Property Perfect Moff Design (1)

ช่วงเช้าของวันนี้ 7 มิถุนายน 2555 ทาง Property Perfect ได้มีการจัดแถลงข่าวเปิดตัวแบบห้องใหม่กับบรรดาผู้สื่อข่าว พร้อมเผยรายละเอียดเบื้องต้นของโครงการคอนโดมิเนียมใหม่อีก 7 โครงการที่กำลังจะเปิดตัวในไตรมาส 2 – ไตรมาส 4 แบรนด์ The Sky, Metro Sky และ iCondo ในปี 2555 นี้

ผมในฐานะของตัวแทนจากเวปไซต์ Think of Living ก็ได้รับเกียรติเชิญไปในงานแถลงข่าวเปิดตัวนี้ด้วย จึงได้โอกาสวิเคราะห์แบบห้องใหม่ “Moff Design” มาให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกันเป็นครั้งแรกก่อนลูกค้าทั่วไป ที่กว่าจะได้ชมก็ใน งาน Siam Paragon วันที่ 21 – 24 มิถุนายนเลยครับ

งานเปิดตัว

บรรยากาศจากงานเปิดตัว Moff Design โดยเริ่มจากการเปิดแบรนด์ใหม่ The Sky

ต่อมาก็เชิญผู้บริหารทั้ง 3 ท่านขึ้นไปพูดคุยเรื่องราวเกี่ยวกับ Moff Design

ยิงเลเซอร์เตรียมเปิดม่านห้องแต่งพิเศษ

Product Walkthrough

ออกมาหน้าตาเป็นแบบนี้ครับผม ห้องตัวอย่างสูง 4 เมตร (ในขณะที่เพดานห้องประชุมของโรงแรม S31 สูง 7 เมตร)

MOFF Design ย่อมาจาก Maximum of Flexible Function คอนเซปท์คือการเพิ่มพื้นที่ในแนวดิ่งจากพื้นถึงฝ้าเป็น 4 เมตร จากห้องปกติ 2.5 – 2.7 เมตรในคอนโดมิเนียมแบบทั่วไป ปรับ Function พื้นที่ใช้สอยให้เป็น 2 Steps มี Extra Space เสริมพิเศษขึ้นมาได้ โดย พื้นที่ยูนิตของ Moff Design จะอยู่ที่ 28 – 47 ตารางเมตร ซึ่งจะได้ Extra Space ของ “ชั้นลอย” ประมาณ 25% ของพื้นที่ห้อง … ผมจะสรุปง่ายๆว่าเป็น Semi-Duplex นั่นเอง

ส่วนที่เป็นชั้นล่างของ Semi-Duplex นั้นสูง 2 เมตร ชั้นลอยสูง 1.8 เมตร ทำพื้นประมาณ 20 ซม. คร่อมส่วนที่เป็นห้องน้ำและห้องทำงาน

ห้องที่เห็นวันนี้มีพื้นที่ 47 ตารางเมตร ชั้นบนเป็น Extra 13 ตารางเมตร รวมแล้วประมาณ 60 ตารางเมตร ราคาขายอยู่ประมาณ 4 ล้านกว่าบาท ซึ่งหากเทียบกับห้อง Duplex 60 ตารางเมตรที่ขายอยู่ในราคาแถวๆ ตารางเมตรละ 100,000 บาท ก็ต้องซื้อในราคาประมาณ 6 ล้านบาทนะครับ

 

ทางขึ้นส่วนที่เป็นชั้นลอย มีบันไดกว้างประมาณ 70 เซนติเมตร มีเสากลมเล็กๆท่อนหนึ่งแอบไว้ข้างบันไดช่วยรับน้ำหนัก โดยโครงสร้างของพื้นที่ Extra Space นี้ทำจากโครงเหล็กแข็งแรง ถามผู้บริหาร Property Perfect แล้วบอกว่าเอาคนขึ้นไป 10 คน จัดงาน Party ข้างบนได้ไม่มีปัญหา เพราะเคยทำมาแล้วในตัวอย่างหนังโฆษณา

ด้านล่างทำเป็นห้องทำงานรูปตัว L หรือจะทำเป็นมุมครัวก็ได้ ในที่นี้ทำเป็นห้องทำงาน ความสูง 2 เมตร เพียงพอสำหรับห้องที่ต้อง “นั่ง” จดจ้องอยู่กับอะไรสักอย่าง แต่อาจจะรู้สึกไม่ค่อยสบายเท่าไรถ้าต้องเดินไปเดินมา เพราะจะไม่โปร่ง

ชั้นบนมีราวกันตกทำด้วยวัสดุกระจก Tempered Glass แต่ห้อง Mock Up นี้ใช้อครีลิคมาแทนก่อนเนื่องจากต้องประกอบยกไปยกมา (ถามจาก Interior Designer)

ใต้บันไดมีการซอยช่องเป็นตู้หนังสือ ซึ่งตรงนี้จะมีมาให้พร้อมกับห้อง Moff Design เลย โดยบันไดนั้นมีขั้น 3 เหลี่ยมอยู่สองขั้น ซึ่งอาจจะเดินแล้วไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไร เพราะทางเดินค่อนข้างแคบแค่ 70 ซม. แนะนำให้ทำเป็นชานพักเต็ม แล้วมี Step ยื่นออกมาอีก 1 Step จะดีกว่า เปลืองพื้นที่นิดแต่ปลอดภัย

ห้องทำงานชั้นล่าง

พื้นที่ส่วนนี้ต้องยอมรับว่าเตี้ยนะครับ เพราะอยู่ใต้ชั้นลอย สูงแค่ 2 เมตรเอง แต่ถ้าคิดเสียว่าพื้นที่ข้างบนเอาไปใช้ประโยชน์ได้อีก ทำให้ได้ประโยชน์สองเท่า ก็ต้องถือว่าคุ้มครับ

ด้านล่างของชั้นลอยมีส่วนหนึ่งเป็นห้องน้ำที่มีบานเลื่อนเป็นกระจกฝ้า เปิดปิดได้สองทาง เข้าออกผ่านห้องทำงานหรือห้องนอน ตรงนี้อาจจะมีประเด็นฮวงจุ้ยเรื่องประตูตรงกันสำหรับคนที่ถือ

บานเลื่อน

ห้องน้ำของ Mock Up Room ยังไม่ค่อยสมบูรณ์ ที่ดูได้ก็จะมีส่วนของ Sink ยี่ห้อ MOGEN ที่ใช้หินเทียมมาทำท๊อป และสุขภัณฑ์ของ Cotto ECO

ชุดอาบน้ำเป็น Rain Shower / Hand Shower มีให้ครบ ติดโมเสก 1 แผง

กระจกและซิงก์ ส่วนกระเบื้อง ลายกระเบื้อง ยังไม่น่าใช่รูปแบบเดียวกับห้องจริง

หน้าตาของสุขภัณฑ์

เดินออกจากห้องน้ำไปก็จะเป็นห้องนอนใหญ่ ที่ดูดีกว่าห้องปกติเนื่องจากได้พื้นที่เพดานสูง 4 เมตร มีกระจกบานใหญ่กรอบอลูมิเนียมสูง Floor to Ceiling

เตียง 5 ฟุต วางตู้ข้างเตียงได้ทั้งสองด้าน

ปลายเตียงจริงๆแล้วเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น ต้องมีกระจกเลื่อนปิดเปิดห้องนอนกับห้องนั่งเล่นและชั้นวางทีวี

แต่ด้วยความเป็น Mock Up Room จึงไม่ได้ทำมา เปิดเป็นพื้นที่โล่งๆให้มองเข้าไปเห็นห้องนอนได้ง่ายๆ

ให้ดูความสูง 4 เมตร จะช่วยให้ห้องนอนโปร่งขึ้นมาก เทียบกับห้อง Duplex ก็จะได้บรรยากาศที่คล้ายคลึงกัน (แต่ Duplex ได้ฝ้าเพดานสูง 5 – 6 เมตร)

กรอบหน้าต่าง

มองจากห้องนอนย้อนกลับไปยังห้องน้ำ โดยจะเห็นราวกันตกของชั้น 2 ที่ทำเป็นห้องนอนเล็กอีก 1 ห้อง

นั่งที่โซฟามองกลับไป

ให้ดูภาพรวมในส่วนของรับประทานอาหาร

จริงๆแล้วห้องนี้ต้องมีผนังด้านขวาด้วย แต่ด้วยความที่เป็น Mock Up (อีกแล้ว) เลยเอาผนังด้านขวาออกไป ชุดโซฟา โต๊ะ เก้าอี้ เลยวางเต็มพื้นที่ได้ แต่จริงๆแล้วพอมีผนังด้านขวาต้องเอาเก้าอี้ออก ไม่อย่างนั้นจะไม่มีทางเดิน

จะเอาเก้าอี้วางหัวท้าย หรือเลื่อนเก็บเข้าไปข้างในก็ได้

บันได

ความกว้างของบันไดไม่มาก เวลาเดินขึ้นลงต้องระวังนิดนึง เดินสวนไม่ได้

มองจากราวกันตกที่ชั้นลอยลงไปชั้นล่าง

เตียง 3.5 ฟุตบนชั้นลอย

มองลงไปเห็น Master Bedroom

อีกส่วนหนึ่งของชั้นลอยแต่งเป็นห้องซ้อมดนตรี เพดานสูง 1.8 เมตร ถ้าเป็นคนที่ตัวสูงก็ต้องก้มๆนิดนึง

มีอุปกรณ์แต่งเพลงครบ

มองลงไปชั้นล่างได้เหมือนกัน

นั่งอยู่บนเก้าอี้ จะเห็นราวกันตกในระดับสายตา

จะเห็นว่าบนชั้นลอยฝั่งของเตียงตั้งอยู่เหนือห้องน้ำที่ต้องการเพดานสูง 2.2 เมตร ทำให้ต้องเดินบันไดอีก 1 Step ขึ้นไปจากฝั่งของห้องซ้อมดนตรี ส่งผลให้เพดานของฝั่งเตียงสูงแค่ 1.6 เมตรเท่านั้นเอง

เวลาเดินลงจะเป็นแบบนี้

วิเคราะห์สินค้า

ภาพโฆษณาที่ชั้น Moff ดีไซน์

จุดเด่นอย่างแรกก็คือได้พื้นที่เพิ่ม เป็น Extra Space

ต่อมาก็ได้ Ceiling สูง 4 เมตร ในส่วนของห้องนอน ห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร

หน้าต่างห้องนั่งเล่นทำสูง 3 เมตร

ดูภาพโฆษณา

ทาง PF ก็ทำไอเดียเอาไว้หลายแบบ ว่าอยากจะให้พื้นที่ใช้สอยข้างบนเป็นอะไรบ้าง เช่นห้องนอน และมุมทำงาน

ห้องนั่งเล่นดูหนังฟังเพลง

ห้องสมุดอ่านหนังสือ

ห้องเสื้อผ้าเก็บเครื่องแต่งตัวของสุภาพสตรีทั้งหลาย

ห้องซ้อมดนตรีเต็มรูปแบบ

ห้องทำงานเขียนแบบ

ห้องหนังสือ

Price & Performance

ค่าส่วนกลางต่อตารางเมตร ไม่ได้จ่ายเพิ่มในส่วนของชั้นบน (ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เพราะคิดเป็น Extra Space) เช่น 47 SQM จะคิดค่าส่วนกลางแค่ 47 SQM ไม่ใช่ 60 SQM ตรงนี้ก็เป็นข้อดีเรื่องการเสียเงินค่าส่วนกลาง ต่างจากห้องแบบ Duplex ที่จะคิดค่าส่วนกลางที่ 60 SQM

โดยปกติแล้วถ้าเราอยากอยู่ห้อง Duplex จะต้องควักกระเป๋าอย่างน้อยๆก็ 4-6 ล้าน เทียบราคาห้องมือ 1 ในปี 2012 ซึ่งห้องแบบ Moff Design เป็นอะไรที่แทรกอยู่ตรงกลางระหว่าง Standard และ Duplex ทำให้เอื้อมถึงได้ง่ายขึ้น เริ่มจาก 2.3 ล้านก็พอทำได้ที่ Metro Sky เกษตร แต่พื้นที่ใช้สอยจะอยู่ที่ประมาณ​ 28 SQM เท่านั้น (เพราะไม่รวมพื้นที่ใช้สอยชั้นบน)

MOFF vs Duplex

  • Duplex มีราคาเริ่มต้นที่แพงกว่า ส่วนใหญ่ของตลาดจะเริ่มอยู่ที่ 4-6 ล้านบาทไปสุดประมาณ 20 ล้านบาท (หรือมากกว่านั้น) ซึ่ง MOFF มีราคาเริ่มต้นถูกกว่า อยู่ที่ 2.3 – 3.57 ล้านบาท ไปสุดประมาณ 5-6 ล้านบาท
  • Duplex หรูกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ MOFF คุ้มกว่า
  • ห้องส่วนที่เป็นชั้นลอยและชั้นล่างของ MOFF จะอึดอัดบ้าง เพราะทำเพดานเตี้ย < 2 เมตร แต่ของ Duplex จะไม่อึดอัด เพราะทำเพดานสูงเท่าห้องมาตรฐาน
  • บันไดของ MOFF นั้นแคบกว่า Duplex เยอะ เพราะใช้ความกว้างเพียง 70 ซม. เมื่อเทียบกับมาตรฐานบันได 90 ซม.
  • ค่าส่วนกลางของ Duplex จ่ายเต็มพื้นที่ ของ MOFF จ่ายเท่ากับชั้นล่างเท่านั้น
  • ทางทฤษฎีแล้ว MOFF เป็นห้อง “ชั้นเดียว” เพดานสูง 4 เมตร ที่ “ต่อเติม” ชั้นลอยเข้าไปเอง ในขณะที่ Duplex เป็นห้อง “สองชั้น” แต่ “ตัด” พื้นที่ชั้นบนออกไปเพื่อให้ชั้นล่างโปร่งโล่ง

นานๆทีเราจะได้เห็น Innovation นวัตกรรมใหม่ๆจากค่าย Property Perfect ที่เดิมทีไม่ค่อยจะ Focus ในตลาดคอนโดมิเนียมสักเท่าไร พอเห็นแบบนี้แล้วก็รู้สึกว่ามีความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งแบรนด์อื่นๆที่แข็งแรงกันมากขึ้น

ปีนี้แทบจะเป็นปีทองของนวัตกรรมการออกแบบห้องคอนโดมิเนียม ที่ช่วงต้นปี IDEO Mobi เปิดตัวห้อง 21 ตารางเมตร และ Sky Home ต่อมา Land & Houses ก็นำเสนอห้อง 42 ตารางเมตรอย่างลงตัวเป็นพิเศษ ตามด้วย Property Perfect กับห้องแบบ Moff Design ซึ่งผมเดาว่าในอนาคตครึ่งปีหลังนี้ น่าจะมีแบบห้องที่น่าตื่นตาตื่นใจมาให้เห็นกันอีกละครับ