สร้างเสร็จพร้อมอยู่อีก 1 คอนโดใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพกับ dcondo Hype Rangsit (ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต) ซึ่งคราวนี้แสนสิริงัดไม้เด็ดเป็นทำเลติดถนนใหญ่พหลโยธิน ต่างจากคอนโดเปิดใหม่ส่วนใหญ่ที่ขยับเข้าไปอยู่ในซอย ราคาห้องก็พอฟัดพอเหวี่ยงกับเพื่อนๆ 1 Bedroom เริ่ม 1.79 ล้านบาท* พร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบค่ะ โดย Highlights ที่น่าสนใจจะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย
ทำเลติดถนนใหญ่ : โครงการ dcondo Hype Rangsit ตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน ตรงข้ามกับม.กรุงเทพ เดินทางเข้า – ออกเมืองได้ง่าย อยู่ใกล้ทางด่วนและแหล่งความอุดมสมบูรณ์ในโซนรังสิต และอยู่ใกล้จุดกลับรถเพียง 500 เมตร สำหรับนักศึกษาและบุคคลากรในมหาวิทยาลัยก็เดินทางได้ง่ายด้วยรถ Shuttle Service วิ่งบริการรับ – ส่งจากโครงการ ซึ่งภายใน Q1 ปี 2568 จะมีสะพานลอยหน้าโครงการให้เดินข้ามฝั่งได้สะดวกด้วยค่ะ
ยูนิตน้อย เป็นส่วนตัว : ยูนิตในโครงการมีทั้งหมด 546 ยูนิต แบ่งเป็น 2 อาคาร เมื่อเทียบกับโครงการใกล้เคียงที่เปิดขายอยู่มีมากสุดพันกว่ายูนิต ก็ถือว่าที่นี่เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว เพื่อนบ้านไม่เยอะนัก และโครงการยังออกแบบพื้นที่ส่วนกลางแยกจากโซนพักอาศัยอย่างชัดเจน ช่วยลดความพลุกพล่านในอาคารได้ แถมลูกบ้านยังเดินมาใช้ส่วนกลางได้ง่าย เพราะโครงการไม่ใหญ่ เดินสบายๆ
วัสดุ : โครงการขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์ฯ ครบทั้ง Built – in และลอยตัว แต่สิ่งที่น่าสนใจอยู่ที่การเลือกใช้วัสดุ ซึ่งยึดหลักแนวคิด Well Rounded ของ dcondo ที่คำนึงถึงคุณภาพและสุขภาพของผู้ใช้งาน เช่น เก้าอี้และโซฟา Memory Foam ที่ออกแบบเพื่อรองรับสรีระและช่วยลดแรงกดทับที่ทำให้เกิดอาการปวดตามร่างกายได้
Sansiri Community : โครงการนี้เป็นหนึ่งใน Mega Project จาก Sansiri ที่มีแพลนว่าจะเปิดตามมาอีกหลายโครงการ จากตัวอย่างของ Sansiri Community ในโซนอื่นๆ ที่เค้าเคยทำมาจะเห็นได้ว่า มีพื้นที่ส่วนกลางให้ทุกโครงการได้ออกมาใช้งานร่วมกัน มีการจัดอีเว้นท์และงานเทศกาลต่างๆ อย่างโซนรังสิตนี้ก็จะเป็นกิจกรรมที่เข้ากับเด็กมหาลัย เพื่อให้เกิดบรรยากาศสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่ และสังคมที่อบอุ่น
ข้อมูลโครงการ
dcondo Hype Rangsit (ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต) ณ วันที่ 29 กันยายน 2567
ชื่อโครงการ | dcondo Hype Rangsit (ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนพหลโยธิน อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี |
ที่ดิน | 4 ไร่ |
ประเภทคอนโด | Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร Clubhouse 2 ชั้น 1 อาคาร |
จำนวนยูนิต | ห้องพักอาศัย 546 ยูนิต และ ร้านค้า 6 ยูนิต – อาคาร A จำนวน 273 ยูนิต – อาคาร B จำนวน 273 ยูนิต |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 39 ยูนิต |
ที่จอดรถ | 166 คัน คิดเป็น 30% (รวมจอดซ้อนคัน) |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2566 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2567 |
ประเภทห้องพัก |
|
ราคาเริ่มต้น | 1.79 ล้านบาท (1 Bedroom 24.5 ตร.ม. ราคานี้ได้โปรโมชั่นอัพเกรดเฟอร์นิเจอร์ด้วยนะคะ) |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 72,000 บาท/ตร.ม. |
ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) | ประมาณ 70,000-84,000 บาท/ตร.ม. |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
Call Center | 1685 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 14.041879 , 100.616787
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการ dcondo Hype Rangsit (ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต) ที่ตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน ตรงข้ามมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เป็น Campus Condo อีกหนึ่งแห่งที่ตอบโจทย์ทั้งนักศึกษา บุคคลากรและคนที่ทำงานในย่านรังสิต ซึ่งรอบๆก็ยังมีมหาวิทยาลัยชื่อดังอีกหลายแห่งทั้ง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยรังสิต
โครงการนี้จัดเป็นอีกหนึ่งโครงการที่นักลงทุนนิยมซื้อห้องเพื่อปล่อยเช่านักศึกษา แต่ก็มีลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองด้วยเช่นกัน ซึ่งเอาจริงๆ เราชอบโครงการที่มีคนซื้ออยู่เองเยอะๆ นะ เพราะคนที่อยู่เองจะถนอมพื้นที่ส่วนกลางมากกว่า และช่วยกันดูแลโครงการมากกว่าคนเช่า เหตุผลที่น่าจะทำให้คนซื้ออยู่เองสนใจก็น่าจะเป็นทำเลที่อยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธิน ใครที่ใช้รถส่วนตัวก็ถือว่าสะดวกมากๆ ด้วยทำเลที่อยู่ฝั่งถนนพหลโยธินขาเข้า สามารถตรงเข้าเมืองได้ง่าย โดยขับเชื่อมต่อกับถนนวิภาวดี – รังสิตผ่านดอนเมืองได้เลย หรือใช้ทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลเวย์) ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการ 3.9 กิโลเมตร
สำหรับนักศึกษาที่เรียนในมหาวิทยาลัยกรุงเทพ อย่าเพิ่งกังวลว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วจะเดินทางลำบาก หากเป็นนักศึกษาที่ขับรถไปเรียนก็สามารถกลับรถได้ในระยะทางประมาณ 1.6 km. ก็ถึงมหาวิทยาลัยแล้ว ส่วนใครที่ไม่ขับรถก็มีทางเลือกหลากหลายทั้ง Shuttle Service จากทางโครงการ, พี่วินมอเตอร์ไซค์ หรืออดใจอีกนิดรอสะพานลอยหน้าโครงการ ที่ตอนนี้ระบุตำแหน่งทางขึ้นลงแล้ว กำลังจะเริ่มก่อสร้าง ซึ่งมีกำหนดจะแล้วเสร็จภายใน Q1 ปี 2568 ก็คือต้นปีหน้านี้แล้วค่ะ
นอกจากนี้ในอนาคตยังมีตัวช่วยอย่างรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้มที่จะต่อขยายจากสถานีรังสิต ผ่านมหาวิทยาลัยกรุงเทพยาวไปถึงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งได้นำเสนอไปยังเลขาฯ ครม.แล้ว ในอนาคตถ้ารถไฟฟ้าเสร็จก็สามารถนั่งไปฟิวเจอร์พาร์คได้สบายๆ หรือคนที่อยากกลับบ้านต่างจังหวัด ก็ไปลงสถานีดอนเมืองเชื่อมต่อสนามบินหรือรถไฟทางไกล เหมาะกับคนที่ย้ายมาเรียนหรือทำงานในโซนนี้ได้ ซึ่งแผนเบื้องต้นน่าจะเสร็จภายในปี 2571 ตามข่าวล่าสุดในตอนนี้นะคะ
การเดินทางจากโครงการ dcondo Hype Rangsit (ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต) ไปมหาวิทยาลัยถือว่าค่อนข้างง่าย เพราะที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้ทางกลับรถ แค่ 1.6 km. ก็สามารถถึงมหาวิทยาลัยแล้ว ส่วนทางกลับจะต้องใช้สะพานกลับรถที่ถนนเชียงราก – คลองหลวง รวมระยะทางจากมหาวิทยาลัยประมาณ 6.6 km. กิโลเมตรก็ถึงโครงการเช่นกัน
ตำแหน่งของสะพานลอยก็อยู่ตรงหน้าคอนโดเลย ข้ามไปเป็นปั๊มบางจาก พอลงจากสะพานลอยแล้วเดินอีกแค่ 130 เมตรก็ถึงประตูมหาวิทยาลัยแล้วค่ะ
ในแง่ความอุดมสมบูรณ์ ทำเลโครงการ dcondo Hype Rangsit (ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต) อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย จัดเป็นย่านที่ค่อนข้างคึกคักอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องหาของกินเลย เพราะรอบๆมีทั้งร้านค้าและร้านอาหารกระจายอยู่ทั้ง 2 ฝั่งถนน โดยเฉพาะฝั่งมหาวิทยาลัยกรุงเทพ มีซอยชื่อรังสิตภิรมย์ ที่นอกจากเป็นโซนหอพักนักศึกษา ยังเป็นย่านที่มีร้านอาหารชื่อดังเต็มแน่นตลอดซอย
บรรยากาศรอบๆมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
ใกล้ๆ ม.กรุงเทพจะมี Mingle Community Mall ที่มีพื้นที่ให้นั่งทำงาน, ติวหนังสือ, ทานอาหารได้ ส่วนในปั๊มบางจากก็ที่มีร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารอยู่ข้างใน Hypermarket อย่าง Tesco Lotus และติดๆ กันเลยก็จะมี The For Rest พหลโยธิน ที่ภายในมี Decathlon ให้ซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกาย, เดินป่ากันได้แบบสะดวกๆ นิกจากนั้นภายใน The For Rest ก็มีร้านอาหาร อย่าง KFC, หมูกระทะ, ชาบู, บุฟเฟต์ เรียกได้ว่าถูกใจนักศึกษาแน่นอน
หรือหากใครอยากเดินห้างเปลี่ยนบรรยากาศ โครงการก็อยู่ไม่ไกลจาก ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ขับตรงจากโครงการไปประมาณ 6 กิโลเมตร ก็ถึงเลย เรียกได้ว่าเป็นทำเลที่ครบครันทั้งกิน เที่ยว ช็อปเลยค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ dcondo Hype Rangsit (ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต) ส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่าซึ่งกำลังจะมีการพัฒนาเป็นโครงการในอนาคต ฝั่งที่ติดอาคารอื่นๆก็เป็นอาคารแนวราบ ทำให้ปัจจุบันยังคงได้วิวเปิดโล่ง ด้านหน้าติดถนนพหลโยธิน ซึ่งถือเป็นข้อดีเมื่อเทียบกับโครงการหรือหอพักบางแห่งที่จะตั้งอยู่ในซอย สามารถเดินทางเข้า – ออกได้สะดวกและเป็นส่วนตัวกว่า
- ทิศเหนือ ติดกับอาคารแนวราบ
- ทิศใต้ ติดกับทางเข้าโครงการ (ถนนส่วนบุคคล) พื้นที่โครงการในอนาคต
- ทิศตะวันออก ติดกับพื้นที่โครงการในอนาคต
- ทิศตะวันตก ติดกับถนนพหลโยธิน
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- เมกา โฮม ~ 170 เมตร
- ตลาดไท ~ 5.4 กิโลเมตร
- ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ~ 6 กิโลเมตร
- สเปลล์ ~ 6.2 กิโลเมตร
- ตลาดสี่มุมเมือง ~ 11 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลภัทรธนบุรี ~ 800 เมตร
- โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ~ 5.8 กิโลเมตร
โรงเรียน
- มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ~ 500 เมตร
- AIT International School ~ 7 กิโลเมตร
ตัวช่วยในการเดินทาาง
- ทางยกระดับอุตราภิมุข ~ 3.9 กิโลเมตร
- รถไฟฟ้าสถานีรังสิต (Red Line) ~ 7.7 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
ก่อนจะไปชมรายละเอียดโครงการเราขอพามาเล่าภาพรวมกันก่อนนะคะ dcondo Hype Rangsit (ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต) เป็นหนึ่งใน Mega Project จาก Sansiri ตั้งอยู่บนเนื้อที่รวม 20 ไร่ ได้ทำเลดีติดถนนพหลโยธินเลย ภายในแบ่งออกเป็น 4 โครงการ โดยแต่ละโครงการจะมีทางเข้า – ออก และพื้นที่ส่วนกลางแยกกันชัดเจน ส่วนตัวเราเองชอบโครงการที่อยู่ติดถนนใหญ่แบบนี้นะ เพราะเดินเท้าสะดวกและ Rare Item กว่าโครงการในซอย แต่นั่นก็ทำให้ราคาสูงกว่าโครงการโดยรอบนิดหน่อยด้วยเช่นกัน
สำหรับโครงการ 2 ที่กำลังจะเปิดตัวตามมา มีการร่วม Design ฟังก์ชันส่วนกลางกับทางนักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม. กรุงเทพ ซึ่งน้องๆ นักศึกษาสถาปัตย์ที่มาร่วมออกแบบได้ไปศึกษาความต้องการจริงของนักศึกษาคณะต่างๆ แล้วนำมาใช้ในการออกแบบเพื่อตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างถูกต้อง ถูกใจกันเลยค่ะ
dcondo Hype Rangsit (ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต) เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร รวมจำนวน 546 ยูนิต แบ่งเป็นอาคาร A และ B อาคารละ 273 ยูนิต ถือว่าเพื่อนร่วมอาคารไม่เยอะเลยนะ และมีร้านค้าอีก 6 ยูนิต ซึ่งตอนนี้รวมเป็น 7-11 ร้านใหญ่อยู่หน้าโครงการเลย
โครงการตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ เมื่อเทียบกับโครงการโดยรอบส่วนใหญ่มักเป็นโครงการใหญ่ที่ต้องแชร์ Facilities ร่วมกัน ลูกบ้านใน dcondo ก็ถือว่าได้ความสะดวกและเป็นส่วนตัวมากกว่า แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนด้วยนะคะ
ส่วนกลางจัดไว้อยู่ตรงกลางของโครงการแยกจากส่วนพักอาศัยชัดเจน ประกอบด้วยพื้นที่สวนหย่อมขนาดใหญ่ และอาคาร Clubhouse ที่อยู่ติดกับทางเข้า – ออกหลัก ข้อดีก็คือช่วยลดความพลุกพล่านภายในอาคาร ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และสามารถเดินมาใช้พื้นที่ส่วนกลางได้ง่าย
จาก Master Plan โครงการสามารถแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือบริเวณด้านหน้าที่ติดกับถนนพหลโยธิน เป็น 7-11 ขนาดใหญ่ที่คนภายนอกมาใช้บริการได้ ซึ่งด้านข้างก็จะมีพื้นที่จอดรถรองรับอยู่ด้วย ส่วนที่ 2 คือ Clubhouse อยู่กลางโครงการเข้าถึงง่ายจากทั้ง 2 อาคาร รวมกับพื้นที่สระว่ายน้ำและสวนส่วนกลางคิดเป็น 1.8 ไร่ ประมาณ 45% ของเนื้อที่โครงการเลยนะคะ และส่วนสุดท้ายคืออาคารพักอาศัย ประกอบด้วยอาคาร A และอาคาร B ที่ล้อมพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้ จึงมีห้องพักที่ได้วิวส่วนกลางและห้องพักที่ได้วิวนอกโครงการนะคะ
บรรยากาศด้านหน้าโครงการ ทางเข้า – ออกจะแบ่งเลนถนนออกเป็น 2 ฝั่งชัดเจน ความกว้าง 12 เมตร ขับสวนกันได้สบาย โดยโครงการนี้เน้นการใช้โทนสีแดง ที่สื่อถึง Energy ของคนรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วย Passion และความกระตือรือร้น ตกแต่งด้วย Iconic Sculpture ด้านหน้า ช่วยเพิ่มความโดดเด่น
7-11 หน้าโครงการ
หน้าโครงการติดกับถนนพหลโยธิน เป็นพื้นที่ของ 7-11 ขนาดใหญ่ ซึ่งลูกบ้านสามารถเดินมาใช้บริการได้ง่ายเลย บริเวณหน้าร้านมีลานกว้างๆ ให้ยืนคอยเพื่อนฝูงได้สะดวก และด้านข้างร้านก็มีพื้นที่ Drop-Off ให้จอดรถลงไปซื้อของได้ง่าย
ทางเข้า – ออกหลักของโครงการจะอยู่ติดกับถนนภายในโครงการที่เชื่อมต่อกับโครงการในอนาคต จากโครงการก็จะมีประตูสำหรับคนเดินเข้าออกแยกกับทางเดินรถ เพื่อความปลอดภัย
บริเวณทางเข้าหน้าโครงการจะมีพี่รปภ. ดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับใครที่เป็น Visitors ก็สามารถจอดรถบริเวณหน้าโครงการได้ โดยไม่ต้องผ่านไม้กั้นนะคะ
ที่จอดรถสำหรับ Visitors เป็นแบบ Outdoor รองรับได้ 7-8 คัน
Shuttle Service ของโครงการก็จะจอดอยู่บริเวณหน้าอาคารเลยค่ะ ซึ่งจริงๆ รถของโครงการจะมีคันเดียวนะคะ แต่ช่วงที่สะพานลอยยังสร้างไม่เสร็จ ทางแสนสิริได้จัดรถมาเพิ่มให้อีกคันนึงค่ะ
ลูกบ้านสามารถขับผ่านเข้าที่จอดรถใต้ตึกด้วยระบบ Bluetooth โดยไม้กั้นจะยกขึ้นโดยอัตโนมัติ
บรรยากาศภายในที่จอดรถ
ที่จอดรถส่วนใหญ่คือบริเวณชั้น 1 ที่อยู่ใต้อาคารทั้งหมด และมีบางส่วนที่เป็นแบบ Outdoor รวมแล้วประมาณ 166 คัน หรือคิดเป็น 30% รวมจอดซ้อนคัน โดยทางสัญจรจะเป็นทาง Oneway วิ่งลอดใต้อาคารเชื่อมจากอาคาร A ไปอาคาร B ซึ่งรถที่จะเข้าได้ต้องสูงไม่เกิน 2.1 เมตรนะคะ
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจะมี EV – Charger 2 ช่อง ที่อาคาร B
หากใครมารับ-ส่งลูกบ้านก็สามารถวนรถที่ Drop-Off ได้สะดวก
ตำแหน่งของ Drop-Off อยู่ระหว่างทางเข้าอาคาร A และ ทางเดินไปยัง Clubhouse ค่ะ
ก่อนที่จะพาเข้าอาคารพักอาศัยเราจะพาไปชม Clubhouse และพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดกันก่อนนะคะ เริ่มจากทางเข้าพื้นที่ส่วนกลางจะเป็นทางลาด แบบนี้ใครที่ชอบเล่นสเก็ตบอร์ด, สกู๊ตเตอร์ หรือขี่จักรยานก็ใช้งานสะดวก
มุมนั่งเล่นในสวน
มุมนั่งเล่นในสวนจะกระจายอยู่หลายตำแหน่งเลยค่ะ ทั้งใกล้อาคาร A และ B มีทั้งนั่งเป็นคู่และนั่งเป็นกลุ่ม ตอบโจทย์การพบปะ ซึ่งโครงการก็ใช้สีสันที่สดใสมากๆ เลย
เดินเข้ามาด้านในจะมีทางแยก โดยทางซ้ายสุดจะเป็นทางไปอาคาร B , ตรงกลางเป็นทางไปสระว่ายน้ำ และขวาสุดเป็นทางขึ้น Clubhouse
โครงการออกแบบเป็น Universal Design มีทางลาดให้ขึ้นอาคาร Clubhouse ได้สะดวก
สิ่งที่เราชอบคือ การวาง Clubhouse แยกออกจากอาคารพักอาศัย ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัว ลดความพลุกพล่านในอาคาร และได้ความปลอดภัย ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้แตกต่างกับหอพักทั่วไป
Facility ในอาคาร Clubhouse ออกแบบมารองรับกิจกรรมของเหล่านักศึกษาที่มีกิจกรรม หลากหลายรวมไว้ 4 ฟังก์ชันหลักๆ ได้แก่ Fitness, Multi – Purpose Studio, Game Room, Co-Working Space
และภายใน Facility ส่วนกลางจะใช้นวัตกรรม nanoe X ที่สามารถยับยั้งแบคทีเรีย, ไวรัส, เชื้อรา, สารก่อภูมิแพ้, ละอองเกสรดอกไม้และสารอันตราย รวมถึงการกำจัดกลิ่น เทคโนโลยีนี้สามารถแทรกซึมได้แม้ในเนื้อผ้าที่ถักทออย่างแน่นหนา รวมถึงผ้าม่าน, มู่ลี่, พรม และเฟอร์นิเจอร์ เข้าถึงสารมลพิษบนพื้นผิวที่แข็งได้ และช่วยทำความสะอาดอากาศที่เราหายใจเข้าไป เวลาใช้พื้นที่ส่วนกลางจึงรู้สึกสดชื่น
Fitness
Fitness
Fitness ขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ ภายในห้องดูโปร่งด้วยหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามา และเปิดให้เห็นวิวสระว่ายน้ำด้วยนะคะ ภายมีอุปกรณ์ให้เลือกใช้ทั้ง Weight Training และ Cardio แถมมีกระสอบทรายให้ยืดเส้นยืนสายด้วยค่ะ
Yoga Room
Yoga Room
ห้องนี้จะอยู่ด้านใน Fitness แต่แยกห้องไว้เป็นส่วนตัวนะคะ ออกแบบมาให้ใช้งานได้อเนกประสงค์เลย จะจัดคลาสโยคะ หรือซ้อมเต้นกันเป็นแกงค์ได้เลย
Multi – Purpose Studio
Multi - Purpose Studio
Muti – Purpose Studio เป็นฟังก์ชันที่เริ่มเห็นในหลายๆโครงการแล้วนะคะ ด้วยกระแสปัจจุบันที่คนหันมาใช้สื่อออนไลน์ในการทำงานมากขึ้น ทั้งสาย Youtuber และ Influencer ที่ต้องการพื้นที่สำหรับถ่ายภาพหรือวิดีโอ โดยโครงการจัดอุปกรณ์พื้นฐานมาให้ครบครัน รวมถึง Backdrop ที่เลือกใช้ได้ตามสบาย
Game Room
Game Room
Game Room พื้นที่ผ่อนคลายที่สามารถมาใช้งานด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่ได้ โดยไม่ต้องกลัวจะส่งเสียงรบกวนเพื่อนบ้าน ในห้องมีทั้ง Pool Table, Football Table และจอสำหรับเล่นเกมส์ Play Station อีกทั้งยังมีโซน Boardgame ที่เตรียมเกมส์ไว้ให้หลากหลาย เราชอบเฟอร์ฯ ห้องนี้มากเลย โดยเฉพาะเก้าอี้ดอกไม้ สีสันสดใสสุดๆ
Co-Working Space
Co-Working Space
Co – Working Space จัดเป็นฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ทั้งนักศึกษาและวัยทำงาน โดยเฉพาะชาว WFH ที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศลงมาผ่อนคลายสมองนอกห้องบ้าง จากภาพจะเห็นว่าเฟอร์นิเจอร์ออกแบบมาด้วยสีสันสดใส ทำให้ดูไม่น่าเบื่อ รองรับการใช้งานได้ทั้งแบบเดี่ยวและกลุ่ม สำหรับใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวก็มี Meeting Room ที่กั้นห้องเป็นสัดส่วนให้เลือกค่ะ
Swimming Pool
Swimming Pool
Swimming Pool เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 20×5 เมตร ถือว่าได้ขนาดมาค่อนข้างใหญ่ ใช้ว่ายออกกำลังแบบจริงจังได้เลย โดยในช่วงกลางวันถึงแม้สระจะอยู่ด้านนอก แต่ก็ยังไม่ร้อนมาก ด้วยเงาของอาคารและต้นไม้ที่ปลูกไว้รอบๆช่วยบังทิศทางของแดดได้พอดี
ข้างสระว่ายน้ำจะเป็นทางเดิน
ห้องน้ำ-ห้องอาบน้ำ
ภายในห้องน้ำส่วนกลางจะแบ่งโซนชาย-หญิงไว้ให้ ซึ่งมีทั้งห้องน้ำและห้องอาบน้ำ รวมถึงห้องสำหรับผู้สูงอายุด้วยนะคะ
จากสระว่ายน้ำจะมีทางเดินไปยังอาคาร B ที่อยู่ด้านใน
ทางเดินในสวนบริเวณหน้าอาคาร B
ถัดมาเป็นพื้นที่สวนขนาดใหญ่จัดเป็น Outdoor Co – Working Space ให้ลูกบ้านลงมานั่งเล่น หรือทำงานได้ โดยโครงการจะจัดมุมโต๊ะเก้าอี้ไว้ให้ ข้างๆเป็น Sansiri Backyard โซนพืชผักสวนครัวที่ทางโครงการปลูกไว้ให้ลูกบ้านมาเด็ดไปทำอาหารได้
ในส่วนของห้องพักจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 เป็นต้นไป ถ้าชอบความเป็นส่วนตัวหน่อย
อีกหนึ่ง Facility เอาใจวัยรุ่นก็คือ Skate Park ออกแบบมาสำหรับเล่น Skateboard หรือ Surf skate โดยเฉพาะ หรือใช้เป็นพื้นที่ซ้อมเต้น ทำกิจกรรม outdoor ได้อีกหลากหลาย
อาคาร A
ทางเข้า Lobby จะต้องใช้ Face Scan จึงมีเฉพาะลูกบ้านหรือลูกบ้านต้องมารับเพื่อนจึงจะผ่านเข้าอาคารไปได้ ซึ่งเราชอบแบบนี้นะ ดูปลอดภัยดี
Lobby อาคาร A
บรรยากาศ Lobby ในอาคาร มีพื้นที่ให้ลูกบ้านลงมานั่งเล่น หรือใช้รับรองแขกจากภายนอกได้ ด้านข้างเป็นผนังกระจก มองออกไปเห็นวิวสวนดูร่มรื่น ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ผ่อนคลาย
นอกจาก Lobby ขนาดใหญ่แล้วก็มีมุมนั่งเล่นแบบ Private ให้ใช้งานด้วย ซึ่งในห้องมีจอทีวีให้ใช้งาน จะนัดคุยงานกับเพื่อนก็ใช้จอดได้สะดวกเลย
ในส่วนของตู้จดหมายจะแยกไว้เป็นสัดส่วน มีพื้นที่กว้างๆ ให้ยืนหยิบจดหมายสะดวก
ถัดเข้ามาด้านในสุดเป็นโถงลิฟต์ ซึ่งมีลิฟต์โดยสาร 2 ตัวต่ออาคารคิดเป็น 138 : 1 ถือเป็นสัดส่วนที่ยังไม่หนาแน่นมาก พอใช้งานได้
ภายในลิฟต์จะมีปุ่มกดอยู่ 2 ชุด ชุดแรกมีความสูงแบบปกติและต้องใช้ Face Scan จึงจะกดลิฟต์ได้ ชุดที่ 2 เป็นปุ่มกดสำหรับคนที่นั่งวีลแชร์และใช้ Keycard แทน Face Scan ได้ค่ะ
ทางเข้าโถงลิฟต์จะเชื่อมกับที่จอดรถด้วยนะคะ เวลาจอดรถเสร็จก็สามารถเดินเข้ามากดลิฟต์ได้สะดวกเลย ด้านข้างประตูที่จอดรถจะมี Laundry Room ไว้บริการด้วยค่ะ
ภายใน Laundry Room จะมีเครื่องซักผ้าไว้ให้บริการ เป็นระบบที่รองรับการสแกนจ่ายผ่านมือถือได้ด้วยนะคะ และมีตู้กดน้ำดื่มด้วย
ในโซนพักอาศัยอาคาร A จะมีจำนวน 273 ยูนิต ชั้นพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 – 8 การจัดวางตำแหน่งห้องจะเหมือนกันเลย ลิฟต์โดยสารอยู่เกือบกลางอาคารมีให้ใช้ทั้งหมด 2 ตัว คิดเป็นสัดส่วน 137 : 1 สำหรับคนที่อยากได้วิวส่วนกลาง จะมีรูปแบบให้เลือกด้วยกัน 2 Type คือ 1 Bedroom 26.25 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus 34 – 34.25 ตร.ม. (กรอบสีส้ม) ซึ่งห้องใหญ่จะมีให้เลือกแค่ชั้นละ 2 ยูนิตเท่านั้นนะคะ เหมือนกับห้อง Studio (กรอบสีแดง)
โดยทางเดินภายในอาคารมีทั้ง Double Corridor และ Single Corridor เหมาะกับคนที่ไม่อยากเปิดประตูออกมาชนกับใคร โดยห้องนี้จะอยู่ขวาสุดของอาคาร หันหน้าไปหาอาคาร B แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะประชิด เพราะมีลานจอดรถด้านนอกคั่นไว้ มี 3 ยูนิตให้เลือก เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.25 – 26.50 ตร.ม. ส่วนห้อง 1 Bedroom ขนาด 24.50 ตร.ม. จะอยู่ด้านหลัง ถึงจะไม่ได้วิวส่วนกลาง แต่ก็หน้าห้องก็หันหน้าไปทางทิศเหนือ ได้วิวที่โปร่งโล่งและยังไม่ร้อนอีกด้วย
บรรยากาศบริเวณโถงลิฟต์ดูสว่างด้วยหน้าต่างบานใหญ่ พื้นที่รอลิฟต์กว้างดีเลย
โถงทางเดินดูคลีนๆ สะอาดตา ประตูห้องจะเยื้องกันเล็กน้อย ทำให้แต่ละห้องได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
อาคาร B
Lobby อาคาร B
บรรยากาศ Lobby ในอาคาร มีพื้นที่ให้ลูกบ้านลงมานั่งเล่น หรือใช้รับรองแขกจากภายนอกได้ ด้านข้างเป็นผนังกระจก มองออกไปเห็นวิวสวนดูร่มรื่น ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ผ่อนคลาย
นอกจาก Lobby ขนาดใหญ่แล้วก็มีมุมนั่งเล่นแบบ Private ให้ใช้งานด้วย ซึ่งในห้องมีจอทีวีให้ใช้งาน จะนัดคุยงานกับเพื่อนก็ใช้จอดได้สะดวกเลย
ในส่วนของตู้จดหมายจะแยกไว้เป็นสัดส่วน มีพื้นที่กว้างๆ ให้ยืนหยิบจดหมายสะดวก
ถัดเข้ามาด้านในสุดเป็นโถงลิฟต์ ซึ่งมีลิฟต์โดยสาร 2 ตัวต่ออาคารคิดเป็น 138 : 1 ถือเป็นสัดส่วนที่ยังไม่หนาแน่นมาก พอใช้งานได้
ทางเข้าโถงลิฟต์จะเชื่อมกับที่จอดรถด้วยนะคะ เวลาจอดรถเสร็จก็สามารถเดินเข้ามากดลิฟต์ได้สะดวกเลย ด้านข้างประตูที่จอดรถจะมี Laundry Room ไว้บริการด้วยค่ะ
อาคาร B มีรูปทรงเป็นตัว L ลิฟต์โดยสารจะอยู่กลางอาคารพอดี ทำให้ระยะเดินจากห้องทั้ง 2 ฝั่งไม่ต่างกันมาก ทางเดินเป็นแบบ Double Corridor มีเพียง 2 ห้องที่เปิดประตูออกมาไม่ชนกับใคร คือ ห้อง Studio (กรอบสีแดง) ที่เป็นห้องมุมใกล้กับโถงลิฟต์และห้อง 1 Bedroom ขนาด 24.50 ตร.ม.ที่อยู่ติดกัน ซึ่งในอาคาร B ห้องที่ได้วิวส่วนกลางมีให้เลือกหลาย Type มากกว่าอาคาร A แต่จำนวนห้อง 1 Bedroom Plus (กรอบสีส้ม) และ Studio ก็มีเพียง Type ละ 2 ยูนิตต่อชั้นเหมือนเดิม สำหรับคนที่เล็ง Type เหล่านี้ อาจจะต้องรีบจับจองนิดนึงนะคะ
การวางตำแหน่งห้องในโครงการจะวางขนานไปกับทิศเหนือใต้เป็นส่วนใหญ่ มีอาคาร B ที่ตำแหน่งห้องจะหันไปทิศตะวันออกและตะวันตกอยู่บ้าง สำหรับคนที่ไม่ซีเรียสว่าจะต้องได้วิวส่วนกลาง มีห้อง 1 Bedoom ที่หันหน้าไปทางทิศใต้ให้เลือก ซึ่งทิศนี้ในปัจจุบันจะได้วิวเปิดโล่ง อยู่ติดกับถนนโครงการกว้าง 12 เมตร อนาคตเมื่อมีโครงการใหม่ขึ้น ก็ไม่ได้อยู่ในระยะประชิดและอาจมีวิวส่วนกลางฝั่งตรงข้ามให้มองด้วย
ส่วนห้องที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกจะเป็นห้อง Studio และ 1 Bedroom ซึ่งก็จัดเป็นทิศยอดนิยมอยู่แล้ว เพราะเป็นทิศที่ได้แสงช่วงเช้า และตอนบ่ายไม่ร้อน โดยขนาดห้องจะมีให้เลือก 22.00 -24.50 ตร.ม. จัดเป็นไซส์เริ่มต้น ซึ่งก็แน่นอนว่าจะเป็นโซนที่มีราคาสบายกระเป๋ากว่าอีกด้วย
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby แยก 2 อาคาร
- Co – Working Space
- Meeting Room
- Game Room
- Muti – Purpose Studio
- Fitness
- Swimming Pool
- Skate Park
- Outdoor Co – Working Space
- Garden + Sansiri Backyard
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 138 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 137 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 137 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 166 คันคิดเป็น 30% (รวมจอดซ้อนคัน)
- EV Charger 2 slots ที่อาคาร A
- การเข้า – ออกโครงการใช้ระบบ Bluetooth ผ่านไม้กั้นกระดก
- ระบบรักษาความปลอดภัยในอาคาร CCTV / Face Scan / Key Card
แบบห้อง
โครงการ dcondo Hype Rangsit (ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต) ขายในรูปแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์ครบทั้ง Built – in และลอยตัว โดยโปรดักส์จะเน้นไปที่รูปแบบห้อง 1 Bedroom เหมาะสำหรับอยู่ 1 – 2 คน กำลังดี บรรยากาศในห้องได้ความโปร่งโล่ง ด้วยพื้นที่ส่วนพักผ่อนที่เดินเชื่อมต่อกันได้ โดยรูปแบบจะมีให้เลือกด้วยกัน 4 แบบ ดังนี้ค่ะ
Type A : Studio พื้นที่ใช้สอยภายใน 22.00 – 22.50 ตร.ม.
- Type A : Studio พื้นที่ใช้สอยภายใน 22.00 – 22.50 ตร.ม.
- Type B : 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 24.00 – 25.25 ตร.ม.
- Type C : 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 26.25 – 26.75 ตร.ม.
- Type D : 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 34.00 – 34.25 ตร.ม.
สรุปวัสดุในห้อง
- รูปแบบการขาย Fully Furnished
- ชั้นวางทีวี
- Memory Foam Sofa ขนาด 2 ที่นั่ง
- โต๊ะกลาง
- โต๊ะรับประทานอาหาร + Ergonomic Cushion Chair 2 ที่นั่ง
- โต๊ะเขียนหนังสือ 1 – 2 ที่นั่ง
- ตู้เสื้อผ้า
- ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต
ห้องครัว
- พื้นห้องครัวกระเบื้องเซรามิก ขนาด 60×60 เซนติเมตร
- ท็อปเคาน์เตอร์ HPL / Sink จาก TEKA
- หน้าบานเฟอร์นิเจอร์กรุเมลามีน
ห้องน้ำ
- พื้นห้องน้ำกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 เซนติเมตร
- อ่างล้างมือและสุขภัณฑ์จากยี่ห้อ GELATO BATH / ก็อกน้ำ สายฉีดชำระและฝักบัวจาก NOVABATH
- ฉากกั้นอาบน้ำ กระจกเทมเปอร์ 3 ตอน
Type A Furniture Package : 1 Bedroom 22.00 – 22.50 ตร.ม.
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom Plus 34 ตร.ม. (Type D)
รูปแบบห้องที่พาไปชมในวันนี้คือ ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องไซส์ใหญ่ของโครงการ จุดเด่นของแปลนนี้คือห้องอเนกประสงค์ที่สามารถจัดเป็นห้องทำงาน, ห้องอ่านหนังสือ หรือห้องนอนก็ได้นะคะ
Common Area จะรวมพื้นที่นั่งเล่นและโซนครัวเข้าไว้ด้วยกันทำให้ห้องดูโปร่ง เป็นครัวเปิดที่เหมาะกับการทำอาหารต้มๆ หรือใช้อุ่นอาหารในไมโครเวฟซะมากกว่า ในส่วนของห้องนอนได้ประตูทึบเป็นสัดส่วนดีเลย แถมมีระเบียงในห้องด้วย เปิดถ่ายเทอากาศได้สะดวก ในส่วนของห้องน้ำจะอยู่ด้านในอาคารจึงต้องพึ่งพาระบบระบายอากาศตามสไตล์คอนโดอยู่แล้วนะคะ
ประตูทางเข้าหน้าห้องเป็นบานลายไม้พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ รองรับถึง 5 ระบบ ได้แก่ ระบบ Password, Finger Scan, Key Card, Application และ กุญแจ แม้ไม่มีธรณีประตูที่คอยช่วยกันน้ำ กันฝุ่น แต่โซนพื้นหน้าห้องก็เป็นกระเบื้องที่มีความทนทานและเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ
บรรยากาศโดยรวมดูกว้าง โล่งดีเลยนะ เพราะพื้นที่สามารถเปิดโล่ง มองเห็นกันได้หมด ยกเว้นห้องนอนและห้องน้ำที่ได้ประตูทึบเป็นสัดส่วน ฝ้าเพดานสูงประมาณ 2.50 เมตรสูงกว่าคอนโดทั่วไปเล็กน้อย ทำให้ห้องดูโปร่งขึ้นอีก
โซนแรกบริเวณหน้าห้องจะมีพื้นที่สำหรับถอดรองเท้า ด้านข้างมีตู้เก็บรองเท้า Built-in มาให้เรียบร้อย บนตู้ยังจัดเป็นพื้นที่วางของสำหรับหยิบใช้เป็นประจำก่อนออกจากห้องอย่างกุญแจต่างๆ, ร่ม, หมวก ก็ได้ หรือใครจะซื้อชั้นวางสำเร็จมาติดตั้งเพิ่ม ก็ถือว่าใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าเลย
ตู้รองเท้า Built – in จากโครงการ สามารถวางรองเท้าได้ประมาณ 10 คู่ มือจับตู้มีการปาดมุมด้านบนให้สอดมือเข้าไปจับได้
บริเวณหน้าห้องยังเป็นพื้นที่ครัวแบบเปิด โดยจะมีเคาน์เตอร์ครัว Built-in จากโครงการและพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น วัสดุพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิกจึงเช็ดทำความสะอาดได้สะดวก ไม่ต้องกลัวบวมน้ำ
ด้านล่างแบ่งเป็นช่องเก็บของชิ้นใหญ่ใต้อ่าง อีกฝั่งเป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้า ใช้งานได้ในห้อง ไม่ต้องออกไปด้านนอก
ท็อปเคาน์เตอร์เป็น HPL หรือ High Pressure Laminate มีคุณสมบัติทนต่อความร้อนและรอยขีดข่วนได้ดี
อ่างล้างจานแบบหลุมเดี่ยวจากยี่ห้อ TEKA เราลองใส่ถ้วยลงไปก็วางได้หลายใบอยู่นะ
ตู้ลอยด้านบนจะมีหน้าบานปิด ช่วยกันฝุ่น และมีช่องวางไมโครเวฟเตรียมไว้ให้
ติดกันเป็นพื้นที่ทานอาหารที่อยู่ระหว่างครัวและพื้นที่นั่งเล่น ทำให้สามารถนั่งดูทีวีพร้อมทานข้าวไปได้สะดวก โต๊ะที่ให้มาเป็นโต๊ะขนาด 3-4 ที่นั่ง วางชิดกำแพง มาพร้อมเก้าอี้มีพนักพิง
รอบโต๊ะมีพื้นที่ให้ดึงเก้าอี้ออกมานั่งได้สะดวก และโต๊ะก็ออกแบบมาให้เป็นมุมโค้ง เพื่อความปลอดภัยนะคะ
ความพิเศษของเก้าอี้ที่โครงการให้มาคือ ออกแบบตามหลัก Ergonomics โดยจะมีส่วนเว้าส่วนโค้งของตัวเบาะที่ช่วยช่วยปรับท่านั่งให้ถูกต้องตามหลักศรีระศาสตร์ ให้หลังตรง คอตรงมากขึ้น ลดการทำงานของกล้ามเนื้อคอ บ่า หลัง
ตัวเบาะเป็น Memory Foam ลดการกดทับของปุ่มกระดูกบริเวณก้นได้ Cover ด้วยผ้าจาก Pazaya ที่ได้รับตรา Green Lable รับประกันความสะอาด มีสารกันเชื้อราและแบคทีเรีย ปลอดภัย ไม่มีสารพิษที่เป็นอันตราย ตรงตาม Concept Well – being & Healthy Lifestyle ของโครงการเลยค่ะ
ในส่วนของพื้นที่นั่งเล่นมีระยะดูทีวีประมาณ 2.5 เมตร จึงใช้ทีวีขนาดใหญ่แบบ 60 นิ้วได้เลยนะคะ
โซฟาที่ให้มาเป็นแบบ 2 ที่นั่ง วัสดุเป็น Memory Foam โอบรับสรีระได้ดี ช่วยลดแรงกดทับที่มาของอาการปวดตามร่างกาย แถมผ้าหุ้มยังใช้แบรนด์ Pazaya ที่มีสารกันเชื้อราและแบคทีเรียอีกด้วย มาพร้อมโต๊ะกลางสีดำด้านข้างด้วยนะคะ
ชั้นวางทีวีที่โครงการติดตั้งมาให้ตามแบบในรูปเลยค่ะ ภายในจะแบ่งเป็นช่องเก็บของย่อยๆ แต่ไม่ได้มีหน้าบานปิดนะคะ
ระหว่างห้องอเนกประสงค์กับห้องนั่งเล่นจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน แยกพื้นที่ออกจากกันให้เป็นสัดส่วน แต่หากเพื่อนมาห้องหลายๆ คน ต้องการพื้นที่กว้างขึ้นก็สามารถเปิดเชื่อมกันได้
ประตูเปิดได้กว้างประมาณเมตรกว่าๆ และรางประตูก็ฝังลงไปกับพื้นเป็นระนาบเดียวกัน จึงไม่ต้องกลัวเดินสะดุดค่ะ
ภายในห้องอเนกประสงค์มีขนาดประมาณ 2.5 x 2.9 เมตร ซึ่งจะได้เป็นห้องเปล่า เราสามารถจัดเป็นห้องทำงานหรือห้องนอนเล็กอีกห้องห้องหนึ่งก็ได้ เพราะขนาดห้องสามารถวางเตียงเดี่ยวได้นะคะ
อย่างในห้องตัวอย่างก็จัดเป็นห้องทำงาน ก็สามารถวางโต๊ะทำงานยาวๆ ริมหน้าต่าง ให้ชมวิวไป ทำงานไปได้ ถ้าใครทำงานหรืออ่านหนังสือช่วงกลางวันบ่อยๆ แนะนำให้เลือกห้องฝั่งทิศเหนือหรือตะวันออกนะคะ แดดจะเข้าห้องในตอนบ่ายน้อยกว่า น่าจะนั่งทำงานได้สบายค่ะ
ต่อไปเราจะพามาชมห้องน้ำกันต่อ ตำแหน่งจะอยู่บริเวณหน้าห้องเลย เวลากลับห้องมาก็ได้เข้าห้องน้ำได้สะดวก ไม่ต้องเดินไกล
ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งมาให้ชัดเจน โดยการตกแต่งและชุดสุขภัณฑ์จะได้ครบครันเหมือนในห้องตัวอย่าง
ฟังก์ชันแบ่งเป็นฝั่งที่ติดตั้งอ่างล้างมือจากยี่ห้อ GELATO BATH ส่วนก็อกน้ำจาก NOVABATH ชื่อแบรนด์อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่ แต่ก็มีขายในบุญถาวร จึงหาซื้ออะไหล่เปลี่ยนได้ไม่ยากค่ะ
โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ GELATO BATH มาพร้อมสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่
Shower Box อยู่ด้านในสุด ได้มาขนาด 0.8 x 1.1 เมตร ส่วนฉากกั้นอาบน้ำติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานจากโครงการ เป็นประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน จึงเปิดออกได้กว้าง
ฝักบัวเป็น Hand Shower จาก NOVABATH เช่นเดียวกัน ด้านข้างมีที่วางอุปกรณ์อาบน้ำฝังในผนังมาให้เลยค่ะ
ในส่วนของห้องนอนเป็นห้องที่มีผนังและประตูปิดทึบเป็นสัดส่วน ได้ความเป็นส่วนตัวเหมาะกับการพักผ่อน หากใครชอบนอนดูทีวีก็ยังสามารถติดทีวีปลายเตียงแบบแขวนผนังได้นะคะ ด้านในสุดมีระเบียงกว้างๆ ให้ออกไปสูดอากาศธรรมชาติได้
เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องนอนก็จะได้มาทั้งเตียง 5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าตามแบบในห้องตัวอย่าง
ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุตวางไว้กลางห้อง หัวเตียงลบเหลี่ยมมุมออกให้ เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บที่เกิดได้จากอุบัติเหตุ ด้านล่างฐานมีช่องเก็บของมาให้
ตู้เสื้อผ้า Built – in มาให้ถึงฝ้า ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของได้มากขึ้น ลักษณะตู้เป็นบานเปิด ไซส์กำลังดี ใช้ร่วมกัน 2 คนได้สบาย ข้างในติดกระจกเงามาให้ พร้อมชั้นวางของเล็กๆด้านหน้า ใช้วางของกระจุกกระจิกได้
ปิดท้ายด้วยระเบียง ประตูจะอยู่บริเวณปลายเตียงค่ะ
พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องทำความสะอาดง่าย โครงการจัดตำแหน่ง Condensing Unit แขวนไว้ด้านบน ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้งาน วางได้ถึง 3 เครื่องเลย และจะเหลือพื้นที่สำหรับวางราวตากผ้าประมาณ 0.7 x 1.6 เมตรค่ะ
หากใครอยากชมห้องตัวอย่าง Type C เราเคยพาไปชมกันแล้ว เมื่อตอนเปิดขายโครงการใหม่ๆ >> คลิกชมกันได้ที่นี่ค่ะ
ราคา
dcondo Hype Rangsit (ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต) ราคา ณ วันที่ 29 กันยายน 2567
- 1 Bedroom 24.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท
- รูปแบบการขาย Fully Furnished
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.47 เมตร
- มีรถ Shuttle Bus ไปกลับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
- จอง 5,000 บาท
- ทำสัญญา 5,000 บาท
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 49 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล :
dcondo Hype Rangsit (ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต) ตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธินฝั่งขาเข้า ตรงข้ามมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำหรับนักศึกษาหรือบุคคลากรในมหาลัยก็ถือเป็นทำเลที่เดินทางง่าย อยู่ในระยะแค่ข้ามสะพานลอยก็ถึงเลย รอบโครงการมีร้านอาหาร ร้านค้าและหน้าโครงการเองก็มี 7-11 ให้พึ่งพิงได้สะดวก แต่ภาพรวมก็ไม่ได้คึกคักเท่าฝั่งมหาวิทยาลัย โดยทำเลโครงการจัดว่าอยู่ในย่านรังสิต นอกจากใกล้มหาวิทยาลัยชื่อดังหลายแห่งแล้ว ยังใกล้กับห้างสรรพสินค้า และ Hub ใหญ่ที่เป็นเส้นทางคมนาคมหลักจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดต่างๆได้อีกด้วย
การเดินทางโดยใช้รถ :
สำหรับคนใช้รถถือว่าสะดวกและได้เปรียบกว่าโครงการหรือหอพักฝั่งที่อยู่ติดกับมหาลัย เพราะจาก dcondo แค่กลับรถก็ถึงมหาวิทยาลัยเลย ระยะทางไม่ไกลประมาณ 1.6 km. เท่านั้น ต่างกับคอนโดในซอยรังสิตภิรมย์ที่จะต้องไปกลับรถ 2 รอบและระยะทางค่อนข้างไกลจึงจะถึงมหาลัยนะคะ
ตัวโครงการอยู่ติดกับถนนใหญ่อย่างพหลโยธินฝั่งขาเข้า สามารถขับตรงเข้าเมืองได้ง่าย และมีทางด่วนให้เลือกใช้ได้หลากหลายเส้นทางทั้ง ทางด่วนอุดรรัถยา , ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ , ถนนกาญจนาภิเษก หรือวงแหวนรอบนอก โดยที่จอดรถภายในโครงการมีประมาณ 166 คัน คิดเป็น 30% (รวมซ้อนคัน) อาจจะน้อยไปหน่อย แต่ก็ถือว่าพอใช้ได้กับโครงการใกล้มหาลัยในระยะที่พอเดินได้
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
โครงการ dcondo Hype Rangsit (ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต) อยู่ติดกับถนนใหญ่ จึงมีรถสาธารณะให้เลือกใช้บริการได้อย่างหลากหลาย โดยเฉพาะรถที่ใช้วิ่งเข้า – ออกเมืองก็มีทั้งรถเมล์ รถแท็กซี่และรถสองแถว สำหรับเด็กๆ หรือบุคคลากรในมหาลัย ทางโครงการก็มีรถ Shuttle Service คอยวิ่งบริการรับ – ส่ง ซึ่งหากใครที่ต้องการความคล่องตัวไม่อยากรอรถ ก็สามารถเดินไปมหาลัยได้ โดยใน Q1 ปี 2568 ก็คือต้นปีหน้าสะพานลอยจะสร้างเสร็จ ทางขึ้นลงอยู่บริเวณหน้าโครงการเลย จึงเป็นตัวช่วยที่ดีให้เดินไปมหาลัยได้ในระยะประมาณ 250 เมตร
แถมในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้มตัดผ่านบนถนนพหลโยธิน ทำให้สามารถเดินทางในโซนรังสิตหรือเข้า – ออกเมืองได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
วัสดุ :
ขายแบบ Fully Furnished ได้มาทั้งเฟอร์ Built – in และแบบลอยตัว วัสดุได้ตามมาตรฐานระดับราคา ส่วนตัวเรามองว่าเน้นความครบครันพร้อมเข้าอยู่ได้เลย จุดเด่นอยู่ที่การเลือกใช้ส่วนประกอบที่เป็นมิตรทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้ใช้งาน อย่างโซฟาและเก้าอี้ที่ใช้เป็น Memory Foam ขอบเตียง ขอบตู้ลบเหลี่ยมมุมมาให้ ช่วยลดการบาดเจ็บหากเกิดอุบัติเหตุได้ และวัสดุที่ช่วยลดการปล่อยสารฟอร์มัลดีไฮด์ที่เป็นสารก่อมะเร็งค่ะ
การออกแบบโครงการ :
dcondo Hype Rangsit (ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต) เป็นโครงการแรกในโปรเจกต์ dcondo Community ประกอบด้วย 4 โครงการ บนเนื้อที่ 20 ไร่ จัดเป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่เน้นการออกแบบให้ดูมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น โดยในเฟสแรกเป็นคอนโด Low Rise มีห้องพักจำนวน 546 ยูนิต ซึ่งทั้งลูกบ้านและคนภายนอกสามารถเดินมาใช้บริการได้
โดยจุดเด่นของโครงการยังอยู่ที่ความเป็นส่วนตัว ยูนิตน้อย ไม่ต้องแชร์ส่วนกลางกับเพื่อนบ้านจำนวนมาก Clubhouse แยกออกจากส่วนพักอาศัยชัดเจน จึงช่วยลดความพลุกพล่านและเพิ่มความปลอดภัยให้อาคารได้ และด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่จัดไว้ตรงกลางโครงการ ทำให้ในทุกอาคารสามารถมองเห็นวิวส่วนกลางได้
การออกแบบพื้นที่ใช้สอย :
รูปแบบห้องในโครงการมีให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ เน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom ซึ่งสามารถอยู่ด้วยกันได้ 1 – 2 คนกำลังดี ความแตกต่างอยู่ที่ขนาดพื้นที่ใช้สอย ส่วนการจัดวาง Layout จะคล้ายกัน คือได้ส่วนครัวแบบปิดที่ด้านหน้า พื้นที่ภายในห้องเน้นการเชื่อมต่อใช้งานง่าย แสงจากธรรมชาติส่องเข้ามาได้ทั่วถึง
โดยรูปแบบห้องที่เป็น Rare Item คือห้อง Studio และ 1 Bedroom Plus ที่มีชั้นละ 2 ยูนิต ซึ่ง 1 Bedroom Plus การจัดวางฟังก์ชันจะแตกต่างกับห้องอื่นๆชัดเจน ตั้งแต่ส่วนครัวที่เป็นแบบเปิด และระเบียงที่อยู่ติดกับห้องนอน โดยใน Type นี้จะได้มุมรับประทานอาหารเพิ่มเข้ามาด้วย
สาธารณูปโภค :
ส่วนกลางเรามองว่าจัดมาให้ครบครันตามมาตรฐาน เมื่อเทียบกับเนื้อที่โครงการประมาณ 4 ไร่ ก็ได้มาถึง 45% มีฟังก์ชันให้เลือกใช้งานทั้ง indoor และ outdoor โดยด้านนอกจะมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ความยาว 20 เมตร ใช้ว่ายแบบจริงจังได้ ส่วนในอาคารก็ออกแบบมาโดยคำนึงถึงกิจกรรมของน้องๆนักศึกษา มีทั้งพื้นที่ผ่อนคลาย ออกกำลังกาย และพื้นที่นั่งทำงาน อ่านหนังสือได้
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 72,000 บาท/ตร.ม., 29 กันยายน 2567
- ทำเล 8.25/10 – ติดถนนใหญ่ อยู่ฝั่งตรงข้ามม.กรุงเทพ มี 7-11 หน้าโครงการ
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – อยู่ฝั่งถนนพหลโยธินขาเข้า เดินทางเข้า – ออกเมืองง่าย ไม่ไกลจากจุดกลับรถ
- ไม่ใช้รถ 8/10 – มี Shuttle Service รับ – ส่งไปม.กรุงเทพ สะพานลอยจะสร้างเสร็จช่วงต้นปี 2568
- วัสดุ 8/10 – Fully Furnished ได้เฟอร์ครบ ทั้ง Built – in และลอยตัว ออกแบบเฟอร์ฯ ให้ดีกับสุขภาพ
- แบบ 7.75/10 – ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัวสูง เน้นห้อง 1 Bedroom เหมาะกับคนที่ชอบความโปร่งโล่ง อยู่ได้ 1 – 2 คน
- สาธารณูปโภค 8/10 – ส่วนกลางครบ แยก Clubhouse ไว้อีกอาคาร ช่วยลดความพลุกพล่านในส่วนพักอาศัย
- MAIN CLASS
- 8.00 / 10.00
dcondo Hype Rangsit เหมาะกับใคร
โครงการ dcondo Hype Rangsit (ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต) เหมาะสำหรับคนที่มองหาคอนโดใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพ หรืออยู่ในย่านรังสิต เดินทางง่าย ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ จำนวนยูนิตน้อย ได้ความเป็นส่วนตัว ตอบโจทย์ทั้งนักศึกษาและคนวัยทำงานอย่าง First Jobber ด้วยราคาเริ่มต้นไม่สูงมาก รวมถึงนักลงทุนที่ต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่าทำกำไร มีงบประมาณตั้งไว้เริ่มต้นไม่เกิน 2 ล้านบาท* หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 9,126 บาท/เดือน
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่