รีวิวฉบับที่ 1300 … สวัสดีค่ะวันนี้จะพาไปชม Brown Condo พหลโยธิน 67 คอนโด Low Rise ตัวใหม่จาก Asset Wise อยู่ติดถนนใหญ่ และรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว สถานีสายหยุด โดยโครงการนี้เป็นตัวที่ 2 ของแบรนด์  “Brown” หลังจากได้ปล่อยโครงการแรกที่รัชดา 32 มาแล้ว สำหรับโครงการ Brown Condo พหลโยธิน 67 จะทำออกมาเป็นรูปแบบไหน เราไปดูพร้อมๆกันเลยค่ะ

Fact @ 28 February 2017

  • Brown Condo phaholyothin 67 (บราวน์ คอนโด พหลโยธิน 67)
  • Asset Wise
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางเขน
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 174 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 26 ยูนิตที่ชั้น 3-8
  • ที่จอดรถประมาณ 74 คัน รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 43%
  • ที่ดินประมาณ 1-0-73 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : ปี2560
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ปี2562
  • 1 Bedroom 22.3 – 24.55 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท
  • 1 Bedroom extra 24.7 – 25.90 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท
  • 1 Bedroom exclusive 27.05 – 30.65 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท
  • 1 Bedroom plus 31.7 – 34.95 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 90,000 – 95,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด n/a บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่  
  • โทร  : 081-617-6677

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.886689, 100.603066

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

Brown Condo พหลโยธิน 67 ตั้งอยู่ในย่านสะพานใหม่ ติดถนนใหญ่พหลโยธินขาออก ระหว่างซอยพหลโยธิน 67 และ 67/1 ใกล้รถไฟฟ้าสถานีสายหยุด ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ใช้เดินทางเข้าเมืองได้สะดวกเพราะเชื่อมต่อมาจากสายหลักที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน  การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว นั้นสามารถใช้เส้นทางเชื่อมไปออกถนนสำคัญได้หลายสาย ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางค่อนข้างเยอะทั้งถนนพหลโยธิน ถนนสุขาภิบาล 5 ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์  นอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากวงเวียนหลักสี่ ซึ่งก็สามารถใช้ออกไปยังถนนแจ้งวัฒนะ ถนนรามอินทรา และทางคู่ขนานวิภาวดีรังสิตได้อีกด้วย ในย่านนี้จะมีถนนตัดใหม่อยู่คือถนนเทพรักษ์ ปัจจุบันตัดจากถนนพหลโยธินไปถึงถนนสุขาภิบาล 5 แต่ในอนาคตทางสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร จะมีโครงการก่อสร้างถนนต่อเชื่อมกับถนนเทพรักษ์ไปบรรจบกับทางคู่ขนานวิภาวดีรังสิตโดยจะตัดตรงบริเวณเลียบคลองถนนและคลองวัดหลักสี่ค่ะ ซึ่งยังไม่มีกำหนดการที่แน่ชัดต้องรอดูกันต่อไป หากมีการก่อสร้างแล้วเสร็จบริเวณนี้ก็จะกลายเป็นสี่แยกใหญ่อยู่เหมือนกันและสามารถเดินทางไปวิภาวดีรังสิตได้สะดวกไม่ต้องไปอ้อมทางวงเวียนหลักสี่ รวมทั้งยังมีแผนก่อสร้างอีกจุดจากที่เชื่อมไปยังสุขาภิบาล 5 อยู่ในปัจจุบัน แต่ในอนาคตจะมีการก่อสร้างเพิ่มยาวไปถึงนิมิตใหม่เลยค่ะ

ทำเลบนย่านสะพานใหม่ถือเป็นย่านค้าขายคึกคัก เป็นแหล่งชุมชนอยู่อาศัยกันมานานรวมทั้งมี Node ใหญ่ๆ อย่างตลาดยิ่งเจริญที่จะคึกคักมากเป็นพิเศษเพราะเป็นตลาดขนาดใหญ่ขายทั้งของสด แห้ง เสื้อผ้าต่างๆ มี Big C , Tesco Lotus หลักสี่ ให้เลือกไปจับจ่ายใช้สอยซึ่งก็จะมีร้านอาหาร รถเข็นอาหารเยอะพอสมควร บรรยากาศในแถบนี้ก็จะมีคนเยอะคึกคัก รถราเยอะ ที่สำคัญคือมีความอุดมสมบูรณ์สูง หาของกินง่ายในราคาที่ไม่แพงมากนัก ในละแวกนี้ส่วนใหญ่เราก็ยังคงเห็นบ้านพักอาศัยแนวราบแบบอยู่กันเป็นชุมชนหรือหมู่บ้านจัดสรรกันอยู่ รวมถึงหอพักและอพาร์ทเม้นท์ นอกนั้นบริเวณใกล้ๆจะมีโรงพยาบาลเซ็นรัลเยนเนอรัล ม.เกริก ม.ศรีปทุม ด้วยปัจจุบันมีโครงการทำรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เชื่อมจากหมอชิตมาสะพานใหม่และตรงไปสุดถึงคูคตก็ทำให้บรรยากาศในละแวกนี้มีการเปลี่ยนไปพอสมควร เราก็จะเห็นคอนโดมิเนียมกันมากขึ้นทั้ง High Rise ติดถนนและ Low Rise ในซอยย่อยเพื่อมาเกาะรถไฟฟ้ากันมากขึ้น ส่วนราคาของคอนโดในย่านนี้ก็มีปรับราคาขึ้นเรื่อยๆตามความคืบหน้าของรถไฟฟ้า

ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถ นั้นก็ถือว่าสะดวกเช่นกันนะ ด้วยความที่ใกล้กับถนนพหลโยธินเลยจะเรียกรถก็ง่าย ทั้งแท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก รถตู้ และรถเมล์ และนอกจากนี้ในอนาคตอันใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายนี้ก็จะเสร็จให้ได้ใช้กันแล้ว ก็จะเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางมากขึ้น และเป็นสายสีเขียวสายหลักที่เข้าเมืองได้โดยตรงอีกด้วยค่ะ โดยสถานีที่ใกล้กับโครงการที่สุดคือสถานีสายหยุด มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 100 เมตร บวกลบนิดหน่อยเพราะยังไม่มีขาขึ้น-ลงให้เห็นชัดเจน แต่ก็ถือว่าเป็นระยะที่เดินได้สบายๆ  โดยโครงการรถไฟฟ้าสายต่อขยายนี้มี กำหนดการคาดว่าจะแล้วเสร็จ พ.ศ. 2562 และเปิดให้บริการปี พ.ศ. 2563 ก็อดใจรอกันอีกไม่นาน

การเดินทางในวันนี้เริ่มต้นจากบริเวณแยกรัชโยธินวิ่งตรงมาเรื่อยๆบนถนนพหลโยธิน ซึ่งจะเห็นความคืบหน้าในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ข้ามวงเวียนหลักสี่มา โครงการจะอยู่ติดถนนใหญ่ระหว่างซอยพหลโยธิน67 และ 67/1

วันนี้เราเริ่มจากบริเวณหน้าเมเจอร์รัชโยธิน วิ่งตรงตามถนนพหลโยธินมาเรื่อยๆ ทางฝั่งขวาจะเห็นว่ากำลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวสะพานใหม่-คูคตอยู่ค่ะ ถ้าสร้างเสร็จก็จะมีสถานีบริเวณนี้ด้วย

ตรงมาเรื่อยๆจนถึงแยกนี้ ถ้าเราเลี้ยวซ้ายจะเป็นทางไปถนนงามวงศ์วาน ถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นทางไปถนนเกษตรนวมินทร์ ถัดไปเราจะเจอกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ค่ะ

เราตรงต่อมาผ่านมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ม.ชื่อดังในย่านนี้

ตรงมาตามทางจะผ่านกรมป่าไม้อยู่ทางฝั่งซ้าย

ถัดมาอีกหน่อยจะมีกรมวิทยาศาตร์ทหารบกอยู่ทางฝั่งขวา

เราขับตรงต่อมาทางฝั่งขวาจะผ่านมหาวิทยาลัยศรีปทุม ที่เห็นเป็นตึกสูงๆสีขาวนั่นแหละค่ะ

ตามมาด้วยกรมทางหลวงชนบทค่ะ จะเห็นว่าการก่อสร้างรถไฟฟ้าคืบหน้าไปพอสมควรเหมือนกัน

ตรงมาเรื่อยๆจะเจอกับบ้านบางเขนแหล่งแฮงค์เอ้าท์บรรยากาศยุค 90 มีร้านค้า ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ฝั่งขวาเป็นกรมทหารราบที่ 11

ตรงมาอีกจนถึงวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เราจะเจอป้ายบอกทางไปสะพานใหม่ ซึ่งเราจะต้องเตรียมตัวลงอุโมงค์ค่ะ

เราจะลงอุโมงค์เพื่อข้ามวงเวียนหลักสี่ ซึ่งเป็นจุดตัดของถนนพหลโยธิน ถนนแจ้งวัฒนะและถนนรามอินทรา

พอขึ้นจากอุโมงค์มาทางฝั่งขวาจะเป็นเทสโก้ โลตัส (สาขาหลักสี่)

จากนั้นเราตรงตามทางมาเรื่อยๆ ให้สังเกตซอยพหลโยธิน67 ซอยที่อยู่ตรงข้ามสถานีสายหยุด โครงการจะอยู่ติดถนนใหญ่เลย  ถ้าใกล้ๆถึงให้เตรียมชิดซ้ายค่ะ

ถึงซอยพหลโยธิน 67 แล้วค่ะ บริเวณหน้าปากซอยเป็นตลาดนัดมอเตอร์ไซค์

พอถัดมาก็จะเป็นที่ตั้งของโครงการเลย ข้างๆตึกสีออกส้มๆเป็นคลินิกรักษาโรคตา

โดย Brown Condo พหลโยธิน 67 เป็นโครงการคอนโด Low Rise ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 1-0-73 ไร่กินพื้นที่ยาวตลอดแนวรั้วนี้เลยค่ะ

สำหรับสำนักงานขายจะไม่ได้ตั้งอยู่ที่เดียวกับโครงการนะคะ เราต้องขับไปยังถนนเทพรักษ์(ถนนตัดใหม่)ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่ พอถึงแยกที่มี Big C ให้เลี้ยวขวาเลยค่ะ

สำนักงานขายจะอยู่บนถนนเทพรักษ์เลี้ยวเข้ามานิดหน่อยก็เจอเลย สังเกตอาคารสีน้ำตาลเอาไว้

หน้าตาของสำนักงานขายค่ะ ตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาลเช่นเดียวกับชื่อโครงการ “Brown” เลย

บรรยากาศภายในสำนักงานขายค่ะ เดี๋ยวเราค่อยกลับมาชมห้องตัวอย่างกันนะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

เรามาดูสภาพแวดล้อมโดยรอบๆ จาก Google Map กันหน่อย ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ อาคารที่อยู่ติดถนนใหญ่จะเป็นตึกแถวหรืออาคารพาณิชย์ จะมีทางด้านทิศเหนือที่ติดกับคลีนิครักษาโรคตาเป็นอาคารที่สูงหน่อย นอกนั้นโดยรอบจะไม่มีตึกสูงมาบดบังวิวค่ะ โดยมีแต่ละด้านของโครงการติดกับ

  • ทิศเหนือ – ติดกับคลินิก 2000 (คลีนิครักษาโรคตา)
  • ทิศตะวันออก – ติดกับถนนพหลโยธิน ใกล้สถานีสายหยุด ฝั่งตรงข้ามเป็นซอยพหลโยธิน 48 หรือ ซอยสายหยุด
  • ทิศใต้ – ติดกับตลาดนัดมอเตอร์ไซด์ ถัดไปเป็นซอยพหลโยธิน67
  • ทิศตะวันตก – ติดกับบ้านพักอาศัยและอาคารสำนักงาน

ทิศเหนือ ติดกับคลินิก 2000 เป็นคลีนิครักษาโรคตา ซึ่งมีบางส่วนของอาคารฝั่งที่ติดกับถนนใหญ่ที่จะสูงหน่อย

ทิศตะวันออก ติดกับถนนพหลโยธิน ฝั่งตรงข้ามเป็นซอยพหลโยธิน 48 (ซอยสายหยุด) คือซอยที่หน้าปากซอยมี 7-11 ใช้เป็นทางลัดไปถนนรามอินทราได้

ทิศใต้ ติดกับตลาดนัดมอเตอร์ไซด์ อยู่ติดกับซอยพหลโยธิน67 ถัดไปเป็นโชว์รูม Honda

ทิศตะวันตก  ติดกับบ้านพักอาศัยและอาคารสำนักงานสูงประมาณ 5 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Big C – 600 เมตร
  • โรงพยาบาลเซ็นทรัล เยนเนอรัล – 600 เมตร
  • Tesco Lotus (สาขาหลักสี่) – 1.1 กิโลเมตร
  • ตลาดยิ่งเจริญ – 1.4 กิโลเมตร
  • Central รามอินทรา – 3 กิโลเมตร
  • วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร – 3.7 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยศรีปทุม – 5.1 กิโลเมตร
  • โรงเรียนสารวิทยา – 5.4 กิโลเมตร
  • กรมทหารราบที่ 11 – 5.6 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน – 7.9 กิโลเมตร
  • Major รัชโยธิน – 8.4 กิโลเมตร
  • สนามบินดอนเมือง – 8.9 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลวิภาวดี – 9.4 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

Brown Condo พหลโยธิน 67 เป็นโครงการ Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 174 ยูนิต ทางเข้า-ออกอยู่ติดถนนพหลโยธิน ระหว่างซอยพหลโยธิน 67 และ 67/1 ออกแบบมาในสไตล์ Modern Vintage ใช้โทนสีน้ำตาลในการตกแต่งตัวอาคารตามชื่อของโครงการ มีการติด Fin หรือ ผนังที่ยื่นออกมาทำให้อาคารดูมีมิติมากขึ้น เน้นบรรยากาศให้ดูอบอุ่น ชั้นล่างจะเป็นที่จอดรถทั้งหมด Facilities ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ชั้น 2 ชั้นบนสุดจะมี Roof Garden อยู่อีกจุดหนึ่ง

ภาพนี้เราจะเห็นว่า ตัวอาคารเป็นรูปตัวแอลมี Facilities อยู่บริเวณชั้น 2 และมีอีกจุดหนึ่งอยู่บนชั้นดาดฟ้า ถ้ารถไฟฟ้าสร้างเสร็จแล้วก็จะวิ่งพาดผ่านอยู่หน้าโครงการแบบนี้ค่ะ

ทางเข้า-ออกมีอยู่ทางเดียวติดกับถนนพหลโยธินเลย ค่อนข้างสะดวกเพราะติดถนนใหญ่ ที่จอดรถจะอยู่ที่ชั้นล่างทั้งหมด สามารถจอดได้ทั้งบริเวณใต้และรอบๆอาคาร จอดแบบรวมซ้อนคันได้ประมาณ 74 คันหรือคิดเป็น 43%

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางหลักๆแล้วจะอยู่ที่บริเวณชั้น 2 ด้านในอาคารจะมี Lobby , ห้องสมุด (Library Lounge) , ฟิตเนส (The Gym) ส่วนด้านนอกอาคารจะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือที่มี Jacuzzi , Poolside Terrace และ Poolside Garden นอกจากนั้นยังมีส่วนกลางอยู่ที่บริเวณชั้นดาดฟ้าอีกจุดหนึ่ง

ซูมให้เห็นบริเวณพื้นที่ส่วนกลางชั้น 2 สระว่ายน้ำจะเป็นแบบที่มี Jacuzzi ด้วยและมีพื้นที่นั่งพักผ่อนและสวนหย่อมขนาบอยู่ทั้งสองข้าง ในอาคารเป็นส่วนกลางที่สามารถ Take view สระว่ายน้ำได้

ต่อไปมาดูชั้นดาดฟ้ากันบ้าง ซึ่งทางโครงการจัดมาให้เป็นพื้นที่ส่วนกลางอีกจุดหนึ่ง แบ่งเป็นพื้นที่กิจกรรมต่างๆ ทั้ง Outdoor Exercise Zone พื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง , Chill Out Area , มุม Barbecue Party & Wine Bar หรือมุมนั่งเล่น อ่านหนังสือ คุยงานกลางสวน โดยสวนในชั้นนี้เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ผู้อยู่อาศัยในอาคารทั้งหมดสามารถขึ้นมาชมวิวหรือเปลี่ยนบรรยากาศกันได้ค่ะ

ชั้น 1 เป็นพื้นที่จอดรถล้วนๆไม่มีห้องพักอาศัย เส้นทางเดินรถเป็นแบบเดินทางเดียววนรอบอาคาร จอดรถได้แบบรวมซ้อนคันประมาณ 43% มีโถงลิฟต์ที่ต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าไปเพื่อขึ้นที่ชั้น 2 อยู่บริเวณด้านหน้าฝั่งทิศใต้ของอาคาร

ภาพจำลองบรรยากาศด้านหน้าโครงการค่ะ ซึ่งถ้าใครไม่มีรถก็สามารถเดินขึ้นบันไดที่อยู่ด้านหน้าขึ้นไปที่ Lobby ได้เลยหรือจะใช้ลิฟต์ก็ได้ค่ะ ส่วนถ้าใครมีรถก็เอาไปจอดที่ชั้นล่างก่อน จากภาพถ้าเราดูที่ชั้น 2 จะเห็น Lobby อยู่ฝั่งด้านหน้าอาคาร  Facilities อื่นๆส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ชั้นนี้ด้วย

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะมีส่วนของ Facilities ปนอยู่กับพื้นที่พักอาศัย ซึ่งจะมีการกั้นประตูที่จะต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าไปอีกครั้งเพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ส่วนกลางเราจะเจอกับ Lobby ก่อน และด้านในอาคารจะมี Library Lounge , The Gym ส่วนด้านนอกมี สระว่ายน้ำ&Jacuzzi , Poolside Terrace และ Poolside Garden ห้องพักมีให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ วางในลักษณะที่คละกันไป โถงลิฟต์มีตำแหน่งเดียวอยู่ค่อนมาฝั่งด้านหน้าโครงการ  มีอัตราส่วนลิฟต์ 87 : 1 ถือว่าใช้ได้ไม่หนาแน่นจนเกินไป อาคารจะมีบันไดหนีไฟ 2 ตำแหน่งกระจายตัวอยู่ทั้งฝั่งซ้ายและขวา ซึ่งสามารถใช้ลงไปยังชั้น 1 ได้ค่ะ

ในส่วนของวิวเนื่องจากโครงการนี้เป็นอาคาร Low Rise จึงไม่ค่อยมีผลมากนัก ทางฝั่งด้านหน้าติดกับถนนพหลโยธินไม่ได้มีอะไรมาบดบังวิวเช่นเดียวกับด้านหลังโครงการที่เป็นบ้านพักอาศัย ทางฝั่งทิศใต้มีตลาดนัดมอเตอร์ไซค์มีลักษณะคล้ายๆโชว์รูมไม่สูงมาก ส่วนทางทิศเหนือติดกับคลินิกรักษาโรคตาสูงหน่อย ดูๆโดยประมาณน่าจะ 6-7 ชั้น จึงออกแบบให้ทางฝั่งนี้มีระยะห่างจากขอบเขตที่ดินค่อนข้างเยอะและจัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางเวลามองลงมาก็จะเห็นวิวสระและสวนค่ะ

บรรยากาศภายใน Lobby ตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาล วัสดุส่วนใหญ่เป็นไม้ ดูอบอุ่นเข้ากับ Concept โครงการ จัดพื้นที่นั่งรอออกเป็นชุดๆทั้งโซฟา ที่นั่งกรุ๊ปเล็กๆ และ โต๊ะยาวที่ใช้นั่งคุยงานได้หลายๆคน ทางฝั่งขวาเป็นบานกระจกที่มองออกไปจะเป็นพื้นที่ของสระว่ายน้ำ

ต่อมาคือ Library Lounge หรือ ห้องอ่านหนังสือ บรรยากาศและการตกแต่งมาในโทนเดียวกับ Lobby ค่ะ มองออกไปจะเห็นวิวสระว่ายน้ำเช่นกัน

ห้องติดๆกันคือ The Gym หรือ ฟิตเนส ที่ออกกำลังกายไปดูวิวสระว่ายน้ำไปด้วยได้ วางเครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 9 เครื่อง มีกระสอบทรายมาให้สำหรับคนชอบต่อยมวยด้วย

ภาพนี้เป็นทางเดินขึ้นไปที่บริเวณสระว่ายน้ำค่ะ มีการจัดเป็นสวนหย่อมอยู่รอบๆ

สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ ขนาด 5.75 x 20.2 เมตร ลึก 1.20 เมตร ทางฝั่งขวาเป็นส่วนกลางต่างๆที่มีบานหน้าต่างเปิดรับวิวสระ

ข้างๆสวนมีพื้นที่ Poolside Garden ให้มานั่งเล่นพักผ่อนกันอีกด้วย

ต่อมาตั้งแต่ชั้น 3-8 จะเป็นห้อพักอาศัยทั้งหมด ผังจะเหมือนๆกัน การจัดวางห้องพักจะคละๆ Type กันไป โดยห้องแบบ 1 Bedroom 22.3-24.55 ตร.ม.ซึ่งเป็นห้องที่ขนาดเล็กที่สุดจะมีอยู่ทางทิศตะวันตกและทิศใต้ ห้อง 1 Bedroom Plus (1ห้องนอน + ห้องอเนกประสงค์) จะอยู่ในทิศเหนือ-ใต้ นอกนั้นเป็นห้อง 1 Bedroom Extra และ 1 Bedroom Exclusive การวางโถงลิฟต์วางค่อนไปทางฝั่งด้านหน้าของอาคาร ทำให้ห้องที่อยู่บริเวณฐานตัวแอลจะเดินค่อนข้างไกลหน่อยแต่ก็จะได้เรื่องความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้นค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น Roof Top จะมีพื้นที่ส่วนกลางคือ Outdoor Exercise Zone , Chill Out Area ,  Barbecue Party & Wine Bar และ Co-Working Space

ภาพจำลองบรรยากาศของ Roof Top ค่ะ จัดเป็นมุมพักผ่อนหลากหลายฟังก์ชั่น สามารถขึ้นมาใช้พื้นที่ทำกิจกรรมต่างๆได้

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • Panoramic swimming pool & Jacuzzi ระบบเกลือ 1 สระ ขนาด 5.75 x 20.2 เมตร ลึก 1.20 เมตร
  • Poolside Garden
  • Poolside Terrace
  • The Gym
  • Outdoor Exercise Zone
  • Library Lounge
  • Co-Working Space
  • Barbecue Party & Wine Bar
  • Chill Out Area
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 87 :  1
  • ที่จอดรถประมาณ 74 คัน รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 43%
  • ระบบ CCTV / Access Card


Product Walkthrough

ห้องตัวอย่างมีมาให้ชม 2 ห้องนะคะ คือแบบ 1 Bedroom ขนาด 22.3-24.55 ตร.ม. และ แบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 31.7-34.95 ตร.ม. โดยโครงการขายแบบ Fully Furnished จัดเฟอร์นิเจอร์มาให้ค่อนข้างครบ ดีไซน์เข้าชุดกัน สังเกตง่ายๆว่าของอะไรที่โครงการแถมให้บ้าง จะมีป้ายอันเล็กๆวางอยู่ค่ะ เราไปชมห้องแต่ละแบบกัน

ห้องแรกเป็นแบบ 1 Bedroom ขนาด 22.3-24.55 ตารางเมตร รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบ แบ่งพื้นที่เป็นส่วน Public Area คือห้องครัว, ห้องน้ำ, พื้นที่นั่งเล่น และ Private Zone อย่างห้องนอน ประมาณอย่างละครึ่งห้อง เข้ามาในห้องส่วนแรกฝั่งขวาจะเป็นครัวเปิด มีเคาน์เตอร์ครัวมาให้ เหมาะกับการเตรียมอาหารง่ายๆหรือซื้อเข้ามารับประทานเองมากกว่า ส่วนห้องน้ำจะอยู่ตรงข้ามห้องครัว ซึ่งในกรณีที่มีเพื่อนๆหรือแขกมาหาก็สามารถเข้าห้องน้ำได้จากด้านนอก ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนเรา ภายในห้องน้ำจัดพื้นที่แยกส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน ถัดเข้าไปด้านในเป็นห้องนั่งเล่นและห้องนอน กั้นด้วยผนังกระจกขนาดใหญ่สูงจากพื้นถึงฝ้า ข้อดีคือสามารถรับแสงได้เต็มๆ ช่วยให้ห้องดูโปร่ง โล่งขึ้นและแสงจากห้องนอนสามารถส่องเข้ามายังห้องนั่งเล่นได้ ห้องนั่งเล่นวางโซฟาได้แบบ 2 ที่นั่ง ภายในห้องนอนจัดวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต ตู้เสื้อผ้า Built-in ขนาดใหญ่พอสมควร ส่วนระเบียงจะอยู่ภายในห้องนอนสามารถเดินออกมาชมวิวสูดอากาศได้

สรุปรายการเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ : เคาน์เตอร์ครัว , อ่างล้างจาน, Hob&Hood , แอร์ 1 เครื่อง, โซฟา, โต๊ะกลาง, ชั้นวางทีวี Built-in , เตียงขนาด 5 ฟุต(ไม่รวมฟูก) , ตู้เสื้อผ้า , สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ

เริ่มจากทางเข้าห้อง ประตูเป็นบานไม้สำเร็จรูปเคลือบผิวด้วยเมลามีน มีติดตั้ง Digital Door Lock มาให้

พื้นห้องมีธรณีประตูมาให้เรียบร้อย เวลาแม่บ้านทำความสะอาดโถงทางเดินกวาดฝุ่งผงก็จะช่วยไม่ให้ฝุ่นเข้ามาในห้อง

ประตูติดระบบ Digital Doorlock ของ Samaung ถือว่าดี มาพร้อมประตูมือจับแบบก้านโยกค่ะ

เข้ามาภายให้ห้อง ด้านขวาเป็นพื้นที่ครัวแบบ Pantry ส่วนด้านซ้ายเป็นห้องน้ำ ตรงไปจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น ถัดไปเป็นห้องนอนและสุดทางด้านในห้องนอนคือระเบียงค่ะ ด้วยความที่หน้าประตูทางเข้าตรงกับประตูบานเลื่อนกระจกทำให้เวลาเปิดเข้ามาภายในห้องแล้วห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้นด้วยแสงธรรมชาติที่เข้ามา ฝ้าเพดานของห้องสูง 2.40 เมตรค่ะ

หันกลับมาทางประตูห้อง ด้านขวาจะเห็นทางเข้าข้าห้องน้ำซึ่งอยู่ตรงข้ามกับชุดครัว พื้นในส่วนครัวเป็น Smart Vinyl หรือกระเบื้องยาง ซึ่งเป็นวัสดุที่ทนน้ำ ทนความชื้นได้ดีกว่าพวกลามิเนต สามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้สะดวกจึงสามารถนำมาใช้งานบริเวณครัวได้

สำหรับครัวเป็นครัวเปิด ทางโครงการให้เคาน์เตอร์ครัวขนาด 1.20 เมตร Built-in มาพร้อมตู้ลอย วัสดุเป็นโครงไม้และ Top กรุลามิเนต มีอ่างล้างจาน , เครื่องดูดควัน และเตาไฟฟ้ามาให้ตามภาพ ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้า ผนังด้านหลังจะกรุเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาวมาให้แทน ดีตรงเวลาปรุงอาหารแล้วกระเด็นก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

อ่างล้างจานเป็นแบบหลุมเดียวยี่ห้อ Mex

เตาไฟฟ้าเป็นแบบ 2 หัวยี่ห้อ Mex  เหมาะกับการใช้งาน 1-2 คนในคอนโด

เครื่องดูดควันก็เป็นของ Mex เช่นกัน

ตำแหน่งของตู้ควบคุมไฟฟ้าจะอยู่บริเวณตู้ด้านบน เป็นระเบียบเรียบร้อย แต่เวลาใช้งานต้องเอื้อมนิดนึง

มาดูห้องน้ำกันบ้าง บานประตูด้านหน้าจะเป็นบานแบบ UPVC เพื่อให้ทนต่อความชื้น ภายในห้องน้ำจะถูกแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจนด้วยฉากกั้นอาบน้ำผนัง ปูด้วยกระเบื้องทั้งหมด ส่วนพื้นจะเป็นแบบด้านเพื่อช่วยกันลื่นภายในห้องน้ำ

อ่างล้างหน้าของ Cotto หรือเทียบเท่า มีขนาดใหญ่พอสมควรและมีพื้นที่วางของด้านข้างก๊อกน้ำได้เล็กน้อย ด้านล่างอ่างล้างมือมีตู้สำหรับเอาไว้เก็บของได้นิดหน่อยค่ะ

โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ American Standard หรือเทียบเท่า

ภายในห้องน้ำผนังฝั่งอ่างล้างหน้า ทางโครงการปูกระจกมาให้เต็มๆแบบนี้

สำหรับพื้นที่ส่วนเปียกจะกั้นแยกไว้ด้วยฉากกั้นอาบน้ำ แบบ 3 ตอน ยี่ห้อ Shower King

พื้นที่อาบน้ำขนาด 75 x 86 cm. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 cm.

ฝักบัวให้ของ American Standard หรือเทียบเท่า

ซูมหน้าตาของฝักบัวค่ะ จับได้พอดีมือ

ผนังด้านข้างทำเป็นพื้นที่สำหรับวางของใช้เล็กๆน้อยๆมาให้ด้วย

ถัดเข้ามาอีกโซนหนึ่งคือห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดกับห้องนอนเลย สังเกตการตกแต่งห้องตัวอย่างของที่นี่จะมีการใช้กระจกเงาซึ่งสามารถช่วยให้ห้องเสมือนดูว่ากว้างขึ้น เราจำเอาไปใช้ในการแต่งบ้านได้นะ

ห้องนั่งเล่นวางโซฟาได้ประมาณ 2 ที่นั่ง ซึ่งทั้งโซฟาและโต๊ะกลางทางโครงการเรามีแถมมาให้ค่ะ

แอร์ได้ 1 ตัวของ Daikin โดยตำแหน่งการติดตั้งของจริงจะอยู่บริเวณในห้องนอน

มี Bluetooth Sound System ติดตั้งระบบเสียงและลำโพงแบบบูลทูธมาให้เราเปิดเพลงฟังในห้องพักได้ รายการนี้จะให้ต่อเมื่อลูกค้าที่ชำระเงินจองพร้อมดาวน์งวดที่1

ระยะดูทีวีประมาณ 3.3 ม. มีขนาดทีวีที่เหมาะสมคือขนาด 60 นิ้ว หรือถ้าจะใส่เครื่องใหญ่กว่านี้ต้องเช็คระยะดีๆว่าพอไหม

ชั้นวางทีวีที่ทางโครงการให้มาจะสามารถเปิดขึ้นมาทำเป็นโต๊ะทานข้าวได้ ถ้าไม่อยากเปลืองพื้นที่สำหรับวางทีวีเราสามารถติดตั้งบนผนังได้เหมือนในห้องตัวอย่างค่ะ

และด้านล่างก็มีช่องสำหรับเก็บของเล็กๆน้อยได้ ตรงนี้ทำออกมาได้ดีสำหรับการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ในคอนโดห้องขนาดเล็ก

ระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่นจะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ที่มีความสูงถึงฝ้า ช่วยให้ห้องดูโปร่งขึ้น ถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวในห้องนอนแนะนำให้ติดม่านเพิ่มค่ะ

ด้านในห้องนอนมีขนาดพอเตียงขนาด 5 ฟุต วางไว้ชิดประตูบานเลื่อนทำให้มีพื้นที่ข้างเตียงเหลือฝั่งเดียว เป็นข้อดีของห้องแปลนแบบนี้ที่ติดทีวีเพียงตำแหน่งเดียว ก็สามารถเลือกได้ว่าจะนอนดูทีวีในห้องนอน หรือนั่งดูทีวีในห้องนั่งเล่นได้

มุมมองถ่ายย้อนไปทานฝั่งห้องนั่งเล่นค่ะ จะเห็นว่าตอนนอนอยู่ก็สามารถดูทีวีตรงห้องนั่งเล่นได้

พื้นที่ข้างเตียงฝั่งซ้ายจะวางเกือบติดประตูบานเลื่อน ส่วนฝั่งขวามีระยะพอวางโต๊ะข้างเตียงได้

ปลายเตียงมีระยะให้เดินผ่านได้ประมาณ 80 cm.

ด้านข้างเตียงทางฝั่งขวามีพื้นที่สำหรับวาง Daybed สำหรับมาใช้นั่งอ่านหนังสือชิลๆได้ ผนังด้านในเป็นหน้าต่างแบบ Bay Window เปิดรับวิวภายนอกได้มากขึ้น

ประตูทางออกระเบียงเป็นบานเลื่อนกระจก กรอบบานอลูมิเนียมสีดำแบบ 3 ตอน เวลาเลื่อนเปิดจนสุดจะได้ระยะช่องเปิดมากขึ้น

ระเบียงกั้นราวกันตกไว้เรียบร้อย วัสดุเป็นเหล็กทาสีดำไว้ เหนือพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าขึ้นไปเป็นที่ตั้งของ Condensing unit ของแอร์ แบบแขวน มีติดตั้ง Grill เพื่อบังสายตาให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย

พื้นที่ระเบียงขนาดประมาณ 0.80  x 1.95 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 cm.

Condensing unit  ติดตั้งอยู่ด้านบนพร้อมหันลมเป่าออกนอกอากาศ ซึ่งดีตรงที่เวลาเรามาใช้งานพื้นที่ระเบียงจะได้ไม่ต้องรับลมร้อนค่ะ

ด้านล่างเป็นพื้นที่สำหรับเครื่องซักผ้าและซักล้าง มีก๊อกน้ำและปลั๊กติดหน้ากากกันน้ำมาให้พร้อม

ต่อไปเป็นห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 31.7-34.95 ตารางเมตร เป็นห้องที่มีห้องอเนกประสงค์เพิ่มเข้ามาหรือจะจัดให้เป็นห้องนอนอีกห้องหนึ่งก็ได้ แต่ห้องน้ำยังคงมี 1 ห้องอยู่นะคะ ด้วยขนาดพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มขึ้นทำให้ห้องนอนของ Type นี้ มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นและฟังก์ชันการใช้งานแต่ละส่วนดูดีขึ้น การออกแบบต้องการเน้นแบบบรรยากาศแบบห้องโล่งๆ จึงวางห้องนอนทั้ง 2 ห้องติดผนังฝั่งที่มีหน้าต่าง ส่วน Pantry ห้องนี้เป็นครัวปิดกั้นด้วยประตูบานเลื่อนเป็นสัดส่วน ติดๆกับห้องครัวเลยเป็นห้องอเนกประสงค์ ตรงนี้เวลาเราทำอาหารต้องระวังนิดนึงค่ะ เพราะกลิ่นสามารถเข้าไปในห้องอเนกประสงค์ได้หากเราไม่ปิดประตูนะคะ

สรุปเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ : เคาน์เตอร์ครัว , อ่างล้างจาน, Hob&Hood , แอร์ 2 เครื่อง, โซฟา, ชุดโต๊ะทานอาหาร, ชั้นวางทีวี Built-in, เตียงขนาด 5 ฟุต (ไม่รวมฟูก) , เตียง Daybed 3 ฟุต (ไม่รวมฟูก) , ตู้เสื้อผ้า , สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ

ภายในห้องจากประตูห้องเปิดเข้ามาจะพบส่วนของ Living มีชุดโซฟานั่งได้ประมาณ 2-3 ที่นั่ง สำหรับนั่งเล่น ดูทีวี และมีโต๊ะทานข้าวขนาด 2 ที่นั่ง ถัดเข้าไปเป็นห้องนอนที่มีระเบียง  ทางฝั่งซ้ายเป็นครัวและห้องอเนกประสงค์ที่เราสามารถจัดเป็นห้องนอนก็ได้

ระยะดูทีวีประมาณ 2.40 เมตร โดยขนาดทีวีที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 55 นิ้ว

มี Bluetooth Sound System มาให้เช่นกัน

โซฟาที่ให้เป็นแบบ 2-3 ที่นั่ง รูปแบบตามในภาพเลยค่ะ

โต๊ะทานอาหารแบบ 4 ที่นั่ง โต๊ะได้แบบนี้ ส่วนเก้าอี้จะได้อีกแบบหนึ่ง ซึ่งเราต้องไปเช็คกับทางโครงการกันอีกทีค่ะ

ตู้วางทีวีดีไซน์ให้ด้านล่างสามารถเปิดออกมาเป็นของเล็กๆน้อยๆได้

ฝั่งตรงข้ามห้องนั่งเล่นจะเป็นห้องน้ำและครัวปิดอยู่ข้างๆกันแบบนี้

ภายในห้องน้ำแบ่งการใช้งานเป็นสัดส่วน บรรยากาศการตกแต่งคล้ายๆกับห้องก่อนหน้า

อ่างล้างหน้าเราจะได้ของ Cotto หรือเทียบเท่า ด้านล่างเป็นตู้เก็บของวัสดุกันน้ำ

โถสุขภัณฑ์เป็นของ American Standard หรือ เทียบเท่า

พื้นที่อาบน้ำแยกส่วนแห้งและส่วนเปียกชัดเจน เป็นสัดส่วน มีฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเลื่อน 3 ตอนมาให้

ฝักบัวเป็นของ American standard หรือ เทียบเท่า ด้านข้างมีทำเป็นชั้นสำหรับวางของเล็กๆน้อยๆพวกสบู่ แชมพู มาให้ด้วย

จากพื้นห้องลงมาห้องน้ำจะมีลดระดับเล็กน้อย และ บริเวณส่วนเปียกจะกั้นด้วยกรอบของฉากกั้นอาบน้ำ

ต่อมาเป็นครัวที่กั้นเป็นครัวปิดได้ ด้วยประตูบานเลื่อนกรอบบานอลูมิเนียมสีดำ

ครัวห้องนี้รูปแบบและดีไซน์ของเคาน์เตอร์จะคล้ายๆแบบเดิม ให้ทั้งตู้ล่างและตู้ลอย หร้อมอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน แต่ต่างกันที่ตำแหน่งเครื่องซักผ้าจะย้ายจากระเบียงมาอยู่บริเวณนี้ ด้านในสุดเป็นพื้นที่วางตู้เย็น

ที่เคาน์เตอร์ด้านล่างจะสามารถเปิดออกมาเป็นลิ้นชักได้แบบนี้ ใช้สำหรับเก็บขวดซอสหรือของใช้ต่างๆได้

อ่างล้างจานเป็นแบบหลุมเดียวยี่ห้อ Mex

เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวของ Mex ค่ะ

เครื่องดูดควันของ Mex เช่นกันค่ะ

ถัดจากห้องครัวมาจะเป็น ห้องอเนกประสงค์ขนาดประมาณ 3.40 x 1.30 เมตร ที่ทางโครงการจัดมาเป็นห้องนอนเล็กไว้ให้ มีเตียงDaybed  3 ฟุตมาให้วางชิดกับหน้าต่าง รวมถึงตู้ที่อยู่ด้านข้างด้วย หน้าห้องวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเขียนหนังสือได้

เตียงที่ได้ค่ะเป็นแบบ Daybed สามารถใช้นอนเล่นอ่านหนังสือ หรือ ใช้รับรองแขกที่มาขอค้างที่ห้องได้

เราจะได้ตู้แขวนซึ่งมีตู้เก็บของด้านบน ด้านล่างเป็นราวแขวนเสื้อผ้าตามนี้เลยค่ะ

ผนังในห้องอเนกประสงค์เป็นแบบ Bay Window ซึ่งจะทำให้แสงเข้ามาในห้องมากขึ้น เห็นวิวหรือมุมมองแบบเปิดโล่งมากขึ้น

ถัดมาห้องนอนและห้องนั่งเล่นจะแบ่งพื้นที่ด้วยประตูกระจกบานเลื่อน กรอบบานอลูมิเนียมสีดำ พอเลื่อนเปิดสุดแล้วจะได้พื้นที่ที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น อีกทั้งยังช่วยให้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องทำให้ห้องไม่มืดจนเกินไป ช่วยประหยัดไฟตอนกลางวันได้อีกด้วย

ในห้องนอนวางเตียงได้ประมาณ 5 ฟุต โครงการแถมเตียงให้แต่ไม่ได้รวมฟูก ผนังข้างเตียงเป็นหน้าต่างใช้นอนดูวิวได้ และมีพื้นที่ข้างเตียงสำหรับทำเป็นโต๊ะทำงานได้ด้วย

พอเลื่อนประตูเปิดจนสุดแล้วจะได้พื้นที่ที่เชื่อมต่อกันแบบนี้

มุมมองย้อนกลับไปที่หน้าห้องค่ะ

เตียงที่ทางโครงการแถมให้จะมีลูกเล่น มีลิ้นชักเปิดออกมาเก็บของได้หรือเป็นชั้นวางของ

พื้นที่ข้างเตียงฝั่งซ้ายสามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้ ส่วนฝั่งขวามีระยะเหลือประมาณ 40 cm. สามารถหาโคมไฟแบบตั้งพื้นมาตกแต่งเพิ่มเติมได้

ปลายเตียงมีระยะให้เดินผ่านได้สบายๆ แต่ถ้าอยากติดทีวีแนะนำให้แขวนกับผนังจะช่วยประหยัดพื้นที่ได้

ตู้เสื้อผ้าเป็นบานเปิด ภายในมีทั้งราวแขวนด้านบน-ด้านล่าง และชั้นวางของใช้เล็กๆน้อยๆ ด้านบนสุดเป็นชั้นสำหรับเก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้หรือของชิ้นใหญ่ ตรงกลางทำออกมาให้เราสามารถติดตั้งทีวีบริเวณนี้ได้ ในขณะเดียวกันด้านหลังก็เป็นตู้เสื้อผ้าซึ่งใช้งานได้เต็มๆ

ด้านข้างตู้เสื้อผ้ามีแบ่งพื้นที่เป็นโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ

ด้านข้างเตียงมีพื้นที่สำหรับทำเป็นมุมทำงาน สามารถนั่งทำงานและชมวิวไปด้วยได้

ประตูทางออกระเบียงเป็นบานเลื่อนกระจก กรอบบานอลูมิเนียมสีดำแบบ 3 ตอน

พื้นที่ระเบียงมีขนาด 0.80 x 2.00 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 cm.สีเทาแบบผิวด้าน

มีติดตั้งแผงบังตามาให้ ห้องนี้ Condensing unit มีมาให้ 2 ตัว หันเป่าลมร้อนออกด้านนอกอาคาร

ปลั๊กและสวิทซ์เป็นของ Siemens ค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 28 February 2017

  • 1 Bedroom 22.3 – 24.55 ตร.ม. ราคา 1.99-2.44 ล้านบาท
  • 1 Bedroom extra 24.7 – 25.90 ตร.ม. ราคา 2.39-2.79 ล้านบาท
  • 1 Bedroom exclusive 27.05 – 30.65 ตร.ม. ราคา 2.39-3.09ล้านบาท
  • 1 Bedroom plus 31.7 – 34.95 ตร.ม. ราค 2.99-3.64 ล้านบาท

  • Fully Furnished 
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • Digital Door Lock
  • Bluetooth Sound System (สำหรับลูกค้าที่ชำระเงินจองพร้อมดาวน์งวดที่1 )
  • จอง 10,000 บาท
  • ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 15 งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ 


เจาะลึกรวบยอด

Brown Condo พหลโยธิน 67 เป็นคอนโด Low Rise ติดถนนใหญ่ ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีสายหยุดประมาณ 100 เมตร ซึ่งเป็นสายที่ต่อขยายมาจากสายสีเขียวหลักที่ใช้วิ่งเข้าเมือง ดังนั้นถ้าใครมีงบประมาณล้านปลายๆจนถึงสองล้านแล้วกำลังมองหา คอนโดติดรถไฟฟ้าที่เดินทางเข้าเมืองสะดวก ยอมอยู่ห่างออกมาหน่อยแต่ก็ยังได้ทำเลที่อุดมสมบูรณ์และคึกคักเป็นชุมชนเก่าแก่ ซึ่งปัจจุบันพอมีโครงการทำรถไฟฟ้าสายสีเขียวเกิดขึ้นก็ทำให้บรรยากาศในละแวกนี้มีการเปลี่ยนไปพอสมควร เราก็จะเห็นคอนโดมิเนียมกันมากขึ้นทั้ง High Rise ติดถนนและ Low Rise ในซอยย่อยเพื่อมาเกาะรถไฟฟ้ากันมากขึ้น ราคาเฉลี่ยในตอนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 80,000 – 90,000 บาท/ตร.ม. ย่านสะพานใหม่ถือเป็นย่านค้าขายและแหล่งชุมชนอยู่อาศัยกันมานานรวมทั้ง มี Node ใหญ่ๆ อย่างตลาดยิ่งเจริญที่จะคึกคักมากเป็นพิเศษ อุดมสมบูรณ์สูง หาของกินง่ายในราคาที่ไม่แพงมากนักละแวกนี้ส่วนใหญ่เราก็ยังคงเห็นบ้านพักอาศัยแนวราบแบบอยู่กันเป็นชุมชนหรือหมู่บ้านจัดสรรกันอยู่ รวมถึงหอพักและอพาร์ทเม้นท์

การเดินทางโดยใช้รถ โครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธิน ซึ่งจะข้อดีคือไม่ต้องเข้าซอยใดๆเพื่อจะเข้าสู่ตัวโครงการ และถนนพหลโยธินเป็นเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อได้จากถนนหลักหลายๆสาย ไม่ว่าจะเป็นทางที่ขนานกันมาอย่างถนนวิภาวดีรังสิตที่มีสะพานกลับรถและทางขึ้น-ลงทางด่วนโทลล์เวย์ และนอกจากนั้นยังมีเส้นรามอินทราจากทางทิศใต้ และเส้นสายไหมจากทางทิศเหนือ นอกจากนั้นยังมีถนนตัดใหม่ที่ตัดจากถนนพหลโยธินไปยังแถววัชรพล-สุขาภิบาล 5  ในช่วงเวลาปกติที่ไม่ใช่ช่วงเช้าเย็น การเดินทางคล่องตัวใช้ได้ จะลำบากหน่อยก็ตอนรถติดช่วงเช้า-เย็นนี่แหละ ต้องเผื่อเวลาการเดินทางนิดนึงค่ะ

ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถ นั้นก็ถือว่าสะดวกเช่นกันนะ ด้วยความที่ใกล้กับถนนพหลโยธินเลยจะเรียกรถก็ง่าย ทั้งแท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก รถตู้ และรถเมล์ และนอกจากนี้ในอนาคตอันใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายนี้ก็จะเสร็จให้ได้ใช้กันแล้ว ก็จะเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางมากขึ้น และเป็นสายสีเขียวสายหลักที่เข้าเมืองได้โดยตรงอีกด้วยค่ะ โดยสถานีที่ใกล้กับโครงการที่สุดคือสถานีสายหยุด โดยมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 100 เมตร บวกลบนิดหน่อยเพราะยังไม่มีขาขึ้น-ลงให้เห็นชัดเจน แต่ก็ถือว่าเป็นระยะที่เดินได้สบายๆ  โดยโครงการรถไฟฟ้าสายต่อขยายนี้มีจะกำหนดการคาดว่าจะแล้วเสร็จ พ.ศ. 2562 และเปิดให้บริการปี พ.ศ. 2563

วัสดุ จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียว Furniture Built-in ทั้งห้องได้แก่ เคาน์เตอร์ครัวพร้อมอ่างล้างจาน Hob&Hood ของ Mex, ฉากกั้นส่วนอาบน้ำเป็นกระจก Tempered Glass, โซฟา 2 ที่นั่งแบบมีที่วางแขน, ชั้นวางทีวี, เตียงขนาด 3-5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้าบานเปิดขนาดเหมาะสมใช้งานได้จริง , ชุดโต๊ะทานอาหาร , โต๊ะกลาง แต่ Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นลามิเนตซึ่งจะทนน้ำน้อยกว่า Top แบบ แกรนิตนะคะ มีให้ Digital Door Lock และ  Bluetooth Sound System  เพิ่มเข้าค่ะ

การออกแบบโครงการ สร้างเต็มที่ดินโครงการ 1-0-73ไร่ โครงการมีรูปแบบที่เรียบง่ายและดูทันสมัยคือสวยแบบ Modern Vintage ใช้โทนสีน้ำตาลเป็นหลักตามชื่อของโครงการ ให้บรรยากาศดูอบอุ่น มีการตกแต่งตัวอาคารด้วยผนังที่ยื่นออกมาทำให้อาคารดูมีมิติมากขึ้น จัด Facilities ไว้ชั้น 2 คนที่อยู่ทางฝั่งนี้มองลงมาจะเห็นสระ การวางผังห้องพักและในอาคารค่อนข้างลงตัว

สาธารณูปโภค พื้นส่วนกลางที่โครงการจัดมาให้ค่อนข้างหลากหลาย หลักๆแล้วจะอยู่ที่บริเวณชั้น 2 ในอาคารจะมี Lobby , ห้องสมุด (Library Lounge) , ฟิตเนส (The Gym) ส่วนด้านนอกอาคารจะเป็นสระว่ายน้ำ&Jacuzzi , Poolside Terrace และ Poolside Garden และยังมีส่วนกลางบริเวณชั้นดาดฟ้าอีกจุดหนึ่งคือ Outdoor Exercise Zone , Chill Out Area ,  Barbecue Party & Wine Bar และ Co-Working Space

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 90,000 – 95,000 บาท/ตร.ม., 28 February 2017

  • ทำเล 7.75/10 – ทำเลติดถนนใหญ่และติดสถานีรถไฟฟ้า อยู่ในย่านค้าขายของสะพานใหม่ อุดมสมบูรณ์ ถือว่าทำเลดี แต่เมื่อเทียบราคาแล้วอาจจะสูงหน่อย
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – ติดถนนใหญ่พหลโยธิน เดินทางเข้าเมืองสะดวก อาจจะรถติดหน่อย
  • ไม่ใช้รถ 8.5/10 – ใกล้รถไฟฟ้าที่น่าจะสร้างเสร็จพร้อมโครงการพอดี เรียกรถง่ายปลอดภัยและไม่เปลี่ยว
  • วัสดุ 8/10 – Fully Furnished ได้เฟอร์ครบ ดีไซน์สวยเข้าชุดกัน มี Digital Door Lock + Bluetooth sound system
  • แบบ 7.5/10 – ออกแบบค่อนข้างดี โดยเฉพาะการจัดพื้นที่ใช้สอยและวางผัง
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – ให้มาครบ ออกแบบน่าใช้

*เนื่องจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายมีแผนจะสร้างเสร็จประมาณปี 2563 อีกไม่นานก็ได้ใช้กันแล้ว ดังนั้นจึงขอคิดราคาในกรณีที่รถไฟฟ้าสร้างเสร็จแล้วนะคะ

  • UPPER CLASS
  • 7.85 / 10.00

BOTTOM LINE

 Brown Condo พหลโยธิน 67 เหมาะกับคนที่ทำงานหรือค้าขายอยู่ในย่านนี้ หรือมองหาคอนโดติดรถไฟฟ้าราคาพอหยิบจับได้ เดินทางเข้าเมืองสะดวก  ทำเลเป็นย่านชุมชน ตกแต่งแบบ Fully Furnished มี Facilities มาให้ครบ ตกแต่งสวยน่าใช้ ชอบโครงการยูนิตไม่มากนัก  มีงบประมาณ 1.89 – 2.89 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 15,000 – 23,000 บาท/เดือน

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )