เดี๋ยวนี้คอนโดติดรถไฟฟ้า เรียกว่าเป็นที่นิยมมากเพราะเหมาะกับชีวิตคนเมืองที่เร่ง รีบ ร้อน และต้องการความสะดวกสบายนะคะ คอนโดติดรถไฟฟ้าใจกลางเมืองสักที่ก็คงจะเป็นทำเลที่ใครหลายๆคนมองหา วันนี้เราจะพาไปชมทำเลคอนโดใกล้รถไฟฟ้า 5 โครงการใหม่ใจกลางเมือง Ashton จุฬา-สีลม, The Reserve พญาไท, Q สุขุมวิท, Noble 33 และ Diplomat 39 ซึ่งมีทั้งโครงการที่เปิดตัวไปบ้างแล้วและกำลังจะเปิดตัวเร็วๆนี้ เนื่องจากเป็นโครงการเกาะแนวรถไฟฟ้าเราก็จะพาไปเดินตามแนวรถไฟฟ้าดูทำเลพอเป็นน้ำจิ้มกันก่อนนะคะ^^
เริ่มตั้งแต่ MRT สถานีสามย่าน, BTS สถานีพญาไท-นานา-พร้อมพงษ์ ไปกันเลยยย Let’s Go!
แผนที่รวมของทั้ง 5 โครงการ จะเห็นได้ว่าเป็นทำเลที่อยู่ตามแนวรถไฟฟ้า MRT และ BTS มีทั้งที่ติดสถานีเลยและเดินเข้าซอยค่ะ ซึ่งเป็นทำเลที่สะดวกทั้งคนมีรถและไม่มีรถ ไล่ตั้งแต่โซนจุฬา-สามย่าน-สยาม-มาจนถึงถนนสายสุขุมวิท เลียบรถไฟฟ้าสายสีลมหรือสายสุขุมวิทซึ่งถือว่าเป็นโซนเมือง มีทั้งสถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิงต่างๆ ซึ่งก็จะตามมาด้วยการจราจรที่ติดขัด แต่บางโครงการก็แทนที่ได้ด้วยซอยต่างๆที่มีให้ลัดเลาะ และมีรถไฟฟ้าใกล้ๆ ที่ทำให้สามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆได้สะดวกขึ้นค่ะ
Ashton จุฬา-สีลม
พิกัด : 13.731102, 100.531009
มาเริ่มกันที่ Ashton จุฬา-สีลม เป็นโครงการจาก Ananda Development ตัวโครงการตั้งอยู่ติดกับถนนพระราม 4 ใกล้ MRT สถานีสามย่าน ซึ่งเดินออกมาได้ประมาณ 100 เมตร สำหรับรถสาธารณะรอบๆโครงการจะมีให้ครบเลยค่ะรถเมลล์ รถตุ๊กๆ แท็กซี่และพี่วิน ที่อยู่บริเวณหน้าวัดหัวลำโพงค่ะ
หากเดินทางด้วยรถยนต์สามารถ เข้า-ออกได้ 2 ทาง คือ เข้าทางถนนพระราม 4 ได้เลย และอีกทางคือจากถนนสุรวงศ์ ทะลุเข้าซอยหน้าวัดหัวลำโพง ซึ่งซอยนี้เป็นทาง One Way สามารถขับจากถนนสุรวงศ์ออกไปทางถนนพระราม4ได้เท่านั้น หากใครมาจากถนนสุรวงศ์ถ้าไม่ไปเข้าทางพระราม 4 ก็เข้าซอยหน้าวัดหัวลำโพงก็ได้ แต่ไม่รู้ว่าทางโครงการจะเปิดให้มีทางเข้าออกจากด้านนี้รึเปล่านะ ระยะจากถนนสุรวงศ์มาถึงโครงการก็ประมาณ 100 เมตร แต่ถ้าใครที่ขับรถมาจากสาทรแล้วขึ้นสะพานไทย-ญี่ปุ่น ทางลงจะอยู่เลยโครงการมาแล้วต้องไปอ้อมนิดหน่อย โดยเข้าถนนสี่พระยาแล้วเข้าซอยทรัพย์มาออกสุรวงศ์อีกที สำหรับคนที่ไม่อยากอ้อมก็วิ่งด้านล่างเอานะคะแต่รถอาจจะติดหน่อย
เนื่องจากโครงการอยู่ใกล้ๆกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงเป็นทำเลที่มีเด็กมหาลัยพลุกพล่าน มีแลนด์มาร์กเป็นตึกจามจุรีสแควร์อยู่เยื้องๆกันกับโครงการ ซึ่งมีทั้งที่เรียนพิเศษ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และแหล่งชอปปิ้งของน้องๆนักศึกษา ใครจะไปเดินเล่นสยามหน้าตึกก็มีป้ายรถเมลล์นั่งไปนิดเดียวถึง ย้อนกลับมาฝั่งโครงการมีวัดหัวลำโพงซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนแถวนี้ หน้าวัดก็มีอาหารรถเข็น แผงลอยให้เลือกซื้อกินบ้างประปราย มี Too Fast To Sleep ร้านกาแฟชิกๆของเด็กแถวนี้ เปิดตลอด 24 ชม.
ส่วนใครอยากกินอาหารญี่ปุ่น ก็มีให้เลือกเยอะแถมเดินไม่ไกลด้วยแค่เดินไปด้านหลังโครงการออกถนนสุรวงศ์ ซึ่งเป็นย่านคนญี่ปุ่น มีร้านอาหารญี่ปุ่นเยอะมากกกก คอซูชิ ซาซิมิคงถูกใจ ส่วนร้านอาหารอื่นๆก็มีทั้งร้านริมฟุตบาท ร้านลมธรรมชาติ และร้านห้องแอร์ นอกจากนี้ยังมีซอยธนิยะซึ่งเป็นสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่เน้นให้บริการนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและยังมีอาหารญี่ปุ่นให้เลือกหลายร้าน ไม่ไกลกันก็มีซอยพัฒน์พงษ์ที่เป็นย่านบังเทิงยามราตรีของคนชอบเที่ยว
จาก MRT สามย่าน เราจะพาเดินเลียบไปบนถนนพระราม4 ผ่านสี่แยกอังรีดูนังต์ เลี้ยวขวาเลียบเข้าทางถนนสุรวงศ์ เดินไปเรื่อยๆเข้าซอยหน้าวัดหัวลำโพง เพื่อไปเจอทางเข้าโครงการอีกทางหนึ่ง และทะลุออกถนนพระราม4 ค่ะ
เราจะเดินจากรถไฟฟ้าไปโครงการกันนะคะ เริ่มออกจากMRTสถานีสามย่าน ประตู 1 ด้านวัดหัวลำโพงค่ะ
มองไปฝั่งตรงข้ามจะเป็นจามจุรีสแควร์ กับทางออกรถไฟฟ้าใต้ดินอีกทางหนึ่งค่ะ
ออกมาจากสถานีมองไปทางซ้ายมือ จะเป็นสี่แยกสามย่านค่ะ มีรถแท็กซี่และมีรถเมลล์วิ่งผ่านหลายสาย แต่เราจะเดินไปทางโครงการซึ่งเป็นทางขวามือค่ะ
เจอทางเข้าวัดหัวลำโพง ซึ่งมีคนเข้าออกตลอดเพราะเป็นวัดใหญ่
มีท่าจอดเทียบรถตุ๊กๆ
ถัดมาเป็นทางเข้าวัดหัวลำโพงอีกประตูอยู่ไม่ไกลกันค่ะ ประตูนี้จะมีแผงลอยดอกไม้ไหว้พระ ลูกชิ้น ขนม น้ำอัดลมขาย
พี่วินก็มีรอรับค่ะ แก๊งค์ใหญ่ทีเดียว
อัตราค่าโดยสารรถจักรยานยนต์ และหน้าตาพี่วินผู้ขับขี่(มีคาราบาวด้วยแน่ะ^^)
มองจากหน้าวัดหัวลำโพง ถนนกว้าง 4 เลน ค่ะ ข้างหน้าเห็นสะพานมิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น และสะพานข้ามแยกอังรีดูนังต์
มีป้าย ThinkofLiving เอ้ย^^ มีท่าปล่อยรถเมลล์สาย 45 สำโรง – ท่าน้ำสี่พระยา เป็นรถเมลล์ฟรีเพื่อประชาชนนะคะ
เลยมาหน่อยที่จอดจักรยานสำหรับนักปั่น
ตรงนี้มองเห็น Too Fast To Sleep ร้านกาแฟ เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงค่ะ ส่วนใหญ่น้องๆมหาวิทยาลัยจะมานั่งทำงาน(วิวดี555) อ่านหนังสือ ใกล้ๆกันมีที่จอดรถยนต์ให้บริการ สำหรับคนมาใช้รถไฟฟ้าค่ะ
แต่ห้ามจอดเกิน 01.00 น.ไม่งั้นโดนปรับค่ะ ป้ายรถเมลล์ก็มีค่ะอยู่ใกล้ๆกับโครงการเลย นี่ไง…เราเริ่มเห็นแล้ว ป้ายโครงการ Ashton Chula-Silomมองจากป้ายรถเมลล์ จะเห็นว่าขอบเขตโครงการติดกับ Too Fast To Sleep เลยค่ะและถ้ามองที่ถนน จะเห็นว่ามีทางลงสะพานตรงหน้าโครงการ ถ้าใครขับรถมาจากคลองเตยจะลงสะพานตรงนี้ ซึ่งทางลงอยู่ตรงข้ามโครงการเลยค่ะ ดังนั้น จะต้องไปยูเทิร์นรถ2 รอบถึงจะเข้าโครงการได้ถึงแล้ว Ashton จุฬา-สีลม จะเห็นได้ว่าโครงการเพิ่งปรับพื้นที่ค่ะมองตรงไปจากหน้าโครงการ จะเห็นโรงแรมมณเฑียรและโรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพหันหน้าออกจากโครงการ ทางซ้ายมือเป็นโรงแรมมณเฑียรเช่นกันค่ะ จะเห็นได้ว่าถ้าคอนโดสร้างเสร็จ คนที่อยู่ในด้านทิศนี้ต้องจ้ะเอ๋กับคนในโรงแรมแน่นอน เพราะตึกสูงเหมือนกันประมาณ 18 ชั้น ต้องรอดูว่าทางโครงการจะเอาชั้นที่พักอาศัยเริ่มที่ชั้นเท่าไหร่มุมมองจากด้านในโครงการไปด้านหน้าที่ติดถนนพระราม4 ด้านข้างเป็นอาคารเก่าที่กำลังทุบอยู่เพื่อทำเป็นคอนโดค่ะ และมองไปจะเห็นตึก อาคารสำนักงานของจามจุรีเดินต่อไปหน้าโครงการเป็นถนนฟุตบาทไม่กว้างมาก
มีร้านขายเสื้อผ้าให้สาวๆช้อปปิ้ง
ถัดไปเป็นสถาบันภาษาและวัฒนธรรมปวโรฬารวิทยา
ซึ่งถ้ามองเข้าไป ข้างโรงเรียนปวโรฬารวิทยาจะเป็นซอย ซึ่งซอยนี้สามารถทะลุไปถนนสุรวงศ์ที่อยู่ด้านหลังได้ค่ะ
ถัดจากซอยก็เป็นโรงแรมออร์คิด
แถวนี้มีโรงแรมที่พักเยอะค่ะ ติดกันหลายที่เลย เพราะเป็นย่านใจกลางเมืองและแหล่งท่องเที่ยวทำให้มีชาวต่างชาติมาอาศัยกันเยอะ
ตรงไปเป็นสี่แยกค่ะ
หัวมุมที่สี่แยก ฝั่งตรงข้ามเป็นทางม้าลายเดินไปถนนอังรีดูนังต์
แยกนี้เลี้ยวซ้ายไปถนนอังรีดูนังต์ ตรงไปเป็นถนนพระรามที่ 4 และเลี้ยวขวาจะไปถนนสุรวงศ์ค่ะ
เราจะพาเดินเลี้ยวขวาเข้าถนนสุรวงศ์ค่ะ จะเห็นว่าฝั่งตรงข้ามมีร้านบาร์บีคิวตรงหัวมุม และมีร้าน Jim Thompson ที่อยู่ติดกัน
เดินเลียบฟุตบาทไปก็จะเจอร้านขายของ ร้านอาหารเต็มสองข้างทาง
เดินตรงไปเรื่อยๆเจอซอยฝั่งตรงข้ามเป็นซอยธนิยะ ซึ่งเป็นซอยที่มีแต่ร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่เต็มไปหมดเลย เพราะเป็นย่านที่ชาวต่างชาติมาเที่ยวกันเยอะโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ยิ่งช่วงกลางคืนก็เป็นสถานบันเทิงที่คึกคักค่ะ
แต่ละร้านก็พยายามตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นกันอย่างเต็มที่
ซอยนี้เป็นซอยย่อยเล็กๆที่ทะลุไปออกพระราม 4 ได้ ภายในซอยจะเป็นสถานบันเทิง ขึ้นป้ายภาษาอังกฤษกับภาษาญี่ปุ่น รองรับนักท่องเที่ยว กลางคืนน่าจะคึกคักน่าดูเลยละค่ะ
เดินต่อมาอีกหน่อยจะเป็นโรงแรมมณเฑียรพลาซ่า ซึ่งจะมีร้านค้ามากมายหลายประเภทมาเปิดให้ช้อปปิ้งกัน
ลักษณะตัวอาคารจะมีสถาปัตยกรรมเป็นแบบไทยๆ เพื่อเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวค่ะ ในซอยของโรงแรมมณเฑียรนี้สามารถจอดรถได้ค่ะ มีที่จอดรถให้บริการ
แต่มีการเก็บค่าบริการนะคะ จอดนานน่าจะไม่คุ้ม
ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านอาหารเต็มริมฟุตบาท ราคาคนไทยสบายๆกระเป๋าค่ะ
ก่อนถึงซอยที่ทะลุไปหน้าวัดหัวลำโพงจะเจออาคาร C.C.T ที่มีธนาคาร TMB อยู่ด้านใน
ถัดไปเป็น 7eleven ซึ่งอยู่หน้าซอยหน้าวัดหัวลำโพง ซึ่งซอยนี้จะสามารถทะลุเข้าไปยังพื้นที่โครงการ Ashton จุฬา-สีลม ได้ค่ะ
หน้าซอยมีข้าวมันไก่ ซึ่งจะมีก๊วยจั๊บ หมี่พะโล้ ยำไก่แซ่บให้เลือกทานด้วย กลางวันคนแน่นมาก รสชาติดีใช้ได้ ส่วนใหญ่เป็นพนักงานออฟฟิศลงมาทานค่ะ นอกจากนี้ยังมีวินมอเตอร์ไซค์เข้าซอย และร้านเย็บผ้าค่ะ
ค่าบริการพี่วินหน้าซอยค่ะ
มองออกไปฝั่งตรงข้าม เยื้องๆกันมีแฟมิลี่มาร์ทค่ะ มีป้ายบอกทางเข้า Rose Hotel อยู่ข้างในซอย
เลยไปหน่อยเป็นโรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพ
กลับมายืนหน้าซอยจะเห็นมุมนี้ค่ะ ขวามือเป็นร้านข้าวมันไก่ที่เห็นตรงหัวมุม ซ้ายมือเป็นร้านรับเย็บผ้าค่ะ
เขยิบเข้าซอยมาอีกนิด ถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นมณเฑียรพลาซ่า ซึ่งมีโรงแรมมณเฑียร และตรงไปจะเป็น ROSE HOTEL แถวนี้เต็มไปด้วยโรงแรมจริงๆค่ะ ซึ่งเราจะตรงเข้าไปข้างๆโรงแรม ROSE HOTEL ค่ะ
ซอยนี้เป็นซอยเล็กๆค่ะ แต่ก็มีร้านเล็กๆตั้งของขายอยู่ด้วยเช่นกัน ถนนเส้นนี้เป็น One way ขับเข้าได้จากด้านถนนสุรวงศ์เท่านั้น
เดินมาเรื่อยๆจะเจอพื้นที่ของโครงการอยู่ด้านขวามือ หน้าทางเข้าเป็นป้ายอาบอบนวดเก่าค่ะ… เราเข้าทางนั้นเลยค่ะ 555
มองเข้ามาก็จะเจอตึกอาบอบนวดเก่าและอาคารที่กลายเป็นเศษซากอารยธรรมไปแล้ว ตอนนี้โครงการกำลังอยู่ในช่วงทุบตึกและปรับพื้นที่ มุมมองรอบด้านก็จะเหมือนกับที่เราได้พาชมไปเบื้องต้น เดี๋ยวเราไปเซอร์เวย์สถานที่ใกล้เคียงกันต่อเลยนะคะ
ถ้ามองออกมาจากโครงการก็จะเห็นทาวเฮาท์บ้านพักอาศัย และที่จอดรถค่ะ จากลักษณะของชิ้นที่ดินแบบนี้ต้องรอดูว่าโครงการจะทำทางเข้าออกเป็น 2 ทางรึเปล่าหรือจะให้เข้าจาก พระราม 4 อย่างเดียว
เดินตรงออกไปมีบ้านคน และร้านค้าร้านเล็กๆ ขายอาหารของกินอยู่ไม่ขาดสาย
มีร้านขายของชำ เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ น้ำดื่มหยอดเหรียญ ร้านตัดผมท่านชาย เอาไว้รองรับชุมชนที่อาศัยอยู่แถวๆนี้ค่ะ
มีร้านขายอาหารอยู่หัวมุมซึ่งมีซอยแยกไปทะลุโรงเรียนพุทธจักรวิทยา บริเวณนี้น่าจะวุ่นวายหน่อยในช่วงเช้าเย็น โรงเรียนเข้าและเลิกของเด็ก ไม่แปลกที่มีของกินเต็มริมสองข้างทาง
นี่ก็มีหัวปลาหม้อไฟ และมีอาหารตามสั่ง…นะจ๊ะ
เดินต่อไป จะทะลุมาสู่ลานจอดรถของ MRT ที่เราเดินเคยเดินผ่านไปค่ะ ส่วนข้างหน้าก็จะเป็นถนนพระราม4 ค่ะ
ต่อมาเราพาข้ามฝั่งมารอดใต้สถานี MRT มาทางฝั่งจามจุรีสแควร์กันบ้าง จะเห็นว่าด้านหลังสถานี ตึกสีขาวๆนั้นคือจามจุรีแควร์ และตึกสีฟ้าๆนั่นคือตึกออฟฟิศ DTAC มีทั้ง Residential Commercial และ Office Building
มีลานติดถนนเป็นลานกว้าง ข้างหน้าเป็นป้ายรถเมลล์ จุดรอแท็กซี่หรือรอรับคน
ช่วงกลางวันแดดร้อนๆก็สามารถรอรถได้โดยอาศัยร่มเงาธรรมชาติ ..แบบในรูปเลยค่ะ
ด้านข้างของสถานีมีโครงการจักรยานสาธารณะ ของกรุงเทพมหานคร ถ้าใครไม่อยากเอารถออกมาติดและต้องการเดินทางแบบไม่ไกลมาก สามารถปั่นจักรยานไปได้ และยังได้สุขภาพที่ดีอีกด้วย
มองไปฝั่งตรงข้ามของจตุรัสจามจุรี เห็นองค์พระพิฆเนศ ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของคนในย่านนี้
และฝั่งตรงข้ามที่เราเห็นไกลๆคือ ตลาดสามย่านเก่า ที่กำลังจะมีการพัฒนาที่ดิน
แบบแผนพัฒนาพื้นที่บริเวณตลาดสามย่านเก่าค่ะ
ปิดท้ายด้วยภาพมุมสูงจากตึกจามจุรีสแควร์ มองไปยังโครงการ ซึ่งโครงการเราจะถูกขนาบด้วย โรงแรมมณเฑียรและเลอ เมอริเดียน กรุงเทพ มุมมองที่จะเห็นจะถูกขนาบข้างด้วยตึก กับมองลงมาเป็นวิววัด
สรุป : ทำเลของโครงการ Ashton จุฬา-สีลม ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์ในด้านอาหารการกิน สถานบันเทิง ช้อปปิ้ง การศึกษาครบ มีวัดหัวลำโพงอยู่ใกล้ๆ สามารถเดินไปทำบุญได้สบายๆ รวมทั้งการเดินทางใกล้ MRT สามย่านเพียงไม่กี่ร้อยเมตร ที่ถือว่าสะดวกมาก นอกจากนี้ยังมีขนส่งสาธารณะอื่นๆทั้งรถเมลล์ แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซด์ รถตุ๊กๆ อีกทั้งยังเป็นย่านของชาวต่างชาติและคนญี่ปุ่นที่มีอาหารการกินหลากหลาย ข้อดีหลักๆคงเป็นเรื่องของทำเลที่ใกล้แหล่งความเจริญทั้งหลายแหล่ไม่ว่าจะเป็น สยาม สีลม สาทร แต่ข้อเสียของการไปสยามคือต้องไปต่อรถไฟฟ้า BTS อีกทีซึ่งก็ดูอ้อมไปหน่อยแต่ถ้าใช้รถก็ถือว่าใกล้อยู่แต่รถจะติดมากเป็นธรรมดา
ซึ่งที่สุดแล้วอาจจะต้องเปรียบเทียบความคุ้มค่ากับราคา อีกเรื่องคือวิวหรือมุมมองจากตึกที่มองออกมาแล้วจะอึดอัดหรือเสียความเป็นส่วนตัวจากสภาพแวดล้อมรอบๆข้างแค่ไหน เพราะถูกขนาบด้วยตึกจากหลายๆด้านและอีกฝั่งก็ใกล้วัด จะต้องมีเสียงจากการประกอบพิธีต่างๆมาแน่นอน วิวของจริงคงต้องรอดูกันเมื่อโครงการเสร็จสิ้นค่ะ แต่สำหรับคนที่ต้องการใช้ชีวิตอยู่ในย่านนี้อยู่แล้วและไม่ค่อยกังวลกับวิวรอบๆด้านก็ถือว่าเป็นย่านที่มีทำเลดีมากที่หนึ่งค่ะ
รอติดตามรีวิวทำเลอีก 4 โครงการ The Reserve พญาไท, Qนานา-สุขุมวิท 4, Noble 33 และ Diplomat39 ได้ในรีวิวฉบับหน้านะคะ ^^