รีวิวฉบับที่ 951 สวัสดีค่ะ วันนี้พาไปชมโครงการ พฤกษาวิลล์ 62/1 นิมิตรใหม่ เป็นอีกหนึ่งโครงการทาวน์โฮมหน้ากว้าง 5.7 เมตร จากพฤกษา เรียลเอสเตท ในราคาที่หยิบจับได้ง่าย โดยตั้งโครงการอยู่บนถนนนิมิตใหม่ ที่สามารถเชื่อมไปรังสิต – นครนายก หรือฉะเชิงเทราได้ ตัวโครงการเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น มีบ้านทั้งหมด 2 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 17.5 ตารางวา ในราคาเริ่มต้น 1.699 ล้านบาท ตามไปดูกันเลยค่ะ

 

Fact @ 13 July 2015

  • Pruksa Ville 62/1 Nimitmai (พฤกษา วิลล์ 62/1 นิมิตใหม่)
  • บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : คลองสามวา
  • เนื้อที่โครงการ 23 ไร่ จำนวน 257 ยูนิต
  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
  • แบบบ้านที่ 1 ที่ดินเริ่มต้น 17.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 95 ตร.ม.
  • แบบบ้านที่ 2 ที่ดินเริ่มต้น 18.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม.
  • ที่ดินแปลงมาตรฐาน 17.5 ตร.วา
  • ราคาเริ่มต้น 1.699 ล้านบาทหรือ 57,000 บาท/ตร.วา
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี 2558
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ปี 2560
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1739

 

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.851634, 100.731878

ที่ตั้งโครงการ พฤกษาวิลล์ 62/1 นิมิตรใหม่ ตั้งอยู่บนถนนนิมิตใหม่ขาเข้ามุ่งหน้าไปทางมีนบุรี ถนนนิมิตใหม่นั้นเชื่อมต่อกับถนนได้หลายสาย ทั้งถนนลำลูกกา, หทัยมิตร, สุวินทวงศ์ และรามคำแหง มีห้างในละแวกสำหรับจับจ่ายซื้อของใช้ได้อย่าง Tesco Lotus, Big C ค่ะ

โครงการ พฤกษาวิลล์ 62/1 นิมิตรใหม่ ตั้งอยู่บนถนนนิมิตใหม่ ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมถนนสุวินทวงศ์จากแยกการไฟฟ้า กับถนนลำลูกกา โดยตัดกับถนนถนนประชาร่วมใจ ถนนหทัยมิตร ถนนราษฎร์นิมิตร และไมตรีจิตร บนถนนนี้ส่วนใหญ่เป็นโครงการแนวราบทั้งจัดสรร และไม่จัดสรร ทั้งหมู่บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ ซึ่งอาจจะไม่ฮอตฮิตเท่ากับถนนหทัยราษฏร์ หรือรามอินทรา เนื่องจากอยู่ไกลเมืองมากกว่าแต่ราคาก็จะต่ำลงมาหน่อยทำให้หยิบจับได้ง่ายขึ้นค่ะ

สำหรับโครงการนี้เหมาะกับการใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักนะคะ เนื่องจากตัวโครงการค่อนข้างห่างจากตลาด ของกิน และห้าง รวมทั้งการจะพึ่งพิงรถโดยสารสาธารณะอื่นๆ ก็ไม่ได้มีให้เลือกใช้มากนัก ที่เห็นวิ่งๆ ประจำหน้าโครงการก็จะเป็นรถสองแถวที่จะวิ่งจากตลาดมีนบุรีเข้ามา ถ้าต้องเดินทางตอนกลางคืนนั้นก็คงต้องพึ่งพี่แท็กซี่อย่างเดียว ซึ่งก็ไม่เหมาะกับสาวๆ เลยค่ะ เพราะตัวถนนนั้นส่วนใหญ่จะเป็นรถใหญ่วิ่ง อาจจะอันตรายและเปลี่ยวไปสักหน่อย

ความอุดมสมบูรณ์บนถนนนิมิตใหม่นั้นอาจจะไม่สมบูรณ์เท่าถนนข้างเคียงอย่างถนนหทัยราษฎร์, ถนนสุวินทวงศ์ เท่าไหร่นัก อย่างที่เห็นได้ชัดเลยจากแหล่งของกินและห้างที่ส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่บริเวณแยกมีนบุรีที่เป็นจุดเชื่อมต่อถนนหลักหลายๆ สาย ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 6 กม. แต่ก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะบนถนนนิมิตใหม่ก็ใช่ว่าจะแห้งแล้งซะทีเดียว ยังมีร้านอาหารตามสองฝั่งถนนที่เปิดขายอยู่ระหว่างทางเรื่อยๆ วันที่ไปถ่ายทำทางทีมงานก็ได้ชิมก๋วยเตี๋ยวเรือใกล้ๆกับโครงการอร่อยทีเดียวค่ะ ^^

มาดูเรื่องการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายในอนาคตกันบ้าง ถึงแม้จะต้องรออีกนานก็ถือว่ายังดีที่มีแผนวิ่งผ่านแถวนี้บ้าง สายที่เข้ามาในโซนนี้ก็มีรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีมีนบุรี เป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 6 กม. สำหรับรถไฟฟ้าสายสีชมพูนั้นมี สถานีมีนบุรี ถ้าสร้างเสร็จก็จะช่วยให้คนที่ทำงานในเมืองนั้นสามารถเดินทางไปทำงานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยสามารถขับรถจากโครงการมาจอดรถตรงสถานีมีนบุรีได้เลยนะคะ เพราะสถานีนี้มีอาคารจอดรถสามารถจอดได้ประมาณ 3,000 คัน ไว้รองรับค่ะ สำหรับการเดินทางของรถไฟฟ้าต่อขยายถ้าเดินทางหลายสถานีมากๆเรื่องระยะเวลาในการเดินทางอาจใกล้ๆกับรถยนต์ในช่วงเวลารถไม่ติดแต่ถ้าช่วงรถติดนี่ถือว่าช่วยได้อยู่นะคะ เพราะกำหนดเวลาเดินทางได้แม่นยำกว่าขับรถค่ะ

การเดินทางในวันนี้จะเริ่มต้นจากถนนรามคำแหงขับตรงไปเรื่อยๆ ข้ามสะพานข้ามแยกลาดบัวขาวที่ตัดเข้าถนนมีนพัฒนา (ถนนเชื่อมรามคำแหง – เสรีไทย) และสะพานข้ามแยกรามคำแหง – ร่มเกล้า ตรงไปจนถึงแยกการไฟฟ้าแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุวินทวงศ์ จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนนิมิตใหม่ ตรงไปอีกประมาณ 3.5 กม. ก็จะถึงโครงการแล้วค่ะ ^^

เริ่มต้นกันบนถนนรามคำแหงตอนปลาย มุ่งหน้าตรงไปมีนบุรี

ผ่านแยกที่สามารถวิ่งเข้าทางด่วนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) ได้ค่ะ แต่เราจะมุ่งตรงไปก่อนนะ

มุ่งหน้าตรงไปทางถนนสุวินทวงศ์โดยเราจะขึ้นสะพานลอยกัน

ขึ้นสะพานข้ามแยกลาดบัวขาว ลดปัญหารถติดบริเวณแยกที่ตัดกับถนนมีนพัฒนาที่เป็นถนนเชื่อมเข้าถนนเสรีไทย

ลงสะพานข้ามแยกมาตรงบริเวณรามคำแหงซอย 193 ถนนกว้าง 8 เลน เดินทางสะดวกค่ะ

ขับมาเรื่อยๆ ประมาณ 900 ม. จะเจอกับ Big C Supercenter สาขาสุขาภิบาล 3

ขับตรงมาขึ้นสะพานข้ามแยกรามคำแหงที่ตัดกับถนนร่มเกล้าอีกที

ตรงมาจนถึงแยกการไฟฟ้า ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุวินทวงศ์

ตรงมาประมาณ 350 ม. จะเจอกับทางแยก โดยต้องเลี้ยวขวาเข้าถนนนิมิตใหม่

บนถนนนิมิตใหม่มีความกว้าง 6 เลน การเดินทางบนถนนนี้ค่อนข้างสะดวกรถไม่ติดมากนัก เนื่องจากถนนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นทางผ่านไปฉะเชิงเทรา หรือไปรังสิต บริเวณข้างทางมีร้านอาหารเปิดตามถนนอยู่เรื่อยๆค่ะสามารถเลือกอาหารได้หลากหลายประเภทเลย

นอกจากร้านอาหารข้างทางแล้ว ก็มี Big C Mini ไว้ซื้อของเล็กๆ น้อยๆ ฉบับสะดวกซื้อ

ที่พิเศษอีกอย่างนึงของถนนเส้นนี้คือ มีปั๊มแก๊ส ปั๊มน้ำมันเยอะมากๆ คาดว่าไว้เพื่อรองรับรถใหญ่ๆ ที่ขับไปมาบริเวณนี้ค่อนข้างเยอะ

ตรงไปเรื่อยๆ ข้ามสะพานข้ามคลอง

ลงสะพานข้ามคลองลงมา จะเห็นโครงการอยู่ทางซ้ายมือ ซึ่งถัดไปคือโครงการพฤกษา วิลล์ 62/2 ที่เปิดขายหมดไปแล้ว

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

บริบทโดยรอบโครงการและสภาพแวดล้อมบริเวณโครงการ

  • ทางทิศเหนือ ติดกับโครงการพฤกษาวิลล์ 62/2 ที่เป็นโครงการเก่าในเครือพฤกษาเช่นเดียวกัน โซนบ้านที่อยู่ใกล้หมู่บ้านเพื่อนบ้านในเครือเดียวกันก็จะได้รับอานิสงค์ความปลอดภัยของอีกหมู่บ้านนึงไปโดยบริยายค่ะ
  • ทิศตะวันออก ติดกับถนนนิมิตใหม่และตรงข้ามถนนเป็นเต้นท์ขายรถ และร้านค้าขายของ
  • ทิศใต้ ติดกับวัดบัวแก้ว และโรงเรียนวัดบัวแก้ว บ้านที่อยู่บริเวณนี้ต้องเช็คเรื่องของเมรุ และเสียงเด็กๆ ที่เจี้ยวจ้าวในช่วงเวลาเช้าก่อนเข้าเรียนและเย็นหลังเลิกเรียนนะคะ
  • ทิศตะวันตก ติดกับคลองสามวา เลยจากคลองจะเป็นด้านหลังโครงการหมู่บ้านเก่าซึ่งทางเข้า – ออกจะอยู่ทางถนนหทัยราษฎร์

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • โรงเรียนสารสาสน์วิเทศนิมิตรใหม่ ~3 กิโลเมตร
  • Big C สาขาสุวินทวงศ์ ~6.1 กิโลเมตร
  • Tesco Lotus สาขามีนบุรี ~6.6 กิโลเมตร
  • ตลาดมีนบุรี ~6.8 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลเสรีรักษ์ ~7.6 กิโลเมตร
  • Amorini ~10.8 กิโลเมตร
  • The Promenade ~11.7 กิโลเมตร
  • Fashion Island ~11.9 กิโลเมตร

 


เจาะลึกตัวโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

โครงการ พฤกษาวิลล์ 62/1 นิมิตรใหม่ เป็นโครงการทาวน์โฮม มีเนื้อที่โครงการประมาณ 23 ไร่ โดยมีจำนวนยูนิตทั้งหมด 257 ยูนิต อยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง (สีเขียว) และแล้วสร้างเสร็จแล้วบางส่วน (สีชมพู) คาดว่าจะเสร็จทั้งหมดประมาณปี 2560 ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นแบบไม้กระดก โดยเปิด-ปิดได้จาก Key Card Access ระยะใกล้ จะมีรปภ.รักษาความปลอดภัยจุดนี้ 24 ชม. และ มีติดตั้ง CCTV บริเวณซุ้มทางเข้า – ออก

เมื่อผ่านซุ้มโครงการเข้ามาถึงจะเป็นถนนหลักของโครงการที่มีความกว้าง 15 เมตร พอตรงเข้ามาหน่อยถนนหลักจะลดลงเหลือ 12 เมตร ส่วนถนนซอยกว้าง 9 เมตร โครงการไม่ได้มี Club House, Fitness หรือสระว่ายน้ำ แต่สวนหย่อม 2 จุด ขนาดเนื้อที่ประมาณ 59.5 ตร.วา ที่อยู่ด้านหน้าและด้านหลังโครงการ ถึงแม้ว่าทางโครงการจะไม่มีส่วนกลางให้มากนักแต่ก็ Trade-off กันไปกับราคาค่าส่วนกลางและค่าบำรุงรักษาในอนาคตนะคะ

บริเวณด้านหน้าใกล้สวนเป็น Sale Office ที่อนาคตจะเป็นอาคารของนิติบุคคล รั้วกำแพงของโครงการเป็นคสล.ทึบสูง 2 เมตรในด้านที่ติดกับโครงการพฤกษาวิลล์เก่า แต่ในด้านอื่นๆ ของโครงการรั้วจะสูง 3 เมตร โดยขนาดที่ดินแปลงมาตรฐาน Type 1 คือ 17.5 ตารางวา และแบบ Type 2 แปลงมาตรฐานคือ 18.7 ตารางวา การเปิดขายจะเริ่มจากโซนสีชมพูก่อนนะคะ

ป้ายหน้าทางเข้าโครงการเด่นชัดเจนมากๆ ขณะที่เข้าเก็บข้อมูลหน้าโครงการมีการปรับปรุงท่อระบายน้ำตลอดแนวถนนอยู่อาจดูไม่เรียบร้อยนิดหน่อยนะคะ

ซุ้มทางเข้าโครงการทำจากโครงเหล็ก ตกแต่งด้วยโทนสีดำ – เทา เน้น Modern เรียบง่าย ซุ้มนั้นไม่สามารถกันฝนได้นะ แต่ยังพอกันแดดได้บ้าง อาจจะเปียกแขนหน่อยเวลายื่นมือไปสแกนบัตรเข้า – ออก โครงการ

สำหรับการเข้า – ออกของโครงการนั้น ใช้ระบบ Key Card Access ระยะใกล้ โดยต้องเอาบัตรไปแตะบริเวณเครื่องสแกน ผ่านรั้วไม้กระดกอัตโนมัติ และ CCTV ส่องหน้าคนขับและป้ายทะเบียน ส่วนถ้าเป็นผู้มาติดต่อจะต้องแลกบัตรกับพี่ รปภ.ก่อน จะประจำอยู่ที่ซุ้มตลอด 24 ชม.

ถนนหลักโครงการด้านหน้ากว้าง 15 เมตร ถือว่าทำถนนมาให้ค่อนข้างกว้าง การสัญจรภายในโครงการสะดวก อย่างที่เห็นจากภาพว่าถึงแม้จะจอดรถข้างถนนทั้ง 2 ฝั่งก็ยังกว้างพอให้รถขับสวนกันได้สะดวก

ส่วนด้านข้างจัดสวนปลูกไม้ใหญ่ พร้อมโคมไฟประดับ ไว้เรียบร้อย ถัดไปจะเห็น Sale Office ค่ะ

ภายใน Sale Office ตกแต่งด้วยสีโทนไม้อ่อนดูอบอุ่นน่ารัก ^^

บริเวณด้านนอกของ Sale Office มีพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้ง เป็นชุดที่นั่ง 1 ชุดและเก้าอี้เปล ใต้ร่มไม้สามารถมานั่งเล่นในตอนเช้าหรือตอนเย็นก็ชิลดีนะคะ แต่ตอนกลางวันนี่…ขอหลบแดดดีกว่า อิอิ

สวนหย่อมโครงการจัดไว้ให้สวยและเรียบร้อย พร้อมปูทางเดินไว้ให้เรียบร้อย ด้านข้างยกพื้นสูงพร้อมปลูกไม้ยืนต้นและไม้พุ่มบังสายตาจากโครงการข้างเคียง สวนหย่อมด้านหน้าไม่ได้มีเท่านี้นะคะ ยังเลยไปด้านข้างอีก

อีกด้านนึงของสวนจะค่อนข้างกว้างกว่าด้านหน้ามีพื้นที่สนามหญ้าและยกระดับพื้นขึ้นมาสำหรับเดินเล่น นั่งเล่น หรือใครอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศมาปิกนิกบริเวณสวนตอนเช้าๆ ก็ได้นะ

รั้วโครงการที่ติดกับโครงการรุ่นพี่พฤกษาวิลล์ 62/2 นั้นจะมีความสูงรั้ว 2 เมตร ถึงจะดูเตี้ยไปสักหน่อยแต่ทางโครงการก็ปลูกไม้พุ่มเป็นรั้วต้นไม้ขึ้นมาสูงพอสมควร และข้อดีของรั้วต้นไม้นั้นคือสามารถปรับความสูงรั้วให้สูงขึ้นได้นะ (รอต้นไม้โตนิดนึง ^^)

หันหลังกลับไปอีกด้านเห็นโรงเรียนวัดบัวแก้วที่อยู่ติดกับโครงการชัดเจน

มาดูกันชัดๆ จะเห็นว่าโรงเรียนวัดบัวแก้วอยู่ค่อนข้างใกล้ชิดกับโครงการทีเดียวนะคะ บ้านที่อยู่ใกล้ๆ อาจจะได้ยินเสียงเจี้ยวจ้าวของเด็กๆ อยู่บ้างในช่วงเช้า – กลางวัน หรือวันที่มีกิจกรรมใหญ่ๆ

ในด้านที่ติดกับวัดบัวแก้วทำรั้วกำแพงทึบสูง 3 เมตร และปลูกไม้ยืนต้นตามแนวรั้ว

สวนหย่อมด้านหลังโครงการมีขนาดเล็กกว่าสวนหย่อมด้านหน้า และไม่มีฟังก์ชันในการใช้งานสวนได้เท่าไหร่นัก แต่ก็เป็นพื้นที่สีเขียวที่มองออกจากบ้านก็ช่วยให้ผ่อนคลายและสบายตาได้ดีค่ะ

ถนนภายในมีความกว้าง 9 เมตร ถือว่ากว้างขวางพอสมควรค่ะ ถ้าในอนาคตมีรถมาจอดเรียงรายหน้าบ้านกันทั้ง 2 ฝั่งถนนก็ยังพอวิ่งสวนกันได้

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สวนสาธารณะ 59.5 ตร.วา
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate
  • รั้วรอบโครงการสูง 2 เมตรและ 3 เมตร
  • Key Card Access ระยะใกล้
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
  • ถนนหลักกว้าง 15 และ 12 ม. และถนนภายในซอย 9 ม.

 


Product Walkthrough

บ้านตัวอย่างที่จะพาไปดูก่อนคือแบบ Type 2 นะคะ ซึ่งความแตกต่างระหว่าง Type 1 และ Type 2 นี้ คือ ความลึกของตัวบ้านทั้งคู่หน้ากว้างเท่ากันคือ 5.7 เมตร แบบ Type 2 ลึก 7.8 เมตร ส่วน Type 1 ลึก 7.0 เมตร และการจัดฟังก์ชันห้องในบ้านเหมือนกันค่ะ

ตัวบ้านเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดิน 18.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยประมาณ 110 ตร.ม. แบบ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 ห้องครัว โดยเข้ามาในบ้านจะเจอพื้นที่ลานจอดรถขนาด 1 คัน ด้านข้างที่จอดรถจัดเป็นพื้นที่สวนเล็กๆได้ หรือจะปรับพื้นที่ไปใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ได้เช่นกันนะคะ เข้ามาภายในตัวบ้านจะเจอกับห้องรับแขก ต่อเนื่องกับห้องรับประทานอาหารที่มีประตูเปิดออกไปสู่หลังบ้าน ห้องน้ำหลบอยู่ด้านในห้องครัวที่มีส่วนอาบน้ำอยู่ด้วย แต่ไม่ได้แยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้เวลาอาบน้ำเลยจกระเซ็นออกมาหน่อย ส่วนห้องครัวจัดพื้นที่มาเป็นครัวเปิด ซึ่งเราสามารถทำประตูกั้นเป็นครัวปิดได้ เวลาประกอบอาหารกลิ่นจะได้ไม่ลอยฟุ้งไปทั่วบ้าน

 

ขึ้นไปที่ชั้น 2 บ้าน Type นี้จะแบ่งออกเป็น 3 ห้องนอน โดยแบ่งเป็น Master Bedroom 1 ห้อง ขนาดค่อนข้างใหญ่สามารถจัดพื้นที่ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Walk -in Closet หรือเป็นพื้นที่นั่งทำงานได้ ส่วนห้องนอนขนาดกลาง และขนาดเล็ก ขนาดก็จะลดลงมา ทั้ง 3 ห้องนอนใช้ห้องน้ำร่วมกันที่โถงทางเดินด้านนอก ในชั่วโมงเร่งด่วนสามารถลงไปใช้ห้องน้ำและอาบน้ำชั้นล่างได้เช่นกันค่ะ

หน้าตาของทาวน์โฮมตกแต่งออกมาในสไตล์ Modern เน้นสีขาว – เทา เป็นหลัก หลังคาเป็นทรงลาดเอียง (Lean) ทำให้ระยะฝ้าเพดานชั้นบนในส่วนด้านหน้าสูง 2.75 เมตร ระแนงสีขาวนั้นใช้สำหรับประดับตกแต่งเพื่อเพิ่มเติมลวดลายให้กับตัวบ้านเท่านั้นค่ะ

ก่อนที่จะเข้าไปดูในตัวบ้านตัวอย่างนั้น จะขออธิบายก่อนว่าบ้านตัวอย่างเค้าทำเป็นบ้านแปลงมุม 2 หลังติดกันซึ่งมีช่องเปิดมากกว่าบ้านมาตรฐาน ดังนั้นความรู้สึกเมื่อเข้าภายในบ้านจะดูโปร่งโล่ง และกว้างกว่าบ้านแปลงกลางนะคะ

ตัวบ้านของจริงจะมีรั้วเหล็กโปร่งสีดำ สูง 1.5 เมตร เป็นประตูบานเลื่อนให้ และมีการยกระดับพื้นบ้านให้สูงขึ้นจากถนนในโครงการประมาณ 50 เซนติเมตร ด้านหน้าบ้านติดไฟส่องสว่าง, กริ่งกด และป้ายเลขที่หน้าบ้าน

ความกว้างของตัวบ้าน 5.7 เมตร แบ่งเป็น 2 ส่วน คือพื้นที่จอดรถ 2.7 เมตร และพื้นที่ในตัวบ้าน 3  เมตร

ด้วยพื้นที่จอดรถที่มีความกว้าง 2.7 เมตร สามารถจอดรถได้ 1 คัน ขวาบนจะเห็นหน้าต่างช่องแสงบาน Fixed ตำแหน่งอยู่บริเวณบันไดทางขึ้นชั้นบน เพื่อให้แสงสว่างจากที่จอดรถลอดเข้าไปบริเวณโถงบันไดได้ และทางซ้ายมีช่องเก็บของจิปาถะเอาไว้ให้ ไม่ใหญ่มาก และบริเวณทางเข้าหน้าบ้านได้ติดตั้งก็อกสนามไว้ให้เพื่อใช้ต่อสายยางรดน้ำต้นไม้หรือล้างรถได้ค่ะ

ตัวพื้นเฉลียงมีการยกระดับชึ้นประมาณ 10 ซม. ปูด้วยกระเบื้องไซส์ 30 x 30 ซม. สามารถวางตู้วางรองเท้าบริเวณนี้ และเก้าอี้สนามสนามสักตัวได้นะคะ

ด้านบนมีไฟส่องสว่างเอาไว้ให้ 1 จุด ส่วนบานประตูที่ได้เป็นประตูกระจกบานเลื่อน บานกระจกสีเขียวตัดแสง วงกบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ

มือจับเปิดปิดประตูหน้าบ้านเป็นแบบนี้ค่ะ จับได้ถนัดมือดีใช้ได้ค่ะ

พอเข้ามาในบ้านส่วนแรกที่เจอคือพื้นที่ห้องนั่งเล่นรับแขก ที่ถัดไปเชื่อมต่อเปิดโล่งกับโซนรับประทานอาหาร พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานคือ 2.65 เมตร ยกเว้นส่วนที่รวมท่อ Service ต่างๆ ที่จะมีฝ้าที่ต่ำลงมาหน่อย (เส้นประสีเหลือง) ซึ่งถือว่าดีนะคะ เพราะส่วนใหญ่จะตีฝ้าปิดเสมอกันทำให้ไม่ได้ฝ้าเพดานที่สูงเท่าที่ควร ซึ่งยิ่งได้ฝ้าสูงก็จะช่วยให้บ้านดูกว้างและโปร่งมากขึ้นนะคะ

พื้นที่นั่งเล่นสามารถจัดวางโซฟาได้ถึง 3 ที่นั่ง พร้อมวางโต๊ะข้าง และโต๊ะกลางได้สบายๆค่ะ ส่วนหน้าต่างด้านข้างนี่จะมีเฉพาะบ้านแปลงมุมเท่านั้นนะคะ

ระยะห่างในการดูทีวีประมาณ 1.8 เมตร สามารถวางทีวีได้ถึง 40 – 42 นิ้ว ด้วยพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้างทำให้สามารถเลือกจัดฟังก์ชัน Built-in หรือ เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวก็ได้เลยค่ะ

สวิตช์และปลั๊กไฟภายในบ้านทั้งหมดหน้าตาแบบนี้นะ ของ Schneider

ถัดมาเป็นช่วงด้านหลังบ้าน ด้านซ้ายเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและด้านขวาเป็นพื้นที่ครัวค่ะ

พื้นที่โซนรับประทานอาหารโครงการจัดวางโต๊ะแบบ 4 ที่นั่งเอาไว้ให้ดู ซึ่งสามารถวางโต๊ะได้ถึง 6 ที่นั่งเลยนะคะ และตำแหน่งจะอยู่บริเวณหน้าต่างหลังบ้านพอดี

บานหน้าต่างเป็นประตูบานเลื่อนสามารถเปิดได้ทางเดียว กรอบบานเป็นอลูมิเนียมสีธรรมชาติ ซึ่งได้แบบเดียวกันทั้งบ้านเลยค่ะ

ตัวล็อกเป็นแบบก้นหอย ไม่มีมือจับ บานหน้าต่างมีบุผ้าสักหลาดกันฝุ่นและทำให้ปิดหน้าต่างได้แนบสนิทค่ะ

พื้นที่ครัวที่ได้จะเป็นแบบครัวเปิด ซึ่งถ้าทำครัวหนักๆ กลิ่นก็จะฟุ้งไปทั่วบ้าน แนะนำให้ติดประตูบานเลื่อนเหมือนบ้านตัวอย่างทำเป็นครัวปิดไปเลย และบริเวณห้องครัวได้ติดตั้งท่อน้ำดี น้ำเสียไว้สำหรับทำ Pantry อ่างล้างจานเรียบร้อยค่ะ

บริเวณอ่างล้างจาน pantry ครัวมีหน้าต่างบานเลื่อนให้แสงสว่างส่องถึงและระบายความชื้นได้ดี

ด้านหลังครัวเป็นส่วนของห้องน้ำที่หลบไว้ด้านใน ช่วยให้บรรยากาศในห้องทานอาหารดีขึ้นไม่ต้องนั่งหันหน้าเจอกับห้องน้ำตลอดเวลาค่ะ

บานประตูห้องน้ำเป็น UPVC กันน้ำได้ดี

มาดูภายในห้องน้ำกันบ้าง พื้นในห้องน้ำเป็นกระเบี้องแกรนิตโต้แบบด้าน มีพื้นที่ส่วนอาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ

พื้นห้องน้ำลดระดับลงมาประมาณ 5 ซม.

ชุดอ่างล้างมือของ Victor หรือเทียบเท่า ขนาดไม่ใหญ่เท่าไร ไม่มีเคาน์เตอร์รอบอ่างและชุดตู้ใต้อ่าง สามารถวางของได้ประมาณนี้ พร้อมกระจกเงา

ขนาดเมื่อเทียบกับมือ มีขนาดกำลังดีไม่เล็กไม่ใหญ่มากนัก

โถสุขภัณฑ์ของ American Standard ด้านข้างทางซ้ายมีสายฉีดชำระมาให้ และก็ที่แขวนกระดาษทิชชู่ของ Mogen

ทางขวามือเป็นพื้นที่อาบน้ำแบบไม่ได้แยกส่วนแห้งและส่วนเปียกเอาไว้ให้ พื้นที่ประมาณ 0.6 x 1.3 เมตร ซึ่งมีพื้นที่ค่อนข้างเล็กเกินไปหากจะกั้นธรณีประตูหรือทำฉากกั้นกระจก ดังนั้นเวลาใช้งานจริงน้ำจะกระเด็นออกมา ทำให้พื้นคงเปียกน้ำเกือบทั้งหมด แนะนำว่าให้ซื้อพรมมาไว้หน้าห้องเช็ดเท้านะคะ

ชุดฝักบัวของ Rasland หน้าตาแบบนี้ค่ะ ทางขวามือมีที่วางสบู่มาให้ 1 จุดของ Mogen ไม่ได้เดินระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเอาไว้ให้

ในส่วนของด้านหลังบ้าน พื้นด้านหลังจะลดระดับลงมานิดหน่อย

พื้นที่หลังระยะห่างจากประตูถึงผนังประมาณ 2 เมตร โดยบ้านจริงจะได้เป็นพื้นเป็นคอนกรีตธรรมดา โครงการติดตั้งปลั๊กแบบมีฝาครอบกันน้ำมาให้ 1 จุด

ด้านหลังบ้านเป็นพื้นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ทุกๆ ห้อง

กลับมาดูบันไดทางขึ้นชั้นบนกันบ้าง ตัวบันไดอยู่ติดกับผนังที่ชั้นวางทีวีหน้าบ้าน ระยะความกว้างประมาณ 1 เมตร เวลาเดินขึ้นลงสวนกันคงต้องเบี่ยงตัวกันนิดหน่อย ช่วงทางขึ้นตอนแรกไม่มีราวบันไดให้ด้วยอาจจะต้องเดินระวังสักหน่อยนะคะ หรือบ้านไหนมีผู้สูงวัยอยู่ด้วย แนะนำให้ติดราวบันไดสำเร็จรูปกับผนังได้ค่ะ ส่วนทางขวามือฝั่งผนังที่ติดกับที่จอดรถจะมีหน้าต่างช่องแสงบาน Fixed ส่องเข้ามาบริเวณทางขึ้นบันได

ตัวโครงสร้างบันไดเป็นบันไดสำเร็จรูป พื้นไม้สำเร็จรูปสีอ่อน รูปทรงบันไดเป็นทรงตัว U ชานพักบันไดมีไม่เต็มจะเป็นรูปทรงสามเหลี่ยม 3 ขั้นแบบนี้ ทำให้เดินได้ไม่เต็มเท้าต้องระวังหน่อยนะคะ

ราวบันไดเป็นราวอลูมิเนียมพ่นสีขาวด้านบนเป็นไม้สำเร็จรูปสีเดียวกับพื้นบันได

ขึ้นมาถึงชั้น 2 แล้ว ประตูซ้ายมือ (ฝั่งหน้าบ้าน) จะเป็นส่วนของ Master Bedroom ตรงกลางเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันทั้ง 3 ห้องนอน และบานทางซ้ายทั้งสองเป็นห้องนอนกลางและเล็กครับ ที่พื้นจะราบเรียบไม่มีคิ้วปิดรอยต่อพื้นใดๆ ประตูห้องของจริงของทั้งสองห้องนี้จะเป็นประตู HDF สีขาว

ห้องนอนเล็กทางด้านขวามือ ห้องนี้มีขนาดค่อนข้างเล็ก เราสามารถปรับเปลี่ยนได้อเนกประสงค์ เช่น ทำเป็นห้องทำงาน ห้องดูหนัง ห้องนั่งเล่น แทนก็ได้นะคะ แล้วแต่การใช้งาน บางคนคิดจะมีลูกคนเดียวและไม่มีแขกมานอนค้างบ่อยๆ หรือใครอยากทำเป็นห้องนอนเล็ก ก็พอจะวางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่งได้พอดีๆ โดยห้องจริงจะเป็นห้องโล่งๆ มีหน้าต่างบานเลื่อนคู่ให้ 1 บาน พื้นปูด้วยลามิเนตลายไม้

ด้วยห้องที่ค่อนข้างเล็กทำให้การจัดวางเฟอร์นิเจอร์อาจจะลำบากไปสักหน่อย สามารถ Built-in โต๊ะพร้อมชั้นวางแบบห้องตัวอย่างได้นะคะ ทำให้ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าและลงตัวดีค่ะ

ถัดไปเป็นห้องนอนขนาดกลาง พื้นที่ 3.00 x 2.70 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่งได้ โดยห้องจริงจะเป็นห้องโล่งๆมีหน้าต่างบานเลื่อนคู่มาให้ 1 บาน  แต่ถ้าเป็นแปลงกลางก็จะไม่มีหน้าต่างทางซ้ายมือมาให้นะ

พื้นที่อีกด้านที่เหลือจากการวางตู้เสื้อผ้าสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ

ถัดมาในส่วนของห้องน้ำ ตัวจบพื้นจะเป็นกระเบื้อง พื้นห้องน้ำลดระดับลงมานิดหน่อย

มาดูห้องน้ำที่อยู่โถงทางเดินที่ต้องมาใช้ร่วมกัน พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้าน และชุดอ่างล้างมือเหมือนกันกับชั้น 1 ที่เห็นหน้าต่างช่องแสงระบายอากาศมีนี่เฉพาะแปลงมุมเท่านั้นนะคะ

โถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ห้องน้ำเหมือนกันกับชั้น 1 ค่ะ

พื้นที่อาบน้ำไม่ได้ยกธรณีให้เหมือนกันกับห้องน้ำชั้น 1 ซึ่งเราสามารถทำฉากกั้นกระจกได้นะคะ สำหรับห้องน้ำในชั้น 2 นี้ เนื่องจากมีพื้นที่ในห้องน้ำเพียงพอกับการทำฉากกั้นได้ ไม่เหมือนกับห้องน้ำชั้น 1 ที่มีพื้นที่ค่อนข้างแคบเกินไป แนะนำว่าถ้าทำฉากกั้นหาแบบที่เป็นตู้ก็ได้ จะมีประตูบานเลื่อนเปิดจากมุมเหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็กแบบนี้ค่ะ

มาดูกันต่อที่ห้อง Master Bedroom  ซึ่งเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดของบ้านจะค่อนข้างสว่าง แสงธรรมชาติเข้าดี พื้นที่ห้องนี้มีขนาด 2.70 x 5.70 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ หรือ 6 ฟุตก็ได้อยู่นะคะ แต่ทางเดินระหว่างเตียงจะค่อนข้างแคบไปหน่อย

ส่วนทางขวามือกั้นพื้นที่เป็น Walk-in Closet และโต๊ะเครื่องแป้งได้ซึ่งทางโครงการจัดไว้เป็นไอเดียให้ แต่ในห้องจริงจะได้เป็นบ้านเปล่าๆ ซึ่งเป็นพื้นที่อเนกประสงค์สามารถจัดเป็นพื้นที่ทำงาน หรือบ้านไหนมีลูกอ่อนก็สามารถจัดเป็นพื้นที่วางเตียงได้นะคะ จะได้ดูแลลูกได้ง่ายด้วย

ด้วยพื้นที่ค่อนข้างกว้างทำให้สามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าได้ค่อนข้างใหญ่

ด้านข้างมีหน้าต่างบาน Fixed สำหรับให้แสงสว่างเข้าถึง แต่ถ้าใครจัดพื้นที่เป็น Walk in Closet ก็อย่าลืมติดม่านด้วยนะคะ ^^

แบบบ้าน Type 1 นี้มีฟังก์ชันภายในเหมือนแบบบ้าน Type 2 ทุกอย่างยกเว้นความยาวของตัวบ้านที่มีความลึกประมาณ 7 เมตร จึงทำให้มีพื้นที่ใช้สอยน้อยกว่า Type 2 อยู่ที่ 95 ตร.ม. และที่ดินมาตรฐานที่ 17.5 ตร.วา ค่ะ

เดี๋ยวจะพาไปเปรียบเทียบให้ดูกันเลยค่ะ

ด้วยความที่ตัวบ้านเล็กลงไปหน่อยนั้น ทำให้พื้นที่การวางโซฟาสามารถวางได้แบบ 2 ที่นั่ง

การวางโต๊ะสามารถวางได้ถึง 6 ที่นั่งนะคะ แต่ไม่สามารถกั้นฉากได้เหมือน Type 2

ที่เห็นได้ชัดคือความกว้างของห้องครัวที่ดูจะเล็กลงไปประมาณ 40 – 50 เซนติเมตร

ความยาวห้องนอนในชั้นบนเท่าเดิมนะคะ แต่ความกว้างจะแคบลงมาหน่อย

สำหรับห้องนอนกลางจะต้องเปลี่ยนการวางตำแหน่งของเฟอร์นิเจอร์ไปชิดขอบผนังทางด้านกว้างของตัวห้องแทน

ในส่วนของห้องนอนใหญ่ฝั่งที่วางเตียงดูจะไม่แตกต่างมากนักค่ะ เพียงแต่ทางเดินรอบเตียงจะแคบลงหน่อยเท่านั้น

ส่วนพื้นที่ Walk in Closet จะค่อนข้างแตกต่างกับ Type 2 ชัดเจนนะคะ เพราะพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าไม่สามารถวางด้านข้างได้แล้ว เพราะจะทำให้ทางเดินค่อนข้างแคบ ทำให้ต้องวางตู้เสื้อผ้าในฝั่งเดียวกันกับโต๊ะเครื่องแป้ง จึงทำให้โต๊ะเครื่องแป้งเล็กลงตามไปด้วย

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 15 October 2015

  • Type 1 มุมถนน ยูนิต 74 พื้นที่ใช้สอย 95 ตร.ม. ที่ดิน 33.5 ตร.วา ราคา 2.899 ล้านบาทหรือ 86,500 บาท/ตร.วา
  • Type 2 มาตรฐาน ยูนิต 114 พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม. ที่ดิน 18.7 ตร.วา ราคา 2.189 ล้านบาทหรือ 117,100 บาท/ตร.วา
  • Type 2 มุมรั้ว ยูนิต 119 พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม. ที่ดิน 44.2 ตร.วา ราคา 3.629 ล้านบาทหรือ 131,000 บาท/ตร.วา

  • จองและทำสัญญา 10,000 บาท
  • ดาวน์ 10,000 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 57,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

โครงการพฤกษาวิลล์ 62/1 นิมิตรใหม่ ตั้งอยู่บนถนนนิมิตใหม่ที่สามารถเชื่อมเข้าถนนได้หลายสายทั้งถนนสุวินทวงศ์, ถนนลำลูกกา, ถนนประชาร่วมใจ, ถนนหทัยมิตร, ถนนราษฎร์นิมิตรและถนนไมตรีจิตร โดยบริเวณย่านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบแต่ไม่หนาแน่นเท่าแถบถนนหทัยราษฎร์ ที่อยู่ใกล้เมืองมากกว่า และเนื่องจากทำเลบนถนนนิมิตใหม่นี้ไม่มีสถานที่สำคัญๆ เท่าไหร่นัก เป็นถนนทางผ่านไปลำลูกกา-ปทุมธานี หรือฉะเชิงเทรามากกว่า

ความอุดมสมบูรณ์บนถนนนิมิตใหม่นั้นยังไม่สูงมากนักค่ะ ทางด้านอาหารการกินก็มีพอสมควรจากร้านรวงที่เปิดขายตามสองฝั่งถนน ซึ่งส่วนใหญ่ความอุดมสมบูรณ์จะไปกระจุกตัวอยู่บริเวณแยกมีนบุรี และเส้นลำลูกกาเสียมากกว่า ทั้งห้างอย่าง Tesco Lotus และ Big C รวมทั้งตลาดใหญ่ๆ ในย่านนี้อย่างตลาดมีนบุรีด้วยเช่นกัน

สำหรับโครงการนี้เหมาะกับการใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักนะคะ เนื่องจากไม่มีรถโดยสารสาธารณะให้เลือกใช้มากนัก ที่เห็นวิ่งๆ ประจำหน้าโครงการก็จะเป็นรถสองแถวที่จะวิ่งจากตลาดมีนบุรีเข้ามา ถ้าต้องเดินทางตอนกลางคืนนั้นก็คงต้องพึ่งพี่แท็กซี่อย่างเดียว ซึ่งก็ไม่เหมาะกับสาวๆ เลยค่ะ เพราะตัวถนนนั้นส่วนใหญ่จะเป็นรถใหญ่วิ่ง อาจจะอันตรายและเปลี่ยวไปสักหน่อย ส่วนทางขึ้น-ลงทางด่วนที่ใกล้ที่สุด คือ แยกรามอินทรา-กาญจนาฯ(วงแหวนรามอินทรา) นั่นเองค่ะ

ในส่วนของการเดินทางแบบไม่ใช้รถนั้น จะสะดวกมากขึ้นในการเข้าเมืองเมื่อรถไฟฟ้าสายสีชมพูเปิดให้ใช้บริการ ซึ่งสถานีที่อยู่ใกล้ที่สุดคือสถานีมีนบุรี ที่ห่างจากโครงการประมาณ 6 กิโลเมตร ถึงอย่างนั้นก็ต้องนั่งรถสองแถวหรือ Taxi ออกมาขึ้นรถไฟฟ้าอยู่ดี โดยรวมแล้วการเดินทางโดยพึ่งพิงระบบสาธารณะนั้นจึงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นักค่ะ

สภาพโครงการและการออกแบบในแนว Modern เรียบง่าย การจัดวางถนนหลักอยู่ด้านหน้า และแบ่งออกเป็นซอยย่อยๆ ในแต่ละซอยมีเพื่อนบ้านค่อนข้างมาก ถนนหลักกว้าง 15 และ 12 เมตร ค่อนข้างกว้างขวางช่วยให้การสัญจรในโครงการสะดวกถึงแม้จะมีรถจอดทั้งสองฝั่งถนน ส่วนถนนในซอยย่อยกว้าง 9 เมตร ซึ่งให้มาค่อนข้างมาตรฐานเหมาะสมกับราคา สภาพแวดล้อมโครงการร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกให้รอบรั้วโครงการและบริเวณสวนหย่อม

โครงสร้างชั้นล่างหล่อในที่ ส่วนชั้นบนเป็น Pre-Cast ส่วนวัสดุที่โครงการให้มาตามมาตรฐานทั่วๆไปคือ ผนังฉาบเรียบทาสี ประตู-หน้าต่างเป็นวงกบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ กระจกเขียวตัดแสง  บันไดโครงสร้างเหล็ก ลูกนอนเป็นพื้นไม้ยางพารา ชุดโคมไฟLED พื้นทั่วไปใช้กระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 cm. และชั้นสองเป็นลามิเนต ส่วนกระเบื้องห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้านขนาด 60 x 60 cm. น่าเสียดายพื้นที่อาบน้ำไม่ได้แยกส่วนแห้งและเปียกเอาไว้ให้ และที่น่าเป็นห่วงคือในห้องน้ำทั้งชั้นบนและล่างไม่มีติดพัดลมดูดอากาศมาให้ อาจทำให้เกิดความชื้นสะสมถ้าใช้งานเสร็จแล้วลืมเปิดประตูระบายออกทิ้งไว้ตลอดเวลา

ตัวบ้านออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์นใช้โทนสีเทาเข้มและอ่อนตัดกัน ส่วนการจัดวาง Function ในบ้านค่อนข้างดีสำหรับพื้นที่ที่ไม่ใหญ่มาก เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก มีการใช้งานครบทุกส่วน พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ง่าย และมีการจัดวางพื้นที่และช่องเปิดให้ห้อง Master Bedroom สามารถจัดตู้เสื้อผ้าแบบ Walk -in Closet หรือปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่อเนกประสงค์เช่น นั่งเล่น หรือนั่งทำงานได้ ตรงบันไดชั้น 1 ช่วงแรกไม่มีราวจับและมีขั้นสามเหลี่ยมที่บันได 3 ขั้น

สาธารณูปโภคของที่นี่มีสวนสาธารณะขนาดประมาณ 59.5 ตร.ม. 2 จุดตั้งอยู่หน้าโครงการและหลังโครงการ ไม่มีสระว่ายน้ำ และ Fitness ส่วนเรื่องความปลอดภัยจะมีระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ รั้วรอบโครงการสูง 2 เมตร (เฉพาะด้านที่ติดกับโครงการพฤกษาวิลล์ข้างเคียง) และสูง 3 เมตร มี Key Card Access ระยะใกล้ให้ลูกบ้านสแกนได้เลย ส่วนผู้มาติดต่อจะรับบัตรจาก รปภ.  ถ้าเทียบกับค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.วา ก็อาจจะแพงไปหน่อยแต่ก็และมาด้วยจำนวนยูนิตที่น้อยกว่าเพื่อนบ้านอย่าง Pruksa Ville 55/2 ต่างกันอยู่ประมาณ 100 ยูนิตค่ะ

 

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 1.7 – 3.5 ล้านบาท, 15 October 2015

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.0/10 – ติดถนนใหญ่นิมิตใหม่ ไม่มีรถสาธารณะมากนัก
  • ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน CCTV ตรง Main Gate รั้ว 2, 3 เมตร
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.0/10 – ฟังก์ชันครบ ใช้งานจริงได้ดี หักบริเวณบันได
  • วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 –ถนนหลักกว้าง มีการปลูกต้นไม้เป็นทิวริมรั้วดูร่มรื่นใช้ได้
  • สาธารณูปโภค 7.25/10 – มีสวนหย่อมให้ 2 จุด ไม่มีสระว่ายน้ำ
  • 7.35 / 10.00 

BOTTOM LINE

พฤกษาวิลล์ 62/1 นิมิตรใหม่ โครงการทาวน์โฮมย่านนิมิตใหม่ สุวินทวงศ์ มีนบุรี เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก ไม่เน้นการใช้งาน Facility ราคาพอหยิบจับได้สำหรับคนที่กำลังขยับขยายครอบครัว หรือสร้างครอบครัวใหม่มีสมาชิกในบ้านประมาณ 2 – 4 คน สำหรับคนที่สนใจต้องมีงบประมาณ 1.7 – 3.5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 12,000 – 28,000 บาท

 

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )