Cover-Web

รีวิวฉบับที่ 909 … สวัสดีครับวันนี้ผมจะพาไปชมโครงการที่ชื่อว่าBless Ville รามอินทรา 117  ซึ่งตั้งอยู่ในซอยรามอินทรา 117 ตามชื่อเลย ตัวโครงการอยู่ห่างจากถนนรามอินทราประมาณ 800 เมตร ซึ่งในอนาคตจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูมาเสริมในการเดินทางสาธารณะมาช่วยด้วย สถานีที่ใกล้คือบางชัน และ สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ตัวโครงการมีแบบเดียวคือทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร เป็นแบบ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ บนที่ดินเริ่มต้น 19.25 ตารางวา ในราคาเริ่มต้น 2.3 ล้านบาท ตามผมมาดูกันเลย

Fact @ 1 September 2015

  • Bless Ville Ramintra 117 (เบล็ส วิลล์ รามอินทรา 117)
  • บริษัท เบล็สแอสเสท กรุ๊ป จำกัด
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่ )
  • โครงการตั้งอยู่ใน : มีนบุรี
  • เนื้อที่โครงการ 10-2-50 ไร่ จำนวน 115 ยูนิต
  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • เพดานชั้น  1 และชั้น 2 สูง 2.8 เมตร
  • ราคาเริ่มต้น 2.09 ล้านบาท (แปลงพิเศษ)
  • ราคาแปลงมาตรฐาน 2.30 ล้านบาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง ปลายปี 2557
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ต้นปี 2559
  • Official Website :  Click Here
  • สำนักงานขาย : 091-818-5655

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.820794, 100.704956

Map_Bless_117

แผนที่จากทางโครงการครับ จุดสังเกตุก่อนเลี้ยวเข้าซอยรามอินทรา 117 ถ้ามาจากทางวัชรพลก็คือ เลยห้าง Fashion Island และแยกสวนสยาม หลังจากนั้นให้ชิดซ้ายเลี้ยวเข้าซอยได้เลย ภายในซอยรามอินทรา 117 นั้นมีซอยลัดเลาะไปออกยังซอยอื่นๆได้อีกเช่นซอยเจริญพัฒนา ซอยรามอินทรา 127 และถนนหทัยราษฎร์อีกด้วย

แผนที่ระยะไกล

โครงการ Bless Ville รามอินทรา 117 ตั้งอยู่บนถนนรามอินทราตอนปลาย ซึ่งซอยรามอินทรา 117 นั้นจะอยู่ระหว่างถนนหลักสองเส้นคือถนนพระยาสุเรนทร์ และถนนหทัยราษฎร์ หรืออยู่ระหว่างแยกรพ.นพรัตน์(สวนสยาม) และแยกเมืองมีนครับ ซึ่งบริเวณย่านนี้จะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ตอนบนฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร โครงการส่วนใหญ่ในย่านนี้จะเป็นแนวราบ ทั้งหมู่บ้านเดี่ยวจัดสรร ไม่จัดสรร และทาวน์โฮมเพราะยังมีเนื้อที่ดินที่ยังพอพัฒนาให้สร้างได้อยู่เรื่อยๆ

พึ่งจะมีการปลูกสร้างคอนโดมิเนียมไม่นานมานี้ โดยจะอยู่ตามเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพู มีสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันตั้งแต่โรงพยาบาล ห้างร้านต่างๆ รวมไปถึงไปจุดที่สามารถเดินทางได้สะดวก แต่ปริมาณรถจะมากนิดนึง โดยทางเหนือขึ้นไปจะเป็นย่านรังสิต-ลำลูกกาที่จะออกนอกเมืองไปยังปทุมธานี และทิศใต้ติดกับพื้นที่รามคำแหงที่เป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่

ส่วนทางขึ้น-ลงทางด่วนที่ใกล้ที่สุด คือ แยกรามอินทรา-กาญจนาฯ(วงแหวนรามอินทรา) หรือถนนกาญจนาภิเษก ชื่อเต็มๆเลยคือ ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ถ้าออกจากโครงการไปถึงก็ประมาณ 7 กิโลเมตร ซึ่งถ้าขึ้นเหนือสามารถไปถึงปทุมธานี อยุธยา หรือว่าจะเข้าเมืองด้วยการลงใต้ไปยังถนนพระรามเก้า วงแหวนตะวันออก และไปถึงสมุทรปราการได้เลย

แผนที่ระยะไกล2

ในย่านมีนบุรีนี้ ถึงแม้จะเป็นย่านชานเมืองแต่ในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างครบครันทีเดียวสมเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่อยู่กันมานานแล้ว การจับจ่ายซื้อกับข้าวก็สะดวกเพราะมีทั้งตลาดมีนบุรี, Big C และ Tesco Lotus สำหรับห้างสรรพสินค้าในละแวกนี้จะมี Fashion Island  และ Community Mall ก็จะมี The Promenade อยู่ใกล้กับวงแหวนรามอินทรา, Amorini ตรงแยกสวนสยาม ส่วนโรงพยาบาลจะมีโรงพยาบาลนพรัตนราชธานีตรงแยกตัดกับถนนสวนสยาม และโรงพยาบาลเสรีรักษ์ที่อยู่บนถนนเสรีไทยครับ

แผนที่รถไฟฟ้า

สำหรับการเดินทางแบบขนส่งสาธารณะในอนาคต(อีกหลายปี) ถ้าสร้างเสร็จเมื่อไรก็จะมาเสริมในการเดินทางได้ระดับนึง เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี เพื่อรองรับการเดินทางของประชากรในพื้นที่ด้านเหนือของกรุงเทพ โดยการเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างเขตมีนบุรีและจังหวัดนนทบุรี แนวเส้นทางจะเริ่มต้นจากถนนรัตนาธิเบศร์บริเวณระหว่างศูนย์ราชการนนทบุรีและแยกแคราย ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่ – บางซื่อ) บริเวณสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี และสิ้นสุดเส้นทางที่บริเวณทางแยกร่มเกล้า

ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน – มีนบุรี ที่สถานีมีนบุรี โดยสถานีที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดคือสถานีบางชันและสถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ซึ่งตำแหน่งสถานีต้องรอดูกันอีกทีว่าทางออกขึ้นลงจะอยู่ตรงไหน แต่อย่าพึ่งคาดหวังว่าจะได้ใช้กันในเร็ววันนี้นะครับเพราะโครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563 โน้นเลย(ซึ่งผมว่าอาจจะเกินซะด้วย) แต่เมื่อไหร่ที่รถไฟฟ้าเปิดใช้เต็มระบบแล้วจะช่วยให้การเดินทางเข้าออกเมืองสะดวกมากขึ้นทีเดียว คือสามารถเข้าเมืองโดยไปต่อสายสีส้มตรงสถานี Interchange คือสถานีมีนบุรีแล้ววิ่งเข้ามาเชื่อมกับรถไฟใต้ดิน MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรม

แต่ในปัจจุบันที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูยังไม่เสร็จสมบูรณ์ จึงจำเป็นต้องพึ่งพารถประจำทางต่างๆ อาทิ

  1. รถเมล์ประจำทาง สาย 26, 96, 115, 150, 501, 525 โดยป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุดจะอยู่ตรงหน้าซอยรามอินทรา 115/1 ห่างจากโครงการประมาณ 870 เมตร
  2. รถตู้ประจำทางสายต. 16 มีนบุรี – หมอชิต 2, สายต. 22 มีนบุรี – ปากเกร็ด, สายต. 39 มีนบุรี – ฟิวเจอร์รังสิต ซึ่งจะจุดจอดเริ่มต้นจะอยู่ที่ตลาดมีนบุรีและวิ่งเส้นรามอินทราผ่านหน้าปากซอยโครงการ
  3. ปากซอยรามอินทรา 117 มีพี่วินประจำการอยู่ตั้งแต่เช้าจนถึงประมาณ 2 ทุ่ม

การเดินทางด้วยรถ(re)

การเดินทางในวันนี้ผมจะใช้ถนนรามอินทราเส้นหลัก แต่ผมออกสตาร์ทเริ่มต้นจากบริเวณวงเวียนรามอินทราหลักสี่ ข้ามสะพานข้ามแยกแล้วตรงยาวววววววว  จะผ่านแยกใหญ่อย่างแยกรามอินทราวัชรพล และแยกรามอินทรา-กาญจนาฯ(วงแหวนรามอินทรา)นั่นเอง หลักจากนั้นพอเลยแยกมาประมาณ 4.0 กิโลเมตร ให้เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าซอยรามอินทรา 117 ได้เลย

แผนที่ซูมอิน

ที่ตั้งโครงการอยู่บนถนนรามอินทราขาออก ในซอยรามอินทรา 117 ห่างจากถนนถนนใหญ่ประมาณ 800 เมตร บริเวณถนนซอยที่อยู่ผ่านหน้าโครงการจะตัดเปลี่ยนเป็นซอยเจริญพัฒนาพอดี ซึ่งเจ้าซอยเจริญพัฒนานี้สามารถลัดเลาะไปออกได้ทั้งซอยรามอินทรา 127 , ซอยหทัยราษฎร์ 3 , แยกสุเหร่าคลองหนึ่ง ที่สามารถไปออกถนนหลักอย่างหทัยราษฎร์ และถนนพระยาสุเรนทร์ได้อีกด้วย

เริ่มจากถนนแจ้งวัฒนะมุ่งหน้าไปทางวงเวียนรามอินทรา-หลักสี่ (ตามป้ายมีนบุรีไปยาวๆ)

ข้ามสะพานข้ามแยกวงเวียนรามอินทรา-หลักสี่

พอลงมาจะเจอกับห้างเซ็นทรัลรามอินทราทางซ้ายมือ เป็นห้างช้อปปิ้งหลักของคนในละแวกนี้ครับ

หลังจากนั้นจะผ่านแยกที่สามารถเลี้ยวเข้าถนนลาดปลาเค้าได้

และก็จะเจอกับป้ายบอกจราจรว่าข้างหน้าจะเป็นแยกใหญ่คือแยกรามอินทรา-วัชรพล เรามุ่งตรงมีนบุรีนะครับ

ผ่านบริเวณจุดตัดแยกรามอินทรา-วัชรพล

หลังจากนั้นตรงมาจะเจอกับสามแยกไฟแดงที่ถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นซอยรามอินทรา 40 (นวลจันทร์) เป็นอีกซอยขึ้นชื่อมีร้านอาหารอร่อยๆอยู่หลายเจ้า ซึ่งสามารถไปลัดเลาะออกถนนเลียบด่วนเอกมัยรามอินทราและถนนเกษตรนวมินทร์ได้ด้วยนะ

ทีนี้เราจะเจอกับสะพานข้ามแยกอีกอันนึง เป็นสะพานข้ามแยกถนนนวมินทร์นะครับ หรือเรียกว่าแยกนวมินทร์กม.8 เราจะเห็นคอนโดลุมพินีทาวน์เด่นอยู่ขวามือ

พอลงสะพานข้ามแยกมาจะเจอกับโรงพยาบาลสินแพทย์อยู่ฝั่งตรงข้าม

หลังจากนั้นจะเจอป้ายบอกทางว่าข้างหน้าจะเป็นแยกรามอินทรา-กาญจนาฯ(วงแหวนรามอินทรา) ให้เราชิดเลนขวาไว้

มุ่งหน้าตรงลอดใต้วงแหวนเลยครับ

พอพ้นวงแหวนมาแล้วซ้ายมือจะเป็นห้าง Fashion Island ห้างช้อปปิ้งมอลล์ที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณละแวกนี้ ซึ่งคนแถวนี้คงจะมาพึ่งพิงกันแน่นอน

พอพ้นห้าง fashion island มาปุ๊ปจะเจอกับศูนย์ Toyota Sure ให้เราเบี่ยงไปเลนซ้ายนะครับ เพราะถ้าอยู่เลนขวาจะเป็นที่กลับรถ

บริเวณนี้จะเป็นสามแยกรพ.นพรัตนราชธานี ซึ่งถ้าเลี้ยวขวาจะไปสวนสยามได้นะครับ

จะเจอกับสะพานข้ามคลองบางชัน และเจอป้ายโฆษณาของโครงการ Bless Ville ด้วย

พอข้ามสะพานข้ามคลองมาแล้วถ้าเจอกับปั๊ม Caltex ให้เราชิดเลนซ้ายเอาไว้เลย

ถึงปากซอยรามอินทรา 117 แล้ว มีป้ายซอยบอกอยู่นะครับ เลี้ยวซ้ายเข้าไปโลด

พอเลี้ยวปุ๊ปทางขวามือจะเจอกับแกงค์พี่วินประจำการอยู่บริเวณนี้ตั้งแต่เช้ายันถึงประมาณ 2 ทุ่มนะครับ ส่วนฝั่งซ้ายมือเป็นเพิงร้านอาหารรถเข็นต่างๆซึ่งก็เปิดตั้งแต่สายๆ จนถึงมื้อเย็นค่ำเลย อ้อ..ด้านหลังมี 7-11 ด้วย

พอพ้น 7-11 ติดกันจะเป็น Lotus Express จอดรถยากนิดนึงเพราะคนในซอยนี้คงมาพึ่งพิง 2 Minimart แห่งนี้เป็นหลักเช่นกัน

สภาพถนนซอยรามอินทรา 117 เป็นถนนลาดยาง 2 เลน สภาพแวดล้อมรอบข้างทั่วๆไปจะเป็นบ้านพักอาศัย สลับกับตึกแถวและอพาร์ทเมนท์นิดหน่อย ค่อนข้างเงียบสงบในเวลาตอนกลางวัน

ยังพอมีที่ดินเปล่าให้เห็นอยู่บ้าง ไม่ได้แน่นเต็มไปหมดทั้งซอย เราตามป้ายโฆษณาโครงการไปเลยครับ

สุดซอยเจอสามแยก ให้เราเลี้ยวขวา

หลักจากนั้นประมาณแค่ 100 เมตรก็จะเจอกับทางเข้าโครงการทางซ้ายมือแล้วครับ

ทางเข้าจะเป็นสะพานข้ามลำรางสารธารณะแบบนี้ครับ

แผนที่ระยะประชิดRe

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

สภาพแวดล้อมรอบๆของโครงการในระยะประชิดครึ่งนึงทางฝั่งขวา(ทิศตะวันออก) จะถูกล้อมรอบไปด้วยลำรางสาธารณะนะครับ ซึ่งจากที่ผมลองเดินดูบนสะพานทางเข้าและรอบๆริมกำแพงก็ไม่ได้กลิ่นน้ำแต่อย่างใดนะ ฝั่งทิศใต้ด้านหน้าทางเข้าโครงการจะเป็นซอยเจริญพัฒนา กับซอยรามอินทรา 117 ถัดมาฝั่งทิศตะวันออกข้ามคลองมาจะเป็นที่ดินเปล่าสลับกับบ้านพักทั้งชั้นเดียวและสองชั้น ส่วนทิศเหนือติดกับโครงการหมู่บ้านเก่าเป็นบ้านชั้นเดียว สุดท้ายฝั่งทิศตะวันตกเป็นที่ดินเปล่าผืนใหญ่เกือบทั้งหมดยังไม่มีการพัฒนาแต่อย่างใด

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • โรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ~ 1.7 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลเสรีรัตน์ ~ 2.3 กิโลเมตร
  • Big C ~ 2.5 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ~ 3.0 กิโลเมตร
  • ตลาดมีนบุรี ~ 3.2 กิโลเมตร
  • Tesco Lotus ~ 3.9 กิโลเมตร
  • Amorini ~ 5.1 กิโลเมตร
  • Fashion Island ~ 5.1 กิโลเมตร
  • The Promenade ~ 5.4 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

แผนที่ระยะประชิดRe

โครงการ Bless Ville รามอินรา 117 เป็นโครงการขนาดเล็ก มีเนื้อที่โครงการ 10-2-50 ไร่ จำนวน 115 ยูนิต เริ่มก่อสร้างไปแล้วปลายปี 2557 คาดว่าจะเสร็จทั้งหมดประมาณ ต้นปี 2559 ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นแบบไม้กระดก โดยเปิด-ปิดได้จาก Key Card Access ระยะใกล้ จะมีรปภ.รักษาความปลอดภัยจุดนี้ 24 ชม. และ มีติดตั้ง CCTV บริเวณซุ้มทางเข้าออกด้วย เมื่อผ่านซุ้มโครงการเข้ามาถึงจะเป็นถนนหลักของโครงการที่มีความกว้าง 12 เมตร และถนนรองกว้าง 9 เมตร โครงการไม่ได้มี Club House ห้อง Fitness หรือสระว่ายน้ำ เหมือนโครงการใหญ่ๆ มีแค่สวนหย่อมขนาดเนื้อที่ประมาณ 157 ตร.ม.อยู่ใจกลาง และส่วนที่เหลือจะเป็นพื้นที่พักอาศัยทั้งหมด รั้วกำแพงของโครงการเป็นคสล.ทึบสูง 3 เมตร รอบด้านทั้ง 3 ทิศติดกับลำรางสาธารณะ โดยขนาดที่ดินแปลงมาตรฐานคือ 19.25 ตารางวา

พอลงสะพานข้ามคลองมา พื้นทางเข้าเป็นพื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย (Stamp Concrete)

ทางซ้ายมือผนังพื้นหลังเป็นสีเทาอ่อนตัดด้วยลวดลายเส้นสีขาว พร้อมป้ายชื่อโครงการ

ซุ้มทางเข้าใช้โครงเหล็กสีดำตัดกับสีของไม้บนฝ้า กึ่งกลางเป็นป้อมรปภ. การเข้า-ออกของรถในโครงการในอนาคตจะติดเป็นระบบ Key Card Access ระยะใกล้ โดยมี CCTV ติดให้ 1 จุด(2 ตัว)บริเวณทางเข้า ประตูรั้วโครงการเป็นแบบเลื่อนไฟฟ้า ส่วนทางขวามือจะเป็นทางที่ใช้เดินเข้าออกนะครับ

พี่รปภ.จะประจำอยู่จุดนี้ 24 ชม.นะครับ CCTV จะมีตำแหน่งที่ส่องสภาพรวมและป้ายทะเบียนรถยนต์ ส่วนตัวแตะ Key Card ตอนนี้ยังไม่ได้มาติดตั้งครับพอติดเสร็จและแตะบัตรประตูจะเป็นบานเลื่อนเปิดไฟฟ้านะ ถ้าเป็นเพื่อนลูกบ้านหรือแขกต้องแลกบัตรกับรปภ.

ป้ายระเบียบการเข้าออกของโครงการบอกชัดเจน

ทางเดินเข้าออกแยกมาอยู่ทางขวามือ ซึ่งจะมีน้ำพุเล็กๆอยู่ ด้านบนมี Signage ชื่อโครงการอีกจุดนึง

ผ่านระบบรักษาความปลอดภัยหน้าโครงการเข้ามาก็จะเป็นถนนหลักภายในโครงการกว้าง 12 เมตร ซึ่งที่เห็นจอดรถกันนี่แค่ชั่วคราวนะครับ สำหรับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการเท่านั้น ส่วนเสาไฟหลักจะอยู่ฝั่งขวาชิดกับแนวริมกำแพงรั้วโครงการที่จะโยงเชื่อมเข้ามาภายใน

ถัดมาอีกหน่อยจะเป็นที่ตั้งของนิติบุคคลโครงการ แต่ปัจจุบันใช้เป็นแผนกกองช่างชั่วคราว

ให้ดูอีกมุมชัดๆครับ ขนาดอาคารเล็ก รอบๆตกแต่งด้วยพุ่มไม้เตี้ยให้สีเขียวตัดกับสีเทาของอาคาร

ภายในซอยถนนโครงการจะลดลงเหลือ 9 เมตร ซึ่งก็ยังถือว่ากว้างอยู่นะครับ

รั้วกำแพงของโครงการเป็นคอนกรีตแบบทึบทาสีขาวสูง 3 เมตร ถ้าส่วนที่ติดกับถนนหลักจะมีการปลูกต้นไม้มาเพิ่มสีเขียวให้ดูสบายตาเอาไว้ด้วย

ส่วนของถนนหลักภายในโครงการที่กว้าง 12 เมตร แบบไม่มีรถจอดข้างทางแบบเต็มชัดครับ

ริมบ้านฝั่งซ้ายส่วนนี้ได้อานิสงค์ของต้นไม้ที่โครงการจัดสวนเอาไว้ให้ ริมทางเดินฟุตบาทภายในโครงการ

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นพื้นที่ส่วนหย่อมที่ด้านหน้าจะเป็นที่ตั้งของศาลพระภูมิภายในโครงการครับ

บริเวณบ้านฝั่งนี้จะได้วิวสวนหย่อมไปเต็ม ซึ่งราคาจะสูงกว่าแปลงมาตรฐานแน่นอน

บรรยากาศของสวนหย่อม (พื้นที่ 157.7 ตร.ม.) พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นหญ้าและปลูกไม้ยืนต้นด้านข้าง เหมาะกับการออกมาเดินเล่นหรือปูเสื่อนั่งเล่นในช่วงเช้าและเย็นๆ ส่วนตอนกลางวันคงจะนั่งเล่นยากไปสักหน่อยเพราะไม่มีร่มเงาจากต้นไม้ตรงกลางสวน คงจะต้องรอต้นไม้โตออกใบอีกหน่อยน่าจะเป็นปีเหมือนกัน

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • สวนหย่อมขนาด 157.7 ตารางวา
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate 1 จุด(2ตัว)
  • รั้วรอบโครงการคอนกรีตสูง 3 เมตร
  • ระบบ Key Card Access ระยะใกล้
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบเลื่อนไฟฟ้า 1 ตอน
  • ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.

โครงสร้าง


Product Walkthrough

Floor-Plan-BV02

โครงการ Bless Ville รามอินทรา 117 มีแบบบ้านแบบเดียวเท่านั้น เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ยาว 8.8 เมตร มี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ในที่ดินมาตรฐานคือ 19.25 ตารางวา มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 115 ยูนิต ซึ่งบ้านของจริงที่ได้จะเป็นบ้านเปล่าไม่มีเฟอร์และตกแต่งมาให้นะครับ

จากแบบบ้านมีหน้ากว้าง 5.5 เมตร ผ่านรั้วเตี้ยบานพับ 2 ชั้นจะเจอกับพื้นที่จอดรถ 2 คัน มีความลึกประมาณ 5.3 เมตร ส่วนหน้าบ้านที่เปิดประตูเลื่อนเข้าไปห้องรับแขกหรือนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับโซนครัวเปิดและพื้นที่รับประทานอาหารด้วย ถัดมาจะเป็นห้องน้ำและห้องเก็บของที่หลบสายตาไว้ด้านใน และด้านหลังเป็นส่วนซักล้างหลังบ้าน

ขึ้นมาที่บันไดชั้น 2 จากส่วนหน้าบ้าน ในชั้น 2 นี้จะเป็นห้อง Master Bedroom สามารถวางเตียงขนาดใหญ่ถึง 6 ฟุต ได้สบายๆ แต่น่าเสียดายทีพื้นที่ระเบียงไม่สามารถใช้ได้จริงจังเป็นแค่ที่วางคอมแอร์เท่านั้น ส่วนห้องนอนเล็กทั้งสองห้องขนาดก็ไม่ได้ใหญ่คงวางเตียงได้แค่ไซส์ 3 ฟุต คือถ้าใครมีลูกแค่คนเดียวอีกห้องก็สามารถใช้ทำเป็นห้องทำงานอ่านหนังสือนั่งเล่นแทนก็ได้ครับ  อ้อ..ห้องนอนทุกห้องต้องออกมาใช้ห้องน้ำที่โถงทางเดินด้านนอกร่วมกันนะครับซึ่งเวลาเร่งด่วนอย่างจะไปทำงานหรือไปโรงเรียนคงต้องแย่งกันหน่อยต้องลงไปใช้ข้างล่างแทน ภายในห้องมีห้องน้ำแยกส่วนแห้งและเปียกชัดเจนมีหน้าต่างบานกระทุ้งระบายอากาศเอาไว้ให้

บริเวณหน้าบ้านสามหลังนี้เป็นส่วนของบ้านตัวอย่างนะครับ เลยไม่มีรั้วประตูหน้าบ้านเอาไว้ให้ ซึ่งขวามือสุดจะเป็น Sale Office ส่วนหลังกลางเป็นบ้านตัวอย่างที่ตกแต่งให้ดูเป็นไอเดีย และหลังซ้ายมือสุดจะเป็นบ้านตัวอย่างบ้านเปล่าที่จะได้จริง(แต่เป็นหลังริมเลยจะได้ช่องแสงชั้น 1 ด้านข้างเพิ่ม และเนื้อที่ดินด้านข้างอีกนิดหน่อย) ซึ่งหลังที่ผมจะพาไปดูคือหลังกลางนะครับและคั่นภาพสลับกับบ้านเปล่าจะได้เห็นภาพตามไปด้วย

เนื่องจากบ้านเปล่าของจริงที่สร้างเสร็จไปบางส่วนนั้นโครงการได้โอนให้ลูกบ้านไปแล้ว ผมเลยไม่สามารถถ่ายภาพภายในแปลงกลางได้นะครับ เลยขออนุญาตมาถ่ายแค่ด้านหน้าบ้านในส่วนของประตูรั้วและที่จอดรถ

รั้วทางเข้าเป็นรั้วแบบเหล็กบานพับโปร่งทาสีดำ 2 ตอน พื้นลานจอดรถเทคอนกรีตสโลปมาทางถนนหน้าบ้าน ข้อเสียของรั้วแบบนี้คือต้องใช้เวลาในการเปิด-ปิดหน่อย ตอนฝนตกนี่จะเห็นผลเลยครับลองนึกภาพดูนะ >_<  พื้นจอดรถขนาด 5.50 x 5.30 เมตร เป็นโครงสร้างวางบนคานและวางบนดินในบางส่วน สามารถจอดรถได้ 2 คัน แต่เวลาเปิดประตูจะแน่นๆหน่อยนะ

กริ่งหน้าบ้านจะติดตรงกำแพงระหว่างบ้าน

หน้าบ้านทางเข้าประตูเป็นบานเลื่อนกระจก ทางซ้ายมือจะมีช่องแสงบาน fix เป็นตำแหน่งทางขึ้นบันได ทางด้านขวามีปลั๊กไฟ 1 จุด ซึ่งตัวประตูเลื่อนจะสูงกว่าพื้นประมาณ 15 ซม.ในส่วนพื้นที่จอดรถในบ้านมาตรฐานจะไม่ได้ปูหญ้าเทียมมาให้นะ

ปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบกันน้ำให้ตรงหน้าบ้าน สำหรับใช้งานอเนกประสงค์

ประตูบานเลื่อนทางเข้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อนเปิด 2 ทาง กรอบบานอลูมิเนียม Powder Coat สีขาว กระจกสีเขียวตัดแสง

มีขั้นบันไดก่อนถึงตัวบ้านสูงประมาณ 10 เซนติเมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกสีเทา ความกว้างบริเวณนี้ประมาณ 40 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างสั้นนะครับถ้าเวลาจะถอยจอดเอารถยนต์เข้าท้ายอาจจะชนประตูได้คงต้องกะระยะดีดี

ตัวล็อกภายในบ้านเป็นแบบ 2 ขั้นตอนคือ แบบเซาะร่องกดขึ้นลง และแบบตัวล็อกก้นหอยแบบนี้

เข้ามาในบ้านจะเจอส่วนของโถงรับแขก นั่งเล่น ด้านหลังเชื่อมพื้นที่เปิดโล่งกับโซนครัวเปิดและรับประทานอาหาร พื้นภายในบ้านชั้นล่างของจริงงเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. ระยะดูทีวีค่อนข้างกว้างทีเดียวประมาณ 3.6 เมตร คงต้องจัดทีวีไซส์สัก 60 นิ้วขึ้นไปไม่งั้นคงต้องเพ่งสายตาดูนะ ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานประมาณ 2.80 เมตร  อันนี้บ้านตัวอย่างตกแต่งให้ดูเป็นไอเดียครับ

หน้าตาบ้านมาตรฐานอยู่สลับด้านกับบ้านตัวอย่าง(แปลงริมทางซ้ายที่ติดกัน เลยมีช่องแสงด้านข้างที่บอกเอาไว้) เป็นบ้านเปล่าไม่มีเฟอร์นิเจอร์(ชุดโต๊ะ,เก้าอี้,แอร์ไม่เกี่ยวนะเอาไว้สำหรับแขกมาดูบ้าน)

พื้นที่โซนนั่งเล่น ถ้าคิดว่าจะมีแขกไปมาเยอะหน่อย ระยะค่อนข้างกว้างอยู่สามารถวางโซฟาขนาด 4 ที่นั่งยังได้สบายเลยครับ

เทียบกับบ้านเปล่าครับ อ้อ มุมนี้จะเห็นชัดๆว่าถ้าเราเลือกบ้านหลังริม,มุม จะได้หน้าต่างบานช่องแสงมาเพิ่มอีก 2 จุดตำแหน่งนี้เลย

ลองนั่งบนโซฟาให้ดูครับ บอกแล้วว่าระยะดูทีวีนี่กว้างมากข้อดีของระยะกว้างๆคือมันไม่อึดอัด คนเดินผ่านไปมาสบาย แต่ข้อเสียคือต้องหาทีวีไซส์ใหญ่มาแทนไม่งั้นต้องเพ่งดู ซึ่งเราอาจต้องคำนวนราคาทีวีไซส์ใหญ่ราคาจะค่อนข้างสูง เป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งบ้านในอนาคตของเราอีกด้วย  ที่เห็นห้องทางขวาจะเป็นห้องน้ำนะและฝั่งตรงข้ามห้องน้ำเป็นห้องเก็บของใต้บันได

หน้าตาบ้านมาตรฐานเป็นแบบนี้

พื้นที่โซนรับประทานอาหารที่ติดกับพื้นที่นั่งเล่น คิดว่าคงสามารถวางโต๊ะได้แค่ขนาด 4 ที่นั่งแบบนี้เท่านั้น จะได้ไม่เกะกะเวลาเดินไปมาและเดินออกไปพื้นที่หลังบ้านได้สะดวก

จะเหลือพื้นที่เดินออกไปหลังบ้านได้ประมาณนี้ครับไม่แคบจนเกินไปว่าจะชนขอบมุมโต๊ะได้

ชุดครัวนี้เราไม่ได้นะ โครงการจัดให้ดูไว้เป็นตัวอย่างเฉยๆว่าจะวางตำแหน่งอะไรตรงไหนบ้าง

บริเวณครัวจะมีหน้าต่างช่องแสงบานเลื่อนเล็กๆแบบนี้(ตัวล็อก 2 ชั้นแบบหน้าบ้าน) เอาไว้ช่วยเวลากลางวันทำครัวเอาแสงธรรมชาติเข้ามาและสามารถระบายกลิ่นออกได้บางส่วน

หน้าตาบริเวณครัวเปิดของบ้านเปล่าจะเป็นแบบนี้ มีแค่เดินท่อน้ำดีและน้ำทิ้งเอาไว้ให้สำหรับเครื่องซักผ้าและอ่างล้างจาน และปลั๊กไฟไว้ใช้งานให้เรียบร้อย

ประตูกระจกบานเลื่อนออกไปสู่พื้นที่หลังบ้านเป็นแบบเดียวกับหน้าบ้านเลย ข้อดีของประตูกระจกคือทำให้ได้ช่องแสงสาดส่องเข้ามาในบ้านเยอะทำให้บ้านดูไม่อึดอัด แต่ก็ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยเพิ่มเติมในอนาคตไว้ด้วยนะครับ อ้อ..ด้านบนเราจะวางตำแหน่งแอร์ไว้ตรงนี้เหมือนบ้านตัวอย่างก็ดีเหมือนกันนะครับจะได้ไม่เสียพื้นที่

ส่วนของลานซักล้างด้านหลังบ้าน ของจริงจะเป็นพื้นคอนกรีต ส่วนนี้อาจจะทำเป็นครัวต่อเติมเพิ่มได้สำหรับคนที่ไม่ชอบครัวเปิดภายในบ้านทำให้มีกลิ่นอาหารติดผนัง หรืออาจจะจัดสวนกระถางเล็กๆเอาไว้ก็ได้นะ

รั้วกำแพงบ้าน สูงประมาณ 1.8 เมตร ถือว่าค่อนข้างสูงนะ ทำให้ไม่เห็นหลังบ้านของเพื่อนบ้านอีกฝั่ง และความสูงขนาดนี้ก็ไม่ได้ปีนง่ายๆระดับนึง

ลองออกมายืนจากลานซักล้างด้านหลังบ้าน ถ่ายย้อนไปที่ตัวบ้านจะเห็นปลั๊กไฟครอบกันน้ำเอาไว้ให้เหมือนด้านหน้าบ้าน และมีไฟหลอดนีออนส่องบริเวณหลังบ้านให้เวลากลางคืนด้วย

ลองเงยหน้าขึ้นไปดูชั้นบนคือบ้านจริงเราจะไม่ได้แอร์ แต่เวลาติดตั้งแอร์ตำแหน่งคอมแอร์ก็คงจะประมาณนี้นะครับ

กลับเข้ามาในตัวบ้านจะเห็นบานประตูสองฝั่ง ฝั่งซ้ายคือประตูห้องเก็บของใต้บันไดส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นประตูห้องน้ำ

มาดูห้องเก็บของใต้บันไดกันก่อนหน้าบานเป็นแบบนี้ ผมลองเปิดออกให้ดู

พื้นที่ภายในก็เก็บของได้พอสมควรนะครับประมาณ 1.0 x 1.4 เมตร ถ้าอยากให้เป็นหมวดหมู่แนะนำทำเป็นชั้นๆวางของเพิ่มเติมก็ได้นะ

ด้านข้างมีติดตั้งไฟ Led แสงสีส้มเอาไว้ให้ 1 จุด หน้าตาเช่นนี้

ห้องน้ำขนาดปานกลาง แยกส่วนแห้งและเปียกเอาไว้ให้ ทุกอย่างจะชิดอยู่ทางขวามือ(กลางบ้าน) มีหน้าต่างช่องแสงบานกระทุ้งมาให้ ทำให้ได้แสงธรรมชาติมาช่วยให้ดูไม่อึดอัดและระบายอากาศความชื้นได้ระดับนึง  พื้นเป็นกระเบื้องแบบหยาบสีเทาไซส์ 30 x 30 cm.

พื้นของห้องน้ำถูกลดระดับลงมาประมาณ 5 ซม. เวลาทำความสะอาดห้องน้ำไม่ต้องกลัวน้ำจะกระเด็นไปเลอะส่วนนอกห้อง

เราได้กระจกเงาบานใหญ่เต็มบานสะใจแบบนี้ด้วย

ผนังด้านข้างถูกก่อขึ้นมาเป็น Low Wall แบบนี้ ทำให้ได้พื้นที่วางของใช้ต่างๆได้

 

ชุดอ่างล้างมือขนาดกลาง ของ COTTO หรือเทียบเท่า ไม่มีชุดตู้เก็บของใต้อ่างมาให้

ชุดสุขภัณฑ์หน้าตาแบบนี้ ของ COTTO หรือเทียบเท่า ด้านข้างติดตั้งสายชำระ และที่แขวนกระดาษทิชชู่มาให้

พื้นที่อาบน้ำแยกส่วนเปียกเอาไว้ แต่ไม่ได้ให้ฉากกั้นมา (>_<) ผมแนะนำว่าควรติดเพิ่มครับ จะแบบไหนก็ได้เป็นฉากม่านหรือถ้ามีงบเพิ่มอีกสักหน่อยก็จัดกระจกนิรภัยมาเลยได้ความสวยงามด้วย

ขนาดพื้นที่อาบน้ำขนาดปานกลางประมาณ 0.75 x 1.2 เมตร ตัวพื้นถูกลดระดับลงอีกประมาณ 2 ซม.

ผมลองเปิดหน้าต่างบานกระทุ้งระบายอากาศให้ดูกางได้ออกประมาณ 50 องศา แบบนี้

ชุดฝักบัวที่จะได้เป็นของ COTTO เช่นกันแต่ยังไม่ได้ติดตั้งมาให้ มีที่วางสบู่เล็ก 1 จุด และก็เตรียมงานระบบส่วนของเครื่องทำน้ำอุ่นเอาไว้ให้

มาดูทางขึ้นบันไดกันบ้าน พื้นบันไดเป็นไม้ยางพาราประสานสำเร็จรูป มีหน้าต่างรับแสงบริเวณทางเดินขึ้นบันได เป็นบาน fix ไม่สามารถเปิดออกได้

ผนัง 2 ขั้นแรกของบันไดมีลิ้นชักซ่อนไว้อยู่ สามารถเก็บของเครื่องใช้ หรือเก็บรองเท้าได้ เป็นฟังก์ชั่นที่ดีนะ

ขึ้นมา 3 ก็เจอชานพักบันไดแบบสามเหลี่ยมซะแล้ว

พอเลี้ยวมาจะมีด้ามจับกันลื่นเป็นไม้ไว้ให้ ความกว้างของบันไดประมาณ 1 เมตร ถ้าเดินสวนขึ้นลงกันคงเบียดกันนิดนึง

และก็เจอชานพักสามเหลี่ยมเป็นขั้นๆแบบนี้อีกที จะเห็นพื้นของโถงทางเดินที่ชั้น 2 ที่เป็นลามิเนตแล้ว โทนสีจะต่างกันเล็กน้อย

มุมนี้ถ่ายให้เห็นชานพักบันไดแบบสามเหลี่ยม 2 จุด ซึ่งที่ผมพูดถึงว่ามันเป็นสามเหลี่ยมไม่ดียังไง เรามีวีดีโออธิบายประกอบจาก Mr.Oe และ Mr.Boom หัวข้อเรื่อง “การออกแบบบันไดในบ้าน”

ขึ้นมาชั้นบนมองไปฝั่งหน้าบ้าน ก็จะเจอกับส่วนโถงเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 mm. สีใกล้จะอ่อนกว่าสีพื้นบันได โถงบันได้ชั้นบนเป็นทางเดินเล็กๆ ขวามือเป็นราวกันตกบันได ตรงกลางบ้านฝั่งหน้าบ้านเป็นห้องนอนใหญ่(ซ้ายมือ) อีกห้องเป็นห้องนอนเล็ก(ขวามือ) ความสูงจากพื้นถึงฝ้าชั้นบนอยู่ที่ 2.8 เมตรเช่นเดียวกัน

มองไปทางฝั่งหลังบ้านบ้านขวามือจะเป็นห้องนอนเล็ก ซ้ายมือเป็นห้องน้ำที่ทุกห้องนอนจะต้องมาใช้ร่วมกัน ส่วนตรงกลางมีการเจาะผนังติดหน้าต่างช่องแสง ทำให้แสงส่องเข้ามาใจกลางโถงทางเดินที่ชั้น 2 ทำให้ไม่อึดอัด

หน้าตาของหน้าต่างช่องแสงด้านบนเป็นบานเลื่อนซ้ายขวาล็อก 2 ชั้นเหมือนเดิม ส่วนบานด้านล่างเป็นบาน Fix ครับ ความสูงหมดประมาณ 1.6 เมตร ถือว่ารับแสงมาได้เยอะทีเดียว

ลองเลื่อนเปิดออกให้ดู ข้อดีของการมีหน้าต่างบริเวณนี้อย่างที่บอกไปแล้ว ส่วนข้อเสียของมันคือเราจะเสียความ Privacy ไป ทำให้เพื่อนบ้านสามารถมองเห็นเรามาได้เช่นกัน คงจะต้องติดตั้งม่านเพิ่ม และใช้เปิดเป็นบางโอกาสเท่านั้นเวลาอยากได้แสงเข้ามา

ตัวล็อก 2 ชั้น แบบบน(สีดำ)จะไม่เหมือนกับชั้นล่างนะครับ เป็นแบบใช้กดลงลึกๆถึงจะล็อกและปลดล็อกได้

มาดูห้องนอนเล็กที่อยู่ฝั่งตรงข้ามห้องน้ำกัน ห้องขนาดไม่ใหญ่จึงสามารถวางเตียงได้แค่ไซส์ 3 ฟุตเท่านั้นนะครับ และยังเหลือพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าได้

หน้าตาบ้านเปล่าของจริงจะเป็นแบบนี้

ตำแหน่งเตียงนี่ถ้าเรา Build-In ตามบ้านตัวอย่าง ซึ่งยังไงคงต้องเอาเตียงชิดไว้ฝั่งผนังแบบนี้ด้วยพื้นที่จำกัด จะทำให้เหลือพื้นที่ปลายเตียงแค่ประมาณ 40 cm. เท่านั้น แต่ก็ยังพอสามารถเอาทีวีแขวนที่ปลายเตียงได้อยู่นะถ้าจะทำ

ตำแหน่งของหน้าต่างช่องแสงจะอยู่บริเวณปลายเตียง ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ เป็นบานเลื่อนเปิดได้ทั้งซ้ายและขวา

ด้านข้างเตียงสามารถ Build-In ประมาณบ้านตัวอย่างได้นะครับให้มีโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ และตู้เสื้อผ้าสำหรับคนเดียวได้อยู่

มาดูห้องน้ำฝั่งตรงข้ามห้องนอนเล็กกันบ้าง อย่างที่บอกไปว่าห้องน้ำห้องนี้จะต้องใช้ร่วมกันทั้งหมดของห้องนอนชั้นบนนะ ถ้าเวลาเร่งด่วนคงจะต้องแบ่งไปใช้ข้างล่างกันด้วย วัสดุอุปกรณ์และหน้าตาก็เหมือนกันข้างล่างเลย แต่มีขนาดกว้างกว่า

ตัวพื้นของห้องน้ำถูกลดระดับลงมาประมาณ 6  cm. มีธรณีจบเป็นลามิเนต

ฝั่งขวามือมีที่แขวนผ้าขนหนูและหน้าต่างรับแสงบานกระทุ้งเปิดระบายอากาศความชื่น

รูปแบบฟังก์ชั่น และวัสดุเหมือนกันกับห้องน้ำชั้นล่าง

พื้นที่อาบน้ำแยกส่วนเปียกเอาไว้ แต่ไม่ได้ให้ฉากกั้นมาเช่นเดิม

ขนาดพื้นที่อาบน้ำขนาดปานกลางประมาณ 0.8 x 1.3 เมตร ตัวพื้นถูกลดระดับลงอีกประมาณ 2 ซม.

ส่วนของ Master Bedroom มีขนาดพื้นที่เยอะพอสมควร เข้ามาดูโปร่งโล่งทีเดียวโครงการวางเตียง 5 ฟุตให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่ถ้าพื้นที่เหลือขนาดนี้จะจัด king size เลยก็ได้นะ มีระยะรอบๆเตียงเหลือเฟือ

หน้าตาบ้านเปล่ามาตรฐานเป็นเช่นนี้

พื้นที่ด้านข้างเตียงฝั่งนี้สามารถวางเป็นตู้เสื้อจะลอยตัวหรือ Build-In ก็ได้ หรือสนใจไอเดียแบบบ้านตัวอย่างก็ได้นะครับ

ระยะปลายเตียงถ้าไม่นับชั้นวาง จากปลายเตียงจนถึงผนังกว้างประมาณ 0.9 เมตร ถือว่ากว้างพอสมควรเลย

มุมนี้ถ่ายให้เห็นไปทางฝั่งหน้าต่างหน้าบ้าน

ของจริงจะเป็นแบบนี้นะ

พื้นที่ด้านข้างเตียงฝั่งหน้าบ้านก็ยังเหลือพื้นที่พอสมควร จะสามารถวางโต๊ะหัวเตียงขนาดใหญ่กว่านี้เอาไว้ก็ได้ และจัดเป็นมุมนั่งเล่นอ่านหนังสือชิวๆก็ยังได้ (เหลือความกว้างประมาณ 1 เมตร)

ช่องแสงจะเป็นหน้าต่างบานเลื่อนเปิดออก ขนาดกว้างพอสมควร ทำให้ได้แสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาในห้องได้เต็มที่ ระบบตัวล็อกเป็นแบบหน้าต่างที่โถงทางเดินด้านนอก

น่าเสียดายที่บ้านทุกแบบไม่มีพื้นที่ระเบียงที่สามารถใช้งานออกไปยืนหรือเดินได้ ระเบียงจะเอาไว้ใช้สำหรับวางคอมแอร์เท่านั้น และมีราวเหล็กโปร่งเอาไว้กั้น กันสายตามจากภายนอกนิดหน่อย

มุมนี้ถ่ายจากบนเตียงให้เห็นถึงระยะเวลานอนดูทีวี จะมีความกว้างประมาณ 2.5 เมตร จัดทีวีไซส์สัก 47″ ขึ้นไป ส่วนพื้นที่ด้านข้างผนังใครไม่อยากให้เสียประโยชน์ก็สามารถ Build เป็นชั้นวางของเพิ่มเติมขึ้นมาได้นะครับ

มาดูห้องสุดท้ายกันบ้างห้องนอนเล็กฝั่งหน้าบ้านอีกห้องนึง ซึ่งบ้านตัวอย่างของโครงการเค้าจัดเอาไว้เป็นห้องนั่งเล่นพักผ่อนแทนแบบนี้

หน้าตาบ้านเปล่าของจริง

ตำแหน่งนี้ถ้าจัดเป็นห้องอเนกประสงค์ สามารถเลือกโซฟาไซส์ไหน รูปแบบไหนก็ได้ ตามความต้องการของเราเลยนะครับ

มุมนี้ถ่ายย้อนไปทางฝั่งประตูทางเข้า

ด้านนี้จะเป็นผนังเว้าลึกลงไป สามารถเอาไอเดียบ้านตัวอย่างไปใช้ได้นะคือทำเป็นชั้นวางหนังสือหรือมุมโต๊ะทำงานเล็กๆก็ได้

หน้าตาบ้านจริงมาตรฐาน

ห้องนี้เราจะได้หน้าต่างกระจกเข้ามุมด้วย และช่วงด้านบนจะเป็นบานเลื่อนเปิดปิด และด้านล่างเป็นแบบ Fix นะครับ อ้อ..ตอนแรกบอกไปแล้วเนอะว่าวงกบพวกบานประตูหน้าต่างทั้งหมดจะเป็นอลูมิเนียม Powder Coat สีขาวและกระจกตัดแสงสีเขีขวทั้งหมดนะ

สวิทช์และปลั๊กไฟทั้งหมดภายในบ้านเป็นของ Schneider

แวะถ่ายหน้าบ้านฝั่งหลังริมให้ดูครับ ว่าจะได้เนื้อที่ดินด้านข้างเพิ่มมาประมาณนี้ วำหรับคนที่มีงบมากกว่าและชอบทำสวนเล็กๆ

พื้นที่ด้านข้างแล้วแต่แปลงนะครับว่าจะเหลือพื้นที่ประมาณไหน แต่พอสามารถจัดสวนหย่อมเล็กได้

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 1 September 2015

  • TH กลาง (โซน H) แปลง H09-H13 ที่ดิน 19.25 ตร.วา ราคา 2.09 ล้านบาทหรือ 108,571 บาท/ตร.วา
  • TH มุม (โซน H) แปลง H08 ที่ดิน 26.58 ตร.วา ราคา 2.95 ล้านบาทหรือ 110,985 บาท/ตร.วา
  • TH กลาง (โซน B) แปลง B09-H13 ที่ดิน 19.25 ตร.วา ราคา 2.40 ล้านบาทหรือ 124,675 บาท/ตร.วา
  • TH มุม (โซน B) แปลง H08 ที่ดิน 27.36 ตร.วา ราคา 3.15 ล้านบาทหรือ 115,131 บาท/ตร.วา
  • TH กลาง (โซน D หน้าสวน) แปลง D02-D06  ที่ดิน 19.25 ตร.วา ราคา 2.64 ล้านบาทหรือ 137,142 บาท/ตร.วา
  • TH มุม (โซน D หน้าสวน) แปลง D07  ที่ดิน 24.37 ตร.วา ราคา 3.24 ล้านบาทหรือ 132,950 บาท/ตร.วา

  • จอง 5,000 บาท และทำสัญญา 20,000 บาท
  • ดาวน์ 70,000 บาท ผ่อนดาวน์ 5 งวด
  • ค่าส่วนกลาง 48 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลของโครงการ Bless Ville รามอินทรา 117 ตั้งอยู่บนถนนรามอินทราตอนปลายฝั่งขาออก ช่วงระหว่างแยกสวนสยามกับแยกเมืองมีน ตั้งอยู่ในซอยรามอินทรา 117 เข้าไปลึกประมาณ 800 เมตร ใกล้กับชุมชนเก่าย่านมีนบุรี สภาพแวดล้อมในซอยส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบทั้งที่จัดสรรและไม่จัดสรร ความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ค่อนข้างครบครัน ทั้งตลาดมีนบุรี, Big C และ Tesco Lotus สำหรับการจับจ่ายซื้อกับข้าว มีห้างสรรพสินค้าอย่าง Fashion Island และ Community Mall ก็จะมี The Promenade  และ Amorini ตรงแยกสวนสยาม ส่วนโรงพยาบาลจะมีโรงพยาบาลนพรัตนราชธานีที่อยู่บนถนนรามอินทราตรงแยกตัดกับถนนสวนสยาม และโรงพยาบาลเสรีรักษ์ที่อยู่บนถนนเสรีไทย

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวค่อนข้างสะดวก เนื่องจากเป็นช่วงปลายรามอินทราที่รถไม่ค่อยติดและมีทางเลี่ยงทางลัดในการเดินทางไปถนนเส้นอื่นๆพอสมควร โดยสามารถเข้าถึงโครงการได้จาก ทั้งถนนรามอินทราที่เป็นถนนเส้นหลักสายยาวเข้าซอยรามอินทรา 117 ซึ่งอยู่ทางฝั่งซ้าย หรือจะเข้าจากถนนหลักอีกเส้นของคนแถวนี้คือถนนหทัยราษฎร์ก็ได้และเข้าซอยเจริญพัฒนาที่มาเชื่อมด้านหน้าโครงการ การใช้ทางด่วนที่ใกล้สุดคงต้องวิ่งออกไปถึงทางด่วนวงแหวนรามอินทรา(กาญจนาภิเษก,วงแหวนรอบนอก)ซึ่งถ้านับจากหน้าโครงการมีระยะประมาณ 6 เกือบ 7 กิโลเมตร

การเดินทางโดยไม่ใช่รถยนต์ในปัจจุบันก็มีหลายแบบให้พึ่งพา ซึ่งคนแถวนี้มักจะเดินทางด้วยรถตู้และรถสองแถวเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งจุดจอดและจุดปล่อยรถตู้อยู่ที่ตลาดมีนบุรีไม่ไกลนักจากโครงการ รถตู้บริเวณนี้วิ่งกันค่อนข้างเยอะไม่ต้องยืนรอนาน และรถเมล์ประจำทางนั้นก็มีอยู่หลายสาย ป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุดจะอยู่ตรงหน้าซอยรามอินทรา 115/1 ซึ่งห่างจากปากซอย 117 แค่ 70 เมตร และก็ยังมีวินมอเตอร์ไซต์ที่คอยให้บริการอยู่หน้าปากซอย ที่ต้องเข้าไปอีก 800 เมตร แต่ในส่วนการเดินเท้าอาจจะค่อนข้างไกลจากระยะเดินไปสักหน่อย ประกอบกับไม่มีทางเท้าที่สามารถเดินสะดวกอาจจะเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ ไม่เหมาะและแนะนำให้เดินครับ

ในอนาคตอจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูมาเสริมใกล้กับสถานีบางชันสถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญอีกด้วย

การวางผังโครงการ ตัวโครงการเป็นโครงการขนาดเล็กมีแค่ 115 ยูนิต และถูกล้อมรอบ 3 ด้านไปด้วยลำรางสาธารณะ แต่วันที่ผมลองเดินสำรวจทำรีวิวไม่มีกลิ่นของน้ำลอยมาแต่อย่างใด การวางผังโครงการให้มี Facility แค่สวนหย่อมขนาด 157 ตร.ม.อยู่ใจกลาง ถนนหลักกว้าง 12 เมตรช่วงและถนนรองความกว้าง 9 เมตร

ส่วนการออกแบบทาวน์โฮม ค่อนข้างเป็นสัดส่วนลงตัว บริเวณห้องน้ำและห้องเก็บของใต้บันไดชั้นหนึ่งมีการหลบสายตาไม่ให้มองเห็นโดยทำโถงเล็กๆแจกเข้าห้องน้ำและห้องเก็บของ ฝ้าเพดานยกสูงถึง 2.8 เมตร ทำให้ปริมาตรของบ้านเยอะขึ้นจึงดูค่อนข้างโปร่งโล่ง ประกอบกับหน้าต่างบานกระจกที่มีขนาดใหญ่และเยอะ รวมทั้งการทำกระจกเข้ามุมโดยไม่มีกรอบบานยิ่งทำให้ตัวบ้านดูโปร่งโล่ง และมีแสงธรรมชาติเข้าได้ทั่วถึงภายในบ้าน บริเวณโถงบันไดทั้งชั้น 1-2 ต่างมีบานกระจกรับแสงธรรมชาติเข้าถึงเช่นกัน ห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) จัดพื้นที่ได้กว้างเหลือสามารถใช้ประโยชน์อเนกประสงค์ได้เต็มที่ น่าเสียดายตรงที่ระเบียงที่ใช้ประโยชน์แบบจริงจังออกไปยืนหรือเดินเล่นได้ไม่มีนี่ละครับ

วัสดุที่ให้มาก็สมราคานะครับ ผนังโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ก่ออิฐมวลเบา ฉาบปูนเรียบ พร้อมทาสี ครงหลังคาสาเร็จรูป MetalSheet พร้อมแผน่ฟอยล์กันความร้อนใต้แผน่หลังคา พื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ที่ชั้น 1, พื้นลามิเนตหนา 8 มม. ที่ชั้น 2 , สุขภัณฑ์ห้องน้ำยี่ห้อ Cotto แต่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ ไฟเพดานเป็นแบบ Led โคมสี่เหลี่ยม สวิทช์และปลั๊กไฟของ Schneider

ระบบรักษาความปลอดภัย เข้าประตูรั้วโครงการเป็นแบบประตูเลื่อนอัตโนมัติด้วย Key Card Access ระยะใกล้ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง กล้อง CCTV ที่ Main Gate 1 จุด(2 ตัว) แต่ไม่มีสัญญาณกันขโมยของแต่ละบ้านให้ ถนนหลักของโครงการมีความกว้าง 12 เมตรในช่วงตอนต้นของถนน และกว้าง 9 เมตรด้วยความขนาดความกว้างของถนนที่ค่อนข้างกว้างดังนั้นจึงค่อนข้างสะดวกสบายในการขับขี่และลดปัญหารถติดขัดหากมีเพื่อนบ้านจอดรถหน้าบ้าน สำหรับความสูงรั้วของโครงการอยู่ที่ 3 เมตร และ Facility ของโครงการจะมีเพียง พื้นที่สวนหย่อมใจกลางโครงการขนาด 157 ตร.วา ซึ่งต้องรอใบไม้ออกดอกออกใบมากกว่านี้คงน่ามานั่งกางเสื่อร่มรื่นน่าดู

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 2-3 ล้านบาท, 1 September 2015

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – อยู่ในซอยประมาณ 800 ม.จากถนนใหญ่แต่เป็นซอยเชื่อมลัดเลาะได้หลายทาง
  • ความปลอดภัย 7.75/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน Key Card Access, CCTV ระยะใกล้ , รั้วกำแพงสูง 3 เมตร
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.25/10 – แบบสวยแนวสมัยใหม่ ฝ้าเพดานสูง 2.8 เมตร ฟังก์ชั่นครบขาดแต่ระเบียงชั้นบนใช้งานได้ไม่เต็มที่
  • วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – สวนหย่อมขนาด 157 ตร.ม. และปลูกต้นไม้ตามแนวริมรั้วกำแพงโครงการบางส่วน
  • สาธารณูปโภค 6.75/10 – มีเพียงสวนหย่อมใจกลางโครงการ

7.58 / 10.00

BOTTOM LINE

โครงการ  Bless Ville รามอินทรา 117 เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยในย่านรามอินทราตอนปลาย(มีนบุรี) ไม่ไกลจากถนนใหญ่มากนัก ต้องการความสงบจากเสียงและฝุ่นควันจากรถยนต์ และอยู่ไม่ไกลจากแหล่งความอุดมสมบูรณ์อาหารการกิน Shopping ต่างๆ เป็นครอบครัวขนาดเล็กพึ่งเริ่มต้น เน้นใช้รถยนต์ส่วนตัว คาดหวังการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าในอนาคตบ้างนิดหน่อย มีงบประมาณ 2.1 – 3.2 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ  15,000 – 22,500 บาท/เดือน

 

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )