dcondo nim เชียงใหม่ คอนโด Low Rise พร้อมอยู่บนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ติดเซ็นทรัลเฟสติวัล จาก แสนสิริ [รีวิวฉบับที่ 1104]

รีวิวฉบับที่ 1104 สวัสดีเจ้า วันนี้จะพาขึ้นเหนือไปชมโครงการ dcondo nim เชียงใหม่ จากแสนสิริ ตัวโครงการเป็นคอนโดสร้างเสร็จก่อนขาย Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร ที่ออกแบบภายใต้ Concept ” The Colour of Nimman” ตั้งอยู่บนถนน ซุปเปอร์ไฮเวย์ ติดกับเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ และมีทางเดินเชื่อมไปออกข้างเซ็นทรัลได้เลย โดยจะเปิด Grand Opening 17 – 23 มิ.ย.นี้ โครงการเค้าจะทำออกมาเป็นแบบไหน ตามไปชมกันค่ะ

Fact @ 07 June 2016

• dcondo nim Chiang Mai (ดีคอนโด นิม เชียงใหม่)
• บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
• ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
• คอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร 514 ยูนิต
• ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 24 ยูนิต ที่อาคาร A ชั้น 3 – 8
• ที่จอดรถไม่รวมจอดซ้อนคันประมาณ 148 คันคิดเป็น 30% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 50%
• ที่ดินประมาณ 8-2-0 ไร่
• เริ่มก่อสร้าง : กรกฎาคม 2558
• คาดว่าจะแล้วเสร็จ : มิถุนายน 2559
• Studio 29.79 – 31.21 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
• 1 Bedroom 37.32 – 37.89 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.20 ล้านบาท
• 2 Bedrooms 60.25 – 60.80 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.60 ล้านบาท
• ฝ้าเพดานสูง 2.50 เมตร
• ราคาห้องเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 60,000 บาท/ตร.ม.
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด n/a บาท/ตร.ม.
• เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
• โทร  : 1685

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ

• ทำเล
• โครงการ
• ห้องตัวอย่าง
• สรุป

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 18.810087, 99.015840

แผนที่จากทางโครงการนะคะ  dcondo nim เชียงใหม่ ตั้งอยู่บนถนน ซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่ – ลำปาง ติดกับเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ 

เชียงใหม่ เป็นเมืองเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมประเพณีอันสวยงาม ซึ่งในปัจจุบันมีการผสมผสานวัฒนธรรมความเป็นเมืองเก่าอย่างโบราณสถาน ความเป็นชุมชนเมืองท้องถิ่นมาคลุกเคล้ากับวัฒนธรรมสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ทำให้เมืองเชียงใหม่นั้นมีสเน่ห์ และเป็นอีกจุดหมายอันดับต้นๆ ของประเทศไทยที่ใครๆ ก็อยากเดินทางมาสัมผัสกัน  ตัวผังเมืองแสดงให้เห็นถึงความเจริญที่เริ่มจากในกำแพงเมืองซึ่งเป็นจุดศูนย์กลาง จากนั้นก็มีถนนตัดออกไปรอบๆ ทิศแบบใยแมงมุมเสมือนการขยายความเจริญออกสู่ด้านนอก ถัดออกไปจะเจอกับถนนวงแหวนรอบที่ 1 หรือถนน ซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่ – ลำปาง เป็นถนนวงแหวนรอบในสุดใช้เป็นถนนอ้อมเมืองเชียงใหม่ และเป็นเส้นหลักของภาคเหนือซึ่งมาช่วยให้การเดินทางรอบเมืองหรือเชื่อมต่อไปยังจังหวัดอื่นๆสะดวกสบายมากขึ้น เพราะคนจะใช้ถนนเส้นนี้เป็นเส้นหลักวิ่งรอบเมืองก่อนที่จะเข้าตัวเมืองในทิศต่างๆ ค่ะ

โดยที่ตั้งของโครงการนั้นก็อยู่บน ถนน ซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่ – ลำปาง ช่วงบริเวณใกล้ๆกับแยกศาลเด็ก ข้างเซ็นทรัลเฟสติวัล ถนนเส้นนี้เป็นถนนเส้นหลักของการเดินทางเข้า-ออกจังหวัดเชียงใหม่ และใช้เดินทางเข้าเมืองได้ง่ายโดยถ้าขับตรงไปเรื่อยๆประมาณ 5.5 กิโลเมตรก็จะเข้าสู่ถนนนิมมานเหมินทร์ จึงเหมาะกับคนที่ต้องเดินทางโดยใช้เส้นทางนี้เป็นประจำ  พื้นที่บริเวณนี้ค่อนข้างมีความอุดมสมบูรณ์พอสมควร มีโครงการต่างๆมาจับจองพื้นที่กันทั้งคอนโด Low Rise ของผู้พัฒนาโครงการในท้องที่ และ เจ้าใหญ่ๆในกรุงเทพฯอย่าง ศุภาลัย มอนเต้ II และ ESCENT เชียงใหม่ของ CPN เป็นต้น

สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวนั้นค่อนข้างสะดวกทีเดียวค่ะ เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ไม่ไกลจากแยกศาลเด็ก ซึ่งเป็นแยกที่ตัดถนนทั้ง 3 สายหลักอย่าง ถนน แก้วนวรัฐที่สามารถเดินทางเข้าเมืองได้ ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่ – ลำปางที่เป็นวงแหวนรอบเมืองชั้นในที่สำคัญสามารถใช้เส้นทางนี้เป็นเส้นทางหลักในการเดินทางไปยังที่ต่างๆได้สบาย และถนนเชียงใหม่ – ดอยสะเก็ดที่มุ่งหน้าขึ้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือไปยังเชียงราย ส่วน การเดินทางแบบไม่ใช่รถนั้นก็ไม่ได้ลำบากนะคะ เพราะมีรถแดง และรถสองแถวคอยให้บริการอยู่บริเวณหน้าเซ็นทรัล สามารถเดินมาใช้บริการได้ง่ายๆ การเดินทางในย่านนี้ก็ไม่ได้เป็นย่านที่เงียบสงบวังเวงมากนักในตอนกลางคืน เพราะอยู่ใกล้กับ Central Festival และสถานีขนส่งอาเขต ดังนั้นสาวๆ ที่กลับห้องดึกๆ หน่อยโดยการนั่งรถแดงหรือตุ๊กตุ๊กมาก็ดูจะไม่เปลี่ยวจนดูอันตรายมากไปค่ะ

ถึงแม้ย่านนี้จะเป็นย่านที่อยู่บริเวณชานเมืองแต่ก็ยังถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูงพอตัวเพราะมีห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ และ Hypermarket อย่าง บิ๊กซี โฮมโปร และ Makro โรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนเรียงรายกันอยู่ที่ใกล้ๆกับโครงการคือ รพ.เทพปัญญา และ รพ.กรุงเทพ  รวมไปถึงสถานีขนส่งอาเขตซึ่งเป็นจุดขนส่งมวลชนนึงที่สำคัญของเชียงใหม่ ที่เห็นจะเป็นจุดเด่นของโครงการคืออยู่ใกล้กับเซ็นทรัลเฟสติวัลในระยะที่เดินถึง ซึ่งทางโครงการก็มีทำทางเดินเชื่อมไปออกด้านข้างเซ็นทรัลโดยไม่ต้องเดินผ่านถนนใหญ่ ให้เฉพาะลูกบ้านของแสนสิริเท่านั้น ถ้าอยากไปเดินเล่นหรือหาอะไรทานก็เดินไปได้ค่อนข้างสะดวก

สำหรับเรื่องปากท้องและแหล่งช็อปปิ้งนั้นก็สามารถพึ่งพิง Central Festival ได้สบายๆ เลยค่ะ และยังมี Promenada และ Big C อีกสาขาที่อยู่บริเวณจุดตัดกับถนนมหิดลด้วย หากมองหาอาหารถูกปากราคาถูกใจหน่อยก็คงต้องมาทางแถบอาเขตที่มีร้านค้าเล็กๆ และภายในอาเขตนี้ยังมี Community mall เล็กๆ อย่าง Star Avenue ซึ่งมีร้านอาหารติดแบรนด์ ร้านนั่งชิลทั้งกลางวันและกลางคืน รวมไปถึง Villa Market ด้านใน แหล่งจับจ่ายใช้สอยใกล้ๆโครงการยังมีอีกจุดที่น่าสนใจก็คือบริเวณ กาดรวมโชค เพราะเป็นแหล่งรวมตลาดถึง 3 แห่ง มีทั้งของแห้ง ของสด และร้านอาหารชั้นนำต่างๆ อย่างกาดรวมโชคก็เป็นแหล่งค้าขายของครบทั้งอาหาร เสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ หรือมีโชคพลาซ่าก็เป็นแหล่งร้านอาหารชั้นนำ ส่วนริมปิงซุปเปอร์มาร์เก็ตก็จะขายของสดที่เป็นแนวคัดเกรดมาแล้ว รวมถึงของนำเข้าต่างๆด้วย ดังนั้นบริเวณนี้เลยมีชาวต่างชาติมาเดินกันเยอะเลยค่ะ

ส่วนในระยะที่ไกลหน่อยก็สามารถขับรถเข้าไปหาอะไรทานในราคาที่สบายกระเป๋าได้ในตัวเมืองค่ะ  เริ่มจากถ้าใช้เส้นซุปเปอร์ไฮเวย์ตรงมาเรื่อยๆก็จะมาเข้าสู่ถนนนิมมานเหมินทร์ ย่านฮิปสตรีทที่รวมร้านค้า ร้านนั่งชิลและ ร้านอาหารไว้มากมาย นอกจากนั้นยังมีตลาดวโรรส ตลาดที่คนมักมาซื้อไส้อั่วแคบหมูไปเป็นของฝาก , ถนนคนเดินเชียงใหม่ ,  เชียงใหม่ ไนท์ บาซาร์ และ ถนนคนเดินท่าแพ เป็นต้น

การเดินทางในวันนี้เราเริ่มจากแยก รินคำ แยกที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างถนน นิมมานเหมินทร์ และ ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เลี้ยวขวาเข้าถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ตรงมาเรื่อยๆตามทาง โครงการจะอยู่ติดกับเซ็นทรัลเฟสติวัล บริเวณก่อนถึงแยกศาลเด็ก

เริ่มจากบริเวณแยกรินคำ ถ้าเราเลี้ยวซ้ายจะเป็นทางไปถนน นิมมานเหมินทร์ แต่ถ้าเราเลี้ยวขวาจะเป็นทางไปถนน ซุปเปอร์ไฮเวย์ บริเวณนี้จะมีโรงแรม Eastin Tan เชียงใหม่ , Think Park Community mall และ ศูนย์การค้า MAYA

พอเลี้ยวขวามาก็จะเป็น ถนน ซุปเปอร์ไฮเวย์ ถนนเส้นหลักของการเดินทางเข้า-ออกจังหวัดเชียงใหม่

ตรงมาตามทางเรื่อยๆ เราจะลอดทางลอดแยกข่วงสิงห์

ตรงมาตามทาง ทางด้านซ้ายจะผ่านโรงพยาบาล ลานนา

และผ่าน Tesco Lotus ทางฝั่งขวา บางช่วงของถนนจะมีการขุดหน้าดินเพื่อฝังท่อระบายน้ำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการขยายถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ฯ ช่วงสี่แยกข่วงสิงห์ ถึงสี่แยกรินคำ

ตรงไปเรื่อยๆ ข้ามสะพานซุปเปอร์ไฮเวย์เพื่อข้ามแม่น้ำปิง ถนนเส้นนี้ถ้าตรงไปเรื่อยๆจะใช้ไปออกจังหวัดข้างเคียงได้เช่น ลำพูน ลำปาง

ตรงต่อมาบริเวณโรงพยาบาลเทพปัญญา จะมีทางแยกไปถนนเชียงใหม่ – พร้าว ใช้วิ่งไปมหาวิทยาลัย แม่โจ้

ตรงมาอีกจนเกือบถึงบริเวณแยกศาลเด็ก ใกล้ๆกับเซ็นทรัลเฟสติวัล ก็จะเจอกับทางเข้าโครงการ ซึ่งโครงการจะต้องเข้าซอยไปอีก ทางเข้าเดียวกับโครงการ dcondo sign โดยอยู่ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 250 เมตร

ขับตรงเข้ามาจะเจอกับถนนที่ตัดเอาไว้ใช้ร่วมกันระหว่างโครงการ dcondo sign และ dcondo nim ทั้งสองข้างทางมีปลูกต้นไม้ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่น ทางด้านขวาที่วงสีแดงๆไว้เป็นทางเดินเชื่อมไปเซ็นทรัลเฟสติวัลเรียกว่า d walkway

d walkway เป็นทางเดินเชื่อมไปเซ็นทรัลเฟสติวัล ซึ่งให้สิทธิ์เฉพาะลูกบ้านของ dcondo เท่านั้น

พอเดินมาสุดทางแล้วจะต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าไป ซึ่งพอเดินออกจากประตูนี้ก็จะเป็นด้านข้างของเซ็นทรัลเฟสติวัลแล้วค่ะ ถือว่าค่อนข้างสะดวกเลยทีเดียว

เดินถัดเข้าไปอีกหน่อยจะเจอกับ โครงการ dcondo sign คอนโดตัวก่อนหน้า dcondo nim ของแสนสิริเช่นกัน

ถัดเข้ามาจะเจอกับวงเวียนเอาไว้กลับรถ ทั้งสองข้างทางมีการปลูกต้นไม้ร่มรื่นไปจนสุดทาง

เข้ามาด้านในจนสุดทางจะเจอกับโครงการ dcondo nim เชียงใหม่ อยู่ทางด้านขวาค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

ที่ตั้งของโครงการ dcondo nim เชียงใหม่ จากถนนใหญ่จะต้องเดินเข้ามาอีกประมาณ 250 เมตร ตั้งอยู่ติดกับโครงการ dcondo sign โดยระหว่างทางเดินออกไปถนนใหญ่จะมีทางเดินเชื่อมไปออกด้านข้างเซ็นทรัลเฟสติวัลได้เลย ซึ่งมีชื่อเรียกว่า d walkway สามารถเดินผ่านได้เฉพาะลูกบ้านของ dcondo เท่านั้น เพราะต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้า – ออก โครงการมีพื้นที่ 8-2-0 ไร่ ทางเข้าออกมีอยู่ทางเดียว ตัวอาคารแบ่งออกเป็น 3 อาคาร ตรงกลางเป็นพื้นที่ส่วนกลาง โดยมีแต่ละด้านติดกับ

• ทิศเหนือ – ติดกับที่ดินเปล่าของแสนสิริ สำหรับพัฒนา dcondo เฟสที่ 3
• ทิศตะวันออก – ติดกับที่ดินเปล่าและเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่
• ทิศใต้ – ติดกับโครงการ dcondo sign เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น
• ทิศตะวันตก –  ติดกับที่ดินเปล่าของแสนสิริ สำหรับทำโครงการในอนาคต

ทางด้าน ทิศเหนือ จะติดกับที่ดินเปล่าของแสนสิริ กั้นรั้วเตรียมพัฒนาเป็น dcondo เฟสที่ 3

ทิศตะวันออก ติดกับที่ดินเปล่าและเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่

ถ่ายจากด้านหลังโครงการ ทาง ทิศใต้ จะติดกับโครงการ dcondo sign คอนโด Low Rise 8 ชั้น

ทิศตะวันตก ของโครงการ  ติดกับที่ดินเปล่าของแสนสิริ สำหรับทำโครงการในอนาคต ทางทิศนี้มองออกไปจะเห็นวิวดอยสุเทพด้วย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น 

• Central Festival ~ 310 ม. (วัดระยะจาก d walkway)
• โรงพยาบาลเทพปัญญา  ~ 745 ม.
• Big C Extra ~ 1.40 กม.
• Business Park ~ 1.65 กม.
• Index Living Mall ~ 1.68 กม.
• โลตัสรวมโชค ~ 2.45 กม.
• ตลาดรวมโชค ~ 2.50 กม.
• แมคโคร ~ 3 กม.
• โรงพยาบาลลานนา ~ 3.3 กม.
• ม.พายัพ ~ 3.5 กม.

 

เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ dcondo nim เชียงใหม่ เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร 514 ยูนิต ซึ่งเป็นคอนโดตัวที่ 4 ที่แสนสิริเข้ามาทำในเชียงใหม่ถัดจาก  dcondo campus resort , ดีเวียง สันติธรรม และ dcondo sign ตัวอาคารออกแบบโดยหยิบเอาวิถีชีวิตย่านถนนนิมมานเหมินทร์มาเป็นแรงบันดาลใจ ผสมกับสไตล์ล้านนาซึ่งจะมีแทรกเป็นลูกเล่นอยู่ในแต่ละจุดของตัวอาคาร ตรงกลางของทั้ง 3 อาคารเป็น Facilities ประกอบด้วย สวนหย่อมขนาดประมาณ 2 ไร่ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสโมสร ส่วนที่จอดรถจะอยู่ใต้และรอบๆอาคาร โดยจอดได้ประมาณ 148 คันคิดเป็น 30% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 50% แต่ละอาคารจะมี Lobby แยกของใครของมัน ห้องพักจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 ไปถึงชั้น 8

ผังชั้นที่ 1 พอเข้าโครงการมา ถ้าจะจอดรถต้องเอาไปจอดรอบๆอาคารโดยแบ่งเป็นจอดในร่มและจอดกลางแจ้ง ตรงกลางของทั้ง 3 อาคารเป็นพื้นที่ส่วนกลางให้ลูกบ้านมาใช้ร่วมกันซึ่งข้อดีคือจะทำให้บรรยากาศในตัวอาคารทั้งหมดค่อนข้างเป็นส่วนตัว เพราะมีแต่ห้องพักอาศัยเท่านั้น  พื้นที่ส่วนกลางมีสวนหย่อมขนาดประมาณ 2 ไร่ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ สโมสร และฟิตเนส อาคารทั้งหมดจะวางอยู่ล้อมรอบพื้นที่ส่วนกลาง เข้ามาจะเจออาคาร A ก่อน ถัดไปเป็นอาคาร B สองอาคารนี้เป็นรูปตัว L อาคาร C อยู่ฝั่งตรงข้ามอาคารทั้งสองเป็นอาคารเดียวที่เป็นรูปตัว I แต่ละอาคารมี Lobby แยกกัน ใน Lobby มีพื้นที่พักคอย และโถงลิฟต์ มีลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งหมดเท่ากับ 86 ห้องต่อลิฟต์ 1 ตัว ห้องพักจะเริ่มตั้งแต่ชั้นหนึ่งเลย โดยอยู่ด้านในของอาคารทั้งหมดได้วิวเป็นสวนตรงกลาง

มาดูผังแยกแต่ละอาคารกันค่ะ สำหรับอาคาร A คืออาคารที่อยู่ด้านหน้าสุด ฝั่งหน้าโครงการ มีจำนวนห้องพัก 176 ยูนิต จำนวนห้องพักสูงสุด 24 ยูนิตต่อชั้นที่ชั้น 3 – 8 ส่วนชั้น 2 จะเสียพื้นที่ทำเป็น Double Spaceในส่วนของ Lobby  ลิฟต์โดยสารมีอยู่ทั้งหมด 2 ตัว ตรงช่วงกลางของอาคารอัตราส่วนลิฟต์ของอาคารนี้เท่ากับ 88 ห้องต่อลิฟต์ 1 ตัว ห้องพักจะแยกออกเป็น 2 ปีก ห้อง Studio และ 1 ห้องนอนจะวางอยู่ช่วงตรงกลาง ตำแหน่งห้องคละกันไป ส่วนห้อง 2 ห้องนอนจะอยู่บริเวณมุมอาคาร อาคารนี้ทางทิศใต้จะติดกับ dcondo sign สูง 8 ชั้นแต่ระยะของอาคารทั้ง 2 ห่างกันพอสมควรมุมมองจึงไม่บดบังกันในระยะประชิด ส่วนห้องที่อยู่วงในจะเห็นวิวเป็นพื้นที่ส่วนกลางและอาคารฝั่งตรงข้าม

อาคาร B คืออาคารที่อยู่ถัดจากอาคาร A มา เป็นอาคารรูปตัว L เช่นกันแต่กลับคนละด้าน  ถ้าเดินจากหน้าโครงการมาอาคารนี้จะเป็นโครงการที่เดินไกลที่สุด มีจำนวนห้องพัก 170 ยูนิต จำนวนห้องพักสูงสุด 23 ยูนิตต่อชั้นที่ชั้น 3 – 8 ลิฟต์โดยสารมีอยู่ทั้งหมด 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์เท่ากับ 85 ห้องต่อลิฟต์ 1 ตัว การจัดวางผังห้องพักคล้ายกับอาคาร A คือห้อง Studio และ 1 ห้องนอนอยู่ช่วงกลางอาคาร ห้อง 2 ห้องนอนอยู่ตรงมุม ส่วนเรื่องมุมมองจะมีฝั่งที่ติดกับโครงการ dcondo sign เหมือนกับอาคาร A เพราะอยู่ฝั่งเดียวกัน ส่วนทางด้านทิศตะวันออกจะอยู่เยื้องๆกับห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล

 

อาคาร C เป็นอาคารเดียวที่เป็นรูปตัว I อยู่ตรงข้ามอาคาร A และ B มีจำนวนห้องพัก 168 ยูนิต จำนวนห้องพักสูงสุด 23 ยูนิตต่อชั้นที่ชั้น 3 – 8 เช่นกัน  ชั้น 2 มีเสียพื้นที่ทำเป็น Double Spaceให้กับโซน Lobbyจึงมีความหนาแน่นของห้องพักน้อยกว่า การวางผังห้องพักห้อง Studio และ 1 ห้องนอนอยู่ตรงกลาง ห้อง 2 ห้องนอนอยู่ตรงมุม อาคารนี้ทางเข้าจะอยู่ใกล้ๆกับส่วนของฟิตเนส เป็นอาคารที่วางตัวในแนวเหนือ – ใต้ซึ่งจะไม่มีห้องที่ที่ได้รับแดดร้อนช่วงบ่าย อาคารที่อยู่ทางทิศเหนือจะติดกับที่ดินเปล่ารอพัฒนาเป็นโครงการในเฟสต่อไป ส่วนทางทิศใต้จะเห็นวิวเป็นพื้นที่ส่วนกลาง

เรามาดูโครงการกันดีกว่า เข้ามาจะเห็นว่าป้ายโครงการมีการเอาดีเทลเล็กๆน้อยๆอย่าง อิฐแดงของกำแพงเมืองเชียงใหม่ หน้าต่างบานเกล็ด มาใช้ในการตกแต่ง ดูรวมๆแล้วน่ารักดีค่ะ

ด้านหน้าโครงการมีการแยกทางเข้า – ออก ตรงกลางเป็นป้อมยามที่ดีไซน์โดยเอาลูกเล่นของบ้านล้านนามาประยุกต์  ลูกบ้านที่ขับรถมาจะผ่านไม้กระดกเข้าไปในโครงการ ส่วนใครที่ไม่ใช่ลูกบ้านจะต้องแลกบัตรที่บริเวณนี้ค่ะ

ป้อมยามดีไซน์มาให้เข้ากับแนวความคิดของโครงการ

ถัดเข้าไปจะเป็นทางไปที่จอดรถ บริเวณนี้ก็จะมีพี่ยามดูแลความเรียบร้อยให้อีกจุดหนึ่ง

ที่จอดรถจะอยู่รอบๆอาคาร มีทั้งจอดแบบในร่มเข้าซอง และจอดแบบกลางแจ้ง ที่จอดรถรวมๆแล้วประมาณ 148 คันคิดเป็น 30% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ถ้ารวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 50%

ถัดจากทางเข้าโครงการ จะเป็นทางเดินไปพื้นที่ส่วนกลาง ระหว่างทางมีจัดสวนและทำทางซิกแซกเข้าไปที่พื้นที่ส่วนกลางด้านใน ระหว่างทางมีตกแต่งด้วยเสาไฟเป็นระยะๆ

พอเดินเข้ามาตรงกลาง จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด เริ่มจากสวนหย่อมพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ ปลูกไม้พุ่มสลับกับต้นไม้ใหญ่

ถัดจากสวนหย่อมมาเป็น Club House 2 ชั้นอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ

ฝั่งตรงข้ามกับ Club House มีศาลาเล็กๆ ด้านในมีชุดที่นั่งให้มานั่งพักผ่อนได้

ด้านหน้า Club House ก็มีชุดที่นั่งเรียงกันอีกประมาณ 3 ชุด

เข้ามาใน Club House จะเจอกับโถงโล่งๆเป็น Double Space ฝ้าเพดานสูง รอบด้านเป็นบานประตูกระจกเปิดรับลมได้โดยรอบ มีชุดที่นั่งให้สำหรับนั่งเล่น หรือ นัดพบปะสังสรรค์

บรรยากาศอีกมุมหนึ่ง เนื่องจากมีหน้าต่างรอบด้านจึงทำให้ภายในดูโปร่ง โล่ง และมีลมพัดผ่านเป็นระยะๆ

ขึ้นมาชั้นบนจะมีชุดที่นั่งเพิ่มอีก วิวจากตรงนี้มองออกไปจะเห็นเป็นสระว่ายน้ำค่ะ

ลงมาจาก Club House จะเจอกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ถูกล้อมรอบด้วยอาคารทั้ง 3 อาคาร

ด้านข้างสระมีชุดที่นั่งทำจากหวายเทียมวางไว้อีก 1 จุด

สระว่ายน้ำเป็นระบบคลอรีน สระมีขนาดกว้าง 11 เมตร ยาว 50 เมตร ลึก 1.20 เมตร พร้อม Jacuzzi และ ที่ล้างตัว

ด้านข้างสระเป็นน้ำล้น รอบๆสระตกแต่งด้วยหินกรวดแบบนี้

ถัดจาก Club House ฝั่งด้านข้างสระว่ายน้ำเป็นห้องน้ำแยกชาย หญิง

ด้านในห้องน้ำมีครบทั้งอ่างล้างหน้า ตู้ล็อกเกอร์ มุมแต่งตัว

มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำ

บรรยากาศภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำค่ะ ประตูด้านหน้าเป็นบานกระจกนิรภัย

ถัดจากห้องน้ำมาจะเจอกับฟิตเนส เป็นอาคาร 1 ชั้น ผนังเป็นกระจกโดยรอบ

ภายในฟิตเนสวางเครื่องเล่นได้ประมาณ 10 เครื่อง ผนังเป็นกระจกมองออกไปเห็นวิวสระว่ายน้ำ

ถัดจากฟิตเนสไป ทางฝั่งซ้ายจะมีทางเดินไปเข้าอาคาร C

บริเวณชั้น 1 -3 ของอาคารมีการทาสีน้ำตาลแดงอิฐ เป็นลูกเล่น ห้องที่อยู่ชั้นล่างสุดจะมีไม้พุ่มปลูกขึ้นมาบังตา เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว

ส่วนบานหน้าต่างก็มีลูกเล่นโดยการทำเป็นกันสาดยื่นออกมา หรือ ทำเป็นบานเกล็ดติดอยู่ 2 ข้างของหน้าต่าง

ด้านข้างสระว่ายน้ำทางฝั่งขวามีทางเดินยาวๆไปทางเข้าอาคาร B ด้านข้างปลูกไม้พุ่มตลอดแนวเพื่อบังตาให้ห้องพักชั้นล่างฝั่งที่หันออกมาทางพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

หันหลัง เดินย้อนกลับมาเป็นทางเดินไปเข้า Lobby อาคาร A

เข้ามาใน Lobby อาคาร A จะเป็นโถงแบบ Double Space ถัดเข้าไปทั้งสองฝั่งเป็นทางเดินไปห้องพักและโถงลิฟต์ ถัดไปเป็นที่นั่งพักผ่อนและตู้จดหมาย

Lobby เป็น Double Space ผนังด้านหลังตกแต่งด้วยหินขนาดใหญ่ ชุดโต๊ะเก้าอี้เลือกแบบมาเข้ากับ Concept

ส่วนชุดที่นั่งอีกจุดหนึ่งเป็นแบบโต๊ะยาว พื้นที่ตรงนี้ก็เป็นแบบ Double Space เหมือนกัน

ห้องเก็บจดหมายอยู่ติดกับทางเข้าฝั่งที่มาจากที่จอดรถ โดยตู้จดหมายจะแยกอาคารใครอาคารมัน

มีลูกเล่นโดยการซ่อนไฟเป็นระยะทำให้ตู้ดูมีมิติขึ้น

โถงทางเดินแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งที่มีลิฟต์และไม่มีลิฟต์ ฝั่งที่ไม่มีลิฟต์เป็นทางเดินยาวๆ ผนังทาสีขาว พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาวครีม

ส่วนอีกฝั่ง เป็นฝั่งที่มีลิฟต์ ทางเข้าโถงลิฟต์กั้นด้วยประตูซึ่งต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าไป ฝั่งนี้จะมีห้องน้ำสำหรับใช้ส่วนกลางอยู่ด้วย

บรรยากาศภายในโถงลิฟต์ใช้โทนขาวในการตกแต่ง แต่ละอาคารจะมีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว ไม่มีลิฟต์บริการแต่จะมีบันไดหนีไฟอยู่อีก 2 จุดในปีกซ้ายขวา

ภายในลิฟต์เป็นสแตนเลสติดราวจับรอบด้านแบบนี้ โดยลิฟต์เป็นแบบล็อคชั้นที่จะต้องใช้คีย์การ์ดในการขึ้นไปที่ชั้นใครชั้นมันค่ะ

บรรยากาศภายในห้องน้ำส่วนกลางค่ะ

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• สโมสร 2 ชั้น
• สวนหย่อมขนาดประมาณ 2 ไร่
• Pavilion สำหรับนั่งพักผ่อน
• สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบคลอรีน ขนาด 11 x 50 เมตร ลึก 1.2 เมตร
• ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง
• ลิฟต์โดยสารทั้งหมด 6 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ทั้งหมด 86 : 1 เป็นลิฟต์ล็อคชั้น
• อัตราส่วนลิฟต์อาคาร A 88 : 1 , B 85 : 1 , C 84 : 1
• ที่จอดรถ 148 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 30% รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 50%
• Free Wi-Fi ที่พื้นที่ส่วนกลาง
• ระบบ CCTV / Access Card
• ทางเดินเชื่อมไปเซ็นทรัลเฟสติวัล (d walkway)

 

Product Walkthrough

โครงการ ดีคอนโด นิม มีห้องทั้งหมด 3 แบบ คือ สตูดิโอ 1 , ห้องนอน และ 2 ห้องนอน โดยห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันคือห้อง 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน โดยเฟอร์นิเจอร์โครงการนี้ให้แบบ Fully – Furnished ของ SB ตามแบบที่โชว์ในห้องตัวอย่าง แต่ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า และของตกแต่ง

เริ่มจากห้องแรกคือ ห้อง 1 ห้องนอนขนาด 37 ตร.ม. ห้องนี้เข้ามาจะเจอกับพื้นที่ที่ต่อเนื่องกันของห้องอาหาร และ ห้องนั่งเล่น ห้องอาหารวางชุดเก้าอี้ชิดผนังได้ 4 ที่นั่ง ถัดไปเป็นห้องนั่งเล่นวางโซฟาได้ 2 ที่นั่ง อยู่ติดกับหน้าต่างบานใหญ่เปิดรับแสงเข้ามาในห้องได้ ทางฝั่งซ้ายข้างโต๊ะทานข้าวเป็นทางไปห้องครัว โดยห้องนี้ครัวที่ได้จะเป็นครัวปิดซึ่งสามารถกันกลิ่นและควันเวลาประกอบอาหารหนักๆแบบ ต้ม ผัด แกง ทอดได้ ขนาดของครัวห้องนี้ค่อนข้างกว้างพอสมควร และมีพื้นที่เชื่อมต่อกับระเบียง สามารถเปิดไประบายอากาศหรือใช้ซักล้างได้ ส่วนทางฝั่งขวาของห้องเป็นห้องนอนและห้องน้ำ ห้องนอนมีพื้นที่สำหรับวางเตียงและโต๊ะเครื่องแป้ง โดยห้องน้ำจัดพื้นที่แยกเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจนสามารถเข้าได้จากทั้งห้องนอนและห้องทานข้าว ซึ่งในกรณีที่มีแขกมาก็สามารถเข้าห้องน้ำได้เลยโดยไม่ต้องผ่านห้องเรา และถ้าเราอยู่ในห้องนอนก็เข้าห้องน้ำได้สะดวกเช่นกัน

ประตูหน้าห้องเป็นบานสำเร็จรูป มือจับเป็น Digital Door Lock

Digital Door Lock สามารถใช้ได้ทั้งการ์ด และ กดรหัส

ระหว่างพื้นโถงทางเดินและพื้นในห้องเก็บงานด้วยคิ้วไม้ตามภาพ

เข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่ต่อเนื่องกันของห้องอาหาร และ ห้องนั่งเล่น ทางด้านขวาเป็นทางไปห้องนอนและห้องน้ำ ส่วนทางซ้ายเป็นทางไปห้องครัว ฝ้าเพดานของห้องนี้สูง 2.50 เมตร ฉาบเรียบทาสี โคมไฟเป็นแบบซาลาเปา พื้นเป็นพื้นไม้ลามิเนต

โต๊ะทานข้าวนั่งได้ 4 ที่นั่งมีดีไซน์ให้เก็บของเล็กๆน้อยๆด้านข้างได้

หน้าห้องครัวมีตู้เก็บของแถมมาให้ เปิดออกมาเก็บของและเก็บรองเท้าได้พอสมควร

ด้านข้างโต๊ะอาหารเป็นทางไปห้องครัว กั้นด้วยประตูบานเลื่อนเป็นครัวปิด ซึ่งน่าจะเหมาะกับคนชอบทำอาหารเพราะจะสามารถกันกลิ่นและควันได้ในระดับหนึ่ง

มือจับของประตูบานเลื่อนเป็นแบบนี้

ก่อนเข้าห้องครัวมีธรณียกขึ้นสูงประมาณ 10 cm. เพื่อให้สามารถซักล้างบริเวณครัวได้สะดวก

ภายในห้องครัวของห้องนี้ค่อนข้างกว้าง ถัดไปเป็นพื้นที่ระเบียงสามารถออกไปใช้ซักล้างหรือเปิดระบายอากาศได้ พื้นส่วนครัวเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 cm. ระยะระหว่างเคาน์เตอร์กับผนังกว้าง 90 cm. เป็นระยะที่พอเพียงสำหรับขยับตัวทำอาหาร

เคาน์เตอร์ครัวยาว 2.20 เมตร วัสดุเป็นโครงไม้ปิดผิวด้วยเมลามีนลายไม้ Top เคาน์เตอร์เป็นหินเทียม ด้านล่างเคาน์เตอร์มีช่องใส่ไมโครเวฟ

อ่างล้างหน้าที่แถมให้เป็นแบบหลุมเดียวของ Hafele

ด้านข้างเคาน์เตอร์เป็นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า โครงการเดินงานระบบมาให้เรียบร้อย ซึ่งดีตรงที่จะไม่ไปรบกวนพื้นที่ของระเบียง ทำให้ใช้พื้นที่ออกไปสูดอากาศหรือซักล้างได้เต็มที่

ระเบียงกันด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน เวลาเลื่อนเข้ามุมทำให้มีระยะในการเดินเข้า – ออกกว้างพอสมควร

พื้นที่ระเบียงมีขนาด 1.00 x 1.40 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 cm. ระหว่างพื้นครัวกับระเบียงกั้นด้วยธรณีสูง 10 cm.

คอมเพรสเซอร์แอร์ห้อยแขวนเป็นระเบียบ เป่าลมออกด้านข้างแบบนี้

ฝั่งตรงข้ามห้องครัวเป็นห้องนอน และ ห้องน้ำ ประตูเป็นบานสำเร็จรูป บานประตูห้องน้ำจะเป็นบานแบบเรียบๆ ส่วนบานประตูห้องนอนเป็นบานแบบมีลูกฟัก

มือจับเป็นแบบก้านโยกพร้อมตัวล็อค

ทางเข้าห้องน้ำมียกธรณีสูงขึ้นมาประมาณ 10 cm. กรุกระเบื้องโดยรอบ

ในห้องน้ำแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนแห้ง และ ส่วนเปียกกั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำของ Shower king พื้นเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 cm. ผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ มีไฟเป็นโคมซาลาเปาอยู่ 1 จุดตรงกลางห้องน้ำ ทำให้บริเวณพื้นที่อาบน้ำจะมืดไปนิด

ห้องน้ำสามารถเข้าได้จากทั้งห้องอาหารและห้องนอน  ซึ่งถือว่าค่อนข้างสะดวกในการใช้งาน แต่ตอนเปิดประตูพร้อมๆกันต้องระวังนิดนึงค่ะ

อ่างล้างหน้าเป็นของ American Standard ก๊อกน้ำเป็นของ VRH

โถสุขภัณฑ์เป็นของ American Standard ที่แขวนทิชชู่ติดอยู่บนผนังด้านหลัง เวลาใช้งานต้องเอื้อมไปหยิบหน่อย

ฉากกั้นอาบน้ำเป็นแบบ 3 ตอน เลื่อนเปิดออกมาได้แบบนี้

พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.90 x 1.00 cm. ปูด้วยพื้นเซรามิคลายตารางขนาด 30 x 30 cm.

ฝักบัวมีทั้งแบบ Shower และแบบมือจับ มีติดงานระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้

หน้าตาของฝักบัวของ VRH ค่ะ

ถัดจากห้องทานข้าวเป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งวางโซฟาได้ 2 ที่นั่งยาว 160 cm. ระยะดูทีวีประมาณ 180 cm. ซึ่งเหมาะกับวางทีวีขนาด 32″-40″ ผนังด้านข้างเป็นหน้าต่าง กรอบล่างของหน้าต่างยกสูงจากพื้นมาประมาณ 50 cm.

ตู้วางทีวี มีชั้นเก็บของเล็กๆน้อยๆได้

ถัดมาเป็นห้องนอน วางเตียงได้ขนาด Queen Size ด้านข้างเตียงเป็นหน้าต่างเอาไว้เปิดรับแสงและชมวิว ส่วนอีกด้านเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง

ด้านล่างเตียงมีพื้นที่สำหรับเก็บของ ถ้าอยากให้เป็นระเบียบก็สามารถเอาใส่กล่องแบบนี้ได้ค่ะ

ด้านซ้ายมีระยะเหลือ 50 cm. ซึ่งมีพื้นที่พอสำหรับวางโต๊ะข้างเตียงและให้แนวม่านพาดผ่าน ส่วนทางฝั่งขวามีระยะเหลือประมาณ 75 cm.

ส่วนปลายเตียงมีระยะ 78 cm. กว้างพอสมควรแต่ถ้าอยากติดทีวีก็แนะนำให้ติดแบบแขวนเอา จะประหยัดพื้นที่มากกว่าค่ะ

ข้างเตียงเป็นตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อน ขนาดกว้าง 1.25 cm. ทำให้ประหยัดพื้นที่ ด้านข้างเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง

ห้องต่อมาที่จะพาไปชมคือห้อง 2 ห้องนอนขนาด 60 ตร.ม. ห้องนี้เข้ามาจะเจอกับโถงเล็กๆก่อนจะแจกไปส่วนต่างๆเริ่มจากห้องแรกทางฝั่งขวาเป็นห้องน้ำที่มีทั้งส่วนเปียกและส่วนแห้ง โดยห้องนี้เป็นห้องที่ใช้ได้ทั้งส่วนกลางและเป็นห้องน้ำที่ใกล้ห้องนอนเล็กที่สุด ถัดไปเป็นห้องนอนเล็ก วางเตียงได้ขนาด Queen Size และมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า ทางฝั่งซ้ายจะเป็นพื้นที่ต่อเนื่องกันของห้องนั่งเล่นกับห้องอาหารและห้องครัว ห้องนั่งเล่นวางโซฟาได้ 2 ที่นั่ง มีระยะดูทีวีเยอะกว่าห้องแบบ 1 ห้องนอน ห้องนี้อยู่ติดกับระเบียงขนาดใหญ่สามารถเอาชุดที่นั่งออกไปวางได้สบายๆ และมีมุมสำหรับวางเครื่องซักผ้า ส่วนห้องครัว เคาน์เตอร์ครัวห้องนี้มีขนาดเล็กกว่าห้องแบบ 1 ห้องนอน  เป็นครัวเปิด เน้นการทำอาหารแบบง่ายๆ เช่น ซื้อจากข้างนอกมาทาน ไม่ผัดอาหารที่มีกลิ่น ส่วนโต๊ะทานข้าววางได้ 4 ที่นั่งตามเดิม ถัดไปเป็นห้องนอนใหญ่ที่มีหน้าต่าง 2 ฝั่งเนื่องจากเป็นห้องมุม ทำให้ห้องดูสว่างและโปร่ง พอเปิดหน้าต่างแล้วมีลมพัดผ่านได้ ห้องนี้มีห้องน้ำในตัวเข้าได้จากห้องนี้เลย หน้าห้องจะมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า และ โต๊ะเครื่องแป้ง

เข้ามาห้องนี้จะเจอกับโถงเล็กๆก่อน ทางฝั่งขวาเป็นห้องน้ำ ถัดไปเป็นห้องนอนเล็ก ทางด้านซ้ายเป็นทางไปห้องอาหาร ห้องครัว ห้องนั่งเล่น และ ห้องนอนใหญ่

ทางฝั่งหน้าประตูเป็นห้องน้ำ ซึ่งการที่มีห้องน้ำอยู่ตรงนี้มีความสะดวกตรงที่เวลากำลังจะออกไปข้างนอกก็สามารถแวะทำธุระได้ก่อน และยังใกล้กับห้องนอนเล็ก สามารถออกมาใช้ได้สะดวก

ภายในห้องน้ำผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 cm.  ส่วนพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 cm. แยกเป็นส่วนแห้งส่วนเปียก

สุขภัณฑ์ทั้งโถและอ่างล้างหน้าเป็นของ American Standard

ฉากกั้นอาบน้ำเป็น Shower King แบบ 3 ตอน กั้นแยกส่วนแห้งส่วนเปียก พื้นที่อาบน้ำของห้องนี้ขนาด 1.00 x 1.15 cm. ใช้วัสดุแบบเดียวกันกับห้องก่อนหน้า

ตู้เก็บรองเท้า ดีไซน์เดียวกับห้องอื่นๆ เปิดออกมาเก็บของได้เยอะพอสมควร ทั้งรองเท้าแบบคู่เล็ก คู่ใหญ่ และเก็บของชั้นบนๆ

ในห้องนอนเล็กวางเตียงได้ขนาด Queen Size ห้องนี้ไม่มีระเบียงแต่มีหน้าต่างบานใหญ่เอาไว้รับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้อง

ทางฝั่งซ้ายมีระยะ 60 cm. ส่วนทางขวามีระยะ 80 cm. ฝั่งนี้จะติดกับตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิด

ปลายเตียงมีระยะ 97 cm. ระยะกว้างพอสำหรับวางตู้หรือโต๊ะเล็กๆ

ส่วนด้านข้างเตียงเป็นตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิด เปิดออกมาเก็บของได้เยอะพอสมควรมีทั้งราวแขวน และลิ้นชักเก็บของซึ่งน่าจะถูกใจสาวๆค่ะ

ด้านข้างเตียงอีกฝั่งเป็นหน้าต่างบานใหญ่ ด้านล่างเป็นบาน FIX ด้านบนเป็นบานเลื่อนเก็บด้านข้างทั้ง 2 ด้าน

ถัดมาเป็นห้องอาหารและครัวเปิด เคาน์เตอร์ครัวรูปตัว I  เหมาะกับใช้เตรียมอาหารเล็กๆน้อยๆ ไม่เน้นทำอาหารหนักๆ

โต๊ะอาหารเป็นแบบเดียวกันกับห้อง 1 ห้องนอนค่ะ วางเข้ามุมได้แบบนี้

เคาน์เตอร์ครัวห้องนี้มีขนาดกว้าง 1.50 เมตร เปิดเก็บของได้ตามภาพ ไม่มีเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน

อ่างล้างหน้าแบบหลุมเดียวของ Hafele เช่นกัน

ด้านล่างเคาน์เตอร์มีพื้นที่สำหรับวางไมโครเวฟ

อีกฝั่งเป็นห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับระเบียง ฝั่งตรงข้ามเป็นทางไปห้องนอนใหญ่

ห้องนั่งเล่นของห้องนี้มีระยะดูทีวี 2.60 เมตร ค่อนข้างกว้าง เหมาะกับวางทีวีขนาด  46″ – 52″ ระหว่างห้องรับแขกกับระเบียงกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่

ระเบียงมีขนาดค่อนข้างกว้าง สามารถนำเอาชุดที่นั่งพักผ่อนออกมาวางได้สบายๆ ด้านข้างเป็นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ ส่วนพื้นที่วางเครื่องซักผ้าของห้องนี้จะอยู่บริเวณระเบียงค่ะ

ถัดไปเป็นทางเข้าห้องนอนใหญ่ อยู่ระหว่างเคาน์เตอร์ครัวกับห้องนั่งเล่น

ห้องนอนใหญ่มีหน้าต่างอยู่ 2 ฝั่ง ทำให้ห้องนี้ดูค่อนข้างโปร่ง และระบายอากาศได้ดี วางเตียงขนาดใหญ่ได้แบบ King Size

ด้านข้างเตียงทางฝั่งซ้ายมีระยะ 80 cm. ส่วนฝั่งขวามีระยะ 100 cm. ค่อนข้างกว้างพอสมควร ทั้งสองฝั่งวางโต๊ะข้างเตียงได้สบายๆ

ส่วนปลายเตียงมีระยะค่อนข้างกว้าง สามารถวางตู้ปลายเตียงแบบในห้องตัวอย่างแล้ว ยังมีระยะเหลือจากปลายเตียงจนถึงตู้ 85 cm.

อีกฝั่งเป็นทางไปห้องน้ำ ด้านหน้าห้องน้ำมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้  มีระยะระหว่างตู้เสื้อผ้าถึงผนังหน้าห้องน้ำประมาณ 1.20 เมตร

ตู้เสื้อผ้าเก็บของได้ค่อนข้างเยอะตามภาพ

โต๊ะเครื่องแป้งเป็นแบบเคาน์เตอร์ติดผนัง ด้านล่างสามารถเอาตะกร้าเก็บของมาวางเพิ่มเติมได้

ภายในห้องน้ำบรรยากาศคล้ายๆกับห้องอื่นๆ

สุขภัณฑ์ทั้งโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าเป็นของ American Standard

พื้นที่อาบน้ำของห้องนี้กว้าง 1.00 x 1.05 cm.

แอร์ที่โครงการแถมให้ยี่ห้อ Trane จำนวน BTU ขึ้นอยู่กับขนาดของห้อง

ส่วนสวิทซ์เป็นของยี่ห้อ Bticino

ส่วนห้อง Studio 30 ตร.ม. เข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่นซึ่งมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานข้าว ถัดไปเป็นห้องนอนกั้นด้วยกระจกบานเลื่อนบานใหญ่ มีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง อีกฝั่งเป็นห้องครัวปิดที่เชื่อมต่อกับระเบียง ถัดไปเป็นห้องน้ำ

ภาพบรรยากาศของห้อง Studio ค่ะ ห้องนี้เอามาให้ดูแค่คร่าวๆนะคะ เข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่น ถัดไปเป็นห้องนอนกั้นด้วยกระจกบานเลื่อนบานใหญ่เปิดออกสองฝั่ง ฝั่งซ้ายเป็นทางไปห้องครัวกับห้องน้ำค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 07 June 2016

• Studio  เนื้อที่ 29.79 ตร.ม. ราคา 1.69 ล้านบาท หรือ 56,730 บาท/ตร.ม.
• 1 ห้องนอน เนื้อที่ 37.32 ตร.ม. ราคา 2.20 ล้านบาท หรือ 58,949 บาท/ตร.ม.
• 2 ห้องนอน เนื้อที่ 60.25 ตร.ม. ราคา 3.6 ล้านบาท หรือ 59,751 บาท/ตร.ม.

• Fully Furnished
• เพดานสูง 2.50 เมตร
• Kitchen & Sink
• Hob & Hood
• จอง 10,000 – 20,000 บาท
• ทำสัญญา 30,000 – 60,000 บาท
• ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
• ค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

เจาะลึกรวบยอด

dcondo nim เชียงใหม่ เป็นโครงการคอนโด Low Rise 8 ชั้นสร้างเสร็จก่อนขาย ตั้งอยู่บน ถนน ซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่ – ลำปาง ช่วงบริเวณใกล้ๆกับแยกศาลเด็ก ข้างเซ็นทรัลเฟสติวัล ถนนเส้นนี้เป็นถนนเส้นหลักของการเดินทางเข้า-ออกจังหวัดเชียงใหม่ไปยังจังหวัดข้างเคียงในภาคเหนือ และใช้เป็นเส้นทางเข้าเมือง โดยถ้าขับตรงไปเรื่อยๆไม่กี่นาทีก็จะเข้าถึงถนนนิมมานเหมินทร์แล้ว เหมาะกับคนที่ต้องเดินทางโดยใช้เส้นทางนี้เป็นประจำ  ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบพื้นที่เนื่องจากทำเลอยู่ติดกับเซ็นทรัลเฟสติวัล และยังมี d walkway เดินเชื่อมไปได้จึงค่อนข้างสะดวกและถือเป็นจุดเด่นของโครงการ เพราะสามารถเดินไปพึ่งพิงเซ็นทรัลได้สบายๆในระยะค่อนข้างใกล้ แต่ถ้าอยากได้ของราคาย่อมเยาต้องมาทางฝั่งอาเขตที่มีร้านค้าเล็กๆ หรือตลาดอย่างตลาดรวมโชค ตลาดวโรรส เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีHypermarket อย่าง บิ๊กซี โฮมโปร และ Makro ให้ได้จับจ่ายใช้สอย  เนื่องจากทำเลอยู่ใกล้เซ็นทรัล จึงทำให้มีผู้ประกอบการมาจับจองพื้นที่ในการพัฒนาโครงการ ทั้งคอนโด Low Rise ของผู้พัฒนาโครงการในท้องที่ และ เจ้าใหญ่ๆในกรุงเทพฯอย่าง ศุภาลัย มอนเต้ II และ ESCENT เชียงใหม่ของ CPN ซึ่งเป็นตึกสูงแต่ราคาก็จะแพงกว่า ซึ่งถ้าเป็นเจ้า local ราคาอาจจะต่ำกว่าหน่อยแต่ก็จะได้ในส่วนของการบริหารจัดการ หรือ พื้นที่ส่วนกลางน้อยกว่า

สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวนั้นค่อนข้างสะดวก เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ไม่ไกลจากแยกศาลเด็ก ซึ่งเป็นแยกที่ตัดถนนทั้ง 3 สายหลักอย่าง ถนน แก้วนวรัฐที่สามารถเดินทางเข้าเมืองได้ ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่ – ลำปางที่เป็นวงแหวนรอบเมืองชั้นในที่สำคัญสามารถใช้เส้นทางนี้เป็นเส้นทางหลักในการเดินทางไปยังที่ต่างๆได้สบายๆ และถนนเชียงใหม่ – ดอยสะเก็ดที่มุ่งหน้าขึ้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือไปยังเชียงราย และถ้าใช้ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์วิ่งไปอีกฝั่งไปเรื่อยๆจะไปออกถนนนิมมานเหมินทร์ได้

ส่วนการเดินทางแบบไม่ใช่รถ ถึงแม้ว่าทำเลจะค่อนข้างไกลจากตัวเมืองแต่ก็ไม่ได้ลำบากเพราะมีรถแดง และรถสองแถวคอยให้บริการอยู่บริเวณเซ็นทรัล สามารถเดินมาใช้บริการได้ง่าย และด้วยความที่ใกล้เซ็นทรัลจึงทำให้บริเวณโดยรอบคึกคักในตอนกลางคืนจึงไม่น่าจะเปลี่ยวเท่าไหร่ ระยะทางจากถนนใหญ่เข้าโครงการต้องเดินต่อมาอีกซึ่งค่อนข้างเงียบแต่ระหว่างนั้นก็มีโครงการ d condo sign ซึ่งมีรปภ.ประจำดูแลความปลอดภัยให้อยู่ค่ะ

วัสดุถือว่าให้ตามมาตรฐานค่อนข้างไปทางดี พื้นไม้ลามิเนต พื้นห้องน้ำกระเบื้องแกรนิตโต้และเซรามิค สุขภัณฑ์ของ American Standard มีแถมเฟอร์นิเจอร์ให้แบบ Fully – Furnished ครบชุดของ SB และดีตรงที่เป็นโครงการสร้างเสร็จก่อนขายทำให้เราสามารถเห็นวัสดุที่เราจะได้จริงๆได้เลย ไม่ต้องไปรอลุ้นเอาหน้างาน

การออกแบบ ทำออกมาได้สวยชอบตรงที่มีการเอารายละเอียดเล็กๆน้อยที่เป็นจุดเด่นของเชียงใหม่มาใช้ในงานออกแบบเช่นบริเวณ ป้อมยาม ป้ายหน้าโครงการ และตกแต่งหน้าต่างชั้นล่างด้วยกันสาดและบานเกล็ด การวางผังวาง Facilities อยู่ตรงกลางให้ใช้ร่วมกันทำให้ห้องพักบนตัวอาคารค่อนข้างเป็นส่วนตัว และทำให้ห้องที่อยู่วงในได้รับวิวเป็นสวนหย่อม การวางผังห้องพักทำให้ลงตัวและวางให้ห้องดูกว้าง ห้องStudio และ 1 Bedroom ได้ครัวปิดขนาดใหญ่พอสมควรใช้งานได้จริง ส่วนห้อง 2 Bedroom ก็ได้ห้องที่ค่อนข้างกว้างและมีระเบียงขนาดใหญ่พอสมควร

สาธารณูปโภคจัดมาให้ครบทั้งสวนหย่อมขนาดประมาณ 2 ไร่ ฟิตเนส สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ศาลานั่งพักผ่อน Club House มี Free Wi-Fi ที่พื้นที่ส่วนกลาง มี Lobby แยกของใครของมัน ซึ่งรวมๆแล้วน่าจะเพียงพอต่อความต้องการของลูกบ้าน ที่จอดรถจอดได้ 30% แบบไม่รวมซ้อนคัน รวมซ้อนคันได้ 50% ถือว่าให้ตามมาตรฐาน แต่โครงการอยู่ในทำเลที่ต้องเดินทางด้วยรถเป็นหลักถ้าที่จอดรถไม่เพียงพอก็พอมีพื้นที่บริเวณรอบๆโครงการสามารถไปจอดได้  และมีที่จอดรถมอเตอร์ไซค์มาให้ด้วย แต่ละอาคารมีลิฟต์โดยสารให้อาคารละ 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการเท่ากับ 86 : 1 อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน อาจจะต้องมีรอกันบ้างในช่วงเวลาเร่งด่วน ค่าส่วนกลางเก็บอยู่ที่ 45 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

 

Judgement

เนื่องจากเป็นโครงการในทำเลที่ Think of Living ไม่คุ้นเคย จึงไม่สามารถให้คะแนนเปรียบเทียบความคุ้มค่าได้ค่ะ ^ ^

BOTTOM LINE

dcondo nim เชียงใหม่ เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดพร้อมอยู่ราคาย่อมเยาในเชียงใหม่ แบบที่ยกกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลย เดินทางสะดวกทั้งเข้าเมืองและออกนอกเมืองไปยังจังหวัดใกล้เคียง ใกล้กับห้างใหญ่ หาของกินของใช้สะดวก  มีงบประมาณตั้งแต่  1.69 – 3.6 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 12,000 – 25,000 บาท/เดือน

 

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )