รีวิวฉบับที่ 536 … โครงการ LIB Condo เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคารตั้งอยู่ในซอย รามคำแหง 43/1 ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ หอนาฬิกา ของมหาวิทยาลัยรามคำแหงพอดี และอยู่ใกล้โรงเรียน บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ห่างจากปากซอย 650 เมตร สามารถเข้า-ออกได้หลายเส้นทางทั้ง รามคำแหง, ลาดพร้าว และถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนรามอินทรา) โครงการจะเป็นอย่างไรเราไปดูกันเลยครับ ヾ(^-^)ノ⌣♪
Fact @ 7 February 2014
- LiB RAMKHAMHAENG 43/1 (ลิปป์ รามคำแหง 43/1)
- บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
- ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : วังทองหลาง
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 229 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 34 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 74 คันคิดเป็น 32.31% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 39%
- ที่ดินประมาณ 2-0-13.4 ไร่
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : สร้างเสร็จพร้อมอยู่
- 1 Bedroom 26.25 – 40.5 ตารางเมตร
- ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.565 ล้านบาทหรือประมาณ 58,500 บาทต่อตารางเมตร
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 59,600 บาท
- http://libcondo.com/ramkhamhaeng43-1/
- โทร 1778
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
พิกัด : 13.764412,100.6157
แผนที่จากทางโครงการครับ
โครงการนี้อยู่บนถนนรามคำแหงและอยู่ในซอย รามคำแหง 43/1 ตัวโครงการห่างจากปากซอยประมาณ 650 เมตร ทำเลนี้เป็นทำเลที่ต้องบอกว่ามีความหนาแน่นสูงมาก เนื่องจากอยู่ตรงข้ามมหาวิทยาลัยรามคำแหงและมีโรงเรียน บดินทรเดชา สิงห์ สิงหเสนี อยู่ในซอยด้วย ส่วนโรงเรียนอื่นๆที่อยู่ในบริเวณนี้ก็มีอีกหลายแห่งแต่ไม่ใกล้มาก และเนื่องจากมีสถานศึกษาอยู่ในบริเวณนี้ค่อนข้างเยอะทำให้เกิดที่อยู่อาศัยประเภทหอพักอพาร์ทเม้นท์มาขึ้นอยู่ในซอยนี้เยอะมาก
การเดินทางโดยรถยนต์ทำเลนี้ถือว่าเป็นทำเลที่ค่อนข้างดีในเรื่องของเส้นทางเพราะมีทางลัดไปออกถนนหลักต่างๆได้ โดยทางเข้าหลักโครงการจะเป็นซอยรามคำแหง 43/1 ซอยนี้สามารถใช้เป็นทางลัดไปทะลุ ซอยลาดพร้าว 112 และ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ผ่านซอยอินทราภรณ์ ซึ่งเป็นทางเข้าโซนโฮมออฟฟิศย่าน Town in Town ด้วย การจราจรจึงคับคั่งตลอดเวลา มีรถกระป๊อ(Subaru)และพี่วินวิ่งให้บริการเป็นระยะเกือบตลอดทั้งซอย ทางด่วนที่ใกล้ที่สุดจะเป็นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์
แต่ทำเลไม่ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียนะครับ ข้อเสียหลักนี่หากใครเคยได้พักหรือทำงานอยู่แถวรามคำแหงจะรู้ว่าถนนเส้นนี้รถติดมากแค่ไหน แถมถนนเส้นนี้กว่าจะมีโครงการรถไฟฟ้าผ่านโดยตรงก็ต้องปี 2562 ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะสร้างเสร็จตามแผนงานที่วางไว้หรือไม่ โครงการที่วิ่งผ่านเส้นนี้โดยตรงคือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ตลิ่งชัน-มีนบุรี สามารถดูรายละเอียดเส้นทางได้โดย Clickที่นี่ หรือถ้าจะดูรายละเอียดบนแผนที่จริงก็ Clickที่นี่เลยครับ (จะเห็นว่ามีสถานีรามคำแหงอยู่หน้าปากซอย 43/1 เลย) ดังนั้นความหวังที่จะลดปริมาณการจราจรบนเส้นนี้ในระยะสั้นคงต้องรอกันต่อไป ทีนี้ถ้าจะใช้รถไฟฟ้าหละ……ก็ยังพอมีทางเลือกอยู่ครับ สถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็น ARLรามคำแหง (Airport Rail Link) ซึ่งอยู่บริเวณแยกคลองตัน ส่วนจะนั่งรถเมล์หรือ Taxi จากโครงการก็แล้วแต่สะดวกเลยครับ
เรื่องอาหารการกินนี่ไม่ต้องเป็นห่วงครับ มีให้เลือกมากมายหลายแบบเลยตลอดเส้นรามคำแหงจะมีร้านอาหารน้อยใหญ่ตามซอยต่างๆให้เลือกมากมาย บนถนนเส้นนี้มี The Mall รามคำแหง ตั้งอยู่ทั้ง 2 ฝั่งของถนนและถัดมามี Major Cineplex, Huamark Towncenter (Big C), Major Hollywood(คนละเครือกับ major Cineplex นะครับ) ถ้าเลยไปทางบางกะปิก็มี The Mall บางกะปิ, Makro, ตะวันนา, Tesco Lotus ถ้าจะหาของกินภายในซอยก็มีให้เลือกหลายที่ครับ ตามใต้หอพักต่างๆก็มีร้านอาหารตามสั่ง ช่วงที่คึกคักหน่อยจะเป็นช่วงที่เลยโรงเรียนบดินทรเดชาฯไปแล้ว ถ้าอยากเดินเที่ยวแบบสบายๆหน่อย หาร้านอาหารติดแอร์เย็นๆก็มี Community Mall ให้เลือกอยู่ 2 แห่งใกล้ๆคือ Celebrate บดินทรเดชา และ The Scene Town in Town ถ้ายังมีร้านไม่พอให้เลือกอีกก็แนะนำให้วิ่งบนเส้นศรีวรา Town in Town ดุจะมีร้านอาหารให้เลือกอีก หรือจะข้ามไปหาของกินแถวๆหลังม.รามคำแหงก็ได้ในซอย 24 มีให้เลือกอีกอื้อเลยครับ
มาดูทำเลในระยะใกล้ขึ้นอีกหน่อยนะครับ จากในแผนที่จะเห็นว่าก่อนถึงซอย รามคำแหง 43/1 จะเป็นซอยวัดเทพลีลา ซึ่งเป็นซอยใหญ่ที่ไปทะลุถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนรามอินทรา) ได้เช่นกัน ฝั่งตรงข้ามปากซอยจะเป็น หอนาฬิกา ของม.รามคำแหงที่เป็นท่ารถเมล์หลายสายและเป็นวินรถตู้ที่ไปได้หลายที่ คนที่อยู่บริเวณนี้ก็จะคุ้นเคยกับการเดินทางโดยรถตู้อยู่แล้ว
นอกจากจะใช้บริการรถสาธารณะต่างๆแล้วยังมีท่าเรือให้ขึ้นด้วย เพราะมีคลองแสนแสบตัดผ่านซอย ถ้าใครที่ทำงานบนเส้นเพรบุรี หรือจะไปแถวประตูน้ำก็สามารถเดินทางด้วยเรือได้เหมือนกัน ระยะเดินจากโครงการไปท่าเรืออยู่ที่ 650 เมตร และเส้นทางการเดินถือว่าสะดวกเพราะมีทางเดินริมคลองให้ใช้ แต่ช่วงกลางคืนค่อนข้างเปลี่ยวพอสมควรครับ (เส้นทางการเดินคือเส้นทางที่เป็นเส้นประสีเขียวครับ)
เส้นทางในวันนี้เริ่มต้นที่แยกดินแดง วิ่งเข้าเส้นพระราม 9 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนรามคำแหง การเดินทางในวันนี้ไปแบบง่ายๆเลยครับ
เริ่มต้นที่ถนนดินแดงมุ่งหน้าไปทางพระราม 9 ตรงแยกที่ตัดกับถนนรัดาให้ชิดขวาขึ้นสะพานต่างระดับได้เลยครับ
ผ่าน The Grand Rama 9 ตึกหน้าสุดเริ่มขึ้นมาบนดินแล้วครับ ส่วนตึกฝั่งตรงข้ามคือ Ideo Mobi พระราม 9 ครับ
ลงสะพานต่างระดับมาจะเจอกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(MRT) ให้ตรงต่อไปนะครับ
ผ่าน 3 แยกที่ไปทะลุออกรัชดาและลาดพร้าวได้ก็ตรงต่อไปแล้วชิดขวาขึ้นสะพานต่างระดับอีกที
วิ่งมาเรื่อยๆจะเจอกับทางลงรามคำแหงและทางแยกไปเส้นศรีนครินทร์ให้ชิดซ้ายเลยครับ
ลงสะพานมาก็เจอ dcondo กับ Foodland เลย ด้านขวามือของภาพจะเห็นว่ามีรั้วเหล็กแบบชั่วคราวกั้นอยู่ ตรงนี้จะใช้เพื่อเร่งระบายรถที่ต้องการวิ่งผ่านเส้นรามคำแหงไปยังแยกลำสาลีหรือไปทางมีนบุรี โดยรถที่จะขึ้นสะพานสามารถวิ่งออกไปใช้เลนขวาของฝั่งตรงข้ามเพิ่มขึ้นได้อีกเลน แล้วจะมีเข้าทางมายังเส้นทางปรกติช่วงปลายๆสะพานก่อนลงแยกลำสาลีครับ ตรงนี้ถ้าใครจะมาโครงการอย่าเผลอขึ้นสะพานไปนะครับรับรองเสียเวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมงแน่ๆกว่าจะกลับรถมาเส้นทางเดิมได้
บนถนนเส้นนี้จะมีห้าง The Mall ตั้งอยู่ทั้ง 2 ฝั่งเลย แต่ตัวห้างจะไม่ใหญ่มากนัก และถัดจากตรงนี้ไปนิดเดียวจะมีสะพานต่างระดับให้ขึ้นเพื่อไปลงแยกลำสาลีแต่เราก็ไม่ต้องขึ้นนะครับให้วิ่งอยู่ 2 เลนซ้ายไว้
เลยทางขึ้นมาได้หน่อยจะเจอ Major Cineplex
ก่อนถึงซอยรามคำแหง 24 จะมี Huamark TownCenter ที่มี Big C อยู่ด้านในด้วย
เจอ 3 แยกซอยรามคำแหง 24 ให้ตรงต่อไปครับ อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับซอยนี้หน่อยนะครับ ซอยนี้เป็นซอยที่คนแถวนี้จะเรียกว่า “หลังราม” เป็นแหล่งหอพักนักศึกษาและร้านอาหารมากมาย ถ้าใครอยากหาของกินอร่อยๆบรรยากาศแบบกันเองๆก็เลี้ยวเข้าไปหาดูได้ครับ ความสำคัญอีกอย่างของซอยนี้คือ เป็นทางลัดไปออกถนนพัฒนาการได้โดยการลอดอุโมงค์ และยังไปออกถนนศรีนครินทร์กับกรุงเทพกรีฑาได้ด้วย หรือจะไป The Nine ก็เข้าจากทางนี้ได้ สว่นขอบเขตของมหาวิทยาลัยรามคำแหงนั้นเริ่มต้นที่ด้านขวาจากซอยนี้เป็นต้นไปครับ
ผ่านโรงหนัง Major Hollywood ซึ่งเป็นโรงหนังอีกแห่งบนเส้นนี้(คนละเครือกับ Major Cineplex นะครับ) ใครที่เป็นคอหนังคงถูกใจเพราะมีให้เลือกตั้ง 2 ที่
3 แยกนี้เป็นทางทะลุไปประดิษฐ์มนูธรรมได้และเป็นซอยใหญ่ คนส่วนใหญ่จะเรียกซอยนี้ว่าซอยวัดเทพลีลา
สภาพแวดล้อมบริเวณนี้เป็นแหล่งรวมสถานศึกษามากมาย มีโรงเรียนตั้งอยู่เยอะมากครับเช่น โรงเรียนวัดเทพลีลา, โรงเรียนบดินทรเดชา, โรงเรียนอุดมศึกษา, โรงเรียนอิสลามสันติชน, วิยาลัยรัชต์ภาคย์เทคโนโลยีและการจัดการ, วิทยาลัยพาณิชยาการอินทราชัย, มหาวิทยาลัยรามคำแหง และมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
ซอยทางเข้าโครงการคือซอย รามคำแหง 43/1 ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกับหอนาฬิกาที่มีวินรถตู้และรถเมล์ให้บริการอยู่ในบริเวณนั้น
ผมจะยังไม่พาเข้าซอยของโครงการนะครับจะพาไปดูวินรถตู้ก่อน จุดเด่นอีกจุดของถนนรามคำแหงคือตลอดเส้นทางตั้งแต่ Major Cineplex จนมาถึงแถวๆซอยมหาดไทยจะมีร้านค้าแผงลอยและตึกแถวตั้งอยู่ตลอดเส้นทางและมีความหนาแน่นสูงมากๆครับ ช่วงเวลาที่เริ่มตั้งร้านขายกันประมาณ บ่านสองบ่ายสามก็จะเริ่มแล้วครับ ร้านที่ขายของกันมีหลากหลายรูปแบบมากมีครบทุกอย่างที่ตอบสนองต่อการอยู่อาศัย เชื่อว่าหลายๆคนที่เคยเรียนและอาศัยอยู่แถวนี้หลังจากจบแล้วก็ยังคงอยู่แถวนี้เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบครันในราคาที่ไม่แพงเลย อย่างสาวๆที่ทำงานแล้วคงชอบร้านทำผมที่มีบริการสระไดร์ในราคา 25 บาท เหมาะแก่วันที่ต้องไปทำงานแบบรีบๆและไม่อยากไดร์ผมเอง ^___^
หลังจากกลับรถแล้วผมก็เลี้ยวเข้ามาให้เห็นว่ามีวินรถตู้และรถเมล์คอยให้บริการอยู่เยอะมาก ไปได้หลายหลายเส้นทางเลยครับ
ย้อนกลับเขามาในเส้นทางกันต่อนะครับภายในซอยรามคำแหง 43/1 ช่วงต้นซอยจะมีทั้งสำนักงาน, สถาบันสอนพิเศษมากมาย, ร้านเครื่องเขียน, ร้านขายหนังสือเรียน, ร้านอนเตอร์เนท, ร้านอาหาร และหอพัก มีพี่วินคอยให้บริการอยู่ด้านซ้ายมือด้วย
ส่วนวินรถกระป๊อ(Subaru)จะอยู่เข้ามาด้านในหน่อยประมาณ 50 เมตร
ขึ้นสะพานข้ามคลองแสนแสบมาจะเห็นทางเดินทางด้านขวามือที่ไปท่าเรือ รามคำแหง 51/2
ลงสะพานมาได้หน่อยจะเจอกับทางเข้า ลุมพินี คอนโดทาวน์ อยู่ด้านขวามือ
ใกล้ๆกับโครงการจะมีที่ทำการไปรษณีย์ สาขาบดินทรเดชาตั้งอยู่ด้านขวามือ
ภายในซอยนี้จะเต็มไปด้วยหอพักและอพาร์ทเม้นมากมาย เรียงรายกันตลอดแนวจนถึงทางลัดที่ไปทะลุซอยลาดพร้าว 112 และโซนด้านหน้าและด้านข้างของโครงการจึงคาดหวังเรื่องวิวไม่ได้มากนัก ซึ่งเป็นเรื่องปรกติของอาคารประเภท Low Rise อยู่แล้วที่ตัววิวจะไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก อาคารด้านซ้ายมือคือสำนักงานที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ Jewelry สูง 5 ชั้น
ตัวโครงการอยู่ห่างจากปากซอยประมาณ 650 เมตรและฝั่งตรงข้ามจะเป็นอพาร์เม้นท์ให้เช่าที่่ด้านล่างเป็นร้าน Pizza และ Cafe
ขณะที่กำลังเข้าเยี่ยมชมโครงการเห็นตาฝรั่งคนนี้กำลังก่อเต้าเตรียมอบ Pizza อยู่เลยครับ ดูจากเตาอบแล้วน่าจะอร่อยนะ (^O^)/
ฝั่งตรงข้ามของโครงการจะมีส่วนนึงที่เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นและด้านหน้าจะทำเป็นร้านค้าให้เช่า
ก่อนเข้าโครงการขอพาไปดูเส้นทางลัดของซอยนี้กันก่อนนะครับ จะได้เห็นภาพกว้างๆว่าทำไมซอยนี้ถึงมีการจราจรที่คับคั่ง ซอยนี้เป็นซอยที่สามารถใช้ทะลุไปยังถนนลาดพร้าวและประดิษฐ์มนูธรรมได้ โดยแยกที่จะไปออกถนนประดิษฐ์มนูธรรมจะอยู่ตรงโรงเรียนบดินทรเดชาพอดี ผมจะพาไปเส้นลาดพร้าว ผ่านซอยลาดพร้าว 112 ก่อนแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรม และเข้าซอยอินทราภรณ์มาสุดที่ 3 แยกโรงเรียนบดินทรเดชา
ติดๆกับโครงการเลยจะเป็นอพาร์ทเม้นท์สูง 4 ชั้น และมีร้านค้าอยู่ด้านหน้านิดหน่อย
ตรงมาสุดทางบังคับเลี้ยวซ้าย จะเริ่มเห็นอาคารเรียนของโรงเรียนบดินทรเดชาแล้ว
ผ่านประตูด้านข้างของโรงเรียนซึ่งเป็นทางเข้า-ออกหลักของโรงเรียน การจราจรบริเวณนี้จะหนาแน่นหน่อยมีผู้ปกครองมารับส่งบุตรหลานกันอย่างเนืองแน่น
สุงเขตของโรงเรียนบดินทรเดชาจะเป็น 3 แยกเลี้ยวซ้ายไป Town in Town และประดิษฐ์มนูธรรม ถ้าตรงไปจะออกซอยลาดพร้าว 112
เมื่อวิ่งตรงผ่าน 3 แยกมาแล้วจะเจอทางเข้า-ออก อีกจุดของ ลุมพินี คอนโดทาวน์
ถัดเข้ามาด้านในอีกหน่อยนะจะมีแหล่งหอพักอยู่หลายอาคารทำให้ พื้นที่ส่วนนี้มีทั้ง 7Eleven และร้านอาหารตั้งอยู่หลายร้าน
ขับลัดเลาะตามทางมาเรื่อยๆจะเจอโรงเรียนอิสลามสันติชนแถวๆนี้ก็ยังคงมีหอพักขึ้นอยู่เยอะเหมือนกันครับ
วิ่งมาถึงปากซอย ลาดพร้าว 112 ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปถนนรัชดาภิเษก ส่วนเลี้ยวขวาจะไป The Mall บางกะปิ, ตะวันนา และ Makro
บนเส้นลาดพร้าวก่อนถึงแยกที่ตัดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรมจะมี Big C อีกสาขา
จากตรงนี้ถ้าใครจะไปรามอินทราให้เลี้ยวซ้ายไปก่อนนะครับแล้วค่อยกลับรถมาขึ้นสะพานข้ามแยกอีกที
ปากทางเข้าซอยอินทราภรณ์จะมีป้ายบอกว่าไป เดอะ ซีน หรือสังเกตจากร้านขายเฟอร์นิเจอร์ตรงหัวมุมก็ได้ครับ
ช่วงต้นซอยยขนาดของถนนจะมีแค่ 2 เลยวิ่งสวนกันแต่ลึกเข้าไปด้านในซอยจะเป็นถนน 4 เลนแล้วครับ
แยกที่จะไป Town in Town ตรงหัวมุมจะมี @Park อยู่และ The Scene จะอยู่ติดๆกันเลย ภายในซอยนี้ก็มีร้านอาหารให้เลือกเยอะครับ
ผ่านโรงเรียน อุดมศึกษา
ก่อนถึง 3 แยกโรงเรียนบดินทรเดชา จะมี Community mall อีกแห่งชื่อว่า Celebrate บดินทรเดชา
วิ่งมาสุดที่ 3 แยกแล้วครับหวังว่าผู้อ่านคงได้เห็นภาพคร่าวๆของพื้นที่บริเวณนี้ไปแล้วนะครับว่าเป็นอย่างไรบ้างเดี๋ยวเราไปชมส่วนของโครงการกันต่อนะครับ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- The Mall รามคำแหง 1.7 กม.
- The Mall บางกะปิ 4.3 กม.
- Major Hollywood รามคำแหง 1.2 กม.
- Huamark TownCenter (Big C) รามคำแหง 1.2 กม.
- Celebrate บดินทรเดชา 850 เมตร
- The Scene Town in Town 1.6 กม.
- โรงเรียนบดินทรเดชา 450 เมตร
- มหาวิทยาลัยรามคำแหง 600 เมตร
- สนามราชมังคลากีฬาสถาน 650 เมตร
- โรงพยาบาล รามคำแหง 2.7 กม.
เจาะลึกตัวโครงการ
จากช่วงของทำเลได้พาไปดูมาแล้วว่ามีหอพักเยอะแค่ไหนในซอยนี้ถ้ายังไม่เห็นภาพลองดูจาก แผนที่อันนี้ครับจะเห็นว่ารอบๆ โครงการเต็มไปด้วยอพาร์มเม้นท์สูง 5 – 7 ชั้นเต็มไปหมด ด้านที่ดูจะโล่งหน่อยจะเป็นด้านหลังของโครงการที่ติดกับที่จอดรถของอพาร์เม้นท์ข้างๆ และถัดไปเป็นหมู่บ้านธารารมณ์ ที่เป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น ห้องที่อยู่ฝั่งนี้จะขายดีกว่าด้านอื่นๆแต่ในอนาคตไม่มีใครการันตีได้นะครับว่าจะมีตึกอะไรมาขึ้นบังวิวรึเปล่า
หน้าตาตัวอาคารเป็นแบบนี้ครับ รูปลักษณ์ภายนอกจะเน้นใช้โทนสีขาวเป็นกรอบของอาคาร และใช้เส้นสีขาวกับส้มตัดในแนวดิ่งเพื่อให้ตัวอาคารดูไม่ทึบตันเกินไป ส่วนที่เป็นผนังห้องจะใช้โทนสีเทาเข้มช่วยให้รูปด้านของอาคารมีมิติเชิงลึกมากขึ้น ตัวอาคารสูง 8 ชั้น และมีสวนหย่อมเล็กๆอยู่ที่ชั้น 7 มุมอาคารด้านที่ติดกับถนน ส่วนชั้นล่างสุดด้านหน้าจะเป็นห้องสำหรับทำร้านค้า จากในรูปจะเห็นว่ามีหม้อแปลงไฟฟ้าอยู่ด้านหน้าโครงการเลย ถ้าย้ายให้หันไปอีกด้านได้จะช่วยให้ภาพลักษณ์ด้านหน้าของโครงการดูดีขึ้นมากเลย น่าเสียดายจริงๆครับ
Facility หลักๆของโครงการจะมี สระว่ายน้ำ, Fitness, ห้องอเนกประสงค์ และสวนหย่อม แต่จะกระจายอยู่ตามจุดต่างๆของอาคารครับ สระว่ายน้ำจะอยู่ที่ชั้น 1 ด้านที่ติดกับสำนักงาน Jewelry และมีร้านค้าอยู่ด้านหน้าอาคาร 3 ยูนิต ส่วนยูนิตพักอาศัยจะมีตั้งแต่ชั้น 1 เลยและมีแค่ 5 ยูนิต เป็นยูนิตขนาด 29 และ 40.5 ตร.ม. การจอดรถมีทั้งที่เป็นแบบจอดด้านใต้อาคารและจอดกลางแจ้ง
ตัวอาคารมีรูปร่างลักษณะคล้ายตัว L และห้อง Fitness จะอยู่ที่ชั้นนี้และติดกับส่วน Double Space ของ Lobby โถงทางเดินกว้าง 1.5 เมตรและส่วนหน้าห้อง Fitness จะเป็นกระจกใสมองเห็นทางเข้าโครงการ ขนาดของห้องพักอาศัยส่วนใหญ่จะเป็นขนาด 26.25 ทั้งหมดยกเว้นส่วนมุม และปลายของอาคารที่จะเป็นห้องขนาด 30, 32.5 และ 36.5 ตร.ม ซึ่งจะมีแค่ชั้นละ 1 ห้องเท่านั้น วิวของห้องจะแบ่งเป็นวิวภายในกับวิวภายนอก วิวภายในทั้งหมดจะเป็นวิวสวนหย่อมกับสระว่ายน้ำ ส่วนวิวด้านนอกจะเห็นเป็นหอพักรอบข้างและหมู่บ้านธารารมณ์
ผังชั้น 3-5 จะคล้ายๆกับผังชั้น 2 เลยแตกต่างกันตรงที่ส่วน Double Space บริเวณโถงทางเข้า Lobby จะกลายเป็นห้องพักไป ลิฟท์ของอาคารนี้มีมาให้ 2 ตัวและจะอยู่ช่วงตรงกลางของอาคารค่อนมาทางด้านล่าง ดังนั้นห้องที่อยู่ปลายสุดของอาคารด้านบน(จากในผัง) จะมีระยะห่างจากลิฟท์ประมาณ 55 ม.
ผังชั้น 6 จำนวนห้องจะลดลงไป 2 ห้องทางด้านบนของผัง
ชั้น 7 จะมีห้องอเนกประสงค์และสวนหย่อมขนาดเล็กอยู่ที่มุมอาคารด้านติดกับถนนหน้าโครงการ
ผังชั้น 8 จะเหมือนกับชั้น 7 จะแตกต่างกันตรงที่ไม่มีสวนหย่อม เท่านั้นเอง สรุปแล้วขนาดของห้องพักอาศัยมีทั้งหมด 6 ขนาด ขนาด 29 และ 40.5 อยู่ที่ชั้นล่างสุดเท่านั้น และขนาด 30, 32.5, และ 36.5 ตร.ม.จะมีแค่ชั้นละ 1 ห้องเท่านั้น ห้องส่วนใหญ่จะเป็นห้องขนาด 26.5 ตร.ม.
ประตูทางเข้าโครงการมีขนาดไม่ใหญ่มากแถมยังมีเสาหม้อแปลงมาบังอีกจุดนี้ถือว่าทำได้ไม่ค่อยดีนัก
ทางเข้าใช้ระบบ Key Card Access และ CCTV ที่ทางเข้าส่วนป้อมยามไม่ได้อยู่ตรงกับไม้กระดกซะทีเดียวแต่จะอยู่ที่หน้าโครงการเลย ตำแหน่งของเสาสัญญาณที่ลูกบ้านต้องแตะบัตรนั้นดันอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้ทางเข้าเกินไป ทำให้ช่วงที่หักเลี้ยวเข้ามาแล้วจะตื่นเต้นนิดหน่อยกับระยะห่างของตัวรถกับเสาสัญญาณครับ และไม้กระดกของที่นี่ก็ย้าวววววยาวครับ เพราะเค้าใช้ไม้กระดกอันเดียวทั้งเข้าและออกจากโครงการ
รั้วรอบโครงการสูงประมาณ 2.5 เมตรครับ พื้นที่จอดรถบางส่วนจะเป็นแบบกลางแจ้งนะครับ และเป็นการจอดแบบไม่ระบุตำแหน่งใครมาก่อนก็ได้จอดในที่ร่มใครมาทีหลังก็จอดกลางแจ้งไปครับ
ถ่ายมาให้ดูระยะความกว้างของการจิดซ้อนคันครับ ขณะที่เข้าเยี่ยมชมตัวโครงการยังก่อสร้างไม่เรียบร้อยนะครับอยู่ในขั้นตอนของการเก็บงาน
ย้อนกลับมาที่โถงทางเข้า Lobby จะมีหลังคาคลุมมาให้เป็นจุด Drop Off แต่ดูบ้านๆมากเลยครับ น่าจะใส่ลูกเล่นให้ตัวหลังคาหน่อยดูไม่ค่อยเข้ากับตัวอาคารเลย
ตัว Lobby จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกจะเป็น Reception ที่ตอนนี้ทำเป็นสำนักงานขายอยู่ บรรยากาศภายในตกแต่งแบบเรียบๆเน้นโทนสีขาวตัดกับดำให้เข้า Theme เดียวกับภายนอกของอาคาร ทางเข้าสระว่ายน้ำจะเข้าทางประตูที่เห็นในรูปนั่นแหละครับ
หันมาอีกด้านจะเป็นที่นั่งพักผ่อนและมีตัวโมเดลของโครงการตั้งอยู่
ออกมาดูสระว่ายน้ำกันบ้าง ตัวสระว่ายน้ำจะเป็น Court ตรงกลางของโครงการแต่วิวจะแปลกๆตรงที่ ดันติดกับอาคารสนง.ด้านข้างนี่แหละครับ บรรยากาศเลยแปลกหน่อย แต่เท่าที่เข้าชมโครงการในช่วงๆสายๆถึงบ่ายก็ยังไม่เห็นคนจากตึกข้างๆนะครับ ส่วนของอาคารข้างๆที่ติดกับโครงการจะเป็นส่วนของทางเดินไม่ใช่หน้าต่างจากห้องพักครับ
อีกมุมของสระว่ายน้ำ สวนของที่นี่จะมีการเล่นระดับให้มีความน่าสนใจมากขึ้น ส่วนต้นไม้ก็คงต้องรออีกสัก 2-3 ปีกว่าจะให้ร่มเงาแบบจริงๆจังได้ ถ้าต้นไม้โตเต็มที่แล้วพื้นที่ส่วนนี้จะสวยขึ้นครับ เพราะ Form ของต้นหูกระจง เป็น Form ที่สวยในตัวมันเองอยู่แล้ว
ส่วนปลายของสระว่ายน้ำจะเป็นแบบน้ำล้นครับ ขนาด 6 x 12 เมตรลึก 1.2 เมตร
สระว่ายน้ำที่นี่มีแบ่งโซนเด็กเอาไว้ด้วยแต่ทำเป็น ที่นอนอาบแดด แบบเอาเท้าจุ่มน้ำเล่นได้ ถ้าใครไม่อยากโดนน้ำให้เย็นๆแต่ไม่อยากเปียกทั้งตัวก็น่าจะเหมาะกับการตกแต่งแบบนี้ครับ
ถ่านรูปมาให้ดูใกล้ๆเลยครับ ช่วงเย็นๆไม่มีแดดก็นั่งแช่น้ำได้สบายๆครับ
ส่วนที่ล้างตัวก็ทำแบบมิดชิดเลย ใช้กำแพงมาเป็นฉากกั้นซะเลย
ส่วนที่ติดกับโซนที่จอดรถก็มีการปลูกไม้พุ่มเป็นตัวกั้นไว้ให้ แต่ตอนนี้เพิ่งลงใหม่ๆเลยยังดูไม่ค่อยเต็มนักคงต้องรออีกสักพักครับถึงจะบดบังสายตาและควันจากที่จอดรถได้
และในส่วนของห้องพักก็มีการปลูไม้พุ่มมาให้เช่นกันครับ
หันกลับไปดูอีกมุมของสระว่ายน้ำ
ถ่ายรูปอาคารข้างๆมาให้ดูแบบเต็มๆครับ
ปลายทางของสระว่ายน้ำจะมีสวนหย่อมให้นั่งเล่นอีกจุดครับ
มุมสวนกับสระว่ายน้ำอีกสักมุม
กลับเข้ามาในส่วนของ Lobby นะครับทางเข้าโซนห้องพักจะมีประตูกั้นอีกชั้นนึง
เดินเข้ามาด้านในบริเวณโถงลิฟท์จะมีตู้จดหมายตั้งอยู่
โถงลิฟท์มีขนาดใหญ่กำลังดีครับแต่การตกแต่งค่อนข้างเรียบไปหน่อย
หน้าตาแผงปุ่มกดของลิฟท์โดยสารครับ ตัวลิฟท์รับน้ำหนักได้ 750 kg. หรือประมาณ 11 คน อัตราเฉลี่ยของลิฟท์อยู่ที่ 114.5: 1
ขึ้นมาดูห้อง Fitness กันบ้าง ต้องบอกก่อนว่าภายในห้องนี้ยกตกแต่งไม่เรียบร้อยนะครับอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง แต่ผมถ่ายรูปมาให้เห็นภาพคร่าวๆก่อน
วิวของห้องนี้จะเป็นสระว่ายน้ำและอาคารสนง.ข้างๆครับ ;p
ต่อมาในส่วนของโถงทางเดินวัสดุจะเป็นกระเบื้องเซรามิคสีขาว
ต่อมาเป็นห้องอเนกประสงค์ที่ชั้น 7 ครับห้องนี้ก็ยังตกแต่งไม่เสร็จเช่นเดียวกัน
ทางออกไปยังส่วนที่เป็น Out Door ส่วนนี้จะมีที่นั่งที่ออกแบบมาให้เป็นกระถางต้นไม้ไปด้วยในตัว ตรงนี้ถ้าตกแต่งดีๆจะน่าใช้งานมากครับเพราะมีลมพัดตลอดเลย ตอนที่ผมออกไปยืนอยู่ด้านนอก ถ้าลองปูหญ้าเทียมทั้งระเบียงแล้วหละก็บรรยากาศจะเปลี่ยนไปเลยครับ พอต้นไม้โต้ซักหน่อยก็ร่มรื่นสบายๆ
ราวกันตกของส่วนนี้จะเป็นกระจกใสทั้งหมดช่วยให้พื้นที่นี้ดูกว้างขึ้นมาก
วิวที่เห็นก็จะเป็นวิวแบบนี้ครับ รูปนี้เป็นวิวด้านหน้าที่ติดกับถนนหน้าโครงการ ส่วนตึกที่เห็นอยู่ไกลๆนั่นก็คือ ลุมพินี คอนโดทาวน์ นั่นเอง
ส่วนรูปนี้หันไปทางด้านในของซอยรามคำแหง 43/1
มุมมองหันกลับมายังห้องอเนกประสงค์ครับ
ต่อไปผมจะพาไปดูวิวรอบๆด้านในมุมต่างๆของอาคารนะครับ รูปนี้เป็นวิวภายใน Court ครับ ห้องไหนที่อยู่ด้านในก็จะได้วิวแบบนี้ทั้งหมด
ส่วนวิวอันนี้เป็นด้านที่ติดกับอกพาร์ทเม้นท์สูง 4 ชั้น (รูปนี้เป็นรูปที่ถ่ายแบบ Panorama ครับ)
รูปนี้เป็นวิวของด้านใน Court ที่หันไปทางอาคารสำนักงาน Jewelry
ส่วนด้านนี้เป็นวิวที่หันไปทางหมู่บ้านธารารมณ์ครับ วิวนี้จะดูดีสุดแต่อย่าลืมนะครับว่ามีที่ดินว่างเปล่าคั่นอยู่ ซึ่งยังไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีอพาร์เม้นท์มาขึ้นอีกรึเปล่า แต่เท่าที่ลองเดินรอบๆอาคารพบว่าทำเลนี้มีข้อดีเรื่องลมเพราะมีลมพัดผ่านเกือบตลอดเวลาเลยครับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 6 x 12 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาด
- สวนหย่อมรอบสระว่ายน้ำ
- ห้องอเนกประสงค์ และสวนหย่อมที่ชั้น 7
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 114.5: 1
- Service Lift : ไม่มี
- ที่จอดรถ 74 คัน 32.3% รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น xx%
- ระบบ CCTV / Access Card
Product Walkthrough
แบบห้องของที่นี่ทั้งหมดมี 6 แบบแต่แบบที่มีจำนวนห้องเยอะที่สุดคือแบบ 26.5 ตร.ม.ครับและเป็นแบบที่เหมือนกับห้องตัวอย่างด้วย
เริ่มที่แบบ 26.5 ตร.ม.ก่อนนะครับ ห้องนี้จัดวางผังมาได้ไม่ค่อยดีนัก เพราะแนวการเดินภายในห้องช่วงห้องนั่งเล่นและห้องครัวจะขัดๆกันอยู่ หากสังเกตดูจะเห็นว่าโต๊ะทาานอาหารที่จัดมาให้จะนั่งได้แค่คนเดียว ถ้าจะนั่งกันแบบ 2 ที่นั่งก็ต้องเลื่อนโต๊ะออกมาถึงจะนั่งแบบหันหน้าเข้าหากันได้ แต่…ก็ยังมีปัญหาอยู่อีกนั่นแหละครับ เพราะถ้าเลื่อนโต๊ะออกมาก็จะบังทางเข้าห้องครัวอีก ไม่สามารถเดินเข้าจากตรงกลางห้องได้ ที่นี้ถ้าจะเข้าทางด้านที่ติดกับกำแพงก็ทำได้ยากอีกเพราะจะไปติดกับพื้นที่วางตู้เย็น วิธีแก้แบบที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเยอะคือให้ย้ายตำแหน่งตู้เย็นมาไว้ฝั่งเดียวกับเคาน์เตอร์ครัวแล้วย้ายโต๊ะทานอาหารไปไว้ในห้องครัวจะนั่งได้ 2 คนแบบหันหน้าเข้ากำแพงครับ การใช้งานอาจจะไม่สะดวกนักแต่ก็ดีกว่านั่งได้แค่คนเดียวแน่ๆ หรือถ้าใครอยากเอาฉากกั้นออกก็แล้วแต่สะดวกเลยครับ แต่กลิ่นในการทำอาหารอาจจะรบกวนห้องนั่งเล่นได้นะครับ ส่วนห้องนอนถือว่าจัดมาให้ใหญ่ดีไม่มีปัญหาอะไร แต่ห้องน้ำดันแถมมุมแปลกๆตรงอ่างล้างหน้ามาให้ด้วย
ผังห้องขนาด 29 ตร.ม.เหมือนกับแบบ 26.5 ตร.ม.เป๊ะเลยครับแต่จะต่างกันแค่มีพื้นที่ระเบียงเพิ่มขึ้นเท่านั้นเองครับ และห้องขนาดนี้จะมีแค่ที่ชั้น 1 เท่านั้น
ผังห้องขนาด 30 ตร.ม.รูปแบบผังยังคงเหมือนกับแบบ 26.5 ตร.ม.แต่ตัวห้องจะมีขนาดที่กว้างขึ้น
ห้องขนาด 32.5ตร.ม.จะเป็นห้องที่อยู่ตรงหัวมุมของอาคารเท่านั้น ผังห้องนี้จะดูเป็นสัดส่วนมากกว่าแต่ก็ยังมีจุดที่ลำบากหน่อยตรงตำแหน่งวางทีวีไม่ได้อยู่ตรงกลางของโซฟา
ผังห้องขนาด 36.5 ตร.ม.ดูจะเป็นห้องที่ลงตัวที่สุดเพราะมีพื้นที่พอให้จัดวางฟังก์ชั่นต่างได้อย่างลงตัวกว่า
ผังห้องสุดท้ายจะเป็นห้องขนาด 40.5 ตร.ม.ซึ่งผังห้องนี้จะเหมือนกับแบบ 36.5 เลยแค่มีพื้นที่ระเบียงมากขึ้น
เรามาดูห้องตัวอย่างกันดีกว่าครับว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง โซนแรกที่เจอคือห้องนั่งเล่นกับโซนทานอาหาร
ส่วนทางเข้าห้องนอนจะติดอยู่กับห้องทานอาหารเลย
ชั้นวางทีวีไม่ได้มีมาให้นะครับแต่ถ้าใครจะทำชั้นวางทีวีก็ทำแบบนี้ก็ได้ครับ ทำเป็น Built-in จะลงตัวกว่าเพราะโครงการเว้นช่องไว้ให้แล้ว และมีระยะดูทีวีเหลือเฟือครับ
หันกลับมาดูห้องนั่งเล่นอีกทีจะเห็นว่า โซฟาที่วางจะเป็นแค่แบบ 2 ที่นั่งครับ
ส่วนโต๊ะวางทีวีก็เป็นแบบที่นั่งเดียวครับ
วัสดุ พื้นของห้องนั่งเล่นจะเป็นแกรนิโต้ขนาด 60 x 60 ซม.ส่วนห้องครัวจะเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30×30 ซม. และห้องนอนจะปูด้วยพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม.
พื้นที่ครัวส่วนนี้จะมีชุด Built-in มาให้หน้าตาแบบนี้เลยครับมีให้ทั้งชุดบนและชุดล่าง แต่ไม่มีเตามาให้นะครับ
ช่องเก็บของก็เป็นแบบนี้เลยครับ
ตัวหน้าบานตู้สีดำจะมีการปาดมุมมาให้ด้วยทำให้จัดถนัดขึ้นเยอะครับแต่ก็มีจุดแปลกๆอีกตรงที่บ้านสีขาวดันไม่ปาดมุมมาให้ด้วย
อ่างล้างจากใช้ของ Hafele มีขนาดใหญ่กำลังดี แต่ไม่มีที่พักจานมาให้
พื้นที่ส่วนนี้แหละครับที่ต้องวางตู้เย็น ถ้าวางไว้ด้านซ้ายก็ช่วยให้การเดินเข้าห้องครัวทำได้ง่ายขึ้น แต่การออกไประเบียงก็จะไม่สะดวกแทนเพราะจะไปติดคอมเพรสเซอร์แอร์แทน
มาดูที่ระเบียงกันต่อนะครับ ระเบียงของห้องนี้เป็นแบบ 29 ตร.ม.ครับเลยดูกว้างหน่อย กรอบประตูเป็นอลูมิเนียมสีดำ
กลอนประตูเป็นแบบมาตรฐานทั่วไป
รั้วระเบียงเป็นรั้วเหล็กทำสีดำ ถ้าเป็นห้องขนาด 26.5 ตร.ม.พื้นที่ระเบียงจะสุดแค่แผงเหล็กสีดำด้านซ้ายมือเท่านั้น
พื้นที่ด้านซ้ายจะเป็นพื้นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ และเครื่องซักผ้าครับ
มุมมองหันกลับเข้าไปด้านในบ้าง จะเห็นว่าการทำประตูเลื่อนเป็นแบบกระจกเต็มบานช่วยเพิ่มแสงธรรมชาให้กับห้องนั่งเล่นได้
ประตูกั้นส่วนระเบียงจะมีธรณีสูงประมาณ 10 มาให้ช่วยให้เวลาฝนตกน้ำจะไม่ซึมเข้าห้องแต่การเดินผ่านอาจจะไม่ค่อยสะดวกนัก
ต่อมาๆดูห้องนอนกันบ้าง โครงการนี้ให้ความสำคัญกับพื้นที่ห้องนอนเป็นหลักเลยครับเห็นได้จากการจัดวางพื้นที่ ขนาดของห้องนี้จึงใหญ่กว่าห้องอื่นๆ สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้เลยและยังมีเหลือข้างเตียงอีกด้วย(ปลายเตียงจะพื้นที่เหลือน้อยกว่านะครับ)
ส่วนหน้าต่างของห้องนี้จะมี 2 ชุด ซึ่งชุดทางซ้ายจะเป็นบาน Fix ไม่สามารถเปิดได้ ส่วนบานขวาจะเปิดได้แต่เป็นบานกระทุ้งนะครับ
ถ้าจะดูทีวีในห้องนี้จะมีพื้นที่ไม่เพียงพอต่อการตั้งชั้นวางทีวีแนะนำให้ติดทีวีแบบแขวนจะดีกว่าครับ
พื้นที่ด้านข้างเตียงที่ติดกับหน้าต่างมีที่เหลือเฟือเลยครับ
หันกลับมาดูที่หน้าห้องน้ำบ้างนะครับ จะเห็นว่าขนาดของตู้เสื้อผ้ามีมาให้ไม่มากนัก ถ้าใครอยากได้พื้นที่เก็บเสื้อผ้าเพิ่ม อาจต้องยอมเสียพื้นที่ข้างเตียงด้านนึงโดยเลื่อนให้เตียงไปติดกำแพงและทำตู้เสื้อผ้าเพิ่ม
ทางเข้าห้องน้ำจะมีธรณีกระเบื้องกั้นอยู่สูงประมาณ 10 ซม. พื้นกระเบื้องภายในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีขาว
ภายในห้องน้ำจะมีอ่างล้างหน้าอยู่ด้านซ้ายและด้านในจะเป็นโซนอาบน้ำแต่ไม่มีฉากกั้นมาให้นะครับ จุดที่แปลกอีกจุดนึงของห้องน้ำก็คือ ข้างๆอ่างล้างหน้าจะมีช่องว่างอยู่ซึ่งถ้าทำเป็นที่เก็บของจะเก็บได้เยอะมากเลยแต่จะใช้งานไม่ค่อยสะดวกเพราะติดกับตัวอ่างล้างหน้า
กำแพงที่ติดอ่างล้างหน้าจะเป็นแบบ Low Wall ทำให้วางข้างของเพิ่มได้อีกหน่อยครับ
ในส่วนของโซน Shower จะมีราวแขวนผ้าติดมาให้ด้วยเพราะฉะนั้นเวลาอาบน้ำระวังจะเปียกผ้าเช็ดตัวนะครับ
ชุดสุขภัณฑ์ของที่นี่ใช้ของ Cotto ทั้งหมดครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 7 February 2014
- 1 Bedroom ชั้น 2 ห้อง 0210 เนื้อที่ 26.76 ตร.ม. ราคา 1.565 ล้านบาท หรือ 58,500 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom ชั้น 2 ห้อง 0206 เนื้อที่ 26.85 ตร.ม. ราคา 1.584 ล้านบาท หรือ 59,000 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom ชั้น 6 ห้อง 0629 เนื้อที่ 27.07 ตร.ม. ราคา 1.651 ล้านบาท หรือ 61,000 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom ชั้น 5 ห้อง 0529 เนื้อที่ 26.76 ตร.ม. ราคา 1.623 ล้านบาท หรือ 60,000 บาท/ตร.ม.
- Fully Fitted
- เพดานสูง 2.45 เมตร
- Kitchen & Sink
- จอง 10,000 บาท
- ทำสัญญา 30,000 บาท
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
- ค่าส่วนกลาง 35 บาท/ตร.ม./เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
เจาะลึกรวบยอด
โครงการ LiB รามคำแหง 43/1 ตั้งอยู่ในย่านรามคำแหงใจกลางแหล่งชุมชนเลย ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอย 43/1 ห่างจากปากซอย 650 เมตร สภาพแวดล้อมภายในซอยนี้จะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยค่อนข้างหนาแน่นมาก ส่วนใหญ่จะเป็นอพาร์ทเม้นท์และคอนโด มีบ้านเดี่ยวทาวน์เฮาส์บ้างประปราย แต่ถ้าเข้าไปลึกหน่อยที่เป็นโซน Town in Town จะมีอาคารแนว Home Office อยู่เยอะมาก ซอยนี้จะมีโรงเรียน บดินทรเดชา (สิงห์ สิงเสนี) ตั้งอยู่ ทำให้ซอยนีมีความคึกคักสูงการจราจรคับคั่งเกือบตลอดทั้งวัน แถมมีคอนโด ลุมพินี คอนโดทาวน์ ตั้งอยู่อีกยิ่งทำให้แถวนี้กลายเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ขึ้นมา ช่วงเวลาเข้าเรียนหรือเลิกเรียนรถก็จะติดหนักๆอยู่ช่วงนึ่งครับ
สิ่งที่ตามมาก็คือแหล่ง Commercial ต่างๆที่พัฒนาตามความหนาแน่นของพื้นที่ และมีรูปแบบที่หลากหลายตอบสนองต่อการอยู่อาศัยของชุมชนในย่านนี้ มีตั้งแต่ร้านอาหารริมทาง จานด่วน ไปจนถึง Community Mall ที่มีร้านอินเตอร์แบรนด์ให้เลือกมากมาย แถมยังมีร้านค้าต่างๆตามใต้อพาร์ทเม้นท์อีก เรียกว่าหาของกินได้ง่ายมากครับ ถ้าจะเดินห้างก็มีให้เลือก 2 จุด จุดแรกคือบริเวณ The Mall รามคำแหง ที่มี Huamark Towncenter (BiG C), Majoe Cineplex, และ Major Hollywood อีกจุดคือบริเวณ The Mall บางกะปิ, ตะวันนา และ Tesco Lotus
การเดินทางโดยใช้รถถือว่าสะดวกมากเพราะมีเส้นทางเข้าออกหลายเส้นทางคือ รามคำแหง, ถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนรามอินทรา) เส้นทางหลักที่ใช้คงเป็นรามคำแหงแต่จะมีปัญหาเรื่องรถติดหนักในบางช่วงและเป็นเส้นที่ไม่มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านโดยตรง ทำให้ปัญหานี้คงไม่หายไปง่ายๆแน่ เส้นทางลัดอื่นๆที่ให้ใช้งานก็วิ่งเลยโครงการลึกเข้าไปในซอยจะมีทางแยกซ้ายมือ(สุดโรงเรียนบดินทรเดชา) ไปถนน ศรีวรา และถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือถ้าวิ่งเข้าไปในซอยเรื่อยๆก็จะไปออกถนน ลาดพร้าว 112 ได้
สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถสำหรับโครงการนี้ต้องบอกว่าไม่ได้อยู่ใกล้รถไฟฟ้านะครับ แต่ยังถือว่าเดินทางสะดวกอยู่เพราะเป็นซอยใหญ่และมีรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการบ่อยอย่าง รถกระป๊อ, พี่วิน และ Taxi ท่ารถที่ให้ขึ้นจะอยู่บริเวณปากซอยรามคำแหง 43/1 หรือถ้าจะเดินทางโดยเรือก็ใช้ทางเดินริมคลองแสนแสบไปยังท่าเรือซอยรามคำแหง 51/2 ได้ ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มมาขึ้นตรงหน้าปากซอยเลย(ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนะครับ) ซึ่งตรงนี้จะถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญอีกจุดของพื้นที่แถวนี้เลย แถมเดินจากโครงการไปยังสถานีแค่ 650 เท่านั้นเอง
วัสดุของโครงการนี้จัดมาแบบตามมาตรฐานราคาเลยครับ ไม่ได้โดดเด่นแต่ก็ไม่ได้แย่อยู่ในระดับกลางๆค่อนไปทางดีนิดนึง พื้นห้องนั่งเล่นเป็นหินแกรนิตโต้ พื้นห้องครัวและระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 12″ x 12″ ลานเดียวกัน ห้องนอนเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. สุขภัณฑ์ใช้ของ COTTO อุปกรณ์ใช้ของ KENZA หรือเทียบเท่า
โครงการนี้ออกแบบห้องมาได้ไม่ค่อยดีนัก ผังห้องขนาด 26.25 ของจริงทำออกมาแล้วดูไม่ค่อยกว้างเท่าไหร่ พื้นที่วางโต๊ะอาหารจะหาเหลี่ยมมุมวางได้ค่อนข้างยากหน่อยถ้าจะนั่งกัน 2 คน มีฉากกั้นระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องครัวมาให้ ซึ่งการทำแบบนี้มีทั้งข้อดีและเสียในตัว ข้อดีคือห้องครัวดูเป็นสัดส่วนและกลิ่นอาหารไม่เข้ามารบกวนภายในห้องนั่งเล่น ส่วนข้อเสียคือเมื่อวางตู้เย็นลงไปแล้วพื้นที่การเดินจะแคบขึ้นและทำได้ยากขึ้นเพราะแนวการเดินจะขัดกับการวางโต๊ะทานอาหาร ส่วนอีกมุมที่แปลกคือบริเวณอ่างล้างมือในห้องน้ำ จะมีซอกขนาดไม่ใหญ่และไม่เล็กแอบอยู่ ซึ่งถ้าจะทำชั้นวางของก็ติดตัวอ่างล้างหน้าใช้งานได้ไม่สะดวก แต่ถ้าไม่ทำอะไรกับมันเลยก็เสียดายพื้นที่ส่วนนี้ไปพอสมควร เรื่องแบบห้องของที่นี่ถ้าใครพอจัดการได้ก็ถือว่า Trade off กับทำเลไปนะครับ
Facility ของที่นี่มีมาให้ครบตามสมัยนิยมคือ มีสระว่ายน้ำ, Fitness, และสวนหย่อมที่ชั่นล่างและชั้น 7 แต่มีขนาดไม่ใหญ่มากเพราะมีข้อจำกัดของพื้นที่ ความหนาแน่นไม่สูงมากนักสำหรับเรทราคานี้ แต่ที่น่ากังวลเหมือนโครงการแนว Low Rise ของที่อื่นๆคือ พื้นที่จอดรถอาจไม่เพียงพอต่อการใช้งาน
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 59,600 บาทต่อตารางเมตร, 7 February 2014
- ทำเล 7.75/10 – ทำเลดี อยู่ในย่านชุมชนและใกล้โรงเรียนบดินทรเดชา มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีทางลัดไปออกได้หลายเส้นทาง ในอนาคตมีรถไฟฟ้าคะแนนตรงนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 8.5 เลยเพราะราคา 60,000 ห่างจากรถไฟฟ้าประมาณ 650 เมตรถือว่าคุ้ม…แต่ก็ต้องรออีกหลายปีเลยครับ
- เดินทางด้วยรถ 8.0/10 – เดินทางสะดวกเข้าออกได้หลายทาง แต่ถ้าเอาเรื่องรถติดมาคำนวณด้วยคะแนนจะลดลงเหลือ 7.25 เพราะช่วงเวลาเร่งด่วนนี่ติดหนักเหลือเกิน
- ไม่ใช้รถ 7.5/10 – ถึงแม้จะอยู่ห่างจากปากซอยประมาณ 650 เมตรแต่การเข้าออกถือว่าไม่ลำบากมีรถกระป๊อ, Taxi และพี่วินวิ่งผ่านบ่อย ถ้าจะไป ARLรามคำแหง ต้องขึ้นรถเมล์ที่หน้าราม ถ้าจะโดยสารด้วยเรือมีทางเดินริมคลองแสนแสบไปยังท่าเรือได้ อนาคตมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้มขึ้นหน้าปากซอยเลย
- วัสดุ 7.0/10 – ให้มาตามมาตรฐานสมราคาแต่การเก็บงานยังไม่ค่อยดี ลูกบ้านควรตรวจให้ดีก่อนรับมอบห้อง
- แบบ 6.75/10 – การจัดผังห้องยังทำได้ไม่ค่อยดีทำให้ห้องดูไม่กว้าง และมีมุมแปลกๆในห้องน้ำ แต่การวางผังอาคารกับส่วนกลางถือว่าพอใช้ได้
- สาธารณูปโภค 7.25/10 – มีสระว่ายน้ำ, Fitness, สวนหย่อมและห้องอเนกประสงค์เล็กๆที่ชั้น 7 ความหนาแน่นก็จัดอยู่ในมาตรฐานระดับราคานี้อยู่แล้ว
- ECONOMY CLASS
- 7.51 / 10.00
BOTTOM LINE
LiB รามคำแหง 43/1 เหมาะกับคนที่ทำงานหรือเรียนอยู่ในย่านรามคำแหง หรือ Town in Town สะดวกเดินทางด้วยรถยนต์ และไม่เน้นรถไฟฟ้า เดินทางด้วยรถสาธารณะและเรือเป็นหลัก มีงบประมาณ 1.6 – 2 ล้านบาท
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ
(ノ´ヮ´)ノ*:・゚✧