D’HABITAT ราชพฤกษ์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวใหม่ของ DWELL Grand Estate ที่ทำการเทคโอเวอร์ “บ้านกฤษณา” มาจากณุศาศิริ นำที่ดินที่เหลือยังไม่พัฒนามาสร้างเป็นโครงการใหม่จำนวน 56 ยูนิต บนทำเลริมถนนราชพฤกษ์ระหว่างถนนนครอินทร์และถนนรัตนาธิเบศร์ครับ

Fact @ 30 October 2012

  • D’HABITAT ราชพฤกษ์ 
  • DWELL Grand Estate
  • พื้นที่พัฒนาใหม่ 10 ไร่เศษ
  • บ้านเดี่ยว 2 ชั้นจำนวน 56 ยูนิต
  • พื้นที่ใช้สอย 167 – 222 ตารางเมตร
  • ขนาดที่ดิน 56 – 110 ตารางวา
  • ราคาประมาณ 5-9 ล้านบาท
  • www.dwell-group.com

ทำเลของหมู่บ้าน D’HABITAT ภายใต้คอนเซปท์ของ Boutique Living

Master Plan ของหมู่บ้าน มีทั้งหมด 56 หลัง แบ่งออกเป็น 3 ยูนิตใหญ่ โดนส่วนหน้าสุดมี Club House และสวนสาธารณะ

แบบบ้าน D’gree ใหญ่ที่สุด ขนาด 222 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำและห้องเอนกประสงค์

แบบบ้านชั้นล่างมีเฉลียงรอบบ้านและห้องเอนกประสงค์หลังบ้าน

ชั้นสองมีห้องน้ำส่วนตัวทุกห้องนอน รวม 3 ห้องนอน มีจุดเปิดเป็น Double Volumn เล็กน้อยช่วงโถงหน้าบ้าน

แบบบ้าน D’Sire ขนาด 190 ตารางเมตร

แบบบ้าน D’Light ขนาด 167 ตารางเมตร

ห้องนอนใหญ่

ห้องรับประทานอาหาร

สนามรอบบ้าน

ข่าวเพิ่มเติมจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน

กลุ่ม “ดีเวล” เดินหน้ารุกอสังหาฯ แนวราบ เทกโอเวอร์ “บ้านกฤษณา”จากณุศาศิริ ผุดบ้านเดี่ยวแบรนด์D’Habitat ราชพฤกษ์ 56 ยูนิต มูลค่า 350 ล้าน เผยแผนปีหน้าลงทุน 2 โครงการ คอนโดฯ เกาะรถไฟฟ้า-บ้านแนวราบ ตั้งเป้ายอดขาย 800 ล้านบาท

นายถวนันท์ ธเนศเดชสุนทร กรรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเวล แกรนด์แอสเสท จำกัดเปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการ “D’65 คอนโดมิเนียม”และ D’25 ทองหล่อ บริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบเพิ่มเติมโดยตั้งเป้าว่าภายในปี 2556 จะต้องพัฒนาโครงการอสังหาฯให้ครอบคลุมใน 3 เซกเมนต์คือ คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม

โดยล่าสุดได้เปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์ “D’Habitat ราชพฤกษ์” ซึ่งเป็นการเข้าซื้อโครงการ (เทกโอเวอร์) “บ้านกฤษณา ราชพฤกษ์-พระราม5” จากบริษัทณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) ด้วยมูลค่าประมาณ100 ล้านบาท เมื่อปี 2554 โดยพัฒนาในนามบริษัท ดีเวล แกรนด์แอสเสทฯ (บริษัทร่วมทุนของ 3 ครอบครัวคือ ครอบครัวธเนศเดชสุนทร50% กลุ่มนายชูเดช เตชะไพบูลย์ 25% และน.ส.พลอยจันทร์ วิฑูรย์ชาติ ภรรยานายถวนันท์อีก 25%

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมียอดขายเดิมอยู่แล้วประมาณกว่า 100 ยูนิต จากทั้งหมด 160 ยูนิต และมีลูกค้าเข้าอยู่อาศัยแล้ว ซึ่งบริษัทได้เข้าไปพัฒนาในส่วนของโครงการที่เหลือประมาณ 10-12 ไร่ จากทั้งหมด 30 ไร่ และทำการออกแบบบ้านใหม่ ให้มีความทันสมัยปรับปรุงระบบสาธารณูปโภค ภูมิสถาปัตย์ใหม่ทั้งหมด โดยบ้านมีขนาดที่ดิน 56-110 ตารางวาจำนวน 56 ยูนิต ราคา 4.9-9 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 350 ล้านบาท

นายถวนันท์ กล่าวต่อว่า ตามแผนเดิมบริษัทฯจะเปิดการขายโครงการดังกล่าวเมื่อต้นปี2555 ที่ผ่านมา แต่เมื่อปลายปี 2554 กทม.ปริมณฑล หลายอีกหลายจังหวัดประสบปัญหาน้ำท่วม

สำหรับแผนการลงทุนในปี 56 บริษัทเตรียมพัฒนาโครงการประมาณ 2-3 โครงการรวมมูลค่าประมาณฯ 1,000 ล้านบาท ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม โลว์ไรส์ ใกล้แนวรถไฟฟ้าบริเวณถนนสุขุมวิท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ ระดับราคาประมาณ 3-5 ล้านบาท หรือตารางเมตรละ1 แสนบาทขึ้นไป และแนวราบย่านชานเมืองที่เป็นส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าอีก 2 โครงการส่วนจะเป็นรูปแบบบ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮมนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของที่ดินที่ซื้อมาได้