fb-cover2-3-4-v2-mourning-%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%a1%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%a3

รีวิวฉบับที่ 1267 … สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมทาวน์โฮม 2-3 ชั้นกับโครงการ สัมมากร อเวนิว รามอินทรา-วงแหวน ทำเลติดถนนเลียบวงแหวนรามอินทรา เน้นออกแบบพื้นที่ใช้สอยเต็มพื้นที่ โดยตัวทาวน์โฮม 3 ชั้น จะมีการออกแบบเป็น 4 ห้องนอน ซึ่งแตกต่างจากโครงการในทำเลเดียวกัน  พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง ทั้งสระว่ายน้ำ คลับเฮาส์ และสวน ในราคาหยิบจับจ่าย จะเป็นอย่างไรไปชมกันเลย 

Fact @ 26 January 2017

  • Sammakorn Avenue Ramintra-Wongwean (สัมมากร อเวนิว รามอินทรา-วงแหวน)
  • บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน)
  • ECONOMY-MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางเขน
  • เนื้อที่โครงการประมาณ 33 ไร่ จำนวน 345 ยูนิต
  • Regent ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท 
  • Hyde ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท 
  • Central ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 3.54 ล้านบาท
  • เพดานชั้น 1 สูง 2.7 เมตร, ชั้น 2 สูง 2.7 เมตร, ชั้น 3 สูง 2.7 เมตร
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 55,000 บาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : Q1 ปี 2559
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : ปี 2562
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • สำนักงานขาย : 098-264-9111

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ

NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะคะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.858765, 100.675467

แผนที่จากทางโครงการค่ะ ที่ตั้งของโครงการ สัมมากร อเวนิว รามอินทรา-วงแหวน ตั้งอยู่บนถนนคู่ขนานวงแหวนกาญจนาภิเษก มีจุดเด่นของที่ตั้งคือมีระยะห่างจากจุดขึ้นทางด่วน 4.5 กม. นอกจากนี้ในอนาคตยังมีแผนการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดกับโครงการ คือ สถานีแฟชั่นไอส์แลนด์ ที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ สำหรับรถไฟฟ้าสายสีชมพูนี้คงต้องรอกันอีกหลายปีอยู่ถึงจะสร้างเสร็จ ซึ่งตามกำหนดการจะสร้างเสร็จปี 2563 แต่ถ้ามีความไม่แน่นอนทางการเมืองหรือเหตุปัจจัยอื่นๆมากระทบตัวโครงการก็อาจต้องเลื่อนไปอีก คนย่านนี้คงต้องอดใจรอกันไปก่อนนะคะ

โครงการ สัมมากร อเวนิว รามอินทรา-วงแหวน ตั้งอยู่ติดถนนเลียบวงแหวนกาญจนาฯ แม้ว่าที่ตั้งจะอยู่ในย่านชานเมืองตอนบนฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานครแต่ก็ไม่ไกลจากถนนสำคัญอย่าง “ถนนรามอินทรา” ซึ่งที่เป็นที่ตั้งของแหล่งความเจริญทั้งศูนย์การค้าและแหล่งงานในย่านนี้ การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวนั้นค่อนข้างสะดวกทีเดียวค่ะ เพราะสามารถเลือกใช้เส้นทางในการเดินทางได้หลากหลาย โดยถนนรามอินทราที่เป็นถนนเส้นหลักในการเข้าถึงของโครงการนั้นเชื่อมกับถนนสำคัญๆได้หลายสาย เช่น ถนนวิภาวดี – รังสิต, ถนนพหลโยธิน, ถนนลาดปลาเค้า, ถนนวัชรพล, ถนนนวมินทร์ รวมทั้งทางด่วนทั้ง 2 สายอย่างรามอินทรา – อาจณรงค์ และถนนกาญจนภิเษก

สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัวนั้นจะลำบากสักหน่อย เนื่องจากถนนคู่ขนานวงแหวนกาญจนาฯไม่ได้มีรถเมล์วิ่งผ่าน แต่ก็ยังมีรถสองแถวและแท็กซี่ที่ผ่านหน้าโครงการให้เรียกใช้บริการได้

ทำเลของโครงการในย่านนี้ เรียกได้ว่าเป็นทำเลยอดฮิตของโครงการแนวราบ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ตอนบนฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร โครงการส่วนใหญ่จะเป็นหมู่บ้านเดี่ยวจัดสรร, ไม่จัดสรร และทาวน์โฮม ซึ่งในระยะหลังๆ มานี้จึงเริ่มเห็นคอนโด Low Rise มาขึ้นตามแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพูบ้าง โดยการมาของรถไฟฟ้าสายสีชมพูนี้ทำให้พื้นที่ในย่านรามอินทรามีความอุดมสมบูรณ์และความเจริญมากขึ้นตามไปด้วย  ถ้าจะหาของกินของใช้ในย่านนี้นั้นมีความสะดวกสบาย และอุดมสมบูรณ์มากๆ เพราะมีทั้งตลาดและร้านค้าต่างๆมากมาย มี Hyper market อย่าง Big C, Tesco Lotus, Food Land คอมมูนิตี้ มอลล์อย่าง The Walk และศูนย์การค้าอย่าง Fashion Island, The Promenade และเซ็นทรัล รามอินทรา ให้คนย่านนี้ได้เดินเล่นช้อปปิ้งกัน นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาลสินแพทย์, โรงพยาบาลพญาไทนวมินทร์, โรงเรียนอยู่ในละแวกนี้ด้วยค่ะ

ทำเลโครงการนี้จะสะดวกมากสำหรับคนที่เดินทางด้วยทางด่วนเป็นหลัก เพราะอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ โดยมีระยะห่างเพียง 3 กม. สามารถใช้เป็นตัวช่วยในการเดินทางเข้าเมืองได้สะดวก

นอกจากนี้ยังมีตัวช่วยในการเดินทางอย่างวงแหวนกาญจนาภิเษก เป็นเส้นทางที่วิ่งเชื่อมรอบนอกของกรุงเทพฯ ได้สะดวก โดยทางขึ้นอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 5 กม.

การเดินทางไปโครงการในวันนี้จะพาไปดูบรรยากาศของชุมชนใกล้ๆที่ตั้งโครงการ โดยจะเริ่มต้นจากวงแหวนกาญจนาภิเษก >> เข้าถนนรามอินทรา >> เลี้ยวขวาเข้าถนนคู้บอน >> เลี้ยวซ้ายเข้าถนนคู่ขนานวงแหวนกาญจนาฯ >> ตรงไปประมาณกิโลกว่าๆ โครงการจะอยู่ทางฝั่งซ้ายค่ะ

เริ่มต้นจากทางออกวงแหวนกาญจนาภิเษกไปทางซ้ายตามป้ายหลักสี่ ถ้าตรงไปตามป้ายมีนบุรีก็สามารถไปได้เหมือนกันแต่ต้องไปกลับรถใต้ถนนวงแหวนฯค่ะ

ตามป้ายหลักสี่มาแล้วก็วิ่งมาตามเส้นทางเรื่อยๆ เส้นทางนี้จะเชื่อมไปยังถนนรามอินทราค่ะ

เลี้ยวมาตามเส้นทางก็เข้ามายังถนนรามอินทรากันแล้ว ซึ่งถนนรามอินทราเป็นถนนหลักที่สำคัญในย่านนี้ บรรยากาศโดยรอบส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ ส่วนฝั่งซ้ายจะผ่านปั๊มแก๊ส LPG ถ้าใครขับรถแก๊สก็สามารถแวะเติมได้

ตรงมาเรื่อยๆบรรยากาศบนถนนรามอินทราจะค่อนข้างคึกคักขึ้นเนื่องจากเป็นฝั่งที่วิ่งเข้าหาตัวเมือง เริ่มมีอาคารสำนักงาน โชว์รูมรถยนต์ ให้เห็นมากขึ้น

นอกจากอาคารพาณิชย์และอาคารสำนักงานแล้วบนถนนรามอินทรายังมีโครงการคอนโดมิเนียมอีกด้วย ก็เนื่องมาจากว่าถนนเส้นนี้เป็นเส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีชมพูในอนาคตนั่นเอง ถนนเส้นนี้จะมีรถสาธารณะวิ่งผ่านหลากหลายทั้งรถเมล์และรถสองแถว โดยจุดขึ้นรถหลักๆจะอยู่ที่ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์

ผ่านหน้าโครงการคอนโดลุมพินีมาแล้วให้อยู่ 2 เลนฝั่งซ้ายไม่ขึ้นสะพานข้ามแยกไปนะคะ

ตรงมาเรื่อยๆผ่านแยกนวมินทร์ไปแล้วชิดเลนขวาไว้ บรรยากาศบริเวณแยกตรงนี้จะมีความเป็นชุมชนสูง ลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์เก่าแก่ ชั้นล่างเปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านทำผมและร้านขายของ

ข้ามแยกนวมินทร์มาแล้วก็ออกขวาไปตามป้ายถนนคู้บอน ซึ่งรถที่ชิดขวาเข้าถนนคู้บอนนี้มีจำนวนค่อนข้างมากทีเดียว เพราะเป็นถนนซอยใหญ่ที่เป็นที่ตั้งของโครงการแนวราบหลายโครงการและภายในซอยยังมีซอยย่อยเล็กๆซึ่งส่วนใหญ่เป็นซอยของบ้านอยู่อาศัยอีกจำนวนมาก จึงมีปริมาณรถที่ใช้ถนนเส้นนี้ค่อนข้างเยอะ

ตรงตามป้ายมาเรื่อยๆจะมาติดแยกไฟเขียวไฟแดงซึ่งติดค่อนข้างนานหน่อย พอได้สัญญาณไฟเขียวก็เลี้ยวขวาเข้าถนนคู้บอนกันเลย

เลี้ยวขวาเข้าถนนคู้บอนมาเป็นถนน 4 เลนแบบสวนกันจะเห็นปริมาณรถที่มากทีเดียว เวลาเร่งด่วนจึงไม่แนะนำให้มาใช้ถนนเส้นนี้เลยนะคะ นอกจากถนนเส้นนี้จะเป็นที่ตั้งของโครงการหมู่บ้านแนวราบแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของตลาด ซุปเปอร์มาเก็ต สำหรับรองรับผู้อยู่อาศัยในบริเวณนี้ จึงเป็นถนนที่มีความอุดมสมบูรณ์อีกเส้นหนึ่งที่อยู่ใกล้กับที่ตั้งของโครงการที่สุด แต่ถ้าต้องการไปเดินช้อปปิ้งในศูนย์การค้าที่ใกล้สุดคือแฟชั่นไอส์แลนด์บนถนนรามอินทราค่ะ

ตรงไปเรื่อยๆตามถนนคู้บอน บรรยากาศจะเป็นอาคารพาณิชย์ที่ชั้นล่างเปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ธนาคาร ค่อนข้างหลากหลาย ถ้าใครต้องการไปธนาคารหรือทานข้าวแล้วไม่อยากไปศูนย์การค้า ถนนคู้บอนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งค่ะ

ตรงมาบนถนนคู้บอนสักพักฝั่งซ้ายจะผ่าน Big C คู้บอน เป็นแหล่งซื้ออาหารและของใช้เข้าบ้าน ส่วนฝั่งขวาจะผ่านตลาดนัดรถยนต์ เป็นร้านขายมอเตอร์ไซค์

บนถนนคู้บอนไม่มีรถเมล์วิ่งผ่านนะคะ แต่ก็ยังมีรถสาธารณะอย่างรถสองแถว พี่วิน และแท็กซี่คอยให้บริการ

ตรงมาเรื่อยๆฝั่งซ้ายจะผ่านร้านอาหารตังค์เต็มกุ้งย่าง

ตรงมาเรื่อยๆจนถึงสามแยกถ้าเลี้ยวซ้ายจะเข้าซอยคู้บอน 27 ซึ่งทางไปโครงการต้องตรงข้ามแยกไปค่ะ

ข้ามแยกมาแล้วบรรยากาศก็ยังเป็นตึกแถวเป็นส่วนใหญ่หลายๆอาคารเปิดเป็นร้านค้าร้านอาหาร แม้ว่าจะไปไม่ได้เป็น Hyper Market เหมือนช่วงต้นซอยแต่ก็ยังมีร้านค้าเล็กๆ น้อยๆ ให้พึ่งพิงได้บ้าง

ตรงไปตามทางเรื่อยๆ จะเห็นวัดคู้บอนอยู่ข้างหน้าก็แปลว่าใกล้สุดถนนคู้บอนแล้ว จะต้องเตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบวงแหวนกาญจนาฯ ค่ะ

สุดถนนคู้บอนแล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบวงแหวนกาญจนาฯกันเลย

เลี้ยวเข้ามาแล้วก็ตรงไปเรื่อยๆ เป็นเส้นทางเดียวกับโครงการ ดิเอ็กซ์คลูซีฟ ค่ะ ก็ให้ตรงไปตามป้าย ซึ่งถนนในช่วงนี้จะผ่านโรงเรียนคู้บอนด้วย เวลาขับรถก็ระวังเด็กๆ หน่อยนะคะ

ตรงมาเรื่อยๆบนถนนคู่ขนานวงแหวนกาญจนาฯ บรรยากาศจะโดยรอบฝั่งซ้ายจะเป็นพื้นที่โล่งเป็นส่วนใหญ่ ฝั่งขวาจะเป็นถนนวงแหวนกาญจนาฯ ไปตลอดแนว จึงตอบโจทย์สำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวมากกว่า

จากแยกที่ถนนเลียบวงแหวนฯ ตัดกับคู้บอนวิ่งมาโลกว่าๆก็จะถึงที่ตั้งโครงการแล้วค่ะ

ที่ตั้งโครงการ สัมมากร อเวนิว รามอินทรา-วงแหวน อยู่ติดถนนเลียบวงแหวน ซึ่งที่ดินได้หน้าติดถนนที่กว้างมากเลย ทำให้สังเกตง่าย สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่าและคลองทำให้บรรยากาศโดยรอบโครงการเปิดโล่ง ไม่อึดอัด แต่ก็ต้องแลกมากับความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการที่ไม่มีอยุ่ใกล้ๆ จะต้องอาศัยรถในการเดินทางไปเท่านั้น สามารถสรุปมีพื้นที่ที่ติดต่อกับโครงการคือ

  • ด้านทิศเหนือ ติดกับ ที่ดินเปล่า
  • ด้านทิศใต้ ติดกับคลองหกขุด ฝั่งตรงข้ามคลองเป็นที่ดินเปล่า
  • ด้านทิศตะวันออก ติดกับ ถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก
  • ด้านทิศตะวันตก ติดกับ ที่ดินเปล่า

เรามาดูสภาพแวดล้อมที่ติดกับที่ดินของโครงการกันนะคะ ภายในเส้นประสีเหลืองเป็นพื้นที่ของหมู่บ้าน สัมมากร อเวนิว รามอินทรา – วงแหวน ส่วนพื้นที่ที่ติดกับโครงการด้านซ้ายคือคลองหกขุด

อีกฝั่งหนึ่งขอบเขตของโครงการคือเส้นประสีเหลืองด้านซ้าย ส่วนแปลงที่ดินที่ติดกันฝั่งขวาของโครงการเป็นที่ดินเปล่าค่ะ

ฝั่งตรงข้ามทางเข้าหลักโครงการเป็นถนนเลีบวงแหวนฯ ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นวัดจีนชื่อวัด ฝอกวงซันค่ะ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Big C คู้บอน ~ 4.5 กิโลเมตร
  • Fashion Island ~ 6 กิโลเมตร
  • เดอะ พรอมานาด ~ 6.1 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ ~ 6.5 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลสินแพทย์ ~  7.1 กิโลเมตร
  • ตลาดสดถนอมมิตร ~ 8.5 กิโลเมตร
  • The Walk เกษตรนวมินทร์ ~ 11 กิโลเมตร
  • Plearnary Mall ~ 11.7 กิโลเมตร
  • Foodland ~ 14.2 กิโลเมตร
  • เซ็นทรัลรามอินทรา ~ 17.5 กิโลเมตร

 


เจาะลึกตัวโครงการ

มาดูที่ตัวโครงการ สัมมากร อเวนิว รามอินทรา – วงแหวน เป็นโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 345 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการกว่า 33 ไร่ ซึ่งตอนนี้โครงการกำลังเปิดขายเฟส 1 โดยมีกำหนดจะเสร็จทั้งโครงการภายใน ปี 2562 ค่ะ ซึ่งปัจจุบันมีบ้านที่เสร็จแล้วก็ได้เริ่มทยอยโอนแล้วเช่นกัน ส่วนพื้นที่สีเขียวส่วนกลาง และ Clubhouse เสร็จเรียบร้อยพร้อมใช้งานแล้วค่ะ

ที่ดินของตัวโครงการรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมคางหมูได้หน้ากว้างติดถนนยาวกว่า 400 ม. ส่วนระยะจากหน้าโครงการถึงท้ายสุดโครงการไม่เกิน 200 ม. เป็นระยะที่บ้านหลังในสุดสามารถเดินมาทางยังสวนส่วนกลางที่อยู่บริเวณทางเข้าโครงการได้ ทางเข้าออกของโครงการจะเข้าจากถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกได้ทางเดียว เข้ามาในโครงการจะเป็นถนนหลักกว้าง 16 ม. วิ่งตรงไปจะเป็นทางแยกซ้ายขวา โดยฝั่งซ้ายเป็นโครงการเฟส 1 ที่เปิดขายอยู่ในปัจจุบัน ส่วนฝั่งขวากำลังรอเปิดขายในอนาคตค่ะ โครงการวางผังได้ดีในเรื่องของการแบ่งซอยย่อย โดยแบ่งให้แต่ละซอยมีจำนวนบ้านไม่เกิน 12 หลัง ทำให้การอยู่อาศัยได้ความเป็นส่วนตัว ลดความพลุกพล่านของการอยู่ในโครงการใหญ่ 300 กว่าหลัง โครงการวางสวนส่วนกลางไว้ทางด้านหน้าโครงการทำให้บริเวณหน้าโครงการดูร่มรื่น

การวางตัวของบ้านแต่ละหลัง จะหันหน้าเข้าหาถนนภายในโครงการ มีทั้งที่หันเข้าถนนหลัก 16 ม. และถนนซอยที่กว้าง 9 ม. แต่ความเป็นส่วนตัวสำหรับการพักอาศัย บ้านที่อยู่ในซอยจะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า ส่วนการเลือกตำแหน่งของบ้านก็จะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล สำหรับลูกบ้านที่ชอบความสงบแนะนำให้เลือกหลังที่อยู่ท้ายโครงการก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะจะไม่มีเพื่อนบ้านผ่านเข้าออกเยอะ ส่วนผู้ที่เน้นเข้าออกสะดวก ก็เหมาะจะเลือกหลังที่อยู่ด้านหน้าโครงการค่ะ

สำหรับทิศของบ้านในโครงการส่วนใหญ่จะหันไปทางทิศเหนือและทิศใต้ บ้านที่หันไปทางเหนือแน่นอนว่าก็จะได้แสงที่ธรรมชาติหน่อย ไม่ค่อยแรงมาก ส่วนบ้านที่หันไปทางทิศใต้จะได้แสงที่จ้ากว่าและลมที่แรงกว่าด้วย แบบบ้านของโครงการมีให้เลือกทั้งทาวน์โฮม 2 และ 3 ชั้น และจะมีให้เลือกที่เป็นแปลงตรงกลางและแปลงมุม การเลือกบ้านขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้สอยและความชอบ หากเลือกแปลงมาตรฐานคือแปลงที่อยู่ตรงกลางจะไม่มีพื้นที่สวนด้านข้าง พื้นที่นอกบ้านจะมีพื้นที่จอดรถด้านหน้าบ้านและพื้นที่ด้านหลังบ้านเท่านั้นแต่ราคาก็จะถูกกว่าแปลงมุม สำหรับผู้ที่อยากมีสวนเล็กๆส่วนตัวในบ้านและมีงบประมาณเพิ่มขึ้นได้อีกหน่อยก็เลือกแปลงมุมได้

ซุ้มประตูหลักของโครงการที่เข้าจากถนนเลียบวงแหวนฯจะอยู่ลึกเข้าไปด้านในหน่อยช่วยให้การจราจรด้านหน้าสะดวกมากขึ้น โดยเป็นโครงแบบมีหลังคาไว้หลบฝนหลบแดดได้พอสมควร ทางเข้าโครงการเป็นถนนคอนกรีตถูกยกระดับขึ้นมาจากถนนเล็กน้อย เพื่อช่วยในการระบายน้ำและป้องกันน้ำไหลเข้าโครงการได้ในระดับนึงที่ฝนตกหนักและระบายน้ำไม่ทัน โดยมีความกว้างถนนบริเวณหน้าซุ้มประตูประมาณ 16 ม. แบ่งเป็นทางเข้าออกฝั่งละ 6 ม., เกาะกลาง 2 ม. ซึ่งป้อม รปภ.จะอยู่บริเวณเกาะกลางเพื่อแยกฝั่งรถเข้า-ออกโครงการ ฟุตบาททางเดิน 2 ฝั่งมีระยะฝั่งละ 1 ม. โดยด้านข้างจะปลูกไม้พุ่มไว้ช่วยให้โครงการดูร่มรื่นขึ้น

ทางเข้าสู่โครงการจะรักษาความปลอดภัยด้วยไม้กระดกกั้น สามารถใช้ Keycard Access ระยะใกล้ผ่านเข้าออกได้เลย สำหรับผู้ที่ไม่มีบัตร ต้องติดต่อแลกบัตรเข้า-ออก ก็จะต้องทำการแลกบัตรกับพี่ รปภ. แล้วก็จะได้ใบกระดาษมาเพื่อจะต้องแสตมป์และยื่นให้พี่ยามในขาออก และมีทางเดินเท้าสำหรับคนเดินแยกไว้ต่างหากอีกทางหนึ่ง ด้านข้างป้อมพี่รปภ.มีกล้อง CCTV 2 ตำแหน่งส่องคนขับในระยะใกล้และส่องเลขทะเบียนค่ะ

ผ่านซุ้มโครงการเข้ามาที่ถนนหลักภายในโครงการ เป็นถนนที่มีความกว้าง 16 ม. บรรยากาศจะร่มรื่นด้วยต้นไม้จากสวนทางฝั่งซ้าย เราสามารถแยกเข้าซอยอยู่อาศัยต่างๆ ได้จากถนนเส้นนี้ สำหรับฝั่งขวาจะเริ่มเป็นพื้นที่อยู่อาศัย โดยบ้านหลังแรกเป็นบ้านตัวอย่าง และหลังถัดไปเป็นบ้านเปล่าสำหรับใช้ส่งมอบให้ลูกบ้าน เพื่อให้ดูเป็นตัวอย่างว่าบ้านที่ลูกบ้านจะได้รับนั้นภายในจะได้อะไรบ้างนะคะ

ทั้ง 2 ฝั่งของถนนหลักจะเชื่อมไปยังพื้นที่ส่วนกลางในโครงการ ทางฝั่งซ้ายเป็นพื้นที่ของสวนส่วนกลาง และฝั่งขวาติดกับป้อมรปภ. เป็นอาคารคลับเฮ้าส์ ภายในมีสระว่ายน้ำและห้อง Fitness ค่ะ

มาดูในส่วนของอาคารคลับเฮาส์กันก่อน เป็นอาคาร 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นส่วนของสระว่ายน้ำ และชั้นบนเป็นห้อง Fitness และสำนักงานขาย โดยชั้นบนจะออกแบบเป็นห้องกระจกทำให้เวลาเข้าไปใช้งานสามารถมองออกมารับวิวภายในโครงการได้

ชั้นล่างของอาคาร ถูกยกระดับขึ้นจากถนนหลักภายในโครงการ เพื่อให้ผู้ที่มาให้งานรับวิวได้กว้างขึ้น

พื้นที่นั่งเล่นริมสระในชั้นล่างจะเป็นพื้นที่แบบกึ่ง Outdoor ได้วิวสระว่ายน้ำ ส่วนทางซ้ายมีทางแยกออกไปเป็นห้องน้ำค่ะ

สระว่ายน้ำของโครงการเป็นสระกลางแจ้ง จึงเหมาะกับการใช้งานในเวลาเย็นที่แดดร่มลมตกแล้ว

สำหรับใครที่ไม่ชอบว่ายน้ำหนักๆ ทางโครงการได้จัด Day Bed ไว้ให้ที่ด้านข้างสระว่ายน้ำ เพื่อให้ลูกบ้านได้มาใช้นั่งเล่นเปลี่ยนบรรยากาศ

สระว่ายน้ำ เป็นสระระบบเกลือ แบ่งเป็นสระผู้ใหญ่และสระเด็ก โดยสระผู้ใหญ่มีขนาดประมาณ 11.8 x 5.8 ม.

ส่วนสระเด็กมีความลึก 0.6 ม. มีขนาด 5.8 x 3.8 ม. โดยมีพื้นที่รอบขอบสระให้ผู้ปกครองสามารถดูแลบุตร หลาน ได้อย่างใกล้ชิด

ภายในห้องน้ำมีพื้นที่กว้างพอสมควรสามารถรองรับการใช้งานของคนประมาณ 4 คน พร้อมกันได้

บรรยากาศภายในห้องสุขาและห้องอาบน้ำค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้นบนของคลับเฮ้าส์ ด้านบนจะมีห้อง Fitness  และสำนักงานขาย

บรรยากาศในห้องฟิตเนส เป็นห้องที่ล้อมด้วยกระจก 3 ด้าน ทำให้สามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้องได้ และทำให้บรรยากาศดูโปร่งด้วยค่ะ ภายในมีเครื่องออกกำลังกายประมาณ 4 ชิ้น พร้อมอุปกรณ์สำหรับเล่นโยคะ และยกน้ำหนัก

มาดูที่สำนักงานขายกันต่อ ภายในจัดโต๊ะรับรองผู้มาเยี่ยมชมไว้เรียบร้อย

ซึ่งหลังจากปิดการขายโครงการเรียบร้อย ห้องนี้ก็คงกลายเป็นห้องของนิติบุคคลหมู่บ้าน แต่ด้วยความกว้างของห้องที่ใหญ่กว่าห้อง Fitness ถ้าลูกบ้านอยากจะสลับห้อง Fitness มาอยู่ตรงนี้แทนก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกับความเห็นของลูกบ้านทั้งหมดในอนาคตค่ะ

ออกมาจากอาคารคลับเฮาส์ จะพาข้ามฝั่งมาดูพื้นที่สวนส่วนกลางกันต่อ โดยจะมีพื้นที่สวนหลักๆอยู่ 2 มุม ซึ่งจัดฟังก์ชันไว้ต่างกัน ดังนี้

พื้นที่สวนส่วนแรกจะติดอยู่กับถนนหลัก ซึ่งจะมีต้นไม้ใหญ่ตลอดแนวเพื่อให้เกิดความร่มรื่น ภายในจัดที่นั่งเอาไว้ตามมุมต่างๆ พร้อมหมอนอิง เหมาะกับการมานั่งเล่นในตอนเย็นๆ ที่แดดร่มไปแล้วค่ะ

ถ้าเดินผ่านสวนในมุมแรกเข้ามาจะเป็นพื้นที่สวนอีกมุมหนึ่ง บรรยากาศจะแตกต่างคือ จะเน้นเป็นทางเดินเล่นในสวนมากกว่า ภาพรวมของสวนจะเป็นต้นไม้ใหญ่สลับกับไม้พุ่มเตี้ยๆ ภายในสวนจะทำเป็นทางเดินไว้ ให้ลูกบ้านสามารถมาเดินเล่นได้

เส้นทางในสวนที่สามารถใช้เดินเล่น บางส่วนมีการยกระดับขึ้นให้เกิดมุมมองภายในสวนทีหลากหลาย ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้เหมาะที่ใช้งานในงานเย็นที่แดดร่มหน่อยนะคะ

มุมจากด้านในสวนมองออกไปด้านหน้าโครงการ ฝั่งซ้ายเป็นซอยย่อยๆ ของบ้านในเฟสแรก

บรรยากาศของพื้นที่ในซอยย่อย ถนนซอยกว้าง 9 ม. มีจำนวนบ้าน 12 หลัง จึงเป็นซอยเล็กๆ ที่ค่อนข้างที่จะมีความเป็นส่วนตัวค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ สระผู้ใหญ่ขนาด 5.8 x 11.8 ม., สระเด็กขนาด 5.8 x 3.8 ม.
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
  • สวนสาธารณะประมาณ 1 ไร่
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 52 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.5 ม.
  • Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
  • Key Card Access ระยะใกล้
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
  • ถนนหลักกว้าง 16 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.

 

โครงสร้าง 

งานโครงสร้างของสัมมากร ตั้งแต่เรื่องการถมดินทางบริษัทจะมีการถมดินทิ้งไว้ก่อนก่อสร้างเป็นปีเพื่อลดการทรุดตัวของดินเมื่อทำการก่อสร้าง ส่วนโครงสร้างของอาคารเป็นระบบ Pre-casting โดยเอาแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปมาประกอบกันเป็นตัวบ้าน

 


Product Walkthrough

โครงการ สัมมากร อเวนิว รามอินทรา – วงแหวน เป็นโครงการทาวน์โฮม 2-3 ชั้น มีจำนวนบ้านในโครงการทั้งหมด 345 หลัง แบบบ้านมีทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้

  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 113 ตร.ม. (2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ) แปลงที่ดินมาตรฐาน 17.9 ตร.วา
  • ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม. (3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ) แปลงที่ดินมาตรฐาน 17.9 ตร.วา
  • ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอย 193 ตร.ม. (4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ) แปลงที่ดินมาตรฐาน 21.4 ตร.วา

บ้านตัวอย่างตอนนี้จะมีเฉพาะแบบใหญ่สุดแบบเดียว ซึ่งเราจะพาไปชมบ้านตัวอย่างที่สร้างเสร็จและตกแต่งแล้วเปรียบเทียบกับบ้านที่ใช้ส่งมอบให้ลูกบ้านด้วยค่ะ

ทาวน์โฮม 3 ชั้นแบบใหญ่สุดของโครงการ มีขนาดที่ดินมาตรฐาน 21.4 ตร.วา โดยโครงการเน้นพื้นที่ใช้สอยในตัวบ้านเต็มที่ถึง 193 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.7 เมตร ออกแบบมาเป็น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

การออกแบบผังทำได้ดี ด้วยการวางบันไดเป็นรูปตัว I ทำให้พื้นที่ชั้นล่างสามารถใช้งานได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย และพื้นที่ใช้สอยดูเชื่อมต่อกัน บรรยากาศภายในจึงดูแล้วค่อนข้างโปร่งโล่ง ชั้นล่างจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น รับประทานอาหาร และห้องครัว ที่ได้มาเป็นแบบครัวปิดพร้อมเคาน์เตอร์ครัวเลย ซึ่งห้องนี้สามารถดัดแปลงเป็นห้องผู้สูงอายุได้ สำหรับห้องน้ำในชั้นล่างได้มาแบบมีชาวเวอร์อาบน้ำได้ ภายในห้องกว้างพอที่จะแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นส่วนเปียกส่วนแห้งได้ ช่องแสงในชั้นล่างจะได้จากประตูทางเข้าออกทั้งหน้าบ้านและหลังบ้านที่ได้มาเป็นประตูกระจกบานเลื่อนทั้ง 2 ฝั่ง ตัวบ้านจึงมีแสงธรรมชาติเข้าจากทั้งทางหน้าบ้านและหลังบ้าน

บนชั้น 2 แบ่งพื้นที่ออกเป็นห้องนอน 3 ห้อง (ห้องนอนเล็ก 2 ห้อง, ห้องนอนกลาง 1 ห้อง) และห้องน้ำที่ต้องแชร์กัน 1 ห้อง ห้องนอนเล็กจะมีขนาดพอเหมาะกับเด็กวัยรุ่นที่มีข้าวของไม่เยอะมากนัก ส่วนห้องนอนกลางจะได้ระเบียงในตัว และพื้นที่สำหรับจัดเป็นพื้นที่แต่งตัวได้เป็นสัดส่วน

บนชั้น 3 ทั้งชั้นจะเป็นพื้นที่ของห้องนอนใหญ่ที่มีครบฟังก์ชันทั้ง ระเบียงและห้องน้ำในตัว และมีพื้นที่สำหรับกั้นเป็น Walk-in Closet ได้เป็นสัดส่วน

ภาพรวมของบ้านดูโปร่งโล่งด้วยฝ้าเพดานที่สูง 2.7 ม. และหน้าต่างที่ทางโครงการให้ก็จะได้ขนาดใหญ่ สูงเกือบเต็มจากพื้นถึงฝ้า ทำให้แต่ละห้องจะได้ช่องแสงเพื่อรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้อย่างเต็มที่

ภายนอกของบ้านถูกดีไซน์ออกมาแบบเรียบง่าย ตกแต่งด้วยสีโทนขาว – เทา ช่องแสงเป็นบานกระจกใส ส่วนหลังคาของตัวบ้านเป็นกระเบื้องลอนคู่มาพร้อมแผ่นสะท้อนความร้อนของ SCG ช่วยลดความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน ส่วนกันสาดที่ชั้น 1 จะมีแนวของอาคารชั้นบนเป็นกันสาดคอยบังแดดบังฝนให้อยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นแถมกันสาดแบบม้วนเก็บได้ติดตั้งให้บริเวณที่จอดรถหน้าบ้าน ซึ่งเป็นจุดที่ลูกบ้านมักจะชอบต่อเติมกันมากที่สุดค่ะ

ประตูรั้วหน้าบ้านใช้วัสดุเป็นเหล็กรูปพรรณทาสี มีลักษณะเป็นบานพับแบบหลายๆตอน ลักษณะรั้วโปร่งซี่ห่างๆ ไม่กันสายตา ใช้เป็นแค่เหมือนการแบ่งพื้นที่ ไม่มีประตูเล็กเข้า-ออกสำหรับคนเดิน รั้วระหว่างบ้านมีความสูงประมาณ 1.5 ม. ซึ่งเป็นระยะที่ไม่สูงนักมีข้อดีที่ทำให้บ้านดูโปร่ง สามารถมองวิวด้านนอกบ้านได้สะดวก แต่ก็สามารถปีนข้ามได้ง่าย ทางขวาของประตูรั้วบ้านจะติดตั้งกริ่ง และโคมไฟหน้าบ้านไว้เรียบร้อย

พื้นที่หน้าบ้านเป็นพื้นลานจอดรถเป็นพื้นคอนกรีตเรียบๆ ไม่ได้ปูหญ้ามาให้เหมือนบ้านตัวอย่าง ส่วนระยะจอดรถลึก 6 ม. ซึ่งเป็นระยะที่สามารถจอดรถกระบะได้ แต่ถ้ากระบะที่มีท้ายยาวๆต้องระวังถอยมาชนกระจกนะคะ ส่วนด้านหน้าบ้านกว้าง 5.7 ม. จอดรถ 2 คัน และพอจะเปิดประตูรถลงได้ทั้ง 2 ฝั่ง

ประตูหลักของบ้านเป็นประตูบานเลื่อนชิดไปทางฝั่งขวาของตัวบ้าน ทำให้พื้นที่ฝั่งซ้ายมีพื้นที่เหลือสำหรับตั้งชุดโต๊ะสนามไว้นั่งเล่นได้ ในกรณีที่ไม่ได้จอดเต็มหน้าบ้านทั้ง 2 คัน

กำแพงฝั่งซ้ายติดตั้งก๊อกน้ำไว้เผื่อต่อสายยางรดน้ำต้นไม้ หรือล้างรถได้

ด้านหน้าทางเข้ามีเฉลียงหน้าบ้านเล็กๆที่ยกระดับพื้นขึ้น เพื่อกันไม่ให้น้ำจากที่จอดรถหน้าบ้านไหลเข้าสู่ตัวบ้านและใช้เป็นพื้นที่ถอดรองเท้าหน้าบ้าน โดยเฉลียงหน้าบ้านจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิคช่วยกันลื่นได้ดีกว่ากระเบื้องแกรนิตโต้ และผนังฝั่งซ้ายติดตั้งปลั๊กไฟไว้ให้ค่ะ

ทางเข้าหลักของบ้านเป็นประตูกระจกบานเลื่อนหน้าบ้านเป็นบาน Fix ผสมบานเลื่อนมีขนาดใหญ่รับแสงธรรมชาติได้มาก ตัวบานเลื่อนสามารถเปิดออก 2 ฝั่ง ทำให้ความกว้างเวลาเปิดประตูจะมีความกว้างคือประมาณ 1.5 ม. มีข้อดีที่ทำให้สามารถยกของที่มีขนาดใหญ่เข้าบ้านได้สะดวก ซึ่งปัจจุบันนี้ทาวน์โฮมส่วนใหญ่นิยมใช้ประตูที่เป็นบานเลื่อนซ้อนกัน 2 บาน ทำให้เวลาเปิดประตูเปิดได้กว้างสุดแค่ประมาณ 1 ม. ประตูแบบที่โครงการนี้ใช้จึงสะดวกกว่า ส่วนกระจกเป็นแบบใสธรรมดา มีข้อดีที่สามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาในบ้านได้มาก แต่ก็มาพร้อมกับความร้อนเช่นกัน

วัสดุวงกบประตูเป็นอลูมิเนียมสีธรรมชาติ ส่วนลักษณะของมือจับบานประตูเป็นแบบฝังลงบนวงกบประตู  มีตัวล็อก 1 ตำแหน่งที่มือจับประตู ภายในของขอบวงกบติดเส้นกำมะหยี่เพื่อช่วยกันเสียง กันฝุ่น ไว้ให้เรียบร้อยดีค่ะ

พื้นในตัวบ้านจะยกระดับจากพื้นเฉลียงอีกระดับหนึ่ง ปูด้วยกระเบื้องแกรนิโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ตัวรางประตูถูกกดให้มีระดับที่เท่ากับพื้นกระเบื้องด้านในตัวบ้าน จึงไม่ต้องกังวลเรื่องสะดุดบานประตูนะคะ

เข้ามาด้านในส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น ถัดไปด้านในเป็นส่วนพื้นที่สำหรับรับประทานอาหาร ฝั่งซ้ายมือแบ่งพื้นที่ออกเป็นห้องน้ำและห้องครัว พื้นที่ชั้น 1 มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานชั้นล่างสูง 2.7 เมตรถือว่าให้มาสูงพอสมควรเลย ทำให้ตัวบ้านดูโปร่งโล่งมากขึ้น ผนังในบ้านตัวอย่างจะติด Wallpaper และวัสดุตกแต่งไว้ แต่บ้านจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี ส่วนดวงไฟบ้านตัวอย่างจะติดไฟดาวน์ไลท์และโคมไฟแขวน ส่วนบ้านจริงจะให้เป็นไฟดาวน์ไลท์ค่ะ

มุมมองจากด้านในบ้านมองออกมาหน้าบ้าน จะเห็นตัวบันไดขึ้นชั้นบนอยู่ติดกับทางเข้าบ้านอีกฝั่งหนึ่ง

มาดูรายละเอียดทีละจุดกันนะคะ มุมนี้จะอยู่ด้านหน้าสุดของตัวบ้าน สามารถวางชุดโซฟาชุดใหญ่และตกแต่งด้วยชุดโคมไฟแขวนได้ จะเห็นว่าห้องดูโปร่งเพราะมีประตูหน้าบ้านเป็นกระจกสูงรับแสงธรรมชาติจากภายนอกได้ดี

โซฟาที่จัดไว้ในบ้านตัวอย่างเป็นโซฟาตัว L แบบ 3 ที่นั่ง ซึ่งหากมีสมาชิกมากกว่านี้ พื้นที่ตรงนี้ก็สามารถวางชุดโซฟาที่ใหญ่กว่านี้ได้นะคะ

ส่วนพื้นที่ผนังสำหรับติดทีวีมีความกว้างประมาณ 2 ม. ที่ไม่สามารถติดทีวีตรงกลางผนังได้เพราะผนังส่วนหนึ่งเป็นประตูห้องเก็บของ พื้นที่นี้มีระยะระหว่างโซฟาถึงทีวีกว้างประมาณ 3.5 ม. จึงสามารถติดทีวีขนาดที่ใหญ่ถึง 60 นิ้ว ได้เลย

พื้นที่ระหว่างชั้นวางทีสีถึงโซฟามีความกว้างประมาณ 2.5 ม. จึงมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะรับแขกและเหลือทางเดินเข้าไปด้านในบ้านได้ค่อนข้างกว้าง

ต่อมาเป็นพื้นที่ด้านในของบ้าน ฝั่งซ้ายห้องแรกเป็นห้องน้ำส่วนกลาง ติดกันเป็นห้องครัวที่กั้นประตูบานเลื่อนมาเรียบร้อย ได้เป็นแบบครัวปิด ซึ่งถ้าต้องการทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุแทนก็สามารถทำได้แต่ต้องย้ายครัวไปต่อเติมด้านหลังบ้านแทน ส่วนด้านหลังโซฟาเป็นตำแหน่งวางโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 4-6 ตัว ด้านหลังโต๊ะทานข้าวมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปยังพื้นที่หลังบ้าน

บานประตูห้องน้ำเป็นบานสำเร็จรูป HDF ทนต่อความชื้น

ภายในห้องน้ำชั้น 1 มีความกว้างพอสมควร สามารถแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนเปียก ส่วนแห้ง ทำให้มีพื้นที่อาบน้ำด้วย ในเวลาเร่งด่วนยามเช้าที่ทุกคนในบ้านต้องเข้าห้องน้ำพร้อมๆกันก็สามารถแบ่งสมาชิกลงมาอาบน้ำที่ชั้นล่างได้ด้วย ผนังและพื้นห้องน้ำจะกรุด้วยกระเบื้องเซรามิคช่วยให้กันลื่น ภายในมีสุขภัณฑ์ และวัสดุอุปกรณ์ติดตั้งไว้ให้เรียบร้อย

อ่างล้างหน้าและก๊อกน้ำขนาดกระทัดรัดได้ของ Cotto หรือเทียบเท่า มีความกว้างและลึกพอสมควรใช้งานได้ ส่วนขอบอ่างมีระยะให้พอวางของได้บ้าง ควรหาผ้าเช็ดเท้ามาวางที่พื้นซักผืนก็จะช่วยให้พื้นส่วนแห้งไม่เปียกได้

โถสุขภัณฑ์เป็นโถแบบสองชิ้นยี่ห้อ Cotto หรือเทียบเท่า มากับที่แขวนกระดาษชำระและสายฉีดชำระยี่ห้อเดียวกัน ด้านข้างมีการเว้นพื้นที่ไว้นิดหน่อยสำหรับการหยิบทิชชู่ได้สะดวก

พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.8 x 1 ม. ไม่กว้างเท่าไหร่แต่ก็พอสำหรับใช้งานได้ แนะนำให้ติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเพื่อกันน้ำกระเด็นไปยังพื้นที่ส่วนแห้งรอบๆนะคะ

ระดับพื้นภายในห้องน้ำจะถูกลดระดับลงไปจากพื้นบ้านส่วนอื่นๆ เพื่อไม่ให้น้ำจากในห้องน้ำไหลออกมาในส่วนอยู่อาศัยอื่นๆของบ้านได้ และในพื้นที่ส่วนเปียกก็ลดระดับลงไปอีกเพื่อไม่ให้น้ำไหลออกมายังพื้นที่ส่วนแห้งในห้องน้ำ แต่ยังไงก็ตามการลดระดับคงไม่ได้ช่วยกันน้ำกระเด็นได้เท่าฉากกั้นอาบน้ำ ถ้าอยากให้ได้พื้นที่ที่แยกส่วนเปียกแห้งจริงๆ แนะนำให้ติดฉากกั้นเพิ่มดีกว่าค่ะ

ภายในพื้นที่อาบน้ำจะติดตั้งอุปกรณ์อาบน้ำไว้ให้ ทั้งฝักบัว ที่วางสบู่ และติดตั้งระบบสำหรับต่อกับเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้เรียบร้อย

หน้าตาของอุปกรณ์อาบน้ำที่ได้ค่ะ ฝักบัวอาบน้ำของ COTTO จับได้ถนัดมือดี

ฝ้าเพดานในห้องน้ำติดไฟแบบดาวน์ไลท์ไว้ให้ และเนื่องจากตำแหน่งของห้องน้ำอยู่ในตัวบ้าน ไม่มีหน้าต่างระบายอากาศ ทางโครงการจึงติดตั้งเครื่องดูดอากาศไว้ให้เรียบร้อย

มาดูห้องครัวที่อยู่ติดกันนะคะ จะได้เป็นครัวปิด กั้นกับพื้นที่ส่วนอื่นด้วยประตูบานเลื่อน ซึ่งบ้านจริงที่ได้ก็จะได้แบบนี้เลย ถ้าบ้านไหนต้องการทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุคงต้องย้ายครัวไปต่อเติมที่ด้านหลังบ้านแทน

พื้นที่ห้องครัวนี้มีพื้นที่พอวางเคาน์เตอร์ตัว L ขนาด 3 – 4 ช่อง สามารถวางซิงค์ล้างจาน เตาไฟฟ้า และตู้เย็นได้ ซึ่งบ้านจริงก็จะได้เคาน์เตอร์ครัวตัว L เหมือนในบ้านตัวอย่างเลยนะคะ ที่ไม่ได้ให้มาคือพวกหม้อ ไมโครเวฟ ที่ดูดควัน และตู้เย็น ถ้าหากไปเลือกซื้อตู้เย็นก็อย่าลืมคำนึงถึงเรื่องขนาด โดยมีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นอยู่ติดมุมห้องเลยมีขนาด 90 x 80 ซม. หรืออย่างที่บ้านตัวอย่างจัดไว้ให้ดูก็มีขนาด 10.7 คิวค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวที่ได้จะติดตั้งซิงค์ล้างจานมาให้ในตำแหน่งที่ลงตัวดีเพราะอยู่ใกล้หน้าต่าง เป็นกระจกบานเลื่อนวงกบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ พร้อมตัวล็อค หน้าต่างในตำแหน่งนี้จะสามารถช่วยเรื่องระบายอากาศและความชื้นจากบริเวณอ่างล้างจานได้ ส่วนพวก Hob & Hood ทางโครงการไม่ได้ติดตั้งมาให้ เวลาจะติดตั้งก็ต้องคำนึงถึงตำแหน่งที่เหมาะสม โดยตำแหน่งของ Hob & Hood ไม่ควรอยู่ใกล้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างตู้เย็น เนื่องจากความร้อนของเตาอาจทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหายได้

เคาน์เตอร์ครัวได้ของ Kitzcho เป็นตู้ Built-in วัสดุเป็นโครงไม้กรุลามิเนต Top เป็นหินแกรนิต ภายในตู้มีช่องเก็บของหลายขนาดและมีลิ้นชักใส่ช้อนส้อม ซึ่งบานพับเป็นแบบ Soft close

นอกจากตู้เก็บของแบบมีหน้าบานปิดแล้ว ยังมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ และตู้ช่องโล่งไว้เก็บอุปกรณ์ทำครัวเล็กๆน้อยๆด้วย

มือจับถูกออกแบบมาให้เป็นแสตนเลสดูคงทน และอยู่ในระนาบเดียวกับตู้ทำให้ภาพรวมของตู้ดูเรียบร้อย สวยงาม

ซิงค์ล้างจานได้ตามมาตรฐานโครงการ มีขนาดพอจะใส่จานชามได้หลายใบ และมีความลึกพอสมควรที่จะล้างแล้วน้ำไม่กระเด็นออกมาค่ะ

ต่อมาที่ฝั่งตรงข้ามห้องครัวเป็นโต๊ะอาหารที่วางอยู่ติดกับประตูกระจกสไลด์ทางด้านหลังบ้าน แสงธรรมชาติจะส่องเข้ามาจากด้านหลังทำให้เวลานั่งทานข้าวเวลากลางวันจะร้อนสักนิด ต้องติดม่านช่วยหน่อย ส่วนระยะโดยรอบโต๊ะทานข้าวมีระยะให้ดึงเก้าอี้ออกมานั่งได้พอสบายค่ะ

สเปคของประตูบานเลื่อนหลังบ้านจะเป็นประตูบานเลื่อนซ้อนกัน 2 บาน เมื่อเปิดแล้วมีความกว้างของช่องทางเดินประมาณ 1 ม. จึงมีขนาดช่องทางเดินเข้าออกเล็กกว่าด้านหน้าบ้านค่ะ

ออกมาที่พื้นที่หลังบ้านจะมีเฉลียงเล็กๆ ที่ลดระดับลงมาจากในตัวบ้าน กว้างประมาณ 80 ซม.

ซึ่งเฉลียงหลังบ้านเป็นตำแหน่งสำหรับวางเครื่องซักผ้า ทางโครงการเดินระบบท่อ และติดตั้งปลั๊กไฟไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

ส่วนที่ถัดจากเฉลียงเป็นพื้นที่หลังบ้าน ซึ่งขนาดของพื้นที่หลังบ้านตามมาตรฐานจะกว้าง 2 ม. มีขนาดพอทำครัวไทยขนาดเล็ก-กลางได้ สำหรับการต่อเติมอย่าลืมดูเรื่องข้อกฎหมายด้วยนะคะ สำหรับบ้านตัวอย่างจะตกแต่งไว้ด้วยหญ้าเทียม แต่บ้านจริงทางโครงการจะเทปูนขัดเรียบและเทหินไว้ให้ไว้ให้แบบรูปขวานะคะ

อีกฝั่งหนึ่งของพื้นที่หลังบ้านก็เป็นพื้นที่โล่งๆ เทหินไว้ให้เช่นกัน ส่วนระแนงและหลังคาด้านบนเป็นส่วนที่ลูกบ้านจะต้องไปต่อเติมเองนะคะ

กลับมาในบ้านที่บันไดขึ้นชั้นบน จะมีช่องแสงของบันไดเป็นหน้าต่างบาน Fix อยู่บานหนึ่งทางผนังฝั่งหน้าบ้าน ช่วยให้ตัวโถงบันไดไม่มืด และในเวลากลางวันก็สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเปิดโคมไฟบริเวณบันไดก็ได้ ช่วยประหยัดค่าไฟด้วยค่ะ

บันไดเพื่อขึ้นไปชั้นบนบ้าน ตัวบันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีต ปิดผิวด้วยไม้ยางพาราอัดประสาน ส่วนราวบันไดเป็นราวเหล็ก มือจับเป็นไม้ยางทำสีค่ะ

ลูกตั้งลูกนอนของโครงการได้มาตรฐานดี

ลักษณะบันไดเป็นบันไดรูปตัว I แต่ด้วยความสูงของฝ้าถึง 2.7 ม. ทำให้ต้องมีขั้นบันไดที่มากหน่อย ชานพักจึงกลายเป็นชานพักสามเหลี่ยมแทนที่จะได้เป็นแบบสี่เหลี่ยมเต็มๆ ให้ยืนพักได้สะดวก

ขึ้นมาด้านบนจะเจอกับโถงทางเดินยาวเพื่อแยกไปยังห้องต่างๆ ชั้นนี้ประกอบด้วย 3 ห้องนอน ได้แก่ ห้องนอนกลาง 1 ห้อง, ห้องนอนเล็ก 2 ห้องและห้องน้ำส่วนกลาง ที่ทั้ง 3 ห้องนอนต้องใช้ร่วมกัน

เรามาดูฝั่งห้องนอนที่ติดกับบันไดก่อนนะคะ ขึ้นมาจากบันไดจะเจอประตูเข้าห้องทางฝั่งขวา บานประตูของห้องนอนและห้องน้ำ มีลักษณะที่เหมือนกันเป็นบาน HDF

ส่วนพื้นของห้องนอนจะเป็นพื้นลามิเนตหนา 8 มม. ปูยาวจากโถงทางเดินเข้าไปเลยนะคะ มีตัวจบพื้นเป็นขอบธรณีกั้นเล็ก ช่วยกั้นฝุ่นจากพื้นทางเดินเข้าไปในห้องนอนค่ะ

พอเปิดประตูมาประมาณ 150 องศาก็จะมี Doorstop ให้ก่อนที่ลูกบิดจะไปกระแทกกับผนังอีกฝั่งหนึ่ง

ภายในห้องนอนเล็กที่ติดกับโถงบันได ห้องนี้จะจัดเป็นห้องนอนเล็กหรือเป็นห้องทำงานก็ได้ ซึ่งถ้าจัดเป็นห้องนอนเล็กก็มีพื้นที่พอกับเด็กวัยรุ่นที่มีข้าวของยังไม่เยอะนัก มีพื้นที่สำหรับวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตและเหลือพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าได้ ส่วนที่บ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องทำงานก็วางโต๊ะทำงานได้ 2-3 ที่นั่ง และเหลือพื้นที่อีกฝั่งทำเป็นชั้นวางหนังสือได้

หน้าต่างอลูมิเนียมภายในห้องได้มาค่อนข้างใหญ่ เป็นบาน Fix ผสมบานเลื่อน สามารถเปิดรับแสงและระบายอากาศได้

ถ้าจัดห้องนี้เป็นห้องทำงานเหมือนบ้านตัวอย่าง จะเหลือพื้นที่ทางเดินกว้าง 1.7 x 1.8 ม. ซึ่งพื้นที่ตรงนี้จัดเป็นโต๊ะเขียนหนังสือของเด็กๆ เพิ่มขึ้นมาอีกก็ได้นะคะ

มาดูห้องนอนเล็กอีกห้องกันค่ะ สำหรับห้องนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นจากห้องที่แล้ว ที่บ้านตัวอย่างจัดไว้ให้ดูเป็นขนาด 3.5 ฟุตซึ่งจริงๆแล้วมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือ จะวางเตียงขนาด 5 ฟุตก็ได้ ส่วนหน้าต่างจะได้สเปคเดียวกับห้องที่แล้ว เป็นบานใหญ่ ได้แสงธรรมชาติเข้ามาเพียงพอ

พื้นที่รอบเตียงมีพื้นที่ทางเดินให้สามารถขึ้นเตียงได้โดยรอบ ส่วนปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 50 ซม. ถ้าทำชั้นวางทีวีก็จะไม่เหลือพื้นที่ทางเดินนะคะ ห้องนี้จึงเหมาะจะติดทีวีแบบแขวนผนังมากกว่าค่ะ

ผนังฝั่งติดประตูห้อง มีพื้นที่ด้านข้างสำหรับวางโต๊ะเครื่องสำอางและตู้เสื้อผ้าขนาดกะทัดรัดได้ ก็ค่อนข้างลงตัวสำหรับเด็กวัยรุ่น ที่ยังไม่มีข้าวของเยอะนักค่ะ

ต่อมาเป็นห้องน้ำของชั้น 2 จะมีขนาดใหญ่กว่าห้องน้ำที่ชั้นล่าง ด้วยพื้นที่ห้องที่ค่อนข้างกว้างจึงสามารถจัดพื้นที่มาได้ลงตัวทีเดียว สำหรับกระเบื้องปูพื้นและผนังจะใช้เป็นกระเบื้องเซรามิคทั้งหมด แต่พื้นและผนังจะใช้คนละสี

ห้องน้ำที่บ้านตัวอย่างและบ้านจริงที่ส่งมอบให้ลูกบ้านจะเหมือนกันนะคะ สำหรับห้องกลางจะติดเครื่องดูดอากาศของ Mitsubishi ให้ เนื่องจากไม่มีหน้าต่างระบายอากาศเหมือนห้องมุมค่ะ

สำหรับพื้นที่ส่วนแห้งในห้องน้ำบนชั้น 2 ก็จะมีอ่างล้างหน้า กระจกเงาและสุขภัณฑ์เหมือนห้องน้ำชั้นล่าง แต่ตัวอ่างล้างหน้าจะมีขนาดใหญ่กว่าและได้เคาน์เตอร์วางของมาด้วย

ด้านในเป็นพื้นที่อาบน้ำ ซึ่งทางโครงการไม่ได้แถมฉากกั้นอาบน้ำมาให้ แต่ด้วยพื้นที่อาบน้ำเป็นทรงสี่เหลี่มแบบมาตรฐานลูกบ้านสามารถหาติดเองได้ง่าย

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.9 x 1.9 ม. กว้างขวางทีเดียว

ภายในติดตั้งฝักบัวที่โครงการให้ และด้านบนขวาติดตั้งระบบสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ

ส่วนพื้นห้องน้ำในส่วนแห้งจะถูกลดระดับลงมาจากพื้นโถงชั้น 2 ลงมาเพื่อไม่ให้น้ำจากในห้องน้ำไหลออกไปเลอะเทอะทางเดิน และพื้นที่ส่วนเปียกก็จะลดระดับลงไปอีกเพื่อกันน้ำจากพื้นที่อาบน้ำไหลออกไปส่วนแห้งอีกที

ออกมาที่โถงทางเดินอีกฝั่งหนึ่งบนชั้น 2 ซึ่งจะตรงกับห้องนอนกลางที่จะได้พื้นที่ใช้สอยยาวตลอดแนวหน้าบ้านทั้งหมด ส่วนฝั่งขวาเป็นบันไดทางขึ้นชั้น 3 ค่ะ

ห้องนอนอีกห้องหนึ่งบนชั้น 2 คือห้องนอนกลางที่อยู่ทางหน้าบ้าน มีขนาดกว้างกว่าห้องนอนที่อยู่ทางหลังบ้านไม่มากนักแต่จะได้กระจกรับแสงธรรมชาติยาวตลอดแนวหน้าบ้าน ฝั่งหนึ่งของห้องเป็นตำแหน่งสำหรับวางเตียงนอน ซึ่งบ้านตัวอย่างวางไว้ขนาด 5 ฟุต โดยมีพื้นที่เหลือทั้ง 2 ฝั่งจริงๆแล้วสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้เพราะมีพื้นที่เหลือพอนะคะ แต่พื้นที่สำหรับวางโต๊ะหัวเตียงจะลดลง

โดยรอบเตียงมีพื้นที่เหลือให้เดินขึ้นเตียงได้สะดวก ด้านในสุดเป็นตำแหน่งของโต๊ะหัวเตียง ซึ่งด้านหลังโต๊ะหัวเตียงติดตั้งปลั๊กไฟสำหรับเสียบชาร์ตแบตโทรศัพท์ หรือเสียบปลั๊กโคมไฟไว้เรียบร้อย พื้นที่ปลายเตียงเหลือเป็นพื้นที่ทางเดินประมาณ 70 ซม. ถ้าทำชั้นวางทีวีก็จะไม่สามารถเดินเข้าไปด้านในได้ จึงแนะนำให้ติดทีวีแบบแขวนจะลงตัวกว่าค่ะ

ผนังด้านในสุดของห้องเป็นหน้าต่างบานเลื่อนบานใหญ่เกือบเต็มจากพื้นถึงฝ้า ทำให้ภายในห้องมีช่องให้แสงธรรมชาติเข้ามายังห้องนอนได้เพียงพอ

จากหน้าต่างบานใหญ่เปิดออกไปจะมีพื้นที่ด้านนอก ตรงนี้ไม่ได้ทำเพื่อไว้ใช้งานเหมือนระเบียงทั่วๆไปนะคะ จริงๆจะไม่ทำก็ได้นะคะ แต่ในการออกแบบนั้นเพื่อให้ได้ช่องแสงขนาดใหญ่ ที่สามารถเปิดรับลมได้ก็จำเป็นต้องมีราวกันตกไว้เพื่อความปลอดภัยค่ะ

ส่วนพื้นที่ปลายเตียงที่บ้านตัวอย่างจัดออกมาเป็นพื้นที่ Walk-in closet ก็จะได้พื้นที่แต่งตัวเป็นสัดส่วนดี หรือใครจะทำเป็นโซนทำงาน ก็วางโต๊ะทำงาน กับตู้เขียนหนังสือ ทำให้มีตู้เก็บของเพิ่มขึ้นได้

ขนาดพื้นที่ Walk-in Closet ได้มาไม่กว้างมากนัก เนื่องจากตำแหน่งของประตูทางเข้าห้องที่อยู่ตรงกลางตัวบ้าน แต่ก็ยังมีพื้นที่พอสมควรให้ใช้ประโยชน์ได้

ติดกับพื้นที่ Walk – in Closet จะเป็นประตูบานเลื่อนแบบเกือบเต็มบานจากพื้นถึงฝ้า เช่นเดียวกับหน้าต่างที่ติดกับเตียงนอน ช่วยให้พื้นที่ใช้สอยตรงนี้ดูโปร่งขึ้นค่ะ

ต่อมาที่บันไดขึ้นชั้น 3 ตัวโครงบันไดและวัสดุจะเหมือนกับบันไดชั้นล่างเลยนะคะ

ส่วนชานพักบันไดเป็นแบบบันไดเป็นสามเหลี่ยมเข้ามุม เนื่องจากฝ้าสูงและมีพื้นที่บันไดน้อยจึงต้องยอมเปลี่ยนชานพักเป็นบันไดเข้ามุมแทนค่ะ

โถงบันไดได้ความสว่างมาจากแสงธรรมชาติด้านนอก ผ่านบานหน้าต่างแบบบาน Fix ขนาดใหญ่ ทำให้เวลากลางวันแทบไม่ต้องเปิดไฟในส่วนนี้เลย

ขึ้นมาจากบันไดจะเจอโถงหน้าห้องนอนใหญ่ ซึ่งห้องนอนใหญ่จะได้พื้นที่บนชั้น 3 เต็มทั้งชั้นเลยค่ะ

ภายในห้องนอนใหญ่ เป็นห้องที่มีฟังก์ชันครบและเป็นสัดส่วน คือมีระเบียงและห้องน้ำในตัว และยังแบ่งพื้นที่บริเวณหน้าห้องน้ำทำเป็น Walk-in Closet ได้เป็นสัดส่วนด้วย ระยะพื้นถึงฝ้าสูงเท่ากับห้องนอนชั้น 2 คือ 2.7 ม. สำหรับบ้านจริงจะไม่ได้ให้เฟอร์นิเจอร์นะคะ จะเป็นห้องเปล่า ผนังทั้งหมดจะฉาบเรียบทาสีขาวค่ะ

การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายใน ฝั่งที่ติดหน้าต่างเป็นตำแหน่งสำหรับวางเตียง ซึ่งขนาดของเตียงก็เลือกวางได้ถึง 6 ฟุตแบบมีพื้นที่เหลือเดินได้รอบๆ ขึ้นเตียงได้สะดวก หน้าต่างได้เป็นบานใหญ่เกือบสูงถึงฝ้า เป็นบาน Fix ผสมบานเลื่อน จึงใช้รับแสงธรรมชาติได้และเปิดระบายอากาศได้ค่ะ

พื้นที่รอบเตียงมีพื้นที่เหลือรอบๆให้เดินได้สะดวก ส่วนพื้นที่ปลายเตียงกว้างประมาณ 1 ม. จึงสามารถทำชั้นวางทีวีหรือตู้เก็บของก็ได้

ปลายเตียงมีประตูกระจกบานเลื่อนสำหรับออกไประเบียง

พื้นที่ระเบียงขนาดประมาณ 1.9 x 3.2 ม. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ส่วนใหญ่พื้นที่ระเบียงจะใช้วางคอมเพรสเซอร์แอร์ ซึ่งมันจะระบายความร้อนอยู่ตลอดหากเปิดใช้แอร์ จึงแนะนำให้แขวนคอมเพรสเซอร์มากกว่าตั้งพื้น จะทำให้พื้นที่ระเบียงใช้งานได้จริง เป็นพื้นที่ให้มานั่งเล่น เปลี่ยนบรรยากาศได้

จากเตียงนอนมองไปพื้นที่ใช้สอยอีกฝั่งหนึ่งในห้อง เป็นพื้นที่ที่สามารถกั้นเป็น Walk in Closet ได้

ขนาดพื้นที่ส่วน Walk-in Closet ค่อนข้างกว้างทีเดียว ภายในมีหน้าต่างอยู่ในตำแหน่งหน้าห้องน้ำ ทำให้พื้นที่แต่งตัวไม่มืดทึบและในกลางวันก็แทบไม่ต้องพึ่งแสงไฟเลยค่ะ

พื้นฝั่งหนึ่งสามารถ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่

อีกฝั่งหนึ่งหน้าประตูทางเข้าห้องน้ำ ใช้เป็นตำแหน่งของโต๊ะเครื่องแป้งได้

ห้องน้ำภายในห้องนอนใหญ่เป็นห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่สุดในบ้าน สำหรับกระเบื้องปูพื้นและผนังจะใช้เป็นกระเบื้องเซรามิคเหมือนแบบห้องน้ำชั้น 2 แต่จะใช้สีที่ต่างกัน บานประตูและสุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ต่างๆ จะเหมือนของห้องน้ำชั้น 2 แต่จะได้ขนาดของเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าที่ใหญ่ขึ้น ส่วนพื้นห้องน้ำจะถูกลดระดับลงมาจากพื้นห้องนอนเพื่อไม่ให้น้ำไหลออกจากห้องน้ำได้ค่ะ

ตำแหน่งของสุขภัณฑ์ในห้องนี้จะอยู่ด้านหลังประตู ด้านข้างติดฝักบัวฉีดน้ำ และที่ใส่กระดาษมาให้เรียบร้อย

พื้นที่อาบน้ำจะมีขอบธรณีกั้นนำในส่วนเปียกไม่ให้ไหลออกมานะคะ พื้นที่อาบน้ำจะถูกลดระดับลงจากพื้นที่ส่วนแห้งอีกที โดยพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.9 x 1 ม. ภายในติดอุปกรณ์อาบน้ำไว้เรียบร้อยเหมือนห้องน้ำอื่นๆ ในบ้านค่ะ

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จะได้ช่องเปิดในตัวเพื่อช่วยระบายอากาศ เป็นพื้นที่เล็กๆ ที่สามารถวางราวตากผ้าได้ เอาไว้ตากผ้าเช็ดตัวเวลาที่อาบน้ำเสร็จก็ตากไว้ที่ระเบียงในห้องน้ำได้เลย

ขนาดพื้นที่ประมาณ 90 x 1.4 ม. มาพร้อมลูกกรงเพื่อความปลอดภัยทั้งผู้อยู่อาศัยและเสื้อผ้า 😀

หน้าตาของปลั๊กไฟและสวิตซ์ไฟที่ได้ของ Bticino

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 26 January 2017

  • TH 2 ชั้น (Regent) แปลงกลาง พื้นที่ใช้สอย 113 ตร.ม. ที่ดิน 17.9 ตร.วา ราคา 2.19 ล้านบาท
  • TH 3 ชั้น (Hyde) แปลงกลาง พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม. ที่ดิน 18.5 ตร.วา ราคา 2.89 ล้านบาท
  • TH 3 ชั้น (Central) แปลงกลาง พื้นที่ใช้สอย 193 ตร.ม. ที่ดิน 21.4 ตร.วา ราคา 3.54 ล้านบาท

  • จองและทำสัญญา 10,000 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตร.วาละ 55,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 48 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล – โครงการ สัมมากร อเวนิว รามอินทรา – วงแหวน เป็นทำเลย่านชานเมืองตอนบนฝั่งตะวันออก อยู่ติดถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษกสภาพแวดล้อมรอบโครงการจะค่อนข้างโล่งเพราะไม่ได้อยู่ในแหล่งชุมชนและไม่ได้ติดหมู่บ้านอื่นๆ โดยพื้นที่รอบข้างจะเป็นที่ดินเปล่าและคลองจึงมีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูงและได้มุมมองที่เปิดโล่ง แต่ก็ต้องแลกมากับแหล่งความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินนั้นไม่มี ที่ใกล้หน่อยก็จะมี Big C และ 7-11 ในซอยคู้บอน และศูนย์การค้าที่ใกล้ที่สุดคือ Fashion Island ก็จะมีแหล่งของกินของใช้ ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ต้องอาศัยรถยนต์ไป

การเดินทาง – จะเหมาะสำหรับการใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักเพราะทำเลของโครงการอยู่ใกล้จุดขึ้นลงตัวช่วยในการเดินทางทั้งทางด่วนอย่างรามอินทรา – อาจณรงค์ และวงแหวนรอบนอกทำให้มีทางหลีกเลี่ยงการจราจรที่คับคั่งสุดๆของถนนรามอินทราได้ นอกจากนี้ยังไม่ไกลจากถนนรามอินทรา ที่เป็นถนนหลักที่เชื่อมกับถนนสำคัญๆได้หลายสาย เช่น ถนนวิภาวดี – รังสิต, ถนนพหลโยธิน, ถนนลาดปลาเค้า, ถนนวัชรพล, ถนนนวมินทร์

ความปลอดภัย – ตามมาตรฐานของระดับราคานี้ ได้ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการมี รปภ. ดูแลตลอด และมีไม้กระดกกั้น การผ่านเข้า – ออกด้วยระบบ Keycard นอกจากนี้ยังมีระบบ CCTV รอบโครงการ 52 จุด ส่วนความสูงรั้วรอบโครงการ 2.5 เมตร ซึ่งสูงกว่าหลายๆโครงการในระดับราคานี้

การออกแบบโครงการ – โครงการวางผังโครงการมีผู้อยู่อาศัย จำนวน 345 หลัง ภาพรวมของการจัดผังโครงการทำมาได้ดี ที่ชอบคือจัดแบ่งซอยย่อยออกเป็นซอยเล็กๆ ไม่เกิน 12 หลัง ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวและซอยไม่ลึกทำให้ดูแลความปลอดภัยได้ง่ายขึ้นแม้จะอยู่ในโครงการใหญ่ สภาพแวดล้อมภายในโครงการจัดมาให้ตามราคา มีทางเท้าให้เดินได้เฉพาะริมถนนหลักของโครงการ

โครงการภายใต้แบรนด์ สัมมากร เป็นทาวน์เฮาส์ที่สร้างด้วย ระบบ Pre-casting มีรูปแบบบ้านในโครงการมีให้เลือก 3 แบบ คือ

  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น 1 แบบ ขนาดกะทัดรัด 113.50 ตร.ม. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ เหมาะกับผู้อยู่อาศัยครอบครัวขนาดเล็ก
  • ทาวน์โฮม 3 ชั้น มีให้เลือก 2 แบบคือแบบ 3 ห้องนอนและ 4 ห้องนอน โดยแบบ 4 ห้องนอนจะเป็นแบบที่มีความแตกต่างจากทาวน์โฮมโครงการอื่นในทำเลนี้

พื้นที่ดินของโครงการจะไม่ได้มีขนาดใหญ่มากทำให้ราคาบ้านหยิบจับง่าย แต่จะไปเน้นพื้นที่ใช้สอยในบ้านอย่างเต็มที่ การออกแบบเน้นใช้หน้าต่างกระจกบานใหญ่เพื่อให้รับแสงธรรมชาติและระบายอากาศ ฟังก์ชันภายในค่อนข้างลงตัว คำนึงถึงการใช้งานจริงของสมาชิกในบ้าน อย่างห้องน้ำทุกห้องในบ้านสามารถอาบได้ ส่วนครัวให้มาเป็นครัวปิด กั้นห้องให้เรียบร้อย และมีขนาดใหญ่พอให้สามารถปรับเป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้แต่ก็ต้องดันครัวออกไปด้านหลังบ้านแทน ส่วนห้องนอนกลางและห้องนอนใหญ่จะมีความยาวตามหน้ากว้างของบ้านทำให้สามารถแบ่งพื้นที่ส่วนแต่งตัวได้ด้วย

วัสดุ – วัสดุโครงการถือว่าได้มาตามมาตรฐานราคาที่จ่ายนะคะ บ้านมาตรฐานจะได้เป็นบ้านเปล่า ฝ้าเพดานทั้ง 3 ชั้นสูง 2.7 ม. ชั้นล่างปูพื้นด้วยแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. และชั้นบนปูพื้นลามิเนตหนา 8 มม. ระเบียงและห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิก 30 x 30 ซม. ส่วนลานซักล้างเทพื้นคอนกรีตขัดเรียบไว้บางส่วน บางส่วนเทหินไว้ให้ ดวงไฟได้เป็นดาวน์ไลท์ทั้งหมด และสุขภัณฑ์ห้องน้ำจาก COTTO ส่วนที่เพิ่มให้มากกว่ามาตรฐานเป็นเคาน์เตอร์ครัวที่แถมมาให้พร้อมซิงค์ล้างจาน และตู้เก็บของใต้เคาน์เตอร์

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ – ถนนหลักที่เป็นทางเข้าโครงการมีความกว้างเป็นพิเศษ โดยถนนหลักในโครงการมีขนาด 16 ม. และถนนซอยในโครงการมีขนาด 9 ม. สภาพภายในสวนโครงการมีทั้งต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่ม ถ้ารอต้นไม้โตอีกหน่อยคงจะดูร่มรื่นกว่านี้ ก็เป็นปกติของโครการใหม่ๆที่ต้องรอต้นไม้ฟื้นตัวสักพัก

สาธารณูปโภค – สาธารณูปโภคที่ได้ตามราคาที่จ่าย โดยพื้นที่ส่วนกลางนั้นจะมีไม่เยอะ เหมาะกับคนที่เน้นการอยู่อาศัยมากกว่าส่วนพื้นที่สระว่ายน้ำและฟิตเนสมีขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่เมื่อเทียบกับจำนวนลูกบ้าน 345 หลัง แต่ก็มีให้มาใช้งานออกกำลังกายได้บ้าง ทางเข้าออกและรอบโครงการติดตั้งกล้อง CCTV  และระบบ Key Card Access ระยะใกล้ เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการเข้าออกโครงการ

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 2.19-3.54 ล้านบาท, 26 January 2017

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 –ติดถนนเลียบวงแหวนฯ ไปขึ้นทางด่วนได้สะดวก แต่ไม่มีความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้
  • ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก, รปภ.24 ชั่วโมง, Key card Access ระยะใกล้, CCTV รอบโครงการ 52 จุด
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – จัดฟังก์ชันลงตัว ได้ช่องแสงใหญ่ หน้าบ้านกว้าง
  • วัสดุ 7.5/10 – ตามมาตรฐานวัสดุของระดับนี้ และแถมเคาน์เตอร์ครัวให้
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – โครงการจัดผังได้ดี แบ่งเป็นซอยๆไม่เกิน 12 หลัง สภาพในโครงการดี ได้สวนแนวยาวทางด้านหน้าโครงการ
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 –ได้คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ Fitness สวนประมาณ 1 ไร่
  • 7.58 / 10.00

BOTTOM LINE

สัมมากร อเวนิว รามอินทรา – วงแหวน เป็นตัวเลือกของทาวน์โฮม 2-3 ชั้นในย่านรามอินทรา เหมาะกับคนที่ใช้รถยนต์เป็นหลัก ชอบแบบบ้านของสัมมากร ต้องการบ้านที่เน้นพื้นที่ใช้สอยเต็มที่ และอยากใช้ Facilities ส่วนกลาง มีงบ 2-3 ล้านกว่าบาท

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )