dcondo campus khonkaen (ดีคอนโด แคมปัส ขอนแก่น) คอนโดใกล้ ม.ขอนแก่น ในโซนกังสดาล และใกล้ห้างโรงบินสันขอนแก่น จาก แสนสิริ

dcondo campus khonkaen (ดีคอนโด แคมปัส ขอนแก่น)  ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568

ชื่อโครงการ	dcondo campus khonkaen (ดีคอนโด แคมปัส ขอนแก่น)
ชื่อผู้ประกอบการ	บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
SEGMENT CLASS	ECONOMY CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 )
โครงการตั้งอยู่	ถ.อดุลยาราม อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น
ที่ดิน	ประมาณ 6 ไร่
ประเภทคอนโด	Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร
จำนวนยูนิต	769 ยูนิต (แบ่งเป็นอาคาร A = 273 ยูนิต, อาคาร B = 237 ยูนิต, อาคาร C = 259 ยูนิต)
ที่จอดรถ	257 คัน หรือคิดเป็น 33% แบบไม่รวมซ้อนคัน
เริ่มก่อสร้าง	Q4 ปี 2568
คาดว่าจะแล้วเสร็จ	Q4 ปี 2569
ประเภทห้องพัก	1 Bedroom ขนาด 22 – 30.75 ตร.ม. 1 Bedroom Plus ขนาด 34 – 35 ตร.ม. 2 Bed 2 Bath ขนาด 47 ตร.ม.
ราคาเริ่มต้น	1.49 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ	ประมาณ 68,000 บาท/ตร.ม.
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)	ผ่านแล้ว
เว็บไซต์โครงการ	https://pg.thinkofliving.com/dcondocampuskhonkaen
Call Center	1686

 

Highlights :

• เป็นคอนโดใกล้มหาลัยขอนแก่น ในโซนกังสดาล และใกล้โรงพยาบาลขนาดใหญ่หลายแห่ง
• อนาคตกำลังจะมีห้างโรบินสันเปิดใหม่ และอาจมีการพัฒนาเป็นโปรดักส์อื่นๆตามมาได้ ช่วยเพิ่ม Value ให้กับที่ดินและทำเลบริเวณนี้อย่างมาก
• มีความอุดมสมบูรณ์สูง หาของกินสะดวก และเดินทางเข้ามหาลัยได้สะดวก
• มีความต้องการซื้อหรือเช่าห้องพักในพื้นที่สูง เหมาะทั้งซื้ออยู่เองและนักลงทุนปล่อยเช่า

พิกัด Google Maps : 16.460081414536614, 102.82608799032984
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

โครงการ dcondo campus khonkaen (ดีคอนโด แคมปัส ขอนแก่น) ตั้งอยู่ภายในซอยอดุลยาราม หรือคนในพื้นที่และน้องๆนักศึกษาจะเรียกกันติดปากว่า ‘กังสดาล’ เป็นหนึ่งในย่านหอพักนักศึกษาใกล้มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งอีกโซนหนึ่งเขาจะเรียกว่าเป็นโซนหลังมอครับ โซนนั้นจะมีความหนาแน่นและคึกคักสูงมากๆ รวมถึงยังเต็มไปด้วยแหล่งแฮ้งค์เอ้าท์ต่างๆมากมาย

ในขณะที่โซนกังสดาลบริเวณนี้ จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันไม่แพ้กัน แต่จะมีความเงียบสงบมากกว่า รวมถึงยังอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลขนาดใหญ่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลศรีนครินทร์ โรงพยาบาลราชพฤกษ์ และโรงพยาบาลกรุงเทพขอนแก่น

เลยทำให้ย่านกังสดาลเป็นที่ต้องการของคนในวัยทำงาน เช่น บุคลากรทางการแพทย์ และบุคลากรในมหาวิทยาลัยด้วยครับ พูดง่ายๆก็คือโซนที่ตั้งของโครงการนี้จะมีความเป็นผู้ใหญ่ และน่าอยู่อาศัยขึ้นอีกระดับหนึ่งจากโซนแถวๆหลังมอนั่นเอง

มหาวิทยาลัยขอนแก่น

เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ครับ โดยปัจจุบันมีคณะที่เปิดสอนทั้งหมด 21 คณะ และมีจำนวนนักศึกษารวมกว่า 34,382 คน และมีบุคลากรอีกกว่า 10,676 คน

นั่นหมายความว่าความต้องการที่อยู่อาศัยแค่เพียงคนที่มาทำงาน หรือมาเรียนที่มหาลัยแห่งนี้ก็มีกว่า 40,000 คนเข้าไปแล้วนั่นเอง จึงไม่แปลกใจเลยครับว่าทำไมหอพักหรือคอนโดในย่านนี้ จึงมีอัตราการเช่าที่สูงจนเรียกได้ว่าเต็มแทบจะตลอดเวลา

กลุ่มเป้าหมายที่เหมาะจะซื้อคอนโดแห่งนี้คือใคร ?

คนที่เหมาะกับโครงการ dcondo campus ขอนแก่น เรามองว่ามีได้หลากหลายกลุ่มมากๆ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ผู้ปกครองที่อยากซื้อเพื่อให้ลูกได้อยู่เรียนยาวๆจนจบ 4 – 6 ปี และถ้าลูกจบไปแล้วก็ยังสามารถปล่อยเช่าให้เด็กรุ่นถัดๆไปต่อได้อีก

รวมถึงอาจเป็นกลุ่มของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเองก็ดี และบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานโรงพยาบาลแถวๆนี้ก็ได้ โดยราคาเช่าหอพักหรือคอนโดในย่านนี้ก็จะอยู่ที่ราวๆ 6,000 – 11,000 บาทสำหรับห้อง 1 Bedroom และราคาประมาณ 18,000 – 20,000 บาทสำหรับห้อง 2 Bedrooms ขึ้นไป

ในแง่การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัว สำหรับน้องๆนักศึกษาที่จะเข้าไปเรียนในมหาลัย ก็จะมีทั้งวินมอเตอร์ไซค์ และบริการ Shuttle Bus ที่เป็นสวัสดิการของมหาลัยเอาไว้ให้ใช้งานด้วย

โดยความพิเศษก็คือ จะมีเส้นทางรถสายสีเหลืองที่จะวิ่งออกมานอกเขตมหาลัยมายังโซนกังสดาล และอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 250 m. เท่านั้น (ตรงซอยอดุลยาราม 1) ดังนั้นน้องๆนักศึกษาก็สามารถเดินมาใช้งานจากโครงการ dcondo ได้ไม่ยากเลยครับ

โดยคณะที่จะอยู่ใกล้กับโซนกังสดาลหรือทำเลที่ตั้งของ dcondo มากที่สุดก็จะเป็นกลุ่มของคณะแพทย์ คณะเภสัชศาสตร์ คณะสาธารณสุข คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ เป็นต้น

อนาคตกำลังจะมีโรบินสันมาเปิดใหม่ใกล้ๆ !!

เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจสำหรับโครงการนี้มากๆครับ เพราะล่าสุดเพิ่งมีข่าวออกมาแล้วว่ากลุ่มเซ็นทรัลได้ซื้อแปลงที่ดินขนาดใหญ่กว่า 27 ไร่บริเวณนี้เพื่อขึ้นเป็นห้างโรบินสัน ซึ่งปัจจุบันในวันที่เราไปรีวิวก็เห็นมีการล้อมรั้วจริงจังแล้วเรียบร้อย

จากที่ได้ข่าวมาคาดการณ์ว่าน่าจะไม่ใช่แค่ห้างสรรพสินค้า แต่เค้าน่าจะทำเป็นโปรเจค Mixed Use ที่มีอาคารอื่นๆอยู่ในพื้นที่อีก โดยรายละเอียดอื่นๆก็อาจต้องรอติดตามข่าวสารอัพเดตอย่างเป็นทางการอีกที

แต่ที่แน่ๆเลยก็คือ การที่มีโปรเจคนี้เกิดขึ้นย่อมส่งผลศักยภาพทำเล ของโครงการรอบๆอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาซื้อขาย-ปล่อยเช่าต่างๆก็มีแนวโน้มสูงขึ้นได้ เพราะนี่ถือเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีไม่แพ้ห้างเซ็นทรัลที่มีอยู่แล้วเลยทีเดียว

สำนักงานขายคลิก >> https://maps.app.goo.gl/wkkEeu9uEX9QMz9J9

ปัจจุบันที่ตั้งของสำนักงานขายจะตั้งอยู่ติดถนนกัลปพฤกษ์ ซึ่งอยู่คนละที่กับที่ตั้งจริงของโครงการนะครับ แต่ก็จะอยู่ไม่ห่างกันมากนัก โดยหลังจากที่ชมห้องตัวอย่างเสร็จแล้วก็สามารถแวะไปดูหน้างานจริงกันต่อได้เลย (ห่างประมาณ 900 m.)

โดยนี่ก็จะเป็นบรรยากาศของสำนักงานขายที่ตั้งอยู่ติดกับถนนกัลปพฤกษ์แบบนี้นะครับ ฝั่งตรงข้ามก็คือมหาวิทยาลัยขอนแก่นเลยนั่นเอง

ภายในสำนักงานจะมีทั้งโมเดลและห้องตัวอย่างของจริงให้ได้ชม ใครสนใจก็เข้ามากันได้นะครับ จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูลอยู่ตลอดทุกวันเลย

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

บริบทโดยรอบของโครงการ dcondo campus ขอนแก่น ส่วนใหญ่ก็จะเป็นชุมชนแนวราบและอาคารที่สูงประมาณ 5 ชั้น อีกทั้งยังเป็นโซนใกล้มหาวิทยาลัยที่เต็มไปด้วยหอพักนักศึกษา บริเวณถนนด้านหน้าเลยมีความคึกคักและอุดมสมบูรณ์มากๆครับ เพราะจะมีทั้งร้านค้าและร้านอาหารเกือบจะตลอดทั้งซอยเลย ส่วนด้านอื่นๆก็จะสรุปได้ดังนี้

• ทิศเหนือ เป็นทางเข้าหลักของโครงการ ติดกับ ถนนอดุลยาราม และฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพักอาศัยสูง 5 ชั้น
• ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ว่างและอาคารสูง 4 – 5 ชั้น
• ทิศใต้ ติดกับ ที่ว่างและชุมชนแนวราบ
• ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ว่างและชุมชนแนวราบ

นี่เป็นบรรยากาศด้านหน้าที่ดินโครงการของจริงนะครับ จะเห็นได้ว่าเค้าเริ่มมีการล้อมรั้วและก่อสร้างกันแล้วเรียบร้อย

บริเวณด้านขวาของที่ดินโครงการจะติดกับร้านซักรีด และถัดไปก็จะเป็นหอพักนักศึกษา

ส่วนด้านซ้ายของโครงการจะติดกับทาวน์โฮม 3 ชั้น โดยตลอดทั้งซอยเราจะเห็นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยร้านค้าร้านอาหารมากมาย เรียกได้ว่าเรื่องอาหารการกินไม่ต้องห่วงเลยครับ

ส่วนฝั่งตรงข้ามของโครงการจะเป็นหอพักสูง 4 ชั้น และมีซอยอดุลยาราม 7 ที่สามารถเชื่อมต่อไปออกถนนกัลปพฤกษ์เพื่อไปยังมหาวิทยาลัยได้เหมือนกัน

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• ตลาด 62 บล็อก ~ 700 m.
• Robinson ขอนแก่น ~ 1 km.
• Central ขอนแก่น ~ 4.1 km.
• ตลาดต้นตาล ~ 5.9 km.
• ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้านานาชาติไคซ์ ขอนแก่น ~ 8 km.

โรงพยาบาล

• รพ.ศรีนครินทร์ ~ 1.6 km.
• รพ.ราชพฤกษ์ ~ 1.7 km.
• รพ.ขอนแก่นราม ~ 3.9 km.

โรงเรียน

• ม.ขอนแก่น ~ 750 m.
• รร.สาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ~ 2.8 km.
• รร.ขอนแก่นวิทยายน ~ 4.3 km.
• รร.กัลยาณวัตร ~ 5.1 km.
• รร.แก่นนครวิทยาลัย ~ 6.6 km.

Highlights :

• จัดเต็มพื้นที่สวนขนาดใหญ่ บรรยากาศภายในโครงการร่มรื่น
• อาคารโอบล้อมพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้ห้องพักที่หันหน้าเข้ามาด้านในจะการันตีมองเห็นวิวสวนและสระว่ายน้ำสวยๆได้
• มีความใส่ใจในเรื่องความปลอดภัย ใช้ระบบ Face Scan ในการเข้า-ออกและขึ้น-ลงอาคาร

ถ้าพูดถึงตระกูล dcondo ของแสนสิริ ก็จะเป็นคอนโดในทำเลใกล้มหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งเราก็เคยเห็นผ่านตากันมาแล้วหลายแห่งครับ โดยนี่จะเป็นครั้งแรกที่แสนสิรินำมาเปิดตัวในจังหวัดขอนแก่น และยังใกล้มหาวิทยาลัยขอนแก่นอีกด้วย ดังนั้นโครงการนี้จึงถูกดีไซน์ให้เหมาะกับการอยู่อาศัยของทั้งน้องๆนักศึกษาก็ดี รวมถึงคนในวัยทำงานแถวๆย่านนั้นก็ด้วย

แน่นอนว่าคุณภาพต่างๆยังคงมาตรฐานเดียวกับโครงการในกรุงเทพเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของส่วนกลางที่ให้มาเยอะ รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยก็จะใช้เป็นระบบ Face Scan ในการเข้า-ออก หรือขึ้น-ลงอาคาร ซึ่งช่วยทำให้มีความปลอดภัย และพ่อแม่ผู้ปกครองเองก็อุ่นใจเวลาที่ให้ลูกอยู่อาศัยที่นี่มากขึ้น เมื่อเทียบกับระบบของหอพักหรือคอนโดทั่วไปครับ ส่วนจะอื่นๆมีอะไรบ้างนั้นเราตามไปเจาะลึกกันต่อได้เลย

โครงการ dcondo campus khonkaen (ดีคอนโด แคมปัส ขอนแก่น) เป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้นจำนวน 3 อาคาร มียูนิตพักอาศัยทั้งหมด 769 ยูนิต ถือได้ว่าเป็นโครงการขนาดค่อนข้างใหญ่ในย่านเลยทีเดียว ซึ่งก็ทำให้เราจะมีส่วนกลางหรือ Facilities ให้ใช้งานเยอะตามไปด้วยนั่นเองครับ

นอกจากนี้ยังมีพร้อม Design Concept : Urban Oasis เน้นพื้นที่สีเขียวภายในให้มีความสวยงามร่มรื่น โดยนี่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งใน dcondo ที่เคยให้พื้นที่สีเขียวมาเยอะที่สุดอีกด้วย

Master Plan จะเห็นได้ว่าพื้นที่ส่วนกลางด้านในจะถูกโอบล้อมด้วยอาคาร B และ C ซึ่งบรรยากาศก็จะการันตีความสวยงามตามที่โครงการได้จัดเอาไว้ รวมถึงยังมีความสะดวกในการมาใช้งาน Facilities ต่างๆอีกด้วย แถมยังได้ความเป็นส่วนตัวและหลีกหนีความวุ่นวายของถนนซอยด้านหน้าโครงการได้เป็นอย่างดี เพราะจะมีระยะถอยร่นเข้ามาพอสมควรเลย

ส่วนถ้าใครที่เน้นเรื่องความสะดวกในการเข้าถึงที่พักง่ายๆ หรืออาจเป็นคนที่ไม่มีรถแล้วต้องเดินเข้า-ออกด้วยตัวเอง ก็จะเหมาะกับอาคาร A ที่อยู่บริเวณด้านหน้าสุดครับ ส่วนบริเวณใต้อาคารทั้ง 3 ก็จะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด 257 คัน หรือคิดเป็น 33% แบบไม่รวมซ้อนคัน ซึ่งก็เป็นไปตามมาตรฐานคอนโดทั่วไปเลยครับ

จากโมเดลเมื่อผ่านป้อม รปภ. เข้ามาก็จะเจอกับถนน Main และเป็นพื้นที่จอดรถกลางแจ้งบริเวณหน้าอาคาร A ทั้งหมด โดยถ้าใครที่ไม่อยากจอดรถตากแดดก็สามารถเลี้ยวเข้าไปจอดใต้อาคารได้เลย แต่ที่เราชอบก็คือ เค้าจะมีการปลูกต้นไม้ใหญ่เป็นระยะๆ เลยทำให้ถนนและที่จอดรถมีร่มเงา + ดูสดชื่นสบายตามากๆอีกด้วยครับ

เมื่อเข้ามาด้านในเราจะเจอวงเวียนที่อยู่บริเวณหน้าอาคาร Clubhouse ซึ่งถ้าใครที่เป็น Visitor หรือเป็นรถสาธารณะก็สามารถวนรถรับ-ส่งที่จุดนี้ได้สะดวกเลยครับ

ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณวงเวียนด้านหน้าอาคาร Clubhouse ซึ่งนอกจากจะช่วยในเรื่องการวนรถที่ง่ายแล้ว ทางโครงการยังมีบริการรถ Shuttle Bus ไป-กลับถึงในมหาวิทยาลัยอีกด้วย โดยคาดการณ์ว่าตัวรถน่าจะจอดคอยอยู่ตรงบริเวณนี้แหละครับ แต่จะเป็นรถอะไรและวิ่งตอนกี่โมงบ้างอาจต้องรอดูในอนาคตอีกครั้งนะ

มาถึง Highlight ของโครงการก็คือ Facilities จะเห็นได้ว่าด้านนอกจะมีพื้นที่สีเขียวเยอะมาก จึงทำให้มีความสวยงามร่มรื่นเป็นพิเศษ และห้องพักที่หันเข้ามาด้านในก็ยังได้การันตีวิวสวยๆอีกด้วย

โดยฟังก์ชันหลักๆจะประกอบด้วย สระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาด 25 x 5 m. สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริงจังเลย ใกล้ๆกันยังมีพื้นที่นั่งเล่นและสวนสีเขียว ให้เราสามารถว่ายชมวิวได้อีกด้วย โดยพื้นที่เปิดโล่งตรงกลางในอนาคตเรายังสามารถใช้เป็นลานจัดกิจกรรม ตามช่วงเทศกาลต่างๆได้อีกด้วย

ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณสระว่ายน้ำ จะเห็นว่ารอบๆถูกโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติดูร่มรื่นดีทีเดียวครับ ซึ่งนอกจากจะช่วยเรื่องความสวยงามและสดชื่นแล้ว ต้นไม้เหล่านี้ยังมีส่วนช่วยพรางสายตาและเพิ่มความเป็นส่วนตัว ระหว่างผู้พักอาศัยที่ห้องชั้นล่างๆและคนที่มาใช้งานสระว่ายน้ำได้อีกด้วย

ผังนี้จะแสดงให้เห็นถึงฟังก์ชันส่วนกลางภายในของ 2 อาคาร ซึ่งจะแบ่งโซนการใช้งานแยกออกจากกันชัดเจนเลยครับ โดยอาคาร Clubhouse จะเป็นอาคารชั้นเดียวที่อยู่แยกออกมาจากอาคารพักอาศัย และเน้นฟังก์ชันเป็น Lobby & Co-Working Space

รวมถึงยังมีห้อง Meeting Room ต่างๆให้ใช้งานด้วย หมายความว่านี่เป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับไว้รับแขกหรือ Visitor ที่จะมาหาลูกบ้าน หรือน้องๆสามารถนัดเพื่อนๆมาทำงานติวหนังสือร่วมกันได้ โดยที่ไม่ต้องพาขึ้นอาคารให้เสียความเป็นส่วนตัวเลยนั่นเอง

ส่วนฟังก์ชันที่อยู่ภายในอาคาร B จะเน้นเป็นโซนออกกำลังกายอย่าง Fitness และห้องสันทนาการอย่าง Game Room อีกทั้งยังมีห้องของนิติบุคคลคอยให้บริการและมาติดต่อธุระต่างๆที่บริเวณนี้ได้อีกด้วย

ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Private Lounge และ Meeting Room ซึ่งจะทำเป็นห้องแยกออกจากโซน Lobby และ Co-Working Space อื่นๆของอาคาร Clubhouse ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากๆครับ

โดยช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ก็จะหันรับวิวสวนภายในโครงการได้เป็นอย่างดี ใครที่ต้องการรับรองแขกหรือมานั่งประชุม ทำงานกลุ่ม หรือติวหนังสือ ก็สามารถมาใช้งานพื้นที่ส่วนนี้ได้ครับ

ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Game Room หลักๆจะเป็นชุดโซฟาให้มานั่งเล่น รวมถึงจะมีบอร์ดเกมส์ต่างๆเอาไว้ให้บริการด้วย ซึ่งน้องๆสามารถชวนเพื่อนๆมาเล่นสนุกคลายเครียดกันได้เต็มที่ หรือใครอยากจะมานั่งเล่นอ่านหนังสือก็ได้ครับ ถือเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันอเนกประสงค์ที่ใช้งานได้หลากหลายตามแต่โอกาสเลย

ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Fitness ซึ่งก็มีอุปกรณ์เครื่องเล่นให้ครบครัน ตกแต่งห้องด้วยโทนสีสันสดใสสื่อถึงความ Active รวมถึงเครื่องเล่นต่างๆก็จะหันออกไปชมวิวสวน + สระว่ายน้ำที่อยู่ภายนอก ทำให้เวลาออกกำลังกายไปก็สามารถมองวิวเพลินๆไปได้ด้วยครับ

ตัวอาคารจะมีทั้งหมด 3 ตึก แบ่งเป็นอาคาร A = 273 ยูนิต, อาคาร B = 237 ยูนิต, อาคาร C = 259 ยูนิต ซึ่งถ้าดูจากจำนวนแบบนี้เราก็จะเห็นได้ชัดเลยว่า อาคาร A จะมีจำนวนเพื่อนร่วมตึกที่เยอะที่สุด ส่งผลให้มีอัตราส่วนลิฟต์เยอะกว่าอีก 2 อาคาร หรือพูดง่ายๆก็คือ อาจมีการต้องรอลิฟต์นานกว่าหน่อยนึง

ในขณะที่อาคาร B และ C จะมีความโดดเด่นในเรื่องวิว และความสะดวกในการมาใช้งาน Facilities ที่มากกว่า แต่ในขณะเดียวกันก็จะมีราคาและได้รับความนิยมที่สูงกว่าด้วยเช่นกัน ส่วนตำแหน่งห้องที่น่าสนใจของแต่ละอาคารจะเป็นอย่างไรบ้าง เราไปเจาะลึกทีละอาคารพร้อมๆกันเลยครับ

อาคาร A ชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 – 8 เหมือนๆกับอาคารอื่นๆครับ โดยที่อาคารนี้จะมีเพื่อนบ้านร่วมชั้น 39 ยูนิต และวางตำแหน่งของโถงลิฟต์เอาไว้บริเวณด้านซ้ายเกือบจะสุดอาคาร ทำให้ห้องพักอาศัยที่อยู่ใกล้ๆจะสามารถมาใช้งานลิฟต์ได้สะดวกมากขึ้น

ส่วนของพักอื่นๆอาจต้องเดินไกลสักหน่อย แต่ก็จะได้ในเรื่องความเป็นส่วนตัวเข้ามาแทน เพราะยิ่งอยู่ไกลจากลิฟต์มากเท่าไหร่ โอกาสที่จะมีคนเดินผ่านหน้าห้องของเราก็จะน้อยลงเท่านั้นครับ

ทีนี้เรามาพูดถึงเรื่องที่ว่าใครเหมาะที่จะอยู่อาคารนี้ อย่างแรกเลยเราคิดว่าต้องเป็นคนที่ไม่ค่อยเน้นการใช้งานส่วนกลาง และไม่ได้สนใจเรื่องวิวภายในสวยๆ เพราะนี่เป็นอาคารเดียวที่จะอยู่ห่างจาก Facilities ตรงกลางมามากที่สุด แต่ข้อดีคือ ราคาจะจับต้องได้ง่ายกว่าอาคารอื่น รวมถึงการเข้าถึงจากหน้าโครงการก็สะดวกและรวดเร็วกว่าอีกด้วย

อาคาร B จะมีห้องพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 2 เหมือนกัน แตกต่างกันเล็กน้อยตรงที่ชั้น 3 – 8 จะมีห้องพักเพิ่มขึ้นมาอีกห้องหนึ่ง (ในกรอบสีแดง) ทำให้มีเพื่อนร่วมชั้นทั้งหมด 33 ยูนิต จุดเด่นของอาคารนี้ก็คือ จะเป็นอาคารที่ใช้งาน Facilities ได้สะดวกมากๆ เพราะอย่างที่เราพาไปชมส่วนกลางก่อนหน้านี้แล้วว่า ทั้งอาคาร Clubhouse และห้อง Fitness จะอยู่ที่ชั้นล่างของอาคารนี้แหละครับ

นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในอาคารที่ได้วิวส่วนกลางที่สวนที่สุดอีกด้วย แน่นอนว่าต้องแลกมากับราคาที่ค่อนข้างจะสูงกว่าตึกอื่นๆสักหน่อย รวมถึงห้องพักที่หันหน้ารับวิวส่วนกลางภายในก็มักจะเป็นห้องไซส์ใหญ่อีกด้วย แต่รับรองเลยว่าเป็นที่ต้องการของทั้งคนที่อยากอยู่อาศัยเอง และคนที่อยากมาเช่าเป็นอันดับต้นๆอย่างแน่นอนครับ

สำหรับวิวที่ส่วนตัวเรามองว่าน่าสนใจ ขอยกให้กับห้องที่หันไปทางทิศเหนือของอาคาร B ซึ่งจะได้ทั้งวิวสระว่ายน้ำ วิวสวน วิวอาคาร Clubhouse และวิวถนนภายในโครงการที่จะมีการปลูกต้นไม้เป็นแนวยาวแบบนี้เลย

ทำให้ได้วิวที่เปิดโล่งและไม่เสียความเป็นส่วนตัวเหมือนด้านอื่นๆครับ โดยในส่วนนี้ก็แล้วแต่คนชอบนะ บางคนก็อาจชอบวิวจากทางด้านข้างมากกว่าก็ได้ ลองเลือกและเล็งๆดูจากโมเดลโครงการกันได้เลย

อาคาร C จะมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 36 ห้อง/ชั้น และเช่นเดียวกับอาคาร A ที่โถงลิฟต์โดยสารจะอยู่ชิดริมฝั่งด้านขวาเป็นหลัก จึงมีผลต่อความสะดวกการใช้งานและความเป็นส่วนตัวของตำแหน่งแต่ละห้องอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น แต่สิ่งที่น่าสนใจของอาคารนี้จริงๆก็คือ ห้องพักที่หันมาทางทิศตะวันออกของอาคารจะได้วิวส่วนกลางทั้งหมด จึงเหมาะกับคนที่ชอบการันตีวิวสวยๆ และยังคงไปใช้งานส่วนกลางได้ไม่ยากครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse
• Lobby Area
• Co-Working Space
• Private Pod
• Private Lounge
• Meeting Room
• Vending Machine
• Game Room
• GYM (Fitness)
• Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 25 x 7 m.
• Pool Deck
• Sansiri Backyard
• Open Lawn
• Pocket Garden
• Outdoor Terrace
• Main Garden
• ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 128 :  1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 137 : 1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 119 : 1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก C 130 : 1
• ที่จอดรถประมาณ 257 คัน หรือคิดเป็น 33% แบบไม่รวมซ้อนคัน
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card / Face Scan

Highlights :

• มีแบบห้องให้เลือกหลายแบบ ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการอยู่อาศัย
• ขายแบบ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่หรือปล่อยเช่าน้องๆนักศึกษาต่อได้สบายๆ
• ถ้าเป็นห้องหน้ากว้างหรือทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส จะได้ห้องนอนที่กั้นด้วยผนังทึบ มีความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย
• ออกแบบให้เน้นครัวเปิดเพื่อความกว้างขวางโปร่งโล่งทุกห้อง แต่ก็มีระยะให้กั้นทำเป็นครัวปิดได้ถ้าต้องการ

แบบห้องของโครงการ dcondo campus khonkaen (ดีคอนโด แคมปัส ขอนแก่น) มีให้เลือกตั้งแต่ 1 – 2 Bedrooms ซึ่งตอบโจทย์ทั้งคนที่อยากอยู่คนเดียวแบบส่วนตัว และคนที่ต้องการอยู่กับรูมแมทนั่นเองครับ โดยลักษณะของแปลนจะคล้ายกับคอนโดมาตรฐานทั่วไปที่เราเห็นในกรุงเทพเลย เพราะเค้าต้องการให้เป็นคอนโดที่นักศึกษาก็อยู่ดี รวมถึงคนวัยทำงานก็อยู่ได้ ประกอบด้วย

• 1 Bedroom ขนาด 22 – 30.75 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus ขนาด 34 – 35 ตร.ม.
• 2 Bed 2 Bath ขนาด 47 ตร.ม.

สเปควัสดุหลักภายในห้อง :

• รูปแบบการขาย : Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่
• พื้นห้อง : ลามิเนตลายไม้
• Hob and Hood : ยี่ห้อ TEKA
• สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ : Sosuco และ Englefield by Kholer พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ
• กรอบประตู-หน้าต่าง : อลูมิเนียมสีดำ พร้อมกระจกใสปกติ
• ประตูทางเข้าห้อง : ติดตั้ง Digital Door Lock

เป็นแบบห้องที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการ เหมาะกับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน ลักษณะห้องเราจะได้ครัวเปิดที่อยู่ทางด้านหน้า ซึ่งถ้าใครเป็นคนชอบทำอาหารทานเองก็สามารถเลือกกั้นประตูกระจกปิดเองได้ ส่วนจุดเด่นจริงๆจะอยู่ด้านในห้องครับ ลักษณะจะเป็นการรวมกันของพื้นที่ฟังก์ชันต่างๆ

ไม่ว่าจะเป็นโซฟานั่งเล่น เตียงนอน และโต๊ะทำงาน จึงทำให้มีความกว้างขวางโปร่งโล่ง และเราคิดว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของนักศึกษามากๆครับ เพราะน้องๆก็มักจะเน้นใช้ชีวิตหลักๆอยู่ในพื้นที่เดียวกันแบบนี้นี่แหละ และอีกสิ่งหนึ่งที่เราชอบก็คือ ห้องน้ำที่สามารถใช้งานและออกมาแต่งตัวได้สะดวกมากๆเลยนั่นเอง

เข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับครัวก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งพื้นห้องส่วนนี้จะเป็นกระเบื้องเซรามิกครับ เลยทำให้สามารถเช็ดทำความสะอาดได้สะดวกมากๆ เพราะบริเวณนี้เป็นจุดที่เราจะต้องทำอาหาร และใส่รองเท้าเข้า-ออกห้องอยู่ตลอดนั่นเอง

ซ้ายมือเป็นชุดครัวที่จะ Built-in มาให้แบบนี้เลยครับ ประกอบด้วย Hob and Hood จาก TEKA ซึ่งจะเป็นระบบดูดหมุนเวียนภายใน / อ่างล้างจานแบบ 1 หลุม / Top เคาน์เตอร์ครัวหินสังเคราะห์ ส่วนถ้าใครไม่อยากให้ผนังเลอะก็สามารถติด Backsplash เพิ่มด้วยตัวเองได้เลยครับ

มาดูในเรื่องการใช้งานกันสักนิดนะ ส่วนตัวเราว่าตำแหน่งการวางไมโครเวฟค่อนข้างสูงไปสักหน่อย สำหรับใครที่เป็นคนตัวเล็กๆอาจต้องใช้งานระมัดระวังสักนิดนึง ส่วนที่วางซักผ้าตรงนี้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำเลอะพื้นครับ เพราะเค้าปูด้วยกระเบื้องมาเรียบร้อยแล้วนั่นเอง

อีกด้านหนึ่งจะเป็นตู้เก็บรองเท้าที่ Built-in มาให้พอดีกับช่องผนังแบบนี้เลยครับ ซึ่งในตู้เราก็สามารถเก็บรองเท้าได้ประมาณ 8 คู่ ไม่ต้องถอดวางที่พื้นหน้าประตูเหมือนห้องพักทั่วไป รวมถึงบนตู้ก็ยังสามารถวางของใช้ที่จำเป็นก่อนออกจากห้อง หรือจะเพิ่มที่แขวนของและกระจกเงาไว้ส่องดูความเรียบร้อยแบบนี้ก็ได้

สำหรับใครที่ชอบทำอาหารทานเองในห้องบ่อยๆ ก็สามารถกั้นประตูกระจกบานเลื่อนเพิ่มเติม เพื่อป้องกันกลิ่น/ควันไม่ให้เข้ามารบกวนภายในห้องพักอาศัยได้ด้วย นอกจากนี้ประตูที่จะเพิ่มเข้ามานั้นยังมีส่วนช่วยป้องกันเสียง และเพิ่มความเป็นส่วนตัวจากภายนอกประตูห้องให้เราได้อีกด้วยนะ

ถัดเข้ามาภายในห้องจะเป็นพื้นที่ใช้สอยหลักที่กว้างขวาง แถมยังมีการเปลี่ยนวัสดุปูพื้นเป็นลามิเนตลายไม้ด้วย เลยทำให้มีความสวยงามและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ฝ้าเพดานจะสูง 2.5 m. และมีช่องแสงขนาดใหญ่ 2 จุดทำให้สว่างโปร่งโล่งดีทีเดียว

พื้นที่ส่วนแรกจะเป็นโซฟานั่งเล่นขนาด 2 ที่นั่ง ซึ่งเราสามารถนั่งเล่นดูทีวี หรือทานอาหารที่โต๊ะได้ เพียงแต่จุดที่จะติดทีวีอาจไม่ได้อยู่ตรง Center กับโซฟานะครับ

ทำให้อาจต้องมองดูแบบเฉียงๆเอา หรือไม่ก็ขึ้นไปนอนดูบนเตียงสบายๆไปเลยก็ได้ ระยะดูทีวีกว้าง 3.7 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 50 – 60 นิ้วได้เลย

อีกด้านหนึ่งของเตียงจะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ซึ่งเค้าจะให้โต๊ะตัวเล็กและเก้าอี้มาให้แบบนี้เลยครับ เหมาะกับนั่งทำงานอ่านหนังสือริมหน้าต่าง หรือถ้าใครจะจัดพื้นที่ตรงนี้ใหม่ด้วยตัวเอง เราก็วัดขนาดมาให้แล้วกว้าง 2.2 x 8.0 m.

ติดกันจะเป็นประตูกระจกที่เปิดออกไปยังระเบียงภายนอกได้ ซึ่งมีขนาด 1.2 x 0.75 m. หลักๆก็เป็นพื้นที่ให้ออกไปยืนสูดอากาศและตากผ้าเล็กๆน้อยๆได้ครับ หรือบางคนก็อาจปลูกต้นไม้ที่ชอบก็ได้เหมือนกัน ด้านบนเป็น Condensing Unit แขวนเอาไว้และเป่าลมร้อนออกไปภายนอกไม่รบกวนการใช้งานระเบียงเลยครับ

อีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็นห้องน้ำครับ ซึ่งด้านหน้าก็จะเป็นตู้เสื้อผ้าที่ Built-in มาให้แบบนี้เลย เราว่าเพียงพอสำหรับการอยู่อาศัย 1 คนสบายๆ แต่ถ้าใครอยู่ 2 คนก็อาจแน่นๆหน่อย

ภายในห้องน้ำเราจะได้ทุกอย่างครบตามนี้เลย สุขภัณฑ์เป็นของ Sosuco และ Englefield by Kholer ขนาดพื้นที่ใช้สอยพอดีๆใช้งานปกติ

ฉากกั้นอาบน้ำก็จะติดตั้งมาให้แบบนี้เลยครับ เป็นประตูบานเลื่อน 3 ตอนให้เปิดออกได้กว้างๆหน่อย แถมยังติดแถบแม่เหล็กเพื่อให้ประตูปิดได้แนบสนิท น้ำที่อาบจะได้ไม่กระเด็นหรือรั่วซึมออกมาภายนอกได้ง่ายๆ

ส่วนตรงผนังก็จะเจาะช่องวางของมาให้พร้อมใช้งาน ใครที่มีของเยอะๆก็อาจเพิ่มจำนวนชั้นด้วยก็ได้นะ พื้นที่ยืนอาบน้ำกว้างประมาณ 1 x 0.9 m. สามารถใช้งานได้พอดีๆ

• 1 Bedroom ขนาด 30 – 30.25 ตร.ม.

เป็นห้องขนาดไซส์กลางของโครงการ ลักษณะจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่สามารถแบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างเป็นสัดส่วนดีมากขึ้น เหมาะกับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวของห้องนอนแบบขั้นสุดครับ เพราะกั้นฟังก์ชันด้วยผนังทึบแยกห้องนอนออกจากห้องนั่งเล่นไปเลย อีกทั้งยังมีห้องน้ำอยู่ภายในห้องนอนด้วย บอกได้เลยว่าถ้าเป็นเจ้าของห้องจะใช้งานได้สะดวกมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าห้องน้ำ อาบน้ำ แต่งตัว แต่ก็จะเสียความเป็นส่วนตัวได้ในบางครั้งที่มีแขกมาขอใช้งานนั่นเองครับ

เข้ามาภายในห้องเราก็จะเจอกับครัวที่เชื่อมต่อกับ Living Area เหมือนเดิม แต่จะมีความรู้สึกกว้างขวางและสว่างมากขึ้นเยอะเลยครับ เพราะความกว้างก็จะเท่ากับพื้นที่นั่งเล่นเลยนั่นเอง

ฟังก์ชันด้านหน้าห้องจะมีการ Built-in ชุดครัวและตู้เก็บรองเท้ามาให้เหมือนกับห้องตัวอย่างที่แล้วเลยครับ เพียงแต่พื้นที่ทางเดินตรงกลางจะกว้างขวางและใช้งานได้สบายมากขึ้น

แน่นอนว่าถ้าใครที่เป็นสายชอบทำอาหารเองที่ห้อง ก็สามารถกั้นประตูกระจกเพื่อป้องกันกลิ่น/ควันได้เหมือนเดิม ซึ่งทางโครงการก็ออกแบบระยะมาให้เผื่อล่วงหน้าแล้วครับ แต่ถ้าไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้ก็สามารถเปิดพื้นที่เชื่อมต่อกันแบบนี้ก็ดูโปร่งโล่งดีนะ

ตรงกลางห้องเป็นจุดวางโต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในฟังก์ชันที่เพิ่มเข้ามาจากห้องเล็กก่อนหน้านี้ ทำให้เราสามารถนั่งทานอาหารจริงจังได้มากขึ้น หรือจะใช้เป็นโต๊ะอเนกประสงค์ต่างๆก็ได้เหมือนกัน

ภายในห้องเป็นพื้นที่นั่งดูทีวี มีระยะห่างกว้าง 2.5 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้ครับ ซึ่งเราก็จะได้ทั้งโซฟา 2 ที่นั่ง โต๊ะกลางไว้วางของเล็กๆน้อยๆ และยังติดชั้นวางทีวีแขวนผนังด้านล่างมาให้ด้วย

อีกสิ่งหนึ่งที่เราว่าหลายๆคนน่าจะชอบ ก็คือโซฟานี้จะอยู่ติดกับระเบียงของห้องเลยครับ หมายความว่าเราสามารถนั่งดูทีวีไปและชมวิวภายนอกไปด้วยได้พร้อมๆกัน ซึ่งเป็นส่ิงที่ห้องไซส์เล็กก่อนหน้านี้ทำไม่ได้นะ

ระเบียงภายนอกกว้าง 2.5 x 0.75 m. สามารถออกไปยืนสูดอากาศหรือตากผ้าเล็กๆน้อยๆได้เหมือนเดิม แต่ที่เราชอบก็คือ เค้าจะแขวน Condensing Unit 2 ตัวไว้ด้านหลังผนังทึบแบบนี้ ทำให้มองไม่เห็นจากภายในห้อง ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงามมากขึ้นนั่นเองครับ

ถัดมาจะเป็นห้องนอนที่ถูกกั้นด้วยผนังทึบ และของจริงจะติดตั้งประตูบานทึบมาด้วย ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูงมาก เวลามีเพื่อนหรือแขกมาหาที่ห้อง ก็จะไม่มีใครมองเห็นพื้นที่ส่วนตัวในห้องนอนเราได้เลยนั่นเอง

ภายในมีขนาดพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง วางเตียงขนาด 5 ฟุตได้สบายๆ

ปลายเตียงเราสามารถติดตั้งทีวีแขวนผนังอีกตัวได้นะครับ ซึ่งนอกจากเราจะนอนดูทีวีบนเตียงสบายๆได้แล้ว ถ้าใครที่อยู่ห้องนี้แบบ 2 คน ก็ยังสามารถแยกห้องกันดูทีวีคนละเครื่องไปได้เลยนั่นเอง

พื้นที่ริมหน้าต่างยังคงจัดให้เป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะอเนกประสงค์ ให้เราได้มานั่งทำงานอ่านหนังสือ พร้อมกับชมวิวสวยๆรับแสงธรรมชาติดีๆจากภายนอกได้สบายๆ

ความกว้างตรงปลายเตียงคือ 55 cm. และพื้นที่หน้าตู้เสื้อผ้าสำหรับแต่งตัวกว้าง 60 cm. ให้ใช้งานได้แบบพอดีๆ

โดยตู้เสื้อผ้าก็จะ Built-in มาให้แบบนี้เลยครับ ซึ่งจะอยู่ติดกับห้องน้ำพอดี ทำให้การใช้งานเข้า-ออกห้องน้ำแล้วเดินมาแต่งตัวทำได้สะดวกมากๆ

ภายในห้องน้ำมีลักษณะที่เหมือนกับห้องตัวอย่างก่อนหน้านี้เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นสุขภัณฑ์และฟังก์ชันต่างๆ

แน่นอนว่าเราจะได้ทั้งฉากกั้นอาบน้ำและมีพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 1 x 0.9 m. เหมือนกันเลยครับ ทำให้สามารถใช้งานได้พอดีๆ

ห้องนี้เป็นแบบที่เล็กที่สุดของโครงการ ซึ่งแน่นอนว่ามีราคาจับต้องได้ง่ายที่สุดด้วยเช่นกัน และยังเป็นแบบห้องที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการอีกด้วย ฟังก์ชันภายในเราจะเห็นได้ว่ามีความคล้ายกับห้องตัวอย่างแรกที่เราพาไปชมเลย

เพียงแต่ห้องจะมีความลึกที่น้อยลงมาหน่อย และจะลดทอนพื้นที่อเนกประสงค์ริมหน้าต่างออกไป จึงทำให้เราจะได้เตียงที่อยู่ติดกับระเบียงแทนครับ ดังนั้นห้องนี้เราจะสามารถนอนชมวิวนอกหน้าต่างจากบนเตียงได้สบายๆเลย เพียงแต่ถ้าใครที่นอนแบบ 2 คน คนที่อยู่ด้านในอาจต้องเน้นลงทางปลายเตียงแทนนะครับ หรือถ้าอยู่คนเดียวก็ชิลๆสบายๆเลย

เป็นห้อง 1 Bedroom Plus ที่ลักษณะจะคล้ายๆกับห้องตัวอย่างที่ 2 โดยจะเพิ่มห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ติดกับหน้าต่างเข้ามา  ทำให้เหมาะกับคนที่ต้องการห้องไว้ทำงานอดิเรกต่างๆ หรืออาจทำเป็นห้องนอนเล็กเพิ่มเข้ามาก็ได้เหมือนกัน นอกจากนี้ยังโดดเด่นที่ครัวซึ่งจะมีขนาดใหญ่พิเศษ แถมยังช่วยทำให้ตัวห้องดูกว้างขวางมากขึ้นอีกด้วย และแน่นอนว่าเรายังได้ความเป็นส่วนตัวจากห้องนอนที่เป็นผนังทึบอีกด้วย

เป็นห้อง 2 Bedrooms ขนาดใหญ่สุดของโครงการ ความพิเศษคือจะมี 2 ห้องน้ำให้ใช้งาน จึงทำให้มีความสะดวกและเป็นส่วนตัวมากๆครับ โดยห้องนี้ก็จะเหมาะกับการอยู่อาศัยเป็นครอบครัว หรือถ้าเป็นรูมเมทก็คือต้องการแยกห้องนอนเป็นส่วนตัวจากกัน อีกทั้งยังโดดเด่นที่ Common Area ตรงกลางห้อง ซึ่งจะมีขนาดใหญ่และรองรับสมาชิกภายในห้องแบบ 3 – 4 คนได้สบายๆ ยิ่งถ้าเป็นน้องๆนักศึกษาที่เรียนคณะต้องใช้พื้นที่ทำงานขนาดใหญ่ เช่น เด็กสถาปัตย์ ก็จะมีพื้นที่ให้วางโต๊ะดราฟหรือตัดโมเดลได้ด้วยนั่นเองครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่า

dcondo campus khonkaen (ดีคอนโด แคมปัส ขอนแก่น) ราคา ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568

• 1 Bedroom ขนาด 22 – 30.75 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.49 – 2.4 ล้านบาท
• 1 Bedroom Plus ขนาด 34 – 35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.25 – 2.95 ล้านบาท
• 2 Bed 2 Bath ขนาด 47 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.3 – 3.8 ล้านบาท

• รูปแบบการขาย Fully Furnished
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5 เมตร
• Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
• Hob & Hood / ของยี่ห้อ TEKA
• มีรถ Shuttle Bus ไป-กลับถึงในมหาวิทยาลัย
• ค่าจอง 10,000 – 20,000 บาท
• ค่าทำสัญญา 20,000 – 40,000 บาท
• ดาวน์ 3,900 – 8,900 ผ่อนดาวน์ 9 งวด Bullet 10,000 – 20,000 บาท
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง : ปีที่ 1 = 42 บาท/ตร.ม./เดือน, ปีที่ 2 = 44 บาท/ตร.ม./เดือน, ปีที่ 3 = 49 บาท/ตร.ม./เดือน
• Promotion : แถมเครื่องใช้ไฟฟ้า TV, ไมโครเวฟ, ตู้เย็น และเครื่องทำน้ำอุ่น / ส่วนลดเงินสดสูงสุด 150,000 บาท (สอบถามโครงกาารอีกครั้ง)

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

ทำเล : ตั้งอยู่ใกล้มหาลัยขอนแก่นในโซนกังสดาล มีความอุดมสมบูรณ์สูง และสามารถเดินทางไปเรียนในมหาวิทยาลัย หรือไปทำงานได้สะดวก ซึ่งนอกจากกลุ่มน้องๆนักศึกษาหรือพ่อแม่ผู้ปกครองแล้ว ยังมีบุคลากรในมหาวิทยาลัย และบุคลากรทางการแพทย์ที่เหมาะกับโครงการแห่งนี้ด้วยครับ เพราะใกล้ๆมีโรงพยาบาลชื่อดังอยู่หลายแห่งเลย ดังนั้นโครงการนี้จึงเหมาะจะซื้ออยู่เองก็ดี หรือจะลงทุนปล่อยเช่าก็น่าสนใจ อนาคตศักยภาพของทำเลยังไปต่อได้อีก เพราะกำลังจะมีห้างโรบินสันมาเปิดใหม่อยู่ใกล้ๆโครงการด้วยครับ

การเดินทางโดยใช้รถ : ถือได้ว่าสะดวกเลยครับ เพราะถึงแม้ว่าทำเลจะตั้งอยู่ภายในซอยอดุลยาราม แต่ก็มีทางเชื่อมต่อกับถนนใหญ่ได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนกัลปพฤกษ์ที่ใช้ไปเรียนในมหาลัยได้ รวมถึงยังไปออกถนนมิตรภาพที่เป็นเส้นใหญ่ได้อีกด้วย ส่วนที่จอดรถของโครงการจะมีประมาณ 257 คัน หรือคิดเป็น 33% แบบไม่รวมซ้อนคัน ถือว่าให้มาเป็นมาตรฐานเหมือนคอนโดทั่วไป แต่อาจต้องรอดูอีกทีในอนาคตว่าจะเพียงพอจริงหรือเปล่านะครับ เพราะเราแอบสังเกตเห็นว่าน้องๆนักศึกษาที่นี่หลายคน ใช้รถยนต์ส่วนตัวกันค่อนข้างเยอะ ขนาดว่าในมหาลัยที่จอดรถแทบจะไม่พอกันเลยทีเดียว

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางที่สะดวกด้วย Shuttle Bus ที่มีให้บริการทั้งจากตัวโครงการของเราเอง และยังมีบริการรถ Shuttle Bus ของมหาลัยที่มีป้ายรถให้ขึ้นอยู่ใกล้โครงการเพียง 250 m. อีกด้วย หรือถ้าใครสะดวกเรียกเป็นวินมอเตอร์ไซค์แถวๆในซอยก็มีให้เรียกได้เหมือนกันครับ

การออกแบบโครงการ : มีเพื่อนบ้านทั้งหมด 769 ยูนิต ถือเป็นโครงการขนาดค่อนข้างใหญ่เป็นอันดับต้นๆในย่าน แต่ก็ทำให้มีส่วนกลางและพื้นที่สีเขียวที่เยอะขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งยังออกแบบให้มี Court ตรงกลางโครงการ ทำให้ห้องพักส่วนใหญ่ที่หันหน้าเข้ามาจะการันตีวิวสวยๆให้ได้ชมกัน โดยแต่ละอาคารมีความน่าสนใจและเหมาะกับคนที่มีความต้องการแตกต่างกัน ซึ่งก็แล้วแต่คนชอบเลยครับ

ใครที่เน้นใช้งานส่วนกลางก็แนะนำเป็นอาคาร B ที่จะอยู่ใกล้และสะดวกที่สุด / ใครเน้นเรื่องวิวก็เลือกได้ทุกห้องที่หันเข้ามารับวิว Facilities ที่อยู่ด้านในได้เลยครับไม่ว่าจะเป็นอาคาร B หรือ C ซึ่งก็มักจะเป็นห้องไซส์ใหญ่และมีราคาที่สูงกว่าตำแหน่งอื่นๆสักหน่อย / ส่วนถ้าใครที่ไม่ได้ซีเรียสเรื่องที่กล่าวมาข้างต้น แต่อยากได้อาคารที่เข้าถึงสะดวก ราคาไม่แรง ก็มีอาคาร A ที่ตอบโจทย์เรื่องนี้ให้ได้

การออกแบบห้องพักอาศัย : มีแบบห้องให้เลือกตั้งแต่ 1 – 2 Bedrooms ทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันได้เยอะ โดยโครงการจะเน้นห้องไซส์เล็กประมาณ 22 – 23 ตร.ม. ที่จะเป็นห้องตอนลึกคล้ายสตูดิโอ แต่ก็มีพื้นที่โปร่งโล่งกว้างขวาง เหมาะกับการอาศัย 1 – 2 คน ส่วนถ้าใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ก็จะมีห้องหน้ากว้างที่ได้ห้องนอนกั้นผนังทึบรองรับด้วย แต่ถ้าเป็นห้องไซส์ใหญ่กว่า 1 Brdroom Plus และ 2 Bedrooms ถือว่าเป็น Rare Item ที่มีตำแหน่งให้เลือกไม่เยอะ (มีแค่ชั้นละ 1 – 2 ห้องเท่านั้น) ดังนั้นใครที่ชอบห้องไซส์ใหญ่แบบนี้ก็อาจต้องรีบจับจองกันสักหน่อยแล้วนะครับ

วัสดุ : ขายแบบ Fully Furnished ให้ครบตามที่เห็นในห้องตัวอย่างพร้อมหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ หรือพร้อมที่จะปล่อยเช่าต่อได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาแต่งห้องเพิ่มเอง โดยสเปควัสดุก็ได้มาตรฐานตามระดับราคาและเป็นเกรดเดียวกับโครงการที่กรุงเทพเลยครับ เราชอบตรงที่เค้าแยกวัสดุปูพื้นกระเบื้องตรงครัวหน้าห้องมาให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย แถมยังมีตู้เก็บรองเท้าให้เป็นระเบียบเรียบร้อยซึ่งคอนโดอื่นๆไม่ค่อยจะมีมาให้ รวมถึงโต๊ะอเนกประสงค์ต่างๆ และฉากกั้นในห้องน้ำก็ให้มาครบครัน แต่สำหรับคนที่ชอบทำอาหารจริงจังก็อาจต้องกั้นประตูครัวเปิดเองอีกสักหน่อยนะ

สาธารณูปโภค : ถือเป็นหนึ่งในจุดเด่นของโครงการนี้เลยครับ โดยเฉพาะพื้นที่สีเขียวที่เรียกได้ว่านี่เป็นหนึ่งในตระกูล dcondo ที่ให้พื้นที่สวนมาเยอะที่สุดแล้วตามคอนเซ็ปต์โครงการ Urban Oasis ซึ่งเราเห็นได้ชัดเจนจากทั้งโมเดลและภาพ Perspective ที่ให้มาแน่นมากๆ อีกทั้งยังใส่ใจในเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย ที่จะเปลี่ยนมาใช้ Face Scan แทนการใช้ Key Card แบบปกติ

รวมถึงฟังก์ชันอื่นๆก็มีให้ใช้งานครบ โดยเฉพาะสระว่ายน้ำมีขนาด Half Olympic ที่สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริงจัง / เน้นพื้นที่สันทนาการและนั่งทำงานที่เหมาะกับน้องๆนักศึกษา สิ่งหนึ่งที่อย่าลืมพิจารณาคือ ค่าส่วนกลางที่จะมีการปรับเพิ่มขึ้นเป็นขั้นบันไดทุกๆปี เลยทำให้เราอาจต้องจ่ายค่าส่วนกลางแพงขึ้นอีกหน่อยในอนาคต ทั้งนี้ก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการและนโยบายของนิติบุคคลในอนาคตอีกครั้ง

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 68,000 บาท/ตร.ม., 20 กุมภาพันธ์ 2568

• ทำเล 8.5/10 – ใกล้มหาลัยขอนแก่น อยู่ในโซนหอพักที่อุดมสมบูรณ์ อนาคตมีโรบินสันมาเปิดใกล้ๆ
• เดินทางด้วยรถ 8/10 – สามารถเข้า-ออกถนนใหญ่ได้หลายทาง ไม่ไกลจากมหาลัย
• ไม่ใช้รถ 8.5/10 – มีบริการ Shuttle Bus รับ-ส่งเข้าในมหาลัย และเรียกวินมอเตอร์ไซค์ได้
• วัสดุ 7.5/10 – Fully Furnished ให้เฟอร์ครบ สเปคเหมาะสมกับราคา
• แบบ 7.5/10 – มีห้องให้เลือกหลายแบบ เน้นไซส์เล็กอยู่ 1 – 2 คน และเป็นโครงการขนาดใหญ่ของย่าน วางตำแหน่งอาคารโอบล้อมส่วนกลางให้ได้วิวสวยๆหลายห้อง
• สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาเยอะตามสัดส่วนจำนวนยูนิต เน้นพื้นที่สีเขียวร่มรื่น ฟังก์ชันการใช้งานอื่นๆครบ และใช้ระบบ Face Scan

• ECONOMY CLASS
• 8.125 / 10.00

dcondo campus khonkaen (ดีคอนโด แคมปัส ขอนแก่น) เหมาะกับใคร

โครงการ dcondo campus ขอนแก่น เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดใกล้มหาลัยขอนแก่นในโซนกังสดาล มีความอุดมสมบูรณ์ และสามารถเดินทางไปเรียนหรือทำงานที่โรงพยาบาลต่างๆได้ง่าย โดยเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ให้ส่วนกลางมาใหญ่ด้วยเช่นกัน เน้นไปในเรื่องพื้นที่สีเขียวร่มรื่นสวยงาม แบบห้องมีให้เลือกตั้งแต่ 1 – 2 Bedrooms ขายแบบ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่ มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 1.49 – 3.8 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 10,000 – 27,000 บาท

---

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่