รีวิวฉบับที่ 1299 … วันนี้เราจะแวะไปดู Aspen Condo ลาซาล (เฟส B) จาก มานะพัฒนาการ เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 105 (ซอยลาซาล) ใกล้แยกศรีลาซาลซึ่งอนาคตจะเป็นที่ตั้งของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีศรีลาซาล จุดเด่นของโครงการนี้คือมีการให้ Facilities หลากหลายน่าใช้เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตจริง อีกทั้งโครงการยังขายแบบ Fully Furnish อีกด้วย ไปชมกันเลยครับ

Fact @ 28 February 2017

  • Aspen Condo ลาซาล (เฟส B) หรือ  Aspen Urban One-Stop Living
  • บริษัท มานะพัฒนาการ จำกัด
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางนา
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 398 ยูนิต
  • อาคาร 1 (A) มี 199 ยูนิต / อาคาร 2 (B) มี 199 ยูนิต
  • ที่จอดรถ 121 คัน คิดเป็น 30% รวมจอดซ้อนคันคิดเพิ่มเป็น 35%
  • ที่ดินประมาณ 3-1-65.5 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : ไตรมาส 1 ปี 2560
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ไตรมาส 4 ปี 2561
  • 1 Bedroom Type A ขนาด 23.64 – 24.09 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.45 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Type B ขนาด 26.31 – 26.97 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.55 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Type C1 ขนาด 34.41 – 34.98 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.15 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Type C2 ขนาด 34.65 – 34.98 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.15 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานห้องพักอาศัยสูง 2.40 เมตร
  • Lobby Double Space ฝ้าเพดานสูง 3.5 – 4 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.45 ล้านบาท หรือราคา 61,300 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 64,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • Register & Offcial Website : คลิกที่นี่
  • โทร  : 02-136-5995 หรือ 099-224-0555

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.657199, 100.646283

แผนที่จากทางโครงการครับ ASPEN CONDO ตั้งอยู่ในซอยลาซาลที่ผ่านแยกศรีลาซาลไปหน่อย อยู่ตรงข้ามกับโรงพยาบาลศิครินทร์ ในอนาคตถนนศรีนครินทร์ เป็นเส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งสถานีที่ใกล้โครงการมากที่สุดคือสถานีศรีลาซาลครับ

ซอยลาซาล(สุขุมวิท 105) ที่มาของชื่อซอยลาซาลนั้นมาจากชื่อโรงเรียนลาซาลซึ่งเป็นโรงเรียนชายล้วนเก่าแก่ ซึ่งเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนสหศึกษามาได้สิบกว่าปีแล้ว ชื่อเดิมเป็นภาษาฝรั่งเศส La Salle มาจากชื่อของนักบุญฌ็อง-บาติสต์ เดอ ลา ซาล ซึ่งเป็นองค์อุปถัมภ์ของโรงเรียน ซอยลาซาลเป็นซอยที่อยู่ติดกับ BTS แบริ่งเลยครับแค่ลงบันได BTS มาก็ถึงปากซอยแล้ว อยู่ใกล้ BTS แบริ่ง มากกว่าซอยแบริ่งเองซะอีก ระหว่างซอยลาซาลกับแบริ่งถือเป็นส่วนต่อระหว่างกรุงเทพฯกับจังหวัดสมุทรปราการนะ คือซอยลาซาลจะอยู่ในกรุงเทพฯ และซอยแบริ่งจะอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งทำเลที่ตั้งของ Aspen Condo ถือว่าได้ทะเบียนบ้านเขตกรุงเทพฯครับ 😀

โครงการ Aspen Condo ตั้งอยู่ในซอยลาซาลที่เลยจากแยกศรีลาซาลเข้ามาประมาณ 400 เมตร อยู่ทางซ้ายมือและอยู่ตรงข้ามกับโรงพยาบาลศิครินทร์พอดี ในอดีตซอยลาซาลเป็นซอยตันที่เชื่อมกันเป็นเส้นเดียว ก่อนที่จะถูกถนนศรีนครินทร์มาตัดแยก (ที่แยกศรีลาซาล) ทำให้ซอยลาซาลถูกแยกออกเป็น 2 ฝั่ง มีความแตกต่างกันคือ ซอยลาซาลฝั่งซ้ายจะเป็นซอยทะลุเชื่อมถนนสุขุมวิทกับถนนศรีนครินทร์ มี ร.ร.นานาชาติบางกอกพัฒนากับร.ร.ลาซาล ตลาดสด คอนโดมิเนียม หลายแห่งตั้งอยู่แต่ก็จะมีการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่นมากกว่าซอยลาซาลฝั่งขวาที่เป็นซอยตันสั้นๆ ที่แม้ว่าจะมีคอนโด หมู่บ้าน และโรงพยาบาลตั้งอยู่เช่นกัน แต่มีจำนวนน้อยกว่า ทำให้ซอยฝั่งขวานี้การจราจรมีความหนาแน่นน้อยกว่า รถไม่ค่อยติด

ข้อดีของทำเลที่ตั้งโครงการ(ซอยลาซาลฝั่งขวา)อีกอย่างหนึ่งคือ การที่อิงกับถนนใหญ่อย่างศรีนครินทร์ และอยู่ในช่วงต้นๆของถนนศรีนครินทร์ที่แยกออกมาจากถนนบางนา – ตราด จะได้เปรียบในเรื่องของการเดินทางที่สามารถเข้าออกถนนบางนา – ตราด ได้ง่ายเลย ไม่ต้องใช้เวลารถติดบนเส้นศรีนครินทร์นานๆ ซึ่งเส้นนี้ขึ้นชื่อว่ารถติดมากทีเดียวในช่วงเวลาเร่งด่วน(เข้างาน-เลิกงาน)นะครับ ส่วนของการใช้ทางด่วนเข้าเมืองก็วิ่งไปทางแยกบางนานิดเดียว และยังมีส่วนของทางด่วนกาญจนาฯก็ระยะการใช้งานใกล้พอๆกัน

สำหรับคนไม่ใช้รถ ก็เดินทางไม่ยากเพราะหน้าโครงการบนถนนลาซาลก็มีพี่วินมาจอดรอรับอยู่แล้ว ถ้าใครนั่ง BTS มาลงแบริ่งก็เดินมาขึ้นรถ 2 แถวในซอยลาซาล จะมีอู่รถสองแถวอยู่ฝั่งขวามือ เป็นวินรถแดงที่ใหญ่กว่ารถสองแถวทั่วไป เป็นรถ 6 ล้อ และ บ้างทีก็เป็นรถ mini bus สีแดง วิ่งสุดซอยลาซาล 7 บาทตลอดสาย (นี่ก็ส่งถึงหน้าโครงการเลย ประหยัดดี) / นอกจากนั้นในซอยเองก็ยังมี Taxi วิ่งเข้ามาด้วยถึงแม้จะเป็นถนนซอยสั้นๆแต่เป็นช่วงที่มีชุมชนพักอาศัยและแหล่งงานพักอยู่พอสมควร

ความอุดมสมบูรณ์เรื่องอาหารการกินสำหรับโครงการ Aspen Condo เริ่มจากใกล้โครงการมากที่สุดเลยก่อนเลย บริเวณตรงข้ามโครงการจะเป็นที่ตั้งของรพ.ศิครินทร์ ที่ด้านหน้ารพ.จะมีอเวนิวที่อยู่ติดถนนชาวบ้านสามารถไปใช้งานได้ตั้งแต่ Starbucks, ร้านอาหารญี่ปุ่น S&P และ Tops Dialy ที่นี้พอเขยิบออกมาแถวใกล้ถนนหลักจะมีร้านอาหารริมทางอยู่เยอะแยะมากมายทั้งอาหารเหนือ อาหารอีสาน รวมไปถึง Minimart ด้วย

แต่ถ้าจะหาแบบที่เป็นคอมมูนิตี้มอลล์บนถนนศรีนครินทร์ก็มีให้เลือกอยู่เยอะเช่นกัน เช่น Premier Place ศรีนครินทร์, Jas Urban ที่พึ่งเปิดใหม่เป็นที่นิมยมของเหล่าวัยรุ่น, ถ้าจะช้อปปิ้งของใช้เข้าบ้านก็จะมี Makro ศรีนครินทร์, Big C สำโรง, Foodland ศรีนครินทร์ ให้เลือก สำหรับศูนย์การค้าใหญ่ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด และถนนศรีนครินทร์ฝั่งสวนหลวง ร.9 ก็จะมี Central บางนา, Mega Bangna, Paradise Park, Seacon Square ศรีนครินทร์ เป็นต้น

นอกจากนี้ในอนาคตถนนศรีนครินทร์ยังมีแผนของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองในอนาคตจาก MRTA ซึ่งสถานีที่ใกล้กับโครงการที่สุดคือ สถานีศรีลาซาล โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง เป็นระบบขนส่งมวลชนประเภทรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Straddle Monorail) มีลักษณะเป็นโครงสร้างยกระดับตลอดแนวเส้นทาง มีระยะทางทั้งสิ้น 30.4 กิโลเมตรรวม 23 สถานี มีจุดประสงค์เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างสายสีน้ำเงินที่สถานีรัชดา (สถานีลาดพร้าวของสายสีน้ำเงิน) กับระบบขนส่งมวลชน 4 สาย คือ สายสีเทาของกรุงเทพ สายสีส้มบริเวณทางแยกลำสาลี รถไฟเชื่อมต่อท่าอากาศยาน (Airport Rail Link) บริเวณทางแยกต่างระดับพระราม 9 และสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่สถานีสำโรง

การเดินทางมาโครงการสามารถเดินทางมาได้หลายเส้นทาง ถ้ามาจากเส้นทางหลักอย่างถนนบางนา-ตราด และถนนศรีนครินทร์ก็มีเส้นทาง ดังนี้

  • เส้นทางที่ 1 ถ้ามาจากทางด่วนลงบางนา วิ่งบางนาตราดแล้ววนเกือกม้ามุ่งหน้าเทพารักษ์จะวนมาเข้าศรีนครินทร์ขับมานิดเดียวก็จะเจอแยกลาซาล มีป้ายบอกไปโรงพยบาลศิครินทร์อยู่ เราก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย โครงการอยู่ขวามือ
  • เส้นทางที่ 2 วิ่งจาก Mega Bangna มายังโครงการ ก็วิ่งทางขู่ขนานถนนบางนา – ตราดมาเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนศรีนครินทร์ จะมีป้ายบอกทางไปโครงการนาราโบทานิคเลย
  • เส้นทางที่ 3 วิ่งมาจากถนนศรีนครินทร์ฝั่งเข้าเมืองก็มาเลี้ยวขวาเข้าถนนลาซาลที่แยกศรีลาซาล เลี้ยวเข้าซอยลาซาลประมาณ 200 ม. โครงการจะอยู่ทางขวา

สำหรับการเดินทางในวันนี้จะใช้เส้นทางที่ 2 วิ่งตามถนนบางนา – ตราดไปเรื่อยๆ จาก Mega Bangna ไปยังโครงการ ถ้าวันหยุดมาเดินเล่น Mega Bangna ก็เดินกลับเส้นทางนี้ได้สะดวกเลย

เริ่มเดินทางบนถนนคู่ขนานบางนา – ตราด บริเวณหน้า Mega Bangna ซึ่งจัดเป็นศูนย์การค้าใหญ่ ที่มีความครบครันมากแห่งหนึ่งในย่านนี้ ภายในมีทั้ง IKEA, โรงหนัง, Homepro, Big C, Sephora, Eve and Boy พร้อมร้านอาหารและร้านค้าชั้นนำก็มีให้เลือกมากมาย

ตรงมาเรื่อยๆ จะผ่านอาคารสำนักงาน Interlink Tower เป็นแหล่งงานอีกแห่งหนึ่งของคนทำงานในย่านนี้ ซึ่งด้านข้างอาคารก็จะมีตลาดขายอาหาร เพื่อรองรับพนักงานออฟฟิศตรงพื้นที่นี้

ตรงมาอีกไม่ไกลก็มีป้ายให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนศรีนครินทร์

ตามทางมาเรื่อยๆ ถนนช่วงนี้เป็นทางวนใต้สะพานข้ามแยกถนนศรีนครินทร์ บรรยากาศก็จะเงียบๆหน่อย ไม่เหมือนบนถนนศรีนครินทร์ที่มีความคึกคักมากทีเดียวนะ

ตามทางมาเรื่อยๆก็ถึงทางบังคับให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนศรีนครินทร์แล้ว บรรยากาศของถนนก็เปลี่ยนไปจะเริ่มเห็นอาคารใหญ่

เข้ามาบนถนนศรีนครินทร์ระหว่างข้างทางจะเห็นพวกเหล่าร้านอาหารเล็กใหญ่ริมทาง เลยมานิดหน่อยจะเจอทางขึ้นสะพานข้ามแยกศรีลาซาลทางขวา ให้เราชิดซ้ายเอาไว้ไม่ขึ้นสะพานนะ

ผ่านปั๊ม ปตท. แถวเชิงสะพานก็สามารถแวะเติมน้ำมันก่อนกลับบ้านที่นี่ได้เลย สะดวกดี

ผ่านปั๊มมาไม่ไกลก็จะถึงแยกศรีลาซาล เราจะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยลาซาล (ซ.สุขุมวิท 105) ไปนะคะ ซึ่งบริเวณหัวมุมมีจุดสังเกตุคือป้ายร้านหัวปลาช่องนนทรี สาขา ศรีนครินทร์

เข้ามาในซอยลาซาลเป็นถนน 4 เลน ซึ่งขอบทางทั้ง 2 ฝั่ง มักจะมีรถจอดอยู่เสมอ ทำให้เหลือถนนวิ่งฝั่งละเลน แต่ในซอยนี้รถก็ไม่ค่อยติดเท่าไหร่ พอวิ่งกันไปได้เรื่อยๆนะ เลี้ยวมาแล้วทางขวามือจะเป็นที่ตั้งของ Premier football club สนามฟุตซอลหญ้าเทียม ซึ่งด้านหน้าจะเป็นเหล่าร้านอาหารต่างๆหลายร้าน

เลยมานิดเดียวจะเจอกับร้าน กาดมั่ว คัวเมือง ร้านอาหารเหนือร้านดังย่านนี้ ร้านตกแต่งได้บรรยากาศแบบทางเหนือจริงๆ ที่ร้านจะมีอาหารที่ปรุงสำเร็จไว้บ้างแล้ว และก็มีเมนูทำสดใหม่ไว้ด้วยเหมือนกัน

จากแยกศรีลาซาลเข้ามาประมาณ 200 ม. ขวามือคือ Collection House รวมร้านอาหาร 4 ภาค ที่ภายในเปิดเป็นร้านขายอาหาร มีหลายร้านให้เลือก ซึ่งร้าน กาดมั่ว คัวเมือง ก็ถือว่าอยู่ในนี้ด้วย

หลังจากนั้นเลยมาอีกประมาณ 100 เมตร ก่อนถึงทางเข้าโครงการ ทางขวามือจะเป็นแหล่งอุดมสมบูร์ที่ใกล้โครงการที่สุดเป็นพื้นที่อเวนิวร้านต่างๆของรพ.ศิครินทร์ (ผมชี้ลูกศรบอกไว้แล้วร้านอะไรบ้าง)

ทางซ้ายมือเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ZURU ส่วนติดกันจะเป็น Tops daily ถือเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดกลางที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบอยู่นะ

ระหว่างพื้นที่ทั้งสองมีตู้ ATM อยู่ข้างทาง และเป็นส่วนของร้าน S&P Restaurant ที่นอกจากจะมีเบเกอรี่และมีส่วนของอาหารเป็นมื้อเป็นจานด้วย

ภายใน Tops daily สาขานี้ขนาดค่อนข้างใหญ่เหมือนกัน มีโต๊ะนั่งสำหรับรับประทานอาหารที่เป็นแบบข้าวกล่องจานด่วนในนี้เลยก็ได้ อีกทั้งยังมีของสด ผักสด ผลไม้ให้เลือกระดับนึงด้วย คาดว่าที่นี่คงเป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยขนาดกระทัดรัดที่ได้มาใช้บ่อยแน่ๆ

ออกมาด้านนอกแล้ว ติดกับ Zuru จะเป็นส่วนของขวัญใจคอกาแฟอย่าง Starbucks สาขานี้ใหญ่มาก

ซึ่ง Starbucks ก็อยู่ติดกับรพ.ศิครินทร์นี่แหละครับ

ส่วนของ Sale Office และทางเข้าโครงการ ก็อยู่ตั้งข้ามกับป้ายของโรงพยาบาลเลย

ซึ่งระหว่างยืนมองรถวิ่งไปมาก็จะเห็น Taxi ผ่านไปมาระดับนึงด้วยเพราะซอยนี้เป็นชุมชนอยู่อาศัยและแหล่งงานค่อนข้างเยอะ ประกอบกับการมีรถแดงที่ใหญ่กว่ารถสองแถวทั่วไป เป็นรถ 6 ล้อ และ บ้างทีก็เป็นรถ mini bus สีแดง วิ่งสุดซอยลาซาล 7 บาทตลอดสาย (จาก BTS แบริ่ง ส่งถึงหน้าโครงการเลย ประหยัดดี)

พื้นที่ในโครงการตอนนี้เค้าปิดกั้นอยู่ไม่สามารถเข้าไปได้เพราะเป็นเขตก่อสร้างนะครับ แต่จากถนนเมนเข้าไปประมาณ 250 เมตร จะถึงซุ้มทางเข้าออกโครงการส่วนของ เฟส B

มาดูที่ Sale Office ที่ติดกับถนนหลักกันบ้าง ด้านหน้ามีการตกแต่งเป็นบ่อน้ำพุเล็ก ส่วนตัวของอาคารจะใช้วัสดุของไม้เป็นการตกแต่งผิวอาคารด้านนอกเป็นหลัก ทำให้ดูตัดกับสีเขียวของต้นไม้ได้เด่นชัด

พอขึ้นมาแล้วส่วนนี้ยังไม่ใช่ Sale Gallery นะครับ จะเป็นส่วนของ CAFE ร้านการแฟเครื่องดื่ม ที่เป็นของทางโครงการ เตรียมจะเปิดให้กับลูกบ้าน เหมือนอารมณ์ประมาณว่าถ้าเพื่อน มาหา ก็มานัดเจอกันตรงนี้ก็ได้ไม่ต้องเข้าไปในบ้านเรา

ซึ่งตอนนี้ Cafe อยู่ระหว่างกำลังตกแต่งร้านนะครับ แอบถ่ายมาให้ดูช็อตเดียวเพราะยังทำไม่เสร็จ แต่ว่าทำมู๊ด&โทน Loft สไตล์โดยใช้วัสดุในร้านเป็นไม้เป็นหลัก

ส่วนของ Sale Office ประตูทางเข้าจะอยู่ติดกับ Cafe เลย

เข้ามาด้านในแล้ว จะเจอกับส่วนของโมเดลโครงการเลย เดี๋ยวเราค่อยมาเจอรายละเอียดกันอีกที ส่วนของการตกแต่งภายในจะเป็น Earth Tone ที่ดูสว่างและอบอุ่น และขนาดกว้างมากรองรับลูกค้าได้หลายคนอยู่

ที่ผนังด้านนี้มีการติดทีวีที่ผนัง โดยจะเป็นการแสดง VDO Presentation เกี่ยวกับรายละเอียดโครงการเอาไว้ให้เห็นภาพจำลองครับ

ส่วนของชุดโซฟาและโต๊ะรับรองลูกค้า อยู่ใกล้กับหน้าต่างช่องแสงขนาดใหญ่

สิ้นสุดชุดโซฟารับรองแขก จะเป็นส่วนของเคาน์เตอร์ Reception ตกแต่งลายหินอ่อน โดนจะมีเจ้าหน้าที่ Sale คอยให้บริการข้อมูลอยู่ตรงนี้

กดคลิกที่รูปเพื่อดูแผนที่ซูมขนาดใหญ่ขึ้น

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

มาดูขอบเขตที่ดินของโครงการกันก่อน ต้องบอกก่อนเลยว่า Aspen Condo นั้นเป็นโปรเจ็คที่ทางเจ้าของโครงการค่อยๆทยอยทำและพัฒนาต่อเนื่องมากเรื่อย โดยแต่ละโครงการก็แยกการจัดการ การใช้งาน ร่วมถึงการบริหารด้วย ทำให้แต่ละเฟสมีความเป็นส่วนตัวของกันและกัน ซึ่งในส่วนของที่รีวิวในครั้งนี้จะเป็นส่วนของ เฟส 2 (B) เท่านั้น แต่ทุกโครงการจะใช้ “ถนนเมน” เป็นทางสัญจรหลักร่วมกันครับ เพื่อออกไปสู่ถนนหลักอย่างลาซาลด้านหน้า

  • ด้านทิศเหนือ จะติดกับ Aspen Condo เฟส 1 (A)
  • ด้านทิศใต้ ติดกับที่ดินเปล่ารอการพัฒนาจากเจ้าของโครงการเดียวกัน
  • ด้านทิศตะวันออก ติดกับที่ดินเปล่าผืนใหญ่ของบุคคลอื่นยังไม่มีการพัฒนา
  • ด้านทิศตะวันตก ติดกับด้านหน้าเป็นถนนเมนโครงการและถัดไปเป็นทาวน์โฮม The Biz Rich 3 ชั้น

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น (วัดระยะด้วย Google Maps)

  • โรงพยาบาลศิครินทร์ ~ 250 ม.
  • อเวนิวหน้ารพ.(Starbucks, Zuru, S&P, Tops daily) ~ 270 ม.
  • รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีลาซาล ~ 5-600 ม.
  • Premier Place ~ 1.1 กม.
  • Makro ~ 1.2 กม.
  • Big C ศรีนครินทร์ ~ 1.3 กม.
  • โรงเรียนลาซาล ~ 1.7 กม.
  • โรงเรียนบางกอกพัฒนา ~ 2.8 กม.
  • JAS Urban ศรีนครินทร์ ~ 3.1 กม.
  • ตลาดสดลาซาล ~ 3.5 กม.
  • Paradise Park ~ 3.9 กม.
  • เซ็นทรัลบางนา ~ 4.8 กม.
  • Big C บางนา ~ 4.8 กม.
  • Seacon Square ~ 4.8 กม.
  • โรงพยาบาลไทยนครินทร์ 4.9 ~ กม.
  • BTS แบริ่ง ~ 5.3 กม.
  • BITEC บางนา ~ 6.6 กม.
  • สวนหลวง ร.9 ~ 6.6 กม.
  • Mega Bangna ~ 7.5 กม.
  • สนามบินสุวรรณภูมิ ~ 26 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

มาดูส่วนของโมเดลโครงการกันบ้าง เริ่มจากถนนเมนหลักของ Aspen ที่ใช้ร่วมกันกับเฟสแรก ซึ่งมีความกว้างประมาณ 7 เมตร เราวิ่งจากซอยหลักด้านหน้าเข้ามาจนถึง 250 เมตร จะเป็นส่วนของซุ้มทางเข้าออกโครงการ

รูปแบบของโครงการจะเป็น Low Rise 8 ชั้น ตึกคู่ 2 อาคาร รูปทรงตัว U โอบล้อมส่วนของ Facility ส่วนกลางเอาไว้ ที่ดูจากภายนอกไกลๆจะเหมือนกัน ส่วนกลางที่ชั้น 1 ของแต่ละอาคารให้มากันคนละแบบ

ที่ด้านหน้าทางเข้าจะเป็นส่วนของซุ้มรปภ,ทางซ้ายมือคอยสแกนคนเข้าออก ระบบเป็น Keycard Access ระยะใหล้แตะเพื่อเปิดรั้วไม้กั้นกระดก จะเห็นว่ามีที่จอดรถกลางแจ้งตั้งแต่เข้ามาเลย และจะเจอทางแยกซ้ายขวา เข้าส่วนของใต้อาคารที่จะมีที่จอดรถที่ชั้น 1 และสามารถลงไปจอดที่ใต้ดินได้อีกชั้น (ที่จอดรถ 35% รวมจอดซ้อนคัน)

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณซุ้มทางเข้าออกโครงการ

ที่ด้านหลังป้อมรปภ.ทางซ้ายมือที่เป็นส่วนของอาคาร 1 หรือเรียกว่าอาคาร A นะครับ จะมีส่วนบันไดทางขึ้นเพื่อเข้าสู่ Main Entrance ภายในอาคาร

พื้นที่ตรงนี้จะเป็นส่วนกลางนะครับ จะเป็นผนังกระจกรอบด้านสูงจากพื้นเต็มฝ้าเพดานไปเลยประมาณ 3.5 – 4 เมตร ทำให้ดูโปร่งโล่ง

พอเปิดประตูเข้ามาจะเป็นส่วนของ Lobby และเชื่อมต่อไปด้วยทางเข้า Fitness ขนาดใหญ่กว่า 70 ตร.ม.

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ส่วนของพื้นที่ส่วนกลางบริเวณห้องออกกำลังกาย คอนเซ็ปท์ Urban Alternative Gym ที่ให้พื้นที่ออกกำลังกายถึง 70 ตร.ม. มีเครื่องขนาดใหญ่จำนวน 11 เครื่อง แถมเลือกใช้ยี่ห้อ Queenex ที่กำลังเป็นที่นิยมทั่วโลก ด้วยช่องแสงรอบด้านทำให้มุมมองจะเป็นพาโนรามาและเห็นวิวสระว่ายน้ำด้วย

พอออกมาจากห้อง Fitness จะมีทางเดินออกมาส่วนพื้นที่ส่วนกลางสำคัญอีกอย่างคือ สระว่ายน้ำ ที่อยู่ระหว่างใจกลางอาคาร

พื้นที่สระว่ายน้ำจัดเป็นคอนเซ็ปท์สไตล์ Cabana Resort โดยข้างๆสระทำเป็น Pavillion โอบล้อมเอาไว้ รอบๆสระฝั่งที่ติดกับห้องพักมีการปลูกแนวพุ่มไม้และต้นไม้เพื่อเพิ่ม Privacy ให้แก่ทั้งลูกบ้านที่อยู่อาศัยและลูกบ้านที่ลงมาใช้งานส่วนสระ

พื้นที่ระเบียงขอบสระเป็นระแนงไม้ มี Pool Deck นอนอาบแดดอยู่ติดกับ Pavillion ที่นั่งและนอนหลบแดดอ่อนๆได้

โทนสีของอาคารที่นี่จะเน้นสีเทากลางๆเป็นหลักนะครับ แต่มีการโทนด้วยสีครีมทองและเทาเข้มไว้ด้วยเช่นกัน ทำให้ไม่ดูกลืนไปทั้งหมดทีเดียว รูปแบบของห้องพักที่นี่จะเป็น 1 Bedroom ทั้งหมด แต่มีหลายขนาด โดยขนาดที่ใหญ่สุดจะถูกวางเอาไว้ตามมุมอาคารและจะได้กระจกในห้องนอนเป็นแบบ Bay Window (เข้ามุม)

ต่อมาไปดูกันที่ส่วนของอาคาร B กันบ้าง ลักษณะทางเข้าการใช้งานก็จะเหมือนกัน

ช่องแสงเต็มบาน Floor to ceiling 3.5 – 4 เมตร และเป็น Panorama View 3 ด้าน เช่นเดียวกัน

มองจากโมเดลแนวตั้งลงมาก ผมใส่ให้ดูแล้วว่าตรงไหนเป็นอะไรบ้าง

โดยหัวใจหลักของ Facility ในอาคารด้าน B นี้ก็คงจะเป็นเจ้า Co-Working Space ที่โครงการเลือกมาแล้วว่า เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับวัยรุ่น คนทำงานยุคนี้ ที่เวลาเบื่อบรรยากาศการทำงานในห้องก็ลงมาใช้งานที่ตรงนี้ได้และเป็นส่วนตัวเฉพาะลูกบ้านด้วย

ภาพจำลองบรรยากาศพื้นที่ส่วนกลาง บริเวณ Co-Working Space ซึ่งจัดออกมาได้น่าใช้งานมาก นอกจากจะมีโต๊ะนั่งทำงาน อ่านหนังสือเยอะแล้ว ยังมีช่องแสงรอบด้านบวกกับเพดานสูง ทำให้ดูโปร่งโล่ง

คอนเซ็ปท์ของพื้นที่บริเวณนี้คือ Urban Idea Space ที่ให้พื้นที่ถึง 80 ตร.ม. ที่จะเป็นมุม Meeting, Working, Reading ที่ต้องการ “พื้นที่อย่างอิสระ” ที่ไม่ต้องออกไปร้านกาแฟนอกบ้านเสียทั้งเวลาเดินทางและค่าใช้จ่าย พื้นที่นี้ยังมีบริการ Wifi ให้ลูกบ้านใช้ได้ 24 ชม.ด้วย

การตกแต่งภายในจะเน้นใช้วัสดุจากธรรมชาติอย่างพื้นหินอ่อนสีขาว และสีเทา มีโต๊ะทำงานไม้เนื้อแข็งแท้ไซส์ใหญ่ รวมถึงชุดโซฟารองรับหลายที่นั่งเป็น Sunken Lounge สำหรับอ่านหนังสือ

ไฮไลท์อีกอย่างนึงที่แปลกและพิเศษของในห้องนี้คือ Self-Service Cafe (สังเกตตู้ 3 ตู้ทางขวามือในรูปนะครับ) เป็นตู้กดเครื่องดื่มและของว่างอัตโนมัติไว้ให้ลูกค้า(ลูกบ้าน)บริการตนเองได้เลย แบบอารมณ์นัดแขกมาคุยงานชั่วคราวจะเลี้ยงน้ำก็ตรงนี้แหละง่ายๆครับ

พอออกมาจากในอาคาร จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางซึ่งจัดเป็นสวนขนาดใหญ่ที่ถูกอาคารโอบล้อมเอาไว้

พื้นที่ตรงนี้ถูกเรียกว่า Urban Greenspace ที่มีพื้นที่กว่าร้อยตร.ม.แบบกึ่ง Outdoor ที่จะมีทางเดินปูพื้นให้ระหว่างภายในสวน

ภาพจำลองบรรยากาศพื้นที่ส่วนกลาง บริเวณในศาลาขนาดใหญ่ของพื้นที่ Urban Greenspace ซึ่งตกแต่งด้วยระแนงไม้โทนสีน้ำตาล โดยมีการติดพัดลมเพดานเพื่อช่วยให้อากาศถ่ายเทให้สะดวกเพิ่มขึ้น พร้อมสระน้ำประดับแบบน้ำล้น ทำให้เมื่อลมพัดผ่านแล้วอากาศจะเย็นสบาย อีกทั้งยังมีการวางชุดโซฟาแบบ Sunken Garden ที่ด้านหลังล้อมรอบไปด้วยต้นเฟิร์นต่างๆ

ภาพจำลองบรรยากาศภายนอกอาคาร ส่วนของบริเวณอาคาร B

Master Plan โครงการ รูปร่างของโครงการวางตัวเกือบคล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้งครับ ซึ่งส่วนของ Aspen Condo ลาซาล (เฟส B) จะมีแค่ 2 ตึกเท่านั้นคือ A และ B เป็นรูปทรงตัว U เหมือนกันทั้งคู่ มี Facilities ในอาคารชั้น 1 และส่วนของ Outdoor กลางแจ้งทั้งสองอาคารโดยทั้งสองอาคารสามารถใช้ส่วนกลางร่วมกันได้ทั้งหมดนะ / ส่วนของพื้นที่จอดรถจะมีแบบจอดกลางแจ้ง, จอดในอาคารชั้น 1 และจอดที่ชั้นใต้ดิน รวมทั้งหมดแล้วสามารถจอดได้ 35%(รวมจอดซ้อนคัน)

ทีนี้มาดูแปลของอาคาร A กันก่อน ซึ่งชั้นแรกจะเป็นส่วน Facility กับพื้นที่จอดรถในอาคาร ซึ่งส่วนกลางของอาคารนี้ก็จะมี Lobby, Fitness, Pool Deck area, สระว่ายน้ำผู้ใหญ่และแยกสระเด็ก / ลิฟท์โดยสารจะมี 2 ตัวนะครับ ไม่มี Service Lift มีอัตราส่วน 99:1

ขึ้นมาที่ชั้น 2 เริ่มเป็นส่วนของห้องพักอาศัยกันแล้วชั้นนี้มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 25 ยูนิต ส่วนของ Corridor (โถงทางเดิน) เป็นรูปตัว U ตามทรงอาคาร ซึ่งจะมีช่องแสงตามปลายอาคารส่องผ่านเข้ามาที่โถงทางเดิน แต่ด้วยที่ว่าลิฟท์อยู่อิงมาทางฝั่งขวาหน่อย ทำให้ใครอยู่ห้องฝั่งซ้ายอาจจะต้องเดินไกลสักนิด จะเห็นว่าที่มุมขวาล่างโครงการจะเสียพื้นที่ทำห้องพักไปเพราะยอมให้ที่ Lobby ชั้น 1 เป็น Double Volume สูงนั่นเอง

ที่ชั้น 3-8 จะเป็น Typical Plan ซึ่งเป็นห้องพักอาศัยเต็มชั้นมีจำนวน 29 ยูนิต ซึ่งก็เหมือนกับชั้นสองแหละครับ จะมีเพิ่มมา 4 ห้องที่ตำแหน่งขวาล่าง จากในแปลนเราจะเห็นว่าที่นี้จะเอาห้อง 1 Bed ขนาดใหญ่(สีเทา) เอาไว้ตามมุมของอาคาร เพราะห้องเหล่านี้จะได้หน้าต่างเข้ามุมที่ห้องนอนเพิ่มขึ้นมา

ส่วนแปลนของอาคาร B ที่ชั้นแรกจะแตกต่างกันที่การให้ของ Facility เริ่มจากในอาคารจะมีห้อง Co-Working Space มาให้ ออกมาด้านในกลางแจ้งจะเจอกับ GreenSpace สวนหย่อยกว่า 100 ตร.ม.พร้อมศาลานั่งพัก ทีนี้นอกจากชั้น 1 ขึ้นไปตั้งแต่ชั้น 2-8 เรียกว่าเหมือนกับอาคาร A ทุกประการเลยแค่กลับด้านเท่านั้นเอง

ปิดท้ายส่วนนี้กันด้วย VDO Presentation ของโครงการ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก 

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 20 x 8 เมตร และ แบ่งสระเด็ก (อาคาร A)
  • ห้องออกกำลังกายขนาด 70 ตร.ม. ใส่เครื่องออกกำลังกาย 11 เครื่องยี่ห้อ Queenex (อาคาร A)
  • Co-Working-Space 80 ตร.ม., เครื่อง Self-Service Cafe อัตโนมัติ (อาคาร B)
  • พื้นที่สวนหย่อม GreenSpace กว่าร้อยตร.ม. พร้อมศาลาพักผ่อน (อาคาร B)
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร ,  ไม่มี Service Lift
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 99 : 1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก B 99 : 1
  • ที่จอดรถ 121 คัน คิดเป็น 30% รวมจอดซ้อนคันคิดเพิ่มเป็น 35%
  • ระบบ CCTV / Access Card / รั้วไม้กั้นกระดก / Proxy Lift

 


Product Walkthrough

ห้องตัวอย่างแบบแรกที่จะพาไปดูคือแบบ A ที่นี่เป็น 1 Bedroom หมดนะครับ ต่างกันแค่ขนาด ซึ่งแบบ A นี้ขนาด 23.64 – 24.09 ตร.ม. รูปแบบฟังก์ชั่นนี้ เราจะพบเห็นกันบ่อย ซึ่งเป็นการแบ่งครึ่งๆของห้อง โดยฝั่งขวาจะเป็นส่วนของครัว รับประทานอาหาร เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น มีระเบียงออกไปภายนอกที่ใช้งานได้จริง ด้านหลังของโซฟา มีการกั้นฉากผนังด้วยประตูกระจกบานเลื่อนในส่วนของห้องนอนทำให้เป็นสัดส่วน เผื่อใครอยู่ 2 คน ต้องการแยกพื้นที่การใช้งานกันได้ และมีห้องน้ำในตัวห้องนอน

จุดเด่นของโครงการนี้อย่างที่บอกไปตอนแรก โครงการขายแบบ Fully Furnish ดังนี้

  • Fully Furnished (เฟอร์นิเจอร์ Built-In ทุกจุดตามในห้องตัวอย่าง)
  • แอร์ Samsung หรือเทียบเท่าจำนวน 2 เครื่อง
  • เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด ( TV-LED 40″, ตู้เย็น 6.5 คิว, ไมโครเวฟ, เครื่องทำน้ำอุ่น)
  • Digital Door Lock (Finger Scan) ของ Samsung
  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • Kitchen & Sink + Hob & Hood

ประตูทางเข้าห้นาตาแบบนี้ครับโทนลายไม้สีอ่อน ซึ่งกรอบบานทำมาจากไม้จริงและโครงด้านในเป็น Perticle Board

โดยที่นี้จะให้ Digital Door Lock (Finger Scan) ของ Samsung เป็นมาตรฐานทุกห้อง

เข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่ครัว เชื่อมกับห้องนั่งเล่นก่อน และได้ช่องแส่งส่องผ่านมาจากระเบียงและหน้าต่างห้องนอนได้ทั้งคู่ ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร / พื้นที่ห้องได้เป็นกระเบื้องไวนิลลายไม้ ซึ่งจะมีการดูแลทำความสะอาดและทนกว่าลามิเนทนิดหน่อย

มองย้อนกลับไปทางประตูทางเข้าครับ ทางขวามือถ้าตามในแปลนจริงๆแล้วมันคือมุมโต๊ะรับประทานอาหารนะ

มุมโต๊ะรับประทานอาหาร แบบ 2 ที่นั่งที่ขนาดใช้งานทานได้จริงๆแล้ว นอกจากนั้นเวลาเราเก็บโต๊ะ ยังใช้เป็นมุมโต๊ะนั่งทำงานอ่านหนังสือที่ตรงนี้ได้อีกด้วย

กลับหลังหันมาจะเจอกับส่วนของชุดเคาน์เตอร์ครัวหน้าตาแบบนี้ใช้งานพื้นที่ใช้สอยด้านบนและด้านล่างเต็มที่ ทางขวามือส่วนที่ชิดกับประตูจะเป็นพื้นที่วางตู้เย็นครับ

ผมลองเปิดห้นาบานชุตู้ครัวด้านบนให้ดูว่ามีการแบ่งช่องพื้นที่การใช้งานจัดเก็บได้แบบไหนครับ ซึ่งฟิตติ้งการเปิดปิดที่นี่ทุกบานจะเป็น Softing Close ด้วยนะ

Top ของครัวเป็นแกรนิตนะครับ ที่ผนังจะไม่ได้ติดกระเบื้องมาให้ ถ้าใครชอบทำอาหารก็หาติดเพิ่มเองเลยง่าย ส่วนของ Sink + Hob&Hood จะได้เป็นของ FRANKE

ชุดตู้ด้านล่าง มีแบ่งช่องเก็บช้อนส้อม และชุดตู้ใต้เคาน์เตอร์ รวมถึงได้อุปกรณ์ไฟฟ้าไมโครเวฟ (ตู้เย็นข้างๆด้วยนะ)

ถัดมาเป็นส่วนของ Living Area ที่อยู่ติดช่องแสง มีระยะดูทีวีประมาณ 1.8 เมตร กำลังดี ตำแหน่งของแอร์จะอยู่เหนือโซฟาตรงนี้พอดี

ชุดตู้ Built-In ที่โครงการให้มาเป็นชุดที่เชื่อมต่อมากับโซนชุดครัวลากยามาเป็นส่วนของตู้เก็บของ และพื้นที่ชั้นวางทีวีแบบนี้เลย ให้มาเยอะดีครับ หน้าบานจะเป็นลามิเนตโทนสีเทา

ติดกันจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนทางออกไประเบียงแบบนี้ เป็นธรณีกั้นขึ้นมาสูงประมาณ 10 ซม.(รวมวงกบ) เอาไว้กันส่วนของเวลาฝนสาดเข้ามาในห้อง

ให้ดูด้านนอกระเบียงที่เป็นส่วนของธรณีกั้น เวลาเดินเข้าออกก็ระวังนิดหน่อยนะครับ แต่การทำแบบนี้ทำความสะอาดระเบียงง่าย และก็ไม่ต้องกลัวฝนตกหนักๆและนำขังน้ำกระเด็นเข้าห้อง

พื้นที่ระเบียงถือว่าค่อนข้างกว้างนะครับ สำหรับรูปแบบของ 1 Bed ใช้งานได้ดี ทางซ้ายมีการแยกพื้นที่วางเครื่องซักผ้าเอาไว้ได้ และจะเอาคอมแอร์ 2 ตัวแชวนไว้ที่บนนี้ด้วย โดยจะมีส่วนของระแนงเหล็กปิดบังสายตาจากนอกอาคารเอาไว้ให้ดูเป็นสัดส่วน ที่ปลายทางจะเห็นว่าพื้นสโลปลงไปยังจุดเดรนระบายน้ำเอาไว้ด้วย

กลับมาในห้องส่วนทางขวามือโซฟาที่ได้เป็นแบบ 2 ที่นั่งแบบไม่มีที่วางแขน ซึ่งด้านหลังเราจะเห็นการกั้นฉากกับห้องนอนด้วยประตูกระจกบานใส

การกั้นพื้นที่ห้องนอนกับห้องนั่งเล่นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน แบบเต็มเพดานแบบนี้ทำให้ผู้อยู่อาศัยจะรู้สึกโปร่งโล่งสบาย ด้วยแสงที่ส่องผ่านกันได้ อีกทั้งเวลาไม่ใช้งานก็เปิดออกเพื่อให้พื้นที่เชื่อมถึงกัน

ระยะทางเดินตรงนี้ผ่านไปมา ก็โอเคนะ 1 เมตร พอดี

ส่วนของห้องนอนวางเตียงไซส์ 5 ฟุตเอาไว้ โดยเอาไปชิดใกล้กับผนังหน้าต่าง ซึ่งหน้าต่างช่องแสงได้ขนาดใหญ่พอสมควร เป็นบานกระทุ้งเปิดออกได้ 1 บาน(ขวาบน)

ระยะปลายเตียงจะค่อนข้างกระชั้นชิดแล้วนะครับ เหลือแค่พอเดินไปสำหรับจัดผ้าปูที่นอนได้เท่านั้น

หันกลับมาอีกฝั่งจะเป็นส่วนของพื้นที่ตู้เสื้อผ้า Built-In อยู่ใกล้กับทางเข้าห้องน้ำ

ฟังก์ชั่นการเก็บของเสื้อผ้า ด้านบน

ฟังก์ชั่นการเก็บของเสื้อผ้า ด้านล่าง เป็นลิ้นชัก มีการเซาะร่องเป็นตัวเกี่ยวในการเปิดปิด

เข้ามาดูในห้องน้ำก่อน ที่ผนังมีการกรุติดโมเสค และติดไฟซ่อนหลังกระจกเงาเอาไว้ ทำไว้สวยงามทีเดียว

ส่วนของชุดอ่างล้างมือจะได้เป็นของ Mogen มีชั้นวางรอบอ่างและใต้อ่างมาให้ ที่เหลือพวกก๊อกกับสุขภัณฑ์จะเป็น American Standard หรือเทียบเท่านะครับ ที่ด้านหลังมีการทำเป็น Low Wall เอาไว้วางของชิดกับผนังได้

ส่วนเปีกย ส่วนของพื้นที่อาบน้ำจะอยู่ทางขวามือ กั้นด้วยกระจก Templer นิรภัย มีธรณีกั้นสูงขึ้นมาประมาณ 10 ซม. พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 0.90 x 1.0 เมตร

จากมุมนี้จะเห็นว่าที่ผนังทีการเซาะร่องเอาไว้เป็นชั้นให้วางข้าวของเครื่องใช้จำเป็นตอนอาบน้ำได้เลย ไม่ต้องไปติด เจาะ เพิ่ม

รูปแบบของฝักบัวของ American Standard ปรับรูปแบบน้ำได้ครับ

ห้องตัวอย่างแบบถัดไป แบบ B ขนาด 26.31 – 26.97 ตร.ม. โดยรูปแบบฟังก์ชั่นเข้ามาจะเจอกับ Living ก่อน ซึ่งห้องแบบนี้จะได้ครัวปิดเป็นสัดส่วนนะครับ และอยู่ใกล้ระเบียงด้วย ผมว่าน่าจะเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารทานที่บ้านจริงจังด้วยนะ กลิ่นไม่ไปรบกวนส่วนอื่นๆในห้องและระบายอากาศได้ง่าย ส่วนของห้องนอนพื้นที่จะใหญ่กว่าห้องแรกหน่อยแต่การจะเข้าห้องน้ำก็ต้องมาผ่านห้องนอนนะ

เข้ามาถึงจะเจอกับ Living Area ก่อน ซึ่งจะมีการแจกทางส่วนซ้ายมือเป็นครัว ขวามือเป็นห้องนอน แต่ถ้าเปิดประตูไว้ ช่องแสงก็จะส่องผ่านถึงกัน

ทางขวามือของประตูจะเป็นส่วนของพื้นที่ชั้นวางทีวีและแอร์ด้านบน (ผนังของจริงจะเป็นฉาบเรียบและทาสีนะ) ห้องนี้ได้ชั้นวางของมาน้อยหน่อยนะ ทีวีเราจะได้แขวนผนังแบบนี้เอาไว้เลย

มุมนี้มองย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้า ถ้าอยากได้พื้นที่ใช้สอยเยอะๆ กั้นพวกเชลฟ์ชั้นวางแบบลอยตัวที่ผนังทางขวามือได้นะครับ จะได้คุ้มค่าพื้นที่ใช้สอยแนวตั้งกันหน่อย อ้อ.. ห้องนี้ระยะดูทีวี 2.50 เมตรนะ กว้างกว่าห้องที่แล้วพอสมควร

มุมวางโซฟา แบบ 2 ที่นั่ง ซึ่งด้านข้างจะเหลือพื้นที่พอสำหรับวางตู้โต๊ะข้างได้อีกหน่อยนึง

พื้นที่ครัวสามารถปิดแยกส่วนการใช้งานได้แบบนี้ โดยกั้นเป็นประตูกระจกใสบานเลื่อน 2 ตอนเอาไว้

รูปแบบการเลื่อนเปิดประตูครัว สามารถเลื่อนได้อย่างอิสระเปิดได้ทั้งสองฝั่งซ้ายและขวานะ

เข้ามาในพื้นที่ครัวแล้ว พวกชุดครัวนี่จะเหมือนกับห้อง A ที่พาไปดูก่อนหน้านี้เลย ไม่พูดถึงวัสดุซ้ำละกันครับ

ให้ดูอีกมุมนึงชัดๆ อ้อ ถ้าใครชอบทำอาหารให้เหมาะกับแปลนห้องที่ แนะนำหาติดกระเบื้องหรือกระจกที่ผนังเพิ่มเลยนะครับ เอาไว้เวลาทำความสะอาดจะได้ง่ายและสวยงามด้วย

ที่ตรงข้ามกับชุดครัว จะจัดวางเป็นชุดโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งเอาไว้แบบนี้ ผมลองดึงเก้าอี้ออกเสมือนจะใช้งาน ระยะก็ใช้งานได้อยู่นะ พอดีๆ

ที่ด้านนอกจะเป็นส่วนของประตู้กระจกบานเลื่อน 2 ตอน เพื่อให้แสงเชื่อมต่อผ่านมายังในห้องนั่งเล่นได้

รูปแบบของระเบียงคล้ายๆกันครับ กว้างประมาณ 90 ซม. แขวนคอมแอร์ด้านบน 2 ตัว

มีมุมวางเครื่องซักผ้า และก๊อกน้ำกับปลั๊กไฟที่มาฝาครอบกันน้ำมาให้มาตรฐาน

เดี๋ยวไปดูส่วนของห้องนอนกันบ้าง ห้องตัวอย่างไม่ได้ติดประตูมาให้ครับ

ในห้องนอนนี้จะมีขนาดที่ดี่กว่าห้องแบบ A นะ คือมีระยะเดินไปมาได้สะดวก โดยเตียงจะอยู่ใกล้กับหน้าต่างช่องแสงเหมือนกัน

ระยะทางเดินรอบๆเตียงต่างๆ เดินง่ายๆสบายครับ

รูปแบบหน้าต่างช่องแสง ขนาดใหญ่พอสมควร วงกบเป็นอลูมิเนียมสีเทาผิวด้าน

แอร์ในห้องที่เราจะได้มาตรฐานเป็นของ Samsung 2 ตัว ซึ่งตัวนึงอยู่ห้องนั่งเล่น และอีกตัวอยู่ห้องนอน

มองย้อนกลับมายังทางเข้าทางซ้ายมือจะเห็นส่วนตู้เสื้อผ้าอยู่หน้าทางเข้าห้องน้ำ

รูปแบบการเก็บของภายในตู้เสื้อผ้าเหมือนเดิมนะ

ภายในห้องน้ำ ขวามือเป็นส่วนของพื้นที่อ่างล้างมือ ติดกันจะเป็นทางเข้าส่วนของพื้นที่ส่วนเปียกอาบน้ำ

ตำแหน่งของสุขภัณฑ์เอามาวางไว้ทางซ้ายมือสุดตรงนี้ ด้านหลังวางของใช้ได้

พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 0.70 x 0.80 เมตร ค่อนข้างเล็กกว่าห้องที่แล้วนิดหน่อย แต่ก็ได้ส่วนของกระจกนิรภัยกั้นส่วนเปียกเอาไว้เหมือนกัน

ที่ผนังยังมีการเซาะร่องชั้นวางของใช้เอาไว้เหมือนกัน ผมว่าดีนะทำแบบนี้ ทำมาให้เลยได้ใช้งานแน่นอนตรงนี้

ห้องสุดท้ายที่เก็บภาพมาฝากเล็กๆน้อยนะครับ จะเป็นห้องแบบ 1 Bed ขนาดใหญ่ที่มักอยู่ตามมุมอาคารที่บอกเอาไว้ ห้องนี้คือแบบ C1 ขนาด 34.41 – 34.98 ตร.ม. ซึ่งห้องขนาดนี้สามารถอยู่ 2 คนได้ไม่อึดอัดนะ เหมาะสำหรับเริ่มต้นมีครอบครัว หรือชอบมีแขกหรือเพื่อนมาหาบ่อยๆ เพราะจะเน้นพื้นที่ Living Area ใหญ่หน่อยและเชื่อมต่อกับพื้นที่ทานอาหาราและครัวกันได้เลย จุดเด่นอีกอย่างก็คงเป็นห้องนอนที่อยู่ตำแหน่งมุม และได้หน้าต่าง Bay Window

เข้ามาจะเจอกับส่วนของ  Living Area ทางซ้ายมือ อยู่ติดกับระเบียง ส่วนทางขวามืออยู่ใกล้กับชุดโต๊ะรับประทานอาหาร

มุมเฟอร์นิเจอร์ Built-In ของห้อง Type C1 ที่โครงการจัดเต็มมาให้แบบนี้เลย ใช้งานการเก็บของได้เป็นสัดส่วน

พื้นที่ระเบียงที่อยู่ติดกับโซฟา

มุมโต๊ะรับประทานอาหารที่อยู่ติดกับครัวด้านหลัง และห้องน้ำห้องนอนอยู่ทางซ้ายมือ

รูปแบบชุดครัวจะเหมือนกับห้องก่อนๆ แต่ว่ามีพื้นที่ทางเดินในการเตรียมอาหารค่อนข้างกว้างสบายกว่า

รูปแบบภายในห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่กว่า บวกกับห้องน้ำห้องนี้มีติดหน้าต่างบานกระทุ้งเพิ่มเอาไว้ สามารถเป็นทั้งช่องแสงและเปิดออกระบายอากาศความชื้นได้

ภายในห้องนอนที่ได้ช่องแสงขนาดใหญ่กว่าห้องอื่นๆ และเป็น Bay Window (หน้าต่างเข้ามุม)

ห้องสุดท้ายมีแต่แปลนมาให้ดูนะครับ เป็น 1 Bed Type C2 โดยแบบนี้จะมีแค่ 1 ห้องต่อ 1 ชั้นเท่านั้น เป็นรูปแบบฟังก์ชั่นห้องที่ปรับให้ลูกบ้านสามารถต่อเติมเป็นห้องครัวปิดได้ แต่ก็ยังคงฟังก์ชั่นที่เน้นในส่วนของห้องนั่งเล่นเหมือนเดิมอยู่ดีครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 28 February 2017

  • 1 Bedroom Type A ขนาด 23.64 – 24.09 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.45 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Type B ขนาด 26.31 – 26.97 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.55 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Type C1 ขนาด 34.41 – 34.98 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.15 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Type C2 ขนาด 34.65 – 34.98 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.15 ล้านบาท
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.45 ล้านบาท หรือราคา 61,300 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 64,000 บาท/ตร.ม.

  • Fully Furnished (เฟอร์นิเจอร์ Built-In)
  • แอร์ Samsung หรือเทียบเท่าจำนวน 2 เครื่อง
  • เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด ( TV-LED 40″, ตู้เย็น 6.5 คิว, ไมโครเวฟ, เครื่องทำน้ำอุ่น)
  • Digital Door Lock (Finger Scan) ของ Samsung
  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • Kitchen & Sink + Hob & Hood

  • จอง 5,000 บาท (ทุกยูนิต)
  • ทำสัญญา 40,000 – 60,000 บาท (ภายใน 15 วันหลังจากวันจอง)
  • ดาวน์(รวมเงินจองและทำสัญญา) 12% ของราคาจะซื้อจะขาย
  • ดาวน์เป็นงวดปกติ 15 งวด (4,900 – 6,900 บาท)
  • ดาวน์เป็นงวดพิเศษ บอลลูน 3 งวด (16,000 – 45,000 บาท)
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.(ชำระครั้งเดียว)
  • ค่าส่วนกลาง 35 บาท/ตร.ม./เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
  • กรณีเปลี่ยนชื่อผู้จองก่อนเซ็นต์สัญญา มีค่าดำเนินการ 20,000 บาท (ยกเว้นบิดา มารดา คู่สมรส หรือทายาทโดยชอบธรรมตามกฎหมายหรือการรับมรดก), กรณีเปลี่ยนชื่อคู่สัญญา หลังเซ็นต์สัญญาแล้ว มีค่าดำเนินการ 5,000 บาท

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล – ตั้งอยู่ในซอยลาซาลที่เลยจากแยกศรีลาซาลเข้ามาประมาณ 400 เมตร อยู่ทางซ้ายมือและอยู่ตรงข้ามกับโรงพยาบาลศิครินทร์พอดี ในอดีตซอยลาซาลเป็นซอยตันที่เชื่อมกันเป็นเส้นเดียว ก่อนที่จะถูกถนนศรีนครินทร์มาตัดแยก (ที่แยกศรีลาซาล) ทำให้ซอยลาซาลถูกแยกออกเป็น 2 ฝั่ง มีความแตกต่างกันคือ ซอยลาซาลฝั่งซ้ายจะเป็นซอยทะลุเชื่อมถนนสุขุมวิทกับถนนศรีนครินทร์ มี ร.ร.นานาชาติบางกอกพัฒนากับร.ร.ลาซาล ตลาดสด คอนโดมิเนียม หลายแห่งตั้งอยู่แต่ก็จะมีการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่นมากกว่าซอยลาซาลฝั่งขวาที่เป็นซอยตันสั้นๆ ที่แม้ว่าจะมีคอนโด หมู่บ้าน และโรงพยาบาลตั้งอยู่เช่นกัน แต่มีจำนวนน้อยกว่า ทำให้ซอยฝั่งขวานี้การจราจรมีความหนาแน่นน้อยกว่า รถไม่ค่อยติด

การเดินทางโดยใช้รถ – ข้อดีของทำเลที่ตั้งโครงการ(ซอยลาซาลฝั่งขวา)อีกอย่างหนึ่งคือ การที่อิงกับถนนใหญ่อย่างศรีนครินทร์ และอยู่ในช่วงต้นๆของถนนศรีนครินทร์ที่แยกออกมาจากถนนบางนา – ตราด จะได้เปรียบในเรื่องของการเดินทางที่สามารถเข้าออกถนนบางนา – ตราด ได้ง่ายเลย ไม่ต้องใช้เวลารถติดบนเส้นศรีนครินทร์นานๆ ซึ่งเส้นนี้ขึ้นชื่อว่ารถติดมากทีเดียวในช่วงเวลาเร่งด่วน(เข้างาน-เลิกงาน)นะครับ ส่วนของการใช้ทางด่วนเข้าเมืองก็วิ่งไปทางแยกบางนานิดเดียว และยังมีส่วนของทางด่วนกาญจนาฯก็ระยะการใช้งานใกล้พอๆกัน สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของที่จอดรถ 35%(รวมจอดซ้อนคัน) เพราะเนื่องจากทำเลปัจจุบันตรงนี้ยังเหมาะสำหรับการใช้รถสะดวกแต่ให้ที่จอดรถน้อยไปหน่อย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – ถ้าใครนั่ง BTS มาลงแบริ่งบนถนนลาซาลตอนต้นก็มีพี่วินมาจอดรอรับอยู่แล้ว หรือทีเด็ดอีกอย่าง ในนซอยลาซาล จะมีอู่รถสองแถวอยู่ฝั่งขวามือ เป็นวินรถแดงที่ใหญ่กว่ารถสองแถวทั่วไป เป็นรถ 6 ล้อ และ บ้างทีก็เป็นรถ mini bus สีแดง วิ่งสุดซอยลาซาล 7 บาทตลอดสาย (นี่ก็ส่งถึงหน้าโครงการเลย ประหยัดดี) / นอกจากนั้นในซอยเองก็ยังมี Taxi วิ่งเข้ามาด้วยถึงแม้จะเป็นถนนซอยสั้นๆแต่เป็นช่วงที่มีชุมชนพักอาศัยและแหล่งงานพักอยู่พอสมควร / อนาคตมีส่วนของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองมาเสริม สถานีศรีลาซาลประมาณ 5-600 เมตร

วัสดุ – ให้ของมาแบบจัดเต็มมากตามราคาที่จ่าย ขายแบบFully Furnished (เฟอร์นิเจอร์ Built-In และลอยตัวทั้งหมดเหมือนในห้องตัวอย่าง), แอร์ Samsung หรือเทียบเท่าจำนวน 2 เครื่อง, เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด ( TV-LED 40″, ตู้เย็น 6.5 คิว, ไมโครเวฟ, เครื่องทำน้ำอุ่น), Digital Door Lock (Finger Scan) ของ Samsung, Kitchen & Sink + Hob & Hoodฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร, พื้นกระเบื้องยางไวนิล, โคมไฟดาวน์ไลท์

การออกแบบ – ตัวอาคารทำออกมาได้ทันสมัย เข้ากับ Concept ของโครงการ ที่เน้นกลุ่มคนทำงานในวัยเริ่มต้น การวางผังจัด Facility เอาไว้ด้านหน้าชั้นล่าง สามารถใช้เป็นที่พบปะเพื่อน พูดคุยทำงานได้ โดยไม่ต้องเข้าไปรบกวนความเป็นส่วนตัวที่ห้องพักอาศัย ห้องพักที่นี่จะเป็นแบบ 1 Bedroom ทั้งหมด แต่มีห้องมาให้เลือก มีให้เลือก 4 แบบ ซึ่งโดยรวมๆขนาดจะไม่ได้ต่างกันมากเท่าไร แต่ฟังก์ชั่นการใช้งานในห้องนี่แหละที่เอาไว้รองรับลูกค้าหลากความต้องการใช้งานที่เหมาะสมกับตนเองเลยมีมา 4 แบบ

สาธารณูปโภค – Facility ให้ถือว่าเยอะมากๆสำหรับคอนโด Low Rise ซึ่งที่นี้ให้พื้นที่ของชั้น 1 ทั้งหมด ทำเป็นส่วนกลางในอาคารและนอกอาคาร ได้แก่ สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 20 x 8 เมตร และ แบ่งสระเด็ก (อาคาร A), ห้องออกกำลังกายขนาด 70 ตร.ม. ใส่เครื่องออกกำลังกาย 11 เครื่องยี่ห้อ Queenex (อาคาร A) / Co-Working-Space 80 ตร.ม., เครื่อง Self-Service Cafe อัตโนมัติ (อาคาร B), พื้นที่สวนหย่อม GreenSpace กว่าร้อยตร.ม. พร้อมศาลาพักผ่อน (อาคาร B) ซึ่งทุกส่วนที่ให้มาทำออกมาได้น่าใช้งานมากๆ และค่าส่วนกลางถือว่าไม่แพงด้วย

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 64,000 บาท/ตร.ม., 28 February 2017

  • ทำเล 7.5/10 – ทำเลอยู่ในย่านชุมชนแหล่งงาน และพักอาศัย มีอาหารการกินในซอยและพื้นที่ใกล้ๆสะดวก
  • เดินทางด้วยรถ 7.25/10 – อยู่ใกล้ถนนหลักสองเส้นอย่างศรีนครินทร์และบางนาตราด แต่ที่จอดรถน้อยไปหน่อย
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – มีวินรถแดงรับส่งถึงต้นซอยฝั่งสุขุมวิท (BTS แบริ่ง) ตลอดเวลา, Taxi ผ่านบ่อย, อนาคตรถไฟฟ้าสีเหลือง
  • วัสดุ 8.5/10 – Fully Furnish ให้มาแบบเยอะดีจัดเต็ม หิ้วกระเป๋าพร้อมอยู่และของโอเคตามราคาที่จ่าย
  • แบบ 7.75/10 – หน้าตาอาคารออกแบบวางผังได้ดี มีตัวเลือกฟังก์ชั่นห้องได้ถึง 4 แบบ
  • สาธารณูปโภค 8.5/10 – ให้ค่อนข้างเยอะสำหรับ Low Rise ยกพื้นที่ชั้น 1 ทั้งหมด แถมจัดออกมาได้สวยมีคอนเซ็ปท์น่าใช้งาน

  • ECONOMY CLASS
  • 7.73 / 10.00

BOTTOM LINE

Aspen Condo ลาซาล (เฟส B) เหมาะสำหรับคนทำงานย่านลาซาล ศรีนครินทร์ บางนาตราด ที่หาบ้านใกล้แหล่งงาน เป็นคนใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก หรือจะได้รถไฟฟ้าก็พอได้ไม่ยาก อีกทั้งชอบโครงการที่มีพื้นที่ส่วนกลางสวยๆให้ใช้งานได้จริงจังไม่ต้องออกไปข้างนอก พร้อมหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ มีงบประมาณ 1.45 – 2.4 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 10,000 – 17,000 บาท/เดือน