รีวิวฉบับที่ 1535 … สวัสดีค่ะวันนี้จะพาไปชมตึกเสร็จโครงการ Kensington แหลมฉบัง – ศรีราชา คอนโด Low Rise 8 ชั้น ตั้งอยู่ติดถนน สุขุมวิท ตรงข้าม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา ใน Origin District ซึ่งภายในจะประกอบไปด้วยคอมมูนิตี้มอลล์ โรงแรม และคอนโดมิเนียม เน้นกลุ่มลูกค้า นักศึกษา คนที่ทำงานแถวนิคมฯ และ กลุ่มนักธุรกิจ ราคาเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท เราตามไปชมพร้อมๆกันเลยค่ะ
Fact @ 8 February 2018
- Kensington Leamchabang – Sriracha (เคนซิงตัน แหลมฉบัง – ศรีราชา)
- บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
- ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี (ตรงข้าม ม. เกษตร)
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น (มี 2 เฟส) เฟสละ 2 อาคาร 399 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 29 ยูนิต ที่ชั้น 3-8
- ที่จอดรถเฟสละ 93 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 23% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 31%
- ที่ดิน เฟส1 3-0-50.5 ไร่ , เฟส2 3-0-49.5 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : ปี 2559
- สถานะโครงการ : สร้างเสร็จพร้อมอยู่
- Studio 22.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.49 – 1.59 ล้านบาท
- 1 Bedroom 24.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.59 – 1.89 ล้านบาท
- 1 Bedroom plus 34 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 1.49ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 60,000 บาท/ตร.ม.
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด 64,474-73,675 บาท/ตร.ม.
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 02-399-4466 , 084-902-0009
- อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : “มองหาทำเลน่าอยู่ศรีราชา” คลิกที่นี่
- อ่าน “การเปลี่ยนแปลงศรีราชาสู่การเป็นเมืองท่าที่สำคัญของประเทศไทย” คลิกที่นี่
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ
พิกัด : 13.123720, 100.915878
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
ขอเกริ่นท้าวความถึงเมืองศรีราชาสักนิด การเติบโตอย่างรวดเร็วของที่นี่ ซึ่งไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวอย่าง พัทยา เชียงใหม่ หรือหัวหิน การบูมขึ้นของศรีราชา นั้นเกิดมาจากปัจจัยด้านการพัฒนาเมืองแหล่งอุตสาหกรรม และท่าเรือต่างๆ ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เลยทำให้เกิดห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ สิ่งอำนวยความสะดวกรูปแบบต่างๆตามขึ้นมา และแน่นอนรวมไปถึง “อสังหาฯ” ที่ราคาที่ดินในตัวเมืองกระโดดขึ้นอย่างน่าตกใจ ทำให้รูปแบบของคอนโดมิเนียมเลยเป็นที่เห็นกันในปัจจุบัน
ที่ตั้งของโครงการ Kensington แหลมฉบัง – ศรีราชา อยู่ติดถนนสุขุมวิท ตรงข้ามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตศรีราชา ใกล้สถานศึกษาและมหาวิทยาลัยชั้นนำ ห้างสรรพสินค้าหลักของพื้นที่ ตลอดจนนิคมอุตสาหกรรมอันเป็นแหล่งผลิตนำเข้าและส่งออกสำคัญออกประเทศไทย โดยการเข้าถึงโครงการจะใช้ถนนสุขุมวิท (ทล.3) เป็นหลัก และ อีกเส้นทางหนึ่งคือ ถนนบายพาสมอเตอร์เวย์ (ทล.7) ซึ่งเป็นถนนที่วิ่งผ่านนิคมอุตสาหกรรมที่สำคัญๆ ด้านหลังโครงการมีถนนที่ใช้วิ่งไปออกซอย อ่าวอุดม ซึ่งเป็นทางที่ใช้วิ่งไปบริษัท ไทยออยล์ , ท่าเรือ อ่าวอุดม และ เคอรี่สยามซีพอร์ต การจราจรบนถนนเส้นหลักในช่วงเวลาเร่งด่วนค่อนข้างติดขัดเนื่องจากรอบๆบริเวณนี้เป็นแหล่งรวมของนิคมอุตสาหกรรม โรงเรียนและมหาวิทยาลัยจำนวนมาก
แหลมฉบัง-ศรีราชา เป็นเมืองท่าลำดับที่ 22 ของโลก และได้มีการสนับสนุนทั้งส่วนของภาครัฐและเอกชน โดยมี Mega Project ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไม่ว่าจะเป็น
- ทางด่วน (ภาคพิเศษ บูรพาวิถี-พัทยา)
- มอเตอร์เวย์ (มอเตอร์เวย์พัทยา-มาบตะพุด)
- รถไฟรางคู่ สะดวกในการเดินทาง-ขนส่ง
- รถไฟฟ้าความเร็วสูง
จึงเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญ มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่มาก ทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยขยายตัวอย่างรวดเร็ว จึงดึงดูดนักลงทุนโดยเฉพาะการลงทุนด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งโรงแรม คอนโด และ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ เพิ่มขึ้นสูงเพื่อรองรับให้เพียงพอต่อความต้องการในอนาคต
สาเหตุที่พื้นที่บริเวณนี้เป็นแหล่งรวมของนิคมอุตสาหกรรมเนื่องมาจากภูมิประเทศเป็นจังหวัดที่ติดทะเล มีการก่อตั้งท่าเรือแหลมฉบัง เป็นท่าเรือพาณิชย์สำคัญขนาดใหญ่ของประเทศไทยโดยนิคมอุตสาหกรรมที่ใกล้กับโครงการก็จะมี นิคมฯแหลมฉบัง และ นิคมฯเครือ สหพัฒน์ บริษัทตัวแทนจำหน่ายสินค้า อุปโภคบริโภคขนาดใหญ่ของคนไทย ถัดออกไปก็จะมีนิคมฯอื่นๆ เช่น นิคมฯ ปิ่นทอง, เหมราช, บ่อวิน, อมตะซิตี้ และ อีสเทิร์นซีบอร์ด ซึ่งการรวมกันนิคมทั้งหลาย ทำให้พื้นที่บริเวณนี้กลายเป็นแหล่งงานที่สำคัญ มีแรงงานเข้ามาทำงานจำนวนมาก และเนื่องจากอุตสาหกรรมหลายแห่งนั้นมาจากประเทศญี่ปุ่น จึงทำให้มีผู้บริหารและพนักงานจากญี่ปุ่นเข้ามาทำงานในบริเวณนี้ด้วย ส่งผลให้พื้นที่บริเวณนี้ มีความต้องการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก ดังนั้นผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่รายเล็กจึงเข้ามาพัฒนาโครงการเพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่มองหาที่อยู่อาศัยบริเวณนี้ ทั้งคอนโดมิเนียม และ โครงการแนวราบ
จุดที่เป็นแหล่งการขนส่งหลักจากเรือในแทบบริเวณนี้ก็จะมีท่าเรือศรีราชาฮาเบอร์, เคอรี่ สยาม ซีพอร์ต และที่สำคัญที่สุด นิคมแหลมฉบัง อ้อ..ยังมี บมจ.ไทยออยล์ ที่เป็นอุตสาหกรรมปิโตรมาอีกเจ้า พวกที่พูดถึงพวกนี้ เป็นบริษัทและท่าเรือทั้งหลายที่สำคัญในโซนนี้ ที่มีแรงงาน บุคลากรมากมายทำงานอยู่ มีทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ทำให้ชุมชนศรีราชาถึงขยายและเติบโตในเรื่องที่อยู่อาศัยอย่างรวดเร็วมากๆในระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา ถึงขนาดที่ว่าราคาที่ดินบางจุดแถวนี้ใน 3 ปีที่ผ่านมาพุ่งขึ้นเกือบเท่าตัวจากเดิมเลย และทำให้ผู้ประกอบการหลายเจ้ากล้ามาลงทุนในตลาดคอนโดมิเนียมให้เกิดขึ้นมานั่นเอง
ความอุดมสมบูรณ์ ห้างสรรพสินค้าและแหล่งกินเที่ยวต่างๆจะมีอยู่บนถนนสุขุมวิท ได้แก่ห้างโรบินสัน(แปซิฟิคพาร์ค) ห้างฮาร์เบอร์ มอลล์ ห้างตึกคอม อีกทั้งยังมีห้างเก๋ๆสไตล์ญี่ปุ่นที่เพิ่งเปิดมาไม่นานมากอย่าง J PARK และ AEON Center ที่อยู่บริเวณโรงเรียน อัสสัมชัญให้เปลี่ยนบรรยากาศกันอีกด้วย ส่วนพวกตลาดนัด ตลาดสดนี่ก็มีให้เลือกหลายที่แล้วแต่สะดวกและชินทำเลไหน เช่น ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดสดศรีราชา ตลาดวรกิจ เป็นต้น
นอกจากนั้นยังมีการขยายถนน 331 เพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมทางบกให้เกิดความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รองรับการขนส่งสินค้าไปยังท่าเรือแหลมฉบังสำหรับนิคมใหญ่ที่สำคัญของภาคตะวันตก
การเดินทางจากกรุงเทพฯมุ่งหน้าเข้าสู่ศรีราชาสามารถมาได้หลายเส้นทาง ได้แก่
- เส้นทางแรก – ซึ่งเป็นทางที่เราเลือกเดินทางในวันนี้ เริ่มจากมอเตอร์เวย์วิ่งมาเข้าทางที่จะไปสวนเสือศรีราชา จากนั้นกลับรถเข้าสู่ถนน ศรีราชา – หนองค้อ หรือซอย โรงเรียน อัสสัมชัญ วิ่งมาออกถนน สุขุมวิท มุ่งหน้า ม.เกษตรศรีราชา จากนั้นกลับบริเวณแยกอ่าวอุดมแล้วชิดซ้ายเตรียมเข้าโครงการ
- เส้นทางที่ 2 – จากมอเตอร์เวย์ หรือ บายพาสสาย 7 สามารถเลี้ยวขวาจากมอเตอร์เวย์เพื่อเข้าสู่บายพาสแหลมฉบัง จากนั้นเลี้ยวเข้าถนน สุขุมวิท มุ่งหน้าเข้าสู่โครงการ
จากถนนมอเตอร์เวย์ เลี้ยวไปทางสวนเสือศรีราชา จากนั้นกลับรถมาเข้าถนนเส้นนี้ ซึ่งก็คือ ถนน ศรีราชา – หนองค้อ หรือซอย โรงเรียน อัสสัมชัญ เข้าถนนเส้นนี้มาประมาณ 300 เมตรก็จะเจอ J Park ห้างเก๋สไตล์ญี่ปุ่น
มุ่งหน้าต่อมาเรื่อยๆจนเกือบจะถึงหน้าปากซอย จะเจอโรงเรียน อัสสัมชัญ ศรีราชา อยู่ทางฝั่งขวา ช่วงเวลาเข้าเรียนและเลิกเรียนการจราจรเส้นนี้จะค่อนข้างติดขัดทีเดียวค่ะ
ตรงมาอีกนิดจะเจอกับทางไปห้าง AEON
ห้าง AEON เป็นห้างในเครือของ ผู้ดำเนินกิจการซุปเปอร์มาร์เก็ตในนาม “แม็กซ์แวลู” (Maxvalu) ที่เปิด คอมมูนิตี้มอลล์ จับกลุ่มลูกค้าเป็นคนในพื้นที่
พอถึงปากซอยแล้วเลี้ยวซ้ายไปเข้าถนน สุขุมวิท(ทล.3) ค่ะ จากแยกนี้ถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นทางไปห้างโรบินสัน(แปซิฟิคพาร์ค)
แยกไฟแดงข้างหน้าคือแยกเก้ากิโลนั่นเอง ถนนเก้ากิโลเป็นถนนที่เชื่อมไปสู่ถนนมอเตอร์เวย์ และไปสิ้นสุดแถวเครือสหพัฒน์ทำให้มีชุมชนอยู่อาศัยค่อนข้างมากอยู่พอสมควร และที่สำคัญยังมีทางลัดเลาะไปออกถนนเขาน้ำซับสิ้นสุดบริเวณก่อนถึงม.เกษตรศาสตร์ ศรีราชาด้วย
ตรงต่อมาตามถนนสุขุมวิท ทางฝั่งซ้ายจะเจอห้างตึกคอม แหล่งรวมสินค้าไอทีของคนศรีราชา
ตรงต่อมาเรื่อยจะเจอ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตศรีราชา โครงการจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยพอดีค่ะ
จากนั้นเราต้องตรงไปกลับรถใต้สะพาน ระวังอย่าเผลอขึ้นสะพานไปนะคะเพราะจะเลยไปค่อนข้างยาว
กลับรถใต้สะพาน บริเวณไฟแดงข้างหน้าคือแยกอ่าวอุดม
พอกลับรถมาแล้วให้ค่อยๆชิดซ้ายเอาไว้ ก็จะถึงโครงการ Kensington แหลมฉบัง – ศรีราชา หน้าโครงการมีสะพานลอยเดินข้ามไป ม.เกษตรได้เลย และมี Community mall อยู่ด้านหน้าด้วย
Community mall ที่อยู่หน้าโครงการชื่อ PORTOBELLO MALL เปิด 24 ชั่วโมง ภายในมีร้านมาลงบ้างแล้วคือ KFC และในอนาคตจะมี 7-11 ร้านกาแฟ Too Fast Too Sleep ร้านหมอฟัน ร้านน้ำ และ ร้านขนม จากโครงการสามารถเดินออกมาหาอะไรทานได้สะดวก
โดยสำนักงานขายจะอยู่ชั้น 1 ของ Community mall แห่งนี้ค่ะ
ถัดจาก Community mall มาหน่อยก็จะเจอกับทางเข้าโครงการ
เลี้ยวเข้ามาทางฝั่งซ้ายคือ PORTOBELLO MALL ถัดไปเป็น Kensington แหลมฉบัง – ศรีราชา ฝั่งขวาตึกสูงๆสีขาวคือ Notting Hill แหลมฉบัง-ศรีราชา และที่เห็นล้อมรั้วอยู่คือ โรงแรม Holiday Inn ค่ะ เรียกได้ว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีครบอยู่ในที่เดียว
เดี๋ยวเราจะเข้าไปดู Kensington แหลมฉบัง – ศรีราชา กัน
มาดูสภาพแวดล้อมโดยรอบกันค่ะ โครงการ Kensington แหลมฉบัง – ศรีราชา ตั้งอยู่ใน Origin District ที่ดินแปลงใหญ่พื้นที่โดยรวมประมาณ 14 ไร่ ประกอบด้วยคอนโดทั้ง High Rise , Low Rise , คอมมูนิตี้มอลล์ และ โรงแรม ถือว่าเป็นการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ในเมืองนี้ ด้านหน้าโครงการติดกับถนน สุขุมวิท ซึ่งฝั่งตรงข้ามเป็นมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา ทางทิศเหนือติดกับโชว์รูม Chevrolet ซึ่งมีถนนเล็กๆใช้ลัดไปออกซอยอ่าวอุดมได้ แต่ทางอาจจะเปลี่ยวหน่อย ด้านข้างโครงการฝั่งทิศใต้ติดกับปั๊มแก๊ส Dgas ด้านหลังโครงการเป็น เคอรี่ สยาม ซีพอร์ต
ส่วนสภาพแวดล้อมด้านใน Origin District โครงการ Kensington ทั้งเฟส 1 และ เฟส 2 จะอยู่ฝั่งตรงข้ามคอนโด Notting Hill สูง 36 ชั้น และ โรงแรมซึ่งเป็นอาคารสูงเหมือนกัน ทางเข้าออกของทั้ง 2 เฟสจะแยกกันชัดเจน สามารถเข้าถึงได้โดยถนนภาระจำยอมของโครงการที่ตัดเข้ามาจากถนนใหญ่
ฝั่งทิศเหนือติดกับทางเข้า เคอรี่ สยาม ซีพอร์ต มีรถวิ่งเข้า-ออก ตลอดเวลา ถนนเส้นนี้สามารถใช้เป็นทางไปซอยอ่าวอุดมได้ ถัดไปเป็นโชว์รูม Chevrolet
ด้านหน้าโครงการติดกับถนน สุขุมวิท(ทล.3) และ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต ศรีราชา
ฝั่งทิศใต้ติดกับปั๊มแก๊ส Dgas มีร้านกาแฟเล็กๆตั้งอยู่
ด้านหลังโครงการติดกับ เคอรี่ สยาม ซีพอร์ต
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- ม.เกษตร วิทยาเขต ศรีราชา ~ 30 ม.
- นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ~ 5 ก.ม.
- Habour Mall ~ 5.9 ก.ม.
- ตึกคอม ~ 7 ก.ม.
- โรบินสัน ศรีราชา ~ 7.7 ก.ม.
- โรงเรียน อัสสัมชัญ ศรีราชา ~ 8.2 ก.ม.
- สหกรุ๊ป ศรีราชา ~ 9.8 ก.ม.
- อิออน ศรีราชา ~ 10.9 ก.ม.
- J-Park ~ 13.4 ก.ม.
Origin District เป็นโครงการ Mixed Use ขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 14 ไร่ประกอบด้วย
- คอนโดมิเนียม 2 โครงการ ได้แก่
- Kensington แหลมฉบัง-ศรีราชา
- Notting Hill แหลมฉบัง-ศรีราชา
ภาพจำลองบรรยากาศตอนโครงการเสร็จครบทั้งหมดแล้วก็จะเป็นประมาณนี้ค่ะ
โดยโครงการที่เราจะพาไปเดินชมตึกเสร็จในวันนี้คือ Kensington แหลมฉบัง – ศรีราชา เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น มีทั้งหมด 2 เฟส แต่ละเฟสมี 2 อาคาร จำนวนยูนิตเฟสละ 399 ยูนิต การออกแบบของทั้ง 2 เฟสเหมือนกัน คือ ตัวอาคารทั้งสองเป็นรูปตัว L วางหันหน้าเข้าหากัน ออกแบบภายใต้แนวคิด “Modern Loft” ภายนอกอาคารตกแต่งด้วยโทนสีเทา ขาว และมีการใช้วัสดุ เช่น เหล็ก, อิฐโชว์แนวผสมอยู่ด้วย ชั้นล่างเป็นชั้นของ Facility คือ ที่จอดรถ ล็อบบี้ ฟิตเนส และ สระว่ายน้ำ ชั้น 2 – 8 จึงเป็นห้องพักอาศัย ชั้นบนสุดของทุกอาคารจะมีสวนดาดฟ้าเอาไว้ให้ขึ้นไปนั่งเล่นรับลม เดี๋ยวเราจะพาเข้าไปดูบรรยากาศกันนะคะ
ก่อนอื่นมาดูผังกันก่อน เนื่องจากแปลนของทั้งเฟส 1 และ เฟส2 คล้ายๆกันต่างกันที่การวางทิศทางของตัวอาคาร เราได้แปลนจากทางโครงการเฉพาะเฟส 2 มา จึงขอนำเอาผังอาคาร C , D มาอธิบายนะคะ จากในผังเข้ามาในโครงการชั้นล่างจะเจอกับ Drop off เล็กๆ ก่อนจะเจอกับที่จอดรถ ซึ่งสามารถจอดได้รอบๆโครงการมีทั้งหมด 93 ช่องจอด ไม่รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น23% รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 31% ตรงกลางระหว่าง 2 อาคารเป็นลาน Bar B Q และสระว่ายน้ำ ระบบเกลือขนาด 5 x 25 เมตร ลึก 1 เมตร ด้านในอาคาร D จะมีฟิตเนสอยู่ Lobby และ Lounge จะมีอยู่ทั้ง 2 อาคาร ส่วนนอกนั้นจะเป็นพื้นที่ของห้องงานระบบในอาคาร สำหรับลิฟต์โครงการมีลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว ไม่มีลิฟต์ Service อัตราส่วนลิฟต์อาคารละประมาณ 100:1 ซึ่งเป็นอัตราส่วนตามมาตรฐานค่ะ
ตัวอาคารที่เราจะพาเข้าไปเดินดูจะเป็นเฟส 1 อาคาร A,B โดยเฟส 2 ตอนนี้ก็สร้างเสร็จแล้วเหลือเก็บงานอีกนิดหน่อยนะคะ เริ่มจากทางเข้าอาคารตกแต่งตาม Concept “Modern Loft” ใช้อิฐสีแดง ระบบรักษาความปลอดภัยด้านหน้าโครงการจะมี รั้วกั้นไม้กระดก CCTV และพี่ยามที่ดูแลให้ 24 ชั่วโมง
Key Card Access เป็นแบบระยะใกล้ค่ะ ทาบบัตรที่ตรงนี้
พอขับรถเข้ามาจะบังคับเลี้ยวไปตามทาง เป็นแบบ One Way อาคารที่เราเห็นอยู่ทางซ้ายคืออาคาร A
ตรงมาจะมีทางบังคับเลี้ยวไปด้านหลังโครงการ
พอเลี้ยวมาจะเจอกับที่จอดรถจักรยานยนต์
ถัดมาจึงเป็นที่จอดรถยนต์ค่ะ โดยจอดได้เฟสละ 93 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 23% รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 31%
บริเวณนี้มีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญ
เดี๋ยวเราเข้าไปดู Lobby อาคาร A กันค่ะ ซึ่งฝั่งด้านหน้าจะเป็นบานกระจกบานใหญ่โดยรอบ
บานกระจกบริเวณทางเข้าจะสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดานเลย รับแสงได้เต็มที่ สำหรับทางเข้าต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าไปค่ะ
เข้ามาจะเจอกับ Lobby แบบ Double Space ให้บรรยากาศโปร่งโล่ง มีจัดชุดที่นั่งเป็นโซฟามาให้หลายจุด
จากโถงชั้นล่างจะมีทางเดินขึ้นไปที่ชั้น 2 ได้เลยซึ่งจะต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าไปอีกจุดหนึ่ง
ทางฝั่งซ้ายเป็นทางไปสำนักงานนิติบุคคล และ ทางเข้าโถงลิฟต์
เดินถัดมาจะเจอกับเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์และมุมนั่งพักผ่อนรับวิวสวนส่วนกลาง
มองออกไปจะเห็นวิวเป็นสวนหย่อมและสระว่ายน้ำแบบนี้ค่ะ มานั่งพักคอย พักผ่อนอ่านหนังสือได้
ด้านหลังเป็นทางเข้าโถงลิฟต์ และ ทางฝัั่งขวาคือประตูออกไปยังพื้นที่ส่วนกลาง
ก่อนทางเข้าโถงลิฟต์จะมีห้องน้ำแยกชาย-หญิง สำหรับแขกหรือใช้เวลาเร่งด่วน
บรรยากาศภายในห้องน้ำค่ะ
ทางเข้าโถงลิฟต์ต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าไป
ซึ่งพอเข้ามาแล้วก็จะเจอโถง ทางฝั่งซ้ายเป็นตู้จดหมาย ฝั่งขวาเป็นลิฟต์
ตู้จดหมายจะแยกอาคารใครอาคารมัน อยู่บริเวณโถงลิฟต์ของทุกอาคารใช้งานสะดวก
ลิฟต์โดยสารมีอาคารละ 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้ง 2 อาคารเท่ากับ 99.75 : 1
ผนังบริเวณนี้ตกแต่งด้วยหินแกรนิตสีดำ ประตูข้างๆเป็นทางออกไปยังที่จอดรถ
กลับออกมาเพื่อไปดูพื้นที่ส่วนกลางกันค่ะ จาก Lobby ต้องเดินผ่านประตูนี้ออกไป
พื้นที่ส่วนกลางบริเวณนี้จะประกอบด้วย สวนหย่อม สระว่ายน้ำ ห้องสมุด และ ฟิตเนส
มีที่นั่งจัดมาเป็นชุดๆให้นั่งพักผ่อนกลางสวน
อีกฝั่งหนึ่งเป็นสวน
เดินถัดมาจะเจอกับสระว่ายน้ำ ตัวอาคารทั้งสองเป็นรูปตัว L วางซ้อนกัน จึงทำให้เกิด Space ภายในที่โอบล้อมพื้นที่ส่วนกลาง คนที่อยู่ห้องพักฝั่งด้านในอาคารมองลงมาก็จะเห็นเป็นวิวสวนและสระค่ะ
สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ ขนาด 5 x 25 เมตร ลึก 1.2 เมตร
รอบๆสระจัดเป็นสวนและที่นั่งแบบเล่นระดับ
ด้านข้างสระว่ายน้ำเป็นสวนและทางเดินไปยังฟิตเนส
ข้างสระมีที่นั่งพักผ่อนแบบม้านั่งยาวมาให้ด้วย นั่งเล่นนอนเล่นริมสระได้
ด้านหลังสระว่ายน้ำมาจะเป็น ลาน BBQ มีเคาน์เตอร์บาร์พร้อมที่นั่งเอาไว้สำหรับจัดปาร์ตี้หรืองานสังสรรค์อื่นๆได้
ถัดมาเป็นพื้นที่ล้างตัวก่อน-หลังลงสระว่ายน้ำและห้องน้ำ
ห้องน้ำมีแยกมาให้ทั้งชาย-หญิง พอออกกำลังกายเสร็จก็มาใช้อาบน้ำ ล้างตัวก่อนกลับห้องพัก
ภายในมีครบทั้งอ่างล้างหน้า ผนังด้านหลังเป็นกระจกเงาบานใหญ่ให้เราแต่งตัว แต่งหน้าได้เต็มที่
มีตู้ล็อคเกอร์เอาไว้เก็บเสื้อผ้า มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำให้ใช้ครบ
บรรยากาศภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำค่ะ
ในอาคาร B จะมีพื้นที่ส่วนกลางคือฟิตเนสและห้องสมุดซึ่งคนที่จะมาใช้สามารถเข้าได้จากในอาคาร B และ ประตูด้านนอกถัดจากลาน BBQ ไป
ห้องฟิตเนสสามารถมองวิวสวนได้ อีกฝั่งติดตั้งกระจกเงาให้ดูท่าทางเวลาออกกำลังกาย วางเครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 5-6 เครื่อง
ห้องสมุดจะต้องเดินขึ้นบันไดนี้ไปชั้นบนค่ะ
ขึ้นมาก็จะเจอกับห้องสมุด เป็นห้องแอร์กั้นห้องเอาไว้เป็นสัดส่วน
ห้องสมุดนี้เราสามารถมาใช้พื้นที่นั่งอ่านหนังสือหรือทำงานได้ หรือถ้าอยากใช้เป็นห้องประชุมก็สามารถจองห้องกับนิติบุคคลได้
กลับลงมาที่ห้องฟิตเนส จะมีทางออกที่เชื่อมต่อกับ Lobby อาคาร B แบบนี้
ออกมาก็จะเจอกับโถงลิฟต์อาคาร B ก่อน
บริิเวณโถงลิฟต์ หน้าห้องฟิตเนสก็จะมีตู้จดหมายของคนที่อยู่ในอาคารนี้ค่ะ
สำหรับ Lobby ของอาคาร B เป็น Double Space มีความโปร่งโล่งและตกแต่งในสไตล์เดียวกัน แต่จะมีขนาดเล็กกว่าอาคาร A หน่อย เพราะพื้นที่ส่วนหนึ่งเอาไปทำเป็นห้องฟิตเนสและห้องสมุด
มีมุมที่นั่งมองออกไปเห็นวิวสวนด้วย
Lobby อาคาร B นี้ก็สามารถเข้าได้จากที่จอดรถค่ะ ด้านหน้าเป็นผนังกระจกโดยรอบแบบนี้
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเริ่มเป็นส่วนของห้องพักแล้วค่ะ ชั้นนี้อาคาร C มีจำนวนห้องพัก 25 ห้อง ส่วนอาคาร D มี 26 ห้อง ตัวอาคารจะเป็นรูปตัว L หันหน้าเข้าหากันซึ่งจะมีห้องที่เห็นวิวห้องฝั่งตรงข้ามของอีกอาคาร และ ห้องที่เห็นวิวภายนอกโครงการ วางผังอาคารวางในแนวตะวันออก – ตะวันตกซึ่งจะมีห้องที่อยู่อาคาร C ทางทิศตะวันตกได้รับแดดร้อนในช่วงบ่าย ห้องพักชั้นนี้มีห้องอยู่ทั้งหมด 3 Type ห้องที่มีจำนวนเยอะที่สุดคือ 1 ห้องนอน 24.5 ตารางเมตร ส่วนห้องสตูดิโอ 22.5 ตารางเมตรจะอยู่บริเวณหัวมุมของตัวอาคาร ลิฟต์โดยสารมีอยู่ 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ต่ออาคารเท่ากับประมาณ 100 : 1 ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานพอดีแต่ในช่วงเวลาเร่งด่วนก็อาจจะต้องมีรอกันบ้าง
ชั้น 3 – 8 แปลนคล้ายกับชั้น 2 ต่างกันตรงที่จะมีห้องพักมากกว่า โดยทั้งอาคาร C และ D มีห้องทั้งหมด 29 ห้อง และ มีห้อง 1 Bedroom Plus (ห้องที่ลงสีส้ม) 34 ตารางเมตรเพิ่มเข้ามาอยู่บริเวณมุมอาคารฝั่งหัวตัว L ใกล้กับบันไดหนีไฟ
บรรยากาศการตกแต่งโถงลิฟต์ด้านบนอาคารก็คล้ายๆกับชั้นล่าง
โถงทางเดินจะมีช่องแสงบริเวณปลายทาง ทำให้ไม่มืดทึบ ตกแต่งด้วยโทนสีขาว-ครีม
สุดท้ายคือชั้นดาดฟ้า ของทุกอาคารจะมีสวนอยู่ ให้เราออกมาสูดอากาศหรือนั่งเล่นได้
บรรยากาศของสวนดาดฟ้าค่ะ
สำหรับเฟส 2 ต้องเดินถัดเข้าไปด้านในอีกค่ะ
ซึ่งการตกแต่งและรูปแบบของส่วนกลางจะเหมือนกับเฟสแรกเลยต่างกันที่การวางตำแหน่งตัวอาคารเท่านั้นเอง
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
พื้นที่ส่วนกลางต่อเฟส (มีทั้งหมด 2 เฟส)
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5 x 25 เมตร ลึก 1.2 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 6 เครื่อง
- ห้องสมุด
- Lobby / Lounge
- ลาน BBQ
- ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว อาคารละ 2 ตัว ไม่มีลิฟต์บริการ
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้ง 2 อาคาร 99.75 : 1
- ที่จอดรถ 93 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 23% รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 31%
- ระบบ CCTV / Access Card
ห้องตัวอย่างของโครงการนี้มีทำมาให้ดูเพียงห้องเดียวคือ ห้อง 1 ห้องนอน 24.5 ตารางเมตร ซึ่งเป็นห้องที่มีจำนวนมากที่สุด โดยเฟอร์นิเจอร์โครงการให้แบบ Fully – Furnished คือให้ชุดครัว สุขภัณฑ์พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ แอร์ และเฟอร์นิเจอร์ พร้อมมีเครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวี ตู้เย็น Microwave มาให้ด้วย แต่ไม่มีเครื่องดูดควันและเตาไฟฟ้ามาให้ค่ะ แอร์มี แถม 2 ตัว/ห้อง ส่วน ห้อง 1 Bedroom plus ให้แอร์ 3 ตัวค่ะ
มาชมห้องตัวอย่างของโครงการกัน คือแบบ 1 ห้องนอน 24.5 ตารางเมตร เข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน โดยในแปลนวางโซฟา 3 ที่นั่งมีโต๊ะกลาง 1 ตัวแต่เราสามารถปรับเป็นโซฟา 2 ที่นั่งแล้วเพิ่มชุดทานข้าวเล็กๆอีก 1 ชุดได้นะคะ ถัดไปเป็นห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนซึ่งถ้าเลื่อนเปิดหมดจะทำให้พื้นที่ห้องนั่งเล่นกับห้องนอนต่อเนื่องกัน บานเลื่อนกระจกยังช่วยให้ในเวลากลางวันแสงธรรมชาติจะเข้ามาถึงในห้องรับแขกด้วยทำให้ห้องไม่มืดทึบ ถ้าเวลานอนเราอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็หาม่านมาปิดเอาค่ะ ส่วนทางฝั่งซ้ายจะแยกพื้นที่ออกเป็นห้องครัวกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ข้อดีคือพอเป็นครัวปิดเวลาเราทำอาหารจะช่วยกันไม่ให้กลิ่นลอยออกไปทั่วห้อง เคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว I ขนาดไม่ใหญ่มากเหมาะกับการใช้งานแค่อุ่นอาหารง่ายๆ โดยพื้นที่ครัวจะติดกับระเบียงเล็กๆสามารถวางเครื่องซักผ้าได้ ถัดจากครัวเป็นห้องน้ำกั้นด้วยกระจกบานเลื่อนซึ่งทำให้ประหยัดพื้นที่ มีแยกส่วนแห้ง ส่วนเปียก พื้นที่อาบน้ำค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับห้อง Scale นี้ การวางผังโดยรวมถือว่าจัดพื้นที่เป็นสัดส่วนดี เราไปดูภายในห้องกันต่อค่ะ
ประตูเป็นบานไม้ลามิเนต ให้มาพร้อม Digital Door Lock
Digital Door Lock หน้าตาแบบนี้เลย
พื้นในห้องจะมีการยกระดับขึ้นเล็กน้อยเพื่อกันฝุ่นละออง มีคิ้วไม้เก็บงานเป็นระเบียบเรียบร้อย
เข้ามาในห้องจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน โดยห้องตัวอย่างวางโซฟายาวแบบ 3 ที่นั่ง 1 ตัว ถัดไปเป็นห้องนอนกั้นด้วยบานกระจกบานเลื่อน แบบ 3 ตอน ทางฝั่งขวาเป็นทางไปห้องครัวและห้องน้ำ ตามปกติโครงการทั่วๆไปจะให้พื้นเป็นลามิเนต แต่พื้นของห้องนี้เป็นกระเบื้องยางลายไม้ ซึ่งข้อดีคือจะค่อนข้างทนทานต่อรอยขีดข่วน ทนความชื้นได้พอสมควร ติดตั้งและซ่อมแซมง่าย
ห้องนั่งเล่นจัดวางโซฟา 3 ที่นั่ง มีโต๊ะกลางไว้หนึ่งตัว สามารถใช้วางของหรือทานข้าวได้ ระยะดูทีวีประมาณ 1.50 เมตรซึ่งสามารถวางทีวีประมาณ 32 – 40 นิ้วได้
โซฟาวางได้แบบ 3 ที่นั่ง และมีพื้นที่วางโต๊ะกลางได้
ฝั่งตรงข้ามโซฟามีชั้นวางทีวีมาให้
ชั้นวางทีวีเปิดออกมาแล้วเก็บของได้ตามภาพ
ถัดจากห้องนั่งเล่นเป็นห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กรอบบานอะลูมิเนียมสีดำ ซึ่งเวลากลางวันแสงธรรมชาติก็จะเข้ามาถึงห้องนั่งเล่น ทำให้ห้องไม่มืดทึบ ถ้าเวลาที่เราอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็ให้หาม่านมากั้นเอาค่ะ
พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับห้องนอนแบบนี้ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน
เข้าห้องมาก็จะเจอกับเตียงนอน 5 ฟุต ทางโครงการให้เตียงรวมฟูกด้วย
ทางด้านขวาเตียงวางเกือบชิดผนังเลย มีระยะให้ม่านรูดผ่านเพียงนิดเดียว ส่วนทางฝั่งซ้ายเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะข้างเตียงเล็กๆได้
ปลายเตียงมีระยะเหลือพอประมาณ เดินผ่านได้สบายๆ
ผนังข้างเตียงมีหน้าต่างบานเลื่อนกระจก กรอบอะลูมิเนียมสีดำ เอาไว้ให้เปิดรับลม ชมวิว โดยเลื่อนเปิดได้ 2 บานอีกบานเป็นบาน Fix
ปลายเตียงมีโต๊ะเครื่องแป้งกับตู้เสื้อผ้า เป็นตู้บานเลื่อนเหมาะกับใช้ในพื้นที่จำกัด เวลาเปิดบานตู้ไม่ต้องกลัวว่าจะมาชนกับปลายเตียง โต๊ะเครื่องแป้งที่โครงการแถมให้ขนาดกะทัดรัด พอมีพื้นที่วางของบนโต๊ะได้ ด้านล่างมีลิ้นชักเอาไว้เก็บของเล็กๆน้อยๆ
ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนยาวประมาณ 1 เมตร ขนาดกะทัดรัดเหมาะกับการใช้งานในคอนโดห้องเล็กๆ เปิดออกมาเก็บของได้ตามภาพ
ด้านในมีชั้นวางของมาให้ด้วย
ออกจากห้องนอนมา จะเป็นทางไปห้องครัวและห้องน้ำกั้นด้วยกระจกบานเลื่อน ทำให้ห้องครัวเป็นครัวปิด พื้นกระเบื้องยางลายไม้ยาวไปจนถึงห้องครัว ซึ่งกระเบื้องยางมีคุณสมบัติกันความชื้นได้ในระดับหนึ่ง สามารถเช็ด ล้าง ทำความสะอาดได้
ทุกห้องทางโครงการจะติดตั้งแอร์ ยี่ห้อ Daikin มาให้
ครัวเป็นครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนมาให้
ภายในห้องครัว เป็นครัวปิดเวลาทำอาหารพอปิดประตูก็จะช่วยกันในเรื่องของกลิ่นที่จะเล็ดลอดออกไปกวนห้องอื่นๆได้ ติดกับครัวเป็นระเบียงกั้นด้วยบานเลื่อนกระจก สามารถเปิดระบายอากาศในเวลาที่เราประกอบอาหารได้ ระเบียงมีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า
เคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว I ขนาดไม่ใหญ่มากเหมาะกับการใช้อุ่นอาหารง่ายๆ แต่ถ้าอยากทำอาหารแนะนำให้ซื้อเตาไฟฟ้าแบบพกพามาติดห้องไว้ เวลาไม่ใช้งานก็สามารถยกไปเก็บในตู้ได้ วัสดุเคาน์เตอร์เป็นโครงไม้ปิดผิวเมลามีน Top เคาน์เตอร์เป็นลามิเนตลายหิน ไม่มีเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และ แนวผนังกันเปื้อนมาให้ ด้านล่างเคาน์เตอร์มีช่องสำหรับวาง ไมโครเวฟ
อ่างล้างจานเป็นแบบหลุมเดียวของ Hafele
ด้านบนและด้านล่างเป็นชั้นเก็บของ
ติดกับครัวเป็นพื้นที่ระเบียง กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน
Condensing Unit ของแอร์แขวนอยู่ด้านบน หันเข้าด้านข้าง ซึ่งเวลาออกมาใช้งานที่ระเบียงอาจจะร้อนโดนลมร้อนหน่อย เราสามารถติดตั้งที่ระแนงเปลี่ยนทิศทางแอร์เพิ่มเติมได้
วัสดุพื้นระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร แบบกันลื่น
อีกฝั่งหนึ่งเป็นห้องน้ำ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเช่นกัน การทำประตูห้องน้ำเป็นบานเลื่อนมีข้อดีคือทำให้ประหยัดพื้นที่
ในห้องพื้นและผนังปูด้วย กระเบื้องเซรามิคสีขาวขนาด 30 x 30 เซนติเมตรแบบกันลื่น จัดพื้นที่แยกส่วนแห้งกับส่วนเปียก เป็นสัดส่วน
อ่างล้างหน้าเราได้แบบนี้เลยพร้อมกระจกเงาด้านหลัง
อ่างล้างหน้าของ American Standard ด้านบนพอมีพื้นที่สำหรับวางของเล็กๆ เช่น สบู่ได้
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard พื้นที่ด้านข้างโถสุขภัณฑ์ค่อนข้างกว้าง ตำแหน่งที่วางทิชชู่ติดด้านข้างซึ่งทำให้เวลาหยิบใช้งานค่อนข้างสะดวก ด้านล่างอ่างล้างหน้ามีพื้นที่พอสำหรับวางถังขยะใบเล็กๆอย่างในภาพด้วย
พื้นที่อาบน้ำเป็นสัดส่วน ติดตั้งงานระบบสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้พร้อม
พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 0.80 x 1.50 เมตร ปูกระเบื้องมาให้เรียบร้อย
ชุดฝักบัวที่โครงการให้มาค่ะ
ฝักบัวของ American Standard ขนาดพอดีมือ ใช้งานง่าย
พื้นห้องน้ำมีลดระดับเพื่อกันน้ำไหลซึมออกนอกห้องและเพื่อความสะดวกในการซักล้าง
หน้าตาปลั๊กและสวิทช์ของที่โครงการให้ ยี่ห้อ Siemens
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 8 February 2018
- Studio 22.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.49 – 1.59 ล้านบาท
- 1 Bedroom 24.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.59 – 1.89 ล้านบาท
- 1 Bedroom plus 34 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท
- Fully – Furnished
- เพดานสูง 2.40 เมตร
- Kitchen & Sink
- จอง 5,000 บาท
- ทำสัญญา 30,000 – 40,000 บาท
- ค่ากองทุน 380 บาทต่อตารางเมตร
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเลของโครงการ Kensington แหลมฉบัง – ศรีราชา ตั้งอยู่ใน Origin District ที่ดินแปลงใหญ่พื้นที่โดยรวมประมาณ 14 ไร่ ประกอบด้วยคอนโดทั้ง High Rise , Low Rise , คอมมูนิตี้มอลล์ และ โรงแรม ทำเลอยู่ติดถนน สุขุมวิท(ทล.3) ตรงข้ามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา ซึ่งสามารถข้ามสะพานลอยไป ม.เกษตรได้เลย อีกทั้งด้านหลังของโครงการยังติดกับ เคอรี่ สยามซีพอร์ต บริษัทขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่สำคัญของศรีราชา และยังใกล้กับแหล่งนิคมอุตสาหกรรมอีกมากมาย เช่น นิคมฯแหลมฉบัง,เครือ สหพัฒน์ , ปิ่นทอง, เหมราช, บ่อวิน, อมตะซิตี้ และ อีสเทิร์นซีบอร์ด ทำให้กลุ่มลูกค้าของโครงการนี้จะมาได้จากทั้งนักศึกษา , บุคลากรในมหาวิทยาลัย และคนที่ทำงานในนิคม
ความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้ๆจะมี Portobello คอมมูนิตี้มอลล์ที่อยู่ใน Origin District ติดถนนใหญ่มีร้านค้าพอพึ่งพิงได้ และถนนสุขุมวิทจะมีห้างสรรพสินค้าและแหล่งกินเที่ยวต่างๆจะมีอยู่บนถนนสุขุมวิท ได้แก่ห้างโรบินสัน(แปซิฟิคพาร์ค) ห้างฮาร์เบอร์ มอลล์ ห้างตึกคอม อีกทั้งยังมีห้างเก๋ๆสไตล์ญี่ปุ่นที่เพิ่งเปิดมาไม่นานมากอย่าง J PARK และ AEON Center ที่อยู่บริเวณโรงเรียน อัสสัมชันให้เปลี่ยนบรรยากาศกันอีกด้วย ส่วนพวกตลาดนัด ตลาดสดนี่ก็มีให้เลือกหลายที่แล้วแต่สะดวกและชินทำเลไหน เช่น ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดสดศรีราชา ตลาดวรกิจ เป็นต้น
การเดินทางโดยใช้รถยนต์ถือว่าค่อนข้างสะดวก เนื่องจากอยู่ติดถนนใหญ่ที่สามารถเดินทางไปพัทยาหรือกรุงเทพได้ง่ายๆอีกทั้งยังมีเส้นทางใช้ลัดเลาะออกไปยังซอยอ่าวอุดม ซึ่งเป็นทางที่ใช้วิ่งไปบริษัท ไทยออยล์ , ท่าเรือ อ่าวอุดม และ เคอรี่สยามซีพอร์ต การจราจรบนถนนเส้นหลักในช่วงเวลาเร่งด่วนค่อนข้างติดขัดเนื่องจากรอบๆบริเวณนี้เป็นแหล่งรวมของนิคมอุตสาหกรรม โรงเรียนและมหาวิทยาลัยจำนวนมาก ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะก็มีรถเมล์ รถสองแถววิ่งผ่าน รวมทั้งพี่วินใกล้ๆโครงการ
วัสดุ อุปกรณ์ที่ให้มาตามมาตรฐานสำหรับราคานี้ แต่จะมีวัสดุปูพื้นที่ให้เป็นกระเบื้องยางลายไม้มา ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานกันน้ำได้ พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิค ส่วนเฟอร์นิเจอร์ขายเป็นแบบ Fully – Furnished ให้มาครบครันพร้อมแอร์ทุกห้อง เฟอร์นิเจอร์ให้ เตียงพร้อมฟูก ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และชั้นวางทีวี เป็นต้น ที่ดีคือเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ค่อนข้างจะโอเคและเข้าชุดกัน
การออกแบบ โดยรวมออกแบบมาได้ดี สวยน่าใช้งาน ตัวอาคารภายนอกดูเรียบเท่เข้ากับแนวความคิดโครงการ ในสไตล์ “Modern Loft” ใช้วัสดุ เช่น เหล็ก, อิฐโชว์แนว การวางผังให้ตัวอาคารซึ่งเป็นรูปตัว L หันหน้าเข้าหากัน เฟส 2 ตัวอาคารจะวางตัวในแนวตะวันออก – ตะวันตกซึ่งจะมีด้านที่อยู่ทางทิศตะวันตกได้รับแดดร้อนตอนช่วงบ่าย แต่เฟสแรกจะวางอาคารในแนวเหนือ-ใต้ ซึ่งจะไม่ร้อน การวางผังห้องต่างๆ โครงการนี้จะเน้นห้อง 1 ห้องนอน 24.5 ตารางเมตรเป็นหลัก ส่วนห้องอื่นๆ วางอยู่ตรงหัวมุมตัวอาคาร มีลิฟต์โดยสารเพียง 2 ตัว และเนื่องจากตัวอาคารเป็นรูปตัว L จะทำให้มีห้องที่เดินมาลิฟต์ไกลหน่อย การออกแบบห้องพักค่อนข้างลงตัว จัดพื้นที่ใช้สอยต่างๆได้ค่อนข้างครบ สามารถใช้งานได้จริง
สาธารณูปโภค มีให้ครบครันแยกเฟสใครเฟสมัน ทั้งสวนหย่อมรอบอาคาร สระว่ายน้ำระบบเกลือที่อยู่ตรงกลาง Court ลานBBQ ฟิตเนส ห้องสมุด Lobby และ สวนดาดฟ้า มีลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว ไม่มีลิฟต์ Service อัตราส่วนลิฟต์อาคารละประมาณ 100:1 ซึ่งเป็นอัตราส่วนตามมาตรฐาน แต่การที่ไม่มีลิฟต์โดยสารเวลาที่แม่บ้านขนขยะ หรือ เราขนของใหญ่ๆ ห้องที่อยู่ใกล้ลิฟต์ก็อาจจะได้รับผลกระทบบ้าง ทางนิติบุคคลต้องบริการจัดการตรงนี้ให้ดีก็จะช่วยได้ค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคาประมาณ 60,000 บาท/ตร.ม., 8 February 2018
- ทำเล 8/10 – อยู่ตรงข้ามม.เกษตร ศรีราชาในระยะที่เดินถึง ด้านหลังเป็นเคอรี่ สยามซีพอร์ต มีซอยลัดไปออกแถวๆนิคมฯ มี Community mall
- เดินทางด้วยรถ 8.5/10 – ค่อนข้างสะดวกเพราะติดถนนสุขุมวิท และลัดเลาะออกมอเตอร์เวย์ได้ง่าย
- ไม่ใช้รถ 7.75/10 – มีรถเมล์ รถสองแถววิ่งผ่านโครงการตลอดเพราะติดถนนใหญ่ และมีรถตู้โทรจองคิววิ่งผ่านสาย พัทยา-ศรีราชา-กรุงเทพฯ
- วัสดุ 7.5/10 – วัสดุให้มาค่อนข้างดี มีเฟอร์นิเจอร์มาให้ ดีไซน์สวยเข้าชุดกัน
- แบบ 7.5/10 – ออกแบบทันสมัย การจัดวางผังห้องพักค่อนข้างลงตัว
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – ให้มาครบครันทั้ง มีสระว่ายน้ำ ลานBBQ ฟิตเนส ห้องสมุด สวนหย่อม และ สวนดาดฟ้า
- ECONOMY CLASS
- 7.86 / 10.00
BOTTOM LINE
Kensington แหลมฉบัง – ศรีราชา เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดแบบหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย ชอบโครงการที่อยู่ติดถนนใหญ่ เดินทางสะดวก หาของกินของใช้ง่าย ใช้รถส่วนตัวและพึ่งพารถโดยสารสาธารณะบ้าง ใกล้ม.เกษตรและแหล่งงาน นิคมอุตสาหกรรม มีงบประมาณ 1-2 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 7,000 – 14,000 บาท/เดือน