รีวิวฉบับที่ 2568 วันนี้เราจะพามาชม Campus Condo แห่งใหม่ใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพกับ dcondo Hype Rangsit ( ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต ) โครงการคอนโด Low Rise หนึ่งใน Mega Project จาก Sansiri ทำเลตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน ฝั่งขาเข้า ตรงข้ามมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ถือเป็นการเปิดตัว dcondo Community โดดเด่นด้วย Main Entrance ดีไซน์ใหม่ ได้เฟอร์ครบ ในราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท* โดย Highlights ที่น่าสนใจจะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลยค่ะ

  • ทำเลติดถนนใหญ่ : โครงการ dcondo Hype Rangsit ตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เดินทางเข้า – ออกเมืองได้ง่าย อยู่ใกล้ทางด่วนและแหล่งความอุดมสมบูรณ์ในโซนรังสิต และอยู่ใกล้จุดกลับรถเพียง 500 เมตร สำหรับนักศึกษาและบุคคลากรในมหาวิทยาลัยมีรถ Shuttle Service วิ่งบริการรับ – ส่งให้จากโครงการ
  • ยูนิตน้อย เป็นส่วนตัว : ยูนิตในโครงการมีทั้งหมด 546 ยูนิต แบ่งเป็น 2 อาคาร เมื่อเทียบกับโครงการใกล้เคียงที่มีมากสุดพันกว่ายูนิต ก็ถือเป็นจำนวนที่น้อย จึงได้ความเป็นส่วนตัวสูง โดยพื้นที่ส่วนกลางแยกจากส่วนพักอาศัยชัดเจน ข้อดีคือช่วยลดความพลุกพล่านในอาคารได้ และลูกบ้านสามารถเดินมาใช้ส่วนกลางง่าย
  • วัสดุ : โครงการขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์ครบทั้ง Built – in และลอยตัว แต่สิ่งที่น่าสนใจอยู่ที่การเลือกใช้วัสดุ ซึ่งยึดหลักแนวคิด Well Rounded ของ dcondo ที่คำนึงถึงคุณภาพและสุขภาพของผู้ใช้งาน เช่น โซฟาเมมโมรี่โฟมบริเวณส่วนนั่งเล่น ที่ออกแบบเพื่อรองรับสรีระและช่วยลดแรงกดทับที่ทำให้เกิดอาการปวดตามร่างกายได้
  • ราคาหยิบจับง่าย : ราคาเริ่มต้นของโครงการอยู่ที่ 1.39 ล้านบาท* ได้เฟอร์ครบ ซึ่งจัดว่าเป็นราคาที่จับต้องได้ง่ายในย่านนี้เลย จะซื้ออยู่เองระยะยาวก็ได้ หรือซื้อปล่อยเช่าเพื่อทำกำไรก็คุ้มค่า ซึ่งโครงการ dcondo Hype Rangsit ก็ถือว่ามีศักยภาพที่ตอบโจทย์ผู้เช่าได้หลายกลุ่ม ทั้งนักศึกษา บุคคลากรและพนักงานในย่านนี้เลย

ข้อมูลโครงการ

dcondo Hype Rangsit  (ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต) ณ วันที่ 3 กรกฎาคม 2566

 ชื่อโครงการ  dcondo Hype Rangsit  (ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS  MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนนพหลโยธิน อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
 ที่ดิน  4 ไร่
 ประเภทคอนโด  Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร อาคารพาณิชย์ 1 อาคาร
 จำนวนยูนิต  ห้องพักอาศัย 552 ยูนิต ร้านค้า 6 ยูนิต
– อาคาร A จำนวน 273 ยูนิต
– อาคาร B จำนวน 273 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด   39 ยูนิต
 ที่จอดรถ  166 คัน คิดเป็น 30% (รวมจอดซ้อนคัน)
 เริ่มก่อสร้าง  ปี 2566
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  ปี 2567
 ประเภทห้องพัก
  • Studio พื้นที่ใช้สอยภายใน 22.00 – 22.50 ตร.ม.
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 24.00 – 25.25 ตร.ม.
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 26.25 – 26.75 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 34.00 – 34.25 ตร.ม.

 ฝ้าเพดานสูง  n/a เมตร (ข้อมูล ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2567)
 ราคาเริ่มต้น  1.39 ล้านบาท*  1.79 ล้านบาท* (ข้อมูล ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2567)
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 72,000 บาท/ตร.ม. (ข้อมูล ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2567)
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด)  70,000 – 91,000 บาท/ตร.ม. (ข้อมูล ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2567)
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  ผ่านแล้ว
 เว็บไซต์โครงการ คลิกที่นี่
 Call Center  1685

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 14.041879 , 100.616787
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ แสดงตำแหน่งของ dcondo Hype Rangsit โดยที่ตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน ตรงข้ามมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เป็น Campus Condo อีกหนึ่งแห่งที่ตอบโจทย์ทั้งนักศึกษา บุคคลากรและคนที่ทำงานในย่านรังสิต ซึ่งรอบๆก็ยังมีมหาวิทยาลัยชื่อดังอีกหลายแห่งทั้ง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยรังสิต สำหรับคนที่ใช้รถส่วนตัวในการเดินทางก็ถือว่าสะดวกมากๆ ด้วยทำเลที่อยู่ฝั่งถนนพหลโยธินขาเข้า สามารถตรงเข้าเมืองได้ง่าย โดยขับเชื่อมต่อกับถนนวิภาวดี – รังสิตผ่านดอนเมืองได้เลย หรือใช้ทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลเวย์) ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการ 3.9 กิโลเมตร

สำหรับนักศึกษาที่เรียนในมหาวิทยาลัยกรุงเทพ โครงการอยู่ห่างจากมหาลัย 500 เมตร ซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างสะพานลอย 2 ฝั่ง แต่ในอนาคตจะมีการสร้างสะพานลอยเพิ่มเพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้ลูกบ้าน สามารถขึ้นได้จากหน้าโครงการไปลงที่มหาลัยได้เลย จากฝั่งตรงข้ามก็เดินทางกลับมาได้เลย เพราะติดถนนใหญ่ มีพี่ๆวินมอเตอร์ไซต์ให้เลือกใช้บริการค่อนข้างเยอะ แต่ตัวโครงการเองก็มี Shuttle Service ไว้คอยวิ่งบริการให้กับลูกบ้านนะคะ เผื่อใครไม่อยากเสียเวลา หรือตากแดดเดินช่วงกลางวัน

นอกจากนี้การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ ยังมีตัวเลือกอย่างรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยมีสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีคลองหนึ่ง สามารถวิ่งไปยังปลายทางสถานีบางซื่อได้เลย หรือจากมหาลัยก็สามารถนั่งไปห้างอย่างฟิวเจอร์พาร์คได้ หรือคนที่อยากกลับบ้านต่างจังหวัด ก็ไปลงสถานีดอนเมืองเชื่อมต่อสนามบินหรือรถไฟทางไกล เหมาะกับคนที่ย้ายมาเรียนหรือทำงานในโซนนี้ได้

ในแง่ความอุดมสมบูรณ์ ทำเลโครงการอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย จัดเป็นย่านที่ค่อนข้างคึกคักอยู่แล้ว ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องหาของกินเลย เพราะรอบๆมีทั้งร้านค้าและร้านอาหารกระจายอยู่ทั้ง 2 ฝั่งถนน โดยเฉพาะฝั่งมหาวิทยาลัยกรุงเทพ มีซอยชื่อรังสิตภิรมย์ ที่นอกจากเป็นโซนหอพักนักศึกษา ยังเป็นย่านที่มีร้านอาหารชื่อดังเต็มแน่นตลอดซอย

ติดกันเป็น Community Mall มีพื้นที่ให้นั่งทำงานได้ มีปั๊มน้ำมันที่มีร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารอยู่ข้างใน Hypermarket อย่าง Tesco Lotus และ Sporting good stores ขนาดใหญ่ Decathlon Rangsit อีกด้วย หรือหากใครอยากเดินห้างเปลี่ยนบรรยากาศ โครงการก็อยู่ไม่ไกลจาก ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ขับตรงจากโครงการไปประมาณ 6 กิโลเมตร ก็ถึงเลย เรียกได้ว่าเป็นทำเลที่ครบครันทั้งกิน เที่ยว ช็อปเลยค่ะ

Image 1/2
เส้นทางการเดินทางจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพไปโครงการ

เส้นทางการเดินทางจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพไปโครงการ

การเดินทางจากโครงการ dcondo Hype Rangsit ไปมหาวิทยาลัยถือว่าค่อนข้างง่าย เพราะที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้ทางกลับรถ จากถนนพหลโยธินขับไป 1 กิโลเมตร ก็สามารถกลับรถเพื่อเลี้ยวเข้ามหาลัยได้เลย ส่วนทางกลับจะต้องใช้สะพานกลับรถที่ถนนเชียงราก – คลองหลวง จากนั้นตรงมา 4 กิโลเมตร ก็จะถึงโครงการเลยค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ dcondo Hype Rangsit ส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่าซึ่งกำลังจะมีการพัฒนาเป็นโครงการในอนาคต ฝั่งที่ติดอาคารอื่นๆก็เป็นอาคารแนวราบ ทำให้ปัจจุบันยังคงได้วิวเปิดโล่ง ด้านหน้าติดถนนพหลโยธิน ซึ่งถือเป็นข้อดีเมื่อเทียบกับโครงการหรือหอพักบางแห่งที่จะตั้งอยู่ในซอย สามารถเดินทางเข้า – ออกได้สะดวกและเป็นส่วนตัวกว่า

  • ทิศเหนือ ติดกับอาคารแนวราบ
  • ทิศใต้ ติดกับทางเข้าโครงการ (ถนนส่วนบุคคล) พื้นที่โครงการในอนาคต
  • ทิศตะวันออก ติดกับพื้นที่โครงการในอนาคต
  • ทิศตะวันตก ติดกับถนนพหลโยธิน

Image 1/7
บรรยากาศ Sale Gallery ของโครงการ

บรรยากาศ Sale Gallery ของโครงการ

Sale Gallery ตั้งอยู่ด้านข้างติดกับที่ดินของโครงการ โดยถนนในโครงการได้เริ่มก่อสร้างให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้วนะคะ ซึ่งตำแหน่งปัจจุบันที่ Sale Gallery ตั้งอยู่ จะเป็นพื้นที่โครงการเฟส 4 ในอนาคต การตกแต่งหน้าต่างของอาคารทำออกมาได้ดูทันสมัย สวยงามและน่าใช้งาน เมื่อเลื่อนดูรายละเอียดต่อด้านล่างจะเห็นว่าการออกแบบคล้าย Clubhouse ภายในโครงการ

Image 1/6
บรรยากาศรอบๆมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

บรรยากาศรอบๆมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

ฝั่งตรงข้ามเป็นมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ในช่วงเปิดเทอมจะได้บรรยากาศคึกคักทั้งกลางวันและกลางคืนเลย โดยความอุดมสมบูรณ์ส่วนใหญ่ที่นักศึกษามักไปใช้บริการก็คือฝั่งนั้นนั่นเอง

Image 1/6
การตกแต่งภายใน Sale Gallery

การตกแต่งภายใน Sale Gallery

Sale Gallery จัดพื้นที่เป็นสัดส่วน เมื่อเข้ามาจะเจอกับเคาน์เตอร์ต้อนรับและโมเดลโครงการให้เราสามารถเดินดูได้ ด้านข้างมีพื้นที่พักคอย และมีคาเฟ่ The Summer Coffe มาเปิดให้บริการด้วย โดยห้องตัวอย่างที่มีให้ชมจะเป็นห้อง 1 Bedroom 26.25 ตร.ม. หากใครสนใจก็สามารถแวะไปดูกันได้ โดยในวันที่ 8 – 9 ก.ค. นี้ก็จะมีการเปิด Presale ให้ได้จับจองกัน

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • เมกา โฮม ~ 170 เมตร
  • ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ~ 6 กิโลเมตร
  • สเปลล์ ~ 6.2 กิโลเมตร
  • ตลาดไท ~ 5.4 กิโลเมตร
  • ตลาดสี่มุมเมือง ~ 11 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลภัทรธนบุรี ~ 800 เมตร
  • โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ~ 5.8 กิโลเมตร

โรงเรียน

  • มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ~ 500 เมตร
  • AIT International School ~ 7 กิโลเมตร

การเดินทาง

  • ทางยกระดับอุตราภิมุข ~ 3.9 กิโลเมตร
  • รถไฟฟ้าสถานีรังสิต (Red Line) ~ 7.7 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

dcondo Hype Rangsit เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร จาก Sansiri ทำเลตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยโครงการเป็นเฟสแรกของ dcondo Community ซึ่งมีแพลนในอนาคตว่าจะทำออกมาถึง 4 เฟสด้วยกัน สำหรับเฟสนี้แบ่งเป็นอาคาร A และ B รวมจำนวน 546 ยูนิต มาพร้อมอาคารพาณิชย์อีก 6 ยูนิตด้านหน้า ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่

ส่วนกลางจัดไว้อยู่ตรงกลางของโครงการแยกจากส่วนพักอาศัยชัดเจน ประกอบด้วยพื้นที่สวนหย่อมขนาดใหญ่ และอาคาร Clubhouse ที่อยู่ติดกับทางเข้า – ออกหลัก ข้อดีก็คือช่วยลดความพลุกพล่านภายในอาคาร ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และสามารถเดินมาใช้พื้นที่ส่วนกลางได้ง่าย

dcondo Community เป็น Mega Project ใหม่จาก Sansiri ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 20 ไร่ ติดกับถนนพหลโยธิน จากถนนหลักจะเห็นว่ามีถนนภายในโครงการตัดผ่านทั้ง 4 เฟส ความกว้าง 12 เมตร โดยแต่ละเฟสจะมีทางเข้า – ออก และพื้นที่ส่วนกลางแยกกันแต่ละโครงการชัดเจน เมื่อเทียบกับโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องแชร์ Facilities ร่วมกัน ลูกบ้านใน  dcondo ก็ถือว่าได้ความสะดวกและเป็นส่วนตัวมากกว่า แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนด้วยนะคะ โดยเฟสแรก dcondo Hype Rangsit จะสร้างเสร็จประมาณปลายปี 2567 และสามารถติดตามรายละเอียดเฟส 2 ได้เร็วๆนี้เลย

Master Plan โครงการ สามารถแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือบริเวณด้านหน้าที่ติดกับถนนพหลโยธิน เป็น Retail Shop จำนวน 6 ยูนิตที่คนภายนอกมาใช้บริการได้ ซึ่งด้านข้างก็จะมีพื้นที่จอดรถรองรับอยู่ด้วย ส่วนทางเข้า – ออกหลักของโครงการจะอยู่ติดกับถนนภายในโครงการที่เชื่อมต่อกับเฟสในอนาคต โดยใช้ระบบ Bluetooth ควบคู่กับไม้กั้นกระดกอัตโนมัติ เมื่อเข้ามาจะเจอ Drop off ด้านหน้าอาคาร Clubhouse ที่อยู่ติดถนนเลย

ส่วนอาคารพักอาศัย ประกอบด้วยอาคาร A และอาคาร B แบ่งเป็นอาคารละ 273 ยูนิตเท่ากัน โดยมี Lobby และลิฟต์โดยสาร 2 ตัวต่ออาคารคิดเป็น 138 : 1 ถือเป็นสัดส่วนที่ยังไม่หนาแน่นมาก พอใช้งานได้ ที่จอดรถส่วนใหญ่จะเป็นแบบในร่มอยู่ใต้อาคาร และมีบางส่วนด้านนอกประมาณ 30% หรือ 166 คันรวมจอดซ้อนคัน มี EV – Charger 2 Slots รองรับไว้ที่อาคาร A โดยทางสัญจรจะเป็นพื้นที่บริเวณชั้น 1 วิ่งลอดใต้อาคาร และส่วนพื้นที่ส่วนกลาง ประกอบด้วย Clubhouse และพื้นที่ outdoor กลางโครงการ รวมเนื้อที่ 1.8 ไร่ คิดเป็น 45% ของเนื้อที่โครงการเลย

ภาพจำลองบรรยากาศด้านหน้าโครงการ ทางเข้า – ออกจะแบ่งเลนถนนออกเป็น 2 ฝั่งชัดเจน การตกแต่งมี Iconic Sculpture ด้านหน้า ช่วยเพิ่มความโดดเด่น โดยในเฟสนี้เน้นการใช้โทนสีแดง ที่สื่อถึง Energy ของคนรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วย Passion และความกระตือรือร้น

โมเดลแสดงภาพรวมโครงการ เห็นการจัดวางอาคารและพื้นที่ส่วนกลาง โดย Clubhouse จะอยู่ด้านหน้าทางเข้า เป็นอาคาร 2 ชั้น การดีไซน์เน้นความโปร่งโล่งและโดดเด่นด้วยผนังกระจก ดูแตกต่างกับอาคารพักอาศัยชัดเจน โดย Facilities ก็มีให้เลือกใช้งานทั้ง indoor และ outdoor เลย

หน้าโครงการติดกับถนนพหลโยธิน เป็นพื้นที่ Retail Shop ตกแต่งรอบๆด้วยต้นไม้ใหญ่ดูร่มรื่น ซึ่งในอนาคตอาจจะเป็นร้านค้าหรือร้านอาหาร ซึ่งลูกบ้านสามารถเดินมาใช้บริการได้ง่าย ไม่ต้องออกไปไกลจากโครงการ

ทางเข้า – ออกโครงการจะอยู่ด้านข้าง ติดกับถนนของโครงการกว้างประมาณ 12 เมตร ซึ่งถือเป็นถนนส่วนบุคคล ด้านข้าง Retail Shop มีที่จอดรถรองรับ ทำให้หน้าโครงการไม่มีรถจอดขวางทางเข้า – ออก

บรรยากาศ Lobby ในอาคาร มีพื้นที่ให้ลูกบ้านลงมานั่งเล่น หรือใช้รับรองแขกจากภายนอกได้ ด้านข้างเป็นผนังกระจก มองออกไปเห็นวิวสวนดูร่มรื่น ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ผ่อนคลาย

Clubhouse อยู่บริเวณกลางโครงการติดกับทางเข้า – ออก โดยการวางจะแยกออกจากส่วนพักอาศัย ทำให้ได้ข้อดีคือ ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัว ลดความพลุกพล่านในอาคาร และได้ความปลอดภัย ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้แตกต่างกับหอพักทั่วไป ติดกับ Clubhouse เป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งจัดเป็นวิวหลักของโครงการเลย

Swimming Pool เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 20×5 เมตร ถือว่าได้ขนาดมาค่อนข้างใหญ่ ใช้ว่ายออกกำลังแบบจริงจังได้เลย โดยในช่วงกลางวันถึงแม้สระจะอยู่ด้านนอก แต่ก็ยังไม่ร้อนมาก ด้วยเงาของอาคารและต้นไม้ที่ปลูกไว้รอบๆช่วยบังทิศทางของแดดได้พอดี

ถัดมาเป็นพื้นที่สวนขนาดใหญ่จัดเป็น Outdoor Co – Working Space ให้ลูกบ้านลงมานั่งเล่น หรือทำงานได้ โดยโครงการจะจัดมุมโต๊ะเก้าอี้ไว้ให้ ข้างๆเป็น Sansiri Backyard โซนพืชผักสวนครัวที่ทางโครงการปลูกไว้ให้ลูกบ้านมาเด็ดไปทำอาหารได้

Skate Park เป็นลานกิจกรรมด้านหน้าติดกับอาคาร A จัดเป็น Multi – Purpose Space ของโครงการ ถือเป็นฟังก์ชันที่เหมาะกับเด็กรุ่นใหม่ ซึ่งชื่นชอบการเล่น Skateboard หรือ Surf skate โดยเฉพาะ หรือใช้เป็นพื้นที่ซ้อมเต้น ทำกิจกรรม outdoor ได้อีกหลากหลาย

Clubhouse ออกแบบมารองรับกิจกรรมของเหล่านักศึกษาที่มี Activity หลากหลาย อย่าง Fitness สำหรับสายออกกำลังกาย ก็มีอุปกรณ์ให้เลือกใช้ทั้ง Weight Training และ Cardio รวมถึงห้องอเนกประสงค์ที่ปรับเปลี่ยนเป็นคลาสโยคะ หรือห้องซ้อมเต้นที่สามารถชวนเพื่อนๆมายืดเส้นยืดสายด้วยกันได้

Game Room พื้นที่ผ่อนคลายที่สามารถมาใช้งานด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่ได้ โดยไม่ต้องกลัวจะส่งเสียงรบกวนเพื่อนบ้าน ในห้องมีทั้ง Pool Table และจอสำหรับเล่นเกมส์ที่ต่อได้ทั้ง Nintendo Switch และ Play Station ด้านข้างยังมีบาร์ขนาดเล็ก ให้มานั่งทานน้ำทานขนมได้ด้วย

Co – Working Space จัดเป็นฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ทั้งนักศึกษาและวัยทำงาน โดยเฉพาะชาว WFH ที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศลงมาผ่อนคลายสมองนอกห้องบ้าง จากภาพจะเห็นว่าเฟอร์นิเจอร์ออกแบบมาด้วยสีสันสดใส ทำให้ดูไม่น่าเบื่อ รองรับการใช้งานได้ทั้งแบบเดี่ยวและกลุ่ม สำหรับใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวก็มี Meeting Room ที่กั้นห้องเป็นสัดส่วนให้เลือกค่ะ

Muti – Purpose Studio เป็นฟังก์ชันที่เริ่มเห็นในหลายๆโครงการแล้วนะคะ ด้วยกระแสปัจจุบันที่คนหันมาใช้สื่อออนไลน์ในการทำงานมากขึ้น ทั้งสาย Youtuber และ Influencer ที่ต้องการพื้นที่สำหรับถ่ายภาพหรือวิดีโอ โดยโครงการจัดอุปกรณ์พื้นฐานมาให้ครบครัน รวมถึง Backdrop ที่เลือกใช้ได้ตามสบาย

แปลนชั้นพักอาศัยอาคาร A

ส่วนพักอาศัย แบ่งเป็น 2 อาคาร โดยอาคาร A จะมีจำนวน 273 ยูนิต ชั้นพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 – 8 การจัดวางตำแหน่งห้องจะเหมือนกันเลย ลิฟต์โดยสารอยู่เกือบกลางอาคารมีให้ใช้ทั้งหมด 2 ตัว คิดเป็นสัดส่วน 137 : 1 สำหรับคนที่อยากได้วิวส่วนกลาง จะมีรูปแบบให้เลือกด้วยกัน 2 Type คือ 1 Bedroom 26.25 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus 34.00 – 34.25 ตร.ม. (กรอบสีเหลือง) ซึ่งห้องใหญ่จะมีให้เลือกแค่ชั้นละ 2 ยูนิตเท่านั้นนะคะ เหมือนกับห้อง Studio (กรอบสีแดง)

โดยทางเดินภายในอาคารมีทั้ง Double Corridor และ Single Corridor เหมาะกับคนที่ไม่อยากเปิดประตูออกมาชนกับใคร โดยห้องนี้จะอยู่ขวาสุดของอาคาร หันหน้าไปหาอาคาร B แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะประชิด เพราะมีลานจอดรถด้านนอกคั่นไว้ มี 3 ยูนิตให้เลือก เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.25 – 26.50 ตร.ม. ส่วนห้อง 1 Bedroom ขนาด 24.50 ตร.ม. จะอยู่ด้านหลัง ถึงจะไม่ได้วิวส่วนกลาง แต่ก็หน้าห้องก็หันหน้าไปทางทิศเหนือ ได้วิวที่โปร่งโล่งและยังไม่ร้อนอีกด้วย

แปลนชั้นพักอาศัยอาคาร B

อาคาร B มีรูปทรงเป็นตัว ลิฟต์โดยสารจะอยู่กลางอาคารพอดี ทำให้ระยะเดินจากห้องทั้ง 2 ฝั่งไม่ต่างกันมาก ทางเดินเป็นแบบ Double Corridor มีเพียง 2 ห้องที่เปิดประตูออกมาไม่ชนกับใคร คือ ห้อง Studio (กรอบสีแดง) ที่เป็นห้องมุมใกล้กับโถงลิฟต์และห้อง 1 Bedroom ขนาด 24.50 ตร.ม.ที่อยู่ติดกัน ซึ่งในอาคาร B ห้องที่ได้วิวส่วนกลางมีให้เลือกหลาย Type มากกว่าอาคาร A แต่จำนวนห้อง 1 Bedroom Plus (กรอบสีเหลือง) และ Studio ก็มีเพียง Type ละ 2 ยูนิตต่อชั้นเหมือนเดิม สำหรับคนที่เล็ง Type เหล่านี้ อาจจะต้องรีบจับจองนิดนึงนะคะ

การวางตำแหน่งห้อง อาคารในโครงการจะวางขนานไปกับทิศเหนือใต้เป็นส่วนใหญ่ มีอาคาร B ที่ตำแหน่งห้องจะหันไปทิศตะวันออกและตะวันตกอยู่บ้าง สำหรับคนที่ไม่ซีเรียสวิวส่วนกลาง มีห้อง 1 Bedoom ที่หันหน้าไปทางทิศใต้ให้เลือก ซึ่งทิศนี้ในปัจจุบันจะได้วิวเปิดโล่ง อยู่ติดกับถนนโครงการกว้าง 12 เมตร อนาคตเมื่อมีโครงการเฟสใหม่ขึ้น ก็ไม่ได้อยู่ในระยะประชิด และอาจมีวิวส่วนกลางฝั่งตรงข้ามให้มองด้วย

ส่วนห้องที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกจะเป็นห้อง Studio และ 1 Bedroom  ซึ่งก็จัดเป็นทิศยอดนิยมอยู่แล้ว เพราะเป็นทิศที่ได้แสงช่วงเช้า และตอนบ่ายไม่ร้อน โดยขนาดห้องจะมีให้เลือก 22.00 -24.50 ตร.ม. จัดเป็นไซส์เริ่มต้น ซึ่งก็แน่นอนว่าจะเป็นโซนที่มีราคาสบายกระเป๋ากว่าอีกด้วย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • Co – Working Space
  • Meeting Room
  • Game Room
  • Muti – Purpose Studio
  • Fitness
  • Swimming Pool
  • Skate Park
  • Outdoor Co – Working Space
  • Garden + Sansiri Backyard
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 138 :  1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 137 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 137 : 1
  • ที่จอดรถประมาณ 166 คันคิดเป็น 30% (รวมจอดซ้อนคัน)
  • EV Charger 2 slots ที่อาคาร A
  • การเข้า – ออกโครงการใช้ระบบ Bluetooth ควบคู่ไม้กั้นกระดก
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในอาคาร  CCTV / Key Card / Finger Scan

 

แบบห้อง

โครงการ dcondo Hype Rangsit ขายในรูปแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์ครบทั้ง Built – in และลอยตัว โดยโปรดักส์จะเน้นไปที่รูปแบบห้อง 1 Bedroom เหมาะสำหรับอยู่ 1 – 2 คน กำลังดี บรรยากาศในห้องได้ความโปร่งโล่ง ด้วยพื้นที่ส่วนพักผ่อนที่เดินเชื่อมต่อกันได้ โดยรูปแบบจะมีให้เลือกด้วยกัน 4 แบบ ดังนี้ค่ะ

  • Studio พื้นที่ใช้สอยภายใน 22.00 – 22.50 ตร.ม.
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 24.00 – 25.25 ตร.ม.
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 26.25 – 26.75 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 34.00 – 34.25 ตร.ม.

สรุปวัสดุในห้อง

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished (ชั้นวางทีวี , โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง , โต๊ะกลางปรับได้ , โต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง , โต๊ะเขียนหนังสือ 1 – 2 ที่นั่ง , ตู้เสื้อผ้า , ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต)
  • Digital Door Lock ระบบ Finger Scan / Key Card /Application / Password / กุญแจ จากยี่ห้อ HAKON
  • วัสดุพื้น ลามิเนต ความหนา 8 มิลลิเมตร
  • สวิตช์และปลั๊กไฟ จาก ยี่ห้อ Bticino หรือเทียบเท่า

ห้องครัว

  • วัสดุพื้นห้องครัว กระเบื้องเซรามิก ขนาด 60×60 เซนติเมตร
  • ท็อปเคาน์เตอร์ HPL / Sink จาก TEKA
  • หน้าบานเฟอร์นิเจอร์กรุเมลามีน

ห้องน้ำ

  • วัสดุพื้นห้องน้ำ เซรามิก ขนาด 30×30 เซนติเมตร
  • อ่างล้างมือและสุขภัณฑ์จากยี่ห้อ BATHLINE / ก็อกน้ำ สายฉีดชำระและฝักบัวจาก NOVABATH
  • ฉากกั้นอาบน้ำ กระจกเทมเปอร์ 3 ตอน จากยี่ห้อ SHOWER KING

Image 1/4
Type A Furniture Package : 1 Bedroom 22.00 – 22.50 ตร.ม.

Type A Furniture Package : 1 Bedroom 22.00 – 22.50 ตร.ม.

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 


1 Bedroom 26.25 – 26.75 ตร.ม.

โดยรูปแบบห้องที่เราจะพาไปชมกันวันนี้คือห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 26.25 – 26.75 ตร.ม. โดยจุดเด่นของแปลนห้องนี้จะเห็นได้ว่า นอกจากส่วนครัวที่เป็นแบบปิดอยู่ติดกับทางเข้าห้องแล้ว พื้นที่ส่วนพักผ่อนไม่ได้มีการกั้นห้องแยก ทำให้ส่วนห้องนอนและนั่งเล่นรวมกันเป็น Common Area ขนาดใหญ่ จึงเหมาะกับคนที่ชอบความโปร่งโล่ง บรรยากาศในห้องดูไม่เป็นมุม เป็นช่อง ทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนแต่งตัวมีตู้เสื้อผ้ามาให้ ตั้งอยู่หน้าห้องน้ำ ใช้งานสะดวก ติดกับหน้าต่างเป็นโต๊ะเขียนหนังสือ หรือใครเปลี่ยนเป็นเอา daybed มาวางแทน ก็จัดเป็นมุมนั่งเล่นอีกจุดในห้องได้เลย สำหรับตัวอย่างการตกแต่งจากโครงการจะเป็นยังไง ไปชมกันค่ะ

ห้อง 1 Bedroom จัดฟังก์ชันด้านหน้าเป็นส่วนครัวแบบปิด แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็น 2 ฝั่ง ส่วนพักผ่อนอยู่ถัดเข้าไปด้านใน กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกอีกชั้น ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว

Image 1/6
เคาน์เตอร์ครัว Built - in จากโครงการ

เคาน์เตอร์ครัว Built - in จากโครงการ

เคาน์เตอร์ครัวได้เป็น Built – in จากโครงการ ท็อปเคาน์เตอร์เป็น HPL หรือ High Pressure Laminate มีคุณสมบัติทนต่อความร้อนและรอยขีดข่วนได้ดี ติดตั้งมาพร้อมอ่างล้างจานจากยี่ห้อ TEKA ด้านบนมีช่องใส่ไมโครเวฟและตู้เก็บของที่มีบานเปิดให้เรียบร้อยด้านล่างแบ่งเป็นช่องเก็บของชิ้นใหญ่ใต้อ่าง

อีกฝั่งเป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้า ใช้งานได้ในห้อง ไม่ต้องออกไปด้านนอก ติดกันมีช่องให้ใส่ตู้เย็นได้กว้าง 0.56 เมตร วัสดุพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 0.60×0.60 เมตร พื้นที่ด้านหน้ากว้าง 1.23 เมตร ยืนทำครัวคนเดียวสบายๆ ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องครัวเพิ่มอีกหน่อย ก็พร้อมใช้งานได้เลย

ฝั่งตรงข้ามก็เป็นตู้รองเท้า Built – in จากโครงการเช่นกัน ติดตั้งชั้นมาให้เรียบร้อย สามารถวางรองเท้าได้ 12 – 15 คู่ ชั้นบนยังจัดเป็นพื้นที่วางของเพิ่มได้ หรือใครจะซื้อชั้นวางสำเร็จมาติดตั้งเพิ่ม ก็ถือว่าใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าเลย

ประตูกั้นระหว่างห้องครัวและส่วนพักผ่อนเป็นบานเลื่อนกระจก 3 ตอนสูงถึงฝ้า เปิด – ปิดใช้งานได้กว้างและสะดวกกว่าแบบ 2 ตอนทั่วไป ฝ้าเพดานห้องครัวเป็นฉาบเรียบทาสีขาว ติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ 1 จุด พร้อมอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย

เมื่อเข้ามาในส่วนพักผ่อน จะได้บรรยากาศที่ดูโปร่งโล่ง ด้วยพื้นที่ใช้งานที่สามารถเดินเชื่อมต่อกันได้ ส่วนนั่งเล่น ห้องนอนและมุมทำงาน ไม่ได้วาง Layout ใกล้กันให้รู้สึกอึดอัด รอบๆมีพื้นที่ให้ค่อนข้างกว้าง ไม่มีช่องหรือมุมแคบๆ ให้ทำความสะอาดยากเลย

ส่วนฝ้าเพดานสูงประมาณ 2.50 เมตร มีการ Drop ฝ้าเป็นช่องสำหรับซ่อนรางม่าน ทำให้ภายในห้องยิ่งดูเรียบร้อย ไม่มีสิ่งรบกวนสายตา

Image 1/5
บรรยากาศภายในส่วนพักผ่อน

บรรยากาศภายในส่วนพักผ่อน

ติดกับประตูเป็นโซฟา 2 ที่นั่ง สามารถเคลื่อนย้าย ปรับเปลี่ยนที่วางได้จากโครงการ วัสดุเป็นเมมโมรี่โฟม โอบรับสรีระได้ดี ช่วยลดแรงกดทับที่มาของอาการปวดตามร่างกาย ผ้าที่ใช้หุ้มยังมีสารกันเชื้อราและแบคทีเรียอีกด้วย ตรงตาม Concept Well – being & Healthy Lifestyle ของโครงการเลยค่ะ

ด้านหน้ามีโต๊ะกลมขนาดเล็กที่ปรับขนาดความสูงได้ จะใช้วางของใช้ ของตกแต่งเล็กๆ หรือปรับขึ้นเพื่อวางโน๊ตบุ๊คเวลาทำงานก็สะดวกเลย นอกจากนี้ในห้องยังได้ชั้นวางทีวี ฐานเตียง 5 ฟุต และตู้เส้นผ้า Built – in สูงถึงฝ้าจากทางโครงการ เรียกว่าได้เฟอร์ครบ ขนของเข้ามาก็พร้อมอยู่ได้เลย

ตำแหน่งวางทีวีจะอยู่ตรงกับส่วนเตียงนอน ด้านข้างมีช่องเปิดมาให้ 2 จุด มุมโต๊ะทำงานติดกับหน้าต่างบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ ส่วนระเบียงเป็นประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ช่วยเปิดรับแสงจากภายนอกให้ส่องเข้ามาได้อย่างทั่วถึง

Image 1/6
พื้นที่ใช้งานส่วนห้องนอน

พื้นที่ใช้งานส่วนห้องนอน

ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุตวางไว้กลางห้อง หัวเตียงลบเหลี่ยมมุมออกให้ เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บที่เกิดได้จากอุบัติเหตุ ด้านล่างฐานมีช่องเก็บของมาให้ ส่วนโต๊ะเขียนหนังสือจะได้เป็นตัวยาวพร้อมเก้าอี้ 2 ตัวเหมือนในห้องตัวอย่างเลย โดยตัวเก้าอี้นี้ดีไซน์ออกมาตามหลัก Egornomics ที่ช่วยปรับสรีระของร่างกายให้ถูกต้องตามหลัก ช่วยลดอาการปวดตามกล้ามเนื้อได้

ตู้เสื้อผ้า Built – in มาให้ถึงฝ้า ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของได้มากขึ้น ลักษณะตู้เป็นบานเปิด ไซส์กำลังดี ใช้ร่วมกัน 2 คนได้สบาย ข้างในติดกระจกเงามาให้ พร้อมชั้นวางของเล็กๆด้านหน้า ใช้วางของกระจุกกระจิกได้

ระเบียงขนาด 0.75×1.09 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องทำความสะอาดง่าย คอมเพรสเซอร์แขวนไว้ด้านบน ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้งาน จะวางราวตากผ้า จัดเป็นมุมอเนกประสงค์ก็ได้ตามชอบเลย

ห้องน้ำเป็นแบบหน้ากว้าง แยกส่วนเปียกและส่วนแห้งมาให้ชัดเจน โดยการตกแต่งและชุดสุขภัณฑ์จะได้ครบครันเหมือนในห้องตัวอย่าง

ฉากกั้นอาบน้ำติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานจากโครงการ เป็นประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอนจาก Showerking

Image 1/6
พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำ

พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำ

ฟังก์ชันแบ่งเป็นฝั่งที่ติดตั้งอ่างล้างมือจากยี่ห้อ BATHLINE อีกฝั่งวางโถสุขภัณฑ์มาพร้อมสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่จาก NOVABATH ส่วนอาบน้ำอยู่ด้านในสุด ได้มาขนาด 0.89×1.08 เมตร ฝักบัวเป็น Hand Shower จาก NOVABATH เช่นเดียวกัน

ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาว ติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ที่ด้านหน้าและส่วนอาบน้ำ มีพัดลมระบายอากาศที่ช่วยระบายกลิ่นและความชื้นได้ดี เหมาะกับห้องน้ำที่ไม่มีช่องเปิดออกไปด้านนอกค่ะ

สวิตช์และปลั๊กไฟภายในห้องใช้ของยี่ห้อ Bticino หรือเทียบเท่า

Image 1/3
Unit Type : Studio 22.00 – 22.50 ตร.ม.

Unit Type : Studio 22.00 – 22.50 ตร.ม.

รูปแบบห้องอื่นๆ เราก็ได้รวมมาให้ชมดังนี้ ซึ่งจะเห็นว่า Studio และ 1 Bedroom มีการจัดฟังก์ชันที่ไม่แตกต่างกันมากนัก นอกจากขนาดพื้นที่ที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ห้องมีลักษณะเป็นแนวยาวมากขึ้น แตกต่างกับห้อง 1 Bedroom Plus ตั้งแต่ทางเข้าที่ส่วนครัวจะได้เป็นแบบเปิด แต่ยังมีการแยกวัสดุพื้นเป็นกระเบื้องให้ เหมาะสมกับการใช้งาน โดยห้องนี้จะได้มุมรับประทานอาหารเพิ่มเข้ามาพร้อมโต๊ะ – เก้าอี้ ส่วนนั่งเล่นอยู่ตรงกลางติดห้องอเนกประสงค์ ตัวห้องนอนได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยประตูบานทึบ ส่วนระเบียงเดินเชื่อมต่อจากห้องนอนได้เลย

ราคา

dcondo Hype Rangsit ราคา ณ วันที่ 3 กรกฎาคม 2566

  • Studio พื้นที่ใช้สอยภายใน 22.00 – 22.50 ตร.ม.
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 24.00 – 25.25 ตร.ม.
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 26.25 – 26.75 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 34.00 – 34.25 ตร.ม.
  • ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท* 1.79 ล้านบาท* (ข้อมูล ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2567)

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานประมาณ 2.50 เมตร
  • รูปแบบการขาย Fully Furnished (ชั้นวางทีวี , โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง , โต๊ะกลางปรับได้ , โต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง , โต๊ะเขียนหนังสือ 1 – 2 ที่นั่ง , ตู้เสื้อผ้า , ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต)
  • Digital Door Lock ระบบ Finger Scan / Key Card /Application / Password / กุญแจ จากยี่ห้อ HAKON
  • วัสดุพื้น ลามิเนต ความหนา 8 มิลลิเมตร
  • สวิตช์และปลั๊กไฟ จาก ยี่ห้อ Bticino หรือเทียบเท่า
  • วัสดุพื้นห้องครัว กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร
  • ท็อปเคาน์เตอร์ HPL / Sink จาก TEKA
  • หน้าบานเฟอร์นิเจอร์กรุเมลามีน
  • วัสดุพื้นห้องน้ำ เซรามิก ขนาด 30×30 เซนติเมตร
  • อ่างล้างมือและสุขภัณฑ์จากยี่ห้อ BATHLINE / ก็อกน้ำ สายฉีดชำระและฝักบัว
  • จาก NOVABATH
  • ฉากกั้นอาบน้ำ กระจกเทมเปอร์ 3 ตอน จากยี่ห้อ SHOWER KING
  • มีรถ Shuttle Service ไป – กลับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
  • ทำสัญญา n/a บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง ปี 1 – 2 49 บาท/ตร.ม./เดือน ปีถัดไป 59 บาท/ตร.ม./เดือน
  • Promotion เพิ่มเติม* (ถ้ามีโปรดระบุ) Presale 8 – 9 ก.ค. 66

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :

dcondo Hype Rangsit ตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธินฝั่งขาเข้า ตรงข้ามมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำหรับนักศึกษาหรือบุคคลากรในมหาลัยก็ถือเป็นทำเลที่เดินทางง่าย อยู่ในระยะแค่ข้ามสะพานลอยก็ถึงเลย รอบโครงการมีร้านอาหาร ร้านค้าและร้านสะดวกซื้ออยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้คึกคักเท่าฝั่งมหาลัย โดยในโครงการเองก็จะมี Retail Shop จำนวน 6 ยูนิต ซึ่งน่าจะมาช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับลูกบ้านได้มากขึ้น โดยทำเลโครงการจัดว่าอยู่ในย่านรังสิต นอกจากใกล้มหาวิทยาลัยชื่อดังหลายแห่งแล้ว ยังใกล้กับห้างสรรพสินค้า และ Hub ใหญ่ที่เป็นเส้นทางคมนาคมหลักจากกรุงเทพฯไปยังจังหวัดต่างๆได้อีกด้วย

การเดินทางโดยใช้รถ :

ถือว่าสะดวกและได้เปรียบกว่าโครงการหรือหอพักฝั่งที่อยู่ติดกับมหาลัย เพราะสำหรับคนที่ใช้รถยนต์หากจะเข้ามหาลัย จะต้องไปกลับรถซึ่งถือเป็นระยะที่ค่อนข้างไกล และสำหรับคนที่ทำงานในย่านนี้ ตัวโครงการอยู่ติดกับถนนใหญ่อย่างพหลโยธิน สามารถขับตรงเข้าเมืองได้ง่าย และมีทางด่วนให้เลือกใช้ได้หลากหลายเส้นทางทั้ง ทางด่วนอุดรรัถยา , ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ , ถนนกาญจนาภิเษก หรือวงแหวนรอบนอก โดยที่จอดรถภายในโครงการมีประมาณ 166 คัน คิดเป็น 30% (รวมซ้อนคัน) อาจจะน้อยไปหน่อย แต่ก็ถือว่าพอใช้ได้กับโครงการใกล้มหาลัยในระยะที่พอเดินได้

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

โครงการอยู่ติดกับถนนใหญ่ ทำให้มีรถให้เลือกใช้บริการได้อย่างหลากหลาย โดยเฉพาะรถที่ใช้วิ่งเข้า – ออกเมืองก็มีทั้งรถเมล์ รถแท็กซี่และรถสองแถว สำหรับการเดินทางไปมหาลัย นอกจากเดินไปได้ ทางโครงการก็มีรถ Shuttle Service คอยวิ่งบริการรับ – ส่ง นอกจากนี้ติดกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพยังมีรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้มตัดผ่าน ทำให้สามารถเดินทางในโซนรังสิตหรือเข้า – ออกเมืองได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

วัสดุ :

ขายแบบ Fully Furnished ได้มาทั้งเฟอร์ Built – in และแบบลอยตัว วัสดุได้ตามมาตรฐานระดับราคา ส่วนตัวเรามองว่าเน้นความครบครันพร้อมเข้าอยู่ได้เลย โดยแพคเกจจะประกอบด้วย ชั้นวางทีวี โซฟา 2 ที่นั่ง โต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง ตู้เสื้อผ้า ฐานเตียง 5 ฟุต จุดเด่นอยู่ที่การเลือกใช้ส่วนประกอบที่เป็นมิตรทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้ใช้งาน อย่างโซฟาและเก้าอี้ที่ใช้เป็นเมมโมรี่โฟม ขอบเตียง ขอบตู้ลบเหลี่ยมมุมมาให้ ช่วยลดการบาดเจ็บหากเกิดอุบัติเหตุได้ และวัสดุที่ช่วยลดการปล่อยสารฟอร์มัลดีไฮด์ที่เป็นสารก่อมะเร็งค่ะ

การออกแบบโครงการ :

dcondo Hype Rangsit เป็นโครงการแรกในโปรเจกต์ dcondo Community ประกอบด้วยโครงการ 4 เฟสบนเนื้อที่ 20 ไร่ จัดเป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่เน้นการออกแบบให้ดูมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น โดยในเฟสแรกเป็นคอนโด Low Rise จำนวน 552 ยูนิต รวมส่วนร้านค้าที่ด้านหน้า ซึ่งทั้งลูกบ้านและคนภายนอกสามารถเดินมาใช้บริการได้

โดยจุดเด่นของโครงการยังอยู่ที่ความเป็นส่วนตัว ยูนิตน้อย ไม่ต้องแชร์ส่วนกลางกับเพื่อนบ้านจำนวนมาก Clubhouse แยกออกจากส่วนพักอาศัยชัดเจน จึงช่วยลดความพลุกพล่านและเพิ่มความปลอดภัยให้อาคารได้ และด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่จัดไว้ตรงกลางโครงการ ทำให้ในทุกอาคารสามารถมองเห็นวิวส่วนกลางได้

การออกแบบพื้นที่ใช้สอย :

รูปแบบห้องในโครงการมีให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ เน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom ซึ่งสามารถอยู่ด้วยกันได้ 1 – 2 คนกำลังดี ความแตกต่างอยู่ที่ขนาดพื้นที่ใช้สอย ส่วนการจัดวาง Layout จะคล้ายกัน คือได้ส่วนครัวแบบปิดที่ด้านหน้า พื้นที่ภายในห้องเน้นการเชื่อมต่อใช้งานง่าย แสงจากธรรมชาติส่องเข้ามาได้ทั่วถึง

โดยรูปแบบห้องที่เป็น Rare Item คือห้อง Studio และ 1 Bedroom Plus ที่มีชั้นละ 2 ยูนิต สำหรับStudio ความพิเศษอยู่ที่ราคาเริ่มต้นจับต้องง่าย ได้เฟอร์ครบ ซึ่งแพคเกจ 1.39 ล้านบาท* ก็ถือว่าเปิดตัวมาถูกสุดในย่านเลยนะคะ ส่วน 1 Bedroom Plus การจัดวางฟังก์ชันจะแตกต่างกับห้องอื่นๆชัดเจน ตั้งแต่ส่วนครัวที่เป็นแบบเปิด และระเบียงที่อยู่ติดกับห้องนอน โดยใน Type นี้จะได้มุมรับประทานอาหารเพิ่มเข้ามาด้วย

สาธารณูปโภค :

ส่วนกลางเรามองว่าจัดมาให้ครบครันตามมาตรฐาน เมื่อเทียบกับเนื้อที่โครงการประมาณ 4 ไร่ ก็ได้มาถึง 45% มีฟังก์ชันให้เลือกใช้งานทั้ง indoor และ outdoor โดยด้านนอกจะมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ความยาว 20 เมตร ใช้ว่ายแบบจริงจังได้ ส่วนในอาคารก็ออกแบบมาโดยคำนึงถึงกิจกรรมของน้องๆนักศึกษา มีทั้งพื้นที่ผ่อนคลาย ออกกำลังกาย และพื้นที่นั่งทำงาน อ่านหนังสือได้

 


Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 72,000 บาท/ตร.ม., 3 กรกฎาคม 2566

  • ทำเล 8.25/10 – ติดถนนใหญ่ อยู่ฝั่งตรงข้ามม.กรุงเทพ หาของกินง่าย
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – อยู่ฝั่งถนนพหลโยธินขาเข้า เดินทางเข้า – ออกเมืองง่าย ไม่ไกลจากจุดกลับรถ
  • ไม่ใช้รถ 8/10 – มี Shuttle Service รับ – ส่งไปม.กรุงเทพ
  • วัสดุ 8/10 – ขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์ครบ ทั้ง Built – in และลอยตัว
  • แบบ 7.75/10 – ยูนิตน้อย เน้นห้อง 1 Bedroom เหมาะกับคนที่ชอบความโปร่งโล่ง อยู่ได้ 1 – 2 คน
  • สาธารณูปโภค 8/10 – ส่วนกลางครบ จัดไว้นอกอาคาร ช่วยลดความพลุกพล่านในส่วนพักอาศัย มี Retail shop ด้านหน้า เพิ่มความสะดวก

  • MAIN CLASS
  • 8.00 / 10.00

dcondo Hype Rangsit เหมาะกับใคร

โครงการ dcondo Hype Rangsit เหมาะสำหรับคนที่มองหาคอนโดใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพ หรืออยู่ในย่านรังสิต เดินทางง่าย ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ จำนวนยูนิตน้อย ได้ความเป็นส่วนตัว ตอบโจทย์ทั้งนักศึกษาและคนวัยทำงานอย่าง First Jobber ด้วยราคาเริ่มต้นไม่สูงมาก รวมถึงนักลงทุนที่ต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่าทำกำไร มีงบประมาณตั้งไว้เริ่มต้นไม่เกิน 2 ล้านบาท* หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 9,126 บาท/เดือน

 


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc