สวัสดีครับพี่น้องชาว ThinkofLiving หลังจากที่ทางเราเคยได้ทำรีวิว dcondo สาธุประดิษฐ์ 49 ไว้ตั้งแต่ช่วง Pre-Sale เดือนสิงหาคม 2012 จนถึงวันนี้ทางโครงการได้สร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้ว ผมจึงจะพาไปชมสถานที่จริง ห้องจริง บรรยากาศจริงว่าหน้าตาจะออกมาเป็นยังไง (สรุปโดยย่อ: ส่วนกลางทำได้ดีกว่าที่คาดไว้ + ห้องได้รับการอัพเกรดวัสดุบางส่วนดูดีขึ้น)
Fact @ 11 February 2014
- dcondo สาธุประดิษฐ์ 49
- บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 396 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 141 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 35%
- ที่ดินประมาณ 4-2-0 ไร่
- Studio พื้นที่ใช้สอย 29.7 ตารางเมตร
- ราคาประมาณ 1.89 – 2.01 ล้านบาท
- ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 65,000 บาท
- http://www.sansiri.com/condominium/dcondo_sathu_pradit49/
- โทร. 1685
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
- พิกัด 13.683596,100.537662
รายละเอียด
ดีคอนโด สาธุประดิษฐ์ 49 ตั้งอยู่ในซอยสาธุประดิษฐ์ 49 หรือซอยเศตะพราหมณ์ เข้าจากหน้าปากซอยประมาณ 650 เมตร ด้านหลังซอยสามารถทะลุไปออกถนนใต้วงแหวนอุตสาหกรรมได้
ตำแหน่งที่ดินคือตำแหน่งของลูกศรสีเขียวนะครับ จะเห็นว่าถ้าวิ่งออกไปทางวงแหวนอุตสาหกรรมก็สามารถเลือกได้ว่าจะวิ่งต่อไปออกเส้นพระราม 3 หรือถนนยานนาวาได้
แปลงที่ดินเป็นสีเขียวๆบริเวณลูกศรรูปร่างแปลงจะคล้ายๆกับตัว S
ก่อนที่เราจะไปดูโครงการ เรามาทำความรู้จักกับถนนสาธุประดิษฐ์กันก่อนครับ
ถนนสาธุประดิษฐ์ (อังกฤษ : Thanon Sathu Pradit) เป็นถนน 2 ช่องจราจรในกรุงเทพมหานครมีระยะทางตั้งแต่ถนนจันทน์ที่สามแยกจันทน์-สาธุประดิษฐ์ ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ในพื้นที่แขวงบางโพงพาง เขตยาวนาวา จากนั้นตัดกับถนนรัขดาภิเษกไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ตัดกับถนนพระราม3 ที่สี่แยกสาธุประดิษฐ์ และไปสิ้นสุดที่ท่าสาธุประดิษฐ์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
นายต่วน สาธุ ได้สร้างถนน ด้วยความมุมานะอย่างสูงที่จะพัฒนาการเดินทางแก่ชาวบ้านที่อาศัยในสวน เลียบแม่น้ำให้มีถนนออกสู่ถนนเจริญกรุงให้ได้ เพื่อให้ความเจริญเข้าถึงให้ได้ โดยท่านคุณต่วน ได้บริจาคที่ดินตลอดที่ท่านมีอยู่จากสะพาน 4 ไปถึง ท่าน้ำสาธุ เท่าที่ท่านมี บางที่ดินที่เป็นของคนอื่น ท่านก็เอาที่ดินที่อื่นที่ท่านมีไปขายเอาเงินมาซื้อที่ ทางผ่านทำถนนให้ต่อกันให้ได้ โดยจ้างคนจีนสมัยนั้นช่วยสร้างค่าแรงวันละ 10 สตางค์ ต่อคน ช่วยกันขนดินมาทำถนน ยืนต่อแถวเอาดินใส่บุ้งกี่ทะยอยส่งต่อๆ กัน วันนึงต้องใช้จ่ายสตางค์เยอะมาก แต่ความพยายาม และปณิธาน อันแรงกล้าที่จะทำความสะดวกให้แก่มหาชนส่วนรวม ท่านจึงทำทุกอย่างให้สำเร็จให้จงได้ จนได้ความเจริญมาถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันยังมีอนุสรณ์สถานท่านผู้มีพระคุณผู้นี้ตั้งไว้ที่ริมถนนสาธุประดิษฐ์ บริเวณปากซอย 20 ซึ่งอยู่ระหว่างโรงเรียนสารสาสน์กับสามแยกถนนจันทน์ -สาธุประดิษฐ์ (ข้อมูลจาก : http://th.wikipedia.org/)
เราวิ่งกันมาจากถนนสาธุประดิษฐ์ครับ ผ่านแยกบริเวณถนนหน้าเซ็นทรัลพระราม 3 ตรงนี้ถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะถึงเซ็นทรัล ตรงไปสามารถเลือกได้ว่าจะขึ้นทางด่วนฝั่งไหน ฝั่งซ้ายไป ท่าเรือ-บางนา-ดินแดง ฝั่งขวาไป ดาวคะนอง-พระราม 9-แจ้งวัฒนะ
นี่คือทางขึ้นฝั่งขวานะครับ
เราตรงข้ามแยกกันไปเพื่อที่จะไปช่วงสาธุประดิษฐ์ตอนปลาย
หน้าตาถนนก็เป็นแบบนี้ เส้นสุดคลาสสิกที่อยู่ของชาวบ้านตั้งแต่สมัย 20-30 ปีก่อน
ตึกที่เห็นเหลืองๆคือคอนโดเลอริช สาธุประดิษฐ์ ที่อยู่ติดถนนใหญ่
วิ่งตรงไปนิดนึงจะเจอแยกซอยสาธุ 44 – 45
ว่ิงตรงไปเรื่อยๆจะถึงสามแยกยานนาวา
วิ่งตรงข้ามสามแยกยานนาวาไปนะครับ
ตรงนี้มีปั๊ม Esso อยู่ก่อนถึงซอยทางเข้าโครงการ
ด้านซ้ายคือซอย 49 นะครับ เราจะวิ่งเลยกันไปนิดนึงก่อนเพื่อสำรวจเส้นทาง
ตรงไปอีกนิดนึงจะเจอตลาดสดอยู่ด้านซ้ายครับ คึกคักทีเดียว
เรากลับรถกันมาใหม่เพื่อที่จะเข้าซอย 49
ตามป้ายที่เขียนว่าคอนโดสาธุประดิษฐ์ 49 ไปเลยครับ
สภาพซอย 49 ปัจจุบันหน้าตาเป็นแบบนี้ ซึ่งเป็นถนน 2 เลนรถสวนกัน
ถนนสาธุประดิษฐ์เป็นถนนที่มีความคึกคักและอุดมสมบูรณ์ มีร้านอาหารขายตลอด 2 ข้างทาง อย่างร้านนี้เป็นร้านที่ตั้งอยู่ปากซอย 49 เลยครับ
เยื้องๆกับปากซอย 49 เป็นปั๊มน้ำมัน shell ครับ
ฝั่งขวาของปากซอยก็มี 7-11 และตู้ ATM ไว้ให้ใช้บริการด้วยครับ
มีวินมอเตอร์ไซค์บริการตลอดทั้งวันถึงดึกเลยครับ ป่ะเราเข้าไปในซอยกันครับ
เข้ามาไม่กี่สิบเมตร ก็จะเจอกับองค์การโทรศัพท์สาธุประดิษฐ์ทางด้านซ้ายมือ
ถึงข้างในซอยจะแคบนิดก็ยังวิ่งสวนกันได้
เข้าไปอีกหน่อยจะแคบลง เพราะตึกแถวทั้งหลายตั้งร้านค้ากันบนถนนเลย สังเกตไก่ย่างด้านซ้ายมือ แต่ก็ยังวิ่งสวนกันได้อยู่
ผ่านซุ้มนี้ไปจะโดนเก็บเงิน เพราะเป็นถนนส่วนบุคคล … dcondo สาธุประดิษฐ์ก็ตั้งอยู่ในนี้
สอบถามทางโครงการพบว่าถ้าเป็นลูกบ้านจะไม่ต้องจ่ายเงิน ถ้ามีเพื่อนมาหาก็จะสามารถมาประทับตรงที่โครงการได้
ถึงหน้าโครงการกันแล้วครับ
จากหน้าโครงการเราลองมองย้อนกลับไปหน้าปากซอยกันครับ สภาพถนนกว้างพอสมควร ที่ขนาดมีรถจอดสองข้างทาง รถก็ยังวิ่งสวนกันได้อย่างสบายๆ
วิ่งตรงออกไปเรื่อยๆจะไปออกเส้นใต้วงแหวนได้
นี่ละครับใกล้แล้ว
หน้าตาทางออกท้ายซอยเป็นอย่างนี้เลยครับ
ถนนเส้นนี้เป็นถนน one-way นะครับ ตรงไปก็ไปถนนยานนาวา ถ้ากลับรถใต้สะพานจะไปออกพระราม 3
สุดถนนยานนาวาก็จะวกกลับมาที่สามแยกยานนาวา-สาธุประดิษฐ์ที่เราพึ่งจะวิ่งผ่านกันมาครับ
เจาะลึกตัวโครงการ
dcondo สาธุประดิษฐ์ 49 มีทั้งสิ้น 3 ตึก เป็นอาคารพักอาศัย 2 ตึกและอาคารสโมสร 1 ตึก ห้องพักทั้งสิ้น 396 ยูนิต ที่จอดรถแบบจอดเข้าซอง 141 คัน คิดเป็น 35% จากจำนวนห้องทั้งหมด
โครงการนี้มีการออกแบบสไตล์ Neo-Classic ซึ่งจะมีกลิ่นอายความเป็นยุโรปตั้งแต่ก้าวเข้ามาในโครงการ
Master Plan อย่างที่บอกเป็นรูปตัว S แบบนี้ ตึกด้านหน้าคือตึก A ตึกด้านหลังคือตึก B หันหน้าเฉียงๆตะวันตก-ตะวันออก เชื่อมกันด้วยสระว่ายน้ำและ Club House ตรงกลาง
ฝั่งด้านบนของภาพคือฝั่งตะวันออก และฝั่งด้านล่างของภาพคือฝั่งตะวันตก
วิวที่น่าจะ Note เอาไว้หน่อยก็คือวิวของตึก A ฝั่งตะวันออก ชั้นที่ 6-7-8 ฝั่งใกล้ Club House ที่จะหันไปเจอ The Pano และสะพานวงแหวนอุตสาหกรรมพอดี เล็งๆดูจากสำนักงานขายน่าจะเห็นชัดเพราะอยู่ใกล้ แต่บอกไว้ก่อนว่าเนื่องจากตึกนี้เป็นตึกเตี้ยสูง 8 ชั้น ดังนั้นก็อย่าคาดหวังอะไรกับวิวมากนะครับ
แผนผังชั้น G ของตึก A ก็มีห้องพักอยู่กับส่วนของ Lobby ซึ่งตัว Lobby ทำเป็น Double Volume สูงกินไปถึงชั้น 2 เลย ห้องพักชั้นล่างจะถูกที่สุดในโครงการ
ตึก B ยาวกว่าตึก A เล็กน้อย มี Lobby สูงเท่ากับสองชั้นเช่นกัน ลิฟท์สองตัวทั้งสองตึก ไม่มี ลิฟท์บริการขนของแยกต่างหาก
ตึก A มีความหนาแน่นต่ำกว่าตึก B โดยมีความหนาแน่นอยู่ที่ 23 ยูนิตต่อชั้น
ตึก B มีความหนาแน่นอยู่ที่ 28 ยูนิตต่อชั้น
- อัตราส่วน Lift ของตึก A อยู่ที่ 178 ยูนิตต่อลิฟท์ 2 ตัว = 1:89 ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่ดีทีเดียว
- อัตราส่วน Lift ของตึก B อยู่ที่ 218 ยูนิตต่อลิฟท์ 2 ตัว = 1:109 ก็ยังไม่แย่เท่าไร
ตึก A จะอยู่หน้าสุด ติดกับประตูทางเข้าโครงการ
บริเวณหน้าตึก A ก็จะมีลานจอดรถ มีห้องพักตั้งแต่ชั้น 1 หน้าตึกจะหันไปทางทิศตะวันตก ซึ่งมีแถวอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นตั้งขนานอยู่ สำหรับห้องด้านฝั่งนี้ควรเลือกชั้น 7 ขึ้นไปครับ
ส่วนด้านหลังอาคารเป็นทิศตะวันออกติดกับโกดังเก็บกระดาษในระยะประชิด ซึ่งมีความสูงเกือบถึงตึก 3 ชั้น ดังนั้นถ้าระยะปลอดภัยควรเลือกห้องตั้งแต่ชั้น 4 ขึ้นไปดีกว่าครับ ทิศใต้ของตึก A ที่เป็นห้องมุมทางโครงการเจาะหน้าต่างมาให้ ก็จะได้รับวิวสระว่ายน้ำของโครงการครับ
หน้าตาตึก B จะเหมือน A ทุกประการเลยครับ แต่จะหันหน้าตึกไปทางทิศตะวันออก
ซึ่งทิศตะวันออกของตึก B นี้เป็นชุมชนดั้งเดิม มีความสูงไม่เกิน 2 ชั้น ในทิศนี้ถ้าชั้นสูงก็จะได้เห็นวิวตึก Pano และสะพานภูมิพลด้วยนะครับ
ภาพนี้ถ่ายจากชั้น 2 ของคลับเฮ้าส์ ซึ่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ก็จะเห็นสะพานภูมิพลอยู่ลิบๆ และตึกสูงๆที่อยู่ข้างๆคือตึก Pano ครับ
ส่วนตำแหน่งห้องที่อยู่ในกรอบสีแดง ตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไปก็จะได้รับวิวสระว่ายน้ำครับ
ด้านหลังของตึก B ซึ่งเป็นทิศตะวันตก ในปัจจุบันก็จะได้วิวแบบนี้นะครับ แต่ในอนาคตก็ไม่การันตี(ภาพนี้ถ่ายจากชั้น 2 นะครับ)
จากรูปเมื่อกี้ ผมมองย้อนไปทางท้ายโครงการก็จะเจอกับตึก LPN Riverside พระราม3 ตั้งตระหง่านอยู่ตรงนี้เลยครับ
ส่วนถ้ามองไปด้านหน้าโครงการก็จะเห็นตึกอพาร์ทเม้นท์สูงๆอยู่หลายตึกเลยทีเดียวครับ แล้วยังเห็นตึก The Trust อยู่ลิบๆนู่นด้วย … ก่อนที่จะเข้าไปในตึกเดี๋ยวเราไปดูส่วนกลางกันครับ
หน้าตาสโมสรของ dcondo สาธุประดิษฐ์ 49 เป็นแบบนี้ มีสระว่ายน้ำและนิติบุคคลอยู่ด้านล่างสุด ชั้น 2 เป็นฟิตเนส
ทางเข้าของคลับเฮ้าส์จะมีศาลพระภูมิตั้งอยู่ด้วยนะครับ
เดินเข้ามาก็จะเจอกับส่วนนั่งพักผ่อน ซึ่งทางซ้ายมือจะเป็นส่วนของนิติบุคลล ทางขวาเป็นสระว่ายน้ำและห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนบันไดที่อยู่ข้างหน้าก็จะเป็นทางขึ้นไปห้องฟิตเนสครับ
เป็นโซฟาชุดใหญ่นะครับ นั่งได้ประมาณ 5 คน มีอยู่ 3 ชุด
หน้าตาของห้องนิติบุคคลครับ
สระว่ายน้ำที่นี่เป็นระบบคลอรีน มีขนาด กว้าง 7 เมตร ยาว 23 เมตร ลึก 1.2 เมตร
ข้างสระว่ายน้ำก็มีเก้าอี้ไว้นั่งเล่น … ส่วนของห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าจะอยู่ด้านหนัง เดี๋ยวเราไปดูกัน
ทางเดินไปห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าครับ พื้นจะปูด้วยกระเบื้อง ห้องน้ำจะแบ่งแยกชายหญิงชัดเจน แต่ไม่มีห้องซาวน่านะครับ
อ่างล้างหน้า พร้อมกระจกทรงสูงจรดเพดาน … จะสูงไปไหนครับเนี่ย
ในห้องน้ำจะมีล็อกเกอร์ไว้เก็บสัมภาระของลูกบ้านไว้ให้ด้วยครับ
ขึ้นบันไดไปดูชั้นสองกันดีกว่าครับ
บันไดทางขึ้นชั้นสองเป็นพื้นหินทรายล้าง และด้านข้างแทนที่จะเป็นผนังทึบ ทางโครงการก็ทำเป็นช่องสำหรับให้ลมและแสงผ่านเข้ามาได้
บนเพดานห้อยโคมไฟขนาดใหญ่
มุมมองจากด้านบน
ถึงห้องฟิตเนสแล้วครับ จะเป็นประตูบานสวิงเปิดเข้าไปนะครับ (ประตูเบี้ยวหน่อย เลนส์มันไวด์น่ะครับ)
เป็นห้องกระจกติดแอร์ พื้นปูพรม สามารถรับวิวจากภายนอกได้ครับ
โซนลู่วิ่งและจักรยาน หันออกไปทางด้านหน้าโครงการ
ปั่นจักรยานไปก็ดูคนว่ายน้ำไปได้นะครับ
มุมมองสระว่ายน้ำจากชั้นสอง
เวทแมชชีน
ดัมเบล
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
ในส่วนของส่วนกลางก็จบแล้วนะครับ เดี๋ยวเราไปดูตึกที่สร้างเสร็จแล้วกันดีกว่าครับ …
ตึกที่เราจะเข้าไปรีวิวจะอยู่ชั้น 2 ของตึก B นะครับ
ประตูทางเข้าตึกเป็นประตูกระจกบานสวิง มีหลังคาสำหรับกันแดดกันฝน เพื่อความสะดวกสบายในการรับส่งลูกบ้านครับ (ปกติพี่รปภ.จะนั่งประจำการที่เก้าอี้ตัวขาวๆตัวนั้นนะครับ)
ล็อบบี้เป็นแบบ Double Volume ติดแอร์เย็นสบายเลยครับ แต่มีขนาดเล็กไปนิ๊ดนึง
อีกมุมนึงของล็อบบี้ มุมนี้จะนั่งสบายกว่ามุมเมื่อกี้หน่อยนึง
จะเข้าไปส่วนที่พักอาศัยต้องใช้คีย์การ์ดในการเข้า ส่วนการออกใช้วิธีกดปุ่มออกได้เลยครับ
เดินเข้ามา ซ้ายมือจะเป็น Mail Box นะครับ
แต่ขนาดมันเล็กไปหน่อยนะครับ ใส่ได้แค่ซองจดหมายขนาดธรรมดา
ถ้ดจากห้อง Mail Box ก็เป็นห้อง Laundry นะครับ
มีทั้งเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า และตู้น้ำหยอดเหรียญไว้บริการครบครับ
ส่วนที่อยู่ข้างๆกันก็จะเป็นห้องน้ำรับรองแขก แต่ดันมาทำไว้ในส่วนพักอาศัย จึงไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ในการใช้การจริง เพราะต้องมีคีย์การ์ดผ่านประตูเข้ามา
ลิฟท์โดยสารมี 2 ตัวต่ออาคาร จะไม่มีลิฟท์เซอร์วิส
ลิฟท์ยี่ห้อ Sigma นะครับ
ลิฟท์ไม่ได้เป็นลิฟท์ล็อคชั้นและไม่ต้องใช้คีย์การ์ดแตะนะครับ สามารถขึ้นไปวิ่งเล่นชั้นอื่นได้
โถงลิฟท์จะมีกล้องวงจรปิดติดอยู่ ประตูด้านซ้ายคือห้องทิ้งขยะ
เปิดมาจะมีหน้าตาแบบนี้
มีถังแบ่งแยกชนิดขยะชัดเจน
โถงทางเดินกว้าง 1.5 เมตร พื้นปูกระเบื้องธรรมดา
แต่ละชั้นจะมีบันไดหนีไฟกระจายอยู่ 3 จุด เป็นพื้นปูนธรรมดา ไม่ได้ปูกระเบื้อง … ป่ะ เดี๋ยวเราไปดูห้องจริงกันครับ
Product Walkthrough
โครงการ dcondo สาธุประดิษฐ์ 49 มีห้องแบบเดียว คือ Studio Type 29.7 ตารางเมตร ขนาดอาจจะบวกลบหน่อยเพราะว่าแบ่งให้เป๊ะๆๆเลยคงจะไม่ได้ มีความคลาดเคลื่อน +- 0.2 ตารางเมตร
ห้องตัวอย่างนี้จะอยู่ที่ชั้น 2 โดยระเบียงจะหันไปทางด้านทิศตะวันตก … ทางโครงการขายเป็นแบบ Fully Furnished นะครับ ก็จะมีเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและ Built-in ให้ แต่ไม่มีผ้าม่านและที่นอนให้ ส่วนการตกแต่งก็จะมีบางอย่างแตกต่างไปจากห้องตัวอย่างในช่วง Pre-Sale นะครับ
ประตูไม้สีขาว มีตาแมว พร้อมลูกบิดธรรมดาครับ
ลูกปิดดูธรรมดาไปหน่อยนะครับ น่าจะใช้แบบก้านโยก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ลูกบ้านสามารถหาเปลี่ยนได้ตามใจชอบ
พื้นห้องเป็นลามิเนต 8 มม. มีคิ้วลามิเนตเป็นตัวจบ
ฟังก์ชั่นห้องจะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆนะครับ … เมื่อเปิดประตูเข้ามา จะเจอกับส่วนแรกคือ Livinig Room และ Bedrooom ไว้ด้วยกัน และส่วนที่สองจะเป็นห้องน้ำ ครัว และระเบียง กั้นด้วยประตูบานเลื่อน เรามาดูฟังก์ชั่นในส่วนแรกกันก่อนนะครับ ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.5 เมตร
ด้านซ้ายจะเป็นโต๊ะทานอาหารชิดผนังแบบนี้ นั่งได้ 2 คนเบียดๆ … อบอุ่นดีครับ อิอิ
ด้านขวามือก็จะเป็นที่วางทีวีและชั้นวางของ
เหนือชั้นวางของเป็นคัทเอาท์ ไม่มีตู้ครอบมาให้นะครับ
โซฟา 2 ที่นั่งและโต๊ะกลาง
มุมจากในห้องย้อนออกไป จะเห็นว่ามีระยะดูทีวีกว้างพอสมควร สามารถใส่ทีวีจอใหญ่ๆได้เลย
ไฟที่ได้เป็นไฟซาลาเปา (ไส้ครีม) ข้างๆกันเป็นเครื่องตรวจจับความร้อน
สวิตช์ไฟ
แอร์ของ Daikin 12,000 BTU
ปลั๊กไฟและช่องรับสัญญาณทีวี
โครงการให้เตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง
ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งเป็นแบบ Built-in ติดผนังนะครับ ไม่ใช่แบบลอยตัว … ตัวตู้เป็นแบบบานเลื่อน มีขนาดค่อนข้างเล็กคิดว่าไม่น่าพอสำหรับสาวๆ
ฟังก์ชั่นห้องแบบนี้ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย … ข้อดีคือ ห้องมีความโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด และติดแอร์ตัวเดียวก็เย็นได้ทั่วห้อง ส่วนข้อเสียคือ ห้องนอนก็จะขาดความ Privacy ไป
หน้าต่างจะได้บานใหญ่ เป็นบานเลื่อนซ้ายขวา กระจกสีเขียวตัดแสง กรอบอลูมิเนียม … นี่จะเป็นวิวที่ได้จากชั้น 2 ปัจจุบันข้างหลังจะเป็นที่โล่งๆ อนาคตต้องรอดูกันต่อไปนะครับ
พื้นที่ข้างเตียงเหลือๆ สามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้
ปลายเตียงเป็นทางเข้าห้องครัวและห้องน้ำ เดี๋ยวเราเข้าไปดูกันครับ…
เป็นประตูบานเลื่อนกระจกฝ้า
ธรณีเข้าห้องครัวจะก่อขึ้นมาสูงพอสมควร เวลาเดินเข้าออกระวังกันด้วยนะครับ
ข้อดีของประตูบานเลื่อนแบบนี้ก็คือ ประหยัดพื้นที่และยังมีแสงผ่านมาได้ แต่ข้อเสียคือประตูจะปิดไม่สนิท กลิ่นจากห้องน้ำและห้องครัวรวมถึงแมลงตัวเล็กๆสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้
โซนนี้จะประกอบไปด้วยครัว ห้องน้ำ และระเบียง … เดี๋ยวเราไปดูห้องน้ำกันก่อนครับ
ในห้องน้ำก็จะมีฟังก์ชั่นมาตรฐานทั่วไปนะครับ ประกอบไปด้วยอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และฝักบัวอาบน้ำ … พื้นปูด้วยกระเบื้องลายตารางหมากรุก ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.3 เมตร
อ่างล้างหน้าเป็นของ American Standard พร้อมกระจกเงา(บานจิ๋ว) ข้างหลังอ่างล้างหน้ามีที่สำหรับวางของเล็กๆน้อยๆ
โถสุขภัณฑ์และสายฉีดชำระ
ส่วนอาบน้ำไม่มี Shower Box ให้นะครับ ต้องไปติดกันเอาเอง แต่จะมี Curb กั้นน้ำส่วนเปียกไว้ให้แบบนี้
หน้าตาของฝักบัว
ที่วางสบู่ ให้มาแค่นี้จริงๆ
ห้องน้ำไม่มีพัดลมดูดอากาศ แต่จะมีหน้าต่างบานเล็กๆไว้ระบายอากาศ (ไปทางห้องครัว…หอมเชียว)
ชุดครัวที่โครงการให้มาจะมีอ่างล้างจานและตู้เก็บของบนล่าง แต่ไม่มีเตามาให้ … พื้นห้องครัวเป็นกระเบื้องสีเทาอ่อน
ท็อปเคาท์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์สีขาว ด้านหลังเป็นผนังปูนทาสีขาวธรรมดา … ห้องไหนที่ทำอาหารแนะนำให้ติดกระเบื้องหรือวัสดุอื่นๆที่ง่ายต่อการเช็ดทำความสะอาด
ลิ้นชักมีช่องสำหรับแยกอุปกรณ์การกินไว้ให้เรียบร้อย ส่วนใต้ลิ้นชักเป็นช่องว่างไว้สำหรับวางของ แนะนำว่าเอาไมโครเวฟมาวางช่องนี้ก็ได้ บนท๊อปจะได้มีที่ว่างวางเตา
ชั้นวางของข้างบนมีบานปิด 1 ช่อง บานเปิด 2 ช่อง (น่าจะให้บานปิดมาให้ครบเนอะ)
ช่องว่างด้านข้างเว้นไว้ใส่ตู้เย็น ซึ่งมีขนาดค่อนข้างเล็ก จะวางตู้เย็นที่ใหญ่กว่านี้ไม่ได้แล้ว
ระเบียงอยู่ติดกับครัว กั้นด้วยกระจกบานเลื่อน 3 ตอน
ก่อเป็น Curb ขึ้นมาเพื่อกันน้ำซึมเข้ามาเวลาฝนสาด
ขนาดของระเบียงจะสังเกตได้ว่ามีพื้นที่ไม่มาก ถ้าวางเครื่องซักผ้าลงไปก็จะกินพื้นที่ไปครี่งนึงแล้วนะครับ … พื้นปูกระเบื้องชนิดเดียวกับห้องครัว ราวระเบียงเป็นระแนงเหล็ก
ทางโครงการเตรียมท่อน้ำดีและท่อน้ำทิ้งไว้ให้สำหรับเครื่องซักผ้า และมีปลั้กพร้อมฝาปิดกันน้ำ
คอมเพรสเซอร์แขวนด้านบน เป่าลมเข้าหาผนัง ไม่มีกริลปิด
นี่ก็เป็นห้องตัวอย่างขนาด 29 ตร.ม. … ทีนี้เรามาดูห้องที่ทางโครงการขายจริงกันบ้าง ว่าถ้าลูกค้าซื้อไปแล้วจะได้อะไรบ้าง
ห้องที่ลูกค้าซื้อก็จะเป็นผนังทาสีขาวเรียบๆ ไม่มีวอลเปเปอร์ ไม่มีผ้าม่าน แต่จะมีเฟอร์นิเจอร์มาให้ครบ เช่น เตียง 5 ฟุต(ไม่มีที่นอน) โต๊ะข้างเตียง ตู้เสื้อผ้า+โต๊ะเครื่องแป้ง
โต๊ะทานอาหาร พร้อมเก้าอี้ 2 ตัว และชุดโซฟา
ชั้นวางทีวี
ชุดครัว
ห้องน้ำตารางหมากรุก
- Studio อาคาร A ชั้น 6 เนื้อที่ 29.70 ตารางเมตร ราคา 1.98 ล้านบาท หรือ 66,600 บาทต่อตารางเมตร
- Studio อาคาร B ชั้น 3 เนื้อที่ 29.70 ตารางเมตร ราคา 1.97 ล้านบาท หรือ 66,600 บาทต่อตารางเมตร
- Fully Furnished
- จอง 5,000 บาท
- ทำสัญญา 20,000 บาท
- ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 11 February 2014
เนื่องจากโครงการนี้มีแบบห้องเพียงแบบเดียว ราคาก็จะไม่ต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับชั้นและทิศของห้อง
- ราคาเริ่มต้น 1.89 – 2.01 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ย 65,000 บาทต่อตารางเมตร
- ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตารางเมตร จ่ายล่วงหน้า 1 ปี
- Fully Furnished โดยโครงการให้เฟอร์นิเจอร์ดังนี้
- โต๊ะกินข้าวพร้อมเก้าอี้ 2 ที่นั่ง
- ตู้วางทีวีพร้อมชั้นวางของเหนือทีวี
- โชฟาขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง
- เตียงขนาด 5 ฟุต(ไม่มีที่นอน) พร้อมโต๊ะหัวเตียง
- ตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง
- เคาท์เตอร์ครัว + ชั้นวางของด้านบน
- โปรโมชั่น One Price ตึก A ชั้น 2 ฝั่งทิศตะวันออก ราคา 1.69 ล้านบาท
- ห้องอื่นๆจะได้รับบัตรกำนัลสำหรับใช้แลกผ้าม่านและที่นอน มูลค่า 15,000 บาท และบัตรกำนัล PowerBuy 20,000 บาท(สามารถแลกเป็นส่วนลดได้) และได้รับยกเว้นค่าโอน ค่าส่วนกลาง 1 ปี และเงินกองทุน
เจาะลึกรวบยอด
เนื่องจากทีมงานได้เคยรีวิวช่วงเปิดตัวโครงการใหม่ๆไปแล้ว ซึ่งมีบทสรุปให้ครบถ้วน ใครสนใจที่จะเข้าไปอ่านรีวิวฉบับที่ 215 คลิกเข้าไปอ่านได้ที่นี่ครับ และเราก็ตัดบทสรุปบางส่วนมาไว้ที่บทความนี้นะครับ
ทำเลของ dcondo สาธุประดิษฐ์ 49 อยู่ในเมืองและเป็นทำเลที่ดีที่สุดของแบรนด์ dcondo เท่าที่เคยมีมา แต่เมื่อเอามาเทียบกับคอนโดมิเนียมของคู่แข่งขันในละแวกใกล้เคียงก็ต้องจัดว่าไม่ได้ดีมาก เพราะเป็นตึกที่อยู่ในซอยเข้าลึกไป 650 เมตร และเป็นซอยที่ไม่ใช่ซอยหลักที่ใช้ในการคมนาคม เนื่องเพราะติดพื้นที่ส่วนบุคคลที่ตั้งบล็อคการจราจรด้วยด่านเก็บเงินอยู่กลางซอย หากมองในมุมกลับกันก็เป็นเรื่องดีที่จะได้ความปลอดภัยเพิ่มอีกหน่อย ไม่มีรถคนนอกวิ่งไปวิ่งมาพลุกพล่าน ไม่รบกวนการอยู่อาศัยของลูกบ้าน
การเดินทางด้วยรถยนต์ทำได้สะดวก เนื่องเพราะซอยสาธุประดิษฐ์ 49 นี้สามารถเข้าออกได้ทั้งสองทาง คือถนนสาธุประดิษฐ์ หรือถนนใต้วงแหวนอุตสาหกรรมที่จะเชื่อมไปยังถนนพระราม 3 หรือถนนยานนาวาได้ แต่ต้องบอกว่าถนนสาธุประดิษฐ์นี้รถติดนะครับ เพราะเป็นทำเลชุมชนเก่าแก่ จะมีรถจอดสองข้างทางตลอดเห็นเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะแวะซื้อของหรืออะไรก็ตาม หากเทียบกับถนนพระราม 3 หรือถนนสาธุประดิษฐ์ตอนต้นที่สามารถขึ้นทางด่วนได้สะดวก ก็จะเป็นรองครับ
ที่พิเศษของทำเลนี้คือวงแหวนอุตสาหกรรม หรือสะพานภูมิพล 1 & 2 ที่เชื่อมตัวเมืองฝั่งพระราม 3 ไปยังสมุทรปราการและพระประแดง ทำให้ผู้ที่มีที่ทำงานอยู่แถวนั้นหรือต้องไปกลับแถวนั้นบ่อยๆเดินทางสะดวกขึ้น และส่งผลเรื่องวิวสวยงามในทางอ้อมๆให้กับยูนิตบางยูนิตด้วย
การเดินทางโดยไม่ใช้รถอันนี้ลำบากนิดนึง เนื่องจากอยู่ในซอยลึก 650 เมตร ไม่มีรถไฟฟ้า ไม่มีป้ายรถเมล์ แถมเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลอีกทำให้รถ Taxi ไม่สามารถวิ่งผ่านไปมาได้ ต้องเดินออกไปสักระยะจะเจอกับวินมอเตอร์ไซค์ หรือใช้รถ Shuttle Bus ของโครงการ ที่บอกว่าจะไปรับส่งให้ที่ BRT แต่ก็อาจจะไม่ใช่คำตอบของหลายๆคน ในขณะที่ข้อดีของการเดินเท้าแถวนี้ก็คือมีชุมชน ตลาด และร้านค้าอยู่ในซอยสาธุฯ 49 ทำให้เดินออกไปซื้อของเล็กๆน้อยๆได้โดยที่ไม่ต้องใช้รถ
วัสดุอุปกรณ์ของโครงการ dcondo สาธุประดิษฐ์ 49 ก็ใช้เหมือนกับเกรด dcondo ทั่วๆไป ดังนั้นจะเหมือนกับคอนโดราคา 4 หมื่นกว่าบาทต่อตารางเมตร ไม่สมกับราคา 6 หมื่นกว่าบาทต่อตารางเมตรที่เป็นเกรดของ The BASE อันนี้อาจจะต้องติดลบนะครับ
แสนสิริทำการออกแบบได้ดี แปลนห้องโอเค แปลนอาคารโอเค การออกแบบมีคอนเซปท์ของ Modern Classic ที่เข้ากับทำเล คือเป็นทำเลคลาสสิกอย่างสาธุประดิษฐ์ที่เอามาพัฒนาในยุค Modern แต่รายละเอียดเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลายก็ไม่ได้เข้ากับ Modern Classic เท่าไร หลายๆชิ้นก็เป็น Standard dcondo เหมือนกับที่ให้กับ dcondo ทำเลอื่น ส่วนสิ่งที่เห็นในห้องตัวอย่างก็เป็นเพราะ prop ทั้งนั้นที่ทำให้ห้องเกิดความเป็น Modern Classic ขึ้นมา
สาธารณูปโภคเป็นจุดที่รับได้ของโครงการนี้ เพราะมีทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนสและสโมสรแยกต่างหากจากตัวอาคาร วางอยู่ตรงกลางคือจุดเชื่อมต่อของอาคาร A และ B ทำให้ทั้งสองอาคารสามารถเดินมาใช้งานได้ใกล้พอๆกัน
บทสรุปเพิ่มเติมหลังโครงการสร้างเสร็จ ขอสรุปดังต่อไปนี้ครับ
หน้าตาโครงการหลังสร้างเสร็จแล้วถือว่าทำออกมาได้ดีกว่าตัวโมเดล หน้าตาและโทนสีที่ใช้เรียบง่ายมีกลิ่นอายความเป็นยุโรปหน่อยๆ ล็อบบี้ก็ตกแต่งได้สวยงามดี ในส่วนของส่วนกลางมีมาให้ไม่เยอะมากแต่จัดมาใหญ่ใช้ได้ สระว่ายน้ำยาว 23 เมตรถือว่าว่ายกันแล้วเหนื่อยเลยทีเดียว และมีที่นั่งเล่นกระจายอยู่รอบๆสระ ส่วนของห้องฟิตเนสก็มีขนาดใหญ่และอุปกรณ์ค่อนข้างเยอะ เมื่อเทียบกับคอนโดในระดับเดียวกัน … วัสดุภายในห้องถือว่าดีพอใช้ ห้องจริงที่สร้างเสร็จแล้วทางโครงการได้ปรับปรุงวัสดุบางชนิดให้ดีขึ้น อาทิเช่น สุขภัณฑ์เปลี่ยนมาใช้ American Standard และเคาท์เตอร์ครัวได้ปรับเปลี่ยนหน้าตาให้ดูดีขึ้น และเพิ่มชั้นวางของเหนือเคาท์เตอร์ ซึ่งดูดีกว่าห้องตัวอย่างในช่วง Pre-Sale
ความรู้สึกโดยรวมของส่วนกลางจัดอยู่เหนือความคาดหวัง มีการจัดทำดีไซน์ที่สวยแปลกตา ได้กลิ่น Neo-Classic ในบางส่วน ลดภาพลักษณ์ของ dcondo ที่เป็นคอนโดราคาประหยัดของแสนสิริออกไปได้บ้าง แต่ในงานหลายๆจุดก็ยังคงเกรดเดิมเอาไว้ เช่นโถงลิฟท์ ทางเดิน ประตูหน้าห้อง ซึ่งดูไม่ค่อยพรีเมี่ยมเท่าไร แต่หากเทียบกับ dcondo โครงการอื่นๆ ก็ต้องจัดว่า dcondo สาธุประดิษฐ์ 49 ทำคุณภาพออกมาได้ดีกว่าปกติครับ
Judgement
***ขอยกยอดการให้คะแนนจากรีวิวฉบับเดิมเป็นตัวอ้างอิงนะครับ
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 66,000 บาทต่อตารางเมตร, 19 August 2012***
- ทำเล 7.5/10 – สาธุประดิษฐ์ตอนปลาย ในซอย 650 เมตร
- เดินทางด้วยรถ 8.25/10 – เข้าออกสองทาง รถติดบ้างเป็นระยะ มีวงแหวนอุตสาหกรรมอยู่ในระยะใกล้
- ไม่ใช้รถ 7/10 – ต้องพึ่งพาพี่วินหรือ Shuttle Bus
- วัสดุ 7/10 – ปรับขึ้นมาเพราะโครงการอัพเกรดวัสดุบางส่วน
- แบบ 7.5/10 – ทำได้โอเค
- สาธารณูปโภค 8.5/10 – สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สโมสร แชร์กันจาก 2 ตึก – ส่วนกลางที่เป็น Lobby ฯลฯ ทำได้ดีกว่าที่คาดหวัง
- MAIN CLASS
- 7.6 / 10.00
BOTTOM LINE
dcondo สาธุประดิษฐ์ 49 เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบแบรนด์แสนสิริ มีที่ทำงาน โรงเรียนลูกหรือบ้านเดิมอยู่ในทำเลสาธุประดิษฐ์หรือบริเวณใกล้เคียง งบประมาณไม่เกิน 2 ล้านต้นๆ
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ