
ถ้าเราจะหาคอนโดโซนรามอินทราสักหนึ่งแห่ง เราจะคำนึงถึงอะไรเป็นหลักบ้างคะ เราเชื่อว่าหลายๆคนคงมองหาที่พักอาศัยที่เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก ซึ่งการเดินทางสมัยนี้มีหลากหลายทางให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นขนส่งสาธารณะและรถยนต์ส่วนตัว เราจึงต้องเลือกคอนโดให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเราค่ะ วันนี้เราจึงอาสาพาทุกคนมาดู 3 คอนโดทั้ง Low Rise และ High Rise ที่จะสร้างเสร็จในปลายปี 2568-2569 ย่านรามอินทรา ใกล้ทางด่วนและรถไฟฟ้า ซึ่ง 3 โครงการที่เรากำลังจะพาไปชมคือ
แม้ว่า 3 โครงการนี้จะตั้งอยู่บนทำเลที่ใกล้เคียงกันมี แต่ก็มีรายละเอียดที่ต่างกัน ครั้งนี้เราจึงอยากเปรียบเทียบจุดเด่นแต่ละโครงการ โดยที่เราจะขอแบ่ง Part หลักๆดังนี้
- ทำเลที่ตั้ง
- ส่วนกลาง
- รูปแบบห้องและราคา
- สรุป
ข้อมูลโครงการ
ข้อมูลโครงการ ณ วันที่ 21 พฤษภาคม 2568
ชื่อโครงการ | Chewathai Hallmark Ekkamai-Raminthra (ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค เอกมัย-รามอินทรา) | Landmark @ Grand Station (แลนด์มาร์ค แอท แกรนด์ สเตชั่น) | Klos Ramintra-Fashion (โคลส รามอินทรา-แฟชั่น) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท ชีวาทัย เอสเตท จำกัด | บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) | บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนนวลจันทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร | ถนนรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร | ซอยรามอินทรา99 แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร |
ที่ดิน | 4-2-6.8 ไร่ | 4-1-14 ไร่ | 0-3-74 ไร่ |
ประเภทคอนโด | Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร | High Rise 23 ชั้น อาคาร | Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร |
จำนวนยูนิต | 413 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต | 988 ยูนิต / ร้านค้า 12 ยูนิต / ออฟฟิศ 3 ยูนิต | 150 ยูนิต |
ที่จอดรถ | 153 คัน คิดเป็น 37% | 377 คัน คิดเป็น 37% แบ่งเป็นที่จอดแบบ Automatic Parking 269 คัน และที่จอดแบบปกติ 108 คัน | 54 คัน คิดเป็น 36% |
สถานะ | คาดว่าแล้วเสร็จเดือนธันวาคมปี 2568 | คาดว่าแล้วเสร็จปี 2569 | คาดว่าแล้วเสร็จปี 2569 |
ประเภทห้องพัก |
|
|
|
ราคา | 2.19 ล้านบาท | 2.9 ล้านบาท | 2.39 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 81,000 บาท/ตร.ม. | ประมาณ 110,000 บาท/ตร.ม. | ประมาณ 110,000 บาท/ตร.ม. |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ | คลิกที่นี่ | คลิกที่นี่ |
Call Center | 1260 กด 23 | 1306 | 1520 |
ทำเลที่ตั้ง
ทำเล Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา / Landmark @ Grand Station / Klos รามอินทรา-แฟชั่น
ย่านรามอินทราเป็นโซนที่มีความเจริญอย่างต่อเนื่องและคึกคักมากทีเดียวค่ะ เพราะมีแหล่งความอุดมสมบูรณ์หลายแห่ง ทั้งห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่างแฟชั่นไอส์แลนด์, เดอะพรอมานาด, เซ็นทรัลอีสต์วิลล์ รวมถึง Community Mall อย่าง คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) ทำให้ผู้คนที่อาศัยโซนนี้หาของกินของใช้ได้สะดวกมากๆ ยิ่งไปกว่านั้นโซนรามอินทรายังมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูวิ่งผ่านอีกด้วย เราสามารถใช้เดินทางไปยังโซนมีนบุรี , แจ้งวัฒนะและแครายได้ และในปี 2570 จะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มเปิดให้บริการเพิ่มด้วยนะ แม้ว่าคอนโดเหล่านี้จะอยู่ในย่านเดียวกัน แต่ทั้ง 3 โครงการก็มีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันออกไป
การเข้าถึงแหล่งความอุดมสมบูรณ์
ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ต้องยกให้โครงการ Klos รามอินทรา-แฟชั่น เพราะอยู่ติดกับห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ สามารถเดินไปได้ในระยะประมาณ 150 เมตร หรือใครกลับจากที่ทำงานก็แวะซื้อข้าวของได้ไม่ยากเพราะเป็นทางผ่านก่อนถึงโครงการอยู่แล้วค่ะ ส่วน Landmark @ Grand Station จะอยู่ห่างจากตัวห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ไปสักหน่อย ถ้าขับรถจะห่างประมาณ 2.8 กิโลเมตรค่ะ แต่ถ้าเดินเท้าก็สามารถมาช้อปปิ้งได้ในระยะ 900 เมตร และสุดท้ายคือ Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา จะอิงมาทางฝั่งลาดพร้าวมากที่สุดทำให้ใกล้กับเซ็นทรัลอีสต์วิลล์และคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) มากกว่า นอกจากนี้ยังใกล้ตลาดนัดต่างๆ เช่น ตลาดนัดเลียบด่วน , ตลาดปัฐวิกรณ์มากที่สุดใน 3 โครงการด้วยนะ ทำให้คนที่อยู่โครงการนี้มีทางเลือกที่หลากหลายในการจับจ่ายใช้สอยค่ะ
การเดินทางโดยใช้รถไฟฟ้า
Klos รามอินทรา-แฟชั่นอยู่ใกล้กับ MRT สายสีชมพู สถานีวงแหวนรามอินทราประมาณ 150 เมตรเท่านั้น สะดวกในการเดินทางไปไหนมาไหน จึงเหมาะกับคนที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นประจำค่ะ ใครที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นประจำ เหมาะกับโครงการนี้ที่สุดเลยนะ ส่วนโครงการ Landmark @ Grand Station ที่อยู่เยื้องๆกับห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ ก็สามารถเดินไปประมาณ 900 เมตร เพื่อขึ้นรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีวงแหวนรามอินทราได้เช่นกัน หรือใครไม่อยากเดิน กลัวร้อนจะเรียกรถไฟขึ้นรถไฟฟ้าก็ได้เช่นกัน ส่วน Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา จะมีสถานีคู้บอนที่ห่างออกไป 4 กิโลเมตร สามารถเรียกรถหรือให้สมาชิกในบ้านออกไปส่งเพื่อขึ้นรถไฟฟ้าได้
การเดินทางโดยใช้รถยนต์
Klos รามอินทรา-แฟชั่น อยู่ในรามอินทรา 99 ห่างจากถนนใหญ่อย่างรามอินทราแค่ 30 เมตร ส่วน Landmark @ Grand Station อยู่ติดถนนรัชดา-รามอินทราฝั่งเข้าถนนรามอินทรา ซึ่งห่างกันประมาณ 300 เมตร ทั้ง 2โครงการนี้จะใกล้กับวงแหวนกาญจนาภิเษกประมาณ 2-2.5 กิโลเมตร ใช้เดินทางรอบเมืองไปโซนปทุมธานีและสุวรรณภูมิได้ ส่วน Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา ตั้งอยู่ติดถนนนวลจันทร์ เข้าออกไป 2 ทางคือ จากถนนรัชดา-รามอินทราที่ห่างจากโครงการเพียง 100 เมตรและถนนประเสริฐมนูกิจที่ห่างออกไป 600 เมตร ที่สำคัญคือโครงการนี้อยู่ระหว่างทางด่วน 2 เส้น ไม่ว่าจะเป็นทางด่วนฉลองรัชที่ห่างจากโครงการประมาณ 2.5 กิโลเมตร ใช้เดินทางเข้าเมืองไปโซนสุขุมวิท , พัฒนาการได้ และวงแหวนกาญจนาภิเษกประมาณ 6.5 กิโลเมตร ใช้เดินทางไปรอบๆเมืองไปสุวรรณภูมิได้ โครงการนี้จึงเหมาะกับคนที่ใช้รถยนต์เป็นหลักมากกว่าโครงการอื่นๆ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบ
Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา
- ระยะห่างรถไฟฟ้าสถานีคู้บอน ~ 4.0 กิโลเมตร
- ระยะห่างทางด่วนฉลองรัช ~ 2.5 กิโลเมตร
- ระยะห่างวงแหวนกาญจนาภิเษก ~ 6.5 กิโลเมตร
- ระยะห่างเซ็นทรัลอีสต์วิลล์ ~ 5.0 กิโลเมตร
Landmark @ Grand Station
- ระยะห่างรถไฟฟ้าสถานีวงแหวนรามอินทรา ~ 900 เมตร
- ระยะห่างวงแหวนกาญจนาภิเษก ~ 2.1 กิโลเมตร
- ระยะห่างแฟชั่นไอส์แลนด์ ~ 900 เมตร
Klos รามอินทรา-แฟชั่น
- ระยะห่างรถไฟฟ้าสถานีวงแหวนรามอินทรา ~ 150 เมตร
- ระยะห่างวงแหวนกาญจนาภิเษก ~ 2.5 กิโลเมตร
- ระยะห่างแฟชั่นไอส์แลนด์ ~ 150 เมตร
รายละเอียดโครงการ
ทั้ง 3 โครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยอาคาร Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา จะเสร็จปลายปี 2568 นี่เองค่ะ ส่วน Landmark @ Grand Station กับ Klos รามอินทรา-แฟชั่นจะเสร็จในปี 2569 เหมาะกับคนที่ไม่รีบร้อนในการเข้าอยู่อาศัยนะ แต่ละโครงการจะมีส่วนกลางอะไรน่าสนใจบ้าง เราจะพาทุกคนมาเจาะลึกข้อมูลส่วนกลางกัน เพื่อจะได้รู้กันว่าโครงการไหนตอบโจทย์ใครบ้าง
เราอาจจะเคยชินกับการเห็นว่าคอนโด High Rise จะมี Facility หลากหลายกว่าคอนโด Low Rise ใช่ไหมคะ แต่ต้องบอกว่ามันอาจไม่เป็นแบบนั้นเสมอไป อย่างโครงการทั้ง 3 แห่งนี้ จะมี Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา , Klos รามอินทรา-แฟชั่น ที่เป็นคอนโด Low Rise แต่มีฟังก์ชันส่วนกลางหลากหลายกว่าคอนโด High Rise อย่าง Landmark @ Grand Station เสียอีกค่ะ
Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา จะรวมส่วนกลางทั้งหมดไว้ที่ชั้นหนึ่ง โดยโครงการนี้จะมี ฟังก์ชันส่วนกลางมากกว่าโครงการอื่นๆ ซึ่งโครงการจะมีอาคาร Clubhouse แยกออกมาโดยเฉพาะ เพื่อรองรับ Main Facility อย่างสระว่ายน้ำและ Fitness ส่วนฟังก์ชันอื่นๆจะอยู่ที่อาคาร A เป็นหลัก มีแต่ Lobby ที่จะแยกกันเป็น 2 อาคาร
Landmark @ Grand Station เป็นโครงการ Mix Use แบ่งฟังก์ชันโรงแรมกับคอนโดอย่างชัดเจน ทำให้ลูกบ้านคอนโดและแขกของโรงเเรมไม่รบกวนกัน โครงการนี้มีฟังก์ชันส่วนกลางตามมาตรฐาน โดยจัดเป็นสระว่ายน้ำและ Fitness ไว้ที่ชั้น 3 ส่วนฟังก์ชันที่ดูจะพิเศษหน่อยคือสวนบนดาดฟ้า เพราะได้เห็นวิวเมืองแบบ 360 เลยบนชั้นสูงๆของย่านนี้
Klos รามอินทรา-แฟชั่น คอนโด Low Rise ที่มีเพียง 150 ยูนิต ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดในย่าน จึงได้ความเป็นส่วนตัวสูงมากค่ะ ส่วนพื้นที่ส่วนกลางของคอนโดนี้มีมาให้หลากหลายเช่นกันค่ะ โดย Main Facility อย่างสระว่ายน้ำ , Fitness และ Co-Working Space ที่ชั้น 2 ส่วนดาดฟ้าจะมีสวนอยู่ แต่อาจโดนบล็อกวิวจากฝั่งห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ไปบ้างนะคะ
ชั้น Ground ของโครงการเป็นโซนที่คนเข้าถึงได้โดยง่าย หลายโครงการจึงใช้พื้นที่ชั้นแรกนี้เป็น Lobby ไว้ต้อนรับผู้คนที่แวะเวียนเข้ามาในโครงการ แต่มักจะไม่มีโซนพักอาศัยบริเวณนี้ สำหรับโครงการ Landmark @ Grand Station ที่อยู่ติดถนนใหญ่ จึงแบ่งพื้นที่บางส่วนทำเป็นร้านค้า ทำให้จะมีคนนอกเข้ามาใช้งานได้ นอกจากนี้โครงการนี้ยังมีส่วนของโรงแรม (Branded Residence) อีกด้วย ทำให้โครงการนี้ดูคึกคักเป็นพิเศษ แต่ไม่ต้องห่วงนะเพราะโครงการแยกโซนคอนโดกับโรงเเรมชัดเจน ส่วน Facility ของชั้นนี้จะมีเพียงแค่ Lobby เท่านั้น บุคคลภายนอกไม่สามารถไปชั้นอื่นๆได้ค่ะ ส่วนโครงการ Klos รามอินทรา-แฟชั่น มีทางเข้าออกเดียวคือจากซอยรามอินทรา 99 Facility ส่วนกลางมีแค่ Lobby เท่านั้น จึงดูเงียบสงบเป็นพิเศษ
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา
ต่างจาก Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา จะนำเอา Facility ส่วนกลางทั้งหมดมาไว้ที่ชั้น Ground ทั้งหมด แยกสัดส่วนกับโซนพักอาศัยอย่างชัดเจน ลูกบ้านสามารถมาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางโดยไม่รบกวนผู้พักอาศัย โดยมีอาคาร Clubhose แยกออกมาลูกบ้านสามารถมาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Active Facility อย่าง Fitness , Swimming Pool ได้ง่ายๆ ส่วน Co-Working Space , Creative Pod และ Hallmark Pavilion จะอยู่ที่อาคาร A เป็นหลัก ใครชอบใช้งานพื้นที่ส่วนกลางจึงเหมาะจะอยู่อาคาร A นะ
สำหรับโครงการ Landmark @ Grand Station และ Klos รามอินทรา-แฟชั่น จะมี Facility ที่ชั้น Podium และดาดฟ้าอยู่แต่จะมีความแตกต่างกัน ดังนี้
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ Landmark @ Grand Statio
Landmark @ Grand Station จะมีสระว่ายน้ำพร้อมฟิตเนสอยู่ 2 จุดที่ชั้น 3 แบ่งเป็นฝั่งคอนโดและโรงเเรมอย่างชัดเจน โดยสระว่ายน้ำฝั่งคอนโดมีขนาดประมาณ 26 x 5 เมตร ลูกบ้านสามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้เต็มที่ ชั้น 3 จะมีเพียงแค่พื้นที่ส่วนกลางแต่ไม่มีโซนพักอาศัย ลูกบ้านจึงว่ายน้ำได้อย่างไม่เคอะเขิน ได้ความเป็นส่วนตัว และชั้นดาดฟ้าก็มีสวนส่วนกลางให้เราไปพักผ่อนชมบรรยากาศวิวเมืองรอบๆแบบ 360 องศา
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ Klos รามอินทรา-แฟชั่น
ส่วน Klos รามอินทรา-แฟชั่น จะมี Main Facility หลักอยู่ที่ชั้น 2 ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำ , Fitness และ Co-working Space ซึ่งอยู่คนละฝั่งกับโซนพักอาศัย ทำให้คนที่มาใช้งานส่วนกลางไม่รบกวนลูกบ้านคนอื่นๆ ส่วนดาดฟ้าก็เป็นสวนส่วนกลางเช่นกัน เพียงแต่โครงการเป็น Low Rise ที่ติดกับห้างใหญ่ ทำให้อาจมีบางส่วนของวิวที่ถูกบดบังไปบ้างนะ
จากที่เราพาเพื่อนๆชมทั้ง 3 โครงการแล้ว จะเห็นได้ว่าโครงการ Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทราเหมาะกับคนที่ชอบใช้งานพื้นที่ส่วนกลางเพราะมีฟังก์ชันส่วนกลางเยอะที่สุดแล้วยังมีค่าส่วนกลางน้อยที่สุดอีกด้วย จึงถือว่าคุ้มค่าทีเดียว ส่วน Landmark @ Grand Station แม้จะมีฟังก์ชันส่วนกลางไม่เยอะ แต่มี Sky Facility บนตึกสูงทำให้เห็นวิวเมือง เหมาะกับคนที่ชอบชมบรรยากาศเมืองแบบ 360 องศา และ Klos รามอินทรา-แฟชั่น จะเหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวเพราะมีจำนวนยูนิตน้อยเพียง150 ยูนิต ลูกบ้านแชร์ส่วนกลางกับคนจำนวนไม่เยอะ ไม่แออัดค่ะ
แบบห้อง

โครงการมีรูปแบบห้องที่ต่างกันออกไป Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา กับ Klos รามอินทรา-แฟชั่น เป็นห้องแบบปกติที่ฝ้าสูง 2.4-2.45 เมตรทั้งอาคาร ส่วน Landmark @ Grand Station เป็นห้องแบบฝ้าสูง 4.15-4.90 หรือ ห้อง Loft ทั้งอาคาร
ในเรื่องของราคา เราจะเห็นว่า Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรามีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุด ส่วน Landmark @ Grand Station มีราคาสูงที่สุดเลย สมน้ำสมเนื้อกับห้องฝ้าสูง ในเรื่องความคุ้มค่าเรื่องพื้นที่ใช้สอยแต่ละโครงการแตกต่างกันยังไง ไปชมกันเลยค่ะ
มาเริ่มกันที่ ห้องแบบปกติ Type แรกคือ 1 Bedroom แบบเล็กที่สุดของแต่ละโครงการกันเลย ห้องของโครงการ Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา จะมีพื้นที่รับแขกเป็นโซนแรกเมื่อเปิดเข้าห้องมา ห้องน้ำอยู่ใกล้บริเวณห้องรับแขกและห้องนอน ตัวห้องนอนกั้นด้วยผนังทึบ ทำให้เวลามีเพื่อนๆมาเยี่ยม เจ้าของห้องไม่เสียความเป็นส่วนตัว ส่วนห้องครัวเป็นแบบปิดติดระเบียงระบายอากาศได้ดี ส่วนห้องของ Klos รามอินทรา-แฟชั่น จะเปิดประตูห้องจะเจอโซนครัวเป็นอันดับแรก ครัวเป็นแบบปิดทำให้ทำอาหารกลิ่นฉุนๆได้ จากนั้นเจอพื้นที่นั่งเล่นกับส่วนห้องนอนที่รวมกันอยู่ ทำให้ห้องดูมีขนาดใหญ่กว่า
สำหรับ 1 Bedroom ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย ประมาณ 30 ตร.ม. จะมีให้เลือก 2 โครงการ คือ Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา และ Klos รามอินทรา-แฟชั่น แต่ต้องบอกก่อนว่า Klos รามอินทรา-แฟชั่น จะมีห้องหลายรูปแบบมากๆ เพราะ 1 แบบห้องจะมีจำนวน 1 ห้องต่อชั้นเท่านั้น เราจึงเลือกแบบห้องที่มีความแตกต่างจาก Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา มาเทียบให้เห็นชัดๆกันไปเลย
สำหรับห้องของ Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา จะเป็นห้องหน้ากว้างกว่า และมีการจัดผังออกมาคล้ายๆกับห้องแบบ 1 Bedroom ปกติเลยค่ะ คือเปิดเข้ามาเจอโซนนั่งเล่นก่อน ห้องนอนกั้นด้วยผนังทึบ ทำให้เราได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ห้องครัวเป็นแบบปิดติดระเบียง ระบายอากาศได้ดี เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารจริงจังเลยนะ
ส่วนห้องของ Klos รามอินทรา-แฟชั่น จะเป็นห้องแนวลึก แบ่ง Common Area กับ Service Area ไว้คนละฝั่งอย่างชัดเจน ห้องนอนกับห้องนั่งเล่นกั้นด้วยกระจก ทำให้ห้องดูโปร่งมากขึ้น ห้องครัวเป็นแบบปิดติดระเบียงเช่นกัน ทำอาหารได้อย่างจริงจัง ภายในโซนห้องครัวจะมีห้องน้ำอยู่ด้วย ทำให้เราไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นต่างๆจะออกมา Common Area
มาต่อกันที่ห้อง 1 Bedroom ขนาดสัก 30 กว่าๆ ตร.ม. กันเลยค่ะ แค่ดูจากแปลนเราก็พอจะเห็นความแตกต่างกันแล้วใช่ไหมคะ ห้องของโครงการ Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา จะแบ่งให้ห้องครัวแบบปิดอยู่ด้านหน้าห้อง ทำอาหารได้จริงจัง โครงการติดตั้งที่ดูดควันมาให้เรียบร้อย ช่วยดูดกลิ่น และกลิ่นไม่ลอยไปโซนอื่นของห้อง ห้องนั่งเล่นกับห้องนอนอยู่คนละฝั่งได้รับแสงธรรมชาติทั้งคู่ แล้วยังกั้นห้องนอนด้วยผนังทึบ ดูเป็นสัดส่วนชัดเจน แต่ก็แลกกับการที่มีห้องน้ำในห้องนอนนะคะ อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวบ้างเวลาแขกมาเยี่ยมเยียนแล้วเข้ามาใช้ห้องน้ำ
จริงๆเรามองว่าห้องของ Klos รามอินทรา-แฟชั่น มีการวางผังคล้ายๆกัน ต่างกันที่ห้อง Type นี้ของ Klos รามอินทรา-แฟชั่น ส่วนใหญ่จะเป็นห้องรูปตัว L โซนแรกที่เราจะเจอคือห้องครัวแบบปิดเช่นเดียวกัน ภายในส่วนของห้องครัวมี Built-in มาให้ พร้อมใช้งาน แต่ว่าส่วนของห้องนั่งเล่นที่อยู่ถัดมาจะต้องตกแต่งเองนะคะ ห้องนอนกั้นด้วยผนังทึบทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ห้องน้ำจะอยู่ติดกับห้องครัว เข้าถึงได้จะห้องนั่งเล่น ทำให้ไม่เสียความเป็นส่วนตัวเวลาเเขกมาเยี่ยมเยียนอีกด้วย
ปิดท้ายด้วย 1 Bedroom Plus จะมีให้ครบทั้ง 3 โครงการเลยนะ แต่จะมีเพียงแค่ Landmark @ Grand Station ที่จะได้ห้องฝ้าสูงเท่านั้น แต่พื้นที่ใช้สอยจะพอๆกันทั้งหมด ประมาณ 30 ปลายๆเกือบๆ 40 ตร.ม. แต่โครงการ Klos รามอินทรา-แฟชั่น ก็จะมีห้อง Type ใหญ่ให้เลือกประมาณ 43 ตร.ม. มาดูความแตกต่างของแต่ละโครงการกันค่ะ
ห้อง 1 Bedroom Plus ของ Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา เป็นห้องหน้ากว้าง ออกแบบให้ห้องนอน , ห้องอเนกประสงค์และห้องครัวติดหน้าต่าง ทำให้ทั้ง 3 ห้องนี้ได้รับแสงธรรมชาติอย่างทั่วถึง ส่วนห้องนอนและห้องอเนกประสงค์กั้นด้วยผนังทึบ และห้องน้ำก็เข้าถึงได้จากห้องนั่งเล่น ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวเวลามีแขกมาเยี่ยม อีกหนึ่งข้อดีคือห้องนั่งเล่นกว้าง เหมาะกับคนที่ชอบใช้เวลาใน Common Area แต่แสงจะเข้าถึงยากเล็กน้อย อาจต้องเปิดไฟตลอดเวลาใช้งานพื้นที่นี้
ส่วนห้อง ฝ้าเพดานสูงของ Landmark @ Grand Station จะมีห้องนั่งเล่น , ห้องนอนและห้องอเนกประสงค์ที่ติดหน้าต่าง ได้แสงธรรมชาติ เราชอบที่ได้ระเบียงกว้างกว่าปกติ สามารถจัดสวนกระถางได้สบายๆ เนื่องจากเป็นโครงเดียวที่ได้ห้องฝ้าสูง ใครชอบอยู่คอนโดที่บรรยากาศคล้ายๆบ้าน 2 ชั้น คงชอบห้องของที่นี่น่าดู แต่ห้องนี้จะไม่มีห้องครัวให้นะ เราต้องต่อเติมเองแล้วก็เหมาะกับคนทำอาหารไม่จริงจังค่ะ
สุดท้ายคือห้องของ Klos รามอินทรา-แฟชั่น เป็นห้องหน้ากว้างเช่นเดียวกับห้องของ Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา แต่มีการวางผังต่างกันเล็กน้อย คือได้ห้องนั่งเล่นกว้างเป็นแนวลึก ห้องนั่งเล่น , ห้องนอนและห้องอเนกประสงค์ที่ติดหน้าต่าง ได้แสงธรรมชาติเต็มๆ ข้อดีของห้องนี้คือ มีห้องน้ำแบบ Jack & Jill เข้าถึงได้จากห้องนอนและห้องนั่งเล่น ใช้งานสะดวก แต่ห้องครัวแบบปิดจะอยู่โซนด้านในห้องนะ ช่วยกันไม่ให้กลิ่นลอยไปโซนอื่น แต่การระบายอากาศจะไม่ดีเท่าห้องครัวแบบติดระเบียงค่ะ
บทสรุป
ทั้ง 3 คอนโดอยู่ในย่านรามอินทรา ใกล้ทางด่วนและรถไฟฟ้า แม้ทั้ง 3 โครงการจะอยู่ในทำเลใกล้ๆกัน แต่มีรายละเอียดที่ต่างกันออกไป
- Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา – ไกลจากรถไฟฟ้ามากที่สุด แนะนำให้เรียกรถไปสถานีรถไฟฟ้า แต่ก็ใกล้ทางด่วนฉลองรัชมากที่สุด เข้าเมืองไปโซนสุขุมวิท , พัฒนาการได้สะดวก เหมาะกับคนที่ใช้รถยนต์เป็นหลัก ส่วนกลางของโครงการมีมาให้ครบครันและมีฟังก์ชันส่วนกลางมากที่สุด โครงการนี้มีราคาจับต้องได้ง่ายที่สุดและยังคุ้มค่าที่สุดด้วยนะ เพราะโครงการขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบเลยค่ะ
- Landmark @ Grand Station – เป็นโครงการ Mix Use เพียงโครงการเดียว มีจำนวนยูนิตมากที่สุด เหมาะกับคนที่ชอบความคึกคัก ทำเลอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้ามากนัก สามารถเรียกรถไปขึ้นสถานีรถไฟฟ้าได้ง่ายๆ ส่วนกลางมีมาให้ครบตามมาตรฐาน โดนจะเน้นอยู่ที่ชั้น Podium เป็นหลัก แต่ก็มีสวนบนดาดฟ้าชั้นสูง ทำให้เราเห็นวิวมุมสูงแบบ 360 องศา ส่วนห้องพักจะเป็นแบบฝ้าสูงทั้งหมด เหมาะกับคนที่ชอบอยู่คอนโดแต่เน้นบรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน 2 ชั้น แลกมากับราคาเริ่มต้นที่สูงกว่าโครงการอื่นๆเล็กน้อย
- Klos รามอินทรา-แฟชั่น – โครงการนี้ใกล้รถไฟฟ้าและห้างสรรพสินค้ามากที่สุด สามารถเดินไปได้สบายๆ เหมาะกับคนที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นหลักค่ะ ส่วนกลางมีให้หลากหลาย แชร์กับเพื่อนบ้านจำนวนน้อยที่สุดในย่านเพียง 150 ยูนิตเท่านั้น ห้องพักของโครงการมีให้เลือกหลากหลาย เพราะออกแบบมาให้ห้องพักแต่ละแบบ มีจำนวน 1 ห้องต่อชั้นเท่านั้น ใครที่ชอบห้องพักแบบไม่จำเจคงชอบที่นี่มากเลยนะ
…ใครสนใจโครงการไหนกดดูรายละเอียดที่ชื่อโครงการได้เลยนะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับบทความ เทียบ 3 คอนโดย่านรามอินทรา ใกล้ทางด่วนและรถไฟฟ้า Chewathai Hallmark l Landmark l Klos หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดย่านรามอินทรากันนะ ไว้ครั้งหน้าทาง Think of Living จะมีบทความน่าสนใจอะไรอีกบ้าง ฝากติดตามด้วยนะคะ 😊
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่