รีวิวฉบับที่ 1132 … สวัสดีค่ะวันนี้จะพาขึ้นเหนือไปชมโครงการในจังหวัดเชียงใหม่กับ Himma Garden Luxury Resort Condominium II ซึ่งเป็นคอนโดตากอากาศ ตั้งอยู่บนถนนโชตนา ติดกับธนาคารแห่งประเทศไทยสำนักงานภาคเหนือ ใกล้สวนลานนา ร.9 , สนามกอล์ฟลานนา, ศูนย์ราชการ และไม่ไกลจากศูนย์ประชุมนานาชาติแห่งใหม่ เราไปชมกันค่ะ
Fact @ 21 July 2016
- Himma Garden Luxury Resort Condominium II (ฮิมมา การ์เด้นท์ ลักชัวรี่ รีสอร์ท คอนโดมิเนียม 2 )
- บริษัท ฮิมมา เพรสทิจ ลิฟวิ่ง จำกัด
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่บน : ถนนโชตนา อำเภอ เมือง จังหวัด เชียงใหม่
- คอนโด Low Rise 5 ชั้น 1 อาคาร 53 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 10 ยูนิตที่ชั้น 5
- ที่จอดรถประมาณ 53 คันคิดเป็น 100 % ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 1-3-95 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : 2558
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : สิงหาคม 2559
- 1 Bedroom 31 – 50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.6 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 54 – 70 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.6 ล้านบาท
- Duplex 55 – 101ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.8 เมตร (ห้อง Duplex 5.5 เมตร)
- ราคาห้องเริ่มต้น 2.63 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 82,950 บาท/ตร.ม.
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด n/a บาท/ตร.ม.
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 053 – 222221 , 098 – 5699549
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 18.821162, 98.982913
แผนที่จากทางโครงการค่ะ โครงการนี้มีจะมีทั้งส่วนที่เป็นบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม ในรีวิวฉบับนี้เราจะพูดถึงคอนโดมิเนียมเป็นหลักนะคะ
เชียงใหม่ เป็นเมืองเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมประเพณีอันสวยงาม ในปัจจุบันมีการผสมผสานวัฒนธรรมความเป็นเมืองเก่ากับความเป็นชุมชนเมืองได้อย่างลงตัว ทำให้เมืองเชียงใหม่นั้นมีเสน่ห์ และเป็นอีกจุดหมายอันดับต้นๆ ของประเทศไทยที่ใครๆก็อยากเดินทางมาท่องเที่ยว พักผ่อน และมีหลายคนเลือกเมืองนี้เป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศ
ทำเลของโครงการตั้งของ Himma Garden Luxury Resort นั้นอยู่ติดกับธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ บนถนนโชตนาซึ่งใช้เป็นเส้นทางไปออกอำเภอแม่ริม ตอนบนของตัวเมืองเชียงใหม่ที่มีแหล่งท่องเที่ยวและเป็นทางผ่านไปยังอำเภอปายอีกด้วย ถือเป็นทำเลที่อยู่อาศัยใหม่ที่ขยายตัวมาจากในตัวเมือง นอกจากนี้บริเวณรอบๆโครงการยังมีสถานที่สำคัญอีกหลายแห่งซึ่งเดี๋ยวเราค่อยๆมาดูกันค่ะ การเดินทางไปยังที่ต่างๆสามารถเข้าไปในตัวเมืองได้สะดวกโดยขับตรงไปออกถนนช้างเผือกเข้าในตัวเมือง หรือใช้ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ไปยังจังหวัดใกล้เคียงอย่าง ลำพูน ลำปาง ถ้าอยากไปเดินเล่น ทานข้าวก็ใช้ไปออกถนนนิมมานเหมินทร์แหล่งท่องเที่ยว ดื่ม กิน ที่ขึ้นชื่อของเชียงใหม่ได้อีกด้วย เนื่องจากถนนในเชียงใหม่มีลักษณะตัดออกไปรอบๆ ตัวเมืองชั้นในแบบใยแมงมุมจึงสามารถใช้เส้นทางเชื่อมกันได้ทั้งหมด การจราจรก็มีติดขัดบ้างบริเวณใกล้ๆกับสถานที่สำคัญ
สำหรับสถานที่สำคัญโครงการจะอยู่ติดกับธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือเลย ซึ่งบนถนนเส้นเดียวกันยังมีสถานที่ราชการที่สำคัญอย่าง ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ และ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และยังมี ศูนย์ประชุมนานาชาติเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รพ.กรุงเทพฯ รพ.ล้านนา อยู่ในบริเวณใกล้เคียง จุดเด่นของที่ตั้งโครงการอีกอย่างหนึ่งคือตรงข้ามกับสวนลานนา ร.9 สวนสาธารณะขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า ประมาณ 169 ไร่ สามารถออกมาเดินเล่นชมวิว หรือ ออกกำลังกายได้ และข้างๆกับสวนลานนา ร.9ก็คือ Lanna Golf Course สถานที่ออกกำลังกายสำหรับนักกอล์ฟที่ชื่นชอบสนามแบบธรรมชาติ ภายในประกอบไปด้วย สนามฝึกซ้อมกอล์ฟ, สนามเทนนิส, ห้องออกกำลังกายและ สระว่ายน้ำ ถ้าอยากจะไปเดินเล่น ช้อปปิ้งก็มี Central Festival ที่อยู่บริเวณแยกศาลเด็กบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ หรือ จะไปถนนนิมมานฯก็ไม่ไกลค่ะ
เนื่องจากถนนในตัวเมืองเชื่อมกันหมดเราจึงสามารถขับรถเข้าไปหาอะไรทานในราคาที่สบายกระเป๋าได้ในตัวเมืองค่ะ เริ่มจากถ้าใช้เส้นซุปเปอร์ไฮเวย์ตรงมาเรื่อยๆก็จะมาเข้าสู่ถนนนิมมานเหมินทร์ ย่านฮิปสตรีทที่รวมร้านค้า ร้านนั่งชิลและ ร้านอาหารไว้มากมาย นอกจากนั้นยังมีตลาดวโรรส ตลาดที่คนมักมาซื้อไส้อั่วแคบหมูไปเป็นของฝาก , ถนนคนเดินเชียงใหม่ , เชียงใหม่ ไนท์ บาซาร์ และ ถนนคนเดินท่าแพ เป็นต้น
สำหรับรถไฟฟ้านั้นในเมืองเชียงใหม่ก็มีแผนพัฒนาเหมือนกัน แต่เป็นแผนระยะยาวซึ่งต้องติดตามดูกันต่อไป โดยที่ตั้งโครงการจะอยู่ตรงกับรถไฟฟ้าสายสีทอง สถานีสวนหลวงร.9พอดี
การเดินทางในวันนี้เราเริ่มจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ วิ่งตรงมาออกถนนนิมมานเหมินทร์ ตรงเข้าถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ จากนั้นเบี่ยงซ้ายแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนโชตนา ไปกลับรถบริเวณหน้าสวนลานนา ร.9 เข้าสู่โครงการ โดยจุดสังเกตคือโครงการจะติดกับธนาคารแห่งประเทศไทย
เริ่มจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ คราวนี้คนพื้นที่บอกเรามาว่า ให้ลองใช้ทางที่วิ่งผ่านกองบิน 41 มันจะไปออกถนนนิมมานฯได้เลยโดยไม่ต้องผ่านเข้าไปในตัวเมืองและรถไม่ติด แต่ทางนี้จะผ่านได้เฉพาะรถที่มีสติกเกอร์เท่านั้น ซึ่งบุคคลธรรมดาก็สามารถเข้าไปขอทำได้
พอตรงผ่านกองบินมาจะเจอกับแยกที่ตัดกับถนนสุเทพ ถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นทางไปรพ.มหาราช หรือ รพ.สวนดอก โรงพยาบาลรัฐอันดับ 1 ในเชียงใหม่ ส่วนทางซ้ายเป็นทางไปมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ตรงมาเรื่อยๆจะเข้าสู่ถนนนิมมานเหมินทร์ ถนนสายสำคัญที่เป็นแหล่งรวมความทันสมัย ร้านอาหาร ความบันเทิง มาได้ทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืน
ตรงมาตามทาง พอใกล้ๆแยกรินคำทางด้านขวาจะเห็นตึกกำลังก่อสร้างอยู่ ไปถามคนท้องที่เค้าบอกว่าจะเป็น Community mall แห่งใหม่
พอถึงแยกรินคำก็จะมี Think Park Community mall ของคุณตัน และ ศูนย์การค้า MAYA แยกนี้จะมีปริมาณรถที่ค่อนข้างหนาแน่นเลยทีเดียว
พอเลยแยกริมคำมาก็จะเข้าสู่ถนน ซุปเปอร์ไฮเวย์ เป็นถนนเส้นหลักของการเดินทางเข้า-ออกจังหวัดเชียงใหม่ สามารถใช้ไปลำพูน ลำปางได้ เราตรงไปเรื่อยๆสังเกตป้าย อ.แม่ริม เอาไว้ค่ะ ถ้าเจอให้เบี่ยงออกทางซ้ายไม่ต้องลงอุโมงค์นะ
พอเจอทางเบี่ยงให้เบี่ยงไปทางซ้าย ตามป้ายไปอ.แม่ริม
ตรงไปตามทางจะเจอทางเลี้ยวซ้ายเข้าถนนโชตนาค่ะ ถ้าลงอุโมงค์จะเป็นทางลอดแยกข่วงสิงห์
เลี้ยวซ้ายเข้าถนนโชตนาค่ะ ถนนเส้นนี้จะเป็นทางไปอ.แม่ริม ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวคือม่อนแจ่ม และ เป็นทางผ่านไปยังอำเภอปายได้อีกด้วย
พอเลี้ยวเข้าถนนโชตนามาได้ซักพักจะเจอกับตลาดสดบริบูรณ์ เป็นตลาดโต้รุ่งมีของกินทั้งกลางวันกลางคืน บริเวณรอบๆยังมีร้านค้า ร้านอาหารอยู่อีก ระยะทางจากโครงการมาที่นี่ไม่ไกลมาก สามารถมาแวะหาอะไรทานได้
ตรงมาอีกทางด้านซ้ายจะเจอกับสวนลานนา ร.9 ถัดไปเป็น Lanna Golf Course ส่วนฝั่งขวาจะเป็นโครงการของเรา อยู่ติดกับธนาคารแห่งประเทศไทย
เนื่องจากโครงการอยู่ฝั่งตรงข้าม เราจะต้องตรงไปกลับรถ บริเวณทางกลับรถจะมี 7 -11 อยู่อีกจุดหนึ่ง
กลับรถมาแล้ว พอเห็นธนาคารแห่งประเทศไทยให้เตรียมชิดซ้ายค่ะ
ถึงแล้วค่ะโครงการ Himma Garden Luxury Resort
ก่อนจะเข้าไปชมภายในโครงการ จะขออธิบายผังรวมคร่าวๆก่อนนะคะ จากถนนใหญ่พอเลี้ยวเข้าซอยมาเราจะเจอกับที่ดินแปลงใหญ่ของบริษัทฯ ซึ่งด้านหน้าเป็นที่ดินเปล่าเอาไว้เตรียมพัฒนาโครงการในอนาคต โดยมีแผนจะทำเป็น Boutique hotel ที่มีร้านอาหาร สปา และ minishop เพื่อเป็น Landmark แห่งใหม่ของทางฝั่งคนที่จะไปเดินทางไปอ.แม่ริม ซึ่งเส้นทางนี้ยังไม่มีโครงการอะไรมาขึ้นมากนัก ถัดไปเป็นพื้นที่ของโครงการคอนโด ประกอบด้วย 3 อาคาร อาคาร A อยู่ด้านในสุดติดกับพื้นที่ของโครงการบ้านเดี่ยว อาคาร B อยู่ฝั่งติดถนน ส่วนอาคาร C ตอนนี้ยังไม่ได้ก่อสร้าง โดยอาคาร A เราเคยเข้ามารีวิวไปแล้ว คราวนี้จะเป็นทีของ อาคาร B บ้าง การออกแบบจะเน้นความเป็นธรรมชาติ อาคาร Aจะมี Concept เป็น Wood ซึ่งจะตกแต่งอาคารทั้งภายนอกภายในด้วยไม้ ส่วนอาคาร B เป็น Stone หรือหิน อาคาร C เป็น Light หรือแสงสว่าง
มาดูของจริงกันค่ะ เข้ามาในโครงการจะเจอกับ รปภ. สแกนคนที่มีบัตรจอดรถถึงจะผ่านเข้าไปได้ ถ้าไม่มีก็ต้องแลกบัตร ทางด้านขวาที่กั้นป้ายไว้คือที่ดินเตรียมพัฒนาเป็นโรงแรม
ตอนนี้ยังเป็นที่ดินเปล่าอยู่ค่ะ จากการสอบถามโครงการแจ้งว่าคาดว่าจะเสร็จในปี 2018
ในป้ายมีติดรูปภาพเอาไว้แบบนี้ ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาแบบค่ะ
ถัดเข้าไปด้านใน ทางด้านขวาเราจะเห็นอาคาร B ของโครงการคอนโดที่เราจะพาไปชมกันค่ะ
โครงการ Himma Garden Luxury Resort ที่เราจะพาไปชมเป็นคอนโด 5 ชั้น (อาคารB) 53 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1-3-95 ไร่ โดยโครงการคอนโดทั้ง 3 อาคารจะอยู่ ระหว่างที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการในอนาคตกับโครงการบ้านเดี่ยว ฝั่งตรงข้ามกับทางเข้าโครงการเป็นสวนลานนาร.9 , สนามฝึกซ้อมกอล์ฟลานนาซึ่งเป็นปอดและแหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญของเมืองเชียงใหม่ ทางฝั่งทิศเหนือของที่ดินติดกับธนาคารแห่งประเทศไทย ส่วนทางทิศใต้เป็นโชว์รูม Toyota พื้นที่โดยรอบส่วนใหญ่ยังคงเป็นที่ดินเปล่าและบ้านพักอาศัยแนวราบ ไม่มีตึกสูงมาบดบังทัศนียภาพค่ะ โดยอาคาร B จะมีพื้นที่แต่ละด้านติดกับ
- ทิศเหนือ – ติดกับถนนทางเข้าโครงการ ซึ่งจะติดกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย
- ทิศตะวันออก – ติดกับ Clubhouse ถัดไปเป็นพื้นที่โครงการบ้านเดี่ยว
- ทิศใต้ – ติดกับ ลานจอดรถของอาคาร และ ถัดไปเป็นโชว์รูม Toyota
- ทิศตะวันตก – ติดกับพื้นที่ทำเป็นอาคาร C ในอนาคต ถัดไปเป็นที่ดินเปล่ารอการพัฒนาเป็นโรงแรม
ทางทิศเหนือ ติดกับถนนทางเข้าโครงการเป็นถนนภาระจำยอมตัดเข้ามาให้คนในโครงการใช้ร่วมกัน รั้วติดกันคือธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ
ทิศตะวันออก ติดกับ Clubhouse ซึ่งใช้ร่วมกันระหว่างอาคาร A-B-C ด้านหลังที่เห็นในภาพเป็นอาคาร A
ถัดจากทางเข้าอาคาร A จะเป็นที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว
ทิศใต้ ติดกับ ลานจอดรถของอาคาร และ ถัดไปเป็นโชว์รูม Toyota
สุดท้าย ทิศตะวันตก ติดกับพื้นที่ทำเป็นอาคาร C ในอนาคตซึ่งตอนนี้ล้อมรั้วเอาไว้อยู่ ถัดไปจึงเป็นโรงแรม
ส่วนนี่เป็นผังซูมของทั้ง 3 อาคารซึ่งจะแยกทางเข้าออกและลาจอดรถกันชัดเจน ที่จอดรถจะอยู่ที่ลานด้านล่างจอดได้อาคารละ 100% เพราะแต่ละอาคารมีจำนวนยูนิตไม่มาก และมีพื้นที่จอดรถมาให้เยอะพอสมควร เรามาดูวิวแต่ละทิศของอาคาร B กันค่ะ
เริ่มจาก ทิศเหนือ จะเห็นวิวธนาคารแห่งประเทศไทย และถนนทางเข้าหลักของโครงการ
ทิศตะวันออก เห็นเป็นบางส่วนของอาคาร A , Clubhouse และโครงการบ้านเดี่ยว
ทิศใต้ เห็นเป็นอาคารจอดรถด้านหลังและโชว์รูม Toyota ค่ะ
ทิศตะวันตก ทิศนี้อาจจะร้อนหน่อยแต่ก็ได้วิวค่อนข้างดีคือวิวดอยสุเทพค่ะ พื้นที่เขียวๆด้านหน้าคือพื้นที่ทำอาคาร C และ พื้นที่โครงการในอนาคต
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- ธนาคารแห่งประเทศไทย ~ 200 เมตร (ระยะเดิน)
- สวนลานนาร.9 ~ 250 เมตร (ระยะเดิน)
- สนามกอล์ฟลานนา ~ 800 เมตร
- ตลาดสดบริบูรณ์ ~ 1 กิโลเมตร
- ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ~ 3.2 กิโลเมตร
- ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เชียงใหม่ ~ 3.2 กิโลเมตร
- Maya Shopping mall ~ 3.4 กิโลเมตร
- ถนนนิมมานเหมินทร์ ~ 3.6 กิโลเมตร
- Think Park ~ 3.6 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลลานนา ~ 4.7 กิโลเมตร
โครงการ Himma Garden Luxury Resort Condominium เป็นคอนโดตากอากาศ Low Rise 5 ชั้น โดยชื่อ Himma มาจากคำว่า Himalaya มีแนวคิดการออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติ โดยอาคาร B เป็นตึก Stone หรือ หิน การตกแต่งอาคารภายนอกจึงใช้สีเทา สีน้ำตาล มีการติดหินประดับบริเวณซุ้มทางเข้า ตัวอาคารมีลูกเล่นบริเวณชั้นบนที่บิดมุมรับวิวทั้ง 4 ฝั่ง ที่จอดรถจะอยู่หลังอาคารโดยจอดได้ 100% เป็นที่จอดรถกลางแจ้งทั้งหมด ชั้นล่างจะมี Lounge เล็กๆสำหรับนั่งพักผ่อน ส่วน Facilities ทั้งหมดจะอยู่บริเวณ Clubhouse ใช้ร่วมกันทั้งอาคาร A-B-C สำหรับห้องพักจะเริ่มที่ชั้น 1 เลยมีห้องตั้งแต่ 1 – 2 ห้องนอน เริ่มต้นที่ 31 ตร.ม. ชั้นบนจะเป็นห้อง Duplex ทั้งหมด
ชั้นบนหรือห้อง Duplex มีการปาดมุมเฉียงเป็นยูนิตชมจันทร์ทั้ง 4 มุม
ทางเข้าที่จอดรถจะอยู่ด้านข้างตัวอาคารค่ะ จะต้องขับผ่านไม้กระดกเข้าไป ด้านในเป็นลานจอดรถจอดกลางแจ้งได้ 100%
ด้านหน้ามีที่จอดสำหรับผู้มาติดต่ออีกประมาณ 3 คัน
ด้านข้างมีจัดเป็นสวนอังกฤษเล็กๆ ให้บรรยากาศดูร่มรื่น
จากตัวอาคารเดินไปอีกหน่อยทางฝั่งขวาจะเป็น Clubhouse ที่ให้คอนโดใช้ร่วมกัน ส่วนด้านในสุดเป็นทางไปโครงการบ้านเดี่ยวค่ะ
หน้าตาของ Clubhouse ทางด้านหน้าค่ะ
จากรูปทรงของอาคารและหลังคาแล้วสมกับเป็นที่พักตากอากาศ ได้อารมณ์รีสอร์ทนิดๆ
ด้านข้างมี jogging track เล็กๆ สำหรับใช้มาเดินเล่นออกกำลังกาย มีปลูกต้นไม้ให้ร่มเงา ร่มรื่นดี
ทางเข้า Clubhouse ทางด้านซ้ายเป็นสำนักงานขาย ส่วนทางด้านขวาเป็นห้องประชุม
บริเวณหน้าห้องประชุม หลังคาตรงนี้ทำออกมาได้อารมณ์รีสอร์ทดี
สำนักงานขายค่ะ มีติดป้ายบอกว่ามี Facilities อะไรบ้าง
ก่อนทางไปสระว่ายน้ำทั้ง 2 ฝั่งมีทำเป็นบ่อน้ำเล็กๆ ตรงกลางเป็นบ่อบัว เพื่อเพิ่มบรรยากาศ
ติดๆกับบ่อบัวเป็นทางไปห้องออกกำลังกาย
ห้องฟิตเนสผนังด้านหน้าเป็นกระจก ออกกำลังกายไปชมวิวสระว่ายน้ำไป ใส่เครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 8 ชิ้น
ออกมาจากฟิตเนสจะเจอพื้นที่ Double Space มีที่นั่งพักคอย ด้านบนเป็นสำนักงาน ส่วนถัดไปเป็นสระว่ายน้ำ
มีชุดที่นั่งสำหรับนั่งพักผ่อน หรือ พักคอย
ถัดไปเป็นสระว่ายน้ำ สระผู้ใหญ่มีขนาด 6.4 x 10.2 เมตร ลึก 1.5 เมตร สระเด็กมีขนาด 3.6 x 5.2 เมตร ลึก 0.5 เมตร
บริเวณด้านข้างสระ ฝั่งหน้าห้องฟิตเนสมีที่นั่งพักผ่อน แบบม้านั่งยาวเรียงกันอยู่ 4 ตัว
สระเด็กกั้นด้วยขอบปูนแบบนี้ รอบสระมีช่องสำหรับระบายน้ำจะได้ไม่ล้นออกมาที่บริเวณพื้นรอบๆสระ
มุมมองอีกฝั่งหนึ่งค่ะ
อีกฝั่งจะมีห้องน้ำ และ ห้อง Sauna & Steam มาให้ด้วย
บรรยากาศภายในห้องน้ำค่ะ มีอ่างล้างหน้าและห้องน้ำ
ส่วนห้อง Sauna & Steam มีล็อคเกอร์มาให้ด้วย
และมีห้องน้ำกับห้องอาบน้ำ
ถัดมามีห้อง Shower room ให้อีก ซึ่งรวมๆแล้วให้มาเยอะพอสมควร น่าจะพอเพียงกับการใช้งาน
บรรยากาศในห้องอาบน้ำ แบ่งเป็นห้องๆ เรียงกันแบบนี้
ถัดไปเป็นพื้นที่ล้างตัวก่อน หรือ หลังลงสระว่ายน้ำ
มองจากมุมนี้จะเห็นอาคาร A ซึ่งตกแต่งใน Concept Wood ด้วยค่ะ
กลับมาที่ตัวอาคาร B ทางเข้าจะทำเป็นซุ้มทรงสูง มีปลูกต้นไม้นำสายตาเข้าไปแบบนี้
ผังของอาคารชั้นล่างพอเดินขึ้นมา จากทางเข้าทางฝั่งขวาจะมี Lounge เล็กๆสำหรับนั่งพักผ่อน ตู้จดหมายก็จะอยู่ในห้องนี้ด้วย และจะมีพื้นที่สำหรับนิติบุคคลรวมอยู่ด้วย เข้ามาในอาคารจะเจอ Hall ก่อนโดยมีลิฟต์อยู่ด้านหลัง เป็นลิฟต์โดยสารแบบล็อคชั้น 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ 27:1 ค่อนข้างดีเพราะมีจำนวนยูนิตที่น้อย ไม่มีลิฟต์บริการ แต่มีบันไดหนีไฟ ทางเดินจะอยู่รอบๆโถงลิฟต์ ห้องพักจะเริ่มจากชั้นนี้เลย การวางผังห้องพักจะวางอยู่รอบๆโถงลิฟต์ ห้องใหญ่จะอยู่บริเวณหัวมุม ในแต่ละชั้นจะมีจำนวนห้องไม่เยอะจึงค่อนข้างเป็นส่วนตัว อย่างชั้นนี้มีจำนวน 11 ห้องต่อชั้นเท่านั้น
ชั้น 2 – 4 การวางผังคล้ายชั้นล่างเลย แต่มีตรงส่วนห้องที่ชั้นล่างทำเป็น Lounge เพิ่มเข้ามา ตรงส่วนด้านหน้าอาคารมีช่องเปิดยาวตั้งแต่ชั้น 1 ไว้รับแสงธรรมชาติและระบายอากาศ
ส่วนชั้น 5 จะเป็นห้องแบบ Duplex Unit ทั้งหมด 10 ห้องซึ่งนานๆทีเราจะได้เห็นคอนโด Low Rise ทำห้อง Duplex Floor ตรงส่วนมุมปาดเฉียงสำหรับทำเป็นระเบียงไว้นั่งชมวิว
ทางเข้าด้านหน้าทำเป็นซุ้มทรงสูง ด้านบนเจาะช่องแสง ผนังทั้งสองข้างมีปลูกต้นไม้ให้เข้ากับแนวความคิดโครงการที่เน้นธรรมชาติ อาคารนี้จะตกแต่งด้วยหินตามชื่ออาคาร Stone
ด้านล่างของผนังจะปลูกเป็นต้นไม้จริง ส่วนด้านบนๆเป็นต้นไม้ปลอมเพื่อให้สะดวกในการดูแลรักษา
ทางขึ้นมีทั้งแบบที่เป็นบันไดและทางลาด
ขึ้นมาทางฝั่งขวาจะเป็นทางไป Lounge ต้องเข้าจากด้านนอกอาคาร ส่วนในอาคารต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าไป
ภายใน Lounge มีชุดที่นั่งเล็กๆ และมีส่วนของนิติบุคคลรวมอยู่ด้วย
บรรยากาศอีกมุมหนึ่ง หน้าห้องจะมีตู้จดหมายอยู่ ซึ่งจะแยกอาคารใครอาคารมัน
เข้ามาในตัวอาคารจะเจอกับโถงเล็กๆก่อน โครงการมีวางชุดโซฟาไว้ให้เพื่อใครจะนัดเจอกันจะได้นั่งพักบริเวณนี้ก่อน
ตรงโถงจะเป็นช่องโล่งไปจนถึงชั้นบนเพื่อเปิดรับแสงและทำให้อากาศในตัวอาคารหมุนเวียนได้ดีขึ้น
ชั้นนี้จะเริ่มเป็นชั้นของห้องพักอาศัยเลย เพราะFacilities แยกออกไปอยู่ตรง Clubhouse แล้ว
ถัดจากส่วนโถงจะเป็น โถงลิฟต์มีทั้ง 2 ตัวเป็นลิฟต์โดยสาร
หน้าตาปุ่มกดลิฟต์ของ Schindler
ด้านในของลิฟต์ค่ะ
ลิฟต์เป็นแบบล็อคชั้นต้องใช้การ์ดมาทาบบริเวณแถบดำๆก่อน จึงจะกดชั้นได้
ปุ่มกดลิฟต์ของคนพิการ ด้านล่างมีราวจับสแตนเลสมาให้ด้วย
ช่องแสงที่เจาะทำให้ภายในตัวอาคารในเวลากลางวันสว่างแบบนี้
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby/Lounge
- สระว่ายน้ำ 1 สระ สระผู้ใหญ่ขนาด 6.4 x 10.2 เมตร ลึก 1.2 เมตร , สระเด็กลึกขนาด 3.6 x 5.2 เมตร ลึก 0.5 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 8 เครื่อง
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- Jogging Track
- Suana / Steam
- BBQ Terrace
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อ/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 27 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 53 คันคิดเป็น 100% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- Wi-Fi ฟรีที่ส่วนกลาง
- ระบบ CCTV / Access Card
ต่อมาจะพาไปชมห้องตัวอย่างซึ่งทางโครงการทำมาให้ชมทั้งหมด 2 แบบคือห้อง 1 ห้องนอน 49.46 ตร.ม. และ 2 ห้องนอน 54.11 ตร.ม. เฟอร์นิเจอร์จะได้แบบ Fully-Fitted คือ Wallpaper , ชุดครัว , ตู้เสื้อผ้า , สุขภัณฑ์ , เครื่องทำน้ำร้อน , แอร์ และ Digital Door Lock สำหรับสไตล์อาคาร A จะมีให้เลือกทั้ง Modern Lanna , Contemporary และ Zen แต่อาคาร B จะมีแบบเดียวในสไตล์ Modern เรียกว่าแบบ New Concept
เรามาเริ่มกันที่ห้อง 1 ห้องนอน 49.46 ตร.ม. กันก่อนค่ะ ห้องนี้เข้ามาจะเจอส่วนของครัวก่อน ซึ่งเป็นครัวเปิดเหมาะกับการซื้อกับข้าวมาทานหรือเตรียมอาหารง่ายๆ เคาน์เตอร์ครัวมีขนาดใหญ่พอสมควรมีพื้นที่สำหรับวางชุดโต๊ะทานข้าวข้างๆเคาน์เตอร์ ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า ถัดมาเป็นห้องน้ำแบบไม่มีพื้นที่อาบน้ำหรือ powder room ซึ่งมีประตูเชื่อมต่อกับห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ที่มีพื้นที่อาบน้ำ อ่างอาบน้ำ แต่ไม่มีโถสุขภัณฑ์ ข้อดีคือเวลาแขกมาหรือเรากำลังจะออกจากห้องแล้วอยากทำธุระก็สามารถเข้าห้อง powder room ได้เลย แต่ถ้าเราอยู่ในห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ อาบน้ำเสร็จแล้วอยากจะเข้าห้องน้ำก็ต้องเดินออกจากห้องน้ำมาเข้าที่ powder room แต่มีการจัดโซนให้อยู่ในบริเวณเดียวกันทำให้เดินไปใช้งานได้สะดวกค่ะ ถัดจากส่วนครัวไปเป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งอยู่ติดกับระเบียง นั่งพักผ่อนไปดูวิวไปได้ ระเบียงจัดพื้นที่มาให้ค่อนข้างกว้างและไม่ต้องเผื่อพื้นที่สำหรับเครื่องซักผ้า (เพราะมีที่วางแล้ว) จึงใช้ระเบียงได้เต็มที่ อีกฝั่งของห้องเป็นห้องนอนค่อนข้างกว้างมีที่สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งและ Daybed อีก 1 ตัว ห้องนี้ไม่มีระเบียงแต่มีหน้าต่างเปิดรับวิวค่ะ
ประตูหน้าห้องเป็นโครงไม้กรุลามิเนตลายไม้ มีทั้งมือจับแบบก้านโยก และ Digital Door Lock มาให้
Digital Door Lock ของ Yale เป็นแบบที่ใช้การ์ดก็ได้ กดรหัสก็ได้
พื้นห้องยกระดับสูงกว่า พื้นส่วนโถงทางเดินซึ่งเวลาทำความสะอาดสามารถทำได้ง่าย และช่วยกันฝุ่น ผงจากระเบียงไม่ให้เข้าห้องเราได้ง่ายๆอีกด้วย
เข้ามาในห้องนี้จะเป็นคนละฝั่งกับในแปลนนะคะ เข้ามาจะเจอกับเคาน์เตอร์ครัวก่อน ถัดไปเป็นชุดโต๊ะทานข้าว และพื้นที่นั่งเล่นดูทีวี ห้องนอนและห้องน้ำจะอยู่อีกฝั่งหนึ่ง พื้นส่วนนี้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาวขนาด 60 x 60 cm. ฝ้าเพดานสูง 2.8 เมตร
เคาน์เตอร์ครัวชุดนี้โครงการแถมมาให้ด้วยมีขนาดยาว 2.10 เมตร มีช่องสำหรับวางตู้เย็น ช่องใส่ไมโครเวฟ เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน อ่างล้างจานมาให้ครบ
ฝั่งตรงข้ามด้านล่างเป็นช่องวางเครื่องซักผ้า มีก๊อกน้ำ และปลั๊กไฟติดหน้ากากกันน้ำมาให้ด้วย ด้านบนมีชั้นสำหรับวางของเล็กๆน้อยๆ พื้นตรงส่วนนี้จะเป็นกระเบื้องเซรามิคสีเทาขนาด 30 x 30 cm.
เตาไฟฟ้าที่ได้เป็นเตาแบบ 2 หัวของ Teka Top เคาน์เตอร์เป็นหินแกรนิตสีดำค่ะ
เครื่องดูดควันของ Teka เช่นเดียวกัน
อ่างล้างจานเป็นแบบหลุมเดียว มีที่พักจานด้านข้าง ของ Teka
ฝั่งตรงข้ามติดกับพื้นที่วางเครื่องซักผ้าเป็นห้องน้ำ ประตูวัสดุเดียวกับประตูทางเข้าแต่ด้านล่างเป็นเกล็ดเพื่อระบายอากาศ
ห้องนี้เป็นห้องน้ำที่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ หรือ Powder room เวลาแขกมาหรือเรารีบๆออกจากห้องแล้วอยากเข้าห้องน้ำ ก็มาเข้าที่ห้องนี้ได้ ไม่ต้องเดินอ้อมไปเข้าไกลถึงในห้องนอน พื้นและผนังเป็นกระเบื้องขนาด 60 x 30 cm.
อ่างล้างหน้าของ American Standard ด้านหลังมีปลั๊กติดหน้ากากกันน้ำมาให้ด้วย
ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์ของ American Standard
ถัดจากเคาน์เตอร์ครัวมีพื้นที่วางโต๊ะทานข้าวเล็กๆได้ 2 ที่นั่ง ระยะกำลังพอดี
มุมมองถ่ายย้อนไปที่หน้าห้องค่ะ
ถัดจากโต๊ะทานข้าวเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน ดูทีวี อยู่ติดกับประตูบานเลื่อนออกไปที่ระเบียง ระยะดูทีวีตรงส่วนนี้ประมาณ 1.60 เมตร
มือจับประตูบานเลื่อนเป็นแบบนี้
ระเบียงมีขนาด 2.10 x 1.03 cm. กว้างพอสมควร สามารถเอาเก้าอี้ออกไปวางเพื่อนั่งชิล ชมบรรยากาศได้
พื้นระเบียงมีลดระดับลงมา 7 cm. เพื่อกันน้ำเข้าห้องเวลาฝนตกและเพื่อให้สะดวกในกรณีซักล้าง
อีกฝั่งมีกั้นผนังเพื่อเก็บ Condensing unit มีประตูปิดเป็นระเบียบเรียบร้อย
ราวกันตกเป็นกระจกสูงขุ้นมาจากพื้นประมาณ 1 เมตรนิดๆ ดูสวยทันสมัยดี แต่ต้องหมั่นทำความสะอาดหน่อย
สวิทช์และปลั๊กเป็นของ Siemens ค่ะ
ถัดมาคือห้องนอน ทางเข้าอยู่ติดกับชั้นวางทีวีของห้องรับแขก วัสดุประตูเป็นโครงไม้กรุลามิเนตเหมือนกับประตูทางเข้าหลัก
ห้องนอนกว้างพอสมควรมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้ง และ ข้างเตียงวาง Daybed ได้ 1 ตัว พื้นของห้องนี้เป็นไม้ลามิเนตหนา 12 มม. ห้องนี้ไม่มีระเบียงแต่มีเป็นหน้าต่างบานเลื่อนค่ะ
ปลายเตียงมีพื้นที่วางชั้นเก็บของกว้าง 30 cm.แล้วยังมีระยะเหลือ 60 cm. เปิดบานลิ้นชักออกมาก็ไม่รู้สึกว่าติดจนเกินไป
ข้างเตียงฝั่งซ้ายมีที่ว่างเหลือเยอะ สามารถวาง Daybed ได้แบบนี้เลย
ด้านขวาของเตียงมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งได้แบบนี้
อีกฝั่งเป็นห้องน้ำที่ผนังฝั่งอ่างอาบน้ำเป็นกระจก ได้บรรยากาศแบบรีสอร์ท การที่ดันโถสุขภัณฑ์ไปอยู่ห้อง Powder room ด้านหน้าทำให้เวลาเรามองเข้าไปจะไม่เห็นโถสุขภัณฑ์ หน้าห้องน้ำมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า
ถ่ายจากข้างนอกผ่านกระจกเข้าไปในห้องน้ำ ห้องนี้จะมีอ่างอาบน้ำ อ่างล้างหน้า และ พื้นที่อาบน้ำเท่านั้น พื้นและผนังเป็นแกรนิตโต้ขนาด 60 x 30 cm.
ด้านหลังห้องน้ำเป็นห้อง Powder room กั้นด้วยประตูบานเลื่อนแบบนี้
อ่างล้างหน้าเป็นแบบมีเคาน์เตอร์ด้านล่าง กระจกด้านบนมีช่องให้เก็บของ
อ่างล้างหน้าเป็นทรงสี่เหลี่ยมของ American Standard
ที่เคาน์เตอร์ด้านล่างมีช่องสามารถเก็บของได้ มีเครื่องทำน้ำร้อนซ่อนอยู่บริเวณนี้ด้วย
ห้องนี้จะมีอ่างอาบน้ำด้วย เวลาเหนื่อยๆก็มานอนแช่ตัวได้
ที่ผนังด้านบนมีติดตั้งฝักบัวมาให้
หน้าตาฝักบัวเป็นแบบนี้
อีกฝั่งเป็นพื้นที่อาบน้ำกั้นด้วยประตูกระจกนิรภัย
พื้นที่อาบน้ำลดระดับลงไปประมาณ 3 cm.
ในส่วนนี้จะมีทั้ง Rain Shower และฝักบัวแบบมือถือ เราสามารถเปลี่ยนโหมดได้โดยกดปุ่มตรงกลาง
ฝักบัวแบบมือถือเหมาะกับดึงออกมาใช้อาบ จับได้เหมาะมือ
ห้องต่อมาคือ 2 ห้องนอน 54.11 ตร.ม. เข้าห้องมาจะเจอกับครัวเปิด ที่ฝั่งตรงข้ามมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้า ถัดไปเป็นโต๊ะทานข้าวเช่นเดิม แต่ห้องนั่งเล่นจะอยู่ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวและมีขนาดเล็กกว่า ถัดไปเป็นห้องน้ำรวมที่มีพื้นที่อาบน้ำมาให้ด้วย 1 ห้อง ฝั่งตรงข้ามห้องน้ำเป็นห้องเอนกประสงค์จะทำเป็นห้องนอนเล็กๆก็ได้ หรือจะเป็นห้องทำงานก็ได้ซึ่งห้องนี้จะเป็นห้องที่มีระเบียงด้วย ถัดเข้าไปด้านในเป็นห้องนอนใหญ่ มีกระจกแบบเข้ามุมและมีห้องน้ำในตัว ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่มีทั้งอ่างอาบน้ำและพื้นที่อาบน้ำ ส่วนตำแหน่งวางตู้เสื้อผ้าจะอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ
เข้าห้องมาจะเจอกับครัวก่อนถัดเข้าไปเป็นโต๊ะทานข้าว ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่นั่งเล่นและทางไปห้องนอน ผนังด้านหลังเป็นหน้าต่างเพราะห้องนี้เป็นห้องมุม การตกแต่งห้องนี้จะมีบรรยากาศคล้ายๆกับห้องที่เราพาไปชมเมื่อซักครู่
มุมมองถ่ายย้อนกลับมาทางหน้าห้อง
ทางฝั่งซ้ายจะมีช่องวางเครื่องซักผ้า ส่วนทางฝั่งขวาเป็นช่องวางตู้เย็น
เคาน์เตอร์ครัวห้องนี้ยาว 1.50 เมตร วัสดุเป็นโครงไม้ปิดผิวด้วยลามิเนตแบบเดียวกับห้อง 1 ห้องนอน
ถัดจากเคาน์เตอร์มีพื้นที่ให้วางชุดโต๊ะทานข้าว 2 ที่นั่งได้แบบนี้
ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์เป็นพื้นที่นั่งเล่น ถัดเข้าไปเป็นทางไปห้องน้ำ และ ห้องนอน
พื้นที่นั่งเล่นห้องนี้เล็กกว่าห้องที่แล้ว วางโซฟาได้แบบ 2 ที่นั่ง มีระยะดูทีวีประมาณ 1.10 เมตร
ข้างๆพื้นที่นั่งเล่นเป็นห้องเอนกประสงค์ขนาดประมาณ 2.76 x 2.27 cm. กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน สามารถใช้ทำเป็นห้องนอน หรือ ห้องทำงานได้ ถ้าเราอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็สามารถหาม่านสวยๆมาติดได้
มือจับประตูบานเลื่อนเป็นแบบมาตรฐาน
พื้นของห้องเอนกประสงค์เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 12 มม.
ในห้องนี้จะมีระเบียงอยู่ด้วยกั้นด้วยประตูบานเลื่อน
พื้นที่ระเบียงมีขนาด 1.75 x 0.95 เมตร ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 cm.
มีกั้นพื้นที่วาง Condensing Unit ทำประตูปิดไว้เหมือนกับห้อง 1 ห้องนอน
ถัดจากห้องเอนกประสงค์ ฝั่งขวาเป็นห้องน้ำรวม ส่วนถัดเข้าไปด้านในเป็นห้องนอนใหญ่ โถงทางเดินตรงนี้กว้าง 1.00 เมตร
ห้องน้ำรวมมีพื้นที่อาบน้ำมาให้ด้วย สุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของ American Standard
พื้นห้องน้ำมีลดระดับลงมาเล็กน้อย แผ่นกระเบื้องตรงธรณีมีเก็บงานด้วยเส้นสแตนเลส
อ่างล้างหน้าของแบบทรงกลมของ American Standard
โถสุขภัณฑ์ก็เป็นของ American Standard เช่นกัน ด้านหลังมีก่อผนังสำหรับเดินงานระบบและด้านบนสามารถใช้วางของเล็กๆน้อยๆได้
พื้นที่อาบน้ำกั้นด้วยประตูกระจกนิรภัย ฝักบัวมีทั้งแบบมือถือและRain Shower ให้เลือกใช้
พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1.20 x 0.84 เมตร กว้างพอสมควร บริเวณพื้นมีลดระดับลงมาเล็กน้อย
ถัดมาเป็นห้องนอนใหญ่ พอเปิดประตูเข้ามาจะเจอกบห้องน้ำที่ผนังบริเวณอ่างอาบน้ำเป็นกระจก ห้องน้ำห้องนี้จะมีบานหน้าต่างเล็กๆเอาไว้เปิดระบายอากาศด้วย
การที่ผนังห้องน้ำเป็นกระจกช่วยให้ห้องดูโปร่งถึงแม้ว่าจะมีการกั้นผนัง และให้อารมณ์เป็นห้องพักตากอากาศนิดๆ ซึ่งถ้าเราอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็หาม่านมากั้นได้ค่ะ
หน้าห้องน้ำมีพื้นที่สำหรับวางชุดโต๊ะเครื่องแป้ง
ห้องน้ำขนาดค่อนข้างกว้าง ห้องนี้จะมีทั้งอ่างอาบน้ำ และ พื้นที่อาบน้ำแบบยืนอาบ ส่วนโถสุขภัณฑ์ก็จะรวมอยู่ด้วย
ด้านล่างอ่างล้างหน้ามีเครื่องทำน้ำร้อนซ่อนตู้ด้านล่างเช่นเดียวกัน
พื้นที่อาบน้ำห้องนี้เป็นแบบโค้งๆเพื่อให้ประหยัดเนื้อที่ เวลาเลื่อนเปิดประตูจะเลื่อนไปเก็บด้านข้าง
โถสุขภัณฑ์มีก่อผนังด้านหลังเหมือนห้องน้ำรวมด้านนอก
ส่วนห้องนอน มีพื้นที่พอสำหรับวางตู้ปลายเตียงและโซฟา Daybed ด้านข้าง ผนังหัวเตียงห้องตัวอย่างก่อมาเพื่อตกแต่ง
ทางฝั่งซ้ายมีระยะเหลือ 135 cm.ฝั่งนี้จะกว้างหน่อย ส่วนด้านขวาเหลือ 57 cm.
ปลายเตียงมีระยะจากเตียงถึงตู้ 85 cm. สามารถเดินผ่านได้สบายๆ ค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 21 July 2016
- 1 Bedroom อาคาร B ชั้น 1 ห้อง 150 เนื้อที่ 33.1 ราคา 2.73 ล้านบาท หรือ 82,604 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom อาคาร B ชั้น 2 ห้อง 206 เนื้อที่ 54.15 ราคา 4.84 ล้านบาท หรือ 89,526 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom อาคาร B ชั้น 3 ห้อง 303 เนื้อที่ 51.31 ราคา 4.63 ล้านบาท หรือ 90,245 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom อาคาร B ชั้น 4 ห้อง 410 เนื้อที่ 54.05 ราคา 5.44 ล้านบาท หรือ 100,687 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom อาคาร B ชั้น 5 ห้อง 505 เนื้อที่105.47 ราคา 10.77 ล้านบาท หรือ 102,192 บาท/ตร.ม.
- Fully Fitted
- ฝ้าเพดานสูง 2.8 เมตร (ห้อง Duplex 5.5 เมตร)
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- จอง 50,000 บาท
- ทำสัญญา 200,000 & 100,000 บาท
- ค่ากองทุน 400 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเลของโครงการ Himma Garden Luxury Resort ตั้งอยู่บนถนนโชตนาซึ่งใช้เป็นเส้นทางไปออกอำเภอแม่ริมที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ด้วยความที่คอนโดนี้ออกแบบมาเพื่อเป็นคอนโดตากอากาศ ทำเลจึงเน้นการอยู่อาศัยเพื่อพักผ่อน เช่น เป็นทางผ่านไปยังสถานที่ท่องเที่ยว เดินทางไปสนามบินสะดวก ใกล้สวนลานนาร.9 สนามกอล์ฟ และ ศูนย์ราชการต่างๆ เป็นต้น เหมาะกับคนที่ต้องการมาพักผ่อน หรือ ชาวต่างชาติที่ต้องแวะมาทำงานที่เชียงใหม่บ่อยๆ
การเดินทางสามารถเข้าไปในตัวเมืองได้สะดวก โดยจะใช้ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ไปยังจังหวัด ลำพูน ลำปาง หรือถ้าอยากไปเดินเล่น ทานข้าว ก่อนเข้าคอนโดก็สามารถตรงออกไปถนนนิมมานเหมินทร์ได้ โครงการนี้ให้ที่จอดรถ 100% ซึ่งทำให้คนที่มีรถค่อนข้างสะดวก ไม่ต้องกังวลว่าซื้อรถมาแล้วจะไม่มีที่จอด ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถจะค่อนข้างลำบากหน่อย เพราะโครงการอยู่ห่างจากตัวเมืองพอสมควร
สถานที่สำคัญที่ใกล้ๆกับโครงการคือ ธนาคารแห่งประเทศไทย ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ และ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และยังมี ศูนย์ประชุมนานาชาติเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รพ.กรุงเทพฯ รพ.ล้านนา อยู่ในบริเวณใกล้เคียง จุดเด่นของที่ตั้งโครงการอีกอย่างหนึ่งคือตรงข้ามกับสวนลานนา ร.9 สวนสาธารณะขนาดใหญ่ และข้างๆกับสวนลานนา ร.9ก็คือ Lanna Golf Course สถานที่ออกกำลังกายสำหรับนักกอล์ฟที่ชื่นชอบสนามแบบธรรมชาติ
การออกแบบของโครงการนี้ที่เห็นได้ชัดเลยคือ Concept ในการเน้นความกลมกลืนกับธรรมชาติ แต่ละอาคารจะมีใส่ลูกเล่นเล็กๆน้อยๆเพิ่มเข้าไปเช่นอาคาร A เป็น Wood ภายนอกอาคารตกแต่งด้วยไม้ อาคาร B เป็น Stone ตกแต่งด้วยหินเป็นต้น และมีการสอดแทรกลักษณะเฉพาะของภาคเหนือเข้าไปในงานออกแบบได้สังเกตจากการออกแบบ Clubhouse ตัวอาคารมีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ชั้นบนห้อง Duplex มีการปาดมุมห้องให้เฉียงเพื่อรับวิว การจัดพื้นที่และการออกแบบวางผังห้องพักเป็นการออกแบบที่เน้นเป็นคอนโดตากอากาศ คือเราจะรู้สึกถึงอารมณ์รีสอร์ทหน่อยๆ เช่นเข้าไปในห้องแล้วห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำ มีผนังกระจก มีระเบียงที่ค่อนข้างกว้าง ที่ชอบคือมีการคิดเผื่อเพื่อให้เราในหลายๆจุดเช่นการมีห้อง Powder room การมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าให้เป็นต้น
วัสดุถือว่าให้ตามมาตรฐานค่อนข้างไปทางดี ทั้งพื้นไม้ลามิเนต พื้นห้องน้ำกระเบื้องแกรนิตโต้และเซรามิค สุขภัณฑ์ของ American Standard เฟอร์นิเจอร์ให้แบบ Fully – Fitted คือ Wallpaper , ชุดครัว , ตู้เสื้อผ้า , สุขภัณฑ์ , เครื่องทำน้ำร้อน , แอร์ และ Digital Door Lock อย่างชุดครัวให้มาจัดเต็มดีมีคิดช่องวางตู้เย็นและเครื่องซักผ้ามาให้ครบ
สาธารณูปโภคจัดมาให้ครบทั้งสวนหย่อม ฟิตเนส สระว่ายน้ำ Lobby/Lounge มี Free Wi-Fi ที่พื้นที่ส่วนกลาง Sauna&Steam Jogging Track แต่เนื่องจากต้องใช้ร่วมกันทั้ง 3 อาคารจึงถือว่ายังให้ไม่เยอะเท่าที่ควร แต่ละอาคารมีลิฟต์โดยสารให้อาคารละ 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการเท่ากับ 27 : 1 อยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากจำนวนยูนิตห้องไม่เยอะมากนัก ค่าส่วนกลางเก็บอยู่ที่ 50บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน ค่อนข้างสูงแต่ก็ต้องคำนึงถึงการดูแลรักษาโครงการในระยะยาว
Judgement
เนื่องจากเป็นคอนโดตากอากาศ ขึ้นกับความพึงพอใจเป็นหลัก ความคุ้มค่าทางการเงินเป็นรอง จึงไม่สามารถให้คะแนนเปรียบเทียบความคุ้มค่าได้ค่ะ
BOTTOM LINE
Himma Garden Luxury Resort เหมาะกับคนต่างจังหวัด ที่จะแวะมาพักผ่อนหรือทำธุระที่เมืองเชียงใหม่ อยากได้คอนโดตากอากาศอารมณ์รีสอร์ท ตกแต่งครบๆ บรรยากาศเงียบสงบ วิวดี มี Facilitiesให้ใช้ เดินทางเข้าในตัวเมืองสะดวก มีงบประมาณอยู่ที่ 2.7 – 13 ล้านบาท
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไป
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )