cover 3-4 review copy 2

รีวิวฉบับที่ 1095 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมห้องตัวอย่างโครงการ Craft เพลินจิต คอนโด Low rise ในซอยนายเลิศที่ห่างจากสถานี BTS เพลินจิตประมาณ 220 เมตร ภายในโครงการมี Automatic parking 90% และสระว่ายน้ำบนดาดฟ้า โดยห้องตัวอย่างของโครงการสามารถเยี่ยมชมด้วยตัวเองได้ที่อาคาร United center ชั้น2 ใกล้ BTS ศาลาแดงค่ะ

Facts @ 31 May 2016

  • Craft Ploenchit (คราฟท์ เพลินจิต)
  • บริษัท ปัญจพล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
  • LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ปทุมวัน
  • รูปแบบคอนโด : Low Rise 1 อาคาร สูง8 ชั้นและ 2 ชั้นใต้ดิน 90 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด : 12 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 81 คันคิดเป็น 90% แบ่งออกเป็น Automatic parking 80 คัน และ 1 คันกลางแจ้ง
  • ที่ดินประมาณ : 0-3-87 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง :  เดือนมิถุนายน ปี 2016
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : เดือนกันยายน ปี 2018  เดือน 31 มีนาคม 2020 (Update 26/09/19)
  • 1 Bedroom ขนาด 36.5 – 47.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 7.2 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms ขนาด 57.5 – 74.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 10.8 ล้านบาท
  • 3 Bedrooms ขนาด 97.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 18.6 ล้านบาท
  • Duplex ขนาด 47.5 – 73.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 12.1 ล้านบาท
  • Penthouse ขนาด 134 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 28.4 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.50-2.55 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 7.2 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 200,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร : 02-631-1155, 091-091-4444

Update 23 February 2018

  • เริ่มก่อสร้าง : 1 พ.ย. 2016
  • คาดว่าแล้วเสร็จ : 31 ต.ค. 2018
  • ราคาเริ่มต้น 8.1 ล้านบาท
  • 1 Bedroom ขนาด 36.5 – 47.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 8.1 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms ขนาด 57.5 – 74.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 11.2 ล้านบาท
  • 3 Bedrooms ขนาด 97.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 19.4 ล้านบาท
  • 2 Duplex ขนาด 68 – 84 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 15.8 ล้านบาท
  • Penthouse ขนาด 134 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 29.5 ล้านบาท
  • Duplex 1 Bedroom SOLD OUT

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.745179, 100.549881

Print

แผนที่โครงการ คอนโด Craft เพลินจิต ตั้งอยู่ในซอยนายเลิศที่เป็นซอย one-way จากท้ายซอยบนถนนวิทยุมาต้นซอยทางถนนเพลินจิต โดยมีทางเข้า-ออก 2 ทาง ทางแรกคือประตูสำหรับการเดินจะห่างจาก BTS เพลินจิต 220 เมตร ส่วนอีกทางเป็นทางของรถยนต์จะอยู่เลยเข้าหัวมุมเข้าไปอีกหน่อย

MAP1 arrow

ที่ตั้งของโครงการคอนโด Craft เพลินจิต อยู่ในซอยนายเลิศที่เป็นซอย one-way โดยจะวิ่งจากท้ายซอยที่เชื่อมกับถนนวิทยุตอนบนวิ่งลงมาที่ปากซอยที่ต่อกับถนนเพลินจิต โดยมีระยะห่างจาก BTS เพลินจิตประมาณ 220 เมตร ทำเลโดยรอบเป็นจุดที่เรียกว่าเป็น CBD (central business district) แห่งหนึ่งของกรุงเทพจากความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินและเป็นพื้นที่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นของ Lifestyle คนเมือง

การเดินทางด้วยรถส่วนตัว จะเข้าโครงการได้จากท้ายซอยนายเลิศที่ถนนวิทยุเท่านั้น และเนื่องจากถนนวิทยุช่วงบนเป็นถนน one-way จากแยกวิทยุไปยังแยกวิทยุตัดกับเพชรบุรี ทำให้จำกัดการเดินทางเข้าไปอีก โดยถ้ามาจากสยาม-พระราม1 จะต้องผ่านแยกราชประสงค์ที่จะมีทางมุ่งหน้าไปถนนเพลินจิตแค่ 1 เลนเท่านั้นทำให้รถอาจจะเคลื่อนตัวช้า จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนวิทยุแล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยนายเลิศ ใครที่มาจากถนนสุขุมวิทตอนปลาย-อโศกก็จะต้องตรงเข้าถนนเพลินจิตก่อน แต่ตรงแยกถนนวิทยุจะห้ามเลี้ยวขวาเข้าถนนวิทยุช่วงบน เลยจะต้องเลี้ยวซ้ายเข้าถนนวิทยุตอนใต้แล้วไปกลับรถเพื่อตรงเข้าแยกวิทยุอีกที จากนั้นผ่านแยกแล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยนายเลิศ ส่วนใครที่มาจากพระราม4-สาธรก็ตรงเข้าถนนวิทยุยาวๆได้เลย ส่วนถ้ามาจากเส้นเพชรบุรีก็ะจต้องเลี้ยวซ้ายที่แยกประตูน้ำตรงเข้าแยกราชประสงค์ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพลินจิต เหตุผลที่เข้าถนนชิดลมที่ใกล้กว่าไม่ได้เพราะที่ถนนชิดลมตัดกับถนนเพลินจิตห้ามเลี้ยวซ้ายค่ะ

MAP4 tollway route1

จากเส้นทางการเดินรถบนถนน เราจะมาแนะนำเส้นทางการเดินรถไปจุดขึ้น-ลงทางด่วนกันซักหน่อย เพราะเนื่องจากในซอยนายเลิศที่เป็นซอยคอนโดเองก็เป็นซอย one-way และถนนวิทยุช่วงบนที่เป็นทางเข้าของท้ายซอยนายเลิศก็จะเป็นเส้นทาง one-way เช่นกัน

การเดินทางไปขึ้นทางด่วนมุ่งหน้าทางเหนืออย่างอนุสาวรีย์ทำได้อย่างสบายๆด้วยการออกจากซอยนายเลิศที่ถนนเพลินจิต เลี้ยวซ้าย ก็จะเจอด่านเก็บค่าทางด่วนพอดี แต่การลงทางด่วนถ้ามาจากกรุงเทพทางตอนเหนือแนะนำว่าให้ลงที่เพลินจิตใต้  เลี้ยวซ้ายเลียบกำแพงโรงงานยาสูบมาเรื่อยๆจนมาออกถนนสุขุมวิท ตรงมาเข้าถนนเพลินจิต แต่สี่แยกถนนวิทยุจะห้ามเลี้ยวขวาเข้าถนนวิทยุตอนบน ดังนั้นเราต้องเลี้ยวซ้ายที่ถนนวิทยุไปทางใต้ แล้วไปกลับรถที่หน้า All season place เพื่อตรงเข้าแยกวิทยุอีกครั้ง ผ่านสี่แยกก็ตรงไปเลี้ยวขวาเข้าซอยนายเลิศเป็นอันจบ

MAP4 tollway route2

ต่อมาเป็นเส้นทางจากโครงการไปขึ้นทางด่วนเพื่อมุ่งหน้าลงใต้ของกรุงเทพแถวคลองเตย-พระราม3 เราออกจากซอยนายเลิศมายังถนนเพลินจิตอยู่ฝั่งขวาของเกาะกั้นถนนจะสามารถเลี้ยวขวาเข้าถนนวิทยุได้ จากนั้นก็เลี้ยวขวาอีกทีเข้าถนนเพชรบุรี ทางขึ้นทางด่วนจะอยู่ทางขวามือ

ส่วนทางลงทางด่วนจากทางใต้ของกรุงเทพก็สามารถลงได้ที่ท่าเรือแถวคลองเตย ตรงยาวเข้าถนนวิทยุเลี้ยวขวาเข้าซอยนายเลิศได้เลย จะง่ายกว่าลงที่ทางลงตรงเพชรบุรี เพราะถนนวิทยุและถนนชิดลมเป็นทาง one-way รวมถึงที่ถนนชิดลมจะห้ามเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพลินจิตทำให้จะต้องวนยาวไปถึงแยกราชประสงค์แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพลินจิต

MAP2 places

ส่วนการเดินทางโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะ มีสถานีรถไฟฟ้า BTS เพลินจิตที่ใกล้ที่สุดที่ตั้งอยู่บนถนนเพลินจิต โดยจะสามารถเดินจากประตูเล็กของโครงการตรงยาวมาที่ต้นซอยนายเลิศ แล้วก็จะมีบันไดเลื่อนที่หน้าซอยขึ้นไปยังตัวสถานี ทั้งหมดในระยะ 220 เมตร โดยรอบๆตัวสถานีเองก็มี Skywalk เชื่อมกับหลายอาคารทั้ง Park venture, Homepro ที่ Waveplace ยาวไปถึงเชื่อมกับ Central embassy และสะพานลอยบนแยกถนนวิทยุ ซึ่งถ้าขยันๆเดินหน่อยจาก BTS เพลินจิตเข้า Central embassy จะต่อกับ Central ชิดลมและจะไปเชื่อมกับ BTS ชิดลม ซึ่งจะเชื่อมต่อไปยัง Skywalk เหนือแยกราชประสงค์ที่ต่อไปอีกคือ BTS สยามที่เป็นสถานี Interchange กับสายสีลม สามารถไปออฟฟิสแถวสาทร หรือไปสุดสายที่ BTS บางหว้าได้เลย ส่วนแท๊กซี่ค่อนข้างหาง่ายมากจากหน้าโครงการเลยเพราะแท๊กซี่มักจะใช้ซอยนายเลิศเป็นทางลัดอยู่แล้ว ส่วนพี่วินจะอยู่ที่หน้าซอยนายเลิศใกล้ BTS

ทำเลของซอยนายเลิศแม้จะเป็นซอย one-way แต่ในซอยมีบ้านพักอาศัยขนาดใหญ่ มีสถานฑูตสวิสเซอร์แลนด์ มีคอนโดและอพาร์ตเมนท์ Low rise ระดับ Luxury อยู่จำนวนไม่น้อย พอออกจากซอยมาที่ถนนวิทยุทางเหนือก็จะเป็นโรงแรม Swiss hotel ปาร์คนายเลิศที่มีพื้นที่ไปถึงซอยสมคิด สถานฑูตอังกฤษและ Central embassy ส่วนบนถนนเพลินจิตในระยะเดินรอบๆสถานี BTS มีทั้ง Park venture ที่มีโรงแรม Okura prestige, dean and deluca, 7-11 มีสำนักงานอยู่ด้านบน เลยไปบนถนนวิทยุหน่อยจะเป็นโรงแรม Plaza athenee และ All season place ข้างๆกันก็มีซอยร่วมฤดีที่มีร้านอาหารเด็ดๆอยู่เยอะมาก ส่วนโรงพยาบาลเอกชนคือบำรุงราษฎร์จะอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 1 โรงเรียนมาแตร์ที่ชิดลม และจุฬาที่ถนนอังรีดูนังด์

MAP3-1

เส้นทางวันนี้เราจะเน้นที่การเดินนะคะ จุดเริ่มต้นจะอยู่ที่สถานี BTS เพลินจิตทางออกที่ 3 โดยเราจะลงบันไดไปยังทางเดินเท้าแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยนายเลิศ เดินตรงอย่างเดียวไปประมาณ 220 เมตร จะเจอกับประตูทางเข้า-ออกสำหรับคนเดินของโครงการค่ะ

เริ่มต้นที่สถานีรถไฟฟ้า BTS เพลินจิต สายสุขุมวิท

มองลงมาจะเห็นซอยนายเลิศอยู่ใกล้ๆกับตัวสถานี ทางซ้ายมือเป็นบ้านพักอาศัยขนาดใหญ่ ส่วนทางขวามือเป็นที่ว่างเปล่าที่มีการเคลียร์หน้าดินแล้วเรียบร้อย มีการล้อมรั้วเขียน Bangkok sky

การเดินรถของซอยนายเลิศแม้จะมี 2 เลนแต่ว่าก็จะเป็นทาง one-way ทั้งคู่จากท้ายซอยติดกับถนนวิทยุ โดยต้นซอยที่ติดกับถนนเพลินจิตจะสามารถเลี้ยวซ้ายและขวาได้

มองไปทางขวามือนิดนึงจะเห็นจุดขึ้นทางด่วนที่รอยต่อระหว่างถนนเพลินจิตและถนนสุขุมวิทช่วงต้น โดยจะเป็นทางขึ้นทางด่วนสำหรับทางตอนเหนือของกรุงเทพอย่างวิภาวดี ปทุมธานี

ส่วนฝั่งซ้ายมือที่ติดกับถนนใหญ่เป็นพื้นที่กำลังก่อสร้างอยู่คือโรงแรม Rosewood จากเครือ SC Asset ถัดไปอีกหน่อยเป็นพื้นที่คอนโด Noble เพลินจิต 3 อาคารแถมอาคารด้านหน้าเป็นอาคาร Retail ขนาดเล็กซึ่งเมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้วจะเป็นผลดีต่อโครงการ Craft เพลินจิตเนื่องจากจะมีร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร และร้านค้ามาอยู่ฝั่งเดียวกันกับซอยนายเลิศแล้ว

เราติ๊ดบัตรออกมา มุ่งหน้าทางออก 3 ค่ะ

มองไปทางขวามือก็จะเห็นเป็นบันไดเลื่อนขึ้นต่อที่ 2 จากบันไดเลื่อนด้านล่างบนทางเดินเท้าหน้าถนนเพลินจิต ทำให้สะดวกมากๆไม่เมื่อยด้วย ข้างๆกันก็มีการต่อเติมลิฟท์โดยสารจากทางเดินเท้าหน้าซอยนายเลิศเลย

ส่วนทางลงตอนนี้ก็ใช้บันไดปกติไปก่อนนะคะ

เดินลงมาอยู่บนทางเท้าบนถนนเพลินจิต ฝั่งซ้ายมือจะเป็นต้นซอยนายเลิศ มีบันไดเลื่อนขึ้นอยู่ไม่ไกล ฝั่งตรงข้ามกับซอยนายเลิศคือโรงแรม Novotel และอาคารมหาทุน พลาซ่า

หันมาทางซ้ายหน่อยจะเจอป้ายซอยนายเลิศและป้ายราคาของพี่วินโดยสาร

เข้ามาในซอยนายเลิศกว้าง 2 เลน โดยเป็นซอย one-way สามารถเลี้ยวซ้ายและขวาได้ตามปกติ ทางขวามือเป็นพื้นที่ว่างเปล่าล้อมรั้วเรียบร้อย ส่วนทางซ้ายมือเป็นบ้านพักอาศัยขนาดใหญ่

เดินตรงเข้ามาในซอยหน่อยทางขวามือเป็นอพาร์ตเมนท์ให้เช่า Low rise ส่วนทางซ้ายมือเป็นทาวน์โฮมสูง 3 ชั้นเรียงกันไปจนถึงแยกเลี้ยวซ้ายด้านหน้า

เดินตรงมาอีกหน่อยก็จะเจอกับทางแยก ทางแยกขวามือเป็นซอยตันซึ่งจะมีประตูเล็กของโครงการ Craft เพลินจิตตั้งอยู่ ส่วนทางขวาเป็นทางรถที่มาจากฝั่งถนนวิทยุซึ่งเป็นทางเข้า-ออกโครงการโดยการใช้รถนะคะ ดังนั้นเราจะพาไปดูทางตรงฝั่งขวามือกันก่อน แล้วจะพาเดินไปฝั่งซ้ายอีกที

เดินตรงเข้ามาในซอยตัน ฝั่งขวามือเป็นบ้านพักอาศัย อาคารสูง 4 ชั้นที่ด้านล่างเหมือนเปิดเป็น Home office ส่วนทางซ้ายมือเป็นพาร์ตเมนท์เพลินจิต เทอเรสสูง 9 ชั้น และด้านในจะเป็นบ้านพักอาศัยเช่นกัน

เดินตรงเข้ามาเรื่อยๆกรอบสี่เหลืองนั้นแหละค่ะจะเป็นประตูเล็กของโครงการ Craft เพลินจิตที่จะเปิดให้ลูกบ้านเข้า-ออกแบบคนเดินเท่านั้น ระยะจากประตูเล็กถึง BTS เพลินจิตอยู่ที่ 220 เมตร

แอบถ่ายสภาพภายในพื้นที่โครงการซักหน่อยนะคะ

MAP3-2

ต่อมาเราจะพาไปดูเส้นทางเข้า-ออกของรถกันบ้าง เริ่มจากทางแยกเมื่อสักครู่ ครั้งนี้เราจะเลี้ยวซ้ายกันบ้าง แล้วก็เลี้ยวขวาตามทางไปอีกหน่อยจะเจอทางเข้าโครงการอยู่ทางขวามือบนถนนภาระจำยอมระหว่าง Renova residence และทาวน์โฮมสูง 3 ชั้นค่ะ

กลับมาที่จุดทางแยกอีกครั้ง คราวนี้เราจะเดินเลี้ยวซ้ายไปทางเข้า-ออกรถของโครงการกัน

เลี้ยวซ้ายมา ฝั่งซ้ายมือก็จะเป็นทาวน์โฮมสูง 3 ชั้นที่สภาพดีหน่อยยาวไปเรื่อยๆ ด้านหน้าเป็นทางบังคับเลี้ยวขวานะคะ ไม่มีทางแยก

มาอยู่มุมทางเลี้ยว ผนังฝั่งซ้ายมือเป็นพื้นที่โครงการคอนโดของ Noble ส่วนอาคารหัวมุมด้านหน้าคือคอนโดเพลินจิตสูง 7 ชั้น

เดินตรงมาเรื่อยๆฝั่งขวามือเคยเป็นบ้านพักอาศัยตอนนี้ประกาศขายแล้วนะคะ ฝั่งซ้ายมือยังเป็นพื้นที่คอนโด Noble อยู่ ซึ่งตรงสุดทางจะมีทางเข้า-ออกโครงการ Noble อีกจุดด้วย อาจจะทำให้ซอยนายเลิศดูคึกคักกว่าปัจจุบันหน่อย

เดินตรงมาอีกฝั่งซ้ายมือจะเป็นพื้นที่สถานฑูตสวิสเซอร์แลนด์ ฝั่งขวามือคือคอนโด o2

เดินตรงมาอีกจะมีถนนภาระจำยอมทางขวามือเป็นทางเข้า-ออกรถส่วนตัวของโครงการ Craft นี้เอง

โดยถนนภาระจำยอมฝั่งขวามือจะเป็นทาวน์โฮมสูง 3 ชั้น โดยส่วนใหญ่ไม่มีผู้อยู่อาศัยแล้วปล่อยเป็นว่างเปล่า

ส่วนฝั่งซ้ายมือเป็นอาคาร Renova residence ที่เป็นอาคารพักอาศัยสูง 16 ชั้น ด้านล่างเป็นพื้นที่ร้านค้าให้เช่าแต่ก็ค่อนข้างเงียบมาก โดยการเข้าอาคารจะใช้ทางเข้าเดียวกับคอนโด Craft บนถนนภาระจำยอม แต่เขาจะเลี้ยวซ้ายผ่านพี่ยามไปจอดรถบนอาคาร

สภาพทางเข้า-ออกโครงการส่วนรถยนต์ของโครงการค่ะ

TV60 surrounding

สุดท้ายมาดูพื้นที่รอบข้างของโครงการคอนโด Craft เพลินจิตกันบ้างนะคะ ทางทิศใต้ของแปลงที่ดินจะเป็นทางเข้า-ออกโครงการด้วยประตูเล็กที่เดินตรงเข้ามาจากซอยนายเลิศฝั่งที่ติดกับถนนเพลินจิต สองฝั่งจะเป็นพื้นที่ว่างเปล่า บ้านพักอาศัย และอาคารอพาร์ตเมนท์ให้เช่าแบบ Low rise สูงไม่เกิน 8 ชั้น ส่วนฝั่งตะวันออกของโครงการจะเป็นทางเข้า-ออกสำหรับรถยนต์ จากซอยนายเลิศเข้าถนนภาระจำยอมที่อยู่ระหว่างทาวน์โฮมสูง 3 ชั้นและ Renova residence สูง 16 ชั้นที่น่าจะเป็นอาคารที่สร้างมาซักพักใหญ่ๆแล้วเนื่องจากขึ้นได้สูงมากกว่า 23 เมตร นอกจากนั้นโดยรอบระยะประชิดก็จะมีคอนโดและอพาร์ตเมนท์สูงประมาณ 8 ชั้น ซอยนายเลิศอีกฝั่งหนึ่งก็จะเป็นสถานฑูตสวิสเซอร์แลนด์และพื้นที่คอนโดโนเบิลที่ลึกเข้ามา ส่วนทางตะวันออกเฉียงเหนือคือทางพิเศษเฉลิมมหานครที่สูงประมาณ 5-6 ชั้นเมื่อเทียบกับความสูงอาคาร

วิวอาจจะไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าไรของคอนโด Low Rise เนื่องจากสูงเพียง 8 ชั้น แต่โครงการนี้มีรูปร่างที่ดินคร่าวๆเป็นรูปสามเหลี่ยมที่ทุกด้านจะมีสิ่งปลูกสร้างล้อมรอบ ความสูงของอาคารก็แล้วแต่แปลง แต่จะมีบางมุมที่จะโดนบังไปเลยอย่างมุมคอนโด o2 หรือฝั่ง Renova residence ที่สูงเทียบเท่าหรือสูงกว่า ดังนั้นเวลาเลือกห้องควรจะต้องเล็งให้ดีก่อน นอกจากนั้นฝั่งทางด่วนก็จะมีเสียงจากรถรวมถึงควันบ้างอยู่แล้ว

ดูแปลงที่ดินกันไปแล้ว ต่อมาเราจะพาไปเดินเล่นดูว่าสถานี BTS เพลินจิตที่อยู่ห่างจากโครงการ 220 เมตรนี้สามารถเดินเชื่อมไปถึงไหนได้บ้าง เริ่มต้นที่ BTS เพลินจิต เดินไปที่ทางออก 5 นะคะ แม้ว่าจะเห็นแค่ทางออก 1 และ 2 ก็อย่าตกใจเพราะทางออก 5 จะอยู่หลังที่กดตั๋วตรงกลางเลย

นี่ทางออกที่ 5 จะเป็น Skywalk ที่ต่อกับ Homepro plus, Central Embassy และสะพานลอยที่ต้นถนนวิทยุ ส่วนทางซ้ายที่เป็นทางออกที่ 2 จะต่อกับ Park venture ภายในมีโรงแรม Okura Prestige เชนโรงแรมสัญชาติญี่ปุ่น มีชั้นที่เป็นพื้นที่ออฟฟิสรวมถึงร้านอาหารและคาเฟ่

หรือจะเลือกเดินลงไปดูสวนหน้า Park venture ด้านหน้าที่มี open space รวมถึงที่นั่ง outdoor ของร้าน Dean and deluca

อาคาร Park venture ซึ่งออกแบบโดย Palmer and Turner ซึ่งได้รับการการันตี LEED ระดับ Gold ที่ถือว่าเป็นอาคารที่มีการออกแบบทั้งภายนอกและงานระบบต่างๆได้รักษ์โลกในระดับหนึ่ง

ฝั่งขวาของสถานีกันบ้างเป็นพื้นที่ก่อสร้างของโรงแรม Rosewood ที่ถือว่าเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว แบบที่เห็นผ่านตาสวยมากๆ โดยมีกำหนดเปิดให้บริการกลางปี 2019

ข้างๆกันคือโครงการคอนโด Noble เพลินจิต ที่มีกำหนดใกล้จะเสร็จเต็มทีแล้ว ส่วนที่เห็นเป็นอาคาร 3 ชั้นด้านหน้าคือส่วนของ Community mall ที่จะมีร้านมาลงในพื้นที่

ถัดจากพื้นที่ของ Noble ไปก็จะเป็น Homepro plus จะมีทางเชื่อมจาก Skywalk เช่นกัน

เงยหน้าไปให้ดูอาคารทางขวามือสถานีกันหน่อย ที่เห็นยังปิดพลาสติกหุ้มกระจกสีฟ้าคือส่วนของคอนโด Noble เพลินจิต จำนวน 3 อาคาร โดยเป็นอาคาร Low rise 1 อาคารและอีกสองอาคารเป็น highrise ส่วนทางซ้ายมือคืออาคาร Waveplace ที่ด้านบนเป็นสำนักงานให้เช่า ด้านหน้าเป็น Homepro plus

เดินตรงมาที่ทางออก 5 ผ่านอาคาร Waveplace ทางขวามือก็จะเจอป้ายบอกทางอีกว่าถ้าตรงไปจะสามารถไป Central Embassy ที่ชั้นบนจะมีการเปิดตัว Park hyatt bangkok เร็วๆนี้ นอกจากนั้นก็ยังมีทางเชื่อมต่อไปยัง Central ชิดลม และต่อไปอีกที่ BTS ชิดลม

ทางขวามือระหว่างอาคาร Waveplace และ Central Embassy ก็จะเป็นถนนวิทยุฝั่งเหนือมุ่งหน้าถนนเพชรบุรีแบบ one-way ขนาด 4 เลน ที่มีสถานฑูตอังกฤษ โรงแรมปาร์คนายเลิศ และเลี้ยวขวาเข้าซอยนายเลิศที่เป็นที่ตั้งของโครงการได้ นอกจากนั้นก็จะมีท่าเรืออยู่ที่คลองแสนแสบ

เงยหน้าไปทางซ้ายจะเจอกับ Central Embassy ศูนย์การค้าระดับ high-end

ซึ่งจาก Skywalk ที่เชื่อมมาจากตัวสถานี BTS เพลินจิต จะมีทางเดินเข้าสู่ตัวห้างเลย

ฝั่งตรงข้ามกับทางเข้าห้างก็จะมีทางเชื่อมสะพานลอยที่ต้นถนนวิทยุ ที่สามารถลงได้ทั้งฝั่งซ้ายหน้า Park Venture และฝั่งขวาหน้าพื้นที่ก่อสร้างของธนาคารกรุงศรี ด้านล่างคือถนนวิทยุจะเป็นนถนน 6 เลนช่วงกลาง แต่พอไม่มีเกาะกลางก็จะขยายเป็น 7 ช่องได้ แบ่งออกเป็น 2 เลนมุ่งหน้าไปทางพระรามสี่ และอีก 5 เลนมุ่งหน้าไปทางถนนเพชรบุรี ซึ่งจากสะพานลอยจะเห็นโครงการ 98 wireless ทางขวามือ ซึ่งจะมีท้ายแถวของรถที่ติดไฟเขียวไฟแดงสะสมไปเกินหน้าโครงการยาวไปอีก

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • BTS เพลินจิต 220 เมตร (ระยะเดิน)
  • Park Venture 370 เมตร (ระยะเดิน)
  • Central Embassy 450 เมตร (ระยะเดิน)
  • โรงแรม Plaza Athenee/ Athenee tower 650 เมตร
  • Central chidlom 750 เมตร (ระยะเดิน)
  • All season place 850 เมตร
  • โรงเรียนมาแตร์เดอี 860 เมตร (ระยะเดิน) หรือรถไฟฟ้า 1 สถานี
  • สถานฑูตอเมริกา 1.2 กิโลเมตร
    สวนลุมพินี 1.6 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ 2.5 กิโลเมตร
  • Q.house ลุมพินี 2.5 กิโลเมตร
  • จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 3 กิโลเมตร

 


เจาะลึกตัวโครงการ

โมเดลของโครงการ Craft เพลินจิต คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น และมีชั้นใต้ดินอีก 2 ชั้น รวม 90 ยูนิต ตัวอาคารเป็นรูปสามเหลี่ยมตามรูปร่างของแปลงที่ดิน ส่วนอาคารใช้โทนสีขาว-ทองตกแต่ง ที่อยู่อาศัยของโครงการนี้ค่อนข้างแปลกจากที่อื่นเพราะเค้าเริ่มที่ชั้นใต้ดิน หรือ B1 นั่นเองค่ะ ถ้าสงสัยว่าเป็นยังไงเดี่ยวจะพาไปดูนะคะ สำหรับชั้น G-B1 เป็นชั้นพื้นที่ส่วนกลางและห้อง Type duplex B2 จะเป็นชั้นจอดรถแบบ Automatic parking ส่วนชั้น 2-8 เป็นห้องพักตามปกติ มี Fitness อยู่ที่ชั้น8 และภายในมีบันไดให้เดินไปยังส่วน Facility บนชั้น Rooftop

จากภาพคือรูปด้านของคอนโดเมื่อมองจากซอยนายเลิศฝั่งที่รถสามารถเข้า-ออกได้จากถนนภาระจำยอม โดยตัวตึกจะค่อนไปทางขวาของแปลงที่ดินหน่อย ส่วนทางซ้ายที่เป็นมุมสามเหลี่ยมของแปลงที่ดินจะเป็นส่วนพื้นที่สีเขียวของโครงการ

พื้นที่มุมสามเหลี่ยมของโครงการจะเป็นพื้นที่สีเขียวและพื้นที่นั่งเล่นไล่ระดับ Landscape โดยสามารถเข้าถึงได้จาก Lobby ชั้น B1 จะมีทางเดินออกมาโดยไล่ตั้งแต่ความสูงของชั้น B1 ไปยังระดับเสมอพื้นดินปกติที่ชั้น G

จากผังชั้น G จะมีทางเข้า-ออกโครงการ 2 ทาง คือจากทางประตูเล็ก Route แรกที่เราพาไปชมกันโดยเดินตรงเข้ามาในซอยนายเลิศก็จะเจอเลย โดยพอเปิดประตูเล็กเข้ามาจะเจอกับทางเดินนอกอาคารเข้าไปยังภายในอาคารส่วนทางเดินตรงกลางระหว่างห้องพัก ก่อนจะสามารถเดินทะลุไปยังส่วน Drop-off พื้นที่นั่งพักหรือขึ้นลิฟท์ไปยังห้องพักได้ โดยการเดินผ่านทางเดินระหว่างห้องพักที่ชั้น G ซึ่งอาจจะกระทบหรือไม่กระทบกับผู้อยู่อาศัยภายในยูนิตชั้น G เนื่องจาก ชั้น B1-G เป็นห้องพักแบบ duplex ทั้งหมด

โดยชั้น B1 จะเป็นส่วน Living ของห้องพัก และชั้น G หรือ Upper Floor จะเป็นส่วนห้องนอน โดยส่วนมากจะเข้า-ออกที่พื้นที่ Living ชั้น B1 มากกว่าแต่ชั้น G ก็ยังมีประตูเข้าออกจากทางเดินตรงกลางได้และออกโฉนดให้ปกติ ซึ่งสำหรับห้องพักชั้น B1-G ก็มีความเป็นไปได้ที่ผู้อยู่อาศัยจะเข้าจากชั้น G เนื่องจากตรงกับชั้น Ground level ปกติ ไม่จำเป็นจะต้องเสียเวลากดลิฟท์ลงอีกชั้นหนึ่งเพื่อเข้าห้อง และจากการสอบถามตัวประตูนี้จะไม่มีเวลาเปิด-ปิด ดังนั้นอาจจะมีเสียงเดินของเพื่อนบ้านเข้า-ออกตอนดึกๆก็เป็นได้

การเข้า-ออกโครงการจุดที่ 2 เป็นทางสำหรับทั้งรถและคนเดิน คือจากซอยนายเลิศเข้าถนนภาระจำยอมหน้าโครงการเข้ามาจะมีระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Keycard access ก่อนเข้าพื้นที่โครงการ จากนั้นถ้าจะจอดรถก็จะมีลิฟท์สำหรับรถแบบ Automatic parking 2 ตัว ด้านหน้าลิฟท์จอดรถจะมีจุด Drop off เป็นที่นั่งรอรถ, ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวที่มีอัตราส่วนการใช้งานที่ 45:1 ใช้กันแบบสบายๆ และมีบันไดลงไปยัง Lobby ที่อยู่ชั้น B1

ห้องพักที่ชั้น G จะเป็นส่วน Upper floor ของห้องพักแบบ Duplex คู่กับชั้น B1 โดยจะมีทั้งหมด 9 ยูนิต ทั้ง 1-bedroom duplex, 2-bedroom duplex และ Penthouse duplex ที่มี 3 ห้องนอนเป็นห้องมุม

โมเดลโครงการ มุมจากทางเข้าหลักของรถบนถนนภาระจำยอมเข้ามาภายในพื้นที่โครงการใต้อาคาร

จากด้านหน้าโครงการจะมี Drop off อยู่ทางซ้ายมือก่อนที่รถจะวนออกหรือเข้าไปจอดรถที่ลิฟท์ Automatic parking ทางด้านขวามือ หลัง Dropoff ทางซ้ายมือจะมีบันไดลงไปยัง Lobby ที่ชั้น B1 ส่วนทางขวามือจะเป็นที่นั่งรอรถจากลิฟท์จอดรถ ด้านหลังจะมีบันไดหนีไฟและลิฟท์โดยสาร 2 ตัว

ลิฟท์ที่จอดรถที่เป็น Automatic parking จะมีด้วยกัน 2 ตัวที่สามารถนำรถขึ้น-ลงได้ในเวลาพร้อมๆกัน รวมถึงเวลาบำรุงรักษาหรือเสีย ถ้าตัวหนึ่งชำรุดอีกตัวหนึ่งก็ยังสามารถใช้งานได้อยู่ อัตราส่วนที่จอดรถคือ 81 คันหรือคิดเป็น 90%

ภายในลิฟท์จอดรถแบบ Automatic parking

พื้นที่นั่งรอรถข้างๆกับลิฟท์จอดรถ

อีกฝั่งหนึ่งของแปลงที่ดินคือทางเข้า-ออกคนเดินที่จะเป็นประตูเล็ก เดินเข้าไปผ่านทางเดินระหว่างห้องพักของชั้น G แล้วจึงจะเจอกับลิฟท์โดยสาร โดยระยะจากประตูเล็กถึง BTS เพลินจิต อยู่ที่ประมาณ 220 เมตร

เปิดประตูเล็กที่คาดว่าจะไม่มีเวลาปิดมาก็จะเดินผ่านทางเดินโล่งๆก่อนจะเข้าไปภายในอาคารระหว่างห้องพัก โดยการเข้าคอนโดก็จะมีระบบ Keycard access เหมือนปกติ

มานับชั้นกันหน่อยนะคะ ชั้นที่เสมอกับพื้นระดับปกติคือชั้น G โดยจะมีพื้นที่สีเขียวรอบโครงการ ปลูกต้นไม้ใหญ่ตามปกติ และภายในอาคารชั้น G จะเป็น upper floor ของห้อง Duplex ที่คู่กับ B1 โดยจากชั้น B1 ก็จะมีระเบียงเป็นพื้นที่สีเขียวลงไปเป็นพื้นที่เปิดโล่ง ดังนั้นแสงแดดและฝนจะสามารถเข้าถึงชั้น B1 ได้โดยตรงไม่มีอะไรบัง จะมีข้อดีที่แสงส่องถึงไม่ต้องอาศัยแต่การเปิดไฟภายในห้อง แต่อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับฝนเมื่อถึงหน้าฝนที่ตกหนักๆ ถ้าระบบระบายน้ำไม่ดีเท่าที่ควร รวมถึงเรื่องความชื้นด้วย

มาต่อกันที่รูปด้านฝั่งที่ติดกับทางด่วนกันบ้าง แน่นอนว่าฝั่งนี้จะได้รับผลจากเสียงรถและกลิ่นควันมากที่สุด ดังนั้นการออกแบบจะค่อนข้างปิดทึบในด้านนี้ ยกเว้นแต่ห้องจำนวน 2 ยูนิตที่มีระเบียงและช่องเปิดหันมาทางทางด่วนนี้ ซึ่งความสูงของทางด่วนจะขึ้นมาถึงประมาณชั้น 5-6 ดังนั้นชั้นที่อยู่ต่ำกว่าความสูงของทางด่วนก็จะได้วิวรถวิ่ง ส่วนชั้นที่อยู่ด้านบนก็ยังพอจะมีมุมอื่นบ้าง แต่ถ้าตัววัสดุของโครงการอย่างส่วนกระจกบานเลื่อนที่เชื่อมกับระเบียงมีการปิดที่ดี แน่หนา ผลกระทบของเสียงอาจจะไม่มากนักถ้าไม่เปิดออก

0B1

ชั้นที่ B1 จะเป็นชั้นที่มีห้องพักอาศัยและส่วนกลาง โดยสามารถเข้าถึงได้จากทั้งลิฟท์โดยสาร 2 ตัวหรือทางลงบันไดจากหลัง Drop off ของชั้น G ลงมายัง Lobby ได้โดยตรง โดยภายใน Lobby จะมีส่วน Multi-purpose area เป็นครัวขนาดใหญ่ มีโต๊ะพูล และมีห้องน้ำภายใน ถ้าเดินมาอีกฝั่งก็จะมีทางออกไปยังพื้นที่สีเขียวที่อยู่ตรงส่วนสามเหลี่ยมของแปลงที่ดินได้ ถ้าจากลิฟท์โดยสารลงมาทางขวามือก็จะเข้า Lobby ส่วนทางซ้ายมือก็จะเป็นประตูกั้นแตะ Keycard ก่อนจะเข้าถึงห้องพัก

ภายในชั้น B1 จะเป็นห้องพักอาศัยแบบ Duplex คู่กับชั้น G โดยชั้น B1 จะเป็นส่วน Living มากกว่า มีทั้งหมด 9 ยูนิตตั้งแต่ขนาด 47.5 ตารางเมตรไปจนถึงห้อง Penthouse ขนาด 134 ตารางเมตร โดยสิ่งที่ได้มากกว่าห้องแบบอื่นๆคือจะมีพื้นที่สวนเป็นของตัวเองที่ใหญ่กว่าระเบียงของห้องอื่นๆที่ชั้น B1

บันไดจากชั้น G เดินลงมายัง Lobby ชั้น B1

ภายในพื้นที่ Lobby มองออกไปนอกหน้าต่างจะเห็นพื้นที่สีเขียวออกแบบ Landscape แบบเล่นระดับ

ส่วน Multi-purpose area ที่ต่อกับส่วน Lobby ก็จะแบ่งเป็นมุมต่างๆ

2-7

ชั้น 2-7 เป็นชั้นที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดคือ 12 ยูนิต และเป็นชั้น Typical floor ของโครงการโดยจัดวางห้องพักแบบ Double Corridor คือมีห้องฝั่งตรงข้ามคั่นกลางด้วยโถงทางเดินรูปตัว L ซึ่งเดินเชื่อมต่อกันได้หมด หลักๆแล้วจะเป็นห้อง 1  bedroom ซะเป็นส่วนใหญ่ที่ 7 ยูนิต มี 2 bedrooms จำนวน 4 ยูนิต และ 3 ห้องนอนที่ส่วนสามเหลี่ยม 1 ยูนิต

วิวที่ได้ของโครงการนี้ค่อนข้างจะมีสิ่งปลูกสร้างรอบด้าน ตั้งแต่บ้านพักอาศัยสูง 2-3 ชั้นไปจนถึงคอนโดหรืออพาร์ตเมนท์ Low rise สูงไม่เกิน 8 ชั้น แต่จะมี Remova residence ที่เป็นอาคาร Highrise ส่วนฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือก็จะเป็นทางด่วนที่มีความสูงประมาณ 5-6 ชั้น ดังนั้นก่อนจะเลือกห้องต้องเล็งกันดีๆหน่อยนะคะ นอกจากนั้นห้องพักที่อยู่ทางใต้จะได้แสงแดดที่เข้าถึงตลอดวัน แต่จะไม่เก็บความร้อนอยู่นานเท่าห้องฝั่งตะวันตก ดังนั้นการเลือกห้องพักจะอยู่ที่ทิศมากกว่าว่าฝั่งไหนแดดเข้าช่วงเวลาไหน อย่าง แต่ทิศลมจะเข้าทางตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้

8 copy

ต่อมาเป็นชั้น 8 ที่มีจำนวนห้องพักที่ 8 ยูนิต ห้องทางทิศตะวันตก 1 ยูนิตปรับเป็นฟิตเนส และห้องฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือเป็นพื้นที่ด้านล่างของสระว่ายน้ำที่อยู่บน Rooftop

ภายในห้องฟิตเนสที่อยู่ทางตะวันตกจะมีบันไดภายในที่เป็นทางขึ้นไปยังชั้น rooftop เป็นทางขึ้นทางเดียวเนื่องจากลิฟท์โดยสารไม่สามารถไปส่งที่ชั้น Rooftop ตามกฎหมายที่ทางโครงการได้ขออนุญาตไป ทำให้การใช้งานส่วนชั้นดาดฟ้าดูจะเข้าถึงยากซักหน่อย

ภาพบรรยากาศส่วนโถงลิฟท์ชั้นห้องพัก

ห้องฟิตเนสที่อยู่ทางทิศตะวันตก ภายในจะมีบันไดขึ้นไปถึงชั้น Rooftop

ภาพบรรยากาศภายในห้องฟิตเนสชั้น 8

roof copy

จากบันไดภายในห้องฟิตเนสก็จะเดินขึ้นมาถึงชั้น Rooftop บนสุดที่จะเป็นชั้น Facility และส่วนของงานระบบ โดยจะมีสระว่ายน้ำแบ่งออกเป็นส่วนตื้นสีฟ้าสูง 0.15 เมตร และส่วนลึกสีน้ำเงินสูง 1.2 เมตร รอบๆก็จะมีเก้าอี้ตัวยาววางอยู่รอบสระรวมถึงพื้นที่สีเขียว ที่น่าสังเกตหน่อยคือจะมีบันไดหนีไฟที่ตรงกับสระว่ายน้ำพอดีขึ้นมาตกแต่งให้เข้ากับบรรยากาศ ส่วนทางขวามือจะมีห้องน้ำและห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ารวมถึงห้องงานระบบ

ชั้น Rooftop จากโมเดล ออกจากบันไดของห้องฟิตเนสมาก็จะเป็นทางเดินตรงไปยังห้องน้ำหรือเลี้ยวขวาไปยังส่วนสระว่ายน้ำ

บันไดหนีไฟที่อยู่ตรงสระว่ายน้ำจะอยู่ในส่วนตื้นที่ลึก 0.15 เมตร โดยจะมีการจัดให้เป็นห้อง มีทางเดินข้ามสระมาทางขอบสระได้พอดี

ภาพบรรยากาศของสระว่ายน้ำช่วงกลางคืน

Sales office ของโครงการ Craft เพลินจิตตั้งอยู่ที่อาคาร United center ชั้น 2 เดินขึ้นบันไดเลื่อนมองมาทางซ้ายมือจะเห็นสำนักงานสวยๆแบบนี้นะคะ

บรรยากาศด้านใน Sales office ด้านหลังโมเดลจะมีห้องตัวอย่างแบบ 1 bedroomให้ได้เข้าไปเยี่ยมชมกันด้วย

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้น B1 – Lobby
  • ชั้น B1 – Multi purpose area
  • ชั้น B1 – พื้นที่สีเขียว
  • ชั้น G – ลิฟท์จอดรถแบบ Automatic parking 2 ตัว ที่จอดรถ 81 คัน คิดเป็น 90%
  • ชั้น 8 – ฟิตเนส
  • ชั้น Rooftop – สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด n/a เมตร ส่วนลึก 1.2 เมตร ส่วนตื้น 0.15 เมตร
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อหนึ่งอาคาร 45 : 1
  • ระบบ CCTV / Access Card ระยะใกล้

 


Product Walkthrough

A4

ห้องตัวอย่างของโครงการมีห้องเดียวคือแบบ 1 ห้องนอนนะคะ ความจริงแล้วแบบ 1 ห้องนอนแบ่งออกเป็นแบบย่อยลงไปอีกรวม 4 แบบ เป็นห้องที่มีจำนวนมากที่สุดในอาคาร แตกต่างกันตามตำแหน่งและขนาดของห้อง จะมีรีวิวแบบห้องอีกที่ท้ายรีวิวที่ยกเอาแบบห้องที่ค่อนข้างมีความแตกต่างกันมาเปรียบเทียบนะคะ

ส่วนแบบห้องตัวอย่างห้องนี้เป็น Type A4 พื้นที่ห้องขนาด 46-47.5 ตารางเมตรอยู่ทางทิศตะวันตกของอาคาร รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมเกือบจะจตุรัส แบ่งพื้นที่ Living และห้องนอนประมาณอย่างละครึ่ง เมื่อเข้าสู่ตัวห้องจะเจอส่วนครัวอยู่ทั้งซ้ายและขวามือ โดยจะมีฉากกั้นเป็นตัวแบ่งพื้นที่ ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นฉากกั้นธรรมดาหรือเป็นประตูบานเลื่อนทำให้เป็นห้องครัวปิดไปเลย ด้านในเป็นโต๊ะทานข้าวแบบชิดผนัง 3 ที่นั่ง ลึกเข้าไปอีกคือส่วนนั่งเล่น ด้านหนึ่งจะเป็นโซฟาและโต๊ะเข้าชุดกัน ฝั่งตรงข้ามของห้องจะเป็นชั้นวางทีวี ลึกสุดคือบานประตูเลื่อนออกไปยังระเบียงด้านนอก ห้องนั่งเล่นจะมีประตู 2 บานอยู่ทางขวามือ บานแรกใกล้ครัวจะเปิดไปเจอห้องน้ำ ซึ่งจะเข้าได้ทั้งฝั่งห้องนั่งเล่นและห้องนอน ส่วนบานที่อยู่ใกล้กับโซฟาของห้องนั่งเล่นมากกว่าจะเป็นประตูเข้าห้องนอน ซึ่งจะมี Walk-in closet มาให้อยู่ใกล้กับห้องน้ำ

ประตูทางเข้าห้องพักเป็นประตูไม้เนื้อแข็งสีอ่อนเต็มบาน

การเปิดเข้าห้องพักจะมี 2 วิธีตามที่โครงการให้มา อันแรกเป็นกุญแจไขปกติ ส่วนอีกอันคือระบบ Digital Doorlock ที่มีชื่อว่า August โดยจะเป็นระบบที่สามารถเปิดได้จาก Application ของมือถือแต่ต้องติดตั้งก่อน Sync กันเรียบร้อย ซึ่งสามารถเพิ่มอุปกรณ์อื่นๆได้อีกอย่างตัว pad ที่เป็นตัวเลขหรือตัวอ่าน card access อย่างที่จับทรงเหลี่ยมสวยๆนี้จาก Kawajun

Application จาก August สามารถกดเปิด-ปิดได้จากมือถือโดยจะใช้สัญญาณระยะไกลเช่นเรานอนอยู่บนเตียงก็สามารถกดมือถือให้เปิดประตูได้โดยไม่ต้องลุกขึ้นมากแตะบิดล็อกเปิด

พื้นภายในห้องส่วนแรกจะเป็นกระเบื้องลายหินสีน้ำตาลอ่อนๆนำเข้าจากอิตาลี

เปิดประตูเข้ามาส่วนแรกจะเป็นส่วนครัวทั้งสองฝั่ง ด้านหลังจะเป็นห้องนั่งเล่น ระหว่างพื้นที่ห้องทั้งสองก็จะมีฉากกั้นพื้นที่มาให้อยู่หลังตู้เย็นทางซ้ายมือซึ่งทางลูกค้าสามารถเลือกได้เป็น option แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มว่าอยากได้เป็นฉากกั้นเฉยๆแบบในห้องตัวอย่างนี้หรืออยากได้เป็นแบบประตูสไลด์เลื่อนเปิด-ปิดให้ส่วนครัวดูมิดชิดหน่อยก็ได้

เมื่อเข้ามาภายในห้องแล้ว หันไปทางซ้ายมือจะเจอกับครัวแบบ Built-in เต็มผนังซึ่งสั่งทำจาก Modernform โดยจะให้ตามแบบนี้เป๊ะๆยกเว้นเครื่องซักผ้า

เคาท์เตอร์ด้านล่างมีอ่างล้างจานจาก Smeg แบบหลุมเดียว ประตูตู้ปิดด้านล่างปิดด้วยลามิเนตเป็นแบบ Soft close ทั้งหมด โดยแบ่งชั้นการใช้งาน ติดถังขยะให้เรียบร้อย ส่วนขวามือเป็นพื้นที่เตรียมอาหารและที่วางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า

อ่างล้างจานจาก Smeg แต่ในห้องตัวอย่างติดเป็นแบบ Mex ก่อนนะคะ Top ของเคาท์เตอร์คือหินควอทซ์หนา 15 มิลลิเมตร ก่อขึ้นมาปิดให้ถึงขอบด้วย ส่วน Backsplash เป็นกระจกติดผนังซาติน

ด้านบนมีไฟ LED ติดให้ที่ครัว

ส่วนตู้ด้านบนก็ปิดผิวด้วยลามิเนต แบ่งช่องการใช้งานให้เรียบร้อยสำหรับการเก็บอุปกรณ์ครัวหรืออาหารแห้ง

ฝั่งขวามือที่ตรงข้ามกันก็จะเป็น Built-in สั่งทำจาก Modernform เช่นกัน แต่จะไม่ได้ตู้เย็น ได้แค่เคาท์เตอร์ฝั่งซ้ายมือ

เคาท์เตอร์ด้านล่างประกอบด้วย Hob จาก Smeg และเตาจาก Siemens ส่วนตัวปิดผิวก็จะเป็นลามิเนตและ Top เคาท์เตอร์ด้วยหินควอทซ์หนา 15 มิลลิเมตร

ดูกันใกล้ๆ Hob จาก Smeg และเตาด้านล่างจาก Siemens ใครชอบอบขนมหรือทำอาหารนี่ปลื้มเลยนะคะ

ด้านบนก็จะเป็น Hob จาก Siemens และชั้นเก็บของเต็มความสูงฝ้าในส่วนครัวที่ 2.3 เมตร

การใช้งาน Hood ก็เป็นแบบดึงออกมาปกติ มีปุ่มให้กดๆเลือกอีกนิดหน่อย มีไฟให้ด้วย

จากห้องนั่งเล่นมองเข้าไปยังห้องครัวที่เป็นส่วนแรกของห้องพักนะคะ อย่างภายในห้องตัวอย่างแบ่งพื้นที่ด้วยฉากกั้นปกติ แต่สามารถเลือกเป็นแบบประตูบานเลื่อนแบ่งพื้นที่ชัดเจนระหว่างครัวและห้องนั่งเล่น อาจจะเพื่อความสวยงามหรือกันกลิ่นก็ได้

พื้นเป็นกระเบื้องลายหินอ่อนน้ำเข้าจากอิตาลีปูต่อเนื่องเข้ามา ด้านบนเป็นแอร์แบบ VRV Conceal type ฝั่งฝ้าเข้าไปซึ่งให้อยู่ในรายการขายอยู่แล้ว ฝั่งซ้ายมือมีประตู 2 บาน บานที่ใกล้กับครัวมากกว่าคือประตูเข้าห้องน้ำที่สามารถเข้าได้จากห้องนอนส่วน Walk-in closet ด้วย ประตูอีกบานที่ใกล้กับห้องนั่งเล่นมากกว่าคือประตูห้องนอน

ประตูห้องน้ำก็ยังใช้เป็นประตูไม้เนื้อแข็งมีลูกบิดจาก Kawajun และที่ไขกุญแจ สเปกเดียวกับประตูทางเข้าห้องหลักทุกอย่าง

เปิดเข้าไปด้านในจะเป็นห้องน้ำ พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนขนาด 60 x 60 เซนติเมตร และมีธรณีประตูกั้นเล็กน้อยเป็นหินสังเคราะห์ Quarella

มุมมองภายในห้องน้ำถ้ามองจากประตูฝั่งห้องนั่งเล่นนะคะ สุขภัณฑ์ก็จะมี 3 ส่วนและมีประตูทางเข้าจากฝั่งห้องนอน เราจะไปลงรายละเอียดของห้องน้ำทีหลังนะคะ

หันมาทางห้องนั่งเล่นกันบ้าง ซึ่งจากพื้นที่ห้องนั่งเล่นเป็นต้นไปจะไม่ได้เฟอร์นิเจอร์นะคะ แต่จะจัดให้ดู Function การใช้งานในส่วนต่างๆ ผนังเป็นแบบฉาบปูนเรียบทาสี เริ่มจากโต๊ะทานข้าวแบบ 2 ที่นั่งทางซ้ายมือ ลึกเข้าไปเป็นชั้นวางของมีทีวีติดผนังฝั่งตรงข้ามคือโซฟาและโต๊ะเตี้ยด้านล่าง

ผนังฝั่งซ้ายมือก็จะมีที่ว่างขยับเก้าอี้ทานข้าวได้เหลือๆ ไม่เบียดจนเกินไป ส่วนทางขวามือก็สามารถ Built-in เป็นตู้เก็บของ ตู้โชว์หรือชั้นวางหนังสือได้เลย โดยจะมีปลั๊กให้เป็นจุดๆรวมถึงระบบต่อกับทีวี

สวิสซ์และปลั๊กก็ยังเป็นแบรนด์ bticino ค่ะ

หลังชุดโซฟาและชั้นวางของเข้าไปก็จะเป็นประตูบานเลื่อนแบบ 2 ตอน กรอบอลูมิเนียมชุบ Anodize บานใหญ่ เปิดออกไปจะเจอกับระเบียงห้อง

ด้านบนสามารถติดผ่านได้ 2 layers แบบโปร่งและแบบทึบแล้วปิดด้วยที่กั้นอีกหน่อยก็จะเรียบร้อยขึ้น

การเปิด-ปิดประตูบานเลื่อนก็จะเปิดแบบล็อกเลื่อนขึ้น-ลง

พื้นระเบียงจะปูด้วยไม้สังเคราะห์ สเปกเดียวกับที่ชอบปูตามขอบสระว่ายน้ำเพราะสามารถทนน้ำและกันลื่นได้ดี มีการเก็บร่องประตูบานเลื่อน แต่จะอยู่ต่ำกว่าพื้นระเบียงนิดหน่อย

ระเบียงกว้าง 1.2 เมตร ฝั่งหนึ่งจะเป็นผนังทาสีปกติ ส่วนอีกฝั่งจะเป็นที่เก็บ Compressor air ราวกันตกเป็นกรอบใสทำให้ดูไม่อึดอัดดีค่ะ

จากระเบียงมองเข้ามาภายในห้องนั่งเล่น ต่อไปเราจะไปเข้าห้องนอนทางซ้ายมือกันต่อ

ประตูทางเข้าห้องนอนสเปกเดียวกันกับประตูทางเข้าหลักและทางเข้าห้องน้ำคือไม้เนื้อแข็งเต็มบานสูง 2.2 เมตร โดยส่วนพื้นที่ Living และห้องนอนจะมีความสูงฝ้าอยู่ที่ 2.5-2.55 เมตร ประตูเป็นแบบบิดผลักเข้าไปทางขวา

พื้นห้องนอนปูด้วย Engineering wood  ระดับเสมอกับกระเบื้องลายหินอ่อนของห้องนั่งเล่น

จากมุมประตูทางเข้าห้องนอน สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบายๆโดยยังมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือทั้งสองฝั่งและวางโต๊ะข้างเตียงได้ ที่ข้างเตียงด้านในจะมีมุมพื้นที่วางโต๊ะทำงานหันหน้ามองออกด้านนอกอาคารได้พอดี

จากพื้นที่ข้างเตียง ฝั่งตรงข้ามกับเตียงก็จะมีงานระบบของทีวีต่อมาให้เป็นทีวีติดผนัง เพราะปลายเตียงเหลือพื้นที่เดินไม่มากนัก

พื้นที่โต๊ะทำงานถอยเก้าอี้ได้สบายๆไม่ชนกับตัวเตียงหรือโต๊ะข้างเตียง

ช่องเปิดภายในห้องนอนแบ่งออกเป็น 2 ช่อง ช่องกลางและทางซ้ายมือเป็นบาน Fixed ส่วนทางขวามือเป็นบานกระทุ้งแบบเปิดข้างผลักออก

บานกระทุ้งเปิดง่ายดีนะคะ ไม่หนักแล้วก็ไม่เบาจนเกินไป ตัวล็อกก็ติดตั้งได้ดี

ผนังฝั่งปลายเตียง

จากประตูทางเข้าห้องนอน ถ้าเลี้ยวขวาก็จะเจอกับ Walk-in closet ที่ทางโครงการจะให้มาทั้งหมดสั่ง Built-in จาก Modernform เช่นกันเป็นรูปตัว L โดยฝั่งซ้ายมือจะเป็นราวแขวนเสื้อผ้าแบบเปิดหน่อย ชั้นวางเครื่องประดับ และโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมเก้าอี้ ส่วนที่ลึกปิดเป็นกระจกเต็มตัวด้านในก็สามารถเปิดเป็นตู้ได้อีกบาน

งาน Built-in ก็จะมีดีเทลที่ดี ที่สามารเป็นชั้นเก็บนาฬิกาและเครื่องประดับพร้อมกับเป็นโต๊ะเครื่องแป้งในเวลาเดียวกัน

ด้านบนที่เกินเอื้อมหน่อยก็จะเป็นชั้นวางของที่นานๆอาจจะหยิบซักทีอย่างเครื่องนอนหรือกล่องใส่โค้ท

ที่ฝั่งด้านในปิดเป็นกระจกเต็มตัวก็สามารถเปิดเป็นตู้ได้อีกบาน แต่บานนี้จะเป็นบานปิดหน่อยเหมาะกับของที่ต้องการการรักษา กันฝุ่นกันความชื้นได้ดีกว่าราวด้านนอก

ตรงข้ามกับโต๊ะเครื่องแป้งก็จะเจอกับประตูทางเข้าห้องน้ำจากภายในห้องนอน

พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องลายหินขนาด 60 x 60 เซนติเมตร มีธรณีประตูกั้นเป็นหินสังเคราะห์ Quarella

มุมห้องน้ำจากประตูภายในห้องนอน ก็จะเจอกับโถสุขภัณฑ์อยู่ด้านหน้า ทางขวามือเป็นอ่างล้างมือและประตูจากห้องนั่งเล่น ส่วนทางซ้ายที่หลบอยู่หลังประตูจากห้องนอนคือพื้นที่อาบน้ำแบบยืนมีกระจกกั้นเรียบร้อย

โถสุขภัณฑ์แบบ 2 ชิ้นจาก villeroy & boch

อ่างล้างมือเป็นแบบปูนก่อขึ้นมา มีตู้เก็บข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องน้ำด้านล่างเป็นแบบบานเปิด และมีกระจกพร้อมไฟส่อง 2 ฝั่ง

อ่างล้างมือจาก villeroy & boch เช่นกัน เป็นทรงสี่เหลี่ยมฝั่งเข้าไปในเคาท์เตอร์

ตัวตู้กระจกที่สามารถเปิดเก็บของได้นี้ความจริงแล้วจะเลื่อนขึ้นไปอีก 10 เซนติเมตร(ที่ทำมาระยะนี้เพราะมีข้อจำกัดเรื่องความสูงของพื้นที่ในการทำห้องตัวอย่างค่ะ) ให้มีพื้นที่เปิดก๊อกน้ำได้สะดวกกว่านี้หน่อยนะคะ ส่วนสองฝั่งเป็นไฟส่องหน้า

พื้นที่อาบน้ำแบบยืน กั้นด้วย Temperred glass แบบเต็มความสูงห้องน้ำที่ 2.3 เมตร ประตูเป็นแบบผลักเข้าไปทางซ้ายมือ พื้นปูด้วยกระเบื้องลายหินขึ้นมาจนถึงผนังแต่จะเปลี่ยนขนาดเป็น 30 x 60 เซนติเมตร และผนังฝั่งพื้นที่อาบน้ำจะเป็นขนาด 10 x 10 เซนติเมตร

มีธรณีกั้นและปู Finished ด้วยกระเบื้อง เนี๊ยบดีนะคะ

ฝักบัวจาก villeroy & boch มีการเว้นร่องให้วางสบู่แชมพูขนาดขวดใหญ่ได้สบายๆ

นอกจากฝักบัวแบบมือจับก็ยังมี Shower ด้านบนที่ติดลงมาจากฝ้า ซึ่งความจริงแล้วจะต้องลงมาอีก 10 เซนติเมตรจากระยะของห้องตัวอย่างนะคะ

ฝักบัวมือจับรูปร่างปุ่มประหลาด แต่น้ำหนักดี รัศมีกว้าง

B1

อีกแบบที่ยกมาให้ดูกันคือ Type B4 แบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ห้องขนาด 57.5 ตารางเมตร อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอาคารหรือฝั่งทางด่วน โดยเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ส่วน Living ที่เป็นครัวเปิดเคาท์เตอร์ติดผนัง ฝั่งตรงข้ามเป็นชุดโซฟาและชั้นวางทีวี ส่วนด้านหลังเป็นโต๊ะทานข้าวแบบ 2 ที่นั่งและห้องน้ำ โดยจะมีห้องนอน 2 ห้องไม่มีห้องน้ำในตัวทั้งคู่ ทำให้ต้องมาใช้ร่วมกันที่ห้องน้ำใกล้โต๊ะทานข้าว แต่ที่แปลกกว่าห้องอื่นๆคือทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอนทั้งสองห้องมีประตูบานเปิดออกไปยังระเบียงด้านนอกได้ทั้งหมด และขนาดใหญ่พอที่จะวางโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 4 ที่นั่งได้สบายๆ ซึ่งระเบียงตรงนี้จะไปใกล้กับส่วนทางด่วน ซึ่งอาจจะได้ใช้หรือไม่ได้ใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพราะน่าจะมีทั้งเสียงรถ วิว และกลิ่นบ้าง

DP2-3

ห้องแบบสุดท้ายคือแบบ Duplex ที่อยู่บนชั้น B1-G ของอาคาร Type DP2-3 แบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ห้องขนาด 82-84 ตารางเมตรอยู่ทางทิศตะวันตกของอาคาร รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมหน้าแคบหน่อย โดยส่วน Lower floor จะมีการวางผังคล้ายกับแบบ A4 ห้องตัวอย่าง แต่มีบันไดขึ้นไปยังชั้นบน และทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอนมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปเจอระเบียงที่เป็นสนามหญ้า

บันไดเดินขึ้นมาก็จะเป็นส่วน Walk-in closet ทางเข้าห้องน้ำชั้นบนและห้องนอนทางซ้ายมือ โดยส่วนห้องนั่งเล่นจะเป็นแบบ Double volume ความสูงเท่ากับ 2 ชั้นทำให้ห้องดูโล่งโปร่งกว่าปกติ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 31 May 2016

  • 1 Bedroom ขนาด 36.5 – 47.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 7.2 ล้านบาท หรือ 197,260 บาทต่อตารางเมตร
  • 2 Bedrooms ขนาด 57.5 – 74.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 10.8 ล้านบาท หรือ 187,820 บาทต่อตารางเมตร
  • 3 Bedrooms ขนาด 97.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 18.6 ล้านบาท หรือ 190,770 บาทต่อตารางเมตร
  • Duplex ขนาด 47.5 – 73.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 12.1 ล้านบาท หรือ 254,730 บาทต่อตารางเมตร
  • Penthouse ขนาด 134 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 28.4 ล้านบาท หรือ 211,940 บาทต่อตารางเมตร

  • Fully Fitted
  • เพดานสูง 2.5 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 50,000 บาท
  • ทำสัญญา 5% ของราคาซื้อขาย-50,000 บาท
  • ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 24 งวด
  • ค่ากองทุน 800 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 80 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลของโครงการ Craft เพลินจิต ตั้งอยู่ในซอยนายเลิศที่ทะลุจากถนนวิทยุตอนบนไปยังถนนเพลินจิต ที่เป็นถนนเส้นหลักของพื้นที่ CBD ของกรุงเทพ ทำให้พื้นที่รอบๆโครงการในระยะ 2 กิโลเมตรเป็นศูนย์กลางธุรกิจและศูนย์การค้าแห่งหนึ่งของกรุงเทพ โดยที่หัวมุมถนนวิทยุที่แค่ข้ามฝั่งจากซอยนายเลิศไปก็เป็นอาคาร Park venture อาคาร Mixed use ที่มีราคาเช่าพื้นที่สำนักงานแพงที่สุดในประเทศไทย ยังมีพื้นที่เช่าชั้นล่างเป็น 7-11, Dean and deluca และร้านอาหารญี่ปุ่นในอาคาร ด้านบนยังมีโรงแรม Okura จากญี่ปุ่น นอกจากนั้นรอบๆยังมีสถานฑูตทั้งสวิส อังกฤษ เวียดนาม อเมริกา และมีศูนย์การค้าอย่าง Central Emabassy และ Central chidlom อยู่ในระยะเดิน ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ดีในระดับ Super Luxury แต่ตัดภาพมาที่ซอยนายเลิศจะเป็นซอยที่ค่อนข้างเงียบอาจจะเพราะเป็นซอย one-way ไม่มีร้านค้า ร้านอาหาร มีแค่บ้านพักอาศัย คอนโด และอพาร์ตเมนท์ให้เช่าเท่านั้น

การเดินทางโดยใช้รถ โครงการตั้งอยู่ในซอยนายเลิศที่เป็นซอย one-way จากท้ายซอยที่ติดกับถนนวิทยุตอนบนที่เป็นถนน one-way อีกเช่นกัน ลงมาต้นซอยที่ติดกับถนนเพลินจิต ทั้งในพื้นที่รอบๆยังมีการห้ามเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาอีกเป็นกรณีๆ ทำให้มีความยากในการเข้าคอนโดพอสมควร การขึ้น-ลงทางด่วนจะง่ายที่สุดก็ต่อเมื่อจะขึ้นไปทางตอนเหนือของกรุงเทพที่ห่างจากโครงการไปนิดเดียว ส่วนทางลงแนะนำลงที่พระราม 4 เข้าวิทยุจะยุ่งยากน้อยที่สุดแต่ก็รถติดมากพอกับทางอื่นๆเช่นกัน เพราะถ้าลงเพลินจิตเหนือหรือใต้ก็จะต้องวนเข้าแยกวิทยุอยู่ดี ส่วนไปทางใต้ของกรุงเทพแนะนำที่ด่านตรงเส้นเพชรบุรี ออกจากซอยนายเลิศมาถนนเพลินจิตเข้าถนนวิทยุออกเพชรบุรีได้เลย แต่ขาลงจะต้องวนผ่านแยกราชประสงค์ไกลหน่อย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ถ้าใช้รถไฟฟ้า BTS เป็นหลักถือว่าดีในเวลากลางวันเนื่องจากอยู่ห่างจากประตูเล็กของโครงการ 220 เมตรในระยะเดินไม่เหนื่อย แต่ถ้าดึกๆจะค่อนข้างเงียบเนื่องจากไม่มีร้านค้าหรือร้านอาหารเลย ทางเดินเท้าก็ไม่มีทำให้อาจจะไม่สะดวกนัก แต่จาก BTS เพลินจิตไป 2 สถานีก็ถึงสยามไปเปลี่ยนเส้นทางเป็นสายสีลมได้ หรือจะไป MRT ก็เปลี่ยนที่ BTS อโศก ส่วนถ้าทำงานแถววิทยุจะมีพี่วินอยู่ตรงทางลงสถานี ถ้าใช้แท๊กซี่มีผ่านหน้าโครงการตลอดเพราะชอบใช้เป็นทางลัดวิ่งรถเปล่ากันเยอะ นอกจากนั้น BTS เพลินจิตยังมี Skywalk ต่อเข้าห้าง ต่อลงแยกวิทยุ หรือจะเดินไปเรื่อยๆถึง MBK เลยก็ยังได้

การออกแบบโครงการถือว่าทำได้ดี เนื่องจากทั้งรูปร่างและตำแหน่งของที่ดินที่เป็นสามเหลี่ยมใกล้ทางด่วนที่ยากต่อการออกแบบค่อนข้างมาก แต่ออกแบบโครงการให้มีจุดขายที่ห้อง Duplex ชั้น B1-G รวมถึงมีทางเข้า-ออกโครงการ 2 ทาง ประตูเล็กที่ 220 เมตรถึง BTS และทางเข้า-ออกที่จอดรถที่เป็นแบบ Automatic parking 90% ใต้ดินจะได้ไม่กินพื้นที่ขายไปมากนัก ปรับเปลี่ยนจาก Lobby ชั้น G ของคอนโดทั่วไปไปอยู่ที่ชั้น B1 ที่สามารถออกไปยังพื้นที่สีเขียวที่เล่นระดับตรงมุมสามเหลี่ยม ตัวแบบห้องตั้งแต่ 36.5 ตารางเมตร แบบ 1-2-3 ห้องนอนและแบบ Duplex 1-2-3 ห้องนอน โดยแบบ Duplex เริ่มที่ชั้น B1 มีการให้พื้นที่ระเบียงนอกห้องขนาดใหญ่พอสมควร และออกแบบฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือหรือฝั่งทางด่วนให้มีช่องเปิด-ระเบียงให้น้อยที่สุดแต่ก็จะมีจำนวน 2 ยูนิตชั้น 2-7 ตามความจำเป็นที่จะมีห้องอยู่ฝั่งนี้ แต่ที่ได้เพิ่มมาคือระเบียงขนาดใหญ่กว่าห้องอื่นๆมาก ส่วนห้องอื่นๆจะหันไปทางทิศใต้และตะวันตก

วัสดุโครงการตามปกติเป็นแบบ Fully fitted คือได้ห้องครัว ห้องน้ำ และ Walk-in closet ตามแบบห้องตัวอย่างเป๊ะๆยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชิ้น โดยความสูงของห้องอยู่ที่ 2.5-2.55 เมตรในส่วนห้อง Living และห้องนอน ส่วนห้องครัวห้องน้ำจะอยู่ที่ 2.3 เมตร ประตูห้องพักรวมถึงประตูภายในเป็นไม้เนื้อแข็งเต็มบาน มี Digital doorlock จาก August ที่สามารถเปิด-ปิดได้จาก Application ของมือถือและสามารถเติมอุปกรณ์แบบกดเลขหรือ Keycard เพิ่มได้ พื้นห้องเป็นกระเบื้องลายหินน้ำเข้าจากอิตาลี ส่วนห้องนอนเป็น Engineering wood ส่วนระเบียงเป็นไม้สังเคราะห์ ผนังรอบด้านเป็นฉาบปูนเรียบทาสี ชุดครัวและตู้เสื้อผ้าเป็นแบบสั่ง Built-in จาก Modernform ส่วนอ่างล้างจานและ Hob จาก Smeg ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆจาก Siemens และ Top ครัวเป็นหินควอท อุปกรณ์ภายในห้องน้ำจาก villeroy & boch

สาธารณูปโภค ระบบ one card access เข้าทุกอย่างภายในอาคารตั้งแต่เข้าลิฟท์จอดรถ กดลิฟท์โดยสาร เข้าประตูเล็ก มี Facility ชั้น B1-G-7-8 โดยจากชั้น G จะมี Dropoff และส่วนนั่งรอรถจาก Automatic parking 90% มีลิฟท์รถ 2 ตัวเผื่อการชำรุดหรือซ่อมแซม มีบันไดทางลงมายัง Lobby ชั้น B1 ที่มีทางเดินออกไปยังพื้นที่สีเขียวด้านนอกหรือจะเข้ามายังส่วน Multi purpose area ที่มีครัว ชุดโซฟาและโต๊ะพูล ส่วนฟิตเนสจะอยู่ชั้น 8 ทางฝั่งตะวันตก มีบันไดขึ้นไปยังชั้น Rooftop ที่มีสระว่ายน้ำตื้นและลึก รอบสระมีเก้าอี้ตัวยาว มีห้องน้ำและห้องเปลี่ยนเสื้อ ลิฟท์โดยสารของโครงการมี 2 ตัวหรือคิดเป็น 45:1 รวมถึงมีบันไดหนีไฟ 2 จุดมีจุดหนึ่งที่ขึ้นมากลางสระน้ำตื้น

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคาเฉลี่ย 200,000 บาท/ตร.ม., 31 May 2016

  • ทำเล 7.5/10 – ในซอยนายเลิศย่านเพลินจิตที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง
  • เดินทางด้วยรถ 7/10 – ซอยนายเลิศเป็นซอย one-way ทำให้เดินทางเข้าโครงการด้วยรถต้องไปวนหลายรอบ ทางขึ้น-ลงทางด่วนไม่ไกล
  • ไม่ใช้รถ 8/10 – ใกล้รถไฟฟ้า BTS เพลินจิตระยะ 220 เมตร แท๊กซี่หาง่าย พี่วินหาง่าย แต่ซอยค่อนข้างเงียบ
  • วัสดุ 8.25/10 -Fully fitted ได้ครัว ห้องน้ำ วัสดุเกรดดี Finishingดี มีรายละเอียด
  • แบบ 8.5/10 – ออกแบบโดย Palmer and turner แก้ไขปัญหาที่ดินได้ดีมีจุดขาย
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – Automatic parking 90% มี Facility อยู่ชั้นบนๆ Lobby ใหญ่มี Multi-purpose area

  • LUXURY CLASS
  • 7.71 / 10.00

BOTTOM LINE

Craft เพลินจิต เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมในพื้นที่ธุรกิจย่านเพลินจิต-วิทยุ ชอบความเรียบหรู แม้จะอยู่ในซอยหน่อยแต่จำนวนยูนิตไม่มากทำให้เพื่อนบ้านน้อย มี Privacy สูง โครงการใกล้รถไฟฟ้าในระยะเดิน แต่ก็เหมาะกับคนที่ใช้รถขึ้นทางด่วน ซื้อของตามความต้องการไม่ใช่ตามความนิยมของตลาด มีงบประมาณระดับ 7.5-30 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 52,500 – 210,000 บาท/เดือน

 

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )