รีวิวฉบับที่ 1725 … คึกคักทีเดียวสำหรับทำเลใจกลางเมืองอย่างทองหล่อ-เอกมัย ที่มีโครงการใหม่ๆมาเปิดกันค่อนข้างเยอะในช่วง 1-2 ปีมานี้ ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่ในซอย สำหรับวันนี้เราจะพาไปชมทำเลคอนโด High Rise ติดถนนใหญ่ ใกล้ BTS ทองหล่อและเอกมัยกันกับ Hyde Heritage ทองหล่อ จาก Property Perfect ร่วมกับ Grand Asset และพันธมิตรจากญี่ปุ่น Sumitomo Forestry  โครงการนี้ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่สุขุมวิท ใกล้กับซอยซอยสุขุมวิท 59 ฝั่งตรงข้าม UNESCO  เลย สามารถเดินไปยังสถานี BTS ทองหล่อ และเอกมัยได้สะดวก เราไปเดินเล่นดูทำเลกันค่ะ

Hyde Heritage ทองหล่อ ข้อมูลเบื้องต้นคือเป็น คอนโด High Rise สูง 45 ชั้น 311 ยูนิต ที่จอดรถ 100% มาในสไตล์ Timeless ส่วนรายละเอียดอื่นๆอดใจรอกันอีกนิดนะคะ

ภาพจำลองบรรยากาศด้านหน้าโครงการอีกมุมหนึ่งค่ะ

แผนที่จากทางโครงการ จะเห็นว่าจุดเด่นคือที่ตั้งโครงการตั้งอยู่ติดกับถนนใหญ่เลย โดยจะอยู่ระหว่างสถานีรถไฟฟ้า BTS ระหว่างทองหล่อและเอกมัย ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารที่ตั้งของ UNESCO และอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าย่านทำเลทองหล่อ-เอกมัย นั้นมีความอุดมสมบูรณ์สูง เต็มไปด้วยสาธารณูปโภคและสาธารณูปการต่างๆไม่ว่าจะเป็น ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อมากมาย นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งรวมของสถานที่ท่องเที่ยวยามราตรีอีกด้วย ทำเลรอบๆโครงการจะเป็นยังไงไปชมกันได้เลยค่ะ

ที่ตั้งโครงการ Hyde Heritage ทองหล่อ ตั้งอยู่ติดถนนสุขุมวิท ฝั่งตรงข้าม UNESCO ใกล้กับซอยสุขุมวิท 59 และติดกับซอยชุมพล ซึ่งเป็นซอยที่ค่อนข้างเงียบสงบ จากที่ตั้งโครงการสามารถเข้าถึงซอยสุขุมวิท55 (ซอยทองหล่อ) และสุขุมวิท63 (ซอยเอกมัย) ได้ไม่ยาก สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการในระยะ 500 เมตร ถือว่าอยู่ในระดับที่มีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูง ตั้งแต่ระยะที่ใกล้กับโครงการ ซึ่งมีทั้งร้านอาหารชื่อดัง ร้านค้า , ร้านขายยา , มินิมาร์ท , ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven รวมถึงห้างอย่าง Gateway เอกมัย, Major เอกมัยให้มาเดินเล่นช้อปปิ้งกัน

ส่วนแหล่งความอุดมสมบูรณ์ในซอยสุขุมวิท 55 หรือซอยทองหล่อ และซอยสุขุมวิท63 หรือซอยเอกมัย ถือว่าเป็นทำเลยอดฮิต ที่จัดให้เป็นหนึ่งในทำเลที่มีค่าครองชีพและราคาที่ดินสูงที่สุดทำเลหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ทำเลนี้มีครบทั้งแหล่งที่อยู่อาศัย ธุรกิจการค้า แหล่งท่องเที่ยว ช้อปปิ้งและร้านอาหารระดับ Hi-end มากมาย มีความคึกคักทั้งในเวลากลางวันและมีสีสันมากขึ้นในเวลากลางคืน เป็นแหล่งรวมของร้านอาหาร Community Mall  ที่เน้น Lifestyle อย่างเช่น Park Lane, The Taste, The Commons , J Avenue เป็นต้น

นอกจากร้านอาหารและแหล่งช้อปปิ้งแล้วยังมีสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างโรงเรียน, โรงพยาบาล และสวนสาธารณะอยู่ใกล้เคียง เช่น โรงเรียนนานาชาติ Ekkamai International School, St.Andrews International School, โรงพยาบาลคามิลเลียน, โรงพยาบาลไทยคริสเตียน และ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท เป็นต้น

สำหรับใครที่มองหาห้างสรรพสินค้าให้เดินเล่นในวันหยุด ก็ไม่ต้องไปไหนไกลเพราะมี 2 ห้างใหญ่ในย่านไว้รองรับเรียบร้อย ทั้ง Major Cineplex เอกมัย ห้างเก่าแก่ในย่านนี้ที่เน้นไปที่โรงภาพยนต์ในชั้นบน และมีร้านอาหารแบรนด์ต่างๆ ในชั้นล่างให้ได้เลือกกิน ซึ่งจะไม่ได้เน้นไปที่ของแพงมากนัก ส่วนใหญ่คนที่เดินภายในจะเป็นวัยนักเรียน นักศึกษาในย่านค่อนข้างเยอะ หากใครไม่ชอบความวุ่นวายก็ขยับมาที่ Gateway เอกมัย ห้างที่เน้นเอาใจชาวญี่ปุ่น ด้วยสไตล์และร้านค้า ร้านอาหารภายในที่มีกลิ่นอายญี่ปุ่นชัดเจน ที่เป็นแบบนี้เพราะย่านเอกมัย-ทองหล่อปัจจุบันเรียกได้ว่าเป็นอีกย่านดังของชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงาน หรืออาศัยอยู่ในประเทศไทย และหลักๆ ที่เห็นเยอะเลยคือชาวญี่ปุ่นนี่เองค่ะ

มาดูการเดินทางโดยรถยนต์ของทำเลนี้กันบ้าง เนื่องจากโครงการอยู่ติดถนนสุขุมวิทการเดินทางจึงถือว่าค่อนข้างสะดวก โดยถนนสุขุมวิทนี้เป็นถนนสายหลักที่สำคัญของกรุงเทพฯ ถ้าใช้เส้นทางมุ่งหน้าไปทางฝั่งตะวันออกจะสามารถไปยังอ่อนนุช, บางนา ได้ หรือถ้าใช้เส้นทางไปยังฝั่งตะวันตกจะสามารถเชื่อมต่อไปยังย่าน CBD อย่างเพลินจิต หรือแหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตของวัยรุ่นอย่างสยามได้เลย จากที่ตั้งโครงการถ้ากลับรถไปทางซอยสุขุมวิทฝั่งเลขคู่จะมีซอยสุขุมวิท 42 , 40, 38 และสุขุมวิท 36 ที่เชื่อมต่อไปยังถนนพระราม 4 ได้ส่วนในซอยฝั่งเลขคี่อย่างซอยทองหล่อและซอยเอกมัย ท้ายซอยจะไปบรรจบกับถนนเพชรบุรีซึ่งเราสามารถใช้เส้นทาง ไปยังอโศก ประตูน้ำ ราชเทวี พญาไทได้ หรือออกเมืองไปยังถนนพัฒนาการได้ นอกจากนี้จากซอยทองหล่อซอยเอกมัยก็ใช้เส้นทางไปออกที่ถนนพระราม9 ถนนสุขุมวิทเป็นถนนเส้นหลักจึงมีการจราจรค่อนข้างติดทั้งในช่วงเช้าและช่วงเย็นจนถึงค่ำ อาจจะทำให้ต้องเผื่อเวลาในการเดินทางมากขึ้น จึงจำเป็นที่จะต้องรู้เส้นทางลัด ซอยต่างๆเพื่อประหยัดเวลาในการเดินทาง เช่นใช้ซอยทองหล่อ10 ไปเชื่อมกับซอยเอกมัย 12 ไปออกซอยสุขุมวิท71 หรือ ซอยปรีดี พนมยงค์ได้ หรือจะใช้ซอยทองหล่อ 10 เชื่อมต่อไปยังซอยทองหล่อ13 ทะลุไปออกถนนเพชรบุรีได้อีกเส้นทางนึงค่ะ

สำหรับใครที่ต้องการใช้ทางด่วน ก็จะมีทางด่วนที่สามรถเดินทางไปขึ้นได้ง่ายอยู่ 2 เส้นทาง ดังนี้

  • ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ (ทางพิเศษฉลองรัช) ซึ่งทางขึ้นอยู่บริเวณใกล้กับคลองพระโขนง โดยจากโครงการออกมายังถนนสุขุมวิทและขับมุ่งหน้าไปยังอ่อนนุช ก็จะสามารถไปใช้ทางด่วนนี้เพื่อไปยังรามอินทราได้ ระยะทางประมาฯ 2.3 กิโลเมตรเท่านั้นเอง
  • ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ให้ไปกลับรถเข้าซอยสุขุมวิท 40 เข้ามายังถนนพระราม 4 และเข้าถนนกล้วยน้ำไทไปยังถนนอาจณรงค์เพื่อขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานคร ระยะทางจากโครงการประมาณ 3.0 กิโลเมตรค่ะ

สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ ถือว่าสะดวกเพราะโครงการอยู่ติดถนนใหญ่และไม่ไกลจากรถไฟฟ้า สามารถใช้บริการ รถประจำทาง ซึ่งจะมีป้ายอยู่ด้านหน้าติดถนนสุขุมวิทเป็นระยะๆอยู่แล้ว ยังสามารถเรียกรถ Taxi หรือเรียกรถผ่าน Application ก็รอไม่นานค่ะ เนื่องจากเป็นถนนที่มีผู้คนใช้บริการกันมาก นอกจากนั้นยังมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ที่ด้านหน้าซอยสุขุมวิท 55 (ซอยทองหล่อ)และ ซอยสุขุมวิท 63 (ซอยเอกมัย)ด้วย นอกจากนั้นยังสามารถเดินไปยังสถานีรถไฟฟ้า BTS ได้ 2 สถานีทั้งสถานีเอกมัย ซึ่งมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 400 เมตร หรือสถานีBTS ทองหล่อซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 350 เมตรเท่านั้น ถ้าเดินทางถัดมา 1 สถานี ก็จะถึงสถานีพร้อมพงษ์ ซึ่งมีห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่าง Emporium , Emquartier อยู่และในอนาคตก็จะมี Emsphere ซึ่งจะอยู่ฝั่งเดียวกับ Emporium ติดกับสวนเบญจสิริเพิ่มขึ้นมาอีก ถัดจากพร้อมพงษ์มาอีก 1 สถานีก็เป็นจุด Interchange กับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสุขุมวิท ซึ่งตรงนี้ก็มีห้าง Terminal 21 อยู่ด้วย ใครที่ต้องการเดินทางไปยังฝั่งสยามหรือทำงานยังโซนสีลมก็สามารถนั่งรถไฟฟ้าต่อได้สบายเลย

พาชมทำเล

วันนี้เราจะพาเดินชมทำเล 2 เส้นทางด้วยกันค่ะ เส้นทางแรก จะพาเดินจาก BTS สถานีทองหล่อไปยังโครงการ และเดินต่อไปยัง BTS สถานีเอกมัย เพื่อดูว่าบริเวณด้านหน้าโครงการแนวถนนสุขุมวิทนั้นมีอะไรบ้าง และเดินจากสถานีเอกมัยเข้าถนนเอกมัย พาไปชมความอุดมสมบูรณ์ในซอยค่ะ และเส้นทางที่ 2 จะพาชมตั้งแต่ด้านหน้าซอยทองหล่อเข้าไปด้านใน เพื่อชมความอุดมสมบูรณ์ในซอยทองหล่อ ไปดูกันเลยค่ะว่าแต่ละเส้นทางในละแวกโครงการแล้วจะมีอะไรให้แวะชมแวะชิมกันบ้าง

เส้นทางที่ 1

เส้นทางแรก เราจะเริ่มกันที่ BTS สถานีทองหล่อ เดินเลียบถนนสุขุมวิทไปยังโครงการและเดินชมความอุดมสมบูรณ์ภายในซอยเอกมัย ไปสิ้นสุดที่ซอยเอกมัย 5 เชื่อมไปยังซอยทองหล่อ 10 รวมระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร

เริ่มจากลงจากรถไฟฟ้า BTS ที่สถานี ทองหล่อ (E6) เรามาช่วงกลางวันคนไม่เยอะเท่าไหร่แต่ถ้าเป็นช่วงเช้าหรือเย็น สถานีนี้ก็ถือว่าเป็นสถานีที่คึกคักสถานีหนึ่งเลยค่ะ

สำหรับสถานีนี้เป็นสถานีที่อุดมสมบูรณ์รายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญต่างๆมากมาย เราจะเดินไปทางซอยสุขุมวิท 59 ฝั่งตรงข้าม UNESCO ดูจากแผนที่แล้วให้ลงที่ทางออก 3 ค่ะ

เราเดินลงมาด้านล่างเพื่อไปออกยังทางออก 3 ค่ะ จะสังเกตว่าสถานีนี้มีร้านค้า ร้านเครื่องดื่มให้เราแวะก่อนกลับบ้านได้

 ทางออก 3 จะลงที่หน้าซอยทองหล่อเห็นถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าไปยังเอกมัย ซึ่งเราจะเดินไปโครงการกันทางนี้ค่ะ

ทางลงให้เลี้ยวซ้ายนะคะ ด้านขวาจะมีป้ายห้ามลงติดอยู่ค่ะ

ลงมาแล้วจะเจอกับร้าน Subway ใครที่อยู่โครงการนี้แล้วกลับ BTS ละก็ไม่อยากเสียเวลาทานข้าวที่อื่นก็แวะทานก่อนกลับโครงการได้เลยค่ะ

มองกลับไปจะเป็นบันไดทางขึ้น BTS สถานีทองหล่อ ซึ่งเป็นบันไดเลื่อนขึ้นพอดีเลยค่ะ

เราจะข้ามถนนสุขุมวิท55 (ซอยทองหล่อ) เพื่อไปยังโครงการ ซึ่งด้านหน้าซอยก็มีทางม้าลายและสัญญาณไฟจราจรเพื่อความปลอดภัยในการข้ามถนนค่ะ

ข้ามมาแล้วจะเป็นทางเดินที่ฟุตปาธ กว้างประมาณ 2 เมตรเดินได้สบายๆ ริมถนนสุขุมวิทฝั่งนี้ก็มีร้านค้าร้านอาหารตลอดเส้นทาง

ร้านแรกที่เราผ่านเลยก็คือร้าน บะหมี่คนแซ่ลี ซึ่งเปิดทุกวันตั้งแต่เช้ายันค่ำเลยค่ะ เวลาเปิดคือ 06.30 – 23.00 น. ซึ่งร้านนี้มีบริการส่ง Delivery ด้วย

เดินมาอีกเล็กน้อยจะเจอกับร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven อยู่ติดกับร้านขายแก๊ส

เดินต่อมาจะเจอกับซอยสุขุมวิท 57 ภายในซอยส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารและที่พักอาศัย และที่อยู่ด้านหน้าซอยเลยก็คือ โรงแรม Marriott Executive Apartments Bangkok

ภายใน Marriott Executive Apartments Bangkok มีร้านอาหารนานาชาติ Café 57 ที่เปิดตลอดทั้งวัน หรือถ้าใครชอบปิ้งย่างก็จะมีห้องอาหาร Steaks Cru and Grill อยู่ภายในด้วยค่ะ

ด้านหน้ามีป้ายรถประจำทางอยู่ ถือว่าการเดินทางในทำเลนี้ค่อนข้างสะดวกสบายไม่ว่าจะรถสาธารณะ หรือรถยนต์ส่วนตัวค่ะ(อาจจะต้องทำใจเรื่องรถบ้างบางเวลา)

ฝั่งตรงข้ามเป็นเมื่อปีที่แล้วได้มีการเปิดตัวกันไปกับ T-One อาคารสำนักงานเกรด A จาก อิชิตัน กรุ๊ป ซึ่งจะมีทั้งพื้นที่ Retail, ร้านอาหาร  Food court, ร้านกาแฟ, ธนาคารและ Co-working Space

T-One ตึกออฟฟิศใหญ่บริเวณทองหล่อ ซึ่งเจ้าของก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คือ “ตัน ภาสกรนที” ผู้ลงทุนทุ่มงบหลายพันล้าน เปลี่ยนที่ดินแปลงงามให้เป็นอาคารสำนักงานเกรด A นั่นเอง 

เรามาเดินกันต่อ ตรงนี้จะผ่านทางเข้าอีกทางนึงของโรงแรม Marriott ถัดไปนั้นจะมีธนาคารกสิกรไทยสาขาย่อยอยู่ริมถนนสุขุมวิทนี้ด้วย สำหรับคนที่ต้องการทำธุรกรรมทางการเงินก็สะดวกมากเลยค่ะ เดินออกมาจากโครงการแปปเดียวไม่ต้องเข้าไปหาที่จอดรถในห้างใหญ่ๆเลย

สาขานี้จะเปิดทำการวันจันทร์-ศุกร์เวลา 8.30-15.30 น.

เดินมาอีกหน่อยจะเจอกับที่ดินของอนันดากำลังล้อมรั้วก่อสร้างโครงการอยู่

เดินถัดมาอีกนิดเดียวก็ถึงซอยสุขุมวิท 59 แล้ว ภายในซอยก็มีร้านอาหารชื่องดังอย่าง Mother May i ตั้งอยู่ข้างในเข้าไปเพียง 100 เมตรเท่านั้น

ภายในซอยส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยไม่ได้มีความคึกคักมากนัก ทางฝั่งขวาที่เห็นล้อมรั้วอยู่จะเป็นพื้นที่ก่อสร้าง ยังไม่ทราบว่าคือโครงการอะไร

ถัดมาก็มาถึงพื้นที่ของโครงการเราแล้วค่ะ ปัจจุบันกำลังก่อสร้างมีการกั้นรั้วแนวเขตก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว

ตรงข้ามกับโครงการจะเป็นอาคารสำนักงานของ องค์การยูเนสโก ประเทศไทย และมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สีเขียวมีต้นไม้ใหญ่ ทำให้มองดูแล้วร่มรื่นสบายตา

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

โดยพื้นที่โคงการด้านหน้าทางทิศใต้จะอยู่ติดถนนสุขุมวิท ซึ่งเป็นถนนใหญ่ไป-กลับข้างละ 3 เลนมีเกาะกลาง มองเห็นวิวอาคารสำนักงาน UNESCO ส่วนใหญ่วิวทางทิศนี้จะไม่ค่อยมีอาคารสูงเท่าไหร่ค่ะ ด้านข้างทางทิศตะวันออกติดกับซอยชุมพล, โครงการ Fullerton Sukhumvit สูง 37 ชั้น ซึ่งจะบังวิวทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ, ร้านอาหาร The Gardens of Dinsor Palace, Dhani Residence สูง 7 ชั้น ทางทิศตะวันตกใกล้กับซอย สุขุมวิท 59 มองเห็นวิว อาคาร Marriott Executive Apartments และ อาคารสำนักงาน T-One สูง 34 ชั้น ทางทิศเหนือติดกับอาคารที่พักอาศัย ไม่ค่อยมีอาคารสูงบังวิวในทิศนี้

  • ทิศเหนือ ติดกับ อาคารที่พักอาศัยสูง 2 – 7 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับ ถนนสุขุมวิท , อาคารสำนักงาน UNESCO
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ซอยชุมพล, โครงการ Fullerton Sukhumvit สูง 37 ชั้น, ร้านอาหาร The Gardens of Dinsor Palace, Dhani Residence สูง 7 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับ พื้นที่ก่อสร้าง

 

ภาพนี้เป็นมุมมองมุมสูงเมื่ออยู่ภายในโครงการมองออกไปยังทิศต่างๆ จะเห็นเป็นวิวเมืองมีอาคารสูงกระจายกันไปซึ่งจะหน้าแน่นทางด้านทิศตะวันตก เพราะเป็นย่านใจกลางเมืองอย่างสยาม, เพลินจิต, สาทร ค่ะ

  • ทิศเหนือ เห็นวิว วิวเมือง, Dhani Residence สูง 7 ชั้น(เห็นเฉพาะชั้นล่าง)
  • ทิศใต้ เห็นวิว วิวเมือง, อาคารสำนักงาน UNESCO และพื้นที่สีเขียว
  • ทิศตะวันออก เห็นวิว โครงการ Fullerton Sukhumvit สูง 37 ชั้น
  • ทิศตะวันตก  เห็นวิว อาคาร Marriott Executive Apartments, อาคารสำนักงาน T-One สูง 34 ชั้น

เรามาดูมุมมองจากมุมสูงกันบ้างค่ะ เมื่อมองไปทางทิศเหนือ จะเห็นวิวโคงการ Laviq สุขุมวิท 57, โครงการ Shanti Sadan และ Dhani Residence

ทาทิศตะวันตก จะเห็นอาคาร T-One , โครงการคอนโดมิเนียม Siri @Suhkhumvit และอาคาร  Marriott Executive Apartments

ภาพนี้เป็นวิวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะเห็นอาคาร Marriott Executive Apartments, Laviq สุขุมวิท 57 และ Shanti Sadan

ต่อไปเราจะเดินไปยังสถานีเอกมัยกันต่อค่ะ ด้านข้างโครงการฝั่งทิศตะวันออกจะติดกับซอยชุมพลเลย ภายในซอยจะมีที่พักอาศัยและร้านอาหาร เราขอแวะไปดูกันสักเล็กน้อยค่ะ

ภายในซอยชุมพลค่อนข้างสงบและบรรยากาศดีจากต้นไม้ใหญ่เรียงรายตั้งแต่ต้นซอยจนถึงท้ายซอยเลย

ด้านใน ทางด้านขวามือเป็นร้านอาหาร ซึ่งคนที่อยู่โครงการ Hyde Heritage ทองหล่อสามารถเดินมาได้เลยใกล้มากๆค่ะ

ร้านชื่อว่า ร้าน The Gardens of Dinsor Palace (เดอะ การ์เด้นส์ ออฟ ดินสอ พาเลซ) เปิดในบริการตั้งแต่ 8.00 น. ถึง 23.00 น. เป็นร้านอาหารประเภทตะวันตก และมีพื้นที่ปลูกผักด้านหลังร้านด้วยค่ะ

พื้นที่ร้านเป็นวังเก่าของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารำไพประภา มีบรรยากาศร่มรื่น แบ่งส่วนระหว่างร้านอาหารและส่วน Coffee and Bakery สำหรับนั่งดื่มชา หรือสั่งเค้กมาทานเล่นก็ได้ พื้นที่นั่งรับประทานอาหารมีทั้งแบบ Indoor และ Outdoor น่านั่งมากๆเลย

ด้านในสุดเป็นพื้นที่ของ Dhani Residence

เป็นคอนโดมิเนียมสูง 7 ชั้นอยู่ติดกับร้าน The Gardens of Dinsor Palace ค่ะ

มาที่ด้านหน้ากันต่อ เดินไปอีกเล็กน้อยจะเจอกับสะพานลอยสามารถใช้ข้ามไปทางฝั่ง องค์การยูเนสโก ได้

ทางด้านซ้ายมือเป็นโครงการคอนโดมิเนียม Fullerton Sukhumvit ที่สร้างมาได้พอสมควรแล้ว

เป็นคอนโดมิเนียมสูง 37 ชั้นอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของโครงการ Hyde Heritage ทองหล่อ

ถัดมาจะทางด้านซ้ายมือเป็นที่พักอาศัยสไตล์ญี่ปุ่น Ta-Ke Residence

ตกแต่ง Facade(กรอบอาคาร) ด้านหน้าอาคารด้วยไม้ไผ่ ดูมีเอกลักษณ์

ถัดมาเมื่อเดินมาอีกหน่อยจะพบกับอาคารแถวซึ่งด้านล่างเป็นร้านค้าต่างๆซึ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้คนในย่านนี้ ไม่ว่าจะเป็นร้านนวด, ร้านทำผม, ร้านอาหารรวมถึงร้านสะดวกซื้อ

มีร้าน The BBQ เป็นร้านปิ้งย่างสไตล์เกาหลีบนกระทะแบน แบบ A La Carte ตกแต่งสไตล์ลอฟท์ น่าแวะมาทานค่ะ

ถัดมาอีกนิดเดียวก็ถึงซอยสุขุมวิท 61 ด้านหน้าซอยคือ Major เอกมัย ซึ่งรวมทั้งร้านอาหารมากมาย แล้วยังมีโรงภาพยนต์อีกด้วย ถือว่าอยู่ในระยะที่เดินมาง่าย เหมือนเดินมาดูหนังข้างบ้านได้เลยทีเดียวค่ะ

ฝั่งตรงข้ามคือ สมาคมดาราศาสตร์ไทย และ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ด้านหน้ามีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ เล็กๆให้เข้าชมกันได้

เราแวะไปดูภายใน Major เอกมัยกันสักหน่อยค่ะ ว่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง

ภายในนอกจากจะมีโรงภาพยนต์แล้วส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารที่อยู่ตามห้างทั่วไป อย่างเช่น MK, Yayoi, Shabushi, KFC, Mc Donald, Chester’s Grill , Swensen’s เป็นต้น

พอดูรอบฉายหนังแล้ว สาขานี้มีหนังอินเดียอยู่เยอะเหมือนกัน ไม่รู้ทำไมกันนะ ^^

ด้านข้างเชื่อมต่อกับ Major เอกมัยเลยก็คือ ร้านสหกรณ์กรุงเทพ จำกัด ซึ่งด้านล่างจะมีขายสินค้าของกินของใช้ต่างๆ และด้านบนเป็นพื้นที่อาคารจอดรถ สามารถมาจอดแล้วเข้าไปยัง Major เอกมัยได้

มีร้าน Phu Nan Coffee นอกจากจะขายกาแฟแล้วยังขายผ้าฝ้ายมัดย้อมและสิ้นค้าพื้นถิ่นต่างๆด้วยค่ะ ระยะเวลาเปิด จันทร์ – พฤหัสบดี 06:30 – 18:00 น. และวันศุกร์ – อาทิตย์ เปิด 07:00 – 20:00 น.

ถัดมาเป็นร้านสหกรณ์กรุงเทพ เปิด 7.00 – 19.00 น. ค่ะ ด้านล่างมี Food Court ให้บริการอยู่ด้วย

นอกจากนั้นด้านบนยังมี Sub-Zero และลาน Ice Skate และ We Fitness เปิดให้บริการด้วย สำหรับคนที่ชอบอกกำลังหรือทำกิจกรรมต่างๆแล้วนับว่าที่นี่เป็นแหล่งความบันเทิงที่น่าสนใจอีกที่นึงเลยทีเดียวค่ะ

มองขึ้นไปด้านบนของอาคารนี้จะมีพื้นที่ Sky Walk เชื่อมต่อไปยัง BTS เอกมัยได้

ที่มุมอาคารติดกับซอยสุขุมวิท 63 (ซอยเอกมัย) มีร้าน The Coffee Club อยู่ด้านล่างมีทั้งเครื่องดื่มและอาหาร ให้แวะรับประทานกันได้

มาถึงหน้าซอยสุขุมวิท 63(ซอยเอกมัย) กันแล้ว จากตรงนี้จะเห็นสถานีรถไฟฟ้า BTS เอกมัยอยู่ฝั่งตรงข้าม

และอีกฝั่งหนึ่งของถนนสุขุมวิทจะเป็นที่ตั้งของสถานีขนส่งสายตะวันออก หรือที่เรียกกันว่าขนส่งเอกมัย

สถานีขนส่งที่เอกมัยนี้จะมีรถตู้และรถบัสบริการ เส้นทางจากรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดทางภาคตะวันออก อาทิ ตราด, ระยอง, สระแก้ว, จันทบุรี, ชลบุรี และพัทยา ค่ะ

ถัดมาเราจะข้ามฝั่งไปแวะพักกันที่ Gateway เอกมัยกันค่ะ

เดินมาอีกฝั่งจะเจอกับทางขึ้นสถานีเอกมัยเลย

เมื่อเดินขึ้นมาแล้วมองไปยังฝั่งเอกมัยก็จะเห็นบรรยากาศถนนที่คึกคักแม้ว่ายังไม่ใช่เวลาเร่งด่วนของวัน

บนสถานีมีพวกร้านขายชานมหรือร้านขนมอยู่หลายร้าน มีทางเชื่อมเข้าไปใน Bangkok Mediplex ของโครงการ ณุศาศิริ แกรนด์ คอนโด ได้เลย

ณุศาศิริ แกรนด์ คอนโด ด้านล่างจะเป็น Mall (Bangkok Mediplex) ส่วนใหญ่จะเป็นคลินิกมีทั้ง คลินิกเสริมความงาม ศัลยกรรม ทันตกรรม หูตาคอจมูก และคลินิกเฉพาะทางต่างๆ สำหรับใครใช้บริการคลินิกบ่อยๆก็เดินทางมาได้ไม่ไกลเลยค่ะ

เดินเข้ามาใน Mall ก็จะเจอกับบรรยากาศประมาณนี้ค่ะ

ร้านค้าที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นคลินิกมีทั้ง คลินิกเสริมความงาม ศัลยกรรม ทันตกรรม หูตาคอจมูก และคลินิกเฉพาะทางต่างๆ

และก็จะมีร้านกาแฟอย่างเช่น Starbucks เป็นต้นค่ะ เราสามารถลงมานั่งอ่านหนังสือหรือนัดพบเพื่อนๆได้

จากใน Bangkok Mediplex เราเดินออกมาบริเวณทางเชื่อม แล้วลงบันไดเพื่อจะเดินไป Gateway เอกมัยกัน

กลับมาเดินต่อที่ชั้นล่าง พอออกจากโครงการณุศาศิริมา ฝั่งนี้จะเป็นซอยสุขุมวิท 42 จากสถานี BTS เอกมัยสามารถเดินเข้าไปที่ Gate Way ได้เลยค่ะ

เข้ามาในห้างเป็นโซนร้านอาหาร มีให้เลือกค่อนข้างเยอะทั้งของคาวของหวาน สามารถเดินมาหาอะไรกินได้สะดวก

ขึ้นมาชั้นที่เป็นทางเชื่อมจากรถไฟฟ้าจะเป็นโซนร้านอาหารญี่ปุ่นทั้งชาบู ปลาดิบ ราเมง

ขึ้นมาที่ชั้นบนจะเจอกับลานซึ่งเปิดเป็นพื้นที่เช่าร้านค้า มีขายเสื้อผ้าทั่วไปราคาไม่แพงน่าเดินช็อปมากๆเลยค่ะ นอกจากนั้นมองขึ้นไปด้านบนจะเห็นป้าย Home Pro S สำหรับเลือกซื้อของแต่งบ้านกันด้วย

พอเดินออกจากห้างมาจะมีลานที่มีร้านค้ามาเปิดขาย ทั้งขายอาหาร เสื้อผ้า ของใช้ เครื่องประดับ

บริเวณทางเชื่อมต่อกับ BTS จะมีร้านค้ามาเปิดเป็นเหมือนกับ Street Market ให้ได้เดินช้อปปิ้งกันด้วย บรรยากาศคึกคักโดยเฉพาะช่วงเย็นที่คนเลิกงานมาเดินห้างกันค่ะ

เมื่อเดินมาจากGateway เอกมัยมายังสถานี BTS ก็สามารถมองเห็นวัดธาตุทองได้

เราลงมาเดินข้างล่างกันต่อ ซึ่งเส้นทางต่อจากนี้เราจะเข้าไปดูบรรยากาศของซอยเอกมัยกันค่ะ

ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านสหกรณ์กรุงเทพที่เราเดินผ่านมาก่อหน้านี้ค่ะ

ด้านขวามือจะเป็นพื้นที่เวิ้งร้านอาหารซึ่งมีร้านดังอย่างบ้านไร่กาแฟอยู่ แต่ไม่ได้มีขายแค่กาแฟนะคะ มีทั้งอาหารอย่าง น้ำตกหมู, ยำหอยนางรม, พิซซ่าญี่ปุ่น, ข้าวคลุกกะปิ, ยำแซลมอน ไปจนถึงเค้กไอศกรีมเลย แหม่พูดแล้วก็เริ่มหิวอีกแล้วค่ะ

ออกมาอีกหน่อยทางขวามือเป็นร้าน OH CHIC Eatery & Social Bar มีทั้งโซน indoor และ outdoor พร้อมอาหารและเครื่องดื่มบรรยากาศเหมาะกับการมาแฮงเอาท์กันค่ะ

เดินเข้ามาอีกนิดจะผ่านร้านไอศกรีม Baskin Robins ด้วย

และที่อยู่ติดกันเลยนั้นก็คือ Community Mall ชื่อว่า ฮอไรซอน ซึ่งเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 – 22.00 น.ด้านหน้ามีร้านขนมอย่าง Au Bon Pain อยู่ด้วย

ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น Kuroda เป็นบุฟเฟต์ปลาดิบสไตล์ญี่ปุ่นที่ราคาไม่แรงมากค่ะ

ถัดมาอีกหน่อยก็จะมีร้าน MK Gold สาขาเอกมัย

สาขานี้จะเป็นร้าน MK แบบบุฟเฟต์ให้นั่งทานได้นานๆ หนึ่งชั่วโมงครึ่ง ซึ่งจะเปิดทุกวันตั้งแต่ 10:00 – 21:30 น. สามารถเอารถเข้ามาจอดได้ค่ะ นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่ด้วย

ภายในนี้ยังมีร้าน Miyazaki เอาใจคนชอบอาหารญี่ปุ่นกันด้วย จะสังเกตว่าในย่านเอกมัยนี้จะมีคนญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ร้านอาหารและร้านค้าสไตล์ญี่ปุ่นก็จะเยอะมากตามไปด้วยค่ะ

เดินมาอีกไม่ไกลก็เจอ Community Mall อีกแห่งชื่อ Park Lane เป็นอาคารสไตล์อิตาเลียนโมเดิร์น ออกแบบโดย SODA, Shma และ DWP Cityspace แล้วได้รางวัล International Property Awards Asia Pacific 2012-2013 ด้วยค่ะ เราไปดูด้านในกันสักหน่อย

กลุ่มลูกค้าจะเน้นไปทางครอบครัว เพราะมีทั้งสถานที่ Play Zone สำหรับเด็กๆ ร้านเครื่องประดับ ความงาม ร้านหนังสือและโซนกีฬา ซึ่งที่นี่จะเปิดตั้งแต่ 10.00 – 23.00 น.ค่ะ

ด้านในมี Supermarket อย่าง Max Valu เปิด 24 ชั่วโมงอยู่ด้วยค่ะ ถือว่าสะดวกต่อการซื้อของมากๆ สามารถมาจอดรถซื้อของเข้าคอนโดได้ทุกเวลาเลย

บรรยากาศภายใน Park Lane จะมีทั้งร้านอาหาร และ Supermarket เลย

ด้านหน้ามีร้านอาหารเวียดนามชื่อ Photynine มีที่นั่งให้เลือกทั้ง indoor และ outdoor สำหรับคนที่ชอบอาหารเวียดนามนั่งทานชิลล์ๆชมบรรยากาศเอกมัย ร้านจะเปิดตอน 12.00 -22.00 น. ค่ะ

เดินไปเรื่อยๆ ฝั่งตรงข้ามมีร้านเบียร์ชื่อดังอย่าง เอกมัย Beer House ด้วย

ผ่านมาอีกหน่อยตรงนี้มีสาขาย่อยของธนาคารกรุงเทพอยู่ด้วยค่ะ

เดินมาเรื่อยๆ ฝั่งซ้ายมือจะเจอกับปั๊มเชลล์ เป็นปั๊มที่ใกล้กับโครงการที่สุดค่ะ สะดวกในการมาเติมและวนกลับได้ที่ซอยทองหล่อ

เดินมาเรื่อยๆจะมีร้านสะดวกซื้ออยู่ใต้อาคาร BBC (Bangkok Business Center)

อาคาร Bangkok Business Center เป็นอาคารสำนักงานให้เช่าย่านเอกมัย ห่างจากปากซอยเอกมัยมาประมาณ 500 เมตร

ถัดมาจะเป็นส่วนของอาคารแถว ด้านล่างมีร้านอาหารมากมาย ที่มีชื่อเสียงเลยก็คือร้านโชคดีติ่มซำ เปิดตลอด 24 ชั่วโมงเลยค่ะ

มีร้านคาเฟ่เก๋ๆอย่างร้าน Cactus ให้ได้ถ่ายรูปเช็คอินกันด้วย

เดินต่อมาเรื่อยๆ ด้านซ้ายมีจะเจอกับผับ Czech Club ซึ่งจะคึกคักมากขึ้นตอนกลางคืนค่ะ

ถัดมาฝั่งตรงข้ามจะมองไปเห็น Big C Super Center เราจะข้ามไปดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง

ที่ Big C นอกจากจะมี Super market แล้วยังมี Starbucks อยู่ด้านล่างด้วย

ด้านบนมีทั้ง Index Living Mall สำหรับหาซื้อของตกแต่งบ้าน และ Office Mate สำหรับหาซื้ออุปกรณ์สำนักงานด้วย ถือว่ามาที่เดียวได้ครบครันเลยค่ะ

บรรยากาศภายใน Super Market มีครบทุกอย่างเลย แวะมาหาซื้อของใช้หรือของสดกลับบ้านได้

เดินถัดมาด้านนอก จะเจอร้าน S&P ที่มีทั้งเครื่องดื่ม ขนมหวานและมีอาหารให้นั่งรับประทานกันด้วยค่ะ

ติดกับ S&P เป็นธนาคารธนชาติสาขาย่อย สำหรับใครจะมาแวะทำธุรกรรมทางการเงิน

เดินออกมาอีกหน่อย ทางฝั่งตรงข้ามมีร้านอาหาร คุณหญิง ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยรสชาติดั้งเดิมชื่อดังย่านเอกมัย ใครผ่านมาไม่เคยลองต้องกลับมาลองชิมกันนะคะ

เดินมาเรื่อยๆ ก่อนจะถึงซอย 10 ทางด้านขวามือจะเห็นเป็นทางเข้าไปยังลานจอดรถ ของ Health Land นั่นเองค่ะ

ที่นี่เป็นสถานที่สำหรับคนที่ชอบนวดเพื่อสุขภาพ จะมีหลากหลายทั้ง นวดอายุรเวท, นวดแผนไทย, นวดอโรม่า, นวดฝ่าเท้า เป็นต้น ซึ่งจะเปิดให้บริการเวลา 09:00 – 23:59 น.

ติดกับ Health Land นั่นคือเอกมัยซอย 10 ซึ่งสามารถใช้ลัดไปออกยังถนนปรีดี พนมยงค์ได้ค่ะ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นเวิ้งโบราณ

ซึ่งจะมีร้านค้า ร้านอาหารสไตล์คลาสสิกเอกลักาณ์เฉพาะตัว เปิดให้บริการและมีที่จอดรถให้ สามารถมาแวะชมบรรยากาศยามเย็นของเอกมัยกันได้ที่นี่ค่ะ

ออกมาอีกหน่อยจะเห็น Cub House เป็นโชว์รูม รถมอเตอร์ไซค์ Honda รุ่นพิเศษ และมีคาเฟ่อยู่ด้านในด้วยค่ะ ซึ่งทาง Honda ได้ร่วมกันทำกับ Greyhound โดยเปิดที่เอกมัยเป็นสาขาแรก สำหรับคนรักรถจักรยานยนต์นั้นห้ามพลาดเลยทีเดียวค่ะ

ถัดมาจะเป็นแยกบริเวณเอกมัยที่เชื่อมต่อไปยังทองหล่อ และถนนปรีดี พนมยงค์ได้

ถ้าเลี้ยวซ้ายเข้าซอยเอกมัย 5 จะสามารถไปยังถนนทองหล่อได้ ถ้าเลี้ยวขวาเข้าซอยเอกมัย 12 จะทะลุไปยังถนนปรีดี พนมยงค์ค่ะ

เราไปดูภายในซอยเอกมัย 5 เป็นซอยที่เชื่อมต่อกับทองหล่อ 10 กันสักนิดก่อนจะพาไปชมเส้นทางที่ 2 ซึ่งเป็นเส้นทางทองหล่อ

เมื่อเข้ามาในซอยเอกมัย 5 แล้ว ทางด้านขวามือที่เห็นกำลังก่อสร้างอยู่นั้นจะเป็น Community Mall สัญชาติญี่ปุ่นจากบริษัท Don Quijote Group ได้จัดตั้งบริษัทร่วมลงทุนกับบริษัทของไทยอย่าง ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด และบริษัท นิปปอน พาร์คกิ้ง ดีเวลลอปเมนท์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อพัฒนาศูนย์การค้าย่านทองหล่อ-เอกมัย ซึ่งเป็นย่านพักอาศัยของชาวญี่ปุ่นและแหล่งรวมตัวของนักธุรกิจและวัยรุ่นที่มีกำลังซื้อสูง ตามแผนโครงการที่ออกมา ภายใน Donki Mall นี้จะมีทั้งศูนย์กีฬาในร่ม, ความบันเทิง, ร้านอาหารและสวนสนุก คาดว่าในอนาคตเมื่อสร้างเสร็จแล้วจะเป็นแหล่งความบันเทิงแหล่งใหม่ของเอกมัยเลยที่เดียวค่ะ

ถัดไปจาก Donki Mall เมื่อเราเดินเข้าซอยไปแล้วจะเจอกับ Arena10 ซึ่งเป็นแหล่งรวมตัวของวัยรุ่นที่ชอบกิจกรรม

ภายในมีทั้งร้านอาหาร, บาร์, ไนท์คลับ ที่มีความหรูหราและมีชื่อเสียง อย่างDemo, Muse ทองหล่อ ด้านหน้ามีร้าน Melt me สาขาแรกที่ขายช็อคโกแลตฮอกไกโด ให้บริการอยู่ด้วย และเมื่อเดินไปอีกหน่อยก็จะไปออกถนนทองหล่อที่ซอยทองหล่อ 10 แล้วค่ะ ซึ่งเราจะพาไปชมบรรยากาศของซอยทองหล่อกันที่เส้นทางที่ 2 ไปชมพร้อมๆกันเลยค่ะ

เส้นทางที่ 2 เริ่มจากหน้าซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) แล้วเดินเข้าไปเรื่อยๆ แวะตามสถานที่ที่น่าสนใจ เข้าซอย 13 ทะลุผ่านซอย 15 และไปหยุดที่ทองหล่อซอย 17 ที่ The Commons ค่ะ

เริ่มจากต้นซอยทองหล่อ เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปดูบรรยากาศและความอุดมสมบูรณ์ภายในทองหล่อกันเลยค่ะ

เข้ามาต้นๆซอย สองข้างทางส่วนใหญ่จะเป็นอาคารแถวที่ด้านล่างเป็นร้านค้า ร้านอาหารเสียส่วนใหญ่ อย่างร้านแรกที่เราเดินผ่านนี้ก็เป็นร้านมะม่วงแม่วารี เห็นมะม่วงเหลืองๆแบบนี้แล้วนึกถึงข้าวเหนียวราดน้ำกะทิเลยค่ะ 😛

ถัดมาอีกหน่อยก็จะมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ที่ด้านหน้าซอยทองหล่อเลย

อัตราค่าโดยสารก็ไม่แพงมาก เริ่มที่ 10 บาท ไปจนถึงซอย 7 เลยค่ะ

ถัดมาอีกเล็กน้อยก็จะเจอกับร้านอาหารอีกหนึ่งร้านคือหอยทอดชาวเล ผัดไท-โบราณ และร้านอาหารอื่นๆตลอดแนว

ฝั่งตรงข้ามจะมีซอยเข้าไปด้านในเล็กๆ ชื่อทองหล่อเพลส ภายในมีร้านอาหารชื่อดังคือร้านโคซิแรเป็นปิ้งย่างสไตล์เกาหลีราคาไม่แพงมากค่ะ

บรรยากาศร้านต่างๆภายในทองหล่อเพลส

เมื่อเราเดินเรื่อยๆถัดมาอีกหน่อยก็จะเห็น Community แรกในซอยทองหล่อที่ชื่อว่า Fifty Fifty ทองหล่อ ใกล้ๆกันนั้นก็จะมีธนาคารไทพาณิชย์สาขาย่อยอยู่ตรงนี้ด้วยค่ะ

ก่อนจะถึง Fifty Fifty ทองหล่อ ก็มีแหล่งรวมร้านอาหาร ภายในมีบริการ Car Care อยู่ด้วยซึ่งเราจะข้ามไปชมกันค่ะ

ด้านหน้าการตกแต่งและตัวอัการเป็นภาษาญี่ปุ่นดูน่าสนใจ ภายในเป็นร้านบริการทำความสะอาดรถชื่อว่า Garage Lounge Thonglor ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ 9.00 – 20.00 น. ค่ะ

 ที่นี่ชั้นล่างจะเป็น Car Care และมีร้านอาหารอย่างร้านแกงสยามและร้าน Dat Wich อยู่ด้วย

ภาพด้านบนเป็นบรรยากาศร้าน Dat Wich เป็นร้าน All Day Brunch ส่วนใหญ่เป็นเมนูง่ายๆ เปิดทุกวันตั้งแต่ 8.00-21.00 น.  ส่วนภาพล่างจะเป็นภาพร้านแกงสยาม ร้านอาหารไทยรสชาติจัดจ้าน อยู่บนชั้น 2 บรรยากาศสบายๆดูเป็นกันเอง เปิดตั้งแต่ 10.00 – 22.00น. เลยค่ะ

ติดกันนั้นจะมีทางเข้าซอยไปยัง Fifty-Fifth Tower ด้านหน้าจะเป็น Community ที่ชื่อว่า Fifty Fifty ทองหล่อค่ะ

ภายในก็จะมีร้านอาหารบ้าง ร้านขายของจากญี่ปุ่นบ้าง แต่ที่สำคัญเลยคือมีร้าน Lamon Farm ขายสินค้าออกแกนิคสำหรับคนรักสุขภาพด้วยค่ะ

เมื่อออกมาเดินด้านนอกอีกไม่ไกลก็จะเห็นสวนครูองุ่น อยู่ทางฝั่งตรงข้าม เป็นเป็นพื้นที่สีเขียวบรรยากาศร่มรื่นแปลกตาในทองหล่อด้วยความอยากรู้ว่าเป็นอะไร เราเลยแวะเข้าไปชมด้านใน จึงได้รู้ว่าพื้นที่ขนาด 250 ตารางวาในใจกลางทองหล่อนี้เป็นของครูองุ่น มาลิก เป็นครูผู้อุทิศทั้งชีวิตเพื่อสังคม ซึ่งท่านตั้งเจตนารมณ์ไว้ว่า “หลังจากที่ข้าพเจ้าเสียชีวิตแล้ว ขอให้ที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ทำประโยชน์ให้กับสังคม” พื้นที่นี้จึงกลายเป็นของสาธารณะเมื่อท่านเสียชีวิตและมีมูลนิธิไชยวนา และมูลนิธิกระจกเงาเข้ามาช่วยดูแลพื้นที่ตรงนี้

ด้านใจจึงมีพื้นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ รองรับเด็กๆทุกเพศทุกวัย มีทั้งพื้นที่นั่งเล่น ลานทราย เครื่องเล่นสำหรับเด็กและลานกิจกรรม ที่เปิดทุกๆวันตลอดเวลา โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้ามาที่นี่เลย ถือว่าเป็นพื้นที่สาธารณะที่น่ามานั่งชมบรรยากาศย่านทองหล่อในยามกลางวันได้เลยค่ะ

เมื่ออกมาจากสวนครูองุ่นแล้วมองมาฝั่งตรงข้ามก็จะเจอกับธนาคารกรุงศรี และธนาคาร TMB ถือว่าในย่านนี้สามารถเดินไปธนาคารได้หลายแห่งมากๆเลยค่ะ

ถัดมาอีกนิดที่ทองหล่อซอย 4 ด้านหน้าก็มี Community เป็นแหล่งแฮงก์เอ้าท์อีกที่ชื่อว่า Maze Thonglor (เมส ทองหล่อ) เป็นอาคาร Mix-Used สูง 5 ชั้นสไตล์การตกแต่งแบบ Modern Contemporary ดูเท่ๆ

ภายในก็เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร คาเฟ่ชิคๆให้ได้มาเช็คอินกันด้วยค่ะ

ด้านหน้าชั้นล่างก็มีร้าน The Coffee Club อีกหนึ่งแห่ง

ถัดมาอีกนิดจะเจอกับ Tops Market ที่เปิดตอด 24 ชั่วโมงเลยค่ะ สะดวกต่อการมาซื้อของกินของใช้ที่นี่ ด้านในมีที่จอดรถบริการ

ด้านหน้าของ Tops ก็จะมี Starbucks อยู่ด้วย

เดินเข้ามาก็จะเจอกับร้านอาหาร Burger King ถัดไปเป็นร้านอาหารและร้านค้าอีกหลายร้าน เรียงกันไปเลยค่ะ

ด้านในมีร้านอาหารไทยอย่าง กับข้าวกับปลา บรรยากาศค่อนข้างสงบ น่ามานั่งทานอาหารกลางวันกับเพื่อนๆค่ะ

ส่วนของ Tops Market จะอยู่ด้านในสุด

ภายในมีของขายทั้งของสดของแห้งและมีของกินของใช้จากต่างประเทศมาขายอยู่เยอะเหมือนกันค่ะ

ใครที่จะเอารถมาจอดต้องประทับตราด้วยนะคะ ไม่งั้นจะต้องเสียค่าจอดชั่วโมงละ 100 บาทเลยค่ะ

ออกมาจาก Tops แล้ว มองไปฝั่งตรงข้ามก็จะเห็น Serviced Apartment ชื่อ Somerset Tower

ด้านหน้า Tops จะมีบริการวินมอเตอร์ไซค์ด้วยค่ะ จากตรงนี้นั่งไปหน้าซอยทองหล่อ 10 บาทเท่านั้น

เดินมาอีกไม่ไกลก็เจอกับ Community อีกแห่งชื่อว่า Eight ทองหล่อ

เป็น Lifestyle Mall ที่ดูทันสมัยขึ้นมามีแรงบันดาลใจในการออกแบบจากความพลิ้วไหวของผ้าบนรันเวย์ ด้านหน้ามีร้านสเต็กและร้าน True Coffee

ภายในมีร้านเสริมความงามทั้งผู้ชายและผู้หญิง รวมถึงสตูดิโอโยคะด้วยค่ะ ถือว่าครบครันในที่เดียวเลย

เดนมาอีกหน่อยที่ทองหล่อซอย 9 จะมี Makro Food Service อยู่ตรงนี้ด้วยซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ 6.00-23.00 น.

เดินมาอีกหน่อยทางฝั่งซ้ายมือคือโรงแรม Grande Centre Point Sukhumvit 55

ถัดมาอีกนิดก็ถึงทองหล่อซอย 10 แล้วค่ะ ซอยนี้สามารถทะลุไปออกที่เอกมัยได้ อย่างที่เราพาไปดูที่เส้นทางแรกกันมาค่ะ

ฝั่งตรงข้ามจะมี Community Mall ชื่อ The Taste อยู่ด้านหน้าซอย ทองหล่อ 11

ซึ่งเดิมทีจะเป็นแค่ร้าน Starbucks สาขาทองหล่อตั้งอยู่เดี่ยวๆ เเต่เพิ่งจะมาปรับปรุงเพิ่มกลายเป็นว่ามีร้านอาหาร สามารถเช่าที่ทำเป็น Studio หรือสำนักงานก็ได้นะ

ปัจจุบันก็มีร้านอาหารเพิ่มมากขึ้น สำหรับคนที่ชอบหาร้านทานข้าวที่ซอยทองหล่อก็จะได้มีตัวเลือกที่มากขึ้นค่ะ

หนึ่งในตัวเลือกนั้นคือร้าน Hamakatsu เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.30-22.30 น. สามารถสั่ง Order สุดท้ายได้ถึง 22.00 น. และมีเหล้า, เบียร์บริการด้วย

ช่วงกลางวันมีโปรโมชั่นพิเศษแบบ Set ราคาไม่แพง จะขายอยู่ที่ช่วงก่อน 5 โมงเย็น ต้องแวะมาลองกันบ้างแล้วค่ะ

ด้านหน้าร้าน Starbucks มีลานสำหรับนั่ง Outdoor ด้วย หน้าหนาวกำลังจะมาถึงแล้วคิดถึงการจิบกาแฟร้อนๆกับอากาศเย็นๆยามเช้าจังเลยค่ะ

ถัดมาอีกนิดจะถึงซอยทองหล่อ 13 ซึ่งเป็นซอยหลักที่ใช้ไปยังโรงพยาบาลสมิติเวช ดังนั้นภายในซอยนี้ก็จะคึกคักหน่อยค่ะ

ซอยทองหล่อ 13 จะเป็นซอยหลักที่ใช้ไปยังโรงพยาบาลสมิติเวช ดังนั้นภายในซอยนี้ก็จะคึกคักหน่อย มีร้านอาหาร Community เยอะมาก เช่น Nihonmachi ที่เราเคยเห็นเเถวๆ K-Village ตรงนี้ก็มีอีกหนึ่งจุดค่ะ ปากซอยเลยจะมี Home Place Building อยู่ เป็นอาคารให้เช่าพื้นที่ เป็นสำนักงานบ้าง ร้านค้าบ้าง หรือ Studio ออกกำลังกายก็มีค่ะ

นี่เป็นรายชื่อร้านต่างๆใน Home Place Building ค่ะ

ถัดมาภายในซอย จะมีร้านอาหารและCommunity อยู่หลายแห่ง เช่น Seenspace , Nihonmachi ที่เราเคยเห็นเเถวๆ K-Village ตรงนี้ก็มีอีกจุดนึง ด้านหน้าก็มีร้านสะดวกซื้ออย่าง Family Mart อยู่ด้วย

Family Mart สาขานี้ค่อนข้างใหญ่และมี Zone Bakery ด้วยค่ะ

เข้ามาในซอยก็จะเจอกับ Community mall ที่ชื่อว่า Seenspace อยู่ทางซ้ายมือ

ด้านหน้ามีร้านขายผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามอยู่ด้วย

รวมไปถึงศูนย์รับซื้อขายสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ

ภายใน Seenspace บรรยากาศภายในเนื่องจากไปตอนเช้าอาจจะดูร้างๆไปบ้าง เพราะส่วนมากจะเป็นร้านกินดื่มที่เปิดตอนดึกๆ

มี Gym มวยไทยของ RSM ตั้งอยู่ และสำหรับสาวๆที่ชอบออกกำลังกายก็มี Studio ปั่นจักรยานที่ชื่อ RYDE เปิดอยู่ที่นี่ค่ะ

ตรงข้ามกับ Seenspace ก็จะมีร้าน After You สาขาเเรกๆเปิดอยู่ สาขานี้เรียกได้ว่ากลางวันอาจไม่ต้องรอคิว แต่ยิ่งดึกยิ่งคนเยอะเลยค่ะ

เข้าไปข้างในก็จะมีร้านราเม็ง ร้านชาบู และที่จอดรถของ J-Avenue นะคะ พื้นที่ตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ J-Avenue ค่ะ

เดินทะลุมาด้านหลังก็เข้าสู่ ทองหล่อซอย 15 ซึ่งจะเจอกับอาคารจอดรถของ  J-Avenue

พอข้ามถนนก็จะเจอกับ  J-Avenue เป็น Community Mall คู่ใจของคนย่านนี้ เดินข้ามถนนไปจะมีทางเข้าจากตรงนี้ด้วย

J-Avenue เป็น Community Mall ที่เรียกได้ว่าอยู่คู่ซอยทองหล่อมาอย่างยาวนาน บางร้านภายในนี้ก็เปิดให้บริการ 24 ชม.ค่ะ เรียกได้ว่า All day all night กันจริงๆ ข้างในก็จะมีทั้ง Supermarket ,Drug Store ,ร้านอาหารให้เลือกมากมาย

ภายในมี Supermarket อย่าง Villa Market อยู่ด้วย

เดินเข้าไปด้านในจะเห็นว่ามีของขายครบเลยค่ะ ทั้งร้านยาและของอุปโภคบริโภคมากมาย

ชั้นล่างก็มีลานจอดรถนะคะแต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยว่า จึงต้องไปจอดด้านบนอาคารจอดรถแทน

ด้านบนมี WE Fitness ตั้งอยู่ที่นี่ด้วยค่ะ

ข้างในก็จะมีทั้ง Supermarket ,Drug Store ,ร้านอาหารให้เลือกมากมาย

ไม่นานมานี้บางส่วนก็เพิ่งจะ Renovate ใหม่ มีร้านมาใหม่มากขึ้นค่ะ

พามาชมบรรยากาศภายในกันบ้าง พอเข้ามาที่ชั้นล่างจะเห็นว่าเต็มไปด้วยร้านอาหารเลยค่ะ ถ้าขึ้นไปชั้นบนจะเจอกับ WE Fitness สาขานี้เป็นแบบ Signature ด้วย

เราถ่ายรูปรายชื่อร้านอาหารต่างๆภายใน J Avenue มาให้ดู เผื่อใครอยากจะแวะมาลองกันค่ะ

มีร้านกาแฟ Kof คาเฟ่สไตล์มินิมอลอยู่ด้านหน้า บรรยากาศร้านดีมากๆ เลยจัดไป 1 แก้วค่ะ เมนูนี้เป็นเมนูแนะนำด้วย ด้านล่างเป็นช็อกโกแลตส่วนด้านบนเป็นชาเขียว เข้ากันดีมากๆ

ฝั่งตรงข้าม จะมีแหล่งร้านอาหารอย่าง Penny’s Balcony และ Courtyard 72 อยู่ใกล้ๆกัน

ข้ามมาดูอีกฝั่งกันเลยค่ะ

Penny’s Balcony มีทั้งหมด 14 ร้าน มีหลากหลายมากๆไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารฝรั่งเศส เบลเยียม หรือจีน และมีร้านานซักรีด ร้านเสื้อผ้า สินค้าแบรนด์เนม สปาและสถานเสริมความงาม ด้วยค่ะ และมักจะคึกคักขึ้นในเวลากลางคืน

ถัดมาจะเป็น Community ที่เรียกว่า Courtyard 72

กลางวันก็จะร้างๆหน่อย ส่วนกลางคืนจะมีร้านกินดื่ม บาร์และ EDM Club อยู่ซึ่งจะคึกคักมากขึ้น

ไปดูฝั่งตรงข้ามที่ซอย 17 กันบ้างค่ะ ซอยนี้จะมี Community mall อยู่อีกแห่งนึงคือ The Commons

ซอยนี้ขับไปตามทางเรื่อยๆก็จะไปเชื่อมต่อกับซอยทองหล่อ 13 ค่ะ บริเวณปากซอยและเลยไปอีกนิดตามถนนใหญ่ก็จะมีร้านอาหารบ้านๆให้บริการอยู่ด้วย พวกร้านข้างแกง ร้านอาหารตามสั่ง สำหรับคนทำงานเเถวนี้ที่อยากกินอะไรที่ไม่เเพงมากค่ะ

ภายในซอยจะมี Community Mall อีกแห่งนึง ชื่อว่า The Commons เข้าซอยไปประมาณ 100 เมตร

The Commons มีแนวคิดคือ Wholesome living เน้นการใช้ชีวิตอย่างใส่ใจสุขภาพ มีสไตล์การตกแต่งแบบลอฟท์ ใช้ปูนเปลือยเป็นหลัก มีความดิบ เท่ๆ แต่มีการปลูกต้นไม้เข้ามาแทรก เพิ่มพื้นที่สีเขียว

ภายใน แบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่  Market, Village, Play Yard, Top Yard

โดย The Commons จะเปิดให้บริการทุกวันอาทิตย์ –พฤหัสบดีตั้งแต่ 11.00-22.30 น. และวันศุกร์-เสาร์จะปิดช้ากว่าที่ 11.00-23.30 น. ร้านอาหารก็ตามนี้เลย มีให้เลือกเยอะค่ะ

สำหรับคนที่ต้องการมานั่งชิลหรือรับประทานอาหารที่นี่แนะนำให้เดินมาหรือจะใช้บริการรถสาธารณะก็ได้ค่ะ เพราะว่าถ้าจอดเกิน 30 นาที คิดค่าจอดชั่วโมงละ 100 บาทค่ะ

มีร้านอาหาร , ร้านกาแฟอย่าง Roots Coffee ที่มีเมนูกาแฟ Brew มาให้เลือกหลากหลาย เราไปลอง Brew Black , Orange Tonic และ Cocao Nibs มา รสชาติเป็นเอกลักษณ์ดี นอกจากนั้นยังมี Maison Jean Philippe ที่คนเยอะตลอดเวลาเลยค่ะ

มีร้าน Sourced Grocers ร้านนี้เด่นเรื่องชีสมีทั้งจากประเทศฝรั่งเศส อิตาลี สเปน อังกฤษ และฮอลแลนด์ เลยค่ะ นอกจากนั้นยังมี โคลคัท เกลือ  เครื่องเทศ น้ำผึ้ง พาสต้า และเครื่องดื่ม ให้เลือกซื้อกันอีกด้วย

ที่นี่นับเป็นอีกที่ที่เก๋ไก๋เดินเล่นถ่ายรูปสวยเลยค่ะ

พาชมบรรยากาศด้านนอกน่านั่งมากๆเลยค่ะ โครงการนี้จะมีจุดเด่นที่การเล่นระดับของพื้นที่ เเละมีพื้นที่ส่วนกลางที่มาใช้รวมกันเยอะๆ เชื่อมต่อถึงกัน Common Area นั่นเองค่ะ

ชั้นบนก็มีร้านค้า, ร้านอาหาร , ที่ออกกำลังกายอย่าง Absolute You เป็นต้น

เลย TheCommons มา จะมีร้านอาหารใต้อยู่ร้านนึงที่เราอยากเเนะนำกันชื่อว่าร้านข้าวจ้าว เป็นร้านอาหารราคาไม่แพง(เมื่อเทียบกับย่านนี้)และรสชาติเผ็ดสะใจมาก ใครผ่านมาอยากให้มาลองดูนะคะ

สรุป โครงการ  Hyde Heritage ทองหล่อ เป็นโครงการคอนโดมิเนียม High Rise สูง 45 ชั้น 311 ยูนิต ติดถนนใหญ่ ตรงข้ามกับสำนักงาน UNESCO ใกล้ BTS ทองหล่อและเอกมัยในระยะทางที่สามารถเดินได้ ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการค่อนข้างสูง การเดินทางค่อนข้างสะดวกสบายสามารถไปยังแหล่งของกิน, ช้อปปิ้ง และ CBD ได้สะดวกทั้งในระยะเดินและการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า นับว่าเป็นทำเลที่น่าสนใจสำหรับการอยู่อาศัยพอสมควรเลยทีเดียว

เป็นไงกันบ้างคะสำหรับทำเลของ Hyde Heritage ทองหล่อ ส่วนข้อมูลโครงการอื่นๆคาดว่าจะตามมาอีกไม่นานเกินรอนะคะ เเล้วเรามาติดตามต่อกันอีกทีดีกว่าค่ะว่าโครงการจะออกมาเป็นอย่างไร ทั้งด้านหน้าตาอาคาร รูปแบบห้อง และที่สำคัญคือเรื่องราคา เเละถ้าทาง Thinkofliving ของเรามีข้อมูลเพิ่มเติม สัญญาได้ว่าจะคอยอัพเดทให้ผู้อ่านทุกท่านอ่านกันแน่นอนค่ะ