รีวิวฉบับที่ 1488 … สวัสดีค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดใกล้เอแบค บางนา วันนี้เรามีโครงการ VIIA 7 หมู่คอนโด Low Rise ใกล้ๆ เอแบคในซอยบางนาการ์เด้นท์ 7 มาพร้อมกับ Facilities ครบครัน ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส C0-Working Space และห้องประชุมเดี่ยวหลายห้อง รวมไปถึงมี Shuttle Service รับ-ส่งไปมหาวิทยาลัยอีกด้วย ซึ่งตอบโจทย์การใช้ชีวิตของนักศึกษาโดยเฉพาะเลยค่ะ ปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่เรียบร้อยแล้วจะเป็นอย่างไรเดี๋ยวเราไปชมกันค่ะ
Fact @ 4 December 2017
- VIIA 7 (เวียร์ เซเว่น)
- บริษัท พีทูบี พร็อพเพอร์ตี้ 2009 จำกัด
- ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ที่ : ซอยบางนาการ์เด้นท์ 7 ถนนบางนา-ตราด อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ
- คอนโด Low Rise 5 ชั้น 7 อาคาร 275 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 10 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 128 คันคิดเป็น 46% รวมจอดซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 4-1-46 ไร่
- แล้วเสร็จ : 2560
- 1 Bedroom 29 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท
- 2 Bedroom 53 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.3 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการประมาณ 53,275 – 60,172 บาท/ตร.ม.
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 081-894-0880 กด 5
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ
พิกัด : 13.601246, 100.833382
โครงการ VIIA 7 ตั้งอยู่ในบนทำเลบางนา-ตราด ในย่านมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญบางนา (Abac บางนา) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางในย่านนี้ก็ว่าได้ค่ะ ตัวโครงการก็เป็นหนึ่งในโครงการใกล้มหาวิทยาลัย เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยของนักศึกษามหาวิทยาลัยนี้เช่นกัน ที่ตั้งของโครงการอยู่ในซอยบางนาการ์เด้นท์ 7 ลึกจากถนนบางนา-ตราดไปประมาณ 1.5 กม. และอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยประมาณ 3.6 กม. ซึ่งการเข้าถึงสถานที่ต่างๆ นั้นจะสะดวกสุดหากมีรถยนต์ส่วนตัวนะคะ และทางโครงการเองก็มีบริการ Shuttle Service รับส่งนักศึกษาไป-กลับมหาวิทยาลัย โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกในนักศึกษามากขึ้น
สำหรับการเดินทางในทำเลนี้หากมีรถยนต์ส่วนตัวถือว่าสะดวกนะคะ เพราะในระยะขับรถถือว่าไม่ไกลจากหน้าปากซอยที่อยู่ติดกับถนนบางนา-ตราด ถนนสายสำคัญที่เชื่อมเข้าเมืองและออกนอกเมือง จะเดินทางไปสุวรรณภูมิก็สะดวก เพราะอยู่ไม่ไกลมากนัก และเน้นใช้ทางด่วนยกระดับบูรพาวิถีจะสะดวกมากสำหรับใครที่จะเข้าเมือง-ออกเมือง หรือวิ่งไปทางวงแหวนรอบนอกค่ะ รถไม่ติดขับได้ง่าย
ส่วนใครที่พึ่งพารถสาธารณะอาจจะไม่สะดวกมากนักเท่ากับการขับรถส่วนตัวเองนะคะ เพราะยังมีรถสาธารณะวิ่งไปไกลๆ ไม่หลากหลายมากนัก นอกจาก Taxi ที่มีเยอะมากให้ได้ใช้บริการ แต่หากจะเดินทางใกล้ๆ เพียงในย่านมหาวิทยาลัยเอง อย่างนี้สะดวกค่ะ เพราะนอกจากจะมี Shuttle Service โครงการที่คอยให้บริการเป็นรอบๆ ต่อวันแล้วก็ยังมีพี่วินมอเตอร์ไซค์ซึ่งอยู่หน้าปากซอยอีกเพียบ เรียกใช้ได้ไม่ยาก
เข้ามาบนถนนสป.2003 หรือเรียกกันว่าเป็นซอยเข้าวัดศิริเสาธงนะคะ จะเห็นป้ายวัดใหญ่ๆ อยู่หน้าปากซอยติดกับถนนบางนา-ตราดเลย บนถนนสป.2003 เป็นถนนสำคัญในย่านนี้เลยก็ว่าได้ เพราะมีทั้งวัดศิริเสาธง และมหาวิทยาลัยใหญ่อย่างอัสสัมชัญ บางนา ในซอยนี้จัดว่าเป็นชุมชนขนาดย่อมๆ อีกชุมชนนึงเลยก็ว่าได้นะคะ เพราะมีที่พักอาศัยเยอะพอสมควร ทั้งอพาร์ทเม้นท์ คอนโดมิเนียม หมู่บ้าน และหอพักเยอะมาก เรียงรายกันไปตลอดแนวถนนและในซอยย่อย หลักๆ เพื่อตอบโจทย์นักศึกษาเป็นหลัก รองลงมาก็จะเป็นคนที่ทำงานในละแวกใกล้เคียงค่ะ ในช่วงบริเวณต้นๆ ซอยนี้มีความคึกคักพอสมควร จะเห็นว่ามีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านรถเข็น รวมไปถึงร้านสะดวกซื้อต่างๆ และสถานที่ราชการต่างๆ เช่นสำนักงานที่ดินสมุทรปราการ สถานีตำรวจบางเสาธง เป็นต้น
เข้ามาด้านในโซนที่ใกล้กับมหาวิทยาลัยมากขึ้นก็ยังคงมีความคึกคักเช่นเดียวกัน ภายในมีร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ต่างๆ หลายร้านทีเดียวนะคะ ยังไม่รวมกับความอุดมสมบูรณ์ภายในมหาวิทยาลัยอีก รวมๆ แล้วเรื่องของกินต่างๆ ไม่มีปัญหาค่ะ หาของกินได้ง่าย เพียงแต่ในระยะใกล้ๆ จะยังไม่มีห้างสรรพสินค้า หรือโรงหนังเท่านั้นเอง ห้างที่ใกล้ที่สุดเห็นจะเป็น Mega Bangna โดยห่างจากโครงการไปประมาณ 23-24 กม. แต่ด้วยความที่รถไม่ติดเดินทางประมาณครึ่งชม.ก็ถึงแล้วค่ะ
สำหรับการเดินทางในวันนี้เราเริ่มต้นที่มอเตอร์เวย์ 9 หรือถนนกาญจนาภิเษก วิ่งเข้าทางพิเศษบูรพาวิถี จากนั้นลงที่ทางออกที่ 26 (บางเสาธง-บางบ่อ) เมื่อลงทางพิเศษบูรพาวิถีมาแล้วให้เริ่มเบี่ยงซ้าย เลี้ยวเข้าถนนสป.2003 ที่ด้านหน้ามีป้ายบอกทางเข้าวัดศิริเสาธง ตรงข้ามาประมาณ 1.3 กม. แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยบางนาการ์เด้นท์ 7 ช่วงหอพัก GVC แล้วตรงเข้ามาประมาณ 200 ม. จะเห็นโครงการ VIIA 7 ฝั่งขวามือค่ะ
การเดินทางเริ่มต้นจากถนนกาญจนาภิเษกหรือวงแหวนรอบนอก ช่วงบริเวณทางเชื่อมเข้าทางพิเศษบูรพาวิถี
ตรงเข้าทางพิเศษบูรพาวิถีเรียบร้อย วิ่งยาวๆ มุ่งหน้าไปทางชลบุรี-พัทยา
ผ่านทางออกไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมินะคะ เราก็ยังตรงไปกันต่อ
โดยเราจะลงบริเวณทางออกที่ 26 ป้ายที่เขียนว่า บางเสาธง-บางบ่อค่ะ
เมื่อลงมาแล้วให้เริ่มเบี่ยงซ้ายเลยนะคะ เพราะใกล้ถึงถนนทางเข้าโครงการแล้ว
ถนนทางเข้าโครงการจะสังเกตง่ายมากคือมีซุ้มของวัดศิริเสาธงอยู่ด้านหน้า
ภายในถนนนี้ค่อนข้างใหญ่ทีเดียวเพราะเป็นถนนสายหลักที่มีสถานที่สำคัญอยู่ใหญ่ 2 อย่างคือวัดศิริเสาธง และเป็นทางเข้ามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ บางนา ช่วงต้นๆ ถนนจะค่อนข้างคึกคักทีเดียวค่ะ มีร้านค้าร้านอาหาร และวินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการอยู่
ตรงมาอีกหน่อยผ่านวัดศิริเสาธง
ผ่านสถานีตำรวจบางเสาธง ช่วงนี้บรรยากาศจะค่อนข้างคึกคักมีร้านอาหาร และอพาร์ทเม้นท์ต่างๆ เรียงรายไปพอสมควรเลยค่ะ
ตรงมาผ่านโรงแรมขนาดใหญ่ในย่านอย่าง GVC จากนั้นเริ่มชิดซ้ายได้เลยค่ะ
ติดกับหอพัก GVC คือซอยบางนาการ์เด้นท์ 7 ให้เลี้ยวซ้ายเลยค่ะ
ตรงมาประมาณ 200 ม. เราก็จะเห็นโครงการอยู่ฝั่งขวามือแล้วค่ะ
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่าทั้ง 4 ทิศ มีฝั่งทิศตะวันตกที่อยู่ติดกับที่พักคนงานชั่วคราวนะคะ บรรยากาศจะเงียบสงบพอสมควร ออกมาที่หน้าปากซอย บริเวณถนนสป.2003 แล้วจะมีโรงแรม GVC อาคารพาณิชย์ Renaissance และร้านค้า ร้านอาหารพอสมควร ค่อนข้างคึกคักค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- วัดศิริเสาธง ประมาณ 1.1 กม.
- มหาวิทยาลัย ABAC บางนา ประมาณ 3.7 กม.
- โรงพยาบาลบางนา ประมาณ 5 กม.
- HomePro & Lotus ประมาณ 15 กม.
- Mega บางนา ประมาณ 19 กม.
- สนามบินสุวรรณภูมิ ประมาณ 25 กม
โครงการ VIIA 7 คอนโด Low Rise สูง 5 ชั้นทั้งหมด 7 อาคาร แบ่งเป็นจำนวนยูนิต 275 ยูนิตและร้านค้าอีก 2 ยูนิต บนเนื้อที่ดินทั้งหมด 4-1-46 ไร่ รูปแบบในการออกแบบเน้นรูปทรง Modern ดูทันสมัยและโฉบเฉี่ยว เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่เป็นวัยรุ่นสมัยใหม่มากที่สุด
การออกแบบและแนวความคิดโครงการมีการดึงสถานที่ตั้งที่เป็น Iconic ของโลกขึ้นมา 7 อย่างมาเป็นชื่อของอาคารแต่ละอาคาร โดยแต่ละอาคารก็จะมีป้ายชื่อเป็นสัญลักษณ์แต่ละอาคารแตกต่างกันไป ส่วนภายในก็มีการจัดวางใกล้เคียงกับอาคารข้างเคียงกัน และแบบห้องพักอาศัยจะ 2 แบบเหมือนกันค่ะ
สำหรับโครงการนี้จะมีจัดโปรแกรมการเช่าหรือ Rental Program สำหรับลูกค้าที่สนใจลงทุนด้วยนะคะ เนื่องจากโครงการเป็นโครงการที่อยู่ใกล้เอแบค บางนา กลุ่มลูกค้าที่อยู่อาศัยหลักๆ เลยก็จะเป็นนักศึกษาเอแบคซึ่งส่วนใหญ่นักศึกษานี้จะอยู่หอพักหรือเช่าคอนโดมิเนียมอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยกันเป็นหลักอยู่แล้ว ดังนั้นทางโครงการจึงมี Rental Program ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการลงทุน โดยมีการันตีค่าเช่าให้ 1 ปี แบ่งจ่ายเป็นรายเดือน (12 เดือน)
- 1 Bedroom – 8,000 บาท/เดือน
- 2 Bedroom – 12,000 บาท/เดือน
โดยเมื่อครบ 1 ปีแล้วยังอยากให้ทางโครงการปล่อยเช่าให้อยู่ก็ได้เช่นกันนะคะ เพียงแต่จะไม่มีการันตีค่าเช่าให้ หากมีลูกค้ามาเช่าห้องของเราโดยผ่านทางโครงการ ลูกบ้านเองก็จะได้ค่าเช่ารายเดือนอยู่ที่ 8,000 บาท/เดือน (สำหรับ 1 Bedroom) และ 9,000 บาท/เดือน (สำหรับ 2 Bedroom) เช่นเดิม (โดยทางโครงการเก็บค่าบริการในส่วนนี้อยู่ที่ 1,000/เดือน (สำหรับ 1 Bedroom) และ 2,000 บาท/เดือน (สำหรับ 2 Bedroom) จ่ายเฉพาะเมื่อสามารถหาผู้เช่าให้ลูกบ้านได้เท่านั้นค่ะ
Master Plan โครงการออกแบบมาเป็นรูปแบบอาคารล้อมพื้นที่ส่วนกลาง ใช้พื้นที่ส่วนกลางนี้ให้เป็นวิวของห้องพักอาศัยดานใน รวมไปถึงทำให้ทุกอาคารสามารถเข้าถึงพื้นที่ส่วนกลางได้ง่ายด้วยค่ะ สำหรับพื้นที่ส่วนกลางหรือ Facilities นี้จะแบ่งเป็นโซน Indoor และโซน Outdoor โดยโซน Indoor จะอยู่ในอาคาร (London) ด้านหน้า เข้ามาก็จะเจอกับ Lobby ที่เชื่อมกับ Co-Working Space Fitness และห้องประชุมในชั้น 2 ส่วนโซน Outdoor จะเป็นสระว่ายน้ำ และพื้นที่นั่งเล่น Outdoor ที่มีบ่อน้ำพุ พร้อมทั้งสวนสร้างบรรยากาศให้สดชื่น ร่มรื่น
ส่วนที่จอดรถจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งชัดเจนนะคะ ไม่ได้เชื่อมล้อมอาคาร โดยใครที่อยู่อาคารโซนตะวันออกก็จอดที่ฝั่งทิศตะวันออก และใครอยู่อาคารโซนตะวันตกก็จอดโซนตะวันตกจะสะดวกสุดค่ะ แต่ไม่ได้มี Fix ที่จอดรถนะคะ ลูกบ้านจะจอดฝั่งไหนได้หมดค่ะ ที่จอดรถที่นี่จะเป็นที่จอดรถใต้อาคารและกลางแจ้งเป็นหลัก รวมที่จอดรถทั้งหมดอยู่ที่ 46.2% (รวมซ้อนคัน) ซึ่งก็ถือว่าให้มาระดับมาตรฐานตามราคานะคะ หากมุมมองในเรื่องความเพียงพอของที่จอดรถ ก็ถือว่าไม่ได้ขาดแคลนที่จอดรถนะคะ เพราะลูกบ้านส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาเป็นหลัก ซึ่งทางโครงการเองก็มีอำนวยความสะดวกในเรื่องของ Shuttle Service รับ-ส่ง มหาวิทยาลัยเป็นรอบๆ ไปอยู่แล้ว ทำให้ที่จอดรถยังคงเพียงพออยู่ค่ะ
เริ่มจากทางเข้าโครงการกันก่อนนะคะ โดยจะแบ่งเป็นทั้งหมด 3 ทางเข้าด้วยกัน ทางเข้าที่จอดรถ 2 ทาง ฝั่งซ้ายและขวา และทางเข้า Lobby อยู่ตรงกลางติดกับถนนซอยเลยค่ะ
สำหรับทางเข้าที่จอดรถทั้ง 2 ฝั่งจะมีไม้กั้นกระดก และผ่านโดยใช้ Keycard Access ระยะใกล้ ด้านข้างมีป้อมพี่รปภ.ด้วย ซึ่งจะมีพี่รปภ.คอยดูแลรักษาความปลอดภัยให้ตลอด 24 ชม.
เข้ามาส่วนที่จอดรถโครงการนะคะ อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นว่าที่จอดรถจะอยู่ใต้อาคารและเป็นกลางแจ้งด้วย ในส่วนของช่องจอดก็มีขนาดมาตรฐานค่ะ จอดได้ไม่ยาก ส่วนรถตู้ป้ายแดงที่เราเห็นอยู่ในภาพ 2 คันนั้นเป็นรถ Shuttle Service ของโครงการ โดยจะรับ-ส่งไปมหาวิทยาลัยทั้งหมด 28 รอบ ในทุกๆ 10 นาที
- 8:30-9:00 น.
- 11:30-12:30 น.
- 12:30-13:30 น.
- 15:30-16:30 น.
ถนนภายในโครงการเป็นถนนคอนกรีตเรียบมาตรฐาน เรียบร้อย ด้านข้างริมกำแพงโครงการเป็นที่จอดรถกลางแจ้งทั้งหมด เรียงยาวๆ ไปตามกำแพงโครงการเลยค่ะ
สุดทางจัดให้เป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์มีทั้งหมดประมาณ 10 ช่องจอดด้วยกัน
ด้านหลังโครงการไม่มีถนนเชื่อมกันนะคะ จะเป็นพื้นที่สวน มีปลูกไม้พุ่งและต้นไม้ให้ดูร่มรื่น เนื่องจากอาคารด้านหลัง (Vienna และ Barcelona) มีชั้นพักอาศัยในชั้น 1 ด้วย หากเป็นถนนที่รถสามารถขับผ่านได้จะทำให้ชั้นพักอาศัยในชั้นล่างนี้ไม่เป็นส่วนตัวค่ะ การออกแบบในลักษณะนี้ก็จะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านชั้น 1 ได้ดี แต่ก็แลกมากับความสะดวกในการสัญจรรถภายในโครงการอยู่เหมือนกันนะคะ
สำหรับทางเข้า-ออกที่ 2 ใช้ Keycard Access และเปิด-ปิดด้วยไม้กั้นกระดกเช่นเดียวกับทางเข้า-ออกที่ 1 ค่ะ ตัวที่ดินโครงการจะมีการยกสูงตั้งแต่ทางเข้าเลยนะคะ เราจะสังเกตจากความลาดเอียงของทางเข้า-ออก ซึ่งเป็นข้อดีนะคะ ถือว่าช่วยกันน้ำเข้าโครงการได้ระดับนึง ในกรณีฝนตกหนักหรือน้ำขังในซอยเป็นต้นค่ะ
ที่จอดรถของฝั่งนี้ก็มีลักษณะเหมือนกับฝั่งตรงข้ามที่เราพาไปดูกันมาแล้วนะคะ คือแบ่งเป็น 2 โซน โซนแรกจอดใต้อาคารพักอาศัย และอีกโซนคือจอดกลางแจ้งริมกำแพงโครงการ ใครอยู่อาคารโซนไหนก็เลือกจอดฝั่งโซนของอาคารตัวเองจะสะดวกสุด เพราะเดินเข้าอาคารพักอาศัยได้เลยค่ะ แต่หากที่จอดรถฝั่งอาคารพักอาศัยเราเต็ม มาจอดอีกฝั่งก็สามารถเดินทะลุพื้นที่ส่วนกลางได้นะคะ
ทางเดินเข้าพื้นที่ส่วนกลางจะเป็นระยะห่างของอาคารแต่ละอาคาร ความกว้างทางเดินอยู่ที่ประมาณ 1-2 ม. แล้วแต่ระยะห่างของอาคารนั้นๆ โดยรวมก็เดินได้สะดวกดีนะคะ เพราะทางเดินมีทำให้เรียบร้อย
เรากลับมาหน้าทางเข้าโครงการอีกรอบนะคะ จากทางเข้าโครงการจะมีทำ Drop-Off เซทพื้นที่เข้าไปด้านในที่ดินอาคารเล็กน้อยก่อนจะถึงส่วนบันได เพื่อให้รถสามารถมาจอดรับ-ส่งลูกบ้านได้สะดวกมากขึ้น ไม่ไปกินพื้นที่ถนน สำหรับบริเวณนี้ตรงเข้าไปจะเป็นส่วน Lobby โครงการค่ะ
ภายใน Lobby โครงการเจอกับเคาน์เตอร์ Reception ก่อนเลยค่ะ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่โครงการคอยดูแลอยู่
ฝั่งตรงข้าม Reception จัดพื้นที่นั่งเล่น หรือใช้เป็นพื้นที่ต้อนรับลูกค้า โดยจัดชุดโซฟาขนาดใหญ่ให้ 2 ชุดด้วยกันนั่งได้สบายๆ เลยค่ะ
ด้านหลังส่วนพื้นที่ต้อนรับกั้นให้เป็นโซน Co-Working Space ดูโอ่โถงและจัดมาได้สวยงามดีทีเดียวค่ะ ด้วยฝ้าเพดานแบบยกสูง (Double Volume) และพื้นที่โดยรอบได้กระจกบานใหญ่สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานเลยทำให้ภายในโปร่งโล่ง ในส่วนของการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ทำมาได้ดี และเพียงพอในการใช้งาน รวมชุดโซฟา เก้าอี้แล้วอยู่ที่ประมาณ 8 ชุดด้วยกัน พื้นที่นี้มีไว้ให้ลูกบ้านมานั่งเล่นอ่านหนังสือ หรือทำการบ้านต่างๆ ได้ค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จากบริเวณ Co-Working Space นะคะ จะเป็นพื้นที่ของห้องประชุม ลักษณะคือเป็นห้องกระจกแบ่งเป็นขนาดเล็ก-ใหญ่ เพื่อให้เหมาะสมกับจำนวนคนใช้งาน
ฝั่งขวาเป็นห้องประชุมขนาดเล็ก ส่วนห้องฝั่งซ้ายเป็นห้องประชุมขนาดใหญ่ค่ะ ซึ่งหากใครที่ต้องการจะใช้บริการจะต้องมีการแจ้งทางนิติฯล่วงหน้า และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการใช้งานนะคะ ซึ่งฟังก์ชันห้องประชุมนี้ค่อนข้างตอบโจทย์การใช้งานโครงการนี้พอสมควรนะคะ เนื่องจากเป็นโครงการที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักศึกษาโดยเฉพาะ เวลามีประชุมงาน นัดทำโปรเจ็ก หรือติวหนังสือกันก็สามารถมาใช้งานพื้นที่นี้ได้เลย
ภายในห้องประชุมขนาดเล็กมีบริการโต๊ะกลาง เก้าอี้ทำงาน พร้อมกับ White Board และปากกา White Board ให้เรียบร้อยเลยค่ะ ภายในห้องนี้มีเครื่องปรับอากาศให้ทุกห้องนะคะ
ส่วนห้องใหญ่สุดสามารถจุคนได้ถึง 10 คนเลยค่ะ เพิ่มเติมอีกหน่อยคือห้องนี้จะได้เครื่องฉายโปรเจ็กเตอร์ด้วย เพิ่มฟังก์ชันในการใช้งานมากขึ้น
ถัดมาก่อนที่เราจะไปดูพื้นที่ส่วนกลางแบบ Outdoor กันนะคะ จะเป็นห้องฟิตเนส ซึ่งอยู่เยื้องกับ Reception เลยค่ะ
ภายในห้องฟิตเนสจัดมาเครื่องออกกำลังกายมาให้พอสมควรเลยนะคะ โดยมีทั้งหมดประมาณ 9 เครื่องด้วยกัน แบ่งเป็นโซนคาร์ดิโอ้ และโซนเวทเทรนนิ่งเรียบร้อย บรรยากาศภายในโปร่งโล่งด้วยกระจกบานใหญ่สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานถึง 3 ฝั่งด้วยกัน และด้านหลังกรุกระจกเงาที่ผนังเพื่อให้สามารถเช็คร่างกายตัวเองได้
เครื่องเล่นส่วนใหญ่หันไปทางสวนและสระว่ายน้ำภายนอก เพื่อให้สามารถออกกำลังกายไปพร้อมชมวิวไปได้เพลินๆ ดีทีเดียวค่ะ
ฝั่งซ้ายใกล้กับ Reception เป็นห้องนิติบุคคลนะคะ เดี๋ยวเราเดินเข้าไปดูด้านในกันต่อค่ะ
ภาพตัวอย่าง Graphic ที่ติดโชว์จะเป็น Iconic สถานที่ชื่อดังทั้งหมด 7 สถานที่ ตามชื่อของแต่ละอาคาร
เลี้ยวมาด้านใน ที่เราเห็นประตูติดฟิล์มฝ้าฝั่งขวามือนั้นจะเป็นประตูเข้าส่วนโถงลิฟต์ของอาคาร London โดยจะให้เฉพาะลูกบ้านอาคารนี้เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้นะคะ เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านอาคารนี้ ทางโครงการจึงมีการติดตั้งเครื่องสแกนบัตรผ่านบริเวณนี้ให้ด้วย ส่วนฝั่งซ้ายมือของประตูเป็นห้องน้ำส่วนกลางที่ใช้ในบริเวณ Lobby ค่ะ
ห้องน้ำ Lobby แบ่งเป็นชาย-หญิง 2 ฝั่ง
ภายในตกแต่งเรียบง่าย สะอาดสะอ้านน่าใช้งานค่ะ
ภายในมีห้องน้ำให้ทั้งหมด 2 ห้องนะคะ สำหรับห้องน้ำผู้หญิง ส่วนห้องน้ำผู้ชายจะมีโถปัสสาวะชายเพิ่มขึ้นมาให้ค่ะ
ออกมาด้านนอกกันต่อนะคะ โดยฝั่งซ้ายมือก่อนจะออกไปยังส่วนสระว่ายน้ำกลางแจ้งจะเป็นห้องน้ำส่วนกลางที่ไว้บริการลูกบ้านที่มาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางนี้ค่ะ
ทางเข้าห้องน้ำนะคะ ภายในแบ่งเป็นห้องน้ำชาย/หญิงเป็นสัดส่วน
เข้ามาในห้องน้ำหญิงแบ่งเป็น 2 ส่วน คือโซนอ่างล้างมือ ให้มา 1 อ่างพร้อมกระจกเงากรุผนังเรียบร้อยค่ะ โดยรวมแล้วมีการดูแลทำความสะอาดห้องน้ำได้สะอาดสะอ้านดีนะคะ น่าใช้งานและไม่มีกลิ่น
ถัดมาแบ่งเป็นห้องน้ำ 1 ห้องและห้องอาบน้ำอีก 1 ห้องค่ะ
ภายในห้องอาบน้ำมีฝักบัวสายอ่อน และด้านข้างติดตั้งราวแขวนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
ออกมาที่พื้นที่ส่วนกลางของโครงการกันค่ะ บริเวณนี้ได้ขนาดใหญ่พอสมควรเลย กินพื้นที่ประมาณ 300 ตร.วา โดยประกอบด้วยพื้นที่สวน พื้นที่นั่งเล่น มีบ่อน้ำพุ และสระว่ายน้ำกลางแจ้งค่ะ บริเวณนี้จะค่อนข้างร่มรื่นดีทีเดียว เพราะได้เงาจากตึกทั้ง 4 ด้านช่วยบังแดดได้พอสมควรเลยค่ะ ยกเว้นช่วงเที่ยงที่แดดส่องมาตรงๆ นะคะ
ด้านข้างพื้นที่ส่วนกลาง หรืออยู่ใต้อาคาร Paris นั้นจะมีร้านค้าอยู่ 2 ยูนิตด้วยกัน โดยจะมีร้านอาหารตามสั่ง 1 ร้านและเป็นร้านซักรีดอีก 1 ร้านค่ะ
การที่มีร้านอาหารอยู่ใต้อาคารถือว่าดีมากทีเดียวนะคะ เนื่องจากใครที่ไม่มีรถเวลาจะออกไปทานอาหารข้างนอกก็ดูจะไม่สะดวกเท่าไหร่ และหากจะซื้ออาหารกลับมาอุ่นที่ห้องก็ไม่เหมือนกับกินอาหารทำใหม่ๆ เลยเช่นกัน ร้านอาหารที่มาเปิดในโครงการจึงค่อนข้างตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้ดีมากขึ้นค่ะ ราคาอาหารก็ไม่แพงมาก เป็นราคามาตรฐานทั่วไป
ถัดมาเป็นห้องซักรีด ภายในมีเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า และเครื่องกดน้ำเรียบร้อยเลยค่ะ
ถัดมาบริเวณทางเดินปูด้วยพื้นไม้เทียมสวยงาม ทางกว้างขวางเดินได้สะดวก สลับกับต้นไม้เรียงรายกันไป ช่วยให้บรรยากาศร่มรื่น ตรงกลางเป็นบ่อน้ำพุสร้างบรรยากาศนะคะ แต่ปัจจุบันมีการซ่อมแซมอยู่เล็กน้อย เลยยังไม่ได้เปิดน้ำพุมาให้ดูกัน
ด้านข้างบ่อน้ำพุทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบ Outdoor ขนาดใหญ่ มีม้านั่งให้นั่งชิล ส่วนด้านบนเป็นหลังคาระแนง กันแดดได้ระดับนึงค่ะ
ก่อนจะมาที่สระว่ายน้ำจะมีส่วน Shower ให้ล้างตัว โดยจะตั้งอยู่บริเวณติดกับสระว่ายและห้องน้ำค่ะ
สระว่ายน้ำที่นี่จะมีระบบพิเศษแตกต่างจากที่อื่นที่เพิ่มเติมมาด้วย คือ มีการติดตั้งระบบลำโพงใต้น้ำให้ด้วยนะคะ เวลาเราว่ายน้ำก็สามารถได้ยินเพลงจากใต้น้ำเลยทำให้เวลาว่ายน้ำเพลินมากขึ้น ไม่เบื่อ สำหรับสระว่ายน้ำนี้ใช้ระบบเกลือมีทั้งหมด 2 สระรวมกัน แบ่งเป็นสระเด็ก และสระผู้ใหญ่ ลักษณะเป็นรูปตัว L มีความยาวพอสมควรทีเดียวค่ะ สามารถว่ายออกกำลังกายดี
ส่วนด้านข้างของสระจัดว่ามีการออกแบบที่ดีทีเดียวค่ะ เนื่องจากอาคารพักอาศัยทั้งหมด ยกเว้นอาคาร London ที่อยู่ด้านหน้าโครงการนั้น ห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 1 ทั้งหมด ดังนั้นอาคารที่อยู่ติดกับสระและหันหน้าเข้าหาสระก็จะขาดความเป็นส่วนตัวไปพอสมควร เพราะลูกบ้านคนอื่นๆ สามารถมองเห็นตัวห้องได้จากพื้นที่ส่วนกลาง หรือจากสระว่ายน้ำ ทางโครงการจึงมีการปลูกต้นไม้พุ่มยาวรอบสระว่ายน้ำ เพื่อบังสายตา เพิ่มความเป็นส่วนตัวทั้งผู้พักอาศัยเองและผู้ที่มาว่ายน้ำด้วยเช่นกันค่ะ
ตลอดด้านข้างของสระว่ายน้ำอีกฝั่งทำเป็น Sunken Seat ริมสระว่ายน้ำเลย ให้ได้นั่งชิลๆ ติดสระว่ายน้ำอย่างแท้จริง
เดินตรงไปอีกหน่อยมีการเล่นสเต็ปขั้นบนได เพื่อขึ้นสระว่ายน้ำได้ง่าย
สระว่ายน้ำจากอีกฝั่งนึงนะคะ จะเห็นว่าสระว่ายน้ำเป็นรูปตัว L ยาวมาถึงทางขึ้น-ลงสระฝั่งนี้เลยนะคะ สำหรับบันไดขึ้นลงนี้ทำเป็นบันไดใต้น้ำเลย เดินขึ้นลงได้ง่ายดีค่ะ
หันกลับมาฝั่งบ่อน้ำพุก็เป็นรูปตัว L เช่นกัน วางล้อกันกับสระว่ายน้ำ และล้อมกับพื้นที่นั่งเล่น
ถัดมาเป็นพื้นที่สวนรายล้อมกับทางเดิน บรรยากาศดีทีเดียว เห็นได้ว่ามีการปลูกต้นไม้ทั้งแบบไม้ยืนต้น และไม้พุ่มดูร่วมรื่นสวยงาม
สวนนี้มักจะปลูกบริเวณที่ติดกับอาคารพักอาศัย เพื่อให้ห้องพักอาศัยในชั้นล่างสุดมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยใช้สวนเป็นพื้นที่กั้นระหว่างห้องพักอาศัย และพื้นที่ส่วนกลางที่มีกิจกรรมต่างๆ เช่นพื้นที่นั่งเล่นแบบ Outdoor เป็นต้นค่ะ
อีกฝั่งทำเป็นทางเดินเชื่อมไปยังพื้นที่จอดรถด้านข้างอาคาร โดยตลอดทางเดินก็มีปลูกต้นไม้ให้ดูร่มรื่นได้ตลอดทางค่ะ
ชั้น 2 เป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมด ยกเว้นอาคาร London ที่ชั้น 2 เป็นห้องประชุมค่ะ โดยอาคารฝั่งตะวันออก-ตะวันตกจะเป็นห้อง 1 Bedroom ทั้งหมด ซึ่งในแต่ละอาคารจะมีจำนวนยูนิตทั้งหมด 10 ยูนิต/ชั้น ถือว่ามีจำนวนไม่มาก และความหนาแน่นน้อยค่ะ ส่วนอาคารฝั่งทิศเหนือจะมีห้อง 2 Bedroom บริเวณมุมอาคารด้วย และมีจำนวนยูนิตต่อชั้นอยู่เพียง 9 ยูนิตค่ะ
ชั้น 3 จะมีเฉพาะอาคารทิศใต้ (London) ที่แตกต่างจากชั้น 2 คือเป็นชั้นปล่อยโล่งนะคะ เนื่องจากเป็นความสูงของฝ้าเพดานชั้นล่างที่ยกสูงขึ้นมา
ชั้น 4-5 มีแปลนเหมือนกันค่ะ ที่แตกต่างจากชั้น 2 ก็จะเป็นอาคารทิศใต้ (London) ที่จะเริ่มมีชั้นพักอาศัยแล้ว โดยจะมีจำนวนยูนิตอยู่ที่ 5 ยูนิตต่อชั้นค่ะ เป็นอาคารที่จำนวนยูนิตน้อยที่สุด เนื่องจากชั้นล่างมีทำเป็นพื้นที่ส่วนกลางด้วยส่วนนึงค่ะ
เดี๋ยวเราจะพามาดูบรรยากาศภายในอาคารกันนะคะ และเนื่องจากแต่ละอาคารมีภายในที่เหมือนกันเราจะขอพาไปดูอาคารเพียง 2 อาคารนะคะ คืออาคาร Sydney ที่เป็นอาคารฝั่งทิศตะวันตก และอาคาร Barcelona ที่เป็นอาคารฝั่งทิศเหนือค่ะ เริ่มจากอาคาร Sydney กันก่อน บริเวณทางเข้าจะเป็นประตูที่ต้องใช้สแกนบัตรผ่านเข้าไปเท่านั้นเพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวของลูกบ้านในอาคารแต่ละอาคารค่ะ และในแต่ละอาคารนั้นก็จะมีป้ายชื่ออาคารอยู่ด้านข้าง
เข้ามาก็จะเป็นโถงทางเดินยาว ฝั่งซ้ายเป็นห้องพักอาศัย และสุดทางจะเป็นลิฟต์โดยสาร ซึ่งจะมีเพียงลิฟต์ 1 ตัว/อาคาร นะคะ ส่วนฝั่งขวาเป็นโถงบันไดหนีไฟ ที่สามารถใช้ขึ้น-ลงปกติได้เลยเช่นกันเนื่องจากที่นี่ออกแบบบันไดมาใหญ่พอสมควรเลย เดินได้ง่าย รวมไปถึงอาคารก็ไม่สูงมากด้วยค่ะ ชั้นสูงสุดอยู่ที่ชั้น 5 เอง ดังนั้นจะขึ้น-ลงบันไดก็สะดวกเช่นกัน
บริเวณโถงบันไดดูสะอาดสะอ้านและเดินได้ง่าย ฝั่งขวาเป็นห้องเก็บขยะนะคะ ซึ่งโดยปกติเราจะเห็นห้องขยะอยู่ที่โถงทางเดินเป็นส่วนใหญ่ใช่ไหมคะ แต่ที่จัดห้องเก็บขยะอยู่ที่โถงบันได ซึ่งก็ช่วยลดทอนกลิ่นขยะที่อาจจะโชยออกมายังโถงทางเดินได้ระดับนึงด้วยค่ะ และเป็นห้องที่อยู่ติดกับอาคารภายนอก ก็สามารถระบายอากาศได้มากกว่าอยู่ติดกับโถงทางเดินในระดับนึงนะคะ
บริเวณโถงทางเดินกว้างขวางพอสมควรเลยค่ะ เดินได้สบายเลยทีเดียว และสุดทางก็ได้กระจกเต็มบานช่วยให้แสงสว่างภายนอกเข้ามายังโถงทางเดินได้ดี ทำให้ช่วงกลางวันไม่จำเป็นต้องเปิดไฟทางเดินก็ยังได้ ช่วยประหยัดไฟค่าส่วนกลางได้ด้วยนะคะ
ในส่วนโถงลิฟต์และบรรยากาศภายในอาคาร Barcelona ที่อยู่ฝั่งทิศเหนือนั้นจะมีความโปร่งโล่งมากกว่าหน่อย ด้วยความที่มีจำนวนยูนิตที่มีน้อยกว่า รวมไปถึงได้พื้นที่ช่องเปิดมากกว่า
อย่างบริเวณโถงลิฟต์และโถงทางเดินนี้จะได้เป็นหน้าต่างกระจกเข้ามุมสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน ทำให้บรรยากาศมีความโปร่งโล่งดีค่ะ รวมทั้งภายในโถงที่สว่างไสวดีทีเดียวค่ะ
ส่วนโถงทางเดินกว้างขวางและมีการตกแต่งเช่นเดียวกับอาคาร Sydney ค่ะ เพียงแต่มีการวางแปลนอาคารที่แตกต่างกันเล็กน้อยเท่านั้น
เรามาดูบรรยากาศวิวมุมสูงกันบ้างนะคะ สำหรับใครที่เลือกห้องฝั่งที่หันเข้าหาส่วนกลางก็จะได้วิวประมาณนี้ค่ะ ถือว่าเป็นวิวที่โอเคนะคะ เพราะมีความสูงที่ไม่มากนักทำให้มองเห็นพื้นที่สวน สระว่ายน้ำด้านล่างได้ชัดเจน รวมไปถึงระยะห่างของอาคารตรงข้ามก็มีระยะพอสมควรที่ไม่น้อยไปจนไม่มีความเป็นส่วนตัว
ทิศเหนือ : สำหรับคนที่เลือกห้องพักอาศัยหันออกไปยังภายนอก อย่างทิศเหนือจะหันไปทางเอแบค บางนา ก็จะเห็นมหาวิทยาลัยอยู่ไกลๆ แต่ในระยะใกล้ๆ นี้ส่วนใหญ่ยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่า แวดล้อมด้วยทุ่งใหญ่และสวนอยู่เลยค่ะ
ฝั่งทิศตะวันออกก็เช่นเดียวกันค่ะ แต่ขยับไปหน่อยก็จะเห็นอพาร์ทเม้นท์ หอพัก และบ้านพักอาศัยอยู่เป็นระยะ
ฝั่งทิศตะวันตก จะเป็นวิวที่หันไปทางถนนเสาธงสามัคคี ส่วนใหญ่ยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่าและบ้านพักอาศัยประปราย
ทิศใต้ ตรงข้ามโครงการเป็นที่ดินเปล่าเช่นเดียวกัน ยังเห็นเป็นทุ่งสีเขียวอยู่เลยค่ะ ส่วนเลยไปอีกหน่อยก็จะเป็นถนนบางนา-ตราดค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 2 สระ ระบบเกลือ แบ่งสระเด็ก และสระผู้ใหญ่
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 9 เครื่อง
- Co-Working Space
- ห้องประชุม
- สวนหย่อมภายในโครงการ
- ลิฟท์โดยสาร 1 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 39.28 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 128 คันคิดเป็น 46% รวมจอดซ้อนคัน
- ระบบ CCTV / Access Card
ห้องพักอาศัยที่นี่ทั้งหมดตกแต่งในรูปแบบ Fully Furnished แต่งครบทุกอย่างพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า พร้อมแพ็คกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลยนะคะ ในส่วนห้องพักอาศัยโครงการจะมีทั้งหมด 2 แบบด้วยกันคือ
- 1 Bedroom 29 ตร.ม.
- 2 Bedroom 53 ตร.ม.
เริ่มต้นกันที่ห้อง 1 Bedroom ขนาด 29 ตร.ม. กันเป็นห้องแรกนะคะ ห้อง Type นี้เป็นห้องที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการ โดยจะอยู่บริเวณช่วงกลางอาคาร ส่วนห้องมุมจะเป็นห้อง 2 Bedroom ทั้งหมดค่ะ ขนาดห้อง 29 ตร.ม.นี้ถือว่าเป็นขนาดที่อยู่ 1-2 คนได้กำลังดี ไม่เล็กจนเกินไปนะคะ ภายในแบ่งการใช้งานได้เป็นสัดส่วน เริ่มจากทางเข้าห้องจะเจอกับส่วนพื้นที่นั่งเล่นก่อน เป็นส่วนรับรองแขกได้ด้วย ถัดมาเป็นห้องนอนค่ะ โดยจะมีการกั้นพื้นที่ให้เป็นส่วนตัวและเป็นสัดส่วนมากขึ้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ซึ่งที่ใช้เป็นกระจกนี้ก็เพื่อให้แสงธรรมชาติที่ผ่านเข้ามาในห้องนอนแล้วส่งต่อมายังพื้นที่นั่งเล่นที่อยู่ด้านในได้ดี ทำให้พื้นที่นั่งเล่นไม่มืดทึบ ภายในห้องนอนได้พื้นที่ขนาดใหญ่พอสมควรเมื่อเทียบกับขนาดของห้องพักอาศัย โดยสามารถวางเตียง 5 ฟุตได้สบายพร้อมอยู่ติดกับหน้าต่างแบบเข้ามุมด้วย ทำให้สามารถได้แสงธรรมชาติได้ดี ช่วยให้ตัวห้องโปร่งโล่ง ถัดมาในส่วนครัวจะเป็นแบบครัวเปิดเน้นทำอาหารง่ายๆ เช่นอุ่น หุง ต้ม เป็นหลักนะคะ ตำแหน่งของครัวเป็นตำแหน่งที่ดีทีเดียวเพราะอยู่ติดกับลานซักล้างซึ่งเป็นโซนที่ใช้งานใกล้เคียงกัน และติดกับภายนอกอาคาร ทำให้ช่วยลดความชื้นภายในครัวได้ดี
จากหน้าประตูห้องใช้ประตูขนาดมาตรฐาน วัสดุเป็น HDF ค่ะ กลอนประตูเป็นแบบก้านโยกสแตนเลสมาตรฐาน
เข้ามาภายในห้องจะปิดขอบด้วยไม้สำเร็จรูปก่อนเข้ามายังพื้นห้องที่เป็นลามิเนตนะคะ
เข้ามาภายในห้องจะเจอส่วนพื้นที่นั่งเล่นกันก่อน เลยไปถึงห้องนอนด้านในนะคะ สำหรับความสูงจากพื้นถึงฝ้าจะอยู่ที่ 2.3 ม. ค่ะ
หันกลับมาที่ส่วนพื้นที่นั่งเล่นกันก่อน บริเวณนี้มีความกว้างทางเดินอยู่ที่ประมาณ 1.3 ม. จัดเป็นทางเดินที่สามารถเดินได้สะดวกมาก แต่ไม่เหมาะกับเพิ่มโต๊ะกลางเพิ่มเติมนะคะ เพราะจะขวางทางเดินส่วนประตูพอสมควรเลยนะคะ ในส่วนของระยะสายตาระหว่างโซฟากับทีวีจะอยู่ที่ประมาณ 2 ม. เป็นระยะกำลังดีในการดูทีวีค่ะ
พิเศษสำหรับห้องพักอาศัยในทุกห้องที่นี่มีให้ Bluetooth Sound System เป็นมาตรฐานด้วยนะคะ สามารถฟังวิทยุ หรือใช้ Blutetooth เปิดเพลงจากมือถือ หรือใช้ USB เสียบก็ได้เช่นกันค่ะ รวมไปถึงสามารถตั้งนาฬิกาปลุกได้ด้วยนะคะ ส่วนลำโพงจะติดให้บนฝ้าเพดานบริเวณห้องนั่งเล่นและห้องนอน เพื่อให้ได้ยินได้ทั่วถึง ถือเป็นฟังก์ชันพิเศษที่น่าสนใจทีเดียวค่ะ
สำหรับที่นี่เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นจะได้เป็นมาตรฐานทั้งหมดนะคะ และส่วนใหญ่เป็นชุด Built-in อย่างโซฟาและโต๊ะทำงานก็จะได้เหมือนห้องตัวอย่างเช่นกันค่ะ
โซฟามีขนาด 2 ที่นั่ง ด้านบนบุด้วยหนังเทียบ ส่วนด้านล่างปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ มีลิ้นชัก 3 ลิ้นชักขนาดใหญ่ไว้เก็บของต่างๆ ได้ด้วย อย่างบริเวณหน้าห้องนี้เราแนะนำให้เป็นที่ใช้ลิ้นชักนี้เป็นที่เก็บรองเท้าก็ดีนะคะ
ถัดมาที่โต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้เช่นกันแล้วแต่ใครอยากจัดฟังก์ชันแบบไหนนะคะ สำหรับส่วนนี้จะได้ทั้งโต๊ะด้านล่างและชั้น Built-in ด้านบนเลย
ชั้น Built-in ด้านบนมีชั้นไว้วางของด้านนึง และอีกด้านเป็นบานเปิดสามารถเก็บของได้ค่ะ ส่วนโต๊ะนี้หน้าโต๊ะจะเป็นกระจกใสนะคะ เพราะทางโครงการออกแบบให้เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง เวลาจะเลือกเครื่องประดับในลิ้นชักด้านล่างจะได้ดูก่อนได้ว่าจะเอาอันไหน แล้วค่อยเปิดลิ้นชักออกมาค่ะ ค่อนข้างสะดวกในการใช้งานดีทีเดียว แต่ก็ต้องระวังกระจกแตกหน่อยนะคะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นชุด Built-in ชั้นวางทีวีทั้งเซต ได้ครบเหมือนห้องตัวอย่างเลยค่ะ โดยด้านล่างจะเป็นชั้นวางรูปตัว L โค้งตามผนัง มีลิ้นชักขนาดใหญ่ให้เก็บของได้เต็มที่ ด้านบนแขวนทีวีให้เป็นมาตรฐาน และบนสุดเป็นชั้นวางของแบบ Built-in มีด้านนึงที่ติด Consumer Unit ไว้ด้วย
ถัดมาที่ห้องนอนกันต่อนะคะ สำหรับห้องนอนจะกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกแบบเข้ามุมด้วย เพื่อเปิดพื้นที่ให้ความรู้สึกเชื่อมต่อกันมากขึ้น มีความโปร่งโล่ง ไม่ทึบมากเมื่อเทียบกับเป็นห้องผนังเลยจะทำให้ตัวห้องดูเล็กมากขึ้นนะคะ ลักษณะประตูบานเลื่อนเป็นแบบ 3 ตอนสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานช่วยเรื่องความโปร่งโล่งมากขึ้น และยังสามารถเปิดพื้นที่เชื่อมต่อได้กว้างขวางมากกว่าบานเลื่อนแบบ 2 ตอน
ภายในห้องนอนมีขนาดกำลังดีทีเดียวค่ะ วางเตียง 5 ฟุตได้กำลังดี มีพื้นที่ทางเดินรอบเตียงที่เดินได้ง่าย สำหรับห้องนี้จะได้เฟอร์นิเจอร์ทั้งเตียง+ฟูก (ไม่รวมเครื่องนอน) โต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง และตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in จะเป็นอย่างไรเดี๋ยวจะค่อยๆ อธิบายต่อในรูปถัดๆ ไปนะคะ
พื้นที่ข้างเตียงฝั่งซ้ายเหลือพอสมควรเลยเดินได้ง่ายมากค่ะ
ส่วนหน้าตาของโต๊ะข้างเตียงจะมีขนาดกะทัดรัก ด้านบนวางของจุกจิกหรือโคมไฟตั้งโต๊ะได้ ด้านล่างมีลิ้นชักไว้ใส่ของให้เรียบร้อย
พื้นฝั่งปลายเตียงก็มีพื้นที่พอสมควรสำหรับเดินได้ง่าย หากใครที่ต้องการติดทีวีแนะนำให้แขวนทีวีเอานะคะ เพราะไม่สามารถ Built-in หรือวางชั้นวางทีวีเพิ่มเติมได้ เนื่องจากจะไปกินพื้นที่ทางเดินรอบเตียง
ส่วนอีกฝั่งข้างเตียงที่ติดกับหน้าต่างก็มีความกว้างทางเดินที่เดินได้สบายเลยค่ะ
หน้าต่างที่นี่เป็นแบบมาตรฐาน บานเลื่อน 2 ทาง ขนาดค่อนข้างกว้างพอสมควร เปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาภายในได้ดี ตัวกรอบเป็นอลูมิเนียมพ่นสีดำมาตรฐานค่ะ
สำหรับตู้เสื้อผ้าที่ได้เป็นแบบ Built-in ด้านในใช้เป็นบานเลื่อน เพื่อไม่กินพื้นที่ทางเดิน
ภายในมีขนาดกะทัดรัดแต่จัดฟังก์ชันมาครบครันสำหรับการใช้งาน รวมไปถึงติดหลอดไฟให้ด้วยค่ะ
ถัดมาที่ส่วนครัวกันต่อนะคะ บริเวณนี้พื้นจะใช้เป็นแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ซึ่งเหมาะกับการใช้งานบริเวณครัวดีทีเดียว เพราะเมื่อเวลามาคราบสกปรกจากการทำอาหารต่างๆ ก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย มีความคงทนในเรื่องของความชื้นต่างๆ ได้ดีกว่าลามิเนต
สำหรับ Pantry ครัวที่ได้นะคะ จะได้ทั้ง Set ตามห้องตัวอย่างเลย แต่จะไม่มี Back Splash ด้านหลังให้นะคะ หากลูกบ้านต้องการที่จะทำความสะอาดให้ง่ายขึ้นแนะนำให้กรุกระเบื้องหรือกระจกเพิ่มเติมเอง เพื่อที่เวลาทำอาหารแล้วเกิดคราบติดผนังจะได้ทำความสะอาดได้ ไม่เป็นรอยคราบติดผนังครัวค่ะ
ส่วนเคาน์เตอร์ครัว ด้านบนปิดผิวด้วยลามิเนตนะคะ ซึ่งอาจจะไม่ได้คงทนต่อความชื้นมากนัก เวลาจะล้างจานต่างๆ ก็ไม่ควรให้น้ำกระเด็นมาบริเวณส่วนท็อปครัวมากนัก หรือต้องเช็ดน้ำให้เร็วไม่ให้ซึมเข้าลามิเนตที่ค่อนข้างบวมง่ายเมื่อโดนน้ำค่ะ ส่วนด้านล่างมีช่องว่างให้วางของหรือไมโครเวฟก็ได้ค่ะ มีลิ้นชักไว้เก็บของและจานชามต่างๆ
Sink หลุมเดี่ยวพร้อมที่พักจานด้านข้างขนาดกะทัดรัดจาก Techno
ส่วนด้านบนเป็นลิ้นชักบานเปิดทั้งหมด ไว้เก็บของต่างๆ ได้พอสมควรเลยค่ะ
ส่วนทางเดินบริเวณครัวให้มากว้างขวางพอสมควรเลยนะคะ อยู่ที่ประมาณ 1 ม.ได้เลยค่ะ เวลาจะทำครัวหรือเดินผ่านไปมาก็สะดวกสบาย
ด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวมีตู้เย็นขนาด 6.4 คิวบิกฟุตที่ทางโครงการให้เป็นมาตรฐาน
โต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2 ท่านแบบกะทัดรัด หันหน้าเข้าหากำแพง พร้อมเก้าอี้สตูลบุหนังเทียมเป็นมาตรฐาน
ชอบโต๊ะที่ทำเป็นช่องว่างไว้วางของตกแต่งได้ หรือจะเก็บของต่างๆ ก็ได้นะคะ เช่นเป็นที่วางซอส เป็นต้น จะได้ไม่เกะกะพื้นที่โต๊ะด้านบน
ถัดมาที่ระเบียงซักล้างกันต่อค่ะ บริเวณนี้กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกเช่นเดิม
ตัวล็อกแบบ 2 ชั้น ทั้งจากบริเวณมือจับและแบบก้นหอยล็อกอีกชั้น
ขนาดระเบียงกะทัดรัดพอสมควรค่ะ อยู่ที่ประมาณ 1.4 x 1 ม. สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ แต่หากไม่ได้วางก็จะมีพื้นที่ไว้ตากผ้าต่างๆ มากขึ้น ส่วนราวกันตกเป็นราวเหล็กพ่นสีดำมาตรฐาน
ด้านบนแขวนคอนเพรสเซอร์แอร์ให้เรียบร้อย ด้านนอกมีติดตั้งระเบียงเพื่อบังคอมเพรสเซอร์แอร์จากสายตาภายนอก
ด้านล่างมีเตรียมท่อน้ำทิ้งและก็อกน้ำสนาม พร้อมทั้งปลั๊กไฟกันน้ำไว้ให้รองรับการใช้งานกับเครื่องซักผ้า
มาที่ทางเข้าห้องน้ำกันต่อนะคะ จะอยู่ติดกับครัวเลยค่ะ บริเวณพื้นก่อนถึงพื้นห้องน้ำมีการยกธรณีพื้นขึ้นเล็กน้อยเพื่อกันน้ำไหลย้อน ส่วนประตูห้องน้ำเป็น PVC มาตรฐานกันน้ำ กันความชื้นต่างๆ ได้พอสมควรค่ะ
พื้นภายในลดระดับลงเล็กน้อย ส่วนกระเบื้องปูด้วยกระเบื้องเซรามิกมาตรฐาน
บริเวณโซนแห้ง ฝั่งขวามือเป็นอ่างล้างมือแบบเคาน์เตอร์ยาว จากผนังถึงอีกผนัง มีพื้นที่วางของให้พอสมควรเลยค่ะ ส่วนอ่างล้างมือมีขนาดมาตรฐานเป็นทรงกลม ส่วนผนังกรุด้วยกระจกเงาขนาดใหญ่ และด้านบนติดตั้งพัดลมดูดอากาศให้เรียบร้อยค่ะ
ถัดมาเป็นพื้นที่ส่วนโถสุขภัณฑ์ มีขนาดพื้นที่โดยรอบพอสมควรนะคะ นั่งได้สบาย ส่วนยี่ห้อสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ห้องน้ำทั้งหมดจาก American Standard ค่ะ
ถัดมาในส่วนพื้นที่อาบน้ำกั้นธรณีขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อกันน้ำไหลย้อนจากโซนเปียกไปยังโซนแห้ง และจะได้ผลดีมากกว่านี้หากติดม่านพลาสติกบริเวณพื้นที่อายน้ำเพิ่มเติมค่ะ
ฝักบัวจาก American Standard มาพร้อมกับเครื่องทำน้ำอุ่นอีกด้วยค่ะ
มาต่อกันที่ 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 53 ตร.ม. เกือบ 2 เท่าของห้องแรกนะคะ ลักษณะห้องนี้จะเป็นห้องหน้ากว้าง แบ่งพื้นที่ตรงกลางเป็น Common Area โดยประกอบด้วยครัวและพื้นที่นั่งเล่น จากนั้นแบ่งเป็น 2 ฝั่งเป็นห้องนอนในขนาดใกล้เคียงกัน มีห้อง Master Bedroom ที่ได้กระจกแบบเข้ามุมค่ะ สำหรับห้องนี้จะเหมาะกับการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว มีสมาชิกประมาณ 3-4 คนได้สบายๆ ค่ะ แต่แอบเสียดายพื้นที่รับประทานอาหารที่จัดมาได้สำหรับ 2 ที่นั่ง ซึ่งหากใครอาศัยอยู่ร่วมกันประมาณ 3-4 คนนั้นก็ไม่สามารถรับประทานอาหารพร้อมๆ กันได้นะคะ
เข้ามาภายในจะเจอกับส่วนครัวก่อน โดยพื้นห้องจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. เพื่อให้ง่ายกับการทำความสะอาด และมีความคงทนในการใช้งานมากกว่าลามิเนตนะคะ จึงเหมาะกับใช้กระเบื้องกับส่วนครัว
จากประตูหนัาห้องเข้ามาเป็นส่วนครัวก่อนและเชื่อมกับพื้นที่นั่งเล่นด้านในสุดที่ติดกับระเบียงภายนอก
เราหันกลับมาที่ส่วนครัวกันอีกรอบนะคะ บริเวณครัวนี้แบ่งเป็น 2 ฝั่งด้วยกัน โดยทางซ้ายที่ติดกับประตูจัดให้เป็นที่วางเครื่องใช้ไฟฟ้า และฝั่งขวาคือเคาน์เตอร์ครัวและโต๊ะรับประทานอาหารที่เชื่อมติดกัน
บริเวณเครื่องใช้ไฟฟ้าประกอบด้วยตู้เย็นและเครื่องซักผ้า ซึ่งจะได้เป็นมาตรฐานเลยค่ะ ทั้งหมดจากยี่ห้อ Mitsubishi
มาที่ฝั่งครัวกันต่อ สำหรับครัวนี้มีลักษณะเคาน์เตอร์รูปตัว U ใหญ่ขึ้นกว่าห้อง 1 Bedroom นะคะ ส่วนสเป็คต่างๆ เช่นท็อปครัว หน้าบานครัวและอ่างล้างจานจะเหมือนกับห้อง 1 Bedroom ทั้งหมดค่ะ
เคาน์เตอร์ครัวรูปตัว U ล้อมพื้นที่ตรงกลางที่มีความกว้างอยู่ที่ประมาณ 1 ม. สามารถเข้าไปยืนใช้งานได้กำลังดี และเปิดบานเปิด หรือลิ้นชักได้โอเคค่ะ ไม่ได้ปิดทางเดินจนหมด
สำหรับโต๊ะรับประทานอาหารจะมีลักษณะเหมือนโต๊ะเคาน์เตอร์บาร์ คือเป็นโต๊ะที่ติดกับเคาน์เตอร์ครัว และหันหน้าไปทางเดียวกัน ไม่ได้เป็นโต๊ะรับประทานอาหารแบบหันหน้าเข้าหากันนะคะ โดยรวมแล้วใช้งานสะดวกดีค่ะ แต่หากมีสมาชิกในห้องมากกว่า 2 คน พื้นที่ส่วนนี้ก็จะไม่พอกับจำนวนสมาชิกนะคะ ในส่วนของวัสดุของโต๊ะท็อปจะเป็นกระจก ส่วนด้านล่างมีช่องสำหรับวางของได้เล็กน้อย เหมือนโต๊ะของห้องที่แล้วเพียงแต่มีขนาดใหญ่กว่า และได้เก้าอี้ที่นั่งสบายกว่าเก้าอี้สตูลค่ะ
ส่วนพื้นที่นั่งเล่นได้ขนาดกว้างขวางทีเดียว และอยู่ติดกับระเบียงภายนอก ได้แสงธรรมชาติและวิวภายนอกได้เต็มที่ ขนาดของระยะทีวีอยู่ที่ประมาณ 2 ม. เป็นระยะที่กำลังดีในการดูทีวี
ในส่วนนี้จะได้ชุดเฟอร์นิเจอร์มาตรฐานคือโซฟาขนาดใหญ่บุด้วยหนังเทียม โต๊ะกลางด้านบนเป็นกระจก ตามแบบห้องตัวอย่างเลยค่ะ
ได้ชั้นวางทีวีทั้งด้านล่างและด้านบนที่เป็นชั้นวางของ Built-in
ประตูบานเลื่อนกระจกแบบเปิดออก 2 ฝั่งด้านข้าง ทำให้สามารถเปิดพื้นที่ได้กว้างมากขึ้น
ระเบียงที่ได้มีขนาดใหญ่พอสมควร สามารถใช้งานได้ดี สำหรับระเบียงของห้องนี้ออกแบบให้แตกต่างกับระเบียงห้องแรกพอสมควรนะคะ อย่างห้องแรกเราจะเห็นว่าเน้นการใช้งานแบบซักล้าง วางเครื่องซักผ้า เป็นต้น ด้วยความที่มีขนาดเล็กและอยู่ติดกับส่วนครัว แต่ห้องนี้จะเน้นเป็นระเบียงพักผ่อน ชมวิวมากกว่า เพราะขนาดพื้นที่ที่เอื้ออำนวย สามารถวางโต๊ะเก้าอี้สนามได้ รวมไปถึงไม่มีพื้นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์บริเวณระเบียงด้วย จึงไม่มีลมร้อนมาเป่าให้กวนใจเวลาออกมานั่งเล่นริมระเบียง
ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์นี้จะทำเป็นพื้นที่ยื่นออกไปแยกกับส่วนระเบียงชัดเจนค่ะ พร้อมทั้งปล่อยลมร้อนออกด้านนอกด้วย ถือเป็นการออกแบบที่ดีนะคะ
ด้านข้างของระเบียงเราจะเห็นกระจกเข้ามุมในห้องนอนค่ะ ที่ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติได้มากขึ้น
เข้ามาภายในห้องนอนเล็กที่ไม่ได้เล็กตามชื่อนะคะ ดูจากขนาดเตียง 5 ฟุต พร้อมพื้นที่ด้านข้างพอสมควรเลย ซึ่งจริงๆ ห้องนี้มีขนาดใกล้เคียงกับห้อง Master Bedroom เลยเช่นกันค่ะ และยังมีห้องน้ำในตัวอีกด้วย สามารถเรียกได้ว่าเป็นห้อง Master Bedroom ห้องที่ 2 ของห้องพักอาศัย Type นี้ก็ว่าได้นะคะ
ส่วนหน้าต่างเป็นหน้าต่างสำเร็จรูปจะได้เป็นบานเลื่อน 2 บาน ขนาดใหญ่มาตรฐานค่ะ ปลายเตียงแขวนทีวีให้เรียบร้อย
อีกฝั่งเป็นตู้เสื้อผ้าอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้อง และโต๊ะทำงานก่อนจะเป็นห้องน้ำในตัวห้องนอน
ตู้เสื้อขนาดกะทัดรัด ภายในมีแบ่งฟังก์ชันการใช้งานทั้งแบบลิ้นชัก ราวแขวนเสื้อ และชั้นวางของด้านบน พร้อมไฟภายใน
โต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งนี้จะได้เป็นชุด Built-in ทั้งชุดตามห้องตัวอย่าง พร้อมกับเก้าอี้ด้วยนะคะ
เข้าสู่ห้องน้ำกันต่อ บริเวณหน้าห้องน้ำกั้นด้วยธรณีกันน้ำไหลย้อน ภายในปูด้วยกระเบื้องเซรามิกสีเทา และแบ่งการใช้งานเป็นโซนเปียกและแห้งชัดเจนด้วยกันกั้นพื้นที่ด้วยธรณียกสูงขึ้นมาเล็กน้อย
เข้ามาจะเจอกับส่วนอ่างล้างมือก่อนนะคะ โดยบริเวณผนังจะกรุกระจกเงาให้พร้อมทั้งมี Low Wall เพื่อวางของใช้ต่างๆ ได้พอสมควรเลยค่ะ
อ่างล้างมือจาก American Standard มีขนาดพอสมควรใช้งานได้ดีค่ะ
ถัดมาเป็นส่วนโถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ห้องน้ำ จาก American Standard เช่นกันเดียวกันค่ะ บริเวณโถมีพื้นที่รอบข้างพอสมควร ไม่เล็กเกินไป
ถัดมาคือส่วนพื้นที่อาบน้ำยกธรณีสูงขึ้นมาเล็กน้อยกันน้ำไหลย้อนได้ดี และถ้าจะให้กันน้ำกระเด็นออกมายังส่วนแห้งได้มากขึ้นก็เพียงติดม่านพลาสติกก็สามารถกั้นพื้นที่ได้เป็นสัดส่วนแล้วค่ะ ส่วนภายในห้องน้ำมีขนาดพอสมควรเลยนะคะ อาบน้ำได้สบาย ส่วนฝักบัวสายอ่อนและเครื่องทำน้ำอุ่นได้ตามมาตรฐานเหมือนห้องแรกเลยค่ะ
เข้ามาในห้อง Master Bedroom กันต่อนะคะ ภายในห้องวางเตียง 5 ฟุตได้พร้อมกับมีโต๊ะทำงาน/โต๊ะเครื่องแป้งด้านข้างซ้ายและข้างขวาได้โต๊ะข้างเตียงอีก 1 ตัว บรรยากาศภายในห้องโปร่งโล่งพอสมควรเนื่องจากหน้าต่างบานเลื่อนและพื้นที่ภายในห้องที่ไดมาพอสมควรเลยค่ะ
ปลายเตียงของห้องนี้จะพิเศษขึ้นมาเล็กน้อยคือได้ชั้นวางทีวีแบบ Built-in เพิ่มขึ้นมาด้วยค่ะ
ฝั่งซ้ายมือเป็นโต๊ะเครื่องแป้งแบบ Built-in มาพร้อมกับชั้นวางของด้านบนและเก้าอี้เรียบร้อยค่ะ
ถัดมาเป็นส่วน Walk-in Closet ที่ได้เป็นสัดส่วนดีมากค่ะ ลักษณะจะเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in ทั้ง 2 ฝั่งด้านข้างก่อนจะเข้าสู่ห้องน้ำด้านใน โดยบริเวณก่อนเข้าสู่ Walk-in Closet นี้จะมีการกั้นผนังขึ้นมาเพื่อให้เป็นสัดส่วน
ฝั่งขวาจะเป็นชั้น Built-in แบบราวแขวนเสื้อ 2 ชั้น ตามห้องตัวอย่างนะคะ
ส่วนฝั่งขวาออกแบบให้เป็นชั้นเก็บเสื้อผ้าและเครื่องประดับมากกว่า จะเห็นว่ามีลิ้นชักด้านล่างและชั้นวางของต่างๆ ด้านบน ซึ่งลูกบ้านจะได้ตามแบบห้องตัวอย่างเลยค่ะ
ภายในห้องน้ำแบ่งโซนเปียกและแห้งเช่นเดียวกับห้องน้ำในอีกห้องนอนนะคะ เริ่มจากอ่างล้างมือก่อนที่ตกแต่งและใช้สเป็คเดียวกันทั้งหมดคือสุขภัณฑ์จาก American Standard มี Low Wall ไว้วางของด้านหลัง พร้อมกรุกระจกเงาให้เรียบร้อย
ฝั่งซ้ายเป็นโถสุขภัณฑ์มีพื้นที่ด้านข้างกว้างกว่าห้องที่แล้วเล็กน้อย
ถัดมาอีกฝั่งเป็นพื้นที่อาบน้ำค่ะ ด้านล่างยกธรณีเล็กน้อยกันน้ำไหลย้อน ภายในให้ฝักบัวสายอ่อนพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่นเช่นเดียวกับห้องน้ำในห้องนอนแรกเลยค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 4 December 2017
- ห้อง 1 Bedroom
- ชั้น 1, 5
- Pool View 1.745 ล้านบาท หรือ 60,172 บาท/ตร.ม.
- City View 1.695 ล้านบาท หรือ 58,448 บาท/ตร.ม.
- Pool View 1.595 ล้านบาท หรือ 55,000 บาท/ตร.ม.
- City View 1.545 ล้านบาท หรือ 53,275 บาท/ตร.ม.
- Pool View 1.695 ล้านบาท หรือ 58,448 บาท/ตร.ม.
- City View 1.595 ล้านบาท หรือ 55,000 บาท/ตร.ม.
- ชั้น 1, 5
- Pool View 3.05 ล้านบาท หรือ 57,547 บาท/ตร.ม.
- City View 3 ล้านบาท หรือ 56,603 บาท/ตร.ม.
- Pool View 2.9 ล้านบาท หรือ 54,716 บาท/ตร.ม.
- City View 2.85 ล้านบาท หรือ 53,773 บาท/ตร.ม.
- Pool View 3 ล้านบาท หรือ 56,603 บาท/ตร.ม.
- City View 2.9 ล้านบาท หรือ 54,716 บาท/ตร.ม.
- Fully Furnished
- ฝ้าเพดานสูง 2.3 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- จอง 10,000 บาท
- ทำสัญญา 30,000 บาท
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 35 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
โครงการ VIIA 7 เป็นคอนโดมิเนียมใกล้มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ บางนา (Abac Bangna) ตอบโจทย์นักศึกษาที่มองหาที่อยู่อาศัยที่ดีกว่าหอพัก หรืออพาร์ทเม้นท์ทั่วไป รวมไปถึงมี Facilities ให้ใช้อย่างครบครัน ในราคาแพ็กเกจที่หยิบจับได้ไม่ยาก ผู้ปกครองหรือผู้ลงทุนสามารถซื้อได้ในราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท ก็สามารถได้ห้องพักอาศัยที่มีเฟอร์นิเจอร์ครบ รวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด เรียกได้ว่าสามารถแพคกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้อย่างแท้จริงค่ะ
เพิ่มเติมในส่วนของ Rental Program ของโครงการ จะมีให้สำหรับนักลงทุนที่ต้องการปล่อยห้องให้นักศึกษาหรือคนทำงานในละแวกเช่าอยู่ โดยจะมีการันตีค่าเช่าให้ 1 ปี จ่ายให้ทุกเดือน 1 Bedroom อยู่ที่ 8,000 บาท/เดือน 2 Bedroom อยู่ที่ 12,000 บาท/เดือน ส่วนปีที่ 2 เป็นต้นไปเจ้าของห้องสามารถให้ทางโครงการดูแลเรื่องการเช่าห้องต่อได้ แต่จะไม่มีการันตีค่าเช่าให้นะคะ เช่น เดือนนี้มีผู้เช่าก็จะได้เจ้าของห้องก็จะได้ค่าเช่า เดือนถัดไปไม่มีผู้เช่าก็จะไม่ได้ค่าเช่าเป็นต้นค่ะ
การเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวจะสะดวกที่สุดสำหรับโครงการนี้ เพราะอยู่ไม่ไกลจากเส้นบางนา-ตราดมากนัก สำหรับระยะขับรถ จะวิ่งเข้าเมืองไปต่อวงแหวนรอบนอกก็สะดวก รวมทั้งมีทางพิเศษบูรพาวิถีให้ใช้ได้สำหรับคนที่เดินทางออกนอกเมืองเช่นกัน รวมไปถึงอยู่ไม่ไกลมากนักจากสนามบินสุวรรณภูมิค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถจะสะดวกในการเดินทางภายในย่านใกล้ๆ เพราะมีทั้งรถแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ รวมไปถึงทางโครงการเองก็มีบริการ Shuttle Service เป็นรถตู้ 2 คัน คอยรับ-ส่งนักศึกษาไปมหาวิทยาลัย โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่หากจะเดินทางเข้า-ออกเมืองในระยะไกลหน่อยก็จะมีตัวเลือกไม่มากนัก หลักๆ จะเป็นแท็กซี่นะคะ
การออกแบบโครงการ จุดเด่นเลยคือเรื่องของบรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางที่ทำออกมาได้สวย และมีพื้นที่พอสมควร ทำให้อาคารทั้ง 7 อาคารได้วิวจากพื้นที่ส่วนกลางอย่างแท้จริง และไม่อยู่ใกล้กันมากจนเสียความเป็นส่วนตัวมากเกินไป นอกจากนี้คือเรื่องความหนาแน่นโครงการที่ถือว่าหนาแน่นน้อย อาคารแต่ละอาคารมีจำนวนยูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 9-10 ยูนิต และความหนาแน่นลิฟต์ทั้งโครงการอยู่ที่ 39.28 : 1 เท่านั้นค่ะ ส่วนตัวห้องจัดมาได้มาตรฐาน มีการจัดวางฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วนดีทั้งห้อง 1 Bedroom และ 2 Bedroom เน้นพื้นที่ห้องนอนขนาดใหญ่เป็นสำคัญ เพิ่มเติมห้อง 2 Bedroom ชอบการจัดฟังก์ชันบริเวณระเบียงที่แยกพื้นที่คอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ชัดเจน เพื่อให้ระเบียงได้ใช้งานอย่างแท้จริง จะนั่งเล่นก็ได้ไม่มีลมร้อนจากคอมเพรสเซอร์แอร์มากวนใจ
วัสดุจัดมาให้แบบครบครัน โดยจะได้เฟอร์นิเจอร์ครบชุด พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด และ Bluetooth Sound System ที่สามารถเปิดเพลงผ่านมือถือ USB วิทยุ รวมไปถึงนาฬิกาปลุกได้ด้วย ส่วนพื้นใช้ลามิเนต กระเบื้องเซรามิก สุขภัณฑ์มาตรฐานจาก American Standard เสียดายที่ได้ฝ้าเพดานไม่สูงมากนัก จะรู้สึกถึงความโปร่งโล่งมากขึ้น
สาธารณูปโภคให้มาครบครัน น่าใช้งาน โดยที่เด่นๆ เลยคือสระว่ายน้ำรูปตัว L ยาวสามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้จริง พร้อมกับมีระบบเสียงใต้น้ำให้ว่ายน้ำพร้อมฟังเพลงไปด้วยได้ และมีฟังก์ชันเพิ่มเติมขึ้นมาจากทั่วไปเช่น Co-Working Space และห้องประชุมเล็ก-ใหญ่ หลายห้อง ตามโจทย์กลุ่มนักศึกษามาอ่านหนังสือ ติวหนังสือให้กันได้ด้วยค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 53,275 – 60,172 บาท/ตร.ม., 4 December 2017
- ทำเล 7/10 – อยู่ในซอยบางนาการ์เด้นท์ 7 สภาพแวดล้อมเงียบสงบ จะคึกคักบริเวณหน้าปากซอยออกมาที่ถนนสป.2003
- เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – อยู่ไม่ไกลจากถนนบางนา-ตราดในระยะขับรถ วิ่งเข้า-ออกเมืองง่าย
- ไม่ใช้รถ 7.5/10 – มี Shuttle Service รับ-ส่งมหาวิทยาลัย แต่วิ่งเข้า-ออกเมืองจะมีตัวเลือกไม่มาก หลักๆ ใช้ Taxi
- วัสดุ 8/10 – ให้มาครบครันทุกอย่าง พร้อมแพคกระเป๋าเข้าอยู่ไม่ต้องควักเงินเพิ่ม
- แบบ 8/10 – ผังตัวห้องจัดมาได้ลงตัวดี
- สาธารณูปโภค 8.5/10 – ให้มาครบ เยอะและน่าใช้งาน มีฟังก์ชันเพิ่มอย่าง Co-Working Space, ห้องประชุม
- ECONOMY CLASS
- 7.55 / 10.00
BOTTOM LINE
โครงการ VIIA 7 เหมาะกับผู้ปกครองหรือผู้ลงทุน ซื้อให้นักศึกษาอยู่อาศัย ในราคาที่หยิบจับง่าย ได้เฟอร์นิเจอร์ครบครัน สามารถแพ็คกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลย ต้องการ Facilities ครบ สวยน่าใช้งาน และเดินทางไป-กลับมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ บางนาได้สะดวก โดยมีระยะไม่ไกลมากนักในระยะขับรถง่าย และยังมี Shuttle Service คอยรับ-ส่งโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท