รีวิวฉบับที่ 1388 … Baranee Park ร่มเกล้า จาก บริษัท มานะพัฒนาการ เป็นโครงการที่มีคอนเซปต์การออกแบบสไตล์ COURTYARD ที่มีรูปแบบความเป็น Unqiue ในตัวสูงไม่เหมือนกับใครเพื่อนบ้านในย่านร่มเกล้าเลยก็ว่าได้ เพราะการออกแบบตัวบ้านที่เน้นช่องแสงที่ส่องผ่านเข้าทางข้างบ้านเป็นหลัก อีกทั้งยังมีส่วนกลางที่ให้มาจัดหนักจัดเต็ม ตัวโครงการอยู่ติดถนนร่มเกล้าถือว่าอยู่ใกล้แหล่งนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังด้วย
Fact @ 11 July 2017
- Baranee Park Romklao (บารานีพาร์ค ร่มเกล้า)
- บริษัท มานะพัฒนาการ จํากัด
- UPPER – HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : ติดถนนร่มเกล้า เขตลาดกระบัง
- เนื้อที่โครงการ 22-2-01 ไร่, จำนวน 86 ยูนิต
- FESPA : 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดิน 55 ตรว. พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. (ราคาเริ่ม 9.89 ลบ.)
- DENFE : 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดิน 65 ตรว. พื้นที่ใช้สอย 215 ตร.ม. (ราคาเริ่ม 12.59 ลบ.)
- LIWA : 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ที่ดิน 80 ตรว. พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม. (ราคาเริ่ม 16.59 ลบ.)
- เพดานชั้น 1 สูง n/a เมตร, ชั้น 2 สูง n/a เมตร
- ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละประมาณ 95,000 บาท
- ปัจจุบันสร้างแล้วเสร็จทั้งโครงการ
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 02-737-7266 ถึง 8, 086-339-9982
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ
พิกัด : 13.758396, 100.745992
แผนที่จากทางโครงการครับ แผนที่โครงการ Baranee Park ร่มเกล้า ตั้งอยู่บนถนนร่มเกล้าฝั่งขาเข้าไปทางแยกรามคำแหง-ร่มเกล้า ซึ่งตัวโครงการจะอยู่ห่างจากแยกตัดใหม่ (กรุงเทพกรีฑาร่มเกล้า-เจ้าคุณทหาร) จากแผนที่แสดงให้เห็นสถานที่สำคัญอย่าง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังครับ
ถนนร่มเกล้า หรือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3119 เดิมมีชื่อว่า “ถนนมีนบุรี–ลาดกระบัง” มีระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร มีจุดเริ่มต้นจากถนนสุวินทวงศ์ ไปบรรจบกับ ถนนลาดกระบัง ซึ่งจุดสิ้นสุดของถนนร่มเกล้าฝั่งทางใต้จะเป็นทางยกระดับเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ แต่เดิมถนนเส้นนี้มีเพียง 2 ช่องทางจราจร แต่ในปัจจุบันเป็นถนนแบบ 4-6 ช่องทางจราจร เนื่องจากการพัฒนาของนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังที่มีบทบาทด้านแหล่งงาน ทำให้ปัจจัยอย่างที่อยู่อาศัย, ออฟฟิศ, การพัฒนาร้านค้าพื้นฐานตามมาใกล้กับนิคมฯ ถึงแม้วันนี้ยังไม่ได้หนาแน่นมากแต่ “ย่านร่มเกล้า” ในอนาคตคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นแน่นอน
ที่ตั้งโครงการตั้งอยู่บนถนนร่มเกล้าในโซนที่ใกล้กับย่านอุตสาหกรรมใหญ่อย่างนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังที่อยู่บนถนนฉลองกรุง สภาพบรรยากาศบนถนนร่มเกล้านี้จะไม่ค่อยมีอะไรมากนักเนื่องจากอยู่ในย่านชานเมือง ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการพักอาศัยแนวราบทั้งบ้าน, ทาวน์โฮม, อาคารพาณิชย์บ้าง ร้านอาหารบ้างประปรายบริเวณริมถนน และจะคึกคักหน่อยบริเวณแยกรามคำแหง-ร่มเกล้า ซึ่งจะมี Big C เป็น Hyper Market ที่ใกล้และใหญ่ในละแวกนี้ ในส่วนของ ถนนร่มเกล้า เป็นถนนที่เริ่มต้นจากถนนเสรีไทยยาวลงมาจนตัดกับถนน เจ้าคุณทหารซึ่งเป็นเส้นทางไปนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ถัดมาจะตัดถนนมอเตอร์เวย์และลาดกระบัง สุดทางจะเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิและไปถนนกิ่งแก้วได้ ซึ่งในอนาคตจะมีการตัดถนนกรุงเทพกรีฑาใหม่ โดยเริ่มจากบริเวณกรุงเทพกรีฑาสปอร์ตคลับ ยาวมาจนถึงการเคหะร่มเกล้าเลยครับ สามารถตัดไปออกถนนศรีนครินทร์ได้ ทำให้มีทางลัดเลาะเข้าเมืองชั้นในมากขึ้น
การเดินทางโดยใช้รถยนต์ถือเป็นการเดินทางหลักๆ ของโครงการนี้ สามารถเดินทางเข้า – ออกเมืองได้ค่อนข้างสะดวก สำหรับการเข้าเมืองสามารถขึ้นมอเตอร์เวย์ไปพระราม 9 หรือจะเข้าถนนลาดกระบังไปทะลุออกถนนอ่อนนุชเพื่อเข้าไปยังถนนสุขุมวิทชั้นใน รวมทั้งลัดไปออกถนนรามคำแหงโดยเข้าถนนเคหะร่มเกล้าไปทะลุออกถนนราษฎร์พัฒนาหรือที่รู้จักกันในชื่อ ซอยมิสทีน ส่วนออกนอกเมืองก็สามารถขึ้นมอเตอร์เวย์ออกไปทางฉะเชิงเทรา บางประกงได้เช่นกัน
ส่วนการเดินทางโดยพึ่งพิงระบบสาธารณะนั้นบนถนนเส้นนี้ก็ถือว่าสะดวกระดับนึง เพราะด้วยตัวโครงการที่อยู่ติดถนนใหญ่ไม่เปลี่ยว มีป้ายรถเมล์ให้ยืนคอยได้บริเวณหน้าโครงการ และนอกจากจะมีรถเมล์แล้วยังมีรถสองแถว รถตู้คอยบริการอยู่ตลอด ส่วนเรื่องของระบบรางที่ใกล้ที่สุดคือ Airport Rail Link ลาดกระบัง โดยมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 4.5 กม. แต่ในอนาคตก็จะมีทางเลือกให้มากขึ้นหน่อยสำหรับระบบรางโดยจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู โดยสถานีที่อยู่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีมีนบุรี บริเวณซอยรามคำแหง 192 ห่างจากโครงการประมาณ 6.2 ม. โดยสถานีนี้มีจุดจอดแล้วจร (Park and Ride) ซึ่งสามารถจอดรถได้ประมาณ 2,000 คัน รวมไปถึง Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีส้มอีกด้วย ซึ่งใครที่จะเดินทางเข้าเมืองก็สามารถขับรถออกจากโครงการไปจอดแล้วขึ้นรถไฟฟ้าไปได้เลย ซึ่งกำหนดการที่คาดว่าจะแล้วเสร็จจะอยู่ในปี 2563
จุดขึ้น-ลงวงแหวนรอบนอกนั้นจะอยู่บริเวณจุดตัดกับมอเตอร์เวย์ ซึ่งห่างจากโครงการไปประมาณ 7-8 กม. สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทางคือจากถนนพัฒนาชนบทที่มีระยะทางสั้นหน่อยประมาณ 7.6 ม. และจากถนนหลักคือถนนร่มเกล้าไปตัดเข้าเลียบมอเตอร์เวย์ระยะทางประมาณ 8 กม
(รูปซ้าย) จุดขึ้น-ลงมอเตอร์เวย์อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 3.5 กม. ตรงบริเวณจุดตัดกับถนนร่มเกล้าเลย
(รูปขวา) สำหรับใครที่ทำการค้าอย่าง Import & Export หรือต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ ก็ถือว่าสะดวกในการเดินทางเลย เพราะตัวโครงการอยู่ไม่ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิมากนักประมาณ 6-7 กม. (ในช่วงเวลาที่รถไม่ติด google คำนวนไว้ประมาณ 7-10 นาทีเอง)
สำหรับการเข้าถึงโครงการ หากใครที่มาจากทางถนนรามคำแหงทะลุมาทางถนนเคหะร่มเกล้า หรือตรงมาจากมีนบุรีจะต้องกลับรถไกลหน่อย โดยจุดกลับรถจะอยู่บริเวณโรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ร่มเกล้า ห่างจากโครงการประมาณ 1.1 กม.ครับ / ส่วนจุดกลับรถอีกจุดเพื่อกลับไปทางทางสุวรรณภูมิพอออกจากโครงการมุ่งหน้าไปประมาณ 1.4 กม. บริเวณซอยร่มเกล้า 19 (ซอยเทพนิมิตร)
ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์บนถนนร่มเกล้า ในเรื่องของอาหารการกินถือว่ามีไม่ค่อยมากนักในระยะเดิน จำเป็นต้องอาศัยขับรถออกไปกินในช่วงกลางวัน ซึ่งส่วนใหญ่ร้านอาหารบนถนนเส้นนี้จะเป็นเต้นท์ หรือตึกแถวที่เปิดบ้างเป็นจุดๆ ไม่ได้กระจุกตัวหรืออยู่ตลอดฝั่งแนวถนน ซึ่งจะพอมีร้านอาหารให้เห็นคึกคักหน่อยบริเวณโรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ ร่มเกล้า และจุดตัดกับถนนเจ้าคุณทหาร หรือจะเข้าไปบนถนนเคหะร่มเกล้าเลยไปจนถึงซอยมิสทีนซึ่งเป็นชุมชนในซอยขนาดใหญ่ก็จะมีร้านอาหาร คอมมูนิตี้มอลล์เล็กๆ และตลาดให้เลือกกินเลือกซื้อหลากหลายดี สำหรับห้างบนถนนเส้นนี้ก็จะอยู่บริเวณจุดตัดกับถนนรามคำแหง อย่าง Big C ร่มเกล้าไปเลยครับ ถือเป็นแหล่งจับจ่ายซื้อของหลักของคนในย่านนี้เลย หรือจะเข้ามาทางรามคำแหงอีกหน่อยก็จะมี HomePro และ Tesco Lotus ที่อยู่ไม่ไกลมากนัก ส่วนสถานศึกษาบนถนนเส้นนี้ก็มีโรงเรียนดังๆ ในย่านนี้อย่าง โรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ ร่มเกล้า, โรงเรียนเทพศิรินทร์ ร่มเกล้า และมหาวิทยาลัยอย่างมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตร่มเกล้า
บริบทรอบๆโครงการในคราวนี้มามองจากภาพมุมสูงของโดรนกันดีกว่าเห็นของจริงจะเข้าใจได้ง่ายกว่า Google Maps โดยส่วนใหญ่จะเป็นโครงการแนวราบ และมีพื้นที่พาณิชย์อย่างอาคารพาณิชย์ โชว์รูมรถ ร้านขายวัสดุ อู่รถยนต์ และปั๊มน้ำมัน พื้นที่ที่ติดกับโครงการฝั่งทิศใต้(ซ้ายมือ)ยังเป็นที่ดินว่างเปล่าอยู่ ส่วนของฝั่งทิศเหนือ(ขวามือ) นั่นเป็นโครงการที่มาตั้งนานแล้วอย่างพาราไดซ์เทอเรสที่มีทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ถือว่าช่วยเป็นหูเป็นตาให่แก่กันไปอีกด้วย
- ทิศเหนือ ติดกับหมู่บ้านพาราไดซ์เทอเรสขนานควบคู่ไปกับเรา
- ทิศตะวันออก ติดกับถนนร่มเกล้า
- ทิศใต้ ติดกับที่ดินว่างเปล่าที่ยังไม่ได้มีการพัฒนา
- ทิศตะวันตก ติดกับคลองเล็กๆ (คลองสองต้นนุ่น)
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น (นับจากโครงการไปสถานที่นั้น)
- โรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ ร่มเกล้า ~ 4.1 กม.
- ตลาดสดเกรียงไกร ~ 4.7 กม.
- Big C Market เคหะร่มเกล้า ~ 5.2 กม.
- มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขตร่มเกล้า ~ 5.3 กม.
- โรงเรียนเทพศิรินทร์ ร่มเกล้า ~ 5.6 กม.
- Big C ร่มเกล้า ~ 6 กม.
- วัดลาดกระบัง ~ 7.6 กม.
- ตลาดมีนบุรี ~ 8 กม.
- นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ~ 11 กม.
- HomePro & Tesco Lotus ~ 11.5 กม.
- สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ~ 11.6 กม.
มาดูที่ผังโครงการกัน ที่ดินทั้งหมดของโครงการมี
ความปลอดภัยในโครงการเริ่มจากทางเข้าออกหลักจะมีรปภ.ที่ซุ้ม ลูกบ้านใช้ Keycard Access แตะเพื่อเปิดรั้วเหล็กเลื่อนไฟฟ้าออก, CCTV เนี่ยมีตั้งแต่ทางเข้าจนไปถึงถนนด้านในทั้งหมดเกือบทุกจุด, รั้วรอบโครงการเป็นคอนกรีตทึบ 2.5 เมตรบวกกับรั้วไม้ระแนงต่อเพิ่มอีก 1.5 เมตร
สำหรับการหันทิศทางของบ้านในโครงการทั้งหมดจะหั
พื้นที่สีเขียวและพื้นที่ส่วนกลาง ในส่วนของต้นไม้ที่โครงการจะลงไว้ให้ที่เกาะฟุตบาทของถนนเมน ยาววววววววตลอดทั้งแนว อีกทั้งยังมีต้นไม้ที่เกาะกลางและสุดท้ายที่สวนหย่อมบริเวณกลางโครงการ และยังอยู่ติดกับ ClubHouse สโมรสรภายในโครงการที่มีมาให้ทั้ง Lounge, Swimming Pool (แยกสระเด็ก), ห้องสตีม, ห้องออกกำลังกายแยกสองส่วนคาร์ดิโอกับเวทเทรนนิ่ง การตั้งพื้นที่ส่วนกลางเป็นแบบหน้ากว้างยาวแบบนี้ทำให้ลูกบ้านที่ผ่านไปมาจะรู้สึกว่ามันว่ามีความกว้างใหญ่ สวยและน่าใช้งาน อีกทั้งยังคุ้มค่ากับค่าส่วนกลางที่คิด 50 บาท/ตร.วาด้วย
มาเริ่มที่ด้านหน้าโครงการที่ติดกับถนนร่มเกล้า เราเลี้ยวมาจะเจอกับวงเวียนที่ล้อมต้นไม้ใหญ่ เป็น Drop Area ไปในตัว
โดยทางซ้ายมือสุดจะเป็นส่วนของทางเดินแยกออกมาอยู่ภายใต้ Stucture เหล็กหลังคาที่เชื่อมต่อไปยังซุ้มโครงการ
ในส่วนทางเดินเท้าเข้าออกก็มิดชิดนะครับ ไม่ใช่ใครเดินมั่วเข้ามาได้ ต้อง Access ด้วย Keycard ลูกบ้านทุกครั้งถึงแม้จะเป็นแม่บ้านหลังไหนก็ตาม
ก่อนจะเข้าไปในโครงการ หันไปมองฝั่งตรงข้ามกันบ้าง ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Sale Gallery Office
Sale Gallery Office ที่ตรงส่วนนี้ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ดินส่วนกลางของโครงการนะครับ แต่ว่าทางโครงการเค้าแจ้งมาว่าอนาคตถ้าปิดการขาย “อาจจะ” เป็น Retail ร้านค้า, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ (ยังไม่คอนเฟิร์ม) ให้แก่ลูกบ้านและคนภายนอกอาจจะมาใช้ได้ด้วย
การตกแต่งใช้ในส่วนของโครงสร้างเหล็กพ่นสีออกครีมน้ำตาลโดยหน้าบานทั้งหมดจะเป็นกระจกใส ทำให้ได้มุมมองแสงธรรมชาตแบบเปิดโล่ง
ด้านในก็จะมีเคาน์เตอร์และที่นั่งเซอร์วิสรองรับครับ
โดยจุดที่เด่นสะดุดตาก็คือเจ้าโมเดลจำลองบ้านทั้ง 3 แบบ ภายในโครงการที่ตั้งอยู่ตรงนี้นั่นเอง
Model บ้านหลังเล็ก FESPA
ซึ่งทางขวามือสุด จะเป็นส่วนของบ้านหลังเล็กสุด FESPA ที่มี 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.
Model บ้านหลังกลาง DENFE
ส่วนตรงกลาง จะเป็นของบ้านขนาดกลางที่ชื่อว่า DENFE ที่มี 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 215 ตร.ม.
Model บ้านหลังใหญ่สุด LIWA
และสุดท้าย ซ้ายมือสุดเป็นของบ้านขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า LIWA ที่มี 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม.
กลับออกมาด้านนอกอีกครั้งนึง ทีนี้ผมจะพาไปดูส่วนด้านในโครงการของจริงกันบ้าง โดยเริ่มจากที่ซุ้มทางเข้าออกโครงการ โดยมีส่วนโครงสร้าง Stucture ที่หลังคาเชื่อมต่อมาจากส่วนทางเดิน เป็นแนวสถาปัตยกรรมตกแต่งสีจะเป็นออกน้ำตาลอ่อนดูตัดกับสีเขียวของต้นไม้ได้เด่นดี ใช้บังแดดได้ส่วนนึงนะ แต่ถ้าฝนตกมาคงจะช่วยไม่ได้สักเท่าไร
ซุ้มรปภ.ที่ตั้งอยู่ตรงกลางจะมีรปภ.ประจำ 1-2 นาย ตลอด 24 ชม. โดยการเข้าออกจะต้องใช้ Keycard Access แตะเพื่อผ่านตัวรั้วเหล็กเลื่อนไฟฟ้า และมี CCTV ส่องอยู่ที่จุดนี้ด้วย
พอเข้ามาในรั้วโครงการแล้ว สิ่งแรกที่เห็นและประทับใจก่อนเลยคือ 1.เสาไฟฟ้าลงดิน (ช่วยเพิ่มความสวยงามต่อสายตาเอาไป 10 ดาว เรียบร้อยสบายจริงๆ) 2. ถนนโครงการ ที่ใช้แบบแอสฟัลท์ (asphalt) หรือง่ายๆเรียกว่าลาดยางมะตอยนั่นเอง เพื่อให้มีความแข็งแรงและไร้ฝุ่น ดูดีกว่าคอนกรีตธรรมดา ซึ่งถนนภาพในโครงการทั้งหมดเป็นแบบนี้เลย
ทีนี้ตามริมรั้วของกำแพงหน้าบ้านเนี่ยโครงการก็จะลงสนามหน้า พุ่มไม้ และต้นไม้เอาไว้ให้ตลอดตามแนวเส้นถนน เวลามองไปจะเห็นสีเขียวสุดสายตา (ดูจากรูปบนก่อนหน้าได้) และก็มีการติดตั้ง CCTV ตลอดทั้งภายในโครงการ
หน้าตาเจ้าไฟส่องสว่างภายในโครงการ โดยจะใช้แผ่นสะท้อนเป็นจานกลมๆรับแสงจากหลอดไฟและกระจายออก ทำให้แสงสว่างกระจายเป็นวงกว้างมากกว่าเปิดแบบธรรมดา
อีกหนึ่งรายละเอียดเล็กๆที่มีการเก็บงานเรียบร้อยคือส่วนของระบบตู้ไฟต่างๆ ที่พอนำสายไฟลงดินแล้ว ยังทำการจัดการเป็นตู้ปิดมิดชิด พร้อมทั้งยังมีประตูเหล็กโปร่งเซฟตี้อีกชั้นนึง(ใช้โทนสีเดียวกับประตูบ้าน) ทำให้ดูกลมกลืนเข้ากัน
ส่วนของพื้นที่กลับรถ โครงการเค้าทำมาให้เลยนะครับ ไม่ต้องไปกลับรถที่ในบ้านให้เสียเวลาแบบนี้ โดยโครงการแจ้งว่าราวๆทุก 200 เมตรจะมีที่กลับรถให้ทุกจุด / จากมุมนี้ที่ด้านหลัง เราจะเห็นรั้วกำแพงที่เป็นคอนกรีตทึบสูง 2.5 เมตร และต่อตั้วรั้วระแนงไม้ไปอีก ได้ความสูงรวมทั้งหมดประมาณ 4 เมตร ถือว่าสูงทีเดียว
ถนนเมนของโครงการนั้น ช่วงแรกๆที่เราเข้ามาจะมีความกว้างประมาณ 12 เมตร แต่พอเราวิ่งมาหน่อย จะมีส่วนที่ขยายตัวออกไปเป็น 16 เมตร และก็มีเกาะกลางของต้นไม้เพิ่มขึ้นมาแยกเลนเป็นสัดส่วนแบบนี้ ถือว่าเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในโครงการไปในตัวที่หลายๆคนผ่านไปมาก็ต้องเห็นอีกด้วย
ทีนี้จากที่หน้าซุ้มทางเข้าโครงการเราวิ่งมาประมาณ 350 เมตร เราก็จะเจอกับพื้นที่สวนกลางขนาดใหญ่อย่าง “สวนหย่อม” และ “ClubHouse” ที่เชื่อมถึงกัน
ด้วยรูปแปลงของโครงการ เลยมีการจัดวางตำแหน่ง “พื้นที่ส่วนกลาง” ให้เป็นแบบหน้ากว้างยาวเปิดโล่ง 100 เมตร แบบนี้ เห็นชัดๆไปเลย แต่ถ้าใครมาว่ายน้ำไม่ต้องกลัวไม่เป็นส่วนตัวนะ เห็นตำแหน่งที่ต้นไม้เยอะๆไหมครับ นั่นแหละเค้าปลูกล้อมบังเอาไว้ให้
มาดูทางเข้าส่วน ClubHouse กันก่อน ในส่วนทางเดินนอกจากเดินปกติแล้วยังมีส่วนของทางรถเข็นรองรับใช้ขึ้นลงที่บริเวณนี้ได้ด้วย
เข้ามาด้านในแล้วจะเห็นสระว่ายน้ำก่อนเลยทางขวามือ
ทางซื้อมือจะเป็นพื้นที่รองรับให้แก่ลูกบ้านที่มาใช้งานมีทั้งโต๊ะยาว เก้าอี้นั่งเล่น
มีเคาน์เตอร์เล็กๆเป็นพื้นที่สำหรับเตรียมเครื่องดื่มของว่างเบาๆ เวลามาใช้งานที่นี่รวมถึงมีตู้เย็นให้ด้วย
ติดกันด้านข้างจะเป็นส่วนของทางเข้าห้องน้ำ แยกส่วนการใช้งานชายหญิง โดยทางเข้าตกแต่งดูดีใช้ได้
เข้ามาที่ส่วนห้องน้ำชายกันให้ดู ขนาดห้องกลางๆนะครับ เดี๋ยวมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
เริ่มจากฝั่งขวามือ(เวลาข้าห้องมา) จะมีตู้ล็อกเกอร์ก่อน ตรงกลางเป็นโซนอ่างล้างมือ และซ้ายมือเป็นส่วนของสุขภัณฑ์
ส่วนฝั่งซ้ายมือ เข้ามาถึงเลยเจอกับ “สตีมรูม” ที่ขนาดพอได้ประมาณ 2-3 คนเวลาใช้งาน และติดๆกันก็เป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำมาตรฐานครับ
กลับออกมาด้านนอกอีกครั้งส่วนสระว่ายน้ำเป็นแบบน้ำล้น ระบบเกลือ ขนาดสระประมาณ 5 x 15 เมตร ความสำคัญของการใช้งานไม่ต้องกลัวเรื่องการมองเห็นจากภายนอกเพราะมีการปลูกต้นไม้บังเอาไว้ให้ช่วยในเรื่องของความเป็นส่วนตัว
เก้าอี้นอนอาบแดด ที่ถูกวางเอาไว้ข้างๆสระ
ส่วนของสระเด็กที่อยู่ติดกันแยกออกมาทำให้สระเป็นรูปตัว L สระเด็กนั้นขนาดประมาณ 3 x 4 เมตร ลึก 70 ซม.
พื้นที่ Clubhouse ด้านล่างนี้เสมือนเป็นห้องรับรองแขกขนาดใหญ่ไปในตัวอีกด้วย ถ้าใครมีเพื่อนมาหาแต่ว่าไม่สะดวกให้เข้าบ้านเพราะคนอยู่เยอะ ก็สามารถใช้ที่นี่เป็นจุดนัดพบก็ได้เพราะมีที่นั่งรองรับได้อยู่
เดี๋ยวเราไปดูชั้นบนกันต่อ จะเป็นส่วนของ Fitness
ขึ้นมาที่ชั้นบนแล้วครับ Fitness ของที่นี่ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเช่นกัน มีการแบ่งส่วนห้องออกเป็นสองฝั่งตามการใช้งาน
เริ่มจากฝั่งซ้ายที่เป็นโซน Cardio ก่อน เครื่องเล่นหลักต่างๆถูกจัดวางเอาไว้ชิดกับผนังกระจกช่องแสงขนาดใหญ่ ตัวพื้นห้องเป็นกระเบื้องลายไม้ บวกกับผนังรอบๆติดกระจกเงาเพิ่มมิติทางสายตา
ที่สุดปลายทางเดินตัวห้องขยายอีกเล็กน้อย มีพวกบอลบริหาร เสื่อโยคะ ฯลฯ มาให้
เครื่องออกกำลังกาบถูกหันออกไปมองวิวสีเขียวของต้นไม้ด้านนอก และด้านล่างเป็นสระ และเครื่องเล่นเหล่านี้เป็นของรุ่นอย่างดีพอสมควรยี่ห้อ MATRIX ลองไปเซิร์จดูเอานะ
ห้องออกกำลังกายอีกฝั่งนึงจะเป็นส่วนของเครื่องเล่น weight training ทั้งหมด
ลองดูละกันครับว่าใครเคยออกกำลังกายกับเครื่องแบบไหนบ้าง ยิ่งตัวขวาสุดนี่เครื่องใหญ่แบบหลายฟังก์ชั่นมาก
อีก 2 เครื่องที่อยู่ที่ผนังอีกด้าน รวมๆแล้วห้องออกกำลังกายทั้ง 2 ห้อง มีเครื่องออกกำลังกายประมาณ 14 เครื่องขนาดใหญ่
เครื่องนี้ดูอลังการสุดๆ มาแบบหลายออฟชั่นในตัวสายเล่นกล้ามน่าจะชอบนะ
ออกมาจากห้องของ weight training ด้านหลัง จะมีส่วนพื้นที่นั่งเล่นแบบ Outdoor อยู่
โดยส่วนของพื้นที่นั่งเล่นเนี่ยถูกเอาต้นไม้มาบังสายตาจากภายนอกเอาไว้ด้วย เวลามาใช้งานจะได้ความเป็นส่วนตัวและน่านั่งพอสมควร
กลับออกไปนอก Clubhouse และไปดูส่วนของสวนหย่อมกันบ้าง
ทางขวามือเป็นส่วนของศาลานั่งเล่น ที่ถูกวางเอาไว้ใกล้กับสนามหญ้า เครื่องเล่นเด็ก ที่ผู้ปกครองสามารถนั่งเฝ้าได้ในระยะใกล้ชิด
สวนหย่อม สนามเด็กเล่น ลานวิ่งออกกำลังกาย เป็นพื้นที่เดียวกันอยู่แห่งนี้
พื้นที่นั่งเล่นพร้อมชุดโต๊ะ ถูกจัดวางเอาไว้ใกล้แนวรั้วกำแพงที่ขนานไปกับต้นไม้ใหญ่ที่สูงกว่ารั้ว
หน้าตาของอุปกรณ์เครื่องเล่นเด็กที่ดูดีทีเดียว
ทางเดินมีไฟส่องสว่างตลอดทาง และแยกชุดโต๊ะใช้งานไว้หลายจุด
ที่ส่วนปลายทางเดินจะขยายออกเป็นพื้นที่กลางแจ้งเอาไว้สำหรับเป็นลานกิจกรรมให้แก่ลูกบ้าน
มองย้อนกลับไปทาง Clubhouse แทบไม่เห็นตัวอาคารเลย เพราะว่าสวนเป็นแบบหน้ากว้างยาวและลงต้นไม้ไว้เยอะนั่นเอง
ปิดท้ายส่วนโครงการไว้ด้วยภายจากโดรนมุมสูงให้เห็นถึงถนนภายในโครงการอีกครั้ง ที่มีทั้งกว้าง 12- 16 เมตรตามลำดับ, มีจุดกลับรถ และจากมุมนี้จะเห็นว่าตัวบ้านสไตล์ Courtyard ทั้งรูปตัว C, h, H ทั้งสามแบบที่มีมุมช่องแสงหลักอยู่ข้างบ้านส่องผ่านเข้าไปในบ้านนั่นเอง
สิ่งอำนวยความสะดวก
- Clubhouse และพื้นที่รับรองนั่งเล่น
- ล็อกเกอร์รูม, ห้องอาบน้ำ, ห้องสตีม
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5 x 15 ม. สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 ม.
- แบ่งสระเด็กขนาด 3 x 4 ม. ลึก 70 ซม.
- ห้องออกกำลังกาย 2 ห้อง ขนาดปานกลาง แยกสองฝั่ง
- ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 14 เครื่อง (ยี่ห้อ Matrix)
- สวนสาธารณะขนาดใหญ่อยู่ติดกับ Club House
- พื้นที่สีเขียวลงต้นไม้ติดกับถนนภายในโครงการ
- ถนนหลักกว้าง 12 – 16 ม. (แล้วแต่ช่วง)
- จุดกลับรถภายในโครงการทุกๆ 200 เมตร
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- รั้วรอบโครงการสูง 2.5 ม.และรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 1.5 ม.
- Key Card Access ระยะใกล้
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบเหล็กเลื่อนไฟฟ้า
- สัญญาณกันขโมย Magnetic Sensor ทุกหลัง
- เสาไฟฟ้าลงดินทั้งหมดภายในโครงการ
โครงสร้าง
FESPA เป็นบ้านแบบเล็กสุดในโครงการที่มีที่ดินเริ่มต้นราว 55 ตร.วาและพื้น มี 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ แปลนบ้านจะเป็นแบบหน้าแคบและยาวเข้าไป ขนาดประมาณ 12.7 x 13 เมตร ตัวอาคารจะเป็นรูปตัว C หันแนวกยาวเปิดรับแสงหลักๆจากด้านข้าง ชั้น 1 ด้านหน้าเป็นที่จอดรถ จอดได้ 2 คัน มีทางเข้าบ้านอยู่ 2 ตำแหน่ง คือ ตรงทางเข้าจากประตูหน้าบ้านกับเดินผ่านที่จอดรถเข้ามาตรงระเบียงข้างบ้าน
เข้ามาในบ้านฟังก์ชั้นจะไล่ตามทางเดินยาวไปเลยได้แก่ ครัว ห้องน้ำ ห้องเก็บของ ห้องทานอาหาร และห้องนั่งเล่นอยู่ท้ายหลังบ้าน (ส่วนกลางบ้านที่เป็น court จะถูกทำเป็นสวนหย่อมที่ตัวบ้านนั้นโอบล้อมเอาไว้) ขึ้นมาที่ชั้นบนฝั่งหน้าบ้านวางตัวห้องนอนเล็ก 2 ห้องเอาไว้ ตรงกลางบ้านจะเป็น Living Area อีกส่วนนึงที่ขนาบด้วยช่องแสงขนาดใหญ่สองฝั่งมองไปเป็นสวนกลางบ้าน และสุดท้ายห้องนอนใหญ่อยู่ฝั่งหลังบ้านมีฟังก์ชั่นหลักๆครับ ทุกห้องนอนจะมีห้องน้ำในตัวหมด
- 3 BEDROOMS | 4 BATHROOMS | 2 LIVING AREAS | 1 DINING ROOM | 1 KITCHEN AREA | 2 PARKING LOTS
มาดูบ้านตัวอย่างของจริงกับครับ ตัวหน้าตาบ้ารจะเป็นแบบโมเดิร์นที่เน้นวัสดุดูเรียบร้อย โทนสีออกเทาน้ำตาล เพื่อตัดกับสีเขียวของต้นไม้ทั้งหน้าบ้านและในบ้าน
ทางเข้าส่วนของทางเดินเท้ามีหน้าตาประตูแบบนี้ มองเห็นจากด้านในได้เวลาแขกมากดกริ่งเรียก
ส่วนของทางเข้สที่จอดรถ เราจะได้ประตูเหล็กเลื่อนไฟฟ้า พร้อมรีโมทใช้งานเป็นมาตรฐาน
พื้นที่จอดรถถูกปูด้วยกระเบื้องเสมอกับถนนเมนโครงการแบบนี้ได้ความต่อเนื่องเวลาเข้าออกไม่ต้องสะดุดขึ้นลงเนิน อีกทั้งพื้นลานจอดรถจะได้เป็นสแตมป์คอนกรีตที่ดูสวยงามกว่าด้วย จากมุมนี้เราจะเห็นทางเข้าออกของบ้านซึ่งสามารถเข้าได้ 2 ทางคือหน้าบ้านประตูไม้ และข้างบ้านประตูกระจกครับ
ทางด้านข้างบ้านอีกมุมนึง ทางเดินจะเป็นทรายล้างจนไปถึงประตูทางเข้า
ประตูทางเข้าที่ได้เป็นบานไม้จริงแบบนี้ พร้อมไฟส่องสว่างหน้าบ้าน
พอเข้ามาแล้วเราจะเห็นส่วนของทางเดินยางไปจนกลางบ้าน ซึ่งฟังก์ชั่นห้องต่างๆจะไล่ลงไป เรามาเริ่มที่ขวามือสุดได้แก่ห้องครัวกัน
บานประตูปิดมาให้ ทำให้กลายเป็นครัวปิดที่มีช่องแสงผ่านหากันได้ รูปแบบประตูเป็นวงกบอลูมิเนียมขาวบานกระจกใส ดูแข็งแรงดี
ส่วนของห้องครัวมีทางออกไปยังส่วนลานซักล้างด้านหลังบ้าน ทางขวามือเป็นชุดครัวที่เราได้
เคานืเตอร์และ Pantry ครัวที่ทางโครงการจะทำให้ขนาดและวัสดุอุปกรณ์ประมาณนี้ยกเว้นท๊อปที่ของจริงจะไม่ใช้ไม้นะครับ Hob&Hood ได้ของ Franke
ทางออกจากครัวไปลานซักล้าง เห็นช่องชาร์ปที่เอาไว้วางเครื่องซักผ้าไว้ให้
ออกมาเลี้ยวขวากลับไปหน้าบ้านเราจะเห็ที่ทิ้งขยะจากในบ้านได้เลย
ถัดจากห้องครัวก็ไล่มาเลยเป็นห้องน้ำและห้องเก็บของครับ จากมุมนี้เราจะเห็นตัวพื้นกระเบื้องเป็นแกรนิตโต้มาตรฐาน
ภายในห้องน้ำขนาดก็ไม่เล็กจนถึงกับอึดอัดเพราะว่าห้องนี้เป็นแบบ Powder Room ไม่มีฟังก์ชั่นอาบน้ำนั่นเอง ที่ผนังมีการติดกระจกเงาบานใหญ่พร้อมซ่อนไฟไว้ด้านหลัง มีการก่อ Low Wall เป็นชั้นวางของ และด้านบนมีหน้าต่างบานเลื่อนที่เป็นทั้งช่องแสงและระบายอากาศ
ส่วนของห้องเก็บของที่ถึงแม้ว่าตำแหน่งอยูใต้บันไดก็จริง แต่ส่วนทางเดินเข้าเราไม่ต้องก้มหัว เวลาเดินเข้ามาใช้งานได้เลย ถือว่ากว้างอยู่นะ
ออกจากห้องเก็บของมา ขวามือติดกันเป็นบันได และกลางบ้านเราจะเห็นโซนรับประทานอาหาร จากตรงนี้เราจะเริ่มเห็นช่องแสงต่างๆที่ส่องผ่านมาละ
มุมประตูกระจกบานเลื่อนช่องแสง ที่ด้านนอกเป็นสวนหย่อมที่ถูกตัวบ้านรูปตัว C โอบล้อมเอาไว้
พื้นที่ Dining ที่ถูกจัดเอาไว้กลางบ้าน สามารถวางโต๊ะทานอาหารแบบ 6-8 ที่นั่งยังได้
บ้านตัวอย่างจัดเอาไว้ให้ดูถึงการ Built-In Pantry ครัวเปิดเพิ่ม เอาไว้เป็นมุมจัดเตรียมอาหารหรือของว่างได้ที่ตรงนี้ และยังมีประตูทางออกไปเชื่อมกับลานซักล้างที่ผ่านมาแล้ว
ด้านหลังทางเดินจะเชื่อมไปกับส่วนของ Living Area ที่ถูกจัดวางไว้หลังบ้านสุด
Living Area ที่ถูกจัดวางไว้หลังบ้านสุด ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเท่าไหร่ เพราะบ้านทั่วไปมักเอาไว้ด้านหน้าสุด แต่พอมาอยู่ตำแหน่งนี้แล้ว ทำให้มุมนี้ดูกว้าง สงบ อีกทั้งยังมีช่องแสงขนาบทั้งสองฝั่ง และดูขนาดของห้องที่สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่รองรับทั้งสมาชิกและแขกได้เพียงพอแน่ๆ
มุมนี้สามารถทำเป็นที่ดูทีวีได้ ระยะประมาณ 3 เมตรครับ
ทีนี้เดี๋ยวผมขอพาออกไปนอกบ้าน ส่วนที่อาคารโอบล้อมสวนเอาไว้ให้ดูกันหน่อย (บ้านมาตรฐานของจริงก็มีปูหญ้าและจัดสวนให้นะ)
หันไปทางซ้ายมือเป็นส่วนของตำแหน่งที่อยู่ติดกับที่จอดรถหน้าบ้าน
และขวามือเป็นส่วนหลังบ้าน เราจะเห็นพื้นที่กึ่ง Semi Outdoor ที่ทำเป็นมุมพักผ่อน หรือเฉลียงขนาดใหญ่ก็ได้ครับ
มองย้อนกลับเข้าไปที่ตัวอาคารบ้าน จะเห็นถึงรูปทรงตัว C โอบล้อมสวนหย่อมเอาไว้
เดี๋ยวขึ้นไปดูที่ชั้นบนกันบ้าง บันไดนี่มีทั้งไฟส่องสว่างและราวจับมาตรฐาน
ขึ้นมาถึงส่วนชานพัก ออกแบบมาเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส 2 ตอนแบบนี้ ถือว่าทำได้ดีครับเดินได้เต็มเท้า
ขึ้นมาที่ชั้นบนแล้ว พื้นของชันบนนั้นจะเป็นวัสดุกระเบื้องยางลายไม้อย่างดี ที่ทนทานน้ำกว่าลามิเนต ซึ่งโทนสีเรียกว่าใกล้เคียงกับบันไดมาก
การแจกห้องต่างๆ ผมทำลูกศรบอกเอาไว้ให้แล้ว จะเห็นว่าบริเวณโถงกลางบ้านก็เน้นช่องแสงส่องผ่านมาในบ้านเยอะเช่นเดียวกันเหมือนข้างล่าง
ทีนี้เดี๋ยวเราไปดูส่วนของห้องนอนเล็กฝั่งที่อยู่ซ้ายมือ (หน้าบ้าน) กันก่อน เริ่มจากห้องซ้าย
ห้องนอนเล็ก ที่ขนาดไม่เล็กเลย… คือห้องเรียกว่ามีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับมุมทำการใช้งานอื่นๆแล้ว ดูระยะทางเดินซึ่งล้อมรอบเตียงแล้วไม่ติดขัดอะไรเลย แต่ติดเล็กน้อยที่ตำแหน่งหัวเตียงหันไปทางห้องน้ำบางคนอาจจะไม่ชอบ ก็หันเปลี่ยนเอาละกันครับ
ด้านข้างสามารถทเป็นมุมโต๊ะนั่งเล่น ทำงาน อ่านหนังสือ เชื่อมต่อกับตู้โชว์ ตู้เสื้อผ้าได้
ห้องน้ำที่มีสเต็ปลงระดับลงไปเล็กน้อย ฟังก์ชั่นการใชังานส่วนแห้งเปียกแยกเอาไว้เป็นสัดส่วน
วัสดุต่างๆในห้องน้ำยังใช้เป็นของ American Standrad เหมือนกันทั้งบ้านนะครับ แบบนี้มีตู้ใต้อ่างให้ด้วย
ส่วนด้านบนรูปแบบยังคงมีหน้าต่างระบายอากาศและความชื้นให้อยู่
ชุดฝักบัวมาตรฐาน ที่ผนังมีการเซาะร่องทำเป็นชั้นวางไว้ให้เสร็จ และมีการติดตั้งจุดเครื่องทำน้ำอุ่นเอาไว้ให้แล้ว
ห้องนอนเล็กอีกห้องนึง ขนาดก็ใกล้ๆเคียงกับห้องแรกเลย ห้องนี้จะตกแต่งมู๊ดโทนแบบห้องลูกสาวหน่อย ใช้โทนสีสว่าง ก็เลยดูกว้างโปร่งกว่า
ที่ผนังมุมนี้ถ้าเป็นห้องผู้หญิงอาจจะต้องใช้งานพื้นที่เก็บเสื้อผ้าเยอะกว่า ก็ทำเป็น ตู้เสื้อผ้ายาวมาแบบนี้เลยก็ได้
ที่สุดทางเดินจะมีเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ ที่ดีคือตรงนี้มีหน้าต่างช่องแสงมาให้ด้วย
หน้าต่างช่องแสงมามองลงไปเป็นสวน Courtyard กลางบ้าน 😀
ส่วนของห้องน้ำ ห้องนี้จะเหมือนกันกับห้องน้ำก่อนหน้าทุกประการเลย เพียงแค่กลับด้านกันเท่านั้น ผมไม่อธิบายซ้ำนะครับ
มาดู Living Area ที่อยู่กลางบ้านกันบ้าน ทำไมต้องออกแบบให้มี Living ทั้งชั้นล่างและบน เพราะว่าเวลากลางคืนที่ชั้นบนจะเหมือนเป็นพื้นที่ที่หลายขึ้นขึ้นมาเตรียมพักผ่อนอาบน้ำเตรียมนอนกันแล้ว บางทีก็ไม่ต้องลงบันไดไปใช้งานชั้นล่าง หรือใครติดละคร ซีรีย์ ก็แยกกันดูล่างบนก็ได้
ที่ด้านหลังชั้นวางทีวี จะอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้อง Master Bedroom
ห้อง Master Bedroom ทางซ้ายเป็นส่วนของเตียงนอน และขวามือเป็นพื้นที่แต่งตัวอยู่ก่อนทางเข้าห้องน้ำ
ภายในห้องขนาดเรียกว่า กว้างมากกก สมเป็นห้องนอนใหญ่ การจัดวางเฟอร์นิเจอร์เหลือเฟือ
สามารถติดตั้งดูทีวีในห้องที่ผนังปลายเตียงได้โดยพื้นที่ทางเดินยังคงกว้างอยู่
แต่จุดเด่นของห้องนอนใหญ่นี้จริงๆ คือช่องแสงขนาดใหญ่มุมนี้ ที่เป็นทั้งระเบียงในตัวด้วย มองลงไปข้างล่างเป็นสวนหย่อมกลางบ้าน
มองไปอีกฝั่งในห้องเป็นโซนแต่งตัวที่บ้านตัวอย่างกั้นประตูบานเลื่อนให้ดู จะได้เป็นสัดส่วน
โซนแต่งตัวหรือ Walk in closet ก็ถือว่ากว้างพอสมควรเก็บเสื้อผ้าได้เยอะอยู่ครับ แต่เราต้องไป Built-In เองนะ
ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ สิ่งที่ถูกเพิ่มขึ้นมาก็คือขนาด, ช่องแสง และอ่างอาบน้ำครับ
โดยทางซ้ายมือเป็นส่วนของอ่างที่ขยายขนาดเคาน์เตอร์รอบๆมาแ และได้พื้นที่เก็บของเพิ่มมากขึ้น
ส่วนทางขวามือเป็นส่วนพื้นที่อาบน้ำกั้นด้วย ShowerBox และอ่างอาบน้ำอยู่ติดกับหน้าต่างช่องแสง
LIWA เป็นบ้านแบบใหญ่สุดในโครงการที่มีที่ดินเริ่มต้นราว 80 ตร.วาและพื้น มี 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และ 3 ที่จอดรถ ถ้าดูจากรูปทรงอาคารจะมองได้ทั้งตัว I หรือ H ก็ได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการออกแบบให้ตรงกลางมีส่วนเว้า ทำให้แสงสองผ่านเข้ามาในบ้านได้เยอะและเสมือมีสวนอยู่กลางบ้านทั้งสองฝั่ง (ฝั่งที่ใหญ่สามารถทำสระวาสยน้ำได้เลย)
จากส่วนที่จอดรถ เข้ามาในบ้าน จะเจอกับโถงที่มีพื้นที่รับประทานอาหารอยู่กลางบ้าน รับวิวสวยๆทั้งสองฝั่ง ด้านหลังเป็นส่วนของครัว(ปิด) ติดกันเป็นห้องนั่งเล่น ด้านหลังครัวมีทางออกไปลานซักล้างที่จะมีห้องแม่บ้านแยกส่วนออกมามีห้องในตัวทำให้แม่บ้านไม่ต้องมาใช้ในบ้าน ที่ชั้นล่างฝั่งหน้าบ้านมีห้องอเนกประสงค์อยู่ฝั่งหน้าบ้านและมีห้องน้ำในตัว หมายความว่าจะทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุนั่นก็ง่ายเลย ขึ้นมาที่ชั้นบนยังคงเอานอนเล็ก 2 ห้องเอาไว้ฝั่งหน้าบ้าน ตรงกลางบ้านมี Living Area อีกชั้นนึง และห้องนอน Master อยู่ฝั่งหลังบ้านเหมือนกัน
- 4 BEDROOMS | 5 BATHROOMS | 2 LIVING AREAS | 1 FUNCTIONAL SPACE | 1 DINING ROOM |1 KITCHEN AREA | 3 PARKING LOTS | 1 MAID ROOM
หน้าบ้านตัวอย่างแบบ LIWA จะเห็นถึงความกว้างกว่าของประตูบ้าน ซึ่งยังคงเป็นประตูรีโมทไฟฟ้ามาตรฐานเช่นกัน
ในส่วนของที่จอดรถที่สามารถจอดได้ 3 คัน สบายๆ
จุดเฉลียงที่เป็นทั้งเซฟตี้กันในส่วนล้อรถไปในตัวเวลาใครถอยจอด ค่อนข้างกว้างอยู่ครับ ไม่ต้องกลัวชนกำแพงบ้าน
ตรงส่วนนี้ที่เป็นไม้ระแนง ซึ่งด้านในจะเป็น Court กลางบ้านขนาดใหญ่ อย่างในบ้านตัวอย่างเค้าทำสระว่ายน้ำขึ้นมา เจ้าระแนงตัวนี้ช่วยในเรื่องของความเป็นส่วนตัว โดยที่ยังพอให้แสงและลมลอดผ่านเข้ามาได้อยู่
ส่วนของทางเดินเข้าบ้านหลังนี้จะเข้าทางนี้เป็นทางหลักทางเดียวนะ
เข้ามาแล้ว มองย้อนกลับไปทางเข้าเราจะเห็นถึงกระจกเข้ามุมที่ต้องการให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามา ติดกันจะเป็นห้องเก็บของใต้บันได
ห้องโถงใจกลางบ้าน ถูกวางด้วยโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่เอาไว้ ทางซ้ายมือมีห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุได้
ด้วยรูปอาคารที่เป็นตัว I ทำให้เราจะได้พื้นที่ใช้สอยกลางแจ้งขนาบตัวบ้าน และแสงธรรมชาติส่องมาได้เต็มๆทั้งสองฝั่ง
หันไปมองทางฝั่งซ้ายมือ จะเล็กหน่อยแต่ก็พอจัดสวน ทำบ่อปลา ศาลานั่งเล่นได้
ฝั่งขวามือด้านนอก จะเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่กว่าเดี๋ยวออกไปดูกัน
ลานไม้ระแนงส่วนนี้เราได้เป็นมาตรฐานด้วยนะครับ แต่สิ้นสุดไปนอกอาคารจะเป็นสวนสนามหญ้าลงต้นไม้ทั่วไป
บ้านตัวอย่าง นั้นตกแต่งให้ดูว่าสามารถทำสระน้ำได้ จริงๆมันก็เหลือที่ในสระไม่ได้กว้างมากเท่าไหร่ ถ้าใครชอบแช่น้ำ ก็ทำไว้แค่นี้พอ แต่ถ้าใครชอบว่ายน้ำ สามารถทำได้โดยการติด Jet Steam สำหรับออกกำลังกายโดยเฉพาะได้ แค่นี้ก็ว่ายน้ำได้แล้ว แต่ผมว่าไปว่าที่ ClubHouse ก็ได้นะ 😀
ให้มองอีกมุมนึงครับ ในส่วนนี้ถ้าใครไม่ได้คิดจะทำสระ ก็หาไอเดียวการตกแต่งสวนสวยๆมาเตรียมลงได้เลย
ในส่วนของครัวต้องบอกว่า บ้านหลังนี้แต่งไม่เหมือนกับบ้านมาตรฐานที่ของจริงจะให้เป็น “ครัวปิด” มา แต่ตำแหน่งครัวก็จะอยู่ตรงนี้แหละครับ (เดี๋ยวไปดูรูปถัดไป จะเป็นครัวของบ้านมาตรฐาน)
นี่ครับของจริงจะเป็นแบบนี้ ได้ชุดครัวบิวท์อิน และอุปกรณ์ตามนี้ทั้งหมด รวมถึง Hob&Hood แม่เหล็กไฟฟ้า 4 หัวของ Franke ด้านหลังมีทางออกไปลานซักล้าง
ติดกันกับครัว จะเป็นส่วน Living Area ขนาดใหญ่ (ดูจากความยาวของโซฟาสิครับ นั่งกันได้แบบ 4-5 ที่นั่งสบายๆเลย ช่องแสงที่ส่องเข้ามาก็ได้บานใหญ่มองออกไปวิวสระ
ที่เห็นซ้ายมือสุดเป็นส่วนของห้องน้ำชั้นล่างครับ
ห้องน้ำรวมที่ชั้นล่างเป็นแบบ Powder Room ไม่มีฟังก์ชั่นอาบน้ำ
หน้าตาของประตูทางออกไปหลังบ้าน วัสดุดูดีและแข็งแรง เดี๋ยวออกไปดูด้านหลังกัน
ด้านหลังจะเป็นพื้นที่ลานซักล้างครับ มีทางเดินไปห้องแม่บ้านที่เห็นอยู่ (ในห้องแม่บ้านมีห้องน้ำในตัวด้วย) ทำให้แม่บ้านถูกแยกการใช้งานออกเป็นสัดส่วนชัดเจนเลย
ไปดูห้องอเนกประสงค์ที่สามารถทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้บ้าง อยู่ติดกับฝั่งหน้าบ้านและทางขึ้นบันได
ภายในขนาดก็ไม่เล็กนะครับ สามารถวางเตียง 5-6 ได้เลย ถ้าจะจัดเป็นห้องนอน มีห้องน้ำในตัว และช่องแสงเยอะด้วย
ที่ปลายทางเดินก่อนทางเข้าห้องน้ำมีหน้าต่างช่องแสงอีกจุดนึง
ภายในห้องน้ำวัสดุเหมือนกัน ได้ฟังก์ชั่นครบ 3 การใช้งาน
รูปแบบของชานพักบันได้ยังคงเป็นแบบสี่เหลี่ยม ซึ่งเดินได้ง่ายและปลอดภัยกว่าการถูกหั่นเป็นสามเหลี่ยม
ขึ้นมาที่ชั้นบนแล้ว ผมทำบอกเอาไว้ว่าแจกห้องไหนไปทางไหน
มองย้อนกลับไปทางบันได จะเห็นหน้าต่าง Fix ช่องแสงที่ส่องผ่านลงมาด้วย เดี๋ยวเราจะไปดูห้องนอนเล็ก (1) กันก่อน ขึ้นมาอยู่ขวามือ
ห้องนอนเล็ก ที่ขนาดไม่เล็กจริงๆ ดูจากพื้นที่ที่กว้างขวางเหลือเฟือ เป็นแบบหน้ากว้างทำให้ได้แสงส่องผ่านได้เยอะ ทางขวามือสุดเป็นทางเดินเข้าไปยังพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำในตัว
มองไปที่ฝั่งปลายเตียงกันบ้าง สามารถหาชั้นวางแบบยาวตามบ้านตัวอย่างมา เราจะได้พื้นที่ใช้สอยแนวตั้งคุ้มๆหน่อย ส่วนมุมประตูทางขวาสุดสามารถเปิดออกไปได้จะเป็นตำแหน่งหลังคาของที่จอดรถ(ตรงนี้ถ้าเราติดเซฟตี้กันตก สามารถทำเป็นพื้นที่ออกไปเดินเล่น นั่งเล่นแบบ Outdoor ได้นะ)
ตำแหน่งด้านหลังหัวเตียง ที่ถูกจัดพื้นที่เป็นตำแหน่ง Walk in Closet ก่อนทางเข้าห้องน้ำ
ห้องน้ำในตัว มาตรฐานเหมือนกันกับห้องอื่นๆ
ถัดไปเป็นห้องนอนเล็ก(2) ยังอยู่ติดกับฝั่งหน้าบ้านเหมือนกัน แต่ห้องนี้จะมีขนาดเล็กกว่าห้องแรกที่พาไปดูหน่อย แต่ก็มีห้องน้ำในตัวเช่นเดียวกัน
รูปแบบหน้าต่างช่องแสงที่ปลายเตียง จะเห็นพื้นที่คอร์ท(เล็ก)ถ้ามองลงไป
ด้านข้างสามารถ Built-In พวกชุดตู้โชว์ ตู้เก็บของ ตู้เสื้อผ้าได้เต็มพื้นที่ และตำแหน่งห้องน้ำอยู่หลังหัวเตียง
Living Area ขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลางบ้าน ถูกขนาบด้วยช่องแสง Oversize ขนาดใหญ่ทั้งสองฝั่ง เอาไว้ชมวิว นั่งเล่น อ่านหนังสือ หรือเป็นมุมกิจกรรมครอบครัวอีกจุดนึงที่น่าใช้
สุดท้ายส่วนของ Master Bedroom ที่อยู่ฝั่งหลังบ้านทั้งหมด คือเข้ามารู้สึกถึงความกว้าง และโปร่งโล่ง เพราะการเจาะช่องแสงหลายจุดให้ส่องผ่านเข้ามาในห้อง
มุมเตียงนอนที่ปลายเตียงจัดเป็นตู้วางของ วางทีวี แบบยาวต่อเนื่องได้ และไม่เสียพื้นที่ทางเดินยังเดินได้สบายๆอยู่ ตรงกลางรูปประตูกระจกบานเลื่อนนั้นมีระเบียงในตัวอีกด้วย
มองย้อนกลับไปอีกฝั่งหนึ่ง จะเห็นส่วนของ Walk in Closet ที่อยู่ก่อนทางเข้าห้องน้ำ
พื้นที่แต่งตัว หรือ Walk in Closet ที่อยู่ก่อนทางเข้าห้องน้ำ ห้องนี้จัดเป็น His&Her แยกซ้ายขวา คุณผู้ชายคุณผู้หญิงคนละฝั่งได้เลย เพราะมีพื้นที่เพียงพอ
เข้ามาดูในห้องน้ำระยะทางเดินต่างๆกว้างมาก การเดินไฟซ่อนหลังกระจกตามแนวยาว ช่วยเพิ่มส่องสว่างในห้องน้ำได้เป็นอย่างดีและดูน่าใช้งานอีกด้วย
มุมอ่างอาบน้ำ ที่อยู่ติดกับผนัง และช่องแสงเข้ามุมแบบนี้ ไม่ต้องกลัวคนภายนอกมองเห็นด้วย
มองไปอีกฝั่งนึง จะเห็นส่วนฟังก์ชั่นอย่างพื้นที่วางสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำแยกส่วนเปียกด้วย Shower Box โดยห้องน้ำห้องนี้มีจุดหน้าต่างระบายอากาศถึง 2 จุดทีเดียว ทำให้ลมโฟลว์ได้ดีกว่าแน่นอน
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 11 July 2017
- FESPA : 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดิน 55 ตรว. พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. (ราคาเริ่ม 9.89 ลบ.)
- DENFE : 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดิน 65 ตรว. พื้นที่ใช้สอย 215 ตร.ม. (ราคาเริ่ม 12.59 ลบ.)
- LIWA : 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ที่ดิน 80 ตรว. พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม. (ราคาเริ่ม 16.59 ลบ.)
- จอง 50,000 บาท / ทำสัญญา 100,000 บาท
- ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด (สอบถามกับเซลล์ที่หน้างาน)
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตร.วาละ 95,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
Baranee Park ร่มเกล้า ตั้งอยู่ในแถบชานเมืองกรุงเทพ บนถนนร่มเกล้าซึ่งใกล้ย่านอุตสาหกรรมใหญ่ๆ อย่างนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังบนถนนฉลองกรุง สภาพแวดล้อมบนถนนร่มเกล้าส่วนใหญ่ยังมีพื้นที่ว่างเปล่ารอการพัฒนาอยู่พอสมควร มีบริษัทตั้งแต่โฮมออฟฟิศ อาคารพาณิชย์ ไปจนถึงโรงงาน และโครงการพักอาศัยแนวราบอย่างบ้านและทาวน์โฮม ด้วยทำเลของโครงการที่มีความสะดวกในการเดินทางไปสุวรรณภูมิได้ง่ายไม่ไกลมากนัก รวมทั้งใกล้กับย่านอุตสาหกรรมด้วยนั้น จึงเป็นทำเลที่เหมาะกับออฟฟิศที่ทำธุรกิจการค้าที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม หรือการธุรกิจที่ต้องขนส่งสินค้าต่างๆ
สำหรับความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ ในด้านอาหารการกินค่อนข้างหายากในระยะเดิน จำเป็นต้องอาศัยขับรถออกไปกินนะ ซึ่งแหล่งอาหารการกินที่มีอย่างคึกคักหน่อยก็จะอยู่ภายในซอย บนถนนเคหะร่มเกล้าทะลุไปออกที่ซอยมิสทีน ส่วนร้านอาหารบนถนนร่มเกล้าที่เห็นติดถนนเลยมีค่อยมากนัก จะอยู่เป็นจุดๆ ไปอย่างบริเวณตรงแยกตัดกับถนนเจ้าคุณทหาร และบริเวณหน้าโรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ร่มเกล้า ส่วนห้างที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็น Big C ร่มเกล้าใกล้แยกรามคำแหง-ร่มเกล้า เป็นห้างใหญ่ที่อยู่บนถนนเส้นนี้ สามารถไปจับจ่ายซื้อของใช้หลักๆ กันได้ที่นี่
การเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัว ถือเป็นการเดินทางหลักๆ ของโครงการนี้ ค่อนข้างสะดวกพอสมควร เนื่องจากตัดกับถนนค่อนข้างเยอะสามารถเลือกการเดินทางได้หลากหลาย ทั้งการเข้า-ออกเมือง และยังอยู่ไม่ไกลจากมอเตอร์เวย์วิ่งยาวไปเข้าถนนพระรามเก้าถึงเส้นนี้ก็แยกไปได้ทั้งเอกมัย ทองหล่อ อโศก ดินแดง จะไปออกวิภาวดี-ลาดพร้าวก็ได้ หรือจะไปมีนบุรีก็ง่ายจากโครงการก็ใช้ถนนร่มเกล้าวิ่งตรงไปอย่างเดียว จะออกต่างจังหวัดอย่างชลบุรีก็ใช้เส้นมอเตอร์เวย์ได้ และใกล้ถนนกาญจนภิเษกหรือวงแหวนรอบนอก ซึ่งก็เพิ่มความสะดวกในการเดินทางได้มากขึ้น ในส่วนเรื่องจุดกลับรถหน้าโครงการหากใครมาจากมีนบุรี จะมีจุดกลับรถไม่ไกลมากทั้งสองฝั่งเลยประมาณไม่เกิน 2 กม. แต่ถ้าเจอช่วงเวลาเลิกงานจะเจอรถติดหน่อยเพราะแถวนี้เป็นแหล่งงานเยอะ ส่วนถนนมอเตอร์เวย์ก็ติดเป็นช่วงๆ ทำให้ต้องเผื่อเวลาในการเดินทางหน่อยนะ
การเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะ ถือว่าสะดวกระดับนึง เนื่องจากโครงการอยู่ติดริมถนนเลย และมีป้ายรถเมล์อยู่หน้าโครงการ ค่อนข้างสะดวกในการเรียกรถและไม่เปลี่ยว รวมไปถึงบนถนนร่มเกล้าจะมีทั้งรถตู้ รถสองแถว นอกเหนือจากรถเมล์ให้บริการ ส่วนรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็น Airport Rail Link สถานีลาดกระบัง ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 4 กม. ต้องนั่งรถต่อนึงไปขึ้นรถไฟฟ้าได้ ส่วนในอนาคตจะมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีมีนบุรีตรงบริเวณซอยรามคำแหง 192 โดยจะห่างจากโครงการไปประมาณ 6 ม. และสถานีนี้เป็นสถานี interchange ที่เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม รวมทั้งมีจุดจอดรถแล้วจร จอดได้ประมาณ 2,000 คัน สามารถขับรถไปจอดแล้วเข้าเมืองได้ไม่ยากครับ ซึ่งก็ต้องอดใจรอกันต่อไป โดยกำหนดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563 แต่ก็คงจะยืดออกไปอีกหลายปีพอสมควร
วัสดุโครงการนี้ถือว่า ให้มาดีสมกับราคาบ้านอยู่ วงกบอลูมิเนียมสีขาวเงาเป็นส่วนใหญ่ โคมไฟดาวน์ไลท์ พื้นกระเบื้องแกรนิตโต้และชั้นบนหรือห้องนอนเป็นลิเนียม(กระเบื้องยางลายไม้) ชุดครัวปิดที่ได้มาเสร็จสรรพวัสดุ Hob&Hood ของ Franke, ประตูรั้วรีโมทอัตโนมัติ, พื้นสแตมป์คอนกรีตที่จอดรถ, สัญญาณกันขโมยเซ็นเซอร์ทุกหลัง และในห้องนอนได้ของ American Standard โดยรวมถือว่าคุ้มกับราคาที่จ่าย
แบบบ้านของที่นี่ต้องบอกก่อนเลยว่า การออกแบบสไตล์ COURTYARD ที่มีรูปแบบความเป็น Unqiue ในตัวสูงไม่เหมือนกับใคร ถ้าใครที่เป็นคนชอบช่องแสงในบ้านเยอะๆ เห็นแล้วน่าจะชอบเลยล่ะ แต่ถ้าเป็นคน Genก่อนที่ยังยึดติดกับรูปแบบบ้านสมัยเก่า เห็นแล้วอาจจะงงนิดหน่อย เพราะตำแหน่งการออกแบบให้ช่องแสงและการใช้งานนอกบ้านหลักๆอยู่ด้านข้างแบบนี้ แต่โดยส่วนตัวผมชอบการออกแบบช่องแสงของบ้านมาก แต่ที่คนไทยอาจยังไม่คุ้นชินคงจะเป็นเรื่องของตำแหน่งครัวที่มาอยู่ด้านหน้าบ้านมากกว่า(บ้านหลังเล็ก) สุดท้ายส่วนของฟังก์ชั่นการใช้สอยครบถ้วน เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยได้ 3-6 คน เหมาะกับครอบครัวขนาดกลางครับ
สาธารณูปโภคของที่นี่มี ถือว่าให้มาเยอะนะถ้าเทียบกับราคาค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือน เริ่มจากถนนเมนก่อนเลยความกว้าง 12-16 เมตรและเป็นแอสฟัลท์ (asphalt)ลาดยางทั้งหมด, สายไฟทั้งหมดมีการลงใต้ดินดูสวยงามเรียบร้อย, ClubHouse อยู่ติดกับสวนหย่อมเป็นแบบหน้ากว้างพื้นที่ยาว 100 เมตรได้ น่าใช้งานมากมีทั้ง สระว่ายน้ำ, แยกสระเด็ก, พื้นที่นั่งเล่น, สตีมรูม, ห้องออกกำลังกายสองห้องแยกการใช้งาน, ลานเด็กเล่น, ศาลา, สวนหย่อม
ระบบความปลอดภัยของโครงการนี้ ระบบการเข้าออกใช้เป็น Access Card ระยะใกล้ แตะเพื่อให้รั้วเหล็กเลื่อนไฟฟ้าเปิดออก, CCTV เนี่ยเยอะมากตั้งแต่ทางเข้าจนถึงถนนภายในโครงการ, รั้วรอบโครงการเป็นแบบสูง 2.5+1.5 เมตร, ประตูหน้าบ้านก็เป็นรีโมทไฟฟ้าอีกส่วน ถือว่าสูงทีเดียว และสุดท้ายภายในบ้านได้สัญญาณกันขโมย Sensor ทุกหลังมาตรฐาน โดยรวมถือว่ามีความปลอดภัยที่ดีเลย
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 10-17 ล้านบาท, 11 July 2017
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.25/10 – ติดถนนใหญ่ ไม่ค่อยมีแหล่งอาหารการกินในระยะใกล้,ใกล้มอเตอร์เวย์,นิคมฯ และสนามบิน
- ความปลอดภัย 8.5/10 – รั้วเลื่อนไฟฟ้า, รปภ., CCTV ทั้งโครงการ, รั้วกำแพง 4 เมตร, สัญญาณกันขโมยทุกหลัง
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – คอนเซปท์ Courtyard ชัดเจน ถ้าใครชอบช่องแสงเยอะๆก็โอเค, ฟังก์ชั่นครบขนาด 3-6 คน
- วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – ออกแบบ Landscape ได้ดี มีต้นไม้ที่ริมถนนและสวนหย่อมเยอะ
- สาธารณูปโภค 9/10 – สายไฟลงใต้ดิน, ClubHouse, สระว่ายน้ำ, แยกสระเด็ก, พื้นที่นั่งเล่น, สตีมรูม, Fitness, ลานเด็กเล่น, สวนหย่อม
- 7.9 / 10.00
BOTTOM LINE
Baranee Park ร่มเกล้า เหมาะสำหรับคนที่ทำงานอยู่ในย่าน “ร่มเกล้า-นิคมฯ-สุวรรณภูมิ” หรือเป็นผู้ประกอบการณ์ะธุรกิจในย่านนี้ เพราะใช้รถยนต์เดินทางไปมาได้สะดวก เป็นครอบครัวขนาดกลาง 3-6 คน ชอบบ้านที่มีความเป็นเอกลักษณ์ในตัวสูง เน้นช่องแสง มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้ ที่น่าใช้ หลากหลายจบในตัวโครงการ และมีความปลอดภัยในโครงการระดับนึง งบประมาณอยู่ที่ 10-17 ล้านบาท