รีวิวฉบับที่ 724 ฉบับนี้เราจะพาไปอัพเดตโครงการ Haus 23 รัชดา – ลาดพร้าว คอนโดหน้าตาแปลกที่ใครผ่านแยกนี้ก็คงสะดุดตากันทุกคน ตัวโครงการนี้นอกจากภายนอกจะดูแปลกแล้ว การจัดผังภายในแบบ Atrium Corridor ที่ให้ทางเดินลมและเปิดช่องแสงได้มากขึ้น ก็ถือว่าค่อนข้างแปลกเมื่อเทียบกับคอนโดทั่วไป ..โครงการนี้ Mr.Oe ได้เคยทำรีวิวเจาะลึกไปใน รีวิวฉบับที่ 15 ซึ่งตอนนี้โครงการสร้างเสร็จเรียบร้อยและเปิดใช้งานเแล้วค่ะ วันนี้เราจะพาไปดูตึกจริงของจริงกันนะคะ จะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ : )
Fact @ 19 November 2014
- Haus 23 Ratchada – Ladprao(เฮ้าส์ 23 รัชดา – ลาดพร้าว)
- บริษัท เดลวี เพลส จำกัด
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : จตุจักร
- คอนโด High Rise 27 ชั้น 1 อาคาร 236 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 14 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 118 คันคิดเป็น 50% รวมจอดซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 1- 2 – 13.3 ไร่
- 1 Bedroom 30.48 -35.86 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.4 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 55.28 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 6 ล้านบาท
- Duplex 56.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 6.2 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 3.2 ล้านบาทหรือประมาณ 106,000 บาทต่อตารางเมตร
- http://www.haus23condo.com/site/
- สำนักงานขาย : 02-512-2323
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ
ที่ตั้งโครงการ
พิกัด : 13.804935,100.575915
ที่ตั้งของโครงการ Haus 23 รัชดา – ลาดพร้าว นั้นตั้งอยู่ใกล้แยกรัชดาตัดกับถนนใหญ่ลาดพร้าวตามชื่อค่ะ อยู่ห่างจากสถานีรถไฟใต้ดินลาดพร้าวประมาณ 190 เมตร ฝั่งอาคารจอดแล้วจร เดินสบายๆไม่ลำบาก และไม่เปลี่ยว ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ Haus23 ก็มีข้อดีคือตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าวติดกับซอยลาดพร้าว 23 ด้วย ซึ่งเป็นการช่วยสร้างความสะดวกในการเดินทางขึ้นเยอะมาก เพราะถ้าเราเดินทางมาจากถนนรัชโยธิน วิ่งเส้นรัชดามาเรื่อยๆ เราจะไม่ต้องติดตรงแยกแต่สามารถเลี้ยวเข้าซอยลัดคือซอยรัชดา 30 ทะลุออกลาดพร้าว23 วิ่งเข้าคอนโดได้เลย
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
โครงการ Haus 23 มีทางออกอยู่ 2 ทาง ทางนึงอยู่ติดถนนใหญ่ลาดพร้าว อีกทางอยู่ในซอยลาดพร้าว 23 ค่ะ ฝั่งติดถนนใหญ่ซ้ายมือของทางเข้าโครงการจะเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 4 – 5 ห้อง ทำเป็นร้านอาหารแทบทั้งหมดค่ะ ฝั่งขวามือของทางเข้าโครงการเป็นปั๊มปตท. ด้านในมี 7 – 11 อยู่ช่วยให้เวลาซื้อของเล็กๆน้อยๆทำได้สะดวกดี ส่วนทางเข้าฝั่งซอยลาดพร้าว 23 นั้น หลักๆทำไว้ให้คนที่ขับรถมาทางรัชดาหลบแยกรัชดาวิ่งเข้ามาโครงการทางซอยลาดพร้าว 23 ได้เลยค่ะ ตรงต้นซอยลาดพร้าว 23 ฝั่งติดถนนใหญ่ลาดพร้าว จะมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ สามารถใช้บริการวิ่งไปสถานีรถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าวได้ค่ะ ถือว่าเป็นโซนที่อุดมสมบูรณ์สามารถหาของกินได้ง่าย มีร้านให้นั่งกินหลายร้าน ไปไหนมาไหนง่ายเพราะติดถนนใหญ่ใกล้ MRT สถานีลาดพร้าว แต่ข้อเสียคือเวลาเดินไปขึ้น MRT ต้องขึ้นสะพานลอยข้ามถนนรัชดาภิเษกไปขึ้น MRT ค่ะ เลยต้องขึ้นบันไดลงบันไดกันหน่อยถ้าจะเดินไป MRT นะคะ เราไปดูภาพรอบๆโครงการกันเลยค่ะ
เริ่มจากหน้าทางเข้าโครงการฝั่งติดถนนใหญ่ลาดพร้าวกันก่อนนะคะ
ทางฝั่งขวามือติดกับโครงการจะเป็นปั๊มปตท. ด้านในจะมี 7-11 อยู่
ภาพนี้ถ่ายออกมาจากด้านหน้าโครงการค่ะ โครงการติดอยู่ถนนใหญ่ลาดพร้าว ฝั่งวิ่งไปถนนลาดพร้าวยาวๆ ไปออกทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์, โชคชัย 4, บิ๊กซีลาดพร้าว หรือไปเดอะมอลล์บางกะปิ ออกโซนรามคำแหงไปเลยก็ได้เหมือนกันค่ะ พวกอาคารติดถนนใหญ่รอบๆโครงการหรือฝั่งตรงข้ามโครงการอย่างในภาพก็จะเป็นอาคารพาณิชย์ซะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ
จากทางเดินเท้าหน้าโครงการหันหน้าไปทางแยกรัชดาค่ะ
ฝั่งซ้ายมือของโครงการเป็นร้านอาหารตามสั่งซะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ มีโต๊ะให้เข้าไปนั่งทานข้างในได้
ร้านเจริญภัณฑ์นี่อยู่หัวมุมของซอยลาดพร้าว 23 พอดีค่ะ ซึ่งทางเข้าอีกฝั่งของโครงการจะอยู่ในซอยลาดพร้าว 23 นี้ค่ะ
หัวมุมซอยลาดพร้าว 23 อีกฝั่งเป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจค่ะ ถัดไปเป็นสะพานลอยข้ามแยกรัชดา เดินข้ามแยกไปMRT สถานีลาดพร้าวได้
เราเข้าไปดูในซอยลาดพร้าว 23 กันต่อนะคะ ในซอยเป็นถนน 2 เลน รถวิ่งสวนกันได้ และต้นซอยจะมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ค่ะ เดินเข้าไปหน่อยจะเจอทางเข้าโครงการ Hause 23 อยู่ทางขวามือ อาคารในซอยส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ซะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ
อัตราค่าโดยสารวินมอเตอร์ไซค์ค่ะ นั่งไป MRT สถานีลาดพร้าว 15 บาท
ทางเข้าออกโครงการ Haus 23 ฝั่งในซอยลาดพร้าว 23
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- Union Mall ~ 1.8 km. จากโครงการ
- Central ลาดพร้าว ~ 2.9 km. จากโครงการ
- Big C ~ 1 km. จากโครงการ
- Major รัชโยธิน ~ 2.9 km. จากโครงการ
- สวนลุมไนท์ฯ ~ 850 m. จากโครงการ
- ตลาดสะพาน 2 ~ 1.9 km. จากโครงการ
- ตลาดโชคชัย 4 ( ลาดพร้าวซอย 53 ) จากโครงการ
โครงการ Haus 23 รัชดา – ลาดพร้าว เป็นโครงการสูงแห่งแรกจาก Dalvey Place.co.,Ltd เป็น Developer จากสิงคโปร์ ทีมสถาปนิกผู้ออกแบบโครงการคือ องศาสถาปนิก ตัวอาคารออกแบบมาในแบบที่เรียกว่า Jenga Design ซึ่ง Jenga ก็คือชื่อเกมส์ตัวต่อไม้อย่างในภาพขวามือนั่นเอง จึงส่งผลให้การออกแบบภายนอกดูแปลกตา เด่นออกมาเลยบนถนนลาดพร้าวซึ่งจริงๆก็มีโครงการคอนโดอยู่ไม่น้อย และคอนเซ็ป Jenga นี้ก็มีผลกับการออกแบบฟังก์ชั่นช่องเปิด, โถงทางเดินและพื้นที่สีเขียวต่างๆภายในอาคารด้วยซึ่งเดี๋ยวเราจะอธิบายรายละเอียดให้เห็นชัดๆกันในผังอาคารอีกทีนะคะ
ภาพบนนี้เป็นบางส่วนของโปรเจคอาคารสูงที่ออกมาในช่วงนี้ของ Heeton Holding ที่สิงคโปร์ค่ะ
โครงการ Haus 23 รัชดา – ลาดพร้าว เป็นโครงการสูงแห่งแรกในไทยจาก Dalvey Place.co.,Ltd ซึ่งเป็น Developer จากสิงคโปร์ค่ะ เจ้านี้เคยมีโครงการในไทยมาแล้วบ้างแต่เป็นแบบ Low Rise ไม่เกิน 8 ชั้นค่ะ บริษัท Dalvey Place.co.,Ltd เป็นบริษัทสาขาในเครือของ Heeton Holding Ltd., บริษัทอสังหาใหญ่ที่ชอบสร้างพวกตึกแนวบูทีคต่างๆในสิงคโปร์อย่างตึก DLV ที่ถนน Dalvey, The Element@Stevens ที่ถนน Steven, The Lumos at Leonie Hill. และโปรเจคแนวตึก Landmark อีกหลายโปรเจค ก็ถือว่าเป็น Developer ที่ยังหน้าใหม่ในไทย แต่เก๋ามาในระดับภูมิภาค และได้ผ่านการลองชิมลางตลาด Low rise ในบ้านเรามาบ้างแล้ว ก็หวังว่าจะเป็นอีกหนึ่ง Developer ที่เข้ามาช่วยสร้างสีสันในการออกแบบอาคารสูงในบ้านเรานะคะ
ตัวโครงการเป็นตึก 27 ชั้น 236 ห้อง เรียกว่ามีจำนวนห้องน้อยกว่าเยอะเมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆในเรตเดียวกัน ดังนั้นโดยรวม จึงเป็นโครงการที่มีเพื่อนบ้านไม่เยอะ ไม่พลุกพล่านวุ่นวายเหมือนโครงการตึกสูงที่มียูนิตเป็น พันยูนิตแน่นอนค่ะ
เนื่องจากโดยรอบอาคารในระยะประมาณ 200 เมตร อาคารโดยรอบรวมทั้งทางยกระดับที่อาจบังวิวได้มีความสูงไม่เกิน 5 ชั้นค่ะ เพราะฉะนั้นส่วนที่พักอาศัยที่เริ่มตั้งแต่ชั้น 7 – ชั้น 27 จะเห็นวิวในวงกว้าง รวมถึงชั้น 20 ที่จัดเป็นพวกสระว่ายน้ำ, Fitness และ Sauna ซึ่งการเอาของพวกนี้มาไว้ด้านบนจะมีต้นทุนที่แพงกว่าการเอาไว้ด้านล่าง เพราะต้องออกแบบตึกให้รับน้ำหนักสระมากขึ้น ดูแลและก่อสร้างยากขึ้น แต่โครงการเค้าทำให้แบบนี้ เพราะมันดีต่อคนอยู่อาศัย โดยเฉพาะคนที่อยู่ชั้นล่างๆ ยังมีโอกาสขึ้นมารับวิวดีๆ ว่ายน้ำบนสระวิวสวยได้ แต่เพราะเหนือสระน้ำยังมียูนิตชั้นบนอย่างชั้น 20 – 27 ที่ยังคงมองลงมาได้อยู่เพราะงั้นความ Privacy ก็อาจจะไม่ได้มากเท่ากับวางสระว่ายน้ำอยู่ชั้นบนสุดนะคะ แต่ก็จะได้เงาด้านนึงของอาคารช่วยบังแดดให้ได้นิดหน่อย ก่อนที่พาไปเดินดูของจริง เรามาดูตัว Floor Plan ของอาคารกันก่อน
ผังยูนิตที่พักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 7 – 27 ค่ะ โดยแต่ละชั้นจะมีห้องหลายแบบปนๆกัน จัดคล้ายๆกันแต่จะมีช่องเปิดด้านข้างแตกต่างกันไปในแต่ละชั้นค่ะ สังเกตผังชั้น 11 และ 12a ที่เอามาให้ดูเป็นตัวอย่าง จะเห็นว่าโถงทางเดินเป็นแบบเดี่ยว หรือแบบ Single Corridor ซึ่งเป็นโถงทางเดินหน้าห้องที่มีห้องอยู่แค่ฝั่งเดียว… ข้อดีคือโล่งและเปิดประตูมาไม่เจอห้องตรงข้ามทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว ระเบียงโปร่ง ลมโกรกเย็นสบาย ได้วิวโล่งๆ … แต่ข้อเสียคือฝนอาจสาดเข้ามาในส่วนสวนได้ และมีเสียงรบกวนจากถนนเข้ามาได้ค่ะ โครงการในเมืองที่ดินแพงทำให้เราไม่ค่อยเห็น Single Corridor แบบนี้กันซักเท่าไหร่ เนื่องจากจะทำให้ใช้พื้นที่ตึกได้น้อยลง เสียพื้นที่ใช้งานไปบางส่วน ส่งผลให้ราคาห้องแต่ละยูนิตแพงขึ้นนั่นเองค่ะ
จากดีไซน์แบบ Jenga ทำให้แต่ละชั้นจะมีการเจาะช่องและพื้นที่สีเขียวเพิ่ม และมีตำแหน่งช่องที่ต่างกันไปในแต่ละชั้น ข้อดีคือได้มุมมองที่สนุก ไม่ซ้ำกันเหมือนโครงการทั่วไปนะคะ แต่ข้อควรระวังคือต้องเลือกห้องด้วยความใส่ใจรายละเอียดมากขึ้นค่ะ เพราะแต่ละห้องมีตำแหน่งมุม, วิว, และลักษณะเฉพาะของช่องเปิดอยู่ หลักๆคือเรื่องทิศของลมและแดด เราวางไดอะแกรมทิศแดดและลมมาให้ดูเพิ่มนะคะเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น
เนื่องจากทิศทางลมของประเทศไทยส่วนใหญ่ลมจะมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศใต้ ส่วนในหน้าหนาวลมจะมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ แต่แดดจะวิ่งอ้อมใต้ค่ะ จากผังอาคารห้องบริเวณทิศเหนือดีสุดค่ะ รองลงมาคือทิศตะวันออกจะได้รับแดดช่วงเช้าที่ไม่จัดมาก รวมทั้งได้รับลมในปริมาณที่เหมาะสม ขณะที่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะได้ลมเข้ามาจริง แต่ก็เจอแดดส่องแทบทั้งวันและต้องรับแดดช่วงบ่ายที่ร้อนกว่าด้วยค่ะ
อีกเรื่องพื้นฐานที่ต้องดูคือการเลือกห้องใกล้ลิฟต์ใกล้โถงบันไดค่ะ ข้อดีคือสะดวก ใกล้ ใช้งานง่าย แต่ข้อเสียคือเสียงรบกวนจากคนที่ใช้งานลิฟต์และโถงบันไดค่ะ สังเกตว่าผังโครงการจัดมาแบบคำนึงถึงเรื่องเสียงรบกวนและความเป็นส่วนตัวไว้แล้วในระดับนึง คือจัดส่วนลิฟต์บันไดไว้ติดห้องน้ำของยูนิตที่พักอาศัยค่ะ และส่วนห้องทิ้งขยะและลิฟต์ขนของทางโซนทิศเหนือก็หันทางเข้าไม่ให้ชนกับทางเดินหรือยูนิตที่พักอาศัยค่ะ
ผังอาคารชั้น 20 จะเป็นชั้นที่มีพื้นที่ส่วนกลางอย่างห้องฟิตเนส, สระว่ายน้ำ และซาวน่า ..สระว่ายน้ำเป็นแบบ Infinity – edge pool ระบบเกลือ ขนาด 25 x 6 ม. ลึก 1.5 ม. เห็นวิว โดยชั้นนี้จะมียูนิตที่พักอาศัยอยู่ด้วยค่ะ ข้อดีของห้องพักในชั้นนี้ คือ คนอยู่จะรู้สึกเหมือนมีสระว่ายน้ำและฟิตเนสเป็นของตัวเอง เพราะไม่ต้องขึ้น-ลงลิฟท์มาใช้งาน เปิดประตูออกจากบ้าน เดินไปกระโดดลงสระได้เลย แต่ก็จะมีข้อเสียคือจะเจอเสียงรบกวนจากพื้นที่ส่วนกลางค่ะ และโถงทางเดินไม่มีความเป็นส่วนตัวเท่าไหร่
ผังอาคารชั้น 25 ชั้นนี้มีสวนหย่อมลอยฟ้า 2 สวน อยู่ที่ปีกฝั่งตะวันตกค่ะ ขนาดใหญ่กว่าสวนหรือช่องเปิดชั้นอื่นๆ ใครอยู่ชั้นนี้เหมือนได้สวนส่วนตัว เดินออกมานั่งเล่นที่สวนได้สะดวก สังเกตว่าชั้นบนๆจะมียูนิตน้อยลง ความหนาแน่นต่อชั้นต่ำลงนะคะ
ผังชั้น 27 ค่ะ มีวิวมุมกว้างรอบๆโครงการมาให้ชมกัน
ทิศเหนือ มุมมองไปทางเมเจอร์รัชโยธิน เห็นไกลถึงเมเจอร์รัชโยธิน บางคนสายตาดีมากอาจมองเห็นถึงรังสิต เป็นวิวบ้านคน กรมส่งเสริมการส่งออก และศาลรัชดา
ทิศใต้ หันเข้าเมืองโซนถนนรัชดาภิเษกไปทางอโศก จากภาพอธิบายไล่จากซ้ายไปขวานะคะ ซ้ายสุดเป็นคอนโด Life @ Ratchada ขวามือ Life ที่เห็นขาวๆเตี้ยๆ นั่น Land Mark ทาวน์โฮมสุดหรูของ Land & House แท่งๆสามสี่แท่งขวามือ Life ก็ The Room @ Ratchada-Ladprao ของ Land & House เช่นกัน ถนนด้านขวามือคือถนนรัชดา ที่ว่างข้างๆถนนยาวๆคือสวนลุมไนท์บาร์ซา
ทิศตะวันออก มุมมองไปทางบางกะปิ เกาะถนนลาดพร้าวขาออกที่เห็นด้านขวา ส่วนที่เห็นเป็นทาวน์โฮมยาวเป็นแนวขวางอยู่คือ บ้านกลางเมืองค่ะ ฝั่งนี้ยังไม่ค่อยมีตึกสูง มีแต่แนวราบซะเป็นส่วนใหญ่
ทิศตะวันตก มุมมองไปทางห้าแยกลาดพร้าว ใครตาดีก็เห็นยูเนี่ยนมอลล์เหลืองอ๋อยแต่ไกล ส่วนไกล้ๆ สีน้ำเงินขวามือก็อาคาร จอดแล้วจร ของรถไฟใต้ดิน จะเห็นทางเชื่อมสะพานข้ามแยกรัชดาลาดพร้าวตัดเข้าอาคารเลย ถ้าเรามาจากรัชดาด้านอโศก ก็ขึ้นสะพานเข้าตึกไปเลยแล้ววนออกมาฝั่ง Haus23 ได้เลยไม่ต้องไปติดที่ตรงแยกค่ะ ส่วนที่โล่งซ้ายมือคือสวนลุมไนท์
Mr.Oe เคยรีวิวเรื่องวิวของโครงการเอาไว้ว่า : ถ้าถามว่าวิวทิศไหนดี ตอบได้ว่า แล้วแต่ชอบนะครับ แต่ด้านทิศตะวันออก มีโอกาสที่จะมีตึกสูงขึ้นบังวิวได้ ด้านตะวันตกก็มีสวนลุมไนท์ขึ้นแน่นอน เหนือ ใต้ ค่อนข้างปลอดภัยครับ ส่วนด้านตะวันตก ร้อนแน่นอน แต่ก็ออกแบบให้มีห้องน้อยอยู่แล้ว จะมีห้องเยอะแนว เหนือใต้มากกว่า ห้องเด่นน่าสนใจ น่าจะเป็นห้องมุมด้าน เหนือ-ตะวันออก (มุมขวาบน) แต่ทางโครงการ ก็รู้ทันทำเป็น Duplex ซะเกือบหมด
ชั้นที่น่าสนใจที่สุดในมุมมองของผม มี 2 ชั้น คือ ชั้น 20 และชั้น 25 ซึ่งจะได้คนละอารมณ์กันนะครับชั้น 20 เปิดประตูห้องเดินออกมาจะมีทั้ง Fitness Sauna และสระว่ายน้ำ sky view เหมือนเป็นเจ้าของคนเดียวเลย อารมณ์ห้องมันจะไม่ตันๆเหมือนกับชั้นทั่วไป แต่มีข้อเสียตรงที่อาจจะมีคนเดินไปมาพลุกพล่านบ้าง ถ้าคุณเป็นคนชอบสังคม ชั้นนี้ก็น่าสนใจครับ
เราไปดูของจริงกันเลยดีกว่าค่ะ
หน้าตาตึก จากมุมมองปกติ ยืนหน้าอาคารฝั่งติดถนนใหญ่ลาดพร้าว ตัวอาคารมีพื้นสีหลักเป็นสีขาว จุดที่ทำให้อาคารเด่นคือส่วนช่องที่ยุบเข้าไปส่วนกล่องที่ยื่นออกมา ส่วนกล่องบางส่วนที่ยื่นออกมาใช้สีเทา เพื่อนำเส้นสายตาและเพิ่มมิติให้ตัวอาคารเด่นมากขึ้น ผิวอาคารส่วนใหญ่เป็นอลูมิเนียมคอมโพสิท (แคลดดิ้ง) ส่วนล่างสุดของภาพทางขวามือจะเห็นส่วนห้องสมุดเป็นสีแดง
ฝั่งซ้ายมือทำทางเดินเข้าโครงการไว้ให้ ด้านข้างเป็นบ่อน้ำและสวน สังเกตที่พื้นทางเดินเข้าโครงการมีฝังไฟเอาไว้ให้เวลากลางคืน
ทางเข้าออกโครงการจะไม่มีไม้กระดกหรือประตูรั้วกั้นนะคะ ใช้เป็นระบบติดสติ้กเกอร์ที่รถและคนนอกแลกบัตรค่ะ สังเกตถนนโครงการมีการเดินเส้นเป็นลาย เข้าธีมกันกับรั้วอาคารและป้อมรปภ.
ใต้ห้องสมุด(กล่องแดงๆ) จะเป็นที่จอดรถใต้ตึก สำหรับผู้เข้ามาติดต่อโครงการค่ะ ส่วนทางขึ้นที่จอดรถชั้นบนต้องวนไปด้านหลัง
ด้านหลังอาคาร ติดทางเข้าจากซอยลาดพร้าว 23 จะมีศาลพระภูมิอยู่ค่ะ
ทางเข้าออกอาคารฝั่งซอยลาดพร้าว 23
ตรงกันข้ามกับทางเข้าออกอาคารฝั่งซอยลาดพร้าว 23 เป็นทางขึ้นไปลานจอดรถค่ะ
กลับมาที่ทางเข้าล็อบบี้ด้านหน้าค่ะ ตอนนี้ก็เป็นสำนักงานขายด้วย
ถัดจากประตูทางเข้าล็อบบี้เป็นนิติค่ะ สังเกตพื้นที่ส่วนนี้ทำเป็นสไตล์ Loft โชว์งานระบบและเพดานปูนเปลือย พื้นเป็นลายเดียวกับถนนรอบอาคารแต่ลงเงาเพิ่ม หน้างานตอนนี้ยังดูไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ค่ะ ลานที่เห็นจะแจกออกไปทางหลักๆ 4 ทางคือ ทางเข้าล็อบบี้, นิติบุคคล, ลานจอดรถ และบันไดทางขึ้นไปห้องสมุด
ขึ้นไปดูห้องสมุดกันต่อเลยค่ะ
ห้องสมุดต้องสแกนบัตรนะคะ เพราะเข้าได้เฉพาะลูกบ้าน ด้านบนประตูทางเข้าติดกระจกใสโชว์ความสูงเพดานห้องสมุดที่สูง 5 เมตร
ในห้องสมุดตกแต่งสไตล์ Modern Retro ใช้สีเทา ขาว แดง เป็นหลัก ตอนนี้ยังไม่มีหนังสือหรือโต๊ะเก้าอี้มากนักค่ะ ดูจากชุดเก้าอี้ สตูล โซฟาทั้งหมดที่มีอยู่ตอนนี้โดยรวมแล้วนั่งได้ประมาณ 10 คน ตอนนี้ใช้เป็นที่วางโมเดลอาคารด้วยค่ะ
โมเดลโครงการค่ะ ตัวห้องสมุดตรงนี้ก็คือในกล่องสีแดงนั่นเอง
ชั้นวางหนังสือสีแดงและขาวออกแบบจามคอนเซ็ป Jenga เหมือนตัวอาคาร
ห้องสมุดจะมีประตูลงไปด้านล่างอีกจุด เป็นบันไดหนีไฟค่ะ
ลงบันไดมาก็จะเป็นสวนหย่อมด้านหน้าอาคาร
สนามหญ้าตัดเส้นโรยกรวดสีเทาเป็นลายเดียวกับถนนและรั้วของโครงการค่ะ รั้วโครงการสูง 3 เมตร
เข้าไปดูด้านในล็อบบี้กันต่อค่ะ ล็อบบี้ขนาดค่อนข้างเล็ก เปิดประตูเข้ามาจะเจอตู้จดหมายอยู่ทางขวามือ ซ้ายมือเป็นโต๊ะสูงและเก้าอี้แบบสตูลทรงสูง ติดผนังด้านหลังจะมีโต๊ะเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายอยู่ ตอนนี้ล็อบบี้ก็เป็นสำนักงานขายไปในตัวค่ะ
ตู้จดหมายเป็นลายไม้ ติดป้ายห้องเป็นแผ่นอะคริลิคพื้นสีแดงตัวอักษรสีขาว
คั่นระหว่าง Mail Box ทั้งสองฝั่งเป็นประตูทางเข้าโถงลิฟต์ค่ะ ตรงนี้ต้องสแกนบัตรเข้าเท่านั้นค่ะ ด้านข้างเครื่องสแกนบัตรจะมี Video Door Phone อยู่ ลูกบ้านสามารถกดคุยกับแขกและเปิดประตูให้แขกได้โดยไม่ต้องลงมาข้างล่าง
โถงลิฟต์ชั้นล่างค่ะ ซ้ายมือเป็นบันไดทางขึ้น ขวามือเป็นลิฟต์โดยสาร 2 ตัว ผนังโถงลิฟต์ปิดลายไม้
ภายในลิฟต์ค่ะ ขึ้นไปดูพื้นที่ส่วนกลางชั้น 20 กันต่อ
โถงลิฟต์ชั้นบนหน้าตาแบบนี้ค่ะ ผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว พื้นปูแผ่นไม้สำเร็จ
บันไดอยู่ตรงข้ามโถงลิฟต์ค่ะ เด่นออกมาด้วยผนังอลูมิเนียมคอมโพสิทสีแดง พื้นบันไดเป็นอลูมิเนียมเจาะรู ราวบันไดเป็นเหล็กทาสีดำ
ชั้น 20 นี้เป็นชั้นที่มีพื้นที่ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำกับฟิตเนส แต่ก็มีที่ยูนิตที่พักอาศัยด้วยนะคะ พื้นของโถงทางเดินชั้นนี้จะเป็นแผ่นไม้สำเร็จเซาะร่องอย่างที่เห็นค่ะ จะไม่เหมือนชั้นอื่น พื้นโถงทางเดินชั้นอื่นจะเป็นแผ่นหินและกระเบื้องค่ะ
ห้องทิ้งขยะและทางเข้าลิฟต์ขนของค่ะ จะเป็นมุมยุบเข้าไป ไม่เกะกะโถงทางเดินหลัก
เข้าไปดูห้องฟิตเนสกันต่อนะคะ
ห้องฟิตเนสมีเครื่องเล่นประมาณ 10 กว่าเครื่อง ผนังเป็นกระจกบานเลื่อนโชว์วิวสระว่ายน้ำและวิวเมืองรอบๆ
ห้องฟิตเนสสามารถเปิดออกไปที่สระว่ายน้ำได้
ในห้องฟิตเนสจะมีทางเดินไปโซนห้องน้ำชายและหญิงอยู่ค่ะ
ห้องน้ำแบ่งเป็นโซนชายหญิง แต่ละโซนจะมีห้องอาบน้ำ 1 ห้อง ห้องโถสุขภัณฑ์ 1 ห้องอบซาวน่า(แบบเอาน้ำราดหิน) อีก 1 ห้อง
ถ่ายภาพห้องอบซาวน่ามาให้ดูค่ะ ขนาดแบบนั่งได้คนเดียว
ห้องน้ำชายและหญิงจะใช้ทางเดินอ่างล้างมือร่วมกัน เพราะใช้เดินตรงออกไปโถงลิฟต์ได้ ไม่ต้องผ่านห้องฟิตเนส อ่างล้างมือมีทั้งหมด 3 อ่างตามในภาพ
ทางเข้าห้องน้ำชายจะอยู่ใกล้กับประตูออกไปโถงทางเดินค่ะ
สระว่ายน้ำเป็นแบบ Infinity-edge pool ระบบเกลือ ขนาด 5 x 13 m. ลึก 1.2 m.
ตัวสระปูพื้นหินอ่อนสีโทนขาวเทาดำฝังไฟที่พื้น และมีขั้นบันไดลงไปค่ะ พื้นรอบๆสระเป็นพื้นไม้สำเร็จสำหรับปูภายนอกเหมือนกับโถงทางเดินชั้นนี้ค่ะ
ในสระว่ายน้ำมีที่นั่งแช่น้ำเล่นชมวิวเมืองมาให้ สำหรับคนที่อยากนั่งคุยกันไป แช่น้ำไป ชมวิวเมืองไป ปลายสระลงต้นไม้ใหญ่มาให้
ด้านหลังสระว่ายน้ำจะเป็นส่วนโถงบันไดและโถงลิฟต์ค่ะ ที่เราเห็นกันอยู่นี่ก็คือจากชั้น 20 ขึ้นไปจนถึงชั้น 27 ค่ะ
ที่ชั้น 25 จะมีพื้นที่สีเขียวยื่นออกมา 2 ฝั่งอย่างที่เห็นในภาพค่ะ ตอนนี้โครงการอยู่ในระหว่างเก็บความเรียบร้อยหน้างานกันอยู่ค่ะ เลยเข้าไปถ่ายยังไม่ได้ แต่เก็บภาพรวมมาให้ดู
ตัวพื้นที่สีเขียวชั้น 25 ทั้ง 2 ฝั่งขนาดไม่ใหญ่พอที่จะเอาโต๊ะมานั่งเล่นชมวิวหรือปิ้งบาร์บีคิวอะไรได้มากมายนะคะ ออกแนวเป็นที่ยืนคุยกัน ชมวิวตึกมุมสูง อาจวางเก้าอี้คู่ได้ซักชุด อะไรแนวๆนี้มากกว่า
มองลงไปจะเห็นสระว่ายน้ำชั้น 20 จะเห็นพื้นที่สีเขียวชั้น 20 และจะเห็นบันไดข้างสระว่ายน้ำที่ลงไปชั้น 19 ได้ค่ะ
มาดูชั้นที่พักอาศัยกันต่อ ตัว Single Corridor มีคอร์ทตรงกลางโดยส่วนพื้นที่คอร์ทจะใช้หลังคาแบบใสเพื่อดึงแสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวอาคารให้โถงทางเดินสว่างขึ้น ราวกันตกเป็นซี่เหล็กกลมทาสีเทา ซี่เหล็กออกแบบมาวางเหลื่อมกัน ไม่ได้เรียงกันตรงๆ ทำให้ดูมีมิติมากขึ้นและเกิดจังหวะแสงที่ต่างออกไปค่ะ
ส่วนอลูมิเนียมคอมโพสิทสีแดงในส่วนโถงลิฟท์ส่วนนี้ก็เล่นลวดลายที่พื้นผิวด้วยการเจาะรูหกเหลี่ยมเล็กใหญ่ความหนาแน่นต่างกันบนแผ่นอลูมิเนียมและเชื่อมแต่ละแผ่นเข้าด้วยกัน มองจากโถงทางเดินก็จะเห็นเป็นแผ่นสีแดงที่บางส่วนโปร่งบางส่วนทึบ ช่วยดึงดูดสายตาได้ดีกว่าแผ่นอลูมิเนียมแบบเรียบๆนะคะ อันนี้เป็นความตั้งใจในการออกแบบดีเทลที่ทำได้ดีค่ะ
ภาพโถงบันไดค่ะ จะเห็นว่าการเจาะลายแผ่นอลูมิเนียมนี้ส่งผลให้แสงที่ส่องลอดเข้ามาส่วนโถงบันไดเกิดเป็นช่องแสงที่น่าสนใจแบบนี้ค่ะ ตัวบันไดเป็นเป็นแผ่นอลูมิเนียมสีเงินเจาะรูวางบนโครงสร้างเหล็ก ส่วนตัวชอบนะคะ เก๋ดี แต่ในแง่การใช้งานเวลาเดินขึ้นลง เสียงดังอยู่เหมือนกัน ราวกันตกบันไดเป็นแบบเดียวกับโถงทางเดิน
เกาะราวบันไดมองลงไปข้างล่างจะเห็นเป็นแบบนี้
พื้นโถงบันไดเป็นกระเบื้องเซรามิกผสมแผ่นหินสีเบจอมเทา
ถ้ามองดูพื้นก็จะเห็นผิววัสดุที่ต่างกันแบบนี้
ตัวพื้นที่สีเขียวเป็นแนวๆนี้ค่ะ ช่วยเปิดให้ลมให้แสงเข้ามาในตัวอาคาร แต่ถ้าฝนตกแรงๆก็อาจสาดเข้ามาได้เช่นกัน
ห้องตัวอย่างโครงการจัดมาให้ดู 2 ห้องค่ะ เป็นแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedrooms เดี๋ยวเราเข้าไปดูกันเลยค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby (ชั้น 1)
- ห้องสมุดสไตล์ Modern Retro สูง 5เมตร พร้อม Wi-Fi (ชั้น 2)
- สระว่ายน้ำแบบ infinity-edge pool (ระบบเกลือ) ขนาด 5 x 13 m. ลึก 1.2 m. (ชั้น 20)
- ห้อง Fitness เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง และ เซาวน่า (ชั้น 20)
- สวนหย่อมลอยฟ้า (ชั้น 25 )
- ทางเดินแบบ Single Corridor
- ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.
- สวนหย่อมรอบโครงการและพื้นที่สีเขียวประมาณ 800 ตารางเมตร
- ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 78 : 1
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถประมาณ 118 คันคิดเป็น 50 % ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- ระบบ CCTV / Access Card
ห้องตัวอย่างห้องแรกเป็นแบบ 1 ห้องนอน Type BL6-7 ขนาด 34 ตารางเมตร ค่ะ จัดผังแบบแบ่งโซน Public Private คือโซนที่ฟังก์ชั่น Public หน่อยอย่างครัว โต๊ะกินข้าว ห้องนั่งเล่น ระเบียงก็จัดไว้ด้วยกันฝั่งนึง เปิดประตูมาเจอโซนนี้ก่อน และโซนที่ Private อย่างห้องนอน ห้องน้ำก็จัดเอาไว้ฝั่งนึงค่ะ ตัวโครงการขายแบบ Fully Fitted นะคะ คือได้แอร์ ได้ชุดครัว ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งมาด้วยค่ะ ภาพรวมจะเป็นอย่างไรเราไปดูกันเลย
เริ่มจากประตูทางเข้าห้องตัวอย่างกันก่อนนะคะ เป็นประตูไม้อัดปิดผิวลายไม้สีเข้ม มีตาแมว มี Digital Door Lock ให้ทุกห้องค่ะ
เปิดเข้ามา ธรณีประตูทางเข้าเป็นหินสังเคราะห์ค่ะ ข้อดีคือไม่บวมเวลาเจอน้ำหรือความชื้นไปนานๆแบบธรณีประตูที่เป็นลามิเนต พื้นครัวปูกระเบื้องเซรามิกผิวด้านสีครีมค่ะ
เปิดเข้ามาจะเจอส่วนครัวก่อน ถัดไปเป็นส่วนห้องนั่งเล่นค่ะ ของจริงผนังเป็นปูนฉาบเรียบทาสีขาวนะคะ
มองกลับไปที่ประตูทางเข้าห้องค่ะ จะเห็นว่าจัดส่วนโต๊ะกินข้าวแบบ 2 ที่นั่งไว้ตรงข้ามกับชุดครัวค่ะ
ระยะเลื่อนเก้าอี้เข้าออกทั้งสองฝั่งไม่ติดผนังค่ะ
ความสูงฝ้าเพดานห้องอยู่ที่ 2.5 เมตร แต่ส่วนครัวที่ทางเข้าจะดรอปฝ้าลงมาเป็นประมาณ 2.3 เมตร แอร์ส่วนนี้ทำแบบฝังผนังมาให้ ได้ตามนี้ ไฟได้เป็นแบบดาวน์ไลท์ค่ะ
Video Door phone เป็นของ Samsung ค่ะ กดเปิดคุยกับแขกที่มาหาด้านล่างและปลดล็อกให้ขึ้นมาด้านบนได้ ของจริงได้ตามนี้
ชุดครัวได้ของ Modernform ค่ะ เราเปิดหน้าบานตู้ให้ดูระยะใช้งานนะคะ
ท้อปครัวเป็นหินสังเคราะห์สีดำ หน้าบานปิดผิวลายไม้สีอ่อน
อ่างล้างจานเป็นอ่างสแตนเลสเจาะมาให้ 1 หลุม ด้านบนอ่างมีเต้าเสียบไว้ให้กรณีวางเตาไมโฟไว้ด้านบนค่ะ
เตาได้ของ Mex มาแบบ 2 หัว ด้านบนติดเครื่องดูดควันของ Mex มาให้เข้าชุดกัน
บานเปิดมี Soft Close Hinge มาให้ค่ะ คือปิดไม่มีเสียงดัง และเป็นแบบคุณภาพดีคือต่อให้เปิดนิดเดียว 30 องศา หรือ 20 องศาก็ปิดเสียงไม่ดังค่ะ ถ้าเป็นแบบคุณภาพต่ำหน่อย พอลองเปิดดูจะเจอว่าต้องเปิดเกิน 45 องศาตัว Soft Close Hinge ถึงจะทำงานค่ะ
ลิ้นชักบนมีสล็อตใส่ช้อนส้อมมาให้
ตู้เย็นวางตู้สูงกว่านี้ได้ค่ะ มีที่เหลืออยู่ หรือจะเอาเป็นตู้ไซส์นี้ แล้วด้านบนตู้เย็นใช้เป็นที่วางของเพิ่มแบบห้องตัวอย่างก็ดีเหมือนกัน
พื้นห้องนั่งเล่นเป็นพื้นลามิเนต ค่ะ จบพื้นด้วยลามิเนต ถ้าเจอความชื้นไปนานๆอาจบวมได้
มาดูส่วนห้องนั่งเล่นกันต่อค่ะ ห้องนั่งเล่นจะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงได้ ระยะดูทีวีจากโซฟาอยู่ที่ประมาณ 1.8 m.
โซฟาจัดมาเป็นแบบ 2 ที่นั่งค่ะ จะวางกว้างกว่านี้ก็ไม่ได้เพราะจะขวางทางเข้าโซนห้องนอนค่ะ
เปิดไปดูส่วนระเบียงกันต่อ ส่วนมือจับประตูบานเลื่อนเป็นแบบมาตรฐานค่ะ
ประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงเป็นประตูเลื่อนแบบสามบาน กรอบเป็นอลูมิเนียมสีธรรมชาติ
พื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิกสีเทาขนาด 60 x 60 cm. ยาแนวสีขาว มีเตรียมท่อสำหรับเครื่องซักผ้าไว้ให้ ราวกันตกเป็นแผ่นอลูมิเนียมเจาะรูแบบตาข่าย มีแท่งเหล็กกล่องวางพาดแนวนอน เป็นการออกแบบที่เล่นกับแสงที่ส่องเข้ามาที่ระเบียง และดีไซน์ของเปลือกอาคารค่ะ
มีเจาะช่องเตรียมให้เครื่องซักผ้าจริง แต่พอแขวนแอร์คอมเพรสเซอร์ 2 เครื่องด้านบนแล้ว เหลือระยะความสูงไม่พอวางเครื่องซักผ้าแบบฝาบนค่ะ แต่แบบฝาเปิดด้านข้างพอได้อยู่
ไฟเพดานส่วนระเบียงของจริงได้ตามนี้ค่ะ
เข้าไปดูโซนห้องนอนกันต่อ ของจริงไม่มีกั้นห้องเป็นกระจกบานเลื่อนมาให้แบบนี้นะคะ กั้นมาให้ดูเป็นไอเดียเฉยๆ แต่ก็เป็นไอเดียที่ดี เพราะช่วยกันกลิ่นจากห้องครัวเข้าไปในโซนห้องนอนได้ในระดับนึง จริงๆจากเตียงสามารถดูทีวีที่โซนห้องนั่งเล่นได้นะคะ แต่ทีวีต้องจอกว้างหน่อย ประมาณ 50 – 60 นิ้ว
ห้องนอนวางเตียงคู่มาให้ จะเห็นว่าเหลือระยะเดินปลายเตียงมาให้นิดหน่อย ระยะประมาณ 20 เซนติเมตร
หน้าต่างในห้องนอนเป็น Top Hung ด้านบน และกระจกบานฟิกซ์ด้านล่าง
แอร์ได้ของ Daikin ค่ะ
ระยะข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่างกว้างประมาณ 60 cm. ปลายเตียงเตรียมที่เสียบสายสัญญาณสำหรับทีวีมาให้ แต่วางทีวีที่ปลายเตียงไม่ได้เพราะระยะไม่พอ ต้องวางทีวีที่มุมปลายเตียงตรงนี้ ทำให้เวลาดูทีวีต้องเอียงดูเพราะไม่ Center กับเตียงค่ะ
มองไปทางเข้าห้องน้ำ จะเห็นโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าอยู่ข้างๆ ของจริงได้ตามนี้ค่ะ เดี๋ยวจะพาไล่ไปดูกันทีละส่วนนะคะ
ระยะข้างเตียงฝั่งนี้กว้างประมาณ 1.6 m. วางตู้เสื้อผ้ามาให้
เปิดให้ดูในตู้เสื้อผ้าค่ะ มีที่วางของด้านบน มีราวแขวนเสื้อผ้าและกางเกงมาให้ มีลิ้นชักเก็บของ 3 ชั้น
โต๊ะเครื่องแป้งได้มาพร้อมกระจกเงา ของจริงได้ตามที่เห็น ดีไซน์มาเรียบๆให้ปรับใช้ได้กับสไตล์ที่หลากหลายของผู้อยู่ได้ง่ายค่ะ
เข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อเลยค่ะ ธรณีประตูห้องน้ำเป็นหินสังเคราะห์สีดำ พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปเป็นกระเบื้องเซรามิกสีเทา มือจับประตูห้องน้ำเป็นแบบเขาควายสแตนเลส
สุขภัณฑ์ใช้ของ Mogen ค่ะ โถสุขภัณฑ์ตั้งอยู่ฝั่งขวามือ เหลือระยะด้านข้าง พอเอาชั้นวางของมาวางเพิ่มได้นิดหน่อยค่ะ
อ่างล้างมือมาเป็นชุด มีบานปิดไว้เก็บของด้านล่างได้ และที่วางของด้านบน ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดีค่ะ
ส่วนเปียกติดฉากกั้นกระจกเทมเปอร์มาให้ค่ะ ฝ้าเพดานมีพัดลมดูดอากาศ และผนังห้องน้ำปูกระเบื้องจรดฝ้าเพดาน
มีฝักบัวกับ Rain Shower มาให้ค่ะ แต่ไม่มีที่วางสบู่ แชมพู ครีมนวดมาให้นะคะ อันนี้ต้องหาชั้นมาวางเพิ่มเองค่ะ
เรามาดูห้องตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอนกันต่อเลยค่ะ ห้องนี้ได้ระเบียงขนาดใหญ่มากค่ะ เหมาะสำหรับคนที่อยากมีสวนเป็นของตัวเอง แต่พอเทียบราคาคร่าวๆตารางเมตรละแสนแล้ว นี่ก็เป็นสวนที่มีราคาสูงทีเดียว เพราะระเบียงมีขนาดถึง 24 ตารางเมตรค่ะ คนที่ซื้อน่าจะมีไลฟ์สไตล์อย่างเช่น ชอบทำสวน ชอบต่อยมวยกลางแจ้ง หรือชอบจัดปาร์ตี้ก็เหมาะค่ะ แต่ที่แน่ๆคือต้องมีเงินและมีอารมณ์สุนทรีย์มากพอจะซื้อระเบียงราคานี้นะคะ
การจัดผังห้องโดยรวมระยะต่างๆยังไม่ลงตัวเท่าที่ควรค่ะ โดยเฉพาะห้องน้ำติดทางเข้านี่ถ้าจะใช้โถสุขภัณฑ์ ต้องเปิดฉากกั้นห้องน้ำเข้าไปอยู่ในส่วนเปียกก่อนแล้วปิดประตห้องน้ำถึงจะเข้าไปใช้งานได้ แบบนี้อึดอัดเหมือนกันนะคะ การจัดผังจัดแบบให้ความเป็นส่วนตัวดี เข้ามาในห้องแล้วไม่ได้เห็นหมดทั้งห้อง แต่จะค่อยๆเห็นไปทีละโซน ห้องนอนเล็กติดเสา แต่ก็มีพื้นที่พอให้วางเตียงวางตู้เสื้อผ้าได้ โซนห้องนั่งเล่นและห้องอาหารเห็นวิวระเบียงได้ ห้องนอนใหญ่ ระยะใช้งานโต๊ะเครื่องแป้ง เข้าออกประตูห้องน้ำ เปิดปิดตู้เสื้อผ้าเป็นระยะที่ค่อนข้างแน่นค่ะ ถ้าอยู่คนเดียวไม่มีปัญหา แต่ถ้าอยู่กัน 2 คนนี่ขลุกขลักแน่นอน ไปดูภาพของจริงกันเลยดีกว่าค่ะ
เริ่มกันจากห้องน้ำติดประตูทางเข้ากันก่อนเลยค่ะ
สเป็ควัสดุและสุขภัณฑ์เหมือนกันกับห้องแรกที่พาไปชมทุกอย่างค่ะ ต่างกันที่การจัดผัง จะเห็นว่าเปิดประตูเข้าไปแล้วจะเจออ่างล้างมืออยู่ซ้ายมือ ฉากกั้นโซนเปียกอยู่ข้างหน้า
ข้างๆอ่างล้างมือมีที่เหลืออยู่นิดนึงค่ะ ดูไม่ค่อยลงตัวกับขนาดอ่างล้างมือเท่าไหร่ แต่น่าจะหาชั้นวางของเล็กๆมาวางเพิ่มพื้นที่ใช้สอย หรือจะทำเป็นมุมไว้ปลูกต้นไม้ในร่มก็พอได้
ด้านหลังบานประตูเป็นโถสุขภัณฑ์ค่ะ วิธีการคือต้องเปิดฉากกั้นส่วนเปียกเข้าไปยืนข้างในก่อนถึงจะปิดประตูห้องน้ำ และเข้าไปใช้งานได้
โถสุขภัณฑ์ด้านหลังประตูค่ะ เวลารีบๆนี่อาจไม่คล่องตัวเท่าไหร่
ออกจากห้องน้ำจะเป็นทางเดินไปโซนครัวค่ะ ผนังโล่งๆของห้องเป็นผนังที่เหมาะสำหรับติดงานศิลปะหรือภาพถ่ายค่ะ คนที่สะสมงานศิลปะคงชอบห้องที่มีมุมแบบนี้
เลี้ยวซ้ายมาก็จะเจอโซนครัวค่ะ ชุดครัวที่ได้เป็นของ Modernform สเป็ควัสดุชุดครัวเหค่ะมือนเดิม
แต่สลับด้านฟังก์ชั่นการใช้งานกันค่ะ อันนี้อ่างล้างจานจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันอยู่ขวามือ ให้เหมาะกับรูปแบบทางสัญจรในห้องนี้ค่ะ
ตรงข้ามห้องครัวเป็นห้องนอนเล็กค่ะ ประตูเป็นบานเลื่อนเพื่อประหยัดพื้นที่เปิดปิดประตู
ห้องนอนเล็กวางเตียงคู่มาให้ดูระยะว่าอยู่ได้ค่ะ : ) ระยะพอเดินรอบเตียงได้ วางตู้เสื้อผ้า โต๊ะข้างเตียงได้
ปลายเตียงวางตู้เสื้อผ้ามาให้แล้วยังเหลือระยะเดินประมาณ 60 cm.
ตู้เสื้อทำมาให้เป็นบานเปิดของจริงได้ตามนี้ค่ะ เปิดตู้ให้ดูด้านในจะมีชั้นวางของด้านบน และราวแขวนเสื้อผ้าพร้อมลิ้นชักเก็บของมาให้ จริงๆตู้เสื้อผ้าน่าจะเป็นระบบบานเลื่อนที่เหมาะกับที่แคบมากกว่านะคะ เพราะเวลาเปิดปิดไม่ขวางทางเดินไปมา คนส่วนมากเวลาลองชุดถ้ามีเวลาก็จะอยากเดินไปดูที่กระจก แต่ถ้าเป็นตู้เสื้อผ้าบานเปิดแบบนี้ก็จะเดินไปเดินมาลำบาก เพราะบานประตูขวางทางเดินอยู่
ออกมาจากห้องนอนค่ะ จะเห็นว่าฝ้าเพดานโซนครัวลดระดับลงมา สูงประมาณ 2.3 m. และทำแอร์ฝังผนังมาให้ ส่วนเพดานในห้องโซนอื่นสูง 2.5 เมตรค่ะ ส่วนที่เสาอยู่ใกล้กันเกิดเป็นช่องว่างยุบเข้าไป ห้องตัวอย่างทำชั้นหนังสือมาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ ของจริงไม่มีชั้นนะเป็นผนังยุบเข้าไปเฉยๆค่ะ
โซนทานอาหารจัดโต๊ะกินข้าวแบบ 4 ที่นั่งมาให้ ดูเป็นจำนวนที่กำลังเหมาะกับพื้นที่เลยค่ะ ระยะลุกนั่ง เลื่อนเก้าอี้เข้าออกสบายๆไม่มีปัญหาค่ะ
ถัดมาเป็นโซนห้องนั่งเล่นติดทางออกไประเบียง ระยะดูทีวีจากโซฟาอยู่ที่ประมาณ 2.5 m.
จัดชุดโซฟาแบบ 3 ที่นั่ง และเก้าอี้เพิ่มอีก 1 ตัว พร้อมโต๊ะกาแฟมาให้ดูระยะใช้งาน ใครชอบนอนดูทีวี วางโซฟารูปตัว L ก็ยังได้ค่ะ
ฝั่งตรงข้ามโซฟาเป็นชั้นวางทีวี และประตูทางเข้าห้องนอนใหญ่ค่ะ
ออกไปดูระเบียงขนาดใหญ่ของห้องกันหน่อย
ระเบียงขนาดกว้างถึง 24 ตารางเมตร ปูเซรามิกสีเทา ราวกันตกเป็นแบบเดียวกันกับราวกันตกที่โถงทางเดินและโถงบันไดในอาคารค่ะ
ถ่ายให้ดูความลึกของระเบียงค่ะ ขนาดระเบียงอยู่ที่ประมาณ 3 เมตร กว้างประมาณ 8 เมตร
ระเบียงอืกฝั่ง ฝั่งนี้จะอยู่ใกล้โซนห้องนั่งเล่นค่ะ
เข้าไปดูห้องนอนใหญ่กันต่อ
ห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัว ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งจัดไว้โซนหน้าทางเข้าห้องน้ำ
ระยะปลายเตียงวางชั้นลงไปแล้วเหลือระยะเดินประมาณ 30 เซนติเมตร
หัวเตียงฝั่งติดผนังมีเตรียมเต้าเสียบมาให้ ระยะเดินประมาณ 20 เซนติเมตร
ข้างเตียงฝั่งนี้เป็นทางเดินไปโซนแต่งตัวและห้องน้ำค่ะ
พอวางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าไปแล้วเหลือระยะเดินประมาณ 70 เซนติเมตรค่ะ
ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบสี่บานเปิด เพื่อให้หน้าบานแคบลงและประหยัดที่มากขึ้น
ที่ผนังหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง มีเต้าเสียบเอาไว้เสียบปลั๊กไดร์เป่าผมหรืออื่นๆได้ เวลานั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เก้าอี้จะขวางทางเดินเข้าเดินออกห้องน้ำค่ะ
ประตูห้องน้ำเป็นประตูพับเพื่อช่วยประหยัดพื้นที่เวลาเปิดปิดค่ะ ตัวประตูเป็นแบบแขวนรางบน ทำให้ตัวรางไม่ขวางธรณีประตูค่ะ
ภาพประตูบานพับแขวนรางบนค่ะ
ห้องน้ำใช้วัสดุ สุขภัณฑ์เหมือนกันกับห้องน้ำห้องอื่นๆค่ะ แต่ห้องนี้จะใช้งานง่ายกว่าห้องน้ำห้องที่อยู่ติดประตูทางเข้า เพราะบานประตูแคบลงไม่ขวางทางเดินมากนัก แต่ก็ยังมีขนาดค่อนข้างเล็กอยู่ดีค่ะ
เอาแปลนห้อง Unit อื่นๆมาลงให้ดูกันเพิ่มค่ะ
ด้านบนเป็นผังห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 36 ตารางเมตรค่ะ
ด้านบนเป็นผังห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 37 ตารางเมตร
ด้านบนเป็นผังห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 55.5 ตารางเมตร
อันนี้เป็นผังห้องแบบ Duplex ทางเข้าส่วนครัวและห้องนั่งเล่นอยู่ชั้นบนเดินลงไปห้องนอนชั้นล่างนะคะ แปลกดี ขนาด 56.5 ตารางเมตร
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 19 November 2014
- ห้อง 1 Bedroom ชั้น 14 ห้อง BL1-2 ห้องหันไปทางทิศเหนือ เนื้อที่ 37.4 ตร.ม. ราคา 3.858 ล้านบาท หรือ 103,173 บาท/ตร.ม.
- ห้อง 1 Bedroom ชั้น 17 ห้อง BL7-6 ห้องหันไปทางทิศใต้ เนื้อที่ 34.23 ตร.ม. ราคา 3.642 ล้านบาท หรือ 106,421 บาท/ตร.ม.
- ห้อง 2 Bedroom ชั้น 21 ห้อง C5-2 ห้องหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เนื้อที่ 52.28 ตร.ม. ราคา 6.042 ล้านบาท หรือ 109,308 บาท/ตร.ม.
- ห้อง 1 Bedroom Duplex ชั้น 19 ห้อง D1-14 ห้องหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เนื้อที่ 56.5 ตร.ม. ราคา 6.315 ล้านบาท หรือ 111,769 บาท/ตร.ม.
- ขายแบบ Fully Fitted
- ชุดครัว Built-in จาก Modernform
- แอร์ Daikin
- ฉากกั้นอาบน้ำกระจกเทมเปอร์
- ตู้เสื้อผ้า Build-in
- Digital Door Lock ของ Samsung
- สุขภัณฑ์ห้องน้ำจาก Mogen
- Video Door phone
- ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- จอง + ทำสัญญา 20,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 39 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
เจาะลึกรวบยอด
เอาสรุปที่ Mr. Oe เขียนไว้ตั้งแต่โครงการเพิ่งเปิดตัวเมื่อ 3 ปีก่อน มาวางให้อ่านกันง่ายๆก่อนนะคะ
Haus 23 รัชดา-ลาดพร้าว จัดเป็นคอนโดที่ดีไซน์สำหรับคนรุ่นใหม่ เจาะตลาดคนหนุ่มสาว ใครไม่ชอบดีไซน์แนวนี้ก็จะไม่ชอบไปเลย เป็นคอนโดที่จัดว่าทำเลดีอีกหนึ่งโครงการในย่านนี้ที่ไม่ควรมองข้าม เจ้าของโครงการศึกษาตลาดมาเป็นอย่างดี และรับรู้จังหวะการออกตัวเปิดโครงการได้ดีมาก เพราะรุ่นใหญ่ขายไปหมดแล้ว ราคาตลาดมือสองก็พุ่งขึ้นไปมากแล้ว ตัวเปรียบเทียบไกล้เคียงก็ต้องรอดู Life รัชดา โครงการใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว แต่ก็นะ คนละแนวเลย คนซื้อ Life กับ Haus23 นี่รสนิยมความชอบน่าจะแตกต่างกันมาก แบบว่าคนละแนวจริงๆ
ราคาเปิดตัวที่ 80,000 บาท ต่อตารางเมตร ไม่มีแล้ว ตอนนี้แตะแสนนิดๆ ซึ่งราคาเมื่อแตะแสนแล้ว จะมีคู่แข่งเป็นคอนโดดีๆ Brand ดีๆ แต่เป็นมือสองให้เลือกซื้อเยอะเหมือนกัน ถ้าเอาย่านนี้ ก็นี่เลย อยู่ตรงข้ามกัน The Room รัชดา-ลาดพร้าวของ L&H หรือถัดไปหน่อย ทำเลดีสุดๆ Rythm รัชดา หรือจะ Ideo ลาดพร้าว 17 ของอนันดา, Issara ตรงข้าม BigC Extra เลย หรือจะเล่นของใหม่อย่าง ก็ Equinox ตรงห้าแยกลาดพร้าว M Ladprao ตรงข้ามเซ็นทรัล ไปเลย ยังมีห้องขายอีกพอสมควร แต่ต้องมีงบ 4 ล้าน up นะครับ
อันนี้สรุปเพิ่มจากการไปเก็บข้อมูลตึกเสร็จมาค่ะ
การออกแบบถือว่ามีความกล้าทำ ตัวตึกทั้งภายนอกภายในและดีเทลต่างๆออกแบบและคิดมาเยอะ คอนเซ็ป Jenga ส่งผลการออกแบบภายนอกดูแปลกตา เด่นออกมาเลยบนถนนลาดพร้าวซึ่งจริงๆก็มีโครงการคอนโดอยู่ไม่น้อย และคอนเซ็ป Jenga นี้ก็มีผลกับการออกแบบฟังก์ชั่นช่องเปิด, โถงทางเดินและพื้นที่สีเขียวต่างๆภายในอาคารด้วย แต่ละชั้นผังการวางช่องเปิดและพื้นที่สีเขียวไม่เหมือนกัน โถงทางเดินเป็นแบบ Single Corridor ได้ความเป็นส่วนเปิดประตูไม่ชนกันเพราะมีคอร์ทตรงกลางโดยส่วนพื้นที่คอร์ทจะใช้หลังคาแบบใสเพื่อดึงแสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวอาคารให้โถงทางเดินสว่างขึ้น การออกแบบดีเทลส่วนต่างๆและเลือกใช้วัสดุเล่นกับแสงและเงาภายนอกภายในได้น่าสนใจดี
ตัวโครงการออกแบบมาให้ได้ห้องใหญ่ Unit น้อย ดังนั้น จะได้ข้อดีตรง Privacy และความสงบไม่วุ่นวาย สมัยนี้หาโครงการตึกสูง Unit น้อยแบบนี้ยากค่ะ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยห้องขนาดใหญ่ขึ้น ราคาสูงขึ้น ดังนั้นโครงการนี้ จึงคัดลูกบ้านที่มีตังค์พอสมควร แต่มีจุดด้อยที่เห็นจากห้องตัวอย่างทั้ง 2 ห้องคือ แบบ 1 ห้องนอนระเบียงแคบไปนิด แขวนแอร์คอมเพรสเซอร์มาให้และเตรียมระบบท่อเครื่องซักผ้ามาให้ แต่ก็แทบวางเครื่องซักผ้าไม่ได้ ห้องที่ระเบียงใหญ่อย่างห้องแบบ 2 ห้องนอน ระเบียงก็ใหญ่มากถึง 24 ตารางเมตร เป็นผลจากตัวดีไซน์ของอาคารค่ะ (ห้องแบบ 2 ห้องนอนที่ไม่มีระเบียงก็มีนะคะ บอกไว้ก่อน อันนี้เราพูดถึงห้องตัวอย่างที่ไปมา) ซึ่งนอกจากราคาที่ต้องจ่ายไปกับระเบียงจะสูงแล้ว พื้นที่ใช้สอยของ 2 ห้องนอนก็ยังไม่ลงตัวเท่าไหร่ ห้องน้ำมีพื้นที่น้อยและไม่ลงตัว นอกจากนี้ยังมีพวกตำแหน่งและระยะวางของหลายอย่างที่ต้องบอกว่า … คิดน้อยไปหน่อยไม่ละเอียดเท่าที่ควรค่ะ
วัสดุอุปกรณ์ของที่ให้มา สำหรับห้อง Fully Fitted พร้อม Digital Door Lock และ Video Door Phone ได้วัสดุมาเป็นพื้นเป็นลามิเนตหนา 8 มม. ผนังฉาบปูนทาสีขาว ไฟดาวน์ไลท์ ได้ชุดครัวคุณภาพดี ปูกระเบื้องเซรามิกที่พื้นส่วนครัวมาให้ ห้องน้ำวัสดุโอเค ธรณีประตูห้องน้ำเป็นหินสังเคราะห์ไม่ต้องกลัวเรื่องบวม สุขภัณฑ์ Mogen อ่างล้างมือให้เป็นชุดเก็บของที่ดูน่าใช้งานและเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดี ผนังปูกระเบื้องจรดเพดาน ติดเครื่องดูดอากาศมาให้ ได้แอร์ดี บางส่วนทำแอร์ฝังผนังฝังเพดานมาให้ ตู้เสื้อผ้าที่ให้น่าจะเป็นบานเลื่อน จะได้ไม่เกะกะทางสัญจรเพราะบางส่วนขวางอยู่ แต่ก็ให้มาเป็นตู้แบบบานเปิด
สาธารณูปโภค ทางเข้าออกโครงการเป็นระบบรถลูกบ้านติดสติ๊กเกอร์รถคนนอกแลกบัตร ไม่มีไม้กระดก ตรงนี้เราว่าราคาระดับนี้ควรมีนะคะ อีกอย่างจะได้เป็นระบบ 1 card access ไปเลยด้วย ที่จอดรถที่ให้มาในช่องจอดระดับ 50 % ก็น่าจะจัดสรรได้เพียงพอค่ะ เพราะเป็นโครงการระดับ 236 ห้องเอง ..เพราะโครงการนี้แม้จะเป็นตึกสูงแต่ Unit น้อย ดังนั้น จะได้ของไม่ใหญ่โตอลังการอยู่แล้ว Lobby เล็ก สระและพื้นที่ใช้งานรวมถึง Fitness ชั้น 20 ดีแต่เล็ก ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว เมื่อดูอัตราส่วนแล้วก็สบายๆ ไม่ต้องมาแย่งกันขึ้น ส่วนกลางอย่างโถงทางเดิน และพื้นที่หน้าลิฟท์ ทำดีไซน์ออกมาแตกต่างและนำสายตาได้ดี
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 106,000 บาทต่อตารางเมตร, 19 November 2014
- ทำเล 8/10 – ทำเลสะดวกและอุดมสมบูรณ์ ติดถนนใหญ่ลาดพร้าว
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – ติดถนนใหญ่ลาดพร้าว ใกล้แยกรัชดา ไปไหนมาไหนสะดวก
- ไม่ใช้รถ 8.0/10 – สะดวก มีวินมอไซค์หน้าโครงการ มีรถเมล์แท็กซี่วิ่งผ่านตลอดเพราะติดถนนใหญ่ ห่าง MRT ลาดพร้าว 190 m. แต่ต้องขึ้นสะพานลอยไป
- วัสดุ 7.5 /10 – ใส่ใจรายละเอียดในแง่การใช้งานส่วนต่างๆดี เรตวัสดุมาตรฐานราคาระดับนี้
- แบบ 7.25/10 – ห้องใหญ่ Privacy ดี แต่การออกแบบห้องยังไม่ลงตัวสมบูรณ์
- สาธารณูปโภค 7.25/10 – ทำมาดีแต่ขนาดไม่ใหญ่มาก + ไม่มีไม้กระดกที่ทางเข้าออกและลานจอดรถ
- HIGH CLASS
- 7.78 / 10.00
BOTTOM LINE
Haus 23 รัชดา-ลาดพร้าว เหมาะกับคนมองหาบ้านย่านลาดพร้าว ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า ที่ทำเลอุดมสมบูรณ์ เดินทางสะดวก ชอบโครงการที่มีความแตกต่าง มี Spirit ในการดีไซน์ มีงบประมาณระดับ 3 ล้านบาทขึ้นไปหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือน 30,000 – 50,000 บาท