รีวิวฉบับที่ 1310 …  สวัสดีค่ะ วันนี้มาเดินเล่นแถวๆพร้อมพงษ์ เลยได้มีโอกาสแวะเข้าไปดู The Emporio Place จาก TCC Capital Land ที่สร้างเสร็จมาระยะหนึ่งแล้ว ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท24 หรือ ซอยข้างๆ Emporium ใครที่ผ่านแถวนี้บ่อยๆก็จะคุ้นกันดีว่าเป็นโครงการที่มี Lawson และ True Coffee อยู่ข้างล่างนั่นแหละค่ะ นอกจากการดีไซน์ตัวอาคารที่ดูสวย ทันสมัยแล้ว ยังมีความน่าสนใจตรงที่วางผังในชั้นพักอาศัยได้ Private มากๆ ตามมาชมกันเลยค่ะ 

Fact @ 8 March 2017

  • อาคาร A สูง 35 ชั้น (Tower North)
  • อาคาร B สูง 42 ชั้น (Tower East)
  • อาคาร C สูง 12 ชั้น (Tower South)

  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 7 ยูนิตที่อาคาร A
  • ที่จอดรถประมาณ 482 คันคิดเป็น 133%
  • ที่ดินประมาณ 5-2-62 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง :  n/a
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : 2552
  • Studio 46 ตร.ม.
  • 1 Bedroom 48-65 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Duplex 68.5-76.5 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 101-108 ตร.ม.
  • 2 Bedroom Duplex 120-133 ตร.ม.
  • 3 Bedroom 164  ตร.ม.
  • อ่านรายละเอียดมองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ คลิกที่นี่
  • ราคาขายปัจจุบันเฉลี่ยต่อตารางเมตร 14x,xxx-22x,xxx บาท/ตร.ม. (ข้อมูลจากWebประกาศซื้อ-ขาย)
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร : 02-398-5555
  • เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

    สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


    เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

    พิกัด : 13.723243, 100.566822

    แผนที่จากทางโครงการค่ะ

    The Emporio Place ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท24 หรือ ซอยข้างๆ Emporium เข้าซอยมาประมาณ 800 เมตรกว่าๆ ค่อนมาทางฝั่งพระราม 4 ซะมากกว่า อยู่บริเวณสี่แยกในซอยที่ถนนเรารักในหลวงตัดกับซอยสุขุมวิท 24 หรือเพื่อนๆจะคุ้นกับแยกโรงแรม เดอะเดวิส ซึ่งเป็นแยกที่สามารถ ทะลุไปซอยสุขุมวิท 22 และ 26 ได้ค่ะ ถ้าเดินเข้ามาก็จะเหนื่อยหน่อยแต่จากการสังเกตก็เห็นคนส่วนใหญ่เดินเข้ามากันนะ อาจจะเป็นเพราะว่าระหว่างทางบรรยากาศคึกคัก มีร้านค้า ร้านอาหารตลอดทางและซอยนี้ยังใช้เป็นเส้นทางลัด มีรถผ่านตลอดเวลาจึงไม่ค่อยเปลี่ยว

    สำหรับการเดินทางโดยใช้รถถือว่าค่อนข้างสะดวก เพราะซอยสุขุมวิท 24 เป็นซอยขนาดใหญ่แบบ two-way เข้า-ออกได้ทั้งจากถนนสุขุมวิทและถนนพระรามสี่ จากถนนสุขุมวิทขับไปนิดเดียวก็จะเป็นย่านอโศกแล้ว ใกล้ทองหล่อ-เอกมัยที่ลัดไปออกถนนเพชรบุรีได้ อีกทั้งสุขุมวิทฝั่งเลขคู่มันก็มีทางลัดเลาะของมัน คือ ซอยสุขุมวิท 22,24,26 ที่จะเชื่อมกันได้ค่ะ แถมซอยสุขุมวิท 26 สามารถใช้เชื่อมกันกับซอยสุขุมวิท 34 ลัดไปออกทองหล่อได้อีก ทางด่วนใกล้ๆกับโครงการและขับรถมาใช้ได้สะดวกหน่อยคือทางฝั่งพระราม4 โดยจากถนนพระราม4 มาเลี้ยวเข้าถนนเกษมราษฎร์จะมีทั้งทางขึ้น-ลงทางด่วนอยู่ค่ะ ข้อเสียของทำเลใจกลางเมืองแบบนี้ก็คือ รถติดเอามากๆโดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน หลายคนที่อยู่ย่านนี้จึงไปใช้ การเดินทางโดยไม่ใช้รถ นั่นก็คือเดินไปขึ้น BTS สถานีพร้อมพงษ์แทน สถานีนี้ไม่ไกลจาก BTS อโศกซึ่งเป็น Interchange กับ MRT สถานีสุขุมวิทค่ะ ส่วนพี่วินมอเตอร์ไซค์และแท็กซี่ก็มีวิ่งผ่านในซอยตลอดทั้งวัน รอเรียกได้ไม่ยากค่ะ

    รอบๆโครงการโดยเฉพาะในซอยสุขุมวิท 24 จะเด่นและดังเรื่องคอนโดรุ่นบุกเบิกที่มีดีไซน์คลาสสิกและราคาขึ้นสูงอยู่ตลอดเวลา อันเนื่องมาจากศูนย์การค้า Emporium และ Emquartier ที่อยู่หน้าซอย 24 ส่วนในซอยก็จะมีคอนโด High rise และโรงแรมเยอะมากๆทั้งสองฝั่งตั้งแต่ต้นซอยเข้ามาเรื่อยๆ ส่วนที่ฝั่งพระรามสี่ที่คึกคักหน่อยก็จะเป็นซอยเพื่อนบ้านคือซอยสุขุมวิท 26 ที่มีทั้ง K-village, A space, Big C และโลตัสฝั่งตรงข้าม ในซอยระยะเดินก็จะมีทั้ง  The Davis hotel ร้านอาหารฝรั่งต่างๆและ ร้านค้าที่อยู่หน้าโครงการเราอันได้แก่ Lawson และ True Coffee นั่นเอง นอกจากนั้นยังมีสวนเบญจสิริเอาไว้พักผ่อนออกกำลังกายอีกด้วย หรือตกดึกใครออกตระเวนราตรี แถวนี้ก็มีครบค่ะ

    การเดินทางในวันนี้เราเริ่มจาก BTS พร้อมพงษ์ เดินมาเข้าซอยสุขุมวิท 24 หรือ ซอยข้างๆ Emporium ไปประมาณ 870 เมตรก็จะถึงโครงการค่ะ

    จาก BTS พร้อมพงษ์ เราจะเดินออกไปบริเวณทางออก 2 ค่ะ

    สถานีนี้ นอกจาก Emporium แล้วยังมี EmQuartier ศูนย์การค้าหรูแห่งใหม่ของ The Mall Group ทำให้ย่านนี้กลายเป็นแหล่ง Shopping แห่งใหม่ของประเทศไทยอีกที่หนึ่ง

    ฝั่งตรงข้ามมีทางเดินเชื่อมเข้าศูนย์การค้า Emporium ห้างหรูคู่ใจคนย่านนี้

    ปากซอยสุขุมวิท 24 นี่เป็นทางขึ้นของสถานีรถไฟฟ้าเลย มีร้าน NaRaYa กระเป๋าแบรนด์ดังตั้งอยู่ตรงหัวมุม ห้างร้านแถวนี้เน้นขายสินค้าให้ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวหรือพวกที่มาอยู่กินทำงานในประเทศไทยค่ะ

    ซอยสุขุมวิท 24 นี้เหมือนจะเป็นซอยใหญ่แต่จริงๆแล้วค่อนข้างแคบ มีถนนกว้างเพียง 3 เลน วิ่งไปสองเลน สวนได้เลนหนึ่ง โดยจะเป็นซอยที่สามารถเลี้ยวได้ทั้งซ้ายและขวา เพื่อเข้าถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าอโศกหรือทองหล่อ ผู้คนใช้สัญจรเป็นทางลัดเพราะเชื่อมกับถนนพระราม 4 ด้วย

    ช่วงต้นซอยบรรยากาศค่อนข้างคึกคักมีอาคารพาณิชย์เรียงยาวไปตลอดทาง

    มีครบทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และมีร้านนวดไทย สปาแทรกอยู่ค่อนข้างเยอะ

    ปากซอยสุขุมวิท 24 จะมีทางเข้าด้านหลังของ Emporium ได้อีกทาง ดังนั้นถ้าใครอยากจะมา Shopping ก็ไม่ต้องไปวนรถติดๆบนถนนสุขุมวิท สามารถเข้าจอดรถทางนี้ได้นะคะ

    ในซอยสุขุมวิท 24 นี้เป็นแหล่งของ Service Apartment, Residence และ Hotel  พอเดินเข้ามาก็จะเจอกับ Compass Skyview Hotel

    ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆมาหน่อยเป็นโรงแรม Hilton

    เดินต่อไปในซอยจะเจอกับโรงแรม Oakwood โรงแรม Ariston และ Premier Condominium

    ถัดมาเราจะเจอ 7-11 อยู่ข้างๆ Hope Land ตึก Service Apartment ที่ให้เช่าระยะยาว

    เดินต่อมาจะเห็นคอนโดสูงๆ นั่นก็คือโครงการ บ้านสิริ TwentyFour

    บ้านสิริ TwentyFour คอนโดมิเนียมของแสนสิริ สูง 33 ชั้น

    เราเดินต่อมาจะเจอกับร้านอาหารอิตาลี ชื่อ La Piazza Italian

    ใกล้ๆกันเลยเป็นโปรเจคสุดหรูของซอยนี้ Le Raffine’

    Le Raffine’ (เลอ ราฟิเน่) คอนโดสูง 30 ชั้นที่มีเพียง 54 ยูนิต เป็นโครงการที่สร้างแบบ Penthouse 2 ชั้นพร้อมด้วยสระว่ายน้ำส่วนตัว

    เดินถัดมาจะเจอกับ 7-11 และโครงการ Park24 ช่วงท้ายซอยเราจะเห็นหมู่ตึกที่เป็นอาคารสูงเต็มไปหมด

    Park 24 คอนโด High Rise 5 ตึก โครงการใหญ่ของ Proud Real Estate ที่มี Project Value หลักหมื่นล้าน

    ถัดออกมาจะเป็นเวิ้งที่เรียกว่าค่อนข้างท้ายซอยแล้ว เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังถนนพระรามที่ 4 แต่ละแวกนี้กลับเป็นบริเวณที่มีผู้พักอาศัยอยู่มากที่สุด

    เริ่มจากตึกโรงแรม Marriott ที่มีความเป็น Executive Aparment ในตัวด้วย

    เดินต่อมาค่ะ ช่วงนี้จะมีคอนโด High Rise เกาะกลุ่มกันอยู่เยอะเลย

    ถัดมาก็เป็น Bright สุขุมวิท 24 และ ideal24 สูง 41 ชั้น

    ตึก The Residence อยู่ตรงข้ามกับโครงการค่ะ

    ถึงแล้วค่ะโครงการ The Emporio place จุดสังเกตคือด้านหน้าจะมี Lawson และ Mall เล็กๆที่มี True Coffee อยู่

    ถัดจากโครงการจะเป็นทางมุ่งหน้าไปถนนพระราม 4 และยังมีตึกสูงๆอย่าง Mahogany Tower , โรงแรมเดอะเดวิส , คอนโด Lumpini24 และ คอนโด The President Park

    **รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

    โครงการ The Emporio Place เป็นคอนโด High Rise มีทั้งหมด 3 อาคาร อาคารที่อยู่ข้างหน้าสุดที่ติดกับโครงการ Ideal24 คืออาคาร A สูง 35 ชั้น ส่วนอาคารที่มี Mall อยู่ข้างล่างคืออาคาร C สูง 12 ชั้น ด้านในสุดคืออาคาร B สูง 42 ชั้น อาคารนี้จะเดินเข้าโครงการไกลหน่อยแต่มีข้อดีคือจะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า พื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้เกือบทั้งหมดจะอยู่ที่ชั้นล่างค่ะซึ่งเดี๋ยวเราค่อยพาไปชมกันนะ กลับมาดูที่อาคารที่อยู่รอบๆกันก่อน ส่วนใหญ่จะล้อมรอบด้วยตึกสูงยกเว้นทางฝั่งทิศตะวันออกที่จะได้วิวแบบเปิดโล่งหน่อย มีแต่ละด้านของโครงการติดกับ

    • ทิศเหนือ – ติดกับโครงการ Ideal 24 คอนโดมิเนียม สูง34 ชั้น
    • ทิศตะวันออก – ติดกับบ้านพักอาศัยแนวราบ
    • ทิศใต้ – ติดกับMahogany Tower คอนโดมิเนียมสูง 36 ชั้น
    • ทิศตะวันตก – ติดกับถนนซอยสุขุมวิท24 และโครงการ The Residence Sukhumvit 24 อพาร์ทเม้นท์ 2 อาคารติดๆกันเป็น Lumpini24 คอนโดสูง 46 ชั้น

    ทิศเหนือ ติดกับโครงการ Ideal 24 คอนโดมิเนียม สูง34 ชั้น

    ทิศใต้ ติดกับMahogany Tower คอนโดมิเนียมสูง 36 ชั้น ถัดไปเป็นโรงแรมเดวิส

    ฝั่งตรงข้ามหรือทางทิศ ทิศตะวันตก จะติดกับถนนซอยสุขุมวิท24 และ โครงการ Bright สุขุมวิท 24 สูง 36 ชั้น

    ทางทิศตะวันตก ถัดมาจะเป็น The Residence Sukhumvit 24 อพาร์ทเม้นท์ 2 อาคาร ถัดไปเป็น Lumpini24 คอนโดสูง 46 ชั้น

    สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

    • Tesco Lotus พระราม4 – 350 เมตร
    • K Village – 550 เมตร
    • Hilton Sukhumvit Bangkok – 650 เมตร
    • Big C พระราม4 – 750 เมตร
    • อาคารมโนรม – 900 เมตร
    • Emporium – 900 เมตร
    • EmQuartier – 1 กิโลเมตร
    • อาคารสิรินรัตน์ – 1 กิโลเมตร
    • Villa Market – 1.2 กิโลเมตร


    เจาะลึกตัวโครงการ

    The Emporio Place เป็นคอนโด High Rise  3 อาคาร อาคารที่อยู่ข้างหน้าสุดคืออาคาร A สูง 35 ชั้น ส่วนอาคารที่มี Mall อยู่ข้างล่างคืออาคาร C สูง 12 ชั้น ด้านในสุดคืออาคาร B สูง 42 ชั้น การออกแบบภายนอกอาคารใช้โทนสีน้ำตาล เทา ดูโมเดิร์น มีการใช้เส้นสายทำให้ตัวอาคารดูมีมิติ ซึ่งถือเป็นต้นแบบของคอนโดสมัยใหม่ในปัจจุบันนี้เลยทีเดียว

    บริเวณด้านหน้าโครงการนี้จะมีร้านค้าอยู่ทั้ง Lawson และ Mall เล็กๆข้างล่างอาคาร C มี True Coffee อยู่ เวลาอยากหาอะไรทานเล็กๆน้อยๆสามารถเดินลงมาซื้อได้ มีที่จอดกันไว้ให้สำหรับคนมาจอดรถซื้อของ

    Mall เล็กๆสูงประมาณ 3 ชั้นข้างล่างอาคาร C ค่ะ

    ข้างล่างมี True Coffee ถ้าอยากทานกาแฟก็เดินลงมาซื้อได้เลยค่อนข้างสะดวกหรือจะใช้เป็นพื้นที่ในการนัดพบเพื่อนๆโดยไม่ต้องเข้าไปรบกวนความเป็นส่วนตัวในอาคารพักอาศัย

    นอกจากร้านกาแฟแล้วยังมีร้านทำผม ร้านขายเครื่องดนตรี และอื่นๆ

    ระหว่างอาคาร C และ อาคาร A มีระยะห่างกันพอสมควร ตรงกลางจัดเป็นสวน ด้านหลังเป็นทางเดินลัดไปอาคาร B

    ชั้นล่างอาคาร A จะมีร้านค้า มี Lawson 108 สามารถลงมาหาซื้อของใช้ หรือลงมาหาอะไรทานรองท้องได้

    สำหรับทางเข้าที่จอดรถจะอยู่ด้านข้างอาคารค่ะ

    มีป้อมรปภ.ดูแลความปลอดภัยให้ 24 ชั่วโมง

    รถที่จะเข้ามาต้องผ่านรั้วกั้นไม้กระดกเข้าไปค่ะ ส่วนถ้าเป็นผู้มาติดต่อจะต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่ถึงจะเอารถเข้าไปได้

    ขับเข้ามาจะเจอกับที่จอดรถรอบๆอาคารสำหรับผู้มาติดต่อ ส่วนลูกบ้านจะมีที่จอดในอาคาร

    ระหว่างอาคาร A และ อาคาร B จะมี Drop off และทางเข้าที่จอดรถในอาคารอยู่

    มีป้ายบอกทางอยู่บริเวณนี้ค่ะ

    ที่จอดรถในอาคารจะมีกั้นด้วยไม้กระดกอีกชั้นหนึ่ง เพื่อกันที่จอดไว้สำหรับลูกบ้านเท่านั้น

    อ้อมมาด้านหลังอาคาร B ซึ่งเป็นอาคารที่อยู่ด้านในสุดจะมีที่จอดรถด้านล่างสำหรับผู้มาติดต่อ

    ด้านหลังเป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์

    เราเข้ามาดู Lobby อาคาร A กันก่อน ตกแต่งโดยใช้โทนสีขาวผสมกับไม้ จัดที่นั่งเป็นชุดแบ่งเป็นโซนๆเพื่อความเป็นส่วนตัว บรรยากาศบริเวณโถงเน้นความโปร่งไม่ได้วางเฟอร์นิเจอร์อะไรมากนัก

    จัดที่นั่งพักผ่อนแบ่งเป็นโซนๆ ดูเป็นส่วนตัวดีนะ

    มีเคาน์เตอร์สำหรับเจ้าหน้าที่ ส่วนทางเข้าโถงลิฟต์จะต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าไป ถัดเข้าไปที่ประตูด้านหลังจะเป็นทางออกไปอาคาร B

    บริเวณชั้นล่างของอาคาร A จะมีห้องเด็กเล่น ห้อง Multipurpose room และ ห้องสมุด อยู่ด้วย

    สำหรับชั้นพักอาศัยของอาคาร A เราไม่ได้ขึ้นไปดูแต่นำผังมาให้ชมกันค่ะ โครงการนี้มีข้อดีตรงที่จัดวางยูนิตต่อชั้นไม่เยอะทำให้มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง อย่างในชั้น 8-34 จะมีห้องพักอยู่เพียง 7 ยูนิต และการวางโถงลิฟต์จะวางฝั่งละ 2 ตัวคั่นกลางด้วย ลิฟต์ Service และบันไดหนีไฟ ซึ่งพอเราออกมาจากลิฟต์จะรู้สึกว่ามีเพียงไม่กี่ห้องเท่านั้นที่อยู่ใกล้ๆเรา อีกทั้งทางเข้าห้องยังมีการออกแบบให้มีการหลบมุมเข้าไปนิดหน่อยหรือวางตำแหน่งประตูให้ไม่ชนกับห้องอื่นซึ่งถือว่าดีค่ะ ห้องพักจะมีทั้งแบบ Studio , 1 Bedroom , 1Bedroom Duplex , 2 Bedroom , 2 Bedroom Duplex และ 3 Bedroom ขนาดห้องค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับในปัจจุบัน

    เรากลับมาที่ชั้นล่าง พอเดินออกจากอาคาร A มาก็จะเจอกับทางเข้าอาคาร B ทางฝั่งขวาเป็นทางไปพื้นที่ส่วนกลาง มีทำระแนงกั้นเพื่อบังสายตาและเพิ่มความเป็นส่วนตัว

    เดินผ่านระแนงไม้มาจะเจอกับพื้นที่โล่งๆแบบนี้  ถ้าเดินผ่านตรงพุ่มไม้ทางฝั่งขวาไปจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางได้แก่ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ห้องน้ำ Steam & Sauna

    หันหลังกลับมาจะเป็นทางเดินออกไปที่อาคาร C ทางฝั่งขวาเป็นอาคาร A ค่ะ

    เดินถัดจากพุ่มไม้มาจะเจอกับสระว่ายน้ำ บริเวณข้างๆสระ ทางโครงการจัดชุดที่นั่งเอาไว้ให้หลายชุด สามารถลงมานั่งเล่นพักผ่อนได้

    มีที่นั่งแบบเป็นม้านั่งยาวทำเป็นซุ้มมีผ้าใบกันแดดแบบนี้ด้วย

    วันที่เราเข้าไปถ่ายรูปสระว่ายน้ำกำลังมีการปรับปรุงกันอยู่ จริงๆแล้วพื้นที่ตรงนี้บรรยากาศดีใช้ได้ ถ้าใช้งานอาจจะไม่ค่อยเป็นส่วนตัวเท่าไหร่เพราะอยู่ชั้นล่างและอยู่ตรงกลางระหว่างทั้ง 3 ตึก แต่ก็การทำกำแพงกั้นโดยรอบและปลูกต้นไม้เพื่อบังสายตาค่ะ สระว่ายน้ำมีแบ่งออกเป็นสระผู้ใหญ่และสระเด็ก

    บรรยากาศอีกมุมหนึ่งค่ะ ขนาดสระว่ายน้ำไม่ใหญ่มากนักพอใช้ว่ายออกกำลังกาย หรือ แช่ตัวคลายร้อนได้ค่ะ

    ฝั่งตรงข้ามสระว่ายน้ำเป็นฟิตเนส และ ทางไปห้องน้ำ

    ห้องฟิตเนสต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าไปนะคะ  มีคนมาใช้ตลอดทั้งวัน เครื่องเล่นก็เยอะอยู่

    เครื่องเล่นมีทั้งแบบ Cardio พวกลู่วิ่ง เครื่องปั่นจักรยาน และ อุปกรณ์เล่นเวทต่างๆ มีที่นั่งพักผ่อนอยู่ตรงกลางด้วย

    ระหว่าง Lobby และ ห้องฟิตเนสเป็นทางเดินไปห้องน้ำ

    มีทั้งห้องน้ำหญิงและชายแยกกันค่ะ

    ภายในห้องน้ำมีครบทั้งอ่างล้างหน้า ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ Steam & Sauna

    อ่างล้างหน้ามีมาให้ 3 ชุดค่ะ มีกระจกส่องหน้ายาวเต็มแผง

    บรรยากาศภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำค่ะ

    มีมุมสำหรับวางของแต่งหน้า ล็อคเกอร์ และ Steam & Sauna มาให้

    เราเข้ามาดูบรรยากาศภายใน Lobby อาคาร B กัน เข้ามาจะเจอกับเคาน์เตอร์ของเจ้าหน้าที่ก่อน มีปัญหา ฝากคีย์การ์ด ฝากของ ก็แจ้งพี่ๆเค้าได้

    จากบริเวณเคาน์เตอร์เลี้ยวไปทางซ้ายเป็นทางออกไปที่จอดรถด้านหลังอาคาร ทางนิติจะมีรถเข็นเอาไว้บริการสำหรับใครที่ขนของหนักๆมาด้วยค่ะ

    เดินมาอีกมุมของ Lobby พื้นที่บริเวณนี้เป็น Double Space ฝ้าเพดานสูง ผนังเป็นบานกระจก บรรยากาศจึงดูค่อนข้างโปร่ง มีห้องจดหมาย และ ทางไปโถงลิฟต์ ถ้าเดินออกไปด้านหลังจะเป็นทางไปพื้นที่ส่วนกลางที่เราพาเดินไปชมกันเมื่อซักครู่

    เราไปดูต่อกันที่ห้องจดหมายค่ะ

    บรรยากาศในห้องจดหมายใช้ไม้ในการตกแต่ง  แยกอาคารใครอาคารมันค่ะ

    เดินเข้ามาจนถึงด้านในสุด ทางฝั่งซ้ายจะเป็นทางไปโถงลิฟต์ ส่วนถ้าตรงออกประตูไปเป็นทางออกไปพื้นที่ส่วนกลางค่ะ

    เราเดินไปดูที่โถงลิฟต์กันต่อ

    บรรยากาศภายในโถงลิฟต์ค่ะ ตกแต่งด้วยไม้ อาคารนี้มีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว+ลิฟต์ Service อีก 1 ตัว

    3 ตัวเรียงกันแบบนี้ เป็นลิฟต์ล็อคชั้นนะ ใครไม่มีคีย์การ์ดก็อดค่ะ

    บรรยากาศภายในลิฟต์ ผนังด้านหลังมีตกแต่งด้วยลายฉลุด้วยล่ะ

    อาคารนี้มี 42 ชั้นค่ะ ปุ่มกดชั้นเลยเยอะนิดนึง มีที่ให้สแกนคีย์การ์ดก่อนถึงจะขึ้นลิฟต์ได้

    ก่อนขึ้นไปชมชั้นบนเรามาดูผังอาคารพักอาศัยกัน ผังอาคาร B นี้ผังไม่เหมือนอาคาร A ซะทีเดียวนะคะ แต่ยังคง Concept การออกแบบเดิมคือเน้นความ Privacy มียูนิตต่อชั้นน้อย อาคารนี้มีเพียง 6 ยูนิตซึ่งน้อยกว่าอาคาร A จัดโถงลิฟต์และ Service ไว้ตรงกลาง มีลิฟต์เรียงกัน 3 ตัว ส่วนลิฟต์ Service มีประตูกั้นอีกชั้นหนึ่ง บันไดหนีไฟจัดให้อยู่ด้านข้างแทน ทางเข้าห้องพักแต่ละห้องมีการหลบมุมทำให้เป็นส่วนตัวมากขึ้น

    ขึ้นมาที่ชันพักอาศัยจะเจอลิฟต์เรียงกัน 3 ตัวแบบนี้ มีช่องแสงทั้งสองฝั่งทำให้บริเวณโถงไม่มืด ถ้าเรายืนดูอยู่ตรงนี้จะไม่เห็นประตูห้องพักเลย เพราะเค้ามีการหลบมุมอยู่ตรงซอกด้านใน เป็นส่วนตัวดีค่ะ ทางฝั่งขวาที่ประตูแง้มออกมานิดนึงเป็นลิฟต์ Service

    ลิฟต์ Service อยู่ห้องกั้นไว้อีกชั้นหนึ่ง เอาไว้สำหรับขนของหนักๆ หรือ ในกรณีที่มีการตกแต่งห้อง ขนเฟอร์นิเจอร์ ก็ยกขึ้นมาทางนี้ค่ะ จะได้ไม่ไปรบกวนลิฟต์ปกติที่ลูกบ้านใช้งานกัน

    อีกฝั่งหนึ่งก็มีช่องแสงเช่นเดียวกัน

    ทางเข้าห้องพักมีการวางผังให้ร่นระยะเข้าไปเล็กน้อย เหมือนมีโถงทางเดินส่วนตัวของตัวเองอยู่หน้าห้อง ประตูเป็นบานไม้ขนาดบานค่อนข้างใหญ่ค่ะ

    ปิดท้ายด้วยวิวค่ะ ถ่ายมาได้ 2 มุมจากอาคาร B ทางฝั่งทิศตะวันออก ทิศนี้เป็นตึกสูงเป็นส่วนใหญ่ ตึกสีดำๆสวยๆนั้นก็คือ Lumpini24

    ทางฝั่งทิศตะวันออกถ่ายจากอาคาร B เป็นวิวมุ่งหน้าไปทางถนนพระราม 4 สวยใช้ได้ค่อนข้างเปิดโล่งและเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาและบางกระเจ้า

    สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

    • Lobby ทั้ง 3 อาคาร
    • Multipurpose room
    • library
    • kids’ room
    • สระว่ายน้ำ 1 สระ แบ่งสระเด็ก และ สระผู้ใหญ่
    • pool party area
    • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
    • สวนหย่อมรอบโครงการ
    • ลิฟต์โดยสาร อาคาร A : 4 ตัว อาคาร B : 3 ตัว
    • Service Lift : อาคารละ 1 ตัว
    • ที่จอดรถประมาณ 482 คันคิดเป็น 133%
    • ระบบ CCTV / Access Card


    Product Walkthrough

    สำหรับตัวห้องพักของโครงการที่สร้างมานานแล้วจะมีความแตกต่างกับโครงการปัจจุบันในเรื่องของขนาดห้องที่จะค่อนข้างใหญ่กว่า และ มีการให้วัสดุบางอย่างค่อนข้างดี เนื่องจากโครงการนี้เป็นคอนโดที่มีคนเข้ามาพักอาศัยแล้วจึงยังไม่สามารถเข้าไปเก็บรูปภาพห้องมาให้ชมกันได้ เลยจะขอเลือกนำแปลนห้องแต่ละแบบ มาวิเคราะห์ให้ชมกันก่อนนะคะ หากมีโอกาสไปเก็บภาพห้องจริงๆมาจะเอามา Update ให้ชมกันอีกทีค่ะ

    โดยแปลนห้องพักที่เราจะเอามาให้ชมจะเป็นแปลนของห้องในอาคาร A และ อาคาร B นะคะ การวางผังของโครงการนี้จะมีการแบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็น Public Area และ Private Area ซึ่งมีข้อดีคือคนที่อยู่ในห้องสามารถแยกกิจกรรมกันได้โดยไม่รบกวนกัน เช่นอีกคนนอนอยู่ อีกคนมาใช้พื้นที่ห้องนั่งเล่นเพื่อดูหนังหรือปาร์ตี้ได้  นอกจากนั้นยังมี Bay Window ทุกยูนิต และที่วาง condensing unit ของแอร์จะมีที่วางอยู่ด้วยกันด้านนอกห้องทำให้ไม่มากินพื้นที่บริเวณระเบียง เราจะได้นอนชมวิวหรือมาใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่ค่ะ

    Tower A

    เรามาดูผังห้องแรกของอาคาร A กันกับ ห้อง Studio 46 ตารางเมตร จะเห็นว่าห้อง Studio ของคอนโดที่สร้างมานานแล้วจะมีขนาดใหญ่กว่าในปัจจุบัน ห้องนี้มีการแบ่งพื้นที่เป็น Public Area และ Private Area อย่างที่บอกไป เข้าห้องมาจะเจอกับพื้นที่ที่ต่อเนื่องกันของครัว พื้นที่ทานข้าว พื้นที่นั่งเล่น สามารถใช้ต้อนรับแขกหรือปาร์ตี้กับเพื่อนๆได้ ครัวเป็นครัวเปิดเคาน์เตอร์เป็นรูปตัวแอล อีกฝั่งหนึ่งเป็นห้องนอนและห้องน้ำ กั้นด้วยประตูบานเลื่อน มีพื้นที่วาง CDU แอร์อยู่ด้านนอกห้อง รวมกันอยู่จุดเดียวค่ะ

    ต่อมาเป็นห้อง 1 ห้องนอน 48 ตารางเมตร ห้องใหญ่กว่า Studio หน่อย การจัดวางผังคล้ายๆกันคือเข้ามาจะเจอพื้นที่ต่อเนื่องกันของ ครัว พื้นที่ทานข้าวและนั่งเล่นก่อน อีกฝั่งเป็นห้องนอนและห้องน้ำ

    ต่อมาเป็น 1 ห้องนอนแบบ Duplex  75.5 ตารางเมตร ห้องนี้พิเศษหน่อยตรงที่มีสวนบริเวณหน้าห้องด้วย เข้าห้องมาทางฝั่งขวาจะมีพื้นที่สำหรับทำเป็นตู้เก็บของหรือตู้เก็บรองเท้า ถัดไปเป็นเคาน์เตอร์ครัวรูปตัวแอล ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่นที่เป็น Double Space ทำให้สามารถใช้พื้นที่ชั้นล่างทำกิจกรรมร่วมกันหรือใช้เป็นที่รับรองแขกได้เต็มที่ค่ะ ขึ้นไปที่ชั้น 2 จะเป็นห้องนอนและห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้าของห้องนี้อยู่ตรงมุมข้างๆห้องน้ำจัดเป็นแบบ Walk-in Closet ค่ะ ในห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนแห้งและส่วนเปียกมีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วย

    ห้อง 2 ห้องนอน 101 ตารางเมตร เข้าห้องมาจะเจอโถงเล็กๆก่อน ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่นั่งเล่นและทานอาหาร มีระเบียงขนาดใหญ่ให้ออกมาสูดอากาศด้วย ฝั่งตรงข้ามโต๊ะอาหารเป็นครัว อยู่เป็นสัดส่วนสามารถกั้นเพิ่มเติมเป็นครัวปิดได้นะ มีห้องสำหรับซักล้างแยกออกมาด้วย CDU แอร์แยกอยู่ข้างนอกค่ะ ติดๆกันเป็นห้องน้ำแบบไม่มีพื้นที่อาบน้ำ หรือ Powder Room ถัดเข้าไปเป็นส่วนพักผ่อนคือห้องนอนเล็ก และ Master Bedroom ที่มีห้องน้ำในตัวทั้ง 2 ห้อง ใน Master Bedroom ขนาดค่อนข้างใหญ่จัดพื้นที่นั่งเล่นในห้องได้ และมีมุมทำเป็น Walk-in Closet ด้วยค่ะ

    ห้อง 2 ห้องนอน 108 ตารางเมตร ห้องนี้จัดคล้ายๆกับ ห้อง 2 ห้องนอน 101 ตารางเมตรค่ะ

    ต่อมาเป็นห้อง 2 ห้องนอนแบบ Duplex 120 ตารางเมตร ชั้นล่างเข้ามาจะเจอโถงยาวๆก่อน พื้นที่แบบที่ถ้าแต่งโถงสวยๆจะทำให้ห้องดูหรูขึ้นได้นะ ถัดเข้าไปจะเจอกับครัวเปิด พื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่นที่เป็น Double Space ชั้นนี้มีห้องนอนอยู่ 1 ห้องที่มีห้องน้ำในตัว ส่วนชั้นบนขึ้นมาจะเจอกับส่วนนั่งเล่นอีกจุดหนึ่ง มีห้องนอนอีก 1 ห้อง ที่มี Walk-in Closet และ ห้องน้ำในตัว

    ห้อง 3 ห้องนอน 164 ตารางเมตร เข้าห้องมาจะเจอกับโถงก่อน มีพื้นที่ระเบียงค่อนข้างกว้างจัดเป็นสวนได้ ถัดเข้ามาเป็นครัวเปิด พื้นที่นั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร ห้องนี้จะมีส่วนซักล้างและห้อง Maid ด้วย อีกฝั่งหนึ่งเป็นส่วนของห้องนอน 3 ห้องทุกห้องมีห้องน้ำในตัวซึ่งดีทีเดียว มีห้องน้ำอยู่หนึ่งห้องที่ใช้เป็นห้องน้ำรวมด้วย ส่วน Master Bedroom มีพื้นที่นั่งพักผ่อน Walk-in Closet และ ห้องน้ำที่แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน มีทั้งส่วนแห้งส่วนเปียก และมีอ่างอาบน้ำ สังเกตว่าจะมีช่องแสงครบทุกห้อง ช่วยให้บรรยากาศดูโปร่งและระบายอากาศได้ดีค่ะ

    Tower B

    เรามาดูต่อกันที่ Tower B ค่ะ จะบอกว่าการวางผังจะคล้ายๆกับอาคาร A แต่ไม่เหมือนกันซะทีเดียวนะคะ อย่างห้องนี้ 1 ห้องนอน 65 ตารางเมตร เข้ามาจะเจอกับโต๊ะทานข้าวกับครัวเปิดก่อนเลย มีระเบียงสำหรับซักล้าง ถัดเข้าไปเป็นห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับระเบียง มีห้องน้ำ 1 ห้อง ด้านในสุดเป็นห้องนอนค่ะ ในห้องนอนมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่และมุมนั่งพักผ่อน

    ต่อมาเป็น 1 ห้องนอนแบบ Duplex 68.5 ตารางเมตร ชั้นล่างจะเป็นส่วน Public Area ทั้งหมดคือมีครัว พื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่น บริเวณนี้จะเป็น Double Space ฝ้าเพดานสูง โปร่ง โล่งไปถึงชั้นบน ใต้บันไดมีพื้นที่สำหรับทำเป็นมุมทำงานหรือจะใช้เก็บของก็ได้ ชั้นบนเป็นห้องนอนที่มีWalk-in Closet และ ห้องน้ำในตัว

    1 ห้องนอนแบบ Duplex 76.5 ตารางเมตร การจัดโซนพื้นที่ใช้สอยต่างๆคล้ายๆกับห้องก่อนหน้า (Duplex 68.5 ตารางเมตร) แต่บันไดอยู่คนละฝั่ง และมีการวางเฟอร์นิเจอร์ต่างกันเล็กน้อยเช่นเคาน์เตอร์ครัวห้องนี้เป็นรูปตัวยู และวางโต๊ะทานข้าวได้ใหญ่กว่า ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ที่อยู่ชั้นบน ห้องนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าค่ะ วางอ่างล้างหน้าได้ 2 ชุด

    ตามมาติดๆด้วย 2 ห้องนอน 106 ตารางเมตร ห้องนี้เข้ามาเจอโถงก่อน และจะมีห้องน้ำแบบ Powder Room อยู่บริเวณนี้ด้วย ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่นั่งเล่น ทานข้าวและครัวที่มีระเบียงซักล้าง ห้องนอนแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง มีห้องน้ำในตัวทั้ง 2 ห้อง และมีมุมจัดตู้เสื้อผ้าเป็นสัดส่วน

    2 ห้องนอนแบบ Duplex 133 ตารางเมตร ห้องนี้เป็นบันไดวนซะด้วย อาจเห็นของจริงเหมือนกันนะคะว่าหน้าตาจะเป็นยังไง การจัดผังยังคงแนวคิดเดิมคือ พื้นที่เชื่อมต่อกันระหว่าง ครัว ทานข้าว และ นั่งเล่น มีห้องน้ำที่ใช้รวมกัน 1 ห้อง ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ (Powder Room) ห้องนอนที่มีห้องน้ำในด้วยอยู่ 1 ห้อง ส่วนชั้นบนขึ้นมาจะเจอกับมุมพักผ่อน และส่วน Master Bedroom มีพื้นที่นั่งพักผ่อน Walk-in Closet และ ห้องน้ำที่แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน

    สุดท้ายด้วย 3 ห้องนอน 164 ตารางเมตร เข้าห้องมาจะเจอกับโถงก่อน สามารถจัดวางตู้รองเท้าได้บริเวณนี้ และจะมีห้องน้ำแบบที่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำเอาไว้สำหรับให้แขกใช้หรือเราใช้ตอนที่นั่งอยู่นอกห้องนอน ถัดเข้ามาเป็นครัวเปิด เคาน์เตอร์รูปตัวแอล และพื้นที่ต่อเนื่องกันของส่วนนั่งเล่นและทานอาหาร ห้องนี้จะมีส่วนซักล้างและห้อง Maid ด้วย CDU แอร์รวมกันอยู่ด้านนอกจึงไม่ไปกินพื้นที่ของระเบียง อีกฝั่งหนึ่งเป็นส่วนของห้องนอน 3 ห้องทุกห้องมีห้องน้ำในตัว  ส่วน Master Bedroom มีพื้นที่นั่งพักผ่อน Walk-in Closet และ ห้องน้ำที่แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน มีช่องแสงครบทุกห้อง ทำให้ห้องโปร่ง ลมเข้าและระบายอากาศได้ดีค่ะ

    สำหรับโครงการนี้ เราตั้งใจไปเก็บข้อมูลเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อคนที่กำลังตัดสินใจซื้อคอนโดมือสอง เนื่องจากโครงการสร้างเสร็จมานานพอสมควร ข้อมูลบางอย่างอาจจะไม่ครบถ้วน สามารถแนะนำหรือบอกกล่าวกันได้นะคะ ^^

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 8 March 2017

    ข้อมูลจาก Web ประกาศขาย

    • 1 Bedroom เนื้อที่ 49  ตร.ม. ราคาประกาศขาย 8 ล้านบาท หรือ 163,265 บาท/ตร.ม.
    • 1 Bedroom เนื้อที่ 63.35 ตร.ม. ราคาประกาศขาย 15.5 ล้านบาท หรือ 244,672 บาท/ตร.ม.
    • 2 Bedroom เนื้อที่ 106 ตร.ม. ราคาประกาศขาย 20 ล้านบาท หรือ 188,679 บาท/ตร.ม.
    • 2 Bedroom เนื้อที่ 133 ตร.ม. ราคาประกาศขาย 18 ล้านบาท หรือ 135,338 บาท/ตร.ม.
    • 3 Bedroom เนื้อที่ 161 ตร.ม. ราคาประกาศขาย 35.5 ล้านบาท หรือ 220,496 บาท/ตร.ม.

    • เฟอร์นิเจอร์ – ตามรายละเอียดการขายของเจ้าของห้อง
    • ฝ้าเพดานสูง n/a เมตร
    • Kitchen & Sink
    • Hob & Hood
    • Shuttle Bus ไปกลับ BTS อโศก
    • ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม.
    • ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.ม./เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    ทำเลของ The Emporio Place ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท24 หรือ ซอยข้างๆ Emporium เข้าซอยมาประมาณ 800 เมตรกว่าๆ อยู่ค่อนมาทางฝั่งพระราม 4 ที่สามารถ ทะลุไปซอยสุขุมวิท 22 และ 26 ได้ บรรยากาศคึกคัก มีร้านค้า ร้านอาหารตลอดทาง มีรถผ่านตลอดเวลาจึงไม่ค่อยเปลี่ยว รอบๆโครงการจะเด่นและดังเรื่องคอนโดที่ราคาขึ้นสูงอยู่ตลอดเวลา อันเนื่องมาจากศูนย์การค้า Emporium และ Emquartier ส่วนในซอยก็จะมีคอนโด High rise และโรงแรมเยอะมากๆทั้งสองฝั่งตั้งแต่ต้นซอยเข้ามาเรื่อยๆ ส่วนที่ฝั่งพระรามสี่ที่คึกคักหน่อยก็จะเป็นซอยเพื่อนบ้านคือซอยสุขุมวิท 26 ที่มีทั้ง K-village, A space, Big C และโลตัสฝั่งตรงข้าม ในซอยระยะเดินก็จะมีทั้ง  The Davis hotel ร้านอาหารฝรั่งต่างๆและ ร้านค้าที่อยู่หน้าโครงการเราอันได้แก่ Lawson และ True Coffee นั่นเอง นอกจากนั้นยังมีสวนเบญจศิริเอาไว้พักผ่อนออกกำลังกายอีกด้วย หรือตกดึกใครออกตระเวนราตรี แถวนี้ก็มีครบค่ะ

    สำหรับการเดินทางโดยใช้รถถือว่าค่อนข้างสะดวก เพราะซอยสุขุมวิท 24 เป็นซอยขนาดใหญ่แบบ two-way เข้า-ออกได้ทั้งจากถนนสุขุมวิทและถนนพระรามสี่ จากถนนสุขุมวิทขับไปนิดเดียวก็จะเป็นย่านอโศกแล้ว ใกล้ทองหล่อ-เอกมัยที่ลัดไปออกถนนเพชรบุรีได้ อีกทั้งสุขุมวิทฝั่งเลขคู่มันก็มีทางลัดเลาะของมัน คือ ซอยสุขุมวิท 22,24,26 ที่จะเชื่อมกันได้ค่ะ แถมซอยสุขุมวิท 26 สามารถใช้เชื่อมกันกับซอยสุขุมวิท 34 ลัดไปออกทองหล่อได้อีก ทางด่วนใกล้ๆกับโครงการและขับรถมาใช้ได้สะดวกหน่อยคือทางฝั่งพระราม โดยจากถนนพระราม4 มาเลี้ยวเข้าถนนเกษมราษฎร์จะมีทั้งทางขึ้น-ลงทางด่วนอยู่ค่ะ ข้อเสียของทำเลใจกลางเมืองแบบนี้ก็คือ รถติดเอามากๆโดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน ที่จอดรถมีมาให้ประมาณ 482 คันคิดเป็น 133%

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ สามารถเดินไปขึ้น BTS สถานีพร้อมพงษ์ แต่ระยะจากโครงการไปหน้าปากซอยอาจจะไกลหน่อย แต่พอไปถึงรถไฟฟ้าแล้วค่อนข้างสะดวกเพราะสถานีนี้ไม่ไกลจาก BTS อโศกซึ่งเป็น Interchange กับ MRT สถานีสุขุมวิทค่ะ ส่วนพี่วินมอเตอร์ไซค์และแท็กซี่ก็มีวิ่งผ่านในซอยตลอดทั้งวัน รอเรียกได้ไม่ยากค่ะ

    วัสดุ เท่าที่ไปแอบส่องห้องที่เค้าประกาศขายมา ถือว่าวัสดุต่างๆให้ค่อนข้างดีนะคะ ซึ่งรายละเอียดเรื่องวัสดุของโครงการมือสองนั้นหลายๆห้องมีการตกแต่งต่อเติมซึ่งต้องพิจารณาเป็นรายห้องว่า ห้องได้เราได้อะไร คุ้มค่าหรือไม่ มีทั้งห้องที่ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งอย่างดี และห้องที่ขายเป็นห้องเปล่าๆ อย่างไรก็ตามต้องพิจารณาสภาพห้องประกอบด้วยว่าอยู่ในสภาพที่ดีหรือไม่ค่ะ

    การออกแบบ ภายนอกอาคารใช้โทนสีน้ำตาล เทา ดูโมเดิร์น มีการใช้เส้นสายทำให้ตัวอาคารดูมีมิติ ซึ่งถือเป็นต้นแบบของคอนโดสมัยใหม่ในปัจจุบันนี้เลย จุดเด่นมากๆของโครงการนี้คือการวางผังส่วนพักอาศัยให้มีความ Private มากๆ จัดวางยูนิตต่อชั้นไม่เยอะทำให้มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง มีห้องพักอยู่เพียง 6-7 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น การวางโถงลิฟต์จะวางคั่นกลางด้วย ลิฟต์ Service และบันไดหนีไฟ ซึ่งพอเราออกมาจากลิฟต์จะรู้สึกว่ามีเพียงไม่กี่ห้องเท่านั้นที่อยู่ใกล้ๆเรา อีกทั้งทางเข้าห้องยังมีการออกแบบให้มีการหลบมุมเข้าไปนิดหน่อยหรือวางตำแหน่งประตูให้ไม่ชนกับห้องอื่นซึ่งถือว่าดีค่ะ ในส่วนของห้องพักจะมีการแบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็น Public Area และ Private Area ซึ่งมีข้อดีคือคนที่อยู่ในห้องสามารถแยกกิจกรรมทำกันได้โดยไม่รบกวนกัน  นอกจากนั้นยังมี Bay Window ทุกยูนิต และที่วาง condensing unit ของแอร์จะมีที่วางอยู่ด้วยกันด้านนอกห้องทำให้ไม่มากินพื้นที่บริเวณระเบียง

    สาธารณูปโภค มีให้ครบครันค่อนข้างน่าใช้ ได้แก่ Lobby มีมาให้ทั้ง 3 อาคาร , Multipurpose room , library , kids’ room , สระว่ายน้ำ พร้อม pool party area , ฟิตเนส , สวนหย่อม มีลิฟต์โดยสารมาให้อาคาร A : 4 ตัว อาคาร B : 3 ตัว และService Lift : อาคารละ 1 ตัว แต่ส่วนกลางจัดเอาไว้อยู่ที่ชั้นล่าง ซึ่งจะมีคนเดินมาไปมา อาจจะไม่เป็นส่วนตัวนัก แต่ก็มีการกั้นโซนแยกเพื่อให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้น

    Judgement

    เนื่องจากเป็นโครงการที่ขายหมดแล้ว ซึ่งปัจจุบันรูปแบบการขายเปลี่ยนแปลงเป็นแบบ Re-sale ซึ่งค่อนข้างมีความแตกต่างกันไปทั้งเรื่องของวัสดุ การตกแต่งภายในห้อง รวมทั้งเรื่องของราคาที่ค่อนข้างหลากหลายขึ้นอยู่กับทำเลห้องได้อยู่ชั้นสูงหรือชั้นล่าง ตกแต่งครบ ความพอใจราคาจากการตกลงกันระหว่างคนซื้อและคนขาย ดังนั้นจึงไม่สามารถให้คะแนนในรีวิวนี้ได้ค่ะ

    BOTTOM LINE

    The Emporio Place เหมาะกับคนที่อยากได้คอนโด Luxury ที่ในชั้นพักอาศัยมีความเป็นส่วนตัวสูง ในย่าน พร้อมพงษ์ ชอบทำเลบริเวณนี้ หรือทำงานแถวสุขุมวิท หาของกินของใช้ไม่ยาก อยู่ใกล้ห้างอย่าง Emporium และ Emquartier ชอบห้องที่ออกแบบลงตัว วัสดุต่างๆได้ของดี มีงบประมาณ 9 ล้านบาทเป็นต้นไป 

    ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ

    สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )