รีวิวฉบับที่ 1544 พาชมตึกเสร็จคอนโดหรูระดับ Ultimate Class กับโครงการ Ashton Residence 41 โครงการตั้งอยู่บนทำเลใจกลางเมืองย่านสุขุมวิท ในซอยสุขุมวิท 41 ใกล้รถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ เป็นคอนโดมิเนียม Low-Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร เน้นความเป็นส่วนตัวเพียง 79 ยูนิต ออกแบบดีไซน์หรูทันสมัยเป็นเอกลักษ์ของอนันดาฯ ทั้งตัวอาคาร ตัวห้องและพื้นที่ส่วนกลางที่แตกต่างจากโครงการทั่วไป ตอนนี้สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่เป็นที่เรียบร้อยจะเป็นอย่างไรเราไปชมพร้อมๆกันเลยค่ะ
Fact @ 2 March 2018
- Ashton Residence 41 Condominium (แอชตัน เรสซิเดนซ์ 41 คอนโดมิเนียม)
- Ananda Development Plc.
- ULTIMATE CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ซอยสุขุมวิท 41 เขตวัฒนา
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 79 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 7 ยูนิตที่อาคาร B
- ที่จอดรถประมาณ 160 คันคิดเป็น 202 % เป็นที่จอดรถแบบทั่วไปและระบบ Mechanical parking
- ที่ดินประมาณ
- 1-3-6
- 5 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : ส.ค. 2015
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : มิ.ย. 2017
2 Bedroom 67.49 – 75.45 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 15.8 ล้านบาท2 Bedroom 74 ตร.ม. เริ่ม 17.89 ล้านบาท* (update 30/7/2024)- 3 Bedroom 121.99 ตร.ม.
ราคาเริ่มต้น 28.3 ล้านบาท(Sold out) - Duplex 2 Bedroom 122.15 – 124.82 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 31.5 ล้านบาท
- Duplex 3 Bedroom
130.98 – 215.57 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 28 ล้านบาท(3 ยูนิตสุดท้าย) เริ่ม 27.75 ล้านบาท* (update 30/7/2024) - ฝ้าเพดานสูง 2.8 เมตร , Duplex 4.8 เมตร
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 266,547 บาท/ตร.ม.
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร ต่ำสุด 208,220 บาท/ตร.ม. สูงสุง 359,952 บาท/ตร.ม.
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร :02-316-2222
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ
พิกัด : 13.732878, 100.573578
แผนที่จากทางโครงการ ที่ตั้งของโครงการ Ashton Residence 41 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 41 อยู่ห่างจาก สถานีรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ ประมาณ 600 m.
จุดเด่นสำคัญของโครงการคืออยู่ห่างจาก BTS พร้อมพงษ์ 600 เมตร ซึ่ง BTS สถานีที่เชื่อมต่อ 2 สถานีคือ BTS อโศก เป็นสถานีที่ติดกับ Terminal 21 ที่รู้จักกันว่ามี Food Court ที่ถูกและดี และยังเป็นสถานีที่ Interchange กับ MRT สุขุมวิท ดังนั้นโครงการจึงได้ความใกล้ MRT มาด้วย อย่าง MRT สถานีที่ติดกับ MRT สุขุมวิท คือ MRT เพชรบุรี ซึ่งเป็นสถานี Interchange กับ Airport Rail Link มักกะสัน ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้ ส่วนอีกสถานีคือ BTS ทองหล่อ ซึ่งหากลงสถานีนี้จะสามารถไปยังซอยทองหล่อ ซึ่งเป็นย่านที่มี lifestyle mall อยู่หลายที่เช่น J Avenue และคึกคักไปด้วยชาวต่างชาติและคนไทย มีร้านอาหารหลากหลาย
แม้ว่าซอยสุขุมวิท 41 จะเป็นซอยตัน แต่เมื่ออกมาจากซอยก็สามารถไปเข้าทางฝั่งถนนสุขุมวิทต้องเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 49 มาวนออกทางซอยพร้อมมิตรไปซอยสุขุมวิทอื่นๆ เป็นซอยที่ลัดเลาะทะลุไปออกได้ตั้งแต่ อโศก ประสานมิตร สวัสดี พร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย โดยไม่ต้องผ่านถนนใหญ่สุขุมวิท เป็นการหลีกเลี่ยงรถติดไปในตัว จากภาพได้ทำลูกศรกำหนดเส้นทางการเดินรถเอาไว้ให้แล้วค่ะ
การเดินทางไปโครงการในวันนี้จะเริ่มจากสถานีรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ เลือกออกทางออกหมายเลข 3 เพื่อมาลงทางฝั่งสุขุมวิทฝั่งเลขคี่ แล้วเดินตรงมาอีกประมาณ 180 m. ก็จะเจอซอยสุขุมวิท 41 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยแล้วเดินตรงมาเรื่อยๆอีกประมาณ 400 m. ที่ตั้งโครงการจะอยู่สุดซอยพอดีค่ะ รวมระยะทางทั้งมหดประมาณ 600 m.
เริ่มต้นการเดินทางไปโครงการในวันนี้ที่สถานีรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ เลือกออกทางออกหมายเลข 3 เพื่อมาลงทางฝั่งสุขุมวิทฝั่งเลขคี่
เมื่อลงมาที่ถนนสุขุมวิทแล้วให้เดินตรงไป จะเห็นตลอดข้างทางมีของขายร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อต่างๆ อยู่ตลาดเส้นทาง จาก BTS พร้อมพงษ์ ไปถึงหน้าปากซอยสุขุมวิท 41 มีระยะทางประมาณ 180 m.
เดินตรงมาเรื่อยๆจะผ่านซอยสุขุมวิท 39 เป็นซอยที่มีรถวิ่งผ่านเข้าออกตลอดเวลา เพราะเป็นซอยใหญ่ที่สามารถวิ่งไปทะลุออกเส้นทางหลักอื่นๆได้หลากเส้นทางทั้ง ซอยสุขุมวิท ถนนอโศกมนตรี และถนนเพชรบุรี
เดินต่อมาอีกหน่อยเป็นโครงการคอนโด Marque จาก Major Development
เลยถัดมาจะเป็นคอนโด Marque เป็นอาคารสำนักงาน Metropolis สูง 21 ชั้น
เลยถัดมาจะเป็นคอนโด The Madison สุขุมวิท เป็นคอนโด High Rise สูง 36 ชั้น
ตรงต่อมาอีกหน่อยก็จะเป็นซอยสุขุมวิท 41 แล้วค่ะ บริเวณหน้าปากซอยจะมี Miracle Mall ร้านอาหารและ Tops Market อยู่เป็นจุดสังเกต
จากโครงการถ้าจะเดินออกมาซื้อของที่Miracle Mall เป็น Mall และ Tops Market ระยะทางประมาณ 400 m. เดินได้สบายๆค่ะ
เดี่ยวเราจะเดินเข้าซอยสุขุมวิท 41 เพื่อไปที่ตั้งโครงการกันค่ะ ระยะทางประมาณ 400 m. ถือว่าไม่ไกลมาก แต่ถ้าจะเลือกนั่งวินมอร์เตอร์ไซด์ก็มีตรงปากซอยพอดีให้เลือกใช้ ซอยนี้จะไม่ค่อยมีรถวิ่งผ่านเข้า-ออก มากนัก เพราะซอยนี้โดยรวมส่วนมากเป็นที่อยู่อาศัย และเป็นซอยตัน
หน้าปากซอยมีพี่วินมอร์เตอร์ไซด์ จะเลือกนั่งเข้าซอยหรือไปที่ต่างๆได้สะดวก
บรรยากาศช่วงต้นซอยทางฝั่งซ้ายส่วนมากจะเป็นร้านอาหารตามสั่ง ส่วนทางขวามือจะเป็นพวกอาคารพาณิชย์ มีรถจอดริมถนนบางส่วน เป็นซอยถนนวิ่งสวนกันสองเลน
ทางขวามือจะเป็นซอยที่ใช้เชื่อมกับซอยสุขุมวิท 43 ได้ในซอยมีทั้งร้านอาหารต่างๆ อยู่พอสมควน ส่วนอาคารสีส้มจะเป็น Service Apartment
เดินตรงเข้ามาหน่อยจะเป็นคอนโด Lumpini Suite สุขุมวิท 41 เป็นคอนโดสูง 9 ชั้น
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นร้านอาหารข้างทา ร้านพวกนี้จะเปิดขายกันในช่วงเช้า-ช่วงกลางวัยกันส่วนใหญ่
เดินตรงต่อมาทางขวามือจะเป็น อพาร์ทเมนท์ River Place ในซอยนี้ส่วนมากจะเป็นที่พักอาศันค่ะ พวกร้านค้าจะอยู่ทางด้านหน้าซอย เลยถัดเข้ามาจะเป็นบ้านคน สลับกับ อพาร์ทเมนท์ต่างๆ
ถัดมาก็เป็นอพาร์ทเมนท์ อีกเช่นกัน เจียมประภา อพาร์ทเมนท์
บรรยากาศภายในซอยค่อนข้างเงียบสงบค่ะ รถผ่านไปมาน้อย สองข้างทางก็จะมีแนวต้นไม้ใหญ่ริมถนนซอยและจากบ้านเรือนที่ปลูกไว้ ค่อนข้างร่มรื่น ช่วงเวลากลางวันเดินได้สบายๆไม่ร้อน
เดินตรงต่อมาเรื่อยๆ จะเจอกับโรงแรม Adelphi Grand เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว
เดินเข้ามาในซอยลึกอีกหน่อย ทางขวามือจะมีซอยที่มีทาวน์โฮมหลายหลัง
เข้ามาในซอยใกล้จะถึงตัวโครงการอาคารสีส้มทางซ้ายมือเป็นอาคารพักอาศัยสูงประมาณ 3 ชั้น ส่วนทางขวามือเป็นอาคารพักอาศัยสูงประมาณ 3 ชั้น จะติดกับที่ตั้งของโครงการ
เดินเข้ามาจุดสุดซอยสุขุวิท 41 ซึ่งจะเป็นซอยตันนะคะ สุดซอยจะเป็นบ้านพักอาศัย โครงการ Ashton Residence 41 จะอยู่ทางขวามือ
ตรงข้ามกับโครงหารจะเป็น Service Apartment : Raintree Village Apartment สูงประมาณ 6 ชั้น
บริเวณด้านหน้าโครงการ Ashton Residence 41 มีป้ายชื่อโครงการมองเห็นได้ชัดเจน มีแนวรั้วยาวตลอดด้านหน้าโครงการ ทางเข้าโครงการจะอยู่ตรงกลางระหว่างอาคาร 2 อาคาร จาก BTS พร้อมพงษ์ เดินมาถึงโครงการจะมีระยะทางประมาณ 600 m.
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
มาดูสภาพแวดล้อมรอบๆ ที่ตั้งโครงการพื้นที่และบริเวณโดยรอบโครงการที่ติดกับตัวโครงการนั้นเป็นโครงการแนวราบเกือบทั้งหมด อีกทั้งโครงการออกแบบให้เน้นมองวิวภายในอาคารเกือบทั้งหมด ส่วนที่ดินโครงการที่ท้ายซอยสุขุมวิท 41 ซึ่งเป็นซอยตันจึงค่อนข้างเงียบสงบไม่มีรถวิ่งผ่านไปมา เป็นทำเลอยู่อาศัย และโดยรอบก็ไม่มีแหล่งเสื่อมโทรม ไม่มีโรงงานหรือแหล่งที่ก่อให้เกิดมลภาวะเหมาะกับการอยู่อาศัย
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- Miracle Mall , Top Super Market 400 m.
- EmQuatier 733 m.
- Emporium 1 km.
- สวนเบญจสิริ 1.1 km.
- K Village 1.8 km.
- รพ.สมิติเวช 1.9 km.
- Major เอกมัย 2.3 km.
- BigC พระราม 4 2.1 km.
- Fifty Fifth Plaza 2.2 km.
- Max Value 2.4 km.
- Park Lane เอกมัย 2.6 km.
- รพ.สุขุมวิท 2.8 km.
- Trinity International School 3 km.
- รพ.เทพธารินทร์ 3 km.
- Terminal21 3 km.
- Tesco Lotus พระราม 4 3.2 km.
- Gateway เอกมัย 3.8 km.
- สวนเบญจกิตติ 4 km.
โครงการ Ashton Residence 41 เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร 79 ห้อง ตัวอาคารทั้ง 2 เป็นรูปสีเหลี่ยมผืนผ้า แบ่งพื้นที่ในใต้ดินเป็นชั้นจอดรถ ส่วนชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 ออกแบบอาคารให้มีความทันสมัยแต่ก็ยังคงมีความหรูหราน่าใช้งานตามสไตล์ Modern luxury และเน้นในเรื่องของความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน Privacy ถือเป็นสิ่งสำคัญของคอนโดในระดับ Ultimate Class มีห้องเพียง 79 ยูนิต เมื่อแบ่งเป็น 2 อาคารจะเหลือเพียงอาคารละ 39 และ 40 ห้องเท่านั้น เน้นการออกแบบที่ต้องตอบโจทย์ในการใช้งานในทุกส่วนทั้งส่วนพักอาศัย พื้นที่ส่วนกลาง รวมไปถึงที่จอดรถแบบ Mechanical parking และที่จอดแบบปกติที่สามารถจอดได้ถึง 202% ซึ่งเป็นอีกจุดเด่นของโครงการ สามารถถอยรถเข้าถาดจอดแล้วตัวถาดจอดรถก็จะนำรถของเราเข้าไปจอดให้เองอัตโนมัติ
ที่ชั้น 2 จะเป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมด โดยจะเป็นห้องแบบ Duplex ต่อเนื่องมาจากชั้น 1 โดยแบ่งเป็นอาคาร A : 5 ห้อง และอาคาร B : 5 ห้อง ในแต่ละอาคารจะมีโถงทางเดินแบบ Single Corridor เปิดโล่งมีห้องพักอยู่ฝั่งเดียวของอาคาร สามารถมองวิวสวนและมองออกไปทางด้านข้างของตัวอาคารได้ ในแต่ละอาคารจะมีลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว เป็นระบบลิฟต์แบบล็อคชั้นช่วยเพิ่มความเป็นส่วนและความปลอดภัยในการใช้งาน ส่วนบันไดหนีไฟจะมี 2 ตำแหน่งในแต่ละอาคาร โดยจะอยู่บริเวณสุดแนวทางเดินทั้ง 2 ฝั่งของตัวอาคาร ที่สามารถเชื่อมต่อลงไปยังชั้นที่ 1 ของตัวอาคาร
สำหรับชั้นใต้ดินของอาคารลึกลงไป 3 ชั้น จะจัดเป็นพื้นที่สำหรับจอดรถทั้งหมด โดยทางฝั่งอาคาร A จะเป็นที่จอดรถแบบช่องจอดปกติ สำหรับรถที่มีความสูงหรือขนาดที่ใหญ่กว่าช่องจอดแบบอัตโนมัติ เมื่อจอดรถแล้วจะมีลิฟต์โดยสารในทุกชั้นสามารถขึ้นไปชั้นพักอาศัยได้เลย ลิฟต์ที่นี้จะเป็นแบบล็อคชั้นต้องใช้คีย์การ์ดในการกดเลือกชั้นที่อยู่ของตนเองเท่านั้น มีบันไดหนีไฟ 2 ตำแหน่งที่ขึ้นไปบนชั้น 1 ของโครงการได้ ส่วนอีกฝั่งจะเป็นพื้นที่สำหรับจอดรถแบบ Mechanical parking ทั้งหมด
มาที่ด้านหน้าของโครงการทางขวามือจะมีป้อมรปภ. ที่จะคอยดูแลเปิด-ปิดประตูเลื่อนด้านหน้าให้ลูกบ้าน 24 ชม. ทางขวามือใกล้กับทางเข้าของโครงการจะมีทางเข้าเล็กสำหรับลุกบ้านเดินเข้า-ออกได้ กรณีไม่ได้ใช้รถยนต์
เมื่อเข้ามาในพื้นที่โครงการจะเจอกับลานด้านหน้าทางขวามือจะเป็นที่จอดรถแบบ Mechanical parking ส่วนทางซ้ายมือจะมีทางลาดลงไปที่จอดรถแบบปกติในชั้นใต้ดิน มองตรงไปด้านหน้าซ้าย-ขวา จะเป็นทางเข้าส่วน Lobby
สำหรับ Mechanical parking ของโครงการจะมีช่องให้สำหรับรับรถทั้งหมด 3 ช่อง วิธีการคือเราขับรถเข้าไปจอดในช่อง ดับเครื่องและล็อครถตามปกติแล้วลงจากรถ เครื่อง Mechanical parking จะนำรถของเราไปจอดใน Slot ที่อยู่ภายในอาคารให้เอง ใช้เวลาในการจอดทั้งหมดประมาณ 2 นาที
ซึ่งการที่เราจะเลี้ยวเข้าไปใช้ช่องจอดของ Mechanical parking ทางด้านหน้าจะมีจอมอนิเตอร์แจ้งว่าช่องไหนว่างพร้อมรับรถไปจอดได้บ้าง
สำหรับผู้ที่ต้องการจอดรถแบบช่องจาปกติ ทางโครงการก็มีที่จอดดรถชั้นใต้ดินให้เลือกจอดได้ โดยจะมีไม้กระดก จอแจ้งจำนวนช่องจอดที่ว่าง และใช้ระบบ Easy pass ในการเปิดปิดไม้กระดก
วิ่งตรงมาตามทางลาดลงมาที่ชั้นใต้ดินของอาคาร จะเจอกับทางแยกซ้ายขวา ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปที่จอดรถสำหรับ Visitor รถส่งของและที่จอดรถมอร์เตอร์ไซด์ ส่วนทางขวาจะเป็นที่จอดรถลูกบ้าน
พื้นที่จอดรถสำหรับ Visitor รถส่งของและที่จอดรถมอร์เตอร์ไซด์
เลี้ยวขวามาจะเป็นทางลาดลงไปที่จอดรถสำหรับลูกบ้าน กรณีรถกันที่มีความสูงหน่อย เช่น รถตู้ รถกะบะยกสูง ไม่สามารถเข้าที่จอดรถ Mechanical parking ก็สามารถเลือกมาจอดแบบปกติได้
กลับมาที่บริเวณลานด้านหน้าจะแนวทางเดินบันไดแยกซ้าย-ขวาไปอาคารทั้งสองฝั่ง แต่ละอาคารก็จะมีทางเข้าส่วน Lobby แยกการใช้งานเป็นของตนเอง
มุมมองจากบริเวณด้านหน้า จะเห็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ เป็นสระว่ายน้ำที่วางยาวไปถึงพื้นที่โครงการอีกฝั่ง
เรามาเริ่มจากอาคาร A ที่อยู่ทางซ้ายมือกันก่อนค่ะ ด้านหน้าทางเข้า Lobby ก็จะมีประตูที่ใช้การผ่านเข้าออกด้วยระบบ Access Card
เข้ามาตรงพื้นที่ส่วน Lobby ของอาคาร A จะมีการรจัดที่นั่งพักผ่อนไว้ สำหรับผู้ที่จะใช้สระว่ายน้ำ ทางด้านข้าง Lobby จะมีประตูเปิดออกไปส่วนสระว่ายน้ำได้
บริเวณโถงลิฟต์เพื่อขึ้นไปส่วนพักอาศัย ทางโครงการจัดลิฟต์ไว้ให้อาคารละ 2 ตัว ทางขวามือด้านข้างจะเป็นจอมอนิเตอร์บอกระยะเวลาและช่องของจอด Mechanical parking ที่กำลังนำรถยนต์ของเราลงมาส่ง
ลิฟต์โดยสารจะเป็นลิฟต์แบบล็อคชั้นโดยใช้ระบบ Key card เพื่อไปยังห้องพัก และจะล็อคชั้นที่เปิดเฉพาะชั้นพื้นที่ส่วนกลาง และเปิดเฉพาะชั้นของลูกบ้านแต่ละคนเท่านั้น ไม่สามารถไปยังชั้นที่อยู่อาศัยชั้นอื่นได้ ถ้าเราไม่ได้อยู่ชั้นนั้น ทำให้สามารถควบคุมความปลอดภัยได้ง่ายยิ่งขึ้น
จากส่วน Lobby จะมีแนวทางเดินเชื่อมมายังส่วนพักอาศัยที่อยู่ในชั้น 1 ของโครงการ เข้ามาก็จะเจอประตูที่ต้องใช้ Access Card เพื่อเปิดเช้า-ออก
เข้ามาในพื้นที่ส่วนพักอาศัยชั้น 1 จะมีแนวทางเดินยาวไปจนสุดแนวทางเดินมีให้เลือกใช้ทั้งบันไดและทางลาด ห้องพักอาศัยจะอยู่ทางขวามือทั้งหมด จะเป็นแนวทางเดินแบบ Single Corridor เปิดโล่งมีห้องพักอยู่ฝั่งเดียวของอาคาร อีกฝั่งจะเป็นแนวกระจก ช่วยให้โปร่งโล่ง ถ่ายเทอากาศได้ดี แลได้ความ Private เปิดประตูมาไม่เจอห้องตรงข้าม
จากส่วน Lobby สามารถเดินออกมาที่สระว่ายน้ำของโครงการได้ โดยจะทำเป็นที่พักผ่อน และมีจุดสำหรับชำระล้างตัวก่อนลงสระอยู่ทางด้านข้างให้ใช้งาน
สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 10 x 40 m. ออกแบบสระแบบ Creek Pool เสมือนลำธารที่ไหลผ่านโขดหินให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติและมีพื้นที่สีเขียวในแนวตั้งโอบล้อมอยู่
ด้านข้างทำเป็น Vertical Green Wall และมีจุดเด่นที่ทุกห้องในโครงการจะหันเข้าหาวิวสระว่ายน้ำทำมุมเฉียงแบบเป็นส่วนตัวทุกหห้อง
ด้านข้างของสระว่ายน้ำจะเป็นสระว่ายน้ำสำหรับเด็ก เป็นสระตื้นความลึกไม่มาก
มุมมองจากสระว่ายน้ำมองขึ้นไปทางอาคารอีกฝั่งด้านบน จะเห็นการออกแบบโดยการวางอาคารจะวางเอียง 45 องศา ทำให้พื้นที่ส่วนระเบียงของแต่ละห้องมีความ Privacy เป็นส่วนตัวไม่เห็นระเบียงห้องข้างๆ
ที่ชั้น 3 ของโครงการแบ่งเป็นอาคาร A จะมีทั้งส่วนพักอาศัยและส่วน Facilities ของโครงการไว้ที่อาคารนี้ แต่ก็มีการแบ่งการใช้พื้นที่ออกจากกันเป็นสัดส่วนไม่รบกวนกัน โดยมีห้องพักอาศัยในอาคาร A ทั้งหมด 6 ห้อง ทางฝั่งทอศตะวันตกของอาคารจัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางประกอบด้วย Fitness , Social Club และ Library โดยทุกห้องจะมีหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่สามารถใช้งานแล้วมองเห็นวิวภายในโครงการและภายนอกโครงการได้แบบมุมกว้าง และมีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ Steam room และ Sauna room ไว้ให้บริการสำหรับลูกบ้านที่มาใช้ Facility ส่วนกลางในชั้นนี้ ในส่วนของอาคาร B จะจัดเป็นส่วนพักอาศัยอย่างเดียว มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 7 ห้อง ในแต่ละอาคารจะมีโถงทางเดินแบบ Single Corridor เปิดโล่งมีห้องพักอยู่ฝั่งเดียวของอาคารเหมือนกัน ส่วนบันไดหนีไฟจะมี 2 ตำแหน่งในแต่ละอาคาร โดยจะอยู่บริเวณสุดแนวทางเดินทั้ง 2 ฝั่งของตัวอาคาร ที่สามารถเชื่อมต่อลงไปยังชั้นที่ 1 ของตัวอาคารได้
ขึ้นมาที่ชั้น 3 ของอาคาร A จะแบ่งการใช้งานมีทั้งส่วนห้องพักอาศัย และส่วนพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ซึ่งหลักจะมาอยู่ที่อาคาร A เกือบทั้งหมด จะมีประตูที่เชื่อมออกไปส่วนพักอาศัยในชั้นนี้ โดยจะมีที่สแกนบัตรเข้า-ออก เช่นกัน
จากบริเวณโถงลิฟท์ ไปส่วน Facility จะมีประตูกระจกกั้นอีกชั้นหนึ่งต้องสแกนบัตรเข้า-ออก เช่นกัน
เข้ามาที่ส่วน Facility ในชั้น 3 ส่วนแรกจะเป็น Library จัดพื้นที่เป็นมุมสำหรับอ่านหนังสือหรือใช้งานได้
เดินตรงถัดเข้ามาจะเป็นส่วน Social Club จัดเป็นที่นั่งพักผ่อน อีกฝั่งทำเป็นกระจกยาวรับแสงธรรมชาติ สามารถมองวิวจากส่วนกลางของโครงการได้แบบมุมกว้าง
ถัดมาจะเป็นห้อง Meeting Room ที่แบ่งพื้นที่ไว้เป็นสัดส่วน สามารถใช้จัดประชุมหรือทำงานได้ จากห้องนี้สามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำตรงกลางโครงการได้เช่นกัน
ถัดมาจะเป็นห้องอ Fitness จะมีอุปกรณ์ต่างๆจัดเตรียมให้เลือกใช้งานได้หลากหลาย มุมมองจากห้อง Fitness จะมองเห็นวิวทางด้านหน้าของโครงการ
ติดกับห้อง Fitness จะเป็นห้องน้ำแยกหญิง-ชาย ภายในมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำ Steam room และ Sauna room ไว้ให้บริการสำหรับลูกบ้านที่มาใช้ Facility ส่วนกลางในชั้นนี้
มาที่ห้องน้ำชายจัดการใช้งานให้มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำ มีเคาร์เตอร์อ่างล้างหน้า ภายในพื้นที่ค่อนข้างกว้างใช้งานสะดวก และมีล็อคเกอร์สำหรับเก็บของใช้ส่วนตัว
ด้านในจะมีห้องอาบน้ำ และห้อง Sauna room ไว้ให้บริการอย่างละ 1 ห้อง
ตรงข้ามอ่างล้างมือจะเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำ ไว้ให้ใช้งาน
ห้องอาบน้ำติดตั้งอุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ Rain Shower Ceiling Hang ติดตั้งให้พร้อมใช้งาน
ภายในมีห้องน้ำหญิง จัดการใช้งานให้มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำ มีเคาร์เตอร์อ่างล้างหน้า เหมือนกับห้องน้ำชาย
มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำให้ใช้งานอย่างละ 1 ห้อง ด้านในสุดจะเป็นห้อง Steam room
ตรงข้ามอ่างล้างมือจะเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำ ไว้ให้ใช้งาน
มาที่ส่วน Lobby อาคาร B กันต่อค่ะ ภายในก็จะจัดคล้ายอาคาร A มีที่นั่งเป็นส่วนพักคอยและจอมอนิเตอร์บอกระยะเวลาและช่องของจอด Mechanical parking ที่กำลังนำรถยนต์ของเราลงมาส่ง
จากส่วน Lobby จะมีแนวทางเดินเชื่อมมายังส่วนพักอาศัยที่อยู่ในชั้น 1 ของโครงการ
บริเวณโถงลิฟต์เพื่อขึ้นไปส่วนพักอาศัย ทางโครงการจัดลิฟต์ไว้ให้อาคารละ 2 ตัว ทางขวามือด้านข้างประตูที่ต้องใช้ Access Card เพื่อเปิดเช้า-ออกไปส่วนพักอาศัยชั้น 1 ได้
ชั้น 4-6 จะเป็นจัดแบบ Typical plan ในชั้นจะจัดเป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมด โดยอาคาร A มี 7 ห้อง และอาคาร B มี 7 ห้อง ดยเพิ่มขนาดใหญ่ 3 Bedroom ทางฝั่งทิศจะวันตกเพิ่มเข้ามา ในแต่ละอาคารจะมีโถงทางเดินแบบ Single Corridor เปิดโล่งมีห้องพักอยู่ฝั่งเดียวของอาคารเหมือนกัน ส่วนบันไดหนีไฟจะมี 2 ตำแหน่งในแต่ละอาคาร โดยจะอยู่บริเวณสุดแนวทางเดินทั้ง 2 ฝั่งของตัวอาคาร ที่สามารถเชื่อมต่อลงไปยังชั้นที่ 1 ของตัวอาคารได้เหมือนกับในชั้น 3
ชั้น 7-8 จะจัดเป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมดเช่นกัน แต่จะเป็นห้องแบบ Duplex ซึ่งแต่ละห้องจะใช้ความสูง 2 ชั้นของตัวอาคาร โดยอาคาร A มี 7 ห้อง และอาคาร B มี 7 ห้อง ส่วนบันไดหนีไฟจะมี 2 ตำแหน่งในแต่ละอาคาร โดยจะอยู่บริเวณสุดแนวทางเดินทั้ง 2 ฝั่งของตัวอาคาร ที่สามารถเชื่อมต่อลงไปยังชั้นที่ 1 ของตัวอาคารได้เช่นกัน นอกจากนี้จาก ห้องแบบ Duplex ในชั้น 7-8 นี้จะถูกออกแบบพิเศษให้มีบันไดจากภายในห้องเพื่อขึ้นไปชั้นดาดฟ้าเพื่อใช้งานส่วน Roof Top Garden ได้จากห้องพักของตนเอง
ขึ้นมาที่ 7 ของอาคาร B จัดพื้นที่เป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมด จากโถงลิฟต์จะมีแนวทางเดินเชื่อมไปห้องต่างๆ
บริเวณทางเดินด้านหน้าห้องจะเป็นแนวทางเดินแบบ Single Corridor เปิดโล่งมีห้องพักอยู่ฝั่งเดียวของอาคาร อีกฝั่งจะเป็นแนวกระจก ช่วยให้โปร่งโล่ง ถ่ายเทอากาศได้ดี แลได้ความ Private เปิดประตูมาไม่เจอห้องตรงข้าม
ที่ชั้นดาดฟ้าของอาคารทั้ง 2 อาคาร ประกอบไปด้วย Roof Top Garden เป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนแบบเปิดโล่ง และปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่นไว้ และแบ่งพื้นที่ไว้สำหรับวาง CDU (Condensing Unit) ใช้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศระบบ VRV แยกคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ต้องไปติดไว้ที่ระเบียงของแต่ละห้อง แต่มาติดตั้งที่ด้านบนของอาคารแทน ทำให้สามารถใช้งานระเบียงในห้องพักได้อย่างเต็มที่และสวยงาม จากบนพื้นที่ดาดฟ้าจะมีช่องแสงรูปสามเหลี่ยมอาคารละ 3 ช่อง เป็นช่องแสงธรรมชาติส่องลงไปตรงบริเวณ Corridor ในทุกชั้นของอาคารและเป็นช่องระบายอากาศในแต่ละห้องสามารถเปิดหน้าต่างถ่ายเทอากาศผ่านช่องนี้ได้
ขึ้นมาด้านบนชั้นดาดฟ้าจะจัดเป็น Roof Top Garden จะมีเฉพาะห้องแบบ Duplex ในชั้นบนเท่านั้นจะสามารถขึ้นมาใช้งานพื้นสวนส่วนกลางได้โดยตรงจากห้องพักอาศัยของตนเอง โดยจะมีประตูพร้อมอุปกรณ์ล็อคไว้ให้เพื่อความปลอดภัย
บนชั้นดาดฟ้าจะจัดเป็น Roof Top Garden จะทำเป็นแนวทางเดิน พร้อมปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่น มีที่นั่งพักผ่อนกระจายตายจุดต่างๆ สามารถขึ้นมาชมวิวมุมสูงได้
วิวมุมสูงจากดาดฟ้าของอาคาร B หันไปทางฝั่งถนนสุขุมวิท บริเวณโดยรอบที่ตั้งโครงการส่วนมากยังเป็นอาคารบ้านเรือนแนวราบเกือบทั้งหมด
บนชั้นดาดฟ้าจะจัดเป็น Roof Top Garden ด้านข้างจะทำเป็นมุมที่นั่งพักผ่อน สามารถมองเห็นวิวของอาคาร A และสระว่ายน้ำของโครงการได้
มุมมองจากบนชั้นดาดฟ้าจะจัดเป็น Roof Top Garden มองลงมาเห็นสระว่ายที่อยู่ระหว่างอาคารทั้ง 2 ของโครงการ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby
- สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 10 x 40 m. เมตร
- สระเด็ก
- Jacuzzi
- Steam room
- Sauna room
- Fitness
- Social Club
- Library
- Property management office
- Concierge
- Front of unit mailbox
- Roof Top Garden
- สวนหย่อมภายในพื้นที่โครงการ
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 19.75 : 1
- อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 19.5/1
- อัตราส่วนลิฟท์ตึก B 20/1
- ที่จอดรถ 160 คันคิดเป็น 202 % เป็นที่จอดรถแบบทั่วไปและระบบ Mechanical parking
- ที่จอดรถสำหรับ 2 Bedroom 2 สิทธิ์ไม่ Fix ที่จอด , ที่จอดรถสำหรับ 3 Bedroom 2 สิทธิ์ไม่ Fix ที่จอด
- Shuttle Bus รับ-ส่ง ปากซอยสุขุมวิท 41
- ระบบ CCTV / Access Card
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม.
เร่ิมกันที่ ห้องแบบ 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 77 ตร.ม. โครงการจัดมาให้แบบ Fully Fitted ได้เฟอร์นิเจอร์ มีชุดครัว ตู้เสื้อผ้า เครื่องปรับอากาศแบบ Conceal Type สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำตามแบบห้องตัวอย่าง แต่หลักๆเราต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งห้องเอง พื้นที่ภายในห้องที่ให้มาสามารถจัดห้องให้ใช้งานในส่วนต่างๆค่อนข้างสะดวก ไม่แคบจนเกินไป สามารถจัดพื้นที่การภายในห้องหลักๆ ได้แก่ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องนอนรอง ห้องนอนใหญ่ ห้องน้ำและระเบียงซักล้าง เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับส่วนโถงหน้าห้อง ถัดเข้ามาเป็นส่วนครัว และห้องนั่งเล่นมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.8 m. วัสดุพื้นเป็นพื้นหินแท้ Sky Grey บริเวณพื้นที่ส่วนครัวจัดครัวเปิดพื้นที่ค่อนข้างกว้างใช้งานสะดวกไม่เน้นทำครัวจริงจัง จะต้องระมัดระวังเรื่องกลิ่นและควันจากการประกอบอาหาร กรณีนี้อาจจะกั้นพื้นที่เพิ่มด้วยกระจกหรือบานเลื่อน เพื่อป้องกันกลิ่นควันมารบกวนภายในห้อง มีพื้นที่เพียงพอให้ตั้งโต๊ะทานอาหารแบบ 4 ที่นั่งได้ ถัดมาเป็นห้องนั่งเล่น สามารถวางโซฟายาวแบบ 3 ที่นั่งได้ ตำแหน่งห้องนั่งล่นจะอยู่ชิดริมฝั่งระเบียงรับแสงธรรมชาติและเปิดระบายอากาศได้ดีและมีขนาดเพียงพอใช้เป็นที่นั่งพักผ่อนได้
ตรงข้ามกับห้องครัวจะเป็นห้องน้ำจัดซึ่งห้องน้ำนี้จะสามารถเปิดเข้า-ออก ได้ทั้งจากฝั่งห้องครัวและห้องนอนรองด้านใน ภายในห้องน้ำมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานโซนเปียกและโซนแห้ง อุปกรณ์ภายในห้องน้ำหลักๆครบตามที่ต้องใช้งาน เน้นการระบายอากาศ ด้วยระบบดูดอากาศของอาคารโดยติดตั้งพัดลมดูดอากาศให้ ห้องนอนรองจะอยู่ริมด้านนอกสุดใกล้กับระเบียงของตัวห้อง พื้นที่ที่จัดให้มาถือว่าใช้งานแบบพอดีๆ สามารถตั้งเตียงนอนขนาด 5 ฟุต ได้ มีพื้นที่เหลือตรงปลายเตียงและโดยรอบ ส่วนห้องนอน Master Bedroom ตำแหน่งห้องจะอยู่อีกฝั่งของตัวห้องตรงข้ามกับห้องนอนรอง และมีห้องน้ำและส่วน Walk in closet ภายในห้องช่วยเพิ่มความสะดวกและเป็นส่วนตัวในการใช้งาน ภายในห้องนอนจัดพื้นที่มาให้เหมาะกับการใช้งาน สามารถตั้งเตียงใหญ่ ขนาด 5 ฟุต เมื่อวางเตียงแล้วยังมีพื้นที่เหลือโดยรอบเตียงได้สะดวก ติดหน้าต่างบานกระทุ้งบ่านใหญ่ สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติและระบายอากาศได้ดี
เริ่มจากประตูหน้าห้องกรุลามิเนตเป็นบานเปิดสองด้านเป็นบานเล็กและบานขนาดปกติ สามารถเปิดออกสองฝั่งกรณีต้องการพื้นที่ทางเข้าที่กว้างขึ้น ด้านบนเหนือประตูติด LED Downlight ติดกริ่งไว้ที่ด้านข้างให้พร้อมใช้งาน
ทางซ้ายมือของประตูทำเป็นกล่องจดหมาย แยกใช้งานในแต่ละห้อง และติดตั้ง Digital Door Lock ของ Yale
พื้นทางเข้าสู่ห้องจะยกระดับสูงจากแนวทางเดินประมาณ 2 cm. การทำลักษณะนี้จะช่วยกันฝุ่นละอองจากแนวทางเดินเข้าสู่ตัวห้องด้านในได้
บริเวณทางเดินด้านหน้าห้องจะเป็นแนวทางเดินแบบ Single Corridor เปิดโล่งมีห้องพักอยู่ฝั่งเดียวของอาคาร อีกฝั่งจะเป็นแนวกระจก ช่วยให้โปร่งโล่ง ถ่ายเทอากาศได้ดี แลได้ความ Private ปิดประตูมาไม่เจอห้องตรงข้าม
เข้ามาในห้องพื้นที่แรกจะเป็น Foyer โถงด้านหน้า สามารถตั้งตู้เก็บรองเท้าหรือชั้นวางของในบริเวณนี้เพื่อหยิบใช้งานเข้า-ออกห้องได้สะดวก และช่วยแบ่งพื้นที่ทางเข้าด้านหน้าให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น บังสายตาจากภายนอกไม่ให้สามารถมองเห็นภายในห้องได้โดยตรง
โดยบริเวณโถงหน้าห้องจะมีหน้าต่างบานเลื่อนกระจก ช่องเปิดด้านข้างจะเป็นช่องโปร่งสูงขึ้นไปถึงชั้นบนของตัวอาคาร ด้านข้างติดระแนงเหล็กสีดำเป็นช่องช่วยให้ระบายอากาศรับแสงธรรมชาติได้
ถัดเข้ามาจากโถงทางเข้า จะเป็นพื้นที่ส่วนครัวและส่วนรับประทานอาหาร พื้นที่ตรงส่วนนี้จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.8 m. วัสดุพื้นเป็นพื้นหินแท้ Sky Grey นำเข้าจากตุรกี ผนังในห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี ติดไฟให้แบบ Downlight ทั้งหมด ห้องจะขายแบบ Fully Fitted มีชุดครัว ตู้เสื้อผ้า เครื่องปรับอากาศแบบ Conceal Type สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำตามแบบห้องตัวอย่าง
ติดกับชุดครัวจะเป็นชุดตู้แบบ Built in ความสูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าเต็มบานใช้เป็นที่วางเครื่องซักผ้า และเก็บอุปกรณ์สิ่งของต่างๆได้ และBreaker ควบคุมระบบไฟฟ้าและงานระบบต่างๆภายในห้อง ซึ่งตู้อันนี้ทางโครงการมีให้นะคะ
ที่บานเปิดของตู้ Built in จะทำตัวบานให้มีขอบจับอลูมิเนียมช่วยให้เปิด-ปิด ตู้ได้สะดวกขึ้น
ส่วนครัวจัดครัวเปิดพื้นที่ค่อนข้างกว้างใช้งานสะดวกเพียงพอต่อการใช้งานไม่เน้นทำครัวจริงจัง แต่การจัดครัวเปิดแบบนี้จะต้องระมัดระวังเรื่องกลิ่นและควันจากการประกอบอาหาร กรณีนี้อาจจะกั้นพื้นที่เพิ่มด้วยกระจกหรือบานเลื่อน เพื่อป้องกันกลิ่นควันมารบกวนภายในห้อง
ชุดครัวแบบ Built-in หน้าบาน Acrylic Sheet แบ่งพื้นที่ใช้งานและเก็บของทั้งด้นบนและด้านล่าง ด้านบนให้ Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์ Alabaster สีดำ ให้ชุดเตาไฟฟ้าและที่ดูดควัน เป็นของ Smeg พร้อมอ่างล้างจานขนาดกลาง ของ Mex มีพื้นที่ด้านข้างสำหรับจัดเตรียมอาหาร ผนังครัวติดกระจกให้เหมาะกับการใช้งานสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย
ส่วนชุดครัวด้านบนและล่างแบ่งช่อง 3 ระดับ ทำเป็นลิ้นชักและบานเปิดให้เลือกเก็บของใช้ตามขนาดต่างๆได้ ด้านข้างแบ่งช่องเป็นเตาอบของ ของ Smeg ซึ่งทางโครงการมีให้พร้อมใช้งาน
ฝ้าเพดานภายในพื้นที่ส่วนครัวและรับประทานอาหาร เป็นฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ติดดวงไฟเป็นแบบดาวน์ไลท์ พร้อมอุปกรณ์ Smoke Detector , Sprinkler และพัดลมดูดอากาศเหมือนในห้องตัวอย่าง
ตรงข้ามกับพื้นที่ครัวจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำนี้จะสามารถเปิดเข้า-ออก ได้ทั้งจากฝั่งห้องครัวและห้องนอนเล็กด้านใน
ทางเข้าห้องน้ำจะลดระดับประมาณ 2 cm. โดยจะเป็นหินเทียมเป็นขอบตัวจบระหว่างพื้นห้องน้ำและพื้นที่ห้องด้านในไว้เรียบร้อย
มาที่ส่วนห้องน้ำภายในห้องน้ำมีการแบ่งส่วนเปียกและส่วนแห้ง วัสดุปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหิน ส่วนฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มบอร์ดกันชื้นฉาบเรียบทาสี ให้ชุดอ่างล้างหน้า ฉากกั้นอาบน้ำ อุปกรณ์และชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมใช้งาน
ผนังติดกระจกเงาบานใหญ่เต็มแผ่น การติกระจกแบบนี้นอกจากจะใช้งานสะดวกแล้วยังช่วยทำให้พื้นที่ห้องน้ำดูกว้างขึ้นด้วย
ติดตั้งชุดอ่างล้างหน้าและอุปกรณ์ก็อกน้ำของ American Standard ส่วนใต้อ่างล้างหน้าทำเป็นตู้ Built In บานเปิ มีพื้นที่ให้เก็บของใช้ต่างๆได้
เหนืออ่างล้างหน้าที่ผนังด้านข้างติดปลั๊กไฟมีฝาครอบกันน้ำ 1 ตำแหน่ง สำหรับใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เช่น เครื่องเป่าผม
ถัดมาเป็นชุดโถสุขภัณฑ์ เป็นของ American Standard ติดตั้งปุ่มกดน้ำที่กำแพง เป็นแบบแยก 2 อันคือมีแบบกดน้ำน้อยในกรณีที่เราทำธุระนิดหน่อยแล้วก็ปุ่มกดใหญ่ในกรณีที่เรามีธุระแบบหนักๆ แบบนี้จะทำให้ประหยัดการใช้น้ำได้มากกว่า และติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ สายชำระ ที่ใส่กระดาษทิชชู ไว้ที่ผนังด้านหลังและด้านข้างให้พร้อมใช้งาน
ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีให้ ได้แก่ สายชำระ และที่แขวนกระดาษชำระ ของ Kohler ติดที่ผนังด้านข้างและด้านหลังในระยะที่สามารถหยิบใช้งานได้สะดวก
ส่วนอาบน้ำมีบานประตูบานเปิดกระจกให้ ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปลือยกระจกนิรภัยใสพร้อมอุปกรณ์สแตนเลส พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ โดยจะมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานโดยยกขอบขึ้นมาประมาณ 4 cm. เพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ
อุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ Rain shower Wall Hang ของ Kohler ติดตั้งให้พร้อมใช้งานเหมือนห้องตัวอย่าง
ชุดอุปกรณ์ฝักบัวอาบน้ำ ของ Kohler สามารถปรับอุณหภูมิน้ำร้อน-เย็นได้ และสามารถปรับระดับสายน้ำของฝักบัวได้
ส่วนฝ้าเพดานภายในห้องน้ำ เป็นยิปซั่มบอร์ดชนิดกันชื้น ฉาบเรียบทาสี ติดพัดลมระบายอากาศ และให้ไฟแบบ Downlight
มาที่ส่วนของพื้นที่นั่งเล่น วางตำแหน่งของพื้นที่ส่วนนี้ให้อยู่ชิดริมฝั่งระเบียงรับแสงธรรมชาติได้ดี วัสดุปูพื้นเป็นพื้นหินแท้ Sky Grey ต่อเนื่องมาจากส่วนครัว มีระดับพื้นถึงฝ้าสูง 2.8 m. ทำให้ห้องดูโปร่งไม่อึดอัด ผนังติด Wallpaper และวัสดุตกแต่งาเพื่อความสวยงาม อันนี้เราดูไว้เป็นไอเดียในการตกแต่งห้องได้ค่ะ เพราะห้องจริงจะเป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสี
ระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี ประมาณ 2.6 m. ในระยะประมาณนี้สามารถเลือกทีวีขนาด 40″ ได้ค่ะ
สำหรับฝั่งตรงข้ามชุดโซฟาผนังติดกระจกเงาเต็มบาน มีพื้นที่สำหรับวางชั้นทีวี แต่ชุดตู้และผนังกระจกนี้ทางโครงการไม่มีให้นะคะ เราดูไว้เป็นไอเดียในการตกแต่งห้องได้ ส่วนระบบปรับอากาศในโครงการจะเป็นระบบ Conceal Type ทั้งหมด
ประตูออกไปสู่ระเบียงเป็นบานกระจกกรอบอลูมิเนียมทำสี Powder coat มี Texture : Sahara effect พร้อมกระจกใส ช่วยกรองแสงและตัดแสงสะท้อนสายตา เป็นเลื่อน 3 ตอน เปิดไปชิดรวมกันทางขวามือซึ่งเมื่อลองเลื่อนเปิดก็ไม่มีปัญหาในการใช้งาน บานเลื่อนกระจกสูงจากจากพื้นถึงฝ้าเพดาน ช่วยให้มองเห็นวิวแบบมุมกว้าง
พื้นที่ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้องลายไม้ พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.3 x 3.2 m. ที่พื้นระหว่างห้องและระเบียงจะยกขอบสูงขึ้นมาเพื่อช่วยป้องกันน้ำฝนหรือน้ำซึมเข้ามาด้านในได้ ราวระเบียงเป็นกระจกลามิเนต มีความแข็งแรงและความปลอดภัยในการใช้งาน
เป็นบานกระจกกรอบอลูมิเนียมบานใหญ่สูงถึงระดับฝ้าเพดาน มีตัวล็อคกรอบบานทั้ง 3 ตำแหน่ง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน
พื้นที่ระเบียงถือว่ากว้างพอสมควรสามารถตั้งโต๊ะหรือเก้าอี้ชุดเล็กๆไว้ภายนอกได้ ระเบียงของห้องทุกห้องในโครงการได้มองวิวจากสระว่ายส่วนกลางของโครงการได้ทุกห้อง
ฝ้าเพดานของพื้นที่ระเบียง จะเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีพร้อมติดไฟแบบ Downlight ให้ 1 ตำแหน่ง
จากบริเวณระเบียงของตัวห้องมองกลับเข้ามาภายในตัวห้อง
มาที่ห้องนอน เริ่มจากห้องนอนเล็กตำแหน่งห้องจะอยู่ตรงข้ามห้องนั่งเล่นติดกับฝั่งระเบียงของตัวห้อง
สำหรับห้องนอนเล็กจะติดตั้งเป็นประตูบานเลื่อน พร้อมมือจับและอุปกณณ์ล็อค โดยจะมีตัวรางเลื่อนเฉพาะด้านบน เพื่อความสะดวกในการใช้งานเวลาเปิด-ปิดประตู เดินเข้าออก ไม่ต้องมีขอบรางเลื่อนด้านล่าง
ภายในห้องนอน พื้นที่ที่จัดให้มาถือว่าใช้งานแบบพอดีๆ สามารถตั้งเตียงนอนขนาด 5 ฟุต ได้ มีพื้นที่เหลือตรงปลายเตียงและโดยรอบ แต่ชุดเตียงนี้ทางโครงการไม่มีให้นะคะ เราสามารถเลือกแบบและขนาดที่ใช้ตามความเหมาะสมเองได้ ส่วนระบบปรับอากาศภายในห้องเป็นระบบ Conceal Type เหมือนกับห้องนั่งเล่นด้านนอก ภายในห้องนอนปูพื้นด้วยพื้นไม้ Engineer wood 14 mm.
ภายในห้องนอนจะมีตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in โดยจะเว้าเข้าไปเสมอกับแนวกำแพง ช่วยเพิ่มพื้นที่การเดินข้างเตียงมากขึ้น ภายในมีราวสำหรับแขวนเสื้อผ้า และมีชั้นวางของไว้เก็บของได้
อีกฝั่งของตัวห้องก็ทำเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in โดยจะเว้าเข้าไปเสมอกับแนวกำแพงเช่นกัน ประตูทางขวามือจะเชื่อมไปห้องน้ำที่อยู่ด้านในฝั่งห้องครัวได้
ส่วนพื้นที่ด้านข้างเตียง ฝั่งติดกับตู้เสื้อผ้า จะเหลือพื้นที่ประมาณ 50 cm.
ส่วนระยะระหว่างปลายเตียงถึงผนัง กว้างประมาณ 40 cm. มีตำแหน่งปลั๊กไฟต่างๆไว้ให้สำหรับ ทีวีแขวนติดกับผนังจะได้มีพื้นที่ทางเดินปลายเตียงได้สะดวก
ส่วนพื้นที่ด้านข้างเตียง ฝั่งติดกับตู้เสื้อผ้าจะเหลือพื้นที่ประมาณ 70 cm.
ฝ้าเพดานภายในห้องนอนเป็นฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ติดดวงไฟเป็นแบบดาวน์ไลท์ พร้อมอุปกรณ์ Smoke Detector เหมือนในห้องตัวอย่าง
มากันที่ห้องนอน Master Bedroom ตำแหน่งห้องจะอยู่อีกฝั่งของตัวห้องตรงข้ามกับห้องนอนรอง
Master Bedroom ภายในห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต ได้ไม่อึดอัด มีพื้นที่เหลือโดยรอบ สามารถวางตู้หรือชั้นวางของต้านข้างได้ ภายในห้องนอนปูพื้นด้วยพื้นไม้ Engineer wood 14 mm. ผนังในห้องนอนติด Wallpaper และวัสดุตกแต่งไว้ แต่ห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี มีระดับพื้นถึงฝ้าสูง 2.8 m. ทำให้ห้องดูโปร่งมากขึ้น
เนื่องจากจะมีระยะปลายเตียงไม่มากนัก หากต้องการติดทีวีควรใช้วิธีแขวนติดกับผนังจะได้มีพื้นที่ทางเดินปลายเตียงได้สะดวกมากขึ้น
หน้าต่างภายในห้องนอนที่ให้มาเป็นเป็นหน้าต่างกระจกลามิเนตเป็นบาน fix บานใหญ่เต็มบานสูงตั้งแต่พื้นถึงระดับฝ้าและมีบานกระทุ้งด้านข้างให้สามารถเปิดรับลมและเปิดระบายอากาศได้
ตัวบานกระทุ้งเป็นบานอลูมิเนียมพร้อมตัวล็อค มีความกว้างประมาณ 70 cm. มีรัศมีการเปิดกว้างได้ประมาณ 30 องศา
มองกลับมาอีกฝั่งของตัวห้องจะเว้นพื้นที่ไว้สำหรับทำเป็นส่วน Walk in closet ภายในทำเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in เพิ่มพื้นที่ในการงานมากขึ้น ส่วนระบบปรับอากาศภายในห้องนอนก็จะเป็นระบบ Conceal Type เช่นกัน
ฝ้าเพดานภายพื้นในห้องนอนเป็นฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ติดดวงไฟเป็นแบบดาวน์ไลท์ พร้อมอุปกรณ์ Smoke Detector เหมือนในห้องตัวอย่าง
พื้นที่ด้านส่วน Walk in closet เมื่อจัดวางตู้แล้วจะเหลือพื้นที่กว้างประมาณ 1.45 m. สำหรับห้องนอน Master Bedroom จะมีชุดตู้เสื้อผ้าให้สองฝั่งเหมือนกับในห้องตัวอย่าง ภายในตู้เสื้อผ้า Built-in ด้านในมีราวสำหรับแขวนเสื้อผ้า และมีชั้นวางของด้านบนไว้เก็บของได้ ชั้นล่างจะทำเป็นลิ้นชักสำหรับเก็บของต่างๆได้
ถัดเข้ามาจะเป็นห้องน้ำของ Master Bedroom ภายในห้องน้ำมีการแบ่งส่วนเปียกและส่วนแห้ง วัสดุพื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหิน ส่วนฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มบอร์ดกันชื้นฉาบเรียบทาสี ให้ชุดอ่างล้างหน้า ฉากกั้นอาบน้ำ อ่างอาบน้ำ อุปกรณ์และชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมใช้งาน
ติดตั้งชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกมีพื้นที่สำหรับวางของใช้ต่างๆได้ ผนังติดกระจกเงาบานใหญ่เต็มแผ่น การติดกระจกแบบนี้นอกจากจะใช้งานสะดวกแล้วยังช่วยทำให้พื้นที่ห้องน้ำดูกว้างขึ้นด้วย
ติดตั้งชุดอ่างล้างหน้าและอุปกรณ์ก็อกน้ำของ Kohler ส่วน Top เคาน์เตอร์อ่างเป็นหินอ่อน Neo White เหนืออ่างล้างหน้าที่ผนังด้านข้างติดปลั๊กไฟมีฝาครอบกันน้ำ 1 ตำแหน่ง
ถัดมาเป็นชุดโถสุขภัณฑ์ เป็นของ American Standard และติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ สายชำระ ที่ใส่กระดาษทิชชู ไว้ที่ผนังด้านหลังและด้านข้างให้พร้อมใช้งาน สำหรับอุปกรณ์ภายในห้องน้ำ Master Bedroom จะเป็นสี Rose Gold
ส่วนอาบน้ำมีบานประตูบานเปิดกระจกให้ ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปลือยกระจกนิรภัยใสพร้อมอุปกรณ์สแตนเลส พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ โดยจะมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานโดยยกขอบขึ้นมาประมาณ 4 cm. เพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ
อุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ Rain shower Wall Hang สี RoseGold ของ Kohler ติดตั้งให้พร้อมใช้งานเหมือนห้องตัวอย่าง ผนังด้านข้างจะมีพื้นที่ไว้สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆได้
ชุดอ่างอาบน้ำทรงสี่เหลี่ยมสำหรับใช้คนเดียว ของ Cristina โดยจะยกขอบสูงจากระดับพื้นประมาณ 50 cm. อยู่ในระดับที่ใช้งานได้สะดวก ติดตั้งชุดอุปกรณ์ฝักบัวอาบน้ำสี RoseGold ของ Kohler สามารถปรับอุณหภูมิน้ำร้อน-เย็นได้ และสามารถปรับระดับสายน้ำของฝักบัวได้
ส่วนฝ้าเพดานภายในห้องน้ำ เป็นยิปซั่มบอร์ดชนิดกันชื้น ฉาบเรียบทาสี ติดพัดลมระบายอากาศ และให้ไฟแบบ Downlight
สำหรับสวิทช์และปลั๊ก ภายในห้องทั้งหมดเป็นของ Schneider ทั้งหมด
เร่ิมกันที่ ห้องแบบ Duplex 3 Bedroom ขนาดพื้นที่ 123.65 ตร.ม. โครงการจัดมาให้แบบ Fully Fitted ได้เฟอร์นิเจอร์ มีชุดครัว ตู้เสื้อผ้า สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำตามแบบห้องตัวอย่าง พื้นที่ภายในห้องที่ให้มาค่อนข้างกว้างสามารถจัดห้องให้ใช้งานในส่วนต่างๆค่อนข้างสะดวก ห้องแบบ Duplex สามารถจัดพื้นที่ภายในเป็น 2 ชั้น ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านมากยิ่งขึ้น เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับส่วนโถงหน้าห้อง ถัดเข้ามาเป็นส่วนครัว บริเวณพื้นที่ส่วนครัวจัดครัวเปิดพื้นที่ค่อนข้างกว้างใช้งานสะดวกเป็นครัวปิดมีบานเลื่อนกั้นพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วน ช่วยป้องกันกลิ่นและควันจากการประกอบอาหารได้ มีพื้นที่เพียงพอให้ตั้งโต๊ะทานอาหารแบบ 4 ที่นั่งได้ ตรงข้ามมีห้องน้ำจัดเป็นห้องน้ำแบบ Powder room คือจะไม่มีส่วนอาบน้ำจะมีให้เฉพาะโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าให้ใช้งาน ถัดมาเป็นห้องนั่งเล่น สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้บริเวณนี้จะเป็น Double volume มีความสูงจากพื้นที่ถึงฝ้า 4.8 m. ช่วยทำให้พื้นที่บริเวณนี้มีความโปร่งโล่ง น่าใช้งานมากขึ้น
ตำแหน่งห้องนั่งล่นจะอยู่ชิดริมฝั่งระเบียงรับแสงธรรมชาติและเปิดระบายอากาศได้ดีและมีขนาดเพียงพอใช้เป็นที่นั่งพักผ่อนได้ ถัดมาอีกฝั่งของห้องชั้นล่าง จัดเป็นห้องนอนมีห้องน้ำในตัว
อีกฝั่งของห้องเป็นบันไดเพื่อขึ้นไปชั้น 2 มีพื้นที่ใต้บันไดทำเป็นห้องเก็บของขึ้นมาที่ชั้น 2 ของตัวห้องจัดเป็นห้องนอนไว้ 2 ห้อง เป็นห้องนอนเล็ก และห้องนอนใหญ่ โดยทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัวภายในห้องช่วยเพิ่มความสะดวกและเป็นส่วนตัวในการใช้งาน จากโถงบันไดบริเวณชั้น 2 ของตัวห้อง จะมีแนวบันไดขึ้นไปอีกเพื่อไปพื้นที่สวนบนดาดฟ้าของอาคารได้ โดยจะเฉพาะห้องแบบ Duplex ในชั้น 7-8 เท่านั้นที่อยู่ในบนจะสามารถขึ้นมาใช้งานพื้นสวนส่วนกลางได้จากห้องพักอาศัยของตนเอง โดยจะมีประตูพร้อมอุปกรณ์ล็อคไว้ให้เพื่อความปลอดภัย
ประตูหน้าห้องเป็นประตูบานเปิดสองด้านเป็นบานเล็กและบานขนาดปกติ สามารถเปิดออกสองฝั่งพื้นที่ทางเข้าที่กว้างขึ้น ด้านบนเหนือประตูติด LED Downlight ติดกริ่งไว้ที่ด้านข้างให้พร้อมใช้งาน
ทางด้านข้างของประตูทำเป็นกล่องจดหมาย แยกใช้งานในแต่ละห้อง และติดตั้ง Digital Door Lock ของ Yale
เข้ามาในห้องพื้นที่แรกจะเป็น Foyer โถงด้านหน้า สามารถตั้งตู้เก็บรองเท้าหรือชั้นวางของในบริเวณนี้เพื่อหยิบใช้งานเข้า-ออกห้องได้สะดวก
ตรงบริเวณโถงด้านหน้าจะมีหน้าต่างบานเปิด ด้านในเป็นช่องเปิดโปร่งสูงขึ้นไปถึงชั้นบนของตัวอาคาร สามารถเปิดระบายอากาศรับแสงธรรมชาติได้ ด้านล่างทำเป็นชุดตู้สำหรับใส่เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าได้ โดยโครงการจะเดินท่อเตรียมงานระบบไว้ให้เรียบร้อย
ถัดเข้ามาจากโถงทางเข้า จะเป็นพื้นที่ส่วนครัวและส่วนรับประทานอาหาร พื้นที่ตรงส่วนครัวนี้จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.4 m. วัสดุพื้นเป็นพื้นหินแท้ Sky Grey นำเข้าจากตุรกี ผนังในห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี ติดไฟให้แบบ Downlight ทั้งหมด ห้องจะขายแบบ Fully Fitted มีชุดครัว ตู้เสื้อผ้า สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำตามแบบห้องตัวอย่าง
พื้นที่ตรงบริเวณนี้จะใช้งานร่วมกับเป็นทั้งพื้นที่ครัวและว่งนรับประทานอาหาร เมื่อวางโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งแล้ว ยังมีพื้นที่เหลือด้านข้างฝั่งชุดครัวใช้งานได้สะดวก
พื้นที่ส่วนครัวจัดพื้นที่ครัวเป็นแบบครัวปิดมีประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอนกั้นแบ่งพื้นที่ ครัวลักษณะนี้จะช่วยป้องกันกลิ่นและควันจากการประกอบอาหารได้ ตัวบานเลื่อนกระจกใสช่วยให้ห้องดูโปร่งไม่ทึบ
ส่วนครัวจัดครัวเปิดพื้นที่ค่อนข้างกว้างใช้งานสะดวก ชุดครัวแบบ Built-in หน้าบาน Acrylic Sheet แบ่งพื้นที่ใช้งานและเก็บของทั้งด้นบนและด้านล่างแบ่งช่อง 3 ระดับ ทำเป็นลิ้นชักและบานเปิดให้เลือกเก็บของใช้ตามขนาดต่างๆได้ ด้านข้างแบ่งช่องเป็นเตาอบของ ของ Smeg ซึ่งทางโครงการมีให้พร้อมใช้งาน
ด้านบนให้ Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์ Alabaster สีดำ ให้ชุดเตาไฟฟ้าและที่ดูดควัน เป็นของ Smeg พร้อมอ่างล้างจานขนาดกลาง ของ Mex มีพื้นที่ด้านข้างสำหรับจัดเตรียมอาหาร ผนังครัวติดกระจกให้เหมาะกับการใช้งานสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย
ตรงข้ามกับพื้นที่ครัวจะเป็นทางเข้าห้องน้ำสำหรับใช้ในชั้นล่าง
จัดพื้นที่เป็นห้องน้ำแบบ Powder room คือจะไม่มีส่วนอาบน้ำจะมีให้เฉพาะโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าให้ใช้งาน ชุดโถสุขภัณฑ์ เป็นของ American Standard ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีให้ ได้แก่ สายชำระ และที่แขวนกระดาษชำระ ของ Kohler ติดที่ผนังด้านข้างและด้านหลังในระยะที่สามารถหยิบใช้งานได้สะดว
ส่วนฝ้าเพดานภายในห้องน้ำ เป็นยิปซั่มบอร์ดชนิดกันชื้น ฉาบเรียบทาสี ติดพัดลมระบายอากาศ และให้ไฟแบบ Downlight
มาที่พื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นสำหรับห้องแบบ Duplex ตรงบริเวณนี้จะเป็น Double volume มีความสูงจากพื้นที่ถึงฝ้า 4.8 m. ช่วยทำให้พื้นที่บริเวณนี้มีความโปร่งโล่ง น่าใช้งานมากขึ้น ส่วนพื้นที่ในห้องนั่งเล่นจะเป็น วัสดุพื้นเป็นพื้นหินแท้ Sky Grey นำเข้าจากตุรกี ผนังในห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี ติดไฟให้แบบ Downlight ทั้งหมด ส่วนระบบปรับอากาศในบริเวณนี้จะเป็นระบบ Conceal Type
สามารถมองขึ้นไปบริเวณชั้น 2 ของตัวห้องได้ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน 2 ชั้น
ติดประตูบานเลื่อนและหน้าต่างบานใหญ่มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเปิดรับแสงและมองเห็นวิวทางสระว่ายน้ำของส่วนกลางได้แบบมุมกว้าง
พื้นที่ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้องลายไม้ พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.3 x 3 m. ที่พื้นระหว่างห้องและระเบียงจะยกขอบสูงขึ้นมาเพื่อช่วยป้องกันน้ำฝนหรือน้ำซึมเข้ามาด้านในได้ ราวระเบียงเป็นกระจกลามิเนต มีความแข็งแรงและความปลอดภัยในการใช้งาน
จากห้องนั่งเล่นอีกฝั่งของตัวห้องจะเป็นห้องนอน มีประตูกั้นแบ่งพื้นที่ใช้งานไว้เป็นสัดส่วน
ภายในห้องนอน พื้นที่ที่จัดให้มาถือว่าใช้งานแบบสบายๆ สามารถตั้งเตียงนอนขนาด 5 ฟุต ได้ มีพื้นที่ด้านข้างเหลือให้ตั้งโต๊ะและชั้นวางของเล็กๆ ผนังในห้องนอนติด Wallpaper และวัสดุตกแต่งไว้ แต่ห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี ภายในห้องนอนปูพื้นด้วยพื้นไม้ Engineer wood หนา 14 mm.
อีกฝั่งของตัวห้องจัดพื้นที่เป็นส่วน Walk in closet ตำแหน่งจะอยู่หน้าทางเข้าห้องน้ำพอดีภายในตู้เสื้อผ้า Built-in ด้านในมีราวสำหรับแขวนเสื้อผ้า และมีชั้นวางของด้านบนไว้เก็บของได้ ชั้นล่างจะทำเป็นลิ้นชักสำหรับเก็บของต่างๆได้
ถัดเข้ามาจะเป็นห้องน้ำภายมีการแบ่งส่วนเปียกและส่วนแห้ง วัสดุพื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหิน ส่วนฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มบอร์ดกันชื้นฉาบเรียบทาสี ให้ชุดอ่างล้างหน้า ฉากกั้นอาบน้ำ อ่างอาบน้ำ อุปกรณ์และชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมใช้งาน
ทางเข้าห้องน้ำจะลดระดับด้านในประมาณ 2 cm. เก็บงานทำขอบตัวจบระหว่างพื้นห้องน้ำและพื้นที่ห้องด้านในให้เรียบร้อย ด้านในแบ่งพื้นที่ภายในเป็นสัดส่วน พื้นที่จัดมาสามารถใช้งานได้สะดวกไม่อึดอัด
ถัดมาเป็นชุดโถสุขภัณฑ์ เป็นของ American Standard และติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ สายชำระ ที่ใส่กระดาษทิชชู ไว้ที่ผนังด้านหลังและด้านข้างให้พร้อมใช้งาน
ส่วนอาบน้ำมีบานประตูบานเปิดกระจกให้ ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปลือยกระจกนิรภัยใสพร้อมอุปกรณ์สแตนเลส ส่วนที่ประตูกระจกตรงที่จับออกแบบให้สามารถแขวนผ้าเช็ดตัวได้
อุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ Rain shower Wall Hang ของ Kohler สามารถปรับอุณหภูมิน้ำร้อน-เย็นได้ และสามารถปรับระดับสายน้ำของฝักบัวได้
ติดตั้งชุดอ่างล้างหน้าและอุปกรณ์ก็อกน้ำของ Kohler ส่วน Top เคาน์เตอร์อ่างเป็นหินอ่อน Neo White เหนืออ่างล้างหน้าที่ผนังด้านข้างติดปลั๊กไฟมีฝาครอบกันน้ำ 1 ตำแหน่ง
ตรงข้ามกับอ่างล้างหน้า จะเป็นชุดอ่างอาบน้ำทรงสี่เหลี่ยมสำหรับใช้คนเดียว ของ Cristina โดยจะยกขอบสูงจอยู่ในระดับที่ใช้งานได้สะดวก ติดตั้งชุดอุปกรณ์ฝักบัวอาบน้ำของ Kohler สามารถปรับอุณหภูมิน้ำร้อน-เย็นได้ และสามารถปรับระดับสายน้ำของฝักบัวได้
ภายในห้องน้ำจะมีหน้าต่างบานเลื่อนสามารถเปิดระบายอากาศได้ ส่วนฝ้าเพดานภายในห้องน้ำเป็นยิปซั่มบอร์ดชนิดกันชื้น ฉาบเรียบทาสี ติดพัดลมระบายอากาศ และให้ไฟแบบ Downlight
อีกฝั่งของห้องนั่งเล่นจะเป็นบันไดเพื่อขึ้นไปที่ชั้น 2 ของตัวห้อง ทาซ้ายมือจะเป็นห้องเก็บของ
พื้นที่ห้องเก็บของ มีพื้นที่สามารถเก็บของได้เยอะพอประมาณ มีประตูบานเปิดสองฝั่งพร้อมมอืขับและตัวล็อคให้
แนวบันไดจะเวียนซ้ายขึ้นมาจนถึงบนชั้น 2 ของตัวห้อง มีความกว้างประมาณ 1.3 m. ใช้งานได้สะดวกและมีแนวราาวให้จับตลอดเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
เมื่อขึ้นมาที่โถงบันไดบริเวณชั้น 2 ของตัวห้อง จะมีแนวบันไดขึ้นไปอีกเพื่อไปพื้นที่สวนบนดาดฟ้าของอาคาร
ขึ้นมาด้านบนชั้นดาดฟ้า โดยจะห้องแบบ Duplex ที่อยู่ในบนจะสามารถขึ้นมาใช้งานพื้นสวนส่วนกลางได้จากห้องพักอาศัยของตนเอง โดยจะมีประตูพร้อมอุปกรณ์ล็อคไว้ให้เพื่อความปลอดภัย
กลับมาที่ชั้น 2 ของตัวห้องจะเป็นแนวทางเดินเชื่อมต่อไปยังห้องนอนอีก 2 ห้อง วัสดุพื้นในชั้นนี้จะปูพื้นด้วยพื้นไม้ Engineer wood 14 mm.ทั้งหมด และมีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.4 m.
จากชั้น 2 สามารถมองลงมาที่พื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นที่ชั้น 1 ของตัวห้องได้
มาที่ห้องนอนเล็กของแรก จัดพื้นที่เหมาะกับการตั้งเตียงเดี่ยวสำหรับคนเดียว มีห้องน้ำในตัวช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน ปูพื้นด้วยพื้นไม้ Engineer wood ต่อเนื่องจากด้านนอก ผนังในห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี และติดไฟภาในห้องแบบ Downlight
ภายในห้องจะมีหน้าต่างกระจกใสบาน Fix ให้ 1 ตำแหน่งทางฝั่งแทางทางเดินบริเวณด้านหน้าห้อง
ภายในห้องน้ำมีการแบ่งส่วนเปียกและส่วนแห้ง วัสดุพื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหิน ส่วนฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มบอร์ดกันชื้นฉาบเรียบทาสี ให้ชุดอ่างล้างหน้า ฉากกั้นอาบน้ำ อุปกรณ์และชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมใช้งาน ผนังติดกระจกเงาบานใหญ่เต็มแผ่นใช้งานสะดวกแล้วยังช่วยทำให้พื้นที่ห้องน้ำดูกว้างขึ้น
ติดตั้งชุดอ่างล้างหน้าและอุปกรณ์ก็อกน้ำของ American Standard ส่วนใต้อ่างล้างหน้าทำเป็นตู้ Built In บานเปิ มีพื้นที่ให้เก็บของใช้ต่างๆได้ ถัดมาข้างๆ เป็นชุดโถสุขภัณฑ์ เป็นของ American Standard ติดตั้งปุ่มกดน้ำที่กำแพง เป็นแบบแยก 2 การกดน้ำหนักเบาได้ และติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ สายชำระ ที่ใส่กระดาษทิชชู ไว้ที่ผนังด้านหลังและด้านข้างให้พร้อมใช้งาน
ส่วนอาบน้ำมีบานประตูบานเปิดกระจกให้ ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปลือยกระจกนิรภัยใสพร้อมอุปกรณ์สแตนเลส พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ
โดยจะมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานโดยยกขอบขึ้นมาประมาณ 4 cm. เพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ
อุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ Rain shower Wall Hang ของ Kohler ติดตั้งให้พร้อมใช้งานเหมือนห้องตัวอย่าง
ภายในห้องน้ำจะมีประตูที่เปิดออกมาที่แนวทางเดินในชั้น 8 ของตัวอาคารได้ เนื่องจากห้อง Duplex จะใช้พื้นที่ของอาคารตั้งแต่ชั้น 7 – 8 แต่ที่ประตูก็จะมีตัวล็อคให้เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
ส่วนฝ้าเพดานภายในห้องน้ำ เป็นยิปซั่มบอร์ดชนิดกันชื้น ฉาบเรียบทาสี ติดพัดลมระบายอากาศ และให้ไฟแบบ Downlight
มาที่ห้องนอนห้องสุดท้ายในชั้น 2 เป็นห้อง Master Bedroom จะมีขนาดใหญ่และใช้งานสะดวกกว่า สามารถตั้งเตียงนอนขนาด 5 ฟุต ได้มีพื้นที่ด้านข้างเหลือให้ตั้งโต๊ะและชั้นวางของเล็กๆ ผนังในห้องนอนติด Wallpaper และวัสดุตกแต่งไว้ แต่ห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี ภายในห้องนอนปูพื้นด้วยพื้นไม้ Engineer wood ทั้งหมด
อีกฝั่งของตัวห้องจัดพื้นที่เป็นส่วน Walk in closet ตำแหน่งจะอยู่หน้าทางเข้าห้องน้ำพอดีภายในตู้เสื้อผ้า Built-in ด้านในมีราวสำหรับแขวนเสื้อผ้า และมีชั้นวางของด้านบนไว้เก็บของได้
ตรงข้ามกับเตียงนอนจะเป็นกระจกใสบานใหญ่ยาวตลอดเนว สามารถมองลงมาที่พื้นที่ห้องนั่งเล่นในชั้นล่างได้
ภายในห้องน้ำมีการแบ่งส่วนเปียกและส่วนแห้ง วัสดุพื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหิน ส่วนฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มบอร์ดกันชื้นฉาบเรียบทาสี ให้ชุดอ่างล้างหน้า ฉากกั้นอาบน้ำ อ่างอาบน้ำ อุปกรณ์และชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมใช้งาน
ติดตั้งชุดอ่างล้างหน้าและอุปกรณ์ก็อกน้ำของ Kohler เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าขนาดใหญ่ Top เป็นหินอ่อน Neo White เหนืออ่างล้างหน้าที่ผนังด้านข้างติดปลั๊กไฟมีฝาครอบกันน้ำ 1 ตำแหน่ง
ถัดมาเป็นชุดโถสุขภัณฑ์ เป็นของ American Standard และติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ สายชำระ ที่ใส่กระดาษทิชชู ไว้ที่ผนังด้านหลังและด้านข้างให้พร้อมใช้งาน สำหรับอุปกรณ์ภายในห้องน้ำ Master Bedroom จะเป็นสี Rose Gold ทั้งหมด
ส่วนอาบน้ำมีบานประตูบานเปิดกระจกให้ ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปลือยกระจกนิรภัยใสพร้อมอุปกรณ์สแตนเลส พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ โดยจะมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานโดยยกขอบขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ ด้านในทำเป็นที่นั่งหรือใช้งานของใช้ภายในห้องน้ำได้
อุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ Rain shower Wall Hang สี RoseGold ของ Kohler ติดตั้งให้พร้อมใช้งานเหมือนห้องตัวอย่าง
ชุดอ่างอาบน้ำทรงสี่เหลี่ยมสำหรับใช้คนเดียว ของ Cristina โดยจะยกขอบสูงจากระดับพื้นประมาณ 50 cm. อยู่ในระดับที่ใช้งานได้สะดวก ติดตั้งชุดอุปกรณ์ฝักบัวอาบน้ำสี RoseGold ของ Kohler สามารถปรับอุณหภูมิน้ำร้อน-เย็นได้ และสามารถปรับระดับสายน้ำของฝักบัวได้
ภายในห้องน้ำจะมีหน้าต่างบานเลื่อนสามารถเปิดระบายอากาศได้ ส่วนฝ้าเพดานภายในห้องน้ำเป็นยิปซั่มบอร์ดชนิดกันชื้น ฉาบเรียบทาสี ติดพัดลมระบายอากาศ และให้ไฟแบบ Downlight เหมือนห้องน้ำในชั้นล่าง
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 2 March 2018
- 2 Bedroom 74 ตร.ม. เริ่ม 17.89 ล้านบาท* (update 30/7/2024)
- 2 Bedroom ชั้น 4 ห้อง 06 เนื้อที่ 73.69 ตร.ม. ราคา 21.2 ล้านบาท
- 2 Bedroom ชั้น 4 ห้อง 03 เนื้อที่ 75.01 ตร.ม. ราคา 21.5 ล้านบาท
- 2 Bedroom ชั้น 7 ห้อง 04 เนื้อที่ 123.65 ตร.ม. ราคา 41 ล้านบาท
- Duplex 3 Bedroom ชั้น 7 ห้อง 03 เนื้อที่ 140.58 ตร.ม. ราคา 43 ล้านบาท
- Duplex 3 Bedroom ชั้น 7 ห้อง 07 เนื้อที่ 208.5 ตร.ม. ราคา 45.9 ล้านบาท
- Duplex 3 Bedroom (3 ยูนิตสุดท้าย) เริ่ม 27.75 ล้านบาท* (update 30/7/2024)
- Fully Fitted
- ฝ้าเพดานสูง 2.8 เมตร , Duplex 4.8 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood , Electric oven
- Shuttle Bus รับ-ส่ง ปากซอยสุขุมวิท 41
- จอง 150,000 บาท
- ทำสัญญา 900,000 – 2,000,000 บาท
- ค่ากองทุน 1,000 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 110 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเล – โครงการ Ashton Residence 41 อยู่ในซอยสุขุมวิท 41 ห่างจาก BTS พร้อมพงษ์ 600 เมตร หรือในระยะเดินประมาณ 10 นาที หากมองในระยะโดยรอบซอยสุขุมวิท 41 เป็นซอยที่ค่อนข้างเงียบสงบ เนื่องจากเป็นซอยตัน จึงไม่ค่อยมีคนหรือรถพลุกพล่านมากนัก ส่วนมากเป็นที่อยู่อาศัยเดิมในพื้นที่ แต่ถ้าออกมาจากซอยถือว่าทำเลที่ตั้งของโครงการในภาพรวมจัดอยู่ในย่านธุรกิจ ใจกลางเมืองฝั่งสุขุมวิท บริบทโดยรอบทั้งจากสถานีรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ ห้างหรูอย่าง ดิ เอ็มโพเรียม , ดิ เอ็มควอเทียร์ และในอนาคตจะมี ดิ เอ็มสเฟียร์ รวมไปถึงสวนเบญจสิริ เป็นย่านการค้า แหล่งธุรกิจ มีโรงแรม โรงพยาบาลชั้นนำ ออฟฟิศสำนักงานต่างๆ หากพิจารณาจากภาพรวมกว้างๆแล้ว ถือว่าเป็นทำเลใจกลางเมือง ที่มีครบเกือบทุกอย่างและยังเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆได้สะดวก
การเดินทางโดยใช้รถ – แม้ว่าซอยสุขุมวิท 41 จะเป็นซอยตันแต่เมื่ออกมาจากซอยก็สามารถไปเข้าทางฝั่งถนนสุขุมวิทต้องเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 49 มาวนออกทางซอยพร้อมมิตรไปซอยสุขุมวิทอื่นๆ เป็นซอยที่ลัดเลาะทะลุไปออกได้ตั้งแต่ อโศก ประสานมิตร สวัสดี พร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย โดยไม่ต้องผ่านถนนใหญ่สุขุมวิท ถือเป็นข้อดีของการใช้รถในเมือง จัดที่จอดรถแบบ Mechanical parking และที่จอดแบบปกติที่สามารถจอดได้ถึง 202% ซึ่งเป็นจุดเด่นของโครงการ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – ถือว่าสะดวกมาก มีตัวเลือกค่อนข้างหลากหลาย เช่น BTS พร้อมพงษ์ อยู่ห่างจากโครงการ 600 เมตร ไม่ไกลจนเกินไปพอเดินได้อยู่ อีกทั้งบรรยากาศภายในซอยค่อนข้างเงียบสงบ สองข้างทางก็จะมีแนวต้นไม้ใหญ่ริมถนนซอยและจากบ้านเรือนที่ปลูกไว้ ค่อนข้างร่มรื่น ช่วงเวลากลางวันเดินได้สบายๆไม่ร้อน มีวินมอเตอร์ไซค์หน้าซอยสุขุมวิท 41 ให้เรียกได้ตลอด
การออกแบบโครงการ – มีแนวคิดในการออกแบบที่โดดเด่นเน้นความเป็น Modern luxury ทั้งภายในและภายนอก มีการออกแบบในทุกรายละเอียดของโครงการ เน้นพื้นใช้สอยและตอบโจทย์ของที่พักอาศัยในระดับพรีเมี่ยมที่เน้นความเป็นส่วนตัวในการใช้งานและจำนวนยูนิตไม่มาก ทำให้โครงการมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จากที่ดินประมาณ 1-3-65 ไร่ จัดวางผังอาคารตามแนวอาคารทั้ง 2 ตามทิศเหนือ-ใต้ ช่วยให้ห้องไม่ร้อน เว้นพื้นที่ตรงกลางให้เป็นสระว่ายน้ำ ใช้มุมมองภายในโครงการเป็นหลักสระว่ายขนาดใหญ่และ Vertical Garden แนวตั้งทางด้านข้างรับกับระเบียงของทุกห้องที่ทำมุมเอียง 45 องศา มีความเป็นส่วนตัวช่วยให้ไม่เห็นระเบียงห้องข้างๆ แนวทางเดินในอาคารแบบ Single Corridor เปิดโล่งมีห้องพักอยู่ฝั่งเดียว อีกฝั่งเป็นแนวกระจกและพื้นที่สีเขียว โปร่งโล่งถ่ายเทอากาศได้ดี ได้ความ Private เปิดประตูมาไม่เจอห้องตรงข้าม พื้นที่ส่วนกลางอื่นๆก็แยกการใช้งานไว้เป็นสัดส่วน
การออกแบบห้องพักอาศัย – มีแบบห้องให้เลือกหลากหลายแบบ ตั้งแต่ 2 Bedroom – 3 Bedroom และ Duplex ขนาดห้องเริ่มตั้งแต่ 67.49 – 215.57 ตร.ม. ถือว่าจัดพื้นที่มาให้ค่อนข้างเยอะ ทำให้สามารถจัดพื้นที่การใช้งานในส่วนต่างๆง่ายขึ้น ห้องไม่ดูอึดอัด ออกแบบช่องระบายอากาศแต่ละห้องสามารถเปิดหน้าต่างทางด้านหน้าและด้านหลังเพื่อให้เกิดการไหลเวียนของอากาศภายในห้องได้ ห้องตัวอย่าง 2 Bedroom แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วน ห้องนอนมีห้องน้ำในตัวใช้งานเป็นส่วนตัว แต่เป็นครัวเปิดต้องระมัดระวังเรื่องกลิ่นควัน ระเบียงใช้งานได้จริง ส่วนห้องแบบ Duplex สามารถจัดพื้นที่ภายในเป็น 2 ชั้น ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านมากยิ่งขึ้น ด้วยความสูงของตัวห้อง 4.8 m. กระจกสูงจากพื้นถึงฝ้าทำให้ได้วิวและมุมมองเปิดกว้าง ได้ครัวปิดมีบานเลื่อนกั้นแบ่งเหมาะสมกับการใช้งาน ห้องนอนมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง จากห้องแบบ Duplex ในชั้น 7-8 สามารถขึ้นมาใช้งาน Roof Top Garden แบบส่วนตัวจากห้องพักอาศัยของตนเองได้
วัสดุและอุปกรณ์ – เน้นเลือกใช้ของดีมีคุณภาพกับการใช้งาน ถือเป็นจุดเด่นของโครงการ ประตูหน้าห้องบานใหญ่พร้อม Digital door lock ห้องนั่งเล่นเป็นพื้นหินแท้ ห้องนอนเป็นพื้นไม้ Engineer wood ห้องน้ำใช้แกรนิตโต้ลายหินทั้งผนังและพื้น แต่โครงการขายห้องแบบ Fully Fitted น่าจะเหมาะกับลูกค้าที่ชอบแต่งห้องเอง ที่โครงการมีให้คือชุดครัว ตู้เสื้อผ้า สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำ ตู้ Built-in ตรงทางเข้าห้อง และได้ชุดครัว Built-in ให้ Top couterหินสังเคราะห์ Alabaste เหมาะกับการประกอบอาหาร ทำความสะอาดง่าย ให้ชุดเตาแบบแม่เหล็ก Hoodดูดควัน เตาอบ ของ Smeg ในส่วนห้องน้ำให้เหมือนห้องตัวอย่างทั้งหมด อุปกรณ์ชุดอาบน้ำเน้นรูปแบบที่เรียบหรู อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ ของ Kohler , Cristina และ American Standard ถ้าห้องน้ำในห้องนอนใหญ่อุปกรณ์ต่างๆจะได้เป็นสี RoseGold หน้าต่างภายในห้องใช้กระจกบานใหญ่เหมาะกับห้องที่ต้องการเน้นเห็นวิวแบบมุมกว้าง ระเบียงใหญ่ใช้งานได้จริง ในส่วนของความเรียบร้อยอื่นๆภายในห้องถือว่าเก็บงานได้เรียบร้อยดี
สาธารณูปโภค – ภายในโครงการมีให้หลากหลายน่าใช้งาน เน้นไปที่สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ พร้อมสระเด็ก และ Jacuzzi ในชั้นล่างที่เป็นวิวภายในโครงการในตัว โดยหลักๆที่เหลือเกือบทั้งหมดจะจัดไว้ที่ชั้น 3 ของอาคาร A ถ้าเลือกอยู่อาคาร A จะเดินมาใช้งานได้สะดวกกว่า พื้นที่ส่วนกลางอื่นๆประกอบด้วย Fitness , Social Club และ Library โดยจะมีหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่สามารถใช้งานแล้วมองเห็นวิวภายในโครงการและภายนอกโครงการได้แบบมุมกว้าง มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ Steam room และ Sauna room แยกการใช้งาน มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัวต่อ/อาคารแบบล็อคชั้น ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในการใช้งาน อัตราส่วนลิฟต์ 19.75 : 1 ใช้งานได้สบายๆไม่หนาแน่น
Judgement
ราคาของคอนโดนี้ถือเป็นระดับ ULTIMATE CLASS ซึ่งความคุ้มค่าด้านราคาไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อ ความคุ้มค่าด้านอารมณ์คือปัจจัยหลักอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งตราบเท่าที่ทางเรายังไม่สามารถวัดค่ามาตรฐานทางอารมณ์ได้ ทาง Think of Living ขอไม่ให้คะแนนฟันธงในรีวิวเจาะลึกนะคะ เพราะมีตัวเปรียบเทียบน้อย เป็นสินค้าประเภท Unique เสียส่วนใหญ่ และเราก็เชื่อว่าลูกค้าที่พร้อมจะซื้อคอนโดระดับนี้ ไม่ตัดสินง่ายๆด้วยคะแนนแน่นอน
BOTTOM LINE
Ashton Residence 41 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดพร้อมเข้าอยู่ในเมืองย่านสุขุมวิท แต่ได้ทำเลเงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัย ที่มีความ Private สูง เพื่อนบ้านน้อยๆ ใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก มีที่จอดรถสบายๆ หรือเลือกใช้รถไฟฟ้าได้ การออกแบบดีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เน้นพื้นที่ใช้สอยเหมือนอยู่บ้าน วัสดุดีเหมาะกับระดับราคา มีงบประมาณเริ่มต้นที่ 15 – 28 ล้าน ขึ้นไปค่ะ
ลงทะเบียน เพื่อรับสิทธิพิเศษได้ที่