Happy Condo เฟส 3 ลาดพร้าว 101 (79)

รีวิวฉบับที่ 231  … Happy Condo ลาดพร้าว 101 เฟส 3 เป็นคอนโดรุ่นประหยัดคุ้มค่าในราคาเริ่มต้น 1.12 ล้านบาท สำหรับคนที่ชอบคอนโดมิเนียมที่มีห้างร้านอยู่ด้านหน้า เป็นโปรเจคคอนโดมิเนียมผสมผสานคอมมิวนิตี้มอลล์ที่ตั้งขึ้นมาเต็มรูปแบบ ปัจจุบัน Happy Condo เฟส 1 ได้สร้างเสร็จพร้อมอยู่ไปแล้ว และ Happy Condo เฟส 2 ก็ใกล้เสร็จเต็มที ทาง Infinity จึงเปิด เฟส 3 ขึ้นมาขาย ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในช่วง Pre-sales ครับ

Fact @ 14 September 2012

  • Happy Condo ลาดพร้าว 101 เฟส 3
  • Infinite Real Estate Co., Ltd.
  • SUPER ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • คอนโด Low Rise 6-7 ชั้น 3 อาคาร จำนวน 114, 114, 144 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ  60, 60, 60 คัน รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 53%, 53%, 42% ของจำนวนยูนิต
  • Studio, 1- 2 Bedrooms
  • พื้นที่ใช้สอย 29 –  64 ตร.ม.
  • ราคาเริ่มต้น 1.12 ล้านบาท
  • ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 40,000 บาท

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

Happy คอนโดอยู่ในซอยลาดพร้าว 101 ที่ดินติดกับ Plum Condo ลาดพร้าว 101 ของพฤกษา เรียลเอสเตท ที่เราเคยไปรีวิวกันมารอบหนึ่งแล้ว ถ้าใครอยากจะได้ข้อมูลทำเลที่มากขึ้นก็สามารถอ่านในพลัมคอนโดลาดพร้าว 101 เพิ่มเติมได้นะครับ

รีวิวนี้จะเน้นที่ตัว Community Mall เป็นหลักนะครับ

เราเดินทางกันมาจากทางด่วนรามอินทรา วิ่งมาลงที่ลาดพร้าวมุ่งหน้าบางกะปิครับ

เลี้ยวซ้ายที่แยกนี้เพื่อไปทางลาดพร้าว 101

เราจะเห็นปั๊มเชลล์อยู่หัวทางเลี้ยวเลย เจอแบบนี้แปลว่ามาถูกทางแล้วล่ะ

วิ่งไปอีกนิดจะเจอ Imperial World นะครับ

ช่วงลาดพร้าวซอยเลขคู่ แถวๆ 106 จะเป็นเส้นทางที่ทะลุไปรามคำแหง 53 ได้นะครับ ข้างในจะมีถนนยิบๆซอยเป็นรังผึ้งเลย

วิ่งมาอีกหน่อยจะเจอ Foodland และ โรงพยาบาลลาดพร้าว เป็น Facility หลักสองจุดของชาวบ้านแถวนี้ครับ

เรามาถึงแยกลาดพร้าว 101 กันแล้วครับ เป็นแยกใหญ่พอควร

ซอยลาดพร้าว 101 นี่เรียกเป็นถนนได้แล้วนะครับ เพราะว่ามี 4 ช่องการจราจร บ้านช่องอาคารพาณิชย์คึกครื้นกันเลย

วิ่งไปเรื่อยๆจะเห็นแนวคอนโดมิเนียมและอพาร์ตเม้นท์มากมาย

นี่เป็นสำนักงานขาย Plum Condo ของพฤกษา อยู่ก่อนที่จะถึง Happy Condo นิดเดียว แต่ทำเลจริงๆของ Plum Condo นั้นอยู่ติดกับ Happy Condo เลยครับ

เราก็มาถึงกันแล้ว โดยส่วนหน้าของ Happy Condo จะเรียกว่า Happy Avenue ลาดพร้าว 101 ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าชุมชน หรือ Community Mall ที่มุ่งเน้นการบริการคนในพื้นที่เป็นหลักครับ

จาก Google Map นะครับ เรามาดูกันว่าอะไรอยู่ตรงไหน

HAPPY CONDO เฟส 2 อยู่หน้าสุดนะครับ ใช้ตึกร่วมกับ HAPPY AVENUE คั่นด้วย CLUBHOUSE ก่อนที่จะถึง HAPPY CONDO PHASE 3 และ PHASE 1 ที่อยู่ด้านในสุดนะครับ ซึ่งรีวิวนี้เราจะเน้นที่ตัว PHASE 3 และ AVENUE เป็นหลัก โดยที่จะไปเยี่ยม PHASE 1 เล็กน้อย

เจาะลึกตัวโครงการ

ด้านหน้าสุดเป็นตึกของ PHASE 2 นะครับ วางอยู่หน้าสุดเลย มีแผงสีๆเส้นแนวตั้ง สร้างลวดลายให้กับตึกนี้

Update เพิ่มเติมวันที่ 1/12/58 ตอนนี้ส่วนที่เป็น Pet Club เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วนะครับ

ด้านหน้าสุดเป็นที่ตั้งของ MaxValu ทันใจ

ข้างๆมี Boots และ 94 Coffee

ฝั่งโน้นเป็น ธนาคารออมสิน และ MK สุกี้

พอสุดเขต Community Mall ก็จะมีป้อม รปภ. ที่คอยรักษาความปลอดภัยโซนลูกบ้านครับ

ตรงนี้เป็น Club House นะครับ อยู่ติดกับ Community Mall

ชั้นบนก็มีสระว่ายน้ำ สระกว้างพอสมควรเลย ยาวด้วย ออกกำลังกายจริงจังได้แน่นอน ด้านซ้ายมี Deck ไม้ไว้ให้นั่งข้างๆสระ

บริเวณ Land Scape รอบๆสระน้ำ ทำเป็นหลังคาต้นไม้แบบนี้

แบบนี้ สวยงามดี

ป้าย SPORT CLUB

มีสระเด็กด้วยนะครับ เป็นโค้งๆอยู่ตรงนี้ ขอบสระตกแต่งด้วยหิน

อาคารด้านหน้าสระว่ายน้ำทั้งสองตึกคือ Happy Condo เฟส 2 นะครับ

เราเดินขึ้นไปชั้นสอง ไปดูห้องฟิตเนสกัน

ห้องนี้เปิดแอร์เย็นฉ่ำ มีพี่ผู้หญิงคนนึงวิ่งอยู่ด้วย ผมเลยต้องถ่ายรูปหลบๆแกหน่อย เพราะจะเป็นการรบกวนความเป็นส่วนตัว

วิ่งๆอยู่ มองลงไปดูสาวๆว่ายน้ำได้

เครื่องออกกำลังกายมีหลายหลายกว่าที่อื่นพอควร

ให้ดูกันทั่วๆนะครับ

จากนั้นเราก็จะเดินเข้าไปดูพื้นที่ก่อสร้างจริงจังกันเสียที

ตึกซ้ายและขวาสองตึกนี้เป็น Happy Condo Phase 3 นะครับ จะเห็นว่ากำลังเร่งมือก่อสร้างกันอย่างขะมักเขม้น คาดว่าจะเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้ต้นปี 2556 นี่แล้วครับ

ด้านซ้ายคืออาคาร B,C ที่มี 6 ชั้น และทางขวาคืออาคาร G มี 7 ชั้น ซึ่งจะมีจำนวนยูนิต 114, 114 และ 144 ยูนิตตามลำดับ โดยมี ลิฟท์ตึกละ 2 ตัว หารออกมาได้สัดส่วนลิฟท์ที่ 1:57, 1:57, 1:72 จัดว่าดีมากๆ สำหรับคอนโดมิเนียมระดับราคาตารางเมตรละ 40,000 บาทครับ

แต่ละตึกมีที่จอดรถของตัวเองประมาณ 60 คัน คิดเป็น 42% สำหรับอาคาร G (ตึกนี้) และ 53% สำหรับ อาคาร B,C

การก่อสร้างก็มีฝุ่นเป็นธรรมดา ทำให้ถนนเข้าโครงการสวยๆ หม่นหมองลงไป แต่ก็ยังดีที่ทาง Happy Condo จะหยุดก่อสร้างในตอนกลางคืน ไม่มีเสียงรบกวนลูกบ้านเฟส 1 ที่เข้าอยู่แล้ว

ตึก C ครับ เร่งกันใหญ่

ด้านหลังจาก Phase 3 เป็นประตูทางเข้าโครงการ Happy Condo Phase 1 … เราจะลองไปดูตึกที่เสร็จแล้วนิดนึง ให้เห็นว่าสภาพเป็นอย่างไร จะได้เอาเป็นตัวอย่างของ Phase 3 ได้เลย

มีป้อม รปภ. อยู่ด้านหน้าโครงการ

พื้นที่สวนว่างๆรอบอาคาร ระหว่างเฟส 1 และ 3

เฟส 1 เอาจริงๆก็สวยนะครับ สวนด้านล่างจัดเป็น Formal Garden ได้ดูดี

ทางเข้าครับ

มีเครื่อง Finger Scan! ปกติไม่มีหรอกนะครับ สำหรับคอนโดมิเนียมราคาเริ่ม 1.1 ล้านบาท เห็นแล้วตกใจเหมือนกัน

Lobby ไม่ใช่ขำๆนะครับ ทำออกมากว้าง ใช้งานได้จริง โปร่งโล่ง ใช้กระจกบานใหญ่รอบอาคาร ทำได้ดีเกินราคาตารางเมตรละ 4 หมื่นมาก

โถงลิฟท์ ใช้วัสดุที่ไม่แพง แต่มีพื้นที่เหลือเฟือ เดินได้สบาย ไม่อึดอัด

เราจะขึ้นไปดูกันที่ชั้น 2 .. รูปนี้เบลอไปนิด ขออภัย มือไม่นิ่ง แหะๆๆ

พอขึ้นมาชั้น 2 จะเห็นว่า … มันไม่เหมือนกับคอนโดเกรด SUPER ECONOMY เลยครับ ผนังบุด้วยหินแท้ พื้นปูกระเบื้องแผ่นใหญ่ เป็น SINGLE CORRIDOR!

ปล่อยแสงธรรมชาติเข้ามาเต็มที่ มีพื้นที่จัดสวน มีเสียงน้ำตก

ตกใจเหมือนกันกับการจัดสวนน้ำตกไว้ด้านในตึก ดูแลดีด้วยครับ สภาพยังสวยงามอยู่เลย

จุดนี้เป็น Inner Court จะเห็นว่าเจาะขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุด ดึงเอาแสงธรรมชาติลงมาได้ รู้สึเหมือน Resort Condominium ที่ไม่มีห้องไหนอับ อึดอัด ผ่อนคลายมากๆ

ปลูกต้นไม้ใหญ่กัน “กลาง” คอนโดเลย … เอาสิ กับคลาส SUPER ECONOMY

จัดเป็นจุดที่ดีมาก High Light ของโครงการนี้เลย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำและ CLUB HOUSE ซึ่งเป็นทรัพย์สินของ Infinity ที่จะต้องเรียกเก็บค่าบริการกับ นิติบุคคล ของ HAPPY CONDO
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
  • สวนหย่อม Formal Garden รอบตึก
  • Lobby ใหญ่ที่ชั้น G
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์ ตึก A 70:1 ตึก B, C, D ประมาณ 115:1
  • ห้องแบบ SINGLE CORRIDOR สำหรับตึก B, C
  • ทางหน้าห้องเดินกว้าง 2 เมตร
  • โถงลิฟท์กว้าง 4 เมตร
  • สวนน้ำตกพักผ่อนสไตล์ Resort กลางตึก B,C
  • ระบบ CCTV อาคารละ 26 ตัว / Access Card / Finger Scan

Product Walkthrough

เรามาดูสำนักงานขายและห้องตัวอย่างกันบ้าง

ห้องแรกเป็นแบบ 1 Bedroom ขนาด 41 ตารางเมตรซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานของโครงการนี้ สำนักงานขายไม่ได้ทำประตูเอาไว้ให้ เราจึงไม่เห็นนะครับ

เดินเข้าจากหน้าห้องเป็นแบบนี้ พื้นห้องนั่งเล่นและห้องครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม.

ห้องตัวอย่างแต่งยังไม่ค่อยสวยงามเท่าไร ไม่ใส่เฟอร์เยอะ ไม่มี Built-in ซึ่งข้อดีก็คือจะได้เห็นห้องแบบเต็มๆว่าเป็นอย่างไร ห้องนั่งเล่นตรงนี้มีกระจกบานเลื่อนเชื่อมออกไปยังระเบียงได้

ส่วนหน้าของห้องเป็นห้องน้ำที่อยู่ในห้องนั่งเล่น ปูทั้งพื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60

ซิงก์ล้างมือ ขนาดเล็กหน่อย ด้านล่างมีช่องเก้บของบ้าง

โถสุขภัณฑ์มีระบบฉีดน้ำมาให้ได้ จึงไม่มีสายฉีดชำระ ด้านหลังโถสุขภัณฑ์มีที่วางของเล็กๆน้อยๆ ห้องอาบน้ำไม่มีบานกั้นแยกระหว่างส่วนเปียกและส่วนแห้ง มีการทำพื้นดรอปลงไปเฉยๆ

ห้องนอนเป็นแบบนี้ ขนาดค่อนข้างใหญ่มาก ด้วยความที่เป็นห้อง 41 ตารางเมตร จึงสามารถจัดวางหลายๆสิ่งๆหลายๆอย่างได้อย่างหลวมๆ

ถ่ายพื้นที่ห้องนอนให้ดูกันเต็มๆ ด้านหลังมีกระจกบานใหญ่ส่องออกไปด้านนอก ด้านขวามีทางออกเชื่อมกับระเบียงด้วย ม่านทุกจุดมีรางให้

จุดนี้เชื่อมกับระเบียงห้องนั่งเล่นเป็นรูปตัว L บริเวณที่เป็นจักรยานนั้นเป็นที่วางเครื่องซักผ้า

ด้านบนแขวน Coil ร้อนสองตัว เป่าออกไปด้านนอก แต่สังเกตว่ามีพื้นที่เหลือค่อนข้างเยอะ ส่วนนี้น่าจะทำกริลปิดให้ใช้งานระเบียงได้ดีๆ

ทางออกจากห้องนั่งเล่น

เรามาดูห้องแบบ 2 Bedrooms กันบ้าง ขนาด 64 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.4 ล้านบาท โดยห้องจะมีหน้าตาเป็นแบบนี้ ห้องนั่งเล่นโล่งๆ ไม่กว้างแต่ลึก

โซนนี้เอาไว้ติดครัว อ่อ ที่นี่ไม่มีครัวให้นะครับ ต้องไปทำเอง

เซ็ตรับแขกเรียบๆ

ระเบียงของห้องนี้จะไม่เป็น Two Ways Access แล้ว แต่จะเป็นระเบียงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าธรรมดา

ห้องน้ำของห้องนั่งเล่นใช้แชร์กับห้องนอนเล็ก

ห้องน้ำนะครับ ใครเอานกมานั่งเล่น

มองจากห้องนอนสองออกไป

ขนาดห้องนอนสอง ไม่ใหญ่นะครับ ไม่น่าเอาเตียงใหญ่ๆมาวางเกะกะเต็มห้อง ผมว่าแค่ 3.5 ฟุตก็พอแล้ว แต่จัดให้มีมุมพักผ่อน ทำการบ้าน ฯลฯ

มีซอกระเบียงอีกจุด

ตรงนี้เอาไว้วาง CDU แยกต่างหาก ทำให้ไม่ไปรบกวนระเบียงหลักที่ห้องรับแขก

แอร์แขวน

เรามาดูห้องนอนใหญ่กันบ้าง ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่อยู่ในตัว ลืมบอกไปว่าที่นี่ ฝ้าเพดานสูง 2.8 เมตรนะครับ

หน้าตาแบบนี้

มีที่วางโต๊ะทำงานด้วยนะครับ

ห้องน้ำ วัสดุเหมือนๆกันหมด

ข้อดีคือมีบานเปิดไว้ระบายอากาศ

ตู้เสื้อผ้าข้างๆ

พื้นลามิเนต หนา 8  มม. ตัวจบแบบนี้ครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 12/09/2012

  • Studio เฟส 3 ขนาด 29 ตารางเมตร เริ่มต้น 1.12 ล้านบาท
  • 1 Bedroom เฟส 3 ขนาด 41 ตารางเมตร เริ่มต้น 1.68 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms เฟส 3 ขนาด 64 ตารางเมตร เริ่มต้น 2.4 ล้านบาท

  • ห้องเปล่า ไม่มีครัว
  • จอง 5,000 บาท
  • ทำสัญญา 25,000 บาท
  • ผ่อนดาวน์5%
  • ค่ากองทุน 360 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 28 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
  • *** ลูกค้าจ่ายค่าโอนทั้งหมด 2% *** ไม่แบ่งจ่ายคนละครึ่งกับผู้ประกอบการ

เจาะลึกรวบยอด

Happy Condo ลาดพร้าว 101 นี้เป็นคู่แข่งโดยตรงของ The Niche ID ลาดพร้าว 130 ที่มีราคาเริ่มต้นอยู่แถวๆ 1 ล้านบาท แต่ไม่น่าจะใช้คู่แข่งของ Plum Condo ลาดพร้าว 101 เป็นเพราะว่าทาง พฤกษาจับตลาด “ล่างกว่า” ในระดับราคาไม่ถึง 1 ล้านบาท แต่ในขณะที่ Happy Condo ตัวถูกสุดก็ไป 1.12 ล้านบาทแล้ว ทำให้สองโครงการที่อยู่ติดกันไม่ใช่คู่แข่งกันโดยตรงของกันและกัน

มองจากทำเลกันก่อน ลาดพร้าว 101 เป็นทำเลประเภท “ก้ำกึ่ง” จะสร้างอะไรก็ได้ตั้งแต่บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม โดยรอบมีถนน 4 เลน มีสภาพเป็นชุมชนใหญ่ โดยมี Happy Avenue 101 เป็นศูนย์รวมการใช้ชีวิตของคนแถวนี้ ถัดไปอีกนิดก็มี 7-11, CP Fresh Mart อยู่ไม่ไกลจากโครงการ ทำให้การใช้ชีวิต อยู่อาศัยและหาของกินทำได้สะดวก เพราะมีทั้ง MK สุกี้, 94 Coffee, โออิชิราเมงและธนาคารต่างๆ อยู่ในระยะใกล้

แน่นอนว่าการเดินทางโดยใช้รถทำได้สะดวกระดับหนึ่ง ถนน 4 เลน มีทางด่วนอยู่ในระยะ 4 กิโลเมตร ซึ่งไม่ถือว่าใกล้แต่ก็ไม่ถือว่าไกลจนเกินไป ท้ายซอยสามารถลัดไปออกนวมินทร์ ได้ แต่โดยรวมการเดินทางโดยรถก็ยังไม่ถือว่าสะดวกมาก เมื่อเทียบกับคอนโดเส้นเลียบทางด่วนรามอินทรา-เอกมัย

คอนโดระดับนี้ไม่ต้องพูดถึงรถไฟฟ้านะครับ การเดินทางโดยไม่ใช้รถเราจะมาดูกันที่การเดินและการใช้รถสาธารณะเป็นหลัก ซึ่งหน้าคอนโดก็มีรถสองแถว รถแท๊กซี่ รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างวิ่งผ่านอยู่ตลอด ทำให้คอนโดและอพาร์ตเม้นท์มาขึ้นที่ถนนลาดพร้าว 101 หลายตึก

วัสดุอุปกรณ์ของ Happy Condo ลาดพร้าว 101 เฟส 3 ทำออกมาได้กลางๆ จัดว่าโอเคสำหรับคอนโดในระดับราคาตารางเมตรละ 40,000 บาท บางอย่างอาจจะดีกว่าคอนโดในระดับเดียวกันด้วยซ้ำ เช่นโถสุขภัณฑ์ที่มีระบบฉีดน้ำอัตโนมัติ, รางม่านซ่อน, วงกบอลูมิเนียมอบขาว, ปูกระเบื้องแผ่นใหญ่ 60 x 60 ทุกจุด, ทางเข้าออกระเบียงสองด้าน

การออกแบบต้องจัดว่าดีเลิศสำหรับโครงการระดับนี้ ที่ให้ Single Corridor ไม่มีห้องตรงข้าม, ช่องตึกเจาะดูดแสงธรรมชาติลงมา, มีสวนน้ำตกผ่อนคลายภายในตัวตึก, ทำฝ้าเพดานสูง 2.8 เมตร (ดีมาก) , ทางเดินกว้าง 2 เมตร, โถงลิฟท์ 4 เมตร ซึ่งจะทำให้ตึกนี้น่าอยู่และอยู่สบาย เหมือน Resort Condominium

สาธารณูปโภคนอกจาก Lobby และสวนขนาดใหญ่ที่อยู่ในแต่ละตัวตึกแล้ว ฟังก์ชั่นการออกกำลังกายหลักๆจะใช้รวมกับ SPORT CLUB ที่อยู่ตรงกลาง ทุกโครงการใช้ร่วมกันทั้ง 8 ตึก  อาจจะแออัดไปหน่อยเพราะแชร์กันเป็นพันยูนิต แต่ก็มีข้อดีตรงที่คลับเฮาส์ใหญ่ ใช้งานได้จริง สระว่ายน้ำใหญ่ว่ายออกกำลังได้ มีฟิตเนสอยู่ชั้นบนและมีขนาดใหญ่เช่นกัน

เพิ่มเติมระบบรักษาความปลอดภัยระดับเยี่ยม มีกล้อง CCTV ตึกละ 26 ตัว! จะเยอะไปไหนสำหรับโครงการระดับ SUPER ECONOMY และยังมี Finger Scan อีก อันนีต้องถือว่าเป็นคะแนนโบนัสนะครับ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 40,000 บาทต่อตารางเมตร, 06/07/2012

  • ทำเล 8.5/10 – ทำเลดีเมื่อเทียบกับราคา ชุมชนเจริญแล้ว มี Happy Avenue เป็นที่พึ่ง
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – ใช้รถโอเค ที่จอดรถมี 42% – 53%
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – คอนโดนี้มีวินมอเตอร์ไซค์ สองแถว แท๊กซี่ผ่านหน้าโครงการ เดินไปเดินมาสะดวก
  • วัสดุ 8/10 – ใช้ของดีเมื่อเทียบกับราคา แต่ออพชั่นไม่ครบ
  • การออกแบบ 10/10 – เยี่ยมยอด
  • สาธารณูปโภค 10/10 – Lobby ใหญ่, Security ดีเยี่ยม, SPORT CLUB ใช้ร่วมกับส่วนกลาง

  • SUPER ECONOMY CLASS
  • 8.50 / 10.00

BOTTOM LINE

ถ้าชอบทำเลลาดพร้าว 101 แล้วมีงบประมาณในการซื้อที่อยู่อาศัยราวๆ 1 – 2 ล้านบาท ก็ สมควรเก็บ Happy Condo ลาดพร้าว 101 เฟส 3 ไว้เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ