รีวิวฉบับที่ 1138 … สวัสดีค่ะวันนี้เราจะพาไปชมโครงการ Himma Prestige Living บ้านเดี่ยวราคา 18 – 120 ล้านในจังหวัดเชียงใหม่ บนถนนโชตนา ใกล้สวนลานนา ร.9และสนามกอล์ฟ ที่ทางเราเคยได้รีวิวบ้านขนาดใหญ่แบบ Himalaya กันมาแล้ว คราวนี้จะมารีวิวบ้านอีก 2 Type และ Update พื้นที่ส่วนกลางตามมาชมกันค่ะ
Fact @ 21 July 2016
- Himma Prestige Living (ฮิมมา เพรสทีจ ลีฟวิ่ง)
- บริษัท ฮิมมา เพรสทิจ ลิฟวิ่ง จำกัด
- LUXURY – SUPERLUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : ถนนโชตนา อำเภอ เมือง จังหวัด เชียงใหม่
- เนื้อที่โครงการ 40 ไร่ จำนวน 40 ยูนิต
- หิมาลายาที่ดิน 387 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 737 ตร.ม. 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ (2 ห้องแม่บ้าน) ราคาเริ่มต้น 54 ล้านบาท
- เหมราชอัสดร ที่ดิน 126 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 641 ตร.ม. 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ(2 ห้องแม่บ้าน)ราคาเริ่มต้น 29 ล้านบาท
- วารีกุญชรที่ดิน 239 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 655 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ (1ห้องแม่บ้าน) ราคาเริ่มต้น 38 ล้านบาท
- มารีศ ที่ดิน 148 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 459 ตร.ม. 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ (1ห้องแม่บ้าน) ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท
- กินรี ที่ดิน 103 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 353 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท
- เพดานสูง 2.80 , 3.00 เมตร , ส่วน Double Space สูง 5 เมตร
- ราคาเริ่มต้น 18.89 ล้านบาท
- ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 88,000 บาท
- โครงการเริ่มก่อสร้าง : 2011
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : 2013
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- สำนักงานขาย : 053 – 222221 , 098 – 5699549
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ
NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะคะ
พิกัด : 18.821555, 98.984518
แผนที่จากทางโครงการค่ะ โครงการนี้มีจะมีทั้งส่วนที่เป็นบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม ในรีวิวฉบับนี้เราจะพูดถึงบ้านเป็นหลักนะคะ
เชียงใหม่ เป็นเมืองเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมประเพณีอันสวยงาม ในปัจจุบันมีการผสมผสานวัฒนธรรมความเป็นเมืองเก่ากับความเป็นชุมชนเมืองได้อย่างลงตัว ทำให้เมืองเชียงใหม่นั้นมีเสน่ห์ และเป็นอีกจุดหมายอันดับต้นๆ ของประเทศไทยที่ใครๆก็อยากเดินทางมาท่องเที่ยว พักผ่อน และมีหลายคนเลือกเมืองนี้เป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศ
ทำเลของโครงการตั้งของ Himma Prestige Living นั้นอยู่ติดกับธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ บนถนนโชตนาซึ่งใช้เป็นเส้นทางไปออกอำเภอแม่ริม ตอนบนของตัวเมืองเชียงใหม่ที่มีแหล่งท่องเที่ยวและเป็นทางผ่านไปยังอำเภอปายอีกด้วย ถือเป็นทำเลที่อยู่อาศัยใหม่ที่ขยายตัวมาจากในตัวเมือง นอกจากนี้บริเวณรอบๆโครงการยังมีสถานที่สำคัญอีกหลายแห่งซึ่งเดี๋ยวเราค่อยๆมาดูกันค่ะ การเดินทางไปยังที่ต่างๆสามารถเข้าไปในตัวเมืองได้สะดวกโดยขับตรงไปออกถนนช้างเผือกเข้าในตัวเมือง หรือใช้ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ไปยังจังหวัดใกล้เคียงอย่าง ลำพูน ลำปาง ถ้าอยากไปเดินเล่น ทานข้าวก็ใช้ไปออกถนนนิมมานเหมินทร์แหล่งท่องเที่ยว ดื่ม กิน ที่ขึ้นชื่อของเชียงใหม่ได้อีกด้วย เนื่องจากถนนในเชียงใหม่มีลักษณะตัดออกไปรอบๆ ตัวเมืองชั้นในแบบใยแมงมุมจึงสามารถใช้เส้นทางเชื่อมกันได้ทั้งหมด การจราจรก็มีติดขัดบ้างบริเวณใกล้ๆกับสถานที่สำคัญ
สำหรับสถานที่สำคัญโครงการจะอยู่ติดกับธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือเลย ซึ่งบนถนนเส้นเดียวกันยังมีสถานที่ราชการที่สำคัญอย่าง ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ และ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และยังมี ศูนย์ประชุมนานาชาติเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รพ.กรุงเทพฯ รพ.ล้านนา อยู่ในบริเวณใกล้เคียง จุดเด่นของที่ตั้งโครงการอีกอย่างหนึ่งคือตรงข้ามกับสวนลานนา ร.9 สวนสาธารณะขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า ประมาณ 169 ไร่ สามารถออกมาเดินเล่นชมวิว หรือ ออกกำลังกายได้ และข้างๆกับสวนลานนา ร.9ก็คือ Lanna Golf Course สถานที่ออกกำลังกายสำหรับนักกอล์ฟที่ชื่นชอบสนามแบบธรรมชาติ ภายในประกอบไปด้วย สนามฝึกซ้อมกอล์ฟ, สนามเทนนิส, ห้องออกกำลังกายและ สระว่ายน้ำ ถ้าอยากจะไปเดินเล่น ช้อปปิ้งก็มี Central Festival ที่อยู่บริเวณแยกศาลเด็กบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ หรือ จะไปถนนนิมมานฯก็ไม่ไกลค่ะ
เนื่องจากถนนในตัวเมืองเชื่อมกันหมดเราจึงสามารถขับรถเข้าไปหาอะไรทานในราคาที่สบายกระเป๋าได้ในตัวเมืองค่ะ เริ่มจากถ้าใช้เส้นซุปเปอร์ไฮเวย์ตรงมาเรื่อยๆก็จะมาเข้าสู่ถนนนิมมานเหมินทร์ ย่านฮิปสตรีทที่รวมร้านค้า ร้านนั่งชิลและ ร้านอาหารไว้มากมาย นอกจากนั้นยังมีตลาดวโรรส ตลาดที่คนมักมาซื้อไส้อั่วแคบหมูไปเป็นของฝาก , ถนนคนเดินเชียงใหม่ , เชียงใหม่ ไนท์ บาซาร์ และ ถนนคนเดินท่าแพ เป็นต้น
สำหรับรถไฟฟ้านั้นในเมืองเชียงใหม่ก็มีแผนพัฒนาเหมือนกัน แต่เป็นแผนระยะยาวซึ่งต้องติดตามดูกันต่อไป โดยที่ตั้งโครงการจะอยู่ตรงกับรถไฟฟ้าสายสีทอง สถานีสวนหลวงร.9พอดี
การเดินทางในวันนี้เราเริ่มจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ วิ่งตรงมาออกถนนนิมมานเหมินทร์ ตรงเข้าถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ จากนั้นเบี่ยงซ้ายแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนโชตนา ไปกลับรถบริเวณหน้าสวนลานนา ร.9 เข้าสู่โครงการ โดยจุดสังเกตคือโครงการจะติดกับธนาคารแห่งประเทศไทย
เริ่มจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ คราวนี้คนพื้นที่บอกเรามาว่า ให้ลองใช้ทางที่วิ่งผ่านกองบิน 41 มันจะไปออกถนนนิมมานฯได้เลยโดยไม่ต้องผ่านเข้าไปในตัวเมืองและรถไม่ติด แต่ทางนี้จะผ่านได้เฉพาะรถที่มีสติกเกอร์เท่านั้น ซึ่งบุคคลธรรมดาก็สามารถเข้าไปขอทำได้
พอตรงผ่านกองบินมาจะเจอกับแยกที่ตัดกับถนนสุเทพ ถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นทางไปรพ.มหาราช หรือ รพ.สวนดอก โรงพยาบาลรัฐอันดับ 1 ในเชียงใหม่ ส่วนทางซ้ายเป็นทางไปมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ตรงมาเรื่อยๆจะเข้าสู่ถนนนิมมานเหมินทร์ ถนนสายสำคัญที่เป็นแหล่งรวมความทันสมัย ร้านอาหาร ความบันเทิง มาได้ทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืน
ตรงมาตามทาง พอใกล้ๆแยกรินคำทางด้านขวาจะเห็นตึกกำลังก่อสร้างอยู่ ไปถามคนท้องที่เค้าบอกว่าจะเป็น Community mall แห่งใหม่
พอถึงแยกรินคำก็จะมี Think Park Community mall ของคุณตัน และ ศูนย์การค้า MAYA แยกนี้จะมีปริมาณรถที่ค่อนข้างหนาแน่นเลยทีเดียว
พอเลยแยกริมคำมาก็จะเข้าสู่ถนน ซุปเปอร์ไฮเวย์ เป็นถนนเส้นหลักของการเดินทางเข้า-ออกจังหวัดเชียงใหม่ สามารถใช้ไปลำพูน ลำปางได้ เราตรงไปเรื่อยๆสังเกตป้าย อ.แม่ริม เอาไว้ค่ะ ถ้าเจอให้เบี่ยงออกทางซ้ายไม่ต้องลงอุโมงค์นะ
พอเจอทางเบี่ยงให้เบี่ยงไปทางซ้าย ตามป้ายไปอ.แม่ริม
ตรงไปตามทางจะเจอทางเลี้ยวซ้ายเข้าถนนโชตนาค่ะ ถ้าลงอุโมงค์จะเป็นทางลอดแยกข่วงสิงห์
เลี้ยวซ้ายเข้าถนนโชตนาค่ะ ถนนเส้นนี้จะเป็นทางไปอ.แม่ริม ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวคือม่อนแจ่ม และ เป็นทางผ่านไปยังอำเภอปายได้อีกด้วย
พอเลี้ยวเข้าถนนโชตนามาได้ซักพักจะเจอกับตลาดสดบริบูรณ์ เป็นตลาดโต้รุ่งมีของกินทั้งกลางวันกลางคืน บริเวณรอบๆยังมีร้านค้า ร้านอาหารอยู่อีก ระยะทางจากโครงการมาที่นี่ไม่ไกลมาก สามารถมาแวะหาอะไรทานได้
ตรงมาอีกทางด้านซ้ายจะเจอกับสวนลานนา ร.9 ถัดไปเป็น Lanna Golf Course ส่วนฝั่งขวาจะเป็นโครงการของเรา อยู่ติดกับธนาคารแห่งประเทศไทย
เนื่องจากโครงการอยู่ฝั่งตรงข้าม เราจะต้องตรงไปกลับรถ บริเวณทางกลับรถจะมี 7 -11 อยู่อีกจุดหนึ่ง
กลับรถมาแล้ว พอเห็นธนาคารแห่งประเทศไทยให้เตรียมชิดซ้ายค่ะ
ถึงแล้วค่ะโครงการ Himma Prestige Living
ก่อนจะเข้าไปชมภายในโครงการ จะขออธิบายผังรวมคร่าวๆก่อนนะคะ จากถนนใหญ่พอเลี้ยวเข้าซอยมาเราจะเจอกับที่ดินแปลงใหญ่ของบริษัทฯ ซึ่งด้านหน้าเป็นที่ดินเปล่าเอาไว้เตรียมพัฒนาโครงการในอนาคต โดยมีแผนจะทำเป็น Boutique hotel ที่มีร้านอาหาร สปา และ minishop เพื่อเป็น Landmark แห่งใหม่ของทางฝั่งคนที่จะไปเดินทางไปอ.แม่ริม ซึ่งเส้นทางนี้ยังไม่มีโครงการอะไรมาขึ้นมากนัก ถัดไปเป็นพื้นที่ของโครงการคอนโด มีทั้งหมด 3 อาคาร ด้านในสุดจึงเป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่เราจะพาไปชมค่ะ
ถนนทางเข้าของโครงการ Himma Prestige Living นี้ เป็นถนนที่ใช้ร่วมกัน 3 ส่วน ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ ทางด้านซ้ายใช้ไปส่วนหนึ่ง โครงการคอนโดและหมู่บ้านทางด้านขวาแชร์กันไปอีกสองส่วน โดยถนนเส้นนี้จะดูแลร่วมกัน มีป้อมรักษาความปลอดภัยอยู่ด้านหน้าเพราะต้องมี Security สำหรับองค์กรแบงก์ชาติด้วย คนที่มีบัตรจอดรถถึงจะผ่านเข้าไปได้ ถ้าไม่มีก็ต้องแลกบัตร ทางด้านขวาที่กั้นป้ายไว้คือที่ดินเตรียมพัฒนาเป็นโรงแรมค่ะ
ตอนนี้ยังเป็นที่ดินเปล่าอยู่ค่ะ จากการสอบถามโครงการแจ้งว่าคาดว่าจะเสร็จในปี 2018
ในป้ายมีติดรูปภาพเอาไว้แบบนี้ ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาแบบค่ะ
ถัดเข้าไปทางด้านขวาจะเป็นโครงการคอนโด Himma Garden Luxury Resort
เข้ามาจนสุดทางจะเจอกับโครงการบ้านเดี่ยวที่เราจะพาไปชมค่ะ
โครงการ Himma Prestige Living ถ้าเข้ามาจากถนนใหญ่จะตั้งอยู่ด้านในสุดติดกับโครงการ Himma Garden Luxury Resort คอนโดมิเนียมของบริษัทเดียวกัน ฝั่งตรงข้ามกับทางเข้าโครงการเป็นพื้นที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย ด้านหน้าทางเข้าหลักฝั่งติดถนนใหญ่ ฝั่งตรงข้ามเป็นสวนลานนาร.9 , สนามฝึกซ้อมกอล์ฟลานนาซึ่งเป็นปอดและแหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญของเมืองเชียงใหม่ พื้นที่โดยรอบส่วนใหญ่ยังคงเป็นที่ดินเปล่าและบ้านพักอาศัยแนวราบ ไม่มีตึกสูงมาบดบังทัศนียภาพโดยจะมีพื้นที่แต่ละด้านติดกับ
- ทิศเหนือ – ติดกับถนนทางเข้าโครงการ ซึ่งติดกับพื้นที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย
- ทิศตะวันออก – ติดกับบ้านพักอาศัยแนวราบสูง 2 ชั้น และที่ดินเปล่าที่กำลังสร้างศูนย์ปฎิบัติธรรม
- ทิศใต้ – ติดกับโชว์รูม Toyota บ้านพักอาศัย และที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันตก – ติดกับโครงการคอนโดมิเนียม สูง 5 ชั้น
ทิศเหนือ ติดกับถนนภาระจำยอมด้านหน้าโครงการ ซึ่งถัดไปมีพื้นที่ติดกับส่วนเรือนรับรองของธนาคารแห่งประเทศไทย
ทิศตะวันออก ติดกับบ้านพักอาศัยแนวราบสูง 2 ชั้น และ ที่ดินเปล่าที่กำลังสร้างศูนย์ปฎิบัติธรรม
ทิศใต้ ติดกับโชว์รูม Toyota บ้านพักอาศัย และ ที่ดินเปล่า
ทิศตะวันตก ติดกับโครงการ Himma Garden Luxury Resort คอนโดมิเนียมสูง 5 ชั้น
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- ธนาคารแห่งประเทศไทย ~ 440 เมตร (ระยะเดิน)
- สวนลานนาร.9 ~ 518 เมตร (ระยะเดิน)
- สนามกอล์ฟลานนา ~ 900 เมตร
- ตลาดสดบริบูรณ์ ~ 1.2 กิโลเมตร
- ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ~ 3.4 กิโลเมตร
- ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เชียงใหม่ ~ 3.6 กิโลเมตร
- Maya Shopping mall ~ 3.6 กิโลเมตร
- ถนนนิมมานเหมินทร์ ~ 3.8 กิโลเมตร
- Think Park ~ 3.8 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลลานนา ~ 4.9 กิโลเมตร
โครงการเป็นบ้านเดี่ยว มีจำนวน 40 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ 40 ไร่ มีจุดที่แตกต่างจากโครงการอื่นๆคือเป็นบ้านที่ขายแบบสั่งสร้าง คือทางโครงการแบ่งแปลงที่ดินเอาไว้ให้ แล้วเราสามารถเลือกได้ว่าจะเอาบ้านแบบไหนมาลงในที่ดินของเรา (มีมาให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ) แนวความคิดในการออกแบบของโครงการนี้มาจากป่าหิมพานต์ เน้นให้บ้านอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่นและล้อมรอบด้วยน้ำ โดยบ้านทุกหลังจะมีหลังบ้านติดกับลำน้ำ และมีแปลง 1B , 2A และ 3A ในภาพที่มีลักษณะเป็นเกาะส่วนตัว มีน้ำล้อมรอบ เข้ามาจะเจอกับวงเวียนซึ่งเป็นตัวแจกไปยังบ้านที่แบ่งออกเป็น 4 ทิศทาง Clubhouse จะอยู่ตรงกลางให้ลูกบ้านมาใช้ร่วมกัน มีทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำ Lounge ห้องโยคะ Sauna&Steam
ด้านหน้าโครงการ Main Gate เป็นซุ้มไม้ทรงโค้ง วัสดุเป็นระแนงไม้ซี่ๆสลับกับแผ่นไม้ มีป้อมรปภ.อยู่ด้านข้างอีกจุดหนึ่ง รวมกับรปภ.ตรงส่วนทางเข้าด้านหน้าเป็น Double Security Gate
ในโครงการจะมีการขุดลำน้ำล้อมรอบผ่านด้านหลังของบ้านทุกหลัง และมีการจัดสวนตามแนวคิดป่าหิมพานต์ บรรยากาศค่อนข้างร่มรื่น
จาก Main Gate ตรงเข้ามาในโครงการจะเจอกับวงเวียนที่มีประติมากรรมช้างเอราวัณตั้งอยู่ ถนนหลักของโครงการกว้าง 9 เมตร
ทางฝั่งซ้ายจะเป็นบ้านหลังใหญ่แบบ หิมาลายา ซึ่งเราเคยรีวิวบ้าน Type นี้มาแล้ว
ตรงวงเวียนช้างเอราวัณจะแบ่งถนนออกเป็น 4 ทิศทาง ถ้าตรงไปจะเป็นทางไป Clubhouse
เดินถัดจากวงเวียนมาจะเป็น Clubhouse ทางฝั่งขวาเป็นที่ดินของโครงการที่ยังไม่ได้ก่อสร้าง
เข้ามาใน Clubhouse ด้านหน้าจะเจอกับ Lounge ก่อน ทางขึ้นจะมีทั้งขั้นบันไดและทางลาดเพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนแก่และคนพิการ
ภายใน Business Lounge หรือพื้นที่รับรองแขก เป็นห้องฝ้าเพดานสูง โปร่ง เอาไว้สำหรับต้อนรับแขกหรือจัดประชุม
ด้านในมีห้องน้ำแยกชายหญิง
ภายในห้องน้ำมีแยกย่อยอีก 2 ห้อง มีอ่างล้างมือ 1 จุด ตกแต่งด้วยโทนสีเข้ม
ด้านนอกเป็นพื้นที่ของสระว่ายน้ำ ระบบเกลือ แบ่งเป็นสระเด็กและสระผู้ใหญ่
สระเด็กลึกประมาณ 50 cm. กั้นแยกจากสระผู้ใหญ่ตามในภาพ บริเวณรอบๆสระจะมีระแนงเพื่อระบายน้ำไม่ให้ไหลไปโดยพื้นที่รอบๆ
ริมสระมีวางม้านั่งสำหรับนั่งพักผ่อน เรียงกันอยู่ริมสระ ถัดไปเป็นอาคารที่ด้านในมีฟิตเนส ห้องโยคะ Sauna&Steam
ฟิตเนสจะเข้าได้สองทาง ทางแรกคือเข้าทางด้านหน้าฝั่งที่ติดกับสระว่ายน้ำ ในห้องเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ออกกำลังกาย ส่วนที่เห็นเป็นห้องกระจกด้านหลังคือห้องโยคะ
ออกมาด้านหน้า Clubhouse ตรงกลางที่เห็นเป็นกระจกคือทางเข้าอาคาร ส่วนทางซ้ายมีล็อคเกอร์สำหรับเก็บของเล็กๆน้อยๆก่อนจะเข้าไปออกกำลังกาย ส่วนทางขวาเป็นห้องน้ำแยกชาย – หญิงซึ่งมีทั้งห้องน้ำ และ ห้องอาบน้ำการตกแต่งคล้ายๆกับห้องน้ำในส่วน Lounge
เข้ามาในอาคารทางด้านซ้าย เราจะเจอทางเข้าห้องฟิตเนสอีกทางหนึ่ง ทางด้านขวาเป็นห้องน้ำ ส่วนถ้าตรงไปเป็นทางขึ้นไปชั้น 2
ฝั่งตรงข้ามห้องฟิตเนสมีห้องน้ำมา ห้อง Sauna&Steam แยกชาย – หญิง ถือว่าจัดห้องน้ำมาให้เยอะพอสมควร
ภายในห้องน้ำเป็นห้องที่มีโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมืออยู่ในตัว
ส่วนห้อง Sauna&Steam มีมาให้ครบทั้งอ่างล้างมือ และ ล็อคเกอร์
บรรยากาศภายในห้อง Sauna&Steam ค่ะ
เราขึ้นไปดูต่อกันที่ชั้นบน
ชั้นบนจะมีห้องเอนกประสงค์สำหรับใช้พื้นที่จัดเป็นห้องประชุม หรือ จัดเลี้ยงต่างๆ
ฝั่งตรงข้ามเป็นทางออกไปลานกว้างด้านนอกอาคารสำหรับจัดกิจกรรม
พอออกจากอาคารมา จะมีทางเดินลงไปที่สวนด้านหลังซึ่งเป็นสวนที่จัดตาม Concept ป่าหิมพานต์
บรรยากาศในสวนค่อนข้างร่มรื่น ด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ มีรูปปั้นสัตว์ในวรรณคดีแทรกอยู่เป็นจุดๆ
ด้านในของสวนมีพระพุทธรูปประดิษฐาน ปกป้องคุ้มครองและเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในหมู่บ้าน
เราไปดูกันในส่วนของตัวบ้านกันต่อ การวางผังของบ้านจะวางหันหน้าเข้าหากันเรียงกันไปตามแนวถนน สังเกตจะไม่มีสายไฟบดบังทัศนียภาพเลยเพราะโครงการเดินระบบเอาไว้ใต้ดินทั้งหมดค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ 1 สระ แบ่งเป็นสระเด็กลึก 0.5 ม. สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 ม.
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 8-10 เครื่อง
- ห้องโยคะ
- Sauna&Steam
- Business Lounge
- ลานเอนกประสงค์ / ห้องจัดประชุม
- สวนสาธารณะ
- Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 20 จุด
- รั้วรอบโครงการสูงประมาณ 1.5 ม.
- Key Card Access แบบรีโมท
- ระบบไฟฟ้าใต้ดิน
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง 2 ชั้น (ติดถนนใหญ่และทางเข้าโครงการ)
- ประตูรั้วโครงการแบบรางเลื่อน
- ถนนหลักกว้าง 9 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
สำหรับบ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้มีอยู่ 2 แบบคือ มารีศ 459 ตร.ม. และ กินรี 353 ตร.ม. ของที่ให้ในบ้านจะมี ชุดครัว Built – in ของ Franke พร้อมเตาไฟฟ้า อ่างล้านจาน เครื่องดูดควัน , ชุดสุขภัณฑ์ทั้งหมด , Wallpaper , แอร์ , เครื่องทำน้ำอุ่น , ระบบ Home Automation และ ระบบรักษาความปลอดภัยของ Bosch
เริ่มกันที่บ้าน Type D ที่มีชื่อว่า มารีศ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 459 ตร.ม. 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ และ 1 ห้องแม่บ้าน ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท จากแปลนทางเข้าบ้านจะทำเป็น Step เดินผ่านบ่อน้ำ เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่ต่อเนื่องกันของห้องรับแขกและห้องทานอาหาร พื้นที่ส่วนนี้จะเป็น Double Space ฝ้าเพดานสูง โปร่งไปจนถึงชั้นบน และมีหน้าต่างโดยรอบสามารถเปิดรับลมได้ บริเวณใต้บันไดจะเป็นห้องเก็บของตลอดทั้งแนวซึ่งมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างอยู่ ถัดจากบริเวณนี้ไปจะเป็นพื้นที่หลังบ้าน ซึ่งจะมีสระว่ายน้ำส่วนตัว ห้องน้ำ ศาลาสำหรับนั่งพักผ่อน และมีห้องรับรองแขกที่มีห้องน้ำในตัว กลับเข้ามาในตัวบ้านฝั่งตรงข้ามห้องอาหารจะเป็นทางไป Pantry ห้องครัว ห้องน้ำ และ ห้องนอนอีกหนึ่งห้องที่มีห้องน้ำในตัว โดยห้องนี้สามารถปรับทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้ ห้องครัวของบ้านนี้เป็นครัวปิดสามารถทำอาหารได้เต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่น โดยสามารถเปิดประตูระบายอากาศออกไปนอกบ้านได้ ถัดจากห้องครัวทางฝั่งหน้าบ้านเป็นพื้นที่ของแม่บ้าน โดยมีทั้งห้องนอน ห้องน้ำ และห้องเก็บของอยู่เป็นสัดส่วน แยกทางเข้ากับทางเข้าตัวบ้าน
จากชั้นล่างขึ้นมาที่ชั้น 2 พอขึ้นมาก็จะเจอกับโถงเล็กๆก่อนจะแจกไปยังส่วนของห้องนอน โดยชั้นนี้จะมีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง ห้องนอนเล็ก 2 ห้องและห้องนอนใหญ่อีก 1 ห้อง โดยห้องนอนเล็กจะมีห้องหนึ่งมีระเบียง อีกห้องหนึ่งไม่มีระเบียงแต่มีหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศ ขนาดของห้องพอๆกัน ทั้งสองห้องนี้จะต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน ส่วนห้องนอนใหญ่จะอยู่ด้านหลังบ้าน เป็นห้องที่มีห้องน้ำในตัว ซึ่งจะมีทั้งพื้นที่อาบน้ำและอ่างอาบน้ำ และ มีพื้นที่ Walk-in Closet อยู่ด้านหน้าห้องน้ำ บริเวณห้องนอนจะค่อนข้างกว้างมีพื้นที่รอบเตียงค่อนข้างเยอะ เป็นห้องที่มีระเบียงซึ่งมีทำที่นั่งพักผ่อนมาให้ด้วย
ตัวบ้านเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น โครงสร้างเป็นแบบ Conventional ออกแบบในสไตล์ Tropical Modern ผสมความทันสมัยให้เข้ากับอากาศร้อนชื้นของไทย ตกแต่งด้วยวัสดุที่ให้ความรู้สึกเหมือนธรรมชาติ เช้น ไม้ หิน ใช้โทนสีขาว เทา ส้มสลับกัน และ มีการใช้เส้นแนวตั้งและแนวนอนในการตกแต่งทำให้ตัวบ้านดูมีมิติ
บริเวณหน้าบ้านมีพื้นที่สำหรับวางงานระบบต่างๆและถังขยะ ทำประตูแบบระแนงโปร่งปิดให้ดูเรียบร้อย
พื้นที่สำหรับวางถังขยะให้เป็นสัดส่วน มีทำบานประตูเปิดเล็กๆให้เพื่อบังสายตา
รั้วหน้าบ้านเป็นแบบระแนงโปร่ง เวลาเปิดก็เลื่อนเข้าไปเก็บด้านข้างสามารถเปิดพื้นที่หน้าบ้านได้เต็มที่ ทำให้สะดวกเวลารถจะเข้าไปจอด บ้านนี้จอดรถได้ 2 คัน
ทางเดินเข้าบ้านมีทำเป็นซุ้มประตูเล็ก ผนังตรงกลางซุ้มมีอุปกรณ์กระดิ่งไฟฟ้ารวมกับ VDO Doorphone ติดตั้งมาให้ ช่วยให้เจ้าของบ้านดูได้ว่ามีใครมา
บานประตูทางเข้าเป็นประตูไม้ ฝั่งตรงข้ามมีลูกเล่นคือเป็นเสาปูนสองต้นที่ใช้เปลือกไม้หุ้มไว้ ดูเข้ากับสไตล์การตกแต่งและช่วยลดความกระด้างของปูนซีเมนต์ลง
เข้ามาด้านในก่อนเข้าตัวบ้านจะต้องเดินขึ้นบันไดผ่านบ่อน้ำทางด้านหน้า ด้านข้างมีทำระแนงตกแต่งแต่กันฝนไม่ได้นะ ดูรวมๆแล้วบริเวณนี้มีการเล่นเส้น เล่นระดับจัดองค์ประกอบมาได้สวยดี
ด้านข้างบ้านจัดเป็นสวน รั้วระหว่างบ้านไม่สูงมากนัก เราจะเดินไปดูหลังบ้านกันก่อนค่ะ
ด้านหลังบ้านมีพื้นที่เหลือเยอะพอสมควร มีการทำลำน้ำตัดผ่านหลังบ้านทุกหลัง ซึ่งบริเวณหลังบ้านแต่ละหลังจะไม่มีรั้ว ขอบเขตที่ดินจะกับติดลำน้ำแบบนี้เลย
บริเวณด้านหลังบ้านทำออกมาได้สวย มีส่วนที่เป็นห้องรับรองแขก ศาลาพักผ่อน และสระว่ายน้ำ
อ้อมมาอีกฝั่งหนึ่ง ข้างบ้านมีพื้นที่เหลือพอสมควรสำหรับจัดสวน ทางโครงการมีลงหญ้าไว้ให้
ฝั่งนี้จะเป็นส่วน Service มีส่วนซักล้างที่ต่อเนื่องจากห้องครัว สามารถเปิดประตูจากครัวมาที่พื้นที่ข้างบ้านได้
ถัดไปเป็นส่วนของห้องแม่บ้านและห้องน้ำอยู่ในโซนเดียวกันเป็นสัดส่วน แยกทางเข้าออกจากตัวบ้าน
อ้อมมาจนถึงหน้าบ้านจะเป็นพื้นที่จอดรถในร่ม จอดได้ 2 คัน
ผนังทางฝั่งซ้ายของที่จอดรถมีทำที่เก็บของเอาไว้ให้ สำหรับเก็บของใช้เล็กๆน้อยๆ บานประตูเป็นบานเกล็ด ซึ่งบานแบบนี้สามารถระบายอากาศได้ดี
ถัดจากโรงรถไปก็จะเป็นทางเข้าบ้านที่เราเดินผ่านมาเมื่อซักครู่นี้ค่ะ
เดี๋ยวเราเข้าไปดูกันในตัวบ้าน ประตูทางเข้าเป็นบานเลื่อนไม้สักขนาดค่อนข้างใหญ่ ด้านข้างเป็นผนังกระจกช่วยให้ห้องด้านในดูโปร่งและสามารถใช้ดูได้ว่ามีแขกไปใครมาบ้าง
มือจับประตูเป็นราวสแตนเลสทรงกระบอก ดูแข็งแรงดี
เข้ามาภายในบ้านจะเจอกับพื้นที่ที่ต่อเนื่องกันของห้องรับแขกและห้องอาหาร พื้นที่บริเวณนี้เป็น Double Space ฝ้าเพดานสูงโปร่ง 5 เมตร พื้นปูเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 cm.
พอเข้ามาปุ๊ปบริเวณหน้าบ้าน จะเจอกับแผงสวิทซ์ และมีระบบรักษาความปลอดภัยของ Bosch ติดตั้งอยู่ นอกจากนี้ยังมีระบบ Home Automation สั่งงานผ่านอินเตอร์เน็ตมาให้ด้วย
บริเวณหน้าบ้านฝั่งติดกับประตูทางเข้า จะมีโถงเล็กๆ ทางด้านขวาคือห้องเก็บของใต้บันได
ประตูห้องเก็บของทำเป็นประตูกระจกกรอบบานอะลูมิเนียม ภายในห้องมีพื้นที่กว้างพอสมควร มีแผงงานระบบไฟฟ้าซ่อนอยู่บริเวณนี้
บรรยากาศของพื้นที่ส่วนนี้จะดูโปร่งเพราะฝ้าเพดานที่สูง ผนังทางด้านซ้ายที่เป็นหน้าต่างทั้งแนว และด้านบนจะมีช่องแสงโดยรอบ ทำให้เวลากลางวันเราอาจจะไม่ต้องเปิดไฟเลย โคมไฟ Chandelier ที่แขวนอยู่โครงการก็มีให้เป็นแบบใช้รีโมทปรับความสูงของโคมไฟได้
บริเวณห้องอาหารทางฝั่งขวาเป็นหน้าต่างเปิดรับลมได้ ส่วนทางฝั่งซ้ายเป็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 และมีทางไปห้องครัวอยู่ข้างๆกัน ส่วนประตูด้านหลังเป็นทางไปหลังบ้าน
หน้าต่างด้านหลังโต๊ะอาหารเปิดออกรับลมได้ตั้งฉากแบบนี้ ได้อารมณ์เป็นบ้านตากอากาศสไตล์ร่วมสมัย
ส่วนทางออกไปส่วนหลังบ้านเป็นประตูกระจกบานเลื่อน
มือจับเป็นแบบตามในภาพ สามารถล็อคกลอนได้ ค่อนข้างแข็งแรงค่ะ
ออกมาบริเวณหลังบ้าน ทางฝั่งขวาเป็นห้องรับรองแขกถัดไปเป็นศาลาพักผ่อนเล็กๆ ด้านนอกเป็นพื้นที่ของสระว่ายน้ำ
หลังบ้านจะมีสระว่ายน้ำส่วนตัว ซึ่งทางฝั่งขวาที่ในรูปเห็นเป็นผนังขาวๆคือห้องน้ำ ถัดไปเป็นอ่างล้างหน้าและพื้นที่อาบน้ำ
พื้นที่สำหรับอาบน้ำล้างตัวก่อน – หลังลงสระ และ อ่างล้างหน้า ถัดไปเป็นห้องน้ำเล็กๆ
ฝั่งตรงข้ามมีศาลาพักผ่อนอยู่บริเวณหน้าห้องรับรองแขก สามารถออกมานั่งเล่นรับลมได้
ห้องรับรองแขกอยู่หลังบ้านติดกับประตูทางออกหลังบ้าน ห้องนี้จะด้านนอกอาคารเพราะฉะนั้นถ้าจะเข้าต้องเดินผ่านห้องรับแขกเข้ามาทางหลังบ้าน หรือ เดินอ้อมมาเข้าที่หลังบ้านค่ะ
ในห้องรับรองแขกเข้ามาจะเจอกับห้องน้ำก่อน ถัดเข้าไปจึงเป็นส่วนของห้องนอน
พื้นห้องน้ำของทุกห้องจะมีการลดระดับลงไปประมาณ 5 cm. เก็บขอบงานรอยต่อด้วยเส้นสแตนเลสดูเรียบร้อยดี
ห้องน้ำห้องนี้ปูด้วยกระเบื้องลายหิน แบ่งพื้นที่เป็นส่วนแห้งและส่วนเปียกกั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย ผนังด้านหลังโถสุขภัณฑ์มีหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศได้
อ่างล้างหน้าเป็นของ American Standard ทรงสี่เหลี่ยมวางอยู่ด้านบนเคาน์เตอร์ Top เป็นหินแกรนิตสีดำ
โถสุขภัณฑ์ก็เป็นของ American Standard เช่นกันด้านหลังมีก่อผนังสำหรับเดินงานระบบ และ มีพื้นที่สำหรับวางของเล็กๆน้อยๆได้
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดกว้างพอสมควร กั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย พื้นจะลดระดับลงไปเล็กน้อยเก็บงานด้วยเส้นสแตนเลสเช่นกัน
ฝักบัวมีให้เลือกทั้งแบบมือถือและ Rain Shower มีระบบทำน้ำอุ่นมาให้ด้วย
หน้าตาฝักบัวแบบมือจับ เป็นทรงเหลี่ยมๆแบบนี้ จับได้ถนัดมือ
ห้องรับรองแขกจะมีพื้นที่ระเบียงด้วย โดยประตูทางออกไประเบียงจะอยู่ด้านข้างเตียง ห้องนี้บ้านตัวอย่างวางเป็นโซฟาที่สามารถพับลงมาเป็นเตียงได้
พื้นที่ระเบียงมีก่อปูนทำเป็นที่นั่งเข้ามุมแบบนี้มาให้สำหรับออกมานั่งเล่นได้ พื้นเป็นกระเบื้องลายไม้ผิวด้านเพราะฉะนั้นไม้ต้องกลัวลื่นค่ะ
อีกฝั่งมีพื้นที่สำหรับทำเป็นตู้เสื้อผ้า Built – in ข้างๆเตียงได้แบบนี้
กลับเข้ามาในตัวบ้าน ฝั่งตรงข้ามห้องอาหารจะเป็นบันไดยิงยาวขึ้นไปชั้น 2 และทางไปห้องครัว
พื้นที่บริเวณนี้จะลดระดับลงจากห้องอาหารประมาณ 3 ขั้นบันไดเพื่อให้ได้ฝ้าเพดานที่สูงขึ้น ลงมาจะเจอกับส่วนเตรียมอาหารก่อน ด้านหลังเป็นห้องครัว พอทำอาหารเสร็จก็เอามาพักตรงนี้ก่อนเอาไปเสริฟ ทางด้านขวาเป็นห้องน้ำ
ห้องครัวเป็นครัวปิดกั้นแยกเป็นสัดส่วน สามารถทำอาหารต้ม ผัด แกง ทอดได้เต็มที่ ด้านหลังมีประตูให้เปิดระบายอากาศไปนอกบ้าน โครงการจะแถมชุดครัว Built – in ให้ตามแบบนี้เลย วัสดุเป็นโครงไม้ปิดผิวด้วยลามิเนต Top เป็นหินแกรนิตสีดำ
ทางฝั่งนี้เป็นโซนเตรียมอาหาร มีอ่างล้างจานเอาไว้ล้างจาน ล้างผัก ด้านข้างมีเคาน์เตอร์ยาวๆเอาไว้เตรียมอาหาร บริเวณผนังด้านบนอ่างล้างจานมีหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศได้
พอเตรียมอาหารเสร็จก็ยกมาทำอาหารที่โซนนี้ ที่มีเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันมาให้ ส่วนทางฝั่งขวาเป็นพื้นที่เก็บของและมีช่องสำหรับวางตู้เย็น
อ่างล้างจานเป็นแบบ 2 หลุม ดีตรงที่ถ้าเราล้างจานอยู่อีกหลุมอีกหลุมก็ยังสามารถใช้ประโยชน์ได้ และมีพื้นที่สำหรับพักจานอยู่ด้านข้าง
เตาไฟฟ้าเป็นแบบเซรามิคของ Franke
ส่วนห้องน้ำที่อยู่ข้างๆกับห้องครัวเป็นห้องขนาดไม่ใหญ่มาก เอาไว้สำหรับให้คนในบ้านหรือแขกใช้ ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ
แต่มีโถสุขภัณฑ์ และ โถปัสสาวะชายมาให้
ฝั่งตรงข้ามห้องครัวจะเป็นห้องนอนซึ่งสามารถทำเป็นห้องผู้สูงอายุได้
ห้องนี้ถึงแม้ว่าจะอยู่ชั้นล่างและไม่มีระเบียงแต่ก็ยังรู้สึกว่าอากาศถ่ายเทได้ดีเพราะมีหน้าต่างเปิดระบายอากาศได้ทั้ง 2 ฝั่ง วางเตียงขนาด Queen size แล้วมีพื้นที่เหลือสำหรับวางโต๊ะข้างเตียงทั้งสองฝั่งได้สบายๆ
ด้านข้างมีหน้าต่างบานเลื่อนเอาไว้เปิดรับลม
ปลายเตียงมีพื้นที่สำหรับวางตู้วางทีวีและตู้เสื้อผ้า ประตูทางเข้าห้องน้ำจะอยู่ข้างเตียงติดกับประตูห้อง
ห้องน้ำในห้องนี้ตกแต่งด้วยโทนสีขาว มีทั้งส่วนแห้งและส่วนเปียก ด้านหลังโถสุขภัณฑ์มีบานหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศ
อ่างล้างหน้าของห้องนี้เป็นของ American Standard แบบฝังอยู่ด้านล่างเคาน์เตอร์
บันไดขึ้นชั้น 2 ของบ้านหลังนี้วัสดุให้เป็นไม้มะค่า โดยจะยิงยาวขึ้นไปที่ชั้น2 เลยไม่มีชานพัก ราวกันตกเป็นไม้และกระจกดูโปร่งดี
พอขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกันโถงเล็กๆ เพื่อแจกไปยังห้องต่างๆ โดยชั้นนี้จะเป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมด ห้องที่เห็นอยู่ทางฝั่งขวาคือห้องนอนเล็กฝั่งหน้าบ้านที่มีระเบียง
มองย้อนกลับไปห้องที่อยู่หลังสุดคือห้องนอนใหญ่ ชั้นบนบ้านหลังนี้จะมี การกั้นห้องต่างกับในแปลนเล็กน้อย เราจะค่อยๆพาเข้าไปชมทีละส่วนค่ะ
เริ่มจากห้องนอนเล็กเข้ามาจะเจอกับพื้นที่สำหรับวาง Walk – in Closet อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำมีทั้งส่วนแห้งและส่วนเปียก ส่วนอาบน้ำจะมีทั้งแบบยืนอาบและอ่างอาบน้ำมา ในห้องจะมีหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศ สังเกตห้องน้ำแต่ละห้องกระเบื้องที่ใช้จะไม่ค่อยซ้ำกันและเลือกลวดลายมาได้สวยดี
ด้านข้างประตูจะเป็นอ่างล้างหน้า พื้นที่ด้านข้างเป็นเคาน์เตอร์ยาววางของได้เยอะพอสมควร ด้านล่างมีหม้อต้มของเครื่องทำน้ำร้อนติดตั้งอยู่
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard อยู่กั้นแยกโซนออกมาแบบนี้ ด้านบนมีผนังก่อออกมาใช้วางของได้
ห้องนี้จะมีทั้งอ่างอาบน้ำ และ พื้นที่อาบน้ำแบบยืนอาบกั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย
พื้นที่อาบน้ำจะมียกธรณีขึ้นมาเพื่อกันน้ำไหลไปโดนส่วนอื่นๆ
ถัดจากห้องน้ำเข้ามาก็จะเป็นส่วนของห้องนอน ห้องนี้จะเป็นห้องที่มีระเบียงด้วย ผนังรอบๆเป็นบานหน้าต่างและประตูกระจกทำให้บรรยากาศรวมๆของห้องดูโปร่ง
พื้นที่โดยรอบเตียงนอนค่อนข้างกว้าง สามารถตกแต่งหรือวางเฟอร์นิเจอร์ได้ตามใจชอบ
ด้านข้างเตียงและฝั่งตรงข้ามเป็นหน้าต่างและบานประตูกระจกสามารถเปิดรับแสง และ รับลมได้
ด้านนอกระเบียงมีพื้นที่วาง Condensing Unit กั้นแยกเป็นระเบียบเรียบร้อย
อีกฝั่งมีก่อปูนทำเป็นที่นั่งเอาไว้นั่งพักผ่อน ชมวิวชิลๆ พื้นตรงระเบียงจะเป็นกระเบื้องเซรามิคกับทรายล้าง
ส่วนห้องนอนใหญ่ก็มีพื้นที่ระเบียงเช่นกัน ด้านข้างและปลายเตียงเป็นบานหน้าต่างสามารถเปิดรับแสงและลมได้เช่นเดียวกับห้องนอนห้องที่แล้ว
เนื่องจากห้องนี้ค่อนข้างกว้างจึงมีระยะรอบๆเตียงเหลือเยอะ สามารถวางทั้งโต๊ะข้างเตียงและโซฟาปลายเตียงได้
ห้องนี้ก็เป็นห้องที่มีระเบียงที่มีทำพื้นที่นั่งเล่นมาให้ อีกฝั่งหนึ่งอ้อมไปทางด้านหลังจะเป็นพื้นที่ติดตั้ง Condensing Unit ของแอร์
หน้าห้องน้ำมีพื้นที่สำหรับทำเป็น Walk – in Closet แต่ระยะอาจจะกระชั้นไปนิด
ฝั่งตรงข้ามตู้เสื้อผ้าจะเป็นห้องน้ำค่ะ
ในห้องน้ำมีทั้งส่วนแห้งและเปียก ส่วนอาบน้ำมีทั้งยืนอาบและอ่างอาบน้ำ กระเบื้องในห้องน้ำใช้แบบลายหิน ผนังด้านหลังอ่างเป็นหน้าต่างบานใหญ่เอาไว้เปิดระบายอากาศได้
มีทั้งโถสุขภัณฑ์ โถปัสสาวะชาย และ อ่างล้างหน้า
ส่วนพื้นที่อาบน้ำก็มีทั้งอ่างอาบน้ำให้มาแช่ตัวผ่อนคลายความเหนื่อยล้า และ แบบยืนอาบกั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย
ฝักบัวตรงอ่างอาบน้ำเป็นของ American Standard ดึงออกมาดูแข็งแรงใช้ได้
ส่วนบ้านที่จะพาไปชมอีกหลังเป็นบ้าน Type E ชื่อ กินรี มีขนาดเล็กกว่าบ้านหลังที่แล้ว มีพื้นที่ใช้สอย 353 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับห้องรับแขก และ ห้องอาหารเช่นเดียวกับบ้านแบบมารีศ แต่จะไม่มีพื้นที่หลังบ้านแล้ว จะมีแค่ระเบียงยาวเป็นรูปตัวแอลบริเวณห้องอาหาร อีกฝั่งของตัวบ้านเป็นพื้นที่ของ ห้องน้ำ , ห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว สามารถใช้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้ และ ห้องครัวที่มีพื้นที่ต่อเนื่องกับส่วนซักล้างนอกบ้าน ไม่มีห้องแม่บ้าน
ขึ้นมาชั้นบนจะเจอกับโถง ก่อนจะแจกไปยังห้องนอนอีก 3 ห้อง ห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง บ้านหลังนี้ห้องนอนทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัว ห้องนอนใหญ่จะเป็นห้องที่มีระเบียงขนาดใหญ่ที่มีที่นั่งพักผ่อนและในห้องน้ำจะมีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วย
ภายนอกของตัวบ้าน Type กินรี การออกแบบตกแต่งจะคล้ายกับบ้านแบบมารีศ แต่มีขนาดที่เล็กกว่า
หน้าบ้านมีพื้นที่วางงานระบบและถังขยะ ทำประตูปิดเช่นเดียวกับบ้านหลังที่แล้ว
ส่วนซุ้มประตูทางเข้าก็ดีไซน์เดียวกันกับบ้านแบบ มารีศ และ Type อื่นๆ
ด้านข้างบ้านมีพื้นที่เหลือค่อนข้างกว้าง ฝั่งด้านหลังบ้านจะติดกับลำน้ำที่ทางโครงการขุดไว้โดยรอบ
ด้านหลังบ้านบริเวณห้องอาหารจะมีระเบียงยาวต่อเนื่องกันเป็นตัวแอลแบบนี้
ด้านข้างบ้านอีกฝั่งหนึ่งจะติดกับพื้นที่ของบ้านข้างๆ มีพื้นที่จัดสวนอยู่เล็กน้อย
เดินอ้อมมาจนถึงฝั่งหน้าบ้าน ที่จอดรถบ้านหลังนี้จะเจอได้ 2 คัน ด้านข้างมีตู้เก็บของและประตูทางเข้ารอง
บริเวณทางเข้าหน้าบ้านจะมีการเล่นระดับ และใช้เส้นสายในการออกแบบเช่นเดียวกัน
บรรยากาศภายในส่วนห้องรับแขกและห้องอาหาร จะค่อนข้างโปร่งเพราะเป็น Double Space และมีช่องแสงรอบด้าน
หลังโต๊ะอาหารจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนออกไประเบียงนอกบ้าน สามารถนั่งทานข้าวไปชมวิวไปได้ ส่วนทางฝั่งซ้ายเป็นทางไปบันไดทางขึ้นชั้น 2 และ ห้องครัว
บริเวณระเบียงจะยาวอ้อมไปเป็นรูปตัวแอล สามารถออกมายืนสูดอากาศได้
ฝั่งตรงข้ามโต๊ะอาหารเป็นทางไปบันไดทางขึ้นชั้น 2 ห้องครัว ห้องน้ำ และ ห้องนอนชั้นล่าง
จากห้องอาหาร เดินมาจะเจอกับบันไดทางขึ้นชั้น 2 ถัดมาเป็นทางไปห้องครัวซึ่งจะมีการลดระดับบันไดลงไปประมาณ 3 ขั้น
พอเดินลงมาทางฝั่งซ้ายข้างล่างบันไดจะเป็นห้องเก็บของ ซึ่งสามารถเก็บของได้เยอะพอสมควร
เดินถัดมาจะเจอกับโถงที่จะแจกไปยังห้องต่างๆ
ภายในห้องครัวก็จะได้ชุดครัว Built – in ของ Franke แบบนี้เลยโดยจะแบ่งเป็นส่วนเตรียมอาหารและประกอบอาหารเหมือนกับบ้านแบบมารีศ พื้นในส่วนของครัวจะเป็นแกรนิตโต้สามารถทำความสะอาดได้ง่าย
พอออกจากห้องครัวมา ด้านข้างบ้านจะเป็นพื้นที่สำหรับซักล้าง ซึ่งกว้างพอสมควรสำหรับใช้ตากผ้า
ส่วนห้องที่ในแปลนวางเป็นห้องนอน ในบ้านตัวอย่างเค้าจัดเป็นห้องทำงานมาให้ดูว่า ถ้าไม่ทำเป็นห้องนอนก็จัดแบบนี้ได้
โดยห้องนี้จะมีห้องน้ำในตัว ซึ่งมีพื้นที่อาบน้ำมาให้พร้อม
ส่วนห้องน้ำรวมชั้นล่างจะไม่มีพื้นที่อาบน้ำมาให้ แต่มีอ่างล้างหน้า โถปัสสาวะชาย และ โถสุขภัณฑ์มาให้ครบ
บันไดทางขึ้นชั้น 2 พื้นบันไดของบ้านหลังนี้ซึ่งเป็นบ้าน Type เล็กสุดจะได้เป็นไม้แดง ราวจับเป็นไม้และกระจกแบบเดียวกับบ้านแบบมารีศ
ขึ้นมาจะเจอกับโถงก่อนที่จะแจกไปยังส่วนต่างๆ โดยชั้นบนนี้จะมีเฉพาะห้องนอน พื้นชั้นบนทั้งหมดของบ้านนี้เป็นไม้แดง
เรามาดูห้องนอนเล็กห้องแรกกัน ห้องนี้จะเป็นห้องที่มีระเบียงด้วย เปิดประตูเข้ามาทางฝั่งซ้ายจะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า ซึ่งผนังด้านในมีช่องหน้าต่างทำให้พื้นที่รอบๆสว่างขึ้น
ในห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินดูสวยดี มีทั้งพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียก
ด้านหลังโถสุขภัณฑ์เป็นผนังก่อเอาไว้เดินงานระบบ มีบ่ายื่นออกมาสามารถวางของเล็กๆน้อยๆได้ และด้านหลังมีบานหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศ
พื้นที่อาบน้ำห้องนี้ มีให้ทั้งใช้ฝักบัว และ Rain shower
ถัดมาเป็นส่วนของห้องนอน ซึ่งผนังด้านข้างเป็นประตูบานเลื่อนทางออกไปที่ระเบียง
ประตูทางออกไประเบียงเป็นบานเลื่อน เลื่อนเปิดออกด้านข้างทั้ง 2 ฝั่ง
ระยะปลายเตียงเหลือค่อนข้างเยอะ วางตู้วางทีวีและมีระยะเหลือพอสมควรเลย
ห้องต่อไปที่จะพาไปชมคือห้องนอนใหญ่ ห้องนี้จะได้ระเบียงที่ค่อนข้างกว้าง เตียงวางหันหน้าไปรับวิวที่บริเวณหน้าต่างฝั่งตรงข้าม ซึ่งการจัดแปลนแบบนี้เราจะเห็นกันบ่อยๆตามในรีสอร์ท
ระเบียงห้องนี้ค่อนข้างกว้าง ยาวต่อเนื่องกันเป็นรูปตัวแอล มีมุมสำหรับนั่งพักผ่อน
โดย Condensing Unit ของแอร์จะอยู่หลบมุมบริเวณระเบียง หันเป่าลมร้อนออกด้านนอกตัวบ้าน พื้นปูเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ลายไม้
กลับมาดูที่ทางฝั่งหัวเตียงจะขนาบด้วยประตูทางเข้าห้องและประตูห้องน้ำ พื้นที่รอบๆเตียงมีเหลือค่อนข้างเยอะ
ประตูห้องน้ำเป็นประตูบานเลื่อนไม้ มีรางเลื่อนด้านบนเปิดปิดได้แบบนี้
ภายในห้องน้ำมีทั้งพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียก สุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของ American Standard ด้านหลังโถสุขภัณฑ์มีก่อผนังออกมาเพื่อเดินงานระบบและสามารถใช้วางของเล็กๆน้อยๆได้
ฝั่งตรงข้ามโถสุขภัณฑ์เป็นพื้นที่อาบน้ำกั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำ
บริเวณด้านข้างโถสุขภัณฑ์จะมีบานหน้าต่าง เปิดออกมามีพื้นที่ Service แบบรูปทางด้านขวา
ส่วนฝั่งตรงข้ามพื้นที่อาบน้ำเป็นอ่างอาบน้ำ อยู่เข้ามุมไปนิดเวลาเข้าใช้งานอาจจะต้องปีนขึ้นไปหน่อย แต่ก็ค่อนข้างเป็นส่วนตัวค่ะ
ห้องต่อมาเป็นห้องนอนที่ไม่มีระเบียง แต่มีหน้าต่างสำหรับเปิดชมวิวและระบายอากาศ บ้านจริงฝ้าเพดานที่ได้จะเป็นแบบเรียบแต่บ้านตัวอย่างมีการยกฝ้าเพดานขึ้นไปและซ่อนไฟช่วยให้ห้องดูโปร่งและสว่างมากขึ้น
ด้านข้างเตียงฝั่งที่ติดกับประตูทางเข้ามีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าอยู่หน้าห้องน้ำ พออกจากห้องน้ำก็สามารถออกมาแต่งตัวได้เลย
ในห้องน้ำมีทั้งส่วนแห้งและส่วนเปียก และมีหน้าต่างระบายอากาศเช่นกัน จะเห็นว่าบ้านของโครงการนี้ห้องน้ำทุกห้องจะมีหน้าต่างระบายอากาศทุกห้อง ซึ่งดีตรงที่ทำให้ห้องระบายอากาศได้ดีและมีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาทำให้ไม่อับชื้น
ห้องนี้อ่างล้างหน้าจะวางอยู่บนเคาน์เตอร์ มีพื้นที่วางของด้านข้างเล็กน้อย ตัวอ่างจะอยู่ติดกับโถสุขภัณฑ์
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 21 July 2016
- บ้านแบบ หิมาลายา แปลง 188/3 ที่ดิน 386.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 737 ตร.ม. ราคา 54.60 ล้านบาท
- บ้านแบบ เหมราชอัสดร แปลง 188/9 ที่ดิน 125.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 641 ตร.ม. 5 ราคา 29.26 ล้านบาท
- บ้านแบบ วารีกุญชร แปลง 188/33 ที่ดิน 242.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 655 ตร.ม.ราคา 39.94 ล้านบาท
- บ้านแบบ มารีศ แปลง 188/32 ที่ดิน 222 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 459 ตร.ม. ราคา 31.95 ล้านบาท
- บ้านแบบ กินรี แปลง 118/37 ที่ดิน 102.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 353 ตร.ม. ราคา 18.89 ล้านบาท
- จอง บ้านแบบหิมาลายา 500,000 บาท , บ้านแบบอื่นๆ 200,000 บาท
- ทำสัญญา 20 %
- ดาวน์ 10 %
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตร.วาละ 88,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
โครงการ Himma Prestige Living ตั้งอยู่บนถนนโชตนา ในจังหวัดเชียงใหม่ ตัวทำเลจะไม่เหมือนโครงการบ้านในตัวเมืองทั่วไปเพราะเป็นบ้านพักตากอากาศ จึงเน้นการอยู่อาศัยเพื่อพักผ่อน ซึ่งทำเลนี้จะอยู่ระหว่างทางไปออกอำเภอแม่ริมที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เดินทางไปสนามบินสะดวก ใกล้สวนลานนาร.9 สนามกอล์ฟ และ ศูนย์ราชการต่างๆ เป็นต้น เหมาะกับคนที่ต้องการมาพักผ่อน หรือ ชาวต่างชาติที่ต้องแวะมาทำงานที่เชียงใหม่บ่อยๆ ได้สภาพแวดล้อมและวิวทิวทัศน์ที่ดี บางหลังมองออกมาจากระเบียงก็จะเห็นวิวดอยสุเทพ อยู่ติดกับธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งจะช่วย Protect เรื่องความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง และโครงการก็มีป้อม รปภ. ทั้งที่อยู่ด้านหน้าโครงการ และ อีกชุดหนึ่งด้านในโครงการเป็น Double Security
การเดินทางสามารถเข้าไปในตัวเมืองและไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆได้สะดวก โดยจะขับตรงไปแม่ริม หรือจะใช้ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ไปยังจังหวัด ลำพูน ลำปาง ถ้าอยากไปเดินเล่น ทานข้าว เดินในตัวเมืองก่อนเข้าบ้านก็สามารถตรงออกไปถนนนิมมานเหมินทร์ได้ ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถจะค่อนข้างลำบากหน่อย เพราะโครงการอยู่ห่างจากตัวเมืองพอสมควร
สถานที่สำคัญที่ใกล้ๆกับโครงการคือ ธนาคารแห่งประเทศไทย ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ และ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และยังมี ศูนย์ประชุมนานาชาติเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รพ.กรุงเทพฯ รพ.ล้านนา อยู่ในบริเวณใกล้เคียง จุดเด่นของที่ตั้งโครงการอีกอย่างหนึ่งคือตรงข้ามกับสวนลานนา ร.9 สวนสาธารณะขนาดใหญ่ และข้างๆกับสวนลานนา ร.9ก็คือ Lanna Golf Course สถานที่ออกกำลังกายสำหรับนักกอล์ฟที่ชื่นชอบสนามแบบธรรมชาติ
การออกแบบของโครงการนี้มี Concept ค่อนข้างเด่นชัดคือป่าหิมพานต์ ซึ่งจะมีการแทรกอยู่ในการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางและตัวบ้าน การวางผังบ้านให้มีลำน้ำอยู่รอบๆ มีการจัดสวนให้บรรยากาศร่มรื่นเหมือนป่า แต่อาจจะต้องระวังเรื่องความปลอดภัยเพราะไม่มีรั้วบริเวณด้สนหลังบ้าน การออกแบบตัวบ้านทำออกมาได้ดีมีความร่วมสมัยระหว่างสไตล์ไทยล้านนาและโมเดิร์น เหมาะกับการอยู่อาศัยร่วมกับธรรมชาติ มีการเล่นระนาบ เล่นเส้นสายทำให้ตัวบ้านดูมีมิติ การวางพื้นที่ใช้สอยในบ้านมีการแยกส่วน Private และ Public จัดพื้นที่ในบ้านแต่ละโซนมาได้ดูกว้างดี และมีการเปิดหน้าต่างหรือช่องแสงเพื่อให้ได้วิวและรับลมซึ่งเป็นส่วนที่ดีของบ้านพักตากอากาศ แต่การออกแบบภายในอาจจะดูโล่งๆไปหน่อย
วัสดุให้มาค่อนข้างดี พื้นให้เป็นพื้นไม้มะค่าและไม้แดง กระเบื้องในห้องน้ำเลือกลายมาได้สวยและหลากหลาย เฟอร์นิเจอร์แบบ Fully-fitted คือ ให้ชุดครัว Built – in ของ Franke วัสดุเป็นโครงไม้กรุลามิเนตพร้อม เตาไฟฟ้า อ่างล้างจาน และเครื่องดูดควัน , สุขภัณฑ์ , แอร์ , เครื่องทำน้ำอุ่น , ระบบ Home Automation และ ระบบรักษาความปลอดภัยของ Bosch แต่ราคาของตัวบ้านก็ค่อนข้างสูงตามมาด้วย ซึ่งต้องพิจารณาเอาตามความชื่นชอบและความพึงพอใจว่าจะคุ้มค่ากับราคาหรือไม่
ถึงแม้ว่าโครงการนี้เป็นโครงการบ้านระดับหรูซึ่งคนก็ไม่ค่อยออกมาใช้พื้นที่ส่วนกลางกันซักเท่าไหร่ แต่สาธารณูปโภคก็จัดมาให้ครบทั้งClubhouse ที่มีสวนหย่อม ฟิตเนส ห้องโยคะ สระว่ายน้ำ Business Lounge มี Free Wi-Fi ที่พื้นที่ส่วนกลาง Sauna&Steam อยู่ในตัว การดูแลรักษาโครงการค่อนข้างโอเคทั้งส่วนกลางและพื้นที่สีเขียว ค่าส่วนกลางของโครงการนี้เก็บอยู่ที่ 40บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน พอสมน้ำสมเนื้อกับส่วนกลางและพื้นที่ของโครงการ
Judgement
เนื่องจากเป็นบ้านพักตากอากาศ ที่มีราคาอยู่ในระดับ SUPER LUXURY ความคุ้มค่าด้านราคาไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อ ความคุ้มค่าด้านอารมณ์ คือ ปัจจัยหลักอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งตราบเท่าที่ทางเรายังไม่สามารถวัดค่ามาตรฐานทางอารมณ์ได้ จึงไม่สามารถให้คะแนนได้ค่ะ
BOTTOM LINE
Himma Prestige Living เหมาะกับคนที่มองหาบ้านพักตากอากาศระดับหรูในสไตล์ร่วมสมัย มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้ มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี ค่อนข้างเป็นส่วนตัว บรรยากาศเงียบสงบ วิวดี เดินทางเข้าในตัวเมืองสะดวกอยู่ใกล้สวนหย่อมและสนามกอล์ฟ มีงบประมาณอยู่ที่ 18 – 120 ล้านบาท
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )