รีวิวฉบับที่ 910 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ พฤกษาวิลล์ 80 พระราม 2 – ท่าข้าม ซึ่งตั้งอยู่สุดซอยเทียนทะเล 7 บนถนนท่าข้าม ในเขตบางขุนเทียนเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น สไตล์ไทยประยุกต์ หรือ Oriental style หน้าตาบ้านจะไม่เหมือนที่เคยเห็นๆกันมาแล้วนะคะ แต่เป็นแบบใหม่ถอดด้ามที่พฤกษาเอามาใช้กับแบรนด์นี้เป็นครั้งแรก เค้าจะทำออกมาเป็นแบบไหนเราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ ลุยย
Fact @ 1 September 2015
- Pruksa Ville 80 Thakham – Rama 2(พฤกษาวิลล์ 80 ท่าข้าม – พระราม 2)
- บริษัท พฤกษาเรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
- ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางขุนเทียน
- เนื้อที่โครงการ 24 ไร่ จำนวน 232 ยูนิต
- ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตรจอดรถ
- แบบบ้าน Thai Wood พื้นที่ใช้สอย 95 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอรถ
- แบบบ้านที่ Thai Silk พื้นที่ใช้สอย 118 ตร.ม. 3 ห้อง 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอรถ
- ที่ดินแปลงมาตรฐาน 17.5 และ 21 ตร.วา
- ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาทหรือ 142,285 บาท/ตร.วา
- โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี 2558
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ปลายปี 2559
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 085-2536134 , 084-5556689
- Call Center : 1739
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.636735, 100.442282
แผนที่จากทางโครงการค่ะ ที่ตั้งของโครงการ พฤกษาวิลล์ 80 ท่าข้าม – พระราม 2 ตั้งอยู่ในซอยเทียนทะเล 7(ซอยบัวดี) ความอุดมสมบูรณ์แถวๆนี้มีมาให้ค่อนข้างครบ แต่จะไปกระจุกตัวอยู่ช่วงปากซอยท่าข้ามที่จะมีทั้ง เซ็นทรัลพระราม 2 , BigC และ Homepro ส่วนร้านค้าร้านอาหารเล็กๆน้อยๆจะอยู่ในซอยท่าข้ามมากกว่าเพราะมีแหล่งชุมชนอยู่ด้านในเยอะจะมีอาหารหลากหลายประเภทให้เลือกไม่ว่าจะเป็น ร้านก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง ร้านนั่งดื่มตอนกลางคืน ไปจนถึงร้านชาบูชาบูก็มี สำหรับร้านสะดวกซื้อ 7-11 , BigC และ Lotus express ค่ะ
ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยเทียนทะเล 7 (ซอยบัวดี)ากแผนที่เราจะเห็นว่าตัวโครงการเข้าซอยมาค่อนข้างลึกจากถนนพระราม 2 ประมาณ 4.5-4.6 กิโลเมตรแต่ยังดีที่มีเส้นทางให้เลือกใช้ได้หลายเส้นทาง ทางหลักจะเป็นถนนพระราม 2 ซึ่งเวลาปกติรถจะไม่ค่อยติดเท่าไหร่ วิ่งได้เรื่อยๆ แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนรถจะติดมาก ยิ่งช่วงขึ้นทางด่วนคงต้องต่อคิวยาวเลยค่ะ นอกจากนั้นก็ยังมี ถนนบางขุนเทียน, เลียบทางด่วนกาญจนาภิเษก, ถนนเอกชัย และถนนกัลปพฤกษ์ ให้เลือกใช้ไปยังโซนต่างๆในกรุงเทพได้ค่ะ
ในละแวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นโรงงาน หลายคนอาจจะติดภาพว่าโรงงานจะต้องแห้งแล้งแน่ๆ ขอบอกว่าไม่ใช่เลยค่ะ เนื่องจากแถบนี้เป็นโรงงานเยอะเลยทำให้มีหนุ่มสาวโรงงานมาก พอมีหนุ่มสาวชาวโรงงานมากเข้า ความอุดมสมบูรณ์ก็ตามมาค่ะ ทั้งตลาดเล็ก ตลาดน้อย ร้านค้าต่างๆ รวมถึงรถโดยสารทั้งรถสองแถวและวินมอเตอร์ไซด์สะดวกในการใช้ชีวิตพอตัวค่ะ
สำหรับการเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวไปโครงการไม่ยากค่ะ สามารถเข้าได้ 3 ทาง ทั้งจากทางเข้าหลักคือซอยท่าข้ามมีระยะทางประมาณ 8.5 กิโลเมตรจากถนยพระราม 2 เส้นทางที่ 2 คือเข้าจากถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล มีระยะห่างจากถนนพระราม 2 ประมาณ 4.5 กิโลเมตร และเส้นทางสุดท้ายคือถนนเลียบทางด่วนกาญจนาภิเษก
ในกรณีที่ทางเข้าหลักมีรถเยอะแน่นแล้ว ถนนบางขุนเทียนก็เป็นอีกเส้นทางเลือกนึงที่ดี ที่จะใช้เข้าออกจากโครงการ เพราะนอกจากระยะทางจะไม่ต่างกันมากแล้ว ถนนเส้นนี้ก็จะเป็นถนนเส้นที่ใหญ่กว่าเพราะมีโรงงานใหญ่เยอะถึงจะมีรถใหญ่วิ่งบ้างแต่ความคล่องตัวของรถมีมากกว่า นอกจากนั้นถ้าหากเราจะเข้าไปเส้นสาทร ถนนเส้นนี้ก็สะดวกมากค่ะ สามารถขึ้นสะพานข้ามถนนพระราม 2 ไปเส้นกัลปพฤกษ์ แล้ววิ่งยาวไปสาทรได้เลยค่ะ
สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ก็ค่อนข้างสะดวกถึงแม้จะไม่มีรถไฟฟ้าเนื่องจากเส้นพระราม 2 มีรถเมล์ผ่านหลายสายเช่น
- สาย 17ร ท่าข้าม – อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
- สาย 68 บางลำภู – สมุทรสาคร
- สาย 76 แสมดำ – ประตูน้ำ
- สาย 105 มหาชัยเมืองใหม่ – คลองสาน
- สาย 140 อนุเสาวรีย์ชัย – แสมดำ
- สาย 141 ม.จุฬา – มหาชัยเมืองใหม่
- สาย 142 เคหะธน – สำโรง
- สาย 147ร วงกลมดาวคะนอง – ถ.วงแหวนรอบนอก
- สาย 172ร หมู่บ้านนักกีฬา – บางขุนเทียน
- สาย 173ร ช่วงมีนบุรี – หัวลำโพง
- สาย 529ร แสมดำ – ส.ขนส่งผู้โดยสาร
- สาย 558 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ – สะพานพระราม9-เซ็นทรัลพระราม2(ทางด่วน)
นอกจากนั้นยังมีรถตู้ที่มาลงตรงเซ็นทรัลพระราม 2
- รถตู้ ม.รามคำแแหง – Central พระราม 2
- รถตู้ หมอชิต – Central พระราม 2
- รถตู้ สายใต้ใหม่ – Central พระราม 2
- รถตู้ บางนา – Central พระราม 2
- รถตู้ แหลมฉบัง พัทยา – Central พระราม 2
- รถตู้ ประตูน้ำ ถนนเพชรบุรี – Big C พระราม 2 สาขา 2
- รถตู้ Future Park รังสิต – Big C พระราม 2 สาขา 2
หลังจากนั้นก็ต่อรถสองแถวตรงปั๊มบางจากข้างๆ Big C หรือจะใช้บริการพี่วินที่อยู่หน้า Big C ก็ได้ค่ะ
สำหรับการเดินทางวันนี้เรามาจากในเมือง จะใช้เส้นทางด่วนเฉลิมมหานครลงเส้นพระราม 2 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยท่าข้ามกันนะคะ
ลงจากทางด่วนเข้าสู่เส้นพระราม 2 ตัวถนนมีสี่เลนขับสบายแต่ถ้าเป็นช่วงเย็นเลิกงานการจราจรก็ติขัดเหมือนกันนะคะ ขับตรงมาเรื่อยๆจะเห็นโรงพยาบาลบางมดทางซ้ายมือค่ะ
ต่อมาด้วย Health Land ใครมาดูโครงการพาคุณแม่ ผู้สูงอายุมาด้วยก็สามารถแวะมาผ่อนคลายได้นะคะ
ออกทางคู่ขนานค่ะ
มี HomePro และ BigC ทางซ้ายมือ
ตรงมาอีกหน่อย เห็นป้าย McDonald แล้วเตรียมตัวเลี้ยวซ้ายเข้าถนนท่าข้าม บริเวณนี้ปริมาณรถค่อนข้างเยอะค่ะ เพราะเป็นจุดที่มีทางเข้า/ออกของหลายๆห้างอยู่ติดกัน และยังมีป้ายรถเมล์หน้าห้าง BigC แถมยังมีสะพานกลับรถอยู่ด้านหน้าห้างอีก เพราะฉะนั้นลูกบ้านควรเผื่อเวลารถติดช่วงหน้าปากซอยไว้ด้วยนะคะ สำหรับใครที่จะเข้าเซ็นทรัลให้ขึ้นสะพานกลับรถเพื่อเข้าตัวห้างโดยตรงได้เลย
ตัวถนนมีขนาด 2 เลน แบ่งเป็น 2 ฝั่งมีเกาะกลางตลอดทาง มีที่กลับรถเป็นระยะๆค่ะ
เข้ามาประมาณ 200 เมตรจะเห็นโรงเรียนสมิทธิพงษ์เป็นโรงเรียนที่มีการสอนระดับอนุบาลและประถม ดังนั้นช่วงเช้าและช่วงเย็นผู้ปกครองมารับเด็กๆ รถก็อาจจะติดตรงนี้มากหน่อยค่ะ
ขับมาสักพักจะเจอสามแยกไฟแดง ถ้าเลี้ยวซ้ายจะเป็นทางลัดไปถนนพุทธบูชาและถนนประชาอุทิศที่มีมหาลัยบางมดตั้งอยู่ ตรงนี้รถก็ติดอีกเหมือนกันเพราะคนแถวนี้นิยมใช้เป็นทางลัดหนีรถติดบนถนนใหญ่ค่ะ
ตรงมาอีกหน่อยเป็น Lotus express, ตลาดสด และตลาดนัดอยู่ติดๆกัน
วิ่งมาสุดซอยท่าข้ามจะเป็นทางตัน ถึงตรงนี้เราต้องเลี้ยวซ้ายค่ะ
ขับตามทางมาเรื่อยๆจะเจอทางแยกถ้าออกซ้ายจะไปสถานีตำรวจและทางตัน ส่วนเราไปทางขวาจะไปออกซอยบางขุนเทียน 7 ค่ะ
ตรงไปสุดทางจะเจอทางแยกอีกทีให้เลี้ยวขวา สักพักเราก็จะเริ่มเห็นป้ายโครงการตามข้างทางแล้วค่ะ แต่ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปออกท่าข้าม 7 หรือซอยวัดท่าข้าม
ตรงมาเรื่อยๆเราจะเห็นป้ายพฤกษาวิลล์ 80 เลี้ยวซ้ายเข้าซอยมาเลยยยยย
เนื่องจากปากทางเข้าโครงการอยู่ตรงทางแยกเข้าซอยย่อยพอดี เวลาจะเข้า/ออกจากโครงการต้องระมัดระวังหน่อยนะคะ บางทีมีรถวิ่งมาจากถนนข้างๆเราจะไม่เห็น ซอยที่อยู่ข้างๆทางเข้าโครงการเป็นแหล่งชุมชนอาศัยข้างเคียง
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
สำหรับบริบทโดยรอบของโครงการนอกจากโรงงานขนาดเล็ก-กลางช่วงหน้าปากซอยแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นที่ว่างและที่อยู่อาศัยแนวราบ โดยมีพื้นที่ที่ติดต่อกับโครงการ
ด้านทิศเหนือ จะติดกับหมู่บ้านมินตราและคาซ่าวิลล์
ด้านทิศตะวันออก ติดกับชุมชนข้างเคียง โดยมีถนนวิ่งเกาะรั้วโครงการอยู่ค่ะ
ด้านทิศใต้ ติดกับโกดังบริษัทและคลอง
ด้านทิศตะวันตก ติดกับแมนชั่นและที่ดินเปล่าที่มีโอกาสพัฒนาเป็นที่พักอาศัยได้ในอนาคตค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- BigC พระราม 2 ~ 3.3 กิโลเมตร
- โรงเรียนสมิทธิพงษ์ ~ 4.7 กิโลเมตร รวมระยะกลับรถ
- โฮมโปรพระราม 2 ~ 4.7 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลนครธน ~ 4.9 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลพระราม 2 ~ 5.7 กิโลเมตร รวมระยะกลับรถ
- โรงพยาบาลบางมด ~ 6.5 กิโลเมตร
- เซนทรัลพระราม 2 ~ 9.1 กิโลเมตร
- โรงเบียร์ฮอลแลน์ ~ 9.2 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลบางปะกอก ~ 11.4 กิโลเมตร
- เดอะมอลล์ท่าพระ ~ 14 กิโลเมตร
ที่ดินของตัวโครงการมีลักษณะลึกและยาว จากหน้าโครงการถึงท้ายโครงการจะมีระยะทางประมาณ 750 เมตร แปลงที่ติดกับสำนักงานขายจะเป็นบ้านตัวอย่างและบ้านมาตรฐานให้เราเข้าไปชมค่ะ ส่วนกลางจะมีแค่สวนสาธารณะ 1 แห่งอยู่ช่วงกลางๆของโครงการ ไม่มี Club house , Fitness หรือสระว่ายน้ำให้นะคะ ถนนหลักของโครงการกว้าง 12 เมตร ถนนรองแบ่งย่อยเข้าซอยกว้าง 9 เมตร ถือว่ากว้างขับสบายค่ะ ส่วนรั้วรอบโครงการจะมี 2 ขนาด คือสูง 3 เมตรฝั่งขวาที่ติดกับถนนชุมชนข้างเคียงเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีและเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ส่วนด้านอื่นๆที่ไม่ติดกับถนนอะไรก็สูง 2 เมตรค่ะ
จากผังโครงการจะเห็นว่าในยูนิตที่อยู่ในช่วงแรกๆก่อนถึงสวนสาธารณะจะมีซอยย่อยของตัวเอง ซึ่งถือเป็นข้อดีนะคะเพราะยูนิตที่อยู่หน้าโครงการส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องความพลุกพล่านจากรถในโครงการทั้งหมดที่วิ่งผ่านไปผ่านมา หน้าบ้านที่อยู่ในซอยย่อยจะไม่ได้หันไปทางถนนหลักตรงๆทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แต่ช่วงครึ่งหลังก็ใช่ว่าจะไม่ดีนะคะ อยู่ลึกหน่อยก็ได้ความเป็นส่วนตัวสงบเงียบไป ไม่ต้องมีรถขับผ่านบ้านเราบ่อยๆ ช่วงต้นของโครงการเป็นพื้นที่ขายในอนาคต พื้นที่ตรงนี้ไม่เกี่ยวกับตัวโครงการของเรานะแต่เป็นพื้นที่แยกกันไปเลย ทางพฤกษาจะทำเป็นอาคารพาณิชย์แต่รายละเอียดยังไม่ออกมา ตรงนี้ถ้ามีร้านอาหารมาเปิดสักร้านสองร้านก็ดีค่ะเพราะตัวโครงการอยู่ค่อนข้างลึกจะได้มีของกินใกล้ๆบ้านบ้าง
มาดูของจริงกัน ป้ายใหญ่โครงการตั้งสูงขึ้นมาทำให้สังเกตุเห็นง่ายดี อีกป้ายอยู่ด้านในตรงป้อมยาม ถนนตรงนี้กว้าง 12 เมตรเข้าออกสะดวก บริเวณทางเข้ามีสนามหญ้าและลงต้นไม้ไว้ช่วยให้ดูโปร่งสบายเชียวค่ะ
พื้นที่ในอนาคตตรงนี้ทางโครงการยังไม่มีแพลนว่าจะเป็นอะไรในอนาคตนะคะ แต่มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นอาคารพาณิชย์หรือพื้นที่เช่า ถ้าเป็นร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ หรือร้านซักอบรีด ลูกบ้านก็จะได้ความสะดวกสบายมากขึ้นด้วย แต่..ความเป็นส่วนตัวลดลงแน่นอนค่ะ
มาถึงซุ้มทางเข้ากันแล้วค่ะ ถนนตรงนี้หน้ากว้างประมาณ 24 เมตร ตัวซุ้มมีหลังคาคลุมแต่เป็นแบบโปร่งเวลาฝนตกจะเปียกหน่อยนะคะ
ปล.พี่ยามที่นี่เค้าเป๊ะมากนะคะพูดเลย ใครมีโอกาสได้เข้าไปชมโครงการลองสังเกตุดูนะคะ ^0^//
ระบบความปลอดภัยของที่นี่จะมี Access Card ระยะใกล้ รั้วกั้นไม้กระดกกั้น และประตูเลื่อนไฟฟ้า พร้อมกล้องวงจรปิด 2 ตัวส่องบน-ล่างเห็นทั้งหน้าคนขับทั้งป้ายทะเบียนเลยค่ะ
ผ่านซุ้มทางเข้ามาตรงนี้ถนนหลักกว้าง 12 เมตร รั้วด้านซ้ายที่ติดกับถนนชุมชนข้างเคียงสูง 3 เมตร มีการปลูกต้นไม้และไม้พุ่มยาวตลอดแนวรั้วที่สูง 3 เมตร สร้างบรรยากาศที่ดีให้กับโครงการค่ะ
หันมาทางขวาจะเจอสำนักงานขายและห้องตัวอย่างอยู่ในซอยย่อยกว้าง 9 เมตร
สำนักงานขายบรรยากาศร่มรื่นตกแต่งตามสไตล์ Oriental ให้เข้ากับแบบบ้านที่เรากำลังจะไปดูกันค่ะ สำนักงานนี้เมื่อขายหมดแล้วจะกลายเป็นสำนักงานนิติบุคคล
แว้บไปดูด้านในมานิดนึงว่า ต้นไม้ไม่ได้ปลูกไว้สูงจนสุดกำแพงเหมือนด้านหน้าแฮะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สวนสาธารณะ 0-1-71.3 ไร่
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการบนถนนหลัก
- รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรและ 2 เมตร
- Key Card Access ระยะใกล้
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก และ ประตูเลื่อนไฟฟ้า
- ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 3 ม.
Product Walkthrough
อย่างที่บอก ว่าโครงการนี้ใช้แบบบ้านใหม่เอี่ยมของพฤกษาเป็นที่แรกในตระกูลพฤกษาวิลล์ทั้งหมดเป็นสไตล์ The Oriental หรือไทยประยุกต์ที่จะดึงเอาความเป็นตะวันออกมาใช้ เน้นความผ่อนคลาย ใกล้ชิดธรรมชาติ เพราะฉะนั้นแบบบ้านจึงมาในชื่อ Thai Silk และ Thai Wooden ไปดูกันค่ะว่าจะน่าอยู่แค่ไหน
แบบแรก Thai Silk แปลเป็นไทยได้ว่าผ้าไหมไทย (อุ้ย ชื่อสวยจัง*0*) แบบนี้เป็นบ้าน 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 17.5 ตารางวา จุดเด่นของบ้านโครงการนี้คือความสูงของพื้นถึงฝ้าที่ชั้น 1 สูงถึง 2.9 เมตร(ยกเว้นบางจุดที่ดรอปฝ้าลงมาเหลือ 2.7 เมตร) ส่วนชั้น 2 สูง 2.7 เมตร ด้านหน้ามีพื้นที่จอดรถ 2 คัน เข้าบ้านไปเจอกับห้องรับแขกที่เชื่อมต่อกันกับห้องทานอาหาร ครัว และห้องน้ำที่เข้าจากในครัว ส่วนหลังบ้านออกไปได้จากห้องทานอาหารค่ะ ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับโถงแจกไปห้องนอนทั้ง 3 ห้องนอนเล็ก 2 ห้องและห้องนอนใหญ่ 1 ตัวห้องน้ำบนชั้น 2 เป็นแบบ มีทางเข้า 2 ทางคือจากห้องนอนใหญ่ และจากโถง แบ่งเป็นส่วนแห้งและเปียกชัดเจน โดยที่ส่วนที่ใช้ร่วมกันเต็มๆเลยคือห้องอาบน้ำ ส่วนสุขภัณฑ์จะแบ่งเป็น 2 ชุดในตัวห้องน้ำจะมีประตูกระจกกั้นแบ่งไว้ให้ ทำให้สามารถใช้ส่วนแห้งพร้อมกันได้ค่ะ
มาดูของจริงกันค่ะ อย่างที่บอกว่าแนวความคิดคือไทยประยุกต์และใกล้ชิดธรรมชาติ โทนสีจึงใช้แบบเรียบง่ายโทนอ่อนเข้ากันทั้งตัวบ้าน นอกจากนั้นยังใช้ลวดลายของฝาไม้มาตีซ้อนเกล็ด และใส่ค้ำยันตรงหลังคาที่ชั้น 2
หน้าบ้านจะมีช่องแสงให้ 2 จุดคือประตูทางเข้าหลักและหน้าต่างซึ่งมีความสูงเท่าๆกันและมีรายละเอียดในการออกแบบให้เข้ากับสไตล์ของบ้าน เช่นกรอบประตูสีขาวที่นูนออกมารวมทั้งตัวบานกระจกที่มีเส้นแบ่งให้แตกต่างจากบ้านแนว Modern ที่จะเน้นความเรียบง่ายค่ะ สำหรับบ้านจริงจะให้ประตูรั้วเป็นบานพักแบบมีล้อเลื่อนให้ ประตูรั้วแบบนี้จะเปิดได้สุดเลย ทำให้การเอารถเข้ามาจอด 2 คันสะดวกค่ะ
ชานพักหน้าบ้านกว้างประมาณ 65 เซนติเมตร เวลาจอดรถแบบถอยท้ายเข้า(จริงๆเอาหน้าเข้าก็ด้วย) ต้องระวังกันมากหน่อยนะคะ เพราะตรงนี้ไม่มีอะไรกั้นยิ่งถ้าเป็นรถยาวๆอย่างรถกระบะหรือรถตู้ถอยไม่ระวังนี่ต้องซ่อมทั้งรถทั้งบ้านจ่ายกันบานเลยนะคะ
บานประตูและหน้าต่างของที่นี่เป็นกรอบอลูมิเนียมอบขาวทั้งหมด ประตูทางเข้าหลักเป็นบานเลื่อนเดี่ยวซึ่งตัวรางติดตั้งบนพื้นที่ลดระดับไว้แล้ว เวลาเดินจะสะดวกมากขึ้นเพราะไม่มีตัวรางมาเกะกะค่ะ
มือจับยื่นออกแบบนี้จับเลื่อนสะดวกดีค่ะ
เข้ามาในบ้านส่วนแรกเป็นห้องรับแขก สำหรับบ้านตัวอย่างที่เราเห็นมีช่องแสงด้านหลังโซฟาเพราะเป็นแปลงมุมนะคะ ถ้าเป็นบ้านหลังกลางจะไม่มีช่องแสงตรงนี้เป็นกำแพงทึบๆไปตามระเบียบ ผนังของด้านที่เราเห็นอยู่นี้ก็กว้างประมาณ 3.5 เมตร เป็นระยะประมาณจากผนังหน้าบ้านถึงสุดช่องแสงบานที่ 2 นะ การวางโซฟานอกจากขนาด 3 ที่นั่งแบบที่เห็นในรูปแล้วยังสามารถขยายให้กว้างกว่านี้ได้อีกหน่อยนะคะ 4 ที่นั่งก็ยังพอได้อยู่
หันมาฝั่งที่เราจะใช้วางทีวีกันบ้างเราจะมีที่สำหรับติดตั้งทีวีไม่มากนักเพราะต้องเสียพื้นที่ให้กับบันไดขึ้นชั้น 2 ค่ะและห้องเก็บของ
สำหรับห้องเก็บของถ้าไม่อยากให้เกะกะสายตาแนะนำว่าควร Build in ผนังมาแอบๆไว้หน่อยนึงแบบในบ้านตัวอย่าง บ้านจะดูเรียร้อยมากขึ้น
มาส่วนห้องทางอาหารที่อยู่ต่อกันมาจากห้องรับแขกนะคะ สำหรับบ้านที่มีพื้นที่ไม่เยอะ ไม่ใช่บ้านหลังใหญ่ การที่ไม่กั้นกำแพงระหว่างห้องแบบนี้จะช่วยให้บรรยากาศโดยรวมของบ้านดูกว้างขึ้น แถมยังตามสมาชิกในบ้านมาทานอาหารกันได้ง่ายๆด้วยกลิ่นหอมๆเนี่ยล่ะค่ะ แต่ๆ ระวังเฟอร์นิเจอร์มีกลิ่นอาหารติดนะคะ
มาดูส่วนครัวกันต่อนะคะ จะเห็นว่าสามารถกั้นเป็นห้องครัวปิดได้ง่ายมากเพราะเค้าออกแบบเผื่อเอาไว้ให้แล้ว โดยต่อเติมผนัง 1 ด้านขึ้นก็พอแล้ว ไฟส่องสว่างมีมาให้แค่ 1 ดวงเวลาทำอาหารอาจะไม่ค่อยถนัดแนะนำว่าติดไฟเพิ่มจะดีกว่า
ขนาดของเคาน์เตอร์จะทำเป็นทรงตัว L ได้โดยมีตู้เย็นวางด้านขวามือ ถ้าใครอยากได้เตาแบบ 4 หัวก็สลับตำแหน่งกับอ่านล้างจาน งานระบบพวกท่อน้ำเค้าก็เดินไว้ให้เรียบร้อยหมดแล้วสามารถทำเคาน์เตอร์ครัวได้เลยโดยไม่ต้องทำงานระบบเพิ่ม ช่องแสงมีให้ 1 จุดเอาไว้ให้อากาศถ่ายเทและระบายความชื้นได้ หรือถ้าใครไม่เน้นทำกับข้าวกินเองชอบทานข้าวนอกบ้านทุกมื้อไม่ต้องกั้นห้องก็ได้
กรอบหน้าต่างจะเป็นมือจับในตัวถึงจะเล็กไปหน่อยแต่ก็ไม่มีปัญหาในการใช้งานค่ะ
ห้องน้ำชั้นล่างจะมีทางเข้าจากห้องครัว มีข้อดีคือเวลานั่งกินข้าวบรรยากาศจะดีหน่อยเพราะประตูห้องน้ำจะไม่ไปเกะกะสายตาตรงบริเวณทางเดินระหว่างห้องทานอาหารกับห้องรับแขก
เข้ามาในห้องน้ำมีการลดระดับลงมา 5 เซนติเมตร ไม่สูงมาก แต่ก็กันน้ำกระเซ็นออกมาด้านนอกได้ นอกจากเวลาล้างห้องน้ำอาจจะมีเลอะเทอะบ้างนิดๆหน่อยๆไม่เป็นปัญหาค่ะ
เข้ามาดูในห้องน้ำจะมีโซนอาบน้ำมาให้ ดังนั้นในช่วงเวลาเร่งด่วนสมาชิกในบ้านสามารถมาอาบน้ำข้างล่างได้ไม่ต้องแย่งกันใช้ห้องน้ำชั้นบนที่มีเพียงห้องเดียว โถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าใช้ยี่ห้อ American Standard ตัวก๊อกใช้ของ Rasland
กระจกที่ได้บานค่อนข้างใหญ่ มีราวแขวนผ้าขนหนูอยู่ข้างอ่างล้างมือ ไม่มีตู้หรือชั้นวางของบริเวณอ่างล้างมือให้นะคะ ดูจากพื้นที่ที่ได้แล้วก็ไม่น่าจะ Build-in อะไรได้มากเท่าไหร่ แนะนำว่าควรมีชั้นวางของอะไรมาติดไว้ถ้าหากมีการใช้งานห้องน้ำชั้นล่างบ่อยๆนะคะ
ขนาดอ่างล้างมือค่ะ
ชุดสุขภัณฑ์มาตรฐาน ตำแหน่งการติดตั้งก็โอเค แต่ที่ใส่ทิชชู่อาจจะอยู่ใต้อ่างล้างมือไปนิดน้ำอาจจะกระเซ็นลงมาเปียกทิชชู่ได้ค่ะ
ตัวสายชำระเป็นโครเมี่ยมดีกว่าพลาสติกขึ้นมาหน่อย
ตรงโซนอาบน้ำมีชั้นวางของมาให้แค่นิดเดียวซึ่งการใช้งานจริงคงไม่พอแน่นอน และลองสังเกตดูจะเห็นว่าความสูงของฝ้าเพดานค่อนข้างเตี้ยเพราะเป็นตำแหน่งใต้บันได
ขนาดฝักบัวให้มาใหญ่กำลังดี
ออกมาดูที่หลังบ้านกันนะคะ ประตูหลังบ้านก็เป็นบานเลื่อน 2 ตอน และไม่มีกันสาดให้แต่มีก่อซีเมนต์ให้เป็นกรอบกันฝนสาดรั่วซึมเข้าประตูได้ระดับนึงค่ะ
พื้นที่หลังบ้านสามารถจัดเป็นที่นั่งชิลล์ได้แต่สำหรับบ้านจริงขนาดมาตรฐานลานซักล้างจะได้ประมาณ 2 x 5.7 เมตร ก็อาจจะวางได้แค่โต๊ะชุดเล็กๆ และเครื่องซักผ้านะคะ
เนื่องจากแบบบ้านของที่นี่ไม่มีระเบียงด้านหลังที่ชั้น 2 ทำให้การติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์เป็นแบบลอยตัว เวลาช่างมาล้างแอร์ก็อาจจะต้องปีนจากชั้น 1 แต่ถ้ามีการต่อเติมหลังคาจนเต็มพื้นที่แล้วก็ต้องปีนออกจากห้องนอนชั้น 2
มาที่บันไดทางขึ้นชั้น 2 กันค่ะ สำหรับโครงสร้างตัวบันไดเป็น คสล. และปิดทับด้วยไม้ยางพาราประสาน
ตัวบันไดมีราวจับยาวไปจนถึงชานพักด้านบน โถงบันไดไม่มีช่องแสง แนะนำให้ติดดวงไฟเพิ่มเติมค่ะ
ชานพักบันได ราวจับจะมาสุดที่ตรงนี้ค่ะ
พื้นชั้น 2 เป็นลามิเนตทั้งหมดสีเข้ากับบันไดได้ดี
โถงที่ชั้นสองมีขนาดใหญ่พอให้วางตู้เก็บของหรือเก้าอี้เล็กๆเอาไว้นั่งเล่นก็ได้
มาเริ่มที่ฝั่งซ้ายที่เป็นห้องนอนใหญ่ก่อนนะคะ ห้องน้ำบนชั้น 2 จะมีแค่ห้องเดียวแต่เป็นแบบ Double Access หรือเข้าได้ 2 ทางจากห้องนอนใหญ่และโถงทางเดิน
ขนาดของห้องนอนใหญ่กินพื้นที่เกือบครึ่งนึงของชั้น 2 มีลักษณะgป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าทำให้เราสามารถแบ่งเป็นส่วนเตียงนอนและ Walk in closet ได้ ฝั่งห้องนอนสามารถวางเตรียงขนาดคิงส์ไซส์ไว้กลางห้องแล้วยังมีทางเดินรอบเตียงได้สบายๆค่ะ
ระยะระหว่างเตียงกับผนัง
ระยห่างปลายเตียงกับชั้นวางของ Built-in
พื้นที่ด้านข้างเตียงอีกด้านมีเหลือพอให้จัดเป็นมุมนั่งเล่นเล็กๆ หรือจะทำเป็นตู้เก็บของก็ได้ค่ะ
มุมมองจากเตียงไปยังส่วน Walk-in Closet ในบ้านตัวอย่างเค้าทำเป็นชั้นวางของกับทีวีรวมกัน แต่ไม่ได้เอาทีวีมาวางไว้เท่านั้นเอง
ด้านในสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าได้ประมาณนี้ค่ะ
ทางเข้าห้องน้ำจากห้องนอนใหญ่ค่ะ
เข้ามาในห้องน้ำทางขวามือเป็นอ่างล้างมือพร้อมกระจกขนาดใหญ่ ตัวอ่างล้างมือมีเคาท์เตอร์ให้วางของได้นิดหน่อยค่ะ
ขนาดของอ่างล้างมือใหญ่กว่าชั้นล่างใช้งานได้สะดวกขึ้น
ซ้ายมือเป็นห้องอาบน้ำมีฉากกันที่ทางโครงการให้มาด้วยนะคะ เป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนทำให้เข้าออกได้สะดวกค่ะ
ด้านในห้องอาบน้ำมีชุดฝักบัวมาตรฐานและช่องแสงด้านบนช่วยให้แสงสว่างและระบายความชื้น ที่วางของยังให้น้อยเหมือนเดิมนะ
ห้องน้ำนี้มีความพิเศษอยู่อย่างนึงคือ มีฉากกั้นบานเลื่อนกระจกฝ้าขนาดใหญ่ให้ ตัวบานเลื่อนี้เอาไว้แบ่งส่วนโถสุขภัณฑ์อีกฝั่งช่วยให้สมาชิกในบ้านสามารถทำธุระและอาบน้ำไปพร้อมๆกันในชั่วโมงเร่งด่วนได้โดยไม่ต้องเขินค่ะ
อีกฝั่งนึงของฉากกั้นกระจกเป็นชุดโถสุขภัณฑ์ของ American standard ตรงนี้จะมีช่องแสงให้อีก 1 ช่องค่ะ
และยังมีพัดลมดูดอากาศให้ด้วย ช่วยลดกลิ่นเวลาต้องใช้ห้องน้ำร่วมกันค่ะ
กลับออกมาที่โถงทางเดินหันไปฝั่งห้องนอนเล็กกันบ้าง
เริ่มจากห้องนอน 1 ที่ติดกับบันได ห้องนี้ขนาดประมาณ 2.7 x 2.55 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 3 ฟุตได้พร้อมตู้ปลายเตียง และโต๊ะข้างเตียงค่ะ แต่ถ้าครอบครัวไหนไม่ได้ต้องการห้องนอน 3 ห้องแนะนำว่าทำเป็นห้องทำงานจะดีกว่า
ถ้าติดตั้งตู้เสื้อผ้าแบบบ้านตัวอย่างจะเหลือที่ด้านข้างเตียงให้วางโต๊ะทำงานได้นิดหน่อย
ต่อที่ห้องนอน 2 ขนาดประมาณ 3 x 3.5 ใหญ่กว่าห้องเมื่อกี้หน่อยนึง
สามารถวางเตียงขนาประมาณ 5 ฟุตได้ ในบ้านตัวอย่างเค้าวางเตียงไว้ติดผนังฝั่งนึงเผื่อให้เหลือพื้นที่ปลายเตียงเยอะพอที่จะใส่ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำการบ้านเล็กๆได้
สามารถติดตั้งตู้ได้ประมาณนี้ค่ะ
สวิสต์ไฟทั่วบ้านเป็นของ Schneider electric ค่ะ
สำหรับประตูบ้านภายในที่ไม่ใช่ห้องน้ำทั้งหลังจะเป็นประตูไม้ทึบทาสีขาวทั้งบาน กลอนประตูเป็นแบบลูกบิดธรรมดา
ส่วนประตูห้องน้ำเป็น PVC สีขาวที่ทนต่อความชื้นค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ส่วนบ้านแบบที่ 2 Thai Wooden เป็นบ้าน 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร เช่นกัน พื้นที่ใช้สอย 95 ตารางเมตร ที่ดินเริ่มต้น 17.5 ตารางวา สิ่งที่บ้านแบบนี้ต่างจาก Thai Silk คือมีพื้นที่ใช้สอยน้อยกว่า และที่จอดรถมีให้เพียง 1 คัน ส่วนการจัดแปลนบ้านจะคล้ายๆกันค่ะ คือเข้าตัวบ้านไปเจอห้องรับแขก เชื่อมต่อกับห้องทานอาหารและครัว แต่ระยะดูทีวีจะน้อยกว่าแบบแรกเพราะต้องแบ่งให้ที่จอดรถ ห้องน้ำชั้น 1 เข้าได้จากห้องครัวเหมือนเดิม ชั้น 2 ยังคงมีห้องนอน 3 ห้องและห้องน้ำ 1 ห้องสามารถเข้าได้จากสองทางคือจากห้องนอนใหญ่และโถงทางเดิน แต่ไม่มีฟังก์ชันพิเศษแบ่งการใช้งานเหมือนแบบแรกค่ะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 1 September 2015
- Thai Silk 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 118 ตารางเมตร
- ที่ดินมาตรฐาน 21.4 ตารางวา ราคา 3.29 ล้านบาทหรือ 153,738 บาท ต่อตร.วา
- ที่ดินมุมกลาง 25.1 ตารางวา ราคา 3.79 ล้านบาทหรือ 150,996 บาท ต่อตร.วา
- ที่ดินมุมถนน 30.2 ตารางวา ราคา 4.49 ล้านบาทหรือ 148,675 บาท ต่อตร.วา
- ที่ดินมาตรฐาน 17.5 ตารางวา ราคา 2.69 ล้านบาทหรือ 153,714 บาท ต่อตร.วา
- ที่ดินมุมกลาง 22.0 ตารางวา ราคา 3.39 ล้านบาทหรือ 154,090 บาท ต่อตร.วา
- ที่ดินมุมถนน 23.5 ตารางวา ราคา 3.39 ล้านบาทหรือ 144,255 บาท ต่อตร.วา
- ที่ดินมุมรั้ว 27.7 ตารางวา ราคา 3.79 ล้านบาทหรือ 136,823 บาท ต่อตร.วา
- จองและทำสัญญา 10,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 97,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 35 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
โครงการพฤกษาวิลล์ 80 ท่าข้าม – พระราม2 ตั้งอยู่ในซอยเทียนทะเล 7 ที่เชื่อมต่อกับซอยท่าข้ามที่เข้ามาจากเส้นพระราม 2 สามารถเลือกเดินทางได้ 2 เส้นทางคือซอยท่าข้ามและถนนบางขุนเทียนซึ่งเอาไว้ใช้หนีรถติดจากถนนท่าข้ามได้ในช่วงเวลาเร่งด่วน ถ้าจะเข้าไปโซนสาทรสามารถวิ่งเส้นบางขุนเทียนไปออกกัลปพฤกษ์แล้ววิ่งตรงยาวๆได้เลยค่ะ ส่วนในถนนท่าข้ามเองก็มีเส้นทางลัดไปออกพุทธบูชาและประชาอุทิศได้
สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยแนวราบ นอกจากนั้นยังมีโรงงานขนาดเล็ก-กลางอยู่ประปราย ดังนั้นถ้ามาตลาดแถวๆนี้จะเจอหนุ่มสาวโรงงานเยอะหน่อยนะคะ ความอุดสมบูรณ์รอบๆโครงการในระยะเดินได้ไม่ค่อยมีมากนักอาจต้องขับรถเข้าไปช่วงกลางๆของซอยท่าข้ามแถวนั้นจะมีของกินให้เลือกเยอะเลยค่ะ แต่ถ้าอยากจะเดินห้างตากแอร์ก็ต้องไป เซ็นทรัล พระราม 2, Big C หรือ Home Pro หน้าปากซอยท่าข้ามก็ได้
การเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวถือว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุดก็ว่าได้ ด้วยความที่โครงการอยู่ห่างจากถนนใหญ่มาค่อนข้างเยอะบวกกับในโซนนี้มีแต่หมู่บ้านทำให้รถค่อนข้างติดมาก ในช่วงเวลาเร่งด่วนคือติดตั้งแต่ถนนใหญ่ตรง Home Pro มาถึงในซอยเลย เพราะฉะนั้นถ้าใครไม่ได้คิดจะซื้อข้าวซื้อขนมในซอยท่าข้ามก็วิ่งเลยมาเข้าเส้นบางขุนเทียนก็ได้ค่ะ ตัวถนนมีขนาดใหญ่กว่ารถทำความเร็วได้ดีกว่าแต่ถ้าวิ่งช่วงสายๆจะเจอรถส่งของเยอะหน่อย สำหรับทางด่วนมีให้เลือกใช้ 2 จุด จุดแรกจะเป็นทางด่วนเฉลิมมหานครตรงด่านพระราม 2 กับ ทางด่วนวงแหวนอุตสาหกรรมเอาไว้ใช้ไปโซนสำโรงหรือปู่เจ้าสมิงพราย ส่วนเส้นกาญจนาภิเษกก็เอาไว้ใช้ไปโซนบรมราชชนนีได้ค่ะ
ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถ ก็มีรถสาธารณะที่เป็นรถสองแถวให้บริการอยู่ค่ะจะวิ่งผ่านหน้าโครงการไปออกปากซอยท่าข้ามแล้วไปสุดที่ Lotus ที่นี่ถ้าจะไปต่อที่อื่นก็มีรถเมล์กับวินรถตู้หลายสายให้เลือกนะ หลักๆมีวินที่หน้าเซ็นทรัลกับ Big C พระราม 2 สาขา 2 ส่วนพี่วินมอเตอร์ไซด์ขาเข้าขึ้นจากหน้า BigC และขาออกจะอยู่ที่ 7-11 หน้าโครงการค่ะ
วัสดุของโครงการนี้ใช้แบบมาตรฐานผนังทาสีขาวทั้งหลัง พื้นชั้นล่างปูกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ส่วนในห้องน้ำจะใช้กระเบื้องต่างสีต่างชนิดกัน 3 แบบปูจากพื้นจรดฝ้าเพดาน โถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าได้ของ American standard หรือเทียบเท่า รวมถึงฉากกั้นห้องอาบน้ำและฉากกั้นแบ่งโซนในห้องน้ำที่ชั้น 2 เหมือนตามที่เห็นในบ้านตัวอย่าง หน้าต่างและประตูเป็นบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมอบขาว ประตูด้านในบ้านทั้งหลังจะเป็นประตูไม้ทึบทาสีขาวทั้งบาน ลูกบิดอลูมิเนียมธรรมดา ประตูห้องน้ำ PVC สีขาว
การออกแบบของตัวบ้านค่อนข้างเป็นสัดส่วน ในส่วนของครัวสามารถกั้นเป็นครัวปิดได้ไม่ยากเพราะโครงการออกแบบมาให้ครัวมีผนังมาสามด้านแล้ว ส่วนชั้นบนก็ทำได้ดีในเรื่องของการแบ่งโซนห้องน้ำให้ใช้พร้อมกันได้ เพราะห้องนอนอีก 2 ห้องไม่มีห้องน้ำในตัวการมีฉากกั้นแบ่งแบบนี้จะมีประโยชน์ในช่วงเวลาเร่งด่วนค่ะ หรือจะมาใช้ห้องน้ำที่ชั้นล่างก็ได้ นอกจากนั้นฝ้าที่ยกสูงถึง 2.9 เมตรที่ชั้น 1 ยังช่วยให้บ้านมีความโปร่งสบายมากกว่าทาวน์เฮาส์ทั่วๆไปด้วย
เรื่องสาธารณูปโภคถือเป็นจุดด้อยสำหรับโครงการนี้เพราะมีให้แค่สวนสาธารณะเท่านั้น ไม่มีอย่างอื่นเลย ส่วนการักษาความปลอภัยมี Key card access ระยะใกล้ ระบบ CCTV ที่ซุ้มด้านหน้าและถนนหลักของโครงการจำนวนกล้องยังไม่รู้นะคะเพราะโครงการเพิ่งเริ่มสร้างทางโครงการเลยยังไม่ได้กำหนดว่ามีกี่จุด มีประตู 2 ชั้น มีรั้วกั้นไม้กระดกและรางเลื่อนไว้ปิดตอนกลางคืน รั้วรอบโครงการสูง 3 และ 2เมตรค่ะ
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 2.69 – 4.49 ล้านบาท, 1 September 2015
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.0/10 – มีถนนหลายสายเป็นตัวเลือกในการเดินทาง แต่ระยะห่างจากถนนใหญ่ไกลไปหน่อย
- ความปลอดภัย 7.25/10 – รั้วกั้นไม้กระดกและประตูเลื่อนไฟฟ้า รปภ.หน้าหมู่บ้าน CCTV
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 – ฟังก์ชั่นครบ ฝ้าเพดานสูง
- วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.0/10 – โครงการขนาดกลางพื้นที่สีเขียวมีตามรั้วและพื้นที่แปลงริมถนน
- สาธารณูปโภค 6.75/10 – มีแค่สวนหย่อม
- 7.18 / 10.00
BOTTOM LINE
พฤกษาวิลล์ 80 ท่าข้าม – พระราม 2 ถือว่าเป็นโครงการทาวน์เฮ้าส์ขนาดกลางจำนวนยูนิตค่อนข้างเยอะ ตั้งอยู่บนทำเลที่ไกลออกมาจากตัวเมืองหน่อย เหมาะสำหรับคนที่ทำงานในย่านพระราม 2 บางขุนเทียน เอกชัย มีรถยนต์ส่วนตัวและไม่ซีเรียสมากนักเรื่องรถติดในช่วงเวลาเร่งด่วน กำลังมองหาบ้านหลังแรกเพื่อสร้างครอบครัว มีสมาชิก 2 – 3 คน อยากได้บ้านที่เดินทางไปห้างไม่ไกลมีงบประมาณ 3.3 – 4.5 ล้านบาท และมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 23,000 – 36,000 บาท
ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )
