ปกQอโศก

รีวิวฉบับที่ 946 สวัสดีค่ะ วันนี้เรามีคอนโดติดรถไฟฟ้ามาฝาก กับโครงการ Q Asoke คอนโด High Rise 41 ชั้น ตัวโครงการอยู่บนถนนเพชรบุรี-ตัดใหม่ ตรงแยกอโศก-เพชรบุรี ติดกับ MRT เพชรบุรี  ใกล้สถานี Airport Link มักกะสัน และยังติดกับท่าเรืออโศก(คลองแสนแสบ)ด้วย สถานะโครงการนี้เกือบเสร็จพร้อมให้ลูกบ้านเข้าอยู่ในเดือนพฤศจิกายน 2558 นี้แล้ว วันนี้เราเลยจะพาไปอัพเดทกันสักหน่อยว่า หน้าตาโครงการตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ตามไปดูพร้อมๆกันเลยค่าา ^^

สามารถเข้าไปอ่านรีวิวโครงการ Q Asoke ก่อนสร้างเสร็จได้โดย (คลิกที่นี่)

Fact @ 13 October 2015  

  • Q Asoke (คิว อโศก)
  • Quality Houses ., Plc
  • LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ถนนเพชรบุรี-ตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.
  • คอนโด High Rise 41 ชั้น 1 อาคาร 482 ยูนิต 
  • ที่จอดรถประมาณ  310 คัน รวมจอดซ้อนคัน 390 คัน คิดเป็น 80%
  • ที่ดินประมาณ 3.35ไร่
  • ห้อง Studio ขนาด  30 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom  ขนาด 37 – 48 ตารางเมตร
  • 2 Bedroom  ขนาด 59 – 69 ตารางเมตร
  • 3 Bedroom ขนาด 89 – 137 ตารางเมตร
  • Penthouse ขนาด  269 ตารางเมตร
  • ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด 175,000 บาทต่อตารางเมตร
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 180,000 บาทต่อตารางเมตร 
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • โทร  : 1388

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.748783, 100.562902

Screen Shot 2015-10-18 at 9.13.30 PM

ทำเลนี้ถือว่าเป็นทำเลที่อยู่ย่านใจกลาง CBD ที่สำคัญแห่งนึงของกรุงเทพก็ว่าได้ ตัวโครงการอยู่ตรงหัวมุมแยกอโศก-เพชรบุรี ดังนั้นการใช้งานหลักจึงสามารถใช้ได้ทั้งจากทางถนนเพชรบุรีและถนนอโศกมนตรี โดยตัวถนนเพชรบุรีตัดใหม่นั้นจะมีทั้งคอนโด โรงเรียน และอาคารสำนักงานอยู่บ้างแต่ไม่คึกคักเท่าถนนอโศกมนตรี ที่มีทั้งห้างสรรพสินค้า และอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นอาคาร GMM Grammy, ชิโนไทย ทาวน์เวอร์, Grand Park View Asoke, Cemic Tower, 253 Asoke และอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒที่มหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ ดังนั้นเรื่องความอุดมสมบูรณ์คงไม่ต้องพูดถึง เพราะเป็นทั้งแหล่งการศึกษาและมีอาคารสำนักงานเยอะแบบนี้มีแหล่งกิน เที่ยว ช็อปปิ้งครบแน่นอน

แผนที่รถไฟฟ้า3

จุดเด่นสำคัญของโครงการ คือเป็นคอนโดติดรถไฟฟ้า ตัวโครงการเองอยู่ติดกับ MRT เพชรบุรี เลย ซึ่งสถานีเพชรบุรีเนี่ยซึ่งเป็นสถานี  Interchange กับ Airport Rail Link มักกะสัน ที่สามารถไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้อีกด้วย และถ้าต้องการใช้รถไฟฟ้า BTS ก็วิ่ง MRT ไปลงสถานีสุขุมวิทเพื่อเปลี่ยนเป็น BTS อโศก ได้ ซึ่งเป็นสถานีที่ติดกับ Terminal 21 ที่รู้จักกันว่ามี Food Court ที่ถูกและดี ^^ หรือถ้าช่วงไหนมีจัดงาน Expo, งานประกวดต่างๆเช่น การประกวดนางงามจักรวาล และงานระดับชาติหลายๆงาน ก็นั่งเพียงแค่ 2 สถานีไปลงสถานีศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ นอกจากรถไฟฟ้าแล้วยังมีพี่วินหน้า MRT เพชรบุรีที่เราสามารถเดินออกจากโครงการแล้วเจอเลย นอกจากนี้ยังมีรถประจำทางที่วิ่งผ่านทั้งเส้นเพชรบุรีและเส้นอโศก โดยหากข้ามฝั่งไปถนนอโศก-ดินแดง จะมีป้ายรถเมล์ รฟม.อโศก ที่มีรถประจำทางสาย 136 หมอชิต, 185 อู่ประชาธิปัตย์ และ 206 โรงพยาบาลวิภาวดีผ่าน ส่วนทางเส้นเพชรบุรีจะมีป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียนเซนต์ดอมินิกซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 450 เมตร จะมีรถเมล์ผ่านหลายสายเลยทั้ง 11 สนามศุภชลาศัย, 23ท่ารถสาย 23, 38ร กองอัยการสูงสุด, 58ร เพชรรามา, 60คลองหลอด, 72 สี่เสาเทเวศร์, 93 ท่าสี่พระยา, 99ร วัดแดง และ 556 วัดไร่ขิง  นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการท่าเรือโดยสารคลองแสนแสบ โดยด้านหลังโครงการจะติดกับท่าเรืออโศก(คลองแสนแสบ) สามารถเดินได้ในระยะ 50 เมตร

แผนที่การเดินทาง Q Asoke

สำหรับการขึ้น-ลงทางด่วนค่อนข้างง่าย จากโครงการวิ่งไปจุดทางขึ้นทางด่วนศรีรัช(ทางด่วนบางนา-แจ้งวัฒนะ)ระยะทางประมาณ 200 เมตร หรือถ้ามาจากทางแยกรัชดา-พระราม9 ก็มีจุดขึ้นอีกจุดนึง(พระราม 9,มอเตอร์เวย์)ได้ค่ะ

เดินทาง2

เส้นทางแรก เราจะเริ่มจาก MRT เพชรบุรี ทางออกที่ 2 ตรงแยกอโศก-เพชรบุรี เดินไปบนถนนเพชรบุรีเพื่อดูทางเข้าหลักของโครงการ Q Asoke และไปดูสภาพแวดล้อมบนถนนเพชรบุรีจนถึงแยกมิตรสัมพันธ์ค่ะ

08_PET-02

เริ่มกันที่ MRT เพชรบุรีนะคะ สถานีนี้จะมีทางออกแค่ 3 ทาง ซึ่งประตูทางออกที่ใกล้โครงการที่สุดคือประตู 2

เดินตามป้ายบอก “ทางออก 2 ท่าเรืออโศก (คลองแสนแสบ)” เลย

ออกมาจากตัวสถานีทางออกที่ 2 เราก็จะเจอกับแยกอโศก-เพชรบุรี ค่ะ

โดยทางแยกจะมีทางม้าลายในทุกช่วงข้าม หากเดินข้ามแยกไปฝั่งตรงข้ามจะเป็น MRTทางออก 3 และทางเดินไปแอร์พอร์ทลิงค์ สถานีมักกะสัน ใกล้ๆกันทุกวันเสาร์-อาทิตย์จะมีตลาดตู้คอนเทเนอร์ฮิบๆอย่าง “Art Box” ให้ไปเดินช้อปปิ้งกันด้วย

มองไปทางขวามือ ฝั่งตรงข้ามถนนบริเวณหัวมุม จะเป็นแปลงที่ดินที่กำลังเตรียมก่อสร้าง Singha Complex โครงการ Mixed Use ขนาดใหญ่

แต่เราจะเดินไปทางขวามือกันนะคะ ตรงนี้จะเป็นแก็งค์พี่วินแยกอโศก-เพชรบุรี  รอรับส่งคนใช้บริการรถไฟฟ้า

อัตราค่าโดยสาร

เราเดินเลียบฟุตบาทมาก็จะเห็นป้ายโครงการ Q Asoke สีน้ำเงินเด่นเลย ฟุตบาทหน้าโครงการไม่กว้างมากแต่ก็พอเดินสบายๆ

มองตรงไปเราจะเห็นตึก Villa Asoke และ The Address

เดินมานิดเดียวเราก็เจอกับทางเข้าโครงการ Q Asoke แล้วค่ะ เดี๋ยวเราจะพาเดินดูทำเลรอบๆก่อน แล้วจะพาไปเจาะลึกโครงการกันอีกครั้งนะคะ

ตรงถนนหน้าโครงการจะเป็นสะพานข้ามแยกอโศก-เพชรบุรี และมีทางกลับรถใต้สะพาน หากมาจากสุขุมวิท หรือแยกมิตรสัมพันธ์ก็สามารถเลี้ยวเข้าโครงการทางนี้ได้เลยค่ะ

หน้าโครงการจะมีเพิงขายของเล็กๆ

ถัดจากโครงการเป็นอาคารสำนักงาน 4  ชั้น

ติดกันเป็น Villa Asoke คอนโด High Rise สูง 42 ชั้น

ฟุตบาทหน้า Villa Asoke ค่อนข้างกว้างและร่มรื่นมากทีเดียว

ฝั่งตรงข้ามเป็น The Address Asoke เป็นคอนโด High Rise 44 ชั้น

เดินต่อไป เราก็จะเจอกับอาคารร้างๆแบบนี้บ้างเป็นจุดๆ ยิ่งในตอนเย็นๆจะค่อนข้างเปลี่ยวหากต้องเดินผ่านก็ระวังกันด้วยนะคะ

ฝั่งตรงข้ามเป็นโรงแรมดี วารี เอ็กซ์เพรส มักกะสัน โรงแรม 7 ชั้น ใต้อาคารมี 7 Eleven และร้านอาหารตามสั่งนานาชาติ เปิดถึง 5 ทุ่มค่ะ

เดินต่อมาจะเจอศูนย์ Service ของ Benz บริการอะไหล่ ซ่อม และล้างรถ

มองไปฝั่งตรงข้ามจะเจอกับโรงเรียนอาชีวะ  วิทยาลัยเทคโนโลยีดอนบอสโก เป็นวิทยาลัยประเภทช่างอุตสาหกรรม เป็นโรงเรียนเก่าแก่ในย่านนี้ เปิดมาตั้งแต่ปี 2492 แล้วค่ะ

ซึ่งโรงเรียนเซนต์ดอมินิก และโรงเรียนอาชีวะ  วิทยาลัยเทคโนโลยีดอนบอสโก จะอยู่ตรงข้ามกัน โดยมีสะพานลอยข้ามฝั่งไปขึ้นรถเมล์ขาไปแยกอโศก-เพชรบุรี(ฝั่งโรงเรียนอาชีวะ วิทยาลัยเทคโนโลยีดอนบอสโก) หรือจะไปทางเส้นสุขุมวิท(ฝั่งโรงเรียนเซนต์ดอมินิก)ก็ได้

ถัดมาจะเจอกับอาคารสำนักงานใหญ่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็น Office Building สูง 18 ชั้น

ถัดไปเป็นอาคารธนภูมิ  เป็นอาคาร Office Building สูง 32 ชั้น

เดินต่อมาจะเจอศูนย์อาหารแกรนด์พลาซ่า ซึ่งเป็นศูนย์อาหารและร้านขายของขนาดเล็ก ข้างหน้ามีสะพานลอยสามารถข้ามไปฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นซอยเพชรบุรี 41 ได้ เดี๋ยวเราจะพาขึ้นสะพานลอยไปดูบรรยากาศด้านบนกันนะคะDSCF9604 a

มุมมองจากสะพานลอย มุ่งหน้าสี่แยกมิตรสัมพันธ์ เส้นทางการจราจร 6 เลนไปกลับ ตรงบริเวณนี้จะใกล้กับสี่แยกมิตรสัมพันธ์ปริมาณรถเลยค่อนข้างหนาแน่น ทางขวามีจะเป็นโครงการ Circle 2 ส่วนทางซ้ายมือตรงกันข้ามจะเป็นโครงการ Circle 1  สองโครงการนี้อยู่ตรงข้ามกันพอดีค่ะ

ลงมาจากสะพานลอย มาดูหน้าตาของศูนย์อาหารแกรนด์พลาซ่า จะเป็นอาคารชั้นเดียว ด้านในถูกจัดเป็นล็อคๆสำหรับเป็นพื้นที่ให้เช่าขายของ

ซึ่งในช่วงกลางวันจะมีพนักงานออฟฟิศจากตึกสำนักงานรอบรอบๆ ลงมาทานอาหารกันที่นี้ค่ะ

ติดกันเป็น 7Eleven  ที่ริมฟุตบาทหน้า  7Eleven มีร้านรถเข็นขายอาหารอยู่เป็นหย่อมๆ

เดินต่อมาอีกนิด เราก็จะเจอกับโครงการ Circle 1 คอนโด High Rise สูง 30 ชั้น

เดินต่อมาก็จะเป็นตึกแถว 4 ชั้น ที่ใต้อาคารเปิดเป็นร้านขายยา ร้านอินเตอร์เน็ต ร้านซ่อมนาฬิกา ร้านทำผม ฟุตบาทหน้าอาคารขนาดไม่กว้างมากนัก มีต้นไม้ปลูกให้ร่มเงาเลียบแนวทางเดิน

มาถึงสี่แยกมิตรสัมพันธ์  ซึ่งจากสี่แยกนี้ถ้าวิ่งมาจากสี่แยกอโศก-เพชรบุรี สามารถเลี้ยวซ้ายไปถนนนานา(สุขุมวิท 3) เพื่อไปทะลุออกเส้นสุขุมวิทได้ หรือจะเลี้ยวขวาไปทางถนนนิคมมักกะสันก็สามารถไปทะลุออกถนนพระราม 9 แต่หากตรงไปก็จะสามารถทะลุไปประตูน้ำได้

เดินทาง1

เส้นทางที่ 2 เราจะพาเดินจากแยกอโศก-เพชรบุรี เลียบถนนอโศกมนตรีไปดูท่าเรืออโศก(คลองแสนแสบ) และไปดูความอุดมสมบูรณ์บนนถนนอโศกมนตรีที่มีทั้งอาคารสำนักงาน โรงพยาบาล คอนโด มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จนถึงตลาด 2 ตลาดที่อยู่ตรงข้ามกัน คือตลาดรวมทรัพย์ และตลาดสุขใจ

เราจะพาเดินย้อนไปทางถนนอโศกตามริมฟุตบาทเลย ช่วงใกล้ๆกับ MRT สถานีเพชรบุรี ฟุตบาทจะค่อนข้างกว้าง เดินง่าย

มองขึ้นไปจะเห็นตัวอาคาร Q Asoke ชัดเจน ติดกับสถานีเลย

ระหว่างทางเดินก็จะมีต้นไม้ปลูกเป็นทิวแถว แต่เป็นต้นไม้เล็กเลยไม่ค่อยช่วยเรื่องการให้ร่มเงา แต่จะช่วยให้บรรยากาศดูร่มรื่นซะมากกว่า มองไปข้างหน้าก็จะเห็นสะพานข้ามแยกคลองแสนแสบแล้ว

ตรงสะพานข้ามแยกคลองแสนแสบนี่ก็จะมีพี่วินประจำการอยู่ถึงประมาณ 3 ทุ่ม ซึ่งท่าเรืออโศกนี้ก็จะตรงไปทางด้านขวามือเนี่ยละค่ะ เดี๋ยวแวะพาไปดูนิดนึง

อัตราค่าโดยสารพี่วินท่าเรืออโศก

เราเดินตรงมาก็จะเจอทางเข้าท่าเรืออโศกแล้ว มีป้ายบอกชัดเจนเลย

Screen Shot 2558-07-13 at 4.19.09 PM

เรือโดยสารคลองแสนแสบเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางที่มีประโยชน์อย่างมากในกรณีเดินทางไปหรือมาจากสยาม หรือจะไปทางรามคำแหง แต่จะมีผู้โดยสารหน่าแน่นหน่อยในชั่วโมงเร่งด่วน โดยเราสามารถซื้อตั๋วโดยสารบนเรือ โดยอัตราค่าโดยสารจะอยู่ระหว่าง 10 ถึง 20 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง เรือโดยสารให้บริการทุกวัน 5:30 – 20:30 น. (วันหยุดสุดสัปดาห์ 19:00 น.)

มองไปทางซ้ายจะไปทางประตูน้ำ-ผ่านฟ้า มีร้านกาแฟเล็กๆ 1 ร้านให้บริการ

อัตราค่าโดยสารเรือเลียบคลองแสนแสบค่ะ

กลับมาที่ทางเดินริมฟุตบาท เดินขึ้นบันไดเพื่อข้ามสะพานกันต่อ

เดินข้ามคลองแสนแสบ สะพานนี้มีชื่อสลักเอาไว้ด้วยนะ สะพานมิตรสัมพันธ์ 2

ระหว่างข้ามสะพานก็มองไปที่คลองแสนแสบนิดนึง เราจะเห็นท่าเรืออโศกที่ไปแวะมามะกี้ ซึ่งติดกับโครงการ Q Asoke เลย ส่วนอาคารสีส้มถัดไปนั้นเป็นตึกของคอนโด Villa Asoke ค่ะ

เดินมาจนถึงทางลงสะพานแล้วละค่ะ

เราเดินมาจนพ้นสะพานข้ามคลองแสนแสบ(มิตรสัมพันธ์ 2) ก็จะเจอกับร้านค้าฮิบๆทางขวามือ

มองเข้าไปจะเป็นร้านรองเท้า ร้านอาหารเกาหลี จัดร้านดูดีเชียว

ตรงข้ามกันเป็นร้านปังเว้ย เฮ้ย!!! ร้านใหญ่เลย ถัดไปก็จะมีร้านเช่าชุดราตรี และร้านอาหาร เป็นตัวเลือกเผื่อใครเดินผ่านไปผ่านมาแถวนี้

เดินต่อมาจะเจอ 253 Asoke เป็นอาคารสำนักงานให้เช่า

ถัดไปจะเป็นโครงการ Lofts Asoke ที่ตอนนี้กำลังล้อมรั้วก่อสร้างเลย เยื้องๆกันเป็นโรงพยาบาลจักษุรัตนิน

ถัดมาเป็นทางเข้าของ Asoke Residence Sukhumvit

เดินต่อไปจะเห็นทางเข้าของ Sukhumvit Living Town ค่ะ

หน้าตาของ  Sukhumvit Living Town  สูงประมาณ 39 ชั้น

ฝั่งตรงข้ามกับ Sukhumvit Living Town จะเป็นร้านเบเกอรี่, คาเฟ่, ร้านอาหาร ที่ได้อานิสงค์จากต้นไม้ใหญ้ทำให้ดูร่มรื่นมากๆ

หน้า Sukhumvit Living Town จะมีป้ายรถเมล์ สามารถมาใช้บริการได้ มองไปที่ถนนจะเห็นว่าการจราจรบนถนนอโศกมนตรีค่อนข้างหนาแน่น

ฝั่งตรงข้ามเป็น Q House Asoke เป็นอาคารสำนักงานนะคะไม่ใช่คอนโด ใต้ตึกมีธนาคารอิสลาม

ถัดมาฝั่งตรงข้ามเป็นประตูใหญ่ของ มศว ซึ่งจะมีตลาดนัดนานาชาติทุกวันอังคารและพฤหัสบดีช่วงเวลาสายๆจนถึงประมาณบ่าย 3 มีของขายเยอะมากทั้งของกินและของใช้ วันนี้โชคดีตรงกับวันอังคารที่มีตลาดนัด เดี๋ยวเราจะพาไปดูบรรยากาศข้างใน มศว กันสักหน่อยค่ะ

ตลาด มศว ค่อนข้างคึกคัก มีการกางเต้นท์ผ้าใบสีฟ้าเป็นล็อกๆเพื่อให้ตั้งขายสินค้า โซนด้านหน้านี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของใช้ในบ้าน ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็กๆก็มี

ในช่วงกลางวันแบบนี้ก็จะมีทั้งนักศึกษาและพนักงานออฟฟิศในละแวกใกล้เคียงค่ะ

เดินเข้ามาเรื่อยๆก็จะมีโซนขายอาหาร อย่างในช่วงนี้เป็นเทศกาลกินเจ ร้านขายอาหารเจเลยค่อนข้างคึกคักเป็นพิเศษ โดยร้านขายอาหารทั้งหมดจะเป็นแบบซื้อกลับไม่มีที่นั่งให้

พอซื้ออาหารมาส่วนใหญ่ก็จะซื้อกลับไปกินที่ออฟฟิศ(สำหรับพนักงานออฟฟิศ) ไม่ก็มานั่งกินตามม้านั่งอาคารเรียนแบบนี้ค่ะ

เลียบกำแพงมหาวิทยาลัย รอบๆอาคารเรียนก็ยังมีร้านอาหารขายยาวไปเลย

สำหรับนักศึกษาก็จะชอบนั่งกันง่ายๆ บ้างก็มานั่งคุย นั่งเล่น นั่งรับประทานอาหารกันใต้อาคารแบบนี้

ซึ่งนอกจากส่วนของตลาด มศว แล้ว อาคารในมหาวิทยาลัยก็จะมีร้านอาหารและร้านกาแฟให้เลือกหลากหลาย รวมทั้งมีธนาคาร เช่น ธนาคารกรุงไทย ให้ไปทำธุรกรรมการเงินด้วย

จากตลาดนัด มศว เดินเข้ามาด้านในมหาวิทยาลัยก็จะเป็นสวนกิจกรรม และส่วนของอาคารเรียนต่างๆ หากเดินเข้าไปเรื่อยๆก็จะสามารถไปยังท่าเรือ มศว (คลองแสนแสบ) ได้ค่ะ

จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เราจะเดินเลียบถนนอโศกมนตรีไปดูความอุดมสมบูรณ์ริมทางกันต่อนะคะ

ถัดจาก มศว มาเราจะเจอกับ Supalai Premier Place คอนโด High Rise จากศุภาลัย สีฟ้าเห็นเด่นชัดมาก

มองไปฝั่งตรงข้ามจะเห็นตลาดรวมทรัพย์ซึ่งเป็นตลาดค่อนข้างใหญ่ มีทางเข้า-ออกถึงสองทาง ภายในตลาดมีร้านอาหารประเภทจานเดียวให้นั่งกินและมีขายของอื่นๆให้ Shopping ด้วย

พอเข้ามาแล้วจะเป็นตลาดพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ มีแบบนี้ 2 โดมเลยทีเดียว ของกินเพียบมากกก เน้นขายอาหารกลางวันเป็นหลัก ส่วนใหญ่ก็พนักงานออฟฟิศ หรือคนทำงานในละแวกนี้ค่ะ ตลาดเริ่มตั้งแต่ 9 โมงถึงประมาณบ่าย 2

ส่วนฝั่งนี้ก็จะมีตลาดสุขตา ขนาดของตลาดจะเล็กกว่าตลาดรวมทรัพย์

เข้ามาข้างในก็จะมีร้านค้าแผงลอยขายเต็มไปหมดทั้งอาหารการกินและเสื้อผ้า

เข้ามาข้างมาข้างในจะเป็นพื้นที่คอร์ทนั่งรับประทานอาหารมี 2 ชั้นค่ะ

แผนที่ซูม

บริบทโดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นอาคารสำนักงานและคอนโด High Rise โดย

ทิศเหนือ ติดกับ ถนนเพชรบุรีที่มีสะพานข้ามแยกอโศก-เพชรบุรีอยู่หน้าโครงการพอดี ซึ่งห้องที่อยู่ทางทิศนี้อาจจะได้ยินเสียงรบกวนจากรถวิ่งอยู่บ้าง

ทิศตะวันออก ติดกับ MRT เพชรบุรี โดยทางโครงการจะมีประตูทางออกให้ติดกับสถานีเลยค่ะ

ทิศตะวันตก ติดกับ อาคารสำนักงาน 4 ชั้น และ Villa Asoke คอนโด High Rise 42 ชั้น เวลามองออกไปจากห้องก็จะจ๊ะเอ๊กันเต็มๆ

ทิศใต้ ติดกับคลองแสนแสบซึ่งขึ้นชื่อมากในเรื่องกลิ่น แต่เนื่องจากชั้นพักอาศัยทางทิศนี้จะเริ่มจากชั้น 9 ขึ้นไป (ชั้น 8 เป็นห้อง Fitness) ดังนั้นกลิ่นของคลองจึงลอยขึ้นมาไม่ถึงค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

Q Asoke รอบๆ

จากแผนที่บริบทโดยรอบจะเห็นว่ารอบๆโครงการมีตึกสูงคอนข้างเยอะ เราจึงนำภาพอาคารรอบๆ Q Asoke มาให้ดู ว่าโครงการถูกแวดล้อมไปด้วยอาคารสูงทั้งระยะใกล้และไกล เด่นๆเลยคือทางทิศตะวันตกที่มีอาคารของ Villa Asoke คอนโด 42 ชั้น และ The Address Asoke คอนโด 44 ชั้น ทางทิศใต้ก็มีอาคารสำนักงานอย่าง 253 Asoke สูง 30 ชั้น ที่อยู่ในระยะที่ห่างออกมาหน่อย ส่วนทางทิศตะวันออกก็มีอาคาร Supalai Premier Asoke คอนโด 38 ชั้น ที่มาบังวิวระยะไกล ซึ่งในอนาคตฝั่งนี้จะมีการสร้าง Singha Complex อาคาร Mixed Use สูง 36 ชั้น ที่กำลังเตรียมที่ดินสำหรับก่อสร้างแล้ว ดังนั้นถ้าเลือกห้องก็ต้องไปหามุมดีๆนะคะว่าชอบวิวทางทิศไหน

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น 

  • โรงเรียนเซนต์ดอมินิก ~20  เมตร
  • มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ~50  เมตร
  • โรงพยาบาลผิวหนังอโศก ~280 เมตร
  • โรงพยาบาลจักษุรัตนิน ~300 เมตร
  • ตลาดรวมทรัพย์ ~ 650 เมตร
  • ตลาดสุขใจ~ 650 เมตร
  • เซ็นทรัลพระราม 9  ~1.1 กิโลเมตร
  • ห้างฟอร์จูนทาวน์  ~1.1 กิโลเมตร
  • Terminal 21 ~ 1.5 กิโลเมตร
  • เอ็มควอเทียร์ ~2.5 กิโลเมตร
  • เซ็นทรัลเวิลด์  ~2.7 กิโลเมตร

 


เจาะลึกตัวโครงการ

Q Asoke

โครงการ Q Asoke ออกแบบมาในไตล์คลาสสิคเรียบหรู ตัวอาคารใช้โทนสีครีม-ฟ้า-ทอง และมีการตกแต่งอาคารด้วยลายปูนปั้นเป็นบางจุดเพื่อเพิ่ม Detail ให้ดูคลาสสิคและ Luxury มากขึ้น ตัวอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวขึ้นไปเป็นตัว I

เนื่องจากตัวอาคารภายนอกและ Landscape ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ 100 % เราจึงจะพาไปดูตัวอาคารจากโมเดลจำลองโครงการกันก่อนนะคะ

มุมมองอาคารจากแยกอโศก-เพชรบุรี จะเห็นตัวอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เนื้อที่อาคารเยอะๆและพื้นที่รอบๆโครงการค่อนข้างน้อย

อาคารทางด้านทิศเหนือ หรือด้านหน้าของโครงการจะติดกับถนนเพชรบุรี-ตัดใหม่และสะพานข้ามแยกอโศก-เพชรบุรี  อาคารด้านนี้จะดีกว่าทิศอื่นตรงที่ไม่มีตึกบังวิว แต่ในชั้นล่างๆอาจจะได้ยินเสียงรบกวนจากรถยนต์บนถนนอยู่บ้าง มุมมองจากด้านนี้จะเห็นอาคารตรงเป็นแท่งยาวๆรูปตัว I

หน้าโครงการเด่นด้วยป้ายตัว “Q” สีทอง ทั้งที่หน้ารั้วโครงการ และตัว “Q”ที่ประดับอยู่ที่ผนังตึก รวมทั้งสวนรูปตัว “Q”ที่อยู่ด้านหน้าอาคารก็เป็นการคุมคอนเซปต์ตัว “Q” ของ Q Asoke ได้ดีจริงๆ 🙂  โดยสวนหน้าอาคารนี้มีทั้งสนามหญ้าและปลูกทั้งไม้พุ่มและไม้ยืนต้นค่อนข้างร่มรื่น  ทางเข้า Lobby สไตล์คลาสสิคหรูๆด้วยการใช้โทนสีขาว-ทอง มีลายปูนปั้น รวมทั้งฝ้าเพดานที่ค่อนข้างสูง

โดยทางเข้า-ออก ของโครงการจะมีให้ทั้งหมด 3 ประตู คือ

ประตูที่ 1 เป็นประตูใหญ่ ติดกับถนนเพชรบุรี เป็นทางเข้า-ออกของรถ

ประตูที่ 2 เป็นทางเข้า-ออกสำหรับคนที่จะเดินไป MRT

ประตูที่  3 เป็นทางเข้า-ออก สำหรับคนที่จะไปขึ้นเรือที่ท่าเรืออโศก (คลองแสนแสบ)

ประตูที่ 1 เป็นทางเข้า-ออกหลักของรถกว้าง 6 เมตร โดยการเดินรถจะเป็น One Way วนไปทางซ้ายเพื่อหยุด Drop Off ส่งคนที่หน้าอาคาร แล้วสามารถวนซ้ายไปจอดรถใต้อาคารได้ หรือหากต้องการขึ้นไปยังอาคารจอดรถ ก็สามารถขับอ้อมมาขึ้นลานจอดรถได้ที่อาคารทางทิศตะวันตก(ด้านขวา) โดยถนนรอบโครงการกว้าง 6  เมตร ขับขี่ได้สบายๆค่ะ

ที่จอดรถใต้อาคารที่โครงการมีไว้อำนวยความสะดวก

ประตูที่ 2 สามารถเดินจากอาคารมาผ่านรูปตัว Q และเดินออกจากประตูมาก็เจอ MRT เพชรบุรี (ทางออกที่ 2) เลย แถมหากใครต้องการไปที่ใกล้ๆนั่งวินไปชิวๆตรงประตู MRT ฝั่งนี้ยังมีพี่วินแยกอโศก-เพชรบุรีประจำการอยู่ด้วย

ประตูที่ 3 เป็นประตูเล็กที่สุด สามารถเดินจากอาคารผ่านสวนเล็กๆแล้วออกประตูมา เดินเลียบสะพานข้ามแยกอโศก ก็จะเจอท่าเรืออโศก(คลองแสนแสบ) แล้ว หรือใครไม่ได้อยากไปขึ้นเรือ เดินย้อนขึ้นไปบนถนนอโศกมนตรีนี้ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์และมีของกินเยอะมากกเลย

อาคารทางด้านทิศตะวันตก ด้านนี้จะติดกับอาคารสำนักงาน 4 ชั้น และโดนตึก Villa Asoke บังวิวส่วนหนึ่ง ตัวอาคารด้านนี้จะดูเต็มๆ ตันๆหน่อยเพราะเป็นยูนิตพักอาศัยยาวตั้งแต่ชั้น 8 – 42 เลย

อาคารทางทิศตะวันออกจะติดกับถนนอโศกมนตรี ซึ่งอาคารด้านนี้ในชั้น 1-7 จะเป็นอาคารจอดรถ ชั้น 8 เป็นชั้นสระว่ายน้ำและ Facilities หลักอย่างสระว่ายน้ำ ห้องสมุด ห้องอเนกประสงค์ และห้อง Fitness ส่วนชั้น 9-39 เป็นส่วนของห้องพักอาศัย และชั้น 40,41 เป็นสวนหย่อมให้ไปเดินเล่นได้ค่ะ

โดยห้องที่อยู่ในทิศนี้เมื่อมองลงมาจะเห็นทั้งวิวสระว่ายน้ำ คลองแสนแสบและสวนในชั้น 1

ตัวอาคารจะมีการเล่น Void เว้นช่องว่างในบางจุดเพื่อให้รูปด้านอาคารดูมีลูกเล่นไม่น่าเบื่อ ส่งผลให้ฝ้าเพดานตรงโถงทางเข้าสระว่ายน้ำค่อนข้างสูงชลูด ให้ความรู้สึกโปร่งเวลาเดินออกมาจากอาคาร

อาคารทางทิศใต้ จะเป็นด้านแคบของอาคาร มองเห็นเป็นแท่งยาวๆรูปตัว I โดยอาคารในด้านนี้จะติดกับคลองแสนแสบที่ขึ้นชื่อเรื่องกลื่น… ซึ่งจากการไปทดลองอยู่บนชั้น 8 ที่เป็นสระว่ายน้ำดูแล้วพบว่ากลิ่นลอยขึ้นมาไม่ถึง จึงมีแนวโน้มว่าห้องพักอาศัยที่อยู่ตั้งแต่ชั้น 9 ขึ้นไปก็ไม่น่าจะมีผลกระทบเรื่องกลิ่นมากนัก

วิวท่าเรืออโศกและคลองแสนแสบ

มองขึ้นไปด้านบนอาคารจะเห็นเจ้าแท่งสีเทาๆรูปร่างคล้ายเสาสัญญาณหรือประภาคารอะไรสักอย่าง จากการสอบถามแล้วไม่ได้มีฟังก์ชั่นใดๆเป็นเพียงแค่ตัวตกแต่งอาคารเฉยๆ ดูหลุดคอนเซปต์ไปนิดนึงนะ

ในชั้น 40-41 จะมีสวนหย่อมเล็กๆ บนดาดฟ้า ให้สามารถไปเดินเล่นรับลม และมองวิวกันได้ค่ะ

เราพาเดินเข้ามาในโครงการเพื่อชิมลางบรรยากาศกันนิดนึง ทางซ้ายมือจะเป็นพื้นที่สวนรูปตัว Q ที่กำลังก่อสร้าง โดยตามแผนการจะกำหนดเสร็จในสิ้นเดือนตุลาคม 2558 นี้ค่ะ มองตรงไปจะเห็นทางเข้าล็อบบี้ดูโอ่โถง ตัวชั้น 3 เป็นระเบียงปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้อาคาร โดยทั้งหมดทั้งมวลแล้วนี่ยังเป็นภาพบรรยากาศโครงการคร่าวๆที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี เดี๋ยวเราเข้าไปดูด้านในอาคารกันดีกว่าค่ะ

เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับ Lobby ที่โอ่โถงด้วยความสูงฝ้าเพดานเท่าตึก 2 ชั้น มีการตกแต่งด้วยโทนสีครีม-น้ำตาล-ทอง ให้อารมณ์ Luxury มาก ตรงกลางเป็นเคาท์เตอร์ Information ซึ่งตอนนี้โครงการยังไม่ได้โอนให้ลูกบ้านเข้าอยู่ จึงยังใช้เป็นส่วนหนึ่งของสำนักงานขายอยู่ค่ะ

มองไปทางขวามือจะเป็นที่วางโมเดลจำลองโครงการ

ส่วนทางซ้ายมือเป็นโถงพักคอย สำหรับนั่งเล่นหรือนั่งรอเพื่อน

Q-Asoke-227 copy

ถัดจากเคาท์เตอร์ต้อนรับจะเป็นโถงลิฟต์ ส่วนด้านซ้ายมือจะมีทางไปยังห้องน้ำสาธารณะและห้องจดหมาย

โดยทางเดินไปยังห้องน้ำสาธารณะและห้องจดหมายจะเป็นทางยาวกว้างประมาณ 2 เมตร

พอเดินเข้ามาและมองไปทางขวามือจะเจอห้องจดหมาย ที่มีแท่นกระจกวางอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วย Mail Box 400 กว่าช่อง

ถัดจากห้องจดหมายจะเป็นห้องน้ำสาธารณะแยกชาย-หญิงที่อยู่ทางขวามือ เดี๋ยวเราจะพาเข้าไปดูในห้องน้ำหญิงนะคะ

พอเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับเคาท์เตอร์อ่างล้างมือท็อปแกรนิตสีดำ มีอ่างล้างหน้าจำนวน 2 อ่าง

ทางขวามือเป็นส่วนของห้องส้วมมีให้ทั้งหมด 3 ห้อง

ออกมาที่หน้าโถงลิฟต์เดี๋ยวเราจะพาขึ้นไปดูชั้น 8 ซึ่งเป็นชั้น Facilities หลักค่ะ โดยหากจะเข้าอาคารต้อง Scan Keycard ตรงจุดสีดำนี้ก่อนนะคะ

พอเข้ามาแล้วถ้าต้องการจะออกจากอาคาร ให้กดปุ่มสีขาวตรงนี้ประตูก็จะเปิดออกค่ะ

เข้ามาในโถงลิฟต์ก็ยังคงใช้โทนสีครีม-ทอง-ดำ ความโดดเด่นอยู่ที่แชนเดอเลียด้านบนทำให้ดูหรูหราขึ้นมากเลย ลิฟต์มีทั้งหมด 4 ตัว แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งละ 2 ตัว

หน้าตาของลิฟต์ด้านนอกและด้านในเป็นแบบนี้ค่ะ ข้างในมีกระจกเงาให้ส่องได้เต็มตัวเลย

ปุ่มกดลิฟต์

8th1

เรามาดูผังอาคารในชั้น 8 กันก่อนนะคะ ในชั้นนี้จะเป็นพื้นที่ Facilities เกือบเต็มชั้น โดยจะมีห้องพักอาศัยทางทิศเหนืออยู่แค่ 5 ยูนิต ทางเดินในอาคารเป็นแบบ Double Corridor มีลิฟต์โดยสารให้ทั้งหมด 4 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนลิฟต์ 120 : 1  ซึ่งถือว่าค่อนข้างหนาแน่น และให้มาน้อยเมื่อเทียบกับระดับราคาระดับนี้ นึกภาพว่าตอนเช้าในเวลาเร่งรีบต้องต่อแถวลงลิฟต์มาพร้อมๆกันนี่คงรอนานน่าดู ต้องเผื่อเวลาดีๆ ส่วนบันไดหนีไฟมีให้ 2 จุด

โดย Facilities ในชั้นนี้จะประกอบด้วยสระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 8 เมตร ยาว 25 เมตร ลึก 1.2 เมตร, สวนหย่อม, ห้องออกกำลังกาย, ห้องสมุด, ห้องนั่งเล่นอเนกประสงค์ และห้องน้ำสาธารณะแยกชาย-หญิง

ขึ้นมาที่ชั้น 8 โถงลิฟต์จะค่อนข้างโปร่ง แสงธรรมชาติเข้าเยอะ มองตรงไปจะเห็นทางออกสู่สระว่ายน้ำ

ทางซ้ายมือจะเป็นทางเดินไปห้องนั่งเล่นอเนกประสงค์และสุดทางเป็นห้อง Fitness

ส่วนทางซ้ายมือสามารถเดินไปยังห้องพักอาศัย มีประตูกั้นไว้เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้านในชั้นนี้ หากจะเข้าก็ต้องสแกนคีย์การ์ดเอาค่ะ เดี๋ยวเราจะเดินออกประตูทางขวามือเพื่อไปดูส่วนสระว่ายน้ำกัน

ออกจากประตูมาจะเจอสวนสไตล์อังกฤษ ค่อนข้างร่มรื่น

ลองมองกลับไปทางซ้ายมือจะเป็นห้องอเนกประสงค์ ส่วนทางขวามือจะมีการตกแต่งผนังด้วยสีเทา-ทอง สไตล์คลาสสิค

โดยตรงโถงทางเข้านี้จะค่อนข้างโปร่งเพราะเป็น Void  ของตึก ทำให้ฝ้าเพดานสูงชะลูดไปถึงชั้น 10  เลยค่ะ

ทางเดินไปยังสวนกว้างประมาณ 2 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค สลับกับแกรนิตโต้มันเงา เวลาเดินต้องระวังลื่นกันด้วยนะคะ

ทางซ้ายมือเป็นทางเข้าห้องสมุด และห้องนั่งเล่น ซึ่งตอนนี้ห้องสมุดเสร็จแล้วเดี๋ยวพาเข้าไปดูกัน

เปิดเข้ามาก็จะเจอห้องสมุด ที่มีชั้น Built-in ให้วางหนังสือและมีชุดโต๊ะ-เก้าอี้ นั่งทำงานประมาณ 4 ชุด สามารถนั่งได้ประมาณ 4 คนต่อโต๊ะ รวมแล้วรองรับคนได้ประมาณ 16 คนกำลังดี

ออกมาเราจะเจอส่วนของสระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 8 เมตร ยาว 25 เมตร ลึก 1.2 เมตร

รอบๆสระจะมีน้ำผุดปุดๆออกมาตลอดเวลา เนื่องจากมีการติดตั้งระบบจากุชชี่รอบสระ ทำให้สามารถนั้งเล่นผ่อนคลายได้เหมือนอยู่ในอ่างจากุชชี่ขนาดใหญ่

ริมสระว่ายนำ้มีสวนขนาดเล็ก เพิ่มความร่มรื่นให้บรรยากาศริมสระว่ายน้ำ

ทางลงสระจะอยู่ตลอดแนวทางเดินริมสระแบบนี้เลย ทำให้สามารถขึ้น-ลง สระได้หลายจุด

เดินมานิดเดียวจะเจอกับโถงหน้าห้องนั่งเล่นอเนกประสงค์

โดยทางเข้าห้องนั่งเล่นอเนกประสงค์จะเป็นประตูกระจกบานเปิด 2 ประตู

เปิดเข้ามาจะเห็นประตูอีก 2  ประตูอยู่ฝั่งตรงข้าม ใช้สำหรับเดินเข้า-ออกจากทางเดินในตึก

ฝั่งซ้ายมือจะเป็นเคาท์เตอร์ที่สำรองไว้ให้เผื่อมีการปาร์ตี้

ส่วนทางขวามือจะเป็นส่วนนั่งเล่น ที่มีชุดโต๊ะ-เก้าอี้ โซฟา รองรับไว้ให้หลายชุด

มองกลับไปทางที่เราเข้ามาก็จะเห็นว่า ห้องนี้สามารถนั่งเล่นมองวิวสระว่ายน้ำได้ชิวๆ

ออกมาจากห้องนั่งเล่นอเนกประสงค์จะมีที่ล้างตัวแบบ Outdoor ให้  1 จุด

เดินต่อไปจะเป็นส่วนโถงหน้าห้อง Fitness

ซึ่งสระว่ายน้ำที่อยู่หน้าห้อง Fitness จะเป็นส่วนของสระเด็ก

โดยปกติแล้วเราจะชอบเห็นสระว่ายน้ำที่เห็นวิวต่อเนื่องกับทะเล วิวแม่น้ำเจ้าพระยาใช่ไหมคะ แต่ที่นี่เป็นวิวสระว่ายน้ำที่เห็นวิวต่อเนื่องกับ…คลองแสนแสบค่ะ นั่นไง เรือมาพอดีเลย 🙂

มาดูทางห้อง fitness กันบ้าง ประตูทางเข้าเป็นประตูกระจกบานใหญ่ค่อนข้างโปร่งทีเดียว

เข้ามาในห้อง Fitness ใช้โทนสีครีม-เทา ตกแต่งด้วยไฟซ่อนสีเหลืองอมส้ม ที่พื้นมีการปูพรมช่วยลดแรงกระแทกได้เล็กน้อย บรรยากาศโดยรวมค่อนข้างโปร่งดี เพราะผนังรอบๆบุด้วยกระจกเงา ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นและสามารถส่องดูหุ่นเราได้  ส่วนมองตรงไปจะเป็นกระจกใสให้มองวิวขณะออกกำลังกาย

วิวที่ได้ก็จะเป็นวิวเมือง และเห็นตึกสีส้มๆของ Villa Asoke คอนโดใกล้ๆเคียงค่ะ ด้านซ้ายมือมีประตูให้เปิดออกไปรับลมที่ระเบียงได้

ส่วนทางขวามือมีตู้ Built-in ให้สามารถวางของและโซฟาสำหรับนั่งพักผ่อน และมีประตูกระจกที่สามารถเปิดออกไปยังโถงทางเดิน เพื่ออกไปยังโถงลิฟต์เพื่อกลับไปยังห้องพักได้

เปิดประตูเล็กของห้องออกกำลังกายออกมา จะเจอโถงทางเดินภายในอาคารค่ะ

มาดูที่ Typical Floor Plan กันนะคะ พอจากชั้น 9 ขึ้นมาก็จะเป็นส่วนของชั้นพักอาศัยแล้วซึ่งสำหรับ Q Asoke นี้จะมีแปลนที่แตกต่างกันออกไปแทบจะทุกๆ 10 ชั้น เนื่องจากตัวอาคารที่มีการเล่น Void เพิ่มลูกเล่นให้รูปด้านอาคาร จึงมีการเพิ่มลดชั้นเพื่อความสวยงาม โดยหลักๆแล้วชั้นพักอาศัยอย่างเช่น

ในชั้น 19-30 นี้จะมีทางเดินในอาคารเป็นแบบ Double Corridor มีลิฟต์โดยสาร 4 ตัวและลิฟต์เซอร์วิส 1 ตัวและบันไดหนีไฟ  2 จุด ในชั้นนี้จะมีห้องทั้งหมด 17 ยูนิต แบ่งเป็นห้องแบบ 1 Bedroom จำนวน 13 ห้อง, Studio จำนวน 2 ห้อง และแบบ 2 Bedroom จำนวน 2 ห้อง

ส่วนในชั้น 37-39 นี้ รูปร่างจะเปลี่ยนแปลงไปจากชั้น 19-30 เนื่องมาจากการออกแบบรูปร่างอาคาร และการเปลี่ยน Type ห้อง โดยในชั้นนี้เป็นชั้นสูง วิวดี จึงมีห้องพัก Type ใหญ่เพิ่มมามากขึ้น โดยมีห้องพักทั้งหมด 10 ห้อง ประกอบด้วย ห้องแบบ 1 Bedroom จำนวน 3 ห้อง, Studio จำนวน 2 ห้อง,2  Bedroom จำนวน 2 ห้อง และ 3 Bedroom จำนวน 3 ห้อง

แผนที่วิว

ต่อมาเราจะพาไปดูวิวจากตึกของ Q Asoke โดยเริ่มจาก จุด A, B, C…. ไปจนถึง G ค่ะ

จุด A วิวจากทิศตะวันออก จะเห็นพื้นที่ว่างเปล่าที่เตรียมสร้าง Singha Complex ตึกสีเทาของ Supalai Premier Asoke ส่วนตึกสีเหลืองๆที่อยู่ถัดไปเป็นตึกของ My Resort Bangkok

จุด B วิวทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ จะเห็นหลังคาสีส้มๆของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

จุด C วิวทางทิศใต้ จะเห็นวิวทางฝั่งอโศกไปทางฝั่งสุขุมวิท ที่มีตึกสูงค่อนข้างหนาแน่น อาคารที่บล็อกวิวในด้านนี้คือตึก 253 Asoke และตึกสูงที่อยู่ถัดไปอีกมากมายเลย

จุด D วิวทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะเห็นโรงเรียนนานาชาติ NIST International School และตึกสูงทางฝั่งสุขุมวิท

จุด E วิวทางทิศตะวันตก จะเจ๊ะเอ๋กับตึกสีส้มของ Villa Asoke เต็มๆ

จุด F วิวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะเห็นตึกของ  The Address Asoke ที่มี Background เป็น Airport Rail Link มักกะสัน

จุด G วิวทางทิศเหนือ จะเห็น Airport Rail Link, ทางด่วน และวิวเมืองทางฝั่งพระราม 9

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 8 เมตร ยาว 25 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
  • ห้องสมุด
  • ห้องนั่งเล่นอเนกประสงค์
  • Lobby ชั้นล่าง
  • Lobby ขนาดใหญ่ที่ชั้นส่วนกลาง
  • สวนหย่อมรอบโครงการ และที่ชั้น 40, 41
  • ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว ต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์ 120:1
  • ระบบ CCTV / Access Card
  • ที่จอดรถประมาณ  310 คัน รวมจอดซ้อนคัน 390 คัน คิดเป็น 80% 
  • ที่จอดรถใช้สติ๊กเกอร์ โดย ห้อง Studio – 2 Bedroom ได้ 1 สติ๊กเกอร์
    ห้อง 3   Bedroom น้อยกว่า 100  ตร.ม.  ได้ 2 สติ๊กเกอร์,
    ห้อง 3 Bedroom มากกว่า 100 ตร.ม.  ได้ 3 สติ๊กเกอร์


Product Walkthrough

โครงการจะมีห้องทั้งหมด 5แบบ คือ

  • ห้อง Studio ขนาด  30 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom  ขนาด 37 – 48 ตารางเมตร
  • 2 Bedroom  ขนาด 59 – 69 ตารางเมตร
  • 3 Bedroom ขนาด 89 – 137 ตารางเมตร
  • Penthouse ขนาด  269 ตารางเมตร

โครงการขายแบบ Fully Furnished โดยห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปดูในวันนี้ เป็นห้อง 1 Bedroom ซึ่งเป็นห้องตัวอย่างเดียวในอาคาร และตอนนี้โครงการขายเกือบหมดแล้ว เหลือเพียง 9 ยูนิตสุดท้ายเท่านั้น โดยจะเริ่มให้ลูกบ้านทยอยโอนและเข้าอยู่ในเดือนพฤศจิกายน 2558 นี้ค่ะ

QAsoke plan unit

เรามาเริ่มกันที่ห้องแบบ 1 Bedrooms ขนาด 44.75 ตารางเมตร  เหมาะการอยู่อาศัย 1-2 คน ถ้ามากกว่านี้ก็เริ่มอึดอัดแล้วค่ะ พื้นที่ใช้สอยของห้องนี้ค่อนข้างครบและ Fix ปรับเปลี่ยนพื้นที่ไม่ได้มากนัก โดยเมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาเราจะเจอกับครัวเปิดที่มีการ Built-in เคาท์เตอร์รูปตัว U ให้เป็น Pantry ประกอบอาหาร และโต๊ะนั่งรับประทานอาหารได้ประมาณ 2-3 ที่นั่ง ถัดไปเป็นห้องรับแขก ที่โครงการแถมโซฟาขนาด 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางให้ขนาดพอดีๆกับพื้นที่ ถัดไปเป็นระเบียงให้สามารถออกไปนั่งเล่นมองวิวได้ มีการแยกพื้นที่วาง Compressor แอร์ให้เป็นสัดส่วน โดยเป่าลงร้อนออกนอกอาคารทำให้ขณะเปิดแอร์ระเบียงไม่ร้อน ติดกันเป็นห้องนอน ที่โครงการจัดเตียงขนาด 6 ฟุตมาให้ นอนได้ 2 คนกำลังดี โดยมีการ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งมาให้พร้อมห้องน้ำในตัวที่สามารถเปิดประตูบานเลื่อนออกไปทะลุห้องนั่งเล่นได้

โดยรวมแล้ว ฟังก์ชั่นของห้องนี้จะมีจุดเด่นที่ห้องน้ำ จำนวน 1 ห้อง แต่มีทางเข้าออกได้ 2 ทาง คือทางห้องครัว และห้องนอนด้านที่ติดต่อกับห้องครัวเป็นห้องส้วม ส่วนด้านที่ติดต่อกับห้องนอนจะเป็นห้องอาบน้ำ โดยมีฉากกั้นกระจกบานเลื่อนเป็นตัวแบ่งพื้นที่ ถือว่าเป็นสัดเป็นส่วนดี เพียงแต่ห้องส้วมจะเล็กไปสักหน่อย อาจไม่ค่อยเหมาะสำหรับคนตัวใหญ่หรือคนที่ชอบนั่งส้วมกว้างๆ

เฟอร์นิเจอร์ที่แถม : ให้เฟอร์นิเจอร์แต่งครบชุดทั้งลอยตัวและ Built-in , ชุดครัว, ตู้อาบน้ำ, วอลล์เปเปอร์ และอ่างอาบน้ำ

ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าแถม : เตา, เครื่องดูดควัน, ไมโครเวฟ และแอร์แบบฝังฝ้าเพดานค่ะ

ต้องบอกก่อนว่าสเปควัสดุห้องโดยมาตรฐานจะให้มาประมาณนี้ แต่สำหรับใครที่ซื้อห้องตัวอย่าง (เช่นห้องที่เรากำลังจะพาเข้าไปดู) จะแถม Prop ในห้องให้ทั้งหมด โดยราคาจะเพิ่มขึ้นมากกว่าห้องอื่น 600,000 บาทค่ะ

มองลงมาที่พื้นมีการปิดคิ้วรอยต่อของพื้นห้องและพื้นโถงทางเดินอาคารด้วยคิ้วลายไม้เรียบร้อย ส่วนพื้นห้องครัวถึงห้องรับแขกปูด้วย Engineering Wood หน้าปิดผิวไม้จริง

ตรงทางเข้าจะมีตู้  Built-in ถึงฝ้าเพดานมาให้ ซึ่งตู้นี้มีประโยชน์มากในการวางของที่ต้องใช้ก่อนออกจากห้อง โดยชั้นล่างจะเป็นชั้นวางรองเท้าประมาณ 3 ชั้น ตัวชั้นวางเป็นร่องโปร่ง ตรงกลางเป็นชั้นวางของพร้อมติดตั้งที่แขวนกุญแจมาให้ด้วย 4 ตัว สามารถแขวนแยกได้ทั้งกุญแจบ้าน กุญแจรถ ฯลฯ ที่ผนังเป็นกระจกสามารถแปะโน๊ตกันลืมได้ ส่วนตู้ชั้นบนเป็นชั้นวางของอเนกประสงค์ 3 ชั้น

ที่ตู้ด้านบนจะมีสวิตซ์ไฟอันเล็กๆสีดำไว้ให้สำหรับเปิด-ปิดไฟซ่อนที่โครงการติดตั้งมาให้ ตัวหลอดไฟเป็นหลอดฟลูออเรสเซนต์สีส้มธรรมดา หากหลอดมีปัญหาก็สามารถซื้อมาเปลี่ยนเองได้ไม่ยากค่ะ

บานพับที่ติดตั้งมาให้เป็นแบบ Soft Closed ทั้งหมด

ข้างๆกันเป็นตู้ครัว Built-in หน้าบานเป็น Hi gloss ทั้งหมด ตู้ด้านบนเปิดออกมาเป็นช่องติดเมนบอร์ดไฟ ด้านล่างเป็นช่องให้สามารถวางตู้เย็นขนาด 0.60 x 0.75 เมตร สูง 1.80 เมตร ข้างๆกันเป็นช่องว่างสำหรับวางเครื่องเครื่องซักผ้าฝาหน้า ขนาด 0.60 x 0.60 เมตร สูง 0.89 เมตร ส่วนเตาไมโครเวฟโครงการแถมให้ด้วย

เตาไมโครเวฟที่โครงการให้มาเป็นของ Teka ค่ะ

ช่วงมุมของตู้มีการทำชั้นวางของให้เล็กน้อย

อีกด้านเป็นส่วนทำครัวตู้ Built-in มาให้เก็บของได้เยอะพอสมควรเลย ผนังครัวจะเป็นผนังกระจกสีดำง่ายต่อการทำความสะอาดเวลาล้างจานหรือประกอบอาหาร

ซิงค์ล้างจานทรงสี่เหลี่ยมขนาดปานกลางของ Teka สามารถล้างจานโดยมีที่พอให้วางชามใส่อาหารได้ 2 ใบ พร้อมถ้วยน้ำจิ้ม 2 ถ้วยพอดี

ก็อกน้ำทรงโค้งหมุนได้ซ้ายขวาของ Teka เหมือนกัน

เตาแม่เหล็กไฟฟ้าวางหม้อต้มได้ 2 หม้อ และที่ดูดควันของ  Teka

ข้างๆกันเป็นโต๊ะรับประทานอาหารที่ Built-in ติดกับตู้ครัวขนาด 1.40 x 0.60 เมตร พร้อมเก้าอี้บุหนังเทียมสีขาว 2 ตัว

โดยสามารถจัดวางการนั่งได้หลากหลาย หากนั่งอยู่ด้านในเคาท์เตอร์ครัว จะมีระยะนั่ง 1.20 เมตรสบายๆ ส่วนหากนั่ง 2 คนเบียดกันเกินไป คนนึงจะเปลี่ยนมานั่งที่หัวโต๊ะก็ได้ โดยระยะจากหัวโต๊ะถึงผนังมีระยะ 1.50 เมตร นั่งได้สบายๆ

ฝั่งตรงข้ามกับครัวเป็นห้องน้ำใช้ประตูบานเลื่อนบุลามิเนตลายไม้ฝังรางด้านบน จึงไม่มีธรณีประตูรางเลื่อนมากวนใจค่ะ

เข้ามาในห้องน้ำจะเจอกับประตูฝ้าเพื่อเปิดออกไปอีกห้องหนึ่ง เป็น Double Access Bathroom

ซ้ายมือเป็นเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าแบบลอยตัว ที่ผนังติดตั้งกระจกเงามาให้

ก็อกน้ำสแตนเลสหมุนได้ซ้ายขวาของ Grohe

ฝั่งตรงข้ามเป็นโถสุขภัณฑ์ของ American Standard

มีสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่ให้เรียบร้อย

ประตูกระจกฝ้าที่เราเห็นในตอนแรก เมื่อเปิดออกมาก็จะเจอกับส่วนของห้องอาบน้ำค่ะ

Q Asoke 28

ตัวล็อกประตูหมุนขึ้นเพื่อล็อกแบบนี้นะ

มองไปทางซ้ายมือจะเป็นประตู เปิดออกไปสู่ห้องนอนได้

ส่วนทางขวามือเป็นเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าที่ Built-in กระจกเงาแบบเปิดเป็นตู้เก็บของใช้ในห้องน้ำได้ และเคาท์เตอร์ด้านล่างก็เปิดเก็บของได้เช่นกัน

ท็อปเคาท์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์ อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าของ American Standard,  ก็อกน้ำของ Grohe ที่ผนังติดตั้งเต้ารับแบบกันน้ำไว้ให้ด้วย เผื่อเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ไดร์เป่าผม

ถัดไปเป็นส่วนของห้องอาบน้ำขนาด 1.70 x 1.90 เมตร ขนาดกว้างดี

ประตูกั้นห้องอาบน้ำเป็น Tempered Glass บานเปิดเดี่ยว มือจับสแตนเลสค่อนข้างใหญ่

มือจับประตูห้องอาบน้ำใหญ่ดี

มีการยกธรณีประตูขึ้นเล็กน้อยเพื่อไม่ให้น้ำจากส่วนอาบน้ำไหลมาเปียกส่วนแห้ง โดยพื้นที่ของห้องอาบน้ำนี้จะแบ่งเป็นส่วนนอนแช่ตัวบนอ่างอาบน้ำ และส่วนยืนอาบน้ำที่พื้นเป็นกระเบื้องเซรามิคตัดกับโมเสก

อ่างอาบน้ำขนาด 1.70 x 0.75 เมตร ก่อท็อปกระเบื้องเซรามิคมาให้พอวางของได้เล็กน้อยตรงขอบอ่าง

โดยส่วนอาบน้ำและอ่างอาบน้ำจะมีกระจกใสเล็กๆเป็นตัวกั้นพื้นที่ มีฝักบัวให้ทั้ง 2 ส่วน โดยส่วนยืนอาบน้ำจะเป็นชุดฝักบัวพร้อม Rain Shower และส่วนอ่างอาบน้ำจะเป็นชุดฝักบัวอย่างเดียว

ฝักบัวขนาดใหญ่ทีเดียว

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานมีการติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ พร้อมพัดลมระบายอากาศค่ะ

ถัดไปเป็นส่วนของห้องรับแขกที่โครงการ Built-in ตู้วางทีวี รวมทั้งแถมโซฟาและโต๊ะกลางให้ ระยะดูทีวีประมาณ 3.20 เมตร สามารถวางทีวีขนาด  60″  ได้สบายๆ ถัดไปเป็นประตูกระจกเต็มบาน สามารถนั่งมองวิวจากตรงนี้และใช้เดินออกไปสู่ระเบียงได้

โซฟาที่โครงการแถมให้ เป็นโซฟา 2 ที่นั่ง ขนาด 1.80 x 0.85 เมตร โต๊ะกลางเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีขาว ค่อนข้างเตี้ย

โดยระยะห่างระหว่างโซฟากับโต๊ะรับประทานอาหารมีระยะประมาณ 0.70 เมตร สามารถวางโต๊ะเตี้ยๆขนาด 0.50 x 0.50 เมตร หรือจะวางโคมไฟตั้งพื้นก็ได้ค่ะ

 

ฝั่งตรงข้ามกันเป็นชุดตู้วางทีวี Built-in ด้านล่างเป็นลิ้นชัก 3 ตอน หน้าบานบุด้วยลามิเนตลายไม้สีอ่อน ส่วนตู้ด้านบนเป็นบานเปิด 3  ตอนเช่นกัน แต่หน้าบานเป็นกระจกสีชาดำซ่อนไฟให้ด้วย เหมาะกับทำเป็นตู้โชว์ของสวยๆ

ตู้วางทีวีหน้าบานค่อนข้างเรียบไม่มีมือจับ เวลาปิด-เปิดจะใช้การจับแบบนี้ค่ะ

เวลาเปิดผ้านม่านออกหมด แสงธรรมชาติจะเข้าห้องนี้ดีมากเนื่องจากประตูทางออกระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อนคู่ที่ค่อนข้างโปร่ง สามารถมองวิวภายนอกได้เต็มตา

ตัวบานประตูเป็นกระจกใสเขียวตัดแสง กรอบอลูมิเนียม Powder Coated มีครีบเพื่อกันแรงต้านของลม

ซูมให้ดูกรอบประตูอลูมิเนียม Powder Coated พร้อมซีลกันฝุ่น ของ Technal ตัวล็อกตามภาพเลยค่ะ

มองลงไปที่พื้นมีธรณีรางเลื่อนประตูขึ้นมาเล็กน้อย ระเบียงมีพื้นที่ 0.85 x 2.40 เมตร (ไม่รวมพื้นที่วาง Compressor แอร์)พื้นระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิคสีเทา ราวระเบียงก่อปูนขึ้นมาและเป็นเหล็กโปร่งสีเทา สูง 1.09 เมตร

มองไปทางซ้ายมือเป็นที่วาง Compressor แอร์ได้ 2 เครื่องหันออกนอกอาคารทำให้ระเบียงไม่ร้อน และมีประตูกั้นให้เรียบร้อยเป็นสัดส่วนดี

ส่วนทางขวามือเป็นผนังทึบมีก็อกน้ำติดตั้งมาให้เผื่อใช้งานที่ระเบียง

ถ้าสังเกตดีๆที่ผนังปูนฝั่งราวระเบียงจะมีการเจาะที่ด้านล่างเพื่อให้น้ำไหลออกค่ะ ดังนั้นถ้าระดับน้ำที่นองพื้นสูงไม่ถึงเจ้ารูระบายน้ำนี้ ก็อาจจะเกิดภาวะมีน้ำค้างอยู่ที่พื้นบ้างเล็กน้อย

เนื่องจากห้องนี้อยู่ทางทิศตะวันออกด้านสระว่ายน้ำ พอมองลงไปด้านล่างเลยเห็นวิวสระว่ายน้ำเต็มๆ

ส่วนวิวข้างหน้าก็จะเป็นพื้นที่ก่อสร้าง Singha Complex, คลองแสนแสบ และตึก Supalai Premier Asoke

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดาน โครงการติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ 1 ดวง

จากระเบียงมองเข้ามาในห้อง ก็จะได้มุมมองแบบนี้ค่ะ

ถัดไปเป็นห้องนอน โครงการใช้ประตูสำเร็จรูปลายไม้ มือจับก้านโยกสแตนเลส

พื้นห้องนอนเป็น Engineering wood ลายเดียวกับห้องรับแขก มีการปิดคิ้วรอยต่อเรียบร้อย

เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องนอนขนาดห้องนอนขนาด 3.30 x 3.40 เมตร ขนาดของห้องไม่ใหญ่มากแต่โครงการจัดฟังก์ชั่นและวางเฟอร์นิเจอร์ให้ห้องนี้ค่อนข้างครบ ทั้งเตียงนอนขนาดสำหรับ 2 คน โต๊ะเครื่องแป้ง ชุดวางทีวี และตู้เสื้อผ้า

เตียงที่โครงการให้มาเป็นเตียง King size ขนาด 6 ฟุต พื้นที่ข้างเตียงเป็นลิ้นชัก 2 ตอน สามารถเปิดออกมาใส่ของได้

ข้างเตียงเป็นโต๊ะเครื่องแป้งที่โครงการ Built-in มาให้

พื้นที่ปลายเตียงโครงการ Built-in ชั้นวางของทั้งด้านล่างและด้านบน พร้อมโต๊ะทำงานและเก้าอี้มาให้

โดยพื้นที่ทางเดินมีขนาด 0.68  เมตร เมื่อเปิดลิ้นชักออกมาจะเหลือทางเดินค่อนข้างน้อย ที่ด้านล่างตู้มีการซ่อนไว้สีส้มให้ด้วยเป็นหลอดฟลูออเรสเซนส์เหมือนส่วนอื่นๆ

ห้องนี้มีหน้าต่างกระจกค่อนข้างใหญ่ แบ่งเป็นช่องใหญ่จะเป็นบาน Fix สามารถมองวิวได้เต็มตาและทางด้านขวาจะเป็นบานเปิด เอาไว้เปิดรับลม

หน้าต่างบานเปิดค่ะ

มือจับเป็นก้านโยกแบบนี้

จากหน้าต่างห้องมองกลับไปจะเห็นส่วนของตู้เสื้อผ้าและประตูทางเข้าห้องน้ำ

พอมองขึ้นไปด้านบนจะเป็นแอร์ฝังฝ้าเพดานที่โครงการติดตั้งมาให้ด้วย

ตู้เสื้อผ้าเป็นบานไม้สีอ่อน ด้านหน้าเป็นบานเลื่อนสำหรับเก็บเสื้อผ้า ส่วนด้านข้างทางขวามือเป็นตู้โชว์และเก็บของ

โดยตู้ชั้นล่างสามารถเปิดออกมาเก็บของได้ 2 ชั้น ส่วนด้านบนเป็นชั้นกระจก วางของสวยๆงามๆตั้งโชว์ได้

ส่วนตู้เสื้อผ้าด้านในจะมีฟังก์ชั่นครบ ทั้งแขวนผ้า ลิ้นชักเก็บของ และมีไฟซ่อนให้ด้านในด้วย

ข้างๆกันเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ เป็นบานสำเร็จรูปลายไม้ มือจับก้านโยกสแตนเลส

พอเปิดประตูห้องน้ำเข้ามาก็จะเป็นห้องน้ำที่เราได้พาไปดูในช่วงแรกค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 13 October 2015  

  • 1 Bedroom  ชั้น 19 ห้อง 1907 เนื้อที่ 44.97 ตร.ม. ราคา 9,144,989 บาท หรือ 203,352 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom  ชั้น 22 ห้อง 2212 เนื้อที่ 44.99 ตร.ม. ราคา 7,900,000 บาท หรือ 175,595 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom  ชั้น 25 ห้อง 2512 เนื้อที่ 44.99 ตร.ม. ราคา 7,900,000 บาท หรือ 175,595 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom  ชั้น 28 ห้อง 2812 เนื้อที่ 44.99 ตร.ม. ราคา 7,900,000 บาท หรือ 175,595 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom  ชั้น 28 ห้อง 2807 เนื้อที่ 45.29 ตร.ม. ราคา 8,519,185 บาท หรือ 188,108 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedroom  ชั้น 39 ห้อง 3909 เนื้อที่ 69.53 ตร.ม. ราคา 15,337,553 บาท หรือ 220,589 บาท/ตร.ม.

 

  • Fully Furnished
  • เพดานสูง 3 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 100,000 บาท
  • ทำสัญญา 8% ของราคาห้อง
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลของโครงการ Q Asoke จัดว่าเป็นทำเลที่ดีมากแห่งหนึ่ง หน้าโครงการอยู่ติดถนนใหญ่เพชรบุรีตัดใหม่ ช่วงสี่แยกอโศก-เพชรบุรีพอดิบพอดี ติดรถไฟฟ้า MRT สถานีเพชรบุรีแบบแค่เปิดประตูตึกออกไปก็ถึงเลย ทำให้เป็นทำเลที่มีศักยภาพมากแห่งหนึ่ง แต่ทำเลนี้ก็ไม่ใช่ทำเลที่งามสุดๆมีแต่ข้อดีอย่างเดียวนะคะ มีข้อเสียอยู่บ้างเหมือนกัน เช่นสะพานข้ามแยกเลยทางเข้าตึกและบดบังตัวตึกบางส่วน, ทางเข้าตึกอยู่กระชั้นกับจุดกลับรถมากเกินไป และด้านหลังของแปลงที่ดินก็ติดคลองแสนแสบ เมื่อเทียบทำเลกับราคาขายที่ตั้งไว้ 175,000 บาทต่อตารางเมตร จึงราคาค่อนข้างสูงอยู่เหมือนกัน

วิวของตึกนี้จะโดดเด่นช่วงทิศเหนือ ที่จะเปิดโล่งมองออกไปบริเวณพื้นที่สีเขียวมักกะสัน ซึ่งเป็นพื้นที่ของการรถไฟ แต่วิวทิศตะวันตกนั้นจะถูกบดบังด้วยตึก Villa อโศกไปส่วนหนึ่ง วิวทิศใต้ก็จะมองไปทางถนนอโศกซึ่งมีตึกสูงอยู่พอควร วิวทิศตะวันออกก็จะมองไปเจอตึก Supalai Premier Asoke ส่วนวิวเยื้องๆกันนั้นก็คือตึก The Address อโศก อันนี้ไม่ค่อยมีผลเท่าไรค่ะ ดังนั้นทิศที่เราแนะนำก็น่าจะเป็นทิศเหนือหรือใต้ที่อยู่เลยชั้น 15 ไปแล้วค่ะ

การเดินทางด้วยรถยนต์นั้นโอเค แม้ว่าโครงการจะอยู่กระชั้นจุดกลับรถใต้สะพาน แต่ก็ยังสามารถเลี้ยวแล้ววิ่งตรงเข้าโครงการได้ ทำให้การเดินทางโดยใช้รถยนต์ออกมาใกล้เคียงกับตึกเพื่อนบ้านอย่าง Villa Asoke แต่สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถ ต้องบอกว่า Q Asoke อยู่ติดกับทางขึ้นลง MRT ซึ่งจะสะดวกสบายกว่า ส่วนที่จอดรถนั้นมีให้ราว 80% แบบรวมจอดซ้อนคัน จัดว่าค่อนข้างดีเมื่อเทียบคอนโดติดรถไฟฟ้าโครงการอื่นๆ

วัสดุของ Q Asoke ให้แบบ Fully Furnished ซึ่งจัดมาโอเค ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร แอร์ส่วนใหญ่จะเก็บซ่อนมิดชิด มี Wall Type เฉพาะห้องเล็ก สุขภัณฑ์ใช้ของดี มีอ่างน้ำเรียบร้อยทั้งแบบ 1 Bedroom หรือ 2 Bedrooms เฟอร์นิเจอร์ได้ทุกชิ้นไม่ว่าจะเป็นลอยตัวหรือ Built-in ตั้งแต่โซฟา ครัว ยันโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งได้รับการออกแบบมาแล้วว่าใช้งานได้เหมาะสม โดยรวมจัดว่าเป็นจุดเด่นอีกหนึ่งจุดของโครงการนี้

การออกแบบนั้นทำออกมาสวยหรู ทั้งแบบห้องและตัวอาคาร โดยเฉพาะแบบห้อง 1 Bedroom ขนาด 45 ตารางเมตรที่ทำออกมาแล้วอยู่สบาย แต่อาจจะมีข้อติอยู่บ้างตรงที่ซอยห้องค่อนข้างเล็ก ทำให้จำนวนยูนิตต่อชั้นค่อนข้างสูง และอัตราส่วนลิฟท์สูงถึง 120:1 ทั้งๆที่เป็นคอนโดเกรด Luxury ทางเราจึงเห็นว่ามีความหนาแน่นสูงไปหน่อยสำหรับคอนโดราคานี้

สุดท้ายเรื่องสาธารณูปโภคจัดให้ที่ชั้น 8 เกือบเต็ม 1 Floor มีสระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 8 เมตร ยาว 25 เมตร ค่อนข้างใหญ่ดี ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ห้องสมุด ห้องนั่งเล่นอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ สวนหย่อมรอบโครงการ และที่ชั้น 40, 41 รวมทั้ง Lobby ที่โอ่โถงและหรูหรา เป็นหน้าเป็นตาได้ โดยรวมแล้วให้มาค่อนข้างโอเค ครบครันสำหรับ 482 ยูนิต ถ้าเทียบกับค่าส่วนกลางตารางเมตรละ 50 บาท แล้วก็ถือว่าสมเหตุสมผลและก็ไม่น่าจะลำบากนักสำหรับคนที่มีเงินซื้อคอนโดติดรถไฟฟ้าราคาตารางเมตรละ 180,000 บาท

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 180,000 บาท/ตร.ม., 13 Oct, 2015

  • ทำเล 7/10 -ตรงสี่แยกอโศก-เพชรบุรี
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 -สามารถเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง แต่ทางเข้ากระชั้นกับจุดกลับรถไปหน่อย และให้ที่จอดรถมาเยอะถ้าเทียบกับโครงการใกล้รถไฟฟ้าอื่นๆ
  • ไม่ใช้รถ 9/10 -ติด MRT ใกล้ Airport Link ติดท่าเรืออโศก(คลองแสนแสบ) และมีพี่วินอยู่ใกล้โครงการ
  • วัสดุ 8/10 -วัสดุดี ให้เฟอร์นิเจอร์มาเต็ม
  • แบบ 7/10 -มีหลากหลายแบบให้เลือก ห้องค่อนข้างเล็กถ้าเทียบกับราคา
  • สาธารณูปโภค 7.75/10 -Facilities ไม่ถือว่าเยอะสำหรับ 482 ยูนิต แต่ให้มาครบ ลิฟต์โดยสารหนาแน่นไปหน่อย

  • LUXURY CLASS
  • 7.6 / 10.00

BOTTOM LINE

Q Asoke เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดหรูติดรถไฟฟ้า MRT  มีตัวเลือกในการใช้ Airport Link และเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวบ้าง ชอบห้องที่มีดีไซน์โปร่ง เพดานสูง จัดฟังก์ชั่นและเฟอร์นิเจอร์มาให้แบบหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย ชอบโครงการที่ดูหรูหราให้ Facilities มาครบแต่ไม่เน้นใช้งานบ่อย  มีงบประมาณ 7.9-15.3 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 55,300-107,100 บาท/เดือน

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )