รีวิวฉบับที่ 1631 ในยุคสมัยคนกลับมามองหาบ้านที่สามารถรองรับครอบครัวขนาดใหญ่ได้มากขึ้น ก็ผุดโครงการบ้านหลังใหญ่ราคาสูงมากมาย แต่จะดีไหมหากมีบ้านราคาสิบล้านต้นๆ ที่สามารถรวมครอบครัวขนาดใหญ่ได้ในหลังเดียว โดยมาในรูปแบบบ้านเดี่ยว 3 ชั้นแบ่งความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยจำนวนชั้น อย่างโครงการ ภัสสร วงแหวน-รามอินทรา บนทำเลใกล้รามอินทราและ Fashion Island จากพฤกษาค่ะ
Fact @ 15 July 2018
- ภัสสร วงแหวน-รามอินทรา (Passorn Wongwaen – Ramindra)
- บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน)
- HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : คันนายาว
- เนื้อที่โครงการ 28-1-17 ไร่ จำนวน 110 ยูนิต
- บ้านเดี่ยว 3 ชั้น
- Prelite พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 56 ตร.ว. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- Prelegance พื้นที่ใช้สอย 274 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 56 ตร.ว. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.846325, 100.673021
ที่ตั้งโครงการ ภัสสร วงแหวน-รามอินทรา อยู่บนถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ใกล้กับถนนรามอินทรานะคะ บริเวณทำเลนี้ต้องบอกว่าเป็นทำเลที่มีโครงการแนวราบเยอะมาก เนื่องจากเป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงใกล้ถนนรามอินทราที่ตรงเข้าถนนพหลโยธินได้ง่ายบริเวณหลักสี่ และนอกจากนี้ยังเป็นทำเลที่เน้นใช้ถนนกาญนาภิเษกเป็นหลักในการเดินทางไปยังฝั่งรามคำแหง-สุวรรณภูมิ และอีกฝั่งทิศเหนืออย่างย่านรังสิตได้สะดวกค่ะ โดยรวมแล้วตอบโจทย์คนที่ทำงานทั้งในย่านรามอินทรา – ดอนเมือง – รังสิต รวมไปถึงฝั่งโซนมีนบุรีอีกด้วย
ทำเลนี้ต้องบอกว่าเป็นทำเลเก่าแก่มีโครงการหมู่บ้านดั้งเดิมอย่างหมู่บ้านปัญญาผู้บุกเบิกทำเลมานานแล้ว ความอุดมสมบูรณ์จึงเกิดขึ้นตาม Demand หรือความต้องการของคนในละแวกนี้ จึงเห็นได้ว่าโดยรอบทั้งที่ติดถนนรามอินทรา ถนนปัญญาอินทราและคู้บอนเองมีแหล่งให้ซื้อของกินของใช้พอสมควรเลยค่ะ แต่หลักๆ เลยที่เรียกว่าเป็นศูนย์กลางของรามอินทราตอนปลายนี้ก็คือ ศูนย์การค้า Fashion Island และ Promenade ที่มีครบทั้งของใช้ ร้านอาหาร รวมไปถึงโรงภาพยนต์ ซึ่งจากโครงการมายังห้างใช้ระยะทางประมาณ 2.5 กม. ถือเป็นระยะที่ขับรถได้สะดวกนะคะ นอกจากนี้โรงพยาบาลชื่อดังในละแวกก็อยู่ไม่ไกลด้วยค่ะ เช่น โรงพยาบาลสินแพทย์ และโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี
การเดินทางเข้าถึงโครงการสามารถเข้าถึงได้ง่ายจาก 3 ทางด้วยกัน หลักๆ จะเป็นจากถนนรามอินทราฝั่งหลักสี่วิ่งตรงเข้าถนนกาญจนาภิเษก หรือจะเลี้ยวเข้าทางถนนคู้บอนแวะซื้อของกินก่อนเข้าบ้านได้ อีกเส้นทางนึงคือวิ่งมาจาก Motor Way จากนั้นลงตรงถนนรามอินทราฝั่งมุ่งหน้าไปทางมีนบุรีจากนั้นตรงเข้าถนนเลียบมอเตอร์เวย์ก็จะถึงโครงการค่ะ ซึ่งวันนี้เราจะวิ่งทาง Motor Way ไปโครงการกันนะคะ
เริ่มต้นเส้นทางกันที่บริเวณทางออกมอเตอร์เวย์บริเวณถนนรามอินทรานะคะ จากนั้นจะเห็นป้ายแยกระหว่างหลักสี่ และมีนบุรี ให้เราวิ่งมาทางป้ายมีนบุรี
จากนั้นวิ่งเข้าถนนรามอินทรากันค่ะ สำหรับเส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางเดียวกับทางไป Fashion Island นะคะ
เมื่อลงมาที่ถนนรามอินทราแล้วให้ชิดขวาตามเดิมและเลี้ยวขวา
เมื่อเลี้ยวมาแล้วให้เรามุ่งหน้าไปทางถนนปัญญารามอินทรานะคะ
ก่อนเข้าสู่ถนนปัญญารามอินทรา ให้ชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบมอเตอร์เวย์ค่ะ
เข้ามาที่ถนนเลียบมอเตอร์เวย์ในช่วงบริเวณหมู่บ้านปัญญาแถวนี้จะค่อนข้างคึกคักค่ะ มีร้านอาหารพอสมควรทีเดียวค่ะ และต้องบอกว่าถนนเลียบมอเตอร์เวย์ในฝั่งนี้สามารถวิ่งรถสวนกันได้ด้วยจึงค่อนข้างสะดวกในการเดินทางทีเดียวค่ะ
หลังจากเลี้ยวเข้าถนนเลียบมอเตอร์เวย์มาแล้ววิ่งตรงมาอีกหน่อยประมาณ 1.8 กม. ก็จะเห็นโครงการด้านขวามือแล้วค่ะ
บรรยากาศโครงการโดยรอบส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้านเกือบทั้งหมด สลับกับที่ดินเปล่าบางส่วนนะคะ ซึ่งส่งผลให้ทำเลโครงการมีความสงบเหมาะสมกับการจัดสรรเป็นที่อยู่อาศัย
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- ห้างสรรพสินค้า และ Community Mall
- แฟชั่น ไอส์แลนด์
- พรอมมินาด
- อมอรินี่
- ปัญญา วิลเลจ
- เซ็นทรัล รามอินทรา
- โรงเรียนเลิศหล้า
- โรงเรียนสาธิตพัฒนา
- โรงเรียนนานาชาติไทย-อเมริกัน
- โรงเรียนสารสาสน์
- ปัญญาอินทรา กอล์ฟคลับ
- เลกาซี่ กอล์ฟคลับ
- โรงพยาบาลสินแพทย์
- โรงพยาบาลนพรัตน์
Master Plan โครงการ ภัสสร วงแหวน-รามอินทรา มีพื้นที่ดินรวมประมาณ 28 กว่าไร่ แบ่งเป็นจำนวนยูนิต 110 ยูนิต โดยจากซุ้มประตูทางเข้า-ออกโครงการที่นี่ออกแบบให้เป็น Double Access หรือมีประตูทางเข้า-ออก 2 จุด เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เมื่อเข้าสู่ Access แรกจะสามารถเข้าสู่ Club House ของโครงการได้ เพื่อที่ลูกบ้านสามารถใช้เป็นพื้นที่ติดต่อกับแขกของลูกบ้านเองได้ โดยไม่จำเป็นจต้องเชิญเข้าบ้านเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านมากขึ้น ทั้งนี้แขกของลูกบ้านก็จะไม่สามารถเข้าสู่พื้นที่โครงการด้านในได้ เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้านได้ดีค่ะ
เข้ามาในโซนด้านในโครงการจะเจอกับพื้นที่สวนสาธารณะขนาดใหญ่เป็นพื้นที่ไว้ให้เด็กๆ วิ่งเล่นได้ จากนั้นถนนหลักจะตรงยาวไปสุดโครงการด้านใน และแบ่งซอยย่อยออกเป็น 2 ฝั่ง ความกว้างของถนนใหญ่มีความกว้างอยู่ที่ 16 ม. ไม่รวมฟุตบาทนะคะ (ปกติโครงการทั่วไปจะบอกความกว้างของถนนแบบรวมฟุตบาท) ส่วนซอยย่อยมีความกว้างถนนอยู่ที่ 9 ม. ไม่รวมฟุตบาทเช่นเดียวกัน ทำให้การสัญจรภายในสะดวก และกลับรถต่างๆ ได้ง่าย
เริ่มต้นกันที่หน้าโครงการนะคะ ออกแบบเป็นซุ้มโครงการขนาดใหญ่ ในรูปแบบ Modern ใช้โทนสีเรียบเทา และการออกแบบด้วยรูปทรงเรียบตรง ถนนบริเวณหน้าโครงการใช้วัสดุ Concrete Stamp ดูเรียบร้อยสวยงามค่ะ
การเข้า-ออกโครงการแบ่งเป็น 2 ฝั่งเป็นสัดส่วน คั่นกลางด้วยป้อมรปภ.ดูแลรักษาความปลอดภัย 24 ชม.
สำหรับการเข้า-ออกของที่นี่จะใช้ระบบ Keycard Access เปิด-ปิดด้วยไม้กั้นกระดกอัตโนมัติ และในตอนกลางคืนทางโครงการจะปิดด้วยประตูบานเลื่อนไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัยมากขึ้นทั้งหมดสามารถใช้ Keycard ผ่านได้ค่ะ สำหรับทางคนเดินมีการทำฟุตบาทด้านข้างไว้ให้เดินได้ง่าย
เข้ามาด้านในเราจะเจอกับพื้นที่โซนแรกกันนะคะ โดยฝั่งขวามือที่เห็นเป็นรั้วสีเขียวอยู่นี้ในอนาคตจะเป็นพื้นที่ส่วน Club House ให้ลูกบ้านได้ใช้งาน ซึ่งภายในจะมีทั้ง สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ครบครันตามมาตรฐานของ Facilities โดยมีกำหนดแล้วเสร็จปลายปีนี้ค่ะ
ตรงมาอีกหน่อยก็เข้าสู่พื้นที่ภายในโครงการจะมีประตูที่ 2 กั้นไว้โดยเปิด-ปิดด้วยประตูบานเลื่อนไฟฟ้า เข้า-ออกด้วย Keycard Access เช่นเดิมค่ะ ซึ่งบริเวณนี้จะไม่มีรปภ.คอยดูแลรับบัตรผู้เข้ามาติดต่อนะคะ เพื่อสงวนไว้เฉพาะลูกบ้านเท่านั้นที่สามารถเข้า-ออกได้
สำหรับถนนหลักโครงการนี้มีความกว้างอยู่ที่ 16-15 ม. ไม่รวมฟุตบาทอีก 1 ม. ทั้ง 2 ด้านนะคะ ด้วยความกว้างของถนนหลักนี้ถือว่าให้มากว้างทีเดียว ช่วยให้การสัญจรรถภายในสะดวกมากขึ้น ส่วนซอยย่อยมีความกว้างของที่ 9 ม. ไม่รวมฟุตบาทเช่นเดียวกันค่ะ
ปัจจุบันโครงการได้ตกแต่งบ้านตัวอย่างไว้ให้สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาเยี่ยมชมบ้านจริงกันได้ทั้ง 2 Type แล้วนะคะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ
- Co-working Space
- ห้องออกกำลังกาย
- สวนสาธารณะ
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
- Key Card Access
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดกและ เลื่อนไฟฟ้า
- Double Access
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic ทุกหลัง (ชั้น 1 ของบ้าน)
- ถนนหลักกว้าง 16 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม. (ไม่รวมฟุตบาท)
โครงการ ภัสสร วงแหวน-รามอินทรา เป็นบ้านเดี่ยวสูง 3 ชั้น ซึ่งเน้นขนาดพื้นที่ใช้สอยเป็นหลัก มาพร้อมกับ Concept SMART
- Smart Security
- Double Gate แยกในส่วนลูกบ้านและผู้มาติดต่อ
- CCTV ถนนหลัก
- IP Camera บริเวณที่จอดรถ
- ระบบสัญญาณกันขโมยแบบ Magnetic (ชั้น 1)
- Smoke Detector (ครัว)
- เปิด-ปิดไฟด้วย Touch switch
- ควบคุมการเปิด-ปิดไฟ แอร์ และทีวี ผ่านแอพพลิเคชั่น บน Smart phone
- Emergency light ทุกชั้น
- Co-working Space
- Fitness
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ
- Play scape (สนามเด็กเล่น)
- พัดลมระบายอากาศทุกห้องน้ำ และบริเวณโถงชั้น 2
- สวนสาธารณะ
- Club House
โดยมีจำนวนยูนิตทั้งหมด รวม 110 ยูนิต แบ่งเป็น 2 Type ด้วยกันคือ
- Prelite พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 56 ตร.ว. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- Prelegance พื้นที่ใช้สอย 274 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 56 ตร.ว. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
เริ่มต้นจาก Prelegance พื้นที่ใช้สอย 274 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 56 ตร.ว. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ลักษณะการออกแบบบ้านเน้นบ้านสไตล์ Modern โดยใช้สี Monotone เทา-น้ำตาลอ่อน และการใช้กระจกขนาดใหญ่ค่อนข้างมากช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าสู่ภายในบ้านได้ดี ช่วยให้บ้านโปร่งโล่งมากขึ้น
สำหรับบ้านเดี่ยว 3 ชั้นนี้ต้องบอกว่ามีความแตกต่างจากบ้านเดี่ยว 2 ชั้นพอสมควรนะคะ ในแง่ของการจัดฟังก์ชันและความเป็นสัดส่วน ซึ่งก็จะเหมาะกับครอบครัวที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน อย่างบ้านเดี่ยว 3 ชั้น แน่นอนว่าเรื่องของความเป็นสัดส่วนและจัดการฟังก์ชันจะค่อนข้างเด่นทีเดียวค่ะ เพราะหากมองภาพรวม เราจะเห็นว่า
ชั้น 1 เป็นพื้นที่กิจกรรมรวมของคนในบ้านและพื้นที่รับแขก โดยมีทั้งพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร และครัว เพิ่มเติมขึ้นมาคือมีห้องอเนกประสงค์สำหรับชั้นล่างนี้ ซึ่งภายในห้องนี้มีห้องน้ำภายในตัว เหมาะกับการจัดให้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องเดินขึ้นลงบันไดเหนื่อย ทั้งนี้หากครอบครัวไหนผู้สูงอายุยังแข็งแรงก็สามารถจัดให้ห้องนอนอยู่ชั้น 2 ได้ และห้องชั้นล่างจัดให้เป็นห้องทำงานต่างๆ ได้ค่ะ
ชั้น 2 เป็นชั้นนี้ออกแบบให้เป็นครอบครัวขนาดเล็กอยู่ร่วมกัน โดยมีห้อง Master Bedroom และห้องนอนอีก 1 ห้อง ซึ่งชั้นนี้สามารถอยู่ได้ทั้งหมด 4 สมาชิกในครอบครัวแล้วนะคะ สำหรับฟังก์ชัน Highlight ของชั้นนี้ก็จะเป็นห้อง Master Bedroom ที่ได้ห้องน้ำขนาดใหญ่ซึ่งนอกจากขนาดแล้วก็มีอ่างอาบน้ำให้เป็นมาตรฐาน พร้อมด้วยระเบียงส่วนห้องน้ำทำให้ได้ช่องแสงขนาดใหญ่ โปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น
ชั้น 3 ออกแบบให้เป็นชั้นสำหรับครอบครัวขยาย เช่น ลูกๆ แต่งงานเข้ามาไม่จำเป็นต้องย้ายออก สามารถอยู่ชั้นบนได้ เพราะมีทั้งหมด 2 ห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัวเรียบร้อยค่ะ รวมทั้งมีพื้นที่นั่งเล่นที่เป็นส่วนตัวแยก สำหรับปรับให้เด็กๆ มานั่งเล่น ทำการบ้านต่างๆ ได้ หรือจะให้ชั้น 3 นี้เป็นชั้นสำหรับเด็กๆ เลยทั้ง 2 ห้องนอน ส่วนชั้นผู้ใหญ่อยู่ชั้น 2 ก็ได้เช่นกันค่ะ
โดยจากแปลนทำให้เราเห็นว่าบ้าน Type นี้จะเน้นไปที่บ้านสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่โดยสามารถรองรับสมาชิกได้สูงสุดถึง 10 คนเลยทีเดียวค่ะ
เริ่มต้นกันที่บริเวณหน้าบ้านกันก่อนนะคะ โดยจากหน้าบ้านแบ่งการเข้า-ออกเป็น 2 ฝั่งด้วยกันคือฝั่งทางเดินเข้าบ้านและทางของรถยนต์ ซึ่งฝั่งรถยนต์จะอยู่ฝั่งซ้ายมือและทางเข้าบ้านอยู่ฝั่งขวามือค่ะ
เรามาดูที่บริเวณที่จอดรถกันก่อนนะคะ ขนาดที่จอดรถนี้มีขนาดประมาณ 5.3 x 3.8 ม. ซึ่งเป็นขนาดที่จอดรถ 2 คันได้พอดีๆ นะคะ หากเป็นรถยนต์ขนาดเล็กหน่อยจะมีพื้นที่สำหรับเปิดประตูได้กว้างมากขึ้นค่ะ
ตรงกลางออกแบบให้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์แบบ Outdoor สามารถใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นขนาดเล็กๆ ชมสวนหน้าบ้านได้ หรือจัดสวนกระถางบริเวณนี้ก็ได้เช่นกันค่ะ
สำหรับส่วนประตูหน้าบ้านใช้เป็นประตูบานเปิด 2 บาน เน้นบานหลัก 1 บานและบานเล็กสำหรับเปิดพื้นที่ให้กว้างขึ้นเพื่อสำหรับขนของที่มีขนาดใหญ่ได้ดี ส่วนด้านข้างเป็นบานหน้าต่างขนาดใหญ่ค่ะ ซึ่งแยกการใช้งานระหว่างประตูกับหน้าต่างชัดเจนนะคะ ทำให้การใช้ทางเดิน (Circulation) ภายในบ้านเป็นสัดส่วนและลงตัวมากขึ้น แตกต่างจากโครงการทั่วไปในปัจจุบันที่มักจะใช้เป็นประตูบานเลื่อนกระจกเลยค่ะ
เข้ามาเราจะเจอกับพื้นที่ส่วน Common Area ขนาดใหญ่ก่อนเลย โดยทางเดินของบ้านทำให้แบ่งการใช้งานได้ดีมากขึ้น สำหรับฝั่งขวาของรูปเป็นพื้นที่นั่งเล่น และฝั่งซ้ายเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร
ก่อนเข้ามาดูส่วนพื้นที่ภายในบ้าน บริเวณหน้าบ้านติดกับประตูทางเข้าติดตั้งเครื่องเซทการทำงานของสัญญาณกันขโมยที่ให้เป็น Magnatic Censor ในชั้นล่างเป็นมาตรฐาน ซึ่งเครื่องนี้สามารถตั้งเปิด-ปิดการทำงาน พร้อมตั้งเวลาเองก็ยังได้ค่ะ
ในส่วนสวิชต์ไฟที่นี่ให้เป็นสวิชต์แบบสัมผัสนะคะ ดีไซน์สวยงามและมีราคาสูงมากกว่าสวิชต์ไฟทั่วไป
สำหรับพื้นที่นั่งเล่นมีขนาดใหญ่สามารถวางชุดโซฟาขนาดพิเศษ รูปตัว L ได้สบายเลยค่ะ นอกจากนี้ยังล้อมรอบด้วยหน้าต่างบานใหญ่ทั้ง 2 ทิศทาง ทำให้บรรยากาศบริเวณพื้นที่นั่งเล่นโปร่งโล่งมากขึ้นค่ะ
ถัดมาเป็นบรรยากาศบริเวณส่วนพื้นที่รับประทานอาหารเชื่อมไปยังพื้นที่เตรียมอาหารนะคะ
สำหรับพื้นที่รับประทานอาหารสามารถรองรับโต๊ะขนาด 6 – 8 ที่นั่งกำลังดีค่ะ
สำหรับพื้นที่รับประทานอาหารนี้จะสามารถ Take View สวนฝั่งหน้าบ้านได้ดีมาก
ถัดมาเป็นพื้นที่เตรียมอาหารค่ะ ซึ่งบริเวณนี้ในบ้านมาตรฐานจะเป็นพื้นที่โล่งนะคะ เพียงแต่เดินงานระบบต่างๆ ไว้ให้พร้อมสำหรับติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวและบาร์เองได้ค่ะ
ด้วยขนาดพื้นที่นี้แล้วสามารถจัดเป็นได้มากกว่าพื้นที่เตรียมอาหารนะคะ สามารถเพิ่มฟังก์ชันอย่างเช่น โต๊ะ Breafast Counter ไว้นั่งเล่นรับประทานอาหารเบาๆ เช่นช่วงเช้า ได้ดีอีกด้วย และในส่วนพื้นชั้นล่างทั้งหมดใช้เป็นพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้มีความคงทนต่อความชื้นต่างๆ และทำความสะอาดง่าย ซึ่งก็เหมาะกับการจัดพื้นที่เตรียมอาหารแบบนี้เช่นกันค่ะ
ติดกันนั้นเป็นส่วนครัว ซึ่งตัวพื้นจะลดระดับลงเล็กน้อย เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาดเฉพาะบริเวณครัวมากยิ่งขึ้น ส่วนวัสดุปูพื้นใช้แกรนิตโต้เช่นเดียวกัน
ขนาดของห้องครัวมีขนาดกะทัดรัดนะคะ อยู่ที่ประมาณ 2 x 2.2 ม. สามารถจัดเคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L ได้กำลังดีค่ะ ซึ่งเคาน์เตอร์นี้เราต้องติดตั้งเองนะคะ ทางโครงการไม่ได้ติดตั้งมาให้แต่จะมีการเดินงานระบบต่างๆ เช่นน้ำดี น้ำทิ้ง ไว้ให้เรียบร้อย มีหน้าต่างไว้สำหรับระบายอากาศและความชื้นบริเวณหลังบ้านให้
ด้านหลังบ้านแบ่งเป็นห้องแม่บ้าน ห้องน้ำแม่บ้าน และทางเข้าห้องครัวนะคะ โดยแม่บ้านจะสามารถเข้า-ออกบ้านได้เฉพาะจากห้องครัวเท่านั้น เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านมากขึ้น ซึ่งสามารถล็อคประตูจากส่วนห้องครัวในตอนกลางคืนได้
พื้นลานซักล้างด้านหลังให้พื้นเป็น Slab on Ground ซึ่งแยกโครงสร้างกับตัวบ้านชัดเจนนะคะ ลักษณะการใช้งานของพื้นรูปแบบนี้จะไม่เหมาะกับการก่อสร้างเพิ่มเติมนะคะ เพราะอาจจะทำให้พื้นแตกร้าวจากการรับน้ำหนักที่ไม่เท่ากันได้
สำหรับส่วนที่ติดกับตัวบ้านทางโครงการจะก่อเคาน์เตอร์ปูนปิดผิวด้วยกระเบื้องให้เป็นมาตรฐานไว้สำหรับทำครัวไทยด้านนอกได้ค่ะ
กลับเข้ามาที่ภายในบ้านนะคะ ฝั่งตรงข้ามกับส่วนครัวจะมีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างอีก 1 ห้อง
ห้องอเนกประสงค์นี้ตำแหน่งอยู่บริเวณหน้าบ้าน บรรยากาศภายในห้องโปร่งโล่งรับแสงสว่างจากภายนอกเข้ามาได้ดีด้วยช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ ขนาดของห้องนี้มีขนาดกำลังดีสำหรับการจัดห้องได้หลากหลายนะคะ ทั้งเป็นห้องทำงาน เหมือนบ้านตัวอย่าง หรือจะเป็นห้องผู้สูงอายุก็ได้ สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตกำลังดีค่ะ
อีกฝั่งของห้องมีห้องน้ำในตัว
ภายในห้องน้ำแบ่งการใช้งานเป็น 2 โซน คือโซนแห้งและเปียกนะคะ โดยกั้นด้วยฉากกั้นกระจกเรียบร้อย
สำหรับโซนแห้งสุขภัณฑ์ทั้งหมดใช้ยี่ห้อ Kohler ค่ะ ส่วนหน้าต่างของห้องน้ำที่นี่เน้นหน้าต่างขนาดใหญ่และใช้เป็นกระจกฝ้าเพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้นแทน การที่ได้หน้าต่างขนาดใหญ่นี้ช่วยระบายอากาศ ความชื้นต่างๆ ได้ดี
อ่างล้างมือจาก Kohler มีขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียวค่ะ สามารถใช้งานได้ดี ท็อปของอ่างใช้เป็น Fiber นะคะ ส่วนด้านล่างได้ชุดชั้น Built-in ภายในมีชั้นย่อยที่สามารถวางของต่างๆ ได้
ฝั่งพื้นที่อาบน้ำกั้นด้วยฉากกั้นกระจกแบบ Frameless ให้เรียบร้อย
ภายในห้องน้ำมีขนาดกำลังดีอาบน้ำได้สบายๆ ค่ะ ฝั่งซ้ายจากฉากกั้นทำ Low Wall ไว้ให้สำหรับวางของ เช่น ครีมอาบน้ำ แชมพูต่างๆ ได้ อีกฝั่งเป็นฝักบัวสายอ่อนที่ด้านข้างมีการเดินท่อไว้รองรับสำหรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นได้
สำหรับหัวฝักบัวสายอ่อนนี้ได้ยี่ห้อ Kohler เช่นเดียวกัน ขนาดหัวฝักบัวกำลังดีและมือจับจับได้ง่าย แข็งแรง
ถัดมาเข้าสู่บริเวณโถงบันไดกันต่อนะคะ
สำหรับโถงบันไดที่นี่ออกแบบมาให้เดินได้ง่ายและโปร่งโล่งด้วยรูปแบบบันไดวนขึ้นมีช่องว่างตรงกลาง รวมไปถึงให้ช่องหน้าต่างค่อนข้างเยอะค่ะ ซึ่งจะเห็นชัดๆ อีกทีในชั้น 2 นะคะ
ด้านล่างของโถงบันไดเป็นห้องน้ำสำหรับต้อนรับแขก โดยจัดให้เป็นรูปแบบ Powder Room คือไม่มีพื้นที่อาบน้ำนะคะ
ภายในมีพื้นที่พอสมควร จัดให้มีอ่างล้างมือ และโถสุขภัณฑ์ โดยเน้นที่ขนาดของอ่างล้างมือขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ พร้อมกับมีชั้นวางของด้านล่างอ่างล้างมือให้เก็บของได้พอสมควร
ขึ้นมาชั้น 2 จะเห็นส่วนโถงบันไดได้ชัดเจนมากขึ้นนะคะ รูปแบบบันไดเป็นบันไดวน ใช้โครงสร้างเหล็ก และปูพื้นบริเวณลูกตั้ง-ลูกนอนด้วยไม้ยางพาราประสาน ส่วนพื้นในชั้น 2-3 ปูด้วยลามิเนตเป็นมาตรฐานค่ะ
สำหรับชั้น 2 นี้แบ่งเป็นห้องนอน 2 ห้องด้วยกัน โดยฝั่งซ้ายมือของรูปเป็นห้องนอนกลาง และฝั่งขวามือคือห้อง Master Bedroom
เริ่มต้นกันที่ห้องนอนกลางกันก่อนนะคะ เข้ามาภายในจะเห็นห้องน้ำฝั่งซ้ายมือก่อน และฝั่งขวาเป็นพื้นที่ที่สามารถ Built-in ชั้นวางของ ตู้เสื้อผ้าต่างๆ ได้ ตรงเข้าไปในสุดเป็นพื้นที่เตียงนอนค่ะ
เข้ามาดูที่ภายในห้องน้ำกันก่อนนะคะ การใช้งานในห้องน้ำแบ่งเป็น 2 โซนด้วยกันคือโซนเปียกและแห้งกั้นด้วยฉากกั้นกระจกเรียบร้อยค่ะ สิ่งที่ให้มาเพิ่มเติมจากโครงการทั่วไปจะสังเกตว่านอกจากหน้าต่างระบายอากาศแล้วยังมีพัดลมดูดอากาศเพิ่มเติมให้มาเป็นมาตรฐานด้วยค่ะ
สุขภัณฑ์ทั้งหมดในห้องน้ำใช้รุ่นและยี่ห้อเดียวกับห้องน้ำชั้นล่างค่ะ คือ Kohler เพิ่มเติมคือด้านหลังสุขภัณฑ์ทำ Low Wall ไว้สำหรับวางของต่างๆ ได้ดี
พื้นที่อาบน้ำยกธรณีขึ้นสูงเล็กน้อยเพื่อกันน้ำจากพื้นที่อาบน้ำไหลย้อนออกมายังโซนแห้ง
ฝักบัวสายอ่อนได้ขนาดหัวฝักบัวใหญ่กว่าห้องน้ำในห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างนะคะ
เข้ามาส่วนบริเวณเตียงนอนกันต่อค่ะ สามารถจัดวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบายพร้อมมีพื้นที่รอบเตียงให้เดิน และจัดฟังก์ชันอื่นๆ เพิ่มเติมได้ ทั้งโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานขนาดกะทัดรัด สำหรับบรรยากาศในห้องดูโปร่งโล่งดีมาก เพราะได้ช่องเปิดทั้ง 2 ฝั่ง โดยเฉพาะฝั่งหน้าบ้านที่ได้หน้าต่างบานใหญ่เกือบเทียบเท่ากับประตูเลยทีเดียวค่ะ ในส่วนนี้ไม่ใช่ประตูและมีระเบียงภายนอกนะคะ ทางโครงการออกแบบให้เป็นระเบียงกันตกเท่านั้นเพื่อที่จะได้หน้าต่างบานใหญ่เปิดรับวิวได้เต็มที่
เข้าสู่ห้อง Master Bedroom กันต่อค่ะ เข้ามาเราจะเจอพื้นที่ทั้งหมด 3 ฟังก์ชันใหญ่ๆ ด้วยกัน เริ่มจากฝั่งขวามือเป็นพื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำ ฝั่งซ้ายก่อนเข้าสู่พื้นที่เตียงนอนคือพื้นที่นั่งเล่นริมระเบียง และด้านในสุดจัดให้เป็นพื้นที่เตียงนอนเพื่อความเป็นส่วนตัว
เริ่มต้นกันที่พื้นที่นั่งเล่นริมระเบียงกันก่อนนะคะ บริเวณนี้สามารถจัดให้เป็นพื้นที่ทำงานขนาดกำลังดีได้เลยค่ะ หรือจะจัดให้เป็นพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัวก็ได้เช่นกัน
ขนาดระเบียงของห้องนอนใหญ่มีขนาดใหญ่พอสมควรเลยค่ะ สามารถจัดเป็นพื้นที่ส่วน Outdoor ได้หรือจะจัดสวนกระถางในระเบียงส่วนตัวก็ได้เช่นกันค่ะ บริเวณนี้ปูด้วยพื้นกระเบื้องเซรามิกนะคะ เพื่อสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ราวกันตกใช้เป็นกระจกใสเปิดพื้นที่ให้ชมวิวภายนอกได้ดียิ่งขึ้น
หลังคาส่วนระเบียงนี้ยาวคลุมระเบียง ช่วยกันแดดและฝนสาดเข้ามาส่วนระเบียงได้ดี จึงสามารถวางเฟอร์นิเจอร์เช่น เก้าอี้นั่งเล่น ได้บริเวณระเบียง
สำหรับพื้นที่เตียงนอนสามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้กำลังดีนะคะ และเหลือพื้นที่ส่วนปลายเตียงที่สามารถวางโซฟาเพิ่มเติมสำหรับจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นได้
บริเวณพื้นที่เตียงนอนได้ช่องเปิดทั้งหมด 3 ทางด้วยกัน คือหลังหัวเตียงที่เป็นฝั่งหน้าบ้านและ 2 ฝั่งข้างบ้าน
กลับมาดูส่วน Walk-in Closet และห้องน้ำกันต่อนะคะ
ลักษณะการใช้งานของพื้นที่นี้จัดไว้ให้เป็นสัดส่วนดีมากค่ะ เพราะเราจะผ่านพื้นที่ Walk-in Closet หลังจากอาบน้ำในห้องน้ำเสร็จ ให้เป็นพื้นที่แต่งตัวแต่งหน้าให้เรียบร้อยก่อนออกมายังโซนด้านนอก
ภายใน Walk-in Closet สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้ทั้ง 2 ฝั่ง หรือจะจัดเหมือนกับบ้านตัวอย่างที่จัดด้านนึงเป็นตู้เสื้อผ้าและอีกด้านเป็นโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ก็ได้นะคะ ซึ่งฝั่งที่ติดกับหน้าต่างจะเหมาะกับวางโต๊ะเครื่องแป้งดี เพราะใช้เป็นพื้นที่แต่งหน้า ได้แสงธรรมชาติจริง สาวๆ หลายคนคงรู้อยู่แล้วว่าแต่งหน้าด้วยแสงธรรมชาติลงแป้งจะได้ไม่เพี้ยนว่าหน้าขาวโอโม่ไป
เข้าสู่ห้องน้ำถือเป็นอีกหนึ่ง Highlight ของบ้านเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะที่นี่ให้ความสำคัญของห้องน้ำในห้อง Master Bedroom มากๆ เพราะเชื่อว่าห้องน้ำเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันที่ใช้เป็นพื้นที่ในการผ่อนคลายได้ดี ขนาดของพื้นที่ให้มาร่วม 20 ตร.ม.เลยทีเดียวค่ะ เทียบเท่ากับห้องนอนอีกห้องยังได้เลย
โดยการใช้งานแบ่งเป็นฝั่งโซนแห้งประกอบด้วยอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ ส่วนฝั่งเปียกจะอยู่อีกด้านนะคะ โดยมีทั้งพื้นที่อาบน้ำกั้นด้วยฉากกั้นกระจกเรียบร้อยและอ่างอาบน้ำที่ให้มาเป็นมาตรฐานเฉพาะห้อง Master Bedroom ในทุกยูนิต
เริ่มต้นที่อ่างล้างมือแบบ His & Her ส่วนผนังติดตั้งกระจกเงาแผ่นใหญ่เต็มผนังพร้อมซ่อนไฟ แบบ Indirect light ไว้ด้านบนเพิ่มความสวยงามให้มากขึ้น
ตัวอ่างล้างมือนี้ด้านล่างทำตู้เก็บของขนาดใหญ่ให้ด้วยนะคะ พร้อมบานเปิดแบบ Soft Close โดยรวมแล้วทำออกมาได้สวยดีค่ะ
สำหรับโซนโถสุขภัณฑ์มีพื้นที่กว้างพอสมควรเลย นั่งได้สบายๆ ด้านหลังทำ Low Wall ไว้ให้สำหรับวางของใช้ต่างๆ ได้ดี
ถัดมาเป็นส่วนโซนเปียกกันต่อนะคะ โดยฝั่งนี้ให้ช่องหน้าต่างสำหรับระบายอากาศไว้มากถึง 3 บานด้วยกัน ทำให้สามารถระบายอากาศและความชื้นได้ดี ยังไม่รวมกับมีประตูบานเลื่อนกระจกอีกนะคะ
สำหรับพื้นที่อาบน้ำมีการกั้นพื้นที่เป็นสัดส่วนด้วยฉากกั้นกระจกและก่อธรณีกันน้ำไหลย้อน ภายในมีฝักบัวสายอ่อนและทำ Low Wall ไว้สำหรับวางของได้
อ่างอาบน้ำที่นี่ให้ขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ สามารถลงแช่ได้ 2 คนพร้อมกัน ความยาวอยู่ที่ 1.8 ม.
สำหรับห้องน้ำนี้มีระเบียงส่วนตัวด้วยนะคะ สามารถช่วยระบายอากาศได้ดีมากๆ และยังคงไว้ซึ่งความเป็นส่วนตัวเนื่องจากก่อผนังทึบไว้โดยรอบแต่จะเปิดช่องเฉพาะด้านบนเท่านั้น สำหรับระเบียงนี้นอกจากไว้สำหรับจัดสวนแล้วยังจัดเป็นฟังก์ชันอื่นๆ ได้เช่น พื้นที่ตากผ้า
ขึ้นมาที่ชั้น 3 เปิดพื้นที่เป็นโถงกลางที่มีฝ้าเพดานสูง สามารถติดตั้งโคมระย้าได้
ภายในชั้นนี้แบ่งเป็นห้องนอนทั้งหมด 2 ห้อง ฝั่งขวามือ และตรงไปจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัวชั้นบนค่ะ
เรามาดูที่พื้นที่นั่งเล่นกันก่อนนะคะ ก่อนเข้าสู่บริเวณชุดโซฟายังมีพื้นที่ด้านข้างที่ติดกับหน้าต่างสามารถจัดวางชั้นวางของได้ หรือจะเป็นพื้นที่บูชาพระก็ได้เช่นกันนะคะ
ในส่วนของพื้นที่นั่งเล่นมีขนาดใหญ่พอสมควรเลยค่ะ สามารถจัดชุดโซฟาขนาดใหญ่พร้อมทั้งโต๊ะทำงานได้ดี
เข้าสู่ห้องนอนกันต่อนะคะ เริ่มจากห้องฝั่งหลังบ้านหรือฝั่งขวาจากรูปก่อนค่ะ
ภายในห้องนอนได้บรรยากาศโปร่งโล่งดีเพราะมีหน้าต่างพอสมควร พร้อมทั้งฝ้าเพดานที่มีความสูงประมาณ 2.8 ม.
เมื่อเข้ามาภายในห้องเราจะเห็นพื้นที่นั่งเล่นเล็กๆ ติดหน้าต่างก่อนนะคะ ต้องบอกว่าหน้าต่างส่วนนี้ถือว่าเป็นการออกแบบที่น่าสนใจ เพื่อเพิ่มพื้นที่ช่องแสงให้มากขึ้นทั้งจากส่วนโถงทางเดินด้านนอกและภายในห้องนอน ส่วนพื้นที่ที่เสียไปนั้นใช้เป็นที่วาง CDU แอร์แทนเพื่อไม่ให้เป็นเพียงที่เปล่าๆ ไม่ได้ใช้งาน
ในส่วนพื้นที่เตียงนอนสามารถวางเตียงขนาก 5 ฟุตได้กำลังดีค่ะ ด้านข้างเตียงและปลายเตียงจัดให้เป็นได้ทั้งชั้นวางทีวี ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานขนาดเล็ก
ถัดมาเป็นส่วน Walk-in Closet อีกจุดนะคะ ก่อนเข้าห้องน้ำในห้องนอนฝั่งซ้ายมือของรูป หรือจะจัดให้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งเหมือนบ้านตัวอย่างก็ได้เช่นกันค่ะ ติดๆ กับโต๊ะเครื่องแป้งเป็นระเบียงซักล้างภายในห้องนอนนะคะ โดยไม่ได้เน้นระเบียงเป็นพื้นที่นั่งเล่นเหมือนห้อง Master Bedroom ได้นะคะ แต่เน้นให้ช่องเปิดขนาดใหญ่เพิ่มพื้นที่แสงเข้าห้องได้มากขึ้น
ส่วนขนาดระเบียงกะทัดรัด เน้นตากผ้าเล็กๆ น้อยๆ ได้ค่ะ
ภายในห้องน้ำแบ่งโซนการใช้งานเรียบร้อยเช่นเดียวกับห้องน้ำอื่นๆ นะคะ สุขภัณฑ์ใช้ยี่ห้อ Kohler เช่นเดิม
เข้ามาสู่ห้องนอนฝั่งหน้าบ้านกันบ้างค่ะ ห้องนอนนี้มีลักษณะการใช้งานใกล้เคียงกับห้อง Master Bedroom แต่มีขนาดห้องที่กะทัดรัดลงมาหน่อยนะคะ โดยเมื่อเข้ามาในห้องเราจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นริมระเบียงก่อน ฝั่งขวาเป็นห้องน้ำและในส่วนเป็นพื้นที่เตียงนอนค่ะ
สำหรับพื้นที่นั่งเล่นมีขนาดเพียงพอที่สามารถจัดโต๊ะทำงานได้สบายๆ นะคะ
ติดกับพื้นที่นั่งเล่นเป็นส่วนระเบียงหน้าบ้าน ซึ่งมีขนาดกำลังดีสามารถออกไปยืนสูดอากาศได้
เข้ามาส่วนพื้นที่เตียงนอนสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ 5-6 ฟุตได้ดีค่ะ และยังมีพื้นที่เหลือรอบเตียงสามารถจัดเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติมได้ เช่น โต๊ะข้างเตียงและชั้นวางทีวีบริเวณปลายเตียง
ถัดมาที่โซนก่อนเข้าห้องน้ำมีพื้นที่สำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง
สำหรับห้องน้ำในห้องนอนนี้จะมีการจัดวางได้ลงตัวดีค่ะ และได้พื้นที่อาบน้ำที่มีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนหลังบ้านอยู่หน่อยนะคะ ส่วนสุขภัณฑ์ใช้รุ่นและยี่ห้อจาก Kohler เช่นเดียวกันค่ะ
มาต่อกันที่บ้าน Type Prelite พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 56 ตร.ว. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
สำหรับบ้าน Type นี้จะเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กลงมานะคะ โดยมีห้องนอนน้อยลงมา 1 ห้องเมื่อเทียบกับบ้าน Type ก่อนหน้านี้แต่ต้องบอกว่าแลกมากับพื้นที่ภายในบ้านที่มีความโปร่งโล่งมากขึ้น เพราะมีจุดเด่นอยู่ที่พื้นที่นั่งเล่นที่ได้ฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume พร้อมกระจกยกสูงถึง 2 ชั้นด้วยกัน ตอบโจทย์ครอบครัวที่มีสมาชิกประมาณ 6 คน ที่ชอบความโปร่งโล่งภายในบ้านเป็นพิเศษค่ะ
ชั้น 1 มีฟังก์ชันการใช้งานใกล้เคียงกับบ้านหลังแรกนะคะ โดยเข้ามาเจอกับพื้นที่ Common Area ก่อน ฝั่งซ้ายมือเป็นห้องนอนผู้สูงอายุพร้อมห้องน้ำในตัว แต่มีขนาดกะทัดรัดลงมาหน่อย
ชั้น 2 เป็นพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัวที่ได้ฝ้าเพดานแบบ Double Volume ที่เป็น highlight ฟังก์ชันของบ้าน Type นี้ และห้อง Master Bedroom ที่มีห้องน้ำพร้อมอ่างอาบน้ำและระเบียงภายใน
ชั้น 3 จัดให้เป็นห้องนอน 2 ห้องฝั่งหน้า-หลังบ้าน ซึ่งออกแบบให้เป็นห้องนอนของลูกๆ การจัดพื้นที่ใช้สอยภายในจึงตั้งใจออกแบบให้มีขนาดเท่าๆ กันเพื่อความเท่าเทียมกับลูกๆ ด้วยค่ะ
สำหรับพื้นที่บริเวณหน้าบ้านของ Type นี้ไม่มีความแตกต่างกับ Type Prelegance มากนักนะคะ แต่จะแตกต่างกันที่การจัดวางฟังก์ชันภายในมากกว่า อย่างที่จอดรถนั้นก็มีขนาดเท่ากันรองรับรถได้ 2 คันกำลังดี
เข้ามาภายในเจอกับส่วน Foyer ขนาดกะทัดรัดก่อน บริเวณนี้สามารถจัดด้านข้างผนังเป็นชั้นวางรองเท้าต่างๆ ได้ค่ะ
เข้ามาภายในแล้วเป็นพื้นที่ส่วน Common Area ซึ่งประกอบด้วยฟังก์ชันหลักๆ อย่างพื้นที่นั่งเล่น/พื้นที่รับแขก และพื้นที่รับประทานอาหาร
สำหรับพื้นที่นั่งเล่นนี้จะอยู่บริเวณกลางบ้านนะคะ สามารถจัดวางชุดโซฟาขนาดใหญ่พร้อมเก้าอี้โซฟาขนาดใหญ่ได้ดี
ถัดมาเป็นพื้นที่รับประทานอาหารที่เชื่อมกับพื้นที่นั่งเล่น จุดเด่นของพื้นที่รับประทานอาหารนี้คือการได้หน้าต่างบานใหญ่ทั้ง 2 ทิศ จากหน้าบ้านและด้านข้างบ้าน ทำให้บริเวณนี้โปร่งโล่งดีมาก และได้วิวสวนภายนอกเต็มๆ ค่ะ สำหรับพื้นที่รับประทานอาหารมีขนาดกำลังดีกับการจัดวางที่นั่งประมาณ 6-8 คน ซึ่งก็ตอบโจทย์ลงตัวกับจำนวนสมาชิกในบ้านตามจำนวนห้องนอน
ติดๆ กันในโซนหลังบ้านจัดเป็นพื้นที่เตรียมอาหารและห้องครัวเช่นเดียวกับบ้านหลังแรกนะคะ โดยสิ่งที่ได้จะเป็นพื้นที่เปล่าพร้อมกับการเดินท่องานระบบต่างๆ ไว้ให้เรียบร้อย
ลักษณะการจัดวางเคาน์เตอร์บริเวณนี้สามารถจัดเป็นรูปตัว U ได้เลยค่ะ มีพื้นที่พอสมควร ซึ่งเหมาะกับการทำพื้นที่เป็นครัวฝรั่งไปในตัวด้วยนะคะ เนื่องจากมีชุดหน้าต่างไว้สำหรับระบายอากาศและความชื้นให้ด้วย ทั้งนี้ควรติดตั้ง Hood เพิ่มเติมด้วยเพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับส่วนครัวไทยนี้มีการแยกห้องชัดเจน ขนาดจะกะทัดรัดลงมาหน่อยจากพื้นที่เตรียมอาหาร สามารถทำเคาน์เตอร์รูปตัว L ได้กำลังดีค่ะ ตำแหน่งการวางชุดครัวต่างๆ ให้ดูจากบ้านตัวอย่างได้เลย โดยให้บริเวณ Hob & Hood อยู่ห่างจาก Sink ล้างจาน คั่นกลางด้วยพื้นที่เตรียมอาหาร ตำแหน่ง Sink ล้างจานเน้นอยู่ใกล้หน้าต่างมากที่สุด เพราะเป็นบริเวณที่มีความชื้นสูงกว่าอื่นๆ หากอยู่ติดกับหน้าต่างจะช่วยเรื่องการระบายความชื้นได้ดีค่ะ ทั้งนี้ในห้องครัวจะไม่ได้มีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นนะคะ ตำแหน่งตู้เย็นจะมีจุดเดียวคือส่วนพื้นที่เตรียมอาหาร
บริเวณหลังบ้านมีการก่อปูนเป็นเคาน์เตอร์พร้อมปูกระเบื้องปิดผิวให้เป็นมาตรฐานเช่นเดียวกับบ้านหลังแรก สามารถจัดให้เป็นครัวไทยด้านหลังได้ค่ะ
ในส่วนของฟังก์ชันต่างๆ หลังบ้านใกล้เคียงกับบ้านหลังแรกนะคะ โดยจะมีห้องนอนแม่บ้าน ห้องน้ำแม่บ้าน และแม่บ้านเข้า-ออกบ้านจากส่วนห้องครัวได้เท่านั้น เพื่อความเป็นส่วนตัวของสมาชิกในบ้าน
ถัดมาอีกด้านของบ้านในชั้นล่างเช่นเดิม ฝั่งหน้าบ้านหรือขวามือของรูปเป็นห้องอเนกประสงค์หรือห้องนอนผู้สูงอายุค่ะ ส่วนฝั่งซ้ายเป็นส่วนโถงบันได
ตำแหน่งของนอนของ Type นี้จัดได้ดีค่ะ เพราะวางให้อยู่ตำแหน่งหน้าบ้านสามารถมองวิวสวนหน้าบ้านจากในห้องได้ รวมไปถึงแยกโซนจาก Common Area ได้เป็นสัดส่วน เพิ่มความเป็นส่วนตัวได้มากขึ้น สำหรับขนาดห้องนี้มีขนาดกะทัดรัดลงมาจากห้องอเนกประสงค์ในบ้านหลังแรกนะคะ จะเหมาะกับการวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตกำลังดีค่ะ แต่หากอยากได้เตียงขนาดใหญ่หน่อยแบบ 5 ฟุตก็สามารถวางได้แต่จะเสียพื้นที่ด้านข้างเตียงไป อาจจะไม่สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ข้างเตียงได้ค่ะ
อีกฝั่งของห้องมีพื้นที่สำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดกะทัดรัด และตรงไปจะเป็นห้องน้ำในห้องนี้นะคะ
ต้องบอกว่าสำหรับห้องนี้เหมาะกับการจัดเป็นห้องนอนและห้องนอนผู้สูงอายุที่ยังแข็งแรงนะคะ แต่ยังมีหลายอย่างที่ไม่เหมาะกับการจัดให้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุแบบจริงจัง เริ่มจากพื้นห้องที่ใช้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้มีความแข็งแรง ซึ่งหากล้มก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุมากกว่าพื้นลามิเนตได้ ทั้งนี้ปัจจุบันมีการออกแบบพื้นนุ่มขึ้นเพื่อลดแรงกระแทกได้ ส่วนห้องน้ำนี้แยกส่วนเปียกแห้งเป็นสัดส่วนดีค่ะ แต่ยังมีระดับขั้นอยู่และฉากกั้นที่ไม่สามารถนำรถเข็นเข้าไปได้ ซึ่งหากต้องการทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุแบบจริงจังเลยสามารถแก้ไขปรับพื้นและนำฉากกั้นออกได้ไม่ยากค่ะ
เข้ามายังโซนโถงบันไดกันต่อนะคะ ลักษณะการใช้งานพื้นที่นี้จะคล้ายคลึงกับบ้านหลังแรกเลย อย่างบันไดมีการออกแบบเป็นวงกลมมีโถงกลาง ใช้วัสดุพื้นเป็นไม้ยางพาราประสานเช่นเดียวกัน
และใต้โถงบันไดมีห้องน้ำแบบ Powder Room สำหรับรับรองแขก
ภายในได้สุขภัณฑ์ทั้งหมดจาก Kohler สำหรับสิ่งที่เด่นและเราค่อนข้างชอบคืออ่างล้างมือขนาดใหญ่ใช้งานได้ดีค่ะ ปกติเป็นคนใช้งานบริเวณนี้แล้วน้ำชอบกระเด็นลงพื้นเลอะเทอะ เพราะอ่างขนาดเล็กไป แต่ที่นี่ไม่เป็นแบบนั้นเพราะอ่างมีความกว้างทำให้ใช้งานได้ดีมากขึ้น
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเห็นว่าบริเวณโถงบันไดค่อนข้างโปร่งโล่งทีเดียวค่ะ เนื่องจากได้หน้าต่างทั้ง 2 ฝั่งของโถง รวมไปถึงตัวโถงเองมีช่องว่างตรงกลาง
ติดกับโถงบันได ชั้นนี้จะมีพื้นที่นั่งเล่น และห้อง Master Bedroom นะคะ เริ่มต้น Highlight บ้าน Type นี้ด้วยพื้นที่นั่งเล่นแบบ Double Volume ที่ได้ฝ้าเพดานยกสูงและกระจกสูงถึง 2 ชั้น ทำให้พื้นที่นี้มีความโปร่งโล่งและเปิดรับวิวภายนอกได้ดี สำหรับขนาดของพื้นที่นั่งเล่นสามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ พร้อมเก้าอี้โซฟาทั้ง 2 ข้างได้กำลังดีค่ะ
บริเวณหน้าบ้านของพื้นที่นั่งเล่นทำระเบียงขนาดใหญ่ไว้สำหรับออกมายืนชมวิวหรือนั่งเล่นชิลๆ ได้ค่ะ
ติดๆ กันกับพื้นที่นั่งเล่นเป็นทางเข้าห้องนอนใหญ่แล้วค่ะ
สำหรับการจัดวางฟังก์ชันของห้องนอนใหญ่มีความคล้ายคลึงกับบ้าน Type แรกนะคะ โดยแบ่งฟังก์ชันหลักๆ เป็นทั้งหมด 3 โซน เริ่มจากพื้นที่นั่งเล่นหน้าห้อง เชื่อมกับพื้นที่เตียงนอนและฝั่งขวามือเป็นพื้นที่แต่งตัวหรือ Walk-in Closet ที่เชื่อมเข้าห้องนอนขนาดใหญ่ในห้องนี้ค่ะ
เราจะเริ่มต้นกันที่ Walk-in Closet ฝั่งขวามือของรูปก่อนหน้านะคะ ลักษณะของ Walk-in Closet นี้ออกแบบให้เป็นพื้นที่ชัดเจนเป็นสัดส่วน หากต้องการพื้นที่ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นสามารถติดตั้งประตูกั้นบริเวณนี้เพิ่มเติมได้ค่ะ
ภายใน Walk-in Closet สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่รูปตัว L ได้พร้อม Built-in โต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ได้เช่นกัน
เข้ามาภายในห้องน้ำการจัดวางเหมือนบ้านหลังที่แล้วเลยค่ะ รวมไปถึงสเป็คสุขภัณฑ์ทั้งหมด ที่แตกต่างคือขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในห้องน้ำที่จะกะทัดรัดลงมาหน่อย
การแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วนดีโดยฝั่งซ้ายจากประตูทางเข้าห้องจัดให้เป็นโซนแห้ง มีอ่างล้างมือแบบ His & Her และติดกันแต่กั้นด้วย Low Wall เป็นพื้นที่ส่วนโถสุขภัณฑ์
ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่โซนเปียกนะคะ แบ่งเป็นอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่และพื้นที่อาบน้ำที่มีการกั้นฉากกั้นกระจกให้เรียบร้อยเป็นสัดส่วน
ปิดท้ายด้วยอีกจุดเด่นของห้องน้ำคือระเบียงกระจกขนาดใหญ่ที่สามารถระบายอากาศ ความชื้นต่างๆ ได้ดีมาก รวมไปถึงมีพื้นที่ระเบียงที่สามารถใช้งานได้ทั้งจัดสวนขนาดย่อมๆ หรือตากเสื้อผ้าต่างๆ โดยยังคงมีความเป็นส่วนตัวอยู่เพราะได้กำแพงยกสูงบังสายตาจากภายนอกได้ดีค่ะ
เข้าสู่พื้นที่นั่งเล่นริมระเบียงกันต่อนะคะ บริเวณนี้มีพื้นที่ใหญ่พอสมควรสามารถจัดฟังก์ชันได้ทั้งพื้นที่ทำงานและพื้นที่นั่งเล่นโดยวางเก้าอี้โซฟาขนาดใหญ่ได้
สำหรับระเบียงที่ติดกับพื้นที่นั่งเล่นมีขนาดกำลังดีสำหรับออกมายืนสูดอากาศหรือจะวางชุดเก้าอี้ Outdoor ขนาดกะทัดรัดได้ค่ะ
สำหรับพื้นที่เตียงนี้สามารถรองรับเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้กำลังดีค่ะ มีพื้นที่ด้านข้างเตียงให้เดินได้สะดวกและวางโต๊ะข้างเตียงได้ ส่วนปลายเตียงมีความกว้างพอสมควรสามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นดูทีวีเพิ่มเติมได้โดยวางชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่งจะกำลังดีสุดค่ะ
สำหรับพื้นที่เตียงนอนนี้ข้อดีคือได้หน้าต่างทั้งหมด 3 ทิศด้วยกัน รวมบริเวณหน้าบ้าน (หลังเตียง) ทำให้พื้นที่นี้มีความโปร่งโล่งมากขึ้นและที่สำคัญคือระบายอากาศได้ดี มีลมพัดผ่านสะดวกหากเปิดหน้าต่างพร้อมกันทั้ง 3 ทางนะคะ
ขึ้นมาชั้น 3 บริเวณนี้เป็นโถงเปิดโล่ง ทำให้ตัวบ้านดูโปร่งโล่งและมีแสงธรรมชาติเข้ามาสูงพื้นที่ทางเดินในบ้านได้ดีมาก
บรรยากาศส่วนพื้นที่ทางเดินชั้น 3 มองลงมาส่วนพื้นที่นั่งเล่นด้านล่างจะเห็นวิวตามภาพเลยค่ะ ซึ่งนอกจากจะเปิดรับวิวภาพนอกได้ดีแล้ว การเชื่อมโยงฟังก์ชันระหว่างชั้น 2 และ 3 ก็ทำออกมาได้ดี ตอบโจทย์คนที่ชอบความโปร่งโล่ง และมองเห็นกันและกันของสมาชิกในบ้าน เพิ่มความสัมพันธ์ที่มากขึ้นได้
สำหรับชั้น 3 นี้จะมีห้องนอนอยู่ 2 ห้องนะคะ โดยแบ่งเป็นห้องฝั่งหน้าบ้าน (ซ้าย) และฝั่งหลังบ้าน (ขวา)
เริ่มต้นกันที่ห้องหลังบ้านกันก่อนนะคะ ภายในห้องนี้มีพื้นที่พอสมควร สามารถจัดวางเตียงขนาด 5 ฟุตกำลังดีค่ะ (ขนาดเท่าบ้านตัวอย่าง) ฝั่งปลายเตียงมีพื้นที่สำหรับ Built-in ชั้นวางของและชั้นวางทีวีเต็มผนัง พร้อมทั้งเป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งไปในตัวได้ ช่องแสงหรือหน้าต่างในห้องนี้ได้ทั้งหมด 2 จุดด้วยกันคือส่วนที่ติดกับห้องน้ำ ซึ่งทางโครงการออกแบบให้เป็นพื้นที่ด้านนอกล้อมกระจก เพื่อให้ห้องและภายในห้องน้ำนี้ได้ช่องเปิดมากขึ้นและมีพื้นที่สำหรับวาง CDU แอร์ และอีกส่วนคือหน้าต่างตรงระเบียงที่ใกล้กับตู้เสื้อผ้าค่ะ
ติดๆ กับประตูทางเข้าห้องเป็นประตูทางเข้าสู่ห้องน้ำในห้องนอนนี้นะคะ
ภายในห้องน้ำมีการจัดวางเป็นสัดส่วนโดยแยกโซนเปียกและแห้งชัดเจน เพิ่มเติมความพิเศษของห้องน้ำนี้คือมีหน้าต่างมากกว่า 1 บานนะคะ โดยจะติดตั้งทั้งโซนแห้งใกล้โถสุขภัณฑ์
และอีกจุดคือบริเวณพื้นที่อาบน้ำ ซึ่งทำให้ช่วยระบายความชื้นได้ดีมากขึ้น
สำหรับระเบียงที่ติดกับส่วนตู้เสื้อผ้านี้จะเป็นระเบียงขนาดเล็กเน้นเป็นระเบียงซักล้างหรือตากเสื้อผ้าเป็นหลักค่ะ
เข้าสู่ห้องนอนฝั่งหน้าบ้านกันต่อนะคะ สำหรับห้องนี้การจัดวางแบ่งเป็น 3 โซนใหญ่เช่นเดียวกับห้องนอนใหญ่เพียงแต่มีขนาดกะทัดรัดลงมานะคะ เริ่มต้นที่พื้นที่นั่งเล่นริมระเบียง เชื่อมกับพื้นที่เตียงนอน และแยกโซนกับ Walk-in Closet กับห้องน้ำภายในห้องนอน
สำหรับพื้นที่นั่งเล่นจัดให้มีขนาดใหญ่พอสมควรนะคะ สามารถจัดได้ทั้งโต๊ะทำงานขนาดใหญ่และชุดเก้าอี้โซฟานั่งเล่นได้
ระเบียงของห้องนอนนี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่สามารถออกมานั่งเล่นได้และที่สำคัญคือได้หลังคายาวเกินระเบียงช่วยกันแดดและบังฝนสาดเข้าระเบียงได้ดี
สำหรับพื้นที่เตียงนอนมีขนาดกำลังดีกับการวางเตียง 5 ฟุตนะคะ (ขนาดตามบ้านตัวอย่าง) เพื่อให้เหลือพื้นที่ทางเดินที่เดินได้สบายๆ พร้อมทั้งได้หน้าต่างบานใหญ่จากฝั่งหน้าบ้าน และหน้าต่างขนาดเล็กลงมาจากอีกฝั่ง ช่วยให้สามารถระบายอากาศภายในห้องได้ดี
และสุดท้ายคือห้องน้ำในห้องนอนค่ะ
สำหรับห้องน้ำในห้องนอนนี้แยกโซนเปียกและแห้งเป็นสัดส่วนโดยกั้นด้วยฉากกั้นกระจกที่ให้เป็นมาตรฐาน ส่วนสุขภัณฑ์ต่างๆ ได้เหมือนกับห้องน้ำห้องอื่นๆ ค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 15 July 2018
- Prelite แปลง 12 ที่ดิน 56.2 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม. ราคา 11.5 ล้านบาท
- Prelegance แปลง 11 ที่ดิน 56.2 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 274 ตร.ม. ราคา 11.5 ล้านบาท
- Prelegance แปลง 19 ที่ดิน 78.1 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 274 ตร.ม. ราคา 14.42 ล้านบาท
- จอง 50,000 บาท
- ทำสัญญา 100,000 บาท
- ดาวน์ (ขึ้นอยู่กับแต่ละแปลง)
- ค่าส่วนกลาง 35 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 36 เดือน
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเล – โครงการ ภัสสร วงแหวน-รามอินทรา ตั้งอยู่ในย่านรามอินทราช่วงใกล้กับห้างใหญ่อย่าง Fashion Island และ Promenade บนถนนเลียบมอเตอร์เวย์ค่ะ โดยทำเลนี้ส่วนใหญ่เป็นโครงการหมู่บ้านจัดสรรค่อนข้างเยอะทีเดียว และด้วยหมู่บ้านที่ค่อนข้างเยอะทำให้ความอุดมสมบูรณ์ในละแวกค่อนข้างคึกคักค่ะ ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร Community Mall รวมไปถึงห้างใหญ่อย่าง Fashion Island ที่ห่างจากโครงการไปประมาณ 2.5 กม. ซึ่งจัดเป็นระยะที่สามารถขับรถเดินทางได้สะดวก
การเดินทางโดยใช้รถ – จัดเป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุดสำหรับโครงการนี้ เน้นการเข้า-ออกถนนรามอินทราเป็นหลัก และใช้ถนนกาญจนาภิเษกเป็นหลัก ด้วยทำเลนี้สะดวกทั้งวิ่งเข้า-ออกเมือง หากวิ่งเข้าเมืองใช้ถนนรามอินทราตรงเข้าหลักสี่เชื่อมไปยังถนนพหลโยธินได้ไม่ยากค่ะ และหากออกเมืองก็สามารถใช้ถนนรามอินทราเช่นเดียวกันวิ่งไปทางมีนบุรีได้ การเดินทางด้วยถนนกาญจนาภิเษกวิ่งขึ้นทิศเหนือไปยังรังสิต สายไหม หรือลงทิศใต้ไปทางรามคำแหง-สุวรรณภูมิได้ไม่ยาก
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – การเดินทางด้วยรถสาธารณะเน้นใช้รถแท็กซี่ และ Grab เรียกเข้าหมู่บ้านเป็นหลักค่ะ หรือต้องอาศัยการต่อรถไปขึ้นรถสาธารณะบริเวณถนนรามอินทรา ที่เป็น Node ใหญ่หน่อยก็จะอยู่บริเวณ Fashion Island ที่มีทั้งรถตู้ สองแถว รถเมล์และแท็กซี่ ส่วนในอนาคตบนถนนรามอินทราจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูตัดผ่าน ซึ่งจากโครงการจะอยู่ระหว่าง 2 สถานี คือ สถานีรามอินทรา 83 และสถานีวงแหวนตะวันออก (หน้า Fashion Island) โดยคาดว่าจะได้ใช้ในช่วงปี 2563 ที่จะถึงนี้ค่ะ
การออกแบบ – รูปแบบบ้านของโครงการเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้นทั้งหมด ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 Type ด้วยกันค่ะ สำหรับ Type Prelegance ออกแบบมาเพื่อครอบครัวขนาดใหญ่ที่สามารถอาศัยอยู่ร่วมกันในบ้านเดียวกันได้ รองรับได้ถึง 3 Generation นอกจากนี้ชั้น 3 ยังออกแบบให้เหมาะกับการปรับเป็นครอบครัวขยายเพิ่มเผื่อสำหรับลูกแต่งงานเข้าและมีหลานก็สามารถใช้ชั้น 3 เป็นพื้นที่ของอีกครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวนึงได้ค่ะ
ส่วนอีก Type Prelite เน้นครอบครัวขนาดเล็กลงมา ซึ่งได้จุดเด่นคือบริเวณพื้นที่นั่งเล่น ฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume และกระจกทรงสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานจึงเพิ่มความโปร่งโล่งให้ภายในตัวบ้านได้ดีทีเดียวค่ะ
วัสดุ – สำหรับวัสดุที่ได้ถือว่าให้มามาตรฐานตามราคาที่จ่ายนะคะ โดยสิ่งที่ได้เช่นพื้นบ้าน จะเป็นพื้นแกรนิตโต้ และลามิเนต สุขภัณฑ์ทั้งหมดจาก Kohler พร้อมฉากกั้นกระจกในห้องน้ำ และพัดลมดูดอากาศ เพิ่มเติมที่ห้องน้ำ Master Bedroom ที่ได้อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ ส่วนบริเวณด้านหลังบ้านมีการก่อเคาน์เตอร์ปูนให้เป็นมาตรฐานสำหรับทำเป็นครัวไทยได้ค่ะ นอกจากนี้ก็มีการติดตั้ง Magnetic Censor บริเวณชั้น 1 ให้เป็นมาตรฐานเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น และ Smoke Detector บริเวณครัว
สาธารณูปโภค – สำหรับสาธารณูปโภคทางโครงการจัดมาให้มาตรฐาน โดยรวมแล้วครบครัน มีส่วน Club House ที่มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส พร้อมสวนสาธารณะให้เด็กๆ ออกมาวิ่งเล่นได้ ที่เด่นเพิ่มขึ้นมาคือถนนหลักที่ให้ความกว้างมาถึง 16-15 ม. โดยไม่รวมฟุตบาท ส่วนถนนรองกว้าง 9 ม. ไม่รวมฟุตบาทเช่นกันค่ะ
สำหรับความปลอดภัยจัดเป็นอีกจุดเด่นของโครงการนะคะ มีการจัดการเข้า-ออกแบบ Double Access โดยเข้า-ออกผ่าน Key Card Access เปิด-ปิดด้วยไม้กั้นกระดกอัตโนมัติพร้อมประตูบานเลื่อนไฟฟ้า
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 10.9 – 15 ล้านบาท, 15 July 2018
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ติดถนนเลียบมอเตอร์เวย์ เชื่อมเข้ากาญจนาภิเษกและรามอินทราได้ง่าย
- ความปลอดภัย 8/10 – Keycard Access พร้อม Double Access และให้ Magnetic Censor ในบ้านทุกหลัง
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ และเน้นตัวบ้านโปร่งโล่งด้วย Double Volume
- วัสดุ 7/10 – มาตรฐานตามราคา
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – มีพื้นที่สีเขียวพอสมควร สภาพโครงการเรียบร้อย ได้ถนนกว้าง
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – ครบครันตามมาตรฐาน
- 7.5 / 10.00
BOTTOM LINE
โครงการ ภัสสร วงแหวน-รามอินทรา เหมาะกับครอบครัวใหญ่ ต้องการอยู่ร่วมกัน 3 Generation ขึ้นไป บนทำเลที่เดินทางสะดวกทั้งจากรามอินทรา ถนนกาญจนาภิเษก อยู่ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า รวมไปถึงในอนาคตที่อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้ามากนักสามารถต่อรถไปขึ้นได้ รักความปลอดภัยทั้งในโครงการและตัวบ้าน มีงบประมาณ 10.9-15 ล้านบาท