รีวิวฉบับที่ 1110 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาทุกคนไปชมตึกเสร็จ พร้อมเข้าอยู่กับโครงการ Manor สนามบินน้ำ คอนโด High Rise 4 อาคาร สูง 25-35 ชั้น บนถนนสนามบินน้ำ ติดกับกระทรวงพาณิชย์ จาก Major Development โครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้บรรยากาศกึ่งคอนโดตากอากาศ และมาพร้อมกับ Facilities แบบจัดเต็ม เมื่อตึกเสร็จเรียบร้อยแล้วหน้าตาจะเป็นอย่างไร เราไปเดินชมโครงการพร้อมๆ กันเลยค่ะ 🙂

Fact @ 21 June 2016

  • Manor Sanambinnam (แมเนอร์ สนามบินน้ำ)
  • บริษัท เมเจอร์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
  • ECONOMY CLASS – UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
  • คอนโด High Rise 4 อาคาร จำนวนทั้งหมด 1,848 ยูนิต และร้านค้า 9 ยูนิต

  • อาคาร A และ B  สูง 25 ชั้น
  • อาคาร C และ D สูง 35 ชั้น

  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด
    • อาคาร A 24 ยูนิต
    • อาคาร B 24 ยูนิต
    • อาคาร C 16 ยูนิต
    • อาคาร D 16 ยูนิต

  • ที่จอดรถประมาณ 740 คันคิดเป็น 40%
  • ที่ดินประมาณ 11-1-0 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : 2556
  • แล้วเสร็จ : มิถุนายน 2559
  • 1 Bedroom 26 – 44 ตร.ม. ราคา 1.6 – 4.6 ล้านบาท
  • 2 Bedroom 62 – 78 ตร.ม. ราคา 5 – 9.7 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.66 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร
    • อาคาร A, B วิวแม่น้ำ 66,000 บาท/ตร.ม.
    • อาคาร A, B วิวสระว่ายน้ำ 65,000 บาท/ตร.ม.
    • อาคาร C, D วิวแม่น้ำ 95,000 บาท/ตร.ม.
    • อาคาร C, D วิวสวน 86,500 บาท/ตร.ม.

  • ราคาเฉลี่ยต่ำสุด-สูงสุดของโครงการประมาณ 64,000 – 124,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 02-526-8833
  • เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

    สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


    เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

    พิกัด : 13.880881, 100.486587

    ที่ตั้งโครงการ Manor สนามบินน้ำ ตั้งอยู่บนถนนสนามบินน้ำฝั่งที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา และตัวโครงการอยู่ติดกับกระทรวงพาณิชย์ มีรถไฟฟ้าสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีพระนั่งเกล้าโดยมีระยะห่างจากโครงการไปประมาณ 1.5 กม.

    ทำเลโครงการ Manor สนามบินน้ำ ตั้งอยู่ในจ.นนทบุรี บนถนนสนามบินน้ำ ทำเลนี้เป็นทำเลที่อยู่ระหว่างแหล่งที่อยู่อาศัยแนวราบใหญ่ๆ อย่างย่านบางใหญ่, ราชพฤกษ์, งามวงศ์วาน สภาพแวดล้อมในแถบนี้เป็นสภาพแวดล้อมที่อยู่ในช่วงการพัฒนาและปรับเปลี่ยนให้มีความเจริญและคึกคักเทียบเท่ากับย่านข้างเคียงอย่างแถบงามวงศ์วาน ตั้งแต่เริ่มมีการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงเกิดขึ้นจนปัจจุบันนี้ก็แล้วเสร็จพร้อมให้ให้ผู้คนได้ใช้บริการกันแล้ว จึงเห็นได้ว่ามีโครงการคอนโดมิเนียม High Rise และ Low Rise เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตามริมถนนและซอยเล็กซอยน้อยของถนนรัตนาธิเบศร์ จึงทำให้มีผู้คนที่อยู่นอกเมืองเขยิบเข้ามาอยู่อาศัยในแถบนี้มากขึ้น รวมทั้งผู้คนที่ทำงานในเมืองแต่มีงบประมาณที่จำกัดก็ขยับออกมาจากตัวเมืองมาพึ่งพิงที่อยู่อาศัยในทำเลย่านนี้กัน ซึ่งยังคงเกาะระบบรางสายสีม่วงใหม่เข้าตัวเมืองได้ไม่ยากอีกด้วย จากเดิมทีที่ทำเลนี้นั้นจะเป็นคนในท้องที่ที่อยู่อาศัยแบบแนวราบทั้งแบบจัดสรรและไม่จัดสรร ก็ถูกเปลี่ยนแปลงไปเป็นทำเลที่มีคนอยู่อาศัยค่อนข้างหลากหลายมากขึ้น

    สำหรับทำเลบน ถนนสนามบินน้ำ ส่วนใหญ่เป็นที่พักแนวราบอยู่อาศัยมานาน รวมไปถึงเป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการต่างๆ อย่างกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ทำให้บนถนนสนามบินน้ำในช่วงกลางวันนี้ค่อนข้างคึกคักและอุดมสมบูรณ์ด้วยร้านอาหารและเต้นท์อาหารมากมายที่มาเปิดขายเพื่อรองรับจำนวนพนักงานและข้าราชการในแถบนี้ค่ะ

    การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวถือว่าสะดวก เนื่องจากถนนสนามบินน้ำเป็นถนนที่เชื่อมถนนหลักอย่างระหว่างถนนรัตนาธิเบศร์และถนนติวานนท์ สำหรับถนนติวานนท์ ที่ตัดผ่านถนนรัตนาธิเบศร์ที่แยกแคราย ในแนวเหนือ-ใต้ เชื่อมไปยังถนนนครอินทร์ ไปสะพานพระราม 5 ได้ในทิศใต้ และเชื่อมไปถนนแจ้งวัฒนะ มุ่งหน้าห้าแยกปากเกร็ดในทิศเหนือ เป็นอีกหนึ่งเส้นทางคมนาคมที่สำคัญของโซนนนทบุรีนี้ค่ะ สำหรับถนนรัตนาธิเบศร์นั้นสามารถวิ่งข้ามสะพานไปถนนราชพฤกษ์ได้ หรือจะวิ่งเข้าเมืองโดยผ่านแยกแครายก็จะเข้าสู่ถนนงามวงศ์วาน ที่จะเป็นถนนเส้นเดียวกัน มีทางขึ้น-ลงทางด่วนงามวงศ์วานให้ใช้ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะเหมือนกันค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นเนื่องจากถนนรัตนาธิเบศร์นี้เป็นถนนหลักที่ใช้ในการเดินทางเข้าออกเมืองของคนในย่านนี้เลย ดังนั้นการเดินทางบนถนนเส้นนี้ในช่วงเวลาเร่งด่วนจึงอาจจะต้องเผื่อเวลาในการเดินทางมากๆหน่อยนะคะ

    อีกหนึ่งการเดินทางที่เพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกบ้านที่เน้นการเดินทางเข้าเมืองด้วยระบบราง โดยไม่ต้องเสียเวลารถติดบนถนนรัตนาธิเบศร์ก็ใกล้จะเปิดให้บริการในวันที่ 6 สิงหาคม 2559 นี้ กับรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีพระนั่งเกล้า โดยมีระยะห่างจากโครงการไปประมาณ 1.5 กม. ค่ะ ซึ่งถือว่าเลยระยะเดินได้ไปไกลหน่อยนะคะ ใครที่ไม่ได้ฟิตปึ๋งปั๋งหรืออาจจะขี้เกียจเดินอาบเเดดร้อนของเมืองไทย ทางโครงการก็มี Shuttle Service รับ-ส่งจากโครงการ-สถานีพระนั่งเกล้า เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทางด้วยระบบสาธารณะของลูกบ้านมากขึ้น แต่ทั้งนี้ยังไม่ได้กำหนดประเภทของรถ Shuttle Service จำนวนคัน และรอบเวลาที่จะวิ่งรับ-ส่งลูกบ้านนะคะ ต้องรอทางโครงการอัพเดทกันอีกที นอกจากนี้การเดินทางด้วยระบบสาธารณะอื่นๆ อย่างพี่วินมอเตอร์ไซต์ หรือพี่แท็กซี่ก็สะดวกค่ะ เพราะโครงการอยู่ติดกับถนนสนามบินน้ำเลย ทำให้เรียกได้ง่าย และยังไม่เปลี่ยวด้วยค่ะ

    ความอุดมสมบูรณ์ในรัศมีไม่เกิน 5 กม. ถือว่ามีครบครันค่ะ นอกเหนือจากอาหารการกินที่หาง่ายใกล้โครงการ ที่มีตั้งแต่เต้นท์อาหาร รถเข็นอาหาร ไปจนถึงร้านอาหารริมแม่น้ำ ซึ่งมีหลากหลายเรทราคาให้เลือกตามงบประมาณในกระเป๋าแล้ว ก็มีห้างใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลอย่าง Central รัตนาธิเบศร์ ห้างดังห้างใหญ่ประจำถนนสายนี้ สามารถวิ่งลัดเข้าถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรีเข้าสู่ตัวห้างได้ไม่ต้องเผชิญรถติดบนถนนรัตนาธิเบศร์ ส่วนห้างที่ไกลออกไปหน่อยก็จะมี Central West Gate แถบบางใหญ่กับอีกฝั่งบนถนนงามวงศ์วานอย่าง Esplanade แครายและ The Mall งามวงศ์วานให้เลือกไปช็อปปิ้งกัน

    นอกจากนี้ในอนาคตบริเวณหน้าโครงการก็จะมี Manor Avenue เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดเล็กเปิดให้บริการทั้งลูกบ้านและคนในละแวกอีกด้วยค่ะ โดยจากที่สอบถามเซลล์มาแล้วนั้นก็จะมี Shop อย่าง 7-11 Premium, Amason, ร้านซักรีด และร้านเบเกอร์รี่อีกด้วยค่ะ

    สำหรับการเดินทางในวันนี้ขอเริ่มต้นกันบนถนนรัตนาธิเบศร์บริเวณหน้าห้าง Central Plaza รัตนาธิเบศร์ โดยขับมุ่งหน้าไปทางบางใหญ่ประมาณ 1.5 กม. แล้วเบี่ยงออกเลนซ้ายเพื่อกลับรถใต้สะพานพระนั่งเกล้าแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสนามบินน้ำ ตรงเข้าไปประมาณ 1.5 ม. จะเห็นโครงการทางซ้ายมือติดกับกระทรวงพาณิชย์ค่ะ

    สวัสดีค่ะถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนสายหลักของชาวนนทบุรี บริเวณหน้าห้าง Central Plaza รัตนาธิเบศร์ ห้างใหญ่ประจำถนนรัตนาธิเบศร์ ข้างเคียงก็มี Robinson และ Index Living Mall ด้วยนะ

    โดยสถานีที่อยู่ใกล้ห้าง Central รัตนาธิเบศร์มากที่สุด สามารถเดินเข้าห้างได้คือสถานีแยกนนทบุรี 1 ค่ะ ห่างจากสถานีพระนั่งเกล้าเพียงสถานีเดียวเอง วันหยุดว่างๆ ก็มาเดินเล่นห้างนี้ได้สบายเลยค่ะ

    ขับตรงมาอีกหน่อยจะเห็นป้ายบอกทางไปยังถนนสนามบินน้ำโดยให้เริ่มเบี่ยงออกถนนฝั่งซ้าย

    จุดเบี่ยงเลนจะอยู่ใกล้ๆ คอนโดลุมพินีทาวน์รัตนาธิเบศร์นะคะ อย่าเลยจากทางเบี่ยงนี้นะคะ เพราะเลยแล้วจะถูกบังคับให้ขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าเลยนะ

    จากนั้นขับตรงไปกลับรถใต้สะพาน

    จัดกลับรถจะอยู่ใต้ทางขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าเก่า

    เมื่อเลี้ยวมาแล้วจะเห็นแขวงทางหลวงนนทบุรีเลย

    ขับมาอีกหน่อยก็เลี้ยวเข้าถนนสนามบินน้ำได้เลย

    ภายในถนนสนามบินน้ำเป็นถนน 4 เลน มีเกาะกลางที่มีโคมไฟประดับสวยงาม บริเวณต้นถนนสนามบินน้ำนี้จะสังเกตว่ามีคอนโด High Rise ขึ้นมาทั้ง 2 ฝั่งถนน

    เข้ามาถึงช่วงกลางๆ ของถนนสนามบินน้ำจะเห็นว่าการจราจรเริ่มเเน่นมากขึ้นและมีรถจอดทั้ง 2 ฝั่งของช่องการจราจรเลยค่ะ คิดว่าน่าจะเป็นรถของพ่อค้าแม่ค้าที่มาเปิดเต้นท์อาหารข้างกระทรวงพาณิชย์ในวันอังคารกับศุกร์ค่ะ เพราะปกติในวันอื่นๆ ถนนตรงช่วงนี้ก็ไม่มีรถมาจอดข้างถนนแบบนี้นะคะ

    และแล้วเราก็มาถึงหน้าโครงการแล้วนะคะ เดี๋ยวเราไปดูรอบๆ โครงการกันก่อนแล้วค่อยเข้าไปดูภายในโครงการกันค่ะ 🙂

    จากหน้าโครงการหันออกมาทางถนนสนามบินน้ำ รอบข้างมีร้านค้าเล็กๆ ทั้งร้านอาหารตามสั่งต่างๆ ร้านถ่ายเอกสาร และร้านนวดให้บริการทั้งฝั่งตรงข้ามและฝั่งโครงการเอง ใครจะเดินไปกินร้านอาหารในฝั่งตรงข้ามก็สามารถข้ามสะพานลอยสีเขียวๆ ที่อยู่ไม่ห่างจากโครงการได้ไม่ยากค่ะ

    ในฝั่งโครงการมีทางเท้ากว้างเดินได้สบายๆ ค่ะ และที่ติดกับโครงการฝั่งซ้ายมือจะเป็นโกดังนะคะ ลึกเข้าไปหน่อยตรงส่วนที่ติดกับอาคารพักอาศัยจะเป็นที่ดินว่างเปล่าแล้วค่ะ

    ส่วนที่ติดกับโครงการในฝั่งขวามือคือกระทรวงพาณิชย์ค่ะ

    ภายในกระทรวงพาณิชย์ในทุกๆ วันอังคารและวันศุกร์จะมีเต้นท์ร้านค้าต่างๆ มาเปิดขายด้วยนะคะ ค่อนข้างคึกคักทีเดียวค่ะ

    **รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

    สภาพแวดล้อมรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยสูงประมาณ 2-4 ชั้น และมีร้านค้าทั้งแบบตึกแถวสูง 4 ชั้น ตลอดจนร้านเล็กๆ ชั้นเดียวตั้งอยู่ติดริมถนนค่ะ ด้านข้างในทิศตะวันตกเฉียงใต้ติดกับที่ดินว่างเปล่า ซึ่งเป็นที่ดินส่วนบุคคลนะคะ ในอนาคตอาจมีการพัฒนาที่ดินเป็นโครงการต่างๆ ได้ ส่วนทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดกับกระทรวงพาณิชย์ที่มีความสูงประมาณ 15-16 ชั้น และทิศตะวันตกเฉียงเหนือนั้นติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำเป็นพื้นที่ว่างเปล่าและบ้านพักอาศัยที่มีความสูงไม่เกิน 2 ชั้น โดยรวมแล้วทุกทิศไม่มีปัญหาในเรื่องการถูกบล็อกวิวค่ะ แต่ก็ต้องจับตาดูในอนาคตค่ะ สำหรับทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่ติดกับที่ดินว่างเปล่า ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะถูกพัฒนาเป็นโครงการต่างๆ ได้ ในกรณีที่เป็นตึกสูงด้วยกันก็อาจจะมีสิทธิถูกบังวิวได้ค่ะ

    ทิศเหนือ : กระทรวงพาณิชย์

    ทิศตะวันออก : ถนนสนามบินน้ำ, บ้านพักอาศัยสูงไม่เกิน 4 ชั้น

    ทิศใต้ : โรงงานเฟอร์นิเจอร์ไม้, ที่ดินว่างเปล่า

    ทิศตะวันตก: แม่น้ำเจ้าพระยา

     

    สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

    • กระทรวงพาณิชย์ ~100 ม.
    • วัดน้อยนอก ~1.3 กม.
    • โรงเรียนธัมมสิริศึกษา ~1.4 กม.
    • ตลาดสนามบินน้ำ Market Park ~1.4 กม.
    • สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ~2.4 กม.
    • สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ~2.4 กม.
    • เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ ~3 กม.
    • บิ๊กซี รัตนาธิเบศร์ ~3.9 กม.
    • โรงพยาบาลทรวงอก ~5.4 กม.
    • Tesco Lotus แคราย ~5.5 กม.
    • Esplanade แคราย ~5.5 กม.
    • โรงพยาบาลศรีธัญญา ~7 กม.
    • เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ~8.4 กม.
    • โรงพยาบาลนนทเวช ~8.5 กม.
    • Central West Gate ~10 กม.

     


    เจาะลึกตัวโครงการ

    โครงการ Manor สนามบินน้ำ หมู่คอนโด High Rise 4 อาคาร ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา โครงการเป็นโครงการขนาดใหญ่ มียูนิตทั้งหมด 1,848 ยูนิต บนเนื้อที่ทั้งหมด 11 ไร่เศษ โดยด้านหน้าที่ติดกับถนนสนามบินน้ำคือ Manor Avenue เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดเล็กที่ทาง Major เป็นเจ้าของและจัดทำเป็นพื้นที่ให้เช่าค่ะ ส่วนด้านในเป็นส่วนของโครงการแบ่งเป็น 4 อาคาร คือ ตึก A และ B ที่อยู่ด้านหน้า มีความสูง 25 ชั้น และตึก C และ D ที่อยู่ด้านหลังของโครงการใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา มีความสูง 35 ชั้นค่ะ การวางอาคารเป็นแนวยาว ให้ห้องพักอาศัยหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้และตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งฉากกับแม่น้ำเจ้าพระยา และวาง Facilities ขนาดใหญ่ไว้ตรงกลางระหว่างอาคารทำให้ห้องพักที่หันหน้าเข้าหาห้องพักฝั่งตรงข้ามตึกได้เป็นวิว Facilities ภายในโครงการทดแทนวิวภายนอกได้ สำหรับการออกแบบรูปลักษณ์โครงการออกมาในสไตล์ Classic Colonial และเน้นใช้โทนสีเทา

    คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

    Master Plan โครงการ เริ่มจากทางเข้าด้านหน้าจะเป็น Community Mall ของทาง Major ชื่อ Manor Avenue และมีที่จอดรถด้านหน้าเรียบร้อย สำหรับลูกค้าทั่วไปสามารถเข้ามาจอดรถเพื่อมา Manor Avenue ได้ จากนั้นจะเข้าสู่ตัวโครงการ ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 อาคารด้วยกัน โดยอาคาร A และ B อยู่ด้านหน้า และอาคาร C และ D อยู่ด้านหลังใกล้ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และมี Facilities ขนาดใหญ่ด้านหลังสุดที่มีสระว่ายน้ำ, Club House และสนามบาสแบบครึ่งสนาม

    อาคาร A และ B : แบ่งเป็น 2 โซนหลักๆ คือส่วน Lobby ที่อยู่ด้านหน้า และด้านหลังเป็นส่วนที่จอดรถที่มีทั้งหมด 5 ชั้นค่ะ โดยตัว Lobby ที่อยู่ตรงกลางใกล้กับ Drop-Off เป็น Lobby หลักที่เชื่อมกับ Lobby ย่อยแต่ละอาคารไว้ด้วยกัน และลูกบ้านในแต่ละอาคารก็ค่อยสแกนบัตรเข้าอาคารตัวเองตรงบริเวณโถงลิฟต์ค่ะ สำหรับถนนภายในโครงการเป็นถนนแบบเดินรถทางเดียวและวนเป็น Loop ออกนอกอาคารค่ะ ข้อดีของการเดินรถทางเดียว ลดอุบัติเหตุภายในโครงการได้ เพราะเป็นการเดินรถแบบเรียบง่าย และไม่มีรถสวน ซึ่งถนนจะสิ้นสุดที่โซนอาคาร A และ B เท่านั้นค่ะ สำหรับจำนวนที่จอดรถของโครงการมีช่องจอดทั้งหมด 740 คัน หรือคิดเป็น 40% ของโครงการ ซึ่งถือว่าให้มาตามมาตรฐานของ Segment นี้ค่ะ

    อาคาร C และ D : อาคาร C และ D เป็นอาคารที่มีห้องพักอาศัยทั้งหมดตั้งแต่ชั้น 1 – 35 โดยตรงกลางระหว่างอาคารจัดเป็นสนามหญ้าและมีต้นไม้ใหญ่ล้อมรอบ รวมทั้งมีศาลานั่งเล่นที่จัดให้มีชุดโซฟานั่งเล่นไว้สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนได้ สำหรับตัวอาคาร C และ D สามารถเข้าได้ทั้ง 2 ทางคือตรงริมอาคารติดถนนภายในโครงการเป็นทางเข้าหลัก และตรงกลางอาคารค่ะ

    สำหรับรีวิวตอนที่ 1 ฉบับนี้จะพาไปเดินเล่นในโซนอาคาร A และ B กันก่อนนะคะ โดยเดินจากทางเข้าอาคารแล้ววนดูรอบอาคาร A และ B ตามถนนภายในโครงการเข้าไปดูส่วนที่จอดรถจากนั้นค่อยเข้าสู่ Lobby โครงการกันค่ะ ในส่วนอาคาร C และ D รวมทั้ง Facilities ระหว่างอาคารและด้านหลังโครงการติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาจะขออุบไว้ก่อน ในรีวิวตอนที่ 2 ต่อไปนะคะ

    เริ่มจากทางเข้าโครงการกันเลยค่ะ บรรยากาศบริเวณด้านข้างถนนค่อนข้างร่มรื่นพอสมควรมีการปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้ในรอบรั้วโครงการค่ะ แต่น่าจะทำทางเท้าให้เดินได้ง่ายขึ้นอีกหน่อย สำหรับลูกบ้านที่ใช้เดินเข้า-ออกโครงการเป็นประจำ ส่วนด้านขวานี้จะเปิดเป็น Community Mall ชั้นเดียวขนาดเล็กชื่อ Manor Avenue ซึ่งเจ้าของเป็น Major นะคะแยกส่วนการบริหารกับนิติบุคคลของโครงการ และจากที่สอบถามเซลล์ร้านค้าที่จะมาเปิดใน Community Mall นี้ก็จะมี 7-11 Premium, Amason, ร้านเบเกอร์รี่ และร้านซักรีดค่ะ โดยอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคตนะคะ

    ตรงเข้ามาสุดทางจะเจอจุด Drop-Off มีวงเวียนสามารถวนรถออกได้ เมื่อขับรถตรงเข้ามาจะถูกบังคับให้เลี้ยวซ้ายไปยังที่จอดรถค่ะ

    ตรงไปแล้วเลี้ยวขวาอีกที

    ด้านข้างมีการล้อมรั้วชัดเจนและปลูกต้นไม้ให้ดูร่มรื่นสวยงาม

    ด้านข้างอาคารมีห้องเก็บขยะพร้อมให้รถเก็บขยะมาเก็บทีเดียวค่ะ

    ตรงมาอีกหน่อยจะถูกบังคับให้เลี้ยวแล้วนะคะ ส่วนถนนที่ตรงไปนี้ทำไว้สำหรับเป็นทางเดินเท้าเท่านั้น มีการปลูกหญ้าตกแต่งบริเวณพื้นและปลูกไม้พุ่มกั้นฝั่งห้องพักอาศัยเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวกับลูกบ้านในชั้นล่างนี้ด้วยค่ะ

    เลี้ยวมาแล้วจะเป็นถนนที่อยู่ระหว่างอาคารฝั่งด้านหน้าและด้านหลังค่ะ

    ก่อนสุดทางที่จะถูกบังคับเลี้ยวขวาไปวนรถออกด้านนอกนั้น จะเป็นทางเข้าส่วนที่จอดรถ โดยจะต้องสแกนบัตรเข้านะคะ ซึ่งใช้ระบบ Key Card Access ระยะใกล้ ปิด-เปิดด้วยไม้กระดกอัตโนมัติ

    ภายในมีพื้นที่สำหรับจอดมอเตอร์ไซต์ให้เรียบร้อย

    เลยมาหน่อยมี Slope ขึ้นชั้นบน ส่วน Slope ลงนั้นจะอยู่ทางด้านหลังของ Slope ขึ้นนี้ค่ะ

    ความกว้างของช่องจอดมาตรฐาน ส่วนสิทธิในการจอดรถทางโครงการแจ้งว่าลูกบ้านจะได้สิทธิการจอดแบบ Fix โดย 1 ห้องนอนได้ 1 สิทธิ และ 2 ห้องนอนได้ 2 สิทธิค่ะ

    เลนถนนภายในที่จอดรถกว้าง ขับได้สะดวก

    ด้านข้างสุดทางที่จอดรถมีประตูทางเข้าไปยังส่วน Lobby โครงการ ได้ค่ะ

    สุดทางเป็นทางออกจากที่จอดรถ โดยต้องสแกนบัตรออกเพื่อเปิด-ปิดไม้กระดกอัตโนมัติค่ะ จากนั้นจะถูกบังคับให้เลี้ยวขวาออกไปหน้าโครงการ

    ด้านข้างของอาคารจอดรถในฝั่งอาคาร A มี Cover Way หรือทางเดินที่มีหลังคาคลุมให้ลูกบ้านเดินยาวไปจนถึงอาคารชุดหลังได้

    โดยความยาวของทางเดินที่มีหลังคาคลุมจะยาวตั้งแต่หน้า Lobby เลยค่ะ ลูกบ้านสามารถเดินหลบฝนหลบแดดได้สบาย

    หลังคาของทางเดินใช้วัสดุเป็น Poly Carbonate มีความแข็งแรงพอสมควร

    เดินออกมาก็จะเห็น Manor Avenue ที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างค่ะ โดยฝั่งที่ติดกับโครงการจะมีการกั้นรั้วขึ้นมาให้เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับตัวโครงการมากขึ้น

    กลับมาที่ Lobby กลางตรงบริเวณจุด Drop-Off กันค่ะ

    ภายใน Lobby กลาง ตกแต่งแบบเรียบหรู โดยใช้โทนครีม-ขาว ภายในวางโซฟาและชุดเก้าอี้ให้สำหรับรองรับแขกที่เข้ามาติดต่อภายในโครงการค่ะ

    ด้านข้าง Lobby นี้จะมีประตูเปิดทั้ง 2 ด้านแยกไปยัง Lobby ย่อยแยกอาคาร A และ B แต่ประตูจุดนี้จะไม่มีที่สแกนบัตรเข้านะคะ จะไปสแกนบัตรอีกทีที่หน้าโถงลิฟต์ค่ะ

    เข้ามาภายในส่วน Lobby A จะเป็นห้องซักรีดและห้องน้ำรวม ซึ่งอาคาร B ก็สามารถมาใช้ร่วมกันได้ ส่วนบริเวณของ Lobby B เป็นห้องนิติบุคคลค่ะ

    ห้องน้ำแยกชาย-หญิง

    ภายในห้องน้ำหญิง บริเวณอ่างล้างมือเป็นอ่างแบบฝังเคาน์เตอร์ ท็อปหินแกรนิต มีกระจกบานใหญ่ติดผนังให้ สวยงามดีค่ะ

    ห้องน้ำมีให้ห้องเดียวค่ะ

    เข้ามาที่ส่วน Lobby ย่อยของอาคาร A กันนะคะ ลักษณะจะเป็นโถงขนาดกระทัดรัด มีโซฟาขนาด 3 ที่นั่งให้ 1 ชุดพร้อมโต๊ะกลาง ด้านข้างเป็นส่วน Mail Box และตรงไปในสุดจะเป็นส่วนโถงลิฟต์ที่ต้องสแกนบัตรผ่านเข้าไปค่ะ สำหรับหน้าตาของ Lobby ย่อยของอาคาร B ก็ตกแต่งและมีขนาดเหมือนกับ Lobby อาคาร A ค่ะ

    พื้นที่ Mail Box ที่อยู่ด้านข้าง Lobby ย่อย

    สแกนบัตรผ่านประตูไปพร้อมกันเลยค่ะ

    ภายในโถงลิฟต์สว่างพอสมควรเลย จากแสงธรรมชาติภายนอก สำหรับลิฟต์โดยสารของแต่ละอาคารมีทั้งหมด 3 ตัวนะคะ และลิฟต์ Service อีก 1 ตัว

    ลิฟต์เป็นแบบลิฟต์ล็อกชั้น คือต้องสแกนบัตรก่อนจะกดชั้นพักอาศัยของตัวเองเท่านั้น และจะสามารถขึ้นได้เฉพาะชั้นที่มี Facilities และชั้นห้องพักของเราเท่านั้นค่ะ

    จากชั้น 1-5 ที่เป็นชั้นจอดรถแล้ว ชั้น 6 นี้จะเป็นชั้นที่มี Facilities และห้องพักอาศัยด้วย โดย Facilities หลักของโซนอาคาร A และ B นี้จะอยู่ที่ชั้น 6 นี้แหละค่ะ โดยลูกบ้านทุกอาคารสามารถขึ้นมาใช้ Facilities ในส่วนนี้ได้หมดค่ะ สำหรับห้องพักในชั้นนี้ก็จะมีความครึกครื้นมากกว่าชั้นอื่นบ้างตามประสาห้องพักที่อยู่ชั้นเดียวกับ Facilities นะคะ เหมาะกับคนที่ชอบความคึกคักและต้องการความสะดวกในการใช้งาน Facilities และทางโครงการเองก็ได้ Double Access หรือประตูสแกนกั้นส่วน Facilities และส่วนห้องพักอาศัยให้เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้นสำหรับลูกบ้านในชั้นนี้ด้วยนะคะ

    จากโถงลิฟต์ของชั้น 6 ออกมาก็จะเห็นประตูที่ออกไปยังส่วน Facilities เลยค่ะ

    ด้านข้างที่เป็นส่วนห้องพักอาศัยทำ Double Access เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ลูกบ้านในชั้นนี้มากขึ้น

    ออกมายังส่วน Facilities กันค่ะ ทางฝั่งซ้ายมือเป็นศาลานั่งเล่น และทางฝั่งขวามือนี้จะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำ

    ทางขึ้น-ลงมีทั้งบันไดและทางลาดให้เรียบร้อยค่ะ

    บริเวณศาลานั่งเล่นนี้ เป็นแบบ Semi-Outdoor สามารถกันแดดได้ระดับนึงแต่ไม่สามารถกันฝนได้นะคะ เพราะด้านบนหลังคาทำเป็นระแนงไม้ค่ะ ปัจจุบันยังไม่ได้ลงชุดโซฟา หรือชุดโต๊ะเก้าอี้ให้นะคะ คาดว่าเมื่อลงเฟอร์นิเจอร์ให้นั่งเล่นได้เรียบร้อยแล้วคงเป็นมุมโปรดของใครหลายคน เพราะนอกจากจะนั่งรับลมชิลๆได้แล้ว ยังได้วิวสระว่ายน้ำเต็มๆ

    หันกลับมาส่วนสระว่ายน้ำของชั้น 6 นี้กันค่ะ ลักษณะสระว่ายน้ำเป็นสระกลางแจ้งค่ะ แต่ไม่ถึงกับร้อนมากเหมือนสระกลางแจ้งปกติ เนื่องจากมีอาคารสูงขนาบข้างทั้ง 2 ด้านทำให้ได้เงาของอาคารสูงมาให้ร่มเงาได้บ้าง (ยกเว้นตอนเที่ยงตรงนะ ><) และตรงบริเวณนี้ยังเป็นช่องลมได้ดี มีลมโกรกอยู่ตลอดเวลา ขนาดของสระว่ายน้ำมีขนาด 11 x 50 ม. หรือมีความยาวขนาด Oympic ไซส์ สามารถว่ายออกกำลังกายได้สบาย แบ่งเป็นสระเด็ก ลึก 0.6 ม. และสระผู้ใหญ่ ลึก 1.2 ม. ส่วนระบบสระเป็นระบบเกลือค่ะ

    ด้านข้างมีศาลาให้นั่งเล่นพักผ่อนชิลๆ ริมสระทั้งหมด 3 ศาลา

    แต่ละศาลาวาง Day Bed ให้ประมาณ 3-4 ตัวค่ะ

    อีกฝั่งทำเป็นที่นั่งแช่ในน้ำแทนและด้านบนจัดสวนให้

    ตรงขอบมุมสระนี้ออกแบบมาได้ดีนะคะ โดยเมื่อน้ำล้นออกมาจากสระนั้นจะไหลลงช่องด้านล่างและอีกด้านทำเป็นพื้น Slope เผื่อน้ำกระเด็นออกมาแรงจะได้ไม่เอ่อนองอยู่ตามพื้นให้ดูเฉอะแฉะแต่สามารถไหลลงช่องข้างสระได้เลย

    ส่วนระหว่างสระเด็กและสระผู้ใหญ่มีการกั้นขึ้นมาชัดเจนค่ะ ด้านบนเป็นน้ำพุเล็กๆ

    ด้านข้างสระมีพื้นที่นั่งเล่นเล็กๆ ลึกลงไป คล้ายๆกับเป็น Amphitheater ขนาดย่อมๆ

    ทางเดินด้านข้างสระเป็นพื้นทรายล้างและจัดสวนด้านข้างสวยงามดีค่ะ

    มีมุม Shower ให้ล้างตัวก่อนและหลังลงสระ

    สุดทางเดินสระมีบันไดเดินลงไปด้านล่าง เดี๋ยวเราเดินไปดูกันค่ะ

    ด้านล่างติดกับสระทำเป็นที่นั่งเล่นยาว มีรั้วกระจกหนายกขึ้นมาสูง 1.5 ม. กันตกให้เรียบร้อย ใครจะมาชมวิวสวนและแม่น้ำเจ้าพระยาแนะนำมุมนี้เลยนะคะ แต่มาช่วงเช้าๆ เย็นๆ หน่อยก็จะดีนะ เพราะในช่วงกลางวันของเมืองไทยนี้คงร้อนเกินไปที่จะนั่งเล่นชิลๆ ได้

    วิวจากที่นั่งเป็นแบบนี้เลยค่ะ เห็นวิวตั้งแต่สนามหญ้าระหว่างอาคาร C และ D สระว่ายน้ำด้านหลังโครงการไปจนถึงแม่น้ำเจ้าพระยาเลยค่ะ

    หันกลับมามองวิวสระว่ายน้ำจากอีกฝั่งบ้างค่ะ พูดถึงระยะห่างระหว่างอาคารกันหน่อย สำหรับระยะห่างระหว่างอาคารนี้มีความห่างประมาณ 35 ม. ซึ่งถือว่าเป็นระยะที่ห้องฝั่งตรงข้ามอาคารก็ยังสามารถมองเห็นกันได้อยู่นะคะ แต่ก็เป็นระยะที่โอเคนะไม่ถึงกับอึดอัดและเสียความเป็นส่วนตัวจนเกินไปถึงขั้นต้องปิดผ้าม่านตลอดเวลาค่ะ

    มาดู Facilities อื่นๆ กันบ้างนะคะ โดยจะอยู่ในอาคารทั้ง อาคาร A และ B ค่ะ

     

    มีห้องน้ำแยกชาย-หญิง

    ภายในส่วนอ่างล้างมือมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ได้กระจกบานใหญ่

    มีห้องอาบน้ำ 2 ห้องและห้องส้วมอีก 3 ห้องค่ะ โดยห้องอาบน้ำนี้จะเป็นกระจกบานใสนะคะ ซึ่งถ้าเป็นสาวไทยแบบเราๆ ก็คงรู้สึกเคยชินและไม่เป็นส่วนตัวไปหน่อย

    ห้องสมุดเป็นห้องขนาดกระทัดรัด  ภายในเป็นห้องโล่งๆ จัดชุดโซฟาและเก้าอี้นั่งเล่นริมหน้าต่าง 2 ชุด

    อีกฝั่งวางชั้นวางหนังสือและโต๊ะทำงานให้ 1 ตัวค่ะ

    ถัดมาด้านข้างเป็นห้องโยคะค่ะ ซึ่งตอนนี้ยังจัดไม่เรียบร้อยนะคะ สำหรับห้องโยคะนี้มีขนาดใหญ่พอสมควร สามารถรองรับคนได้ประมาณ 7-8 คน ด้านข้างติดกระจกเงาให้เช็คร่างกายได้ และอีกฝั่งได้หน้าต่างยาวตลอดความยาวของห้องทำให้ห้องดูสว่างและโปร่งโล่งดีค่ะ

    ห้อง Fitness อยู่ติดสระว่ายน้ำ ภายในตกแต่งเรียบง่ายติดกระจกใสตลอดความยาวของห้องทำให้ห้องดูโปร่งโล่งและได้วิวสระว่ายน้ำขณะวิ่งอยู่บนลู่ด้วย มีจำนวนเครื่องออกกำลังกายทั้งหมด 6 เครื่อง

    อีกฝั่งติดกระจกเงาทั้ง 2 ด้านและมีชุดเวทประมาณ 20 ชิ้น โดยรวมแล้วเป็นห้อง Fitness ที่มีขนาดกระทัดรัด รองรับการใช้งานของลูกบ้านได้ระดับนึง คิดว่าในช่วงวันหยุดคนน่าจะมาใช้งานเยอะพอสมควรค่ะ

    อีกฝั่งของอาคารเป็นส่วนพักอาศัย ซึ่งมีการยกระดับขึ้นมาจากส่วน Facilities ประมาณ 1 ม. เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ลูกบ้านที่อยู่ติดกับ Facilities ได้ระดับนึง

    มาดู Facilities ในอาคาร B กันบ้าง โดยประกอบไปด้วยห้องปิงปิง, ห้องสนุกเกอร์, ห้องเกมส์ และ Kid’s Club

    ห้อง Kid’s Club ปัจจุบันยังอยู่ในช่วงตกแต่งภายในอยู่

    ภายในห้องเกมส์ ประกอบไปด้วย ชุดโต๊ะและเก้าอี้ 4 ตัวและโต๊ะโกล์ค่ะ

    ห้องปิงปองมีขนาดค่อนข้างกว้างเหมาะกับการเล่นปิงปองที่ต้องใช้พื้นที่มากหน่อยสำหรับการเคลื่อนไหว ภายในวางโต๊ะปิงปองอยู่ตรงกลาง และมีชุดเก้าอี้พร้อมโต๊ะกลางให้ฝั่งละชุดค่ะ

    และสุดท้ายคือห้องสนุกเกอร์ ภายในวางโต๊ะสนุกเกอร์ 1 ตัวและชุดเก้าอี้ 2 ตัว พร้อมโต๊ะกลางอย่างละฝั่ง ด้านข้างติดผนังทำเป็นที่วางไม้สนุกค่ะ

    ชั้น 7-25 ของอาคาร A และ B เป็นแบบแปลนเหมือนกันนะคะ เพียงแค่ Mirror กันเท่านั้น ลักษณะแปลนเป็นรูปตัว I วางห้องขนาบข้างกับโถงทางเดิน (Double Corridoor) มีจำนวนยูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 24 ยูนิต ถือว่ามีความหนาแน่นต่อชั้นปกตินะคะ ส่วนอัตราส่วนลิฟต์นั้นอยู่ที่ 157 : 1 ถือว่ามีความหนาแน่นค่อนข้างสูงจากปกติมาหน่อย ในส่วนของตำแหน่งลิฟต์โดยสารอยู่ริมอาคารฝั่งขวาทำให้ห้องในฝั่งซ้ายนั้นอาจจะเดินไกลไปหน่อย เมื่อเทียบกับตำแหน่งโถงลิฟต์ที่อยู่ตรงกลางค่ะ แต่การเดินในระยะไกลมาหน่อยนี้ก็แลกมาซึ่งความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้นค่ะ

     

    เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับโครงการใหญ่ Facilities จัดเต็มของ Manor สนามบินน้ำ แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะคะ ยังมีรีวิวตอนที่ 2 รอคุณผู้อ่านทุกคนอยู่ค่ะ โดยตอนที่ 2 นี้เราจะพาไปเดินดูโซนของอาคาร C และ D รวมทั้ง Facilities ใหญ่อีกจุดที่อยู่ติดริมแม่น้ำค่ะ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะ ยังมีห้องตัวอย่างและวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย ใครสนใจอย่าลืมติดตามตอนที่ 2 เร็วๆ นี้นะคะ 🙂