..รีวิวฉบับที่ 2774 วันนี้พามาชมโครงการ CHER Vibhavadi Rangsit (เฌอ วิภาวดีรังสิต) เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้นที่มีความโดดเด่นและน่าสนใจต่างจากเพื่อนบ้านรอบๆเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำเลที่ติดถนนใหญ่ การไปขึ้นทางด่วนหรือไปฟิวเจอร์ฯก็สะดวก นอกจากนี้ยังเป็นโครงการที่มีความเป็นส่วนตัว และใช้วัสดุโครงการไม่เหมือนใครเลยอีกด้วย ซึ่งผมสรุปจุดเด่นต่างๆมาให้เป็นข้อๆดังนี้

  • ทำเลติดถนนบางบัวทอง-บางพูน เดินทางสะดวก สามารถไปขึ้นทางด่วนได้สะดวก 2 จุด
  • มียูนิตน้อย ได้ความเป็นส่วนตัวทั้งในด้านการอยู่อาศัย และการใช้งานส่วนกลาง
  • โครงสร้างบ้านเป็น Convention แบบก่ออิฐมอญแดงหนึ่งเดียวในย่านตอนนี้ และหลังบ้านลงเสาเข็มรองรับการต่อเติมได้ดี
  • มีบ้าน 3 แบบให้เลือก ฟังก์ชันยืดหยุ่น พร้อมห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างให้ใช้งานทุกแบบ

ข้อมูลโครงการ

CHER Vibhavadi Rangsit (เฌอ วิภาวดีรังสิต) ณ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567

 ชื่อโครงการ   CHER Vibhavadi-Rangsit (เฌอ วิภาวดีรังสิต)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท พีซแอนด์ลีฟวิ่ง จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS   MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนน บางบัวทอง-บางพูน อำเภอ เมืองปทุมธานี จังหวัด ปทุมธานี
 ที่ดิน 11-3-95.1 ไร่
 จำนวนยูนิต 133 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • Castalia ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.2 เมตร พื้นที่ใช้สอย 91 ตร.ม. ขนาดที่ดิน 17.3 ตร.ว.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์
  • Victoria ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 109 ตร.ม. ขนาดที่ดิน 18.3 ตร.ว.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  • Jubilia ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอย 113 ตร.ม. ขนาดที่ดิน 19 ตร.ว.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์

 ราคาเริ่มต้น   2.39 ล้านบาท
 เว็บไซต์โครงการ  คลิกที่นี่
 โทร   094-968-2896
 Line OA   คลิกที่นี่

 

ทำเลที่ตั้ง

Highlights :

  • ติดถนนใหญ่บางบัวทอง-บางพูน ไม่ต้องเข้าซอย
  • ใกล้ทางด่วน 2 สาย ทั้งทางด่วนอุดรรัถยา และดอนเมืองโทลล์เวย์
  • ใกล้ความอุดมสมบูรณ์อย่างฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ม.รังสิต และศูนย์ราชการต่างๆ

พิกัด Google Maps : 13.976969535876838, 100.5847066467491
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

CHER Vibhavadi Rangsit (เฌอ วิภาวดีรังสิต) ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่บางบัวทอง-บางพูน และใกล้กับแยกรังสิต-ปทุมธานี เราจึงสามารถเดินทางไปฟิวเจอร์ฯได้สะดวกมากๆ อีกทั้งยังเหมาะกับคนที่เน้นใช้ทางด่วนเข้าเมือง หรือต้องทำงานอยู่ตรงแถวๆศูนย์ราชการตรงติวานนท์ นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้ ม.รังสิต และสนามบินดอนเมืองอีกด้วย

ส่วนในแง่ของโปรดักส์ผมก็คิดว่าน่าสนใจเรื่องของราคาด้วย เพราะหากเทียบกับเพื่อนบ้านย่านใกล้เคียง โดยเฉพาะตรงแถวๆสรงประภาที่จะต้องเข้าซอย ก็ถือว่าทำเลเส้นนี้จับต้องได้ง่ายกว่ามากๆ ก็เลยมีคนจากโซนนั้นขยับมาหาบ้านตรงนี้กันเยอะพอสมควร ดังนั้นใครที่กำลังมองหาทาวน์โฮมแบบนี้อยู่ ก็ลองดูโครงการนี้เป็นตัวเลือกกันได้เลยครับ

สำหรับทางด่วนที่ใกล้และน่าจะได้ใช้งานบ่อยๆ ก็คือทางด่วนอุดรรัถยา ซึ่งจะมีจุดขึ้น-ลงใกล้สุดบนถนนรังสิต-ปทุมธานี โดยเราสามารถขับตรงไปจากโครงการได้ง่ายๆเลยแบบไม่ต้องเสียเวลากลับรถ ระยะทาง 4.9 km. ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีครับ

อีกจุดนึงจะเป็นทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ ซึ่งก็เป็นเส้นทางเดียวกับตอนจะไปฟิวเจอร์ฯเลยครับ อยู่ห่างจากโครงการ 5.5 km. ใช้เวลา 10 นาทีเช่นกัน เรียกได้ว่าสะดวกทั้ง 2 เส้นทางเลย

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

บริบทโดยรอบโครงการส่วนใหญ่ก็จะเป็นพื้นที่ว่างและชุมชนแนวราบครับ สิ่งที่ชอบก็คือลักษณะของผังโครงการ ที่จะมีระยะห่างจากถนนใหญ่ด้านหน้าเยอะพอสมควร ทำให้โซนพักอาศัยที่อยู่ด้านในจะมีความเงียบสงบเป็นส่วนตัวมากขึ้น และห่างไกลจากมลพิษต่างๆด้านนอกได้ดีเลยทีเดียว

  • ทิศเหนือ : ติดกับ ที่ว่าง
  • ทิศใต้ : เป็นทางเข้าหลักโครงการ ติดกับ ถนนบางบัวทอง-บางพูน
  • ทิศตะวันออก : ติดกับที่ว่างและ บมจ.วี.พี. คอนกรีต ที่จะเป็นบริษัทผสมปูนซีเมนต์
  • ทิศตะวันตก : ติดกับ อู่ซ่อมรถและหมู่บ้านทาวน์โฮม 2 ชั้นเหมือนกัน

และนี่จะเป็นบรรยากาศทางเข้าด้านหน้าโครงการครับ ซึ่งจะอยู่ติดถนนใหญ่แบบนี้เลย อีกทั้งยังอยู่ใกล้แยกไฟแดงด้วย ซึ่งเวลาเข้า-ออกโครงการก็จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควร

สำหรับลูกบ้านที่ต้องการกลับรถไปทางติวานนท์ ทางโครงการแนะนำให้ไปกลับที่ตรงแยกรังสิต-ปทุมธานี ที่อยู่ห่างออกไปเพียง 1.6 km. ใช้เวลาไม่นานแต่ปลอดภัยกว่าครับ (เราไม่ควรใช้ทางลัดกลับรถที่แยกไฟแดงหน้าโครงการเลยทันที เพราะนอกจากจะอันตรายแล้ว ยังผิดกฎจราจรด้วย ดังนั้นไม่แนะนำนะครับ)

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Lotus’s รังสิต ~ 4.9 km.
  • ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต ~ 5.2 km.
  • Homepro ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต ~ 5.3 km.
  • Makro รังสิต ~ 6.8 km.
  • เดอะ ไนน์ เซนเตอร์ ติวานนท์ ~ 8.4 km.
  • โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ศรีสมาน ~ 8.5 km.
  • ตลาดสี่มุมเมือง ~ 11.6 km.
  • Central แจ้งวัฒนะ ~ 18.5 km.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลปทุมเวช ~ 3.5 km.
  • โรงพยาบาลเปาโล รังสิต ~ 5 km.
  • โรงพยาบาลกรุงสยามเซนต์คาร์ลอส ~ 6.7 km.
  • โรงพยาบาลแพทย์รังสิต ~ 7.4 km.
  • โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ~ 13.4 km.

โรงเรียน

  • โรงเรียนเซนต์โยเซฟ เมืองเอก ~ 2.9 km.
  • มหาวิทยาลัยรังสิต ~ 5.8 km.
  • โรงเรียนสายปัญญารังสิต ~ 6.4 km.
  • มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ~ 9.5 km.
  • มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ~ 15.3 km.
  • โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต ~ 16.1 km.

อื่นๆ

  • รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีหลักหก ~ 5.2 km.
  • สนามบินดอนเมือง ~ 12.2 km.

รายละเอียดโครงการ

Highlights :

  • เป็นโครงการทาวน์โฮมที่มียูนิตน้อยสุดในย่าน มีความเป็นส่วนตัว ไม่วุ่นวาย
  • วางตำแหน่งส่วนกลางไว้ติดถนน Main แต่ไม่เสียความเป็นส่วนตัวจากมุมมองการขับรถ
  • บ้านไซส์ L หลังใหญ่สุด อยู่ตำแหน่งรอบสวน ได้วิวพื้นที่สีเขียวสวย และมาใช้งานง่าย

CHER Vibhavadi Rangsit (เฌอ วิภาวดีรังสิต) เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น 133 ยูนิต ถ้าเทียบกับเพื่อนบ้านในย่านเดียวกันที่ยังเปิดขายอยู่ในปัจจุบัน ถือว่ามีความเป็นส่วนตัวมากที่สุดเลยครับ จึงเหมาะกับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวาย อยู่ร่วมกันแบบสงบ แชร์ส่วนกลางกันไม่เยอะ ซึ่งก็จะมีบ้านที่อยู่ทำเลภายในซอยและติดถนนหลักให้เลือกครับ

โดยตำแหน่งบ้านที่น่าสนใจก็คงจะเป็นเฟสแรกที่เปิดขายอยู่ในปัจจุบัน ที่จะอยู่รอบๆสวนและ Clubhouse ทำให้สามารถมาใช้งานได้สะดวก แถมยังมีบ้านไซส์ใหญ่สุด (L) ที่ได้วิวสวนสวยๆให้เลือกอีกด้วย ส่วนบ้านไซส์เล็กสุด (S) จะมีเพียงไม่กี่หลังในซอยแรกเท่านั้น ที่เหลือจะเน้นเป็นบ้านไซส์กลาง (M) เป็นหลักครับ

ตำแหน่งของ Facilities จะมีการดีไซน์ให้เยื้องกับถนน Main ด้านหน้าโครงการเล็กน้อย จึงทำให้คนที่มาใช้งานสระว่ายน้ำหรือ Fitness จะไม่เสียความเป็นส่วนตัวมากนัก เพราะรถจะต้องเลี้ยวและหันด้านข้างมาให้กับ Clubhouse ซึ่งพอได้เห็นแนวต้นไม้เป็นส่วนต้อนรับ แต่จะไม่ได้มองพุ่งตรงเข้ามาเห็นกิจกรรมของคนที่อยู่ในอาคารแบบตรงๆได้นั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีการเปิดช่องทางระหว่างคลัสเตอร์ของทาวน์โฮม ทำให้แต่ละซอยสามารถเดินลัดเชื่อมต่อกันได้ หากใครที่บ้านอยู่ในซอยด้านในก็สามารถใช้พื้นที่ตรงนี้ลัดมาใช้ Clubhouse และสวนได้นะครับ

ซุ้มประตูทางเข้าโครงการจะมีการแบ่งทางเข้า-ออกชัดเจน ด้านหน้าจะมีระยะของถนนที่ถอยร่นเข้าไปด้านในพอสมควร ซึ่งเป็นจุดปลอดภัยสำหรับให้รถชะลอตัวตอนเข้า-ออกโครงการ โดยไม่กระทบกับถนนใหญ่ที่อยู่ด้านนอกเลยนั่นเองครับ

การเข้า-ออกจะมีไม้กั้นกระดกพร้อมระบบ RFID โดยใช้สัญญาณ Bluetooth ที่จะเปิดให้อัตโนมัติแบบ Easy Pass บนทางด่วน ส่วนถ้าใครที่เป็น Visitor ก็จะต้องแลกบัตรกับ รปภ. ก่อนตามปกตินะครับ

ถนนทางเข้าด้านหน้าจะปลูกต้นไม้เพิ่มความสดชื่นทั้ง 2 ด้าน ซึ่งเป็นระยะที่ช่วยทำให้โซนบ้านพักอาศัยด้านในจะมีความเงียบสงบ เป็นส่วนตัว และหลีกหนีความวุ่นวายจากมลพิษของถนนใหญ่ได้เป็นอย่างดี

พอเข้ามาด้านในเราจะเจอกับทางแยกและมี Facilities อยู่ตรงด้านหน้าเลย แต่อย่างที่บอกว่าตำแหน่งจะไม่ได้อยู่ตรงกับถนน Main แถมยังมีแนวต้นไม้ช่วยพรางสายตาด้วย จึงทำให้อาคาร Clubhouse มีความเป็นส่วนตัวที่ดีเลยทีเดียวนะ

บริเวณด้านหน้าของอาคาร Clubhouse จะเป็นพื้นที่สวนขนาดประมาณ 132 ตร.วา และจะมีทางเดินให้มาพักผ่อนชมธรรมชาติกันได้ในช่วงแดดร่มๆ และมีฟังก์ชันจะแบ่งออกเป็น 2 ด้าน

เริ่มจากทางขวามือจะเป็นจุดนั่งเล่นพักผ่อนแบบนี้ครับ ส่วนพื้นที่สวนตรงกลางเราสามารถไว้จัดกิจกรรมตามเทศกาลของหมู่บ้านในอนาคตได้ด้วยนะ

ส่วนทางด้านซ้ายมือจะเป็น Playground ถ้าใครที่มีเด็กเล็กๆอาศัยอยู่ด้วย ก็สามารถให้น้องๆมาเล่นออกกำลังกายตรงนี้ได้ ซึ่งพื้นรอบๆจะเป็นหญ้าเทียมและพื้นยาง ที่จะช่วยให้น้องๆสามารถเล่นได้อย่างปลอดภัยครับ

สำหรับอาคาร Clubhouse จะมีทางเข้าอยู่ที่ด้านหลังแบบนี้ ซึ่งถ้าใครที่ขับรถมาก็อาจต้องจอดหลบข้างทางริมถนนเอานะครับ เพราะเค้าจะไม่ได้มีที่จอดจริงจังเตรียมเอาไว้ หรือจะใช้วิธีเดินออกกำลังกายมาก็ได้

เมื่อเข้ามาชั้นแรกเราจะเจอกับพื้นที่สันทนาการ ไว้สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนริมสระว่ายน้ำ ซึ่งก็จะมีทั้ง Day Bed และโต๊ะเก้าอี้ให้เลือกใช้งาน สามารถมานั่งเล่นในร่มได้ตลอดทั้งวัน

ขนาดสระว่ายน้ำหลักกว้าง 3.8 x 11.5 m. ถ้าใครอยากว่ายออกกำลังกายจริงจังก็อาจต้องว่ายวนสักหลายๆรอบหน่อย โดยจะเป็นสระแบบกลางแจ้งที่ถูกโอบล้อมด้วยต้นไม้ ทำให้มีความสดชื่นเขียวขจี แถมยังช่วยพรางสายตาเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้อีกด้วย

ส่วนอีกด้านของสระเป็น Kid’s Pool ขนาด 1.8 x 2.45 m. สามารถให้เด็กเล็กๆมานั่งแช่น้ำเล่นตรงนี้ได้นะ

แต่จุดที่น่านั่งมากๆก็คือ ‘ชิงช้า’ ที่อยู่ติดกับสวนตรงนี้ ซึ่งเราสามารถนั่งเล่นชมวิวสวยๆจากมุมนี้ได้แบบชิลๆเลยครับ

บริเวณด้านในของ Clubhouse จะเป็นห้องน้ำแยกชาย-หญิง และมี Shower ให้ล้างตัวก่อนลงสระได้อยู่ด้านหน้าแบบนี้

ส่วนภายในห้องน้ำก็จะมีฟังก์ชันให้ใช้งานตามนี้ครับ หลักๆจะเป็นโถสุขภัณฑ์ และตู้ล็อคเกอร์ แต่จะไม่ได้มีห้องให้อาบน้ำนะครับ ดังนั้นถ้าใครที่ว่ายน้ำหรือออกกำลังกายเสร็จ ก็จำเป็นต้องกลับไปล้างเนื้อล้างตัวที่บ้านตัวเองอีกทีนะ

บนชั้น 2 จะเป็นห้อง Fitness ที่แบ่งออกเป็น 2 โซนหลักๆ

โซนแรกที่อยู่ด้านซ้ายจะมีทั้งจุดนั่งเล่น บอลโยคะ และลู่วิ่ง ที่สามารถออกกำลังกายไปพร้อมกับชมวิวสวน + สระว่ายน้ำไปด้วยได้แบบนี้เลย

ส่วนทางด้านขวามือก็จะเป็นเครื่องวิ่งอีกแบบหนึ่ง มาพร้อมกับดัมเบลให้เพิ่มกล้ามเนื้อกันได้ครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Clubhouse
  • Fitness
  • Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 3.8 x 11.5 m.
  • Kids Pool
  • Playground
  • สวนสาธารณะ 1 จุด ขนาด 132 ตร.วา
  • ถนนหลักกว้าง 12 m. และถนนซอยกว้าง 9 m.
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.65 m.
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ซุ้มประตูโครงการไม้กั้นกระดก
  • เข้า-ออกโครงการด้วยระบบสัญญาณ Bluetooth
  • CCTV บริเวณ Main Gate และภายในโครงการ 25 จุด

แบบบ้าน

Highlights :

  • โครงสร้างบ้านก่ออิฐมอญแดง สามารถทุบ/เจาะ/ต่อเติม หรือปรับเปลี่ยนฟังก์ชันให้เหมาะกับ Lifestyle ของเราได้ง่ายตามต้องการ
  • พื้นที่ซักล้างหลังบ้านลงเสาเข็มมาให้ รองรับการต่อเติมครัวไทย
  • มีบ้าน 3 แบบให้เลือก ถึงแม้จะเป็นทาวน์โฮมขนาดเล็ก แต่ก็มีฟังก์ชันยืดหยุ่นดี เช่น มีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างให้ใช้งาน หรือสามารถทุบผนังห้องนอนเล็กเชื่อมต่อเป็น Double Master Bedroom ได้นั่นเอง

โครงการ CHER Vibhavadi Rangsit (เฌอ วิภาวดีรังสิต) มีทาวน์โฮมให้เลือก 3 แบบ ดีไซน์เป็นสไตล์ Modern โดดเด่นที่โครงสร้างบ้านใช้วัสดุเป็นอิฐมอญแดงไม่เหมือนใครในย่าน ซึ่งถือว่าหาได้ยากมากๆครับ เพราะส่วนใหญ่เราจะเจอเป็นผนัง Precast กันใช่มั้ย แต่พอโครงการใช้เป็นการก่ออิฐแบบดั้งเดิม ก็จะทำให้ง่ายต่อการทุบ/เจาะ/ต่อเติมมากๆ อีกทั้งยังไม่ค่อยมีปัญหาตามรอยต่อต่างๆอีกด้วย

  • Castalia ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.2 เมตร พื้นที่ใช้สอย 91 ตร.ม. ขนาดที่ดิน 17.3 ตร.ว.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์
  • Victoria ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 109 ตร.ม. ขนาดที่ดิน 18.3 ตร.ว.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  • Jubilia ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอย 113 ตร.ม. ขนาดที่ดิน 19 ตร.ว.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์

โครงสร้างและวัสดุหลักของบ้าน :

  • โครงสร้างบ้าน : ก่ออิฐมอญแดง มีความแข็งแรง สามารถทุบ/ต่อเติมได้ง่าย
  • พื้นที่จอดรถ : Slab on Ground ตัด Joint แยกโครงการออกมาจากตัวบ้าน
  • พื้นที่ซักล้างหลังบ้าน : ลงเสาเข็มเดียวกับตัวบ้าน พร้อมก่อผนังรั้วรอบบ้านสูง 2.9 m.
  • บันได : โครงสร้างเหล็ก ปิดผิวไม้ยางพารา
  • พื้นชั้น 1 : กระเบื้องพอร์ซเลน
  • พื้นชั้น 2 : กระเบื้องยาง SPC ลายไม้
  • ห้องน้ำ : สุขภัณฑ์จากยี่ห้อ Cotto
  • กรอบประตู-หน้าต่าง : อลูมิเนียมสีดำ พร้อมกระจกเขียวตัดแสง

  • Victoria ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 109 ตร.ม. ขนาดที่ดิน 18.3 ตร.ว.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

แปลนชั้น 1 โดดเด่นที่บ้านหลังกลางนี้จะเริ่มมีที่จอดรถเป็น 2 คัน รวมถึงจะเน้นพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่โซนหลังบ้าน ซึ่งเปิดเป็น Open Plan เชื่อมต่อกับส่วนอื่นๆ ทำให้มีความกว้างขวางอยู่สบาย รวมถึงเรายังสามารถดีไซน์พื้นที่ใช้สอยให้เหมาะกับ Lifestyle ของเราได้ตามต้องการ เช่น จะทำเป็นมุมครัวก็ได้ หรือจะกั้นเป็นห้องส่วนตัวเลยก็ดี ส่วนซักล้างหลังบ้านทางโครงการก็ได้ออกแบบเผื่อไว้ให้ทำเป็นครัวไทยได้ด้วยครับ

แปลนชั้น 2 มีจุดเด่นที่เพิ่มขึ้นมาจากหลังเล็กสุดหลายจุด ไม่ว่าจะเป็น Master Bedroom ที่มีขนาดใหญ่มากๆ (ใหญ่กว่าบ้านหลังใหญ่ซะอีก) ทำให้สามารถมีมุม Walk-in Closet จริงจังในห้องเพิ่มได้สบายๆ รวมถึงยังสามารถเข้าห้องน้ำได้สะดวกอีกด้วย เพราะประตูห้องน้ำสามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง ส่วนห้องนอนเล็กด้านหลังก็สามารถรองรับการมีลูก 2 คนได้ หรือถ้าใครมีลูกคนเดียวก็จะมี 2 ตัวเลือกคือ

  1. เราสามารถทำอีกห้องเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆ เช่น ห้องพระ หรือห้องทำงานไปเลยได้
  2. เราสามารถทุบผนังตรงกลางออก เพื่อเชื่อมต่อให้กลายเป็น Double Master Bedroom อีกห้องหนึ่งได้ด้วยนั่นเอง

เริ่มกันที่บริเวณด้านหน้าบ้านจะมีประตูรั้วเหล็กบานพับแบบ 3 ตอน มีพื้นที่จอดรถกว้าง 5.2 m. สามารถจอดรถ 2 คันได้พอดีๆ มาพร้อมกับห้องเก็บของเล็กๆใต้บันไดด้วย

โครงสร้างพื้นเป็นแบบ On Ground ตัด Joint แยกตัวออกมาจากโครงสร้างหลักของบ้าน เพื่อที่เวลาเผื่อเกิดการทรุดตัวในอนาคต ก็จะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างหลัก

และถ้าใครอยากทำหลังคาจอดรถเพิ่ม ก็สามารถทำได้ด้วยการยื่นแบบกับโครงการก่อน แนะนำว่าให้ตั้งเสาเพิ่มแยกมาจากรั้วและตัวบ้าน เพื่อที่จะได้ไม่ทำความเสียหายต่อโครงสร้างหลัก และไม่เสียประกันของตัวบ้านครับ

ประตูทางเข้าบ้านเป็นอลูมิเนียมสีดำ ติดตั้งกระจกเขียวตัดแสงทั้งหลังเพื่อป้องกันความร้อนจากภายนอก รวมถึงจะมีการยกระดับพื้นขึ้นจากที่จอดรถ เพื่อป้องกันเศษฝุ่นไม่ให้เข้าสู่ในบ้าน และเราก็สามารถใช้เป็นจุดถอด-ใส่รองเท้าได้อีกด้วย

เข้ามาภายในเราจะเจอกับ Common Area ที่เหมือนกับทาวน์โฮมทั่วไปเลยครับ โดยพื้นที่ส่วนแรกจะเป็น Living Area มีระยะดูทีวีกว้าง 2.8 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้พอดีๆ ส่วนพื้นจะปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนสวยเลย และได้ฝ้าสูง 2.6 m. เป็นมาตรฐาน

โดยหลังนี้จะเป็นบ้านหลังกลางแบบมาตรฐาน และมีการต่อเติมส่วนหลังบ้านเพิ่มขึ้นมา ก็เลยอาจดูทึบๆอยู่บ้าง แต่ของจริงเราจะได้แสงจากโซนหลังบ้าน และถ้าเป็นหลังมุมก็จะมีช่องแสงข้างบ้านเพิ่มขึ้นด้วยนะ

ถัดเข้ามาด้านในบ้านจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหาร ซึ่งจะอยู่ติดกับประตูกระจกหลังบ้าน และเชื่อมต่อกับพื้นที่อเนกประสงค์ Open Plan ที่อยู่ติดกันด้วย เลยทำให้เป็นพื้นที่ที่ดูกว้างขวางดีทีเดียวครับ

สำหรับพื้นที่อเนกประสงค์นี้เราจะสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชัน ให้ตรงกับความต้องการของ Lifestyle ครอบครัวเราได้หลากหลายมากๆ ไม่ว่าจะเป็นมุมครัวฝรั่งเอาไว้เตรียมอาหาร ชงกาแฟ หรือจะ Live ทำอาหารก็ยังได้

และถ้าใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสุดๆ ก็ยังสามารถกั้นผนังทำเป็นห้องอีกห้องไปเลยได้ครับ เช่น ห้องทำงาน ห้องทำการบ้าน ห้องนอนผู้สูงอายุ โดยจะมีขนาดกว้างประมาณ 2.8 m.

ติดกันจะเป็นห้องน้ำที่มีฟังก์ชันส่วนอาบน้ำเตรียมเอาไว้ด้วย (เผื่อใครทำห้องนอนชั้นล่างเพิ่ม หรือจะแบ่งจากชั้นบนลงมาใช้ในช่วงเร่งรีบก็ได้) มีพื้นที่ยืนกว้าง 1.35 x 0.9 m. ให้ใช้งานได้พอดีๆ สุขภัณฑ์ทั้งหมดจะเป็นของ Cotto ได้ทุกอย่างเหมือนบ้านตัวอย่างเลยครับ

ถัดมาจะเป็นโซนซักล้างหลังบ้าน ซึ่งบ้านตัวอย่างได้ต่อเติมครัวมาให้ดูเป็นไอเดียครับ ซึ่งเราก็จะได้พื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางต่อเนื่องมาจากในบ้านมากขึ้นเยอะเลย

ของจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆครับ พื้นเป็นคอนกรีตธรรมดา และมีผนังรั้วรอบๆสูงถึง 3.35 m. ซึ่งทั้งหมดนี้ตั้งอยู่บนเสาเข็มลึกเท่ากับตัวบ้าน แน่นอนว่าถูกออกแบบมาเพื่อให้เราได้ต่อเติมครัวไทยหลังบ้านนั่นเอง (เป็นจุดที่ทำได้แบบไม่เสียประกันบ้านครับ)

และถึงแม้ว่าผนังนี้จะมีเสาเข็มลึก แต่ก็เป็นผนังก่ออิฐและถูกใช้เป็นผนังร่วมกับเพื่อนบ้าน ดังนั้นทางวิศวกรโครงการจึงแนะนำให้ตั้งเสาหรือก่อผนังเบิ้ลขึ้นมาใหม่อีกชั้นหนึ่ง เพื่อลดปัญหาการแตกร้าวหรือความเสี่ยง อื่นๆที่จะกระทบในอนาคตครับ

ส่วนบันไดทางขึ้นชั้น 2 จะอยู่ทางด้านหน้าบ้านเลย ซึ่งเวลาที่เรากลับมาแล้วอยากตรงขึ้นชั้น 2 ก็สามารถเดินขึ้นไปได้โดยไม่ต้องตัดผ่านหน้าทีวีที่อาจมีคนดูอยู่นั่นเองครับ

บันไดเป็นโครงสร้างเหล็ก ทำให้เวลาใช้งานก็อาจต้องเดินเบาๆสักนิดนึง เพราะอาจส่งเสียงดังรบกวนได้ แต่ก็แข็งแรงใช้งานได้ปกติ ปิดผิวด้วยไม้ยางพารา และมีราวจับตลอดทาง

จุดที่ต้องระมัดระวังคือ ชานพักที่เป็นขั้นบันไดแบบสามเหลี่ยม ที่อาจเป็นมุมทำให้เราเหยียบได้ไม่เต็มเท้านัก รวมถึงผมติดว่าช่องแสงตรงนี้น้อยมากๆ จึงต้องเปิดไฟช่วยตลอดเวลาเลยครับ

เริ่มกันที่ห้อง Master Bedroom จะอยู่โซนด้านหน้าของบ้าน มีขนาดใหญ่และกว้างเท่ากับตัวบ้านเลย อีกทั้งยังมีฝ้าเพดานที่สูงโปร่งโล่งมากขึ้นอยู่ที่ 2.7 m. (จุดอื่นๆ 2.6 m.) และเปลี่ยนวัสดุปูพื้นมาเป็นกระเบื้องยาก SPC ลายไม้ ที่ทนน้ำและรอยขีดข่วนได้ดีกว่าลามิเนต

ของจริงจะเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ 3 x 5.5 m. ซึ่งเราสามารถจัดพื้นที่ด้านหนึ่งของห้องเป็น Walk-in Closet เพิ่มได้สบายๆเลย

โดยบ้านตัวอย่างได้กั้นผนังแยกออกมาเป็นไอเดียให้ดู ทำให้มีความเป็นสัดส่วนชัดเจน แถมยังติดทีวีเพิ่มได้อีก หรือถ้าใครอยากให้ห้องยังคงโล่งกว้าง ก็จะใช้เป็นผนังกระจก หรือจะกั้นด้วยฉาก/ตู้เตี้ยๆแทนได้นะครับ

อีกด้านหนึ่งของห้องเราจะเห็นว่ามีประตูห้องน้ำด้วย ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกมากๆ

ภายในมีการแบ่งฟังก์ชันแยกเป็นสัดส่วน และได้สุขภัณฑ์จาก Cotto ครบเหมือนบ้านตัวอย่าง

จุดเด่นคือ ห้องน้ำนี้สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง เพราะต้องแชร์การใช้งานร่วมกับห้องนอนเล็กที่เหลือด้วย ส่วนพื้นที่ยืนอาบน้ำจะกว้าง 1.4 x 0.8 m. และเราสามารถติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมได้เองถ้าต้องการ

สำหรับห้องนอนเล็กทั้ง 2 จะอยู่โซนด้านหลังบ้าน ซึ่งถ้าใครมีลูกคนเดียวก็อาจทุบผนังตรงกลางออก เพื่อเชื่อมต่อกันให้กลายเป็น Double Master Bedroom อีกห้องหนึ่งไปเลยก็ได้ เพราะอย่างที่บอกว่าโครงสร้างบ้านเป็นก่ออิฐมอญแดง ทำให้ปรับเปลี่ยนได้สบายมาก

ห้องนอนเล็กทางขวามือที่อยู่ติดกับบันไดมีขนาด 2.9 x 3.3 m. สามารถวางเตียง 5 ฟุต แล้วยังมีพื้นที่รอบเตียงเหลือให้ใช้งานได้สบายๆ ซึ่งหลักๆแล้วก็จะเป็นห้องนอนของลูกคนโตครับ

ส่วนห้องนอนเล็กอีกห้องจะมีขนาดที่เล็กลงอยู่ที่ 2.55 x 2.3 m. แต่ก็พอจะวางเตียง 3.5 ฟุตและทำเป็นห้องนอนได้นะครับ หรือถ้าใครมีลูกคนเดียวก็อาจเปลี่ยนห้องนี้เป็นห้องพระ หรือห้องทำงานส่วนตัวก็ได้เหมือนกัน

สำหรับภาพบ้านตัวอย่างมาตรฐานของจริงจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Image 1/7

  • Jubilia ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอย 113 ตร.ม. ขนาดที่ดิน 19 ตร.ว.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์

เป็นบ้านหลังใหญ่สุดของโครงการ แปลนชั้น 1 มีจุดเด่นที่มีการกั้นห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมาให้เลย ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาไปทำเพิ่มเองแถมยังมีขนาดใหญ่ขึ้นด้วยครับ ส่วนแปลนชั้น 2 จะเพิ่มห้องน้ำมาให้อีก 1 ห้อง โดยคราวนี้ Master Bedroom จะมีห้องน้ำส่วนตัวเป็นของตัวเองเลย แลกกับพื้นที่ใช้สอยจะลดลงเล็กน้อย ก็เลยอาจไม่มีมุม Walk-in Closet เหมือนหลังกลางก่อนหน้านี้นะครับ ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องก็จะแชร์ห้องน้ำด้วยกันตามปกติ ทำให้บ้านหลังนี้เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง มีลูก 1 – 2 คน ฟังก์ชันเพียงพอไม่ต้องแชร์กันเยอะ แถมยังมีห้องอเนกประสงค์ให้ใช้งานด้วย จะทำเป็นห้องผู้สูงอายุก็ดี หรือห้องอื่นๆก็ได้

ด้านหน้าบ้านจะเหมือนกับหลังก่อนหน้านี้เลยครับ ถ้างั้นผมจะพาเข้ามาดูด้านในตัวบ้านเลย ซึ่งจะเห็นได้ว่าฟังก์ชันจะคล้ายๆเดิม แต่จะกว้างขวางขึ้นเล็กน้อย โดยระยะดูทีวีจะกว้าง 3 m. และที่จอดรถเพิ่มเป็น 5.4 m. ทำให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น

ถัดเข้ามาด้านในก็จะวางเป็นโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งได้แบบนี้ สามารถทานอาหารไปและดูทีวีไปด้วยได้เลยครับ

แน่นอนว่าหลังบ้านเราสามารถต่อเติมครัวไทยเพิ่มได้เหมือนเดิม โดยนี่จะเป็นตัวอย่างของแปลงพิเศษที่มีที่ดินบ้านใหญ่กว่าปกติ ซึ่งเราก็จะได้เป็นครัวที่กว้างมากๆแบบนี้เลยครับ (ของจริงตามมาตรฐานก็จะกว้างอยู่ที่ 2 m.)

จุดที่แตกต่าง (แต่ถ้ากั้นห้องเพิ่มก็จะคล้ายๆกับหลังกลางก่อนหน้านี้) ก็จะห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ติดกับโต๊ะทานอาหาร ซึ่งเราไม่ต้องเสียเวลากั้นเองเลยครับ แถมยังเป็นผนังทึบที่มีความเป็นส่วนตัวดีอีกด้วย

ภายในมีขนาดกว้าง 2.8 x 2.6 m. สามารถทำเป็นห้องทำงาน ห้องทำการบ้าน ห้องนั่งเล่นดูหนัง หรือจะทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุชั้นล่างก็ได้ครับ เพราะมีขนาดกว้างพอที่จะวางเตียง 3.5 ฟุตได้สบายๆ

ติดกันจะเป็นห้องน้ำที่อยู่ใต้บันได มีการแยกฟังก์ชันเป็นสัดส่วนชัดเจน พร้อมส่วนอาบน้ำเผื่อสำหรับทำห้องนอนชั้นล่างเพิ่มด้วย โดยพื้นที่ยืนอาบน้ำจะกว้าง 1.3 x 0.9 m. สามารถใช้งานได้ตามปกติ

สำหรับโซนของบันไดจะเหมือนกับบ้านก่อนหน้านี้เลยครับ ดังนั้นเดี๋ยวเราจะข้ามไปดูในห้องเลยก็แล้วกันนะ

เริ่มจาก Master Bedroom ที่อยู่โซนหน้าบ้าน ภายในมีขนาดใหญ่ 4.15 x 3.4 m. สามารถวางเตียง 5 ฟุต แล้วยังมีพื้นที่รอบๆเตียงสามารถใช้งานได้สบายๆ

แต่จุดเด่นของห้องนี้จริงๆก็คือ ช่องแสงที่มีขนาดใหญ่และสูงเกือบเต็มผนังเลยครับ ซึ่งทำให้ภายในห้องสว่างโปร่งโล่ง แถมยังรับวิวได้ดีอีกด้วย

โดยเฉพาะบ้านหลังที่อยู่ตรงข้ามสวนแบบนี้จะชมวิวได้เต็มที่เลยทีเดียว และถือว่าหาได้ยากในทาวน์โฮมระดับราคานี้ที่ให้วัสดุแบบนี้ครับ

นอกจากนี้บริเวณปลายเตียงยังมีห้องน้ำในตัวให้ใช้งานด้วยครับ ทำให้มีความสะดวกและเป็นส่วนตัวมากทีเดียว โดยพื้นที่ยืนอาบน้ำจะกว้าง 1.4 x 0.75 สามารถใช้งานได้พอดีๆ

แต่จุดเด่นจริงๆก็คือ นี่เป็นห้องน้ำเดียวที่จะมีช่องหน้าต่างติดกับภายนอก ทำให้นอกจากจะได้แสงสว่างที่ดีแล้ว ยังสามารถระบายอากาศได้ดี หมดปัญหาเรื่องห้องน้ำอับชื้นไปได้เลย

ถัดมาจะเป็นห้องนอนเล็กที่อยู่ติดกับบันได ภายในมีขนาด 3.3 x 2.8 m. สามารถวางเตียง 5 ฟุต และมีพื้นที่รอบเตียงเหลือให้ใช้งานได้สบายๆ

ติดกันจะเป็นห้องนอนเล็กสุดของบ้านที่อยู่ติดกับห้องน้ำ มีขนาดกว้าง 2.75 x 2.3 m. สามารถวางเป็นเตียง 3.5 ฟุตได้ครับ และเช่นเดิมถ้าใครจะทุบผนังเชื่อมต่อกับห้องข้างๆ เพื่อให้กลายเป็น Master Bedroom อีกห้องหนึ่งก็สามารถทำได้เช่นกัน

สุดท้ายจะเป็นห้องน้ำที่ใช้งานร่วมกันระหว่างห้องนอนเล็ก ภายในมีการแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน และมีพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 1.1 x 0.8 m. สามารถใช้งานได้พอดีๆ

  • Castalia ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.2 เมตร พื้นที่ใช้สอย 91 ตร.ม. ขนาดที่ดิน 17.3 ตร.ว.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์

พาแวะมาดูหลังเล็กสุดกันสักหน่อย ซึ่งทั้งโครงการจะมีเพียง 10 ยูนิตเท่านั้น เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กหรือคนที่มีงบประมาณจำกัด แต่ที่สำคัญคือ ตำแหน่งบ้านค่อนข้างดีเพราะอยู่ใกล้ส่วนกลางด้วยนะครับ

ฟังก์ชันภายในมีความคล้ายกับบ้านตัวอย่างก่อนหน้านี้เลย เพียงแต่จะลดทอนฟังก์ชันบางอย่างลงมา เช่น มีที่จอดรถ 1 คัน แต่ได้พื้นที่ปลูกต้นไม้เพิ่มมาแทน รวมถึงได้ Double Master Bedroom ที่เหมาะกับคนมีลูกคนเดียว แต่อาจต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกัน แต่ที่ผมว่าเจ๋งที่สุดคือ ถึงแม้จะเป็นบ้านหลังเล็กสุด แต่ก็ยังมีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างมาให้เราใช้งานด้วยตั้งแต่แรกนั่นเองครับ

Image 1/6

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่า

ราคา

CHER Vibhavadi Rangsit (เฌอ วิภาวดีรังสิต) ราคา ณ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567

  • Castalia ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.2 เมตร พื้นที่ใช้สอย 91 ตร.ม. ขนาดที่ดิน 17.3 ตร.ว.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์
    – ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท
  • ค่าจอง 5,000 บาท
  • ค่าทำสัญญา 5,000 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
  • ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.วา/เดือน
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่บางบัวทอง-บางพูน ตรงบริเวณใกล้แยกบางพูนที่ตัดกับถนนรังสิต-ปทุมธานี จึงเหมาะกับคนที่ทำงานหรือใช้ชีวิตแถวๆรังสิต และอาจรวมถึงศูนย์ราชการตรงแถวๆติวานนท์ด้วยก็ได้ครับ ซึ่งบ้านในทำเลนี้ของโครงการจะมีราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่าโซนข้างเคียงหลายๆโซนอย่าง ศรีสมาน หรือติวานนท์เป็นหลักล้านบาทเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังเป็นตำแหน่งที่อยู่ใกล้กับความอุดมสมบูรณ์อย่าง ห้างฟิวเจอร์ฯ ม.รังสิต และสนามบินดอนเมืองอีกด้วย หรือถ้าใครจะเข้าเมืองก็จะมีทางด่วนอุดรรัถยาให้ใช้งานครับ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ด้านหน้ามีซุ้มประตูทางเข้า-ออกด้วยระบบ RFID หรือใช้สัญญาณ Bluetooth พร้อมกล้อง CCTV และ รปภ. 24 ชม. รวมถึงภายในโครงการเองก็จะมีกล้องตามจุดต่างๆด้วยเช่นกัน มีรั้วรอบโครงการ แต่ในบ้านจะไม่ได้ให้อะไรมานะครับ ใครต้องการก็สามารถหามาเพิ่มเติมเองได้เลย

การออกแบบโครงการ : มีเพื่อนบ้าน 133 ยูนิต ถือว่ามีความเป็นส่วนตัวไม่วุ่นวาย บ้านในเฟสแรกจะอยู่ใกล้ส่วนกลาง สามารถมาใช้งานได้ง่าย โดยเฉพาะบ้านไซส์ใหญ่จะอยู่รอบสวนและได้วิวพื้นที่สีเขียวเลยครับ ที่ชอบอีกอย่างก็คือ การวางตำแหน่ง Clubhouse จะอยู่เยื้องมาจากถนนหลักเล็กน้อย ทำให้ไม่เสียความเป็นส่วนตัว แต่เรายังคงได้สัทผัสบรรยากาศของพื้นที่สีเขียวเป็นส่วนต้อนรับได้เป็นอย่างดี

การออกแบบตัวบ้านและพื้นที่ใช้สอย : มีทาวน์โฮม 3 ไซส์ให้เลือก ที่ถึงแม้จะมีขนาดเล็ก แต่ก็มีความยืดหยุ่นของฟังก์ชันพอสมควร จุดเด่นคือ พื้นที่ชั้นล่างมักจะมีห้องอเนกประสงค์ให้ใช้งานด้วย หรือไม่ก็จะเป็นพื้นที่แบบ Open Plan ให้สามารถปรับฟังก์ชันให้ตรงกับ Lifestyle ความต้องการของครอบครัวเราได้หลากหลาย เช่น ห้องทำงาน หรือห้องนอนผู้สูงอายุ

รวมถึงชั้น 2 ก็จะเด่นที่ห้อง Master Bedroom ที่มีขนาดใหญ่แถมยังเข้าห้องน้ำจากด้านในได้สะดวกด้วย ยิ่งเป็นบ้านไซส์กลาง (M) จะมีพื้นที่เยอะจนทำ Walk-in Closet ได้สบายๆเลยครับ อีกจุดเด่นหนึ่งก็คือ เราสามารถทุบผนังเชื่อมต่อห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ให้กลายเป็น Double Master Bedroom อีกห้องหนึ่งได้ในกรณีที่มีลูกคนเดียว ซึ่งก็จะทำให้มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางขึ้น และยังไม่ต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกับใครอีกด้วยครับ

วัสดุ : นับว่าเป็นจุดเด่นที่สุดของโครงการ โดยจะใช้ระบบ Conventional แบบก่ออิฐมอญแดงที่ไม่เหมือนใครในย่าน มีความแข็งแรง และง่ายต่อการทุบ/เจาะ/ต่อเติม ซึ่งเหมาะกับฟังก์ชันบ้านที่มีความยืดหยุ่นพอดี ซักล้างหลังบ้านลงเสาแข็มลึกเท่าตัวบ้านรองรับการต่อเติม (อาจต้องเผื่องบทำครัวเพิ่มด้วย) พื้นก็ให้มาดีกว่าบ้านทั่วๆไปครับ อย่างตรงชั้น 1 ก็เป็นกระเบื้องพอร์ซเลน ชั้น 2 เป็น SPC และยังชอบตรงหน้าต่างในห้อง Master Bedroom ของบ้านหลังใหญ่สุด ที่ให้มาใหญ่เกือบเต็มผนังเลยทีเดียว

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : มีพื้นที่สวนตรงกลางขนาด 132 ตร.วา ถือว่าไม่ได้ใหญ่มากครับ แต่พอมีการเพิ่มแนวต้นไม้ทั้ง 2 ข้างทางตรงถนน Main ก็ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ดูสดชื่นได้ไม่น้อยอยู่เหมือนกัน ส่วนถ้าเป็นในบ้านจะไม่ได้ให้อะไรมาเลยต้องทำเพิ่มเอง

สาธารณูปโภค : มีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบ ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ ฟิตเนส สนามเด็กเล่น และสวนสาธารณะ โดยอาจมีขนาดไม่ได้ใหญ่มากนัก ซึ่งเป็นไปตามจำนวนเพื่อนบ้านในโครงการที่มีไม่เยอะ แต่ก็มีข้อดีคือ ความหนาแน่นในการใช้งานจะค่อนข้างน้อยไปด้วยนั่นเอง และส่วนที่ผมชอบที่สุดก็คงจะเป็นบรรยากาศตรงสระว่ายน้ำ เพราะจะถูกโอบล้อมไปด้วยต้นไม้ ทำให้นอกจากจะมีความร่มรื่นและสดชื่นแล้ว ยังช่วยพรางสายตาและเพิ่มความเป็นส่วนตัวในตอนใช้งานได้ดีอีกด้วยครับ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 2.39 ล้านบาท, 7 พฤศจิกายน 2567

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วนและห้างฟิวเจอร์ฯ
  • ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ. 24 ชม. และกล้อง CCTV
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัว ฟังก์ชันยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ มีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง และทำ Double Master Bedroom ได้
  • วัสดุ 8.5/10 – โครงสร้างก่ออิฐมอญแดงไม่เหมือนใครในย่าน ซักล้างลงเสาเข็ม ให้วัสดุพื้นมาดี ช่องแสงใหญ่
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – ขนาดตามมาตรฐาน เน้นต้นไม้ริมถนนหลัก 2 ข้างทาง
  • สาธารณูปโภค 8/10 – มีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบ เพียงพอต่อจำนวนยูนิต
  • 7.93 / 10.00

CHER Vibhavadi Rangsit (เฌอ วิภาวดีรังสิต) เหมาะกับใคร

โครงการ CHER Vibhavadi Rangsit (เฌอ วิภาวดีรังสิต) เหมาะกับคนที่มองหาทาวน์โฮมติดถนนใหญ่บางบัวทอง-บางพูน ใกล้ห้างฟิวเจอร์และทางด่วน สามารถเดินทางไปติวานนท์ก็ง่าย เป็นโครงการขนาดเล็กที่เป็นส่วนตัว ไม่วุ่นวาย ตัวบ้านเป็นโครงสร้างก่ออิฐมอญแดง ปรับเปลี่ยนต่อเติมได้ง่าย ฟังก์ชันยืดหยุ่น มีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างให้ใช้ เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก 2 – 3 คน พร้อมส่วนกลางหลักๆให้ใช้งานครบ มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 2.39 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 31,430-52,430 บาท


Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่