รีวิวฉบับที่ 1388 … Baranee Park ร่มเกล้า จาก บริษัท มานะพัฒนาการ เป็นโครงการที่มีคอนเซปต์การออกแบบสไตล์ COURTYARD ที่มีรูปแบบความเป็น Unqiue ในตัวสูงไม่เหมือนกับใครเพื่อนบ้านในย่านร่มเกล้าเลยก็ว่าได้ เพราะการออกแบบตัวบ้านที่เน้นช่องแสงที่ส่องผ่านเข้าทางข้างบ้านเป็นหลัก อีกทั้งยังมีส่วนกลางที่ให้มาจัดหนักจัดเต็ม ตัวโครงการอยู่ติดถนนร่มเกล้าถือว่าอยู่ใกล้แหล่งนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังด้วย

Fact @ 11 July 2017

  • Baranee Park Romklao (บารานีพาร์ค ร่มเกล้า)
  • บริษัท มานะพัฒนาการ จํากัด
  • UPPER – HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : ติดถนนร่มเกล้า เขตลาดกระบัง
  • เนื้อที่โครงการ 22-2-01 ไร่,  จำนวน 86 ยูนิต
  • FESPA : 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดิน 55 ตรว. พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. (ราคาเริ่ม 9.89 ลบ.)
  • DENFE : 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดิน 65 ตรว. พื้นที่ใช้สอย 215 ตร.ม. (ราคาเริ่ม 12.59 ลบ.)
  • LIWA : 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ที่ดิน 80 ตรว. พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม. (ราคาเริ่ม 16.59 ลบ.)
  • เพดานชั้น 1 สูง n/a เมตร, ชั้น 2 สูง n/a เมตร
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละประมาณ 95,000 บาท
  • ปัจจุบันสร้างแล้วเสร็จทั้งโครงการ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 02-737-7266 ถึง 8, 086-339-9982

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.758396, 100.745992

แผนที่จากทางโครงการครับ แผนที่โครงการ Baranee Park ร่มเกล้า ตั้งอยู่บนถนนร่มเกล้าฝั่งขาเข้าไปทางแยกรามคำแหง-ร่มเกล้า ซึ่งตัวโครงการจะอยู่ห่างจากแยกตัดใหม่ (กรุงเทพกรีฑาร่มเกล้า-เจ้าคุณทหาร) จากแผนที่แสดงให้เห็นสถานที่สำคัญอย่าง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังครับ

ถนนร่มเกล้า หรือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3119 เดิมมีชื่อว่า “ถนนมีนบุรี–ลาดกระบัง” มีระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร มีจุดเริ่มต้นจากถนนสุวินทวงศ์ ไปบรรจบกับ ถนนลาดกระบัง ซึ่งจุดสิ้นสุดของถนนร่มเกล้าฝั่งทางใต้จะเป็นทางยกระดับเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ แต่เดิมถนนเส้นนี้มีเพียง 2 ช่องทางจราจร แต่ในปัจจุบันเป็นถนนแบบ 4-6 ช่องทางจราจร เนื่องจากการพัฒนาของนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังที่มีบทบาทด้านแหล่งงาน ทำให้ปัจจัยอย่างที่อยู่อาศัย, ออฟฟิศ, การพัฒนาร้านค้าพื้นฐานตามมาใกล้กับนิคมฯ ถึงแม้วันนี้ยังไม่ได้หนาแน่นมากแต่ “ย่านร่มเกล้า” ในอนาคตคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นแน่นอน

ที่ตั้งโครงการตั้งอยู่บนถนนร่มเกล้าในโซนที่ใกล้กับย่านอุตสาหกรรมใหญ่อย่างนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังที่อยู่บนถนนฉลองกรุง สภาพบรรยากาศบนถนนร่มเกล้านี้จะไม่ค่อยมีอะไรมากนักเนื่องจากอยู่ในย่านชานเมือง ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการพักอาศัยแนวราบทั้งบ้าน, ทาวน์โฮม, อาคารพาณิชย์บ้าง ร้านอาหารบ้างประปรายบริเวณริมถนน และจะคึกคักหน่อยบริเวณแยกรามคำแหง-ร่มเกล้า ซึ่งจะมี Big C  เป็น Hyper Market ที่ใกล้และใหญ่ในละแวกนี้ ในส่วนของ ถนนร่มเกล้า เป็นถนนที่เริ่มต้นจากถนนเสรีไทยยาวลงมาจนตัดกับถนน เจ้าคุณทหารซึ่งเป็นเส้นทางไปนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ถัดมาจะตัดถนนมอเตอร์เวย์และลาดกระบัง สุดทางจะเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิและไปถนนกิ่งแก้วได้ ซึ่งในอนาคตจะมีการตัดถนนกรุงเทพกรีฑาใหม่ โดยเริ่มจากบริเวณกรุงเทพกรีฑาสปอร์ตคลับ ยาวมาจนถึงการเคหะร่มเกล้าเลยครับ สามารถตัดไปออกถนนศรีนครินทร์ได้ ทำให้มีทางลัดเลาะเข้าเมืองชั้นในมากขึ้น

การเดินทางโดยใช้รถยนต์ถือเป็นการเดินทางหลักๆ ของโครงการนี้ สามารถเดินทางเข้า – ออกเมืองได้ค่อนข้างสะดวก สำหรับการเข้าเมืองสามารถขึ้นมอเตอร์เวย์ไปพระราม 9 หรือจะเข้าถนนลาดกระบังไปทะลุออกถนนอ่อนนุชเพื่อเข้าไปยังถนนสุขุมวิทชั้นใน รวมทั้งลัดไปออกถนนรามคำแหงโดยเข้าถนนเคหะร่มเกล้าไปทะลุออกถนนราษฎร์พัฒนาหรือที่รู้จักกันในชื่อ ซอยมิสทีน ส่วนออกนอกเมืองก็สามารถขึ้นมอเตอร์เวย์ออกไปทางฉะเชิงเทรา บางประกงได้เช่นกัน

ส่วนการเดินทางโดยพึ่งพิงระบบสาธารณะนั้นบนถนนเส้นนี้ก็ถือว่าสะดวกระดับนึง เพราะด้วยตัวโครงการที่อยู่ติดถนนใหญ่ไม่เปลี่ยว มีป้ายรถเมล์ให้ยืนคอยได้บริเวณหน้าโครงการ และนอกจากจะมีรถเมล์แล้วยังมีรถสองแถว รถตู้คอยบริการอยู่ตลอด ส่วนเรื่องของระบบรางที่ใกล้ที่สุดคือ Airport Rail Link ลาดกระบัง โดยมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 4.5 กม. แต่ในอนาคตก็จะมีทางเลือกให้มากขึ้นหน่อยสำหรับระบบรางโดยจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู โดยสถานีที่อยู่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีมีนบุรี บริเวณซอยรามคำแหง 192 ห่างจากโครงการประมาณ 6.2 ม. โดยสถานีนี้มีจุดจอดแล้วจร (Park and Ride) ซึ่งสามารถจอดรถได้ประมาณ 2,000 คัน รวมไปถึง Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีส้มอีกด้วย ซึ่งใครที่จะเดินทางเข้าเมืองก็สามารถขับรถออกจากโครงการไปจอดแล้วขึ้นรถไฟฟ้าไปได้เลย ซึ่งกำหนดการที่คาดว่าจะแล้วเสร็จจะอยู่ในปี 2563

จุดขึ้น-ลงวงแหวนรอบนอกนั้นจะอยู่บริเวณจุดตัดกับมอเตอร์เวย์ ซึ่งห่างจากโครงการไปประมาณ 7-8 กม. สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทางคือจากถนนพัฒนาชนบทที่มีระยะทางสั้นหน่อยประมาณ 7.6 ม. และจากถนนหลักคือถนนร่มเกล้าไปตัดเข้าเลียบมอเตอร์เวย์ระยะทางประมาณ 8 กม

(รูปซ้าย) จุดขึ้น-ลงมอเตอร์เวย์อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 3.5 กม. ตรงบริเวณจุดตัดกับถนนร่มเกล้าเลย

(รูปขวา) สำหรับใครที่ทำการค้าอย่าง Import & Export หรือต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ ก็ถือว่าสะดวกในการเดินทางเลย เพราะตัวโครงการอยู่ไม่ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิมากนักประมาณ 6-7 กม. (ในช่วงเวลาที่รถไม่ติด google คำนวนไว้ประมาณ 7-10 นาทีเอง)

สำหรับการเข้าถึงโครงการ หากใครที่มาจากทางถนนรามคำแหงทะลุมาทางถนนเคหะร่มเกล้า หรือตรงมาจากมีนบุรีจะต้องกลับรถไกลหน่อย  โดยจุดกลับรถจะอยู่บริเวณโรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ร่มเกล้า ห่างจากโครงการประมาณ 1.1 กม.ครับ / ส่วนจุดกลับรถอีกจุดเพื่อกลับไปทางทางสุวรรณภูมิพอออกจากโครงการมุ่งหน้าไปประมาณ 1.4 กม. บริเวณซอยร่มเกล้า 19 (ซอยเทพนิมิตร)

ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์บนถนนร่มเกล้า ในเรื่องของอาหารการกินถือว่ามีไม่ค่อยมากนักในระยะเดิน จำเป็นต้องอาศัยขับรถออกไปกินในช่วงกลางวัน ซึ่งส่วนใหญ่ร้านอาหารบนถนนเส้นนี้จะเป็นเต้นท์ หรือตึกแถวที่เปิดบ้างเป็นจุดๆ ไม่ได้กระจุกตัวหรืออยู่ตลอดฝั่งแนวถนน ซึ่งจะพอมีร้านอาหารให้เห็นคึกคักหน่อยบริเวณโรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ ร่มเกล้า และจุดตัดกับถนนเจ้าคุณทหาร หรือจะเข้าไปบนถนนเคหะร่มเกล้าเลยไปจนถึงซอยมิสทีนซึ่งเป็นชุมชนในซอยขนาดใหญ่ก็จะมีร้านอาหาร คอมมูนิตี้มอลล์เล็กๆ และตลาดให้เลือกกินเลือกซื้อหลากหลายดี สำหรับห้างบนถนนเส้นนี้ก็จะอยู่บริเวณจุดตัดกับถนนรามคำแหง อย่าง Big C ร่มเกล้าไปเลยครับ ถือเป็นแหล่งจับจ่ายซื้อของหลักของคนในย่านนี้เลย หรือจะเข้ามาทางรามคำแหงอีกหน่อยก็จะมี HomePro และ Tesco Lotus ที่อยู่ไม่ไกลมากนัก ส่วนสถานศึกษาบนถนนเส้นนี้ก็มีโรงเรียนดังๆ ในย่านนี้อย่าง โรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ ร่มเกล้า, โรงเรียนเทพศิรินทร์ ร่มเกล้า และมหาวิทยาลัยอย่างมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตร่มเกล้า

บริบทรอบๆโครงการในคราวนี้มามองจากภาพมุมสูงของโดรนกันดีกว่าเห็นของจริงจะเข้าใจได้ง่ายกว่า Google Maps โดยส่วนใหญ่จะเป็นโครงการแนวราบ และมีพื้นที่พาณิชย์อย่างอาคารพาณิชย์ โชว์รูมรถ ร้านขายวัสดุ อู่รถยนต์ และปั๊มน้ำมัน พื้นที่ที่ติดกับโครงการฝั่งทิศใต้(ซ้ายมือ)ยังเป็นที่ดินว่างเปล่าอยู่ ส่วนของฝั่งทิศเหนือ(ขวามือ) นั่นเป็นโครงการที่มาตั้งนานแล้วอย่างพาราไดซ์เทอเรสที่มีทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ถือว่าช่วยเป็นหูเป็นตาให่แก่กันไปอีกด้วย

  • ทิศเหนือ ติดกับหมู่บ้านพาราไดซ์เทอเรสขนานควบคู่ไปกับเรา
  • ทิศตะวันออก ติดกับถนนร่มเกล้า
  • ทิศใต้ ติดกับที่ดินว่างเปล่าที่ยังไม่ได้มีการพัฒนา
  • ทิศตะวันตก ติดกับคลองเล็กๆ (คลองสองต้นนุ่น)

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น (นับจากโครงการไปสถานที่นั้น)

  • โรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ ร่มเกล้า ~ 4.1 กม.
  • ตลาดสดเกรียงไกร ~ 4.7 กม.
  • Big C Market เคหะร่มเกล้า ~ 5.2 กม.
  • มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขตร่มเกล้า ~ 5.3 กม.
  • โรงเรียนเทพศิรินทร์ ร่มเกล้า ~ 5.6 กม.
  • Big C ร่มเกล้า ~ 6 กม.
  • วัดลาดกระบัง ~ 7.6 กม.
  • ตลาดมีนบุรี ~ 8 กม.
  • นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ~ 11 กม.
  • HomePro & Tesco Lotus ~ 11.5 กม.
  • สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ~ 11.6 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

มาดูที่ผังโครงการกัน ที่ดินทั้งหมดของโครงการมีขนาดประมาณ 22 ไร่ครึ่ง ลักษณะโครงการเป็นแบบหน้าแคบลึกลงไปเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว โดยมีทางเข้า-ออกหลักเพียงทางเดียวคือ ด้านที่ติดกับถนนร่มเกล้าจากนั้นเป็นถนนหลักตรงยาวไปจนสุดที่ดิน ความกว้างของถนนกว้างประมาณ 12-16 ม. จะมีบางช่วงของถนนที่มีเกาะกลางเข้าสลับเข้ามา อีกทั้งโครงการยังมีที่กลับรถทุกๆ 200 เมตร ตัวถนนโครงการนั้นนอกสิ่งแรกที่ประทับอย่างนำสายไฟทั้งหมดลงดินแล้วยังลาดพื้นแบบแอสฟัลท์ (asphalt) หรือง่ายๆเรียกว่าลาดยางมะตอยทั้งโครงการด้วย

ความปลอดภัยในโครงการเริ่มจากทางเข้าออกหลักจะมีรปภ.ที่ซุ้ม ลูกบ้านใช้ Keycard Access แตะเพื่อเปิดรั้วเหล็กเลื่อนไฟฟ้าออก, CCTV เนี่ยมีตั้งแต่ทางเข้าจนไปถึงถนนด้านในทั้งหมดเกือบทุกจุด, รั้วรอบโครงการเป็นคอนกรีตทึบ 2.5 เมตรบวกกับรั้วไม้ระแนงต่อเพิ่มอีก 1.5 เมตร

สำหรับการหันทิศทางของบ้านในโครงการทั้งหมดจะหันไปในฝั่งทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งเป็นทิศที่เหมาะสมกับการวางหันหน้าอาคารครับ ข้อดีของทิศเหนือคือเรื่องของแดดที่จะได้แดดอ่อนๆ ในตอนเช้าทางหน้าบ้าน ส่วนทิศใต้จะเด่นในเรื่องของทิศทางลมที่พัดผ่านเข้าบริเวณหน้าบ้านได้ดี

พื้นที่สีเขียวและพื้นที่ส่วนกลาง ในส่วนของต้นไม้ที่โครงการจะลงไว้ให้ที่เกาะฟุตบาทของถนนเมน ยาววววววววตลอดทั้งแนว อีกทั้งยังมีต้นไม้ที่เกาะกลางและสุดท้ายที่สวนหย่อมบริเวณกลางโครงการ และยังอยู่ติดกับ ClubHouse สโมรสรภายในโครงการที่มีมาให้ทั้ง Lounge, Swimming Pool (แยกสระเด็ก), ห้องสตีม, ห้องออกกำลังกายแยกสองส่วนคาร์ดิโอกับเวทเทรนนิ่ง การตั้งพื้นที่ส่วนกลางเป็นแบบหน้ากว้างยาวแบบนี้ทำให้ลูกบ้านที่ผ่านไปมาจะรู้สึกว่ามันว่ามีความกว้างใหญ่ สวยและน่าใช้งาน อีกทั้งยังคุ้มค่ากับค่าส่วนกลางที่คิด 50 บาท/ตร.วาด้วย

มาเริ่มที่ด้านหน้าโครงการที่ติดกับถนนร่มเกล้า เราเลี้ยวมาจะเจอกับวงเวียนที่ล้อมต้นไม้ใหญ่ เป็น Drop Area ไปในตัว

โดยทางซ้ายมือสุดจะเป็นส่วนของทางเดินแยกออกมาอยู่ภายใต้ Stucture เหล็กหลังคาที่เชื่อมต่อไปยังซุ้มโครงการ

ในส่วนทางเดินเท้าเข้าออกก็มิดชิดนะครับ ไม่ใช่ใครเดินมั่วเข้ามาได้ ต้อง Access ด้วย Keycard ลูกบ้านทุกครั้งถึงแม้จะเป็นแม่บ้านหลังไหนก็ตาม

ก่อนจะเข้าไปในโครงการ หันไปมองฝั่งตรงข้ามกันบ้าง ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Sale Gallery Office

Sale Gallery Office ที่ตรงส่วนนี้ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ดินส่วนกลางของโครงการนะครับ แต่ว่าทางโครงการเค้าแจ้งมาว่าอนาคตถ้าปิดการขาย “อาจจะ” เป็น Retail ร้านค้า, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ (ยังไม่คอนเฟิร์ม) ให้แก่ลูกบ้านและคนภายนอกอาจจะมาใช้ได้ด้วย

การตกแต่งใช้ในส่วนของโครงสร้างเหล็กพ่นสีออกครีมน้ำตาลโดยหน้าบานทั้งหมดจะเป็นกระจกใส ทำให้ได้มุมมองแสงธรรมชาตแบบเปิดโล่ง

ด้านในก็จะมีเคาน์เตอร์และที่นั่งเซอร์วิสรองรับครับ

โดยจุดที่เด่นสะดุดตาก็คือเจ้าโมเดลจำลองบ้านทั้ง 3 แบบ ภายในโครงการที่ตั้งอยู่ตรงนี้นั่นเอง

Image 1/3
Model บ้านหลังเล็ก FESPA

Model บ้านหลังเล็ก FESPA

ซึ่งทางขวามือสุด จะเป็นส่วนของบ้านหลังเล็กสุด FESPA ที่มี 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.

Image 1/4
Model บ้านหลังกลาง DENFE

Model บ้านหลังกลาง DENFE

ส่วนตรงกลาง จะเป็นของบ้านขนาดกลางที่ชื่อว่า DENFE ที่มี 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 215 ตร.ม.

Image 1/4
Model บ้านหลังใหญ่สุด LIWA

Model บ้านหลังใหญ่สุด LIWA

และสุดท้าย ซ้ายมือสุดเป็นของบ้านขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า LIWA ที่มี 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม.

กลับออกมาด้านนอกอีกครั้งนึง ทีนี้ผมจะพาไปดูส่วนด้านในโครงการของจริงกันบ้าง โดยเริ่มจากที่ซุ้มทางเข้าออกโครงการ โดยมีส่วนโครงสร้าง Stucture ที่หลังคาเชื่อมต่อมาจากส่วนทางเดิน เป็นแนวสถาปัตยกรรมตกแต่งสีจะเป็นออกน้ำตาลอ่อนดูตัดกับสีเขียวของต้นไม้ได้เด่นดี ใช้บังแดดได้ส่วนนึงนะ แต่ถ้าฝนตกมาคงจะช่วยไม่ได้สักเท่าไร

ซุ้มรปภ.ที่ตั้งอยู่ตรงกลางจะมีรปภ.ประจำ 1-2 นาย ตลอด 24 ชม. โดยการเข้าออกจะต้องใช้ Keycard Access แตะเพื่อผ่านตัวรั้วเหล็กเลื่อนไฟฟ้า และมี CCTV ส่องอยู่ที่จุดนี้ด้วย

พอเข้ามาในรั้วโครงการแล้ว สิ่งแรกที่เห็นและประทับใจก่อนเลยคือ 1.เสาไฟฟ้าลงดิน (ช่วยเพิ่มความสวยงามต่อสายตาเอาไป 10 ดาว เรียบร้อยสบายจริงๆ) 2. ถนนโครงการ ที่ใช้แบบแอสฟัลท์ (asphalt) หรือง่ายๆเรียกว่าลาดยางมะตอยนั่นเอง เพื่อให้มีความแข็งแรงและไร้ฝุ่น ดูดีกว่าคอนกรีตธรรมดา ซึ่งถนนภาพในโครงการทั้งหมดเป็นแบบนี้เลย

ทีนี้ตามริมรั้วของกำแพงหน้าบ้านเนี่ยโครงการก็จะลงสนามหน้า พุ่มไม้ และต้นไม้เอาไว้ให้ตลอดตามแนวเส้นถนน เวลามองไปจะเห็นสีเขียวสุดสายตา (ดูจากรูปบนก่อนหน้าได้) และก็มีการติดตั้ง CCTV ตลอดทั้งภายในโครงการ

หน้าตาเจ้าไฟส่องสว่างภายในโครงการ โดยจะใช้แผ่นสะท้อนเป็นจานกลมๆรับแสงจากหลอดไฟและกระจายออก ทำให้แสงสว่างกระจายเป็นวงกว้างมากกว่าเปิดแบบธรรมดา

อีกหนึ่งรายละเอียดเล็กๆที่มีการเก็บงานเรียบร้อยคือส่วนของระบบตู้ไฟต่างๆ ที่พอนำสายไฟลงดินแล้ว ยังทำการจัดการเป็นตู้ปิดมิดชิด พร้อมทั้งยังมีประตูเหล็กโปร่งเซฟตี้อีกชั้นนึง(ใช้โทนสีเดียวกับประตูบ้าน) ทำให้ดูกลมกลืนเข้ากัน

ส่วนของพื้นที่กลับรถ โครงการเค้าทำมาให้เลยนะครับ ไม่ต้องไปกลับรถที่ในบ้านให้เสียเวลาแบบนี้ โดยโครงการแจ้งว่าราวๆทุก 200 เมตรจะมีที่กลับรถให้ทุกจุด / จากมุมนี้ที่ด้านหลัง เราจะเห็นรั้วกำแพงที่เป็นคอนกรีตทึบสูง 2.5 เมตร และต่อตั้วรั้วระแนงไม้ไปอีก ได้ความสูงรวมทั้งหมดประมาณ 4 เมตร ถือว่าสูงทีเดียว

ถนนเมนของโครงการนั้น ช่วงแรกๆที่เราเข้ามาจะมีความกว้างประมาณ 12 เมตร แต่พอเราวิ่งมาหน่อย จะมีส่วนที่ขยายตัวออกไปเป็น 16 เมตร และก็มีเกาะกลางของต้นไม้เพิ่มขึ้นมาแยกเลนเป็นสัดส่วนแบบนี้ ถือว่าเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในโครงการไปในตัวที่หลายๆคนผ่านไปมาก็ต้องเห็นอีกด้วย

ทีนี้จากที่หน้าซุ้มทางเข้าโครงการเราวิ่งมาประมาณ 350 เมตร เราก็จะเจอกับพื้นที่สวนกลางขนาดใหญ่อย่าง “สวนหย่อม” และ “ClubHouse” ที่เชื่อมถึงกัน

ด้วยรูปแปลงของโครงการ เลยมีการจัดวางตำแหน่ง “พื้นที่ส่วนกลาง” ให้เป็นแบบหน้ากว้างยาวเปิดโล่ง 100 เมตร แบบนี้ เห็นชัดๆไปเลย แต่ถ้าใครมาว่ายน้ำไม่ต้องกลัวไม่เป็นส่วนตัวนะ เห็นตำแหน่งที่ต้นไม้เยอะๆไหมครับ นั่นแหละเค้าปลูกล้อมบังเอาไว้ให้

มาดูทางเข้าส่วน ClubHouse กันก่อน ในส่วนทางเดินนอกจากเดินปกติแล้วยังมีส่วนของทางรถเข็นรองรับใช้ขึ้นลงที่บริเวณนี้ได้ด้วย

เข้ามาด้านในแล้วจะเห็นสระว่ายน้ำก่อนเลยทางขวามือ

ทางซื้อมือจะเป็นพื้นที่รองรับให้แก่ลูกบ้านที่มาใช้งานมีทั้งโต๊ะยาว เก้าอี้นั่งเล่น

มีเคาน์เตอร์เล็กๆเป็นพื้นที่สำหรับเตรียมเครื่องดื่มของว่างเบาๆ เวลามาใช้งานที่นี่รวมถึงมีตู้เย็นให้ด้วย

ติดกันด้านข้างจะเป็นส่วนของทางเข้าห้องน้ำ แยกส่วนการใช้งานชายหญิง โดยทางเข้าตกแต่งดูดีใช้ได้

เข้ามาที่ส่วนห้องน้ำชายกันให้ดู ขนาดห้องกลางๆนะครับ เดี๋ยวมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

เริ่มจากฝั่งขวามือ(เวลาข้าห้องมา) จะมีตู้ล็อกเกอร์ก่อน ตรงกลางเป็นโซนอ่างล้างมือ และซ้ายมือเป็นส่วนของสุขภัณฑ์

ส่วนฝั่งซ้ายมือ เข้ามาถึงเลยเจอกับ “สตีมรูม” ที่ขนาดพอได้ประมาณ 2-3 คนเวลาใช้งาน และติดๆกันก็เป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำมาตรฐานครับ

กลับออกมาด้านนอกอีกครั้งส่วนสระว่ายน้ำเป็นแบบน้ำล้น ระบบเกลือ ขนาดสระประมาณ 5 x 15 เมตร ความสำคัญของการใช้งานไม่ต้องกลัวเรื่องการมองเห็นจากภายนอกเพราะมีการปลูกต้นไม้บังเอาไว้ให้ช่วยในเรื่องของความเป็นส่วนตัว

เก้าอี้นอนอาบแดด ที่ถูกวางเอาไว้ข้างๆสระ

ส่วนของสระเด็กที่อยู่ติดกันแยกออกมาทำให้สระเป็นรูปตัว L สระเด็กนั้นขนาดประมาณ 3 x 4 เมตร ลึก 70 ซม.

พื้นที่ Clubhouse ด้านล่างนี้เสมือนเป็นห้องรับรองแขกขนาดใหญ่ไปในตัวอีกด้วย ถ้าใครมีเพื่อนมาหาแต่ว่าไม่สะดวกให้เข้าบ้านเพราะคนอยู่เยอะ ก็สามารถใช้ที่นี่เป็นจุดนัดพบก็ได้เพราะมีที่นั่งรองรับได้อยู่

เดี๋ยวเราไปดูชั้นบนกันต่อ จะเป็นส่วนของ Fitness

ขึ้นมาที่ชั้นบนแล้วครับ Fitness ของที่นี่ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเช่นกัน มีการแบ่งส่วนห้องออกเป็นสองฝั่งตามการใช้งาน

เริ่มจากฝั่งซ้ายที่เป็นโซน Cardio ก่อน เครื่องเล่นหลักต่างๆถูกจัดวางเอาไว้ชิดกับผนังกระจกช่องแสงขนาดใหญ่ ตัวพื้นห้องเป็นกระเบื้องลายไม้ บวกกับผนังรอบๆติดกระจกเงาเพิ่มมิติทางสายตา

ที่สุดปลายทางเดินตัวห้องขยายอีกเล็กน้อย มีพวกบอลบริหาร เสื่อโยคะ ฯลฯ มาให้

เครื่องออกกำลังกาบถูกหันออกไปมองวิวสีเขียวของต้นไม้ด้านนอก และด้านล่างเป็นสระ และเครื่องเล่นเหล่านี้เป็นของรุ่นอย่างดีพอสมควรยี่ห้อ MATRIX ลองไปเซิร์จดูเอานะ

ห้องออกกำลังกายอีกฝั่งนึงจะเป็นส่วนของเครื่องเล่น weight training ทั้งหมด

ลองดูละกันครับว่าใครเคยออกกำลังกายกับเครื่องแบบไหนบ้าง ยิ่งตัวขวาสุดนี่เครื่องใหญ่แบบหลายฟังก์ชั่นมาก

อีก 2 เครื่องที่อยู่ที่ผนังอีกด้าน รวมๆแล้วห้องออกกำลังกายทั้ง 2 ห้อง มีเครื่องออกกำลังกายประมาณ 14 เครื่องขนาดใหญ่

เครื่องนี้ดูอลังการสุดๆ มาแบบหลายออฟชั่นในตัวสายเล่นกล้ามน่าจะชอบนะ

ออกมาจากห้องของ weight training ด้านหลัง จะมีส่วนพื้นที่นั่งเล่นแบบ Outdoor อยู่

โดยส่วนของพื้นที่นั่งเล่นเนี่ยถูกเอาต้นไม้มาบังสายตาจากภายนอกเอาไว้ด้วย เวลามาใช้งานจะได้ความเป็นส่วนตัวและน่านั่งพอสมควร

กลับออกไปนอก Clubhouse และไปดูส่วนของสวนหย่อมกันบ้าง

ทางขวามือเป็นส่วนของศาลานั่งเล่น ที่ถูกวางเอาไว้ใกล้กับสนามหญ้า เครื่องเล่นเด็ก ที่ผู้ปกครองสามารถนั่งเฝ้าได้ในระยะใกล้ชิด

สวนหย่อม สนามเด็กเล่น ลานวิ่งออกกำลังกาย เป็นพื้นที่เดียวกันอยู่แห่งนี้

พื้นที่นั่งเล่นพร้อมชุดโต๊ะ ถูกจัดวางเอาไว้ใกล้แนวรั้วกำแพงที่ขนานไปกับต้นไม้ใหญ่ที่สูงกว่ารั้ว

หน้าตาของอุปกรณ์เครื่องเล่นเด็กที่ดูดีทีเดียว

ทางเดินมีไฟส่องสว่างตลอดทาง และแยกชุดโต๊ะใช้งานไว้หลายจุด

ที่ส่วนปลายทางเดินจะขยายออกเป็นพื้นที่กลางแจ้งเอาไว้สำหรับเป็นลานกิจกรรมให้แก่ลูกบ้าน

มองย้อนกลับไปทาง Clubhouse แทบไม่เห็นตัวอาคารเลย เพราะว่าสวนเป็นแบบหน้ากว้างยาวและลงต้นไม้ไว้เยอะนั่นเอง

ปิดท้ายส่วนโครงการไว้ด้วยภายจากโดรนมุมสูงให้เห็นถึงถนนภายในโครงการอีกครั้ง ที่มีทั้งกว้าง 12- 16 เมตรตามลำดับ, มีจุดกลับรถ และจากมุมนี้จะเห็นว่าตัวบ้านสไตล์ Courtyard ทั้งรูปตัว C, h, H ทั้งสามแบบที่มีมุมช่องแสงหลักอยู่ข้างบ้านส่องผ่านเข้าไปในบ้านนั่นเอง

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • Clubhouse และพื้นที่รับรองนั่งเล่น
  • ล็อกเกอร์รูม, ห้องอาบน้ำ, ห้องสตีม
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5 x 15 ม. สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 ม.
  • แบ่งสระเด็กขนาด 3 x 4 ม. ลึก 70 ซม.
  • ห้องออกกำลังกาย 2 ห้อง ขนาดปานกลาง แยกสองฝั่ง
  • ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 14 เครื่อง (ยี่ห้อ Matrix)
  • สวนสาธารณะขนาดใหญ่อยู่ติดกับ Club House
  • พื้นที่สีเขียวลงต้นไม้ติดกับถนนภายในโครงการ
  • ถนนหลักกว้าง 12 – 16 ม. (แล้วแต่ช่วง)
  • จุดกลับรถภายในโครงการทุกๆ 200 เมตร
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.5 ม.และรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 1.5 ม.
  • Key Card Access ระยะใกล้
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบเหล็กเลื่อนไฟฟ้า
  • สัญญาณกันขโมย Magnetic Sensor ทุกหลัง
  • เสาไฟฟ้าลงดินทั้งหมดภายในโครงการ

โครงสร้าง


Product Walkthrough

FESPA เป็นบ้านแบบเล็กสุดในโครงการที่มีที่ดินเริ่มต้นราว 55 ตร.วาและพื้น มี 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ แปลนบ้านจะเป็นแบบหน้าแคบและยาวเข้าไป ขนาดประมาณ 12.7 x 13 เมตร  ตัวอาคารจะเป็นรูปตัว C หันแนวกยาวเปิดรับแสงหลักๆจากด้านข้าง ชั้น 1 ด้านหน้าเป็นที่จอดรถ จอดได้ 2 คัน มีทางเข้าบ้านอยู่ 2 ตำแหน่ง คือ ตรงทางเข้าจากประตูหน้าบ้านกับเดินผ่านที่จอดรถเข้ามาตรงระเบียงข้างบ้าน

เข้ามาในบ้านฟังก์ชั้นจะไล่ตามทางเดินยาวไปเลยได้แก่ ครัว ห้องน้ำ ห้องเก็บของ ห้องทานอาหาร และห้องนั่งเล่นอยู่ท้ายหลังบ้าน (ส่วนกลางบ้านที่เป็น court จะถูกทำเป็นสวนหย่อมที่ตัวบ้านนั้นโอบล้อมเอาไว้) ขึ้นมาที่ชั้นบนฝั่งหน้าบ้านวางตัวห้องนอนเล็ก 2 ห้องเอาไว้ ตรงกลางบ้านจะเป็น Living Area อีกส่วนนึงที่ขนาบด้วยช่องแสงขนาดใหญ่สองฝั่งมองไปเป็นสวนกลางบ้าน และสุดท้ายห้องนอนใหญ่อยู่ฝั่งหลังบ้านมีฟังก์ชั่นหลักๆครับ ทุกห้องนอนจะมีห้องน้ำในตัวหมด

  • 3 BEDROOMS | 4 BATHROOMS | 2 LIVING AREAS | 1 DINING ROOM | 1 KITCHEN AREA | 2 PARKING LOTS

มาดูบ้านตัวอย่างของจริงกับครับ ตัวหน้าตาบ้ารจะเป็นแบบโมเดิร์นที่เน้นวัสดุดูเรียบร้อย โทนสีออกเทาน้ำตาล เพื่อตัดกับสีเขียวของต้นไม้ทั้งหน้าบ้านและในบ้าน

ทางเข้าส่วนของทางเดินเท้ามีหน้าตาประตูแบบนี้ มองเห็นจากด้านในได้เวลาแขกมากดกริ่งเรียก

ส่วนของทางเข้สที่จอดรถ เราจะได้ประตูเหล็กเลื่อนไฟฟ้า พร้อมรีโมทใช้งานเป็นมาตรฐาน

พื้นที่จอดรถถูกปูด้วยกระเบื้องเสมอกับถนนเมนโครงการแบบนี้ได้ความต่อเนื่องเวลาเข้าออกไม่ต้องสะดุดขึ้นลงเนิน อีกทั้งพื้นลานจอดรถจะได้เป็นสแตมป์คอนกรีตที่ดูสวยงามกว่าด้วย จากมุมนี้เราจะเห็นทางเข้าออกของบ้านซึ่งสามารถเข้าได้ 2 ทางคือหน้าบ้านประตูไม้ และข้างบ้านประตูกระจกครับ

ทางด้านข้างบ้านอีกมุมนึง ทางเดินจะเป็นทรายล้างจนไปถึงประตูทางเข้า

ประตูทางเข้าที่ได้เป็นบานไม้จริงแบบนี้ พร้อมไฟส่องสว่างหน้าบ้าน

พอเข้ามาแล้วเราจะเห็นส่วนของทางเดินยางไปจนกลางบ้าน ซึ่งฟังก์ชั่นห้องต่างๆจะไล่ลงไป เรามาเริ่มที่ขวามือสุดได้แก่ห้องครัวกัน

บานประตูปิดมาให้ ทำให้กลายเป็นครัวปิดที่มีช่องแสงผ่านหากันได้ รูปแบบประตูเป็นวงกบอลูมิเนียมขาวบานกระจกใส ดูแข็งแรงดี

ส่วนของห้องครัวมีทางออกไปยังส่วนลานซักล้างด้านหลังบ้าน ทางขวามือเป็นชุดครัวที่เราได้

เคานืเตอร์และ Pantry ครัวที่ทางโครงการจะทำให้ขนาดและวัสดุอุปกรณ์ประมาณนี้ยกเว้นท๊อปที่ของจริงจะไม่ใช้ไม้นะครับ Hob&Hood ได้ของ Franke

ทางออกจากครัวไปลานซักล้าง เห็นช่องชาร์ปที่เอาไว้วางเครื่องซักผ้าไว้ให้

ออกมาเลี้ยวขวากลับไปหน้าบ้านเราจะเห็ที่ทิ้งขยะจากในบ้านได้เลย

ถัดจากห้องครัวก็ไล่มาเลยเป็นห้องน้ำและห้องเก็บของครับ จากมุมนี้เราจะเห็นตัวพื้นกระเบื้องเป็นแกรนิตโต้มาตรฐาน

ภายในห้องน้ำขนาดก็ไม่เล็กจนถึงกับอึดอัดเพราะว่าห้องนี้เป็นแบบ Powder Room ไม่มีฟังก์ชั่นอาบน้ำนั่นเอง  ที่ผนังมีการติดกระจกเงาบานใหญ่พร้อมซ่อนไฟไว้ด้านหลัง มีการก่อ Low Wall เป็นชั้นวางของ และด้านบนมีหน้าต่างบานเลื่อนที่เป็นทั้งช่องแสงและระบายอากาศ

ส่วนของห้องเก็บของที่ถึงแม้ว่าตำแหน่งอยูใต้บันไดก็จริง แต่ส่วนทางเดินเข้าเราไม่ต้องก้มหัว เวลาเดินเข้ามาใช้งานได้เลย ถือว่ากว้างอยู่นะ

ออกจากห้องเก็บของมา ขวามือติดกันเป็นบันได และกลางบ้านเราจะเห็นโซนรับประทานอาหาร จากตรงนี้เราจะเริ่มเห็นช่องแสงต่างๆที่ส่องผ่านมาละ

มุมประตูกระจกบานเลื่อนช่องแสง ที่ด้านนอกเป็นสวนหย่อมที่ถูกตัวบ้านรูปตัว C โอบล้อมเอาไว้

พื้นที่ Dining ที่ถูกจัดเอาไว้กลางบ้าน สามารถวางโต๊ะทานอาหารแบบ 6-8 ที่นั่งยังได้

บ้านตัวอย่างจัดเอาไว้ให้ดูถึงการ Built-In Pantry ครัวเปิดเพิ่ม เอาไว้เป็นมุมจัดเตรียมอาหารหรือของว่างได้ที่ตรงนี้ และยังมีประตูทางออกไปเชื่อมกับลานซักล้างที่ผ่านมาแล้ว

ด้านหลังทางเดินจะเชื่อมไปกับส่วนของ Living Area ที่ถูกจัดวางไว้หลังบ้านสุด

Living Area ที่ถูกจัดวางไว้หลังบ้านสุด ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเท่าไหร่ เพราะบ้านทั่วไปมักเอาไว้ด้านหน้าสุด แต่พอมาอยู่ตำแหน่งนี้แล้ว ทำให้มุมนี้ดูกว้าง สงบ อีกทั้งยังมีช่องแสงขนาบทั้งสองฝั่ง และดูขนาดของห้องที่สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่รองรับทั้งสมาชิกและแขกได้เพียงพอแน่ๆ

มุมนี้สามารถทำเป็นที่ดูทีวีได้ ระยะประมาณ 3 เมตรครับ

ทีนี้เดี๋ยวผมขอพาออกไปนอกบ้าน ส่วนที่อาคารโอบล้อมสวนเอาไว้ให้ดูกันหน่อย (บ้านมาตรฐานของจริงก็มีปูหญ้าและจัดสวนให้นะ)

หันไปทางซ้ายมือเป็นส่วนของตำแหน่งที่อยู่ติดกับที่จอดรถหน้าบ้าน

และขวามือเป็นส่วนหลังบ้าน เราจะเห็นพื้นที่กึ่ง Semi Outdoor ที่ทำเป็นมุมพักผ่อน หรือเฉลียงขนาดใหญ่ก็ได้ครับ

มองย้อนกลับเข้าไปที่ตัวอาคารบ้าน จะเห็นถึงรูปทรงตัว C โอบล้อมสวนหย่อมเอาไว้

เดี๋ยวขึ้นไปดูที่ชั้นบนกันบ้าง บันไดนี่มีทั้งไฟส่องสว่างและราวจับมาตรฐาน

ขึ้นมาถึงส่วนชานพัก ออกแบบมาเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส 2 ตอนแบบนี้ ถือว่าทำได้ดีครับเดินได้เต็มเท้า

ขึ้นมาที่ชั้นบนแล้ว พื้นของชันบนนั้นจะเป็นวัสดุกระเบื้องยางลายไม้อย่างดี ที่ทนทานน้ำกว่าลามิเนต ซึ่งโทนสีเรียกว่าใกล้เคียงกับบันไดมาก

การแจกห้องต่างๆ ผมทำลูกศรบอกเอาไว้ให้แล้ว จะเห็นว่าบริเวณโถงกลางบ้านก็เน้นช่องแสงส่องผ่านมาในบ้านเยอะเช่นเดียวกันเหมือนข้างล่าง

ทีนี้เดี๋ยวเราไปดูส่วนของห้องนอนเล็กฝั่งที่อยู่ซ้ายมือ (หน้าบ้าน) กันก่อน เริ่มจากห้องซ้าย

ห้องนอนเล็ก ที่ขนาดไม่เล็กเลย… คือห้องเรียกว่ามีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับมุมทำการใช้งานอื่นๆแล้ว ดูระยะทางเดินซึ่งล้อมรอบเตียงแล้วไม่ติดขัดอะไรเลย แต่ติดเล็กน้อยที่ตำแหน่งหัวเตียงหันไปทางห้องน้ำบางคนอาจจะไม่ชอบ ก็หันเปลี่ยนเอาละกันครับ

ด้านข้างสามารถทเป็นมุมโต๊ะนั่งเล่น ทำงาน อ่านหนังสือ เชื่อมต่อกับตู้โชว์ ตู้เสื้อผ้าได้

ห้องน้ำที่มีสเต็ปลงระดับลงไปเล็กน้อย ฟังก์ชั่นการใชังานส่วนแห้งเปียกแยกเอาไว้เป็นสัดส่วน

วัสดุต่างๆในห้องน้ำยังใช้เป็นของ American Standrad เหมือนกันทั้งบ้านนะครับ แบบนี้มีตู้ใต้อ่างให้ด้วย

ส่วนด้านบนรูปแบบยังคงมีหน้าต่างระบายอากาศและความชื้นให้อยู่

ชุดฝักบัวมาตรฐาน ที่ผนังมีการเซาะร่องทำเป็นชั้นวางไว้ให้เสร็จ และมีการติดตั้งจุดเครื่องทำน้ำอุ่นเอาไว้ให้แล้ว

ห้องนอนเล็กอีกห้องนึง ขนาดก็ใกล้ๆเคียงกับห้องแรกเลย ห้องนี้จะตกแต่งมู๊ดโทนแบบห้องลูกสาวหน่อย ใช้โทนสีสว่าง ก็เลยดูกว้างโปร่งกว่า

ที่ผนังมุมนี้ถ้าเป็นห้องผู้หญิงอาจจะต้องใช้งานพื้นที่เก็บเสื้อผ้าเยอะกว่า ก็ทำเป็น ตู้เสื้อผ้ายาวมาแบบนี้เลยก็ได้

ที่สุดทางเดินจะมีเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ ที่ดีคือตรงนี้มีหน้าต่างช่องแสงมาให้ด้วย

หน้าต่างช่องแสงมามองลงไปเป็นสวน Courtyard กลางบ้าน 😀

ส่วนของห้องน้ำ ห้องนี้จะเหมือนกันกับห้องน้ำก่อนหน้าทุกประการเลย เพียงแค่กลับด้านกันเท่านั้น ผมไม่อธิบายซ้ำนะครับ

มาดู Living Area ที่อยู่กลางบ้านกันบ้าน ทำไมต้องออกแบบให้มี Living ทั้งชั้นล่างและบน เพราะว่าเวลากลางคืนที่ชั้นบนจะเหมือนเป็นพื้นที่ที่หลายขึ้นขึ้นมาเตรียมพักผ่อนอาบน้ำเตรียมนอนกันแล้ว บางทีก็ไม่ต้องลงบันไดไปใช้งานชั้นล่าง หรือใครติดละคร ซีรีย์ ก็แยกกันดูล่างบนก็ได้

ที่ด้านหลังชั้นวางทีวี จะอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้อง Master Bedroom

ห้อง Master Bedroom ทางซ้ายเป็นส่วนของเตียงนอน และขวามือเป็นพื้นที่แต่งตัวอยู่ก่อนทางเข้าห้องน้ำ

ภายในห้องขนาดเรียกว่า กว้างมากกก สมเป็นห้องนอนใหญ่ การจัดวางเฟอร์นิเจอร์เหลือเฟือ

สามารถติดตั้งดูทีวีในห้องที่ผนังปลายเตียงได้โดยพื้นที่ทางเดินยังคงกว้างอยู่

แต่จุดเด่นของห้องนอนใหญ่นี้จริงๆ คือช่องแสงขนาดใหญ่มุมนี้ ที่เป็นทั้งระเบียงในตัวด้วย มองลงไปข้างล่างเป็นสวนหย่อมกลางบ้าน

มองไปอีกฝั่งในห้องเป็นโซนแต่งตัวที่บ้านตัวอย่างกั้นประตูบานเลื่อนให้ดู จะได้เป็นสัดส่วน

โซนแต่งตัวหรือ Walk in closet ก็ถือว่ากว้างพอสมควรเก็บเสื้อผ้าได้เยอะอยู่ครับ แต่เราต้องไป  Built-In เองนะ

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ สิ่งที่ถูกเพิ่มขึ้นมาก็คือขนาด, ช่องแสง และอ่างอาบน้ำครับ

โดยทางซ้ายมือเป็นส่วนของอ่างที่ขยายขนาดเคาน์เตอร์รอบๆมาแ และได้พื้นที่เก็บของเพิ่มมากขึ้น

ส่วนทางขวามือเป็นส่วนพื้นที่อาบน้ำกั้นด้วย ShowerBox และอ่างอาบน้ำอยู่ติดกับหน้าต่างช่องแสง


LIWA เป็นบ้านแบบใหญ่สุดในโครงการที่มีที่ดินเริ่มต้นราว 80 ตร.วาและพื้น มี 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และ 3 ที่จอดรถ ถ้าดูจากรูปทรงอาคารจะมองได้ทั้งตัว I หรือ H ก็ได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการออกแบบให้ตรงกลางมีส่วนเว้า ทำให้แสงสองผ่านเข้ามาในบ้านได้เยอะและเสมือมีสวนอยู่กลางบ้านทั้งสองฝั่ง (ฝั่งที่ใหญ่สามารถทำสระวาสยน้ำได้เลย)

จากส่วนที่จอดรถ เข้ามาในบ้าน จะเจอกับโถงที่มีพื้นที่รับประทานอาหารอยู่กลางบ้าน รับวิวสวยๆทั้งสองฝั่ง ด้านหลังเป็นส่วนของครัว(ปิด) ติดกันเป็นห้องนั่งเล่น ด้านหลังครัวมีทางออกไปลานซักล้างที่จะมีห้องแม่บ้านแยกส่วนออกมามีห้องในตัวทำให้แม่บ้านไม่ต้องมาใช้ในบ้าน ที่ชั้นล่างฝั่งหน้าบ้านมีห้องอเนกประสงค์อยู่ฝั่งหน้าบ้านและมีห้องน้ำในตัว หมายความว่าจะทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุนั่นก็ง่ายเลย ขึ้นมาที่ชั้นบนยังคงเอานอนเล็ก 2 ห้องเอาไว้ฝั่งหน้าบ้าน ตรงกลางบ้านมี Living Area อีกชั้นนึง และห้องนอน Master อยู่ฝั่งหลังบ้านเหมือนกัน

  • 4 BEDROOMS | 5 BATHROOMS | 2 LIVING AREAS | 1 FUNCTIONAL SPACE | 1 DINING ROOM |1 KITCHEN AREA | 3 PARKING LOTS | 1 MAID ROOM

หน้าบ้านตัวอย่างแบบ LIWA จะเห็นถึงความกว้างกว่าของประตูบ้าน ซึ่งยังคงเป็นประตูรีโมทไฟฟ้ามาตรฐานเช่นกัน

ในส่วนของที่จอดรถที่สามารถจอดได้ 3 คัน สบายๆ

จุดเฉลียงที่เป็นทั้งเซฟตี้กันในส่วนล้อรถไปในตัวเวลาใครถอยจอด ค่อนข้างกว้างอยู่ครับ ไม่ต้องกลัวชนกำแพงบ้าน

ตรงส่วนนี้ที่เป็นไม้ระแนง ซึ่งด้านในจะเป็น Court กลางบ้านขนาดใหญ่ อย่างในบ้านตัวอย่างเค้าทำสระว่ายน้ำขึ้นมา เจ้าระแนงตัวนี้ช่วยในเรื่องของความเป็นส่วนตัว โดยที่ยังพอให้แสงและลมลอดผ่านเข้ามาได้อยู่

ส่วนของทางเดินเข้าบ้านหลังนี้จะเข้าทางนี้เป็นทางหลักทางเดียวนะ

เข้ามาแล้ว มองย้อนกลับไปทางเข้าเราจะเห็นถึงกระจกเข้ามุมที่ต้องการให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามา ติดกันจะเป็นห้องเก็บของใต้บันได

ห้องโถงใจกลางบ้าน ถูกวางด้วยโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่เอาไว้ ทางซ้ายมือมีห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุได้

ด้วยรูปอาคารที่เป็นตัว I ทำให้เราจะได้พื้นที่ใช้สอยกลางแจ้งขนาบตัวบ้าน และแสงธรรมชาติส่องมาได้เต็มๆทั้งสองฝั่ง

หันไปมองทางฝั่งซ้ายมือ จะเล็กหน่อยแต่ก็พอจัดสวน ทำบ่อปลา ศาลานั่งเล่นได้

ฝั่งขวามือด้านนอก จะเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่กว่าเดี๋ยวออกไปดูกัน

ลานไม้ระแนงส่วนนี้เราได้เป็นมาตรฐานด้วยนะครับ แต่สิ้นสุดไปนอกอาคารจะเป็นสวนสนามหญ้าลงต้นไม้ทั่วไป

บ้านตัวอย่าง นั้นตกแต่งให้ดูว่าสามารถทำสระน้ำได้ จริงๆมันก็เหลือที่ในสระไม่ได้กว้างมากเท่าไหร่ ถ้าใครชอบแช่น้ำ ก็ทำไว้แค่นี้พอ แต่ถ้าใครชอบว่ายน้ำ สามารถทำได้โดยการติด Jet Steam สำหรับออกกำลังกายโดยเฉพาะได้ แค่นี้ก็ว่ายน้ำได้แล้ว แต่ผมว่าไปว่าที่ ClubHouse ก็ได้นะ 😀

ให้มองอีกมุมนึงครับ ในส่วนนี้ถ้าใครไม่ได้คิดจะทำสระ ก็หาไอเดียวการตกแต่งสวนสวยๆมาเตรียมลงได้เลย

ในส่วนของครัวต้องบอกว่า บ้านหลังนี้แต่งไม่เหมือนกับบ้านมาตรฐานที่ของจริงจะให้เป็น “ครัวปิด” มา แต่ตำแหน่งครัวก็จะอยู่ตรงนี้แหละครับ (เดี๋ยวไปดูรูปถัดไป จะเป็นครัวของบ้านมาตรฐาน)

นี่ครับของจริงจะเป็นแบบนี้ ได้ชุดครัวบิวท์อิน และอุปกรณ์ตามนี้ทั้งหมด รวมถึง Hob&Hood แม่เหล็กไฟฟ้า 4 หัวของ Franke ด้านหลังมีทางออกไปลานซักล้าง

ติดกันกับครัว จะเป็นส่วน Living Area ขนาดใหญ่ (ดูจากความยาวของโซฟาสิครับ นั่งกันได้แบบ 4-5 ที่นั่งสบายๆเลย ช่องแสงที่ส่องเข้ามาก็ได้บานใหญ่มองออกไปวิวสระ

ที่เห็นซ้ายมือสุดเป็นส่วนของห้องน้ำชั้นล่างครับ

ห้องน้ำรวมที่ชั้นล่างเป็นแบบ Powder Room ไม่มีฟังก์ชั่นอาบน้ำ

หน้าตาของประตูทางออกไปหลังบ้าน วัสดุดูดีและแข็งแรง เดี๋ยวออกไปดูด้านหลังกัน

ด้านหลังจะเป็นพื้นที่ลานซักล้างครับ มีทางเดินไปห้องแม่บ้านที่เห็นอยู่ (ในห้องแม่บ้านมีห้องน้ำในตัวด้วย) ทำให้แม่บ้านถูกแยกการใช้งานออกเป็นสัดส่วนชัดเจนเลย

ไปดูห้องอเนกประสงค์ที่สามารถทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้บ้าง อยู่ติดกับฝั่งหน้าบ้านและทางขึ้นบันได

ภายในขนาดก็ไม่เล็กนะครับ สามารถวางเตียง 5-6 ได้เลย ถ้าจะจัดเป็นห้องนอน มีห้องน้ำในตัว และช่องแสงเยอะด้วย

ที่ปลายทางเดินก่อนทางเข้าห้องน้ำมีหน้าต่างช่องแสงอีกจุดนึง

ภายในห้องน้ำวัสดุเหมือนกัน ได้ฟังก์ชั่นครบ 3 การใช้งาน

รูปแบบของชานพักบันได้ยังคงเป็นแบบสี่เหลี่ยม ซึ่งเดินได้ง่ายและปลอดภัยกว่าการถูกหั่นเป็นสามเหลี่ยม

ขึ้นมาที่ชั้นบนแล้ว ผมทำบอกเอาไว้ว่าแจกห้องไหนไปทางไหน

มองย้อนกลับไปทางบันได จะเห็นหน้าต่าง Fix ช่องแสงที่ส่องผ่านลงมาด้วย เดี๋ยวเราจะไปดูห้องนอนเล็ก (1) กันก่อน ขึ้นมาอยู่ขวามือ

ห้องนอนเล็ก ที่ขนาดไม่เล็กจริงๆ ดูจากพื้นที่ที่กว้างขวางเหลือเฟือ เป็นแบบหน้ากว้างทำให้ได้แสงส่องผ่านได้เยอะ ทางขวามือสุดเป็นทางเดินเข้าไปยังพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำในตัว

มองไปที่ฝั่งปลายเตียงกันบ้าง สามารถหาชั้นวางแบบยาวตามบ้านตัวอย่างมา เราจะได้พื้นที่ใช้สอยแนวตั้งคุ้มๆหน่อย ส่วนมุมประตูทางขวาสุดสามารถเปิดออกไปได้จะเป็นตำแหน่งหลังคาของที่จอดรถ(ตรงนี้ถ้าเราติดเซฟตี้กันตก สามารถทำเป็นพื้นที่ออกไปเดินเล่น นั่งเล่นแบบ Outdoor ได้นะ)

ตำแหน่งด้านหลังหัวเตียง ที่ถูกจัดพื้นที่เป็นตำแหน่ง Walk in Closet ก่อนทางเข้าห้องน้ำ

ห้องน้ำในตัว มาตรฐานเหมือนกันกับห้องอื่นๆ

ถัดไปเป็นห้องนอนเล็ก(2) ยังอยู่ติดกับฝั่งหน้าบ้านเหมือนกัน แต่ห้องนี้จะมีขนาดเล็กกว่าห้องแรกที่พาไปดูหน่อย แต่ก็มีห้องน้ำในตัวเช่นเดียวกัน

รูปแบบหน้าต่างช่องแสงที่ปลายเตียง จะเห็นพื้นที่คอร์ท(เล็ก)ถ้ามองลงไป

ด้านข้างสามารถ Built-In พวกชุดตู้โชว์ ตู้เก็บของ ตู้เสื้อผ้าได้เต็มพื้นที่ และตำแหน่งห้องน้ำอยู่หลังหัวเตียง

Living Area ขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลางบ้าน ถูกขนาบด้วยช่องแสง Oversize ขนาดใหญ่ทั้งสองฝั่ง เอาไว้ชมวิว นั่งเล่น อ่านหนังสือ หรือเป็นมุมกิจกรรมครอบครัวอีกจุดนึงที่น่าใช้

สุดท้ายส่วนของ Master Bedroom ที่อยู่ฝั่งหลังบ้านทั้งหมด คือเข้ามารู้สึกถึงความกว้าง และโปร่งโล่ง เพราะการเจาะช่องแสงหลายจุดให้ส่องผ่านเข้ามาในห้อง

มุมเตียงนอนที่ปลายเตียงจัดเป็นตู้วางของ วางทีวี แบบยาวต่อเนื่องได้ และไม่เสียพื้นที่ทางเดินยังเดินได้สบายๆอยู่ ตรงกลางรูปประตูกระจกบานเลื่อนนั้นมีระเบียงในตัวอีกด้วย

มองย้อนกลับไปอีกฝั่งหนึ่ง จะเห็นส่วนของ Walk in Closet ที่อยู่ก่อนทางเข้าห้องน้ำ

พื้นที่แต่งตัว หรือ Walk in Closet ที่อยู่ก่อนทางเข้าห้องน้ำ ห้องนี้จัดเป็น His&Her แยกซ้ายขวา คุณผู้ชายคุณผู้หญิงคนละฝั่งได้เลย เพราะมีพื้นที่เพียงพอ

เข้ามาดูในห้องน้ำระยะทางเดินต่างๆกว้างมาก การเดินไฟซ่อนหลังกระจกตามแนวยาว ช่วยเพิ่มส่องสว่างในห้องน้ำได้เป็นอย่างดีและดูน่าใช้งานอีกด้วย

มุมอ่างอาบน้ำ ที่อยู่ติดกับผนัง และช่องแสงเข้ามุมแบบนี้ ไม่ต้องกลัวคนภายนอกมองเห็นด้วย

มองไปอีกฝั่งนึง จะเห็นส่วนฟังก์ชั่นอย่างพื้นที่วางสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำแยกส่วนเปียกด้วย Shower Box โดยห้องน้ำห้องนี้มีจุดหน้าต่างระบายอากาศถึง 2 จุดทีเดียว ทำให้ลมโฟลว์ได้ดีกว่าแน่นอน

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 11 July 2017

  • FESPA : 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดิน 55 ตรว. พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. (ราคาเริ่ม 9.89 ลบ.)
  • DENFE : 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ที่ดิน 65 ตรว. พื้นที่ใช้สอย 215 ตร.ม. (ราคาเริ่ม 12.59 ลบ.)
  • LIWA : 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ที่ดิน 80 ตรว. พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม. (ราคาเริ่ม 16.59 ลบ.)

  • จอง 50,000 บาท / ทำสัญญา 100,000 บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด (สอบถามกับเซลล์ที่หน้างาน)
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตร.วาละ 95,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

Baranee Park ร่มเกล้า ตั้งอยู่ในแถบชานเมืองกรุงเทพ บนถนนร่มเกล้าซึ่งใกล้ย่านอุตสาหกรรมใหญ่ๆ อย่างนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังบนถนนฉลองกรุง สภาพแวดล้อมบนถนนร่มเกล้าส่วนใหญ่ยังมีพื้นที่ว่างเปล่ารอการพัฒนาอยู่พอสมควร มีบริษัทตั้งแต่โฮมออฟฟิศ อาคารพาณิชย์ ไปจนถึงโรงงาน และโครงการพักอาศัยแนวราบอย่างบ้านและทาวน์โฮม ด้วยทำเลของโครงการที่มีความสะดวกในการเดินทางไปสุวรรณภูมิได้ง่ายไม่ไกลมากนัก รวมทั้งใกล้กับย่านอุตสาหกรรมด้วยนั้น จึงเป็นทำเลที่เหมาะกับออฟฟิศที่ทำธุรกิจการค้าที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม หรือการธุรกิจที่ต้องขนส่งสินค้าต่างๆ

สำหรับความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ ในด้านอาหารการกินค่อนข้างหายากในระยะเดิน จำเป็นต้องอาศัยขับรถออกไปกินนะ ซึ่งแหล่งอาหารการกินที่มีอย่างคึกคักหน่อยก็จะอยู่ภายในซอย บนถนนเคหะร่มเกล้าทะลุไปออกที่ซอยมิสทีน ส่วนร้านอาหารบนถนนร่มเกล้าที่เห็นติดถนนเลยมีค่อยมากนัก จะอยู่เป็นจุดๆ ไปอย่างบริเวณตรงแยกตัดกับถนนเจ้าคุณทหาร และบริเวณหน้าโรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ร่มเกล้า ส่วนห้างที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็น Big C ร่มเกล้าใกล้แยกรามคำแหง-ร่มเกล้า เป็นห้างใหญ่ที่อยู่บนถนนเส้นนี้ สามารถไปจับจ่ายซื้อของใช้หลักๆ กันได้ที่นี่

การเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัว ถือเป็นการเดินทางหลักๆ ของโครงการนี้ ค่อนข้างสะดวกพอสมควร เนื่องจากตัดกับถนนค่อนข้างเยอะสามารถเลือกการเดินทางได้หลากหลาย ทั้งการเข้า-ออกเมือง และยังอยู่ไม่ไกลจากมอเตอร์เวย์วิ่งยาวไปเข้าถนนพระรามเก้าถึงเส้นนี้ก็แยกไปได้ทั้งเอกมัย ทองหล่อ อโศก ดินแดง จะไปออกวิภาวดี-ลาดพร้าวก็ได้ หรือจะไปมีนบุรีก็ง่ายจากโครงการก็ใช้ถนนร่มเกล้าวิ่งตรงไปอย่างเดียว จะออกต่างจังหวัดอย่างชลบุรีก็ใช้เส้นมอเตอร์เวย์ได้ และใกล้ถนนกาญจนภิเษกหรือวงแหวนรอบนอก ซึ่งก็เพิ่มความสะดวกในการเดินทางได้มากขึ้น ในส่วนเรื่องจุดกลับรถหน้าโครงการหากใครมาจากมีนบุรี จะมีจุดกลับรถไม่ไกลมากทั้งสองฝั่งเลยประมาณไม่เกิน 2 กม. แต่ถ้าเจอช่วงเวลาเลิกงานจะเจอรถติดหน่อยเพราะแถวนี้เป็นแหล่งงานเยอะ ส่วนถนนมอเตอร์เวย์ก็ติดเป็นช่วงๆ ทำให้ต้องเผื่อเวลาในการเดินทางหน่อยนะ

การเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะ ถือว่าสะดวกระดับนึง เนื่องจากโครงการอยู่ติดริมถนนเลย และมีป้ายรถเมล์อยู่หน้าโครงการ ค่อนข้างสะดวกในการเรียกรถและไม่เปลี่ยว รวมไปถึงบนถนนร่มเกล้าจะมีทั้งรถตู้ รถสองแถว นอกเหนือจากรถเมล์ให้บริการ ส่วนรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็น Airport Rail Link สถานีลาดกระบัง ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 4 กม. ต้องนั่งรถต่อนึงไปขึ้นรถไฟฟ้าได้ ส่วนในอนาคตจะมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีมีนบุรีตรงบริเวณซอยรามคำแหง 192 โดยจะห่างจากโครงการไปประมาณ 6 ม. และสถานีนี้เป็นสถานี interchange ที่เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม รวมทั้งมีจุดจอดรถแล้วจร จอดได้ประมาณ 2,000 คัน สามารถขับรถไปจอดแล้วเข้าเมืองได้ไม่ยากครับ ซึ่งก็ต้องอดใจรอกันต่อไป โดยกำหนดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563 แต่ก็คงจะยืดออกไปอีกหลายปีพอสมควร

วัสดุโครงการนี้ถือว่า ให้มาดีสมกับราคาบ้านอยู่ วงกบอลูมิเนียมสีขาวเงาเป็นส่วนใหญ่ โคมไฟดาวน์ไลท์ พื้นกระเบื้องแกรนิตโต้และชั้นบนหรือห้องนอนเป็นลิเนียม(กระเบื้องยางลายไม้) ชุดครัวปิดที่ได้มาเสร็จสรรพวัสดุ Hob&Hood ของ Franke, ประตูรั้วรีโมทอัตโนมัติ, พื้นสแตมป์คอนกรีตที่จอดรถ, สัญญาณกันขโมยเซ็นเซอร์ทุกหลัง และในห้องนอนได้ของ American Standard โดยรวมถือว่าคุ้มกับราคาที่จ่าย

แบบบ้านของที่นี่ต้องบอกก่อนเลยว่า การออกแบบสไตล์ COURTYARD ที่มีรูปแบบความเป็น Unqiue ในตัวสูงไม่เหมือนกับใคร ถ้าใครที่เป็นคนชอบช่องแสงในบ้านเยอะๆ เห็นแล้วน่าจะชอบเลยล่ะ แต่ถ้าเป็นคน Genก่อนที่ยังยึดติดกับรูปแบบบ้านสมัยเก่า เห็นแล้วอาจจะงงนิดหน่อย เพราะตำแหน่งการออกแบบให้ช่องแสงและการใช้งานนอกบ้านหลักๆอยู่ด้านข้างแบบนี้ แต่โดยส่วนตัวผมชอบการออกแบบช่องแสงของบ้านมาก แต่ที่คนไทยอาจยังไม่คุ้นชินคงจะเป็นเรื่องของตำแหน่งครัวที่มาอยู่ด้านหน้าบ้านมากกว่า(บ้านหลังเล็ก) สุดท้ายส่วนของฟังก์ชั่นการใช้สอยครบถ้วน เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยได้ 3-6 คน เหมาะกับครอบครัวขนาดกลางครับ

สาธารณูปโภคของที่นี่มี ถือว่าให้มาเยอะนะถ้าเทียบกับราคาค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือน เริ่มจากถนนเมนก่อนเลยความกว้าง 12-16 เมตรและเป็นแอสฟัลท์ (asphalt)ลาดยางทั้งหมด, สายไฟทั้งหมดมีการลงใต้ดินดูสวยงามเรียบร้อย, ClubHouse อยู่ติดกับสวนหย่อมเป็นแบบหน้ากว้างพื้นที่ยาว 100 เมตรได้ น่าใช้งานมากมีทั้ง สระว่ายน้ำ, แยกสระเด็ก, พื้นที่นั่งเล่น, สตีมรูม, ห้องออกกำลังกายสองห้องแยกการใช้งาน, ลานเด็กเล่น, ศาลา, สวนหย่อม

ระบบความปลอดภัยของโครงการนี้ ระบบการเข้าออกใช้เป็น  Access Card ระยะใกล้ แตะเพื่อให้รั้วเหล็กเลื่อนไฟฟ้าเปิดออก, CCTV เนี่ยเยอะมากตั้งแต่ทางเข้าจนถึงถนนภายในโครงการ, รั้วรอบโครงการเป็นแบบสูง 2.5+1.5 เมตร, ประตูหน้าบ้านก็เป็นรีโมทไฟฟ้าอีกส่วน ถือว่าสูงทีเดียว และสุดท้ายภายในบ้านได้สัญญาณกันขโมย Sensor ทุกหลังมาตรฐาน โดยรวมถือว่ามีความปลอดภัยที่ดีเลย

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 10-17 ล้านบาท, 11 July 2017

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.25/10 – ติดถนนใหญ่ ไม่ค่อยมีแหล่งอาหารการกินในระยะใกล้,ใกล้มอเตอร์เวย์,นิคมฯ และสนามบิน
  • ความปลอดภัย 8.5/10 – รั้วเลื่อนไฟฟ้า, รปภ., CCTV ทั้งโครงการ, รั้วกำแพง 4 เมตร, สัญญาณกันขโมยทุกหลัง
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – คอนเซปท์ Courtyard ชัดเจน ถ้าใครชอบช่องแสงเยอะๆก็โอเค, ฟังก์ชั่นครบขนาด 3-6 คน
  • วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – ออกแบบ Landscape ได้ดี มีต้นไม้ที่ริมถนนและสวนหย่อมเยอะ
  • สาธารณูปโภค 9/10 – สายไฟลงใต้ดิน, ClubHouse, สระว่ายน้ำ, แยกสระเด็ก, พื้นที่นั่งเล่น, สตีมรูม, Fitness, ลานเด็กเล่น, สวนหย่อม
  • 7.9 / 10.00

BOTTOM LINE

Baranee Park ร่มเกล้า เหมาะสำหรับคนที่ทำงานอยู่ในย่าน “ร่มเกล้า-นิคมฯ-สุวรรณภูมิ” หรือเป็นผู้ประกอบการณ์ะธุรกิจในย่านนี้ เพราะใช้รถยนต์เดินทางไปมาได้สะดวก เป็นครอบครัวขนาดกลาง 3-6 คน ชอบบ้านที่มีความเป็นเอกลักษณ์ในตัวสูง เน้นช่องแสง มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้ ที่น่าใช้ หลากหลายจบในตัวโครงการ และมีความปลอดภัยในโครงการระดับนึง งบประมาณอยู่ที่ 10-17 ล้านบาท