รีวิว Beat Pop Rachada – Kaset (บีท ป๊อป รัชดา – เกษตร) คอนโด Low Rise เลี้ยงสัตว์ได้ ใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จาก Northland development

Beat Pop Rachada – Kaset (บีท ป๊อป รัชดา – เกษตร) ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2568

พิกัด Google Maps : 13.839291 , 100.586009
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ Beat Pop Rachada – Kaset (บีท ป๊อป รัชดา – เกษตร) แสดงตำแหน่งที่ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 34 แยก 10 – 11 เลี้ยวเข้ามาจากถนนประเสริฐมนูกิจประมาณ 550 เมตร ถือเป็นทำเลที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เหมาะทั้งกับกลุ่มนักศึกษา , เจ้าหน้าที่ , พนักงาน First Jobber และนักลงทุนที่กำลังมองหาคอนโดในราคาหยิบจับง่าย ทั้งยังเดินทางได้สะดวก จากถนนประเสริฐมนูกิจสามารถขับรถไปเชื่อมต่อกับถนนใหญ่ได้อีกหลายสาย ลัดเลาะวิ่งเข้าเมืองได้เลย ทั้งจากถนนพหลโยธิน , ถนนลาดพร้าว – วังหิน , ถนนโชคชัย 4 , ถนนวิภาวดีรังสิต และถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนรามอินทรา) สำหรับคนที่ทำงานอยู่ในโซนลาดพร้าว – รัชดา – พระราม 9 ก็ถือว่าสะดวกมาก

หรือใครที่ทำงานในโซน CBD ก็สามารถใช้ทางด่วนที่อยู่ใกล้โครงการถึง 2 สาย เดินทางเข้า – ออกเมืองได้ง่าย ทั้งทางยกระดับอุตราภิมุขและทางพิเศษฉลองรัช อีกทั้งยังมีตัวเลือกในการเดินทางอย่าง BTS สายสีเขียว จากโครงการก็มี Shuttle – Service คอยวิ่งบริการรับ – ส่งถึงสถานี หรือจะนั่งวินมอเตอร์ไซต์ก็แค่ 15 บาทเท่านั้นเอง ไปลง Central ลาดพร้าวก็ง่าย มีจุด Interchange ไป MRT สายสีน้ำเงินได้ด้วย

รอบโครงการจัดเป็นย่านที่ได้ความอุดมสมบูรณ์สูง ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มนักศึกษาและคนวัยทำงานที่มองหาคอนโดใกล้แนวรถไฟฟ้าในราคาหยิบจับง่าย จึงทำให้บรรยากาศโดยรอบดูคึกคัก ในระยะเดินได้มีทั้งร้านค้า , ร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้ออยู่เยอะ ออกมาซื้อของกินของใช้ได้ง่าย หรือจะสั่งเดลิเวอรี่ก็มีให้เลือกหลากหลาย แถมค่าส่งยังไม่แพงอีกด้วย ส่วนใครอยากจะไปช็อปปิ้ง ผ่อนคลายเดินห้างใหญ่ๆบ้างโครงการก็ใกล้ทั้ง Major Cineplex , The Mall Lifestore งามวงศ์วาน , Union Mall , Central ลาดพร้าว และหาก Central พหลโยธินแล้วเสร็จ ก็จะมีห้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับโครงการมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้โครงการก็อยู่ใกล้โรงพยาบาลและสำนักงานขนาดใหญ่หลายแห่ง อาทิ โรงพยาบาลเปาโล เกษตร , โรงพยาบาลวิภาวดี , ปตท. สำนักงานใหญ่ , SCB Park , การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สำนักงานใหญ่ เป็นต้น จะไป Hangout ไปเรียน หรือทำงานก็สะดวกครบครัน

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

โครงการตั้งอยู่ใซอยย่อย จากซอยพหลโยธิน 34 ขับเข้ามาอีกประมาณ 400 เมตร รอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัย มีทั้งบ้านและคอนโดสูงประมาณ 8 ชั้นอยู่ขนาบด้านข้างและด้านหน้าโครงการ แต่ไม่ได้ใกล้ในระยะประชิด จึงไม่ได้ทำให้เสียความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย โดยส่วนตัวเรามองว่าสำหรับคนที่ไม่ได้มีรถส่วนตัว ก็ถือว่าเดินเข้า – ออกค่อนข้างไกล ต้องรอดูว่า Shuttle Service จะมีรับ – ส่งจากโครงการไปต้นซอยด้วยได้มั้ยในอนาคตนะคะ

บรรยากาศในซอยพหลโยธิน 34 โครงการอยู่บริเวณต้นซอย เป็นโซนที่ค่อนข้างคึกคัก มีร้านค้า , ร้านอาหารและ Hypermarket ให้ออกมาเลือกจับจ่ายใช้สอยได้หลากหลาย ปัจจุบันโครงการกำลังอยู่ในระหว่างการเริ่มสร้าง จึงยังไม่มีบรรยากาศจริงภายในโครงการให้ชมกันนะคะ แต่มี Slaes Gallery อยู่บริเวณซอยพหลโยธิน 39 ใกล้กับ BTS เลย หากใครสนใจก็ตามไปดูสไตล์การตกแต่ง และห้องตัวอย่างกันต่อได้เลย

Sales Gallery ของโครงการ Beat Pop Rachada – Kaset (บีท ป๊อป รัชดา – เกษตร) เป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นอยู่ติดถนนพหลโยธินเลย ด้านหน้ามองเห็นง่าย มีน้องหมาตัวใหญ่กวักมือเรียกแขกอยู่ด้านหน้า สำหรับคนที่ขับรถมา สามารถไปจอดที่ลานจอดรถฝั่งตรงข้ามได้นะคะ ภายในอาคารตกแต่งด้วยสไตล์ที่ใกล้เคียงกับบรรยากาศจริงในโครงการ เน้นการใช้โทนสีสดใส ดูโดดเด่นเข้ากับคนรุ่นใหม่ มีมุมไว้รองรับลูกค้าได้หลายจุด โดยชั้น 1 จะเป็นจุดต้อนรับและมีโมเดลแสดงภาพรวมของโครงการให้ชมด้วย ส่วนห้องตัวอย่างจะมี 2 แบบคือ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ซึ่งเราก็ได้เก็บภาพมาฝากกันแล้วเรียบร้อย และในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ โครงการรก็จะมีการเปิดห้องตัวอย่างให้ชมเป็นครั้งแรก หากใครสนใจโปรโมรชัน หรืออยากได้ราคาพิเศษก็สามารถติดตามข้อมูลต่อได้ที่หน้าเว็บไซต์ของโครงการได้เลยนะคะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• ตลาดอมรพันธ์ ~ 1.5 กิโลเมตร
• Tops Kaset ~ 2.3 กิโลเมตร
• Major Cineplex รัชโยธิน ~ 3 กิโลเมตร
• The Mall Lifestorel งามวงศ์วาน ~ 5.3 กิโลเมตร
• Union Mall ~ 5.5 กิโลเมตร
• Central ลาดพร้าว ~ 6.6 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลเปาโล (เกษตร) ~ 1.6 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลวิภาวดี ~ 2.9 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลนนทเวช งามวงศ์วาน ~ 5.3 กิโลเมตร
  

โรงเรียน

• โรงเรียนนานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์ ~ 4.1 กิโลเมตร
• มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 1.4 กิโลเมตร
• มหาวิทยาลัยศรีปทุม ~ 3.3 กิโลเมตร
• โรงเรียนหอวัง ~ 5.2 กิโลเมตร

การเดินทาง

• BTS สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 1.5 กิโลเมตร
• BTS สถานีเสนานิคม ~ 1.6 กิโลเมตร
• ทางยกระดับอุตราภิมุข ~ 6.4 กิโลเมตร

โครงการ Beat Pop Rachada – Kaset (บีท ป๊อป รัชดา – เกษตร) เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร บนเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ ในซอยพหลโยธิน 34 มีจำนวนห้องพักอาศัยทั้งหมด 558 ยูนิต แบ่งเป็นอาคาร A จำนวน 187 ยูนิต อาคาร B 182 ยูนิต และอาคาร C 189 ยูนิต ซึ่งจุดเด่นของโครงการก็จะอยู่ที่อาคาร C นี่เอง เพราะเป็นอาคารที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้…! เหมาะกับกลุ่มนักศึกษา , First Jobber หรือนักลงทุนที่กำลังมองหาคอนโดใกล้มหาวิทยาลัยราคาหยิบจับง่าย อยู่ในงบประมาณ 2 – 3 ล้านบาท แถมยังได้เฟอร์ครบ พร้อมทำเลที่อยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้าและย่านความอุดมสมบูรณ์สูง โดยปัจจุบันโครงการกำลังอยู่ในระหว่างเริ่มก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางปี 2571  หากใครสนใจก็สามารถชมข้อมูลและบรรยากาศจำลองภายในโครงการที่เราเอามาฝากกันก่อนได้เลย

โมเดลแสดงภาพรวมของโครงการ จะเห็นโทนสีการออกแบบและการจัดวางอาคาร โดยสีที่เลือกใช้ภายนอกเป็นสีส้มอิฐตัดกับสีขาว มีเส้นโค้งช่วยเพิ่มความโดดเด่นและมีชีวิตชีวาให้กับอาคารเข้ากับแนวคิด We don’t follow trends. We POP them. สะท้อนตัวตนของคนรุ่นใหม่ ตัวอาคารแบ่งเป็น 3 หลัง ประกอบด้วยอาคาร A , B และ C ตามภาพ โดยอาคาร A และ B จะอยู่ติดกับทางเข้า ส่วนอาคาร C จะอยู่ด้านในสุด เป็นตึกที่เลี้ยงสัตว์ได้ ตรงกลางเป็น Clubhouse 2 ชั้น ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับส่วนพักอาศัย ชั้นดาดฟ้าทุกอาคารมีพื้นที่สวนให้ขึ้นไปใช้งานได้

ทางเข้า – ออกโครงการแบ่งเป็น 2 ฝั่งชัดเจน ด้านข้างมีป้อมรปภ. คอยดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านตลอด 24 ชั่วโมง ไม้กั้นกระดกควบคุมด้วยระบบ Keycard Access เมื่อเข้ามาจะเจอวงเวียน Drop off ใช้เป็นจุดวนรถและรับส่งลูกบ้าน โดยพื้นที่จอดรถของโครงการได้มา 282 คัน คิดเป็น 50% ถือว่าให้มาค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน ช่องจอดส่วนใหญ่อยู่ใต้อาคารทั้งหมด พอจอดรถเสร็จก็เดินเข้าตึกได้เลย สำหรับใครที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า โครงการก็มีจุด EV Charger เตรียมไว้ให้ด้วยนะ

พามาชมแปลนของโครงการบริเวณชั้น 2 แสดงการจัดวางห้องแต่ละอาคาร โดยชั้นนี้เป็นชั้นเริ่มต้นของส่วนพักอาศัย ตรงกลางเป็น Clubhouse 2 ชั้นได้มาขนาดใหญ่เลย โดยเฉพาะสระว่ายน้ำ ลูกบ้านเดินมาใช้งานง่าย ไม่ต้องเดินไปอาคารอื่นๆ โดยอาคาร A , B และ C มี LOBBY แยกใช้งาน ลิฟต์โดยสารได้มาอาคารละ 2 ตัว คิดเป็นสัดส่วน 93 : 1 พอใช้งานได้

อาคาร A : หน้าห้องทั้งหมดหันขนานไปกับทิศเหนือ – ใต้ รูปแบบห้องมีให้เลือก 3 แบบ คือ 1 Bedroom (สีเหลือง) , 1 Bedroom Plus (สีส้ม) และ 2 Bedrooms (สีเขียว) โดยห้อง 2 Bedroooms จะมีเพียงชั้นละ 1 ยูนิตเท่านั้น นอกจากจะหันหน้าไปทางทิศเหนือแล้ว ยังได้วิวส่วนกลางอีกด้วย ลิฟต์โดยสารอาคารนี้จะอยู่มุมขวาใกล้กับ Drop off ได้ข้อดีคือ เมื่อเข้ามาในอาคารก็ขึ้นลิฟต์ได้เลย แต่คนที่พักอยู่ฝั่งซ้ายสุด อาจจะเดินไกลสักหน่อยค่ะ

อาคาร B : หน้าห้องหันขนานไปกับทิศตะวันออก – ตะวันตก เหมาะกับคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องแดดมาก อยากได้วิวส่วนกลาง ห้องพักอาศัยเน้นไปที่รูปแบบ 1 Bedroom มีให้เลือกเยอะที่สุด โดยอาคารนี้จะเป็นอาคารเดียวที่มีห้อง Studio (สีม่วง) ขนาดเริ่มต้นให้เลือกนะคะ

อาคาร C : อยู่ด้านในสุดของโครงการ หน้าห้องหันไปทิศเหนือ – ใต้ นอกจากได้วิวส่วนกลางแล้ว อีกฝั่งยังเป็นที่ดินเปล่า ไม่ต้องหันหน้าชนกับใคร ถึงจะเป็นตึกที่มียูนิตเยอะที่สุด แต่เรามองว่าก็ยังได้ความเป็นส่วนตัวสูง โดยตึกนี้เป็น Pet Friendly มีรูปแบบห้องมีให้เลือก 3 แบบ คือ 1 Bedroom (สีเหลือง) , 1 Bedroom Plus (สีส้ม) และ 2 Bedrooms (สีเขียว) ชั้น 1 มี PET LOBBY ตกแต่งมาไว้ต้อนรับน้องๆสัตว์เลี้ยงได้ พร้อมมีสวนชั้นดาดฟ้าให้น้องๆขึ้นไปวิ่งเล่นได้

อาคาร Clubhouse ได้มา 2 ชั้น มีพื้นที่ Rooftop ให้ขึ้นไปใช้งานได้ จากอาคาร B จะมีสะพานเชื่อมจากชั้น 3 เดินตรงไปยังชั้นนี้ได้เลย โดยพื้นที่ใช้สอยเรามองว่าให้มาค่อนข้างใหญ่ ซึ่งข้อดีของการมี Clubhouse แยกใช้งานก็คือ เพิ่มความปลอดภัยและลดความพลุกพล่านภายในส่วนพักอาศัยได้ดี และจากห้องยังได้วิวส่วนกลางทั้งสวนและสระว่ายน้ำทุกตึก ฟังก์ชันของอาคารมีให้เลือกใช้งานทั้งโซน Indoor และ Outdoor จุดเด่นอยู่ที่สระว่ายน้ำได้ความยาวรวมกว่า 37 เมตร

พามาชมภาพจำลองบรรยากาศภายนอกรอบๆกันก่อน อาคาร Clubhouse ตกแต่งด้วยต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่มมาหลายจุด ดูร่มรื่น ลูกบ้านสามารถลงมานั่งเล่น พักผ่อนได้เลย ตรงกลางชั้น 2 เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ กว้าง 6.70 เมตร ลึก 1.20 เมตร โดยความยาว 37 เมตร นับรวมส่วนที่ใช้ว่ายน้ำจริงจัง ผิวนำ้ที่สามารถเดินได้ สระเด็กและ Lap Pool ลูกบ้านสามารถเลือกใช้งานได้

เข้ามาภายในชั้น 1 ของอาคาร Clubhouse จะเจอกับ LOBBY LOUNGE ได้เป็น Double Volume ดูโปร่งโล่ง การตกแต่งใช้โทนสีสดใส ฟ้า ชมพู เหลือง เพิ่มความสนุกสนาน เหมาะเป็นโซนพักผ่อนที่ลูกบ้านสามารถมาเอ็นจอยร่วมกันได้

ถัดเข้ามาด้านในเป็น CO – WORKING SPACE มีเฟอร์นิเจอร์จัดมาให้หลายจุด ทั้งมุมนั่งส่วนตัว ชุดโซฟาและโต๊ะยาว รองรับได้ทั้งคนที่ใช้งานแบบเดี่ยวและแบบกลุ่ม โดยฟังก์ชันยังแบ่งเป็นโซน READING LOUNGE และ GROUP STUDY น้องๆนักศึกษาสามาถมาใช้นั่งทำงานกลุ่ม หรือติวหนังสือด้วยกันได้ หรือชาว WFH ที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ ก็ลงมานั่งทำงาน ตากแอร์เย็นๆพร้อมชมวิวสวนด้านนอกได้

ขึ้นมาชั้น 2 ประกอบด้วยฟังก์ชัน อาทิ CO – KITCHEN SPACE , FITNESS ROOM , PILATES ROOM , LIVE STUDIO , THEATER ROOM , GAME ROOM เป็นต้น รองรับ Activity ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้อย่างหลากหลาย

ภาพจำลองบรรยากาศ FITNESS ROOM และ PILATES ROOM ภายในมีอุปกรณ์ให้ครบทั้ง Weight Training และ Cardio ถูกใจสายออกกำลังกาย เลือกใช้งานได้ตามความชอบเลยค่ะ การตกแต่งดูสนุกสนาน เพิ่มความ Active ด้วยไฟหลากสี ออกกำลังกายไปยังสามารถชมวิวด้านนอกได้ด้วย

แปลนชั้นพักอาศัย

ชั้นพักอาศัยของโครงการ Beat Pop Rachada – Kaset (บีท ป๊อป รัชดา – เกษตร) เริ่มตั้งแต่ชั้น 2 โดยจะเป็น Typical Plan ทุกอาคาร โดยการจัดวางตำแหน่งจะเหมือนกันจนถึงชั้น 8 ส่วนชั้น 3 จะมีทางเดินเชื่อมต่อไปยัง Rooftop ของ Clubhouse ได้ สะดวกกับคนที่ชอบเดินไปใช้พื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งอาคารอื่นๆจะต้องลงมาที่ชั้น 1 ก่อนเพื่อเดินเข้าผ่าน LOBBY LOUNGE

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• LOBBY
• CO – WORKING SPACE
• CO – KITCHEN SPACE
• MEETING ROOM
• FITNESS ROOM
• PILATES ROOM
• LIVE STUDIO
• THEATER ROOM
• GAME ROOM
• SKY LOUNGE
• SWIMMING POOL
• JACUZZI POOL
• KIDS POOL
• OASIS SEAT
• ROOFTOP GARDEN
• FUN GARDEN
• MINI PARTY GARDEN

เฉพาะอาคาร C

• PET FRIENDLY ZONE
• ROOF TOP PET GARDEN
• PET ROOM
• PET LOBBY
• CAT CLIMBING TOWER
• ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 93 :  1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 94 : 1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 91 : 1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก C 95 : 1
• ที่จอดรถประมาณ 224 คันคิดเป็น 40% (ถ้ารวมจอดซ้อนคัน 282 คัน คิดเป็น 50%)
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card Access

รูปแบบห้องของโครงการ Beat Pop Rachada – Kaset (บีท ป๊อป รัชดา – เกษตร) มีให้เลือกถึง 4 แบบ ได้ Layout ครัวปิดทุกยูนิต เหมาะกับอยู่อาศัยได้ 1 – 3 คนกำลังดี รองรับได้ทั้งนักศึกษา , First Jobber และนักลงทุนที่มองหาคอนโดใกล้มหาวิทยาลัย เดินทางง่าย จะซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือลงทุนก็ได้ รูปแบบการขายเป็น Fully Furnished ได้เฟอร์ครบ พร้อมอยู่ ห้อง 1 Bedroom เริ่ม 1.79 ล้านบาท* โดยรายละเอียดวัสดุและบรรยากาศภายในห้องจะเป็นยังไงบ้าง ไปชมกันค่ะ

• Studio พื้นที่ใช้สอยภายใน 23.75 ตร.ม.
• 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 24.48 – 29.86 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 35.83 – 36.84 ตร.ม.
• 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 43.86 – 44.14 ตร.ม.

วัสดุภายในห้อง

• Fully Furnished : ชุดครัว / ชั้นวางทีวี / โซฟา 2 ที่นั่ง / โต๊ะทานข้าว 1 – 4 ที่นั่ง / ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต / ตู้เสื้อผ้า / โต๊ะเครื่องแป้ง
• ท็อปเคาน์เตอร์ครัวหินสังเคราะห์ หน้าบานปิดผิวลามิเนตลายไม้ , Hob/Hood/Sink จากยี่ห้อ Hafele
• วัสดุปูพื้น : SPC ลายไม้ความหนา 8 มิลลิเมตร / ห้องครัว กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 เซนติเมตร
• สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจากยี่ห้อ ESTHER พร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจก
• Digital Door Lock ใช้งานได้ 5 ระบบ (สแกนลายนิ้วมือ , กดรหัส , Keycard , กุญแจ) จากยี่ห้อ SECU – ON

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 24.48 – 29.86 ตร.ม.

ห้องตัวอย่างในโครงการจะมีให้ชม 2 แบบด้วยกัน เริ่มที่ 1 Bedroom 24.68 – 29.86 ตร.ม. แปลนห้องเป็นหน้ากว้าง ได้ฟังก์ชันครัวปิดอยู่ด้านหน้า ติดประตูทางเข้า เหมาะกับคนที่ไม่ได้เน้นทำครัวมากหรืออุ่นอาหารทานเองบางมื้อ แต่ก็ไม่อยากให้มีกลิ่นหรือควันลอยเข้าไปในส่วนพักผ่อน โดยโครงการจะมีประตูกระจกเข้ามุมกั้นแยกเป็นสัดส่วนมาให้ ดูไม่ปิดทึบ ห้องนั่งเล่นกับส่วนรับประทานอาหารจะอยู่ติดระเบียง ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง ช่วงกลางวันที่มานั่งเล่น พักผ่อนหรือทำงาน ก็ไม่ต้องเปิดไฟในห้องเลย ส่วนห้องนอนจะอยู่ด้านใน ได้ประตูบานทึบช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว สำหรับขนาดพื้นที่ใช้สอยเท่านี้ ก็ถือว่าจัดแปลนมาได้ลงตัวเลยนะคะ

ห้องตัวอย่างติดตั้งประตูและ Digital Door Lock มาให้พร้อมใช้งาน ได้ 5 ระบบทั้งสแกนลายนิ้วมือ , กดรหัส , Keycard , กุญแจ จาก SECU – ON ได้บรรยากาศเหมือนห้องพักอาศัยจริง

เข้ามาชมบรรยากาศภายในห้องตัวอย่าง ฝั่งขวามือจะเป็นส่วนครัวแบบปิด จากด้านหน้ามองเห็นส่วนนั่งเล่น ห้องนอนและห้องน้ำที่เดินเชื่อมต่อใช้งานกันง่าย วัสดุพื้นภายในห้องได้เป็น SPC ลายไม้ หนา 8 มิลลิเมตร มาพร้อมความสูงถึงฝ้า 2.40 เมตร ตามมาตรฐาน

รูปแบบการขายของโครงการเป็น Fully Furnished ได้เฟอร์ครบทั้ง Built – in และลอยตัว ในส่วนนั่งเล่นได้พื้นที่มากว้างขวาง สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ พร้อมเก้าอี้ ด้านในได้โซฟาพร้อมชั้นวางทีวี หน้าตาเป็นยังไง เดี๋ยวเราแปะรูปเพิ่มไว้ที่ด้านล่างให้นะคะ ส่วนพื้นที่ใช้งานตรงกลางได้มากว้างประมาณ 2.27 เมตร วางโต๊ะกลางได้ เหลือพื้นที่ให้น้องหมา น้องแมวกลิ้งเล่นสบายๆ

เฟอร์นิเจอร์จากโครงการ ในห้อง 1 Bedroom ได้โต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 1 ที่นั่ง ห้อง 1 Bedroom Plus ขึ้นไปจะได้ 4 ที่นั่ง โซฟาเป็นสีขาวนั่งได้ 2 คนกำลังดี ตู้วางทีวีเป็นแบบลอยตัว ยกเปลี่ยนตำแหน่งได้ กรุผิวด้วยลายไม้ มีตู้บานเปิดและลิ้นชักติดตั้งมาให้ครบ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ Built – in ประกอบด้วย เคาน์เตอร์ครัว , ตู้เสื้อผ้าและฐานเตียงขนาด 5 ฟุตเหมือนในห้องตัวอย่าง

ติดกับส่วนนั่งเล่นเป็นประตูบานเลื่อนกรระจก 2 ตอน เปิดเชื่อมต่อออกไประเบียงด้านนอกได้ ซึ่งโครงการได้ติดตั้ง Condensing Unit เป็นแบบแขวน ทำให้สามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้แบบเต็มที่ โดยพื้นที่ใช้งานได้กว้างประมาณ 2.30×0.66 เมตร ทำเป็นโซนซักล้าง ตากผ้า หรือวางต้นไม้ตกแต่งก็ได้สบายๆ

ครัวมีประตูกระจกบานเลื่อนแบบเข้ามุมติดตั้งมาให้ ช่วยให้ห้องดูเป็นสัดส่วน แต่ยังได้ความโปร่งโล่ง เหมาะกับคนที่ไม่ได้เน้นทำอาหารหนักๆ แต่อยากได้ครัวปิด กันกลิ่นและควันได้

ที่เราบอกว่าไม่ได้เหมาะกับคนทำอาหารหนักๆมากนัก นอกจากเรื่องกลิ่นแล้ว ยังมีวัสดุพื้นที่ได้เป็น SPC ทนความร้อน และชื้นได้แต่อาจจะไม่ทนทานเท่ากระเบื้อง แต่ก็ถือว่าใช้งานได้ ด้านใน Built – in เคาน์เตอร์มาให้ครบ เป็นแนวยาวเต็มผนังสูงถึงฝ้า ท็อปเป็นหินสังเคราะห์ติดตั้งมาพร้อมอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันจากยี่ห้อ HAFELE

ด้านล่างได้เป็นตู้เก็บของบานเลื่อน ช่วยประหยัดพื้นที่ในการเปิด – ปิด ชั้นบนเป็นตู้บานเปิด 2 ฝั่ง มีชั้นวางติดตั้งมาให้เรียบร้อย และมีช่องให้ใส่ไมโครเวฟได้ ส่วนช่องใส่ตู้เย็นได้กว้างประมาณ 70 เซนติเมตร สูง 1.55 เมตร ติดตั้งตู้เย็นขนาดประมาณ 6 คิวได้พอดีๆ

ห้องน้ำตกแต่งมาดูน่ารัก พื้น ผนังได้กระเบื้องเหมือนในห้องตัวอย่าง แปลนห้องเป็นหน้ากว้างดูโปร่งโล่ง แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วน อ่างล้างมือได้เป็นแบบแขวนติดตั้งมาพร้อมก็อกน้ำจากยี่ห้อ ESTHER ตรงกลางเป็นนพื้นที่วางโถสุขภัณฑ์ มีสายฉีดชำระ ที่เก็บกระดาษทิชชู่มาให้ครบ

ส่วนอาบน้ำได้มาขนาด 0.78×1.09 เมตร พื้นลดระดับลงจากพื้นห้องน้ำปกติเล็กน้อย ช่วยป้องกันน้ำไหลออกสู่ภายนอก ด้านข้างติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower มาให้ เอื้อมหยิบใช้งานง่าย มีช่องเก็บของให้วางอุปกรณ์อาบน้ำได้ด้วย

ห้องนอนอยู่ด้านในสุด ติดกับห้องน้ำเลย เดินเชื่อมต่อใช้งานง่าย ประตูห้องเป็นบานทึบ ได้ความเป็นส่วนตัว ภายในมีตู้เสื้อผ้า Built – in และฐานเตียงขนาด 5 ฟุตติดตั้งมาให้

ตู้เสื้อผ้าเป็นบานเลื่อนสลับสูงถึงฝ้า ภายในมีชั้นวางและราวแขวนติดตั้งมาให้เรียบร้อย ด้านหน้าเหลือพื้นที่ให้ยืนแต่งตัวกว้างประมาณ 60 เซนติเมตร ตรงกลางวางฐานเตียงขนาด 5 ฟุต แค่ซื้อฟูกเพิ่มก็เข้าอยู่ได้เลย ด้านข้างเป็นหน้าต่างขนาดใหญ่ แบ่งเป็นบาน Fix กระจกด้านล่าง และบานกระทุ้ง 2 ฝั่ง ใช้เปิดรับแสงและระบายอากาศได้ดี

1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 35.83 – 36.84 ตร.ม.

ถัดมาเป็นห้อง 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 35.83 – 36.84 ตร.ม. ได้มาเป็นแบบหน้ากว้างเช่นกัน พื้นที่ใช้งานแบ่งเป็น 2 ฝั่ง เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับส่วนนั่งเล่นและครัวปิด แยกเป็นสัดส่วน ตรงกลางเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร กั้นระหว่างห้องอเนกประสงค์และห้องนอน โดย Layout ฝั่งขวาจะคล้ายกับห้อง 1 Bedroom คือมีห้องนอนอยู่ติดกับห้องน้ำ เดินเชื่อมต่อใช้งานง่าย

บรรยากาศภายในห้องตัวอย่าง เห็นพื้นที่ส่วนนั่งเล่น เชื่อมต่อกับโซนรับประทานอาหาร ด้านหลังเป็นประตูบานเลื่อนกระจกเปิดออกไปใช้งานระเบียงได้ โดยพื้นที่ในห้องแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ห้องอเนกประสงค์และห้องนอนกั้นด้วยประตูบานทึบ ได้ความเป็นส่วนตัว

ส่วนนั่งเล่นดูเป็นมุมพักผ่อนอยู่ด้านข้างได้ความกว้างประมาณ 2.72 เมตร มีพื้นที่ให้วางโซฟา 2 ที่นั่ง Coffee Table และชั้นวางทีวีได้ครบ

ส่วนรับประทานอาหารดูกว้างขวางมาก วางโต๊ะทานข้าว 4 ที่นั่งได้เลย ซึ่งไม่ค่อยได้เห็นในห้อง 1 Bedroom Plus เท่าไรนะคะ ด้านหลังเชื่อมต่อกับระเบียงกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ช่วยให้ตรงกลางของห้องดูสว่างและโปร่งโล่ง

ระเบียงได้ความกว้างประมาณ 1.39×1.21 เมตร มีการเตรียมท่อไว้รองรับการติดตั้งเครื่องซักผ้าด้านนอกเรียบร้อย ซักเสร็จก็แขวนตากได้เลย

ห้องอเนกประสงค์กั้นด้วยประตูบานทึบ ได้มาขนาด 2.78×2.10 เมตร จัดเป็นห้องทำงาน หรือห้องสำหรับ Streamer ได้แบบสบายๆ ด้านข้างมีหน้าต่างบานใหญ่ติดตั้งมาให้ ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่ง

ครัวได้เคาน์เตอร์ Built – in มาเหมือนในห้องตัวอย่าง โดยตำแหน่งของตู้เย็นจะอยู่ด้านข้างแทน แต่โครงการไม่ได้วางมาให้ ซึ่งเรามองว่าถ้าเอาออกมาวางด้านนอกน่าจะช่วยให้ใช้พื้นที่ครัวได้สะดวกมากขึ้นนะคะ ส่วนวัสดุได้มาเหมือนห้องที่แล้วเลย มีอ่างล้างจาน , เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันจาก HAFELE

ห้องน้ำแยกพื้นที่ส่วนเปียก ส่วนแห้งมาให้ชัดเจน ภายในติดตั้งอุปกรณ์มาให้ครบจากยี่ห้อ ESTHER ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นบานเปิดติดตั้งมาให้เรียบร้อย พื้นที่ยืนอาบกว้างประมาณ 0.76×1.11 เมตร ใช้งานได้สะดวก หากใครอยากติดเครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่ม โครงการก็เตรียม Junction ไว้ให้แล้วนะคะ

ห้องนอนวางฐานเตียงขนาด 5 ฟุตไว้ตรงกลาง เหลือพื้นที่ด้านข้างให้วางตู้เสื้อผ้า Built – in และโต๊ะเครื่องแป้งได้ โดยส่วนตัวเรามองว่าห้องนี้สามารถอยู่อาศัย 2 – 3 คนได้เลยนะคะ หรือใครจะจัดห้องอเนกประสงค์เป็นห้องของน้องหมา น้องแมวก็ได้สบายๆ

Studio พื้นที่ใช้สอย 23.75 ตร.ม.

เป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการ สำหรับคนที่ซื้ออยู่อาศัยคนเดียวก็ถือว่าสะดวกมาก จุดเด่นของห้องนี้คือ แปลนแบบโปร่งโล่ง แยกพื้นที่ใช้งานเป็น 2 ฝั่ง ส่วนนั่งเล่นใช้พื้นที่ร่วมกับห้องนอน ครัวและห้องน้ำอยู่อีกฝั่ง เชื่อมต่อกับระบายใช้ระบายกลิ่นและควันได้ดี เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารแบบจริงจัง โดยรูปแบบห้องนี้มีจำนวนค่อนข้างน้อย หากใครสนใจก็สามารถสอบถามเพิ่มเติมกับโครงการได้เลยนะคะ

2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 43.86 – 44.14 ตร.ม.

เป็นห้องขนาดใหญ่สุดของโครงการ ได้หน้ากว้างมาก ทุกห้องมีช่องแสงช่วยเพิ่มความโปร่งโล่ง พื้นที่ห้องนอนแยกเป็น 2 ฝั่ง Layout จะคล้ายกับห้อง 1 Bedroom Plus เลย แต่สามารถจัดเป็นห้องนอนได้ทั้ง 2 ห้อง ตรงกลางเป็นส่วนนั่งเล่นอยู่ติดระเบียง ครัวยังได้เป็นแบบปิดอยู่ด้านข้าง เชื่อมต่อกับส่วนรับประทานอาหาร ใช้งานง่าย สำหรับห้องนี้เหมาะกับคนที่มีงบประมาณ 3 ล้านนิดๆ อยู่อาศัยกันเป็นครอบครัวขนาดเล็ก 3 คนได้กำลังดี หรือจะแชร์กับเพื่อนนักศึกษาก็ได้ความเป็นส่วนตัวนะ

Beat Pop Rachada – Kaset (บีท ป๊อป รัชดา – เกษตร) ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2568

• Studio พื้นที่ใช้สอยภายใน 23.75 ตร.ม.
• 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 24.48 – 29.86 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 35.83 – 36.84 ตร.ม.
• 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 43.86 – 44.14 ตร.ม.
• ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท*
• Fully Furnished : ชุดครัว / ชั้นวางทีวี / โซฟา 2 ที่นั่ง / โต๊ะทานข้าว 1 – 4 ที่นั่ง / ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต / ตู้เสื้อผ้า / โต๊ะเครื่องแป้ง
• มีรถ Shuttle Bus ไป – กลับ BTS
• จอง 5,000 บาท
• ทำสัญญา 10,000 – 40,000 บาท
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 49 บาท/ตร.ม./เดือน
• ค่าแรกเข้าสำหรับสัตว์เลี้ยง 3,000 บาท
• ค่าธรรมเนียมรายปี 3,600 บาท/ปี
• *อนุญาตให้เลี้ยงยูนิตละ 1 ตัว สูงไม่เกิน 15 นิ้วและหนักไม่เกิน 15 กิโลกรัม / ไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ปีก , สัตว์มีพิษ , สัตว์เลื้อยคลาน*

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล :

ที่ตั้งของโครงการ Beat Pop Rachada – Kaset (บีท ป๊อป รัชดา – เกษตร) ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 34 แยก 11 เลี้ยวเข้ามาจากถนนประเสริฐมนูกิจประมาณ 550 เมตร ถือเป็นทำเลที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เหมาะทั้งกับกลุ่มนักศึกษา , เจ้าหน้าที่ , พนักงาน First Jobber และนักลงทุนที่กำลังมองหาคอนโดในราคาหยิบจับง่าย ทั้งยังเดินทางได้สะดวก จากถนนประเสริฐมนูกิจสามารถขับรถไปเชื่อมต่อกับถนนใหญ่ได้อีกหลายสาย เดินทางเข้า – ออกเมืองง่าย ใกล้ทั้งรถไฟฟ้าและทางด่วน รอบโครงการจัดเป็นย่านที่ได้ความอุดมสมบูรณ์สูง เนื่องจากเป็นทำเลที่มีที่มีนักศึกษาและคนวัยทำงานอาศัยอยู่เยอะ จึงเมีทั้งร้านค้า , ร้านอาหาร และ Hypermarket อยู่โดยรอบในระยะเดินได้สบายๆ

การเดินทางโดยใช้รถ :

ถือว่าสะดวกมากทั้งกับคนที่ขับรถไปเรียนหรือไปทำงาน จากซอยพหลโยธิน 34 สามารถขับไปเชื่อมต่อกับถนใหญ่ได้หลายทั้ง ถนนพหลโยธิน , ถนนลาดพร้าว – วังหิน , ถนนโชคชัย 4 , ถนนวิภาวดีรังสิต และถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนรามอินทรา) หากใครต้องการเดินทางเข้า – ออกเมือง โครงการก็อยู่ใกล้ทางด่วนทั้งทางยกระดับอุตาภิมุข ทางพิเศษฉลองรัช และดอนเมืองโทลเวย์ จะใช้ขับขึ้นไปโซน CBD ไปฝั่งบางนาหรือลงแจ้งวัฒนะก็ง่าย สำหรับคนที่ทำงานอยู่ในโซนลาดพร้าว – รัชดา – พระราม 9 ก็ถือว่าสะดวกมาก

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

ที่ตั้งของโครงการอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่ แต่สำหรับคนที่เดินเข้า – ออกเรามองว่าค่อนข้างไกล ถ้าจะเรียกวินมอเตอร์ไซต์ก็ต้องเดินออกมาประมาณ 400 เมตร เว้นแต่คนที่ใช้บริการเรียกรถจากแอพก็จะสะดวกหน่อย โดยในอนาคตโครงการแจ้งว่าจะมี Shuttle Service คอยวิ่งรับ – ส่งถึงสถานี BTS แต่ต้องรอดูว่าจะมีรถวิ่งส่งเข้า – ออกไปหน้าปากซอยมั้ย ซึ่งทำเลที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าก็ถือเป็นจุดขายที่สำคัญ เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดใกล้แนวรถไฟฟ้าในราคาหยิบจับง่าย นอกจากจะนั่งต่อเดียวเข้าอโศก – พร้อมพงษ์ได้แล้ว ยังสามารถไป Interchange กับ MRT ได้ด้วย

วัสดุ :

รูปแบบการขายของโครงการเป็น Fully Furnished ห้อง 1 Bedroom ราคาแพคเกจเริ่ม 1.79 ล้านบาท* ได้เฟอร์ทั้ง Built – in และลอยตัว ซึ่งเรามองว่าก็ให้มาครบตามมาตรฐานใช้งานได้จริง เหมาะกับคนที่อยากได้ห้องพร้อมอยู่ แค่ซื้อเฟอร์บางชิ้นกับเครื่องใช้ไฟฟ้าก็เข้าอยู่ได้เลย โดยรวมให้มาเหมาะสมกับการใช้งาน วัสดุพื้นเป็น SPC ลายไม้ , ห้องครัวมีประตูบานเลื่อนกระจกเข้ามุม , เคาน์เตอร์ครัวได้อ่างล้างจาน , เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันจากยี่ห้อ HAFELE ติดตั้งมาให้ครบ ส่วนในห้องน้ำได้สุขภัณฑ์จากยี่ห้อ ESTHER มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ด้วย ประตูทางเข้าได้ Digital Door Lock ลูกบ้านไม่ต้องติดตั้งเพิ่ม

การออกแบบ :

การออกแบบโครงการ Beat Pop Rachada – Kaset (บีท ป๊อป รัชดา – เกษตร) ใช้โทนสีที่ดูทันสมัย มีชีวิตชีวาและฟังก์ชันที่ทำมาเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ตามแนวคิด We don’t follow trends. We POP them. ตัวอาคารแบ่งเป็น 3 หลัง ประกอบด้วยอาคาร A , B และ C โดยอาคาร C จะเป็นตึกเดียวที่เลี้ยงสัตว์ได้ ตรงกลางเป็น Clubhouse 2 ชั้น แยกใช้งาน ได้ข้อดีคือช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวและลดความพลุกพล่านให้กับส่วนพักอาศัย ลูกบ้านเดินมาใช้งานง่าย จากทั้ง 3 อาคารสามารถ Take View ส่วนกลางได้ ส่วนชั้นดาดฟ้ามีพื้นที่สวนให้ขึ้นไปใช้งานได้ทุกอาคาร

รูปแบบห้องพักอาศัยในโครงการมีให้เลือกตั้งแต่ Studio , 1 Bedroom , 1 Bedroom Plus และ 2 Bedrooms รองรับทั้งคนที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยคนเดียว หรืออยู่กันเป็นครอบครัว 3 คนได้กำลังดี แปลนทุกห้องเป็นหน้ากว้าง ฟังก์ชันจัดมาลงตัว เป็นสัดส่วน อย่างห้อง Studio ได้ครัวติดระเบียง และตั้งแต่ห้อง 1 Bedroom ขึ้นไปจะได้ครัวปิดทุกยูนิต มีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นมาให้เรียบร้อย ประตูห้องนอนได้เป็นบานทึบ เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว

สาธารณูปโภค :

เป็นอาคาร Clubhouse 2 ชั้น + ชั้น Rooftop ให้ขึ้นไปใช้งานได้ ฟังก์ชันมีให้เลือกใช้งานทั้ง Indoor และ Outdoor อาทิ CO – WORKING SPACE , CO – KITCHEN SPACE , MEETING ROOM , FITNESS ROOM , GAME ROOM , SKY LOUNGE , SWIMMING POOL เป็นต้น รวมถึงมีพื้นที่ส่วนกลางที่สัตว์เลี้ยงสามารถไปใช้งานได้ด้วยนะคะ เช่น สวนบนชั้นดาดฟ้าของอาคาร C ตอบโจทย์คนรักสัตว์ที่ชอบอยู่คอนโดแต่ต้องการพื้นที่วิ่งเล่นให้กับน้องๆ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 72,000 บาท/ตร.ม., ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2568

• ทำเล 8/10 – คอนโดใกล้มหาลัย ได้ความอุดมสมบูรณ์สูง
• เดินทางด้วยรถ 8/10 – มีซอยลัดไปออกถนนใหญ่เยอะ เข้าเมืองง่าย ใกล้ทางด่วน
• ไม่ใช้รถ 8/10 – ใกล้ BTS ประมาณ 1.5 กิโลเมตร
• วัสดุ 7.75/10 – ขายแบบ Fully Furnished พร้อมอยู่
• แบบ 7.75/10 – แปลนหน้ากว้าง แบบห้องเยอะ
• สาธารณูปโภค 7.75/10 – Clubhouse แยกใช้งาน ได้ฟังก์ชันตามมาตรฐาน

• ECONOMY CLASS
• 7.91 / 10.00

Beat Pop Rachada – Kaset (บีท ป๊อป รัชดา – เกษตร) เหมาะกับใคร

โครงการ Beat Pop Rachada – Kaset (บีท ป๊อป รัชดา – เกษตร) เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อยู่ในย่านความอุดมสมบูรณ์สูง เดินทางง่าย สะดวกทั้งคนที่ใช้รถส่วนตัวและรถไฟฟ้า นั่งต่อเดียวเข้าโซนอโศก – สีลมได้เลย เหมาะทั้งกับนักศึกษา เจ้าหน้าที่และนักลงทุนที่มองหาคอนโด ได้เฟอร์ครบ พร้อมเข้าอยู่ในงบหยิบจับง่าย มีแบบห้องให้เลือกเยอะ มีงบประมาณเริ่มต้น 2 – 3 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนเริ่มประมาณ 9,940 บาท

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่