รีวิวบ้านนิรดา แจ้งวัฒนะ – ชัยพฤกษ์ (Baan Nirada Chaengwattana – Chaiyaphruek) บ้านหรูหน้ากว้างฟังก์ชันเยอะสุดในย่าน ใกล้โรงเรียนนานาชาติ SISB จาก CPN

บ้านนิรดา แจ้งวัฒนะ – ชัยพฤกษ์ (Baan Nirada Chaengwattana – Chaiyaphruek) ณ วันที่ 28 พฤษภาคม 2568

Highlight

• ใกล้โรงเรียนนานาชาติ SISB : เพียง 700 เมตร ซึ่งตัวโรงเรียนก็ตั้งอยู่บนถนนหอการค้าไทยเช่นเดียวกัน ทำให้ผู้ปกครองไปรับ-ส่งลูกๆได้สะดวกสุดๆ ไม่เสียเวลาเดินทางเลยค่ะ
• ไม่ไกลจาก Robinson Lifestyle ราชพฤกษ์ : ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 5.5 กิโลเมตรเอาใจคนที่ชอบช้อปปิ้ง ลูกบ้านออกมาหาของกินของใช้ได้ไม่ยาก

พิกัด Google Maps : 13.940815401270141, 100.48032921997925
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ บ้านนิรดา แจ้งวัฒนะ – ชัยพฤกษ์ (Baan Nirada Chaengwattana – Chaiyaphruek) ค่ะ

โครงการ บ้านนิรดา แจ้งวัฒนะ – ชัยพฤกษ์ (Baan Nirada Chaengwattana – Chaiyaphruek) ตั้งอยู่ติดกับถนนหอการค้าไทย ซึ่งเป็นถนนภาระจำยอมที่มีโครงการจัดสรรทั้งเก่าใหม่อยู่หลายโครงการ แล้วก็ยังเหลือที่ว่างที่คาดว่าจะพัฒนาไปเป็นโครงการจัดสรรได้อีกนะ ถนนเส้นนี้มีร้านค้าร้านอาหารรวมถึงซูเปอร์มาเก็ตเล็กๆตามมาเปิดบ้างประปราย ลูกบ้านในโครงการจึงสามารถออกมาซื้อของกินของใช้เล็กๆน้อยๆได้ไม่ยาก ถนนหอการค้าไทยเชื่อมต่อระหว่างถนนชัยพฤกษ์ และถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง (345) โดยถนนทั้ง 2 เส้นมีความแตกต่างกันดังนี้ ถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทองหรือที่คนติดปากกันว่าถนน 345 เป็นถนนเส้นหลักที่ใช้วิ่งระหว่างนนทบุรี-ปทุมธานี จึงมีทั้งโรงเรียน , โรงพยาบาล , ซูเปอร์มาเก็ตและอาคารพาณิชย์อยู่ตามแนวถนน ใช้เดินทางไปยังโซนราชพฤกษ์และรังสิตได้ด้วย  ส่วนถนนชัยพฤกษ์จะไม่คึกคักเท่าถนน 345 แต่ใช้เดินทางไปยังโซนสำคัญๆอย่างปากเกร็ด , บางบัวทองและราชพฤกษ์ได้เช่นกัน

ในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ก็เข้าถึงได้ไม่ยาก เริ่มจากถนนหอการค้าไทยจะมีร้านค้าร้านอาหาร , ซูเปอร์มาเก็ตเล็กๆและร้านสะดวกซื้ออยู่ นอกจากนี้ในระยะ 5 กิโลเมตรก็มี Robinson Lifestyle ให้เราไปช้อปปิ้งได้ แต่ถ้าใครชอบที่จะไปเดินห้างในเครือ Central อย่าง Central  Westgate , Central Westville ก็จะไม่ต้องหาที่จอดรถให้วุ่นวายนะคะ เพราะที่ห้างจะมีที่จอดรถพิเศษให้กับลูกบ้านในโครงการ

โครงการนี้เหมาะเป็นอย่างยิ่งกับครอบครัวที่มีลูกหลานเรียนอยู่โรงเรียนนานาชาติ SISB  เพราะตัวโรงเรียนเรียนอยู่ห่างจากโครงการบ้านนิรดา แจ้งวัฒนะ – ชัยพฤกษ์ (Baan Nirada Chaengwattana – Chaiyaphruek) แค่ 700 เมตรเท่านั้นเอง สามารถเดินทางไปรับ-ส่งได้สะดวกมากๆ ไม่ต้องเสียเวลารถติดเลยค่ะ

จากโครงการบ้านนิรดา แจ้งวัฒนะ – ชัยพฤกษ์ (Baan Nirada Chaengwattana – Chaiyaphruek) ห่างจากวงแหวนกาญจนาภิเษกประมาณ 8.9 กิโลเมตร ใช้เดินทางไปได้ทั้งโซนบางแคและโซนปทุมธานี ส่วนใครต้องการเดินทางไปยังโซนจตุจักร , ดอนเมืองก็สามารถใช้ทางด่วนศรีรัชที่ห่างออกไปประมาณ 10.7 กิโลเมตรได้ และถ้าหากต้องการเดินทางไปโซนปทุมธานี , อยุธยา , สระบุรีสามารถใช้ได้ทั้งทางด่วนอุดรรัถยาที่ห่างจากโครงการประมาณ 10.2 กิโลเมตร หรือใช้วงแหวนกาญจนาภิเษกที่ห่างออกไป 8.9 กิโลเมตรก็ได้เช่นกัน

นอกจากนี้โครงการยังมีอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทาง คือรถไฟฟ้าสายสีชมพู ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 6.7 กิโลเมตร แม้ว่าจะไม่ใกล้มากนัก แต่ก็สามารถใช้เวลาหลีกเลี่ยงรถติด เดินทางเข้าไปยังรามอินทรา หรือจะเปลี่ยนสายรถไฟฟ้าเข้ามายังตัวเมืองโซนบางซื่อ , จตุจักร , สามย่าน , อโศกได้เช่นกัน โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีเลี่ยงเมืองปากเกร็ด ห่างจากโครงการประมาณ 6.9 กิโลเมตรค่ะ

ทำเลของโครงการบ้านนิรดา แจ้งวัฒนะ – ชัยพฤกษ์ (Baan Nirada Chaengwattana – Chaiyaphruek) ตอบโจทย์คน 2 กลุ่ม ดังนี้ อันดับแรกคือคนที่ทำงานในโซนนี้ คือชัยพฤกษ์ , ราชพฤกษ์ , แนวถนน 345  หรือมีลูกเรียนอยู่ในโรงเรียนแถวนี้ เช่น โรงเรียนนานาชาติ SISB , DBS กลุ่มที่สองคือคนที่ต้องข้ามสะพานมาทำงานฝั่งปากเกร็ด , แจ้งวัฒนะ , เมืองทองธานี

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

รอบข้างโครงการ บ้านนิรดา แจ้งวัฒนะ – ชัยพฤกษ์ (Baan Nirada Chaengwattana – Chaiyaphruek) ส่วนใหญ่เป็นโครงการบ้านจัดสรร 2 ชั้นและที่ดินเปล่าที่เรามองว่ามีโอกาสพัฒนาเป็นโครงการจัดสรรใหม่ๆได้อีก

• ทิศเหนือ ติดกับ โครงการบ้านจัดสรร 2 ชั้น ซึ่งเป็นโครงการพี่น้องอย่าง ‘บ้านนิรติ’ ในเครือ CPN เหมือนกัน
• ทิศตะวันออก ติดกับ ถนนหอการค้าไทย , ที่ว่างรอการพัฒนา
• ทิศใต้ ติดกับ ที่ว่างรอการพัฒนา
• ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ว่างรอการพัฒนา

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• The Crystal PTT ชัยพฤกษ์ ~ 5.1 km.
• ตลาด ส.รุ่งเรือง ~ 5.5 km.
• Robinson Lifestyle ราชพฤกษ์ ~ 5.5 km.
• ตลาด 18 คอร์ท ~ 7.3 km.
• Index Living Mall ~ 7.8 km.
• Lotus’s North ราชพฤกษ์ ~ 8.0 km.
• Central แจ้งวัฒนะ ~ 10.0 km.
• Lotus แจ้งวัฒนะ ~ 11.3 km.
• Charn at the Avenue ~ 11.4 km.
• Central รัตนาธิเบศร์ ~ 12.6 km.
• Central Westgate ~ 15.2 km.
• Central Westville ~ 21.6 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลปากเกร็ด 2 ~ 3.4 km.
• โรงพยาบาลกรุงไทย ~ 6.2 km.
• โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล ~ 10.5 km.
• โรงพยาบาลกรุงไทย-ปทุม ~ 10.7 km.

โรงเรียน

• โรงเรียนนานาชาติ SISB ~ 700 m.
• โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า ~ 1.7 km.
• โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ~ 4.4 km.
• โรงเรียนนานาชาติ DBS ~ 8.0 km.
• โรงเรียนสาธิตปทุม ~ 11.4 km.

สถานที่สำคัญอื่นๆ

• อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี ~ 12.4 km.

การเดินทาง

• รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีเลี่ยงเมืองปากเกร็ด ~ 6.9 Km.
• ทางข้าวงแหวนกาญจนาภิเษก (ไปบางแค) ~ 8.9 Km.
• ทางเข้าวงแหวนกาญจนาภิเษก (ไปปทุมธานี) ~ 7.0 Km.
• ทางด่วนอุดรรัถยา (ไปปทุมธานี) ~ 10.3 Km.
• ทางด่วนศรีรัช (ไปจตุจักร)  ~ 10.7 Km.

Highlight

• ทางเข้าโครงการแบบ Double Gate : เป็นเหมือน Filter ช่วยคัดกรองระหว่างลูกบ้านและคนที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการ
• Clubhouse อยู่ด้านหน้าโครงการ : เป็นเหมือนมุมต้อนรับแขกที่เข้ามาเยี่ยมเยือน และเว้นระยะก่อนถึงโซนพักอาศัย ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
• กระจายส่วนกลางไว้ 2 จุด : ช่วยกระจายความหนาแน่นในการใช้งาน

โครงการ บ้านนิรดา แจ้งวัฒนะ – ชัยพฤกษ์ (Baan Nirada Chaengwattana – Chaiyaphruek) เป็นโครงการบ้านบนที่ดิน 35-1-94.1 ไร่ ทั้งหมด 68 ยูนิต ตั้งอยู่ติดกับถนนหอการค้าไทย ดูจาก Masterplan แล้ว เรามองว่ามีประเด็นน่าสนใจอยู่หลายอย่าง

• ทางเข้า-ออกโครงการเป็นแบบ Double Gate ช่วยคัดกรองแขกที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการ แยกออกจากลูกบ้านได้อย่างชัดเจน
• Clubhouse อยู่ระหว่างซุ้มประตูที่ 1 และซุ้มประตูที่ 2 เวลามีแขกมาเยี่ยมแต่เรายังไม่ถึงบ้าน แขกก็สามารถมารอที่ Clubhouse ได้
• Clubhouse อยู่ด้านหน้าโครงการและเว้นระยะจากโซนพักอาศัย  ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัว
• ถนนภายในโครงการส่วนใหญ่จะเชื่อมต่อถึงกัน ทำให้เราเข้า-ออกบ้านได้ 2 ทาง
• โครงการแยก Clubhouse กับสวนส่วนกลางไว้คนละจุด ช่วยกระจายความหนาแน่นในการใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง
• บ้านทุกหลังหันไปแนวเหนือ-ใต้ ซึ่งเป็นทิศทางประจำของลม ทำให้ตัวบ้านเย็นสบาย
• บ้านโซนกรอบสีชมพูอยู่ใกล้สวนส่วนกลาง เดินออกมาใช้งานได้สะดวก เหมาะกับคนที่ชอบมาพักผ่อนหย่อนใจในสวน หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง
• บ้านโซนกรอบสีเขียวอยู่ใกล้ Clubhouse จึงเหมาะกับคนที่ชอบมาใช้ Facility ส่วนกลาง
• บ้านโซนกรอบสีฟ้าไม่มีบ้านฝั่งตรงข้าม ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวที่สุดในโครงการ

วันที่เราไปถ่ายทำรีวิวเป็นช่วงเวลาที่ใกล้จะเปิดโครงการอย่างเป็นทางการพอดี เราจึงเก็บบรรยากาศภายนอกที่เขาตกแต่งมาให้ดูกันเล็กน้อยค่ะ

ทางเข้า-ออกโครงการอยู่ลึกเข้ามาจากถนนเล็กน้อย เราจึงเห็นซุ้มประตูโครงการบ้านนิรดา แจ้งวัฒนะ – ชัยพฤกษ์ (Baan Nirada Chaengwattana – Chaiyaphruek) ชัดเจน และยังมีพื้นที่สำหรับรอคิวเวลาจะเข้าโครงการอีกด้วย ช่วยให้การจราจรหน้าโครงการไม่ติดขัด นอกจากนี้ยังเป็นเหมือน Buffer กันเสียงรถยนต์จากซอยหน้าโครงการ ไม่ให้มารบกวนลูกบ้านมากนัก

ซุ้มประตูโครงการมีชายคาคลุมตลอดแนว ช่วยบังแดดฝนให้ผู้ที่มาติดต่อ นอกจากซุ้มประตูโครงการจะแบ่งทางเข้า-ออกกันชัดเจนแล้ว ยังมีการแบ่งแยกช่องระหว่างลูกบ้านและ Visitor พร้อมติดตั้ง CCTV ไว้ดูแลความปลอดภัย โดยฝั่งลูกบ้านใช้ระบบ License Plate Recognition System สแกนป้ายทะเบียนรถยนต์สะดวกมากเลย เราไม่ต้องคอยหยิบคีย์การ์ดมาสแกนให้เสียเวลา ส่วนฝั่งที่สองสำหรับ Visitor จะต้องใช้ระบบ VMS สแกน QR Code นัดหมายล่วงหน้า หรือแลกบัตรก่อนถึงจะผ่านเข้าโครงการไปได้นะ แต่ฝั่งขาออกจากโครงการ จะมีเพียง 1 เลน ให้ใช้งานร่วมกัน

ข้างๆซุ้มประตูโครงการทั้ง 2 ฝั่งมีทางเดินเข้า-ออกแยกไว้ สำหรับลูกบ้านที่ไม่ใช้รถยนต์ สามารถเดินเข้า-ออกได้อย่างปลอดภัย

เมื่อผ่านซุ้มประตูโครงการแรกมาแล้ว เราจะเห็นอาคาร Clubhouse ตั้งอยู่อย่างโดดเด่น เป็นเหมือนมุมต้อนรับเวลามีคนมาชมเยี่ยมชมโครงการ  หรือเวลาลูกบ้านมีแขก แต่ยังไม่สะดวกให้เข้าบ้านก็สามารถให้แขกมารอที่ Clubhouse ได้เลย โดยไม่ต้องเข้าไปในโซนพักอาศัยเลยค่ะ  บริเวณข้างๆอาคารมีที่จอดรถเตรียมไว้ให้ 4 คัน สำหรับลูกบ้านที่อยู่โซนด้านใน ขับออกมาใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง

Clubhouse สามารถเข้าถึงได้ 2 ทาง ทางแรกคือฝั่งซุ้มประตูโครงการ มีทั้งทางเข้าแบบบันไดสำหรับเดินขึ้นปกติและแบบ Universal Design มีทางลาดให้ใช้วีลแชร์ได้ตั้งแต่บริเวณที่จอดรถ ฝั่งนี้จะรองรับแขกที่เยี่ยมชมโครงการ เพราะสามารถเข้าถึงได้ โดยยังไม่ต้องผ่านซุ้มประตูโครงการที่ 2

ทางเข้า Clubhouse อีกฝั่งหนึ่งจะอยู่ด้านหลังซุ้มประตูโครงการที่ 2 ประตูนี้มีที่จอดรถยนต์ให้ 4 คันและที่จอดจักรยานอีก 4 คัน สำหรับลูกบ้านที่ขับรถหรือปั่นจักรยานมาใช้งานส่วนกลาง นอกจากนี้ทางเข้าฝั่งนี้จะใกล้กับสระว่ายน้ำมากกว่า เราสามารถเข้าถึงสระว่ายน้ำได้สะดวก

ทางเข้าฝั่งนี้ออกแบบเป็น Universal Design มีทางลาดให้ใช้วีลแชร์ได้

ระหว่างทางเดินไปสระว่ายน้ำมีสวนหย่อมเล็กๆให้เราได้มาพักผ่อนหย่อนใจได้ด้วยค่ะ

สระว่ายน้ำของโครงการเป็นสระกลางแจ้งระบบเกลือ แยกโซนเด็กไว้อยู่ใต้ชายคา ทำให้น้องๆหนูๆมาว่ายน้ำตลอดทั้งวัน นอกจากนี้โครงการยังจัด Jacuzzi ไว้ให้ทั้งสระผู้ใหญ่และสระเด็ก ผู้ปกครองที่มาแช่น้ำเฝ้าลูกๆจะได้ผ่อนคลายได้ด้วยค่ะ ส่วนสระว่ายน้ำสำหรับผู้ใหญ่มีขนาดประมาณ 25 x 5 เมตร เป็นความยาวแบบ Half Olympic ลูกบ้านสามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ ตัวสระว่ายน้ำอยู่ทางทิศเหนือ ไม่ร้อนมากนัก แต่ก็เหมาะมาใช้บริการช่วงเย็นๆ เพื่อไม่ให้แดดร้อนจนเกินไปนะ

ข้างๆสระว่ายน้ำทั้งมีเก้าอี้แบบเอนนอน และเก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจ

โครงการเตรียมพื้นที่สำหรับล้างตัวไว้ให้ข้างๆสระว่ายน้ำ ซึ่งเป็นทางผ่านเวลาจะไปห้องน้ำพอดี เมื่อเราว่ายน้ำเสร็จเราก็มาล้างตัวและไปเปลี่ยนเสื้อต่อได้สะดวก เราชอบที่โครงการออกแบบให้ทางเข้าที่ล้างตัวมี 2 ฝั่ง ทำให้เราใช้งานสะดวกทั้งเวลาขึ้นจากสระว่ายน้ำและก่อนลงสระไปออกกำลังกาย

ฟังก์ชันต่างๆของส่วนกลางอยู่เรียงกันตามทางเดิน ส่วนห้องน้ำของ Clubhouse แบ่งเป็นห้องชาย-หญิงและห้องน้ำผู้สูงอายุไว้อย่างชัดเจน

ห้องน้ำผู้สูงอายุมีความกว้างพอให้เข็นวีลแชร์เข้า-ออก และหมุนได้สะดวก โครงการติดตั้งสุขภัณฑ์มาให้ครบชุดพร้อมติดตั้งราวจับ ช่วยในการพยุงตัว เสริมความปลอดภัยให้ผู้สูงอายุด้วยค่ะ

ห้องน้ำส่วนกลางมีทั้งห้องสุขา 3 ห้องและห้องอาบน้ำอีก 1 ห้อง ภายในห้องน้ำยังมี Locker ให้เรามาเก็บอุปกรณ์ส่วนตัวเวลาไปใช้งานส่วนกลางด้วย นอกจากนี้ก็มีห้อง Sauna จัดเตรียมไว้ให้ด้วย สามารถใช้งานได้ 2-3 คน

ส่วน Sale Gallery เข้าถึงได้ง่ายที่สุด มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ในอานาคตพื้นที่ตรงนี้อาจถูกปรับเป็นห้องนั่งเล่น เพื่อรองรับลูกบ้านและเเขกที่มาเยี่ยมเยือนโครงการ

ห้อง Lounge เป็นเหมือนมุมพักผ่อนที่ลูกบ้านสามารถมานั่งเล่น อ่านหนังสือได้ โครงการจัดมุม Counter Bar ไว้ให้ด้วย เวลาเรามีงานเลี้ยงเล็กๆก็สามารถจองห้องนี้ ใช้งานแบบ Private ได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ชั้น 2

สำหรับชั้น 2 จะแบ่งฟังก์ชัน Facility เป็น Fitness และ Co-Working Space

บริเวณโถงชั้น 2 มีห้องน้ำส่วนกลางอยู่ โดยแบ่งเป็นห้องน้ำชาย-หญิงไว้อย่างละ 1 ห้อง ใช้งานได้สะดวก ลูกบ้านไม่ต้องลงไปใช้ห้องน้ำชั้นล่างเลย

Co-Woking Space มีพื้นที่การทำงานที่หลากหลาย ทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่ม รวมถึงมีห้อง Meeting Room ที่สามารถกั้นเป็นพื้นที่ส่วนตัว เพื่อประชุมหรือคุยเรื่องส่วนตัวกันได้ด้วย หากใคร Work From Home  แล้วอยากเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานก็มาใช้พื้นที่ตรงนี้ได้

Fitness มีขนาดใหญ่และแบ่งพื้นที่ออกเป็นโซน Cardio และ Weight Training มีอุปกรณ์ที่เรียกได้ว่าครบครัน โครงการจัดวางเครื่องออกกำลังกายส่วนใหญ่ไว้ริมหน้าต่าง เพื่อให้มองเห็นสระว่ายน้ำ

บรรยากาศสระว่ายน้ำที่เราจะมองเห็นจากห้อง Fitness มองดูแล้วสบายตาและรู้สึกสดชื่นในเวลาเดียวกัน

ห้อง Fitness มีหน้าจอ Digital ที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต เราจึงสามารถออกกำลังกายกับ Personal Trainer ได้แบบ Online ค่ะ

สำหรับซุ้มประตูที่ 2 จะมีแต่ลูกบ้านที่ผ่านเข้าไปได้ บริเวณนี้มีทั้ง CCTV และรปภ. ที่คอยดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

ถนนหลักภายในโครงการกว้าง 18 เมตร แบ่งเป็น 2เลนให้รถวิ่งเข้า-ออกโครงการอย่างสบายๆ

เมื่อเข้ามาด้านในโครงการจะเจอกับวงเวียนต้นไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งในอนาคตเมื่อต้นไม้นี้แตกกิ่งใบมากขึ้น บรรยากาศบริเวณนี้จะยิ่งดูร่มรื่นขึ้นไปอีกนะ

สวนส่วนกลางของโครงการแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งแรกอยู่ด้านขวามือ เป็นสวนขนาดกลาง มี Jogging Track ให้เราวิ่งเหยาะๆออกกำลังกายได้ด้วยนะ

สวนส่วนกลางอีกฝั่งหนึ่งมีขนาดใหญ่กว่าฝั่งแรก มีทั้งแผ่นน้ำและ Pavillion ให้เรามานั่งพักผ่อน มองวิวธรรมชาติได้เต็มตา สวนฝั่งนี้ก็มี Jogging Track อยู่เช่นเดียวกัน แต่ระยะทางในการวิ่งจะยาวกว่าค่ะ

นอกจากนี้ยังมีมุมพืชผักสวนครัวที่โครงการปลูกไว้ให้ลูกบ้านนำไปประกอบอาหารได้ด้วย

ภายในสวนมีมุมสนามเด็กเล่นเล็กๆ ที่ใช้วัสดุปูพื้นเป็นยาง EPDM ช่วยลดแรงกระแทก ช่วยบรรเทาเวลาเด็กๆวิ่งล้มหก จะได้ไม่เจ็บมากค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย
• สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ ขนาด25×5 เมตร ลึก 1.2 เมตร
• แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร / พร้อมโซนจากุชชี่
• ห้องออกกำลังกายใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง
• Co-Working Space
• Meeting Room
• Lounge
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 2 จุด รวมประมาณ 441 ตร.ว.
• Jogging Track 165 เมตร
• สนามเด็กเล่น
• แปลงพืชผักสวนครัว (CPN Plot)
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 50 จุด
• รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรและรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 30 เซนติเมตร
• ถนนหลักกว้าง 18 เมตร และถนนภายในกว้าง 9-12 เมตร
• ลูกบ้านเข้า-ออกด้วยระบบจดจำป้ายทะเบียน (License Plate Recognition System) และระบบ VMS สแกน QR Code เพื่อขอเข้าโครงการสำหรับ Visitor
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• Double Gate Security ประตูรั้ว 2 ชั้น
• ประตูรั้วโครงการแบบ เลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน
• เดินสายไฟร้อยท่อลงดินทั้งโครงการ
• Privilege สิทธิพิเศษจากแบรนด์ในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป (สอบถามรายละเอียดอีกครั้ง)

Highlight

• โครงสร้างบ้านแบบ Conventional : รองรับการทุบต่อเติมบ้านในอนาคต
• มีที่ดิน 100 ตร.ว. ขึ้นไป : โดยวางบ้านชิดด้านใดด้านหนึ่ง ทำให้มีพื้นที่ปลูกต้นไม้ จัดสวน
• แบบบ้าน Organic Modern : ซึ่งเป็นแบบบ้านใหม่ล่าสุด ที่เพิ่งนำมาใช้ในโครงการนี้เป็นที่แรก ดูโมเดิร์นและเรียบง่าย ได้บ้านหน้ากว้าง 22-26 เมตร มีช่องแสงเยอะ แตกต่างไปจาก ‘บ้านนิรดา’ ที่เราเคยรู้จัก
• ได้ฟังก์ชันมากที่สุดในย่านนี้ : ได้พื้นที่ใช้สอยมากถึง 536 ตร.ม. และมีฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ พร้อม 2 ห้องแม่บ้าน
• มีห้องนอนชั้นล่างทุกแบบ : รองรับผู้สูงอายุ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตได้สะดวกขึ้น

โครงการ บ้านนิรดา แจ้งวัฒนะ – ชัยพฤกษ์ (Baan Nirada Chaengwattana – Chaiyaphruek) ถือว่าเป็นโครงการในแบรนด์ ‘บ้านนิรดา’ แห่งที่ 4 รองจาก บ้านนิรดา พระราม 2 , บ้านนิรดา อุทยาน อักษะและบ้านนิรดา เอกชัย-วงแหวน แต่ที่น่าสนใจคือโครงการนี้ใช้แบบบ้านใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า Organic Modern เน้นแบบบ้านหน้ากว้างมีช่องแสงเยอะ เพดานสูง เพื่อให้คนที่อาศัยในบ้านสัมผัสได้ถึงความโปร่งโล่งสบาย โดยโครงการนี้จะมีบ้าน 3 แบบด้วยกัน

• Rada บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 382 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 พื้นที่พักผ่อน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
• Radapat บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 120 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 474 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 3 พื้นที่พักผ่อน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
• Radathon บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 130 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 536 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 3 พื้นที่พักผ่อน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน

เมื่อเทียบกับโครงการที่มีระดับใกล้เคียงกัน ที่ส่วนใหญ่มักฟังก์ชันสูงสุดที่ 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ บ้านในโครงการนี้จึงถือว่าได้ฟังก์ชันมากที่สุดในย่านเลยนะ นอกจากนี้บ้านโครงการยังมีที่จอดรถ 4 คันตั้งแต่แบบบ้าน Type เริ่มต้น ซึ่งมากกว่าโครงการอื่นๆที่มักให้ที่จอดรถเริ่มต้นเพียง 3 คันเท่านั้น โครงการนี้เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิก 5-7 คน รองรับได้หลาย Generation  ที่สำคัญคือตัวบ้านยังใช้โครงสร้างแบบ Conventional รองรับการทุบต่อเติมบ้านในอนาคต

สรุปวัสดุภายในบ้าน/ ห้อง

• โครงสร้างแบบ Conventional ผนังก่ออิฐมวลเบา
• พื้นที่จอดรถ : Slab on Beam ลงเสาเข็มลึกเท่ากับตัวบ้าน กรุด้วยกระเบื้อง Bezen
• พื้นที่ซักล้านหลังบ้าน : Slab on Beam กรุกระเบื้องเซรามิค
• โครงสร้างบันได : คอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวไม้ประสาน Top ไม้สัก
• พื้นชั้น 1 : กระเบื้อง Porcelain 80 x 80 cm. / ห้องนอนชั้นล่าง Vinyl Absorption Floor
• พื้นชั้น 2 : Engineering Wood
• Digital Door Lock ทุกหลัง
• กล้องวงจรปิด 4 จุด
• ระบบ Magnetic & Shock Sensor ชั้น 1 – 2
• เตรียม Junction EV Charger ทุกหลัง
• สุขภัณฑ์ Cotto + อ่างอาบน้ำ Ispa และ Top เคาน์เตอร์หินแกรนิต
• ห้องน้ำมีฉากกั้นกระจก Tempered
• ระบบ Active Air Quality กรองอากาศภายในบ้านทั้งชั้น 1-2
• ระบบไฟ 3 เฟส 30(100)

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

Radathon

บ้านตัวอย่างแรกที่เราจะพาทุกคนไปชมคือบ้าน Radathon ซึ่งเป็นบ้าน Type ใหญ่ที่สุดของโครงการ  บ้านแบบนี้มีหน้ากว้าง 26 เมตร มีที่ดินเริ่มต้น 130 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 536 ตร.ม. ที่มาพร้อมฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 3 พื้นที่พักผ่อน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน ซึ่งถือว่ามากที่สุดในย่านนี้เลยนะ

ชั้น 1 : บ้านหน้ากว้าง 26 เมตร มีฝ้าเพดานสูง 2.9 เมตร บ้านจึงดูโปร่ง สามารถจอดรถได้ 4 คัน มีทางเข้า-ออกหลักๆ 3 ทาง ประตูแรกเป็นประตูหลักที่อยู่หน้าบ้าน คนที่ใช้ประตูนี้เป็นประจำก็คือเจ้าของบ้านและแขกที่มาเยี่ยมนั้นเอง ส่วนประตูที่ 2 คือประตูด้านหลังที่จอดรถ ประตูนี้จะใกล้กับห้องครัวและ Powder Room เวลาเราซื้อข้าวของเข้าบ้านแล้วอยากเก็บข้าวของ หรือต้องการเข้าห้องน้ำโดยเร็วที่สุด ก็สามารถใช้ประตูนี้ได้เลย  และประตูสุดท้ายอยู่บริเวณห้องครัว สามารถเชื่อมต่อกับส่วน Maid Plaza ได้ แม่บ้านมักจะใช้ประตูนี้เป็นหลัก

ภายในบ้านแบ่งโซนเป็น 4 โซน ส่วนแรกคือด้านหน้าบ้าน เป็นพื้นที่รับแขก สำหรับต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยือน โดยที่แขกไม่ต้องเข้าไปโซนด้านใน เจ้าของบ้านจึงได้ความเป็นส่วนตัว ถัดเข้ามาเป็นโซนที่ 2 เป็นพื้นที่พักผ่อนสำหรับคนในบ้าน ประกอบด้วยพื้นที่นั่งเล่น , ส่วนรับประทานอาหาร โซนนี้เป็นเหมือนจุดรวมตัวของสมาชิกในบ้านและเรามักใช้เวลาเยอะสุดบริเวณนี้ โครงการจึงจัดไว้ด้านหลังบ้านเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวไว้ ส่วนโซนที่ 3 คือห้องนอนชั้นล่างที่มีรูปทรงเป็นแนวยาว ตั้งแต่หน้าบ้านไปจนถึงหลังบ้าน พร้อมกับห้องน้ำในตัว ใช้งานได้สะดวก ใครมีผู้สูงอายุอาศัยด้วยพักที่ห้องนี้จะสะดวกที่สุด ไม่ต้องเดินขึ้น-ลงบันไดให้ยุ่งยากค่ะ โซนสุดท้ายคือส่วน Service ประกอบไปด้วยห้องครัวและ Maig Plaza รวมถึงพื้นที่ Laundry ถือว่ามีฟังก์ชันครบ แม่บ้านสามารถทำงานได้บริเวณนี้โดยไม่รบกวนเจ้าของบ้านเลย

ชั้น 2 : เป็นพื้นที่ส่วนตัวของสมาชิกภายในบ้าน เพราะเป็นพื้นที่พักผ่อนทั้งชั้นเลยค่ะ ประกอบไปด้วย Family Area เป็นจุดรวมตัวของคนในบ้าน นอกจากนี้ยังมีห้องนอนรองทั้ง 3 ห้องพร้อมห้องน้ำในตัวและ Master Bedroom ใช้งานได้สะดวก

พื้นที่จอดรถแบ่งออกเป็น 2 ช่อง สามารถจอดรถได้ช่องละ 2 คัน แต่ละช่องมีความขนาดประมาณ 5×5.85 เมตร มีชายคาคลุมเต็มคัน ไม่มีส่วนไหนตากแดดฝน โครงการลงเสาเข็มบริเวณที่จอดให้เท่าตัวบ้าน ถึงบริเวณที่มีชายคาคลุม ทำให้เราไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นที่จอดรถทรุด นอกจากนี้โครงการมีการตัด Joint แยกโครงสร้างไว้ให้เรียบร้อยค่ะ นอกจากนี้ด้านหลังยังมีห้องเก็บของขนาด 2.25 x 0.8 เมตร เก็บอุปกรณ์ทำสวนได้สบายๆ

โครงการเตรียมระบบไว้ให้เพื่อรองรับการติดตั้ง EV Charger 1 เครื่อง พร้อมติดตั้ง Smart Camera ไว้ให้ 1 จุด ซึ่งเราสามารถดูกล้องวงจรปิดผ่านมือถือได้เลย สะดวกในการใช้งานมากค่ะ

จากที่จอดรถสามารถเดินเข้าบ้านได้ โดยไม่ต้องโดนแดดฝน พื้นทางเข้าบ้านมีการยกระดับขึ้นเล็กน้อย ช่วยกันฝุ่นและน้ำไหลย้อน ส่วนประตูมีความกว้างประมาณ 0.9 เมตร ขนของเข้า-ออกบ้านได้สะดวก พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock ของ Colt รองรับถึง 5 ระบบ คือ Fingerprint / Pin code / กุญแจ / Keycard / Application เราไม่ต้องพกกุญแจบ้านติดตัว ก็ยังสามารถเข้าบ้านได้ค่ะ

สำหรับทางเข้าหลักของบ้านอยู่ด้านข้างที่จอดรถ โดยออกแบบทางขึ้นชานบ้านเป็นทางลาด สามารถเข็นวีลแชร์ขึ้นไปได้สะดวก โดยมีชายคาคลุมกันแดดฝนตลอดแนวทางเดิน เราสามารถลงจากรถแล้วเดินเข้าบ้านได้แบบไม่โดนแดดฝนเลยค่ะ

เนื่องจากบ้านมีที่ดินใหญ่และโครงการก็วางผังบ้านให้ชิดด้านใดด้านหนึ่งของที่ดิน ทำให้เหลือพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ข้างๆบ้านให้เราทำเป็นสวนหย่อม ไว้พักผ่อนได้ด้วยค่ะ ซึ่งหาได้ค่อนข้างในโซนนี้เพราะโครงการอื่นๆจะเน้นสร้างบ้านเกือบเต็มที่ดินเลยนะ

ประตูหลักหน้าบ้านมีการยกระดับจากชานหน้าบ้าน เพื่อกันเศษฝุ่น และกันน้ำไหลย้อนกลับ ตัวประตูเป็นประตูไม้สักบานเปิดคู่มีความกว้างประมาณ 1.6 เมตร สามารถขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆเข้า-ออกบ้านได้ บริเวณประตูหน้าต่างทุกบานจะมี Magnetic & Shock Sensor ติดไว้ให้ ที่จะคอยแจ้งเตือนเมื่อมีการเปิด-ปิด หรือเกิดการกระแทก เพื่อเสริมความปลอดภัยให้แก่ลูกบ้าน

เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับส่วนโถงต้อนรับ Foyer ของตัวบ้าน บริเวณนี้พื้นที่ค่อนข้างกว้าง และมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าแบบ Double Volume 6.7 เมตร ยิ่งทำให้บ้านดูสว่างและโปร่งโล่งเป็นพิเศษ  ส่วนวัสดุพื้นเป็นกระเบื้อง Porcelain สีขาวขนาด 80 x 80 ซม. ซึ่งจะแข็งแรงมากกว่ากระเบื้องแกรนิตโต้ทั่วไป เรามองว่าบริเวณนี้ยังมีพื้นที่พอจะให้ทำ Built-in ตู้เก็บรองเท้า เพื่อให้เราหยิบมาใส่หรือถอดเก็บได้สะดวกเวลาเข้า-ออกบ้าน

ฟังก์ชันแรกที่เราจะเจอเมื่อเข้ามาในบ้าน คือโซนรับแขกหน้าบ้าน ซึ่งแยกจากโซนหลังบ้านที่เป็น Common Area อย่างชัดเจน ทำให้แขกที่มาหาเจ้าของบ้านจะอยู่แค่พื้นที่รับแขกเท่านั้น เจ้าของบ้านยังได้ความเป็นส่วนตัวในการทำกิจกรรมต่างๆภายในบ้าน

พื้นที่รับแขกมีขนาดใหญ่พอที่จะวางโซฟา 4 ที่นั่ง , อาร์มแชร์และโต๊ะกลางได้ 1 ตัว หากต้องการติดตั้งทีวี แนะนำให้ติดตั้งขนาด 55 นิ้ว เพื่อการรับชมที่คมชัด บริเวณนี้มีช่องแสงขนาดใหญ่ สูงตั้งแต่พื้นจนเกือบถึงฝ้า ทำให้พื้นที่ตรงนี้ดูสว่างและโปร่ง แล้วยังช่วยให้เราเห็นวิวสวนหน้าบ้านได้ชัดๆอีกด้วย

หน้าต่างส่วนใหญ่ของบ้านหลังนี้จะมีขนาดใหญ่คล้ายประตู เพื่อให้ได้ช่องแสงเต็มที่ ตัวบ้านจึงดูสว่าง ตัวประตูบานเลื่อนเป็นแบบ Double Lock ทำให้สมาชิกในบ้านรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น

Common Area รวมพื้นที่นั่งเล่น , พื้นที่รับประทานอาหารและ Pantry Area เข้าด้วยกันไว้ที่โซนหลังบ้าน ซึ่งเป็นโซนที่สมาชิกในบ้านมักจะใช้เวลามากที่สุด ได้ความเป็นส่วนตัวจากสายตาผู้คนที่เดินผ่านไปมาหน้าบ้าน

พื้นที่นั่งเล่นสามารถวางโซฟารูปตัว L สำหรับ 4-5 ที่นั่ง พร้อมกับโต๊ะกลางวางของกินต่างๆ เวลานั่งดูทีวี

บริเวณพื้นที่นั่งเล่นโครงการจะติดตั้ง Smart Camera ไว้ด้วย ให้เราคอยดูแลสอดส่องความเคลื่อนไหวของสมาชิกในบ้านได้ผ่านมือถือ นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบ Active Air Quality By SCG แบบฝังฝ้าไว้ด้วย เราจึงไม่เห็นตัวเครื่องดูสบายตาดีค่ะ ระบบนี้จะช่วยหมุนเวียนอากาศ โดยนำอากาศภายนอกเข้ามายังตัวบ้าน พร้อมกรองอากาศทำให้อากาศภายในบ้านบริสุทธิ์ ตัวเครื่องจะทำงานก็ต่อเมื่อมีค่า Pm2.5 สูงเกิน 25 มคก./ลบ.ม. ซึ่งโครงการรอบข้างมักจะติดตั้งระบบนี้ที่ห้องนั่งเล่นหรือ Master Bedroom เท่านั้น แต่โครงการนี้จะติดตั้งระบบ Active Air Quality ไว้ทั้งหลังเลยค่ะ

ส่วนรับประทานอาหาร รองรับโต๊ะขนาด 8 ที่นั่ง ได้สบายๆไม่อึดอัด มีพื้นที่เหลือรอบโต๊ะให้ใช้งานได้สะดวก มองออกไปเห็นสวนที่จัดทางด้านหลังบ้าน เราสามารถเปิดประตูไปรับลม หรือนั่งพักผ่อนได้ด้วย

ด้านหลังบ้านบริเวณติดกับพื้นที่รับประทานอาหาร มีพื้นที่ว่างพอทำเป็นมุมพักผ่อนหรือสวนได้ เหมาะกับคนที่ชอบทำสวนปลูกต้นไม้เลยค่ะ

ติดกับส่วนรับประทานอาหารเป็นมุม Pantry Area เราสามารถเตรียมอาหารและเสิร์ฟอาหารได้อย่างต่อเนื่อง บริเวณนี้โครงการเดินระบบท่อน้ำไว้ให้ด้วย สามารถทำ Built-in เคาน์เตอร์พร้อมซิงค์ล้างจานได้ด้วย

ระหว่าง Pantry Area กับห้องครัวกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ทำให้เราสามารถทำอาหารกลิ่นฉุนๆได้ ไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นควันจะลอยไปบริเวณอื่นของบ้าน พร้อมติดตั้ง Magnetic & Shock Sensor ไว้ด้วย เวลาที่เจ้าของบ้านไม่อยู่บ้าน แม่บ้านก็ยังคงสามารถเข้าจัดเก็บ ทำความสะอาดบริเวณห้องครัวได้ โดย Sensor ไม่ดังค่ะ

ห้องครัวมีขนาดใหญ่ ภายในมี Built-in เคาน์เตอร์มาให้ 2 ฝั่ง แต่จะไม่มีหน้าบานตู้เก็บของมาให้นะคะ พร้อมเหลือพื้นที่ให้ยืนทำอาหารอีกเกือบ 2 เมตร สมาชิกในบ้านสามารถมาช่วยกันทำครัวได้ 3-4 คนแบบสบายๆเลยค่ะ

หากเราเข้าบ้านมาจากประตูรองด้านหลังที่จอดรถ ก็จะเจอกับโถงทางเดินไปยังห้องน้ำชั้นล่าง

ห้องน้ำชั้น 1 เป็นแบบ Powder Room อยู่ใกล้ประตูโรงจอดรถ สะดวกต่อการใช้งานเวลากลับมาถึงบ้าน เหมาะเป็นห้องน้ำสำหรับรับรองแขกที่ไม่มีส่วนอาบน้ำ เน้นรองรับแขกที่มาเยี่ยมเป็นครั้งคราว ภายในห้องน้ำมีสุขภัณฑ์จาก Cotto มาให้แบบครบชุด แต่ที่พิเศษกว่าห้องน้ำอื่นๆ คือได้โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติพร้อมใช้งานเลยค่ะ

ห้องนอนชั้นล่างมีขนาดกว้างมากเลยค่ะ จะวางเตียง 6 ฟุตหรือเตียงคู่ก็ได้ เหมาะกับผู้สูงอายุที่ต้องมีคนดูแลตลอด 24 ชั่วโมง หรือผู้สูงอายุ 2 คนที่ต้องการนอนแยกเตียงกัน เพราะรู้สึกตัวง่ายเวลาคนข้างๆขยับ ปลายเตียงมีพื้นที่พอจะทำ Built-in ชั้นวางทีวีได้ หรือโต๊ะอ่านหนังสือได้สบายๆ บริเวณข้างๆเตียงมีประตูกระจกขนาดใหญ่ ทำให้เราเห็นวิวสวนด้านหน้าบ้าน ช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกสดชื่นขึ้น

ห้องนอนผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงได้จากชานหน้าบ้านเลยนะ เวลาที่คุณตาคุณยายกลับบ้านมาเหนื่อยก็เข้ามาพักผ่อนได้สะดวกค่ะ

หน้าห้องน้ำมีพื้นที่ Built-in ตู้เสื้อผ้า ทำเป็นมุมแต่งตัว เมื่อเราอาบน้ำเสร็จก็สามารถเดินออกมาแต่งตัวได้สะดวก

ประตูห้องน้ำเป็นบานเลื่อน ส่วนพื้นห้องน้ำก็เรียบเสมอกับพื้นห้องนอน ทำให้เราสามารถเข็นวีลเเชร์เข้าไปได้ไม่ยากค่ะ

ห้องน้ำภายในห้องนอนชั้นล่างออกแบบมารองรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ เริ่มจากอ่างล้างหน้าที่ออกแบบให้มีส่วนโค้งทำให้เข็นวีลแชร์มาใช้งานได้พร้อมมีโครงสร้างเสริมความแข็งแรง ใช้พยุงตัวเองเวลาลุกขึ้นยืนได้ ส่วนข้างๆโถสุขภัณฑ์มีราวจับ ช่วยเสริมความปลอดภัยให้ด้วย พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.15 x 2.15 เมตร พร้อมมีที่นั่งอาบน้ำมาให้ด้วย ผู้สูงอายุไม่จำเป็นต้องยืนอาบน้ำให้เมื่อยขาเลย

ใกล้ๆกับบันไดมีห้องเก็บของขนาดประมาณ 1.3 x 2.4 เมตร มาให้ด้วย ใช้เก็บข้าวของชิ้นใหญ่ๆ เช่น กระเป๋าเดินทางได้ค่ะ

บันไดขึ้นชั้น 2 เป็นรูปตัว U  มีขนาดกว้างประมาณ 1.3 เมตร พอให้คนเดินสวนกันได้  ชานพักบันไดเป็นแบบเต็มผืน ใช้งานได้อย่างปลอดภัยเวลาพักเหนื่อยระหว่างเดินขึ้น-ลงค่ะ ส่วนโครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก เเข็งแรงคงทน เวลาเดินขึ้นลงไม่เกิดเสียงดัง พร้อมปิดผิวไม้ประสาน Top ไม้สัก และมีราวจับตลอดทางใช้งานได้สะดวก

โถงชั้น 2 สามารถเชื่อมต่อกับฟังก์ชันต่างๆของตัวบ้านได้ ประกอบไปด้วย Family Area , ห้องอเนกประสงค์และห้องนอนทั้ง 4 ห้อง

บริเวณนี้โครงการติดตั้ง Smart Camera และ Control Pad มาให้ ไว้สำหรับควบคุมและตรวจเช็คความเรียบร้อยภายในบ้าน

Family Area ใช้เป็นจุดรวมตัวของสมาชิกในบ้านได้ หรือเวลาที่พ่อแม่มีแขกมาหา ลูกๆก็สามารถมาใช้พื้นที่ตรงนี้ได้ โดยไม่รบกวนกัน ชั้น 2 สำหรับโซนนี้สามารถวางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะหน้าทีวีสำหรับวางของกินเวลาดูทีวี มีฝ้าเพดานสูงมาถึง 3 เมตร จึงดูโปร่งสบาย ส่วนวัสดุปูพื้นชั้นนี้ได้เป็น Engineering Wood แข็งแรงทนทาน หากใครต้องการความเป็นสัดส่วนที่ชัดเจน แนะนำให้กั้นห้องเพิ่มความเป็นส่วนตัวนะ

ข้างๆ Family Area มีประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อกับระเบียง ประตูหน้าต่างชั้น 2 เป็นแบบ Double Lock เหมือนชั้น 1 พร้อมติดตั้งระบบ Magnetic & Shock Sensor ไว้ด้วย

บริเวณ Family Area สามารถเชื่อมต่อกับระเบียงขนาดประมาณ 1.5 x 3.45 เมตร พอให้จัดเป็นมุมพักผ่อนริมระเบียง มานั่งจิบกาแฟ สูดอากาศได้ หรือใครชอบทำสวนก็สามารถวางกระถางต้นไม้เพิ่มความสดชื่นให้แก่ตัวบ้าน

ตรงข้ามกับ Family Area เป็นพื้นที่อเนกประสงค์เล็กๆ เหมาะกับการจัดเป็นห้องพระ ห้องเก็บของสะสม หรือใครต้องการห้องทำงานเล็กๆ แนะนำให้ทำฉากกั้นเพิ่มเติม

สำหรับห้องนอนรอง 1 สามารถวางเตียง 6 ฟุตแล้วเหลือพื้นที่รอบๆเตียงให้วางโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งได้ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เหลือพอจะจัดเป็นมุมอ่านหนังสือทำงานภายในห้องได้ด้วย เนื่องจากห้องนี้อยู่หน้าบ้าน ได้รับแสงธรรมชาติเต็มๆ ใครที่ไม่ชอบตื่นเช้าๆ แนะนำให้ติดม่านแบบ  Blackout นะคะ

ห้องนอนรอง 1 เป็นห้องนอนรองเดียวที่เชื่อมต่อกับระเบียง ซึ่งมีขนาดประมาณ 5.1 x 1 เมตร พอให้เราเดินออกมาสูดอากาศ รับลมได้

ทางเข้าห้องน้ำมีพื้นที่เหมาะกับการ Built-in ตู้เสื้อผ้า ทำเป็นโซนแต่งตัวได้ด้วยนะ เพราะอยู่ใกล้ห้องน้ำพอดี ใช้งานได้ต่อเนื่อง

ห้องน้ำภายในห้องนอนจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมตู้เก็บของใต้เคาน์เตอร์ และให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆครบ พื้นที่ส่วนอาบน้ำกว้างประมาณ 0.95 x 1.65 เมตร ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย สามารถอาบน้ำได้สะดวก

ห้องนอนรอง 2 อยู่ติดกับห้องนอนรอง 1 มีขนาดพอๆกัน เพียงแต่อยู่ตำแหน่งด้านหลังบ้าน สามารถวางเตียง 6 ฟุตแล้วยังมีพื้นที่รอบข้างเตียงอยู่มาก ปลายเตียงจัดเป็นชั้นวางทีวีหรือโต๊ะทำงานได้ด้วย ห้องนี้จะมีหน้าต่างบานเล็กกว่าห้องนอนที่อยู่หน้าบ้าน เราอาจจะต้องติดตั้งโคมไฟช่วยเพิ่มบรรยากาศภายในห้อง

อีกฝั่งของห้องนอนเป็นพื้นที่แต่งตัว ติดกับห้องน้ำภายในห้องพอดี ทำให้การใช้งานต่อเนื่อง

ห้องน้ำในห้องนอนรอง 2 มีการวางผังและให้ชุดสุขภัณฑ์มาครบครันเหมือนห้องน้ำในห้องนอนรอง 1 เลยค่ะ ส่วนอาบน้ำประมาณ 0.95 x 1.65 เมตร สามารถอาบน้ำหมุนตัว ใช้งานได้สะดวกค่ะ

ห้องนอนรอง 3 จะมีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาห้องนอนรอง ตัวห้องเป็นแนวยาว แบ่งฝั่งพักผ่อนกับฝั่ง Walk-in Closet ได้อย่างชัดเจน ส่วนพักผ่อนสามารถวางเตียง 6 ฟุต แล้วยังเหลือพื้นที่รอบๆเตียงอีกเยอะ สามารถวางโต๊ะทำงานได้ สำหรับคนที่ชอบทำงานดึกดื่นๆ

อีกฝั่งหนึ่งของห้อง สามารถจัดเป็น Walk-in Closet พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้ ใครชอบความเป็นสัดส่วนชัดเจน แนะนำให้ทำประตูกั้น ช่วยกันแอร์ไม่ให้ไหลออกด้วยนะ

ห้องน้ำภายในห้องนอนจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาบานใหญ่กว่าห้องอื่นๆ ส่วนชุดสุขภัณฑ์ต่างๆมีให้ครบเหมือนห้องน้ำอื่นๆ  ส่วนพื้นที่ส่วนอาบน้ำกว้างประมาณ 0.95 x 1.45 เมตร ใช้งานได้สะดวก

นอกจากนี้บนชั้น 2 ยังมีห้องอเนกประสงค์เล็กๆให้ด้วย เหมาะกับการทำเป็นห้องเก็บของสะสม หรือเก็บของใช้ทั่วไป

ปิดท้ายด้วย Master Bedroom ที่แบ่งออกเป็นโซนนั่งเล่นและโซนพักผ่อน โดยที่โซนนั่งเล่นสามารถวางโซฟา 3-4 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางสำหรับวางของกินเล็กๆน้อยๆ

โซนนั่งเล่นเชื่อมต่อกับระเบียงบ้าน

ระเบียงมีขนาดประมาณ  1.1 x 7.5 เมตร สามารถทำเป็นมุมพักผ่อนได้ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ให้วางกระถางต้นไม้ขนาดใหญ่ เพิ่มความสดชื่นให้กับตัวบ้านได้ด้วย

โซนพักผ่อนสามารถวางเตียง 6 ฟุตได้ พร้อมกับเหลือพื้นที่รอบๆเตียงอีกเยอะ โซนพักผ่อนโครงการออกแบบให้ช่องเปิดมีขนาดเล็กลงมาจากโซนนั่งเล่น ทำให้ไม่รบกวนคนที่กำลังนอนพักผ่อนได้

Walk-in Closet มีขนาดใหญ่พอจะทำ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ทั้ง 2 ฝั่ง พร้อม Island สำหรับเก็บเครื่องประดับไปในตัว เหมาะกับคนที่ชอบแต่งตัวมีเสื้อผ้าเยอะๆ

ห้องน้ำใน Master Bedroom มีขนาดใหญ่มาก  เมื่อเข้ามาจะเจอกับอ่างล้างมือแบบ His&Her สามารถใช้งานได้พร้อมกัน 2 คนพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง โดยความพิเศษของห้องนี้นอกจากจะมีส่วนยืนอาบกว้าง 1.15 x 1.65 เมตร พร้อมฉากกั้นอาบน้ำแล้ว นอกจากนี้ยังมีอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวพร้อมฝักบัวที่ดูเรียบหรูมาให้ด้วย ส่วนหน้าต่างในห้องน้ำมีขนาดใหญ่ ช่วยให้ในห้องดูสว่าง และทำให้อากาศถ่ายเทได้ดี

Radapat

บ้านแบบนี้มีจำนวนมากที่สุดในโครงการ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นหน้ากว้าง 25 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 120 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 474 ตร.ม. มาพร้อมฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 3 พื้นที่พักผ่อน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน

ชั้น 1 : บ้านเป็นแบบหน้ากว้าง จอดรถได้ 4 คัน ด้านหน้าบ้านเป็นมุมรับแขก รองรับแขกได้สะดวกและรวดเร็ว ส่วนพื้นที่ Common Area อยู่ด้านหลังบ้าน เน้นความเป็นส่วนตัว โซนนี้จะรวมพื้นที่นั่งเล่น , พื้นที่รับประทานอาหารและ Pantry Area ไว้ด้วยกัน ทางเข้าบ้านจะมี 3 ทาง คือด้านหน้าบ้านซึ่งเป็นประตูหลัก ส่วนที่จอดรถจะมีประตูรอง เปิดเชื่อมต่อมาที่โซนครัวได้เลย เวลาเราซื้อของเข้าบ้าน ใช้ประตูนี้จะสะดวกที่สุด และประตูสุดท้ายคือประตู Service ที่อยู่บริเวณห้องครัว แม่บ้านจะใช้ประตูนี้เป็นหลัก จึงไม่รบกวนเจ้าของบ้านเลย

ชั้น 2 : เป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อนส่วนตัวของคนในบ้านมีทั้ง Master Bedroom , ห้องนอนรองทั้ง 3 ห้องพร้อมห้องน้ำในตัว ใช้งานได้สะดวก นอกจากนี้ยังมี Family Area ที่ใช้เป็นมุมรวมตัวของสมาชิกในบ้านด้วย

พื้นที่จอดรถแบ่งออกเป็น 2 ช่อง สามารถจอดรถได้ช่องละ 2 คัน แต่ละช่องมีความกว้างประมาณ 5 เมตร โดยมีชายคาคลุมเต็มคัน ไม่มีส่วนไหนตากแดดฝน โครงการลงเสาเข็มบริเวณที่จอดให้เท่าตัวบ้าน ถึงบริเวณที่มีชายคาคลุม ตัวพื้นปูด้วยกระเบื้อง Bezen แข็งแรงทนทาน และทำความสะอาดง่ายกว่า Concrete Stamp อีกนะ

บริเวณที่จอดรถโครงการเตรียมระบบรองรับการติดตั้ง EV Charger 1 เครื่อง พร้อมติดตั้ง Smart Camera ไว้ให้เราคอยเช็คความผิดปกติได้ นอกจากนี้ยังมีห้องเก็บของขนาดประมาณ 1.1 x 0.7 เมตร เหมาะกับการเก็บอุปกรณ์ทำสวนหรืออุปกรณ์กีฬา

ส่วนทางไปยังประตูหลักหน้าบ้านมีชายคาคลุมตลอดแนว เราเดินเข้าบ้านได้โดยไม่ต้องโดนแดดโดนฝนเลยค่ะ

ประตูหลักทางเข้าบ้านยกระดับจากชานบ้านเล็กน้อย เพื่อกันฝุ่นและน้ำไหลย้อน บริเวณประตูมีหลังคาคลุม ป้องกันแดดและฝนได้ ส่วนตัวประตูหลักเป็นประตูไม้สักบานเปิดคู่ กว้างประมาณ 1.6 เมตร ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆเข้า-ออกบ้านได้สบายๆ บริเวณประตูหน้าต่างทุกบานจะมี Magnetic & Shock Sensor ติดไว้ให้ ที่จะคอยแจ้งเตือนเมื่อมีการเปิด-ปิดเพื่อเสริมความปลอดภัยให้แก่ลูกบ้าน

เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับส่วนโถงต้อนรับ Foyer ของตัวบ้านที่มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าแบบ Double Volume 6.7 เมตร ทำให้บ้านดูโอ่อ่าดีค่ะ ภายในบ้านแบ่งสัดส่วนคล้ายบ้านแบบแรก คือด้านหน้าเป็นมุมต้อนรับแขก ส่วนด้านหลังบ้านแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งเป็น Common Area และห้องนอนชั้นล่าง ส่วนอีกฝั่งเป็นโซน Service ค่ะ

หน้าบ้านเป็นพื้นที่รับแขกสามารถวางโซฟา 4 ที่นั่งพร้อมอาร์มแชร์และโต๊ะทานกาแฟได้ แนะนำให้ติดตั้งทีวีขนาด 50-55 นิ้วเพื่อการรับชมทีวีได้อย่างคมชัด พื้นที่ตรงนี้จะดูสว่างเป็นพิเศษ เพราะอยู่หัวมุมบ้าน ได้แสงธรรมชาติทั้ง 2 ฝั่ง

ด้านข้างพื้นที่รับแขกมีประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อไปยังชานข้างบ้านได้ ประตูหน้าต่างกระจกของบ้านนี้จะเป็นแบบ Double Lock เสริมความปลอดภัยให้คนในบ้าน

พื้นที่รับแรกกับห้องนอนชั้นล่างสามารถเชื่อมต่อกับชานข้างบ้านได้ ชานมีชายคลุมทั้งหมด ขนาดประมาณ 3.6 x 5.3 เมตร สามารถจัดเป็นพื้นที่พักผ่อนริมสวนได้ หรือใครอยากจะต่อเติมเป็นห้องในอนาคตก็ได้เช่นกัน เพราะตัวบ้านมีโครงสร้างก่ออิฐฉาบปูน ต่อเติมง่ายอยู่แล้วค่ะ

ฝั่งหนึ่งของบ้านมีพื้นที่ว่างให้จัดเป็นสวน ตอบโจทย์คนที่ชอบปลูกต้นไม้

โซนหลังบ้านเป็น Common Area ร่วมพื้นที่นั่งเล่น , พื้นที่รับประทานอาหารและ Pantry Area  ได้ความเป็นส่วนตัวจากสายตาผู้คนที่เดินผ่านไปมาหน้าบ้าน

พื้นที่นั่งเล่นสามารถวางโซฟา 3-4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางเล็กๆสำหรับวางของกินเวลาดูทีวี

บริเวณนี้โครงการติดตั้ง Smart Camera ไว้ให้ เราสามารถดูความเคลื่อนไหวของคนในบ้านผ่านมือถือได้

พื้นที่รับประทานอาหารเชื่อมต่อกับ Pantry Area ใช้งานกันได้อย่างต่อเนื่อง ดูจากขนาดพื้นที่แล้ว สามารถวางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 8 ที่นั่ง แล้วยังเหลือพื้นที่เดินรอบโต๊ะ บริเวณนี้ติดกับสวนหลังบ้านเราจึงได้วิวสวนในขณะที่ทานอาหารด้วย

ความพิเศษของบ้านแบบนี้คือมีมุม Glass House บริเวณพื้นที่ทานอาหาร  ทำให้มุมนี้ดูโปร่งและสว่างเป็นพิเศษ ยิ่งเวลาที่แสงสาดลงมามุมนี้จะสวยมากๆเลยค่ะ

ติดกับส่วนรับประทานอาหารเป็นมุม Pantry ที่โครงการเดินระบบท่อน้ำไว้ให้เรียบร้อย เราจึงสามารถทำเป็นเคาน์เตอร์พร้อมซิงค์ล้างจานได้เลย

ห้องครัวกั้นด้วยประตูกระจก ทำให้เราสามารถทำอาหารได้อย่างจริงจัง ไม่ต้องกลัวกลิ่นควันจะลอยไปบริเวณอื่น ประตูนี้จะติดตั้ง Magnetic & Shock Sensor ไว้ให้เรียบร้อย คอยแจ้งเตือนเวลาประตูเปิดหรือเกิดการกระเเทกเวลาเราไม่อยู่บ้าน

ภายในห้องครัวมีขนาดกว้างมาก โครงการทำ Built-in เคาน์เตอร์ได้ 2 ฝั่ง แต่ปกติแล้วจะไม่มีหน้าบานตู้เก็บของมาให้นะ ภายในครัวมีพื้นที่เหลือให้คนในครอบครัวช่วยกันยืนทำอาหารอีก 3-4 คน

ด้านหลังห้องครัวเป็น Maid Plaza ประกอบด้วยลานซักล้างและห้องแม่บ้านอีก 1 ห้องค่ะ ส่วนใหญ่แม่บ้านจะทำงานโซนนี้  ไม่ไปรบกวนเจ้าของบ้านเลย เราชอบที่ลานซักล้างมีชายคาคลุม เวลาที่เราตากผ้าอยู่แล้วฝนตก ก็สามารถย้ายราวตากผ้ามาบริเวณนี้ได้

หากเข้าบ้านมาจากประตูที่จอดรถ จะเจอกับโถงทางเดินไปยังห้องน้ำชั้นล่าง

ห้องน้ำชั้นล่างเป็นแบบ Powder Room ไว้รองรับแขกที่มาเยี่ยมเยือน ภายในติดตั้งมาให้ครบทั้งอ่างล้างมือ และโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติจาก Cotto

ห้องนอนชั้นล่างมีขนาดกว้างพอจะวางเตียง 5 ฟุตและตู้เสื้อผ้าได้สบายๆ เหมาะที่จะทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุที่อาจเดินขึ้นบันไดชั้น 2 ไม่ไหว พื้นห้องนอนจะเปลี่ยนจากพื้นกระเบื้องมาเป็น Vinyl Absorption Floor ซึ่งช่วยลดการกระแทกและอาการบาดเจ็บได้ดี ส่วนหน้าห้องน้ำมีพื้นที่ Built-in ตู้เสื้อผ้า ทำเป็นมุมแต่งตัว เมื่อเราอาบน้ำเสร็จก็สามารถเดินออกมาแต่งตัวได้สะดวก

ห้องน้ำภายในห้องนอนชั้นล่างออกแบบมารองรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ เริ่มจากทางเข้าห้องน้ำที่มีพื้นเสมอกับระดับพื้นห้องนอน ทำให้เราเข็นวีลแชร์เข้ามาได้สะดวก ส่วนอ่างล้างหน้าก็ออกแบบให้มีส่วนโค้งทำให้เข็นวีลแชร์มาใช้งานได้พร้อมมีโครงสร้างเสริมความแข็งแรง ผู้สูงอายุสามารถใช้อ่างล้างหน้าในการพยุงตัวเองเวลาลุกขึ้นยืน
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1 x 2.35 เมตร ที่น่าสนใจคือส่วนอาบน้ำมีที่นั่งมาให้ด้วย ผู้สูงอายุสามารถนั่งอาบน้ำได้ ไม่ต้องยืนให้เมื่อยขาเลย

บันไดขึ้นชั้น 2 เป็นรูปตัว U  มีขนาดกว้างประมาณ 1 เมตร พอให้คนเดินสวนกันได้  โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก เเข็งแรงคงทน เวลาเดินขึ้นลงไม่เกิดเสียงดัง พร้อมปิดผิวไม้ประสาน Top ไม้สัก และมีราวจับตลอดทางใช้งานได้สะดวก ชานพักบันไดเป็นแบบเต็มผืน ทำให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยเวลาพักเหนื่อยระหว่างเดินขึ้น-ลง เราชอบที่ลูกนอนของบันไดมีขนาดกว้างถึง 30 ซม. เดินได้เต็มเท้า สบายดีค่ะ

เมื่อขึ้นมาชั้น 2 เราจะเจอกับโถงทางเดินที่เชื่อมต่อกับฟังก์ชันต่างๆของชั้น 2 ประกอบไปด้วย Family Area , ห้องอเนกประสงค์และห้องนอนทั้ง 4 ห้อง

Family Area เป็นแบบเปิดโล่งฝ้าสูง 3 เมตร มีขนาดกว้างพอจะวางโซฟา 3-4 ที่นั่ง พร้อมติดตั้งชั้นวางทีวีได้สบายๆ สามารถจัดเป็นส่วนพักผ่อนส่วนตัวสำหรับสมาชิกในบ้านได้  หากใครต้องการให้พื้นที่ตรงนี้เป็นสัดส่วนชัดเจน แนะนำให้กั้นเป็นห้องกระจกเพิ่มเติม จะรู้สึกถึงความโปร่งโล่งด้วยค่ะ

ระเบียงที่ติดกับ Family Area จะสามารถมองเห็นระเบียง Master Bedroom ด้วยนะ ตัวระเบียงมีขนาดประมาณ 1.6 x 4 เมตร ใช้จัดเป็นมุมพักผ่อนได้สบายๆ หรือใครชอบต้นไม้จะจัดเป็นสวนกระถางได้นะ

Family Area จะมี Smart Camera อีก 1ตัว เราสามารถดูกล้องผ่านมือถือได้ด้วย

ข้างๆระเบียง Family Area จะเป็นระเบียงของห้องนอนรอง 1 มีความกว้างพอๆกันเลย แต่ยาวกว่าเล็กน้อย สามารถจัดเป็นมุมพักผ่อนและวางกระถางต้นไม้ขนาดใหญ่ๆได้เลย แต่น่าเสียดายที่ห้องนอนรอง 1 ยังตกแต่งไม่เสร็จ เราเลยไม่ได้เก็บรถมาฝากทุกคนค่ะ

ใกล้ๆกับห้องน้ำในห้องนอนรอง 1 มีพื้นที่ว่าง เหมาะจะทำเป็น Walk-in Closet  เราจะได้แต่งตัวได้สะดวกหลังจากอาบน้ำเสร็จ

พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำ แยกส่วนเปียก-ส่วนแห้งออกเป็น 2 ฝั่ง ดูเป็นสัดส่วน พื้นที่ยืนอาบได้มากว้างประมาณ 0.95 × 1.55 เมตร สามารถหมุนตัวอาบน้ำได้สะดวกดีค่ะ พื้นห้องน้ำมีการลดระดับลงมาจากพื้นห้องเล็กน้อย เพื่อกันน้ำไหลย้อน ทั้งยังทำให้เราทำความสะอาดห้องน้ำได้สะดวกด้วยค่ะ

ห้องนอนรอง 2 อยู่ด้านหลังบ้าน จึงได้ความสงบมากกว่าห้องนอนรอง 1 ที่อยู่หน้าบ้าน ภายในห้องมีขนาดใหญ่พอจะวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตได้สบายๆ แล้วยังมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้าเล็กๆได้ด้วย

พื้นที่ใช้งานห้องน้ำภายในห้องนอนรอง 2 มีขนาดพอๆกับห้องน้ำในห้องรอง 1 ภายในห้องน้ำมีการแยกส่วนเปียก-แห้งที่ชัดเจน มีอุปกรณ์สุขภัณฑ์มาให้ครบครันพร้อมใช้งาน

พื้นที่อเนกประสงค์เล็กๆ เหมาะกับการจัดเป็นห้องพระ หรือใครต้องการห้องทำงานเล็กๆ แนะนำให้ทำฉากกั้นเพิ่มเติม

แม้ว่าห้องนอนรอง 2 จะอยู่ด้านหลังบ้าน แต่ก็มีช่องเปิดขนาดใหญ่ ทำให้ได้แสงธรรมชาติจาก 2 ฝั่ง ห้องจึงดูสว่างภายในห้องมีขนาดใหญ่พอจะวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตได้สบายๆ ด้านหน้าห้องน้ำมีพื้นที่จะทำเป็นมุมแต่งตัว หรือจะกั้นเป็น Walk – in Closet ใช้งานได้เป็นสัดส่วน

ห้องน้ำในห้องนอนรอง 3 แบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาบานใหญ่กว่าห้องอื่นๆ ส่วนชุดสุขภัณฑ์ต่างๆมีให้ครบเหมือนห้องน้ำอื่นๆ  ส่วนพื้นที่ส่วนอาบน้ำกว้างประมาณ 0.95 x 1.45 เมตร ใช้งานได้สะดวก

ปิดท้ายกันด้วย Master Bedroom มีขนาดใหญ่พอที่จะแบ่งเป็นโซนพักผ่อนและโซนนั่งเล่น ได้ โดยโซนนั่งเล่นจะอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้อง โซนนี้สามารถวางโซฟา 2-3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางสำหรับวางขนมเวลาดูทีวี แล้วยังเหลือพื้นที่ให้ทำเป็นมุมทำงานหรือเล็กๆได้ด้วย

ระเบียงของ Master Bedroom อยู่ติดฝั่งหน้าบ้าน มีความกว้างประมาณ 5.3 x 1.65 เมตร สามารถจัดเป็นมุมพักผ่อนชมวิว สูดอากาศหรือวางกระถางต้นไม้ เพิ่มความสดชื่นได้

สำหรับโซนพักผ่อนมีขนาดพอจะวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ แล้วยังมีพื้นที่เหลือใช้งานรอบๆเตียงได้สะดวก

Walk-in Closet มีขนาดใหญ่พอจะทำ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ทั้ง 2 ฝั่ง เหมาะกับคนที่ชอบแต่งตัวมีเสื้อผ้าเยอะๆ

ส่วน Master Bathroom ก็มีขนาดใหญ่ มีชุดสุขภัณฑ์มาให้ครบครัน พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1.7 x 1.15 เมตร หมุนตัวอาบน้ำได้สะดวก ความพิเศษของห้องนี้คือโครงการมีอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวมาให้ด้วย ข้างอ่างอาบน้ำมีหน้าต่างกระจกฝ้าขนาดใหญ่ติดตั้งมาให้ ช่วยให้ในห้องดูสว่างแต่ยังได้ความเป็นส่วนตัว ไม่เคอะเขินเวลาอาบน้ำ และทำให้อากาศถ่ายเทได้ดีอีกด้วย

Rada 

แบบบ้าน Rada  มีที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 382 ตร.ม. มาพร้อมฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 พื้นที่พักผ่อน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน ซึ่งเป็นบ้าน Type เล็กสุดของโครงการ ตัวบ้านมีการวางผังคล้ายกับบ้าน Radapat เลย เพียงแต่บ้านมีหน้ากว้าง 22 เมตรและมีห้องนอนน้อยกว่า 1 ห้องเท่านั้นเอง

Baan Nirada Chaengwattana-Chaiyaphruek (บ้านนิรดา แจ้งวัฒนะ – ชัยพฤกษ์)

• Rada บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 100 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 382 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 พื้นที่พักผ่อน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท
• Radapat บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 120 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 474 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 3 พื้นที่พักผ่อน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท
• Radathon บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 130 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 536 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 3 พื้นที่พักผ่อน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 2 ห้องแม่บ้าน
  – ราคาเริ่มต้น 33 ล้านบาท
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 124,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 43 บาท/ตร.วา/เดือน
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการอยู่ติดถนนภาระจำยอมอย่างถนนหอการค้าไทย มีโครงการจัดสรรมากมายหลากหลายระดับ ถนนเส้นนี้เชื่อมต่อไปยังถนน 345 และถนนชัยพฤกษ์ ใช้เดินทางไปโซนแจ้งวัฒนะ , ปากเกร็ด และปทุมธานีได้ และยังมีทางด่วนศรีรัชและทางด่วนอุดรรัถยาให้เลือกใช้เพื่อเข้าเมืองโซนจตุจักร , ดอนเมืองหรือออกนอกเมืองไปโซนปทุมธานีได้

โครงการนี้สามารถเข้าถึงแหล่งความอุดมสมบูรณ์ได้ง่ายมากๆ  เพราะรอบๆโครงการมีทั้ง Robinson Lifestyle ราชพฤกษ์ , The Crystal และ Big C Extra แจ้งวัฒนะ ลูกบ้านหาของกินของใช้ได้ไม่ยาก นอกจากนี้ยังใกล้กับโรงเรียนนานาชาติ SISB  ผู้ปกครองไปรับ-ส่งได้สะดวก

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : โครงการนี้ถือว่ามีระดับความปลอดภัยสูง เริ่มจากทางเข้า-ออกโครงการใช้ระบบสแกนป้ายทะเบียน พร้อมมี CCTV บริเวณ Main Gate และจุดต่างๆในโครงการ 50 จุด นอกจากนี้ซุ้มประตูโครงการยังเป็นแบบ Double Gate ช่วยคัดแยกแขกกับลูกบ้านออกจากกัน

ภายในบ้านมีการติดตั้ง Magnetic & Shock Sensor  ที่ประตู-หน้าต่างทุกบานทั้งชั้น 1-2 ส่วน นอกจากนี้โครงการให้ Smart Camera มาถึง 4 จุด คือบริเวณที่จอดรถ , พื้นที่นั่งเล่นชั้นล่าง , ด้านหลังบ้านและบริเวณ Family Area ชั้น 2

การออกแบบโครงการ : โครงการบ้านเดี่ยวทั้งหมด 68 ยูนิต ลูกบ้านได้อยู่ในสังคมระดับเดียวกัน ทางเข้าโครงการเป็นแบบ Double Gate ช่วยแยกแขกกับลูกบ้านออกจากกันได้อย่างชัดเจน ลูกบ้านจึงได้ความเป็นส่วนตัว พื้นที่ส่วนกลางกระจายอยู่ 2 จุด ช่วยกระจายความหนาแน่นในการใช้งาน โดย Clubhouse อยู่ด้านหน้าโครงการ เป็นเหมือนมุมต้อนรับและเป็นหน้าตาให้กับโครงการ  ส่วนสวนอยู่กลางโครงการ ลูกบ้านเดินมาใช้งานง่าย

การออกแบบพื้นที่ใช้สอย : แบบบ้านใหม่ล่าสุด เน้นหน้ากว้างช่องเเสงเยอะและฝ้าเพดานสูง ทำให้บ้านดูโปร่งโล่ง บ้านในโครงการ มีให้เลือก 3 แบบด้วยกัน ได้พื้นที่ใช้สอย 382-536 ตร.ม. ฟังก์ชันมากสุดในย่านคือ 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถและ 2 ห้องแม่บ้าน รองรับสมาชิกหลาย Generations เพราะบ้านทุกแบบได้ห้องนอนชั้นล่าง พร้อมห้องน้ำในตัวที่ออกแบบมารองรับผู้สูงอายุ บ้าน Radapat พิเศษกว่าแบบบ้านอื่นๆตรงที่มี Glass house ช่วยให้บ้านดูสว่างและโปร่งขึ้น

วัสดุ : โครงการเลือกใช้วัสดุได้ดีในหลายๆส่วน เริ่มจากโครงสร้างบ้านเป็นแบบก่ออิฐฉาบปูน รองรับการทุบต่อเติมเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย หรือฟังก์ชันในอนาคตได้  พื้นที่จอดรถปูด้วยกระเบื้อง Bezen แข็งแรงและทำความสะอาดง่ายกว่า Concrete Stamp ส่วนพื้นห้องนอนชั้นล่างก็ปูด้วย Vinyl Absorption Floor ลดการกระเเทกได้ดีและห้องน้ำภายในห้องนอนออกแบบมารองรับการใช้งานของผู้สูงอายุได้สะดวก นอกจากนี้โครงการติดตั้งระบบ Active Air Quality By SCG มาให้ทั้งหลัง ช่วยให้อากาศภายในบ้านบริสุทธิ์ขึ้น

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : ภายในโครงการได้พื้นที่สวนหย่อม 2 จุดอยู่กลางโครงการ ลูกบ้านสามารถเดินมาใช้งานได้ง่าย โดยรอบๆยังมีการแทรกพื้นที่สีเขียวมาให้อีกหลายจุด ช่วยเพิ่มบรรยากาศร่มรื่นให้โครงการ

สาธารณูปโภค : พื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการ เป็นอาคาร Clubhouse 2 ชั้น ฟังก์ชันจัดมาให้ครบครันตามมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ , ห้องฟิตเนส , Lounge , Co-working Space แชร์กับเพื่อนบ้าน 68 ยูนิตได้สบายๆ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 25-35 ล้านบาท, 31 พฤษภาคม 2568

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – ติดถนนหอการค้าไทยที่เป็นทำเลยอดฮิตของโครงการจัดสรร ใกล้โรงเรียนนานาชาติ
• ความปลอดภัย 8/10 – Double Gate ,ใช้ระบบสแกนป้ายทะเบียน ตัวบ้านได้ Magnetic & Shock Sensor และ Smart Camera 4 จุด
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – จัดฟังก์ชันเป็นสัดส่วน แยกโซนการใช้งานดี
• วัสดุ 8.25/10 –โครงสร้างเป็นก่ออิฐฉาบปูน ให้วัสดุมาดีสมกับราคา
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.5/10 –โครงการปลูกต้นไม้ตลอดแนว ออกแบบ Landscape ได้ดีน่าใช้งาน
• สาธารณูปโภค 8/10 –อาคาร Clubhouse 2 ชั้น ฟังก์ชันครบตามมาตรฐานทั้ง สระว่ายน้ำ , ห้องฟิตเนส , Lounge , Co-working Space
• 8.05 / 10.00 

บ้านนิรดา แจ้งวัฒนะ – ชัยพฤกษ์ (Baan Nirada Chaengwattana – Chaiyaphruek) เหมาะกับใคร

โครงการ บ้านนิรดา แจ้งวัฒนะ – ชัยพฤกษ์ (Baan Nirada Chaengwattana – Chaiyaphruek) ตอบโจทย์คนที่ทำงานโซนชัยพฤกษ์ , ราชพฤกษ์ , ปากเกร็ด , แจ้งวัฒนะและเมืองทองธานี  ชอบบ้านใกล้โรงเรียนนานาชาติและชอบอยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย เน้นใช้งาน Facility ส่วนกลางที่มีให้ครบครัน ชอบบ้านแนว Organic Modern ตัวบ้านเหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิก 5-7 คน ที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวที่รองรับได้หลาย Generations มีห้องนอนรองรับผู้สูงอายุ ต้องการบ้านแบบ Conventional สามารถทุบต่อเติมได้ ในราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 175,000 บาท/เดือน

ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน 

• บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์
• บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ แจ้งวัฒนะ
• บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ-ชัยพฤกษ์

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่