dcondo cover post

รีวิวฉบับที่ 958 วันนี้จะพาไปชมโครงการคอนโดที่จังหวัดเชียงฮายนะเจ้า ถือเป็นโครงการแรกเปิดประเดิมจังหวัดกันด้วยโครงการ dcondo Hyde Chiang Rai คอนโด Low Rise 8 ชั้นตึกคู่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ที่มีพื้นที่ Facility อยู่ระหว่างอาคารทั้งสอง ตำแหน่งของคอนโดอยู่บนถนนพหลโยธิน(ใหม่) ฝั่งตรงข้ามคือ Central Plaza เชียงราย ที่ถือเป็นศูนย์กลางใหม่ของอำเภอเมือง

Facts @ 29 October 2015

  • dcondo Hyde Chiang Rai (ดี คอนโด ฮาย เชียงราย)
  • บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
  • SEGMENT : SUPER ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 482 ยูนิต 
  • อาคาร A 233 ยูนิต และอาคาร B 249 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 32 ยูนิตที่อาคาร B ชั้น 3-8
  • ที่จอดรถประมาณ 144 คัน คิดเป็นประมาณ 30%
  • ที่ดินประมาณ 5-2-0 ไร่
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : เริ่มโอนกรรมสิทธิ์ไปแล้วเดือนกรกฏาคม 2558
  • 1 Bedroom 29.7 – 30.15 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 990,000 บาท
  • 2 Bedrooms 60.92 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3,030,000 บาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 45,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด 32,600 – 53,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1685

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 19.886790, 99.836567

map_l-en

แผนที่โครงการ dcondo Hyde Chiang Rai ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธินเส้นใหม่ ฝั่งมุ่งหน้าไปทางแยกแม่กรณ์ จากบนถนนพหลโยธินจะต้องเบี่ยงออกทางคู่ขนานทางซ้ายมือตรง BigC เชียงราย แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยตรงสะพานลอยถัดไป ตรงเข้าไปประมาณ 100 เมตร ทางเข้าโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ

ก่อนจะไปเจาะลึกเรื่องทำเลโครงการ ขอพูดถึงภาพรวมของจังหวัดเชียงรายสักหน่อยนะคะ หลายๆคนที่ไม่เคยไปเชียงราย หรือเคยไปก็เมื่อนานมาแล้ว อาจจะยังมีภาพเมืองเก่าที่ไม่ค่อยจะมีอะไรน่าสนใจนอกจากความสวยงามทางธรรมชาติและผู้คนที่ค่อนข้างจะเป็นมิตรนะคะ ซึ่งเชียงรายในปัจจุบันช่วงสิบปีให้หลังได้มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก อันเนื่องมาจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์ของเชียงรายที่อยู่เหนือสุดของประเทศและมีอาณาเขตติดต่อกับเพื่อนบ้านสองประเทศคือ พม่า และ สปป.ลาว ทำให้เกิดมีการค้าขายระหว่างชายแดนกันมาเนิ่นนาน และในระยะหลัง เมื่อเศรษฐกิจของพม่า และลาวดีขึ้น ย่อมทำให้การค้าขายของทั้งสามประเทศผ่านทางเชียงรายนั้นดีขึ้นไปด้วย จนเมื่อมีการพัฒนาเส้นทางการเดินทางให้เชื่อมกับตอนใต้ของจีน ให้เดินทางเชื่อมต่อกันสะดวกทั้ง 4 ประเทศ ความคึกคักและความเจริญของพื้นที่ทางฝั่งนี้ จึงเจริญมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

(Credit ภาพประกอบ จากสำนักก่อสร้างสะพาน กรมทางหลวง)

สะพานมิตรภาพไทย-ลาว 4 เชื่อมอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย กับ สปป.ลาว สะพานแห่งนี้มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจของเชียงรายเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการเปิดเส้นทางการเดินทางและขนส่งสินค้าเชื่อมกับประเทศจีนให้สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากการร่วมมือกันพัฒนาเส้นทางคมนาคม และการส่งเสริมให้เชียงรายเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ทำให้การค้าชายแดนของเชียงรายมีมูลค่าสูงขึ้นในระดับหลายหมื่นล้านบาท ซึ่งทำให้จังหวัดเชียงรายและพื้นที่ติดกันของเพื่อนบ้านมีความเจริญเพิ่มขึ้นมาก ในระยะห้าปีหลังนี้ ภาคอสังหาและการพัฒนาที่อยู่อาศัยในตัวเมืองเชียงราย และเมืองค้าชายแดนจึงมีการเติบโตขึ้นมาก ทั้งบ้านแนวราบสำหรับคนในพื้นที่ และคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise ที่มุ่งเน้นตลาดคนในพื้นที่และชาวต่างชาติ เริ่มผุดขึ้นมาโดย Developer ของเชียงรายเอง และ Developer เจ้าใหญ่ๆจากกรุงเทพ … ซึ่งมองว่าเชียงรายเป็นหนึ่งในหัวเมืองต่างจังหวัดอีกหนึ่ง แห่งที่มีศักยภาพการเติบโตในระยะยาวค่ะ

MAP

มาดูภาพกว้างๆของใจกลางเมืองจังหวัดเชียงรายกันหน่อยนะคะ จะมีใจกลางเมืองเก่าอยู่ที่หอนาฬิกาที่เชื่อมระหว่างถนนบรรปราการและถนนราชโยธาที่เป็นจุดที่มีร้านอาหารดังๆของเมืองและร้านขายของฝากเปิดให้บริการอยู่ที่ชั้น 1 ของอาคารพาณิชย์ทั้งสองฝั่ง ในรัศมีรอบๆประมาณ 1 กิโลเมตรจะมีวัดวาอารามอยู่รอบๆ รวมถึงอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งราย

ส่วนใจกลางเมืองใหม่จะขยับมาที่ถนนพหลโยธินสายใหม่ ที่จะมีศูนย์การค้าอย่าง Central Plaza เชียงราย, BigC เชียงราย, SCG solution รวมถึงโรงแรมดั่งเดิมขนาดใหญ่ ตัวโครงการ dcondo ก็จะนับว่าอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมืองใหม่ เพราะอยู่ข้างๆกับ BigC และฝั่งตรงข้ามเป็น Central ที่สามารถเดินข้ามสะพานลอยไปได้

แต่ถ้าต้องการมาท่องเที่ยวกินลมชมวิวหน่อยก็จะคุ้นเคยกันอยู่แถวริมแม่น้ำกก ที่จะมีโรงแรมที่เน้นการพักผ่อน ร้านอาหารและร้านขนมที่นั่งชิวสบายใจพร้อมบรรยากาศริมแม่น้ำ

เส้นทางการเดินทางหลักๆในปัจจุบันจะมีด้วยกัน 3 เส้น

  • ถนนพหลโยธินสายเก่าทางตะวันตก เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างแยกแม่กรณ์ขึ้นไปจนถึงใจกลางเมืองเก่าอย่างแถวหอนาฬิกา วัดวาอารามต่างๆอย่างวัดพระแก้วและวัดสิงห์
  • ถนนพหลโยธินสายใหม่เป็นถนนสายหลักในการเดินทางด้วยรถระหว่างทิศเหนือ-ใต้ ทั้งเพื่อเชื่อมการเดินทางต่างๆในจังหวัดผ่านจุดศูนย์กลางของเมืองอย่างห้าแยกพ่อขุนเม็งราย, ดอยต่างๆ และระหว่างจังหวัดอย่างเชียงรายหรือลำปาง
  • ถนน Super-highway หรือที่เรียกกันว่าถนน Bypass เป็นถนนที่คนในพื้นที่นิยมใช้กันเพื่อเลี่ยงเวลารถติด เนื่องจากมีแยกไฟเขียว-ไฟแดงน้อยกว่า และเป็นถนนเส้นที่ขนานกับถนนพหลโยธินทั้งสองเส้น สุดทางทิศเหนือคือสนามบินแม่ฟ้าหลวงลงตัดถนนหมายเลข 1020 แต่บางจุดยังมีกั้นเป็นพื้นที่ก่อสร้างอยู่บ้างนะคะ

MAP route1

เส้นทางแรกที่เราจะพาไปกันวันนี้คือเส้นทางจากถนน Bypass ที่เป็นถนนเส้นใหม่ล่าสุด เลี้ยวขวาที่สี่แยกไฟแดงเข้าถนนพ่อขุน ตรงยาวมาจนเจอห้าแยกพ่อขุนเม็งรายแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพหลโยธินเส้นใหม่ ตรงยาวมาเรื่อยๆ จนเจอ BigC เชียงรายทางซ้ายมีจะมีทางเบี่ยงเข้าเส้นคู่ขนาน แล้วเลี้ยวซ้ายอีกที่เข้าที่ซอยถัดจากสะพานลอยไปหน่อยประมาณ 100 เมตร ทางเข้าโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ

เริ่มต้นการเดินทางกันที่ถนน Bypass จากสนามบินแม่ฟ้าหลวงมุ่งหน้าลงมาทางใต้ เนื่องจากเป็นถนนที่ตัดใหม่ พื้นที่บางส่วนยังเป็นกั้นเป็นพื้นที่ก่อสร้างอยู่ ความกว้างของถนนอยู่ที่ 3 เลน มีเกาะกลางกั้นสองฝั่ง จากมุมที่เราเห็นคือทั้งสองฝั่งซ้าย-ขวามีสิ่งปลูกสร้างที่ดูใหม่มากเป็นอาคารพาณิชย์สูง 2-3 ชั้น กำลังประกาศเปิดขายหรือหาผู้เช่ากันอยู่ ภายในพื้นที่อำเภอเมืองจะเห็นว่ามีโครงการอาคารพาณิชย์กันค่อนข้างเยอะทีเดียว

บนถนน Bypass ก็จะมีจุดกลับรถอยู่เรื่อยๆทุกๆระยะประมาณ 2 กิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ว่างเปล่า พื้นที่เกษตรกรรม และร้านซ่อมรถ ร้านขายของเล็กๆน้อยๆ

เนื่องจากถนนเป็นทางตรงยาวๆ มีแยกไฟเขียวไฟแดงน้อยกว่าเส้นทางที่ขนานกันเส้นอื่นๆอย่างถนนพหลโยธินทั้งเก่าและใหม่ ถนน Bypass เลยได้รับความนิยมในการเดินทางสูงจากคนในพื้นที่ ทำให้มีการกำหนดความเร็วในแต่ละพื้นที่

จากป้ายบอกทางที่ติดกำกับไว้ ด้านหน้าเราจะเจอสี่แยกไฟแดง ถ้าตรงไปยังสามารถข้ามจังหวัดไปยังพะเยาได้ ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปอำเภอเวียงชัย หรือเลี้ยวขวาไปทางเข้าเมือง

มาถึงแล้วสี่แยกนะคะ จากตรงนี้เราจะเลี้ยวขวาเข้าถนนพ่อขุน เพื่อไปยังห้าแยกพ่อขุนเม็งรายกัน หรือที่จริงแล้วก็สามารถตรงไปบนถรร Bypass ต่อไป แล้วค่อยไปเลี้ยวขวาเข้าถนนพหลโยธินที่หลังก็ได้ แต่เนื่องจากอยากให้ดูสภาพของเส้นทางที่มีความอุดมสมบูรณ์เยอะขึ้นมาหน่อยเราจึงเลือกเส้นทางถนนพหลโยธินสายใหม่กัน

เลี้ยวขวาเข้าถนนพ่อขุน สองฝั่งก็ยังเห็นเป็นพื้นที่โล่งๆ

ตรงมาเรื่อยๆทางขวามือก็จะมีสิ่งปลูกสร้างเป็นแบบกึ่งอาคารพาณิชย์ที่ชั้นล่างสามารถเปิดเป็นร้านค้าได้ ชั้นบนเป็นส่วนพักอาศัย ส่วนฝั่งซ้ายก็จะเป็นพื้นที่เกษตรกรรม จากตรงนี้เราจะตรงไปจนสุดถนนพ่อขุนเลยค่ะ

เข้ามาส่วนกลางๆถนนพ่อขุนหน่อยก็จะรู้สึกถึงความเป็นชุมชนที่หนาแน่นมากขึ้น มีทางแยกซอยเล็กๆเข้าบ้านพักอาศัยบ้าง ร้านอาหารท้องถิ่นบ้าง

ตรงมาเกือบจะสุดถนนพ่อขุน ตรงนี้จะมีความคึกคักขึ้นมาอีก เพราะใกล้จะถึงห้าแยกพ่อขุนเม็งรายที่ถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางเมืองเก่าที่คนในพื้นที่นิยมจะพักอาศัยกัน แถบนี้ก็จะมีความอุดมสมบูรณ์ในการใช้ชีวิตอยู่เยอะ

เราผ่านซุ้มนี้ออกไปก็จะถึงห้าแยกพ่อขุนเม็งราย โดยจะมีอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายตั้งอยู่เป็นที่สักการะของคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว

ผ่านซุ้มมาก็จะเห็นว่าเป็นแยกที่ใหญ่มากจริงๆ  เลี้ยวซ้ายจะเข้าถนนพหลโยธินเส้นใหม่เลี้ยวขึ้นเหนือไปทางแม่น้ำกก ส่วนตรงไปจะเป็นถนนอุตรกิจคือถนนเส้นที่ตรงไปยังหอนาฬิกา วัดวาอารามต่างๆ ส่วนเราจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพหลโยธินเส้นใหม่ลงไปทางใต้กันค่ะ

เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพหลโยธินเส้นใหม่กันแล้ว เป็นถนนที่กว้างมากๆ ทางขวามือจะเห็นว่ามีกำแพงเมืองเก่าที่หลงเหลืออยู่ ปัจจุบันก็จะเป็นส่วนของทางกลับรถ ส่วนทางซ้ายก็จะเป็นสิ่งปลูกสร้างแบบเชิงพาณิชย์ซะเยอะ เพราะอยู่ริมถนนใหญ่

dcondo location 15

ตรงมาเรื่อยๆก็จะเริ่มมีจุดแบ่งส่วนที่เป็นถนนพหลโยธินเส้นหลักกว้าง 3 เลน และถนนที่เป็นทางคู่ขนานแยกออกไปทางซ้ายมือ

ตรงมาเรื่อยๆก็จะมาเจออีกสี่แยกหนึ่ง ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปถนนศรีเวียง ถ้าเลี้ยวขวาจะไปถนนสันคอช้าง เราจะยังตรงไปบนถนนพหลโยธินก่อนนะคะ สองฝั่งจะเห็นว่าเริ่มมีรถเยอะขึ้น มีห้างร้านใหญ่เป็นโชว์รูมเยอะขึ้น

จากถนนเส้นหลัก เราจะเร่ิมเบี่ยงมาทางคู่ขนานทางซ้ายกันนะคะ ตามระยะประมาณทุกๆ 2 กิโลเมตรก็จะช่องเปิดให้รถเบี่ยงเข้า-ออกทางคู่ขนานได้ตลอด

ตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอกับสินธานี ซึ่งเป็นศูนย์รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไอทีขนาดใหญ่

ความจริงแล้วเราจะมาเบี่ยวซ้ายเข้าทางคู่ขนานเมื่อเห็น BigC อยู่ทางซ้ายมือก็ได้นะคะ แต่ต้องไม่เลยจุดนี้ เพราะว่าจากตรงนี้ไปจนถึงโครงการจะไม่มีช่องเว้นว่างให้เบี่ยงแล้ว

เข้ามาทางคู่ขนาน ผ่าน BigC มานิดหน่อยก็จะมีอาคารพาณิชย์ที่เป็นธนาคารสาขาย่อยอยู่ทางซ้ายมือ

เลยจากธนาคารสาขาย่อยมาหน่อยก็จะมี Home Office สไตล์ Modern ที่ยังอยู่ในช่วงก่อสร้างอยู่เลย สูงประมาณ 6 ชั้น

จากนั้นก็จะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น เป็นอาคารทรงเก่าหน่อย ทางเบี่ยงข้างหน้าสามารถเบี่ยงออกได้ แต่ไม่สามารถเบี่ยงเข้าได้ ฝั่งตรงข้ามถนนจะเป็น Central เชียงราย ทางเข้าซอยโครงการอยู่ฝั่งตรงข้าม Central ตรงสะพานลอยข้างหน้าเลย

ผ่านสะพานลอยมาจะเห็นป้าย dcondo อยูาทางซ้ายมือ ให้เลี้ยวเข้าซอยถัดจากป้ายเลย

เข้ามาในซอยที่เป็นถนนภาระจำยอม ด้านในเป็นซอยตัน โครงการจะเป็นอาคารทางซ้ายมือสีเทา-ส้ม ตรงไปประมาณ 100 เมตร

นี่ถึงแล้ว ทางเข้าโครงการ dcondo Hyde Chiang Rai อยู่ทางซ้ายมือค่ะ

MAP route2

เส้นทางที่สองเป็นเส้นทางจากโครงการไปยัง Central Plaza เชียงราย ที่จากการสอบถามเป็นแหล่งรวมใหม่ของคนเชียงรายในอำเภอเมือง ซึ่งความจริงแล้วสามารถกลับรถที่แยกแม่กรณ์เข้าถนนพหลโยธินสายใหม่ได้เลย แต่ว่าเราจะพาเข้าไปเข้าที่ทางด้านหลังที่ถนนพหลโยธินสายเก่าเพื่อดูพื้นที่ชุมชนกันหน่อย จากนั้นจะใช้เส้นทางพหลโยธินสายใหม่จาก Central Plaza เชียงราย U-turn กลับไปยังโครงการ

ซอยโครงการที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนกับ Central เชียงรายที่เป็นจุดหมาย เราจะเลี้ยวซ้ายออกจากซอยไปอยู่เส้นคู่ขนานกับถนนพหลโยธินสายใหม่มุ่งหน้าแยกแม่กรณ์

เลี้ยวมาทางซ้ายก็จะเจอกับ SCG home solution ตั้งอยู่ เป็นศูนย์รับปรึกษาและโชว์รูมขนาดใหญ่

ตรงมาอีกหน่อยก็จะมีทางให้เบี่ยงเข้าถนนพหลโยธินใหม่เส้นหลักได้ จากนั้นเราก็จะพยายามชิดเข้าเลนขวา

มาเข้าเลนขวาได้แล้วก็ตรงไปเรื่อย ทางขวามือเป็นโชว์รูมรถ ทางซ้ายมือเป็นทางเข้าโรงพยาบาลเกษมราษฏร์ ศรีบุรินทร์

ตรงมาอีกหน่อยก็จะถึงแยกแม่กรณ์แล้ว ถ้าเราเลี้ยวซ้ายตรงนี้ก็จะไปเข้าถนน Bypass ถ้าตรงไปเรื่อยๆก็จะยังอยู่บนถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าจังหวัดพะเยา และสามารถไปถึงวัดร่องขุ่นที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญได้ ส่วนถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะไปเข้าถนนพหลโยธินสายเก่า หรือถ้ากลับรถก็จะไปอยู่บนถนนพหลโยธินสายใหม่อีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งถ้าเป็นรถต่ำกว่า 6 ล้อก็กลับรถตรงนี้ได้เลย

ส่วนเราจะเลี้ยวขวาตรงแยกแม่กรณ์เข้าถนนพหลโยธินเส้นเก่า

สองฝั่งของถนนพหลโยธินเส้นเก่าช่วงต้นอาจจะดูไม่ค่อยคึกคักเท่าไร สองฝั่งเป็นพื้นที่ว่างเปล่า มีรถจอดขายของบ้างตามจุดต่างๆ

พอเริ่มเข้าช่วงกลางถนนจะเร่ิมมีรถจอดทั้งสองฝั่ง เพราะร้านอาหารดังๆจะอยู่บนถนนเส้นนี้ ถ้าตรงไปอีกเรื่อยๆก็จะไปแถวที่นักท่องเที่ยวฝั่งจะอยู่กัน มีร้านสะดวกซื้อ ร้านพิซซ่า ร้านนั่งดื่มอยู่ทั้งสองฝั่งไปจนสุดที่แถวหอนาฬิกา

ส่วนจุดหมายเราคือจะพามาดูทางเข้า Central เชียงรายจากถนนพหลโยธินสายเก่า ซึ่งก็จะเลี้ยวขวาเข้าได้ตรงนี้พอดี

ภายในก็จะเป็นที่จอดรถขนาดใหญ่ มีอาคารศูนย์การค้าอยู่ตรงกลาง ด้านหน้ามีแยกเราจะเลี้ยวซ้ายไปฝั่งที่ใกล้ๆกับ B-quik แล้วจะเลี้ยวออกจาก Central ไปบนถนนพหลโยธินสายใหม่อีกครั้งเพื่อวิ่งกลับเข้าโครงการ

ทางออกของ Central ฝั่งถนนพหลโยธินสายใหม่ เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าเส้นคู่ขนาน ส่วนใครที่ไม่อยากใช้รถก็สามารถเดินข้ามสะพานลอยที่อยู่หน้าซอยโครงการมายัง Central ได้ในระยะไม่เกิน 300 เมตร

จากนั้นก็จะเบี่ยงจากเส้นคู่ขนานออกไปยังถนนหลัก แล้วเราก็จะพยายามชิดเข้าเลนขวาทันทีเพื่อให้ทันจุดกลับรถ

กลับรถจากถนนพหลโยธินเส้นใหม่จากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่ง จุดกลับรถอยู่หน้าสินธานีพอดี

จากนั้นก็จะเข้าสูตรเดิมคือ เมื่อเห็น BigC เชียงรายอยู่ทางซ้ายมือ ให้ชิดซ้ายและเบี่ยงจากถนนหลักเข้าถนนคู่ขนานในทันที แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยที่สะพานลอยฝั่งตรงข้ามกับ Central เชียงรายไปประมาณ 100 เมตร

MAP surrounding

มาดูพื้นที่รอบๆโครงการใกล้ๆกันหน่อยนะคะ ทางใต้ของโครงการจะเป็นซอยทางเข้าที่แยกออกจากมาถนนคู่ขนานถนนพหลโยธินสายใหม่ที่เป็นถนนภาระจำยอมซึ่งเป็นทางตัน ฝั่งตรงข้ามกับถนนภาระจำยอมเป็นบ้านเดี่ยวพักอาศัยส่วนบุคคลขนาดใหญ่ที่มีบริเวณและข้างๆกันเป็นพื้นที่เกษตรกรรมโล่งๆหน่อย ฝั่งตะวันออกจะเป็นพื้นที่โครงการในอนาคตของแสนสิริที่ยังไม่มีการเปิดเผยนะคะ วนไปทางเหนือจะเป็นพื้นที่ของ BigC เชียงราย ที่พื้นที่ใกล้ๆกับเราจะเป็นส่วนพื้นที่จอดรถกลางแจ้ง ฝั่งตะวันตกริมถนนฝั่งเราจะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 5-6 ชั้นทั้งที่เป็นอาคารเดิม และอาคารที่กำลังก่อสร้าง ส่วนฝั่งตรงข้ามถนนพหลโยธินสายใหม่คือ Central Plaza เชียงราย, ร้านค้า, ร้านอาหารเล็กๆ และร้านเฟอร์นิเจอร์

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Central Plaza เชียงราย ระยะเดิน 250 เมตร (ข้ามสะพานลอย) ใช้รถ 2.6 กิโลเมตร
  • BigC ระยะเดิน 400 เมตร
  • โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ศรีบุรินทร์ 1.2 กิโลเมตร
  • แยกแม่กรณ์ 1.3 กิโลเมตร
  • Homepro เชียงราย 2.8 กิโลเมตร
  • ตลาดกลางเชียงราย 3.7 กิโลเมตร
  • สถานีขนส่งเชียงราย 3.8 กิโลเมตร
  • อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งราย 3.9 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราห์ 4.2 กิโลเมตร
  • หอนาฬิกา 4.7 กิโลเมตร
  • แม่น้ำกก 5.3 กิโลเมตร
  • สนามบินแม่ฟ้าหลวง 15.5 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง 21.5 กิโลเมตร

 


เจาะลึกตัวโครงการ

 

ภาพจำลองภายนอกของโครงการ dcondo Hyde Chiang Rai คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร รวม 482 ห้อง ตัวอาคารฝั่งซ้ายมือคืออาคาร A รูปทรงอาคารเป็นรูปตัว L  และอาคารฝั่งขวามือคืออาคาร B รูปทรงอาคารเป็นรูปตัว I ทั้งสองตึกตกแต่งภายนอกคล้ายๆกันคือสีเทาตัดกับสีส้ม มีพื้นที่ระหว่างอาคารจะเป็นพื้นที่หลักของ Facility อย่าง Clubhouse สูง 2 ชั้นและสระว่ายน้ำกลางแจ้ง นอกจากนั้นรอบๆอาคารก็ยังเป็นพื้นที่สีเขียวให้เดินรอบๆได้ และทางซ้ายมือของรูปหรือข้างๆกับอาคาร A ก็จะเป็นพื้นที่จอดรถกลางแจ้งที่จอดได้ประมาณ 30%

เร่ิมกันที่ Master plan และผังชั้น 1 กันค่ะ เข้าโครงการได้จากทางเดียวจากถนนพหลโยธินฝั่งมุ่งหน้าแยกแม่กรณ์ เบี่ยงออกทางคู่ขนานตรง BigC แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยตรงสะพานลอยที่เป็นถนนภาระจำยอม ข้างในเป็นซอยตัน ภายในพื้นที่มี 2 อาคารพักอาศัย คืออาคาร A ทางซ้ายมือและอาคาร B ทางขวามือ ตรงกลางเป็นส่วนของ Facility หลักๆ รอบๆมีพื้นที่สีเขียวและที่จอดรถกลางแจ้ง ตัวอาคารเป็นอาคารสูง 8 ชั้น มีห้องพักตั้งแต่ชั้น 1-8 ซึ่งจะแตกต่างจากคอนโดทั่วไปที่จะยกห้องพักเร่ิมที่ชั้น 2 แล้วชั้น 1 จะเป็นพื้นที่ของส่วนกลาง แต่เนื่องจากโครงการนี้ผลักเอาพื้นที่ Facility มาไว้ระหว่างอาคารเป็นหลัก ทำให้พื้นที่ชั้น 1 เป็นห้องพักได้สบายๆ

จากทางเข้าโครงการจะผ่านป้อมพี่ยามโดยรถลูกบ้านจะติดเป็นสติ๊กเกอร์ แล้วพี่ยามก็จะเปิดไม้กระดกให้ สามารถเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวาเข้าที่จอดรถได้ แต่เลี้ยวไปทางซ้ายจะมีพื้นที่จอดรถเยอะกว่ามาก ทั้งหมดเป็นที่จอดรถกลางแจ้ง จอดรถเสร็จก็จะต้องเดินมาเข้าอาคารที่ตรงกลางหน้า Clubhouse เพื่อแยกเข้าอาคาร A หรือ B โดยจะมี Lobby เป็นพื้นที่แรกที่จะเจอ นอกนั้นก็จะเป็นตู้จดหมาย ห้องน้ำแยกชาย-หญิง ที่อาคาร A จะมีห้องนิติบุคคลเพิ่มเข้ามา ลิฟท์โดยสารมีอาคารละ 2 ตัวรวมเป็น 4 ตัว ไม่มีลิฟท์ Service บันไดหนีไฟอาคารละ 2 จุด อาคาร A มีห้องพักชั้น 1 ที่ 25 ยูนิต และอาคาร B 27 ยูนิต

f2

มาต่อกันที่ชั้น 2 ชั้นนี้จะเป็นห้องพักล้วนๆ ไม่มีส่วน Facility ใดๆนอกจากส่วนที่เป็น Double Ceiling Floor จาก Lobby ที่อาคาร A ที่เป็นรูปตัว L มีห้องพักเพิ่มขึ้นมาเป็น 28 ยูนิต แบ่งออกเป็นแบบ 1 ห้องนอน 26 ยูนิต และแบบ 2 ห้องนอนเพียง 2 ยูนิต ส่วนอาคาร B ที่เป็นรูปตัว I มีห้องพักเพิ่มเช่นกันเป็น 30 ยูนิต เป็นห้องพักแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมด ส่วนตรงกลางของพื้นที่ทั้งสองอาคารก็จะเป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้งและ Clubhouse ซึ่งมีพื้นที่ัช้น 2 เป็นห้องฟิตเนส

สำหรับการเข้า-ออกมีตำแหน่งโถงลิฟท์โดยสารอยู่ที่ส่วนหน้า ดังนั้นยูนิตที่อยู่ใกล้กับโถงลิฟท์จะได้รับความสะดวกในการขึ้น-ลง แต่ในทางกลับกัน ความเป็นส่วนตัวที่ได้จะน้อยกว่าห้องทางเหนือที่เป็นทางตัน ไม่มีการเดินไปเดินมาของเพื่อนร่วมชั้นมากนัก แต่จะอยู่ไกลจากลิฟท์ไปหน่อย

f3

ห้องพักชั้น 3-8 จะมีแปลนที่เหมือนกันคือมีแต่ห้องพักทั้งหมด อาคาร A มีทั้งหมด 30 ยูนิต ส่วนอาคาร B มี 32 ยูนิต เป็นชั้นที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุดของโครงการ

ส่วนการจัดวางรูปทรงอาคารแบบขวางตะวันคือส่วนที่กว้างกว่าอยู่ทางทิศตะวันออก-ตะวันตก การเลือกตำแหน่งห้องก็จะขึ้นกับความชอบส่วนตัวและการใช้งานรวมถึงวิว ใครที่ชอบตื่นเช้าหน่อยก็อาจจะเลือกห้องฝั่งตะวันออก เพราะจะได้แสงเช้าเบาๆหน่อย ส่วนใครที่ชอบตื่นสายกลัวแสงแยงตานอนไม่สบาย เลือกห้องฝั่งตะวันตกก็จะเข้ากับ Lifestyle มากกว่า ส่วนเรื่องของวิว เนื่องจากเป็นโครงการ Low rise ก็คงจะไม่ได้วิวมุมสูงอะไรมากมาย แค่ไม่มีอาคารที่สูงในระยะประชิดเป็นใช้ได้ มีวิวภายในโครงการหันหน้าเข้าหาส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำและ Clubhouse วิวหันออกนอกโครงการอย่างอาคาร A ฝั่งหันหน้าไปทางตะวันตกก็จะได้วิวที่จอดรถของโครงการ มองไกลหน่อยก็จะเป็น Central เชียงราย ส่วนห้องที่เรื่องวิวไม่แน่นอนจะเป็นอาคาร B ฝั่งหันไปทางตะวันออก เพราะพื้นที่ข้างๆเป็นพื้นที่ของแสนสิริที่อาจจะพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคต

ทางเข้าโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนขวามือจะเป็นทางออก โดยมีป้อมพี่ยามตั้งอยู่ตรงกลาง

ระบบรักษาความปลอดภัยคือจะเป็นการให้รถของลูกบ้านติดสติ๊กเกอร์ แล้วพี่ยามเป็นคนเปิดไม้กระดกให้รถผ่านเข้าไป

ส่วนของทางเข้า-ออกก็จะมีกล้อง CCTV ไว้ให้

ผ่านจากไม้ระดกเข้ามาก็จะเจอกับทางเข้าอาคารทั้งสอง และส่วนของ Clubhouse ตรงกลาง แต่ก่อนที่เราจะเข้าไปพื้นที่ภายใน จะขอพาเดินชมพื้นที่รอบๆและที่จอดรถกันก่อนนะคะ

เริ่มจากหันไปทางขวาก็จะเจอกับอาคาร B

หน้าอาคาร​ B จะมีพื้นที่จอดรถประมาณ 6 คัน

ซึ่งทางเดินรถจะเป็นทางตันต้องกลับรถออกมา เนื่องจากพื้นที่ข้างๆอาคาร B จะเว้นระยะความกว้างไว้แค่สำหรับคนเดินเท่านั้น

ด้านหลังก็จะเป็นงานระบบ และส่วนระเบียงของห้องอาคาร B ฝั่งตะวันออก ที่ขอบรั้วก็จะมีการลงต้นไม่ใหญ่ไว้ให้

ส่วนใครที่จับจองห้องภายในอาคาร B ชั้น 1 ฝั่งตะวันออก ก็จะได้วิวจากระบียงเป็นทางเดินรอบอาคารและต้นไม้เขียวๆ ซึ่งระยะระหว่างทางเดินและระเบียงถือว่าใกล้กันมาก ต้องระวังในเรื่องความปลอดภัยมากๆ

กลับออกมาจากฝั่งอาคาร B เราจะเดินไปอีกฝั่งที่เป็นพื้นที่จอดรถกลางแจ้งหลักกันบ้างนะคะ

จากป้อมพี่ยามเข้ามา อาคาร A จะเป็นอาคารที่อยู่ทางซ้ายมือ

หน้าอาคาร A ก็จะเป็นพื้นที่จอดรถจักรยานและมอเตอร์ไซค์ ความกว้างของถนนพอที่รถสองคันจะวิ่งสวนกันได้

เดินเข้ามาภายในพื้นที่จอดรถกลางแจ้งก็จะมีรถจอดเรียงรายกันอยู่ การวางผันที่จอดรถจะเป็นแบบรอบๆแนวแปลงที่ดินส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งจะอยู่ตรงกลาง เป็นการเดินรถแบบ one-way มองไกลออกไปหน่อยฝั่งตรงข้ามถนนพหลโยธินก็จะเป็น Central เชียงรายตั้งเด่นอยู่

โดยในพื้นที่จอดรถก็จะมีพี่ยามที่มีฐานทัพอยู่ตรงกึ่งกลางของพื้นที่พอดีเป็นคนคอยโบกให้ จากภาพใครที่จับจองห้องพักภายในอาคาร A ฝั่งตะวันตกก็จะได้วิวที่จอดรถเป็นวิวที่มองต่ำหน่อย มองสูงๆก็จะได้เป็นวิว Central

ที่มุมของพื้นที่แปลงฝั่งนี้ก็จะเป็นในส่วนของหม้อแปลง งานระบบ และประตูเล็กที่สามารถออกไปยังซอยทางเข้าหรือถนนภาระจำยอมได้

ประตูเล็กที่ออกไปยังซอยทางเข้าได้ เขียนป้ายกำกับไว้ว่าเป็นทางที่ใช้ทิ้งขยะ

จากมุมงานระบบหันหน้าเข้าหาอาคาร A

จากมุมงานระบบจะเป็นการเดินรถทางเดียว แล้วเป็นทางกลับรถไปยังส่วนทางเข้า-ออกโครงการ ที่จอดรถทั้งหมดของโครงการเป็นแบบกลางแจ้ง นับรวมๆได้ทั้งหมด 144 คัน หรือประมาณ 30%

และอีกเช่นกัน ใครที่จับจองห้องพักที่อาคาร A ชั้น 1 ฝั่งตะวันตก ส่วนระเบียงจะได้เป็นวิวที่จอดรถเต็มๆ ซึ่งถือว่าไม่ดีนักสำหรับเรื่องความปลอดภัย ระยะระหว่างที่จอดรถและระเบียงน่าจะไม่ถึง 2 เมตร ในส่วนของห้องพักก็จะปลูกไม้พุ่มบังสายตาให้หน่อย แต่ก็ถือว่าถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัว ม่านก็อาจจะต้องปิดไว้เกือบจะตลอดเวลา

กลับมาที่พื้นที่ตรงกลางระหว่างอาคาร A และ B นะคะ ก็จะมีพื้นที่ทางเดิน, Clubhouse สูง 2 ชั้นตรงกลาง ด้านหลังเป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้งและรอบๆมีพื้นที่เดินเล่น เร่ิมตั้งแต่ทางขึ้นเลย ก็จะมีทั้งส่วนที่เป็นบันไดก้าวเดิน และแบบที่เป็นทางลาด

ชั้น 1 ของ Clubhouse ก็จะเป็นพื้นที่เปิดโล่ง มีม้านั่งวางไว้ทั้งสองฝั่ง ด้านหลังเป็นห้องน้ำแยกชาย-หญิงที่เข้าได้จากฝั่งสระว่ายน้ำ ส่วนชั้นสองเป็นห้องฟิตเนสและพื้นที่นั่งรับลมเช่นกัน

ตัวพื้นของ Clubhouse จะตั้งอยู่บนระดับที่สูงกว่าทางเดินด้านล่างหน่อย ก็จะมีบันไดและทางลาดให้เดินขึ้น-ลง ข้างๆมีบ่อน้ำที่เว้นพื้นที่ไว้ปลูกต้นไม้ดอกบ้างเพื่อความสวยงาม เดี๋ยวเราจะเดินเลาะด้านล่างไปดูห้องน้ำของชั้น 1 กันนะคะ

เดินตามทางมาหน่อยก็จะเป็นบันไดขึ้นไปยังระดับ Clubhouse ความจริงจะเดินด้านบนก็ได้นะคะมีพื้นที่ต่อเนื่องกันพอดี

เดินอ้อมมาหน่อย ตรงกลางของสระว่ายน้ำพอดีก็จะมีทางเข้าห้องน้ำ

มุมจากหน้าทางเข้าห้องน้ำมองไปยังสระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาด 11 x 25 เมตร

หันหลังกลับไปจะมีทางเดินตรงกลางระหว่างประตูทางเข้าห้องน้ำแยกชาย-หญิง ของผู้ชายจะอยู่ทางขวามือและของผู้หญิงทางซ้ายมือ ขออนุญาติพาไปแต่ห้องน้ำหญิงนะคะ

เดินเข้ามาด้านในซ้ายมือก็จะมี Locker แบบกุญแจหมุนให้ได้ใส่ของกัน ซึ่งจำนวนถือว่าเพียงพอแน่ๆ

หันมาทางขวาก็จะเจอกับอ่างล้างหน้า 2 จุดพร้อมกระจกบานใหญ่ ด้านในก็จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งไว้เปิดให้ลมระบายได้ระหว่างวัน

หันมาอีกฝั่งก็จะเป็นห้องน้ำ 2 ห้องและห้องอาบน้ำด้านใน 1 ห้อง

ขอตัดภาพมายังบันไดขึ้นชั้น 2 ของ Clubhouse ที่อยู่ตรงกลางนะคะ พื้นปูด้วยทรายล้างซึ่งทำความสะอาดง่าย ทนทาน เหมาะกับโครงสร้างแบบ Outdoor

เดินขึ้นไปด้านบนก็จะเจอกับห้องฟิตเนส มีประตูบานเปิดเข้าได้หลายทาง

เปิดประตูเข้าไปก็จะเป็นห้องออกสี่เหลี่ยมจตุรัส ด้านในมีเครื่งออกกำลังกายประมาณ 12 เครื่อง มีทั้งฝั่งซ้ายและขวาอีก ส่วนบานเปิดของห้องฟิตเนสฝั่งตรงข้ามก้เป็นประตูบานเปิดเช่นกัน ส่วนสองฝั่งจะเป็นหน้าต่างบานใหญ่ที่สามารถรับลมเข้ามาในห้องฟิตเนสได้ เหมาะสำหรับวันอากาศดีที่ไม่ต้องเปิดแอร์ ภายในมีผู้พักอาศัยเข้ามาใช้งานแล้ว เราเลยต้องของดการรบกวนไว้แต่เพียงเท่านี้

หันหลังกลับมาจากประตูห้องฟิตเนาก็จะเจอกับบันไดที่เราขึ้นมาเมื่อสักครู่ ข้างๆจัดพื้นที่เป็นชุดเก้าอี้แทรกอยู่ตามระหว่างเสาเว้นระยะต่างๆ สามารถเดินรอบได้เป็นสี่เหลี่ยม

ชุดเก้าอี้ระหว่างเสา เหมาะกับการนั่งพักผ่อนระหว่างวัน

วิวจากชั้น 2 ของ Clubhouse มองออกไปยังทางเข้า-ออกของโครงการที่อยู่บนถนนภาระจำยอม

พื้นที่ข้างๆห้องฟิตเนสก็เดินได้รอบเช่นกัน สามารถเดินไปถึงฝั่งที่เป็นวิวสระว่ายน้ำได้

วิวจากห้องฟิตเนสที่อยู่บนชั้น 2 สวยงาม

มองกดลงนิดนึงจะมีทางลงสระว่ายน้ำที่ทั้งฝั่งซ้ายมือและขวามือ ตัวสระยาว 25 เมตรไปจนสุดศาลาที่อยู่ตรงปลายสระอีกฝั่งหนึ่ง รอบๆสระก็จะเป็นทางเดินกลางที่สามารถอ้อมไปยังพื้นที่รอบๆอาคารได้ทั้งหมด

ลงมาอยู่ชั้นล่างกันบ้าง ก็จะมีทางบันไดขึ้นไปยังขอบสระ แล้วเดินลงไปในสระสวยๆ สระว่ายน้ำนี้เป็นแบบน้ำล้นนะคะ แต่ตรงขอบสระก็จะปาดมุมสามเหลี่ยมไว้หน่อยเพื่อให้ประหยัดน้ำไว้บ้าง

ทางเดินรอบๆสระก็จะมีสวนข้างๆและลงต้นไม้ดอกรอบๆ

จากสระว่ายน้ำมองขึ้นไปยังตัวอาคาร ใครที่สนใจห้องที่วิวหันหน้ามายังพื้นที่ส่วนกลางอย่าง อาคาร A ฝั่งตะวันออก และอาคาร B ฝั่งตะวันตกก็จะได้วิวนี้เลย

เดินเลาะมารอบๆทางเดินก็จะสามารถทักทายได้กับเพื่อนบ้านที่อยู่บนชั้น 1 ส่วนด้านในทั้งในส่วนห้องพักและระเบียง

พื้นที่ตรงมุมอาคาร A ที่มีรูปร่างเป็นรูปตัว L ก็จะปลูกต้นไม้ไว้ เพื่อความปลอดภัย

มองขึ้นไปด้านบนนู้น

หันกลับมาก็ยังมีพื้นที่ให้เดินลัดเลาะไปได้เรื่อยๆอีก

พื้นที่นั่งเล่นระหว่างอาคาร A และ B สามารถเดินต่อเนื่องไปที่รอบข้างอาคารได้ทั้งหมด

เงยหน้าหน่อย

ซึ่งพื้นที่ทั้งสองสามารถเดินเข้าศาลากลางแจ้งที่อยู่ปลายสระได้นะคะ มีบันไดทางขึ้นทั้งสองฝั่งเลย

ภายในศาลาก็จะเป็นที่นั่งกินลมชมวิวสบายๆ ด้านในมีม้านั่งรูปตัว C แบบก่อปูนอยู่

มุมกินลมชมวิวจากศาลา

ต่อไปเราจะเริ่มเข้าไปดูพื้นที่ส่วนกลางภายในอาคารกันบ้างนะคะ เริ่มจากอาคาร A ที่อยู่ทางซ้ายมือของ Clubhouse

ทางขึ้น-ลงก็จะแบ่งเป็น 2 แบบคือบันไดและทางลาด จะสังเกตว่าพื้นที่ส่วนกลางที่นี่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับการเข้าถึงของคนทุกเพศทุกวัยดีนะคะ

เปิดประตูเข้ามาใน Lobby ก็จะเป็นพื้นที่แบบ Douvle Ceiling Floor ที่ชั้นล่างด้านหน้าจะเป็นทางเข้าของห้องนิติบุคคลที่ดูแลทั้งสองอาคาร ด้านบนมองผ่านกระจกเข้าไปก็จะเป็นทางเดินเข้าห้องพักแต่ละห้องของชั้น 2

มองมาทางซ้ายก็จะเป็นพื้นที่ของ Lobby อาคาร จัดพื้นที่นั่งมีทั้งแบบโต๊ะยาวธรรมดาและแบบโต๊ะยาวพร้อมเก้าอี้สตูล ด้วยความที่เบิ้ลความสูงขึ้นไปทำให้ดูโปร่งขึ้นเยอะ

เดินมาทางขวามือก็จะเป็นสำนักงานนิติบุคคล มีช่องเลื่อนเปิดให้ติดต่อสอบถามได้ตามเวลาทำการ

ฝั่งตรงข้ามกับ Lobby ก็จะมีทางเดินเข้าไปยังส่วนตู้จดหมาย ห้องน้ำแยกชาย-หญิง และประตูที่ต้องแตะบัตรเพื่อเข้าไปยังส่วนโถงลิฟท์ด้านใน ด้านหน้าของให้สังเกตว่ามีตู้ ATM ตั้งอยู่ ก็ถือเป็นข้อดีในเรื่องความสะดวกสบาย

เดินผ่านทางเดินมา ขวามือก็จะเป็นตู้จดหมายเรียงรายกันไป

ฝั่งตรงข้ามกับตู้จดหมายก็จะเป็นทางเดินเข้าห้องน้ำแยกชาย-หญิง และห้องแม่บ้านที่อยู่ตรงกลาง

เปิดเข้าไปให้ดูห้องน้ำหญิงกันหน่อยนะคะ เป็นห้องแบบใช้ได้คนเดียว ภายในมีอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานใหญ่เต็มผนัง และชักโครกด้านใน

ออกมาจากห้องน้ำ เดินไปที่ทางเดินก็จะมีประตูกั้นอยู่อีกชุดหนึ่ง ขวามือมีบอร์ดไว้ปะประกาศให้ลูกบ้านได้รับรู้ข่าวสารต่างๆ

dcondo facility add 1

ก่อนเข้าประตูไปยังโถงลิฟท์ก็จะต้องแตะบัตรผ่านเข้าไปก่อนถึงจะเปิดประตูได้ ส่วนการออกจากโถงลิฟท์มาส่วน Lobby ก็จะเป็นปุ่มเปิด-ปิดจากด้านใน

โถงลิฟท์ของอาคาร A ประกอบไปด้วยลิฟท์ 2 ตัว สัดส่วนการใช้งานอยู่ที่ 116:1 ประตูทางซ้ายมือเป็นประตูเข้าไปยังโถงทางเดินเพื่อเข้าไปยังห้องพักแต่ละห้องของชั้น 1 ซึ่งก็ต้องใช้บัตรในการเปิดอีกที

dcondo facility add 2

ลิฟท์เปิดเข้ามาก็จะเป็นแบบมีทั้งกั้นตรงกลางพอดี ไว้สำหรับเอาตัวพิงก็ได้ สำหรับขนของบ้างก็ได้ กันเพื่อที่จะได้เวลาขนย้ายจะไม่โดนตัวลิฟท์โดยตรงให้เป็นรอย

การกดลิฟท์แน่นอนว่าก้จะต้องแตะบัตรก่อนกดลิฟท์เช่นกัน เป็นแบบ Proxy Lift ล็อกชั้นล็อกอาคาร ไม่มีสิทธิ์จะกดไปชั้นเพื่อนบ้านคนอื่น

ออกมาจากลิฟท์แล้วก็จะเป็นส่วนที่จะต้องแตะบัตรเพื่อเข้าไปยังโถงทางเดินตรงกลางระหว่างห้องพักอีกทีเหมือนกันทุกชั้น

เปิดประตูเข้ามาแล้วก็จะเจอกับทางเดินสองฝั่ง ด้านนี้คือฝั่งซ้ายก็จะมีบันไดหนีไฟอยู่ที่จุดนึงฝั่งนี้

บันไดหนีไฟชั้น 1 จะไม่ได้เปิดออกไปยังนอกอาคารได้เลย แต่จะต้องเปิดมายังโถงทางเดินตรงกลางของชั้น 1 ก่อน

แล้วค่อยเดินออกไปยังทางหนีไฟที่พื้นที่ด้านนอกอีกที

ที่สุดทางเดินก็จะมีกล้อง CCTV จับอยู่ทุกๆชั้น

เดินมาที่ทางเดินขวามือก็จะเป็นทางเดินที่ยาวกว่าหน่อย

เดินมาก็จะเจอกับช่องแสงที่เชื่อมกับส่วนกลางระหว่างอาคาร

มองออกไปก็จะเป็นส่วนสวนระหว่างอาคารพอดี ช่องแสงตรงนี้จะช่วยในการเดินที่โถงทางเดินนี้ระหว่างวัน ให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาได้บ้าง

ถัดจากช่องแสงไปก็จะเป็นทางหนีไฟอีกจุดหนึ่ง

ต่อมาเราจะไปดูที่อาคาร B กันบ้าง อาคารนี้เป็นรูปตัว I มีห้องพักตั้งแต่ชั้น 1-8 เช่นกัน มียูนิตทั้งหมด 249 ยูนิต มากกว่าอาคาร A อยู่ 16 ยูนิต เป็นแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมด

เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับโถง Lobby แบบ Double Ceiling Height อีกเช่นกัน ภายในก็จะวางเป็นโต๊ะยาว และมีชุดเก้าอี้เดี่ยวอีกนิดหน่อย

มองเข้าไปด้านในก็จะเป็นพื้นที่ตู้จดหมาย ทางขวาเป็นทางเข้าห้องน้ำแยกชาย-หญิง และตรงกลางเป็นประตูที่ต้องแตะบัตรเพื่อเข้าไปยังโถงลิฟท์อีกที

แตะบัตรเข้ามาแล้วก็จะเป็นโถงลิฟท์ที่ประกอบไปด้วยลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ไม่มี Service Lift อัตราส่วนการใช้งานลิฟท์ของอาคาร B อยู่ที่ 125:1 มากกว่าอาคาร A นิดหน่อย จากโถงลิฟท์เพื่อที่จะเข้าไปยังห้องพักก็จะต้องแตะบัตรอีกจุดหนึ่ง

แตะบัตรที่โถงลิฟท์เข้ามาแล้วก็จะเป็นส่วนของทางเดินที่จะเข้าไปยังห้องพักต่างๆรวมถึงทางหนีไฟทั้งสองจุดได้ค่ะ

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby บนชั้น 1 ของทั้งสองอาคารแยกกัน
  • สระว่ายน้ำ 1 สระกลางแจ้ง ระบบเกลือ ขนาด 11 x 25 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
  • Clubhouse ระหว่างอาคาร 1 หลัง 2 ชั้น
  • ห้องออกกำลังกายบนชั้น 2 ของ Clubhouse ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 12 เครื่อง
  • สวนส่วนกลาง
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อหนึ่งอาคาร รวม 4 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 120 : 1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 116:1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก B 125:1
  • ที่จอดรถประมาณ 144 คัน คิดเป็นประมาณ 30%
  • ระบบ CCTV / Access Card

 


Product Walkthrough

S1_M_l

เริ่มจากห้องตัวอย่างของโครงการห้องแรกกัน คือแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29.7 – 30.15 ตารางเมตร ห้องพักทั้งหมดของอาคาร B จะเป็นแบบ 1 ห้องนอนแบบนี้ทั้งหมด และเป็นส่วนใหญ่ของอาคาร A แตกต่างกันตามตำแหน่งและขนาดของห้อง

ส่วนแบบห้องตัวอย่างแบบตกแต่งเสร็จเรียบร้อย รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบ ส่วนที่เข้าไปเจอก่อนเลยคือห้องนั่งเล่นที่มีโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 2 ตัวอยู่ฝั่งซ้ายมือ เขยิบไปหน่อยจะเป็นโซฟารูปตัว I ที่อยู่ตรงข้ามกับชั้นวางทีวีและชั้นวางรองเท้าที่อีกผนังหนึ่ง จากห้องนั่งเล่นจะมีประตูบานเลื่อนทางขวาออกไปยังพื้นที่ครัว มีเคาท์เตอร์ล่าง-บนมาให้เรียบร้อย ขาดแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า จากพื้นที่ครัวจะมีประตูเปิดออกไปยังห้องน้ำ อีกฝั่งหนึ่งจะมีประตูบานเลื่อนออกไปยังระเบียง จากห้องนั่งเล่นและห้องนอนจะแบ่งพื้นที่ด้วยประตูบานเลื่อนแบบใส เปิดเข้าไปจะมีฐานเตียงวางอยู่ทางซ้ายมือ ข้างเตียงมีพื้นที่เหลือสำหรับว่าโต๊ะข้างเตียงได้ ปลายเตียงมีโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า โดยรวมแล้วผังห้องจะเหมือนกับคอนโด 1 ห้องนอนในกรุงเทพทั่วไปคือเหมาะกับการอยู่อาศัย ไม่ใช่ตากอากาศ

เริ่มกันตั้งแต่หน้าประตู ประตูเป็นบานสำเร็จรูปทาสีครีมอ่อน ให้ตาแมวมาพร้อมกับ Digital Doorlock จาก Samsung ฝั่งซ้ายมือมีแผ่นเลขที่ห้องติดอยู่

Digital Doorlock เป็นแบบทั้งแตะบัตร กดรหัส และด้านในก็จะมีบิดล็อกในตัวอีกที พร้อมทั้งเป็นด้ามจับเปิดประตูไปด้วยในตัว

พื้นจากระเบียงที่ปูด้วยกระเบื้องสีเข้มขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ภายในห้องก็จะเปลี่ยนเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร มีตัวจบกั้นระหว่างแผ่นกระเบื้องและไม้ลามิเนตในห้องเพื่อความเรียบร้อย แต่ไม่ได้ลดระดับหรือยกพื้นภายในห้องขึ้น

พอเปิดประตูออกมาแล้วก็จะชนกับเฟอร์นิเจอร์ Built-in ด้านใน เพราะไม่มี Doorstop มาให้ แนะนำว่าเอามาติดเพิ่มเพื่อป้องกันการเสียหายก็ดีค่ะ

ภายในห้องส่วนแรกที่จะเจอเลยคือห้องนั่งเล่นขนาด 2.8 x 3.3 เมตร ฝั่งซ้ายมือที่หลบอยู่หน่อยจะเป็นโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว ตรงกลางเป็นโซฟารูปตัว I พร้อมโต๊ะกลางสี่เหลี่ยม ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวี มาพร้อมกับชั้นวางของแบบติดผนังด้านบน ระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.5 เมตร และความสูงจากพื้นถึงเพดาน 2.5 เมตร

เนื่องจากระบบการขายของโครงการนี้เป็นแบบ Fully Furnished พร้อมทั้งยังเป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ก็จะมีโปรเพิ่มเติมที่ค่อนข้างเยอะอยู่อย่างผ้าม่าน แอร์ ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า ดังนั้นเราจะค่อนๆพาไปดูแต่ละจุดแล้วบอกรายละเอียดของวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ว่าชิ้นไหนได้ ชิ้นไหนไม่ได้นะคะ

โต๊ะทานข้าวแบบลอยตัววางชิดผนังด้านใน ใต้โต๊ะทานข้าวมีช่องวางของได้นิดหน่อย พร้อมเก้าอี้ลอยอีก 2 ตัว ผนังที่ได้ตามรายการขายจะเป็นแบบฉาบปูนเรียบทาสีธรรมดานะคะ ไม่มี Wallpaper ติดมาให้

ต่อมาตรงกลางเป็นชุดโซฟารูปตัว I ที่มีพื้นที่นั่งได้ประมาณ 1.2 เมตร กะๆดูก็นั่งได้ประมาณ 2 คนพอดี ส่วนด้านหน้าจะเป็นโต๊ะกลางที่มีช่องเก็บของทั้งด้านบนและด้านข้างด้วย

โซฟาที่ได้ก็จะมีพื้นที่เก็บของอยู่ข้างๆ ในการตกแต่งห้องตัวอย่างเพื่อให้เข้ากับ Theme เลยมีการวางผ้าสีชมพูไว้นะคะ แต่ที่จริงแล้วตัวโซฟาจะออกสีเทาเข้ม-ขาว

ส่วนโต๊ะกลางก็สามารถเก็บของได้นิดหน่อย แบ่งช่องวางแก้วน้ำกันปัดตก และสามารถวางรีโมตทีวีได้

มุมจากพื้นที่ระหว่างโต๊ะทานข้าวและโซฟา

ฝั่งตรงข้ามกับส่วนโซฟาก็จะเป็นชั้นวางทีวีที่ติดผนังอยู่ด้านล่าง และด้านบนเป็นชั้นวางของแบบติดผนังอีกเช่นกัน ด้านบนมุมขวามีเบรกเกอร์ไฟประจำห้อง และฝั่งซ้ายมือเป็นประตูบานเลื่อนทางเข้าครัวและห้องน้ำ

ชั้นวางทีวีจะมีส่วนที่เป็นช่องเก็บของให้ด้วย จะมีทั้งแบบที่มีบานปิดและแบบที่เป็นช่องเปิดไว้ ทางขวามือจะเป็นช่องที่เก็บรองเท้าโดยเฉพาะ แต่ก็จะวางได้ประมาณ 2 คู่

ไฟภายในห้องชุดจะเป็นแบบไฟซาลาเปามีตามจุดต่างๆของห้อง

ถัดจากพื้นที่นั่งเล่นไปแล้วก็จะมีประตูบานเลื่อนติดกระจกฝ้ากั้นพื้นที่สำหรับห้องนอนด้านใน เป็นแบบบานเปิดสองบานซ้าย-ขวา

 

บานประตูเลื่อนของห้องนอนที่ให้มาจะเป็นแบบกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ ล็อกด้วยการเลื่อนขึ้น-ลงได้จากภายในห้องนอน จากห้องนั่งเล่นจะได้แค่เลื่อนเปิด-ปิด ลูกฟักจะเป็นกระจาบานขุ่น

dcondo 1b 19

ตัวกรอบบานด้านล่างของบานประตูเลื่อนจะฝังลงไประหว่างพื้นห้องทั้งสอง แต่ก็จะมีขอบบางส่วนทำให้ไม่เรียบอยู่ดี ทั้งพื้นภายในห้องนั่งเล่นและห้องนอนปูด้วยพื้นลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร

ห้องนอนขนาด 2.6 x 2.8 เมตร มีฐานเตียงวางให้อยู่ตรงกลางห้อง ไม่รวมฟูและเครื่องนอนอื่นๆ พื้นที่รอบเตียงทั้งสองฝั่งรวมถึงปลายเตียงยังมีพื้นที่เดินได้พอดีๆ

หัวเตียงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีธรรมดา

พื้นที่ข้างเตียงฝั่งซ้ายเหลือประมาณ 40 เซนติเมตร สามารถวางโต๊ะข้างเตียงขนาดเล็กหน่อยได้สบายๆ

ปลายเตียงก็เหลือพื้นที่เดินได้ประมาณ 75 เซนติเมตร

มีตู้เสื้อผ้าวางอยู่ริมด้านใน ข้างๆกันคือโต๊ะเครื่องแป้ง ด้านบนเป็นตำแหน่งแอร์ของห้อง

แอร์จะอยู่ในรายการการขายด้วย สำหรับแบบ 1 ห้องนอนจะได้แอร์ 1 ตัว ขนาด 12000 BTU ซึ่งวันที่เข้าไปเก็บข้อมูลก็มีแอร์แค่ตัวนี้ตัวเดียว สามารถอยู่ภายในห้องได้ค่อนข้างสบายนะคะ

โต๊ะเครื่องแป้งแบบติดผนังมาพร้อมกับกระจกและลิ้นชักเปิดได้

ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเลื่อน ฝั่งหนึ่งเป็นบานสีขาวธรรมดา อีกฝั่งติดเป็นกระจกส่องได้ทั้งตัว เลื่อนเปิดออกมาก็จะมีการแบ่งช่องพื้นที่ภายในให้นิดหน่อย

พื้นที่ข้างเตียงฝั่งขวากว้าง 65 เซนติเมตร วางโต๊ะข้างเตียงมาให้ 1 ตัว และตัวนี้ก็จะอยู่ในรายการนะคะ

ต่อมาเป็นช่องแสงของห้องนอน ที่ส่องผ่านต่อเนื่องไปยังห้องนั่งเล่นได้ ซึ่งจะมีทั้งแบบเป็นบานหน้าต่างเลื่อนและแบบบาน Fixed รอบๆ ด้านบนเป็นราวม่านแบบ 2 ชั้น ชั้นหนึ่งคือแบบม่านโปร่งรับแสงหน่อย ส่วนอีกชั้นคือแบบม่านทึบ ซึ่งอยู่ในรายการขายค่ะ

ตัวกรอบหน้าต่างเป็นกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ เลื่อนล็อกขึ้น-ลงได้จากด้านในห้องนอน

เปิดออกมาแล้วก็จะรับลมได้ประมาณนี้

มุมจากพื้นที่ข้างเตียงด้านในมองออกไปยังพื้นที่นั่งเล่นด้านนอก

มาต่อกันที่ห้องครัว มีบานเลื่อนเปิด-ปิดกั้นระหว่างพื้นที่อยู่อาศัยกับห้องครัวและห้องน้ำข้างๆ เพื่อป้องกันกลิ่นจากการทำอาหารบ้าง จากห้องน้ำบ้าง ไม่ให้เข้ามาพื้นที่ส่วนใหญ่ของห้องได้

ระหว่างพื้นที่ทั้งสองก็จะมีการกั้นขอบขึ้นมาเป็นธรณีประตูหน่อย เนื่องจากพื้นที่ห้องครัวและห้องน้ำข้างๆเป็นพื้นที่ที่อาจจะมีการทำความสะอาดบ่อยหน่อย การกั้นพื้นขึ้นไม่เพื่อให้น้ำไม่รั่วซึมมายังพื้นไม้ลามิเนตก็ถือเป็นเรื่องดี

ประตูบานเลื่อนจะเป็นแบบรางบน ไม่มีรางล่าง เลื่อนได้สะดวกดี

เปิดประตูบานเลื่อนออกมาแล้วมองไปทางซ้ายก็จะเจอกับทางเข้าของห้องน้ำภายในห้องชุดเป็นประตูบานสำเร็จรูป ไม่มีซี่ระบายอากาศที่บานประตูข้างล่าง แต่ที่เพิ่มเข้ามาคือหน้าต่างบานกระทุ้งเล็กๆข้างๆนั้นทำมาเพื่อให้ระบายกาศได้โดยตรง

ที่จับเปิดเข้าของห้องน้ำเป็นแบบไขกุญแจได้จากด้านนอก และบิดล็อกได้จากด้านใน

ระหว่างพื้นห้องครัวและห้องน้ำที่เป็นกระเบื้องทั้งคู่ก็จะมีธรณีกั้นอีกชุดนึง เพื่อกันน้ำซึมถึงกัน

ห้องน้ำพื้นและผนังปูและกรุด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ภายในประกอบไปด้วยพื้นที่ใช้สอย 3 ส่วน คืออ่างล้างมือพร้อมกระจกบานเล็กหน่อย ถัดเข้าไปเป็นโถสุขภัณฑ์ มีสายฉีดชำระและที่ใส่ทิชชูข้างๆ ด้านล่างมีจุดระบายน้ำ และส่วนในสุดคือพื้นที่อาบน้ำที่เป็นแบบยืน มาพร้อมฉากกั้นอาบน้ำแบบ 3 ตอน

ด้านบนก็จะเป็นไฟซาลาเปาอีกเหมือนเคย

อ่างล้างมือจาก American Standard มีปูนก่อยื่นออกมาให้วางของด้วยกว้างประมาณ 10 เซนติเมตร วางข้าวของเครื่องใช้ได้พอดีๆ

ติดกับผนังขึ้นไปด้านบนจะเป็นบานกระทุ้งจากห้องน้ำออกไปยังส่วนครัว เป็นกรอบอลูมเนียมสีธรรมชาติ เป็นบานกระทุ้งแบบผลักออก ลูกฟักเป็นกระจกแบบขุ่น

ต่อมาเป็นโถสุขภัณฑ์แบบ 2 ชิ้นจาก American Standard มีสายฉีดชำระและที่ใส่ทิชชูข้างๆ ด้านล่างมีจุดระบายน้ำ

ฉากกั้นสูง 2 เมตรเป็นแบบ 3 ตอนเลื่อน

พื้นที่อาบน้ำขนาด 0.7 x 1.0 เมตร

มีธรณีกั้นขึ้นมาอีกประมาณ 5 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าดี เพราะตัวกรอบบานเลื่อนจะไม่ได้โดนน้ำที่ขังโดยตรง แต่จะโดนแค่น้ำที่กระเด็น ทำให้อายุการใช้งานยาวขึ้นอีกหน่อยและสกปรกน้อยลงอีกนิด

อุปกรณ์การอาบน้ำก็จะมีทั้งแบบที่เป็นฝักบัวมือจับ และแบบ Shower จากด้านบน

ข้างๆคือที่วางสบู่แบบ 1 ก้อนถ้วน ด้านล่างมีก๊อกน้ำที่ถือว่าเป็นส่วนที่ต้องใช้งานจริงๆภายในห้อง ไม่ว่าจะเป็นการรองน้ำ ซักผ้า

ชุดฝักบัวจาก VRH ตัวฝักบัวเป็นแบบทรงกระบอกเรียวๆ เบาแน่นอน ใครที่ชอบแบบรัศมีฝักบัวกว้างหน่อยแนะนำเป็นใช้ Shower ด้านบนจะดีกว่า สะใจกว่าเยอะ

ฝักบัวด้านบนเป็นแบบปล่อยน้ำลงมา ถือว่าเป็นส่วนที่ให้เพิ่มเติมจากห้องชุดปกติ

มองจากห้องอาบน้ำออกไปยังห้องครัวด้านนอกกันนะคะ

ห้องครัวกว้าง 1.4 เมตร สิ่งที่ให้มาคือเคาท์เตอร์ครัวด้านล่าง และที่เก็บของแบบติดผนังด้านบน ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างตู้เย็น ไมโครเวฟ และไม่มี Hob and Hood

 

เคาท์เตอร์ครัวและชั้นวางของด้านบนบางส่วนเป็นบานปิด และบางส่วนเป็นแบบเปิดโล่ง

จากห้องครัวกว้าง 1.4 เมตร เหลือพื้นที่เดินเวลาปิดตู้ประมาณ 0.9 เมตร พอเปิดตู้แล้วเหลือพื้นที่ก้มหยิบของได้ประมาณ 0.4 เมตร ก็ยังถือว่าเดินได้แต่ไม่สบายมาก

ดีเทลของบานปิดจะเป็นแบบปาดมุมเข้าไปด้านใน เวลาเปิดก็จะเอานิ้วดึงตัวบานออกมาได้

พื้นที่วางตู้เย็นเหลือประมาณ 0.6 x 0.7 เมตร

ส่วนเคาท์เตอร์ก็จะไม่วางชิดกับประตูบานเลื่อนส่วนระเบียงซะทีเดียว เพราะจะต้องเผื่อสำหรับการติดม่านบังสายตากันหน่อย ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับคนที่อาศัยอยู่ชั้น 1 นะตะ

ด้านในเป็นประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอน เปิดจากห้องครัวออกไปยังระเบียงด้านนอก เวลาเปิดตัวบานออกไปแล้วความกว้างของตัวบานก็จะเท่ากับความกว้างของเคาท์เตอร์ครัวพอดีๆ

ระเบียงขนาด 0.9 x 1.4 เมตร ปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 เซนติเมตร มีธรณีกั้นพื้นที่อีกเหมือนเคย

ตัวกั้นระเบียงเป็นทั้งราวกันตกสูง 1 เมตร ข้างๆที่ยกขึ้นมาเต็มความสูงเนื่องจากต้องการใช้บังสายตาของ Compressor แอร์ข้างๆ

Compressor แอร์จะติดอยู่ด้านบน ไม่มี Grill ในการปัดลมร้อนออกนอกอาคาร ด้านบนเป็นไฟซาลาเปา ส่วนด้านล่างก็จะมีจุดน้ำทิ้ง จุดต่อท่อไว้สำหรับการต่อเครื่องซักผ้า และปลั๊กไฟพร้อมกรอบกันน้ำ

2BR_M_l

ห้องตัวอย่างห้องที่สองเป็นแบบ 2 ห้องนอน ซึ่งจะมีอยู่แค่ในอาคาร A ที่ชั้น 1-8 ชั้นละ 2 ห้องรวม 16 ห้อง ขนาด 82.53 ตารางเมตร แตกต่างกันตามตำแหน่งและขนาดของห้อง

ห้องตัวอย่างที่จะพาไปชมเป็นห้องแบบมาตรฐานแบบขายจริง ดังนั้นจะไม่มีของตกแต่ง ไม่มีการวางเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ดูเป็นตัวอย่าง ภายในห้องเป็นรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้ากว้าง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ส่วนนั่งเล่น เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่น ตรงหน้าจะเป็นประตูห้องนอนเล็ก ไม่มีระเบียงในตัว ต้องออกมาใช้ห้องน้ำที่อยู่ประตูทางขวามือร่วมกับแขก พื้นที่ตรงกลางของห้องนั่งเล่นแบ่งพื้นที่ออกเป็นโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 4 ตัว ลึกเข้าไปหน่อยจะเป็นส่วนครัวเปิด ที่ไม่มีประตูหรือฉากกั้นใดๆปิด ฝั่งที่ติดกับระเบียงจะเป็นพื้นที่ส่วนนั่งเล่น ประกอบไปด้วยโซฟาและชั้นวางทีวี ข้างๆคือระเบียงรูปตัว L ที่หันหน้าไปยังพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ระหว่างเคาท์เตอร์ครัวและชั้นวางทีวีจะมีประตูเปิดเข้าไปยังห้องนอนใหญ่ที่มีพื้นที่ Built-in ตู้เสื้อผ้าในตัว และห้องน้ำ แบบ 2 ห้องนอนนี้จะมีพื้นที่ตรงกลางกว้างหน่อย และห้องนอนเล็กลงหน่อย ทำให้พื้นที่ที่ใช้ร่วมกันระหว่างสมาชิกครอบครัวและเพื่อนเยอะขึ้น

เริ่มที่ห้องที่สองกันเลยจากหน้าประตู ประตูเป็นบานสำเร็จรูปทาสีครีมอ่อน ให้ตาแมวมาพร้อมกับ Digital Doorlock จาก Samsung ฝั่งซ้ายมือมีแผ่นเลขที่ห้อง

พื้นจากระเบียงที่ปูด้วยกระเบื้องสีเข้มขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ภายในห้องก็จะเปลี่ยนเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร ที่ห้องนี้กลับไม่มีตัวจบกั้นระหว่างแผ่นกระเบื้องและไม้ลามิเนตซึ่งห้องตัวอย่างห้องที่แล้วมีนะคะ

เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับพื้นที่ส่วน Living ด้านในทางซ้ายมือ ประตูที่ตรงกับประตูทางเข้าด้านหน้าคือประตูทางเข้าห้องนอนเล็ก และทางขวาคือประตูทางเข้าห้องน้ำที่เป็นส่วนของแขกที่มาพักและผู้พักในห้องนอนเล็ก

ระบบการขายของโครงการนี้เป็นแบบ Fully Furnished พร้อมทั้งยังเป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ก็จะมีโปรเพิ่มเติมที่ค่อนข้างเยอะ ภายในห้องที่แล้วจะเป็นห้องตัวอย่างที่ตกแต่ง ส่วนห้องนี้จะเป็นห้องแบบมาตรฐานของจริง เปิดให้ดูว่าห้องที่ขายและได้จริงๆหน้าตาเป็นยังไงนะคะ เราค่อยๆไล่ดูกันเป็นส่วนๆเนอะ

ต่อกันที่พื้นที่ Living หันมาทางซ้ายหน่อย ก็จะเจอกับโต๊ะทานข้าวตัวใหญ่พร้อมเก้าอี้แบบ 4 ที่นั่ง ที่ปลายโต๊ะคือเสาที่อยู่ตรงกลาง ซึ่งก็สามารถเอาตู้มา Built ให้ทึบหน่อยได้ จะได้ไม่ดูเป็นเสากลางพื้นที่ตรงกลาง ส่วนฝั่งขวาเป็นส่วนพื้นที่นั่งเล่น จะมีโซฟารูปตัว L และฝั่งตรงข้ามก็จะมีชั้นวางทีวีและชั้นวางของแบบติดผนัง

มุมโต๊ะทานข้าว พื้นในส่วน Living ทั้งมุมทานข้าว ส่วนนั่งเล่นและครัวจะปูด้วยกระเบื้องสีเทาอ่อนขนาน 60 x 60 เซนติเมตร

มุมนั่งเล่นจะเป็นส่วนของโซฟารูปตัว L มาพร้อมกับโต๊ะกลาง ฝั่งตรงข้ามกันก็จะเป็นชั้นวางทีวี และชั้นวางของแบบติดผนังตามปกติ ข้างๆคือช่องแสงที่ส่วนข้างๆโซฟาคือมีหน้าต่างบานเลื่อนใสด้านบน ด้านล่างเป็นบาน Fixed แบบขุ่น ส่วนข้างๆชั้นวางทีวีเป็นแบบประตูบานเลื่อน ทั้งสองส่วนจะมีม่านติดให้เรียบร้อย และมีตำแหน่งแอร์อยู่เหนือประตูบานเลื่อนที่ออกไปยังระเบียงได้ ระยะดูทีวีอยู่ที่ 3.3 เมตร ด้านบนติดเป็นไฟซาลาเปา

ประตูบานเลื่อนออกไปยังระเบียงเป็นแบบ 2 ตอน กรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ

ตัวกรอบบานก็จะวางอยู่บนธรณีประตูที่แยกระหว่างพื้นที่ด้านในและระเบียงด้านนอก

พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 เซนติเมตร สีอ่อน รูปตัว L

Compressor แอร์จะติดอยู่ด้านบน ไม่มี Grill ในการปัดลมร้อนออกนอกอาคาร ด้านบนเป็นไฟซาลาเปา ส่วนด้านล่างก็จะมีจุดน้ำทิ้ง จุดต่อท่อไว้สำหรับการต่อเครื่องซักผ้า และปลั๊กไฟพร้อมกรอบกันน้ำ

หันหลังมาอีกฝั่งก็จะเป็นระเบียงที่มีความกว้างประมาณ 60 เซนติเมตร วาง Compressor แอร์ 2 ตัวแบบหันหน้าออก ในรายการการขายสำหรับห้อง 2 ห้องนอนก็จะได้แอร์ทั้งหมด 3 ตัว คือในห้องนอนทั้งสองห้องและห้อง Living อีกตัวหนึ่ง

จากส่วนระเบียงมองเข้ามาที่พื้นที่ด้านในกันต่อนะคะ

ความสูงจากพื้นถึงเพดานคือ 2.5 เมตร ติดไฟแบบซาลาเปาตามจุดต่างๆ

ส่วนครัวจะแอบอยู่ด้านหลังเสาถ้ามองจากโต๊ะทานข้าง มีเคาท์เตอร์ครัวด้านล่าง และที่เก็บของแบบติดผนังด้านบน ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างตู้เย็น ไมโครเวฟ และไม่มี Hob and Hood เคาท์เตอร์ครัวและชั้นวางของด้านบนบางส่วนเป็นบานปิด และบางส่วนเป็นแบบเปิดโล่ง

พื้นที่วางตู้เย็นเหลือประมาณ 0.6 x 0.7 เมตร

ต่อมาเราจะเริ่มเข้าไปบุกที่ห้องนอนเล็กกันนะคะ บานประตูเป็นแบบบานสำเร็จ มีที่บิดทั้งจากด้านในและด้านนอก

พื้นภายในห้องนอนจะเปลี่ยนจากกระเบื้องเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร มีตัวจบกั้นระหว่างวัสดุทั้งสอง

เปิดประตูเข้าไปด้านในห้องนอนเล็กขนาด 3 x 3 เมตร ภายในมีฐานเตียงขนาด 5 ฟุตวางอยู่ตรงกลางชิดผนังส่วนหัวเตียง ไม่มีฟูกและเครื่องนอนมาให้

พื้นที่ข้างเตียงฝั่งขวาเหลือ 80 เซนติเมตร ได้โต๊ะข้างเตียงมาด้วย

โต๊ะข้างเตียงเป็นแบบดึงเปิดออกมาเป็นลิ้นชักเก็บของได้

นอกจากนั้นข้างเตียงฝั่งขวาก็ยังเป็นพื้นที่ของตู้เสื้อผ้าที่ขนานพอดีกับช่องที่เว้นไว้ 1.45 เมตร เป็นแบบบานปิดสีขาวล้วน ไม่มีกระจกส่องเต็มตัวเหมือนตู้เสื้อผ้าของ 1 ห้องนอน ภายในแบ่งช่องการใช้งานให้บ้าง

ต่อมาเป็นปลายเตียงเหลือความกว้าง 55 เซนติเมตร

ผนังส่วนปลายเตียงก็จะเป็นผนังโล่งๆ ได้ตามมาตรฐานการขายคือฉาบปูนเรียบทาสีขาวไม่มี Wallpaper

ปลายเตียงฝั่งซ้ายเหลือพื้นที่เล็กกว่าอีกฝั่งหน่อยที่ 65 เซนติเมตร วางโต๊ะข้างเตียงได้

ช่องแสงของห้องนอนเล็กมีทั้งแบบเป็นบานหน้าต่างแบบเลื่อนซ้าย-ขวา และแบบบาน Fixed มาพร้อมผ้าม่านแบบสองชั้นคือแบบโปร่งรับแสงได้ และแบบทึบไปเลย

ต่อมาที่ห้องน้ำที่เป็นส่วนของแขกและเจ้าของห้องนอนเล็กกัน บานประตูสำเร็จรูป ไม่มีช่องระบายอากาศด้านล่างเลย

ระหว่างห้องก็จะกั้นด้วยธรณีปูนที่ยกขึ้นมา ภายในเปลี่ยนขนานกระเบื้องจาก 60 x 60 เซนติเมตร เป็น 30 x 30 เซนติเมตรแบบด้านแทน

เปิดเข้าไปในห้องน้ำขนาด 1 x 3 เมตร ก็จะเจอกับพื้นที่ใช้สอย 3 ส่วน ตรงกลางคืออ่างล้างมือพร้อมกระจกบานเล็กหน่อย ซ้ายมือคือโถสุขภัณฑ์ มีสายฉีดชำระและที่ใส่ทิชชูข้างๆ และส่วนที่อยู่ทางขวาหลังประตูคือพื้นที่อาบน้ำที่เป็นแบบยืน มาพร้อมฉากกั้นอาบน้ำแบบ 3 ตอน สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก American Standard  ขนาดห้องน้ำค่อนข้างเล็กนะคะ เวลาขยับตัวเปลี่ยนการใช้งานเช่นจากอ่างล้างมือไปอาบน้ำก็จะอึดอัดหน่อย

พื้นที่อาบน้ำขนาด 0.7 x 1.0 เมตร กั้นด้วยปูนที่ก่อขึ้นมาและฉากกั้นอาบน้ำแบบ 3 ตอน

เนื่องจากประตูเข้าห้องน้ำไม่มี Doorstop เวลาเปิดเข้ามาก็จะมาชนกับประตูบานเลื่อนอาบน้ำ แนะนำให้ติด Doorstop เพิ่มนะคะ

ข้อดีของชุดฉากกั้นนี้นอกจากจะเป็นแบบ 3 ตอนที่มีพื้นที่เดินเข้า-ออกได้ง่าย เวลาปิดบานเข้ากับตัวกรอบก็จะมีแผ่นแม่เหล็กดูดเข้าหากัน ซึ่งให้ความรู้สึกที่ปิดสนิท ไม่เหมือนบางชุดประตูที่จะสามารถเลื่อนได้ทำให้น้ำซึมออกได้ง่ายกว่า

อุปกรณ์การอาบน้ำก็จะมีทั้งแบบที่เป็นฝักบัวมือจับ และแบบ Shower จากด้านบน ข้างๆคือที่วางสบู่แบบ 1 ก้อนถ้วน ด้านล่างมีก๊อกน้ำ

ชุดฝักบัวจาก VRH ตัวฝักบัวเป็นแบบทรงกระบอกเรียวๆ เบาๆ

ฝักบัวด้านบนเป็นแบบปล่อยน้ำลงมา ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้นะคะ

ไฟภายในห้องน้ำก็จะเป็นแบบไฟซาลาเปา ระบบระบายอากาศเนื่องจากอยู่ส่วนในของอาคารก็จะต้องพึ่งพาระบบ เนื่องจากไม่มีช่องเปิดพอที่จะระบายอากาศได้เลย

ต่อมาที่ห้องสุดท้ายเป็นห้องนอนใหญ่ ที่มีห้องน้ำในตัวอยู่ด้านใน ไม่มีระเบียง บานประตูเปิดเป็นแบบบานบิดแล้วผลักไปด้านซ้าย

ภายในห้องนอนใหญ่ก็จะมีฐานเตียงวางอยู่ชิดผนังด้านใน รอบๆจะมีช่องแสงเปิดได้หลายทางทั้งจากส่วนหัวเตียงและข้างเตียงทางขวา มีบานหน้าต่างแบบเลื่อนและแบบบาน Fixed รอบๆ

ใต้เตียงแอบมีดีเทลการเก็บของ เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยภายในคอนโด

หันหน้าไปทางส่วนเตียงหน่อย ฝั่งตรงข้ามกับเตียงก็จะมีชั้นวางทีวี ซึ่งต่อสายไว้ให้เรียบร้อยแบบฟรีทีวี เหนือขึ้นไปคือตำแหน่งแอร์ของห้องนอนใหญ่

ช่องแสงภายในห้องนอนใหญ่มีดีเทลในการใช้กระจกเข้ามุมแบบบาน Fixed กรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ มาพร้อมม่านแบบ 2 ชั้นตามโปรโมชั่น

dcondo 2b 54

ส่วนเดินไปทางด้านในของห้องนอนหลังประตูทางเข้าก็จะมีส่วนที่เป็นตู้เสื้อผ้าบานที่ไม่มีบาน พื้นที่โต๊ะเครื่องแป้งพร้อมกระจก และทางขวามือคือทางเข้าห้องน้ำภายในห้องนอนใหญ่

ส่วนก่อนจะถึงห้องน้ำที่เป็นที่วางตู้เสื้อผ้าสามารถกั้นเป็น Walk-in Closet สวยๆได้ แต่ถ้าอยู่แบบชั่วคราวพักอาศัยตากอากาศจะเปิดไว้ให้โล่งๆก็ได้ค่ะ

ชั้นวางของด้านในก็เป็นแบบลิ้นชักเปิด มาพร้อมกับกระจกบานใหญ่เต็มตัว

ทางขวามือมีทางเข้าห้องน้ำในตัวภายในห้องนอนใหญ่ ประตูเป็นแบบบานเปิดผลักไปทางขวา มีธรณีประตูกั้นพื้นที่ตามปกติ

ห้องน้ำขนาด 1.3 x 2.3 เมตร พื้นและผนังปูและกรุด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ภายในประกอบไปด้วยพื้นที่ใช้สอย 3 ส่วน คืออ่างล้างมือพร้อมกระจกบานเล็กหน่อย ถัดเข้าไปเป็นโถสุขภัณฑ์ มีสายฉีดชำระและที่ใส่ทิชชูข้างๆ ด้านล่างมีจุดระบายน้ำ และส่วนในสุดคือพื้นที่อาบน้ำที่เป็นแบบยืน มาพร้อมฉากกั้นอาบน้ำแบบ 3 ตอน ได้ทั้งฝักบัวแบบมือจับ Shower ที่วางสบู่ และก๊อกน้ำตามปกติ

 

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 29 October 2015

  • 1 ห้องนอน อาคาร A ชั้น 2 เนื้อที่ 29.82 ตร.ม. ราคาเต็ม 1.64 ล้านบาท ราคาโปรโมชั่น 1.34 ล้านบาท หรือ 45,000 บาท/ตร.ม.
  • 1 ห้องนอน อาคาร B ชั้น 8 เนื้อที่ 29.88 ตร.ม. ราคาเต็ม 1.66 ล้านบาท ราคาโปรโมชั่น 1.44 ล้านบาท หรือ 48.200 บาท/ตร.ม.
  • 2 ห้องนอน อาคาร A ชั้น 8 เนื้อที่ 60.92 ตร.ม. ราคาเต็ม 4.18 ล้านบาท ราคาโปรโมชั่น 2.92 ล้านบาท หรือ 48,000 บาท/ตร.ม.

  • โปรโมชั่น
  • ผ้าม่านตามมาตรฐานโครงการ
  • ฟรีค่าติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าและค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า
  • ยกเว้นค่ากองทุน
  • ยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์
  • ยกเว้นค่าส่วนกลาง/ค่าบริการสาธารณูปโภค นับตั้งแต่วันแรกที่เรียกชำระเงินถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2559
  • ฟรีแอร์ 1 ตัวสำหรับ 1 ห้องนอนและ 3 ตัวสำหรับห้อง 2 ห้องนอน

  • Fully Furnished
  • เพดานสูง 2.5 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • จองห้อง 1 ห้องนอน 5,000 บาท
  • จองห้อง 2 ห้องนอน 20,000 บาท
  • ทำสัญญาไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่กำหนดหลังจากวันจองประมาณ 10 วัน
  • ไม่มีเงินดาวน์ พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ทันที
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
  • ค่าธรรมเนียม/ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและเงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้า ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

dcondo Hyde Chiang Rai เป็นโครงการคอนโดแรกๆในจังหวัดเชียงราย ปัจจุบันเป็นคอนโดสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่และมีการโอนกรรมสิทธิ์ไปเรียบร้อยแล้ว ตัวโครงการอยู่ภายในพื้นที่ศูนย์กลางเมืองแห่งใหม่ถ้านับจากความเจริญของพื้นที่ คืออยู่บนถนนพหลโยธินสายใหม่ที่ใช้ในการสัญจรภายในจังหวัด ขึ้นดอย และระหว่างจังหวัด มี Central Plaza เชียงรายอยู่ฝั่งตรงข้ามของถนนและ BigC เชียงรายอยู่พื้นที่ข้างๆในระยะเดิน การันตีความอุดมสมบูรณ์ในแบบฉบับเมืองๆ ส่วนตลาดจะมีอยู่ตามถนนตามซอยต่างๆอาทิ แถวชุมชนเส้นถนนพหลโยธินสายเก่าหรือหลัง Central หรือตลาดศรีทรายมูล หรือที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวคือแถวหอนาฬิกา

การเดินทางโดยใช้รถ เป็นการเดินทางที่นิยมกันของทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว โครงการตั้งอยู่บนถนนพหลโยธินสายใหม่มุ่งหน้าแยกแม่กรณ์ เบี่ยงออกทางคู่ขนานที่ตรง BigC แล้วเลี้ยวซ้ายที่ซอยถัดจากสะพานลอย โดยโครงการไม่ได้มีพื้นที่แปลงติดกับเส้นทางคู่ขนานซะทีเดียว ทำให้ต้องเข้าซอยไปประมาณ 100 เมตรจะถึงทางเข้า-ออกโครงการ เนื่องจากถนนพหลโยธินเส้นนี้เป็นเส้นทางหลักที่ใช้ในการเดินทางอยู่แล้วแม้ว่าจะมีสี่แยกไฟแดงเยอะกว่าเส้น Bypass หน่อยแต่ก็เป็นถนนที่กว้างและสะดวก ส่วนการเดินทางไปยัง Central, หอนาฬิกาก็สามารถขับรถได้สบายๆในเวลาไม่เกิน 15 นาที เนื่องจากเชียงรายรถไม่ติด ปริมาณรถไม่มาก และคนเชียงรายให้ทางตลอดด้วย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ จากการสอบถามแล้วจะไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไรนัก แต่จากโครงการเดินไป Central เชียงรายก็แค่ข้ามสะพานลอยหน้าซอยไป หรือเดินไปยัง BigC ที่อยู่ข้างๆก็ได้ ส่วนการเดินทางด้วยวิธีอื่นก็มีให้เลือกใช้อย่างแท๊กซี่แบบเดียวสีเดียวกับของกรุงเทพ ตุ๊กตุ๊ก สองแถวก็มีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ แต่ส่วนใหญ่จะวิ่งแถวชุมชนพักอาศัยอย่างถนนพหลโยธินสายเก่าหลัง Central มากกว่า

วัสดุของโครงการตามราคาและรายการโปรโมชั่นวันที่เข้าไปรีวิว เนื่องจากเป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ และมีการโอนกรรมสิทธิ์ มีลูกบ้านบางส่วนเข้าอยู่เรียบร้อยแล้วก็จะเป็นโปรโมชั่นที่ค่อนข้างแรงทีเดียว เริ่มจากรายการวัสดุปกติเป็นแบบ Fully Furnished พื้นส่วนพักอาศัยปูด้วยไม้ลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร ผนังเป็นฉาบปูนทาสีเรียบ ห้องนั่งเล่นมีโซฟา โต๊ะกลาง โต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ครบ ส่วนครัวจะเปลี่ยนพื้นเป็นกระเบื้อง มีเคาท์เตอร์ครัวล่าง-บนมาให้พร้อม แต่ไม่มี Hob and Hood มาให้นะคะ ภายในห้องน้ำก็จะปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องตามปกติ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก American Standard มาพร้อมฉากกั้นอาบน้ำแบบ 3 ตอน ภายในห้องนอนจะมีฐานเตียง ไม่รวมฟูกเตียง มีตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และโต๊ะข้างเตียงให้พร้อม โปรที่เพิ่มเติมเข้ามาคือแอร์ ผ้าม่าน และค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่นๆ

การออกแบบโครงการค่อนข้างจะเป็นกึ่งคอนโดในเมืองแบบกรุงเทพด้วยรูปแบบการจัดวางภายในอาคาร และคอนโดตากอากาศด้วยรูปแบบการจัดผังพื้นที่รอบๆ โครงการมี 2 อาคารคืออาคาร A และ B ที่มีห้องพักตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 8 รวม 482 ยูนิต อาคาร B จะมีสัดส่วนห้องมากกว่าที่ 249 ยูนิต มากกว่าอาคาร A 16 ยูนิต เพราะทั้งอาคาร B เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมด มีการจัดวางแบบ Double Corridor ทำให้มีห้องทั้งฝั่งตะวันออก-ตะวันตก มีห้องให้เลือกเพียง 2 Types คือแบบ 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอน ตรงกลางระหว่างพื้นที่อาคารจะเป็นส่วน Facility มีพื้นที่สีเขียวรอบๆอาคารและขอบๆแปลงที่ดิน

ตัวห้องพักออกแบบค่อนข้างจะยกเอามาจากคอนโดในเมืองอย่างกรุงเทพ คือไม่ได้เป็นห้องหน้ากว้างเพื่อรับลมหรือรับวิวเท่าไรนัก ระเบียงก็จะเป็นระเบียงขนาดปกติ ในแบบ 1 ห้องนอนระเบียงจะอยู่ที่ห้องครัวแสดงว่าจะเป็นระเบียงที่ถูกใช้งานอย่างการตากผ้า งานซักล้างจะมากกว่าที่จะมานั่งมองวิวหรือความสวยงาม อย่างในห้อง 2 ห้องนอน ระเบียงเป็นรูปตัว L แต่ก็จะมีความแคบพอสมควร เพื่อออกมายืนปกติ ไม่มีพื้นที่วางเก้าอี้นั่ง ดังนั้นใครที่มองหาคอนโดที่ไว้พักอาศัยใช้ Function จริงๆจะถูกใจมากกว่าคนที่มาพักตากอากาศเอาพื้นที่พักผ่อนจากเมืองเหนือ

สาธารณูปโภคจะให้เยอะกว่าคอนโดในเมืองปกติ แต่ก็จะเท่ากับมาตรฐานคอนโดในต่างจังหวัด คือแยกส่วน Facility มาตรงพื้นที่ระหว่างอาคาร A และ B ไม่ใช่อยู่ภายในอาคารพักอาศัยหรือที่ดาดฟ้าเหมือนในเมืองกรุง พื้นที่ Facility จะแบ่งออกเป็นภายใน Clubhouse สูง 2 ชั้น ทรง Modern สวยงามทีเดียว อย่างพื้นที่รับลมและห้องน้ำแยกชาย-หญิงที่ชั้น 1 ห้องฟิตเนสที่อยู่บนชั้น 2 ที่มีดีเทลการออกแบบเปิดได้รอบทิศเพื่อรับลมหนาว มีวิวคือสระว่ายน้ำขนาด 11 x 25 เมตรกลางแจ้งด้านหน้า พื้นที่รอบๆสระจะเป็นสวน มีทางเดิน และศาลาที่ปลายสระอีกฝั่ง นอกจากนั้นข้างๆกับอาคาร A ก็จะมีพื้นที่จอดรถกลางแจ้งที่รองรับประมาณ 30%

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 45,000 บาท/ตร.ม., 29 October 2015

  • ทำเล – โครงการอยู่ภายในพื้นที่ศูนย์กลางเมืองใหม่ ฝั่งตรงข้ามถนนพหลโยธินสายใหม่คือ Central Plaza เชียงราย และข้างๆคือ BigC เชียงรายที่อยู่ในระยะเดินได้
  • เดินทางด้วยรถ – เข้าได้จากถนนพหลโยธินสายใหม่เส้นคู่ขนาน เข้าซอยที่เป็นถนนภาระจำยอมมาประมาณ 100 เมตรเป็นซอยตัน โชคดีที่เชียงรายรถไม่ติดเลย
  • ไม่ใช้รถ – มีรถสองแถววิ่งผ่าน มีแท๊กซี่ ตุ๊กตุ๊กๆ แต่คนในพื้นที่นิยมขับรถกันเป็นส่วนใหญ่
  • วัสดุ – Fully Furnished ขายแบบพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ก็จะได้ของแถมเยอะหน่อย ตั้งแต่ครัว แอร์ ไปจนถึงม่าน ขาดแต่ฟูกเตียง
  • แบบ – แบบห้องส่วนใหญ่เป็น 1bed และส่วนน้อยที่เป็น 2bed ขนาดห้องน้ำค่อนข้างเล็ก
  • สาธารณูปโภค – มีพื้นที่ Facility หลักอยู่ตรงกลางระหว่างอาคาร แบ่งเป็น Clubhouse 2 ชั้น ที่มีฟิตเนส และสระว่ายน้ำกลางแจ้ง รวมถึงพื้นที่สวนส่วนกลาง

BOTTOM LINE

dcondo Hyde Chiang Rai เหมาะกับคนในพื้นที่ที่ต้องการคอนโดมิเนียมในเมืองที่อยู่ใจกลางเมืองของอ.เมืองเชียงราย หรือคนกรุงเทพที่ต้องการคอนโดตากอากาศในเมือง ใช้รถส่วนตัวในการเดินทาง มีงบประมาณระดับ 990,000 – 3,500,000 บาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 7,000 – 25,000 บาท/เดือน 

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )