รีวิวฉบับที่ 1510 … สวัสดีครับ วันนี้จะพาไปชมโครงการอัพเดตโครงการ Wynn Condo พหลโยธิน 52 จาก AssetWise ซึ่งตัวโครงการเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร ทำเลย่านพหลโยธิน-สะพานใหม่ อยู่ในซอยพหลโยธิน 52 ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีสะพานใหม่ ซึ่งซอยนี้เป็นแหล่งชุมชนอยู่อาศัยที่คึกคักและหนาแน่นมากๆ เราไปชมกันเลยครับ

Fact @ 27 December 2017

  • Wynn Condo (วินน์ คอนโด)
  • AssetWise
  • ECONOMY-MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางเขน
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร 275 ยูนิต
  • อาคาร A 93 ยูนิต ,  อาคาร B 77 ยูนิต , อาคาร C 105 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 115 คันคิดเป็น 42 % รวมจอดซ้อน
  • ที่ดินประมาณ 2-0-16 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : Q3/2559
  • Studio ขนาด 22.83 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 23.47 – 25.70 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Extra ขนาด  26.01 – 33.48 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Exclusive ขนาด 31.66 – 31.99 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 37.00 – 46.86 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 46.13 – 54.49 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.64 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ AVG 76,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 087-414-5252

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.894988, 100.611796

Wynn Condo ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 52  สำหรับการเข้าถึงโครงการสามารถเข้าทางถนนพหลโยธินได้โดยตรงและเป็นเส้นทางที่ใกล้ที่สุด เพราะโครงการห่างจากปากซอยพหลโยธิน 52 ประมาณ 300 ม. หากมองที่ถนนสายหลักคือ ถนนพหลโยธิน แล้วจัดเป็นถนนหลักที่ผ่านตั้งแต่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจนไปถึงปทุมธานี ถนนพหลโยธินมีหลายถนนที่ตัดผ่านเชื่อมต่อกันหลายสาย ทั้งถนนแจ้งวัฒนะที่มาจากทางปากเกร็ด นนทบุรี และถนนรามอินทราที่มาจากทางมีนบุรี

รวมถึงถนนพหลโยธินที่ตรงมาจากเสนานิคมก็สามารถขับตรงมาลงอุโมงค์ตรงวงเวียนหลักสี่และมุ่งหน้ามายังโครงการโดยไม่ต้องฝ่าด่านรถติดที่บริเวณวงเวียนหลักสี่ ทำให้การเข้าถึงโครงการค่อนข้างสะดวก และในอนาคตที่ถนนตัดใหม่เปิดให้ใช้บริการอย่างเป็นทางการก็จะยิ่งเพิ่มความสะดวกในการเดินทางมาขึ้นอีกด้วย แต่ช่วงนี้เส้นทางถนนพหลโยธินการเดินทางอาจจะยังไม่ค่อยสะดวกมากนัก (เนื่องจากกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวอยู่) ทำให้ตอนนี้การจราจรอาจจะติดขัดพอสมควร แต่ถ้ารถไฟฟ้าสร้างเสร็จเมื่อไหร่ การเดินทางในเส้นพหลโยธินก็จะสะดวกสบายยิ่งขึ้น ต้องอดใจรอกันหน่อยครับ

พื้นที่โครงการ Wynn Condo  จัดว่าอยู่ในทำเลชานเมืองตอนเหนือของกรุงเทพ ซึ่งภาพรวมส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบทั้งที่จัดสรรและไม่จัดสรร ปะปนกับสิ่งปลูกสร้างที่เห็นกันประจำในชีวิตประจำวัน อย่างใกล้ๆโครงการบนถนนพหลโยธินขาออกมีตลาดยิ่งเจริญที่เป็นตลาดสดขนาดใหญ่ที่คนแถวนี้นิยมมาจับจ่ายซื้อของกัน เปิดขายตั้งแต่เช้าถึงเย็น รวมไปถึง Tesco Lotus ,  BigC Supercenter หรือ Central รามอินทราที่อยู่ไม่ไกลนัก และโรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัลอยู่ใกล้ๆกัน

บนสองฝั่งของถนนส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น โดยชั้นล่างสุดเปิดเป็นร้านอาหาร และร้านค้าต่างๆที่ง่ายต่อการซื้อ-ขาย ทำเลย่านนี้จึงจัดเป็นย่านที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์พอสมควร หาของกินของใช้ไม่ยากมีห้าง ตลาด โรงเรียน โรงพยาบาล พร้อม และหากมองความอุดมสมบูรณ์ระยะใกล้เข้ามาหน่อย ในซอยพหลโยธิน 52 ก็คือว่าไม่ได้แย่อะไร พื้นที่เดิมในซอยก็เป็นชุมชนและมีคนอยู่อาศัยอยู่เยอะพอสมควร จึงมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้อให้เลือกตามความต้องการได้หลากหลายอยู่

ในส่วนของการเดินทางนอกเหนือจากการใช้รถยนต์หรือรถโดยสารเพื่อมายังโครงการแล้ว การเดินทางด้วยระบบขนส่งอย่าง รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ก็เป็นสิ่งที่คนในแถวนี้รอคอยกัน ว่าจะมาช่วยเรื่องรถติดและสร้างความสะดวกในการเดินทางให้ดีขึ้น ล่าสุดเริ่มมีการก่อสร้างกันอย่างจริงจัง โดยมีกำหนดการคาดว่าจะแล้วเสร็จ พ.ศ. 2562 และเปิดให้บริการปี พ.ศ. 2563โดยเส้นทางก่อสร้างระยะทางประมาณ 19 กิโลเมตร จำนวน 16 สถานี เป็นทางวิ่งยกระดับตลอดเส้นทาง เริ่มต้นต่อเนื่องจากแนวเส้นทางของโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร(BTS) ที่สถานีหมอชิตไปตามถนนพหลโยธิน และสิ้นสุดที่บริเวณคลองสองที่สถานีคูคต ซึ่งบริเวณซอยพหลโยธิน 52 ก็จะอยู่ใกล้กับสถานีสะพานใหม่ที่สุด เพราะตำแหน่งสถานีจะอยู่บริเวณหน้าตลาดยิ่งเจริญ ถ้าคิดรวมๆระยะทางจากโครงการไปถึงหน้าสถานีสะพานใหม่ ก็น่าจะอยู่ห่างกันประมาณ 360 ม. เท่านั้น

เส้นทางเข้าถึงโครงการ Wynn Condo เรียกได้ว่าสะดวกและไม่ซับซ้อน จากถนนพหลโยธินฝั่งมุ่งหน้าสี่แยกเกษตร เลี้ยวซ้ายเข้าซอยพหลโยธิน 52 ตรงเข้ามาตามถนนซอยพหลโยธิน 52  จากปากซอยไปโครงการ Wynn Condo จะใช้ระยะทางประมาณ 300 ม. ตัวโครงการจะอยู่ทางขวามือก่อนทางแยก สังเกตไม่ยาก

สามารถดูภาพรูทการเดินทางด้วยรถยนต์ในรีวิวตอนยังไม่ก่อสร้าง “คลิกที่นี่”

Wynn zoom

โครงการ Wynn Condo เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร บนพื้นที่ 2-0-16  ไร่ จำนวน 275 ยูนิต โดยแบ่งเป็น 3 อาคาร ได้แก่อาคาร A 93 ยูนิต , อาคาร B 77 ยูนิต , อาคาร C 105 ยูนิต มีแบบให้เลือกตามรูปแบบห้อง 6 แบบ ทั้งแบบ Studio , 1 Bed และ 2 Bed โดยขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 22.83 –  54.49 ตร.ม. ภายในโครงการจะประกอบด้วยส่วนที่เป็นส่วนพักอาศัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ได้แก่ สวน สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย และพื้นสวนกลางอื่นๆ มากมาย จัดพื้นที่จอดรถไว้ภายในโครงการบริเวณชั้น 1 ของอาคารและโดยรอบ ทำเลที่ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 52 เข้าจากปากซอยมาถึงหน้าโครงการประมาณ 300 ม. ตัวโครงการตั้งอยู่ในพื้นที่ที่โดยรอบเป็นแหล่งชุมชนลักษณะเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคลเดิมในพื้นที่ หมู่บ้านจัดสรร และอาคารพาณิชย์ พื้นที่โดยรอบเป็นแหล่งชุมชนแนวราบไม่มีอาคารสูงหรือแหล่งที่ก่อให้เกิดมลภาวะต่างๆ

จากภาพแสดงตำแหน่งของอาคารข้างเคียงที่ติดกับโครงการ ตามทิศได้ดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดกับ อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น และบ้านพักอาศัย 2 ชั้น
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ติดกับอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับ บ้านพักอาศัย 2 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านพักอาศัย 2 ชั้น

ปัจจุบันโครงการมีการก่อสร้างแล้วเสร็จแล้ว หลังจากที่เราเข้ามาจากปากซอยพหลโยธิน 52 ประมาณ 300 เมตร ก็ถึงที่ตั้งโครงการทางขวามือ

ด้านข้างๆฝั่งนี้เป็นพหลโยธิน 52 แยก 8 สภาพแวดล้อมรอบๆเป็นชุมบ้านพักอาศัยทั่วไป ไม่มีอาคารสูง

ทางเข้าออกด้านหน้าโครงการ เห็นเป็นจุดเด่น เนื่องจากด้านบนชั้น 2-3 เป็น Lobby & Facility ทำให้ดูสะดุดตา

ป้ายโครงการติดอยู่ด้านหน้าทางเข้าออก ผนังด้านหลังกรุด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาว

ที่รั้วกำแพงด้านหน้า จะเป็นรั้วเหล็กโปร่งที่ปลูกต้นไม้ขนานไปด้วย อีกทั้งมีลงต้นไม้ขนาดกลางที่พอออกดอกใบเยอะกว่านี้ จะช่วยเพิ่มความ Private ให้แก่ห้องที่อยู่ตำแหน่งชั้น 2-3

ฝั่งตรงข้ามด้านหน้าโครงการ คือ ซอยพหลโยธิน 52 ที่เป็นแนวอาคารพาณิชย์ยาวต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นซอย มีร้านค้าเปิดอยู่ราวๆ 70% ซึ่งก็เป็นรวงร้านต่างๆต่อการอยู่อาศัย มีรถผ่านตลอดทั้งวัน คึกคักสูงมาก

 

หัวมุมทางขวามือเป็นที่ตั้งโครงการ ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปต่อในซอย 52 นี่แหละ

ซึ่งตัวโครงการยังถือว่าอยู่บริเวณต้นซอยอยู่นะครับ ยังมีร้านจากตึกแถวทั่วไปอีกเยอะ ตรงต่อไปในซอย 52 ก็มี 7-11, มหาวิทยาลัย Sbac อีกทั้งยังไปเชื่อมกับซ.พหลโยธิน 50 และถนนเทพรักษ์ได้ด้วย

จากมุมนี้เราจะเห็นว่ารั้วกำแพงของโครงการ พอพ้นจากฝั่งด้านหน้าแล้ว จะเป็นเป็นคอนกรีตทึบล้อมรอบทาสีเทา ที่สูงประมาณ 2.50 เมตร

ฝั่งด้านหลังโครงการ ก็มีลงต้นไม้ไว้ชิดรั้วเช่นกัน รอวันที่จะออกใบมากกว่านี้ ช่วยบังสายตาและเพิ่มสีเขียวให้แก่โครงการ สภาพแวดล้อมรอบๆเป็นบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้นทั้งหมด

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • รถไฟฟ้า BTS สถานี สะพานใหม่ ~ 360 ม.
  • ตลาดยิ่งเจริญ ~ 380 ม.
  • มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ~ 550 ม.
  • Big C Supercenter ~ 850 ม.
  • โรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัล ~ 1.1 กม.
  • Central Plaza รามอินทรา ~ 1.2 กม.
  • Tesco Lotus หลักสี่ ~ 2.3 กม.
  • มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ~ 3 กม.
  • วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร ~ 3.5 กม.
  • มหาวิทยาลัยเกริก ~ 3.6 กม.
  • มหาวิทยาลัยศรีปทุม ~5.5 กม.
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์~ 7 กม.

 


เจาะลึกตัวโครงการ

ก่อนจะเข้าไปในโครงการ เรามาดูแปลนชั้น Ground กันก่อน ซึ่งชั้นนี้ทั้งหมดจะไม่มีอะไรมากนอกจากเป็น “พื้นที่จอดรถ” ใต้อาคาร การเดินรถภายใต้อาคารจะเป็นแบบสวนทางกันได้(ทูเวย์) ที่จอดรถจะมีช่องจอด 96 คัน และโครงการเคลมว่าซ้อนได้เพิ่มมาเป็น 115 คัน (ทำให้คิดเป็น 42 % รวมจอดซ้อน) ที่ใต้ทุกอาคาร จะมีโถงลิฟต์ล็อบบี้อยู่ ต้องแตะการ์ดเพื่อเปิดประตู แต่ละอาคารมีลิฟต์โดยสารสองตัว ตรงใจกลางจะจัดพื้นที่เป็นสวนหย่อม ไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่ก็สามารถมานั่งเล่นรอบๆได้

Floor 2

ผังชั้น 2 จะเห็นว่าตำแหน่งอาคารมีระยะร่นเข้าไปอยู่ด้านในของที่ดิน รูปทรงอาคารทั้ง 3 อาคาร ตามรูปร่างที่ดินทั้งสามด้าน ส่วนด้านล่างที่ชั้น 1  จัดเป็นพื้นที่จอดรถไว้ทั้งหมด พื้นที่บริเวณชั้น 2 ของทั้ง 3 อาคาร จะเป็นพื้นที่พักอาศัยทั้งหมด ยกเว้นที่อาคาร A จะจัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการรวมอยู่ด้วย ได้แก่ Lobby สระว่ายน้ำ ห้องน้ำส่วนกลาง และห้องออฟฟิสของโครงการ

ในส่วนของห้องพักอาศัยที่ชั้น 2 ของทั้ง 3 อาคาร แบ่งเป็น อาคาร A 13 ยูนิต , อาคาร B 12 ยูนิต , อาคาร C 16 ยูนิต โดยเน้นจัดแบบ Double Corridor ตามแนวตึกรูปตัวทรงสี่เหลี่ยม ห้องใหญ่แบบ 2 Bed จะจัดไว้ที่ปลายอาคารทั้งสองฝั่ง มีลิฟท์โดยสารอาคารละ 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 66.5 :1  , ตึก B 38.5 :1 , ตึก C 52.5 :1 ความหนาแน่นเกินปานกลาง และทุกอาคารจะมีบันไดหนีไฟ 2 จุด คือภายในพื้นที่อาคาร 1 จุด และเชื่อมต่อไปยังชั้นที่จอดรถอีก 1 จุด

Floor 3

ผังชั้น 3 ของโครงการ เริ่มกันที่อาคาร A ประกอบด้วยส่วนพักอาศัย มีห้องพักทั้งหมด 13 ยูนิต และส่วนของพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ได้แก่ Pool-Viewed Fitness 1 ห้องขนาด 33 ตร.ม. , ห้อง Co-Working Space ห้องขนาด 22 ตร.ม. และ ห้อง Library ขนาด 20 ตร.ม. ส่วนอาคาร B และ C ในชั้น 3 ของอาคารจะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด ประกอบด้วย อาคาร B 12 ยูนิต , อาคาร C 16 ยูนิต โดยจะทำการคละขนาดห้อง เน้นห้องห้องใหญ่แบบ 2 Bed จะจัดไว้ที่ปลายอาคารทั้งสองฝั่ง ส่วนห้องแบบ Studio และ 1 Bed จะอยู่กลางๆของตัวอาคารเกือบทั้งหมด ส่วนตำแหน่งลิฟท์ จำนวนลิฟท์และตำแหน่งบันไดหนีไฟ จะเหมือนกันกับผังชั้น 2

Floor 4

ผังชั้น 4 ของโครงการ เริ่มกันที่อาคาร A ประกอบด้วยส่วนพักอาศัย มีห้องพักทั้งหมด 14 ยูนิต และส่วนของพื้นที่ส่วนกลางของโครงการจัดเป็น Green Area พื้นที่สวนบนอาคารโดยถ้าต้องการใช้งานก็ต้องเดินออกที่โถงลิฟท์และทางเดินโดยจะมีประตูกั้นการใช้งานไว้เป็นสัดส่วน  ส่วนอาคาร B และ C ในชั้น 4 ของอาคารจะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดกับผังชั้น 3 ประกอบด้วย อาคาร B 12 ยูนิต , อาคาร C 16 ยูนิต โดยจะทำการคละขนาดห้อง จัดตำแหน่งให้ห้องใหญ่แบบ 2 Bed ไว้ที่ปลายอาคารทั้งสองฝั่ง ส่วนห้องแบบ Studio และ 1 Bed จะอยู่กลางๆของตัวอาคาร ส่วนตำแหน่งลิฟท์ จำนวนลิฟท์และตำแหน่งบันไดหนีไฟ จะเหมือนกันกับผังชั้น 3

Floor 5-6

ผังชั้น 5 และ 6 ของโครงการทั้งสองชั้นนี้จัดวางผังเหมือนกัน โดยทุกอาคารจะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด แบ่งเป็น ที่อาคาร A ประกอบด้วยส่วนพักอาศัย มีห้องพักทั้งหมด 15 ยูนิต,  อาคาร B 12 ยูนิต และ อาคาร C 16 ยูนิต ซึ่งจะเหมือนกันกับผังชั้น 4 โดยจะทำการคละขนาดห้อง จัดตำแหน่งให้ห้องใหญ่แบบ 2 Bed ไว้ที่ปลายอาคารทั้งสองฝั่ง ส่วนตำแหน่งลิฟท์ จำนวนลิฟท์และตำแหน่งบันไดหนีไฟ จะเหมือนกันกับผังชั้น 4

Floor 7

ผังชั้น 7 โดยทุกอาคารจะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด แต่จำนวนห้องและตำแหน่งห้องบางห้องจะแตกต่างกัน แบ่งเป็น ที่อาคาร A ประกอบด้วยส่วนพักอาศัย มีห้องพักทั้งหมด 12 ยูนิต,  อาคาร B 9 ยูนิต และ อาคาร C 14 ยูนิต สังเกตที่อาคาร B จะมีจำนวนยูนิตห้องน้อยกว่าชั้นที่ผ่านมา เพราะเน้นจัดห้องที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่มากขึ้นในชั้นนี้

Floor 8

ผังชั้น 7 โดยทุกอาคารจะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดเช่นกัน จำนวนห้องและตำแหน่งห้องบางห้องจะแตกต่างกันในแต่ละอาคาร แบ่งเป็น ที่อาคาร A ประกอบด้วยส่วนพักอาศัย มีห้องพักทั้งหมด 11 ยูนิต  ,  อาคาร B 7 ยูนิต และ อาคาร C 12 ยูนิต สังเกตที่ทั้ง 3 อาคาร จะมีจำนวนยูนิตห้องน้อยกว่าชั้นที่ผ่านมา เพราะเน้นจัดห้องที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่มากขึ้นและเน้นการจัดพื้นที่ห้องหน้ากว้างเพิ่มเข้ามาในชั้นนี้

Floor Roof

ผังชั้น Rooftop ของทั้ง 3 อาคาร จะเน้นไปที่อาคาร B , C จัดเป็น Green Area ไว้ทั้งหมด แบ่งการใช้งาน เป็น Greenert Walkway สำหรับเดินออกกำลังกาย , Grill Bar , Skyview Terrace สำหรับนั่งพักผ่อน และพื้นที่สวนหย่อม โดยหากจะต้องใช้งาน Rooftop อาคาร B , C จะต้องใช้เส้นทางบันไดเดินขึ้นมา

บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการ โครงการนี้มีทางเข้าออกเพียงด้านเดียวทางถนนซอยพหลโยธิน 52 เมื่อขับเข้ามาภายในโครงการสามารถเลือกจอดรถได้ในชั้น 1 ของทั้ง 3 อาคารจัดเป็นที่จอดในร่ม และที่จอดรอบๆอาคารจัดเป็นที่จอดกลางแจ้ง / ระบบตรวจตราการเข้าออก เดี๋ยวจะมีรั้วล้อเลื่อนมากั้นปิดไว้ รปภ.จะคอยตรวจสติ๊กเกอร์ลูกบ้านเพื่อใช้ผ่านเข้าออก

ตำแหน่งที่นั่งของเจ้าหน้าที่รปภ.ชั่วคราวมุมใต้บันได

การเดินรถภายใต้อาคารจะเป็นแบบสวนทางกันได้(ทูเวย์) ที่จอดรถจะมีช่องจอด 96 คัน และโครงการเคลมว่าซ้อนได้เพิ่มมาเป็น 115 คัน (ทำให้คิดเป็น 42 % รวมจอดซ้อน)

การเก็บงานท่อระบบต่างๆที่เพดานก็ทำออกมาได้ดูเรียบร้อย เป็นระเบียบ

ที่ใต้ทุกอาคาร จะมีโถงลิฟต์ล็อบบี้อยู่ ต้องแตะการ์ดเพื่อเปิดประตู แต่ละอาคารมีลิฟต์โดยสารสองตัว

หน้าตาภายในโถงลิฟท์ แต่ละอาคารก็แบบนี้เลยนะ มีลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว อัตราส่วนจะอยู่ราวๆ 38-53 : 1 ถือว่าเหลือเฟือมากๆ

ตอนนี้โครงการเอาถังขยะเตรียมไว้แล้ว เดี๋ยวจะไปกระจายตามห้องเก็บขยะชั้นต่างๆ

เดินรถง่ายๆตามลูกศร

เวลาจอดรถ ถึงแม้ฝั่งถนนด้านหน้าเป็นรั้วเหล็กโปร่ง แต่ก็มีการปลูกต้นไม้บังสายตาจากภายนอกไว้แล้ว เพื่อความเป็นส่วนตัว

ที่ใต้อาคาร C ด้านหลังก็เหมือนกันกับส่วนอาคารอื่นๆ

ตรงใจกลางจะจัดพื้นที่เป็นสวนหย่อม ไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่ก็สามารถมานั่งเล่นรอบๆได้

มุมนี้ยืนจากชั้นล่างมองขึ้นไปที่ชั้นบนอาคาร A จะเห็นพื้นที่ส่วนกลางหลักอื่นๆ เดี๋ยวจะค่อยๆพาไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง

 

กลับมาที่บริเวณทางเข้าออกหลักโครงการ เราจะเห็นบันไดทางขึ้นไปชั้นบนตรงนี้

สิ่งที่สะดุดตาอย่างแรกก่อนเลยคือ “กระจก” ที่ล้อมรอบพื้นที่นี้

เข้ามาด้านในแล้ว ในส่วนนี้คือ Main Lobby ส่วนกลางที่ทุกอาคารสามารถมาใช้ร่วมกัน โดยส่วนนี้เพดานสูงถึง 5 เมตร มีการตกแต่งด้วยกระเบื้องผนังลายหิน จัดวางมุมโต๊ะ เก้าอี้ โซฟานั่งเล่น (พื้นที่ตรงนี้ยังเอาไว้สำหรับรับแขกได้ด้วย กรณีที่มีแขกจะมาหาเราแล้วไส่สะดวกให้ขึ้นมาห้องนอนก็นัดมาเจอตรงนี้ครับ)

มุมโต๊ะนั่งอ่านหนังสือได้

มองไปอีกฝั่ง Double Volume ทำให้ล็อบบี้นั้นดูสูงโปร่งสบายตา เพราะแสงธรรมชาติส่องเข้ามาทั่วถึง

อีกทั้งมีการใช้โคมไฟประดับสวยงาม ดูมีลูกเล่นทางสายตาแบบนี้

ส่วนของพื้นที่ตู้จดหมาย จะอยู่ติดกับเคาน์เตอร์ Reception

มองออกไปด้านนอกเป็นส่วนของสระว่ายน้ำ

เดี๋ยวเราขึ้นไปดูส่วนกลางที่ชั้น 3 กันก่อนนะ

พอขึ้นมาแล้ว หันไปทางขวามือจะเป็นส่วนของห้องพนักงานชั่วคราว ซึ่งจากเดิมใน Floor Plan ตรงนี้จะเป็นห้อง Co-Working Space นะครับ

ส่วนทางซ้ายมือ จะเป็นมุมโต๊ะนั่งทำงาน แบบมีปลั๊กไฟให้เสียบใช้ได้

เวลานั่งทำงานก็มองลงไปยัง Main Lobby และเห็นสีฟ้าของสระว่ายน้ำด้วย

มีทางเดินต่อเนื่องไปยังส่วนของห้องออกกำลังกาย

ภายในห้องออกกำลังกายจัดวางเครื่องเล่นขนาดใหญ่พวกคาร์ดอโอเอาไว้ 6 ชิ้น อยู่ชิดกับผนังช่องแสง

ห้องเป็นสีเหลี่ยมผืนผ้า ยาวต่อเนื่องมีทางเข้าออกอีกฝั่ง

ยังมีเครื่องเล่นอื่นๆอีก เช่นบาร์ดัมเบล และที่ซิทอัพ

เล่นไปมองวิวสีฟ้าของสระว่ายน้ำไป

ในห้องออกกำลังกายมีส่วนทางเข้าออกอีกฝั่งคือ มาจากโถงลิฟต์ส่วนอาคาร A ตรงนี้ได้เลย

โถงลิฟท์จะประกอบไปด้วย ลิฟต์ 2 ตัว, ห้องงานระบบ และห้องทิ้งขยะ

และก็มี Access ทางเข้าไปยังส่วนโถงทางเดินที่พักอาศัย

Corridor (โถงทางเดิน) กว้างพอสมควร มีช่องแสงที่ปลายทางเดิน อีกทั้งประกอบกับเปิดไฟส่องสว่างตามทางเดินไว้ (แต่คิดว่าอนาคตคงปิดเวลากลางวัน)

ผนังช่องแสงปลายโถงทางเดินก็ได้กว้างและสูงเกือบเต็มพื้นที่

ระหว่างทางก็จะมีบันไดหนีไฟพร้อมชุดตู้กันอัคคีภัยให้เห็น

กลับมาทาง Main Lobby อีกครั้ง เดี๋ยวจะออกไปดูส่วนด้านนอก

ที่ด้านนอกออกมาจะเจอกับส่วนห้องน้ำแยกชายหญิงก่อนทางซ้ายมือ

เปิดเข้ามาเจอกับเหล่าตู้ล็อกเกอร์เผื่อใครมาใช้งานสระว่ายน้ำ

หน้าตาภายในห้องน้ำผู้ชายประมาณนี้

เดินขึ้นยกสเต็ปมาริมสระ จะเจอกับเก้าอร้นอนเล่นอาบแดดอยู่สองตัว

บริเวณแรกจะเป็นส่วนน้ำตื้นแช่เท้าก่อน และค่อยถัดไปเป็นส่วนของสระว่ายน้ำหลักเอาไว้ใช้งานจริง

พื้นที่ข้างสระโรยดินหินกรวดประดับตกแต่ง และรอบๆสระยังติดตั้งตัวกระจกนิรภัยเซฟตี้ไว้อีกขั้น

สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ ขนาด 4.85 x 16 เมตร ลึก 1.2 เมตร

กฎระเบียบของการใช้งานสระว่ายน้ำที่นี่

มุมนี้ผมขึ้นมาถ่ายจากอาคาร B จะเห็นถึง Main Facility ที่อาคาร A หลักๆเกือบทั้งหมดที่ชั้น 2-4

นี่ครับมองจากภาพมุมสูง(ที่อาคาร B) จะเห็นส่วนกลางสีฟ้าอย่างสระว่าน้ำ และพื้นที่สีเขียวอย่างสวนหย่อมด้านล่างดูตัดกันดี

ที่ชั้น 4 ของอาคาร A จัดพื้นที่เป็น Green Area ให้ลูกบ้านสามารถเดินออกมาใช้งาน ลงสวนไว้รอบๆพร้อมศาลานั่งเล่นพักผ่อน และสามารถมองวิวรอบๆโครงการได้

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Double Volume Lobby สูง 5 ม. ห้องขนาด 80 ตร.ม.
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 4.85 x 16 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
  • Pool-Viewed Fitness 1 ห้องขนาด 33 ตร.ม.
  • Library ห้องขนาด 20 ตร.ม.
  • Co-Working Space ห้องขนาด 22 ตร.ม.
  • Loft Landscape
  • Grill Bar
  • Chill Out Area
  • Starlight Terrace
  • Greenery Zone
  • Sky Yoga Deck
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อหนึ่งอาคาร
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 66.5 :1  , ตึก B 38.5 :1 , ตึก C 52.5 :1
  • ที่จอดรถ 115 คันคิดเป็น 42 % รวมจอดซ้อน
  • ระบบ CCTV / Access Card


Product Walkthrough

โครงการ Wynn Condo มีห้องทั้งหมด 6 แบบ แบ่งเป็น

  • Studio  ขนาดพื้นที่ 22.83 ตร.ม. จำนวน 4 ยูนิต
  • 1 Bedroom – 1 ห้อนนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ 23.47 – 26.5 ตร.ม. จำนวน 148 ยูนิต
  • 1 Bedroom Extra – ขนาดพิเศษ 1 ห้อนนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ 24.89 – 33.79 ตร.ม. จำนวน 21 ยูนิต
  • 1 Bedroom Exclusive – 1 ห้อนนอน 1 ห้องน้ำ + ครัวแยกส่วน ขนาดพื้นที่ 27.26 – 34.92 ตร.ม. จำนวน 38 ยูนิต
  • 1 Bedroom Plus – 1 ห้อนนอน 1 ห้องน้ำ + ห้องอเนกประสงค์ ขนาดพื้นที่ 33.86 – 49.14 ตร.ม. จำนวน 48 ยูนิต
  • 2 Bedroom – 2 ห้อนนอน 1 ห้องน้ำ  ขนาดพื้นที่ 50.31 – 54.49 ตร.ม. จำนวน 16 ยูนิต

ห้องตัวอย่างแรกเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus – 1 ห้อนนอน 1 ห้องน้ำ + ห้องอเนกประสงค์ ขนาดพื้นที่ 45.87 ตร.ม. ลักษณะรูปร่างห้องเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า แบ่งพื้นที่การใช้งานหลักเป็น 5  ส่วน คือ ส่วนห้องนั่งเล่น , ส่วนนั่งรับประทานอาหาร , ห้องครัว , ห้องนอน 2  ห้องและห้องน้ำ เมื่อเข้าสู่ตัวห้องจะเจอกับส่วนพื้นที่สำหรับตั้งโต๊ะรับประทานอาหาร ถัดเข้าไปทางขวามือจะเป็นห้องนั่งเล่นและด้านในสุดชิดริมหน้าต่างเป็นห้องนอนเล็ก มาทางปีกซ้ายของตัวห้องจะเริ่มจากพื้นที่ส่วนครัว ซ้ายมือสุดของตัวห้องจะเป็นห้องน้ำ ถัดจากห้องน้ำเข้าไปจะเป็นห้องนอนใหญ่ซึ่งจะอยู่ริมชิดฝั่งหน้าต่างของตัวห้อง มีระเบียงเชื่อมต่อกับห้องนอนใหญ่

ลักษณะการจัดห้องแบบนี้ พื้นที่ครัว ห้องน้ำ และส่วนนั่งเล่น จะได้รับแสงธรรมชาติน้อย ครัวที่ได้เป็นครัวเปิดไม่มีฉากกั้นพื้นที่ให้ ห้องน้ำก็ต้องมีพัดลมดูดอากาศใช้เพราะจะไม่มีหน้าต่างให้ระบายอากาศ แต่ห้องนอนทั้ง 2 ห้องจะสามารถเปิดหน้าต่างได้ ทำให้รับแสงจากภายนอกและระบายอากาศได้ดี

ประตูทางเข้าเป็นประตูไม้ลามิเนต Leowood พร้อมมือจับประตูแบบก้านโยก

และ Digital door lock ของ Samsung

เมื่อเปิดเข้ามาจะเจอกับพื้นที่รับประทานอาหารเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น และด้านนอกสุดเป็นส่วนของห้องอเนกประสงค์ โดยวัสดุพื้นเป็นพื้นสมาร์ทไวนิลลายไม้ ระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.4 ม. ดวงไฟเป็นแบบดาวน์ไลท์ หลอด LED สามารถเลือกปรับเป็นแสงสีขาวหรือสีส้มได้

พื้นที่สำหรับตั้งโต๊ะรับประทานอาหารที่จัดมาค่อนข้างกว้าง สามารถตั้งโต๊ะนั่งแบบ 4 คนได้สบายๆ ไม่อึดอัด

ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่ส่วนนั่งเล่น สามารถตั้งโซฟาขนาดกลางสำหรับ 2 ที่นั่งได้ ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี อยู่ที่ประมาณ 1.5 m. ในระยะประมาณนี้สามารถเลือกทีวีขนาด 35 – 40″ ได้ครับ พื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนเล็กจะมีประตูบานเลื่อนอลูมิเนียมอบสีดำ เป็นบานเลื่อนด้านเดียว 3 บาน มีรางอลูมิเนียมและตัวล็อคประตูบานเลื่อนให้ ใช้เลื่อนปิดเวลาใช้งานห้องนอน แบ่งพื้นที่การใช้งานและช่วยไม่ให้เสียงจากห้องนั่งเล่นเข้าไปรบกวนห้องนอนด้านในได้

มุมฝั่งขวามือเป็นชุดโซฟาแบบ 2 ที่นั่งมีพนักวางแขน พร้อมโต๊ะกลาง

และซ้ายมือเป็นชุดตู้และชั้นทีวีแบบ Built in ด้านล่างเป็นบานเปิดสองด้านสามารถเก็บของด้านในได้ ซึ่งชุดตู้นี้ทางโครงการมีให้

จุดเด่นห้องนี้คือ ฉากกั้นกระจกบานเลื่อนสูงจากพื้นจรดเพดาน ที่ทำออกมาดูแข็งแรง และเป็นตัวส่งผ่านของแสงธรรมชาติเข้ามายังพื้นที่ห้องโถงรับแขก

เข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่ระยะทางเดินภายในห้องอเนกประสงค์ซึ่งจัดไว้ให้ดูเป็นห้องนอนที่ 2 ได้

มุมขวามือที่ผนังสามารถติด Sideboard เป็นชั้นวางเก็ยของ ไอเดียการแต่งไฟที่หัวเตียงของห้องตัวอย่างน่าเอาไปทำตามดีนะ

พื้นที่ทางขวามือ จัดเป็นโต๊ะทำงานแบบนี้ได้เลย ใช้งานได้จริงจังไม่อึดอัด หรือถ้าเป็นสาวๆ ไม่ทำงานในห้องนอน ก็จะเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งฟูลออฟชั่นก็ได้

ที่ปลายเตียงมีมุมตู้เสื้อผ้า Built-In ที่โครงการทำมาให้มาตรฐาน ลองเปิดด้านในให้ดู

ตัวตำแหน่งของเตียงถูกเอาไว้ชิดหน้าต่างช่องแสง ทำให้สามารถเปิดรับแสงและระบายอากาศได้ดี, ส่วนระยะระหว่างปลายเตียงถึงผนัง แคบไปหน่อยสำหรับเวลาจะเปิด-ปิดหน้าต่าง

มุมช่องแสงนี้ยังเป็น Bay Window (หน้าต่างเข้ามุม) ทำให้ได้มุมมองวิวกว้างกว่า อีกทั้งแสงส่องเข้ามาได้มากกว่า การเปิดปิดใช้เป็นบานเลื่อน 2 ตอน

กลับเข้ามาในตัวห้องอีกครั้ง ผมอยู่บริเวณแถวโซฟา มองย้อนกลับไปทางประตูทางเข้าห้อง เดี๋ยวเราจะไปดูโซนครัว – ห้องน้ำ – ห้องนอน กัน

พื้นที่ห้องครัวจะเชื่อมกับพื้นที่ส่วนรับประทานอาหารอยู่ทางด้านซ้ายของตัวห้อง แบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นเคาน์เตอร์ครัวและพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น ครัวแบบนี้จัดเป็นครัวเปิด เพราะไม่มีฉากหรือประตูกั้นแบ่งพื้นที่ให้ จึงต้องระมัดระวังเรื่องกลิ่นและควันจากการประกอบอาหาร

โครงการจะมีชุดครัวของ แบบ Built in แบ่งพื้นที่ไว้สำหรับวางไมโครเวฟ ไว้ด้านบนให้ตามนี้เลย ชิ้นบนและชิ้นล่างสีลายไม้ ผนังกรุกระเบื้องไว้ให้ ซึ่งง่ายต่อการเช็ดทำความสะอาด แต่ครัวจะไม่มีเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันให้นะ เป็นครัวที่เน้นการประกอบอาหารง่ายๆมากกกว่า

ท๊อปครัวเป็นเมลามีนกันน้ำ พร้อมทั้งติดไฟส่องสว่างบริเวณพื้นที่ทำครัว อ่างตั้งอยู่ตรงกลางทำให้มีพื้นที่เตรียมอาหารสองฝั่ง (กระจกเงาด้านหลังไม่ได้นะ)

ดึงลิ้นชักออกมาด้านในมี Soft close เป็นชั้นวางอุปกรณ์แบ่งช่องตามการใช้งาน พื้นที่ใต้เคาน์เตอร์ครัว สามารถตั้งเครื่องซักผ้าขนาด 8 kg. ได้แบบพอดีเหลือพื้นที่ด้านข้างเล็กน้อย

ติดกับครัวจะเป็นส่วนของห้องน้ำ ซึ่งทุกห้องต้องมาใช้รวมกันตรงนี้ ตัวบารประตูเป็นแบบ UPVC กันน้ำได้ดีระดังนึง

ห้องน้ำใช้วัสดุปูพื้นด้วยกระเบื้อง ผนังกรุกระเบื้องลายเดียวกันกับพื้น แยกการใช้งานส่วนแห้งไว้ตรงกลาง และส่วนเปียกไว้ซ้ายมือ

ให้สุขภัณฑ์และชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาของ Mogen จะมีพื้นที่สำหรับวางของเหนืออ่างได้นิดหน่อย ข้างใต้เป็นชั้นสำหรับวางของและอุปกรณ์ต่างๆได้ เหมือนกับห้องตัวอย่างห้องแรก

พื้นที่สำหรับอาบน้ำจะติดฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเลื่อนกระจกใส แบบเลื่อน 3 ตอนมาให้ เวลาใช้งานเปิดจะเลื่อนไปชิดรวมกันทางขวามือ, พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1.1 x 0.8 m., อุปกรณ์ชุดอาบน้ำของ American Standard ในส่วนพื้นที่อาบน้ำจะติดที่วางสบู่ไว้ทางขวามือ ผนังด้านข้างมีการเจาะช่องลึกประมาณ 10 cm. ไว้ สำหรับใช้วางอุปกรณ์ของใช้ระหว่างการอาบน้ำได้

หน้าตาชุดฝักบัวของ American Standard ดูดีทันสมัย

มาดูห้องนอนใหญ่ที่ออกมาจากหน้าห้องน้ำ อยู่ทางซ้ายมือกัน

มาถึงห้องนอนใหญ่ มองภาพรวมของห้องกันก่อน ห้องจัดมาให้แบบ Fully Furnished จะเห็นการแบ่งโซนพื้นที่จัดเตียงนอนอยู่กลางห้อง  มีตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงาน ชั้นวางของและชั้นวางทีวีแบบ Built in มีแอร์ติดผนังให้ 1 ตัว สามารถเปิดประตูบานเลื่อนกระจกเชื่อมต่อไปยังส่วนระเบียงด้านนอกได้

พื้นที่ด้านข้างระหว่างผนังกับเตียงมีพื้นที่กว้างประมาณ 1.3 m. สามารถตั้งเป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้ แต่ชุดโต๊ะทำงานที่เห็นในห้องตัวอย่าง ห้องจริงจะไม่มีให้นะครับ

ส่วนระยะระหว่างปลายเตียงถึงชุดตู้วางของ กว้างประมาณ 1.1 m. การติดชั้นวางทีวีแบบลอยติดผนัง จะทำให้การเดินมีระยะกว้างถนัดมากขึ้น ระยะนอนดูทีวีได้ประมาณ 2.6 เมตร (หาทีวีไซส์ 40 นิ้วก็โอเค)

ประตูบานเลื่อน เป็นบานกรอบอลูมิเนียม หนา 6 cm. รวมวงกบ เป็นบานเลื่อนเดี่ยวกว้างด้านละประมาณ 80 cm. เมื่อเลื่อนเปิดออกสามารถระบายอากาศได้ดี และสามารถเปิดรับแสงธรรมชาติในตอนกลางวันได้ดี

มีตัวล็อกสองชั้นคือแบบเซาะร่องปกติกับแบบตัวคล้องก้นหอย, มีการก่อธรณียกขอบสูงประมาณ 10 cm. การยกสูงขึ้นมาแบบนี้จะสามารถป้องกันน้ำฝนหรือน้ำซึมเข้าได้

พื้นที่ระเบียงห้องนี้เป็นไซส์ที่ใช้งานได้ค่อนข้างดีทั้งส่วนตากผ้า ทำเป็นที่รั่งเล่นกึ่งกลางแจ้ง หรือสวนกระถางต้นไม้ เพราะค่อนข้างกว้าง

ผนังด้านบนแขวน  Compressor 3 ตัว ทำแบบแขวนในแนวตั้ง แบบนี้ช่วงประหยัดพื้นที่ระเบียงได้เยอะ ด้านข้างมี Fin ระแนงเหล็กบังสายตาจากภายนอก

มาต่อกันที่ห้องตัวอย่างห้องต่อไปกัน เป็นห้องแบบ 1 Bedroom  –  1 ห้อนนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ 23.56 ตร.ม ลักษณะรูปร่างห้องเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า แบ่งพื้นที่การใช้งานหลักเป็น 4  ส่วน คือ ส่วนห้องนั่งเล่น , ห้องครัว , ห้องนอน และห้องน้ำ เมื่อเข้าสู่ตัวห้องจะเจอกับพื้นที่ส่วนครัว จัดพื้นที่เป็นครัวเปิด ไม่มีส่วนกั้นแบ่งการใช้งาน การจัดครัวลักษณะจะต้องระมัดระวังเรื่องควันและกลิ่นจากการประกอบอาหาร ตรงข้ามกันจะเป็นพื้นที่ห้องน้ำ ภายในจัดแบ่งพื้นที่การใช้งานโซนเปียก-แห้ง พร้อมอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำ ห้องน้ำที่อยู่ด้านในตัวห้องแบบนี้จะต้องระมัดระวังเรื่องความชื้น จะต้องมีพัดลมดูดอากาศติด เพื่อช่วยระบายอากาศภายในห้อง

ถัดเข้ามาด้านในตัวห้องเชื่อมต่อกับส่วนห้องครัวจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น จัดพื้นที่แบบพอดีตัวสามารถวางโซฟาแบบสองที่นั่งได้ ด้านในสุดของตัวห้องติดกับหน้าต่างจะเป็นห้องนอนที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียง มีฉากเป็นบานเลื่อนกั้นการใช้งานพื้นที่ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนเพื่อความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน ในส่วนของห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตและตู้เสื้อผ้าได้ไม่อึดอัด  และสามารถเปิดหน้าต่างรับลมและแสงภายนอกได้ดี พื้นที่ระเบียงจัดพื้นที่ให้มามีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่สามารถใช้เป็นพื้นที่ซักล้างและตากผ้าเล็กๆได้และใช้เป็นแขวน Compressor ได้

เมื่อเปิดห้องเข้ามาส่วนแรกจะเจอกับพื้นที่ส่วนครัวก่อน จัดชุดครัวไว้ติดผนังซ้ายเว้นพื้นที่ตรงกลางเป็นทางเดินเข้าไปด้านในตัวห้อง พื้นที่ครัวเป็นครัวเปิดไม่มีประตูกั้นพื้นที่การใช้งาน จึงต้องระมัดระวังเรื่องการประกอบอาหารเรื่องกลิ่นและควันหน่อย ตรงข้ามกับครัวจะเป็นห้องน้ำ

เข้ามาในห้องมองย้อนกลับไปทางประตูทางเข้า ความกว้างของพื้นที่สำหรับยืนประกอบอาหารในครัวกว้างประมาณเมตรนึง พื้นตรงส่วนครัวปูพื้นด้วยสมาร์ทไวนิล เวลาทำครัวต้องระวังเรื่องความชื้นหน่อย

วัสดุของครัวก็จะเหมือนห้องก่อนหน้า ตะต่างกันที่ความกว้างครับ ห้องนี้จะสั้นกว่า ชุดครัวแบบ Built in  แบ่งพื้นที่ใช้งานด้านบน-ล่าง แบ่งช่องสามารถเก็บอุปกรณ์ได้  และทางขวามือติดกันเป็นพื้นที่วางตู้เย็น

ฝั่งตรงข้ามครัว จะเป็นส่วนของทางเข้าห้องน้ำ จากรูปจะเห็นส่วนระยะทางเดินไปมา

ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่การใช้งานไว้ชัดเจนตามการใช้งานส่วนเปียก-แห้ง พร้อมชุดสุขภัณฑ์และอุกปรณ์ภายใน้ห้องน้ำ พื้นที่ห้องน้ำลดระดับ 3 cm. พื้นและผนังด้านในปูกระเบื้อง และติดไฟแบบ downlight ให้, พื้นที่สำหรับอาบน้ำจะติดฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเลื่อนกระจกใส แบบเลื่อน 3 ตอน มาให้ ของ Showerking เวลาใช้งานเปิดจะเลื่อนไปชิดรวมกันทางซ้ายมือ

เข้ามาถึงด้านในของตัวห้องกัน ถัดจากส่วนห้องครัวเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น สามารถวางโซฟาขนาดกลางแบบ 2 ที่นั่งได้แบบพอดีๆ พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะเป็นรูปทางสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีประตูบานเลื่อนกั้นแบ่งการใช้พื้นที่กับห้องนอนไว้

ฝั่งขวามือเป็นส่วนของชุดโซฟาและโต๊ะกลาง ซึ่งเจ้าเข้ามุมกับพื้นที่ลงตัวพอดี

ชุดตู้และชั้นทีวีแบบ Built in ด้านล่างเป็นบานเปิดสองด้านสามารถเก็บของด้านในได้ ซึ่งชุดตู้นี้ทางโครงการมีให้  ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี อยู่ที่ประมาณ 2.5 m. ในระยะประมาณนี้สามารถเลือกทีวีขนาด 40 – 45″ ได้

ด้านในสุดของตัวห้องติดกับหน้าต่างจะเป็นห้องนอนที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียง มีฉากเป็นกระจกบานเลื่อนอลูมิเนียม 3 ตอนกั้นการใช้งานพื้นที่ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนเพื่อความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน

ระยะทางเดินการใช้งานในส่วนห้องนอน ถึงแม้มีชุดโต๊ะมาตั้งก็ตามยังเดินได้ปกติสบายๆ

พื้นที่บริเวณปลาบเตียง สามารถตั้งโต๊ะและเก้าอี้ หรือโต๊ะเครื่องแป้งได้ เราสามารถใช้ประโยชน์ของพื้นที่ใช้สอยมุมนี้ได้เต็มที่ จะขยายโต๊ะ ติดชั้นวางของที่ผนังเพิ่ม ฯลฯ

พื้นที่ภายในห้องนอนที่จัดให้มาสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต หรือ Queen Size ได้แบบพอดีๆ ฝั่งขวาเหลือราว 10 ซม. และฝั่งซ้ายเหลือราว 30 ซม.

ซ้ายมือสุดจะเป็นส่วนของตู้เสื้อผ้า Built-In ที่ผนังช่องแสงห้องนี้เป็นหน้าต่างเข้ามุมยาวต่อเนื่องทำให้เพิ่มพื้นที่หน้าต่าง สามารถมองเห็นวิวภายนอกได้มากขึ้น ชุดประตู-หน้าต่างเป็นบางกรอบอลูมิเนียมสีดำ หนา 6 cm. ประตูเป็นบานเลื่อนเดี่ยว เมื่อเลื่อนเปิดออกสามารถระบายอากาศ และสามารถเปิดรับแสงธรรมชาติในตอนกลางวันได้ดี

พื้นที่ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้อง ส่วนผนังฉาบปูนเรียบทาสี พื้นที่ประมาณ 0.9 x 1.8 m. ราวกันตกระเบียงเป็นเหล็กทาสีดำ สูง 1 m. ขอบประตูบานเลื่อนยกขอบสูงประมาณ 10 cm. การยกสูงขึ้นมาแบบนี้จะสามารถป้องกันน้ำฝนหรือน้ำซึมเข้าได้ พื้นที่ระเบียงจัดมาให้ไม่ใหญ่มาก สามารถวางเครื่องซักผ้าได้แต่ก็เหลือพื้นที่ให้ตากผ้าน้อยมาก

ส่วนผนังด้านบนแขวน  Compressor  การทำแบบแขวนในแนวตั้ง ช่วยประหยัดพื้นที่ระเบียง ด้านข้างจะมี Fin ระแนงเหล็กบังสายตาจากภายนอกเอาไว้ และมีไฟระเบียงให้ 1 ตำแหน่ง เป็นไฟแบบ downlight

สุดท้ายคือห้องแบบ ห้อง 2 Bedroom – 2 ห้อนนอน 1 ห้องน้ำ  ขนาดพื้นที่ 50.31 ตร.ม. ลักษณะรูปร่างห้องเป็นสี่เหลี่ยม แบ่งพื้นที่การใช้งานหลักเป็น 5  ส่วน คือ ส่วนห้องนั่งเล่น , ห้องครัว , ห้องนอน 2 ห้อง , ห้องน้ำ และระเบียง เมื่อเข้าสู่ตัวห้องจะเจอพื้นที่ส่วนรับประทานอาหารก่อนถัดเข้าไปทางฝั่งริมหน้าต่างของตัวห้องจะเป็นห้องนั่งเล่น ทำให้สามารถเปิดหน้าต่างรับลมและแสงธรรมชาติภายนอกได้ดี ทางฝั่งซ้ายของตัวห้องจะเป็นห้องน้ำ จัดพื้นที่มาให้ครบตามการใช้งานมีอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำแยกส่วนเปียกแห้งชัดเจนแต่การจัดผังห้องน้ำที่อยู่ส่วนด้านในของอาคารแบบนี้ จะไม่มีช่องระบายอากาศ หรือเจาะช่องหน้าต่างได้ทำให้ต้องพึ่งพาระบบของอาคารเท่านั้น ถัดจากห้องน้ำเข้าไปจะเป็นห้องครัว จัดเป็นครัวเปิดเชื่อมต่อไประเบียงด้านนอกได้ ช่วยระบายอากาศและกลิ่นจากการประกอบอาหารได้ พื้นที่ระเบียงจัดมาให้ไม่ใหญ่มาก แต่ก็เพียงพอสำหรับใช้เป็นลานซักล้างหรือตากผ้าแบบเล็กๆได้ อีกด้านนึงทางฝั่งขวาของตัวห้องจัดเป็นห้องนอน 2 ห้อง แบ่งเป็น 2 ขนาด โดยห้องนอนใหญ่สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต และมีพื้นที่ระเบียงเปิดออกด้านนอกได้ ส่วนห้องนอนเล็กสามารถวางเตียงเดียวสำหรับ 1 คน นอนได้แบบพอดี

เมื่อเปิดเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ส่วนรับประทานอาหาร ที่เชื่อมต่อไปห้องนั่งเล่น ทางฝั่งซ้ายของตัวห้องจะเป็นห้องน้ำ ถัดจากห้องน้ำด้านในสุดจะเป็นส่วนครัวและระเบียง ทางขวามือของตัวห้องจะเป็นห้องนอน 2 ห้อง พื้นส่วนห้องนั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหารและห้องนอนใช้วัสดุพื้นเป็นพื้นสมาร์ทไวนิลลายไม้  ในส่วนของผนัง จะเป็นยิปซัมบอร์ดฉาบสีเรียบ ระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.4 ม. ดวงไฟเป็นแบบดาวน์ไลท์

ผนังฝั่งติดกับประตูทางเข้าจัดพื้นที่เป็นชุดโต๊ะทำงานแบบ Built in พร้อมชุดตู้ใส่ของไว้

ถัดเข้ามาส่วนแรกที่จะเจอคือพื้นที่ส่วนรับประทานอาหาร พื้นที่จัดมาค่อนข้างกว้าง สามารถมาวางโต๊ะรับประทานอาหาร 4 ที่นั่งได้สบายๆ และยังมีพื้นที่เหลือด้านข้างเพื่อเดินไปนั่งบริเวณพื้นที่ห้องนั่งเล่นได้

ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่ส่วนนั่งเล่น สามารถตั้งโซฟาขนาดกลางสำหรับ 2 ที่นั่งได้  ซึ่งโซฟานี้ทางโครงการมีให้นะ ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี อยู่ที่ประมาณ 2 m. ในระยะประมาณนี้สามารถเลือกทีวีขนาด 40″- 45″ ได้

ยืนมุมนี้มองที่โต๊ะอาหารเราจะเห็นส่วนของห้องนอน 2 ห้อง (เราไปดูฝั่งขวาที่อยู่ชิดประตูทางเข้าห้องกันก่อน)

เข้ามาด้านในห้องนอนแล้วนะครับ (ประตูที่เห็นคือประตูทางเข้าห้องนอนนะ) / พอเข้ามาจะเจอกับส่วนระเบียงก่อนเลย

ห้องนี้มีการเจาะผนังช่องแสงให้เยอะพิเศษหน่อย และอยู่ติดกับระเบียงตรงนี้ด้วย

ขนาดระเบียงไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็ออกไปใช้งานพอดีไม่ถึงกับอึดอัดครับ ยังเอาเก้าอี้นั่งเล่นมาไว้ได้

ในส่วนกลางห้อง จัดเตียงนอนเอาไว้ ไปชิดกับหน้าต่างช่องแสง

ทางฦั่งซ้ายมือเป็นพื้นที่ตู้เสื้อผ้า Built-In พร้อมเหลือที่เอาไว้หน่อย (อาจจะขยายโต๊ะเครื่องแป้งหัวเตียงก็ได้)

หน้าต่างช่องแสงยังให้ยาวต่อเนื่องเป็นเข้ามุมเช่นเคย

ออกจากห้องนอนมา มองไปยังฝั่งตรงข้าม จะเห็นส่วนของห้องน้ำที่จะอยู่ทางฝั่งซ้ายของตัวห้องถัดจากประตูทางเข้า สำหรับประตูทางเข้าห้องน้ำจะเป็นบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมสีดำ ติดกระจกสีเขียวใส ช่วยบังสายตาพื้นที่ห้องน้ำด้านใน

การจัดพื้นที่ห้องน้ำของห้องแบบ 2 Bedroom จะแตกต่างจากห้องแบบอื่นๆ เพราะจะจัดพื้นที่การใช้งานออกเป็น 3 ส่วนแบ่งตามพื้นที่การใช้งาน พื้นที่ตรงกลางจะเป็นอ่างล้างหน้า ด้านซ้ายเป็นโถสุขภัณฑ์ และด้านขวาเป็นพื้นที่อาบน้ำ แต่พื้นห้องน้ำจะมีระดับเท่ากันหมด จึงต้องระวังน้ำจาการอาบน้ำหน่อย

เริ่มจากตรงกลางก่อน เป็นส่วนของอ่างพร้อมให้ชุดใต้อ่างล้างหน้าของ Mogen

พื้นที่ส่วนอาบน้ำจะอยู่ทางซ้ายมือ โดยพื้นจะปูกระเบื้องไว้ ตัวพื้นที่อาบพื้นยังลดระดับลงเล็กน้อยด้วย เพื่อป้องกันน้ำจากส่วนเปียกไหลไปยังพื้นที่บริเวณอ่างล้างหน้า

หน้าตาชุดอาบน้ำเหมือนกัน อุปกรณ์ของ American Standard ในส่วนพื้นที่อาบน้ำจะติดที่วางสบู่ไว้ทางซ้ายมือ พร้อมผนังเซาะร่อง

มองไปยังฝั่งตรงข้ามจะเป็นส่วนของห้องน้ำที่วางสุขภัณฑ์ โดยได้เป็นกระจกกั้นใส (ทำไมไม่พ่นฝ้าให้ เหมือนห้องอาบน้ำน้าาา)

ชุดโถสุขภัณฑ์ เป็นของ Mogen และอุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ สายชำระ และที่ใส่กระดาษทิชชู่ เป็นของ American Standard

ถัดมาจากห้องน้ำจะเป็นส่วนห้องพื้นที่ห้องครัว โดยมีประตูบานเลื่อนกั้นแบ่งพื้นที่ไว้ จัดเป็นครัวปิดช่วยป้องกันกลิ่นและควันจากการประกอบอาหารเข้ามารบกวนพื้นที่ห้องด้านใน อีกทั้งส่วนครัวจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียงทำให้สามารถระบายอากาศได้ดี

โครงการจะมีชุดครัวแบบ Built in ให้ ที่เห็นจะตามนี้เลย เหมือนกับห้องแรกสุดที่เราพาไปดูกัน

ด้านล่างมีชุดตู้ ลิ้นชักเก็บของ พร้อมช่องใส่เครื่องซักผ้า

ส่วนครัวจะเชื่อมต่อไปยังส่วนระเบียงได้ ข้อดีของการจัดห้องลักษณะนี้คือจะสามารถถ่ายเทและระบายอากาศได้ดี

พื้นที่ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้อง  ผนังฉาบปูนเรียบทาสี พื้นที่ประมาณ 0.9 x 1.7 m. ราวกันตกระเบียงเป็นเหล็กทาสีดำ สูง 1 m. พื้นที่ระเบียงมีพื้นที่เพียงพอให้วางที่ตากผ้าและใช้เป็นพื้นที่ซักล้างเล็กๆได้ และมีก๊อกน้ำให้ 1 ตำแหน่ง

ฝั่งซ้ายมือเป็นส่วนของที่เก็บ Compressor ทั้งหมด ยังคงมี Fin ระแนงบังไว้

ออกจากห้องครัว มองไปยังฝั่งตรงข้าม จะมีประตูทางเข้าห้องนอนเล็กห้องสุดท้าย

ห้องนอนเล็กขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถตั้งเตียงแบบ 1 คนนอนได้แบบพอดีๆ เหลือพื้นที่ภายในห้องสามารถตั้งตู้เสื้อผ้า กับโต๊ะวางของเล็กๆได้

จุดเด่นของห้องนี้คือ อยู่ที่ตรงมุมอาคารพอดีเลย เลยทำให้มีหน้าต่างเป็นช่องแสงได้กว้างและยาวต่อเนื่องพิเศษหน่อย เปิดรับแสงธรรมชาติในตอนกลางวันได้ดีและดูโปร่งสบายตา

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 27 December 2017

  • Studio ขนาด 22.83 ตร.ม. Sold Out
  • 1 Bedroom ขนาด 23.47 – 25.70 ตร.ม. | ราคา 1.64 – 1.97 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Extra ขนาด  26.01 – 33.48 ตร.ม. | ราคา 2.04 – 2.37 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Exclusive ขนาด 31.66 – 31.99 ตร.ม. | ราคา 2.21 – 2.24 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 37.00 – 46.86 ตร.ม.  | ราคา 2.54 – 3.27 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 46.13 – 54.49 ตร.ม.  | ราคา 3.44 – 3.64 ล้านบาท
  • Fully Furnished / เครื่องปรับอากาศ / Digital Door Lock
  • เพดานสูง 2.40 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • ระบบ LED Color Temperature changeable
  • จอง 5,000 บาท / ทำสัญญา 10,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลของโครงการ Wynn Condo อยู่ในทำเลย่านค้าขายทดั้งเดิมอยู่แล้วของย่านพหลโยธิน จัดเป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่รองรับการขยายตัวของระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายหมอชิต – สะพานใหม่โดยสถานีที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดคือ สถานีสะพานใหม่ ปัจจุบันย่านนี้ก็เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม หรืออาคารพาณิชย์ ความอุดมสมบูรณ์ในบริเวณใกล้เคียงไม่เกิน 5 กิโลเมตร ที่ตอบสนองต่อการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตประจำวันในพื้นที่ย่านนี้เป็นอย่างดี มี Big C Supercenter,โรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัล, ตลาดยิ่งเจริญ จัดเป็นตลาดใหญ่ดั่งเดิมในพื้นที่ , Tesco Lotus, เซ็นทรัลรามอินทรา วัดและโรงเรียนต่างๆ รวมถึงเป็นพื้นที่ของสถานที่ราชการ มีให้เลือกตามความต้องการหลากหลาย

การเดินทางโดยใช้รถ บริเวณที่ตั้งของโครงการอยู่ในซอยพหลโยธิน 52  สำหรับการเข้าถึงโครงการสามารถเข้าทางถนนพหลโยธินได้โดยตรงและเป็นเส้นทางที่ใกล้ที่สุด เพราะโครงการห่างจากปากซอยพหลโยธิน 52 ประมาณ 300 ม. จากถนนสสายหลักคือ ถนนพหลโยธิน ทำให้การเข้าถึงโครงการค่อนข้างสะดวก และในอนาคตที่ถนนตัดใหม่เปิดให้ใช้ก็จะยิ่งเพิ่มความสะดวกในการเดินทางมากขึ้น แต่ช่วงนี้เส้นทางถนนพหลโยธิน การเดินทางอาจจะรถติดหน่อย เพราะเส้นทางถนนตอนนี้จะถูกปิดการจราจรบางส่วน เนื่องจากกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวอยู่ แต่ถ้ารถไฟฟ้าสร้างเสร็จเมื่อไหร่ การเดินทางในเส้นพหลโยธินก็จะสะดวกสบายยิ่งขึ้น

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ นอกเหนือจากรถสาธารณะที่ปกติก็มีวิ่งผ่านหลายสายแล้ว อีกหน่อยก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่คงจะมาช่วยเรื่องรถติดและสร้างความสะดวกในการเดินทางให้ดีขึ้น ล่าสุดเริ่มมีการก่อสร้างกันแล้ว โดยมีกำหนดการคาดว่าจะแล้วเสร็จ พ.ศ. 2562 และเปิดให้บริการปี พ.ศ. 2563 ซึ่งบริเวณซอยพหลโยธิน 52 ก็จะอยู่ใกล้กับสถานีสะพานใหม่ที่สุด เพราะตำแหน่งสถานีจะอยู่บริเวณหน้าตลาดยิ่งเจริญ ถ้าคิดรวมๆระยะทางจากโครงการไปถึงหน้าสถานีสะพานใหม่ ก็น่าจะอยู่ห่างกันประมาณ 300 ม. เป็นระยะที่เดินได้สบายๆ

การออกแบบของโครงการ เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร มีรูปลักษณ์อาคารที่เรียบง่าย Modern style บนที่ดินประมาณ 2-0-16 ไร่ จัดวางผังอาคารไว้เต็มพื้นที่ของที่ดิน จัดห้องได้ 275 ยูนิต ซึ่งก็ไม่ดูหนาแน่นจนเกินไป วางผังโครงการให้พื้นที่ส่วนกลางใช้ร่วมกันที่อาคาร A เกือบทั้งหมด มีการแบ่งพื้นที่ชั้น 1 ของอาคาร ทำเป็นพื้นที่จอดรถไม่ต้องจอดรถตากแดดตากฝน มีลิฟท์เชื่อมต่อขึ้นไปส่วนพักอาศัยจากที่จอดรถได้เลย ตัวโครงการตั้งอยู่ในพื้นที่ที่โดยรอบเป็นแหล่งชุมชนลักษณะเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคลเดิมในพื้นที่ หมู่บ้านจัดสรร และอาคารพาณิชย์ พื้นที่โดยรอบเป็นแหล่งชุมชนแนวราบไม่มีอาคารสูงหรือแหล่งที่ก่อให้เกิดมลภาวะต่างๆ วิวโดยรอบจึงเป็นวิวบ้านแนบราบเป็นส่วนใหญ่

โครงการมีแบบห้องให้เลือกทั้งหมด 6 แบบ ตั้งแต่ Studio  ขนาดพื้นที่ 22.83 ตร.ม. ไปจนถึง 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 50.31 – 54.49 ตร.ม. มีความสูงพื้นถึงฝ้า 2.4 ม. จึงทำให้ห้องดูโปร่งขึ้น สำหรับห้องที่มีขนาดพื้นที่ต่ำกว่า 30 ตร.ม.การจัดวางพื้นที่ใช้งานภายในให้จะลงตัวค่อนข้างยาก เนื่องจากพื้นที่เล็กการตอบสนองต่อ Function เลยทำได้น้อย แต่ก็ยังมีตัวเลือกคือห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดพิเศษต่างๆ  เป็นห้องที่พื้นที่จะมากกว่า 30 ตร.ม. ให้เลือกได้ ห้องจะจัดพื้นที่ส่วนพักผ่อนทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอนมาให้เยอะหน่อย ใช้งานได้สบายๆ เน้นการจัดพื้นที่ในส่วนห้องนอนและห้องครัวอยู่ริมสามารถเปิดหน้าต่างรับแสงและระบายอากาศได้ก็ทำให้ห้องไม่ดูอึดอัด ทำครัวแล้วไม่มีกลิ่นรบกวนในห้องมากนักเพราะเปิดประตูระเบียงช่วยได้ อันนี้ก็แล้วแต่ผู้อยู่อาศัยจะชอบแบบไหน เพราะมีแบบห้องให้เลือกหลายแบบแต่ภาพรวมแล้วออกแบบได้ดีตามขนาดพื้นที่ห้อง

วัสดุอุปกรณ์ภายในห้องและของที่ให้มา ถือว่าอยู่ในระดับตามมาตรฐาน โครงการขายห้องแบบ Fully Furnished ถือว่าให้พร้อมใช้งาน เหมาะกับคนไม่ต้องการมาแต่งห้อง ชอบแบบซื้อเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้เลย เพราะเฟอร์นิเจอร์ที่โครงการให้มาก็โอเคใช้ได้ ที่โครงการไม่มีให้คือชุดเตาและเครื่องดูดควัน ถ้าใครเน้นทำอาหารก็ต้องหามาติดกันเอง แต่ผนังครัวโครงการกรุกระเบื้องไว้ให้เรียบร้อย ซึ่งง่ายต่อการเช็ดทำความสะอาด ให้พื้นเป็นสมาร์ทไวนิล ปูกระเบื้องบริเวณพื้นครัว วัสดุต่างๆภายในห้องน้ำ ชุดสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าของ Mogen  อุปกรณ์อื่นๆของ American Standard ที่ประตูหน้ามี Digital door lock ของ Samsung ซึ่งถ้าเทียบกับโครงการใกล้เคียงถือว่าดีที่ให้เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมใช้ ในส่วนของความเรียบร้อยอื่นๆภายในห้องถือว่าเก็บงานได้เรียบร้อยดี

สาธารณูปโภคของโครงการ Wynn Condo ถือว่าเป็น Facility มาให้เลือกหลากหลายพอสมควร เช่น สระว่ายน้ำ , Fitness , Library , Co-Working Space และพื้นที่สีเขียวพักผ่อนอื่นๆ เช่น Loft Landscape , Grill Bar , Chill Out Area , Greenery Zone ซึ่งลองพิจารณาดูจากขนาดและพื้นที่ใช้งานทั้ง สระว่ายน้ำ Fitness และ Library ก็ไม่ใหญ่มากพอใช้งานได้ ทุกอาคารจะมีบันไดหนีไฟ อาคารละ 2 ตำแหน่ง สามารถเชื่อมต่อไปยังชั้นที่จอดรถได้ทุกอาคาร ลิฟท์ทั้ง 3 อาคารให้ลิฟท์ 2 ตัวเท่ากัน เมื่อเทียบอัตราส่วนลิฟท์ตึก A 66.5 :1  , ตึก B 38.5 :1 , ตึก C 52.5 :1 ความหนาแน่นของอัตราส่วนลิฟท์ที่อาคาร A และ C ค่อนข้างแน่นไปหน่อย

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVG 76,000 บาท/ตร.ม., 27 December 2017

  • ทำเล 7.5/10 – ทำเลย่านชุมชน มีความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินถึง เข้าซอยแค่ 300 ม.ใกล้รถไฟฟ้าในอนาคต
  • เดินทางด้วยรถ 7/10 – เดินทางง่ายเข้าออกง่ายไม่ซับซ้อน แต่ต้องระวังเรื่องรถติด
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – มีรถประจำทาง รถรับจ้างต่างๆ อนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีสะพานใหม่ ไม่ไกลจากโครงการ
  • วัสดุ 8/10 – Fully Furnished วัสดุอยู่ในระดับตามมาตรฐาน
  • แบบ 7.5/10 – มีให้เลือกหลายแบบ จัดพื้นที่การใช้งานดี
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – มีให้เลือกหลากหลาย

  • ECONOMY-MAIN CLASS
  • 7.5 / 10.00

BOTTOM LINE

โครงการ Wynn Condo เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดแต่งเสร็จแบบพร้อมเข้าอยู่ในย่านพหลโยธิน ทำงานในย่านนี้หรือใกล้เคียง มีแบบห้องให้เลือกหลายแบบตามขนาดครอบครัว ใกล้แหล่งของกินของใช้  สามารถเดินทางโดยใช้รถยนต์หรือเดินได้เข้าซอยไม่ลึก อนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวใช้ มีงบประมาณในระดับ 1.69 – 3.64 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนในระดับ 11,500 – 25,500 บาท ลองพิจารณากันดู