้เป็นเตียงแบบ Multi-Function พับเก็บบนผนังได้ก็น่าสนใจไม่น้อย
สุดท้ายจะเป็นระเบียงที่มีขนาด 2 x 1.1 m. สามารถออกมาใช้งานสูดอากาศ ชมวิว หรือจะวางเครื่องซักผ้าและตากผ้าก็ได้ โดยด้านบนจะมี Condensing Unit แขวนอยู่ และเป่าลมร้อนมาด้านข้าง ซึ่งเราสามารถติดกริลแอร์ดันลมร้อนออกไปด้านนอกเพิ่มได้นะครับ
ห้องนี้จะเป็นแบบ Duplex หรือห้องฝ้าเพดานสูงที่ถือเป็นอีกหนึ่ง Highlight ของโครงการ ความพิเศษก็คือ มีความโปร่งโล่งและสามารถแบ่งฟังก์ชันแยกกัน 2 ชั้นได้ชัดเจน ให้อารมณ์เหมือนเราอยู่บ้านเลยครับ โดยพื้นที่ด้านล่างจะเน้นเป็น Living Area และฟังก์ชันใช้งานอย่างครัว+ห้องน้ำ ซึ่งถึงแม้ว่าครัวจะมีขนาดเล็กแต่ก็ได้เป็นครัวปิดนะ ส่วนชั้นลอยจะเป็นโซนของห้องนอนที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงก็คือ การใช้งานฟังก์ชันที่จะต้องมีการเดินขึ้น-ลงบันได โดยเฉพาะเวลาที่เราจะมาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน ทำให้ภาพรวมของห้องนี้จะเหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน ชอบห้องฝ้าเพดานสูง เน้นความโปร่งโล่ง และได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน แต่อาจต้องเป็นคนที่สามารถเดินขึ้น-ลงบันไดได้สะดวกๆหน่อยนะครับ
เข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับโถงทางเดินที่อยู่ใต้ชั้นลอย ซึ่งจะมีความสูงฝ้าอยู่ที่ 2.2 m. สามารถเดินได้เต็มความสูงสบายๆ
อีกทั้งเรายังรู้สึกว่าโถงทางเดินแบบยังช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวได้ด้วย เพราะจากประตูหน้าห้องเราแทบจะมองส่วนอื่นๆด้านในไม่เห็นเลยนั่นเองครับ
ขวามือของประตูจะเป็นห้องครัวปิดที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ภายในมีขนาดกว้าง 1.3 x 0.9 m. พอจะให้ทำอาหาร 1 คนแบบพอดีๆ และเค้าก็จะ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้เหมือนห้องตัวอย่างเลยครับ
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องน้ำที่มีการแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน และเราก็จะได้สุขภัณฑ์จาก Cotto เช่นเดิม
ความพิเศษของห้องนี้ที่นอกจากจะกั้น Shower แยกมาให้เป็นสัดส่วนแล้ว ยังมีการกั้นโซนของโถสุขภัณฑ์แยกมาเป็นเหมือน Powder Room ให้ด้วย โดยจะให้เป็นประตูบานเลื่อนแบบนี้ครับ
ขนาดพื้นที่อาบน้ำกว้าง 1 x 1 m. ส่วนภายในห้อง Powder Room จะกว้าง 1.8 x 0.9 m. สามารถใช้งานได้แบบพอดีๆ แต่พอมีประตูกั้นแยกแบบนี้ ก็เลยทำให้เป็นห้องน้ำที่สามารถใช้งานหลายๆฟังก์ชันได้พร้อมกันด้วยนั่นเอง
ถัดเข้ามาด้านในเราจะเจอ Highlight หลักของห้องก็คือ ‘พื้นที่ฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume’ ซึ่งห้องนี้จะเป็นแบบ Duplex มีความสูงอยู่ที่ 4.45 m. จุดเด่นคือความสว่างโปร่งโล่ง เพราะเราจะได้ช่องแสงขนาดใหญ่เกือบเต็มผนังเลยครับ
พื้นที่โซนนี้จะประกอบด้วยโซฟานั่งเล่นหน้าทีวี และมีพื้นที่ให้วางโต๊ะทานอาหารเล็กๆด้านข้างด้วย โดยเราสามารถออกแบบพื้นที่ใหม่ตามความต้องการของตัวเองได้เลยครับ ซึ่งอาจทำเป็นชุดโซฟาตัวใหญ่ๆ วางคอนโดแมว หรือจะ Built-in ตู้เก็บของแบบเต็มผนังไปเลยก็ได้
ติดกันจะเป็นระเบียงภายนอกขนาด 2.2 x 1m. ให้เราสามารถออกไปใช้งานได้ โดยเครื่อง Condensing Unit จะแขวนอยู่ด้านบนไม่รบกวนพื้นที่ด้านล่างเลยครับ
ถัดมาเราจะขึ้นไปดูบนชั้นลอยกันต่อครับ
ซึ่งการขึ้นไปก็จะมีบันไดโครงสร้างเหล็ก ที่ด้านล่างจะมีห้องเก็บของให้ใช้งานด้วย ส่วนราวกันตกของจริงจะเป็นราวเหล็กธรรมดานะครับ ใครที่ชอบความทันสมัยสวยงามก็อาจเปลี่ยนเป็นกระจกแบบห้องตัวอย่างนี้ได้เลย
ขึ้นมาด้านบนเราจะเจอกับห้องนอนที่สามารถวางเตียง แล้วยังมีพื้นที่รอบๆเหลือให้ใช้งานได้สบายๆ โดยความสูงจากพื้นถึงฝ้าด้านบนนี้ก็จะอยู่ที่ 2 m. สามารถเดินใช้งานได้เต็มความสูงเลยครับ
และอีกด้านหนึ่งก็จะมีพื้นที่ให้ทำเป็นมุมแต่งตัวได้ด้วยนะ ถือว่ามีพื้นที่ขนาดใหญ่ดีเลยทีเดียว
ปลายเตียงจะเป็นพื้นที่เปิดโล่งที่เชื่อมต่อกับ Living Area ที่อยู่ด้านล่าง อีกทั้งเรายังได้วิวจากหน้าต่างชัดเจนด้วยครับ ซึ่งหากใครที่อยากประหยัดค่าแอร์แบบไม่ต้องเปิดทั้งห้องตลอดเวลา เราก็อาจกั้นผนังกระจกเพิ่มเติม เพื่อให้ห้องด้านบนเป็นพื้นที่ปิดไปเลยก็ได้เหมือนกัน
เป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการ เราว่าเค้าออกแบบมาได้ดีเลยทีเดียวนะ เพราะเราจะได้ห้องนอนที่กั้นด้วยผนังทึบเป็นส่วนตัวเลย ส่วน Common Area ที่ดูกว้างก็เพราะว่าเค้าจะรวมฟังก์ชันครัว โต๊ะทานอาหาร และโซฟานั่งเล่นให้กลายเป็นพื้นที่เดียวกัน แน่นอนว่าห้องนี้เราจะได้ครัวเปิดที่เหมาะกับคนไม่เน้นทำอาหารอยู่แล้วนั่นเองครับ รวมถึงยังอาจตอบโจทย์คนที่มีงบที่จำกัดอีกด้วย
เป็นห้อง 2 Bedrooms ที่เหมาะกับคนอยู่เป็นครอบครัว มีลูกสัก 1 คน หรืออาจเป็นพี่น้องที่ต้องการแยกห้องนอนเป็นส่วนตัวกันก็ได้ โดยแบบห้องนี้จะเป็นห้องมุมที่ได้ช่องแสงถึง 2 ด้าน ทำให้มีความสว่างโปร่งโล่ง ทุกฟังก์ชันมีช่องแสงเป็นของตัวเอง สามารถชมวิวเปิดระบายอากาศได้หมด
ส่วนห้องน้ำจะต้องแชร์ร่วมกันตรงกลาง ทั้งนี้ก็เพื่อให้ในห้องนอนทั้ง 2 มีขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางมากขึ้นนั่นเองครับ ส่วนที่เราชอบอีกอย่างจะเป็นโซนครัว ที่เค้าออกแบบมาเผื่อให้สามารถกั้นผนังทำเป็นครัวปิดเพิ่มเติมเองได้ เรียกได้ว่าหลายๆห้องได้มีการคิดเผื่อความยืดหยุ่นเอาไว้แล้วนั่นเองครับ
เป็นห้องไซส์ใหญ่ 2 Bed 2 Bath ที่จะเพิ่มห้องน้ำมาให้อีกหนึ่งห้อง ทำให้มีความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น และห้องนอนใหญ่ก็จะมีเป็นของตัวเองเป็นส่วนตัวที่ด้านในไปเลย แต่ Highlight หลักของห้องนี้จริงๆก็คือ ‘วิว’ เพราะตำแหน่งของห้องนี้จะอยู่ด้านที่หันมามองเห็นสวนอุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้นั่นเองครับ ดังนั้นใครที่เป็นครอบครัวใหญ่และชอบวิวพื้นที่สีเขียวสวยๆ ต้องไม่พลาดห้องนี้อย่างแน่นอน
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่า
ราคา
MARU CHULA (มารุ จุฬา) ราคา ณ วันที่ 8 มกราคม 2568
- 1 Bedroom ขนาด 31 – 48 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.95 ล้านบาท (Promotion)
- 1 Bedroom Plus ขนาด 31 – 46 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.7 ล้านบาท (Promotion)
- 2 Bed 1 Bath ขนาด 47 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท (Promotion)
- 2 Bed 2 Bath ขนาด 61 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9.1 ล้านบาท (Promotion)
- รูปแบบการขาย Fully Fitted
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.7 เมตร
- Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ TEKA
- จอง n/a บาท
- ทำสัญญา n/a บาท
- ค่ากองทุน n/a บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 70 บาท/ตร.ม./เดือน
- หมายเหตุ : สำหรับคนที่ต้องการเลี้ยงสัตว์ สามารถสอบถามรายละเอียดกับทางโครงการได้อีกครั้ง ถึงข้อกำหนดและค่าใช้จ่ายต่างๆเพิ่มเติม ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
- ลงทะเบียนโครงการ : https://bit.ly/3PzVdVi
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
บทสรุป
ทำเล : ตั้งอยู่ติดถนนเจริญเมืองใกล้บรรทัดทอง ซึ่งเป็นย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง และขึ้นชื่อเรื่องร้านอาหารอร่อยๆ อีกทั้งยังแวดล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า ใกล้ตลาดเยาวราช ใกล้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงยังใกล้สวนอุทยาน 100 ปีด้วยครับ เรียกได้ว่าเป็นทำเลที่มีความสะดวกสบาย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายที่ครบครันมาก แน่นอนว่าเหมาะกับทั้งน้องๆนักศึกษา คนที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ หรือจะเป็นคนที่ทำงานในเมืองก็ได้ เพราะทำเลนี้มีทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้าให้ใช้งานครับ
การเดินทางโดยใช้รถ : ถือว่าสะดวกสบายมากๆ เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ติดทางด่วนศรรีรัช และอยู่ห่างจากจุดขึ้น-ลงประมาณ 0.85 – 1.5 km. หรือใช้เวลาขับรถเพียง 5 – 10 นาทีเท่านั้นก็ได้ขึ้นทางด่วนกันแล้ว ส่วนที่จอดรถจะมี 49% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน โดยที่ส่วนหนึ่งจะเป็นการจอดแบบ Auto Parking ก็เลยทำให้มีที่จอดรถค่อนข้างเยอะ เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านในกลุ่ม Segment เดียวกัน
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : มีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT หัวลำโพง อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 600 m. ซึ่งเป็นระยะที่เดินเหนื่อยอยู่ แต่ก็ไม่ต้องห่วงไปครับ เพราะในอนาคตโครงการจะมีบริการรถ Shuttle Bus คอยรับ-ส่งไปยังรถไฟฟ้า MRT หัวลำโพง (หรืออาจมีสถานที่อื่นๆอีก เช่น มหาลัย ซึ่งก็ต้องรอดูในอนาคตอีกที) รวมถึงเรายังสามารถเรียกรถสาธารณะด้านหน้าโครงการได้สะดวกอีกด้วยครับ
การออกแบบโครงการ : เป็นคอนโด Pet Friendly หนึ่งเดียวในย่านที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ จำนวนยูนิตไม่เยอะมาก และกระจายส่วนกลางออกเป็น 3 ชั้นหลักๆ ทำให้ใช้งานได้ไม่รบกวนกันเลย ตำแหน่งห้องพักอาศัยมีความน่าสนใจตรงห้องมุม และห้องทางทิศตะวันออกที่ได้วิวสวนอุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (แอบเสียดายที่สระว่ายน้ำชั้น 9 ไม่ได้วิวทิศนี้ด้วย ไม่งั้นเราก็จะมีวิวส่วนกลางสวยๆให้ใช้งานเพิ่มขึ้นอีก)
โดยห้องตำแหน่งทิศนี้มักจะเป็นห้องไซส์ใหญ่ แต่จะมีบางชั้นที่มีห้องไซส์เล็กอยู่ด้วย แน่นอนว่ามีราคาจับต้องได้ง่ายและเป็น Rare Item เพียงไม่กี่ยูนิตสำหรับคนที่มีงบจำกัด ส่วนชั้นพักอาศัยจะเน้นพื้นที่ในห้องมากกว่าโถงทางเดินด้านนอก ทำให้บรรยากาศอาจไม่ได้โปร่งโล่งเหมือนคอนโดทั่วไปที่มีช่องหน้าต่าง และอาจต้องมีการเปิดไฟช่วยส่องสว่างตลอดเวลาครับ
การออกแบบห้องพักอาศัย : มีแบบห้องให้เลือกตั้งแต่ 1 – 2 Bedrooms รวมถึงมีห้องฝ้าเพดานสูงให้เลือกด้วย ฟังก์ชันเป็นสัดส่วนแต่ก็มีความยืดหยุ่นสูง ไม่ว่าจะเป็นห้องอเนกประสงค์ที่เราสามารถจัดเป็นฟังก์ชันอะไรก็ได้ตามต้องการ รวมถึงยังคิดเผื่อระยะผนังให้เราสามารถกั้นฟังก์ชันทำเป็นครัวปิดได้ด้วย เรียกได้ว่าโครงการคิดมาได้ค่อนข้างดีเป็นมาตรฐานเลยครับ
ที่พิเศษหน่อยก็จะเป็นห้องไซส์ใหญ่ 2 Bedrooms ที่นอกจากจะอยู่แบบครอบครัวได้สบายๆแล้ว ยังมักจะอยู่ในตำแหน่งที่ได้วิวดีๆสวยๆ หรือเป็นห้องมุมอีกด้วยครับ และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือห้องฝ้าเพดานสูง ที่ให้บรรยากาศสว่างโปร่งโล่งเหมือนอยู่บ้านเลย ซึ่งใครที่กำลังมองหาห้องเหล่านี้อยู่และสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ด้วย รับรองว่าต้องไม่พลาดโครงการนี้นะครับ
วัสดุ : ขายแบบ Fully Fitted ให้มาเฉพาะชุดครัวและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ รวมถึงมีเครื่องปรับอากาศมาให้ด้วย ซึ่งเราจะต้องเผื่องบในการตกแต่ง Built-in ห้องเพิ่มเติมเองด้วยนะครับ โดยเราสามารถแต่งในแบบที่เราต้องการได้เลย ส่วนวัสดุอื่นๆก็ให้มาตามมาตรฐานที่เหมาะกับการใช้งาน โดยเฉพาะพื้น SCP ที่สามารถทนน้ำหรือความชื่นได้ดีระดับหนึ่ง อีกทั้งยังมีการทำผนัง Double Wall ที่ช่วยลดเสียงและเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ดี ทั้งหมดนี้เราว่าเหมาะสมกับคอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้แบบนี้มากๆครับ
สาธารณูปโภค : มีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบ สามารถตอบโจทย์คนได้ทุกกลุ่มเป้าหมายที่โครงการวางเอาไว้ได้หมด ไม่ว่าจะเป็น Co-Working Space สำหรับน้องๆนักศึกษาและคนวัยทำงาน / พื้นที่สีเขียวให้น้องๆสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นสำหรับคนรักษ์สัตว์ / พื้นที่ออกกำลังกายฟังก์ชันครบครันสำหรับคนรักสุขภาพ อีกทั้งยังมีการสอดแทรกพื้นที่สีเขียวไว้บนอาคารให้เราได้ขึ้นมาชมวิว และนั่งเล่นพักผ่อนกันได้อีกด้วย
โดยที่ค่าส่วนกลางจะอยู่ที่ 70 บาท/ตร.ม. ซึ่งก็นับว่าค่อนข้างสูงอยู่เหมือนกัน อย่างต่ำๆห้องไซส์เล็กสุดก็ต้องจ่ายอยู่ที่ 2,100 บาท/เดือน ส่วนใหญ่ก็จะใช้ไปกับค่าบำรุงรักษาที่จอดรถ Auto Parking ที่มีค่าใช้จ่ายต่อปีค่อนข้างสูง รวมถึงยังต้องคอยดูแลส่วนกลางบริเวณที่น้องๆสัตว์เลี้ยงไปใช้งานเป็นพิเศษด้วยครับ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 140,000 – 150,000 บาท/ตร.ม., 8 มกราคม 2568
- ทำเล 8/10 – มีความอุดมสมบูรณ์ ใกล้บรรทัดทอง หาของกินง่าย และใกล้สวนอุทยาน 100 ปี + จุฬาฯ
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – ใกล้ทางด่วนศรีรัชเพียงกิโลเมตรกว่าๆ ที่จอดรถเยอะ 49%
- ไม่ใช้รถ 7.75/10 – Shuttle Bus รับ-ส่ง MRT หัวลำโพง สามารถเดินไปสวนหรือบรรทัดทองได้สบายๆ
- วัสดุ 7.5/10 – Fully Fitted ต้องเผื่อเงินแต่งห้องเพิ่ม ได้ผนังสองชั้นกันเสียงดี
- แบบ 8/10 – ฟังก์ชันเป็นสัดส่วน มีห้องฝ้าเพดานสูงให้เลือก เลี้ยงสัตว์ได้
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – มีฟังก์ชันหลักๆครบ แบ่งโซนได้ชัดเจนไม่รบกวนกัน ค่าส่วนกลางค่อนข้างสูง
- UPPER CLASS
- 7.84 / 10.00
MARU CHULA (มารุ จุฬา) เหมาะกับใคร
โครงการ MARU CHULA (มารุ จุฬา) เหมาะกับคนที่มองหาคอนโด Pet Friendly สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ในย่านบรรทัดทอง ใกล้สวนอุทยาน 100 ปี และใกล้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำเลเดินทางสะดวกด้วยทางด่วนและมีรถไฟฟ้าให้ใช้งาน รวมถึงยังมีแบบห้องให้เลือกหลากหลายมาก ฟังก์ชันยืดหยุ่นสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ รวมถึงมีห้องฝ้าเพดานสูงให้เลือกด้วย เริ่มต้นที่ 3.95 – 9.1 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 28,000 – 64,000 บาท
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่